แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Recs เมื่อ 2025-9-22 13:50
ไม่กี่วันต่อมา อาการไข้ของน้องกายก็ดีขึ้นจนกลับไปโรงเรียนได้ตามปกติแล้ว เหลือแค่ไอบ้างประปรายเท่านั้น ผมเลยสบายใจขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังไม่วางใจเรื่องหมอกวิน เลยแอบหาข้อมูลเพิ่ม จนเจอว่าหมอเปิดคลินิกส่วนตัวด้วย เป็นคลินิกหมอเด็กขนาดกลาง ดูแทบไม่ต่างจากโรงพยาบาลย่อมๆ เลยทีเดียว
พอเล่าให้น้องกายฟัง น้องกลับอาสาจะช่วยทันที เสนอตัวเป็นคนไข้ ให้พวกผมใช้เป็นทางเข้าไปสืบหาความจริง
“แน่ใจเหรอกาย? พี่ไม่อยากเอากายมาเสี่ยงเป็นเหยื่อล่อแบบสมัยก่อนแล้วนะ…” ผมเผลอนึกถึงภาพตอนน้องยังอยู่ประถม ที่ผมเคยใช้กายเบี่ยงความสนใจ เพื่อแอบเข้าไปลบคลิปที่พ่อเลี้ยงถ่ายน้องไว้ มันยังเป็นเรื่องที่ฝังใจผมจนถึงทุกวันนี้
“แน่ดิพี่ กายโตแล้วนะ ดูแลตัวเองได้อยู่แล้วหน่า ไม่มีอะไรให้ห่วงหรอก” น้องตอบด้วยท่าทีมั่นใจ
“งั้นให้ผมอยู่กับกายไหมครับ เผื่อมีอะไรไม่ดีจะได้ย้อนเวลาแก้ทัน” เก้าเสนอขึ้นมาเหมือนอยากช่วยเต็มที่
“ไม่เป็นไร เก้าไปกับพี่มิกเถอะ จะได้ช่วยกันหาเบาะแส เราเข้าไปตรวจคนเดียวได้อยู่แล้ว” น้องกายปฏิเสธทันควันยังยืนยันคำเดิม
ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ยังไงก็อดห่วงน้องไม่ได้อยู่ดี เลยสั่งย้ำอีกที “แต่ถ้ามีอะไรแปลกๆ กายต้องเลิกทันทีนะ ห้ามฝืนเด็ดขาด”
“โอเค หาให้เต็มที่เลยพี่!” น้องกายยิ้มกว้างให้ผมเหมือนเด็กที่อยากพิสูจน์ตัวเอง
...
เช้าวันเสาร์ ผมบอกที่บ้านว่าจะพาน้องกายไปเดินเล่นห้าง แต่จริงๆ เรานั่งรถไฟฟ้ามาที่คลินิกของหมอกวินที่ผมสืบเจอจากในเน็ต ตั้งใจเลือกวันหยุดเพราะคิดว่าโอกาสเจอตัวหมอคงน้อย
แต่พอเดินเข้าไปเพื่อติดต่อที่เคาน์เตอร์ กลับต้องชะงักทันที... หมอกวินเปิดประตูออกจากห้องตรวจแล้วหันมาเจอพวกผมพอดี
"อ้าว ยังไม่หายดีอีกเหรอเรา? มีอะไรถึงมาหาหมอถึงที่เลย?" หมอเอ่ยทักเหมือนยังจำหน้าน้องกายได้จากโรงพยาบาล แถมยังเหลือบตามามองผมด้วยสายตาแปลกๆ
"อ๋อ… ใช่ครับ ยังมีไออยู่นิดหน่อย" น้องกายตอบกลับอย่างเนียนไม่สะทกสะท้าน
"งั้นเดี๋ยวนั่งรอก่อนนะ... คิวต่อไปเข้ามาตรวจได้ครับ" หมอหันไปเรียกเด็กที่นั่งรออยู่ ผมกับน้องกายเลยต้องนั่งรออยู่ด้านนอกไปก่อน
"เอาไงดีกาย จะยกเลิกแผนมั้ย? ไม่คิดว่าจะเจอหมอตัวจริงวันนี้อะ" ผมก้มลงกระซิบถามเบาๆ
"ไม่ต้องหรอกพี่ ไหนๆ ก็มาละ... เดี๋ยวกายถ่วงเวลาให้เอง" น้องยิ้มอย่างมั่นใจ แต่ยิ่งทำเอาผมใจคอไม่ดีเข้าไปอีก
"ระวังไว้หน่อยนะครับ เดี๋ยวเขาขอตรวจฉี่ขึ้นมาจริงๆ" เก้าโพล่งขึ้นมาเสียงจริงจัง
"โอ๊ย รู้แล้วน่า… ไม่ได้จะฉี่ให้เขาดูเหมือนในฝันพี่มิกซะหน่อย ฮ่าๆๆ" น้องกายขำตอบกวนๆ ยกเรื่องที่ผมเคยเล่าในฝันมาแซว แต่ถ้าเกิดขึ้นจริงมันคงไม่ขำเลยแม้แต่นิด
เวลาผ่านไปไม่นานนัก ถึงคิวน้องกายถูกเรียกเข้าไปในห้องตรวจ ผมกับเก้าเลยทำทีแยกตัวไปเข้าห้องน้ำ ก่อนเริ่มภารกิจสำรวจหาคำตอบเกี่ยวกับอดีตของเก้า ภายในคลินิกแห่งนี้...
...
เราทั้งสองเดินไล่ดูตามห้องไปเรื่อยๆ จนมาสะดุดที่ห้องหนึ่งซึ่งป้ายบอกว่า 'ห้ามเข้าโดยไม่ได้รับอนุญาต' ดูยังไงก็ต้องเป็นห้องทำงานส่วนตัวของหมอกวินแน่ๆ ผมส่งสายตาให้น้องเก้า ก่อนเจ้าตัวพยักหน้าแล้วทะลุกำแพงเข้าไปเปิดล็อคให้ผมแอบเล็ดลอดเข้าไปได้ จากนั้นยังไม่ลืมดึงกลอนกลับไว้เหมือนเดิมเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต
"ห้องนี้น่าจะมีอะไรเยอะอยู่ครับ…" เก้าพึมพำพลางกวาดตามองไปรอบๆ บนผนังมีทั้งรูปถ่าย ใบประกาศนียบัตร กับเอกสารรับรองเรียงเต็มไปหมด
"เดี๋ยวลองไล่หาดูนะเก้า ถ้าเจออะไรแปลกๆ เรียกพี่ด้วย" ผมบอกน้อง พลางเริ่มเปิดลิ้นชักทีละช่อง กวาดตามองเอกสารพวกทะเบียนยา สมุดเวรแต่ยังไม่เจออะไรที่เชื่อมโยงกับเก้าเลย
"พี่มิก! มาดูนี่ครับ เจอแล้ว!" เก้าเรียกด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
ผมรีบเดินไปดู เห็นเก้าชี้ไปที่รูปถ่ายครอบครัวที่ถูกเก็บไว้ในตู้กระจกข้างโต๊ะทำงาน เป็นภาพถ่ายหมู่ญาติหลายคน ยืนเรียงกันยิ้มอยู่... ในนั้นมีหมอกวินชัดเจน แต่สิ่งที่ทำให้ผมหยุดหายใจไปชั่วครู่คือ เด็กผู้ชายในรูป… เป็นน้องเก้าตอนที่ยังมีชีวิตอยู่แน่นอน
และไม่ใช่แค่นั้น ยังมีเด็กผู้หญิงหัวโล้น ผมร่วงหมดเหมือนคนป่วยหนัก เธอคือน้องไอซ์ คนที่ผมและเก้าเคยเข้าไปเจอในฝันที่ผ่านมา
"หรือว่า…น้องไอซ์จะเป็นญาติผมจริงๆ ครับพี่?" เก้าหันมาถาม แววตาสับสนชัดเจน
"ก็เป็นไปได้…แต่พี่ยังไม่อยากสรุป รีบหาต่อเถอะ เผื่อเจอหลักฐานที่ชัดกว่านี้" ผมตอบเสียงเรียบ พลางกวาดตามองรูปถ่ายอื่นรอบๆ
"ครับ…" เก้าพยักหน้า ก่อนจะก้มลงค้นตู้ชั้นล่างต่อ
ผมเองก็ก้มลงรื้อแฟ้มเอกสาร แต่จู่ๆ ความรู้สึกแปลกๆ ก็แล่นผ่านสันหลัง เย็นวาบจนขนลุกขึ้นทั้งตัว ทั้งที่ในห้องไม่ได้เปิดแอร์หรือพัดลมแม้แต่นิดเดียว…
...
"หาอะไรกันอยู่เหรอ?" เสียงหนึ่งดังแทรกขึ้นมาจากด้านหลัง ทำเอาผมกับเก้าสะดุ้งเฮือก
พอหันไป ก็เห็นเด็กวัยรุ่นร่างผอม ผิวซีดขาว นั่งไขว่ห้างอยู่บนโต๊ะทำงานหน้าตาเฉย เขาแต่งตัวแปลกชะมัด เสื้อผ้าสีดำทั้งชุด มีผ้าพันคอสีขาวตัดกัน แต่งหน้าทาปากกับขอบตาดำเหมือนเด็กอีโมหลุดมาจากคอนเสิร์ตใต้ดิน ดูยังไงก็ไม่ใช่คนปกติแน่ๆ
"นายเป็นใครเนี่ย เข้ามาตอนไหนอ่ะ?" ผมถามเสียงแข็ง
"โห มองเห็นผมด้วยเหรอพี่ชาย? ไม่เบาเลยนี่..." เด็กคนนั้นหัวเราะหึๆ ก่อนลอยตัวลงจากโต๊ะมายืนบนพื้นแบบชิลๆ ชัดแล้วว่าเป็นผีอีกตัวแน่
"ผมชื่อเก้าครับ เป็นผีเหมือนกัน แต่จำเรื่องก่อนตายไม่ได้ เลยพาพี่ผมมาหาเบาะแสที่นี่ครับ" เก้ารีบแนะนำตัวแบบสุภาพ
"หูยย... ตายตั้งแต่ยังเด็ก สงสารจังเลยนะ" เสียงอีกฝ่ายเหมือนแซะมากกว่าจริงใจ ยิ่งทำให้ผมไม่ไว้ใจเข้าไปใหญ่ "พี่ชื่อบีเอ็ม เรียกเอ็มก็ได้นะค้าบน้องเก้า..."
"ยินดีที่ได้รู้จักนะครับพี่เอ็ม พอจะรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับที่นี่บ้างมั้ยครับ?" เก้ายังพยายามผูกมิตร
เอ็มเดินไปหยุดที่รูปถ่ายรวมญาติในตู้กระจก "นี่ไง คนในรูปหน้าเหมือนน้องเลย จะว่าเป็นฝาแฝดหรือเปล่าน๊าา…"
"นั่นคือเก้าตอนยังมีชีวิต ไม่ใช่ฝาแฝดหรอก" ผมตอบเสียงเรียบ
"อ๋อออ…เสียดายเนอะ หน้าตาน่ารักแบบนี้ โตมาคงหล่อ ไม่น่ารีบตายเลย" เอ็มพูดกวนๆ ยิ่งทำให้ผมของขึ้น
"น้องเขาไม่ได้อยากตาย แต่มีคนทำให้เขาตายต่างหาก" ผมขึ้นเสียงทันที
"แหมๆ คนกับผีดูสนิทกันดีนะ…เริ่มน่าสนใจแล้วสิ คิคิ" เอ็มพูดพลางขำเบาๆ
"ใจเย็นนะพี่มิก…" เก้าพยายามห้ามผมไว้ ก่อนจะหันไปถามต่อ "แล้วพี่เอ็มพอรู้อะไรแปลกๆ อีกบ้างครับ?"
"พูดเพราะอย่างนี้สิ ค่อยน่าคุยด้วยหน่อย" เอ็มทำหน้าชื่นชมเก้า "ก็พอได้ยินมาบ้างนะ หมอที่นี่เหมือนจะมียาพิเศษ ที่กินแล้ววิญญาณหลุดออกจากร่างชั่วคราวได้ด้วยแหละ"
"จริงเหรอครับพี่?" เก้าตาโตทันที
"จริงสิ ก่อนตายพี่ยังเคยลองกินอยู่เลย แต่สงสัยจะซัดเยอะไปหน่อย… เลยกลายมาเป็นแบบนี้ ฮ่าๆๆ" เอ็มหัวเราะพลางชี้ที่ตัวเอง
"พี่เอ็มตายที่นี่เหรอครับ?"
"ใช่จ้าา ตายอย่างทรมานเลย ฝีมือหมอกวินล้วนๆ ฮือๆๆ" คราวนี้เปลี่ยนโหมดทำหน้าเศร้าปลอมๆ เหมือนเล่นละคร
"เสียใจด้วยนะครับพี่…" เก้ายังเชื่อเต็มที่
ผมเลยรีบพูดตัดบท "เก้า พี่ว่าเราไปจากที่นี่กันเถอะ"
"อ้าว เดี๋ยวดิพี่ชาย จะรีบไปไหน ไม่ตามผมไปดูที่ซ่อนยาก่อนเหรอค้าบบ?" เอ็มลากเสียงยาวแบบกวนโอ้ย
"พี่เอ็มรู้ที่ซ่อนด้วยเหรอครับ?"
"รู้สิ ระดับพี่แล้ว อยู่ที่นี่มานานจนรู้ทุกซอกทุกมุม คิคิ"
"ไม่มีหรอกเก้า ยาอะไรแบบนั้น" ผมตอบไปพร้อมกับส่ายหน้า
"หืมม พี่ชายไม่ไว้ใจผมเลยเหรอค้าบ ผมก็อยากช่วยเปิดโปงหมอเลวๆ นี่เหมือนกันนะ" เอ็มตอบพร้อมทำหน้าเสแสร้ง
"นะพี่มิก…ลองไปดูก่อนก็ไม่เสียหายหรอกครับ" เก้าอ้อนเสียงอ่อนจนผมต้องยอม แต่ก็ยังจับตาดูผีเอ็มไม่ให้คลาดสายตา
...
เอ็มเดินนำผมกับน้องเก้าไปตามทางเดินเงียบๆ จนถึงห้องหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็นคลังเก็บยา
"ตู้นี้แหละค้าบ ที่เห็นหมอกวินชอบมาหยิบอยู่บ่อย ลองเปิดดูสิพี่ชาย" เอ็มยกคางชี้ไปที่ตู้เล็กๆ มุมห้อง
ผมลองเปิดออก ข้างในมีแต่กระปุกยาสีส้มเรียงแน่นเต็มไปหมด หยิบมาดูกระปุกหนึ่ง ข้างในมีเม็ดยาสีฟ้าเล็กๆ อยู่หลายเม็ด... พอเห็นก็รู้สึกคุ้นตาอย่างประหลาด
"เก้า… ยานี่เหมือนในฝันเลย ตอนที่หมอกวินป้อนให้กายกิน" ผมรีบพูดหลังจากนึกขึ้นได้
"จริงด้วยครับพี่… หรือว่าจะเป็นยาที่ทำให้วิญญาณออกจากร่างได้จริงๆ?" เก้าขมวดคิ้วเหมือนนึกตามทันที
"ว้าววว~ มีฝันด้วยเหรอเนี่ย พี่ชายกับน้องนี่ไม่ธรรมดาจริงๆ มีสัมผัสพิเศษด้วย" เอ็มพูดแทรกขึ้นมา น้ำเสียงกวนๆ เหมือนเดิม
"หมอเอายานี่ไปให้คนไข้ทุกคนเลยเหรอ?" ผมถามกดเสียงต่ำ
"หึ ก็ไม่ทุกคนนะค้าบ… เฉพาะคนพิเศษ อย่างผมนี่ไง อิอิ" เอ็มยักคิ้วใส่แบบกวนๆ
ผมเริ่มใจหวิวขึ้นมาทันที กายกำลังอยู่กับหมอ! เลยรีบหยิบมือถือออกมา แต่ยังไม่ทันส่งข้อความ น้องกายก็พิมพ์มาหาก่อน... 'พี่มิก หมอตรวจเสร็จแล้ว กำลังออกจากห้องไปแล้วนะ'
จากเป็นห่วง กลับกลายเป็นหัวใจเต้นรัว เพราะกลัวหมอจะมาเจอว่าผมแอบเข้ามาในห้องนี้…
"เก้า เราต้องรีบไปแล้ว!" ผมหันไปเร่งน้องทันที
เก้าหน้าซีด "ไม่ทันแล้วพี่! หมอกำลังเดินมาทางนี้!"
"หะ!? นี่นายจงใจพาเรามาติดกับใช่มั้ย!?" ผมหันขวับไปมองเอ็ม
"โธ่พี่ชาย จะทำแบบนั้นไปทำไมล่ะค้าบ ผมก็บอกแล้วไงว่าอยากช่วย… จริงๆ นะ คิคิ" เจ้านั่นหัวเราะ สีหน้าดูสบายใจจนผมเริ่มหมันไส้
"พี่มิก มาซ่อนในนี้เร็วครับ!" เก้าชี้ไปที่ล็อคเกอร์เก็บของใกล้ๆ ผมเลยรีบแทรกตัวเข้าไปแอบทันก่อนที่เสียงกุญแจไขประตูดังขึ้น
"พี่แอบไปนะ เดี๋ยวผมไปหาวิธีช่วยล่อให้ครับ" เก้าพูดพร้อมกับรีบออกไปจากห้อง ปล่อยให้ผมอยู่กับหมอกวินและเอ็มเพียงลำพัง
หมอเดินเข้ามาในห้องเงียบๆ สายตากวาดไปทั่วก่อนจะมาหยุดที่ตู้เก็บยา… พอดีกับที่เอ็มเอียงหน้ามากระซิบหูผมในล็อคเกอร์ "โห พี่ชาย ตัวสั่นเลยนะ… ถ้าโดนจับได้ เก้าจะทำไงน้าาา~" เสียงมันกวนจนผมแทบหลุดหายใจแรงออกมา
ผมแอบมองผ่านช่องเล็กๆ เห็นหมอกำลังเปิดตู้ หยิบกระปุกยาเม็ดฟ้าออกมา แล้วจู่ๆ เขาก็หันหน้ามาทางล็อคเกอร์ที่ผมซ่อนอยู่เหมือนได้ยินอะไร… สายตาคมๆ กวาดมาช้าๆ จนหัวใจผมเต้นแทบหลุด
จังหวะนั้นเอง เสียงพยาบาลตะโกนโหวกเหวกจากด้านนอก “หมอคะ! มีคนไข้ชักค่ะ รีบมาด่วนเลยค่ะ!”
หมอหันหลังแล้วรีบออกจากห้องไปทันที ปิดประตูทิ้งไว้แต่ความเงียบภายในห้อง
ผมพ่นลมหายใจออกมาสุดแรง "เห้อ… เกือบไปแล้ว…"
"ใช่ม้าาา~ เกือบได้ดูโชว์พิเศษแล้วสิ คิคิ" เอ็มทำเสียงเหมือนสะใจที่เห็นผมแทบช็อก
"จริงๆ นายเป็นพวกเดียวกับหมอใช่มั้ย" ผมหันไปจ้องแรง
"หืมม ทำไมพี่ชายคิดแบบนั้นล่ะค้าบบ… ผมก็เกลียดหมอเลวๆ นี่เหมือนกัน ดูหื่นๆ ยังไงไม่รู้เนอะ อิอิ" เอ็มหัวเราะ ยังคงอารมณ์ดีได้ตลอดเวลา
"อยู่ห่างๆ จากเก้าไว้ แล้วไม่ต้องมายุ่งเรื่องนี้ด้วย" ผมขึ้นเสียง พร้อมหยิบกระปุกยาใส่กระเป๋าเป็นหลักฐาน ก่อนรีบออกจากห้องไปทันที
"โธ่พี่ชาย ใจร้ายจัง… งั้นไว้เจอกันใหม่นะค้าบบ~" เสียงเอ็มลากยาวตามหลังมาเหมือนกำลังสนุก
ผมไม่หันกลับไปมอง รีบตรงไปหากายกับเก้าที่รออยู่หน้าห้องตรวจ จะได้พากันออกจากคลินิกนี้เร็วๆ สักที
...
"กาย หมอไม่ได้ทำอะไรแปลกๆ ใช่มั้ย?" ผมหันไปถามขณะนั่งรอรับยาหน้าห้องตรวจด้วยกันอยู่
"ไม่มีไรเลยพี่ แค่ตรวจคอเฉยๆ มีพยาบาลอยู่ด้วยตลอด" กายตอบพลางยิ้มให้ผมคลายกังวล "แล้วพี่ล่ะ เจออะไรบ้างมั้ย?"
"พอได้มาอยู่นะ... เดี๋ยวกลับไปค่อยเล่า" ผมตอบเบาๆ ไม่อยากให้ใครข้างๆ ได้ยิน
"แต่ก็เกือบโดนจับได้แล้วนะครับ" น้องเก้าที่นั่งอยู่ เอ่ยแทรกขึ้นมา
"เมื่อกี้ฝีมือเก้าเหรอ?" ผมเลิกคิ้วถามทันที
"ใช่ครับ ผมไปสิงคนไข้ที่นอนอยู่ แล้วทำเป็นแกล้งชักขึ้นมา" เก้ายิ้มบางๆ
"หะ!? เก้าไปชักว่าวคนอื่นมาเหรอ!?" กายดันโพล่งขึ้นเสียงดัง ทำเอาผมแทบหันไปอุดปากน้องไว้ทันที
"ไม่ใช่ชักว่าวครับ! หมายถึงนอนชักกระตุกต่างหาก!" เก้ารีบแก้เสียงจริงจังจนผมเกือบหลุดขำไปด้วย
สักพักถึงคิวกายไปรับยาและจ่ายเงิน ผมเปิดดูในถุงก็เห็นเม็ดสีฟ้าที่คุ้นเคยอยู่ข้างในจริงๆ จึงรีบเตือนน้องว่า "ห้ามกินเด็ดขาด"
แต่ก่อนเราจะได้ออกจากที่นั่น มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านหลังจนใจผมแทบหล่นวูบ "เดี๋ยวก่อน..."
ผมหันไปก็เห็นหมอกวินยืนจ้องอยู่ตรงทางออก
"มีอะไรเหรอครับหมอ?" กายเป็นฝ่ายถามกลับอย่างเนียนๆ
"หมอมีเรื่องอยากถาม... พี่ชายเธอหน่อย" สายตาหมอเปลี่ยนเป็นคมกริบ จ้องมาที่ผมโดยตรง
"ถามผมเหรอครับ?" ผมพยายามทำเสียงเรียบที่สุด
"ใช่... วันนั้นเธอพูดถึงชื่อน้องไอซ์ที่โรงพยาบาล รู้จักชื่อนี้ด้วยเหรอ?" น้ำเสียงหมอเหมือนจะกดดัน และทดสอบผม
หัวใจเต้นแรงแบบคุมไม่อยู่ แต่ผมกัดฟันตอบกลับไปแบบตรงๆ พยายามเก็บอาการแบบสุดๆ "ก็เคยได้คุยกันอยู่บ้างครับ... หมอเองก็รู้จักด้วยเหรอ?"
หมอกดเสียงต่ำ "รู้สิ... ชื่อลูกสาวหมอเอง"
พอได้ยินคำนั้นผมแทบช็อค เหมือนโลกหยุดหมุนไปแปปนึง แต่ต้องฝืนทำใจให้นิ่งและเย็นไว้ "งั้นฝากบอกให้น้องหายไวๆ ด้วยนะครับ เห็นว่าไม่ค่อยสบาย"
หมอชะงักไปแว้บนึง ก่อนจะยิ้มแปลกๆ เหมือนสงสัยว่าผมรู้เรื่องนี้ได้ยังไง และตอบเสียงนิ่งๆ "ได้สิ... ไว้จะบอกให้นะ"
แต่ผมยังไม่พอ แกล้งปล่อยหมัดเด็ดออกไป "แล้วก็... ฝากความคิดถึงไปให้น้องเบสท์ด้วยนะครับ"
ทันทีที่พูดชื่อ 'เบสท์' ออกไป บรรยากาศรอบนั้นเหมือนหยุดนิ่ง กายหันขวับมามอง ส่วนเก้าเองก็ตกใจตาโต แต่ที่หนักกว่าคือหน้าหมอถึงกับซีด เงียบไปจนไร้คำพูดตอบกลับ เหมือนถูกเปิดโปงในใจต่อหน้าผู้คน
"งั้น... หมอขอตัวไปตรวจคนไข้ต่อละกัน" หมอฝืนยิ้ม กลับทำเป็นหลบตาผมไปพูดกับน้องกายแทน "หายไวๆ ล่ะ จะได้ไม่ต้องมาเสียตังค์เพิ่มอีก"
"ครับหมอ... ขอบคุณครับ" น้องกายยิ้มบางๆ ตอบกลับเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เราเดินออกจากคลินิกทำเหมือนทุกอย่างปกติ แต่ทุกคนดูลุ้นมากจนแทบหยุดหายใจ แม้ผมจะรู้ดีว่า... เกมวันนี้ผมเป็นฝ่ายกุมไพ่เหนือกว่า ทำเอาหมอกวินไปไม่เป็นเลยจริงๆ
...
คืนนั้นผมกลับมาเล่าเรื่องทั้งหมดให้น้องกายฟัง แต่พอความเหนื่อยเพลียถาโถม ก็เลยตกลงกันว่าคืนนี้ขอนอนพักก่อน พรุ่งนี้ค่อยคิดหาทางสืบกันต่อ
แต่สายตาผมกลับไปสะดุดที่เก้า เพราะดูน้องทำตัวมีพิรุธ เหมือนแอบปิดบังอะไรผมไว้ ผมเลยแกล้งทำเป็นนอนหลับไปกับน้องกายบนเตียง
ไม่นานนัก เก้ามองมาที่ผมกับกายแบบระแวงๆ ก่อนค่อยๆ ลุกออกจากห้องไป ผมเลยแอบชำเลืองมองจากหน้าต่าง เห็นเก้าทำท่าเหมือนกำลังคุยกับใครบางคนหน้าบ้านที่ผมมองไม่เห็นตัว แต่ต้องคิดว่าเป็นผีเด็กที่ชื่อเอ็มแน่... แสดงว่าที่คลีนิกเอ็มมันจงใจให้ผมเห็นร่างมันได้
ตอนแรกก็ลังเลเพราะยังไม่เชื่อใจเรื่องที่เอ็มพูดเรื่องยา แต่สุดท้ายผมตัดสินใจหยิบยาเม็ดสีฟ้าของหมอกวินขึ้นมากินทันทีเพื่อทดลองให้แน่ใจ ถ้ากินแล้วออกจากร่างได้จริงต้องได้ยินที่เก้าคุยกับเอ็มแน่ๆ
ไม่นานนัก ผมรู้สึกเหมือนร่างกายมันหนักอึ้งและง่วงสุดๆ จนสุดท้ายต้องเอนลงนอนข้างน้องกาย พอลืมตาอีกทีผมกลับรู้สึกเบาหวิวแปลกๆ ฝืนยันตัวลุกขึ้นนั่งมองกลับไปที่เตียงก็ต้องตกใจ จนรู้สึกแปลกมากๆ ที่เห็นร่างตัวเองยังคงนอนหายใจอยู่เหมือนเดิม... ยานี้มันได้ผลแบบที่เอ็มบอกจริงๆ ด้วย
ผมรีบพาวิญญาณที่ออกจากร่างเป็นครั้งแรก แอบตามน้องเก้าไปจนถึงสนามเด็กเล่นในหมู่บ้าน รู้สึกหนาวแปลกๆ เหมือนยังไม่ค่อยชินกับสภาพแบบนี้... และก็เป็นไปตามคาด ผมเห็นเก้ากำลังนั่งคุยกับเอ็มอยู่จริงๆ แบบที่ผมคิดเอาไว้ไม่มีผิด
"พี่จะให้ผมช่วยอะไรเหรอครับ?" เก้าเอียงคอถามเสียงแผ่ว
"เอาตรงๆ เลยนะ... พี่ว่าเก้าน่ารักดีอ่ะ ขอพี่สนุกด้วยหน่อยก่อนไปเกิดใหม่ได้ปะ~" เอ็มทำเสียงล้อเลียนเหมือนเรื่องเล่นๆ แต่ใจผมกลับแทบระเบิดออกมา... มันเล็งน้องเก้าไว้ตั้งแต่แรกจริงๆ ด้วย
"เอ่อ... คงไม่ดีหรอกครับ อีกอย่าง เราก็โดนตัวกันไม่ได้ด้วย..." เก้าตอบพยายามเลี่ยง
"ไม่ยากๆ เดี๋ยวเก้าไปสิงใครสักคนที่หลับอยู่ไง~ พี่ก็จะสิงอีกคนด้วย แล้วเราก็ออกมาเจอกันที่นี่ดีมั้ย?..."
ผมกัดฟันแน่น พอเห็นเก้าอ้ำๆ อึ้งๆ เท่านั้นแหละ ความหวงมันพลุ่งพล่านจนทนไม่ไหวอีกแล้ว
"บอกแล้วไงว่าให้เลิกยุ่งกับเก้าอ่ะ!!" ผมโผล่มาตรงหน้าทั้งสองแบบเต็มๆ
"โอ้วว ถึงขั้นออกจากร่างมาเลยเหรอเนี่ยพี่ชาย เห็นมั้ยล่ะ... ผมไม่ได้โม้เลยนะเรื่องยานั่นอ่ะ คิคิ" เอ็มหันมามองผมปุ๊บก็หัวเราะใหญ่
"พี่มิก... พี่กินยาไปเหรอ!?" น้องเก้าถึงกับชะงักเมื่อเห็นผมในร่างวิญญาณแบบชั่วคราว
"ใช่! ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว กลับบ้านเลยเก้า!" น้ำเสียงผมแข็งจนเก้าสะดุ้งและเงียบไป
"หูยย ช่างเป็นพี่ชายที่โหดจังเลยเนาะ... หรือจริงๆ ก็แค่หวงน้องเก้ากันแน่น๊าา?" เอ็มยังไม่วายยียวนผมต่อ
"แกต้องการอะไรกันแน่ จะตามมายุ่งไม่เลิกทำไม!?" ผมจ้องตากลับเต็มแรง
"อย่าเครียดสิ~ ผมก็แค่อยากสนุกบ้างเอง... แต่ถ้าพี่ชายหวงขนาดนี้ ผมไม่ยุ่งก็ได้ค้าบ" เอ็มยกมือทำท่ายอมแพ้แต่รอยยิ้มกวนๆ ยังไม่หาย
"พี่เอ็ม... กลับไปก่อนเถอะครับ" เก้ามองเอ็มแล้วพูดเสียงสั่น
"โธ่เอ๊ย... ก็ได้ๆ ถ้าน้องเก้าขอขนาดนี้... แต่ถ้าเมื่อไหร่เหงาๆ มาหาพี่ที่คลินิกได้ตลอดเลยน๊าา~" เอ็มทำหน้าหงอยแบบเสแสร้ง
"ตกลงจะกลับเข้าบ้านมั้ยเก้า?" ผมหันมาเสียงแข็งมองเก้าอีกรอบ
"กลับครับพี่..." เก้าพูดเสียงเบาแล้วเดินตามผมกลับบ้านแบบคอตก
"ฝันดีนะค้าบบ พี่ชายสุดโหด... แล้วก็น้องเก้าสุดหล่อออ~" เอ็มยังโบกมือยิ้มระรื่นไล่หลังมา
...
ผมเดินเข้าบ้านมาด้วยอารมณ์หงุดหงิดสุดๆ ไม่คิดว่าน้องเก้าจะไปหลงเชื่อใจผีแบบเอ็ม ส่วนน้องก็ตามหลังมาเงียบๆ พร้อมเสียงสะอื้นราวกับกำลังโทษตัวเอง
"ผม... ขอโทษนะครับพี่มิก ฮือ... ไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พี่หวงเลยจริงๆ" น้องพูดพลางปาดน้ำตา เสียงสั่นจนใจผมแทบสลาย
"แล้วทำไมต้องออกไปคุยกับมันล่ะ?" ผมถามเสียงแข็ง ทั้งที่ในใจอยากจะกอดน้องไว้แทบตาย
"พี่เอ็มเขามาเรียกหน้าบ้าน บอกอยากให้ช่วย... ผมก็คิดว่าอาจช่วยให้เขาได้ไปเกิดอย่างสงบครับ" น้องรีบอธิบายทั้งน้ำตา
"แล้วทำไมไม่บอกพี่ตรงๆ ทำไมต้องแอบ?"
"ก็ผมคิดว่า... พี่ต้องไม่ยอมให้ผมไปช่วยแน่ๆ เพราะพี่ไม่ชอบเขาใช่ไหมล่ะครับ?"
"ใช่แล้ว! มันไม่ได้คิดดีเหมือนที่เก้าคิดหรอก มันแค่อยากหลอกเอากับเก้าไง เข้าใจมั้ย!" ผมเริ่มเสียงดัง ทั้งหวงทั้งโกรธแทบคุมไม่อยู่
น้องสะอึกเล็กน้อย ก่อนตอบทั้งน้ำตา "ถ้ารู้ว่าเขาจะเป็นแบบนั้น... ผมไม่มีวันช่วยหรอกครับ"
ผมหยุดนิ่งไปครู่หนึ่ง แล้วถามสิ่งที่ค้างคาใจ "ถ้าพี่ไม่โผล่ไป เก้าก็จะยอมให้มันทำใช่มั้ย?"
"ไม่ยอมครับ!" น้องส่ายหัวแรง "ผมไม่ยอมแน่นอน... ผมจะยอมทำกับพี่แค่คนเดียว" เสียงน้องจริงจังจนทำให้ใจผมสะดุด
"...แค่พูดเอาใจพี่รึเปล่า?"
"ไม่ใช่ครับ ผมพูดจริงๆ" น้ำตายังคงไหล แต่ดวงตาของน้องกลับแน่วแน่กว่าเดิม
ผมยื่นมือไปปาดน้ำตาให้น้องตามสัญชาตญาณ และสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ผมถึงกับชะงัก... คือผมสัมผัสถึงแก้มนุ่มๆ ของเก้าได้จริง เหมือนกับตอนอยู่ในฝันเลย
"พี่... โดนตัวผมได้จริงๆ เหรอ" เก้าพูดอย่างตกใจ พร้อมชะงักจนหยุดร้อง
"น่าจะใช่นะ... พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน" ผมตอบเสียงเบาลง หัวใจกลับเต้นแรงขึ้นทุกที
"แล้วพี่ไม่รีบกลับเข้าร่างเหรอครับ?" เก้าถามเหมือนเป็นห่วงผม
"ถ้ายังไม่รีบล่ะ... ขอใช้โอกาสนี้ให้คุ้มค่าได้มั้ย?" ผมสบตาน้อง ก่อนยิ้มบางๆ
"ได้เสมอครับ... สำหรับพี่มิก" น้องเม้มปากเล็กน้อย ก่อนตอบกลับมาแบบเสียงสั่น
...
เราทั้งคู่โผเข้าจูบกันอย่างดูดดื่ม สัมผัสปากขาวซีดของน้องที่มองเห็นลางๆ ท่ามกลางความมืดในห้องนั่งเล่นอยู่ชั้นล่าง ได้รับรสชาติของลิ้นและลมหายใจเย็นๆ ที่คุ้นเคย เย็นวาบจนขนลุกทำเอาผมแทบตัวสั่น
"เป็นผีนี่จะหนาวแบบนี้เป็นปกติเหรอเก้า?" ผมถอนจูบออกและกระซิบถามน้องเบาๆ
"ใช่ครับพี่ แต่ผมเริ่มชินแล้วล่ะครับ" น้องพูดพลางเอามือจับเสื้อผมไว้แน่น เหมือนไม่อยากให้หนีไปไหน และจ้องมองตากันในความมืด
"งั้นรอบนี้พี่ขอไม่ถอดเสื้อผ้านะ..."
"ยังไงก็ได้ครับสำหรับพี่มิก" น้องตอบเหมือนยอมให้ผมทั้งตัวแล้ว เลยก้มลงไปดมกลิ่นอ่อนๆ ที่แก้มน้อง ลามไปถึงต้นคอยิ่งทำเอาผมหลงไหลแบบสุดๆ รู้สึกดีและเหมือนจริงยิ่งกว่าตอนอยู่ในฝันอีก
ผมอุ้มร่างเล็กๆ ของน้องไปวางพาดลงบนโซฟากลางบ้าน จับหันก้นกระดกขึ้นพร้อมกับปลดกางเกงน้องลงจนถึงเข่า ก่อนจะก้มลงลิ้นชิมไปที่ร่องและรูเย็นๆ ของเก้า ทำเอาน้องตัวเกร็งดิ้นไปมาด้วยความเสียวจากปากของผม
"วันนี้ลิ้นพี่เย็นจังครับ...ซี้ดด..." น้องเริ่มครางเบาๆ
"แล้วชอบมั้ยล่ะ...อืมมม.... " ผมถามสลับดูดเลียรูหวานๆ ของเก้าจนเปียกชุ่มไปด้วยน้ำลายเย็นๆ ของผม
"ชอบมากครับ...อ่าา...อืมมม*
"เหลือแบตเยอะมั้ยเก้า...อ่าา..."
"ดูเมื่อกี้เหลือประมาณ 40 กว่าเปอร์เซ็นต์ครับ...ซี๊ดด..."
"งั้นคืนนี้เดี๋ยวพี่เติมให้เต็มร้อยไปเลยนะ..." ผมพูดพร้อมดึงกางเกงนอนลงถึงแค่ต้นขา ควักเอาควยเย็นๆ ของผมที่แข็งเต็มที่จ่อไปที่ร่องก้นของเก้าแบบพร้อมสุดๆ
"ได้ครับพี่ จัดเต็มได้เลยครับ..." น้องตอบขณะเอาก้นมาเบียดถูวนแท่งเอ็นผมไปด้วย ทำเอาผมเริ่มทนไม่ไหว จับยัดแทงเข้าไปในรูทันที ทำเอาน้องเก้าสะดุ้งเฮือกเบาๆ
"เป็นไงเก้า... เย็นมั้ย?"
"เย็นครับ...ซี๊ดดด... แต่เสียวมากครับ... อ่าาา..." น้องโก่งตูดกระดกขึ้นให้ผมแทงเข้าได้ไปลึกกว่าเดิม มือผมขยำกำเสื้อฮูดแขนยาวที่น้องชอบใส่ จับตัวน้องโยกซอยเข้าออกเบาๆ เหมือนมันลื่นและตอดรัดทำเอาควยผมเย็นวาบไปทั้งแท่งแล้ว
"อูยยย... เก้าา... ซี๊ดด... เย็นมาก... อ่าา..." ผมเริ่มครางดังขึ้นแบบไม่ต้องกลัวใครได้ยินอีกแล้ว เพราะตอนนี้กลายเป็นเหมือนร่างวิญญาณที่กำลังเอากันอยู่ทั้งคู่
ผมใช้มือโอบรัดร่างน้องไว้แน่น อีกมือจับคอน้องหันมาจนดัง กร๊อก... ทำเอาผมเผลอตกใจเบาๆ แต่ลืมไปว่าน้องไม่เจ็บอยู่แล้วเมื่ออยู่ในสภาพนี้
"เป็นของพี่นะเก้า อื้มมม... ห้ามให้ใครทำแบบนี้นะ... อ่าาา..."
"ได้ครับ... ซี้ดดด... จะยอมให้พี่มิกคนเดียวนะครับ... อ้าาา..."
ผมก้มลงไปประกบปากจูบน้องเบาๆ อีกครั้งขณะที่คอน้องหมุนมาแบบผิดรูป เป็นความรู้สึกแปลกใหม่มากๆ แต่ทำเอาผมเคลิ้มและเสียวแบบสุดๆ เร่งโยกเอวกระแทกร่างน้อยๆ อยู่บนโซฟาจนมันเริ่มโยกไปมาตามแรงของผม...
"อืมม... เก้า... พี่หวง... หวงมากนะ... อ้าา... " พอคิดถึงเรื่องที่หวงน้องวันนี้ ยิ่งทำเอาผมเงี่ยนแบบสุดๆ จนเริ่มทนไม่ไหว รัวเอวกระเด้าตูดน้องเอาเป็นเอาตายแบบไม่ยั้งมือแล้ว กดเข่าทับขาน้องไว้ไม่ให้ดิ้นไปไหนได้ จนขาน้องบิดเบี้ยวไปมา
"อ้าาา... ซี๊ดด... หวงก็ทำแรงๆ เลยครับ... ไม่ต้องกลัวผมเจ็บครับ... อื้มมม..."
"โอ๊ยยย... เก้าา... ซี๊ดดด... พี่ไม่ไหว... จะแตก... จะแตกแล้วเก้า... อื้มมม..." ผมกระหน่ำซอยน้องแบบเต็มแรงจนน้ำผมแตกในร่างวิญญาณแบบนี้เป็นครั้งแรก แต่เหมือนไม่ใช่น้ำว่าวจริงๆ เป็นเหมือนของเหลวเย็นๆ ที่พอปล่อยออกมาแล้วสลายหายไปเลย ทำเอาเย็นวาบแบบสุดขีด หนาวสะท้านจนตัวสั่นกันทั้งคู่
"งือออ... พี่หนาวจังเลยเก้า... " ผมรู้สึกหมดแรงเหมือนโดนดูดพลังไปเยอะมาก และคราวนี้มันหนาวแบบสุดๆ อย่างกับโดนราดด้วยน้ำแข็งจนสั่นไปหมดทั้งตัวแล้ว
"ไม่เป็นไรครับพี่... เดี๋ยวผมพาพี่รีบกลับไปเข้าร่างนะครับ เผื่อจะอุ่นขึ้น" น้องลุกขึ้นดึงกางเกงนอนกลับใส่ให้ผมเหมือนเดิม และพาเดินประครองผมกลับขึ้นไปบนห้องนอนแบบช้าๆ เหมือนผมแทบจะไม่มีแรงเดินเลยตอนนี้ คิดแต่ในใจว่า... ไม่น่าใช้แรงเยอะขนาดนั้นเลย เหมือนผมยังกะแรงตัวเองไม่ถูกในสภาพไม่มีร่างกายแบบนี้
...
เมื่อผมกับเก้าเปิดประตูกลับเข้ามาในห้องนอน เสียงแปลกๆ ก็ลอดออกมาจากใต้ผ้าห่ม คล้ายเสียงน้องกายกำลังครางเบาๆ ตัวสั่นเหมือนฝันร้าย
"กาย... เป็นไรป่าวกาย?" ผมเผลอเรียกออกไป แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าน้องคงไม่ได้ยินผมในสภาพนี้แน่
"กายครับ! ตื่นสิครับ เป็นอะไรเหรอครับ?" เก้าเลยช่วยเรียกเสียงดังขึ้น
น้องกายสะดุ้งโผล่หน้าออกมา แต่ภาพที่ผมเห็นกลับทำให้ผมหัวอุ่นขึ้นจนลืมหนาว... เป็นภาพน้องกายกำลังนอนกอดร่างจริงของผมอยู่ ปากทั้งคู่เพิ่งผละออกจากกัน เหมือนเพิ่งจูบกันมาสดๆ ร้อนๆ
หัวใจผมแทบหยุดเต้น งงว่านี่มันเกิดอะไรขึ้น!?
"เก้าเหรอ?... มีอะไร ทำไมเรียกเสียงดังจัง" กายพูดเสียงเบลอเหมือนยังไม่รู้สึกตัวเต็มที่
แต่ก่อนที่ผมจะตั้งสติ ร่างผมบนเตียงก็หัวเราะ แล้วพูดขึ้นเอง... "อ้าวว น้องเก้ากลับมาแล้วเหรอ พี่กำลังสนุกอยู่เลยนะ"
ผมช็อคยิ่งกว่าเดิม เหมือนร่างกายผมถูกบางอย่างสิงไปแล้ว!
"พี่เอ็มเหรอครับ?" เก้าถามเสียงแข็ง เดาจากสำเนียงและการพูดที่คุ้นเคย
"เห้ยย! มึงทำอะไรน้องกูวะ ปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!" ผมตะโกนสุดเสียง ทั้งโกรธ ทั้งสิ้นหวังสุดๆ
"หืออ... ถึงกับขึ้นมึงกูเลยเหรอพี่ชาย ก็ไม่ให้เล่นน้องเก้า ผมเลยมาขอลองเล่นกับน้องอีกคนแทนไง... ฮึๆ" เสียงหัวเราะดังลอดออกมาจากปากร่างผม ทำเอาผมแทบคลั่งจนหูอื้อไปหมดแล้ว
"พี่มิก... พี่พูดกับใครอยู่เนี่ย?" กายมองที่ร่างผมแบบไม่เข้าใจ
"นั่นไม่ใช่พี่มิกครับ!... ร่างพี่มิกโดนสิงอยู่!" เก้าช่วยตอบเหมือนให้น้องกายเข้าใจมากขึ้น
"ห้ะ!? งั้นที่กายจูบไปเมื่อกี้... คือใคร!?" กายตาเบิกกว้าง พยายามลุกหนี แต่ร่างผมที่โดนสิงกดข้อมือน้องไว้แน่น
"อ๋ออ... คนนี้ชื่อกายหรอกเหรอ น่ารักแถมจูบเก่งด้วยแหะ" เสียงเอ็มขำกวนๆ ก่อนเปลี่ยนเป็นเสียงเย็นเฉียบ "งั้น... ขอเอาไปอยู่ด้วยเลยแล้วกันนะ"
ร่างผมยกมือขึ้นบีบคอน้องกายกดลงกับที่นอน จนตัวดิ้นพร่าน เสียงสำลักแบบหายใจไม่ออก ทำผมเจ็บใจแทบขาดแต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะร่างวิญญาณผมทะลุผ่านไปหมดเลย
"เก้า! ช่วยกายที! ทำยังไงก็ได้!" ผมตะโกนสุดเสียง
เก้าไม่รอช้า กดแลกแต้มเพื่อจับสิ่งของได้ ก่อนคว้าคีย์บอร์ดคอมขึ้นมาฟาดเต็มแรงใส่หัวของร่างนั้นดัง... ปึก! ก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้น
ทุกอย่างเงียบ... ภาพตรงหน้าดับมืดสนิทในทันที...
...
ผมเห็นภาพความทรงจำของคนอื่น เป็นเด็กหนุ่มโดนคนแปลกหน้าทรมานทั้งทางร่างกายและจิตใจ และภาพนั้นก็ค่อยๆ จางหายไปอย่างช้าๆ
"พี่มิกครับ เป็นไงบ้าง?..." เสียงเหมือนน้องเก้าเรียกดังสะท้อนก้องอยู่ในหัว
"มันไปไหนแล้วเก้า?" ผมค่อยๆ ลืมตา พยายามยันตัวลุกนั่ง หัวเจ็บจี๊ดจนเบลอ แถมเหมือนรู้สึกมีเลือดไหลอาบมาถึงแก้มด้วย
"หมายถึงพี่เอ็มเหรอครับ?... เขาออกจากร่างหนีหายไปแล้วครับ" เก้าตอบเสียงสั่นแบบตกใจสุดๆ
"กายล่ะ... กายเป็นไงบ้าง?" ผมหันไปหาแทบไม่ทัน แล้วรีบคว้าน้องเข้ามากอดไว้เพื่อปลอบ
"กายไม่เป็นไร... แค่เจ็บคอนิดหน่อย..." เสียงน้องแหบเบาๆ มือยกกุมคอที่แดงช้ำ น้ำตาคลอตัวสั่นเหมือนยังไม่หายตกใจ ทำเอาผมเจ็บแทน... ไม่น่าปล่อยให้น้องต้องมาเจอเรื่องแบบนี้เลย...
ทันใดนั้นแม่ก็เปิดประตูห้องโผล่เข้ามา หน้าตาตกใจที่เห็นห้องเละกระจายเต็มไปด้วยปุ่มคีย์บอร์ด "เสียงอะไรโครมครามดึกๆ น่ะ!?"
"พอดีเล่นเกมหัวร้อน เลยฟาดคีย์บอร์ดโดนหัวตัวเองน่ะแม่" ผมเลยรีบแก้ตัวแบบเนียนๆ
แน่นอน... คืนนั้นโดนบ่นยับจนหูชา แต่สุดท้ายแม่ก็ช่วยทำแผลที่หัวให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินกลับไปนอนต่อ ปล่อยให้พวกเราสามคนมองหน้ากันเงียบๆ ด้วยความมึนงง
"มันเข้ามาในบ้านเราได้ยังไงเนี่ยเก้า?" ผมหันไปถามอย่างสงสัย
"ก็ปกติพวกวิญญาณต้องมีคนเชิญเข้ามาก่อนนี่ครับ... ไม่เข้าใจเหมือนกัน" เก้าขมวดคิ้ว
"หรือว่าจะเป็นเพราะซองยาของกาย?" กายพูดเสียงเบาแล้วหยิบซองยาออกมา ยิ่งดูใกล้ๆ ยิ่งขนลุก ตรงฉลากเหมือนมียันต์บางอย่างเขียนแฝงอยู่ด้วย
"ต้องใช่แน่ๆ!" ผมรีบสั่ง "เอาไปเผาทิ้งนอกบ้านเร็ว!"
พวกเราไม่รอช้า รีบออกไปหน้าบ้าน จุดไฟเผาซองยาทั้งหมดจนไหม้เกรียม เหลือเพียงขี้เถ้าลอยวูบหายไปกับลมในตอนกลางคืน
ผมยืนมองไฟที่ค่อยๆ มอดลง รู้สึกทั้งโกรธทั้งแค้นที่หมอกวินถึงขั้นส่งผีเอ็มมาทำร้ายน้องกายถึงที่นี่
"ผม... ขอโทษพี่มิกนะครับ ที่ไม่เชื่อเรื่องพี่เอ็มตั้งแต่แรก ผมนึกว่าเขาจะมาช่วยจริงๆ..." เก้าก้มหน้า เสียงสั่นเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
"ไม่เป็นไรเก้า อย่างน้อยตอนนี้เก้าก็รู้แล้วว่าใครไว้ใจไม่ได้ ถ้าเรื่องนี้ทำให้เก้าตาสว่างได้ พี่ก็ดีใจแล้ว"
เก้าเงยหน้าขึ้น แววตาดูแน่วแน่ "ครับ... ต่อไปผมจะระวังให้มากกว่านี้ครับ"
"แล้วทำไมไม่แตะตัวเพื่อย้อนเวลาเนี่ยเก้า ไปตีหัวพี่มิกทำไม?" น้องกายแซวเก้า ดูอารมณ์ดีเหมือนจะเริ่มหายกลัวแล้ว
"ขอโทษจริงๆ ครับ... เจ็บไหมครับพี่? ตอนนั้นมันตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเลยครับ" น้องตอบแบบรู้สึกผิด
"ไม่เป็นไรหรอกเก้า... เจ็บนิดหน่อย แต่สะใจมากกว่า"
เราเงียบไปพักใหญ่ มองเปลวไฟที่เหลือเพียงเถ้าถ่านค่อยๆ ดับไปพร้อมกัน ก่อนจะพากันกลับเข้าไปนอนในบ้านเหมือนเดิม ความคิดเดียวในใจตอนนี้คือ... จะไม่มีทางปล่อยให้คนพวกนั้นทำร้ายใครได้อีกแน่
คืนนี้เหมือนเป็นสัญญาณเตือนชัดเจน... เหมือนทุกอย่างเป็นแผนที่มันวางไว้เพื่อล่อให้ผมออกจากร่าง ผมต้องรีบหาหลักฐานมามัดตัวหมอกวิน ทั้งเรื่องเก้าและเรื่องทั้งหมดนี้... ก่อนที่พวกนั้นจะกลับมาเล่นงานพวกผมอีกครั้ง...
...
. . |