จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 525|ตอบกลับ: 7
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

[เรื่องสั้น กึ่งแปล]Double Trouble (สองแฝดน้อยเจ้าปัญหา) ตอนที่ 10 [จบ]

[คัดลอกลิงก์]

ประธานนักศึกษา

โพสต์
49
พลังน้ำใจ
9631
Zenny
7051
ออนไลน์
1241 ชั่วโมง
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย peewang เมื่อ 2022-5-3 09:14

กึ่งแปล = โยนเข้ากูเกิ้ลทรานสเลตแล้วเอามาเกลาสำนวนนิดหน่อย เนื้อหาอาจถูกบ้าง ผิดเยอะ คลาดเคลื่อนอีกนิด
TAG=

Mb=ผู้ชาย(ผู้ใหญ่)+เด็กชาย


NC=เนื้อหาไม่เหมาะสำหรับเด็ก มีการแสดงออกทางเพศของตัวละคร

ตอนที่ 1 คลิกที่นี่
ตอนที่ 2 คลิกที่นี่
ตอนที่ 3 คลิกที่นี่
ตอนที่ 4 คลิกที่นี่
ตอนที่ 5 คลิกที่นี่
ตอนที่ 6 คลิกที่นี่
ตอนที่ 7 คลิกที่นี่
ตอนที่ 8 คลิกที่นี่
ตอนที่ 9 คลิกที่นี่


Chapter 10
ผมกำลังจะไปเล่น "หลอกหรือเลี้ยง" เทศกาลฮัลโลวีนที่คุ้นเคย! ตรงนี้ ผมกำลังอยู่ในชุดสุดอลังกาล ผ้าคลุมผืนใหญ่ที่เกลื่อนกล่นไปด้วยดาวดารดาษประดับด้วยจันทร์เสี้ยวที่ไม่มีพ่อมดหมอผีสุดทะนงตนที่ไหนจะกล้าใส่ ผมกำลังจะออกไปเดินขบวนเร่หาเพื่อนบ้านไปกับแวมไพร์(คริส)และเด็กน้อยที่มีขวานอันเล็กประดิษฐานอยู่บนกระโหลก(โครี่) ผมมีกระทั่งหมวกแหลมเปี๊ยบสูงชะลูดที่งอเล็กน้อยตรงปลาย ผมขาวยาวประบ่าจากวิกช่วยเรียกความน่าเคารพให้ผมอีกติ๊ดนึง คิดว่านะ สองแสบหัวเราะเป็นวักเป็นเวรยังกะเห็นอะไรที่ตลกที่สุดที่เคยเจอมาจนผมทำงอนตุ๊บป่องร้องจะอยู่บ้านนั่นแหละพวกเขาถึงได้หยุด

"ไม่เอาสิทอม! คุณสัญญาแล้วนี่" เสียงจากเจ้าหนูผิวซีดและขอบตาคล้ำมืด ปากน้อยแดงเลือด สวมชุดทักซิโด้ตัดขาวดำ ผมจัดทรงตรงแหน็วด้วยเจลครึ่งกระปุกแถมด้วยเล็บยาวเฟื้อย ปิดท้ายด้วยผ้าคลุมที่รัดคอแน่น

"คุณดูดีสุดๆ!" เสริมด้วยเสียงจากเจ้าหนูอีกหน่อที่หัวปักด้วยขวานอันน้อย เลือดปลอมไหลเอ่อท้นออกมาจากแผลที่สมจริงและไหลเปื้อนเปรอะไปทั่วหน้ารวมถึงเสื้อผ้าของเขาด้วย คริสดูออกแนวน่ารัก(แต่พร้อมจะฝังเขี้ยวลงบนคอผมได้ทุกขณะ) แต่โครี่นี่ผมว่าออกแนวน่ากลัวจริงจังเลยแหละ ดูเหมือนว่าซูซานจะเสร็จงานของเธออย่างงดงามเลย ด้วยชุดที่พึ่งเช่ามาจากร้านแถวบ้านเมื่อไม่กี่วันก่อน ส่วนตัวเธอแต่งเป็นแคทวูเม่น

"ใช่เลย ทอม" ซูซานปล่อยเสียงออกมาหลังมือที่พยายามปิดบังความขำไว้ "คุณกลับไปตอนนี้ไม่ได้ ชั้นต้องให้คุณไปกับพวกเด็กๆเพื่อที่ชั้นจะได้กลับไปโรงบาลไง" ที่โรงพยาบาลจัดงานเลี้ยงให้กับพนักงานและคนไข้บางส่วน และผมเองก็ต้องพาเด็กๆตามไปสมทบทีหลังเหมือนกัน "ให้ชั้นไปหยิบกล้องสักเดี๋ยวนะ จะได้ถ่ายรูปพวกคุณทั้งสามคนไง" เหมือนว่าเธออยากจะแบล็คเมล์ผมสักทีในอนาคตน่ะนะ ผมรู้สึกเสียใจนิดๆ คริสทำหน้าเย้ยหยันใส่ ผมไม่สามารถคิดอะไรเงียบๆคนเดียวได้เลยจริงๆตอนที่มีเขาอยู่ใกล้ๆน่ะนะ

หลังจากที่เราถ่ายรูปทุกท่าทุกมุมเท่าที่จะนึกได้แล้ว ผมกับสองแสบก็ตั้งเป้าหมายภารกิจเป็นการกำหราบเพื่อนบ้านละแวกนี้แล้วยึดชิงขนมหวานมาให้หมด ผมวางแผนเส้นทาง จากนั้นที่จริงก็แค่แบกกระเป๋าแล้วพูด "หลอกหรือเลี้ยง" แค่นั้นเอง แต่ก็ไม่มีบ้านไหนที่ไม่เพิ่มขนมเป็นพิเศษให้กับสองหนุ่มน้อยในขบวนพ่อมดนี้หรอก

โอเค ผมยอมรับ ที่จริงผมก็รู้สึกสนุกนะ มันเป็นยามเย็นของฤดูใบไม้ร่วงที่งดงามมากเลย ท้องฟ้าโปร่งราวอัญมณี อนธกาลที่เจือสีน้ำเงินเข้าไปกับผืนฟ้ามืด และเส้นขอบฟ้าที่ดวงอาทิตย์กำลังจะลาลับ โครี่กับคริสค่อยๆไปเยือนทีละบ้าน เก็บเกี่ยวขนมหวานและบ่อยครั้งจะฉุดผมวิ่งไปด้วยกัน แถวนี้คลาคล่ำไปด้วยหมู่ปีสาจตัวน้อย ก็อบบลิ้น ผีดิบ ซูเปอร์ฮีโร่ ตัวการ์ตูนและโจรสลัด มันนับเป็นโคตรวันหยุดของเด็กๆเขาล่ะนะ ชุดครอสตูมก็เป็นการผสานกันของปาร์ตี้คริสมาสและงานเลี้ยงวันเกิดยังไงอย่างนั้น

หลังจากที่เราเดินทางผ่าน... กี่บล็อคแล้วผมเองก็จำไม่ได้เหมือนกัน กระทั่งว่าคริสกับโครี่อุ้มขุมสมบัติของพวกเขาไม่ไหวแล้ว ดวงอาทิตย์เองก็ลาลับฟ้าไปแล้วเมื่อชั่วโมงที่ผ่านมา และก็เป็นเวลาที่จะต้องไปจอยปาร์ตี้กับซูซานที่โรงบาลแล้ว แต่ก็แน่ล่ะ ที่นี่ไม่ได้มีเด็กๆเยอะนักทำให้สองแสบหมดสนุกและเริ่มเบื่ออย่างรวดเร็ว พวกเขางอแงอย่างที่เด็กน้อยมักจะเป็น ซูซานต้องอยู่กะดึกต่อและพวกเราก็วางแผนให้สองแสบต้องค้างบ้านผมอยู่แล้ว ผมเลยเสนอให้เราลองไปเล่นบ้านผีสิงดู ซูซานอนุมัติแต่ยืนยันว่ายังไงก็ไม่ให้เรานอนเลยเส้นเวลาเพราะพรุ่งนี้เด็กๆต้องไปเรียน เรารับปากแต่ก็คิดว่าเธอเสียเวลากำชับซะเปล่า

ผมเช็คหลังสือพิมพ์และเห็นว่ามีบ้านผีสิงที่ค่อนข้างใหญ่ในรัศมีการขับรถชั่วโมงนึง แล้วเราก็เลยตกลงกันว่าเอาที่นี่แหละ เราต้องเข้าแถวเกือบสองชั่วโมงกว่าจะได้เข้าไป แต่ในที่สุด หลังจากจ่ายตังค์เราก็เข้ามาแล้ว ผมพยายามเล่นสงครามจิตวิทยากับสองแสบ ปูพื้นด้วยเรื่องน่ากลัวพวกวิญญาณร่อนเร่ ดรูอิดกระหายเลือด รวมถึงพิธีกรรมพื้นเพที่มักจะถูกขุดมาเล่ากันในเทศกาลฮัลโลวีนทั้งหลาย และตอนนี้ แวมไพร์น้อยขี้อายก็เกาะหนึบติดผมเป็นตังเมเลย
"ที่นี่ไม่มีอะไรน่ากลัวสักหน่อย" โครี่บอกกับน้องชายด้วยความกล้าหาญที่สุดเท่าที่เด็กสิบขวบจะมีได้ "ไม่มีอะไรที่เป็นของจริงสักหน่อย" ผมไม่ได้ถามเขาหรอกนะว่าทำไมมืออีกข้างของผมถึงถูกเขายืดไว้ซะแน่นเลย ที่จริงผมก็ไม่ได้บอกเขาหรอกว่าข้างในมีแต่นักแสดงทั้งนั้นที่ดักรออยู่
มันมืดสนิทเลยข้างในนี้ ขณะที่เราเดินตามทางแคบๆอย่างคนที่ตาบอด ทางเดินที่คดเคี้ยว เสียงดนตรีหลอนๆ และเสียงนกฮูกที่ดังแว่วมาเป็นครั้งคราวหรือเสียงหวีดหวิวที่แทรกเข้ามากับบรรยากาศที่พอเหมาะ เรารู้สึกได้ถึงอะไรที่น่าจะเป็นหางของหนูหรืองูเลื้อยผ่านสัมผัสกับเท้าเราเป็นช่วง และสัมผัสที่คล้ายใยแมงมุมที่ห้อยลงมาจากหลังคาโดนหน้าเรา ไม่มีอะไรที่จะสมบูรณ์ไปกว่าความขาดหายไปของแสงสว่างอย่างสิ้นเชิง มันส่งความเย็นเยียบเข้าไปถึงวิญญาณ โดยเฉพาะวิญญาณของเด็กน้อยอายุแค่สิบขวบ ผมเผลอปล่อยเสียงคิกคักออกมาจนได้

"เงียบน่า ทอม" ผมได้ยินเสียงสั่นๆด้วยความประหม่าของคริสดังมาจากที่นึงแถวๆข้างเอว ที่ๆต้องมีผู้ชายสักคนนึงอยากจะได้คนที่เล็กกว่าเขา อาจจะเป็นแฟนสาวหรือภรรยา หรือเด็กตัวน้อยมาอยู่ข้างๆอย่างนี้ เพราะผมเผลอปล่อยเสียงอีกหน หนึ่งในสองแสบถองสอกเข้าสีข้างผมอย่างจัง ผมถึงเลิกเป็นตัวขัดบรรยากาศซะที

เรามากระทั่งถึงห้องแล็บที่มีแสงอึมครึม เป็นฉากที่เต็มไปด้วยเครื่องมือทางการแพทย์ที่น่าสยดสยอง และมีซากหมอหนุ่มคนนึงโผล่มา ผู้ที่ดูเหมือนอยากจะจับใครสักคนโยนขึ้นเตียงแล้วผ่าตัดหัวใจซะตรงนั้น เขาสังเกตเห็นโครี่ที่มีเลือดท่วมตัว "ดูเหมือนจะมีเด็กน้อยที่อยากจะเข้าร่วมการทดลองของเราสิน๊าาา" เสียงดูสุภาพแต่สั่นเสียดหูดังมาจากซากหมอตนนั้น เขาคว้าเอามือข้างที่วางของโครี่แล้วดึงไปที่เตียงผ่าตัดที่ตั้งโดดเดี่ยวอยู่กลางห้อง โครี่กรีดร้องแล้วยึดแขนผมไว้สุดชีวิต จนกระทั่งเขาถูกปล่อยตัว มากไปสินะสำหรับผู้กล้าตัวน้อย พอมาครั้งที่สอง ผมเกือบจะปล่อยเขาไป แค่เกือบเท่านั้นแหละ ก็แค่เห็นแววตาเหมือนคนถูกทรยศของเขาแล้วผมก็แพ้ทันที ผมไม่ได้ใจร้ายพอที่จะทำอย่างนั้น

เรามุ่งไปสู่ทางเดินมืดมิดถัดไป และตอนนี้สองแสบผลักผมไปเป็นด่านหน้า ผมเดาว่าพวกเขาคงเต็มใจที่จะสังเวยผมแหละ ไอเดียของพวกเดาดูเหมือนจะไม่สำเร็จผล เพราะพอเราเข้ามาในฉากที่อบอวลไปด้วยกลิ่นเลือด สัตว์ประหลาดที่เหมือนกับแฟรงเก้นสไตน์ก็คว้าพวกเขาทั้งคู่จากด้านหลัง เด็กสิบขวบทั้งสองหน่อรีบผลักเอาผมเข้ามาเป็นกำแพงกั้นระหว่างพวกเขากับสัตว์ประหลาด พวกเขากรีดร้องทำตาโตที่แทบจะข้ามเส้นแบ่งระหว่างความตกใจและตื่นเต้นในคราวเดียวกัน เด็กๆเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและร่าเริงตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะพวกเขารู้ว่ายังไงก็ไม่มีทางถูกทำร้ายจริงๆ และผมเองก็ไม่ใส่ใจที่พวกเขาเกาะจนแทบจะหลอมรวมเข้ากับตัวผมเองด้วยความมั่นใจว่าผมจะปกป้องพวกเขาเสมอ ถ้าคุณไม่เคยพาเด็กๆเข้าบ้านผีสิงล่ะก็ ผมแนะนำสุดๆเลยล่ะ
เราเดินทางมากระทั่งถึงทางออกโดยไม่มีอุบัติเหตุอะไร แน่นอนว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ดีมากๆ มากกระทั่งโครี่อยากจะเข้าไปซ้ำอีกรอบเลย แต่มันดึกแล้ว มันเป็นช่วงเย็นที่เต็มไปด้วยความสนุกอย่างสุดๆสำหรับเหล่าผีน้อยของผม (โทษที เผลอไป)และทั้งคู่ต่างผล็อยหลับตลอดทางกลับบ้าน

ผมค่อยๆพาพวกเขาเข้าบ้าน กระทั่งผมนั่งบนโซฟา และเริ่มเปลื้องผ้าคริส ถอดเอาผ้าคลุมและเสื้อ โครี่ถอดเอาขวานออกจากกระโหลกก่อนหน้านี้แล้ว เพราะงั้นที่เหลือก็มีแค่เลือด มันรู้สึกดีจริงๆที่ผมหลุดพ้นออกจากชุดนี้ ผมหมดแรง แต่เด็กน้อยทั้งสองหน่อเหมือนจะมีพลังงานสำรองเมื่อนึกถึงขนมที่ได้เก็บเกี่ยวมา ผมปล่อยให้พวกเขาได้ขเมือบไปบางส่วน(และผมเองก็ด้วย ยอมรับครับบ)  จากนั้นพวกเขาก็มองกันและกันเงียบๆ ขัดเจนว่าพวกเขากำลังคุยกัน ผมล่ะเกลียดจริงๆเมื่อพวกเขาทำอย่างนั้น พวกเขามักจะซุ่มวางแผนเล่นซนกันสม่ำเสมอ และมันมักจะลากผมเข้าไปเกี่ยวด้วย คริสพยักหน้าให้กับอีกหน่อแล้วบอกผมว่าจะไปหยิบของจากบ้าน ผมมองเขาเหมือนจับผิดแต่ก็ปล่อยเขาไป พอเขาออกไปโครี่ก็ถามผมว่ามีเทียนไหม อะไรกันวะเนี่ย..?

โครี่ตั้งเทียนบนแท่นที่โต๊ะกาแฟของผมเมื่อคริสกลับมา จากนั้นก็นั่งลงบนเสื่อ โครี่ค่อยๆจุดเทียน คริสค่อยๆเดินปิดไฟทุกดวงในบ้าน กระทั่งแสงที่เหลือมีแค่แสงแวมวับจากเทียนเล่มน้อย ทุกอย่างเงียบงัน เด็กน้อยทั้งสองนั่งบนขา ด้านหนึ่งของโต๊ะเตี้ย และกวักมือเรียกผมให้นั่งฝั่งตรงข้าม จากนั้นก็ถอดเสื้อ มองจ้องมาที่ผมกระทั่งผมทำตาม พวกเขาจะทำอะไรผมก็ได้แต่สงสัย คริสควักเอาเชือกสั้นๆสามเส้นออกมาจากกระเป๋า และวางมันลงบนโต๊ะเคียงข้างกัน ผมเห็นได้ว่ามันเป็นด้ายผูกสัมพันธ์ แบบที่เด็กๆมักเอาไว้แลกเปลี่ยนกันกับเพื่อน ทุกเส้นสั้นๆมันถูกถักขึ้นอย่างแน่นหนาด้วยด้ายสามสี สองเฉดของสีน้ำเงิน(เข้มและสว่าง)และอีกสีเป็นแดงสด ผมถึงบางอ้อ

"เฮ้ นายทำมันตั้งแต่..." โครี่กับครอสปรามผมด้วยสายตาเข้มงวด ยังกับว่าผมส่งเสียงแทรกกลางโบสถ์ที่กำลังทำพิธีอันศักดิ์สิทธิ์ สำหรับพิธีที่พวกเขากำลังจะดำเนิน พิธีกรรมอันไร้เดียงสาเปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณอันอ่อนเยาว์ ยิ่งเสริมให้มันดูศักดิ์สิทธิ์ขึ้นเมื่อกาละก้าวล่วงสู่ชั่วยามแห่งเวทมนต์ กลางค่ำคืนฮัลโลววีน
ดั่งต้องมนต์ ผมมองโครี่คว้าปลายด้ายทั้งสามขึ้นเหนือเปลวเทียน จากนั้นเขาร่ายมนต์ด้วยเสียงนุ่มหู

“ข้าเอ่ยต่อเปลวอัคคีอันโชติช่วง     จิตสามดวงน้อมโซ่ถักผสาน
ทั้งสามรวมเป็นหนึ่งไปเนิ่นนาน     ถักผสานหลอมรวมด้วยดวงไฟ”


โครี่นำด้ายผ่านเปลวไฟสามหน เร็วพอที่มันจะไม่หดตัวจากความร้อน จากนั้นเขาหยิบออกมาเส้นหนึ่ง มัดหลวมๆด้วยเงื่อนสองขดบนข้อมือซ้ายของคริส และมอบที่เหลือให้เขาเงียบๆ ตามแบบที่พี่ชายเขานำ คริสนำด้ายสามสีผ่านเปลวไฟสามหนแล้วเอื้อนวาจา


“จากดวงไฟในเปลวเทียนต่อหน้าข้า      ถ้อยคาถานี้ตัวข้าขอขับขาน
สองเป็นสามน้องพี่ผูกสัมพันธ์      จะรักมั่นนิรันดร์กาลไม่เสื่อมคลาย”


ดั่งต้องมนต์ ผมมองอย่างหลงไหลไปยัลคริสที่นำด้ายผ่านเปลวเทียนสองหน และผูกเส้นหนึ่งที่ข้อมือผม เด็กๆทั้งคู่ดูจริงจังและเคร่งขรึมมาก แถมกับตอนนี้ที่เครื่องสำอางค์ยังไม่ถูกล้างออกทำให้พวกเขาดูค่อนข้างน่ากลัวท่ามกลางแสงแวมวับของเปลวเทียน ดั่งว่าพวกเขามาจากอีกโลก เหมือนหมอผีตัวน้อยที่กำลังฝึกทำพิธีแบบเปลือยอก ดั่งพ่อมดชั้นสูงในคืนฮัลโลวีน และผมเองก็เป็นลูกศิษย์ที่ตกอยู่ในห้วงมนตรา คล้ายกับลัทธิคนรักเด็กได้ครอบงำผมอีกหน แล้วผมก็ได้รู้ตัวว่าคริสยื่นเชือกเส้นที่เหลือให้กับผม คาดว่าผมก็ต้องร่วมพิธีแต่โดยดี
คริสกับโครี่มองผมอย่างจริงจังขณะที่ผมรับเอาเชือกเส้นเล็กมาแล้ววาดเหนือเทียนอย่างที่พวกเขาทำ แล้วค่อยรวบรวมความคิด เราต่างฝึกซ้อมการร่ายมนต์กันเยอะมาก ที่จริงแล้ว เด็กๆค่อนข้างเชี่ยวชาญเกี่ยวกับบทร่ายในหนังสือเลย ทั้งหนังสือ หนังและละครหลายๆเรื่องต่างช่วยให้เราคุ้นเคยกับการสร้างบทร่าย


“ข้าขอเอ่ยถ้อยวจีผ่านดวงไฟ     ให้กำไลเหล่านี้เป็นหลักฐาน
ผูกเราไว้เชื่อมพี่น้องเชื่อมต่อกัน     ไม่มีวันให้สิ่งใดมาทำลาย”


คริสถึงยอมให้รอยยิ้มจางเติมเต็มบนใบหน้าของเขาขณะที่ผมนำด้ายผ่านไฟอีกครั้งแล้วผูกบนข้อมือของพี่ชาย จากนั้นเพื่อนสุดพิเศษตัวน้อยของผมก็เกี่ยวก้อยสัญญาเข้าด้วยกันพลางมองมาทางผม กระทั่งผมยื่นนิ้วก้อยออกไปเกี่ยวเข้ากันกับพวกเขา ผมอินไปกับของขวัญจากเพื่อนตัวน้อยสุดๆ รู้สึกได้เลยว่าจู่ๆความเย็นเยือกวูบผ่านทำเอาขนลุกขึ้นมา เกือบจะพร้อมกับพวกเขา ดั่งเวทมนต์มีจริงในอากาศ เด็กๆเองต่างก็รู้สึก ผมเห็นได้เลยว่าหัวนมน้อยๆที่อ่อนโยนของพวกเขาดูเล็กลงยิ่งกว่าเดิมเมื่อถูกล้อมรอบไปด้วยรอยขนลุก

พิธีกรรมถึงคราวสิ้นสุด โครี่และคริสส่งยิ้มอย่างมีความสุขให้ผม ท่านผู้อ่านคงจะคิดว่ามันต้องตามมาด้วยการร่วมรักอย่างสุดเหวี่ยงยันเช้า แต่ว่านี่มันคืนก่อนวันจันทร์ ผมนำนักเวทน้อยที่สลึมสลือทั้งสองไปที่ห้องน้ำแล้วล้างเครื่องสำอางค์ออกเท่าที่จะทำได้ แล้วจัดการกับเสื้อผ้ากับพวกเขาด้วยความรักจนเหลือแค่ตัวเปล่าเปลือย เราทั้งสามต่างนอนหลับอย่างอิ่มเอม ห่มคลุมด้วยอ้อมกอดแห่งความรัก

ผมปิดเล่มในอีกไม่กี่อาทิตย์ถัดมา แค่ก่อนหน้าที่จะส่งไป ให้กับตัวแทนของผม ผมเพิ่มเนื้อหาที่สำคัญเข้าไปอีกหน่อยก่อนที่จะส่งแล้วบังคับตัวเองให้ลืมมันไป หลังเขาอ่านแล้วบอกผมว่ามันเป็นหนังสือที่ดีที่สุดของผมเลย และเขาก็แนะนำให้ต่อรองกับสำนักพิมพ์ให้รื้อสัญญากันใหม่ ที่จริงเขาคิดว่าเล่มนี้น่าจะข้ามประเภทไปผสมกับแนวไซไฟ-แฟนตาซีได้เลย สำหรับผมผมก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรถ้าท้ายที่สุดแล้วมันยังถูกกำกับได้ว่าเป็นหนังสือเด็ก ความภักดีต่อประเภทของผมยังไม่เสื่อมคลายง่ายๆหรอกนะ จากนั้น เมื่อทางสำนักพิมพ์อ่านต้นฉบับ และหลังจากไม่กี่อาทิตย์ที่เราต่อรองกัน ผมก็ได้เซ็นต์สัญญาด้วยค่าต้นฉบับเป็นจำนวนที่จุใจเลยทีเดียว พร้อมกับสัญญาว่าจะเขียนซีรี่ส์ของแฝดพลังจิตนี่อีกอย่างน้อยสองเรื่อง ผมไม่คิดว่ามันจะเป็นปัญหาอะไรหรอก เมื่อยังไงซะมันก็เป็นอะไรที่ผมชอบอยู่แล้ว ผมรู้สึกว่าผมต้องแชร์ความมั่งคั่งให้กับเจ้าแฝดด้วย เพราะงั้นสำหรับของขวัญคริสมาสต์ (หนึ่งในอะไรที่ไม่จำเป็นจะต้องเอ่ยถึง) ผมให้ตัวแทนเขียนสัญญาที่แบ่งค่าลิขสิทธิ์ออกเป็นสามส่วน ส่วนที่แบ่งออกมาจะมีผลให้เมื่อโครี่และคริสมีอายุครบสิบแปด พวกเขาจะมีเงินมากเกินพอที่จะจ่ายค่าเทอมจนจบมหาลัยหรือจ่ายให้กับอะไรๆที่พวกเขาอยากใช้ ซูซานแทบร้องให้เมื่อรู้ว่าผมทำอะไรลงไป เธอดีใจมาก เจ้าสองแฝด แหงล่ะ พวกเขาอยากได้เงินเดี๋ยวนี้เลย ผมกอดพวกเขาเต็มรักเมื่อฟังแผนการว่าใครจะซื้อเครื่องบินหรือรถแข่ง หรือโรงงานทำขนมกับของเล่น

หนังสือวางแผงในเดือนกุมภา และเมื่อฉบับพิเศษของผมส่งมาถึง เด็กๆยังคงอยู่ที่โรงเรียนเราเริ่มเขียนเรื่องต่อไปในซีรี่ส์เดียวกันแล้ว แต่เราก็ยังคงรอเล่มนี้จริงๆอยู่ เมื่อคริสติดต่อผมมา เขาก็ถามถึงมันเลย

("คุณได้รับหนังสือแล้วเหรอ?") ผมได้ยินเสียงความคิดของเขาที่ดูตื่นเต้น เขาทำผมลดความระวัง และผมเองก็กลัวว่าเขาจะรู้มากกว่าที่ผมอยากให้รู้ ผมเริ่มร้องเพลงของเดอะบีทเบิ้ล หวังจะกันเขาออกไป ("เฮ้! คุณกำลังซ่อนอะไรอยู่") เขาเห็นพิรุธของผม ความอยากรู้อยากเห็นมันเร่งเร้า ผมรู้ว่าเขาไม่หยุดง่ายๆแน่ ก็เลยร้องเพลงดังมากขึ้น ("ทอม!! หยุดนะ!")
"คริส ขอเถอะนะ อย่าทำอย่างนั้น" ผมขอ "มันมีความหมายสำหรับชั้นมาก และชั้นไม่อยากให้นายทำมันพัง เดี๋ยวกลับมานายก็รู้เองล่ะน่า" ผมเริ่มร้องเพลงอีกครั้ง แต่ผมก็รู้ว่าถ้าเขาจะทำจริงๆผมคงห้ามไม่อยู่
        
("งั้นก็ได้") ผมได้ยินเขาบ่นปอดแปด ("ไว้เจอกัน มั้ง..") ผมไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเขาออกจากหัวผมไปหรือยัง ผมพยายามคิดอะไรไปเรื่อยเพื่อไม่ให้เขารู้ในกรณีที่เขาแอบจู่โจมเข้ามาฟังความคิดของผมอีกหน ผมนึกไปถึงเรื่องที่กองบก.ให้ผมออกทัวร์โปรโมทหนังสือ ถ้าเป็นช่วงหยุดฤดูใบไม้ผลิซูซานก็น่าจะให้เด็กๆไปกับผมได้นะ

การจู่โจมครั้งถัดมาเกิดขึ้นหลังเลิกเรียนที่โครี่กับคริสเกือบจะพังประตูผมเข้ามา คริสบอกพี่ชายและทั้งสองก็แทบจะทนไม่ไหวโยนเสื้อคลุมสะเปะสะปะแล้วพุ่งเข้ามาเร่งเร้าผม "ขอดูมั่ง"โครี่ร้องเสียงดัง "ใช่ๆ อยู่ไหนอ้ะ" คริสมองกึ่งบังคับพลางสงสัยว่าผมซ่อนอะไรไว้

ผมนั่งบนโซฟาแล้วดึงกล่องของขวัญออกมา แน่นอนแหละว่ามันคือหนังสือ ผมไม่ได้จะแกล้งอะไรพวกเขาอีก แค่คิดว่าถ้าห่อแบบนี้น่าจะดูดีกว่า เด็กๆนั่งลงข้างผมแล้วรับมันไปอย่างไม่รอช้า โครี่ฉีกกระดาษห่อแล้วมองที่หน้าปก

"Double trouble"(สองแฝดน้อยเจ้าปัญหา)เขาพูดพลางยิ้ม อ่านชื่อเรื่องออกมาเสียงดัง รูปวาดด้านหน้าคือเราทั้งสามคน แต่งชุดเข้ากับธีมเรื่อง อะไรก็ไม่รู้ดลใจให้ผมใช้รูปที่ซูซานถ่ายให้เป็นต้นแบบ
"เฮ้!นั่นเรานี่" คริสส่งเสียง"เจ๋ง!"

"มันคือเล่มสำเนาของนักเขียน" ผมบอกเด็กๆ "เป็นเล่มแรกที่ถูกพิมพ์ออกมาจากแท่น ชั้นอยากให้พวกนายได้สิทธิ์ในการการเก็บรักษามันไว้"

โครี่และคริสมองมาที่ผมด้วยอย่างอิ่มใจ แต่ทั้งคู่รู้สึกว่ามีอะไรมากกว่านั้น สุดท้ายแล้วคริสก็จับทางความคิดผมได้ เขาสูดหายใจแรงด้วยความแปลกใจและรีบบอกให้แฝดพี่เปิดหนังสือดูอย่างรวดเร็ว มองผ่านข้อมูลประกาศลิขสิทธิ์ แทนที่จะเป็นหน้าว่าง ผมเห็นดวงตากลมโตของพวกเขาเบิกกว้างเมื่อมองไปที่ย่อหน้าสั้นๆเพียงหกบรรทัด ขากรรไกรพวกเขาตก อ้าปากค้างพร้อมเพรียงกันด้วยท่าทางอึ้งไม่อยากจะเชื่อขณะอ่านมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดโครี่ก็หาเสียงตัวเองพบ แต่มันดูสั่นเครือ "มัน-มันมีแบบนี้ทุกเล่มเลยเหรอ"เขาถามขณะยังตะลึงอยู่

ผมทำได้เพียงแค่พยักหน้ารับ นี่แหละปฏิกิริยาที่ผมหวังไว้ ผมแทบจะถูกแผดเผาด้วยความรักที่ท่วมท้นจากสองหนุ่มน้อยที่น่ารัก สุดวิเศษ ที่เติมเต็มจิตวิญญาณพร้อมกับรู้ว่าพวกเขาเองก็รู้สึกเหมือนกัน ดวงตาของเราเริ่มร้อนผ่าว ทันใดทั้งสองก็อ้าแขนเข้าโอบผม กอดผมแน่นหนักพอกันกับที่ผมกอดตอบ ไม่มีอะไรที่เราต้องเอ่ย ความรักของเราพูดแทนได้หนักแน่นพอ เป็นภาษาที่สื่อความหมายได้ดีที่สุด

"สำหรับโครี่และคริส
ลำแสงที่ถักทอเคียงคู่
ความสุขที่เปล่งประกาย
สว่างเติมเต็มดวงใจของฉัน
ฉันรักพวกนายทั้งคู่
ตลอดไป”


เจ้าพ่อมหาลัย

โพสต์
41987
พลังน้ำใจ
213271
Zenny
84075
ออนไลน์
15281 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1835
พลังน้ำใจ
10968
Zenny
2324
ออนไลน์
352 ชั่วโมง
ขอบคุณค่ะ

เจ้าพ่อมหาลัย

โพสต์
27835
พลังน้ำใจ
153463
Zenny
157184
ออนไลน์
26487 ชั่วโมง
ขอบคุณขอรับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
356
พลังน้ำใจ
23297
Zenny
3336
ออนไลน์
22496 ชั่วโมง
รอมานานได้อ่านสมใจ.ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
49
พลังน้ำใจ
9631
Zenny
7051
ออนไลน์
1241 ชั่วโมง
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2022-5-3 09:15:57 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
Fammy ตอบกลับเมื่อ 2022-5-2 18:19
รอมานานได้อ่านสมใจ.ขอบคุณครับ

ติดขี้เกียจนานไปหน่อยฮะ แฮร่!!

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2624
พลังน้ำใจ
19917
Zenny
9382
ออนไลน์
1470 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
356
พลังน้ำใจ
23297
Zenny
3336
ออนไลน์
22496 ชั่วโมง
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-4-28 11:33 , Processed in 0.092860 second(s), 24 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้