แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย virgogun เมื่อ 2018-7-29 13:46
ก็เด็กมันหิว 05 การจากไปอย่างกระทันหันของพ่อใหญ่ทองทำให้ทิดต้อมสะเทือนใจมากพอสมควร แม้ว่าความผูกพันระหว่างคนทั้งคู่ เมื่อมองเผินๆแล้วจะเห็นแค่เรื่องกามโลกีย์ และผลประโยชน์ตอบแทนเป็นแกนหลักก็จริง แต่ช่วงเวลาที่ผ่านมา ห้า – หกเดือนนั้น เฒ่าทองเป็นคนที่ชายหนุ่มสามารถเปิดใจและไว้ใจได้มากที่สุดเพียงคนเดียว จากพระหนุ่มผู้ที่ไม่เคยผ่านเรื่องทางโลก อยู่ดีๆต้องสึกออกมาเป็นผู้นำครอบครัวแทนพ่อ เป็นคนที่ทุกคนชื่นชมมาโดยตลอดว่าเป็นคนดีเหลือเกินมาตั้งแต่ครองผ้าเหลือง และเมื่อออกมาเป็นฆราวาส ทุกคนก็ยังคาดหวังว่าต้องเป็นคนดีที่พึ่งพาได้เช่นเดิม แม้จะไม่ถูกยกยอตรงๆ แต่ทิดต้อมก็รู้สึกตลอดเวลา ว่าครอบครัวและเครือญาติยกให้เค้าพิเศษกว่าใครเสมอ เช่นการจัดข้าวสำรับพิเศษต่างหาก น้องชายจะเรียนต่อควรไปสายสามัญหรืออาชีพ แม่ใหญ่เจ็บป่วยจะหาหมอกลางบ้านหรือแผนปัจจุบัน ทุกๆเรื่องดูเหมือนทุกคนจะพร้อมใจให้ทิดต้อมเป็นคนตัดสินใจ เนื่องจากเพราะเคยเป็น“พระ” มาก่อน เลยถูกติดป้ายคนดีบริสุทธิ์ผุดผ่อง และมีปัญญามากกว่าคนอื่น ในสายตาพวกเขาชายหนุ่มคงถูกมองแบบนั้นไปตลอดชีวิต ถ้าไม่ทำเรื่องร้ายแรงจริงๆอย่างเช่นฆ่าคนตาย ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์ระหว่างทิดต้อมกับ พ่อใหญ่ทอง ไอ่ทิดก็พยายามยามประคองตัวเองให้เป็นคนดี มีความเป็นผู้นำตามหัวโขนที่ครอบครัวสวมให้ตลอดเวลา แต่ภายใต้ความคาดหวังของทุกคนนั้น ชายหนุ่มรู้สึกกดดันเป็นอย่างสูง เมื่อตอนเป็นพระ คิดการอะไรไม่ออกก็ยังพอจะวิ่งหาท่านพระครูได้ แต่เมื่อสึกออกมาอยู่บ้าน ภาระการตัดสินใจทั้งหมดกลับมาตกอยู่ที่เขา ทั้งๆที่เรื่องทางโลกเค้ารู้น้อยมากกว่าทุกคนในบ้านด้วยซ้ำ
“เฒ่าทอง” จึงเสมือนเป็นผู้เติมสีให้ชิวิตของทิดต้อม แม้ว่าจะเป็นสีเทาๆ แต่มันก็ทำให้เขารู้สึกมีตัวตน มากกว่าตอนที่คนรอบข้างรุมสาดสีขาวจัดใส่ตัวเขา การที่ทิดต้อมเอาความใคร่มาลงที่เฒ่าทอง ก็เปรียบได้กับการระบายความลับคับข้องใจให้ใครสักคนที่ตนเองไว้ใจได้ฟังนั่นแหละ ชายหนุ่มรู้ว่าใครที่ควรไว้ใจได้มากที่สุดก็ในเวลานั้น เพราะเฒ่าทองรักษาคำพูดของตนเองเสมอมา ไม่เคยแพร่งพรายเรื่องคาวๆลับๆระหว่างทั้งคู่ให้ใครฟัง แถมระมัดระวังระดับความสัมพันธ์ในที่สาธารณะมากกว่าทิดต้อมเสียอีก เมื่อไว้ใจให้เฒ่าทองจัดการกับความเร่าร้อนตามแรงราคะแล้ว เรื่องจิปาถะอื่นๆทิดต้อมเลยไว้ใจนำมาปรึกษาเฒ่าทองเสมอ เพราะเชื่อในความเป็นผู้เฒ่าที่มีวุฒิภาวะ และมีทักษะการใช้ชีวิตฆราวาสมากกว่าตน
การที่คนสองคนมีสัมพันธ์สวาทกันลับๆ จึงไม่ได้เป็นแค่การปลดเปลื้องความใคร่เท่านั้น แต่มิตรภาพ ความไว้ใจ และความนับถือ ได้ก่อตัวขึ้นเงียบๆด้วย สำหรับทิดต้อมแล้ว ที่ผ่านมาเฒ่าทองจึงเป็นเพื่อนในทางโลกคนแรก และเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่เขามีตลอดมา
ย่างเข้าฤดูหนาว แปลงข้าวจ้าว- ข้าวเบา ค่อยๆถูกทยอยเก็บเกี่ยวตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายนแล้ว ก่อนหน้านี้ ทิดต้อมต้องไปช่วยชาวบ้าน นาอื่นๆลงแขกเกี่ยวข้าว เวียนกันไปทีละบ้าน แล้วก็เวียนมาถึงนาของครอบครัวตนเอง นอกจากจะตระเวนไปเกี่ยวข้าวตามนาคนอื่นๆในหมู่บ้านแล้ว ชายหนุ่มยังต้องรับหน้าที่นอนเฝ้านาของครอบครัวด้วย เพราะช่วงเวลาข้าวสุกนี่แหละ เป็นเวลาของการขโมยผลผลิตของมิจฉาชีพ เลยต้องมีคนมาคอยเฝ้าระวังอย่างน้อยก็นาละคน ปกติก็เป็นหน้าที่ของพ่อผู้ล่วงลับไป แต่ก็ด้วยความคิดไปเองของคนในครอบครัวทิดต้อมนั่นแหละ ที่ยัดเยียดให้เขา ว่าเขาเคยเป็นพระ เขาต้องไม่กลัวผี ไอ่ทิดเลยต้องระเห็จมานอนเฝ้านา แรกๆทิดต้อมก็โหวงๆหวิวๆที่ต้องมานอนเถียงนาคนเดียว แต่เมื่อมองไปตามที่นาเพื่อนบ้านที่อยู่รายล้อมกัน ทุกบ้านก็ล้วนมีคนทำหน้าที่นี้ทั้งสิ้น เมื่อมองเห็นดวงไฟจอมแวมๆหลายดวงจากตะเกียง ห่างกันเป็นระยะพอตะโกนดังๆเยี่ยมกันได้ ชายหนุ่มเลยไม่รู้สึกโหวงเหวงเท่าไหร่ อีกทั้งช่วงเวลานั้น ตาเฒ่าทองยังไม่ตาย ตกดึกตาเฒ่าจะแอบย่องมาขอกินนมสดของไอ่ทิดหนุ่มเสมอๆ คนแก่มักต้องการโปรตีนเสริม แต่จะให้ไปเคี้ยวเนื้อเคี้ยวหมู ฟันฟางก็ไม่มี ดูดเอายอดโปรตีนที่ไอ่ทิดกลั่นให้นี่แหละ ข้นขลั่กแถมย่อยง่าย ชายหนุ่มเลยกลายเป็นแหล่งโปรตีนของเฒ่าทองไป กิจวัฒน์ของตาเฒ่าเวลานั้นคือ ออกแรงดูดนมข้นน้ำแรกก่อน น้ำแรกต้องดูดแรง และมีลูกล่อลูกชนมากหน่อย หัวกระทิข้นขลั่กมันถึงจะออกให้ได้กิน พอได้กินหัวกระทิข้นมันแล้ว ก็ดูจะยังไม่คุ้มค่ากับที่ทิ้งนาตัวเองมาหาทิดต้อม ตามประสาคนมักมากอย่างเฒ่าทอง ได้แค่หัวกระทิจะไปพออะไร ต้องได้หางกะทิมาด้วยถึงจะครบเครื่อง วิธีการรีดหางกะทิคือ ตาเฒ่าจะอมเฉพาะส่วนหัวบานๆไว้ถึงคอหยัก แล้วเฒ่าทารกจะดูดจุ๊บๆถี่ๆ ลิ้นก็คอยดุนรอบหัวบานไปตามจังหวะดูด แกทำเหมือนเด็กทารกดูดจุกนมยางไม่มีผิด แรกๆ ทิดต้อมยังไม่คุ้น ก็ได้แต่นอนตะแคงลืมตาโพรงทั้งคืน ด้วยว่าหัวท่อนเอ็นเปลือยโดนปากสุญญากาศแสนอำมหิตดูดดุนทั้งคืน แม้มันจะไม่ใช่แรงดูดรีดรุนแรง เพื่อหวังน้ำมาดื่มดับกระหาย แต่ก็สร้างความเสียวหน่วงๆสะสมอย่างเชื่องช้า จนในที่สุดไอ่ทิดไก่อ่อนมักทนไม่ไหว หลั่งน้ำโปรตีนหางกระทิอัดปากเฒ่าทองแบบไม่ได้ร้องขออีกหนึ่งน้ำถึงจะได้หลับได้นอน พักหลังๆมา ไก่อ่อนเริ่มคุ้นทาง เหมือนคนผ่านการฝึกฝนมานั่นแหละ พอสละน้ำแรกไปแล้ว เฒ่าทองจะดูดเล่นเหมือนจุกนมยาง ไอ่ทิดก็จะปล่อยให้แกดูดหนำใจ ส่วนตัวมันสามารถนอนหลับสนิทได้ ทั้งๆที่โดนตาเฒ่าดูดอยู่คาปาก หลายครั้งเฒ่าทองก็หลับทั้งปากคาบเอ็นไปเหมือนกัน จนเฒ่าทองรู้สึกตัวตื่นอีกครั้ง จึงจะเริ่มก่อกวนดูดหัวบานอีกรอบ ทิดต้อมถึงจะได้ป้อนน้ำล้างหน้าไก่ ให้คนแก่กินสมอยาก หลังจากอิ่มเอมโปรตีนจากไอ่ทิดแล้ว เฒ่าทองจึงจะเร้นกายจากไปในความมืด โดยมาก ตาเฒ่าจะกลับไปพร้อมเสียงระฆังตีทำวัตรเช้า และเป็นแบบนี คืนเว้นคืน หรือคืนเว้นสองคืนที จนเฒ่าทองลาโลกไปเฝ้ายมบาลนั่นแหละ ไอ่ทิดจึงไม่ได้ระบายยอดโปรตีนให้ใครอีก ทิดต้อมยังเคยคิดว่าที่เฒ่าทองหัวใจวายนั้น ส่วนหนึ่ง หรืออาจจะสาเหตุหลักเลยด้วยซ้ำ คือ นอนไม่พอ แก่ก็ออกจะปานนั้นแล้ว ยังห่วงจะไม่ได้ดูดกล้วยหนังอีก ผลก็เลยซี้แหง๋แก๋อย่างที่เห็น แต่ถึงเฒ่าทองจะตาย ก็คงจะตายอย่างหมดห่วแล้ว เพราะได้ทำในสิ่งที่ตาเฒ่ามีความสุขจวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต อนิจจาพ่อใหญทอง...
เย็นวันหนึ่งกลางเดือนธันวาคม ปี พ.ศ.2528 เด็กแอมก็งอแงจะขอตามทิดทองมานอนเฝ้านาด้วย เพราะไม่อยากไปนอนวัดกับแม่ใหญ่ ในคืนวันพระ แม่ใหญ่จะไปจำศีลที่วัด การไปจำศีลกับแม่ใหญ่ หมายถึงการต้องตื่นตั้งแต่ตี4 เ พื่อมาทำวัตรเช้า และต้องนอนพิ้นกระดานศาลาวัดแข็งๆเย็นๆ และในฤดูหนาว การที่เด็ก 7 ขวบอย่างแอมไม่อยากไปวัด มันก็สมเหตุสมผล และสมกับวัยของมันนั่นแหละ หะแรก ไอ่ทิดก็ออกจะห้ามปรามเหมือนกัน เพราะขี้เกียจรับผิดชอบชีวิตของเด็ก แถมยังหวั่นว่าเด็กจะมาทำแก่แดดใส่อย่างเคย แต่จะให้นอนกับที่บ้านป้าหรือ ลุงอีกสองหลัง เค้าก็ไม่เอามันเหมือนกัน เด็กมันก็ไม่เอา จะไปนอนแต่กับพี่ต้อมอย่างเดียว พอเด็กมันงอแงมากเข้า ไอ่ทิดก็เลยอ่อนใจ ต้องยอมให้แอมตามมาในที่สุด เพราะสงสารแม่ใหญ่เป็นหลัก กลัวมันจะไปงอแงกวนแม่ใหญ่ที่วัด ก็ดีเหมือนกัน เพราะตั้งแต่เฒ่าทองตายไป ทิดต้อมก็โหวงเหวงวังเวงพอควร อาจจะเพราะตาเฒ่าเคยย่องมาหาประจำ จนทิดต้อมเลยชิน หรืออาจจะเพราะไอ่ทิดกลัวผีตาทองมาหาก็ไม่ทราบได้ ด้วยระยะหลังๆมานี้ มีเสียงลือจากคนนั้นทีคนนี้ทีว่า เห็นผีตาทองตรงนั้น เจอตาทองหลอกตรงนี้ โดยเฉพาะลูกหนี้ทั้งหลายของตาเฒ่า รู้สึกจะเจอแกครบทุกคนแล้ว เห็นจะเหลือแต่คู่ขาลับๆอย่างทิดต้อมนี่แหละ ที่ยังไม่เจอเฒ่าทองอย่างใครเขา ยิ่งคืนนี่เป็นคืนวันพระใหญ่เสียด้วย หากเฒ่าทองโผล่มาขออมเจี๊ยวไอ่ทิดคงจะเสียวดีพิลึก
ย่ำค่ำวันนั้น หลังจากพาเด็กแอมกินข้าวมื้อเย็นเสร็จ ไอ่ทิดก็พาน้อง หอบผ้านวมหมอนนุ่นพะรุงพะรังมานอนนาด้วย ลมหนาวพัดยอดยางนาหวีดหวิว โต้กันกับเสียงว่าวดุ๊ยดุ่ยอีกสี่ห้าตัว ที่ผูกโต้ลมกระจายตามปลายนาทั่วทุ่งข้าว ลมหนาวที่อีสานมันหนาวจับขั้วหัวใจนัก ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่คนเจ็บไข้ได้ป่วยกันเยอะ ถึงขั้นหนาวตายก็มี ไอ่ทิดไม่ลืมจะใส่หมวกโม่งให้น้อง เพราะกล้วจะไม่สบายไป
“จะตามมาทำไมก็ไม่รู้ ดึกๆงอแงจะไปหาแม่ใหญ่ อ้ายบ่ไปส่งเด้อ ให้เดินไปเองเลย” ชายหนุ่มขู่เด็กไว้ก่อน มันจะได้ไม่กล้ากวนใจมาก เด็กแอมไม่ว่าอะไร ได้แต่ดูดนิ้วตัวเอง และรีบสาวเท้าให้เร็วทันพี่ชาย ขาสั้นๆของมัน ต่อให้ก้าวไวแค่ไหน ก็ไม่ค่อยจะทันทิดต้อมนัก
เมื่อมาถึงเถียงนา เท้าของทั้งคู่ก็เปียกน้ำค้างที่ระยอดหญ้าตามคันนาจนถึงข้อเท้า ชายหนุ่มพาเด็กแอมล้างเท้า แล้วให้มันขึ้นไปรอบนเถียงนาก่อน เพราะเขาจะได้ก่อไฟไล่ยุงแล้วก็เพิ่มความอบอุ่นเหมือนอย่างที่เคยทำทุกวัน แต่เด็กแอมก็หงอใส่ บอกว่ามันมืดไม่กล้าขึ้นไปคนเดียว ในที่สุดก็เกาะเขาแจจนก่อไฟเสร็จ ช่วงเวลานี้ นาหลายๆแปลงก็เก็บเกี่ยวกันไปหมดแล้ว เพื่อนเฝ้านาจากเถียงนาหลายๆหลังก็ทะยอยกลับไปนอนบ้านกัน จะมีเหลือคนนอนเฝ้านาเหนียวที่ยังไม่เก็บเกี่ยวอยู่บ้าง แล้วอีกส่วนก็นอนเฝ้าข้าวที่เกี่ยวแล้ว แต่ยังไม่ขนขึ้นยุ้ง นาของบ้านทิดต้อมก็เหลือเพียงข้าวเหนียวเหมือนคนอื่นๆ ปลายธันวานี้ก็คงจะเก็บเกี่ยวเสร็จ
ยังไม่ทันสองทุ่มดีชายหนุ่มก็พาเด็กแอมเข้ามุ้งนอน เพราะไม่มีอะไรให้ทำ และอากาศที่หนาวเย็นจนไม่อยากจะให้ร่างกายส่วนไหนพ้นผ้าห่ม เด็กแอมยังส่งเสียงเจี้อยแจ้วชวนเค้าคุยไปตามประสาเด็กฉอเลาะ ชายหนุ่มก็ตอบมั่งไม่ตอบมั่งตามประสาคนปากหนักเหมือนเดิม เขานอนตะแคงคุดคู้ในผ้านวมหันหลังให้เด็กแอม เพื่อเป็นการตัดบทสนทนา มันจะได้หลับๆไปซะ แต่เด็กแอมไม่ยอมหลับซักที น่าจะเพราะแปลกที่
“อ้ายต้อม...อ้ายต้อม...” “หยัง!” “หันหน้ามาทางแอมหน่อยแอมกลัว” น้องออดอ้อนราวกับเด็กผู้หญิง ซึ่งปกติเสียงก็มันเหมือนเด็กผู้หญิงมากอยู่แล้ว อาจจะเพราะยังเด็กเสียงไม่แตก รูปร่างภายนอกไม่บอกความเป็นเพศใดชัดเจนก็มีส่วน มันทำให้ทิดต้อมเกิดความรู้สึกแปลกๆ ถึงแม้ก่อนหน้านี้เค้าจะเคยสงสัยว่าเด็กแอมเบี่ยงเบนทางเพศหรือเปล่า แต่ความรู้สึกแบบนี้ก็ไม่เคยรุนแรงเท่านี้มาก่อน เด็กแอมจะเล่นตุ๊กกระดาษ เล่นขายของ ขี้แยบ้าง แต่แอมก็คือเด็กผู้ชายธรรมดาๆคนหนึ่ง ในสายตาของทิดต้อม แต่เมื่อมันดมกางในของเขา มันชอบมาแอบจับของสงวนเขา เค้ายังคงคิดว่าเด็กน้อยอาจจะแค่อยากรู้อยากเห็น หรือแกล้งแหย่เขาเล่น ต่อเมื่อทิดต้อมหลวมตัวไปมีสัมพันธ์สวาทกับเฒ่าทอง ได้มีเวลาคลุกคลี ได้มีเวลาสังเกต ทำให้เขามีดุลยพินิจในการตัดสินว่าใครเป็นแบบเฒ่าทองหรือใครที่ไม่เป็น ได้แม่นยำขึ้น เหมือนอย่างที่ตอนนี้ เค้าแน่ใจเหลือเกินว่า เด็กแอมเป็นเหมือนเฒ่าทอง เกิดมาเพื่อเป็น ไม่ใช่แค่สับสนตอนเด็ก ไม่ใช่แค่เพราะโตมากับผู้หญิง แต่ในที่สุด จะถึงขั้นแต่งตัวเป็นผู้หญิงไปเลยหรือเปล่า คือต้องดูกันยาวๆ
“อ้ายต้อมม..” “...หือออ” ชายหนุ่มแกล้งทำเสียงงัวเงียเหมือนคนกำลังจะหลับเพื่อเด็กแอมจะได้ไม่เรียกอีก “หันมาหน่อยยยยย” เด็กแอมออดอ้อน ทำให้นึกถึง หญิงสาว ในยามที่เรียกร้องความสนใจจากผู้ชาย พลางใช้มือน้อยๆของมันมาทุบหลังเขาตุบๆเบาๆ เหมือนตัดพ้อ เท่าที่นอนหันหลังให้เด็กแอมอยู่นี้ ทิดต้อมรู้สึกเหมือนมีผู้หญิงมานอนเถียงนาด้วย มากกว่าจะเป็นน้องชาย ยิ่งตอนนี้เขาตัดสินเด็กแอมไปแล้วด้วย ว่ามันต้องเป็นแบบตาเฒ่าทองแน่ๆ อคติที่เกิดขึ้นกับเด็กน้อยสดๆร้อนๆ มันทำให้เข้าวางหน้ากับเด็กแอมไม่ถูก ชายหนุ่มเลยเลือกที่จะเงียบและวางระยะห่างกับเด็กน้อย
เมื่อเรียกแล้วเรียกเล่า เค้าก็ยังไม่ยอมหัน แถมยังทำเป็นกรนเสียงดังอีก เจ้าเด็กแอมก็ลุกขึ้นนั่ง ชะโงกมองหน้าชายหนุ่มอย่างจนปัญญา ทิดต้อมยังแสร้งหลับตานิ่ง เด็กน้อยเลยใช้สองมือ ข่มหัวไหล่ของชายหนุ่มแรงสุดตัว เพื่อให้เขานอนหงายให้ได้ ทิดต้อม จำใจต้องนอนหงายลงตามแรงมือ เพราะไม่งั้นคงจะโดนเรียกโดนเขย่าอยู่อย่างงั้น
เมื่อเด็กแอมทำให้เขานอนหงายใด้สำเร็จมันก็มุดเข้ามาใต้ผ้าห่มของทิดต้อมหน้าตาเฉย แล้วยังถือวิสาสะเอาหัวเข้าซุกใต้รักแร้เขา เหมือนอย่างตอนที่นอนด้วยกันที่บ้านแม่ใหญ่ซึ่งเขากับเด็กแอม ไม่ได้นอนด้วยกันมาพักนึงแล้ว ตั้งแต่เขาแยกตัวมานอนเฝ้านา
“อ้ายต้อม”...แน่ะยังไมหยุดเรียก “อ้ายต้อมหลับยัง?”
ชายหนุ่มไม่ตอบแต่แอบหรี่ตาชำเลืองมองนิดนึง ในแสงสลัวๆจากกองไฟที่สะท้อนจากพื้นดิน เขาเห็นเด็กแอมกำลังแหงนมาจ้องหน้าเขาตาเขม็ง ปากก็ดูดนิ้วจุ๊บๆ ไปด้วย
“อย่าเพิ่งหลับบบตื่นเป็นเพื่อนแอมก่อนนน” “.......” “ไม่ตื่นแอมจับหำนะ” มันขู่และโดยไม่ต้องรอเขาให้อนุญาต เจ้าเด็กน้อยล้วงมือคว้าหมับที่เป้ากางเกงวอมร์มของชายหนุ่มเข้าเต็มรัก “แน่ะ..ๆ..ๆ!!” ทิดต้อมปรามเสียงเขียว แต่ยังไม่ยอมลืมตา เด็กแอมหัวเราะคิกแล้วรีบปล่อยมือ แต่พอปล่อยได้ซักพัก ก็กำใหม่ เหมือนยั่วให้เขาโมโห พอโดนดุก็ปล่อยมือ ซักพักก็กำใหม่ กำๆปล่อยๆอยู่สี่ห้ารอบ จนไอ่ทิดเริ่มรำคาญ เพราะไอ่ต้อมน้อยชักจะโมโหโกธาใหญ่ มันทำคอแข็งขึ้นมาเหมือนจะเอาเรื่องคนที่ก่อกวนมัน ชั่วนาทีนั้นทิดต้อมเกิดความรู้สึกตะหงิดๆในหัว
โดยไม่ทันตั้งตัว เด็กแอมก็คว้าหมับที่เจ้าหนอนอ้วนอีกรอบ แต่คราวนี้ มันไม่ใช่หนอนนุ่มนิ่มเหมือนเดิมอีกต่อไป...ชายหนุ่มนอนหลับตานิ่ง ใจเต้นระทึก ไม่ห้ามปรามเหมือนก่อน เขาจะปล่อยญาติผู้น้องเต็มที่ อยากรู้ว่ามันจะทำยังไงต่อไป และมันจะทำไปถึงขั้นไหน........
มือน้อยๆนั้น ชะงักกึก เมื่อได้เจอกับของแข็งเข้าให้ แต่ไม่ยักกะถอนมือหนี เด็กน้อยลูบคลำคลึงอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเปลี่ยนเป็นกำรอบข้อลำแข็ง นอกกางเกงวอร์มบีบกำ คลาย กำคลาย เป็นจังหวะ เด็กแอมหายใจแรงอย่างคนตื่นเต้น ชายหนุ่มก็พลอยรู้สึกตื่นเต้นไปกับเด็กน้อยอย่างประหลาด หัวใจของเขาเต้นระทึกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แม้กับตอนที่โดนเฒ่าทองจู่โจมในครั้งแรก เขาก็ไม่ตื่นเต้นเท่าครั้งนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าเฒ่าทองขืนใจเขาอย่างที่เขาไม่ได้ตั้งตัว แต่กับเด็กแอมที่เขาเคยปฏิเสธมันมาตลอด แต่ครั้งนี้ เขาจะลองเปิดทางให้มัน
เด็กแอมถึงกับยอมละนิ้วโป้งที่ดูดอยู่ลงจากปาก เพื่อจะได้ใช้ทั้งสองมือของมัน บีบกำข้อลำของชายหนุ่มได้ถนัด มือน้อยๆทั้งสองกำเค้นท่อนลำของทิดต้อมเหมือนอย่างคั้นแหนม และเมื่อเห็นทิดต้อมยังคงนอนหลับตานิ่ง ไม่แข็งขืนเหมือนอย่างเคย เลยชักคะนองมือ ลุกล้ำเข้าไปถึงในเขตที่เคยหวงห้าม ส่วนที่มันไม่เคยเข้าถึงมาก่อน มือเล็กๆที่เย็นเยียบเพราะอากาศหนาวนั้น เลื้อยเข้าไปในขอบเอวกางเกงวอร์ม ลงมือบีบกำส่วนหัวของเอ็นท่อนอุ่น เด็กน้อยตื่นเต้นจนหายใจติดๆขัดๆ กำบีบแรงอย่างไม่รู้ภาษา ไอ่ทิดเจ็บจนหน้านิ่วเห็นได้ชัด แต่ก็ไม่ยอมปริปากว่าอะไร และถ้าเป็นไปได้ทิดต้อมไม่อยากจะพูดอะไรสักคำ ที่บ่งบอกว่าเป็นการรู้สึกตัว เขาอยากจะนิ่งเงียบเข้าไว้ เพื่อให้เด็กต้อมดำเนินการตามใจอยากของมันเอง แต่มันก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เขาคาดไว้ เพราะถึงแม้ว่า เด็กแอมจะแสดงอาการออกมาให้เขารู้ว่ามันพึงพอใจมาก ที่มันได้เลนเจ้าท่อนลำแข็งๆของทิดต้อม โดยที่ไม่โดนห้ามเหมือนทุกครั้ง แต่เด็กแอมก็ไร้เดียงสา จนเกินกว่าที่จะรู้ว่าต้องทำยังไงต่อไป ที่สุดแล้ว เด็กน้อยรั้งหัวกางเกงวอร์มพร้อมกางเกงในตัวย้อยของทิดต้อมลง ไปเหน็บไว้ใต้พวงไข่ เพราะอยากเห็นท่อนลำของทิดต้อมให้ถนัดตา ถึงแม้แสงจากกองไฟที่จุดอยู่ห่างๆเถียงนา จะไม่เป็นใจนักก็เถอะ เด็กน้อยเลิกชายเสื้อยืดของทิดต้อมขึ้นไปไว้เหนือสะดือ หน้าท้องเนียนของชายวัยเต็มหนุ่ม แกร่งเกร็งไปด้วยกล้ามเนื้อ ขนเส้นเล็กๆตามลำตัวลุกชันตั้งเป็นตุ่ม ไหลเลื้อยไปบรรจบกับพงขนดกดำกลุ่มใหญ่ที่หัวหน่าว ขนแข็งๆยาวๆนี่ก็ทำให้เด็กน้อยตื่นเต้นไม่แพ้ท่อนเนื้อแข็งๆใหญ่ๆที่ตนกำอยู่
ทิดต้อมใช้สองมือประสานที่ท้ายทอย นอนหลับตานิ่งแต่หว่างคิ้วขมวดนิ่ว เหมือนคนกำลังครุ่นคิดอะไรอย่างหนัก ในหัวมีเสียงความคิดตัวเองสะท้อนไปมาว่า นี่กูทำอะไรอยู่......นี่กูทำอะไรอยู่... แต่ชายหนุ่มรู้ดีว่ามันเลยจุดที่จะถอยได้แล้ว ส่วนเด็กแอมก็ไม่ยอมที่จะให้ทิดต้อมห้ามปรามสิ่งที่ตนปรารถนามานานได้เช่นกัน........
สายตาของเด็กน้อย จับต้องแต่เจ้าแท่งเนื้อแข็งโด่หัวบาน ที่ตั้งทะมึนในแสงสลัว ส่วนมือทั้งสอง ก็กำที่ลำโคนไว้มั่น กลิ่นแปลกๆที่โชยขึ้นมาเตะจมูกนั้น มันยั่วยวนบอกไม่ถูก จะว่าเหม็นก็ไม่ใช่ หอมก็ไม่ใช่ แต่พอได้กลิ่นแล้วอยากดอมดมไม่รู้เบื่อ เหมือนที่คนเราชอบดมเล็บขบของตัวเอง เด็กน้อย ก้มลงเอาจมูกไปเคล้าเคลีย ดอมดม ตรงหมวกเห็ดของท่อนเนื้อ ก่อนจะถอนหน้าห่างออกมาเพื่อจ้อมองมันอีกอย่างหลงไหล ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความเสียดาย นึกว่าเจ้าเด็กแอมจะทำอะไรมากกว่านั้น เค้าคงคาดหวังจากเด็กเจ็ดขวบมากเกินไป เด็กน้อยมองท่อนเนื้ออย่างคิดไม่ออกว่าจะต้องทำอะไรกับมัน ในที่สุดออกแรงบีบแรงขึ้นๆ ด้วยความหมั่นเขี้ยว ไอ่ทิดเจ็บจนผวานั่งเฮื้อก
“โอ้ย แอม!! มันเจ็บ! จับเบาๆ” เด็กน้อยผงะคลายมืออย่างตกใจ ส่วนไอ่ทิดครางหงิงๆ เพราะเจ็บตรงเส้นสองสลึงที่ถูกรั้งแรงเกินไป “อ้ายต้อม..แอมขอโทษเจ็บหลายบ่?” “เจ็บๆๆ” ทิดต้อมโอดโอย สีหน้าที่แสดงความเจ็บปวดออกมานั้น ทำเอาเด็กแอมสงสารและรู้สึกผิดจับใจ “ ฮือๆๆ ทำยังไงถึงจะหายเจ็บล่ะ?” เด็กน้อยถามเสียงเครือ พลางใช้มือประคองเจ้าแท่งเนื้อแข็งอย่างเบามือ
“เวลามันแข็งแล้วแอมไปบีบมันแรงๆมันก็เจ็บแบบนี้แหละอย่าทำแบบนี้อีกนะ ไม่งั้นอ้ายไม่ให้เล่นอีกแล้ว” ไอ่ทิดยื่นคำขาดเด็กแอมกลัวจนลนลานว่าจะไม่ได้เล่นของโปรดอีก
“แล้วทำยังไงอ้ายต้อมถึงจะหายเจ็บล่ะ” เด็กแอมหน้าเบ๊ รู้สึกทั้งสงสารพี่ชายจับใจและกลัวพี่ต้อมจะไม่ให้เล่นอย่างที่ห้ามไว้จริงๆ.......ความคิดด้านที่มืดสนิทในตัวชายหนุ่มแว๊บขึ้นมาในหัวได้อย่างหนึ่ง....
“.....แอมต้องทำให้มันอ่อน...” “ทำยังไงมันถึงจะอ่อนล่ะ”เด็กน้อยละล้ำละลักถาม “...ต้องเอาปากดูดน้ำที่มันคั่งอยู่ข้างในนี้ออกมา”
เด็กน้อยจ้องไอ้ทื่อหัวบาน ที่ยังผงาดอยู่ในกำมือของตัวเอง ครู่หนึ่งก็เห็นน้ำใสๆหยดมันวาวผุดขึ้นมาจากรูกลางหัวบานๆ นี่ล่ะมั๊ง น้ำที่ว่า มันครุ่นคิดในใจตามประสาเด็ก ก่อนที่จะก้มลงไป แล้วใช้ปากเล็กๆงับลงตรงรูหัวบาน ออกแรงดูดน้ำที่ซึมออมาดังจุ๊บๆ สองสามครั้ง ซึ่งสร้างความเสียวหวิวๆให้ทิดต้อมได้พอสมควรทีเดียว รสแปลกๆจากน้ำใสๆตรงหัวทำให้เด็กน้อยทำหน้าเหยเก
“พอยังอ้ายต้อม หายปวดยัง?” เด็กแอมถอนปากขึ้น พร้อมถ่มน้ำลายปริ๊ดๆ “ยัง..ยังไมพอต้องดูดอีกนานๆเลย” ชายหนุ่มบอก กลืนน้ำลายลงคอตัวเองดังเอี๊อก นี่เขากำลังจะฝึกหัดเด็กคนหนึ่ง ให้กลายเป็นที่ระบายอารมณ์ทางเพศของเขาหรือ “นานแค่ไหนนับหนึ่งถึงสิบนานพอไหม” “ไม่พอ ดูดแค่นั้นน้ำไม่ออกหรอก...” “แล้วต้องดูดยังไงน้ำถึงจะออก” เด็กน้อยยังถามอย่างไม่รู้ประสา “......ดูดเหมือนที่แอมดูดนิ้วโป้งมือแอมไง ดูดแบบนั้นล่ะ คิดว่ามันเป็นหัวนิ้วโป้งมือ แล้วดูดไปเรื่อยๆ” ทิดต้อมตะล่อมเด็กน้อยไปเรื่อยๆ
เด็กแอมรู้ดีว่าการดูดนิ้วโป้งทำยังไง จึงก้หัวลงไปดูดตรงรูตาน้ำอีกครั้ง คราวนี้ เด็กน้อยดูดเสียแรงดังจ๊วบๆเลย ไอ้ทิดสดุ้งเฮือก สูดปากเบา เสียวเอาเรื่องเหมือนกันแฮะ
“อูยย..แอม ดูดลงไปอีกหน่อย อมทั้งหัวอ่ะแอม..หัวที่มันแดงๆเสียกออกมาอะ” ทิดต้อมพยายามอธิบายให้เด็กน้อยเข้าใจมากที่สุด “เสียก”เป็นภาษาอีสานที่แปลว่า “เสือก” ตรงกับความหมายคำของภาษากลางอีกคำ คือ “ถอก” “เสียกโคย” ในภาษาอีสาน คือ “ถอกค-ย” หรือชักว่าวในภาษากลางนั่นแหละครับ เด็กแอมได้ฟังดังนั้น ก็เขมือบหัวบานเข้าไปอม จนถึงคอหยัก แล้วออกแรงดูดอย่างสุดแรง แม้มันจะไม่ได้เก่งกาจอย่างเฒ่าทอง แต่ก็ทำให้ทิดต้อมครางเบาๆได้ทีเดียว
“อูยย..แบบนั้นละแอมเลียหัวด้วยๆ” ชายหนุ่มกำกับ เด็กน้อยได้ฟังก็ถอนปากออกมาแล้วแล่บลิ้นเลียหัวด้วยความเข้าใจแบบเด็กๆ
“ไม่ใช่ยังงั้น ดูดไปด้วยเลียไปด้วย” ไอ่ทิดสุดปัญญาจะอธิบาย เลยลงทุนเอานิ้วมือของเด็กน้อยมาดูด เป็นตัวอย่าง เด็กแอมรับรู้ได้ว่าต้องทำอย่างไร จากนิ้วมือของมัน ที่พี่ชายดูดดุน ใจร้อนอยากจะทำไวไว อ้าปากทำท่าจะงับหัวบานอีกครั้ง
“เดี๋ยวๆๆ..แอม ใจเย็นๆหัดไปก่อน” ทิดต้อมงัดหัวเด็กแอมขึ้นมา แล้วใช้นิ้วชี้ของเขาแหย่เข้าปากเด็กน้อย โดยอัตโนมัติ เด็กแอมใช้ปากดูดดุนนิ้วมือของชายหนุ่มทันที
“เออ..แบบนี้ล่ะ นั่นอย่างงั้น...ทีนี้ลองนิ้วโป้ง” ชายหนุ่มบอกอย่างพึงพอใจ เด็กน้อยถอนปากจากนิ้วชี้อย่างว่าง่าย ผวางับนิ้วโป้งมือของชายหนุ่มลนลาน พลางนึกถึงเวลาตัวเองดูดนิ้วมือ แล้วทำตามประมวณความคิดในหัวอย่างแคล่วคล่อง
“ช่ายย..ช่ายแบบนั้นล่ะดี...” ไอ่ทิดทึ่งในความสามารถของเด็กชาย ขนาดดูดที่มือยังทำเอาเขาสยิวได้แบบนี้ ถ้าดูดที่ไอ้ใบ้ตาเดียว ที่ผงกหัวอยู่กลางลำตัวเขาตอนนี้ จะเสียวขนาดไหน
“ดี..ดี..ดูดไปเรื่อยๆ เอาลิ้นดุนด้วยๆ..เออแบบนั้นๆ....คราวนี้พร้อมยัง?” เด็กแอมเข้าใจดีว่าหมายถึงอะไร จึงผงกหัวรับทั้งๆที่ปากยังไม่หยุดดูดนิ้วโป้งของทิดต้อม “ถ้าพร้อมก็เปลี่ยนลงมาดูดของจริง” พอได้ยินดังนั้นเด็กชายก็สนองคำพูดทันที ถอนปากจากมือ อ้าอมหัวโคยเสียกของอ้ายต้อมลนลาน
“อมทั้งหัวๆ ลึกอีกๆ ..ไม่ๆ!! ลึกเกินไปเดี๋ยวก็อ้วกแตกพอดี ยังเป็นเด็ก อมแค่หัวก่อน ช่ายย แบบนั้นแหละ อะทีนี้ดูด...เออ...ดี..อย่าลืมดุนลิ้นด้วย..อืมมม...เก่ง.. ดุนลิ้นไปพร้อมๆกับดูด...อ่า...เออดี ดี ..โอ๊ะ!! อย่าให้โดนฟันดิ.. พี่เจ็บ..เออ...ช่ายยย..ดี...แบบนั้นล่ะ....อูยยย...เก่ง..เก่งแล้วนี่ดี..ดี.....”
สอนสักพัก เด็กแอมก็เป็นงาน ถึงจะยังไม่ใช่มืออาชีพแบบเฒ่าทอง แต่ก็คล่องแคล่ว และพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ จนทิดต้อมพอใจ มันทำให้เขาเสียวสูดปากได้ทีเดียว จะติก็คือแรงตกบางที และชอบถอนปากขึ้นมาถามชายหนุ่มเรื่อยๆว่า “พอยัง?” “หายปวดยัง?”
“ยัง..ยังไม่พอ..แอมไม่ต้องถามบ่อยดูดไปเรื่อยๆ ..อูยย..ดูดจนกว่าจะมีน้ำออกมา.. น้ำเยอะๆอะ..อูยยย”
เด็กแอมตั้งหน้าตั้งตาดูด ตามคำสั่งของทิดต้อม ยิ่งเห็นทิดต้อมพอใจ ก็ยิ่งดูดใหญ่เหมือนคนบ้ายอ.. ยิ่งชายหนุ่มครางอูยๆบ่อย ยิ่งแปลว่าเขายังปวด. และเมื่อชายหนุ่มยังปวด. เด็กน้อยก็ยิ่งเร่งฝีปากดูดดุนหัวบานเข้าไปใหญ่ เพราะสงสารพี่ทิดต้อม ที่ทรมานจากการปวด อีกอย่างตอนที่เจ้าหัวบานๆนี้อยู่ในปากของแอม แอมรู้สึกซู่ซ่า บอกไม่ถูก และแอมชอบให้มันอยู่ในปาก ชอบดูดุนมัน มากกว่าจะจับเล่นเฉยๆแล้วล่ะ
ตอนนี้ทิดต้อมนอนกางขาเหยียดยาว ปลายขาเหยียดเกร็ง มือประสานไว้ใต้ท้ายทอย หลับตาปี๋ปากก็ครางโอยโอย สลับกับสอนงานเด็กน้อย ที่นั่งพับขาอยู่ตรงกลางหว่างขาของเขา เด็กแอมก้มๆเงยๆ ใช้ปากน้อยๆดูดดุนหัวโคยบานเปลือยของชายหนุ่ม อย่างเอาเป็นเอาตาย จะด้วยเพราะไม่ได้ระบายความใคร่เลย ตั้งแต่เฒ่าทองมาด่วนจากไปหรือด้วยความตื่นเต้น ที่ได้เริ่มสอนประสบการณ์ใหม่ ให้เด็กชายไร้เดียงสา ก็บอกไม่ถูก แต่ความเคร่งเครียดของอารมณ์ มันกำลังจวนเจียนจะระเบิดเต็มที ยิ่งหรี่ตาดูเด็กน้อยที่กำลัง ใช้ปากดูดดุนหัวท่อนเอ็นของเขา เหมือนกับลูกวัวน้อยหิวนม อารมณ์ของทิดต้อมยิ่งลุกโชนไปใหญ่ ในที่สุดชายหนุ่มก็ต้านทานมันไม่ไหว
ทิดต้อม เอื้อมมือไปเหนี่ยวหัวเล็กๆของเด็กน้อย ที่กำลังใช้ปากสร้างความเสียวให้เขา อย่างไม่รู้ชะตากรรมอันใกล้ของตัวมันไว้มั่น
“แอม! ดูดแรงๆ อย่าหยุดดูดนะ ดูดแรงๆ แรงๆเลย!!” เสียงสั่งกระเส่าแผ่วเบา แต่ดุดันนั้น มีอำนาจทำให้เด็กแอมทำตามอย่างง่ายดาย เด็กน้อยกระชับปากดูด ตวัดลิ้นถากหัวเห็ด ที่เบ่งบานภายในอุ้งปากเล็กๆของมันถี่ขึ้น เด็กน้อยรับรู้ได้ว่า เจ้าหัวบานๆในปากของตัวเอง กำลังเบ่งพองตัว บานๆยุบๆในปากแปลกๆ เหมือนมันจะระเบิด ในขณะที่ทิดต้อมก็แหงนหน้าหงายครางกระเส่า หลับตาปี๋ร่างกายเกร็งเหยียดไปทุกส่วน
ไม่ทันได้ตั้งตัว จู่ๆเจ้าแท่งเนื้อก็กระตุกหงึกๆในปากของเด็กแอม ก่อนที่มันจะรับรู้ได้ถึงแรงฉีดของๆเหลวข้นๆ รสชาติเค็มความปะแล่มๆ เป็นหยาดแรก...เด็กแอมตาเหลือกเมื่อรู้ว่ามีน้ำแปลกปลอม กระฉูดเข้าปาก มันพยายามถอนปากออกจากท่อนเนื้อทันที แต่สายไปเสียแล้ว เพราะมือแข็งใหญ่ยึดหัวเล็กๆของมันไว้แน่น
“ออกแล้ววว ..ออกแล้วว..โอยยย อย่าอยุดดูด!! โอยยย ดะ..ดูด แอม ดูดดด อย่าหยุด”
เสียงคำสั่งจากพี่ชาย ดังแว่วๆแต่เด็กแอมจับความไม่ได้สักคำ ลำคอของมันคับตึงไปด้วยเจ้าท่อนเอ็นแข็ง หัวบานๆที่เคยอยู่แต่อุ้งปาก ทะลวงไปถึงลิ้นไก่ ฉีดน้ำขันๆเหนียวๆ ลงคอมันอย่างต่อเนื่อง ไม่ปราณี เด็กน้อยรู้สึกหูอื้อ ตาลาย ระคายลำคอจนอยากจะอ้วก มันดิ้นรนจะถอนปากออกจากท่อนเนื้อ แต่ก็จนด้วยเกล้า น้ำเหนียวข้นรสชาติประหลาด ยังทะลักทะลาย เข้าปากลงคอของมันอย่างต่อเนื่อง จนมันคิดในใจว่าเมื่อไหร่จะหยุด มันพุ่งแรงชนลิ้นไก่ ลำคอ เพดานโพรงปาก เยอะจนล้นออกมาย้อยอยู่แถวพงขนหยาบๆ ตรงโคนลำของทิดต้อม ทางเลือกเดียวเด็กน้อยทำได้คือขย้อนกลืนน้ำประหลาดลงคอไป เพราะมันจะได้หายใจหายคอได้บ้าง แต่ยังไม่ทันจะได้ขะย้อนกลืนได้ทัน เจ้าน้ำรสชาติประหลาด ก็ทะลวงเข้าสู่ลำคอของเด็กน้อยระลอกแล้วระลอกเล่า ยากที่กล้ำกลืนได้ทัน เจ้าท่อนลำกรดกหงึกหงักในลำคอน้อยๆของเด็กน้อย ส่วนหัวบานๆมนๆกระทุ้งเข้ากับลิ้นไก่ของมันครั้งแล้วครั้งเล่า และโดยอัตโนมัติ เด็กแอมสำลักพุ่ง ตาเหลือกรน น้ำมูกน้ำตาไหล แต่ทำยังไงก็ถอนปาออกมาไม่ได้ กระทั่งท่อนลำของพี่ทิดต้อม กระตุกห่างออกไป ...ห่างออกไป จนหยุดนิ่ง พร้อมกับหยาดคาวหยดสุดท้าย ที่ถูกเค้นใส่ปากเด็กแอมนั่นแหละ ทิดต้อมจึงคลายมือออกจากการยึดหัวของเด็กชาย
เมื่อเป็นอิสระเด็กแอมก็ถอนปากออกจากท่อนลำ และอ้วกออกมาทันที........... . ไว้มาต่อครับ
| 
ค้นหาสมาชิก
โพสต์ 2018-7-28 21:13:50
ดันกระทู้
ปักหมุดกระทู้
ล๊อคกระทู้
การ์ดสีสัน
โพสต์ 2018-7-28 21:27:02
โพสต์ 2018-7-28 21:38:21
โพสต์ 2018-7-28 22:09:49
โพสต์ 2018-7-28 23:42:17
