แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Recs เมื่อ 2025-10-1 21:04
ผมลืมตาขึ้นหลังจากหลับสนิทเพราะเพลียจากเมื่อคืน เหมือนเห็นตัวเองนั่งงีบอยู่ในห้องผู้ป่วย โดยมีน้องผมนอนอยู่บนเตียงคนไข้ โยงสายให้น้ำเกลือและเครื่องวัดชีพจรเต็มไปหมด
"พี่... ขอน้ำหน่อย" เสียงน้องพูดแผ่วเบา
"อ่ะ นี่น้ำ" ผมยื่นแก้วหลอดให้น้องดูดจิบเบาๆ แล้วถามอย่างเป็นห่วง "เป็นไงบ้าง รู้สึกดีขึ้นบ้างไหม?"
"ดีขึ้นหน่อย... แล้วพี่ล่ะเป็นไง? เห็นกลับมาแล้วเพลียตลอดเลย" น้องเอ่ยด้วยความเป็นห่วง
"พี่ไม่เป็นไรหรอก... เราอ่ะนอนพักเถอะ" ผมตอบ ทั้งที่ในใจคิดไปว่าจะต้องไปร่วมพิธีประหลาดคืนนี้อีกแล้ว พ่อบอกว่าทำเพื่อยืดอายุให้กับน้อง ผมรู้สึกแปลกๆ ทั้งขัดใจทั้งแค้น ไม่รู้มันจะช่วยน้องได้จริงมั้ย แต่ก็ยังยอมทำทุกทางเผื่อน้องจะดีขึ้น
จู่ๆ เครื่องวัดก็ดัง ตี๊ดๆ ๆ เสียงเตือนรัวขึ้นลั่นห้อง เหมือนชีพจรและความดันของน้องจะแย่ลงทันที
"ไอซ์! เป็นไงบ้าง!?..." ผมตกใจตะโกน
"พี่... หนูเจ็บ... หายใจไม่ออก... ฮือๆ" น้องตัวสั่นคร่ำครวญ
"ไม่เป็นไรนะ ไอซ์... พี่อยู่ตรงนี้แล้ว... ไอซ์? ไอซ์!..." ผมพยายามเขย่าตัวแต่เสียงหอบของน้องดังทับกลบแทบทุกอย่าง . ... . "ไอซ์! ไอซ์?..."
"พี่มิกๆ เป็นไรเนี่ยพี่ เรียกชื่อนี้อีกแล้ว?" เสียงคุ้นหูของน้องกายดังขึ้น
"อ่อ... ไม่มีไรหรอกกาย พี่แค่ฝันไปอ่ะ" ผมได้สติแล้วลืมตาขึ้นมา เห็นว่าตัวเองนอนอยู่ในห้อง ข้างๆ คือน้องชายผมจริงๆ
"ฝันถึงน้องไอซ์ เด็กที่ไม่สบายคนนั้นเหรอครับพี่มิก?" น้องเก้าถามขึ้นอย่างสนใจ
"คนที่หมอกวินบอกว่าเป็นลูกเขาอ่ะนะ?" กายแทรกถามต่อทันที
"ใช่... แต่รอบนี้มันแปลกมาก พี่รู้สึกเหมือนไม่ใช่ตัวเองเลยในฝัน"
"อาจจะเป็นเศษความทรงจำของผีเอ็มก็ได้นะพี่ แบบที่กายเคยโดนเก้าเข้าสิงอ่ะ" น้องกายลองเชื่อมโยงให้
"และในฝันน้องไอซ์เหมือนเป็นน้องแท้ๆ ของพี่เลย..." ผมพูดช้าๆ พยายามปะติดปะต่อเหตุการณ์ที่พอจำความได้
"งั้นแปลว่า... พี่เอ็มก็คือพี่ชายของน้องไอซ์ และเป็นลูกชายหมอกวินเหรอครับ?" เก้าสรุปตามที่ผมเล่า
"พี่ก็ไม่อยากฟันธงนะ แต่ผีเจ้าเล่ห์แบบเอ็ม ไม่น่าจะเผลอมาปล่อยข้อมูลง่ายๆ แบบนี้หรอก" ผมยังระแวงอยู่ หลังจากเคยโดนมันหลอกให้ทิ้งร่างไปแล้ว
"แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง เราอาจกล่อมให้มันมาอยู่ฝั่งเราก็ได้นะพี่" กายพูดเหมือนไม่เข็ดจากเรื่องเมื่อคืน
"อย่าเลยกาย เจ้านั่นมันร้ายกว่าที่เราคิด กล่อมไปก็เท่านั้นแหละ" ผมรีบห้าม แล้วหันไปสังเกตอาการน้องชายแท้ๆ ของผมแทน รอยแดงที่คอเริ่มจางลงแล้ว "แล้วเราเป็นยังไงบ้าง ยังเจ็บคออยู่มั้ยอ่ะ?"
"ไม่ค่อยเจ็บแล้วพี่ ได้นอนกอดพี่ตัวจริงทั้งคืน ก็ดีขึ้นเยอะเลย" กายยิ้มบางๆ ทำให้ผมเชื่อแล้วว่าอาการดีขึ้นจริง
"แต่พี่มิกครับ... ดูสิ เมื่อคืนที่ช่วยชีวิตกาย ทำให้ผมเลเวลขึ้นถึง 7 แบบของจริงไม่ใช่ฝันแล้วครับ" เก้าพูดพลางยื่นมือถือมาให้ดูด้วยสีหน้าภูมิใจ
"เก่งมากเก้า งั้นอัพให้แบตอึดไว้ก่อนช่วงนี้นะ" ผมยิ้มและชื่นชม ถึงในใจจะรู้ว่ายิ่งเก้าใกล้เลเวล 13 เท่าไหร่ มันก็ยิ่งเข้าใกล้วันที่ต้องไปเกิดใหม่เท่านั้น
"ได้เลยครับพี่!"
"มีอัพให้จู๋ใหญ่ขึ้นได้มั้ยเก้า ฮ่าๆๆ" กายแซวเสียงดังจนลืมเจ็บจากที่โดนบีบคอไปเลย
"อันนั้นไม่มีหรอกครับกาย ฮ่าๆ... แต่ถ้ามีก็คงดีนะครับ" เก้าหัวเราะรับเบาๆ
"ไม่ต้องอัพหรอก แบบนี้ก็น่ารักดีอยู่แล้ว" ผมพูดติดตลกไปบ้าง เห็นทั้งคู่เริ่มอารมณ์ดีหลังเพิ่งผ่านเรื่องร้ายมา ก็ทำให้ผมใจชื้นตามไปด้วยเหมือนกัน
...
หลายวันผ่านไป ก่อนที่ช่วงหยุดยาวปีใหม่จะมาถึง ผมกับน้องกายก็ไปโรงเรียนด้วยกันตามปกติ ยังคงเลี่ยงไม่อยากไปยุ่งกับหมอกวินมากนัก เพราะยังห่วงน้องอยู่ ไม่อยากให้น้องไปเสี่ยงอันตรายอีกแล้ว
วันนั้นกลับมาจากโรงเรียนพร้อมกายกับเก้า พอเลี้ยวเข้าบ้านก็เห็นรถหรูสีดำคันหนึ่งจอดหน้ารั้วทันที รู้สึกสะดุดตาแปลกๆ จนใจผมเต้นแรงกว่าปกติ
พอเปิดประตูรั้วเดินเข้าไป กลับเจอผู้ชายวัยกลางคน แต่งตัวเนี้ยบ ใส่แว่นทรงแพงๆ กำลังยืนคุยอยู่กับแม่ผมอยู่ตรงลานหน้าบ้าน
"หวัดดีแม่ ทำอะไรกันอยู่เหรอ?" ผมกับกายยกมือไหว้พร้อมกัน ถามด้วยความสงสัย
"อ้าว มิก มาพอดีเลย นี่หมอเอ... ที่ดังๆ รู้จักมั้ยลูก?" แม่หันมายิ้มให้เหมือนดีใจ
พอแม่พูดชื่อ ผมก็เหมือนคุ้นหน้าเขาขึ้นมาทันที หมอผีชื่อดังที่เคยเห็นผ่านๆ ตามโซเชียล โพสต์เกี่ยวกับเรื่องวิญญาณบ่อยๆ …แต่ที่ไม่เข้าใจคือ เขาโผล่มาที่บ้านผมได้ยังไง
"ก็พอรู้จักอยู่..." ผมตอบไปสั้นๆ แต่ยังไม่ค่อยไว้ใจ
"งั้นผมไม่รบกวนคุณผู้หญิงแล้วนะครับ ถ้ามีอะไรให้ช่วยก็โทรหาผมได้เลยนะครับ" หมอเอยิ้มบางๆ ก่อนพูดเสียงนุ่มนวล แล้วก็ยื่นนามบัตรให้แม่
"ได้ค่ะ ขอบคุณมากเลยนะคะหมอเอ" แม่ผมรับไว้ยกมือไหว้ใหญ่
เขาหันตัวเดินออกไปช้าๆ ผ่านหน้าพวกผม แต่ก่อนจะก้าวออกประตูรั้ว เหมือนสายตาของเขาจะเหลือบมองตรงมาที่น้องเก้าที่อยู่ข้างๆ …มองนานพอให้ผมรู้สึกหนาวสันหลังวูบขึ้นมา แล้วเขาก็ขึ้นรถหรูขับออกไปจากหมู่บ้าน
"แม่... แล้วเขามาบ้านเราทำไมอ่ะ?" ผมรีบถาม
"หมอเขาบอกว่าจะรับทำพิธีไล่ผีให้เราฟรีๆ เลยลูก" แม่ตอบหน้าตาเฉย
"ห้ะ!? ไล่ผีเนี่ยนะป้า!" กายร้องออกมาทันที เสียงตกใจลั่น แล้วก็หันขวับมามองผมกับเก้า
"ใช่สิ เห็นหมอเอบอกว่าบ้านเรามีวิญญาณร้ายสิงอยู่..." แม่ยังทำท่าจริงจัง
"ไปกันใหญ่แล้วแม่ แล้วก็ไปเชื่อเขาแบบนี้จริงๆ เหรอ?" ผมถอนหายใจแรง
"ก็เขาเป็นคนดังไงลูก คนติดตามตั้งเยอะ แถมไล่วิญญาณมานักต่อนักแล้วนะ"
ผมรีบสกิดกายเป็นสัญญาณให้น้องเล่นบทกลัวหน่อย กายก็รับมุขทันที "แต่ป้าครับ กายไม่อยากให้เขามายุ่งเลยอ่ะ กายกลัวเรื่องพวกนี้จริงๆ นะครับ" น้ำเสียงสั่นจนดูสมจริง
"ใช่แม่... ไม่ต้องติดต่อเขามาแล้วนะ ดูสิน้องกลัวหมดแล้วเนี่ย... เอานามบัตรเขามาให้ผมด้วย"
"โอเคๆ งั้นแม่ไม่ให้เขามายุ่งแล้วก็ได้จ้ะ" แม่ทำหน้าอ่อนลงทันที พร้อมยื่นนามบัตรให้ผม
...
ผมกับกายหันไปสบตากัน แล้วแอบเอานามบัตรนั่นไปขยำจนเละ ก่อนจุดไฟเผาทิ้งให้ห่างจากบ้านที่สุด... ไม่อยากให้มีอะไรแปลกปลอมเข้ามาในขอบเขตบ้านนี้อีกแล้ว
"เมื่อกี๊... ก่อนหมอเอจะไป เหมือนเขามองเห็นผมได้จริงๆ เลยนะครับพี่มิก" เก้าพูดขึ้นเบาๆ ขณะพวกเรากำลังยืนมองไฟเผานามบัตรจนเหลือแต่เถ้า
"พี่ก็รู้สึกเหมือนกัน..." ผมถอนหายใจช้าๆ ความคิดวนกลับไปถึงวันที่ถูกเอ็มเข้าสิง "มันไม่น่าใช่เรื่องบังเอิญหรอก ที่อยู่ๆ เขาก็โผล่มา ต้องเป็นพวกเดียวกับผีเอ็มแน่ๆ พี่ไม่น่าพลาดให้เอ็มตามมาจนรู้ที่อยู่เราเลย"
"ไม่เป็นไรหรอกพี่ เดี๋ยวกายกับเก้าช่วยกันระวังให้เอง" กายขยับเข้ามาใกล้ เอามือแตะไหล่ผม
"ใช่ครับ พี่มิกไม่ต้องห่วงนะครับ" เก้ายิ้มบางๆ แววตาน้องดูมั่นใจจนผมเผลอคลายกังวลลงได้บ้าง
แม้จะภัยคุกคามคอยตามติด แต่แค่เห็นน้องทั้งสองคนยังเข้มแข็งยืนหยัดอยู่ข้างกันแบบนี้... ผมก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาได้เยอะเลย
...
พอถึงช่วงโรงเรียนหยุดยาวปีใหม่ ผมกับน้องกายก็นอนอืดอยู่บ้านแทบไม่ได้ไปไหน วันๆ ก็ผลัดกันนอนเล่นมือถือ กินข้าวแล้วก็นอนต่อ จนกระทั่งวันหนึ่งที่แม่กับน้าไม่อยู่บ้าน น้องดันโผล่มาหาพร้อมสีหน้ากรุ้มกริ่มเหมือนคิดอะไรไม่เข้าท่าอีกแล้ว
"พี่มิก... กายขอลองกินยาที่ทำให้ออกจากร่างเม็ดนึงได้มั้ย?" อยู่ๆ น้องก็พูดขึ้นมา พร้อมเก้าที่เดินตามมาติดๆ ดูจากท่าทางแล้ว สองคนนี้น่าจะคุยกันไว้ก่อนแล้วแน่ๆ
"ว่าไงนะกาย! จะลองกินทำไมเนี่ย?" ผมเผลอเสียงดังออกมาเพราะทั้งตกใจทั้งไม่เข้าใจ ว่าน้องคิดจะเล่นกับของอันตรายแบบนี้ไปเพื่ออะไร
"กายอยากลองให้พี่ชักว่าวตอนกายออกจากร่างให้หน่อย อยากรู้ว่าตอนเป็นวิญญาณมันจะเสียวตามด้วยมั้ยอ่ะ..."
"ห้ะ?! ต้องอยากรู้ขนาดนั้นเลยเหรอกาย?" ผมนี่งงกับความขี้สงสัยของน้องคนนี้จริงๆ
"ก็กายเถียงกับเก้าอยู่ว่าจะรู้สึกอะไรมั้ย เลยอยากพิสูจน์ความจริงไง"
"ผมว่าไม่น่าจะรู้สึกอะไรหรอกครับ เพราะวิญญาณแยกออกจากร่างมาแล้ว" เก้าพูดขึ้นมาอย่างมีหลักการ
"อย่างน้อยต้องรู้สึกอะไรสักนิดบ้างแหละหน่า" น้องกายยังคงไม่ยอมแพ้
"พอๆ ไม่ต้องเถียงกันแล้ว เดี๋ยวให้ลองครั้งนึงก็ได้" ผมเลยต้องยอมน้องๆ อย่างน้อยก็มีผมดูแลอยู่ใกล้ๆ ดีกว่าปล่อยให้แอบไปลองกันเอง
"เย่ๆๆ ขอบคุณค้าบ พี่มิกน่ารักที่สุดเลยค้าบ อิอิ" น้องกายดีใจใหญ่จนต้องมาหอมที่แก้มผมไปหนึ่งฟอด ทำเอาผมใจบางไปเลย
...
ผมจัดการเตรียมยาให้น้องหนึ่งเม็ดตามคำขอ และน้ำหนึ่งแก้วให้น้องได้ดื่มตาม หลังจากกินยาเรียบร้อยกายก็ถอดเสื้อผ้าตัวเองออกหมด พร้อมกับถอดแว่นตาประจำตัววางไว้ด้วย แล้วมานั่งหันหลังพิงไปกับตัวผมอยู่บนหัวเตียง
"นานมั้ยพี่กว่ายาจะออกฤทธิ์?" น้องถามเหมือนพร้อมอยากลองเต็มที่ จู๋ขาวๆ ของน้องนี่ตั้งโด่รอแบบแข็งเต็มที่แล้ว
"ไม่นานหรอก ทำตัวสบายๆ หายใจลึกๆ ไว้นะ" ผมพูดพลางลูบหัวน้องอย่างเอ็นดู จับหัวให้พิงไปกับแผ่นอกของผม น้องค่อยๆ หลับตาลง และกุมมือผมไว้ไปด้วย
ผมมองไปตามเรือนร่างขาวๆ ของน้องแล้วเริ่มมีอารมณ์ตามนิดๆ จังหวะหายใจดูค่อยๆ แผ่วช้าลงจนคอเริ่มตก แท่งเอ็นจากที่แข็งๆ เหมือนเริ่มอ่อนตัวลงช้าๆ จนหดเล็กน่ารักเหมือนของเด็กน้อย และมือที่กุมประสานนิ้วอยู่เริ่มอุ่นน้อยลง แต่ไม่ถึงกับเย็นเฉียบเหมือนตอนที่โดนเก้าสิง...
"เป็นไงบ้างเก้า เห็นกายออกมาจากร่างยัง?" ผมหันไปถามน้องที่นั่งดูอยู่ข้างๆ อย่างใจจดใจจ่อ
"กำลังออกมาแล้วครับ เดี๋ยวผมเปิดกล้องให้ดูครับ" น้องหยิบมือถือมาตั้งกล้องไว้ และวีดีโอคอลให้ผมได้เห็นร่างวิญญาณน้องกายที่ค่อยๆ ออกจากร่างตัวเองแบบชัดๆ
"ได้ยินกายมั้ยพี่มิก?" น้องโบกมือให้กล้องเพื่อทดสอบ
"ได้ยินๆ ให้พี่เริ่มเลยมั้ย?"
"เริ่มเลยพี่" น้องกายพูดพร้อมไปนั่งผ่อนคลาย ถ่างขาหันมาทางผมอยู่ปลายเตียง เหมือนพร้อมจะเริ่มทดสอบแล้ว
ผมเริ่มจากลองใช้นิ้วเขี่ยที่หัวนมเล็กๆ สีชมพูของน้อง ดูในกล้องเหมือนน้องจะเริ่มมีปฏิกิริยาบ้างนิดๆ ตาจ้องมองผมทำกับร่างจริงตัวเองอย่างตั้งใจ
"เป็นไงกาย รู้สึกอะไรมั้ย?"
"อ่าาาห์... เหมือนจะรู้สึกนิดๆ อยู่พี่..." น้องพูดแบบเสียงสั่น คงจะมีเสียวบ้างจริงๆ
"จริงเหรอครับ กายไม่ได้แกล้งทำใช่มั้ย?" น้องเก้าถามเหมือนยังไม่ยอมแพ้
"ไม่ได้แกล้งดิเก้า... ไม่เชื่อลองให้พี่มิกเล่นจู๋กายดิ"
ผมเลยเปลี่ยนเป้าหมายจากหัวนมของน้อง เลื่อนมือลงไปบีบคลำจู๋นิ่มๆ ที่ยังอ่อนตัวอยู่ จนมันเริ่มแข็งสู้มือผมขึ้นเรื่อยๆ ส่วนตรงร่างวิญญาณของน้องกายก็เหมือนจะแข็งตั้งขึ้นตามกันแบบเป๊ะๆ
"งื้ออ... มันเสียวแบบแปลกๆ มากเลยพี่มิก... เย็นมากด้วย" น้องกายนั่งแหวกขาจนจู๋ตั้งหันโชว์ให้กล้อง เห็นแล้วน่ารักจนผมต้องลองรูดขึ้นลงเบาๆ ก็เห็นในกล้องกระดิกตามนิดๆ ด้วย
"โห... เพิ่งรู้ว่ามีผลกับวิญญาณแบบนี้ด้วยครับ" น้องเก้าจ้องตาโตใหญ่ คงเชื่อตามที่น้องกายบอกแล้วจริงๆ จนเถียงไม่ออก
"งั้นพี่ชักให้แตกเลยนะกาย..." ผมถามน้องเพราะดูจะเริ่มเสียวจนเคลิ้มเต็มที่แล้ว
"แปปนึงพี่มิก... เก้ามาช่วยกายหน่อยดิ" น้องกายหันไปเรียกเก้าที่นั่งดูข้างๆ
"ให้ผมช่วยอะไรเหรอครับ?"
"ช่วยมาทำตามแบบพี่มิกให้หน่อย... ขอเสียวๆ เลยนะ" น้องกายพูดจนทำเอาผมเสียวแทน คงเงี่ยนจัดแล้วจริงๆ
"ได้เหรอครับ?" น้องเก้าดูไม่แน่ใจ หันมาถามผม กลัวผมจะไม่ยอม
"ได้สิ... ถ้าเป็นเก้าพี่ไม่ว่าไรหรอก งั้นพี่ทำยังไงเก้าก็ทำตามทุกอย่างเลยนะ" ผมเริ่มนึกสนุก คิดไปไกลล่วงหน้า เตรียมเสียวแทนน้องชายผมแล้ว
พอเก้าเห็นผมอนุญาต น้องเลยขึ้นไปนั่งบนเตียงอยู่ด้านหลังกาย สอดขาให้น้องกายนั่งพิงตัวแบบที่ผมทำอยู่ท่าเดียวกันเป๊ะ
ผมเลยเอื้อมมือลงไปรูดแท่งของน้องกายเล่นต่อ ส่วนอีกมือก็เขี่ยหัวนมน้องไปด้วย ดูในกล้องเห็นน้องเก้าก็พยายามทำตามผม จนน้องกายดิ้นกระสับกระส่ายไปมาด้วยความเสียว
"อ่าา... ซี้ดดด... เสียวมากพี่... เสียวแบบสองเท่าเลยอ่ะ... อื้มมม..." น้องกายครางออกมาเสียงดังจนลั่นลำโพงมือถือผม คงเพราะเป็นวิญญาณอยู่ไม่ต้องกลัวใครมาได้ยินแล้ว
ผมเลยลองเอานิ้วโป้งถูวนๆ ที่ปลายรูของน้องกาย จนน้ำเงี่ยนเริ่มไหลเยิ้มออกมาขณะน้องยังหลับสนิท น้องเก้าก็ดูเป็นงานทำกับควยของวิญญาณน้องกายเลียนแบบผม จนกายดิ้นไม่เป็นท่า
"อูยยพี่... ไม่ไหวแล้ว... เสียวมาก... เย็นควยมาก... อ้าาา..." น้องกายครางจนเสียงหลง ทำเอาผมเริ่มทนไม่ไหวแล้วเหมือนกัน จับคอที่ตกอยู่ขึ้นมาประกบจูบและแหย่ลิ้นเข้าไปในปากน้องทันที
ผมชำเลืองดูในจอมือถือ เห็นน้องเก้าดูลังเลนิดหน่อยที่จะทำตาม สุดท้ายน้องกายก็หันหน้าไปรับปากเพื่อแลกลิ้นกันกับน้องเก้า ทำเอาผมเงี่ยนจนควยแข็งที่เห็นน้องทั้งคู่ดูดปากกันจริงๆ แบบนี้เป็นครั้งแรก แม้น้องจะเคยจูบกันปลอมๆ ผ่านร่างน้องฟิวแล้วก็ตาม
ส่วนผมได้จูบกับร่างไร้วิญญาณที่หลับไหลของน้องกายอยู่สักพัก ก็เลื่อนปากลงมาไซร้ซอกคออุ่นๆ ไล่เลียลงไปเรื่อยๆ จากไหล่ลงไปถึงหัวนมเล็กๆ ที่เริ่มจะแดงจากการโดนผมเขี่ยบี้เล่น
มองในกล้องน้องเก้าก็พยายามลากลิ้นลงไปตามในขณะที่ยังใส่แว่นไว้อยู่ ได้ยินเสียงแว่นขยับโดนเนื้อน้องกายดังกรึ๊กๆ เกร็กๆ เบาๆ ออกมาจากลำโพงยิ่งได้อารมณ์เคลิ้มเข้าไปอีก
"อื้มมม... อ่าา... ดีมากเก้า... ซี้ดดด..." น้องกายเริ่มครางชื่อเก้าแทน พร้อมกับจับหัวเก้าประครองไล่ไปตามตัว คงจะเริ่มติดใจลิ้นเย็นๆ ของเก้าเข้าให้แล้วเหมือนผมแน่
ผมเริ่มจับร่างน้องกายให้นอนหงายและขึ้นไปคร่อมลงบนหน้าน้อง ควักเอาควยขนาด 6 นิ้วของผม ถูวนลงบนฝีปากบางๆ ของน้องกายขณะที่ยังหลับ และก้มลงไปชิมน้ำเงี่ยนหวานๆ ที่ไหลเยิ้มแถวปลายหัวควยแดงๆ ไปด้วย ผงกหัวขึ้นลงอมแท่งควยอุ่นๆ ของน้องกายจนมันเริ่มรู้สึกร้อนขึ้นเรื่อยๆ อยู่ในปากผม
หันไปมองในจอมือถือที่วีดีโอคอลอยู่ ก็เห็นวิญญาณเด็กทั้งคู่กำลังอมควยให้กันในท่า 69 เลียนแบบท่าที่ผมทำอย่างเป๊ะๆ โดยมีน้องกายนอนหงายคาบควยเล็กๆ ของเก้าอยู่ข้างล่าง ส่วนเก้ากำลังคร่อมอยู่ข้างบนผงกหัวขึ้นลงดูดควยให้น้องกายอย่างเอร็ดอร่อย ดูดกันเก่งมากเหมือนที่ทั้งคู่เคยฝึกอมมาจากผม
ผมสลับไปไล่เลียที่ไข่สีขาวอมชมพูของกาย พลางใช้นิ้วเขี่ยตรงรูเล็กๆ เพิ่มความเสียวให้น้องไปด้วย ยิ่งเห็นเก้าทำตามแบบเดียวกัน ยิ่งทำเอาผมเงี่ยนสุดๆ จนน้ำใสๆ ของผมเริ่มไหลเยิ้มเปื้อนเต็มหน้าน้องกายที่อยู่อีกฝั่งแล้ว
"ซี๊ดดด... อ่าาา... จะแตก... กายจะแตกแล้ว... อื้มม..." น้องกายครางดังขึ้นดิ้นไปมาทนไม่ไหวแอ่นเอวจับแท่งตัวเองยัดใส่ปากเก้าอยู่ในกล้อง ผมเลยเอาปากครอบท่อนเนื้อจริงของน้อง รู้สึกมันกระตุกเบาๆ ก่อนปล่อยน้ำหวานพุ่งใส่ปากผมแตกเป็นคนแรกด้วยลีลาการช่วยกันดูดของผมและน้องเก้า
ผมเลียกินน้ำว่าวอุ่นๆ ของน้องกายจนหมด พร้อมสลับฝั่งขึ้นไปคุกเข่าเอาควยผมจ่อใส่ปากน้องกายที่ยังคงหลับอยู่ต่อเลย ก่อนจะจับหัวขยับตัวโยกเอวใส่ปากน้องไปด้วยเบาๆ
น้องเก้าก็ขึ้นมานั่งคร่อมร่างวิญญาณน้องกาย ยัดเอาจู๋ขาวๆ กระเด้าใส่ปากตามผมไปด้วย จนน้องกายต้องเอามือมาบีบก้นขาวซีดของเก้า ช่วยดันเข้าออกใส่ปากตัวเองให้เป็นจังหวะ
เหมือนตอนนี้เราสองคนกำลังแข่งกันเย็ดปากน้องกายอยู่เลย โดยผมกำลังเสียวอยู่กับปากจริงๆ ที่หลับสนิทอยู่ ส่วนน้องเก้าที่อยู่ข้างๆ กันกำลังซอยปากน้องกายในร่างวิญญาณ จนกายครางเสียงอู้อี้ เหมือนกำลังจะสำลักควยของผมกับเก้าไปพร้อมๆ กัน
"อ้ะๆๆ... จะแตกแล้วครับ... อื้มม... แตกแล้ว!" น้องเก้าร้องลั่นก่อนจะกระแทกควยคาใส่ปากน้องกาย คงแตกตามไปอีกคนแล้วด้วยความเสียวแบบสุดๆ
"งืมม... กายหนาว... หนาวจังพี่มิก..." ร่างวิญญาณน้องกายพูดจนปากสั่น คงหนาวสะท้านไปหมดทั้งตัวจากการเล่นเสียวกับน้องเก้าในสภาพแบบนั้น
"กลับเข้ามาในร่างเลยกาย... พี่จะแตก... จะแตกแล้ว... อื้มม... อ่ะ... อ้าาา..." ผมพูดขณะควยยังคาอยู่ในปากน้องกาย เริ่มเสียวจนทนไม่ไหว เพราะเหมือนวิญญาณน้องจะกลับเข้าร่างเดิมแล้ว ตื่นกลับมาดูดเอาความอบอุ่นจากควยผมที่ตอนนี้ร้อนผ่าวอยู่เต็มปากเล็กๆ จนเสียงน้ำลายดัง จ๊วฟ จ๊าฟ ลั่นห้องนอน
และในที่สุดผมก็กลั้นไม่ไหวปล่อยน้ำควยอุ่นๆ พุ่งเต็มปากให้น้องชายผมได้กินแก้หนาวไปอีกคน จนมันทะลักออกมาพร้อมน้ำลายน้องไหลย้อยเต็มมุมปากไปหมด
ผมต้องก้มลงไปประกบจูบดันลิ้นป้อนน้ำว่าวกลับเข้าปากให้น้องกินต่อให้หมด พร้อมกับนอนกอดดูดปากแนบเนื้อกัน ให้ร่างกายน้องได้รับความอบอุ่นจากลมหายใจผมอยู่ใต้ผ้าห่ม จนตัวน้องเริ่มหายสั่นกลับมาเป็นปกติแล้ว...
"เป็นไงบ้างกาย เสียวมั้ย?" ผมกระซิบถามน้องพลางลูบหัวเบาๆ ไปด้วย
"มากๆ พี่... เหมือนโดนดูดพลังไปเกือบหมดเลย" น้องกายตอบมาด้วยเสียงหอบเหนื่อยหลังจากโดนทั้งผมและน้องเก้ารุมน้องจนหมดแรง
ผมเลยนอนกล่อมน้องกาย ปล่อยให้น้องพักผ่อนหลับคาอ้อมกอดผมไปทั้งแบบนั้นเลย ในขณะที่ในห้องยังมีกลิ่นคาวกามของเราสองพี่น้องฟุ้งอยู่จางๆ...
...
ผมกำลังนอนกอดกล่อมน้องกายอยู่เพลินๆ ก็ได้ยินเสียงออดดังขึ้นที่หน้าบ้าน
"ใครมาเหรอพี่มิก..." น้องกายถามเสียงงัวเงีย กึ่งหลับกึ่งตื่น
"เดี๋ยวพี่ลงไปดูเอง กายนอนอยู่นี่แหละ" ผมบอกพลางหันไปทางน้องเก้า "เก้าอยู่เป็นเพื่อนกายก่อนนะ"
"ได้ครับพี่..."
ผมเดินลงไปเปิดประตู ก็เห็นเด็กวัยรุ่นคนนึง หน้าตาไม่คุ้น ยืนถือถุงบางอย่างลับๆ ล่อๆ อยู่หน้ารั้วบ้าน
"เอ่อ... นี่ใช่บ้านกายป่ะครับ?" เขาถามทันทีที่เห็นผม
ใจผมสะดุดแปลกๆ ดูเขาหน้าตาดีเหมือนลูกครึ่ง ไม่น่าใช่เพื่อนกายแน่ๆ แวบแรกผมอดคิดไม่ได้ว่านี่อาจจะเป็นเอ็มปลอมตัวมา
"แล้วรู้จักกับกายเหรอ?..." ผมถามเพราะยังไม่ไว้ใจเท่าไหร่
แต่เขาไม่ทันได้ตอบ เสียงน้องกายก็ดังจากในบ้าน "เห้ย! จารย์!? มาได้ไงเนี่ย ทำไมไม่โทรมาบอกกันก่อน?"
น้องวิ่งออกมาหาด้วยสีหน้าดีใจเกินคาด ทำเอาผมงงไปหมด
"ก็กะจะเซอร์ไพรส์ไง... เนี่ยเอาของฝากมาให้ด้วย" เด็กคนนั้นยิ้ม พร้อมยื่นถุงมาให้น้องกาย ยิ่งทำผมระแวงขึ้นไปอีก
"ใครเหรอกาย?" ผมขมวดคิ้วอย่างสงสัย
น้องกายเงียบไปอึดใจ ก่อนตอบออกมาแบบอายๆ "เอ่อ... พี่มิก นี่เซน... แฟนกายเองนะ เพิ่งกลับมาจากญี่ปุ่น"
...
คำพูดนั้นเหมือนมีบางอย่างฟาดเข้าที่หัวผมเต็มๆ ทำเอายืนอึ้งไปเลย ไม่เคยเห็นหน้าแฟนน้องมาก่อนจริงๆ แล้วอึ้งอีกครั้งเพราะคิดว่าแฟนน้องกายจะเป็นผู้หญิงซะอีก
"นี่พี่มิกนะ พี่ชายเค้าเอง" กายหันมาแนะนำผม
"สวัสดีครับพี่" เซนยกมือไหว้ ผมเลยยกตอบแบบงงๆ หูอื้อ ชาไปหมดทั้งตัว
เมื่อกี้ผมยังเพิ่งมีความสุขอยู่กับกายแท้ๆ แต่ตอนนี้แฟนน้องก็มาโผล่ตรงหน้าแบบไม่ทันตั้งตัว ความรู้สึกผิดมันตีตื้นขึ้นมาทันที จนปรับอารมณ์ไม่ทัน
"แล้วนี่... นั่งแท็กซี่มาหรือไง?" ผมพยายามหาคำพูดกลบเกลื่อน
"อ๋อ ผมก็อยู่หมู่บ้านนี้แหละพี่ ซอยใกล้ๆ นี่เอง พอดีไปเรียนญี่ปุ่น เลยไม่ค่อยได้กลับมา"
ผมได้แต่หันไปสบตากับน้องเก้า เหมือนทุกอย่างพังครืนลงมาในวินาทีเดียว
แอบเห็นน้องกายเองก็ดูมีความสุขที่ได้เจอแฟนอีกครั้ง... ยิ้มตาเป็นประกายแบบที่ผมไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก
"ขอโทษนะครับพี่มิก ตอนนั้นผมลืมบอกว่ากายมีแฟนเป็นผู้ชายครับ" น้องเก้าเสียงอ่อยเหมือนรู้สึกผิด
"ไม่เป็นไรเก้า... ช่างมันเถอะ" ผมเลยชวนน้องเก้ากลับขึ้นห้องไปแบบซึมๆ อึนๆ ปล่อยให้กายได้ใช้เวลากับคนที่น้องรักเต็มที่ จะหึงหรือหวงก็ไม่ได้อีกแล้ว... เหลือแค่ความรู้สึกว่างเปล่าที่อธิบายไม่ถูกเลยจริงๆ
... . . อ่านตอนต่อไป... >>ตอน 12 - เสียวกันกลางอากาศ<< |