ถูกแท็กซี่ข่มขืน [copy]

Warr

ขอบคุณครับ

champsasa

ขอบคุณครับ

naytuad

ขอบคุณครับ

weib

ขอบคุณครับ

irreverse

ขอบคุณมากครับ

Nut1210

สนุกสนานมากมายครับขอบคุณครับ

tow05151

ไม่ !ไม่ !ไม่ !ไม่ !

maxzanarak

ขิอบคุนมากคับ

pop35

ขอบคุณครับ

Sylvester

ขอบคุณมากคับ

Hunter_x

ขอบคุณครับ

MOS_MOS

ขอบคุณมากนะคร๊าฟป๋ม

Prince

ขอบคุณมากครับ

Bababo

ขอบคุนมากๆคับ

timemye

ขอบคุณครับ

อาด

สุดยอดจิงๆว่าวตามเลย

samlaw

พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑
! W; }9 @  r# q, R1 ?7 W0 w/ {5 e* M' Q             พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ ได้ผ่านความเห็นชอบของวุฒิสภา และ
สภาผู้แทนราษฎรได้ประชุมเมื่อวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๔๑ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงลงพระปรมาภิไธยเมื่อ
) U) M. R( `$ C; Wวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๑ และได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว เมื่อวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๑
. t# K+ t6 A( _0 c# eทำให้พระราชบัญญัตินี้จะมีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนด 180 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
คือวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๔๑ พ.ร.บ. นี้เป็นกฎหมายคุ้มครองแรงงานใช้บังคับในภาคเอกชน

6 b: w- n0 v4 m( {
8 T: z) E2 P; \% C0 ]! Qสาระสำคัญ
" M% h7 V5 V6 w0 o             ๑. กำหนดเวลาทำงานปกติในทุกประเภทงานไม่เกิน ๘ ชั่วโมง/วัน และไม่เกิน ๔๘ ชั่วโมง/สัปดาห์ (เดิมกำหนดตามประเภทงาน) เว้นแต่งานที่อาจเป็นอันตรายไม่เกิน ๗ ชั่วโมง/วัน
และไม่เกิน ๔๒ ชั่วโมง/สัปดาห์
1 f9 m3 k4 z9 k, f" }8 h' B             ๒. ให้จัดวันหยุดประจำสัปดาห์ไม่น้อยกว่า ๑ วัน/สัปดาห์ วันหยุดตามประเพณีไม่น้อยกว่า
๑๓ วัน/ปี และวันหยุดพักผ่อนประจำปีไม่น้อยกว่า ๖ วันทำการ/ปี วันหยุดตามประเพณีให้กำหนดจากวันหยุด
ราชการประจำปี วันหยุดทางศาสนาหรือขนบธรรมเนียมประเพณีแห่งท้องถิ่น "ในกรณีลักษณะงานไม่อาจหยุด
ตามประเพณีได้ให้ตกลงกันหยุดในวันอื่นชดเชย หรือจ่ายค่าทำงานในวันหยุดแทน"
             ๓. ให้สิทธิลากิจ ลาเพื่อทำหมัน และลาเพื่อฝึกอบรมหรือพัฒนาความรู้ความสามารถ เพิ่มจาก
สิทธิลาป่วย ลาเพื่อคลอดบุตร และลาเพื่อรับราชการทหาร
             ๔. กำหนดพิกัดน้ำหนักขั้นสูงที่ให้ลูกจ้างยก แบก หาม เพื่อคุ้มครองทั้งลูกจ้างชาย หญิง
# B, O( G% r) }" Wและเด็กและเป็นการสอดคล้องกับอนุสัญญา ILO ฉบับที่ 127
             ๕. ขยายการคุ้มครองแรงงานหญิง โดยห้ามใช้ลูกจ้างหญิงมีครรภ์ทำงานที่เป็นอันตรายต่อ
สภาวะการตั้งครรภ์ ห้ามเลิกจ้างหญิงเพราะเหตุมีครรภ์
, X! k$ M7 G/ C5 ]* I             ๖. ขยายอายุขั้นต่ำของลูกจ้างเด็กจาก 13 ปี เป็น 15 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับแผนพัฒนา
ทรัพยากรมนุษย์ และอนุสัญญา ILO
             ๗. การจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี เป็นลูกจ้าง ต้องแจ้งต่อพนักงานตรวจแรงงานภายใน 15 วัน
& q; z1 H- D3 x! h: R* Z) Q" oจัดทำบันทึกสภาพการจ้างกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเก็บไว้ ณ สถานประกอบกิจการ และแจ้งการสิ้นสุด
การจ้างต่อพนักงานตรวจแรงงานภายใน 7 วัน เพื่อให้ทราบความเคลื่อนไหวของเด็ก ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อ
การคุ้มครองดูแลแรงงานเด็กผู้ด้อยโอกาส
9 @. D0 k. q. e1 |             ๘. ให้ลูกจ้างเด็กมีเวลาพักไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง/วัน หลังจากทำงานมาแล้วไม่เกิน 4 ชั่วโมง
9 x8 c2 E# g# l+ ?: J$ I! wและใน 4 ชั่วโมงนั้นให้มีเวลาพักตามที่นายจ้างกำหนดเพื่อให้เด็กได้มีโอกาสพักผ่อนเปลี่ยนอิริยาบถ ขณะที่
กำหนดเวลาพักลูกจ้างทั่วไปไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง/วัน ซึ่งจะจัดเวลาพักครั้งเดียวหลังจากทำงานมาแล้วไม่เกิน
5 ชั่วโมงก็ได้ หรือจัดเป็นช่วง ๆ ก็ได้โดยรวมเวลาพักทุกช่วงแล้วต้องไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง เพื่อให้สอดคล้อง
+ ?% {5 W8 Q, _) b0 uกับทางปฏิบัติ
             ๙. ห้ามใช้ลูกจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ทำงานในเวลาวิกาล เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากอธิบดี
! {  _) d9 Q( p. h- r: b  Z% J& Xห้ามทำงานล่วงเวลา ทำงานในวันหยุด และงานบางประเภทที่เป็นผลร้ายต่อเด็ก ขณะที่ลูกจ้างทั่วไปนายจ้างให้
% r+ e% ~$ P$ y  b( D7 Hทำงานล่วงเวลาหรือทำงานในวันหยุดได้ ถ้าลูกจ้างยินยอม โดยมีชั่วโมงทำงานไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
+ V2 u0 S6 ^  bเว้นงานบางประเภทที่นายจ้าสั่งให้ลูกจ้างทำงานทำงานได้เท่าที่จำเป็น แต่ห้ามใช้ลูกจ้างทำงานล่วงเวลา หรือ
ในวันหยุดในงานที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและความปลอดภัยของลูกจ้าง
             ๑๐. การคุ้มครองค่าตอบแทนในการทำงาน ได้กำหนดประเภทหนี้ที่นำมาหักค่าตอบแทน
: c" z, y0 y( A) J2 [0 zในการทำงานได้ และกำหนดเงื่อนไขการจ่ายเงินช่วยเหลือการดำรงชีพของลูกจ้างไม่น้อยกว่า 50% ของค่าจ้าง
0 `" [# `2 Y. H# W$ V; u9 I# i- E& h% ]8 Z( Fในกรณีนายจ้างหยุดกิจการชั่วคราว
             ๑๑. ปรับปรุงโครงสร้างคณะกรรมการค่าจ้างให้มีขอบข่ายที่กว้างขึ้นกว่าเดิม และปรับปรุง
2 d# o9 K" ^( F* ?โครงสร้างอัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ โดยมีอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ 2 ระดับ คือ
             ๑๑.๑ อัตราค่าจ้างขั้นต่ำพื้นฐานซึ่งคณะกรรมการค่าจ้างกำหนดเพื่อใช้เป็นพื้นฐานในการ
กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
             ๑๑.๒ อัตราค่าจ้างขั้นต่ำซึ่งคณะกรรมการค่าจ้างกำหนดให้ใช้เฉพาะกิจการประเภทใด
3 q: ^; I5 e4 [' E/ \ประเภทหนึ่ง หรือ ทุกประเภทหรือในท้องที่ใดท้องที่หนึ่งก็ได้ ซึ่งมีอัตราไม่ต่ำกว่าอัตราค่าจ้าง
ขั้นต่ำพื้นฐาน ถ้าไม่มีการกำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในท้องที่ใด ให้ถืออัตราค่าจ้างขั้นต่ำ
พื้นฐานเป็นอัตราค่าจ้างขั้นต่ำของท้องที่นั้น
             ๑๒. กำหนดให้มีคณะกรรมการสวัสดิการ ได้แก่ คณะกรรมการสวัสดิการแรงงานซึ่งเป็น
: @! y; R! M6 {  g0 `/ b& kองค์กรระดับชาติ เพื่อกำหนดนโยบายสวัสดิการระดับชาติ และให้มีคณะกรรมการสวัสดิการประจำสถาน
ประกอบกิจการเพื่อร่วมประชุมปรึกษาหารือกับนายจ้างเกี่ยวกับการจัดสวัสดิการในสถานประกอบกิจการ
และควบคุมดูแลการจัดสวัสดิการที่นายจ้างจัดให้แก่ลูกจ้าง
" F4 j4 h; z8 s! s- t4 F9 m             ๑๓. ให้มีคณะกรรมการความปลอดภัยระดับชาติ เพื่อกำหนดทิศทางบริหารความปลอดภัย
- \; r$ w/ \) y9 S) aอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน และให้มีองค์กรเอกชนให้บริการทางด้านวิชาการและเทคนิคแก่
* R6 W/ U" w' |- Bสถานประกอบกิจการได้ภายใต้การควบคุมดูแลของรัฐ
             ๑๔. กำหนดห้ามนายจ้างสั่งพักงานเพื่อสอบสวนความผิดของลูกจ้าง เว้นแต่มีข้อบังคับ
หรือข้อตกลงกำหนดให้มีการพักงานได้ แต่นายจ้างจะสั่งพักงานได้ไม่เกิน 7 วัน และต้องจ่ายเงินในช่วงพักงาน
# r  r4 ^1 D% |5 V% mตามอัตราที่กำหนดซึ่งไม่ต่ำกว่า 50% ของค่าจ้าง
+ Z- W3 H: R: x0 j& K             ๑๕. กำหนดอัตราค่าชดเชยกรณีเลิกจ้างเป็น 5 อัตรา คือ
+ j5 W" m4 [0 ?' K- J            ทำงานครบ 120 วัน แต่ไม่ครบ 1 ปี ได้ค่าชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างอัตราสุดท้าย 30 วัน
# |8 d5 Q* {. {, J" j6 m            ทำงานครบ 1 ปี แต่ไม่ครบ 3 ปี ได้ 90 วัน
1 Z* n: y9 x& K4 B% V# V3 z            ทำงานครบ 3 ปี แต่ไม่ครบ 6 ปี ได้ 180 วัน
            ทำงานครบ 6 ปี แต่ไม่ครบ 10 ปี ได้ 240 วัน
            ทำงานครบ 10 ปี ขึ้นไปได้ 300 วัน เว้นแต่เข้าข้อยกเว้น ให้ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามที่
5 B! [' k5 T5 i9 L6 W             กฎหมายกำหนด ทั้งนี้เพื่อให้ความคุ้มครองลูกจ้างที่ทำงานมานาน ซึ่งโอกาสที่จะหา
            งานทำใหม่เป็นไปได้ยาก
- u% k* u. i8 N0 c             ๑๖. กำหนดให้มีการจ่ายค่าชดเชยพิเศษนอกเหนือจากค่าชดเชยปกติ กรณีนายจ้างเลิก เพราะ
: u% x9 O' s/ E8 u$ o! \/ {ปรับปรุงหน่วยงานกระบวนการผลิต เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีโดยลูกจ้างต้องทำงานมาครบ 6 ปี
9 y: Z$ [; n& H# t/ Kขึ้นไปและได้ค่าชดเชยพิเศษปีละไม่น้อยกว่า 15 วัน รวมแล้วไม่เกิน 360 วัน
0 q; O1 u  Q, O2 D& u  ^             ๑๗. ให้การคุ้มครองลูกจ้างกรณีนายจ้างย้ายสถานประกอบกิจการไปตั้งท้องที่อื่นซึ่งมีผล
, F# {# k' k; r/ G5 E( \กระทบสำคัญต่อการดำรงชีพตามปกติของลูกจ้างหรือครอบครัว โดยให้นายจ้างบอกกล่าวล่วงหน้าและให้ลูกจ้าง
: ^( [' {: U. h$ |# s2 ~! x. [5 Iบอกเลิกสัญญาจ้างได้ถ้าไม่ประสงค์จะย้ายตาม โดยมีสิทธิได้รับค่าชดเชยพิเศษเป็นเงินช่วยเหลือ 50% ของ
- s3 d) r( [" M) d9 n3 p4 V' a: Xค่าชดเชยปกติ
             ๑๘. จัดตั้งกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง โดยให้นายจ้างที่ไม่ได้จัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
7 h& L; Z0 x2 j  C+ R1 Eส่งเงินสมทบกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างเท่ากับจำนวนเงินสะสมที่หักจากค่าจ้างของลูกจ้างนำส่งเข้ากองทุน
เพื่อจ่ายให้แก่ลูกจ้างเมื่อสิ้นสุดการจ้างเจตนารมณ์ในการจัดตั้งกองทุนนี้เพื่อสร้างหลักประกันในการทำงาน
ป้องกันมิให้มีการย้ายงานบ่อยครั้ง และเป็นการส่งเสริมระบบการออมทรัพย์ของลูกจ้าง
9 T7 g  @9 s* A2 p             ๑๙. ห้ามเรียกเงินประกันจากลูกจ้างเว้นแต่ลูกจ้างจะทำงาน เกี่ยวกับการเงินและทรัพย์สิน
เพื่อป้องกันมิให้นายจ้างแสวงหาประโยชน์จากลูกจ้างในทางมิชอบ
             ๒๐. กำหนดให้บรรดาเงินตาม พ.ร.บ. นี้ที่นายจ้างค้างจ่ายลูกจ้างและเงินสะสม เงินสมทบ
กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างเป็นหนี้บุริมสิทธิลำดับเดียวกับภาษีอากร เพื่อคุ้มครองสิทธิของลูกจ้างในการได้รับ
- {- w$ f0 u* K+ Yชำระหนี้มิให้ถูกเจ้าหนี้ในลำดับอื่นขอรับไปหมด
             ๒๑. การรับเหมาค่าแรง ให้เจ้าของสถานประกอบกิจการและผู้รับเหมาค่าแรงต่างมีฐานะเป็น
นายจ้างของลูกจ้างที่ผู้รับเหมาค่าแรงจัดเหมา
             ๒๒. ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงนายจ้าง ให้นายจ้างใหม่รับไปทั้งสิทธิและหน้าที่ ที่นายจ้างเดิมเคยมี
ต่อลูกจ้างทุกประการ เพื่อเป็นการรับรองสิทธิของลูกจ้างมิให้ถูกลดลงเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงตัวนายจ้าง
# s1 G2 v. p7 o) M6 B0 Y8 E! g# U             ๒๓. กำหนดให้นายจ้างปฏิบัติต่อลูกจ้างตามบทบัญญัติ ป.พ.พ. บรรพ 3 ลักษณะ 6 ว่าด้วยจ้าง
8 D( P& f! i" O8 h0 j3 jแรงงานด้วย เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถช่วยเหลือทางคดีแก่ลูกจ้างได้
" U6 t% B4 q# u/ k6 w  G. i* h- h             ๒๔. กำหนดเงื่อนไขการบอกกล่าวล่วงหน้า เพื่อเลิกสัญญาจ้างที่ไม่มีกำหนดระยะเวลา และ
ถ้านายจ้างเป็นฝ่ายบอกกล่าวล่วงหน้า จะต้องระบุเหตุผลในการบอกเลิกสัญญาจ้างด้วย ถ้าไม่ระบุไว้นายจ้าง
จะยกข้อยกเว้นขึ้นอ้างในภายหลังเพื่อไม่จ่ายค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างไม่ได้
# \, J6 J" H/ {: j             ๒๕. กำหนดให้นายจ้างปฏิบัติต่อลูกจ้างหญิงและชายโดยเท่าเทียมกันในการจ้างงาน เว้นแต่
' w" w8 R% u$ m. Dลักษณะหรือสภาพของงาน ไม่อาจปฏิบัติเช่นนั้นได้เพื่อให้สอดคล้องกับบทบัญญัติรัฐธรรมนูญที่กำหนดให้
ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน
" t# `* W- w# Y$ c9 y             ๒๖. ห้ามนายจ้าง หัวหน้างาน ผู้ควบคุมงาน หรือผู้ตรวจงานกระทำการล่วงเกินทางเพศต่อ
ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงหรือเด็ก เพื่อเป็นการป้องปรามมิให้บุคคลดังกล่าวใช้อำนาจในทางไม่ชอบโดยการกล่าว
ถ้อยคำหยาบคาย วิพากษ์วิจารณ์ทางเพศ ลวนลาม ซึ่งพฤติการณ์บางอย่างไม่รุนแรงถึงขั้นอนาจาร แต่ไม่เหมาะสม
ที่จะปฏิบัติต่อลูกจ้างหญิงและเด็ก
0 _2 z' y+ I$ k- V& V% Q             ๒๗. ปรับปรุงบทกำหนดโทษจากเดิมที่กำหนดโทษอัตราเดียวเป็นการกำหนดโทษตาม
, H/ M/ `$ }# Q8 N% D( O1 f, Gความหนักเบาของความผิดที่ได้กระทำ โดยมีอัตราโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือปรับไม่เกิน ๒๐๐,๐๐๐ บาท
! [$ U3 e! v1 d* \6 nหรือทั้งจำทั้งปรับ และโทษต่ำสุดปรับไม่เกิน ๕,๐๐๐ บาท และให้อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานและ
; X5 Z( J  I8 M) }; U* K& Cผู้ว่าราชการจังหวัด หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากบุคคลดังกล่าวมีอำนาจเปรียบเทียบปรับการกระทำความผิดตาม
+ s* G/ z, B) j- t  e( W5 rพ.ร.บ. นี้ได้ตามที่เห็นสมควร

betagenlove

ขอบคุณคับ {:4_112:}

Tommy1979

ขอบคุนครับ
9 m7 f2 Z, P3 L, Z% ]

pakka2009

ขอบคุณมากครับ