ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 5106|ตอบกลับ: 49

บาปรัก โดยคุณเป้

 มาแรง [คัดลอกลิงก์]

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
ตอบกลับ
16222
พลังน้ำใจ
79556
Zenny
210037
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
(1): ที่งานเลี้ยงของคณะ
เรื่องนี้คงจะไม่เกิดขึ้นถ้าผมไม่ได้ไปงานเลี้ยงรุ่นของคณะเมื่อ3ปีก่อนและถ้าผมมีพรวิเศษที่จะขอแก้ไขความผิดพลาดในอดีตของผมได้สักเรื่องหนึ่งผมคงเลือกขอแก้อดีตของผมไม่ให้ไปงานเลี้ยงในวันนั้นเป็นแน่
ร้อยวันพันปีผมไม่เคยสนใจที่จะไปงานเลี้ยงรุ่นของคณะเลยแต่พอไปเข้าครั้งเดียวมันก็ทำให้ชีวิตอีกหลายชีวิต รวมทั้งผมด้วย แทบต้องอับปางลงแม้จนบัดนี้ก็ยังบอบช้ำไปตามๆกันอย่างยากที่จะกลับฟื้นขึ้นมาให้เหมือนเดิม
จำได้ว่าปีนั้นผมมีอายุได้ 34 ปีหลังจากที่จบจากคณะมาได้ 12 ปี กลุ่มเพื่อนร่วมรุ่นที่ยังติดต่อกันอยู่ก็มาชวนให้ผมไปร่วมงานวันครบรอบ20 ปีของการตั้งคณะหรือจะเรียกว่างานวันคล้ายวันเกิดของคณะก็คงจะได้ตั้งแต่จบมาผมเคยไปงานเลี้ยงประจำปีของคณะเพียงครั้งเดียวเท่านั้นคือปีถัดมาหลังจากที่จบหลังจากนั้นก็ไม่ได้ไปอีกเลย คงไปร่วมงานแต่งานประจำปีของแผนกซึ่งเป็นเพื่อนๆที่เรียนมาในแผนกเดียวกันและรู้จักกันดีกว่า
ค่ำวันนั้น พวกเรานัดกันได้กลุ่มเล็กขนาดเล็ก ราว 7-8 คนต่างคนต่างก็ไปพบกันในงาน พอผมเลิกงานก็ตรงไปที่งานเลย ที่ทำงานของผมค่อนข้างไกลดังนั้นกว่าจะไปถึงงานก็เริ่มไปแล้ว คงต้องเดินหากันสักพักกว่าจะเจอเพื่อนๆได้
ขณะที่ผมเดินหาเพื่อนๆตามโต๊ะต่างๆนั่นเองสายตาก็สอดส่ายดูแผงอาหารของร้านต่างๆที่นำมาออกงานสายตาของผมก็เหลือบไปเห็นชายคนหนึ่ง ด้านหลังของเขาช่างคุ้นตาผมเหลือเกิน… พี่ยศนั่นเอง
เพียงแค่เห็นเงาหลังของพี่ยศ ความคิดของผมก็ล่องลอยไปเมื่อ16ปีก่อน พี่ยศเป็นพี่รหัสของผม ตอนผมอยู่ปีหนึ่งพี่ยศก็อยู่ปีสี่แล้ว แม้เราห่างกันเพียง 3 รุ่นแต่พี่ยศอายุมากกว่าผม 4 ปีเพราะพี่ยศเรียนตามเกณฑ์ส่วนผมเรียนเร็วไปหนึ่งปี พี่ยศเป็นพี่รหัสที่ดีมาก ใจดีดูแลผมตลอดเวลาที่ผมอยู่ปีหนึ่ง มีอะไรก็จะช่วยเหลือผมตลอดแม้กระทั่งช่วยติววิชาบางวิชาที่ผมไม่ค่อยเข้าใจบางครั้งพี่ยศยังดูตำราของตัวเองไม่เสร็จเลย แต่ก็ยังเป็นห่วงมาติวให้ผมก่อนนี่เองจึงทำให้ผมรักและเคารพ รวมทั้งสนิทกับพี่ยศมาก
เงาของพี่ยศ ลูกแหง่ประจำคณะ… ยังจำได้ว่าฉายานี้เป็นฉายาล้อที่เพื่อนๆชอบล้อเพราะผมติดพี่ยศยิ่งกว่าน้องรหัสติดพี่รหัสคนไหนๆ ผมไม่ค่อยชอบฉายานี้เท่าไรนักส่วนพี่ยศเองไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจกับคำล้อเลียนเหล่านี้ กลับชอบเสียอีก
หลังจากพี่ยศจบ ในช่วงปิดภาคปลายของปี 1 ผมก็ยังติดต่อกับพี่ยศอยู่แรกๆก็ติดต่อกันบ่อยๆ แต่พอผมเปิดเทอมใหม่และเริ่มเรียนปีสองผมเองก็ต้องกลายเป็นพี่รหัสบ้างแล้ว ก็เลยต้องแบ่งเวลาส่วนหนึ่งเพื่อดูแลน้องรหัสรวมทั้งการเรียนก็เริ่มแยกสาขา ทำให้ผมต้องตั้งใจกับการเรียนมากขึ้นประกอบกับครอบครัวของพี่ยศย้ายไปต่างจังหวัด การติดต่อของเราก็ยากขึ้นเพราะต้องใช้การเขียนจดหมาย จึงทำให้เราค่อยๆห่างกันแล้วก็ขาดการติดต่อกันในที่สุด
สิบกว่าปีแล้วสินะที่ผมไม่ได้พบกับพี่ชายที่แสนดีคนนี้ผมคิดในใจ ผมถอนความคิดคำนึงกลับมาก่อนที่มันจะลอยไกลออกไปกว่านี้แล้วเดินไปจับต้นแขนของพี่ยศเขย่าจากด้านหลัง แค่เห็นด้านหลังผมก็จำได้แล้ว ไม่ผิดคนแน่นอน
"พี่ครับ จำผมได้ไหม" ผมทักจากข้างหลังพี่ยศพยายามเหลียวกลับมาดูว่าเป็นใคร แต่ผมตรึงแขนพี่ยศไว้ไม่ให้เหลียวกลับมาได้ "ทายก่อนครับว่าใคร อย่าเพิ่งหันมาดู"
"ไอ้เป้ ไอ้ลูกแหง่ รับรองว่าทายไม่พลาด" พี่ยศตอบกลับมาทั้งที่ไม่เหลียวหลัง
"โห พี่ เก่งจัง" อารามดีใจที่พี่ยศยังจำผมได้ผมเผลอรวบตัวพี่ยศเข้ามากอด แต่ก็เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นเมื่อผมได้คิดผมก็รีบผละออกมา การกอดนั้นจึงไม่เป็นที่ผิดสังเกตราวกับเพื่อนหยอกเย้ากันเท่านั้น
พี่ยศหันมาหาผม … พี่ยศยังเป็นคนเดิมอยู่หน้าตาเปลี่ยนไปไม่มาก เพียงแต่เข้มขึ้น กร้านขึ้นผิวหน้าที่เคยราบลื่นเป็นประกายของหนุ่มวัยยี่สิบกว่าก็กลายเป็นผิวหน้ากร้านของชายวัยเกือบสี่สิบแต่มันก็ทำให้พี่ยศดูดีไปคนละแบบ จากหนุ่มน้อยสำอางกลายเป็นหนุ่มใหญ่ผู้คร่ำโลกแกร่ง และภูมิฐาน แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือรอยยิ้มที่นุ่มนวล พร้อมด้วยลักยิ้มที่สองข้างแก้มความคิดของผมเริ่มล่องลอยไปสู่อดีตอีกครั้ง
"เป้จริงๆด้วย" พี่ยศพูดเมื่อเห็นผมทำท่ามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า "ไม่เปลี่ยนสักเท่าไรเลยนะเราแต่ไม่ผอมเหมือนเมื่อก่อน ดูดีกว่าตอนสมัยเรียนอีก"
"พี่ก็ไม่เปลี่ยนนะครับ" ผมว่า
"เฮ่ย จะไม่เปลี่ยนได้ไง อายุจะสี่สิบแล้ว แถมทำงานกรำแดดอยู่บ่อยๆยังกลัวเพื่อนๆจะจำไม่ได้เลย ไม่นึกว่าเป้จะจำได้เพียงแค่เห็นหลังพี่"พี่ยศพูด ยิ้มจนลักยิ้มบุ๋ม
"พี่ไม่ค่อยเปลี่ยนเลยครับ จริงๆ" ผมแก้ไขคำพูดนิดหน่อยจะได้ไม่เว่อร์เกินไป "ไม่งั้นผมจะจำพี่ได้ยังไงแล้วทำไมพี่ทายถูกว่าเป็นผมละครับ"
"ก็เรามันชอบเล่นแบบนี้นี่น่า ตั้งนานนิสัยก็ยังไม่เปลี่ยนเลยนะ"พี่ยศยังจำได้ว่าสมัยเรียนผมชอบมาข้างหลังแล้วจับตัวพี่ไว้ไม่ให้หันกลับมาทำอย่างนี้อยู่บ่อยๆ
หลังจากไต่ถามทุกข์สุขกันก็ได้ความว่าหลังจากครอบครัวของพี่ยศย้ายไปต่างจังหวัดแล้วพี่ยศก็ใช้วิชาที่เรียนมาช่วยงานทางบ้านซึ่งเป็นกิจการรับเหมาก่อสร้างโดยช่วยควบคุมดูแลงาน งานของพี่ยศไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในจังหวัดแต่บางทีก็ยังรับงานข้ามจังหวัดด้วย ทำให้อยู่ไม่ค่อยติดบ้านนักนับว่าเป็นงานที่หนักพอสมควร มิน่าเล่า พี่ยศจึงดูแกร่งขึ้น ส่วนผมเองก็แนะนำตัวไปว่าได้งานที่บริษัทที่ปรึกษาการก่อสร้างโดยงานของผมมีทั้งงานออฟฟิศและออกไซต์ก่อสร้างแต่ส่วนใหญ่งานที่ผมดูแลเป็นไซต์ในกรุงเทพฯ จึงไม่ต้องออกต่างจังหวัดแต่ต่อไปก็ไม่แน่เหมือนกัน
หลังจากที่เราทักทายกันได้สักครู่เพื่อนๆของพี่ยศก็มาลากพี่ยศไปร่วมโต๊ะ พี่ยศจึงขอตัวไปชั่วคราวทิ้งให้ผมยืนเคว้งอยู่ตรงนั้นเอง แต่เพียงชั่วครู่เดียว ผมก็ตั้งสติได้หลังจากนั้นผมก็เริ่มเดินหาเพื่อนๆ งานเลี้ยงของคณะจัดที่สนามหญ้าใหญ่หน้าคณะมีคนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก จะหาเพื่อนๆจึงไม่ง่ายนักเพราะบางโต๊ะก็ซุ่มอยู่ในเงามืด
"เฮ้ย ไอ้เป้ ทางนี้" เสียงเพื่อนเรียกเป็นอันว่าผมไม่เคว้งแล้ว เจอเสียที
เพื่อนที่ส่งเสียงทักพาผมไปเข้ากลุ่มที่โต๊ะซึ่งตอนนี้ทุกคนต่างก็มานั่งกันหมดแล้ว
"เมื่อกี้มึงคุยกับใครวะ กูเห็นไกลๆ" ก้องเพื่อนคนหนึ่งถามขึ้น
"พี่ยศไง อะไรกัน จำไม่ได้เหรอ" ผมตอบ
"ยศไหนวะ มีตั้งหลายยศ กูไม่เห็นหน้านี่หว่า" ก้องยังนึกไม่ออก
"ก็พี่ยศพี่รหัสกูไง"
"อ๋อ ไอ้ลูกแหง่เจอพี่ชายเข้าแล้วสิ มิน่าถึงได้ยืนยิ้มอยู่คนเดียวตอนกูเจอมึง เป็นไง ลูกโตหรือยังก็ไม่รู้" ก้องว่า ผมสะอึก พี่ยศมีลูกมีเมียแล้วหรือนี่
"ไม่รู้โว้ย ยังไม่รู้เลยว่าแต่งงานหรือยังเพิ่งคุยได้เดี๋ยวเดียวเองแล้วพี่เค้าก็แยกไป"
"โอ๊ย ลูกน่ะมีแล้ว ปัญหาคือมีอยู่กี่ลูกเท่านั้นเองกูเคยเจอพี่ยศทีหนึ่งตอนไปเชียงใหม่ ยังอุ้มลูกจูงเมียเดินห้างเลย" ก้องสาธยาย ผมใจหายวูบ รู้สึกอ้างว้างอยู่ในส่วนลึกของหัวใจทำไมผมถึงได้รู้สึกแบบนี้นะ เราห่างเหินกันมาตั้งสิบกว่าปีแล้วจะไปกังวลสนใจทำไมว่าพี่ยศจะมีลูกเมียหรือเปล่า
"เฮ้ย ไอ้เป้ เป็นอะไรวะ เจอพี่ยศเข้าทีซึมเลยเหรอมึง เป็นอะไรไปน่ะ"ชิต เพื่อนอีกคนในกลุ่มเรียกผม ผมสะดุ้งตื่นจากความคิดคำนึง "เปล่า ไม่มีอะไร วันนี้งานเครียดน่ะ ที่ไซต์มีปัญหายังแก้ไม่ตกมึนมาตั้งแต่บ่ายแล้ว" ผมแกล้งพูดรู้สึกผิดนิดหน่อยที่ต้องโกหกเพื่อนๆเพราะที่จริงแล้วเรื่องงานของผมไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยแต่ชีวิตส่วนตัวของผมต่างหากที่มีปัญหา … มีปัญหามาหลายปีแล้วด้วย
"เออ มึงไม่ต้องเอามาคิดหรอก มากินเหล้าสนุกกันสักวัน มีปัญหาก็ให้นายมึงรับไปแก้ก็แล้วกันใครเงินเดือนเยอะก็ต้องรับผิดชอบเยอะ" ก้องพูดให้บรรยากาศผ่อนคลายผมได้คิดว่าคงเสียกิริยาไป จึงพยายามควบคุมตนเองให้เป็นปกติหลังจากนั้นเราก็สั่งอาหารและเหล้าเบียร์มากินกันเฮฮากันจนผมลืมเรื่องพี่ยศไปได้ชั่วขณะ
เราดื่มกินกันไปจนถึงประมาณ 5 ทุ่มผมเหลือบไปเห็นพี่ยศเดินไปมาตามโต๊ะอาหารหลายครั้ง ทักคนโน้นบ้าง ทักคนนี้บ้างแต่ไม่ยักแวะมาทางโต๊ะด้านนี้สักทีจนผมเห็นว่าสมควรแก่เวลาและชักจะมึนมากแล้วก็เลยขอตัวกลับส่วนพวกที่เหลือยังสมัครใจที่จะอยู่เฮฮากันต่อไปเพราะงานจะมีจนถึงตีหนึ่ง
ผมเดินเซนิดๆด้วยความมึนงงไม่ได้กินเหล้าหนักอย่างนี้มานานแล้วยังแปลกใจตัวเองว่าวันนี้ทำไมกินเหล้าเข้าไปมาก… ก่อนกลับขอแวะเข้าห้องน้ำเสียหน่อย
ในห้องน้ำที่มีแสงไฟไม่สว่างนักผมเห็นเงาตะคุ่มๆกำลังก้มหน้าล้างหน้าอยู่ที่อ่างล้างมือ … พี่ยศอีกแล้ว
"อ้าว พี่ยศ เจอกันอีกแล้ว" ผมทักพี่ยศพอดีล้างหน้าเสร็จ หลังจากเช็ดหน้าแล้วก็เงยขึ้นมามองหน้าผม "กินเหล้าไปกี่ขวดวะนี่ ทำไมหน้าแดงก่ำขนาดนั้นเดี๋ยวนี้กินเหล้าหนักเลยเหรอ"
"เปล่าครับพี่ กินไม่มาก แต่ผมเมาง่ายครับ นานๆกินทีก็เป็นยังงี้แหละเพื่อนๆมันช่วยมอมผมด้วย ผมไม่ได้ขี้เมานะครับพี่" ผมรีบอธิบาย
"แล้วขับรถไหวเหรอ สภาพแบบนี้ไม่ควรขับรถเลย" พี่ยศมองดูผมด้วยความเป็นห่วงผมรู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาดความรู้สึกดีๆที่ผมฝังมันไปนานแล้วในหัวใจอันแห้งแล้งของผมเริ่มกลับฟื้นคืนมามันเหมือนเมล็ดพันธุ์ที่ฝังอยู่ในดินแดนอันแห้งแล้งเป็นเวลาแรมปีเมื่อใดที่มันได้รับหยาดฝนอันชุ่มฉ่ำ เมื่อนั้นมันก็เริ่มงอก …
สามปีมาแล้วสินะ ที่หัวใจผมกลับกลายเป็นเย็นชาและแห้งแล้งหลังจากคนรักที่ผมทุ่มเทหัวใจให้เต็มที่จากผมไปมีคนอื่น ด้วยเหตุผลครอบจักรวาลคือ "เราเข้ากันไม่ได้"ใช่สิ เราเข้ากันไม่ได้ เพราะผมไม่มีนิสัยเจ้าชู้แบบเขาความผิดหวังในความรักทำให้สามปีมานี้ผมจึงกลายเป็นคนเงียบและใจลอยอยู่บ่อยๆชอบคิดโน่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อย
"เป้ เฮ้ย ยังงี้ไม่ไหวแล้วว่ะ พูดไม่รู้เรื่องแล้วเหรอขับรถกลับเองไม่ได้แล้วล่ะแบบนี้" พี่ยศพูดอีกคงนึกว่าผมเมามาก ที่จริงไม่ใช่หรอกผมลืมตอบพี่ยศเพราะมัวหวนนึกเรื่องอันเจ็บปวดในอดีตอยู่ต่างหาก "ผมไม่ได้เอารถมาครับ วันนี้กะอยู่แล้วว่าคงเมาเตรียมมานั่งแท็กซี่อยู่แล้วครับพี่"
"เออ ค่อยยังชั่ว รอบคอบดี" พี่ยศว่าผมเดินเซนิดๆไปยังโถปัสสาวะเพื่อจัดการกับธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยก่อนกลับแล้วก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ถามเลยว่าพี่ยศพักที่ไหนเพราะไม่มีบ้านที่กรุงเทพฯแล้ว "แล้วพี่ตอนนี้พักที่ไหนล่ะครับ"ผมถาม
พี่ยศไม่ตอบ เมื่อผมจัดการธุระเสร็จ พี่ยศจึงค่อยตอบผมว่า "พี่ก็อยู่บ้านพี่น่ะสิเอายังงี้ บ้านเป้ยังอยู่ที่เดิมหรือเปล่า เดี๋ยวพี่ไปส่งดีกว่าเห็นสภาพยังงี้แล้วพี่ไม่อยากให้กลับเองเลยดีไม่ดีเจอแท็กซี่โจรอาจต้องไปนอนหมกในคูน้ำข้างทาง"
"ยังอยู่ที่เดิมครับ แต่ไม่ต้องหรอก เสียเวลาพี่เปล่าๆพี่เองก็คงกินเหล้ามาเหมือนกัน ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมกลับเองได้…" ผมเงียบไปอึดใจหนึ่งแล้วก็โพล่งออกมาว่า "เดี๋ยวนี้ผมไม่ใช่ลูกแหง่แล้วนะพี่"
ไม่รู้สิ ไม่รู้ว่าผมพูดประโยคนี้ด้วยอารมณ์อะไรฟังดูแล้วคล้ายทีเล่นทีจริง แต่ก็คล้ายตัดพ้อพี่ยศนิดๆจะตัดพ้อเรื่องอะไรผมก็ไม่ทราบได้มันโพล่งออกไปโดยที่ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แปลกใจตัวเองเหลือเกิน
"อ้อ เดี๋ยวนี้คิดว่าตัวเองโตแล้วเหรอ ไม่หรอกเป้เป็นน้องสำหรับพี่วันยังค่ำนั่นแหละ พี่ยังมีหน้าที่ต้องดูแลเป้อยู่ดีห้ามเถียง รู้จักซีเนียริตี้ใช่ไหม" พี่ยศพูดอย่างจริงจังแต่ตอนยกซีเนียริตี้มา พี่ยศก็อดยิ้มไม่ได้ลักยิ้มบุ๋มนั้นดูมีเสน่ห์อย่างที่ผมไม่เคยสังเกตมาก่อน พร้อมกันนั้นหัวใจที่เย็นชาของผมเริ่มอบอุ่นขึ้น...

% k4 t+ V- J2 L6 r& p3 [8 N# a

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
ตอบกลับ
16222
พลังน้ำใจ
79556
Zenny
210037
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:02:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(2) : พี่ยศ
" u% ?6 h6 ^7 w/ h3 {+ ~8 O. p5 Y1 R5 `3 j
ในที่สุด ผมก็เลยต้องให้พี่ยศขับรถไปส่งผม บ้านของผมยังอยู่ที่เดิมเหมือนเมื่อสมัยเรียน ซึ่งพี่ยศพอจำได้ลางๆ แต่ถนนหนทางก็เปลี่ยนไปมาก ผมจึงต้องคอยบอกทางให้ ระหว่างทาง เราคุยกันเพิ่มเติม ทำให้ผมรู้ว่าพี่ยศกลับมาอยู่ที่กรุงเทพฯได้ปีเศษๆแล้ว
: K% S- i8 ]' I0 c"กิจการก็ให้น้องชายดูแลไป ส่วนพี่ก็แยกตัวมาทำงานเอง อยากอยู่กรุงเทพฯน่ะเป้ อยากให้ลูกได้เรียนในกรุงเทพฯ แต่ก็ไม่อยากส่งลูกมาอยู่โรงเรียนประจำ ทำไงได้ล่ะ ก็ต้องหาทางกลับมาตั้งหลักปักฐานที่กรุงเทพฯใหม่" พี่ยศว่า
1 p8 e% q) R. ~% n( p9 [3 D7 Zหัวใจที่เริ่มอบอุ่นของผมกลับเย็นวูบลงไปอีก พี่ยศมีลูกแล้ว เมื่อมีลูกก็ต้องมีเมียแล้วน่ะสิ…
( N* z0 H7 t# y: C! O"มีข่าวดีตั้งแต่เมื่อไหร่ครับนี่ ผมไม่ได้ข่าวเลย" ผมพยายามพูดด้วยเสียงปกติ
! Z! D$ }- v7 I6 Y: }$ h5 r"แต่งมา 14 ปีแล้ว หลังจากที่พี่จบได้ 2 ปีก็แต่ง ตอนนี้ลูกอายุได้ 13 ขวบแล้ว กำลังเป็นหนุ่มเชียว" พี่ยศตอบ- z0 s, r+ ]" C4 l! h: ~2 a
"แล้วใครเป็นสาวผู้โชคดีครับ" ผมถามไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะรู้สึกผิดหวังอยู่บ้างที่พี่ยศมีเจ้าของเสียแล้ว แต่ก็เป็นเพียงอารมณ์ของปุถุชนเท่านั้น ไม่ได้เสียใจหรืออิจฉาแต่อย่างใด เพราะผมเองก็ไม่ได้ติดต่อกับพี่ยศนานมากแล้ว ความสนิทสนมในอดีตคงมีเหลืออยู่ไม่มากนัก "พี่ในคณะหรือเปล่าครับ"  s. t% k# w0 {8 A
"สาวที่ไหนกัน พ้นวัยสาวไปแล้ว" พี่ยศตอบ "เป็นคนเชียงใหม่น่ะ รู้จักกันหลังจากที่พ่อแม่พี่ย้ายไปที่นั่น"
# E0 w% N5 L; o/ D8 Pหลังจากนั้นเราก็คุยกันในเรื่องทั่วไป ระยะเวลาเพียง 45 นาทีจากคณะมาที่บ้านผม ผมกลับรู้สึกราวกับว่ามันช่วยฟื้นความสนิทสนมระหว่างผมกับพี่ยศให้กลับคืนมาได้อีกหลายปีทีเดียว พี่ยศในปัจจุบันกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีเสน่ห์และมีนิสัยดีน่าคบหาในสายตาของผม % f/ \: Q. E; T5 U, \/ O/ L* y
"ตรงนี้ละครับ ถึงแล้ว" ผมบอกพี่ยศให้จอดรถเมื่อเห็นพี่ยศจะขับเลยบ้านไป "แถวนี้คงเปลี่ยนไปมากจนพี่จำไม่ได้จริงๆ พี่จะเข้ามาข้างในบ้านก่อนไหมครับ"* b- l2 c/ b) d5 A" F" p- D  b# B: f
พี่ยศมองนาฬิกา "ไม่ดีกว่าเป้ ดึกมากแล้ว เดี๋ยวคนในบ้านตื่น รบกวนเปล่าๆ เอาไว้วันหลังพี่ค่อยมาตอนกลางวันก็แล้วกัน"
2 O+ c: M! F  U6 a. P"ถือเป็นสัญญานะครับว่าพี่จะมาอีก" ผมถือโอกาสคาดคั้นพี่ยศ ยังนึกแปลกใจตัวเองเหมือนกันที่ทำไมต้องไปเอาจริงเอาจังคำพูดตามมารยาทของพี่ยศขนาดนี้0 G0 L8 g* W5 c+ p2 D! w8 Q) c
หลังจากวันนั้น จิตใจของผมไม่ค่อยเป็นปกติเท่าไร คอยนึกถึงแต่พี่ยศ รู้สึกดีใจและประทับใจที่ได้พบกันอีก ผมไม่ค่อยแน่ใจตัวเองนักว่าผม 'ชอบ' พี่ยศเข้าให้แล้ว เพราะผมเองยังเข็ดขยาดกับความบอบช้ำที่ได้รับมาจากคนรักเก่า อีกอย่างพี่ยศก็เป็นคนมีลูกมีเมียแล้ว ผมยิ่งไม่ควรเข้าไปข้องเกี่ยว แต่อีกใจหนึ่งผมก็เข้าข้างตัวเองว่าผมคงอยากแสวงหาความอบอุ่นจากผู้ใหญ่ที่สนิทสนมบางคนเพื่อความสบายใจเท่านั้น มันคงเป็นการถวิลหาเพื่อชดเชยความอบอุ่นจากพ่อที่ผมขาดไปในวัยเด็ก ครับ พ่อเลิกกับแม่และไปมีหญิงคนใหม่ มันทำให้แม่เจ็บปวดมาก พ่อเป็นคนเจ้าชู้ มันทำให้ผมทั้งต่อต้านพ่อเพราะพ่อทำร้ายจิตใจแม่ แต่ขณะเดียวกันก็อยากได้ความอบอุ่นจากพ่อเหมือนเด็กคนอื่นๆที่มีพ่อแม่อยู่กันพร้อมหน้า พร้อมกันนั้นผมก็พัฒนาความรู้สึกไม่ชอบผู้หญิงมาตั้งแต่วัยเด็ก เพราะผู้หญิงเป็นคนมาแย่งพ่อไปจากแม่ แต่ผมก็รักแม่แม้แม่จะเป็นผู้หญิงก็ตาม
5 s& g. Y4 i9 Q: nตั้งแต่เด็กมาผมโตมาด้วยจิตใจที่สับสน ทั้งต่อต้านพ่อและอยากได้พ่อกลับมา ทั้งไม่ชอบผู้หญิงและก็ทั้งรักแม่ เมื่อผมพบพี่ยศอีกครั้ง ผมแก้ตัวให้แก่ตัวเองถึงความเปลี่ยนแปลงในจิตใจว่าคงเป็นเพราะต้องการ 'เพื่อน' ที่เข้าใจมากกว่า เพราะในอดีตพี่ยศเคยดูแลผมมา แม้จะเป็นช่วงสั้นๆเพียง 1 ปีในมหาวิทยาลัยก็ตาม
( Y) K) i) p, g* xหลายวันต่อมา ผมตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาพี่ยศที่บ้านในตอนเย็น หลังจากที่พยายามหักห้ามใจไม่ให้โทรไป แต่แล้วผมก็แพ้ใจตนเอง ผมเข้าข้างตัวเองว่าจะเป็นไรไปล่ะ ก็แค่โทรคุยนิดหน่อย ไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ทำไมจะโทรไปหาไม่ได้
! W" C8 }& u' P# n"ฮัลโหล" เสียงแจ้วๆมาตามสาย คงเป็นภรรยาของพี่ยศนั่นเอง ผมใจแป้วเล็กน้อย ใจหนึ่งอยากจะวางหูโทรศัพท์ลงไปเหมือนกัน แต่แล้วในที่สุดผมก็ไม่ได้วางหู "สวัสดีครับ ผมขอสายพี่ยศครับ" 4 L5 N8 {6 f3 W8 L3 a7 t; |
สักครู่พี่ยศก็ถูกตามตัวมารับสาย ผมหาเรื่องชวนคุยไปเรื่อย เพียงแค่อยากคุย อยากได้ยินเสียงของพี่ยศเท่านั้นเอง พี่ยศคงจะสงสัยอยู่เหมือนกันว่าผมโทรมาเพื่ออะไรกันแน่ เพราะฟังแล้วไม่มีอะไรเป็นสาระในการคุยเลย
6 K4 X& {" R) U7 Q7 t  j"ที่เป้โทรมานี่มีอะไรพิเศษหรือเปล่า มีอะไรให้พี่ช่วยไหม" พี่ยศคงอยากรู้เต็มทีว่าผมมีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่ ทั้งๆที่แม้แต่ผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่าผมโทรไปเพื่ออะไร แต่แล้วผมก็ฉุกคิดประเด็นขึ้นมาได้ "ก็ที่พี่รับปากไว้ไงครับ ผมโทรมาทวงสัญญา พี่คงลืมแล้วมั้ง" + Z, h/ x& r4 |$ F5 I
"อ๋อ" พี่ยศหัวเราะ "นึกว่าอะไร นี่เราเอาจริงเหรอ" พี่ยศถาม ผมอึ้งไปหน่อย จริงๆแล้วใครๆก็รู้ว่าการคุยในตอนนั้นมันเป็นตามมารยาทเท่านั้น นึกไม่ออกว่าจะพูดอะไรต่อดี ก็พอดีพี่ยศช่วยหาทางออกให้ เห็นไหมครับว่าพี่ยศยังเป็นพี่ที่ดีของผมเสมอ "เอายังงี้ เรานัดไปกินข้าวกันสักมื้อดีไหม จะได้คุยเรื่องเก่าๆกัน"# J7 R. o5 C  ^- ^# R: e
ผมตอบรับด้วยความยินดี ตกลงนัดกันตอนเย็นวันรุ่งขึ้นหลังเลิกงาน ที่ห้องอาหารแห่งหนึ่ง ใจหนึ่งของผม… คงเป็นส่วนดีของจิตใจ… พยายามบอกว่าผมไม่ควรไป และไม่ควรเดินไปให้ไกลกว่านี้ด้วย แต่…อีกใจหนึ่ง…บอกผมว่า ไปเถอะ แค่นี้จะเป็นไรไป … ) \) K6 M- K% e2 H  S/ Y  [& D
เย็นวันนั้นเป็นวันที่ผมมีความสุขมาก ได้รับประทานอาหารมื้อเย็นกับอดีตพี่รหัส … ผมฟังพี่ยศเล่าถึงประสบการณ์ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา หลังจากที่พี่ยศจบจากคณะก็ย้ายไปอยู่ที่เชียงใหม่พร้อมกับครอบครัวเพื่อตั้งรกรากและทำธุรกิจก่อสร้างที่นั่น โดยพี่ยศเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงช่วยพ่อดำเนินกิจการ ที่บ้านของพี่ยศเป็นครอบครัวชาวจีน พ่อแม่ของพี่ยศยังนิยมวิธีแต่งงานแบบกึ่งคลุมถุงชนอยู่ คือมีแม่สื่อมาแนะนำหญิงสาวให้รู้จักกัน เพื่อให้หนุ่มสาวได้สานความสัมพันธ์กันต่อไป ก็คงดีกว่าการคลุมถุงชนในสมัยก่อน ที่จับแต่งงานกันเลยตามความพอใจของพ่อแม่ แต่นี่ยังทอดเวลาให้ทั้งคู่สร้างความสัมพันธ์กันบ้าง แต่ผลสุดท้ายก็คงลงเอยไม่ต่างกันนัก อยู่แต่ว่าช้าหรือเร็วเท่านั้น
3 n5 C9 |# R1 k0 mพี่ยศแต่งงานด้วยวิธีนี้ ผมมองหน้าพี่ยศซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามบนโต๊ะอาหารสี่เหลี่ยมราวกับจะค้นหาความจริงอะไรบางอย่าง แต่… ผมไม่พบอะไรเลย3 c/ G; {% Y9 G- Q# T5 H
"เป้จ้องหน้าพี่ทำไม" ถามยิ้มๆ "มีอะไรงอกที่หน้าพี่เหรอ"
' n6 t9 T! X2 v9 v"ไม่มีหรอกครับ" ผมตอบ "อยากจะดูชัดๆว่าพี่เปลี่ยนไปแค่ไหนเท่านั้นเอง" + s* A5 N3 R" P5 v5 I9 M
"แล้วเปลี่ยนไปแค่ไหนล่ะ" พี่ยศจ้องหน้าจะเอาคำตอบจากผม จนผมต้องหลบสายตา "ก็มีทั้งที่เปลี่ยนและไม่เปลี่ยนครับ พี่ดูภูมิฐานขึ้น แต่นิสัยก็ยังคงเหมือนเดิม…น่ารักเหมือนเดิมครับ" ผมหลุดปากคำว่า 'น่ารัก' ออกไป % E  Q2 s! {  J" ^- E; W, g& D
พี่ยศถอนใจ "เวลาไม่คอยใครเลยนะเป้ พี่รู้ตัวว่าเปลี่ยนไปมาก บางทีก็ยังอยากกลับไปอยู่ในวันเวลาเก่าๆเหมือนกัน การได้เจอเป้ทำให้พี่รู้สึกมีความสุข เหมือนกับว่าได้ย้อนกลับไปในวันเก่าๆ แม้มันจะไม่เป็นความจริงก็ตาม แต่มันก็ยังเป็นความรู้สึกที่ดี" / E' b+ k) M7 h# U6 G+ W7 V
"ว่ากันว่าคนที่คิดถึงความสุขในอดีตแสดงว่าปัจจุบันมีความทุกข์ แต่เท่าที่ดูพี่ก็สมบูรณ์พร้อมนี่ครับ มีฐานะ มีครอบครัว งานก็ดี …": M, s. ~' c- R6 x0 n* _4 E
"มันก็ไม่เชิงหรอก" พี่ยศพูดขัดขึ้น ผมชักจะเห็นอะไรรำไรอยู่ในสีหน้าของพี่ยศ แต่แล้วพี่ยศก็เปลี่ยนไปชวนคุยเรื่องอื่น ทำให้เบาะแสในสีหน้านั้นขาดลง( z& W2 Q  Z, E
วันนั้นเราคุยกันอยู่หลายชั่วโมงทีเดียว เป็นอาหารเย็นที่ใช้เวลานานมาก แต่ผมกลับรู้สึกว่าเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งคุยกับพี่ยศก็ยิ่งมีความสุข ผมรู้สึกตัวว่ากลับไปเป็นนักศึกษาอีกครั้ง พี่ยศเองก็คงมีความรู้สึกนี้เช่นเดียวกัน
9 a  f8 o0 p# rหลังจากนั้นเราก็เริ่มติดต่อกันอีกครั้งหนึ่ง ผมโทรไปหาพี่ยศบ้าง พี่ยศโทรมาหาผมบ้าง เราคุยเล่นกันอย่างสนุกสนาน บางทีก็นัดกันไปกินข้าวเที่ยง ส่วนข้าวเย็นนั้นพี่ยศขอร้องว่าอยากกลับไปกินที่บ้านเพราะจะได้มีเวลาอยู่กับลูกๆด้วย ซึ่งผมก็เข้าใจ ความสนิทสนมและเป็นกันเองค่อยๆกลับคืนมาคล้ายเมื่อครั้งที่เรายังเป็นพี่รหัสน้องรหัสกันอยู่ / L! ?* l/ c' B5 J" U1 {
บางครั้งก่อนผมเข้านอน ผมจะสำรวจชีวิตของตนเองโดยนึกทบทวนเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไป การสำรวจชีวิตทำให้ผมพบความจริงว่าความสนิทสนมที่ผมมีให้แก่พี่ยศมันเริ่มไม่ธรรมดาเสียแล้ว วัยสามสิบกว่าอย่างผมไม่ใช่วัยที่ 'ติดเพื่อน' อีกแล้ว แต่นี่ผมกลับรู้สึก 'ติดพี่' นี่แหละที่ทำให้ผมต้องเริ่มตั้งสติและสำรวจใจของตนเองอย่างละเอียด
# p: \( S3 n2 l. Mแม้ผมจะรู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นในใจของตนเอง แต่ทางด้านพี่ยศแล้วผมยังไม่เห็นอะไร พี่ยศยังคงวางตัวดี ไม่ได้แสดงอาการว่า 'ชอบ' ผมในเชิงนั้นแม้แต่น้อยแม้ว่าเดี๋ยวนี้เราจะสนิทกันมากขึ้นก็ตาม ก็จะไปชอบได้อย่างไรล่ะในเมื่อพี่ยศเป็นผู้ชายแท้ๆ ทั้งยังมีครอบครัวแล้วด้วย % d5 E  \5 R; o) p7 e. b( \3 V
ก็ดีไปอย่าง ผมนึกในใจ ลูกเมียของพี่ยศจะได้เป็นกำแพงกั้นระหว่างผมกับพี่ยศไม่ให้เกินเลยขอบเขต ถ้าไม่มีกำแพงนี้อยู่ผมก็อาจควบคุมใจตนเองไม่ได้เหมือนกัน แต่เมื่อมีกำแพงนี้ ผมก็ยอมรับมัน ตอนนี้ผมขอเพียงแค่เสพความอบอุ่น ความสนิทสนม เท่าที่เพื่อนหรือพี่จะให้ได้อย่างมีขอบเขต … ผมขอเท่านั้นก็พอแล้ว
: Y: U9 l# L7 `1 q  J2 }7 d"เป้ วันนี้มากินข้าวเย็นที่บ้านพี่ไหม เป้ยังไม่รู้จักพี่ป้อมเลยนะ" จู่ๆพี่ยศก็โทรมาหาผมในเช้าวันเสาร์วันหนึ่ง อยากชวนผมไปกินข้าวที่บ้านเพื่อไปรู้จักกับครอบครัวของแก ผมรู้สึกแปลกใจเพราะเป็นคำเชิญที่ผมไม่คาดคิด ผมลังเลเล็กน้อย เพราะยังรู้สึกตะขิดตะขวงกับการไปพบหน้าคนในครอบครัวของพี่ยศ ถ้าเป็นไปได้ผมไม่อยากรู้จักหรอกครับ! M6 t9 _- L$ r  g* |
"มาเถอะน่า ป้อมเค้าทำอาหารเก่งนะจะบอกให้" พี่ยศคะยั้นคะยอ ในที่สุดผมก็ตอบรับคำเชิญ
; w6 b2 ]2 _" [0 M" S9 w; |

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
ตอบกลับ
16222
พลังน้ำใจ
79556
Zenny
210037
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:03:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(3) : อุบัติเหตุ , R/ A8 y5 ]7 x% P7 @# `
0 r7 h4 ?: ~2 W- p, Q
หลังจากนั้นผมก็ได้มีโอกาสไปเยี่ยมพี่ยศที่บ้าน และร่วมรับประทานอาหารกับครอบครัวของพี่ยศ ภรรยาของพี่ยศ พี่ป้อม เป็นคนที่เงียบๆ ไม่ค่อยโอภาปราศรัยนัก ผมเลยยังดูแกไม่ออกว่าเป็นคนอย่างไร แต่ลูกชายของพี่ยศน่ารักมาก มี 2 คน คนโตอายุ 13 กำลังเป็นหนุ่ม หน้าตาหล่อเชียว คล้ายพี่ยศสมัยเรียนมาก คุยเก่ง เข้ากับผู้ใหญ่ได้ดี ท่าทางจะโตเกินวัย หรือจะเรียกว่าค่อนข้างแก่แดดก็พอได้ ชื่อโต ส่วนอีกคนอายุ 10 ขวบ เจ้าเนื้อ ออกไปทางแม่มากกว่า ชื่อเล็ก
& N* l$ d$ [8 W2 s* F, Bครอบครัวของพี่ยศเท่าที่ดูก็มีความสุขดี ลูกๆก็น่ารัก โดยเฉพาะผมเข้ากับโตได้ดีทีเดียว หลังจากนั้นผมก็มาเที่ยวที่บ้านพี่ยศอีกเป็นบางครั้ง บางครั้งโตก็เอาการบ้านมาถามผม ซึ่งผมก็ช่วยได้บ้าง ช่วยไม่ได้บ้าง ทำเท่าที่พอจะจำได้ แต่โตเริ่มรู้สึกชอบ เลยขอให้ผมช่วยมาติววิชาเรียนให้แก
) _+ j4 s7 |) Sผมก็ชอบสิครับ เพราะอยากมาหาพี่ยศที่บ้านบ่อยๆ อยู่เหมือนกัน ยอมรับว่าเมื่อยู่ใกล้พี่ยศแล้วรู้สึกอบอุ่นใจ แม้จะรู้สึกตะขิดตะขวางใจอยู่กับพี่ป้อมอยู่บ้างก็ตามเพราะถึงอย่างไรทั้งคู่ก็เป็นสามีภรรยากัน การที่ผมมาแอบชอบพี่ยศนั้นออกจะไม่สมควร เพราะถึงชอบไปก็ทำอะไรไม่ได้ รังแต่จะสร้างความปวดร้าวใจแก่ตัวเองภายหลังเปล่าๆ แต่มันก็เหมือนกับแมงเม่ากับกองไฟ รู้ทั้งรู้ว่าไฟร้อนและอันตราย แต่ก็ยังอดเข้าไปไม่ได้ ผมก็เช่นเดียวกัน$ s2 ~4 A7 ]& k; t6 ]% b4 y4 N
ผมหาข้ออ้างให้แก่ตัวเองว่า แค่เราหาความสุขเล็กๆน้อยๆโดยการแอบชื่นชมคนที่เราพอใจ แล้วจะเป็นอะไรไป ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะแย่งพี่ยศมาครอบครองเลย เพียงแค่อยากหาความสุขในใจเท่านั้นเอง, ^. `) _2 q. z' z: n7 v
ตกลงผมเลยอาสาว่าจะมาติววิชาให้โตทุกวันเสาร์บ่าย พี่ยศเกรงใจผมมาก ตอนแรกไม่ยอม เพราะรู้ว่าผมทำงานก็เหนื่อยแล้ว แต่ผมก็ยืนกรานว่าไม่เป็นไร ผมยินดี ต่อมาพี่ยศเลยบอกว่าจะให้ค่าเหนื่อยผม ผมก็ปฏิเสธไม่รับ เพราะผมไม่ได้หวังเงินทองจากพี่ยศ พี่ยศเลยไม่อนุญาตให้โตเรียนกับผมเพราะเกรงใจผม ตั้งใจว่าจะส่งให้โตไปเรียนพิเศษแทน ในที่สุดผมก็เลยยอมรับค่าตอบแทนเพื่อแลกกับการให้ได้มาสอนพิเศษให้โต
) ^6 ^% d/ h+ T# yผมกับโตเข้ากันได้ดีทีเดียว ซึ่งนั่นเป็นช่องทางที่ดีที่จะทำให้ผมเข้ากับคนอื่นๆในครอบครัวพี่ยศได้ดีไปด้วยในเวลาต่อมา หลายเดือนผ่านไป ผมตั้งใจติวให้โตเป็นอย่างดี ไม่ได้คิดเพียงเพื่อเอามาเป็นข้ออ้างบังหน้า โตมีผลการเรียนที่ดีขึ้น ในที่สุด ผมก็เลยคล้ายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ไปโดยปริยาย โดยวันเสาร์บ่ายจะเป็นวันที่ผมไม่ยอมนัดกับใคร เพราะผมมีนัดที่บ้านพี่ยศเสียแล้ว
6 Y! X' Q! N& v) Z+ Y$ N8 A) gบางครั้ง เมื่อว่างจากการสอนพิเศษ บางทีผมก็อาสาพาโตกับเล็กไปเดินเที่ยวห้างบ้าง หรือบางครั้งเมื่อพี่ยศจะออกไปซื้อของ ผมก็ขอติดรถไปห้างด้วย (ระยะหลังผมไม่ค่อยได้ขับรถไปสอนพิเศษ เพราะจะได้มีข้ออ้างติดรถไปกับพี่ยศได้) บางครั้งพี่ป้อมไปด้วย แต่บางครั้งผมก็ไปกับพี่ยศสองต่อสอง8 d/ _  Z& {& [2 m9 u# j0 @( Y
ผมสนิทกับพี่ยศมากขึ้นทุกวัน รู้สึกอบอุ่นและเป็นสุขทุกครั้งที่ได้ไปเดินซื้อของกับพี่ยศสองต่อสอง ความสนิทของผมเป็นความสนิทสนมที่พี่ป้อมไม่ทันได้ระแวง เพราะผมเข้านอกออกในบ้านพี่ยศอย่างเปิดเผย รวมทั้งเวลาอยู่ในบ้านผมก็พยายามวางตัวไม่ให้สนิทสนมกับพี่ยศจนเกินขอบเขต ส่วนตอนที่เราไปไหนมาไหนด้วยกันสองคนนั้นเราจะเดินไป คุยไป อย่างสนุกสนานและเป็นกันเอง ผมมีความรู้สึกลึกๆ ซึ่งไม่รู้ว่าเข้าข้างตัวเองหรือเปล่า ว่าพี่ยศก็ดูจะมีใจให้ผมบ้างเหมือนกัน
: j8 k9 u8 J2 X/ _5 z( Aนานวันเข้า ผมก็หายใจเข้าออกเป็นพี่ยศ แผลใจของเมื่อ 3 ปีที่แล้วได้รับการเยียวยาจากพี่ยศจนหายสนิท ตอนนี้ผมหลงพี่ยศอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว แม้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจะคอยเตือนผมว่านี่มันเลยขอบเขตอันควรมาไกลแล้ว แต่ผมก็ไม่สนใจ ผมมักอ้างกับตัวเองเสมอว่านี่เป็นเพียงแค่ความสุขทางใจของผมเท่านั้น เพราะผมกับพี่ยศยังไม่มีอะไรกันทางร่างกาย รวมทั้งพี่ยศเองก็ยังไม่เคยแสดงออกว่าชอบผมด้วย เพียงแค่สนิทกันเท่านั้น แล้วอย่างนี้จะเป็นไรไป
* [" E- W7 ]0 U+ ^7 [: lแม้ผมรู้ว่าผมกำลังหลอกตัวเอง แต่ผมก็ยินดีที่จะหลอกตัวเอง ช่วงนั้นเหมือนกับว่าผมขาดพี่ยศไม่ได้เลย ผมโทรไปหาพี่ยศทุกวันที่ที่ทำงาน ที่โทรไปที่ที่ทำงานเพราะไม่ต้องการให้พี่ป้อมรู้ คุยกันวันละนิดวันละหน่อย แต่บางวันก็คุยกันนาน วันไหนหากไม่ได้ยินเสียงพี่ยศผมจะหงุดหงิดใจมาก บางทีถึงกับทำงานไม่รู้เรื่อง % ]; I1 g  ]6 r% q
และที่น่าแปลกคือ บางวันที่ผมติดประชุมและไม่สามารถโทรไปหาพี่ยศได้ เมื่อผมเลิกประชุม ผมกลับพบว่าที่โทรศัพท์มือถือของผมมีหมายเลขของพี่ยศค้างอยู่ นั่นแสดงว่าพี่ยศก็รู้สึกว่าอยากคุยกับผมทุกวันเหมือนกัน ความจริงข้อนี้ทำให้ผมค้นพบว่าพี่ยศก็เริ่มมีใจผูกพันกับผมแล้ว ซึ่งที่จริงผมก็รู้สึกมานานพอสมควรแล้วเหมือนกัน แต่พี่ยศมักไม่แสดงอะไรออกมาให้เห็นอย่างชัดแจ้ง ผมจึงไม่ค่อยแน่ใจเท่าใดนัก0 y. @3 B: m8 ^4 M7 Y' [, Q
ความจริงข้อต่อมาที่ผมสังเกตได้ก็คือ ระยะหลังพี่ยศมักหาโอกาสที่จะไปเดินเที่ยวห้างกับผมบ่อยๆ บ่อยกว่าที่จะไปกับพี่ป้อมเสียอีก โดยบางครั้งก็มีโตกับเล็กติดไปด้วย ส่วนพี่ป้อมอยู่เฝ้าบ้าน * J' D' r" A" U2 a$ Z3 u
"เป้ หยุดได้แล้ว" ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของผมเตือนตัวเองในใจเสมอ "เรื่องอะไรจะหยุด มาถึงขั้นนี้แล้ว" ใจใฝ่ต่ำของผมตอบ ! ~( P1 F) B( L$ b, s( H
"ไหนว่าจะหาความสุขทางใจเท่านั้นไง นี่มันเกือบจะถอนตัวไม่ขึ้นแล้วนะ" ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของผมเตือนอีก "ก็เรายังไม่มีอะไรกันนี่นา แล้วก็จะไม่มีอะไรกันด้วย แล้วจะต้องไปถอนตัวทำไม" ใจใฝ่ต่ำของผมยังปากแข็ง
, A4 s# U# M  |เย็นวันหนึ่ง ขณะที่ผมเลิกงานและกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน วันนั้นเป็นวันที่ผมรู้สึกผิดปกติ จิตใจไม่สบายมาตั้งแต่ตอนกลางวันแล้ว
3 x' F9 l# n4 s, \จนเย็นแล้ว แม่ก็ยังไม่กลับบ้าน ผมรู้สึกแปลกใจ เพราะวันไหนหากแม่ไปจ่ายตลาดก็มักกลับไม่เกินบ่าย 4 โมง จากนั้นก็จะเข้าครัวทำกับข้าวเล็กๆน้อยๆกินกัน 2 แม่ลูก ตั้งแต่พ่อแยกทางไป แม่ก็กัดฟันเลี้ยงดูส่งเสียผมมาตลอดโดยไม่ยอมมีพ่อใหม่เพราะกลัวว่าผมจะเข้ากับพ่อเลี้ยงไม่ได้ นี่จึงทำให้ผมรักแม่มาก เราสองคนฝากชีวิตแก่กันและกันมาตลอด
1 ?5 F# C1 A. wแต่นี่ 6 โมงเย็นแล้วก็ยังไม่เห็นวี่แววของแม่เลย …9 T2 }; o0 `5 W  `6 r: [- M3 p
6 โมงครึ่ง เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้น ผมรีบไปรับสาย แม่โทรมาแน่ๆ2 J/ J' n5 S5 p' u1 @3 m8 p
"ฮัลโหล บ้านคุณ…ใช่ไหมคะ" เสียงนั้นเอ่ยชื่อผม "ใช่ครับ" ผมตอบ ใจหายที่ไม่ใช่แม่ เงาทมึนแห่งความกลัวครอบคลุมจิตใจของผมอย่างรวดเร็ว ผมเริ่มสังหรณ์ใจว่าจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น "คุณเป็นอะไรกับคุณ … หรือคะ" เสียงนั้นเอ่ยชื่อแม่ของผม "เป็นแม่ครับ" ผมตอบเสียงสั่น
4 z7 j0 M( J% A* Q$ V"ดิฉันโทรจากโรงพยาบาล … นะคะ คุณแม่ของคุณได้รับอุบัติเหตุค่ะ ตอนนี้อยู่ในห้องไอซียู เราพบนามบัตรของคุณในกระเป๋าถือของคนไข้ เลยโทรมาแจ้งให้ทราบค่ะ" ผมใจหายวาบ โทรศัพท์ที่ถืออยู่แถบหลุดจากมือ มันเป็นเหตุร้ายครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม "ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้ครับ" ผมตอบ
3 S, C* Q7 D& Eผมรีบเดินทางไปโรงพยาบาลทันที ตอนนั้นจิตใจผมไม่อยู่กับตัว ผมไม่กล้าขับรถเพราะคิดว่าผมไม่อยู่ในภาวะที่จะขับรถได้ในตอนนั้น จึงเรียกแท็กซี่ไปส่งที่โรงพยาบาล
" ?3 U" {" D) v/ @เมื่อไปถึงที่โรงพยาบาล ผมจึงทราบจากพยาบาลที่ดูแลแม่ว่า แม่ถูกนำมาส่งที่โรงพยาบาลเนื่องจากถูกรถชนขณะข้ามถนน มีพลเมืองดีนำมาส่งที่โรงพยาบาลพร้อมทั้งฝากหมายเลขทะเบียนรถที่ชนไว้ให้ด้วย อาการของแม่หนักมาก ศีรษะกระแทกพื้น มีเลือดออกในสมอง จนบัดนี้ก็ยังไม่ฟื้น
) B$ l+ e9 A# T8 @1 gสมองผมตื้อไปหมด คิดอะไรไม่ออก แม้ผมจะมีอายุล่วงเข้าวัยเลขสามแล้ว แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ผมก็ยากที่จะจัดการได้ เหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับแม่ที่ผมรักมากที่สุดทำให้ผมสูญเสียความเยือกเย็นและความสามารถในการตัดสินใจเกือบทั้งหมดไป ผมต้องการที่พึ่งในยามหน้าสิ่วหน้าขวานนี้สักคน
! J! Z6 I0 ^- A. B/ lพี่ยศ! ชื่อนี้วูบเข้ามาในใจผม ใช่แล้ว พี่ยศต้องช่วยผมได้แน่ อย่างน้อยก็ทำให้ผมไม่รู้สึกเดียวดายเหมือนอยู่คนเดียวในโลก ตอนนั้นเป็นเวลา 2 ทุ่มแล้ว เมื่อผมนึกได้ก็รีบโทรหาพี่ยศทันที' q' P* `7 g5 k
พี่ยศรับทราบเรื่องแล้วก็รีบเดินทางมาที่โรงพยาบาลในทันทีทั้งๆที่ยังกินอาหารเย็นค้างอยู่ ผมรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมา เมื่อได้พบกับพี่ยศ มันเหมือนกับคนเรือแตกที่เกาะเกี่ยวขอนไม้ในทะเลไว้ได้' @. M" i6 z5 Q/ Q
พี่ยศรีบสอบถามอาการของแม่จากผมและอยู่เป็นเพื่อนผม จนเกือบเที่ยงคืน แม่ก็ยังไม่รู้สึกตัว หมอแนะนำให้ผมกลับไปพักผ่อนก่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ เพราะอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร5 f- y7 A1 u% E8 U$ x
เที่ยงคืนแล้ว พี่ยศพาผมไปส่งที่บ้าน จากนั้นเตรียมตัวจะกลับ แต่แล้วพี่ยศก็หยุดชงักแล้วมองหน้าผม, }0 G) \6 j4 j# l
"เป้ อยู่คนเดียวได้นะ" พี่ยศถามอย่างเป็นห่วง "ได้ครับพี่ ไม่ต้องเป็นห่วง" ผมตอบ
& a5 ?  @: ]' }+ L) o" f0 P"พักผ่อนเสียนะ พรุ่งนี้ยังต้องยุ่งอีก" พี่ยศกำชับ ผมรู้สึกอบอุ่นใจ "คงนอนไม่หลับหรอกครับ ผมเป็นห่วงแม่ กลัวเหลือเกินว่าแม่จะเป็นอะไรไป" ว่าแล้วผมก็กลั้นสะอื้นไม่อยู่ แม้พยายามกลั้นอย่างสุดความสามารถ ลูกผู้ชายจะร้องไห้ง่ายๆได้อย่างไร โดยเฉพาะต่อหน้าคนอื่น
. C2 t& D( R" Zแต่แล้วผมก็กลั้นไม่อยู่ จากสะอื้นกลายเป็นปล่อยโฮออกมา ผมร้องไห้อย่างไม่อายพี่ยศเลย ตอนนั้นผมใจเสียมากเพราะรู้จากหมอว่าอาการของแม่นั้นหนักมาก หนักจนอาจไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าแม่อีก จะมีโอกาสก็ต้องเกิดปาฏิหาริย์เท่านั้น นี่ถ้าพี่ยศไม่อยู่ผมอาจไม่ร้องไห้ออกมาก็ได้ แต่การที่พี่ยศอยู่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าความทุกข์ของผมยังมีพี่ชายอีกคนหนึ่งที่คอยช่วยแบ่งเบา2 i1 B+ `" _/ h. i3 i, F
พี่ยศรีบเข้ามาปลอบผมทันที "เป้ ใจเย็นๆนะ อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ เอายังงี้ คืนนี้พี่อยู่เป็นเพื่อนเป้เอาไหม" พี่ยศอาสา เป็นอันว่าคืนนั้นพี่ยศก็นอนค้างที่บ้านผมเพื่ออยู่เป็นเพื่อนผม โดยโทรศัพท์ไปบอกพี่ป้อมไว้
5 Y( h: [8 i" }

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
ตอบกลับ
16222
พลังน้ำใจ
79556
Zenny
210037
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:04:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(4) : ความสูญเสีย 8 w7 S- J0 a, X  Y' X

$ W! \. Z+ h" e. Eเนื่องจากปกติที่บ้านของผมอยู่กันเพียง 2 คน ดังนั้นห้องที่สามารถใช้นอนได้จึงมีเพียง 2 ห้อง คือ ห้องแม่และห้องผม ส่วนห้องอื่นๆก็เอาไว้เก็บของบ้าง ถูกทิ้งไว้จนฝุ่นเกาะบ้าง ไม่สามารถใช้นอนได้ ผมจึงให้พี่ยศนอนในห้องของผม ส่วนผมไปนอนในห้องแม่แทน 1 f& f1 J" w. v3 E9 Q" K% y/ i
แม้จะเหน็ดเหนื่อย แต่ผมก็กลุ้มใจจนนอนไม่หลับ พลิกไปมากระสับกระส่ายอยู่เป็นนานก็ไม่หลับ จึงคิดว่าถ้าอย่างนั้นลองฟังเพลงผ่อนคลายอารมณ์สักพักเผื่อว่าจะทำให้หลับได้ เพราะถึงอย่างไรผมก็ควรพักผ่อนเอาไว้เพื่อให้มีแรงผจญกับเรื่องยุ่งในวันรุ่งขึ้น6 H7 x, P+ l# ^3 }: S
ผมเดินออกจากห้องนอนแม่เพื่อเข้าไปเอาวิทยุในห้องนอนของผม หวังว่าพี่ยศคงไม่ได้ล็อกห้อง ผมจะได้เข้าไปหยิบได้โดยสะดวก + [9 T0 |  D2 k. C
โชคดีที่พี่ยศไม่ได้ล็อกห้อง ผมจึงเดินเข้าไปเปิดไฟดวงเล็กที่โต๊ะทำงาน และหยิบวิทยุอย่างเงียบกริบ เพราะเกรงว่าพี่ยศจะตื่น
; F3 F" Z! b8 k3 W: ]ขณะหยิบวิทยุ สายตาของผมก็อดมองพี่ยศที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงผมไม่ได้ แสงสลัวจากไฟดวงเล็กขับเน้นยิ่งทำให้พี่ยศดูน่ารักยิ่งขึ้น ผมใช้สายตากวาดดูพี่ยศมาตั้งแต่ดวงหน้าอันงดงาม เรือนร่างอันสมส่วนและแข็งแรง และไปหยุดที่เป้ากางเกงนอนตัวบาง มันตุงขึ้นมาอย่างผิดสังเกต มังกรของพี่ยศคงกำลังชูชันอยู่ภายใน ผมมองพี่ยศด้วยความชื่นชมสักครู่แล้วก็ออกมาอย่างเงียบๆ
1 {/ H) U/ j+ y' m* Iผมนอนไม่หลับจนกระทั่งเช้า หลังจากอาบน้ำแต่งตัวก็เตรียมจะไปที่โรงพยาบาล พี่ยศเห็นท่าทางผมอิดโรยมากจึงอาสาไปส่งผมเช่นเคย ซึ่งคราวนี้ผมก็ไม่ปฏิเสธเพราะนึกอยากได้ใครสักคนไปเป็นเพื่อนด้วยจริงๆ ตอนบ่าย พวกญาติๆซึ่งมีกันไม่มากก็ทยอยกันมาเยี่ยม และหลังจากนั้นก็มาอีกเป็นครั้งคราว ตามแต่ใครจะสะดวก ซึ่งญาติก็มากันไม่มากนักเพราะถึงมาก็เข้าไปเยี่ยมแม่ไม่สะดวกเพราะแม่ไม่รู้สึกตัวอยู่ในห้องไอซียู ส่วนพี่ยศนั้นหลังจากวันแรกแล้ววันต่อๆมาก็มักจะมาในตอนเย็นและอยู่เป็นเพื่อนผมจนกระทั่งดึก 2 G3 ^' R( A1 P* N
หลังจากที่แม่เข้ารักษาอยู่ในโรงพยาบาลได้ 5 วัน เช้าวันหนึ่ง แม่ก็จากผมไปอย่างไม่มีวันกลับ แม่ไม่ได้ฟื้นขึ้นมาอีกเลยหลังจากเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นผมจึงไม่มีโอกาสแม้แต่จะร่ำลาแม่เป็นครั้งสุดท้าย แม่เสียชีวิตอย่างเดียวดายในห้องไอซียูตอนเช้ามืด ก่อนที่ผมจะมาถึงเล็กน้อย ดังนั้นครั้งสุดท้ายที่ผมได้อยู่กับแม่สองต่อสองก็เป็นตอนที่แม่จากโลกนี้ไปแล้ว ผมพยายามกลั้นสะอื้นไว้แต่ก้อนสะอื้นนั้นมันใหญ่เกินกว่าผมจะกลั้นไว้ได้ ในที่สุดผมก็ร้องไห้ออกมาเหมือนเด็กๆ นึกถึงความหลังที่ผ่านมาแล้วก็สงสารแม่ แม่มักเดียวดายเสมอ หลังจากที่พ่อจากไป แม่ก็กลายเป็นคนเงียบขรึม กลางวันแม่จะอยู่ที่บ้านคนเดียวเสมอเนื่องจากผมต้องไปเรียนหรือไปทำงาน
) d2 D, @, F* o! Q0 s+ F' Dพยาบาลแจ้งให้ผมทราบว่าผมควรรีบแต่งตัวแม่โดยเร็ว เพราะถ้าทิ้งไว้นานจะแต่งตัวยากเนื่องจากร่างกายจะเริ่มแข็งเกร็ง พร้อมทั้งทิ้งให้ผมอยู่กับแม่เพียงลำพังเพื่อจัดการแต่งตัวแม่ ผมนั่งนิ่งอยู่ข้างเตียงของแม่ ตอนนี้ผมงงไปหมด คิดอะไรไม่ออกเลย เรื่องต่างๆประดังเข้ามาในสมอง ไหนจะต้องจัดการเรื่องหลังของแม่ ไหนจะเรื่องการดำเนินคดีกับคนขับรถใจทรามที่ชนแม่แล้วหนีไป ไหนจะห่วงพะวงเรื่องงาน เรื่องบ้าน มันสับสนไปหมด…
& p, E' w# Q) p+ s3 N" _ขณะที่ผมกำลังนั่งสะอื้นอยู่นั้นเอง ผมก็รู้สึกว่ามีมือมาตบที่ไหล่ของผมเบาๆ ผมหันกลับไปดู พี่ยศนั่นเอง…$ O8 Y/ s1 J+ [) W6 l
ไม่รู้ว่าพี่ยศมาตั้งแต่เมื่อไร แต่ช่างโชคดีเหลือเกินที่วันนี้พี่ยศแวะมาตอนเช้า พอผมเห็นพี่ยศเท่านั้น น้ำตาลูกผู้ชายที่ผมพยายามกลั้นเอาไว้ก็หลั่งออกมาอีก ผมโถมเข้าไปกอดพี่ยศพร้อมทั้งปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย
5 h2 H* i2 T4 O3 ]! [4 ]พี่ยศสวมกอดผมไว้ เอามือตบหลังผมเบาๆ ช่วงนั้นเองที่ผมได้รับรู้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายอันแข็งแกร่งของพี่ยศ มันเป็นความอบอุ่นคล้ายกับที่พ่อเคยมีให้แก่ผมเมื่อนานมาแล้ว 9 Y; w- s' Z" K) }4 |; R. O' r4 h
พี่ยศกอดผมไว้สักครู่ก็ผละออก แล้วเตือนให้ผมได้สติเพื่อจัดการเรื่องต่างๆให้เรียบร้อย ส่วนตัวพี่ยศเองก็บอกว่าวันนี้จะไม่ไปทำงานแต่จะอยู่ช่วยผม รวมจนถึงพรุ่งนี้ด้วยถ้าจำเป็น3 U4 e  b( X# \6 ^5 ^
ผมรีบจัดการแต่งตัวให้แม่ แต่งไปน้ำตาก็คลอเบ้าไป จำได้ว่าเด็กๆแม่เป็นคนแต่งตัวให้ผมไปโรงเรียน ต้องเคี่ยวเข็ญกันตั้งนานกว่าจะแต่งตัวเสร็จ แต่ผมไม่นึกเลยว่าจะมีโอกาสได้แต่งตัวให้แม่บ้างในสภาพการณ์เช่นนี้ ส่วนพี่ยศก็รีบจัดการติดต่อวัดเพื่อจัดงานศพให้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ผมไม่มีความรู้หรือประสบการณ์เลย นี่ถ้าไม่ได้พี่ยศเรื่องราวต่างๆคงไม่เรียบร้อยโดยง่ายขนาดนี้
( f" Y6 S; s) Fในช่วงบ่าย เรื่องวัดก็เรียบร้อย ผมจึงโทรไปแจ้งญาติๆถึงกำหนดการเกี่ยวกับงานศพซึ่งเป็นงานศพที่เรียบง่าย เพราะบ้านของเราไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร ไม่มีคนรู้จักหรือนับหน้าถือตา คงมีแต่เพื่อนฝูงของแม่ ของผม และญาติๆข้างแม่เท่านั้น แต่ในบรรดาญาติทั้งหลาย มีอยู่คนเดียวที่ผมไม่ได้แจ้งข่าวเกี่ยวกับเรื่องของแม่ คนๆนั้นก็คือพ่อ! ผมไม่ต้องการให้พ่อรู้และมางานเพราะผมคิดว่าพ่อต้องรับผิดชอบต่อการตายของแม่ด้วย แม้มันจะเหมือนกับความคิดของเด็กๆที่พาลไปโทษพ่อ แต่มันก็ช่วยไม่ได้ เพราะแม่คงไม่เป็นอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้และมาพบจุดจบเช่นนี้ถ้าพ่อไม่ทิ้งแม่ไป6 y6 P& P3 F8 W. k' F
เย็นวันนั้น งานสวดศพวันแรกก็เริ่มขึ้น เป็นงานเล็กๆ มีคนมากันเพียงยี่สิบกว่าคน ผมกะว่าสวด 3 วันก็น่าจะพอเพราะเราไม่ใช่ครอบครัวใหญ่เป็นที่รู้จักแต่อย่างใด อีกอย่าง ชีวิตแม่เรียบง่ายมาตลอด แม่คงชอบใจกับการจัดการเรื่องหลังของแม่อย่างเงียบๆมากกว่า ซึ่งนั่นก็เป็นนิสัยของผมที่รับมาจากแม่ด้วยเช่นกันที่ไม่ชอบความเอิกเกริกหรูหรา
- j$ {3 J4 ?9 T8 n& xพี่ยศช่วยผมมากทีเดียวในงานศพครั้งนี้ ผมรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของพี่ยศมาก แต่ก็ไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรดี หลังจากงานสวดวันแรกเสร็จสิ้นลง และแขกทุกคนกลับกันหมดแล้ว คงเหลือผมและพี่ยศที่กำลังจะกลับ ผมจึงถือโอกาสขอบคุณพี่ยศ เพราะตั้งแต่มีเรื่องยุ่งๆ พี่ยศช่วยผมมาตลอดโดยที่ผมยังไม่มีโอกาสกล่าวคำขอบคุณสักครั้งเลย ผมยกมือไหว้พี่ยศอย่างนอบน้อม แล้วกล่าวขอบคุณพี่ยศอย่างจริงใจ% }- L' w) M; I: e, y: a
"นี่ถ้าไม่ได้พี่ผมก็ไม่รู้จะจัดการเรื่องพวกนี้ให้เรียบร้อยได้ยังไง ผมขอบคุณพี่มาก ซาบซึ้งในน้ำใจพี่จริงๆครับ" 2 s; \/ l- C: X: q( ~+ A0 y2 P
พี่ยศรับไหว้แล้วยกมือลูบหัวผมเบาๆ แปลกมาก ปกติพี่ยศไม่เคยลูบหัวผมเลย แต่วันนี้กลับทำ เงาร่างของพี่ยศจากที่เคยอยู่ในฐานะของพี่ชายที่แสนดี ตอนนี้กลับเคลื่อนเข้าไปทับซ้อนกับเงาร่างของ 'พ่อ' ในจินตนาการของผมเข้าไปทุกขณะ "ไม่เป็นไรเป้ พี่ยินดีช่วย อย่าลืมสิว่าเป้เป็นน้องรหัสของพี่" พี่ยศหยอกผม ทำให้อารมณ์ของผมแจ่มใสขึ้นบ้างเล็กน้อย' d& A: t) W' }1 z' F1 G) x9 N/ m
"แต่นี่เราจบมาตั้งนานแล้วนะครับ" ผมแย้ง แต่ลึกๆแล้วกลับรู้สึกอบอุ่น
, I: v+ ~0 b& G& X3 H/ w0 q" g# w5 x"ใครบอกว่าเป็นแค่ตอนเรียนล่ะ เราเป็นน้องพี่ตลอดชีวิตเลยต่างหาก" พี่ยศบอก ผมรู้สึกตื้นตัน ต่อมน้ำตาใกล้จะเริ่มทำงานอีกแล้ว ผมต้องสูดลมหายใจลึกๆเพื่อข่มความพลุ่งพล่านในใจเอาไว้+ \. @1 t: d8 l2 C7 j, ?0 @
"ไป เรากลับกันเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องยุ่งอีก" พี่ยศว่า ผมเห็นด้วย จึงลาพี่ยศเพื่อจะกลับบ้าน แต่พี่ยศฉุดมือผมไว้
; t4 \- a; H# c  \! ]+ C- M"เดี๋ยวก่อนเป้ แน่ใจหรือว่ากลับไปนอนที่บ้านนั้นคนเดียวได้" พี่ยศถาม ผมอึ้งไป ใช่สิ ถ้าผมกลับไปก็ต้องนอนอยู่ในบ้านนั้นคนเดียว ความรู้สึกของผมกับบ้านหลังนั้นแตกต่างไปจากเดิม แต่ก่อนเคยเป็นรังเล็กๆอันอบอุ่นให้นกน้อยอย่างผมซุกหัวนอนใต้ปีกของแม่นกอย่างแม่ แต่ตอนนี้ บ้านหลังนั้นเป็นเพียงแค่ความหลังอันอบอุ่นเสียแล้ว เพราะนับแต่นี้จะไม่มีแม่อีกต่อไป ใจหนึ่งผมก็อยากกลับไป กลับไปอยู่ในบ้านที่ผมและแม่เคยรัก แต่อีกใจหนึ่งก็กลัว ผมกลัวความเงียบเหงาเดียวดาย และความคิดถึงแม่ / V8 b* Y- r4 m3 P: E: @
"ได้ครับ พี่" ผมจำใจโกหก
3 m3 u/ l" R8 l+ V0 X, l+ xพี่ยศมองหน้าผมราวจะค้นหาความจริง "ไม่จริงละมั้ง ต้องการให้พี่ไปอยู่เป็นเพื่อนไหม เป้บอกมาได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ"* g, O6 i3 E3 S
ใจหนึ่งผมก็รู้สึกต้องการดังที่พี่ยศว่า แต่อีกใจก็เกรงใจพี่ยศ รวมทั้งทางบ้านของพี่ยศด้วย หลังจากลังเลอยู่อึดใจหนึ่ง ในที่สุดผมก็โยนภาระการตัดสินใจให้พี่ยศ "แล้วแต่พี่ก็แล้วกันครับ ผมเกรงใจพี่น่ะครับ พี่ยุ่งเพราะผมมามากแล้ว อีกอย่าง โตกับเล็กอาจจะคิดถึงพ่อด้วย"
1 {& W, `8 z: H# q: ?( L0 |"ยังงั้นตกลงตามนี้" พี่ยศสรุป ซึ่งผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่าที่ว่าตกลงตามนี้คืออะไร แต่แล้วก็เข้าใจเมื่อพี่ยศพูดต่อ "พี่เป็นห่วงเป้น่ะ รู้ว่าเป้นอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว เดี๋ยวขับรถกลับบ้านคนเดียวแล้วจะอันตราย ถ้างั้นคืนนี้พี่จะไปอยู่เป็นเพื่อนเป้ แล้วจะได้ขับรถกลับบ้านตามเป้ไปด้วย" & U" h* K% U1 ~
เราทั้งคู่ขับรถกลับจากวัดมาถึงบ้านของผมด้วยความเรียบร้อย คืนวันก่อนที่พี่ยศมาค้าง ผมนอนที่ห้องแม่ ส่วนพี่ยศนอนที่ห้องผม แต่คืนนี้ผมไม่อยากนอนที่ห้องแม่เลย ผมเลยจัดแจงย้ายเครื่องนอนมาเพื่อจะนอนที่ชั้นล่าง เมื่อพี่ยศเห็นเข้าก็แปลกใจ "อ้าว นั่นเป้ทำอะไรน่ะ"
" N6 Y, {0 B: X/ x' ]8 ?"คืนนี้ผมจะนอนข้างล่างครับ ผมไม่อยากนอนที่ห้องแม่ ผมไม่ได้กลัวนะครับ แต่อยู่ในนั้นแล้วนอนไม่หลับ จะร้องไห้เอาด้วย คิดถึงแม่ครับ" ผมพูดเสียงเศร้า คราวนี้พี่ยศดึงผมเข้ามาชิดตัวแล้วโอบผมไว้ เหมือนพี่โอบน้อง เหมือนพ่อโอบลูก หรือเหมือน…% e9 W7 X! ?0 g0 L7 a
"งั้นเป้เข้าไปนอนในห้องเป้ก็แล้วกัน พี่จะนอนข้างล่างเอง" พี่ยศเสนอ ( \7 x' L0 Y. o, Q. l: X
"ไม่ได้ครับ ผมจะให้พี่นอนข้างล่างได้ไง ยุงเยอะครับ แล้วต้องนอนบนโซฟาด้วย มันไม่สบายเหมือนเตียงหรอก ผมนอนเองครับ" ผมไม่ยอม3 }$ Y( S8 Q1 x" e& Q. J, o) t
"เอายังงี้ เราก็นอนห้องเดียวกันก็แล้วกัน เป้อย่ามานอนข้างล่างเลย พี่ปูเสื่อนอนกับพื้นในห้องนอนเป้ก็ได้" ดูสิครับ พี่ยศทำให้ผมซาบซึ้งและอบอุ่นใจเหลือเกิน9 T, B( x. u- {- g5 S
เป็นอันว่าคืนนั้นเราทั้งคู่นอนอยู่ในห้องเดียวกัน คือห้องนอนของผม โดยผมยกเตียงนอนให้พี่ยศพร้อมทั้งห้ามพี่ยศปฏิเสธ ส่วนผมเอาเตียงพับมากางนอน ซึ่งก็นอนได้สบายพอควร" a$ l- L. k( W" A; G# _" O
ดึกแล้ว… ผมยังไม่หลับ คงนั่งอยู่บนเตียงพับท่ามกลางความมืด คิดโน่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อย สายตาของผมจับจ้องอยู่ที่พี่ยศบนเตียงนอนทั้งๆที่มองไม่ค่อยเห็นอะไรเนื่องจากไม่ได้เปิดไฟ ถึงมองไม่เห็นแต่ก็อยากมอง หลายวันนี้ผมยุ่งกับเรื่องราวต่างๆมากมาย แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความใกล้ชิดและเอื้ออาทรที่พี่ยศมอบให้ในยามที่ผมต้องการความช่วยเหลือ ผมอยากมีพี่ชายหรือมีพ่อที่ให้ความอบอุ่นแก่ผมแบบนี้มานานแล้ว
" |5 j: ?' u9 M$ s$ Aตีสามแล้ว ผมค่อยๆล้มตัวลงนอน ยังไงก็ต้องพักผ่อนเอาแรงไว้บ้าง พรุ่งนี้ยังมีเรื่องอีกมาก แต่เพิ่งจะนอนนิ่งไปได้หน่อยเดียวก็รู้สึกว่าพี่ยศขยับตัวลุกขึ้นมาจากเตียง ผมหรี่ตาดู แกล้งทำเป็นหลับ เพื่อจะดูว่าพี่ยศจะทำอะไร
8 E6 i' M4 J8 p+ M- F' V, Cพี่ยศเดินมาทางผม แล้วยืนนิ่งสักครู่ คล้ายกำลังมองดูผมอยู่ จากนั้นก็เอื้อมมือมาขยับผ้าห่มของผมให้เข้าที่เรียบร้อย ผมรู้สึกว่าพี่ยศกำลังนั่งลงแล้วโน้มหน้ามาใกล้ใบหน้าของผม ผมจึงรีบหลับตาให้สนิท พี่ยศเอื้อมมือมาลูบศีรษะของผมเบาๆ ผมรู้สึกได้ว่ามือข้างนั้นแฝงความรักใคร่เอ็นดูผมอยู่อย่างเต็มเปี่ยม จากนั้นพี่ยศก็ลุกขึ้นแล้วกลับไปนอน แล้วหลังจากนั้นไม่นาน ผมก็เคลิ้มหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
3 G3 [  ]# d, Z0 ?* yวันรุ่งขึ้น พี่ยศมาที่วัดตั้งแต่ตอนบ่ายแก่ๆเพื่อมาช่วยผม ตอนกลางวันก็ไม่มีอะไรมากเพราะไม่มีใครมาเคารพศพ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีใครเฝ้า การสวดพระอภิธรรมในคืนที่สองก็เป็นเช่นคืนแรก มีเพียงญาติสนิทมิตรสหายไม่กี่คน คืนนี้พี่ป้อมก็มาด้วย แต่ไม่ได้พาเด็กๆมา คงถือเคล็ดว่าเด็กไม่ควรมางานศพก็เป็นได้6 r  ?# _) @; D
หลังเลิกงาน ผมขอให้พี่ยศกลับบ้านไปเพราะเกรงใจถ้าพี่ยศจะอยู่เป็นเพื่อนผมอีกคืน แต่คราวนี้พี่ยศกลับยื่นข้อเสนอใหม่ "คืนนี้เป้ไปนอนที่บ้านพี่ดีกว่า พี่ว่าหากช่วงนี้เป้อยู่ในบ้านนั้นจะยิ่งมีแต่ความเศร้านะ มาค้างที่บ้านพี่สักคืนก็แล้วกัน เผื่อจะสบายใจขึ้นบ้าง": |# U, W) ]0 M' a/ Z
ผมก็ว่าความคิดนี้ไม่เลว แต่ก็ติดขัดที่ว่าบ้านของพี่ยศก็ไม่มีที่นอนสำหรับแขกเตรียมไว้เช่นกัน "อย่าเลยพี่ ลำบากพี่เปล่าๆ" ผมปฏิเสธ
% j7 ~; U2 ?, L"ไม่เห็นลำบากเลย ที่ทางก็มี เป้ไปนอนห้องโตก็ได้ แล้วให้โตมานอนกับเล็ก หรือเป้จะนอนกับโตก็ได้ ในห้องนั้นมีฟูกสำรองสำหรับปูนอนอยู่ เอามาปูเสียก็นอนได้แล้ว หมอนก็มี พี่ว่าเล็กกับโตคงดีใจที่ได้เจอหน้าเป้ ไม่เจอกันมาเป็นอาทิตย์แล้วนี่" พี่ยศโน้มน้าว
# x* _% W7 A2 P- wในที่สุดผมก็ตกลง ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะขัดความหวังดีไม่ได้ แต่อีกส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าผมอยากได้อยู่ใกล้ชิดกับพี่ยศด้วย  C2 v9 s: U- S/ s9 i
คืนนั้น ผมนอนห้องเดียวกับโตโดยปูฟูกนอนกับพื้น ซึ่งโตก็ไม่ได้ขัดข้องหรือไม่พอใจแต่อย่างใดที่ผมมาบุกรุกห้องของแก ตรงกันข้าม กลับรู้สึกว่าจะดีใจเสียด้วยซ้ำ ซึ่งผมก็ไม่ได้เฉลียวใจอะไร เพราะปกติก็สนิทสนมกับโตและเล็กอยู่แล้ว เมื่อผมมานอนบ้านพี่ยศ ผมกลับรู้สึกว่าใจสงบลงได้อย่างประหลาด ผิดกับตอนที่นอนอยู่ที่บ้านของตนเองซึ่งใจว้าวุ่นอยู่ตลอดเวลา เห็นทีพี่ยศจะพูดถูกที่ผมควรมานอนที่นี่
) T8 C$ H5 f# M/ C! x; R9 ?ผมตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะได้ยินเสียงสวบสาบ แม้ผมจะหลับดีกว่าวันก่อนๆแต่ก็หลับไม่สนิทมากนัก แม้มีเสียงผิดปกติรบกวนเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ผมตื่นได้ ผมแปลกใจว่าเสียงสวบสาบนั้นมาจากที่ไหน ผมลืมตา แต่ตัวยังนอนนิ่งอยู่บนฟูก พร้อมทั้งตั้งใจหาที่มาของเสียง เสียงมาจากเตียงของโตที่อยู่เบื้องหน้าผมนั่นเอง 4 {& j2 U$ i' f) b( H

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
ตอบกลับ
16222
พลังน้ำใจ
79556
Zenny
210037
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:05:17 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(5) : ความในใจ
4 N3 D" D6 S6 N) N5 e( ~6 ?8 t% S! M* B- {* W. T2 y( G5 P
ผมกำลังนอนตะแคงหันหน้าไปทางเตียงที่โตนอนอยู่พอดี จึงหรี่ตามองในความมืด เห็นโตกำลังนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงนอน ตะโพกขยับขึ้นลงทำท่าคล้ายกำลังร่วมเพศ จากแสงสลัวเพียงเล็กน้อยผมเห็นคล้ายกับว่าก้นของโตนั้นเปลือยเปล่า ไม่มีอะไรปกปิด แล้วข้างใต้โตคงเป็นหมอน โตคงกำลังสำเร็จความใคร่ให้ตัวเองอยู่ เสียงการกระทำของโตค่อนข้างดังทีเดียว โตคงกำลังมีอารมณ์ตามประสาเด็กในวัยกำลังเป็นหนุ่ม
$ _5 C6 I, F# R( g: L& [ผมนอนหรี่ตาดูโตสำเร็จความใคร่ให้ตนเองเป็นเวลาสักพัก โตคงเพลิดเพลินกับมันมากทีเดียว ภาพสลัวๆที่ผมเห็นเร้าให้ผมเกิดอารมณ์ขึ้นเล็กน้อย ผมจึงรู้สึกอยากดูไปเรื่อยๆว่าจะเป็นอย่างไร ประกอบกับความง่วงด้วยกระมัง ผมจึงไม่ได้เฉลียวใจคิดให้ละเอียดอีกสักนิดว่าโตทำไมถึงได้ตื่นมาช่วยตัวเองดึกดื่นขนาดนี้ และทำไมโตถึงได้ใจกล้านักที่ช่วยตัวเองทั้งๆที่ผมนอนอยู่ในห้องด้วย และนี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของความผิดพลาดอันนำไปสู่บาปรักของผมในเวลาต่อมา4 t1 [4 s: q8 D4 [* v
สักพักโตก็หยุดเคลื่อนไหว นอนนิ่งสักครู่แล้วก็ลุกขึ้น ใส่กางเกง แล้วรีบเดินออกไปจากห้อง คงไปจัดการตอนสุดท้ายต่อในห้องน้ำ แม้ภาพที่ผมเห็นจะกระตุ้นให้ผมเกิดอารมณ์ได้บ้าง แต่ก็เป็นเพียงการกระตุ้นจากภาพเหตุการณ์เฉพาะหน้าเท่านั้น รสนิยมของผมอยู่ที่คนที่มีอายุมากกว่า ไม่ใช่เด็กหนุ่ม ดังนั้นผมจึงไม่ได้ให้ความสนใจที่จะติดตามโตไปที่ห้องน้ำ เมื่อรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้วผมก็หมดความสนใจและนอนหลับต่อไป
. d+ Y( H( r$ q  F4 jเช้าวันรุ่งขึ้น ผมลืมเรื่องราวปฏิบัติการของโตไปเสียสนิท ผมรีบออกจากบ้านของพี่ยศแต่เช้าเพื่อกลับมาที่บ้านแม่เพื่อจัดเตรียมเรื่องราวต่างๆสำหรับงานสวดวันสุดท้าย รวมทั้งธุระอื่นๆที่เกี่ยวกับแม่ ซึ่งก็เป็นเวลาที่โตกับเล็กกำลังจะไปโรงเรียนพอดี ปกติสองพี่น้องจะไปโรงเรียนโดยรถเมล์เพราะพี่ยศเลี้ยงลูกแบบติดดิน ไม่ฟุ้งเฟ้อ วันนี้ผมจึงอาสาไปส่งสองพี่น้องที่โรงเรียนให้) g; C6 [1 J" ~, J! W- M. w
สองพี่น้องนี้ช่างพูดและสนิทกับผมทั้งสองคน โตอายุ 13 ย่าง 14 ปี ส่วนเล็กอายุ 10 ย่าง 11 ปี แต่ถ้าจะว่ากันตามจริงแล้วดูโตจะสนิทสนมกับผมมากกว่า โตมักจะชวนผมคุยอยู่เสมอ และมักชอบให้ผมพาเที่ยวห้าง บางทีก็ให้พาไปว่ายน้ำ ซึ่งผมคิดว่าความสนิทสนมนี้คงเกิดจากการที่ผมสอนพิเศษให้โตเป็นประจำนั่นเอง8 \4 i$ C& t1 c1 a9 q% r( e
"อาเป้เสียใจมากไหมครับ" โตผมถามระหว่างนั่งในรถ
- x2 _, v! I; A"เสียใจมากสิ อารักแม่มาก แต่ไม่ค่อยมีโอกาสดูแลแม่เท่าไร กว่าจะได้คิดก็สายไปเสียแล้ว" ผมพูดเสียงเศร้า ทำให้บรรยากาศในรถเงียบเหงาลงในทันที ผมนิ่งนิดหนึ่งแล้วก็อดพูดความในใจออกไปไม่ได้ว่า "วันนี้สำคัญที่สุดนะโต ตั้งใจจะทำอะไรก็ทำเสีย ทำวันนี้ให้ดีที่สุด อย่าผัดวันประกันพรุ่ง ไม่งั้นอาจจะต้องเสียใจเหมือนอา" ผมก็ไม่แน่ใจว่าเด็กในวัยของโตจะเข้าใจความหมายของผมหรือเปล่า แต่ถึงไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร เพราะมันเป็นการระบายความในใจของผมมากกว่าที่ต้องการให้โตเข้าใจ
$ [$ Z- s; B  }; y! m) l1 P" r"ตั้งใจจะทำอะไรก็ทำเสีย ทำวันนี้ให้ดีที่สุด อย่าผัดวันประกันพรุ่ง" โตทวนคำอย่างครุ่นคิด
# P8 q' q  C1 d7 `"ใช่" ผมตอบ "พรุ่งนี้ไม่มีอะไรแน่นอน พรุ่งนี้คือความหวัง แต่ปัจจุบันคือการกระทำ" * H/ i: u) n/ I
"ครับ อาเป้" โตรับคำ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโตเข้าใจแค่ไหน ส่วนเล็กนั้นไม่สนใจเอาเสียเลย "อาเป้พูดเข้าใจยากจัง พูดให้มันเข้าใจง่ายๆหน่อยสิครับ" เล็กว่า ผมอดหัวเราะในความอ่อนเยาว์ของเล็กไม่ได้, t8 s4 N8 F( t7 u4 V# `* D
เมื่อผมขับรถมาส่งโตและเล็กที่โรงเรียน ก่อนลงจากรถ โตหันมาถามผมว่า "อาเป้ คืนนี้มาค้างอีกไหมครับ"- Z7 i, h1 X& \0 P6 ^
"คงไม่หรอก" ผมตอบ "เกรงใจเราน่ะ อามาแย่งห้องนอนโตใช้ คืนนี้ว่าจะนอนที่บ้านอาดีกว่า"5 F  M4 l; X2 H/ E0 B5 {  Y
"ไม่แย่งหรอกครับ" โตว่า "อามาอีกสิครับ ผมชอบ มีอานอนอยู่ด้วยในห้องแล้วอุ่นใจดี" - f& y% W8 V7 V, T. C# @/ f. U4 m6 X
"เอ๊ะ ในห้องมีผีหรือไง ถึงได้นอนคนเดียวแล้วไม่อุ่นใจ" ผมหัวเราะ
# T/ k7 _$ `0 T0 H"ก็ไม่เชิงหรอกครับ" โตพูด "แต่แต่อยากให้อาเป้มานอนเป็นเพื่อนน่ะครับ นะครับ" 1 ]1 D9 T; ?' R" Q) D$ \9 w8 }0 m5 e- f
"คงต้องดูก่อนนะ ถ้าวันนี้มาไม่ได้อาขอเป็นวันหลังค่อยมานอนเป็นเพื่อนก็แล้วกัน" ผมว่า  ?. J# ^( G# o9 W/ o
"อารับปากแล้วนะครับ ห้ามผิดสัญญาล่ะ" โตคาดคั้น
3 q4 k# _$ A1 j0 U/ w& N2 Z"เถอะน่า อาไม่ผิดสัญญาหรอก เดี๋ยวพ่อเราจะได้ต่อว่าอาปะไร เอ้า ถึงแล้ว แล้วเจอกันใหม่นะ" ผมบอก แล้วโตกับเล็กก็ไหว้ผมและลงจากรถเข้าไปในโรงเรียน; e0 h7 f3 W, B1 n
งานสวดศพวันที่สามก็ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย พี่ยศมาช่วยงานตั้งแต่บ่ายแก่ๆตามเคย วันนี้พี่ป้อมไม่ได้มาด้วยเนื่องจากต้องอยู่ดูแลโตกับเล็กที่บ้าน 6 C6 D, W3 v; c5 h/ N2 C
เมื่อเลิกงานสวด ทุกคนกลับกันไปหมดแล้ว เหลือแต่ผมกับพี่ยศ และพนักงานของทางวัด ผมมองที่โลงและรูปของแม่ที่อยู่หน้าศพอีกครั้ง แม้แม่จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่สามวันนี้ผมก็ยังมีความรู้สึกคล้ายกับว่ายังได้อยู่ใกล้ๆแม่ … ถึงแม้ได้อยู่ใกล้ร่างที่ไร้วิญญาณของแม่ก็ยังรู้สึกอบอุ่นใจ แต่ต่อไป เมื่อพิธีเผาศพผ่านไป ผมคงไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับร่างของแม่อีกแล้ว ผมมองไปที่โลงใส่ร่างของแม่อย่างอาลัยอาวรณ์ น้ำตาไหลพรากออกมาโดยไม่รู้ตัว ผมมักรู้สึกว่าเป็นความผิดของผมส่วนหนึ่งเสมอที่แม่เกิดอุบัติเหตุขึ้น หลายวันที่ผ่านมา ผมเฝ้าตำหนิตัวเองอยู่ตลอดเวลา
  M) `5 U, Q9 M. @& L/ W"เป้ คนก็จากไปสบายแล้ว เป้อย่าเอาแต่เศร้าโศกสิ เดี๋ยวแม่เขาจะกังวลนะ" พี่ยศพูด พลางเอามือตบไหล่ผม % F2 f3 E7 b1 R( C0 e- l8 n7 c- W2 p# L
"มันอดไม่ได้ครับ ผมรู้สึกว่ามันเป็นความผิดของผม ถ้าผมดูแลแม่ดีกว่านี้แม่ก็คงไม่จากไปเร็วอย่างนี้" ผมพยายามกลั้นสะอื้น
% j' C/ n4 _& r: ^, F"เป้อย่าตำหนิตัวเองเลย คิดเสียว่าคุณอาทำบุญมาแค่นี้" พี่ยศปลอบ "พี่ว่าเรากลับกันเถอะ"
9 x1 Z. Z# S3 u0 E& h& m- H5 oผมรับคำ มองหน้าแม่ในภาพอีกครั้งพร้อมกล่าวคำอำลาแม่ในใจ
8 i. q. N3 ?+ D9 G. c( Y7 M9 hขณะที่ผมกำลังขับรถเพื่อจะกลับบ้าน ผมสังเกตว่าพี่ยศขับรถตามมาข้างหลัง ผมนึกว่าพี่ยศมีเรื่องอะไร จึงจอดรถเข้าข้างทางเพื่อสอบถาม8 o1 S# ^# ~: @: g
"พี่ยศมีอะไรหรือครับ" ผมถามหลังจากที่ผมและพี่ยศจอดรถแล้ว8 B* m) T- O% |' |4 l1 o
"ไม่มีอะไรนี่ พี่นึกว่าเป้มีอะไรเสียอีก เห็นจอดรถ พี่เลยจอดตาม" พี่ยศว่า* L1 `# g/ S% S0 [' S0 r$ P
"ก็ผมเห็นพี่ขับรถตามผมมานี่ครับ" ผมสงสัย$ `8 S* G7 h* _3 q
"อ้อ เรื่องนี้เองหรอกหรือ ไม่มีอะไรหรอก พี่เป็นห่วงเป้น่ะ ก็เลยขับรถตามมา กะว่าจะขับไปส่งเป้จนถึงบ้านเสียก่อนแล้วค่อยกลับ"0 z* L: H* S, C
ผมปฏิเสธด้วยความเกรงใจ เพราะบ้านผมกับบ้านพี่ยศไปคนละทางกัน อีกอย่าง หลายวันมานี้ผมก็พอทำใจได้บ้างแล้ว ผมอยู่ในสภาพที่ขับรถได้ แต่พี่ยศไม่ยอม ยืนกรานจะไปส่งให้ได้ ผมไม่อยากให้พี่ยศเสียน้ำใจจึงปล่อยเลยตามเลย, g# C% r0 v; |+ E! l) T6 F) ?; ]
เมื่อมาถึงบ้าน ผมจึงเชิญพี่ยศเข้าไปในบ้าน เมื่อแรกย่างเท้าเข้าไปในบ้าน ผมรู้สึกถึงความเงียบเหงาวังเวง ความรู้สึกที่ว่าสามารถทำใจได้แล้วกลับสั่นคลอน ผมเริ่มรู้สึกว้าเหว่และหดหู่ ต่างจากความรู้สึกเมื่อตอนไปค้างอยู่ที่บ้านของพี่ยศซึ่งตอนนั้นผมรู้สึกว่าสภาพอารมณ์ของผมมั่นคงดีแล้ว แต่ตอนนี้กลับไม่ใช่ อาจจะเป็นเพราะว่าช่วงนี้ผมเหนื่อยและคิดมากเกินไป สุขภาพจิตจึงอ่อนแอลงไปบ้าง. G1 `9 ~0 Y, O# _7 g1 E, G
พี่ยศเองคงสังเกตเห็นสีหน้าของผมไม่ค่อยดีเท่าไรนัก จึงถามผมว่าผมเป็นอะไรไป
& l1 U& M, L! |! M"รู้สึกหดหู่ขึ้นมาน่ะครับ แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมรู้สึกอย่างนั้น พออยู่บ้านนี้แล้วอดคิดถึงความหลังเมื่อครั้งแม่ยังอยู่ไม่ได้ครับ" ผมสารภาพความรู้สึกไปตามตรง
/ a9 n! `$ [& S5 y  `) {& Uพี่ยศเอื้อมมือมาโอบผมราวกับพี่ชายที่กำลังให้ความอบอุ่นแก่น้องชาย "ยังงั้นอย่านอนที่นี่เลยคืนนี้ ไปค้างที่บ้านพี่อีกไหม หรือไม่งั้นก็ให้พี่นอนที่นี่เป็นเพื่อนก็ได้"
' J6 }8 ?+ s' R  |เมื่อได้รับไออุ่นจากพี่ยศ ความแข็งแกร่งของผมก็เริ่มพังทลาย ผมเผลอตัวเอื้อมมือไปกอดพี่ยศเหมือนกับที่เคยกอดแม่ แต่เมื่อนึกได้ว่าไม่สมควรผมก็รีบผละออก ที่จริงตอนนี้ผมรู้สึกชอบพี่ยศมากแล้ว จะเรียกว่าหลงรักก็พอจะได้กระมัง แต่ก็ต้องพยายามข่มใจเอาไว้เพราะพี่ยศเป็นคนที่มีเจ้าของแล้ว แต่เมื่อมีเหตุการณ์เรื่องแม่เกิดขึ้น ความทุกข์ทำให้ผมต้องการพึ่งพาใครสักคน และคนที่ก้าวเข้ามาเป็นที่พึ่งของผมก็คือพี่ยศนั่นเอง นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกผูกพันกับพี่ยศมากขึ้น จนเรียกว่าแทบจะขาดพี่ยศไม่ได้เลย จนในที่สุดผมก็เผลอตีแผ่ความในใจออกมาด้วยการแสดงออกของผม นั่นคือการกอด
: f: R. E2 z' J1 Dเมื่อผมผละจากพี่ยศ พี่ยศกลับดึงผมเข้าไปกอดไว้อีก คราวนี้เราเลยยืนกอดกันแน่น "กอดเถอะเป้ ถ้ามันทำให้เป้สบายใจ" พี่ยศว่า
) f8 L5 N9 X/ p5 v# S# s  I! e! [ถึงตอนนี้ผมก็หมดความข่มกลั้นใจ ผมอยากกอดและได้รับไออุ่นจากพี่ยศมานานแล้ว แต่ก็ต้องเก็บงำไว้ไม่กล้าแสดงออก ในที่สุดความฝันของผมก็เป็นความจริง ผมเลยกอดพี่ยศเสียแน่น "ขอกอดนานๆนะครับพี่ยศ" ผมพูด
0 A; J8 v5 P  w4 W"ตามสบายเลยเป้" พี่ยศตอบ
8 s. p; S3 [+ h8 |5 ?ผมกอดพี่ยศแน่นและนาน ความคิดถึงแม่ ความคิดถึงพ่อ และความว้าเหว่ในใจถูกระบายออกมากับการกอดครั้งนี้จนหมดสิ้น พี่ยศเองก็กอดผมตอบเช่นกัน เรากอดกันนานจนผมรู้สึกว่าเป้ากางเกงของพี่ยศเกิดความผิดปกติ มันมีอาการแข็งแกร่งขึ้นอย่างประหลาด เนื่องจากส่วนสูงของผมพอๆกับพี่ยศ ส่วนที่แข็งแกร่งของพี่ยศนั้นจึงสัมผัสกับความเป็นชายของผมพอดี
3 Q9 w) K6 g( W0 I9 |3 U' Oผมเริ่มเขินอายและต้องการผละออกจากอ้อมกอดของพี่ยศ แต่พี่ยศกลับไม่ยอมคลายอ้อมกอดลง กลับกอดผมแน่นยิ่งขึ้น ความเป็นชายอันแข็งแกร่งของพี่ยศทาบสนิทกับความเป็นชายของผมและบดขยี้ไปมาตามแรงกอด เพียงครู่เดียวความเป็นชายของผมก็ถูกปลุกขึ้นมาบ้าง
  ^2 c( V: [6 p& Kเรากอดกันในสภาพนั้นอยู่นาน แม้เราไม่ได้ทำอะไรเกินเลยไปกว่านั้น แต่เพียงแค่นี้เราก็ได้ถ่ายถอดความในใจของกันและกันออกมาแล้วว่าผมชอบพี่ยศและพี่ยศก็ชอบผม…
! `! [5 |" G) r2 L1 g4 t" n4 q8 K"แต่ก่อนผมเห็นพี่เป็นพี่ชาย … แต่ … แต่หลังจากผ่านเหตุการณ์ในหลายวันนี้มา ความรู้สึกของผมก็เริ่มเปลี่ยนไปแล้วครับ ผมรู้สึกอยากให้พี่เป็นมากกว่าพี่ชายของผมครับ แต่ก็เป็นแค่ความฝันเท่านั้นนะครับ เพราะผมรู้ว่ามันเป็นความจริงไปไม่ได้" ผมผละออกจากตัวพี่ยศ พร้อมกับพูดเผยความในใจ
: N8 R' P4 O  i% l& @"พี่ก็เช่นกัน เป้" พี่ยศว่า "เป้รู้ไหมว่าพี่ชอบเป้มาสิบกว่าปีแล้วนะ ตั้งแต่เป้อยู่ปีหนึ่งนั่นแหละ แต่พรหมลิขิตทำให้เราต้องคลาดคลากัน" พี่ยศถือโอกาสนี้เปิดเผยความในใจเช่นกัน ผมไม่เคยรู้มาก่อนและไม่นึกเลยว่ามันจะเป็นไปได้ มันแทบจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ คนอย่างพี่ยศน่ะหรือจะมามีรสนิยมทางเพศเบี่ยงเบนแบบผม มันไม่น่าเชื่อเลย … ในที่สุดความลับในใจของเราทั้งสองที่ปกปิดกันและกันมากว่า 15 ปีก็คลี่คลายออกมา เมื่อผมหวนทบทวนเหตุการณ์ในอดีตตอนที่ผมเป็นน้องรหัส มิน่าล่ะ ทำไมพี่ยศถึงได้ดีกับผมเป็นพิเศษ ที่แท้พี่ยศก็ชอบผมตั้งแต่ตอนนั้นแล้วนั่นเอง ผมนี่โง่จริงๆ
0 G. B+ B1 v" F9 I( O& F0 B5 O"ไม่น่าเชื่อเลยครับพี่ ที่จริงผมก็ชอบพี่มาตั้งแต่อยู่ปีหนึ่งแล้ว แต่ผมดูพี่ไม่ออกเลย เลยไม่กล้าแสดงความรู้สึกของผมกับพี่" ผมว่า
( \3 _, X+ Z$ O  S* m"พี่พยายามต่อสู้กับตัวตนของตนเองอยู่ ตอนนั้นพี่ชอบเป้ แต่พี่ก็ยอมรับความรู้สึกนี้ของตนเองไม่ได้ พี่เลยพยายามไม่คิดมัน และไม่แสดงท่าทีอะไรออกมาไง พี่พยายามหาทางออกโดยการคบเพื่อนหญิง เผื่อว่ามันจะช่วยได้บ้าง" พี่ยศสารภาพ
! q' w/ J  C" \- `9 q( r"แล้วพี่ก็ทำสำเร็จ ได้แต่งงานมีครอบครัว" ผมเสริม แม้จะเป็นการเสริมคำพูดของพี่ยศ แต่ก็เป็นคำถามอยู่กลายๆ เพราะถ้าพี่ยศทำได้สำเร็จจริงเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ก็คงไม่เกิดขึ้น
: w5 B. N, p4 Mผมกับพี่ยศพากันเดินไปนั่งที่โซฟา เพื่อจะได้คุยเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง
6 c: L, {, c" K' d& U3 ]4 c" ["พ่อพี่เกลียดเกย์มาก" พี่ยศเล่าขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย "สมัยก่อนไม่มีคำว่าเกย์หรอก มีแต่คำว่ากระเทย ซึ่งมันก็คงคล้ายๆกัน คือพวกที่มีความต้องการทางเพศเบี่ยงเบน ชอบเพศเดียวกัน" ( z0 |* ~% U1 y% Q
"แล้วไงครับ" ผมถาม ; f# C" b7 z# g. C) d

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
ตอบกลับ
16222
พลังน้ำใจ
79556
Zenny
210037
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:14:19 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(6) : ใครลิขิต - ~" @$ O5 q8 `/ A

9 m0 R, O* y& Vสายตาพี่ยศทอดออกไปในความมืดนอกหน้าต่าง เหมือนจะทบทวนความหลัง "เวลาพ่อพี่เห็นเด็กกระเทยแถวบ้าน พ่อพี่จะรังเกียจมาก เอามาคุยให้คนในบ้านฟังบ่อยๆว่าโชคดีที่บ้านเราไม่มีใครเป็นกระเทย หากมีจะตัดพ่อตัดลูกและไล่ออกจากบ้านทันทีเลย พ่อแสดงความชิงชังรังเกียจอย่างออกนอกหน้าเลยทีเดียว"
' }8 e4 `, f( }& fพี่ยศถอนใจ "พอพี่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น พี่ก็เริ่มรู้ตัวว่าคนที่พ่อชิงชังรังเกียจนั้นก็คงหมายถึงตัวพี่ด้วย … หมายถึงว่าถ้าพ่อรู้ความจริงนะ … แต่พี่ไม่ได้เป็นกระเทยเหมือนพวกนั้น พ่อก็เลยไม่รู้ แต่ความรู้สึกของพี่กับพวกนั้นก็คงไม่ต่างกันเท่าไร คือชอบผู้ชายด้วยกัน" พี่ยศเล่าอย่างตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม "พอพี่รู้ว่าตัวเองเป็นอย่างที่พ่อชิงชังรังเกียจ พี่เสียใจมาก เสียใจกับตัวเอง และพยายามเปลี่ยนความคิดของตัวเองเสีย ให้กลับมาชอบผู้หญิงให้ได้ พี่ก็เลยทำทุกอย่างอย่างที่คนปกติทำกัน ไม่ว่าจะจีบผู้หญิง เที่ยวผู้หญิง มีแฟน และเรื่องอื่นๆ …"
& H0 o% x. z+ S+ l* ^6 v- e8 Z"ครับพี่" ผมไม่รู้จะพูดอะไรได้ดีไปกว่านั้น คงส่งเสียงรับคำเพื่อให้พี่ยศรู้ว่าผมกำลังฟังอยู่
- `5 l* t" x; G3 W4 x"ตอนที่พี่ได้เป้มาเป็นน้องรหัสใหม่ๆ พี่ก็เริ่มรู้สึกชอบเป้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ยิ่งพอได้รู้จักกันขึ้นพี่ก็ยิ่งชอบเป้มาก พี่ชอบตรงที่เป้มีนิสัยดีและน่ารัก แต่พี่ก็ไม่คิดว่าเป้จะเป็นเกย์เพราะดูไม่ออกเลย พี่ต้องหักห้ามใจตนเองอย่างมากไม่ให้ชอบเป้เพราะรู้อยู่ว่าความรักชอบกันแบบนี้ไม่มีทางลงเอยได้" 2 ~& ?* u8 z! o6 U2 l: [1 k
พี่ยศหยุดทบทวนความทรงจำเล็กน้อยแล้วจึงเล่าต่อ "จนพี่เรียนจบ พี่ก็คิดว่าตัวเองชอบผู้หญิงคนหนึ่งที่ผู้ใหญ่แนะนำให้รู้จักกัน เราคบกันระยะหนึ่ง จนในที่สุดพ่อแม่ของทั้งเราสองฝ่ายก็เห็นว่าเราเหมาะสมกันดี ก็เลยจัดงานแต่งงานให้" พี่ยศย้อนอดีตถึงการแต่งงานให้ฟัง "พี่ก็คิดว่ามันคงสำเร็จ พี่ได้แต่งงานกับผู้หญิงที่พี่คิดว่าพี่รัก … หลังจากแต่งงานแล้วพี่ก็คิดว่าพี่คงสามารถเป็นชายเต็มตัวได้ … และมีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์" พี่ยศหยุดเล่า อึ้งไปสักพัก* m) H& Z4 q, v
"แต่พี่คิดผิด" ผมต่อประโยคที่เหลือให้
+ C% G' a. {4 ?4 v0 Y* i"ใช่แล้ว" พี่ยศพยักหน้า "พี่คิดผิด พี่พยายามหลอกทุกคน พยายามหลอกแม้แต่ใจของตนเอง แต่ในที่สุดพี่ก็พบว่าพี่อาจหลอกคนได้ทุกๆคน แต่ไม่อาจหลอกใจของตนเองได้ การแต่งงานและมีครอบครัวไม่ได้ทำให้ชีวิตของพี่สมบูรณ์เลย ตรงกันข้าม พี่กลับรู้สึกลำบากใจ ยิ่งมีลูกแล้วก็ยิ่งลำบากใจ มันเหมือนกับว่าพี่กำลังฝืนธรรมชาติของตนเอง แม้มันจะเป็นธรรมชาติที่ผิดๆก็ตาม"
& b7 u0 X3 n1 ["ที่จริงหลายปีมานี้ มีชายอื่นที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของพี่แต่พี่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมากนัก เพราะว่ามีครอบครัวแล้ว จะทำอะไรก็ต้องคิดถึงครอบครัวไว้ก่อน แต่…" ว่าแล้วพี่ยศก็จับมือผมมากุมไว้ "พี่พยามหักห้ามใจไม่ให้เอาความปรารถนาของตนเองมาเป็นเหตุทำลายครอบครัว แต่มีอยู่คนหนึ่งที่พี่ไม่อาจลืมได้ตลอดมา คนนั้นก็คือเป้ … เพราะเป้ … มันเป็นรักครั้งแรกของพี่ด้วย พี่จึงลืมมันไม่ได้ พี่ดีใจมากที่เราได้มาพบกันอีก มันเหมือนกับ … เหมือนกับ…" พี่ยศตะกุกตะกักอีก แล้วก็ตัดสินใจพูดออกมา "เหมือนกับเป็นพรหมลิขิต"/ }9 `5 G8 c% i5 A: U& z
ผมช็อกกับความในใจของพี่ยศ ไม่นึกเลยว่าเบื้องหลังของพี่ยศจะมีเรื่องราวมากมายขนาดนี้ ใจหนึ่งก็รู้สึกดีใจที่เรามีกระแสใจที่ตรงกันมาตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว แต่อีกใจหนึ่งก็เสียใจที่เราทั้งคู่ไม่เคยมีโอกาสบอกความในใจแก่กันและกันเลย เวลาเกือบสองทศวรรษ มันไม่สั้นเลย พี่ยศเป็นคนที่ดีพร้อมมากในสายตาของผม นี่ถ้าผมมีโอกาสได้รู้ความในใจของพี่ยศแต่แรก ชีวิตของผมคงไม่ต้องล้มเหลวในเรื่องความรักครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างที่เป็นอยู่นี้ แต่เมื่อมารู้ตอนนี้ทุกอย่างมันก็สายไปเสียแล้ว …
) Z  H2 B. @* X$ Cผมปล่อยให้พี่ยศกุมมือ ใจสับสนไปหมด ความคิดหลายอย่างประดังเข้ามาในสมอง ทั้งรู้สึกเสียดายเวลาที่ผ่านไป วัยหนุ่มอันมีสีสันของเราทั้งสองคนต้องผ่านไปอย่างอับเฉาอย่างที่ไม่สามารถเรียกคืนได้ เพราะกฎเกณฑ์ของสังคมทำให้เราไม่เป็นตัวของตัวเอง ทั้งรู้สึกว่าทุกอย่างไม่มีคำว่าสายเกินไป แม้เราทั้งสองจะอยู่ในวัยเลข 3 แล้วก็ตาม ขอเพียงแต่ผมพร้อมที่จะเริ่มมันอีกครั้ง… ความสำเร็จของผมอยู่แค่เอื้อม ขอเพียงผมเดินหน้าต่อไปอีกเล็กน้อย ผมก็คงสามารถเริ่มต้นกับพี่ยศฉันท์คนรักได้ แต่จะให้ผมครอบครองคนที่มีครอบครัวแล้วกระนั้นหรือ…, Z3 m% k( S9 x. h" d8 z) `
"ผมก็เคยรักพี่ยศครับ…" ผมเน้นคำว่า 'เคย' เป็นพิเศษ "ตอนอยู่ปีหนึ่งผมติดพี่มาก พี่ดีกับผมทุกอย่าง ผมแอบรักพี่ตั้งแต่ตอนนั้นแหละครับ"$ W3 z# h( z# M& F4 c/ r' Q
"แล้วตอนนี้ล่ะ" พี่ยศรุก+ p% ^) t0 X3 o% Y/ s' `% V& V7 ^
… เงียบ ไม่มีคำตอบจากผม
4 Y) k1 Z7 ]+ A: _; u"พี่รู้นะว่าเป้คิดยังไง แต่พี่อยากฟังจากปากของเป้เองมากกว่า" พี่ยศคาดคั้น9 d" F' @% G' I7 A
"ผมไม่ทราบครับ" ผมว่า สายตามองต่ำเพื่อหลบสายตาของพี่ยศ "ผมอยากจะรักพี่ครับ แต่ผมไม่กล้ารัก"
4 \; D" U* f2 X% H% c$ Z: ^"เพราะว่าพี่มีครอบครัวแล้วใช่ไหม มันไม่เกี่ยวกันนะเป้ เป้อย่าเข้าใจผิด ที่พี่อยากรู้จากเป้ก็เพียงเพื่อว่า … เพียงเพื่อยืนยันว่าพี่ไม่ได้คิดไปเองข้างเดียว เท่านั้นแหละที่พี่ต้องการ" พี่ยศอธิบาย+ i" X7 i3 l7 V% `( B9 ^( t
ถึงตอนนี้ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่ยศแล้วตัดสินใจตอบออกไป ก็ดีเหมือนกัน จะได้รู้ความในใจกันไป ไม่ต้องคอยปกปิดกันอีก สิบกว่าปีก่อนที่เราสองคนพลาดก็เพราะปกปิดความในใจนี้ไว้ การเปิดใจต่อกันน่าจะดีกว่า "ครับพี่ ผมรักพี่ ตอนนั้นผมเคยรักพี่ ถึงเดี๋ยวนี้ผมก็ยังรักพี่" หยุดนิดหนึ่งแล้วพูดต่อ "แต่ที่ผมคบกับพี่ทุกวันนี้ไม่ใช่เพราะว่าผมต้องการแย่งพี่มาครอบครองนะครับ ผมรักพี่ป้อม รักโตกับเล็กด้วย ผมไม่ต้องการทำลายครอบครัวของพี่ ผมเพียงต้องการได้รับความอบอุ่นใจเล็กๆน้อยๆจากการได้อยู่ใกล้ชิดพี่เท่านั้นเองครับ แค่นั้นก็พอแล้วสำหรับผม"! Z& ]# r) [8 ^1 x& [& `
พี่ยศลุกขึ้นยืนแล้วดึงผมมากอดอีกครั้ง เหมือนกับจะปลอบใจน้องน้อยให้หายผิดหวัง เรากอดกกันแน่น ถ่ายทอดความในใจแก่กันด้วยสัมผัสทางกายอันอบอุ่น 2 b: ?8 V7 G* b$ D4 G
"ขอบใจมากเป้ ดีใจที่ในที่สุดพี่ก็ได้รู้ความในใจของเป้" พี่ยศพูด แล้วคลายกอดจากตัวผม "แล้วชีวิตรักที่ผ่านมาของเป้เป็นยังไงบ้างล่ะ เป้ไม่เคยพบใครที่ … ที่ …" พี่ยศพยายามจะถามเกี่ยวกับเรื่องความรักของผม แต่ก็นึกคำถามที่เหมาะสมไม่ถูก จึงพูดอย่างตะกุกตะกัก แต่ผมก็เข้าใจความหมายของคำถามนี้ดี
  a/ a7 g1 p* }1 U"หลังจากที่ผมเรียนจบแล้วผมเคยมีความรัก 2 ครั้งครับ ครั้งแรกเราคบกันได้เพียงปีกว่าๆ รักครั้งนั้น … ไม่ใช่สิครับ มันเป็นครั้งที่ 2 เพราะรักครั้งแรกของผมก็คือพี่ครับ" ผมพูด "ผมคิดว่ามันเป็นความรักที่ค่อนข้างฉาบฉวย คงเป็นเพราะตอนนั้นยังเด็กกระมังครับ คบกันง่าย เป็นแฟนกันง่ายๆ"
# K9 D7 V2 i+ U3 m"แล้วครั้งที่สาม…" พี่ยศถาม
% C) n0 i& c6 z6 f"ครั้งที่สามนี้ต่างกันครับ เราจริงจังต่อกันมาก และฝันว่าจะได้มีชีวิตคู่ที่อบอุ่น เราคบกันมาถึง 6 ปี แต่แล้วมันก็กลายเป็นฝันสลายครับ เพราะพออยู่กันไปนานๆนิสัยเดิมของเขาก็เริ่มแสดงออกมา แฟนของผมเจ้าชู้มากครับ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเลิกกับผมเพื่อไปอยู่กับคนใหม่ที่เขาคิดว่าดีกว่าและเหมาะกับเขามากกว่า" ผมเล่าไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ผมคงรู้สึกเจ็บปวดเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ผมกลับไม่รู้สึกอะไรแล้ว น่าแปลกที่แผลใจของผมซึ่งผมคิดว่ามันจะไม่มีวันหายกลับหายสนิท คงเป็นเพราะพี่ยศเป็นยารักษาแผลใจให้ผมนั่นเอง
8 r& |7 |' L5 _/ |, v& V5 v"เอ้อ… แฟนของเป้นี่เป็นหญิงหรือชาย" พี่ยศถามอย่างไม่แน่ใจ
; R7 a2 K; D" H6 G1 a- E: \# ^) i"ผมหมายถึงผู้ชายครับ" ผมยิ้ม พี่ยศนี่ช่างไร้เดียงสาในเส้นทางสีม่วงเสียจริง "ผมก็เคยคิดจะมีแฟนเป็นผู้หญิงครับ แต่แล้วก็มาได้คิดว่ามีแล้วจะมีประโยชน์อะไร เพราะมันไม่ใช่ตัวตนของเรา ถึงมีไปชีวิตก็คงไม่มีความสุข รวมทั้งชีวิตของฝ่ายหญิงด้วยครับ ก็เลยไม่คิดที่จะมีแต่งงานมีครอบครัว กับแฟน 2 คนที่คบกันมานี่ก็ต้องคบกันแบบหลบๆซ่อนๆครับ ซึ่งก็เป็นธรรมดาของสังคมไทยที่ยังไม่ยอมรับเรื่องเกย์เท่าไร" ผมอธิบาย. P% F# T- G& W, y
สีหน้าพี่ยศแสดงอาการครุ่นคิด คงกำลังตรึกตรองอะไรบางอย่างจากคำพูดของผม เมื่อเห็นว่าเป็นเวลาดึกมากแล้วพี่ยศก็จบการสนทนาในคืนนั้นลง "ดึกแล้ว เราพักผ่อนกันดีกว่า คืนนี้พี่จะอยู่เป็นเพื่อนเป้เอง ตกลงนะ"9 w4 d& V" q( n4 T& x
คราวนี้ผมไม่ปฏิเสธ พี่ยศไม่ได้เตรียมมาค้างคืนที่นี่ ผมจึงจัดชุดนอนของผมให้ เนื่องจากขนาดตัวของเราไล่เลี่ยกัน พี่ยศจึงใส่ชุดนอนของผมได้พอดี หลังจากที่พี่ยศโทรศัพท์บอกทางบ้านเสร็จก็อาบน้ำและเข้านอน เรานอนในห้องเดียวกันคือห้องของผม ผมให้พี่ยศนอนเตียง ส่วนผมนอนข้างล่าง เราเข้านอนโดยไม่ได้ล่วงเกินอะไรกัน เพราะต่างก็เข้าใจสถานการณ์และสถานภาพของตนเองดี3 _% A' s7 Z* x+ A. a
ดึกแล้ว … ผมนอนลืมตาโพลง แม้จะเหนื่อยแต่ก็ยังไม่หลับ สมองนึกทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนที่เราสารภาพความในใจกันซ้ำไปซ้ำมา มันช่างเป็นเวลาที่ดีและอบอุ่นเสียนี่กระไร ผมไม่กล้าไปนึกถึงอนาคต เพราะรู้ดีว่าความรักแบบนี้ต้องไม่มีผลลัพธ์ที่ดีแน่นอน สุดท้ายคงต้องลงเอยด้วยความเจ็บปวด ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าคราวนี้จะมีความเข้มแข็งพอที่จะรับมันได้หรือไม่ แต่ขณะเดียวกันผมก็ไม่เข้มแข็งพอที่จะถอนตัวออกมาตั้งแต่ตอนนี้ ผมคิดโน่นคิดนี่จนกระทั่งหลับไปโดยไม่รู้ตัว
. L" J, Y& {0 F7 j3 g0 X7 Aหลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ผมกับพี่ยศยิ่งสนิทสนมกันมากกว่าเดิม คล้ายกับเป็นเพื่อนหรือเป็นพี่น้องที่รู้ใจกัน หรือหากจะอธิบายให้ใกล้เคียงยิ่งกว่านี้ก็คงต้องบอกว่าเราเหมือนเป็นคู่รักที่หวานชื่น เพียงแต่ว่าไม่มีการล่วงเกินกันทางร่างกายเท่านั้นเอง ชีวิตช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมมีความสุขมาก ผมได้รักครั้งแรกที่เคยคิดว่าสูญเสียมันไปแล้วกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง คิดดูสิครับว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดีเพียงใด4 X3 V4 W  D$ W. n
เราโทรศัพท์คุยกันทุกวัน นอกจากนั้นบางวันเราก็ยังได้เจอกันอีกด้วย ปกติตอนเย็นพี่ยศจะไปเล่นเวทที่ศูนย์ฟิตเนสใกล้บ้านเป็นประจำ ผมก็เลยไปสมัครเป็นสมาชิกที่นั่นด้วย ที่นี่เองที่ทำให้เรามีโอกาสพบกันเกือบทุกวัน บางวันเราก็ไปเดินซื้อของด้วยกัน เปลือกนอกเราก็เหมือนพี่น้องหรือเพื่อนกัน ซึ่งใครๆที่รู้จักพี่ยศก็คงไม่สงสัยอะไรเพราะว่าพี่ยศมีลูกมีเมียแล้ว คงคิดว่าผมเป็นญาติหรือน้องชาย
& x  b' {8 Q7 P# Nส่วนวันเสาร์นั้นผมก็ยังไปสอนพิเศษให้โตที่บ้านตามปกติ และยิ่งไปกว่านั้น บางครั้งยังนอนค้างที่บ้านพี่ยศเสียด้วย โดยให้ผมนอนกับแกที่ห้อง ซึ่งผมไม่เคยปฏิเสธเลย ดีเสียอีกที่ได้มีโอกาสคลุกคลีใกล้ชิดกับพี่ยศ หลายครั้งเข้าผมก็เลยนอนที่บ้านพี่ยศทุกเสาร์ไปเสียเลย ซึ่งเมื่อถึงตอนนี้แล้วผมสนิทสนมกับครอบครัวของพี่ยศมาก ทุกคนเข้ากับผมได้ดี แต่ผมอดรู้สึกผิดในใจลึกๆกับพี่ป้อมไม่ได้ แม้ว่าผมจะไม่มีอะไรกับพี่ยศทางร่างกายดังนั้นจึงไม่อาจเรียกได้ว่าผม 'แย่ง' พี่ยศมาก็ตาม แต่มโนธรรมของผมก็มักติเตียนผมในเรื่องนี้อยู่เสมอ
5 x3 N8 [' U( c, m  zหลายครั้งที่ผมเคยคิดทบทวนเรื่องความสัมพันธ์ในลักษณะนี้ว่าในที่สุดจะลงเอยอย่างไร แต่ผมก็ไม่กล้าคิดไปจนได้คำตอบ รวมทั้งผมก็ไม่กล้าถามพี่ยศเรื่องนี้ด้วย ซึ่งผมคาดว่าพี่ยศก็คงคิดไม่ตกเหมือนกัน เพราะสังเกตว่าพี่ยศไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องอนาคตข้างหน้ากับผมเลย
0 N$ C# W7 J) K' I! I4 U# k: Wสติสั่งให้ผมรีบถอนตัวโดยเร็วที่สุด ก่อนที่จะถลำลึกยิ่งไปกว่านี้ แต่อารมณ์สั่งให้ผมเก็บเกี่ยวความอบอุ่นจากพี่ยศต่อไป สองฝ่ายในตัวผมต่อสู้กันอยู่เสมอ และผมก็มักเลือกเชื่ออารมณ์ … และนี่เองที่นำไปสู่ความผิดครั้งใหญ่ของผมและพี่ยศ
7 j1 M9 V2 Q' s7 n  i% xบ่ายวันหนึ่ง ขณะที่ผมกับพี่ยศกำลังนั่งอบซาวน่ากันอยู่ในศูนย์ฟิตเนส ห้องซาวน่าที่นี่มีคนใช้น้อยมากในเวลาบ่ายถึงเย็น ผมกับพี่ยศนั่งอยู่ตั้งนานก็ยังไม่มีใครมาร่วมวงอบซาวน่าด้วยเลย ซึ่งมันก็มักเป็นอย่างนี้เสมอที่ผมกับพี่ยศได้อบซาวน่ากันสองคน วันนั้นเราไปถึงฟิตเนสราวบ่ายสามโมง พี่ยศทำธุรกิจส่วนตัวจึงไม่มีปัญหาเรื่องเวลาทำงาน ส่วนผมก็เสร็จงานที่ไซต์แล้ว เวลาหลังจากนั้นจึงอิสระ
5 ^$ Y% d5 x+ y* rปกติเราสองคนเคยไปไหนมาไหนด้วยกัน อบซาวน่าด้วยกัน หรือแม้แต่เคยนอนห้องเดียวกัน เราก็ไม่เคยล่วงเกินกันเลย เพราะต่างรู้ดีว่าขอบเขตควรอยู่แค่ไหน ทั้งๆที่ใจจริงอยากจะไปให้เลยขอบเขตนั้นก็ตาม
  M4 z4 V6 N5 u0 i, g# }7 ?4 {แต่วันนี้ ขณะที่ผมนั่งอบซาวน่าโดยผมนั่งอยู่บนม้ายาวตัวหนึ่ง และพี่ยศนั่งอยู่บนม้ายาวด้านตรงข้าม เราสองคนนั่งเงียบ ผมปล่อยใจให้คิดอะไรต่ออะไรไปเรื่อยเปื่อย ส่วนสายตาก็จับจ้องที่ใบหน้าพี่ยศอย่างลืมตัว ใบหน้าของพี่ยศดูดีมาก แม้ไม่หล่อเหมือนนายแบบ แต่ก็ดูเท่ เข้มแข็ง อบอุ่น และน่าสนิทสนมด้วย ภายใต้ผ้าขนหนูผืนเล็กผืนเดียวที่พันกายพี่ยศอยู่ ทำให้ผมเห็นเรือนร่างของพี่ยศได้เกือบทั้งหมด เรือนร่างที่แข็งแรง แม้ไม่บึกบึนแต่ก็มีกล้ามพองามตามแบบของคนที่เล่นเวทเป็นประจำ ท่อนขาที่แข็งแรง ปลีน่องที่มีขนรุงรัง ฯลฯ เรือนร่างนั้นช่างเซ็กซี่สำหรับผมเสียนี่กระไร ผมใช้สายตาโลมไล้เรือนกายของพี่ยศอย่างลืมตัวซึ่งเป็นเรื่องที่ผมไม่เคยทำมาก่อน
8 }6 b5 A5 e% ]+ |- f% E, `2 Iและแล้ว ผมก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกายของผม ท่อนลำที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ผ้าขนหนูผืนเล็กของผมก็เริ่มขยายตัวอย่างไม่อาจควบคุมได้ ผ้าขนหนูที่พันกายสำหรับอบซาวน่านั้นมีขนาดเล็กนิดเดียว มันจะไปปกปิดอะไรได้ ท่อนลำของผมจึงชูชันเหมือนเสาค้ำผ้าขนหนูอยู่ ซึ่งพี่ยศที่นั่งอยู่ตรงข้ามเห็นได้อย่างถนัด7 T2 j* C* f( N' s8 L
ผมรู้สึกอายพี่ยศ แม้เราจะสนิทกัน … หรือเรียกได้ว่ารักกัน และผมก็เคยรู้สึกเกิดอารมณ์เพศกับพี่ยศ แต่นั่นก็เป็นตอนที่พี่ยศไม่อาจเห็นหรือรับรู้ได้ เราไม่เคยสนทนากันถึงเรื่องเซ็กซ์เลยเพราะต่างฝ่ายต่างก็รู้ว่าแค่คบกันแบบนี้ก็รู้สึกผิดในใจอยู่พอสมควรแล้ว ดังนั้นจึงกระดากที่จะคุยเรื่องเซ็กซ์กัน ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพี่ยศเคยเกิดอารมณ์กับผมหรือเปล่า แต่ในวันนี้ ร่างกายของผมได้ฟ้องความต้องการของตนเองออกมาแล้ว และพี่ยศก็กำลังจับจ้องดูมันอย่างตาไม่กระพริบ
( A0 z1 v+ H, U+ g( m) s

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
ตอบกลับ
16222
พลังน้ำใจ
79556
Zenny
210037
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:15:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(7) : เพลงบาป
5 {8 N6 a3 _( c; S9 P2 E  m, g" D* V1 Z5 j" _3 S  k* C
ท่อนลำของผมชูชันอยู่ภายใต้ผ้าขนหนูด้วยอารมณ์ปรารถนาที่เก็บซ่อนไว้มานาน ขณะเดียวกันผมก็สังเกตเห็นว่าผ้าขนหนูที่พันท่อนล่างของพี่ยศก็เริ่มโป่งพองขึ้นเช่นกัน' M1 b6 U; W5 _, z2 c. n
พี่ยศมองหน้าผม ดวงตาเป็นประกายจนผมไม่กล้าที่จะตีความหมายในสายตาของพี่ยศ จากนั้นพี่ยศก็ลุกขึ้นมานั่งข้างๆผม ท่อนลำของพี่ยศชูชันเต็มที่ ใจของผมนั้นปรารถนาที่จะปลดผ้าขนหนูผืนน้อยนั้นลงมาเสียเหลือเกิน แต่ก็ไม่กล้าทำ ขณะนั้นผมทำอะไรไม่ถูก ใจสั่น มันสับสนไปหมด เพราะสิ่งที่ผมทั้งอยากให้มันเกิดขึ้น และในขณะเดียวกันก็กลัวว่ามันจะเกิดขึ้น ผมกำลังมาถึงทางสองแพร่งแล้ว มันจะเกิดขึ้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเราสองคน ผมเองในขณะนั้นก็ตัดสินใจไม่ถูกเหมือนกัน มโนธรรมของผมพยายามตักเตือนให้ผมหยุดการกระทำนี้เสีย เหมือนอย่างที่เคยเตือนผมมาตลอดและผมก็มักไม่ยอมฟัง คราวนี้ผมควรจะฟังหรือไม่?
9 b6 m) e2 J# E3 L/ I6 x, nพี่ยศเอาท่อนแขนมาโอบไหล่ผมและกระชับตัวผมให้เข้าใกล้ ร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่าและชุ่มไปด้วยเหงื่อของเราสองคนเสียดสีกัน ผมซบศีรษะลงกับหัวไหล่ของพี่ยศ ผมสามารถรับรู้กลิ่นกายของพี่ยศ สำหรับผมแล้วมันช่างหอมกรุ่นเสียนี่กระไร ผมอยากให้พี่ยศโอบผมเช่นนี้ไปนานๆ $ {7 P7 ]& u- m7 T6 b
พี่ยศนิ่งไปชั่วครู่ สัญชาติญาณของผมบอกว่าพี่ยศกำลังตัดสินใจเรื่องที่สำคัญมากอย่างหนึ่ง พี่ยศคงกำลังสับสนที่จะตัดสินใจเลือกทางเดินเช่นเดียวกับผม เสียงมโนธรรมของผมยังคงร้องเตือนก้องในหูของผมให้รีบผละออกมา แต่เสียงนั้นยิ่งนานยิ่งอ่อนล้า…
6 n0 X" Q: Y. s  ], V" B) `; m8 Aทันใดนั้นพี่ยศเปลี่ยนจากการโอบมาเป็นการกอด แล้วโน้มหน้ามาซุกไซร้ติ่งหูและซอกคอของผม ผมรู้สึกเสียวซ่านอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เพียงเท่านี้ผมก็รู้แล้วว่าพี่ยศตัดสินใจอย่างไร และแล้ว ผมก็กำหนดการตัดสินใจของตนเองเช่นกัน - |3 S5 O- I) q0 V
เสียงของมโนธรรมในหูของผมเงียบหายไปแล้ว คงเหลือแต่เพียงเสียงหอบหายใจอย่างเร่าร้อนของเราสองคน ผมตอบสนองพี่ยศด้วยการก้มหน้าลงซุกไซร้หน้าอกอันบึกบึนและหัวนมสีชมพูของพี่ยศเช่นกัน เสียงหอบหายใจของเราสองคนนี้คล้ายบทเพลงประสานเสียงที่ร้อนแรงและช่วยทวีความเร่าร้อนของอารมณ์ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเหมือนบทเพลงแห่งความบาปที่ล่อลวงเราสองคนให้กระทำผิดอย่างที่ไม่อาจถอนตัวได้ …: s6 k5 P5 h- B' P1 s: {
เมื่อปลายลิ้นของผมสัมผัสกับหัวนมของพี่ยศ มันแข็งตัวเป็นไตทันที พี่ยศตัวสั่นสะท้าน กอดผมไว้แน่น ถึงตอนนี้ผมยับยั้งใจไว้ไม่ไหวแล้ว ผมเอื้อมมือตะปบไปที่ผ้าขนหนูตรงท่อนลำของพี่ยศ มันแข็งแกร่งราวกับจะแตกระเบิดออกมา
1 B0 G4 @1 B7 ?- U" f- |1 Tพี่ยศไม่ยอมน้อยหน้า ปลดผ้าขนหนูของตนเองออกจากเอวเพื่อให้ผมจับท่อนลำได้ถนัด พร้อมกับเอื้อมมือมาปลดผ้าของหนูออกจากตัวผมและคว้าท่อนลำของผมไว้เช่นกัน ร่างท่อนบนของเราโอบรัดและซุกไซร้กัน ส่วนท่อนล่างก็ใช้มือลูบไล้กันอย่างเร่าร้อน$ D! U" q* X( K) H
"ไปที่อื่นเถอะเป้ อยู่นี่เดี๋ยวคนมาเห็นเข้า" พี่ยศบอก พลางผละออกจากตัวผม และเอาผ้าขนหนูมานุ่งตามเดิม ผมจำใจต้องหยุดด้วยความเสียดาย แต่ก็จริงอย่างที่พี่ยศว่า เพราะแม้ห้องซาวน่านี้ปกติจะไม่มีคนอื่นเลยในเวลานี้ แต่อย่างไรเราก็ไม่ควรประมาท1 H) I# t2 ~+ c/ l3 V1 w
"ไปที่ไหนดีละครับ" ผมถาม 9 W5 ~- Z/ C4 }' a
"ออกไปก่อนละกัน เดี๋ยวค่อยนึก" พี่ยศว่า % i$ X% \0 E' d9 w* h/ {! k
เราอาบน้ำแต่งตัว และขับรถออกจากซาวน่าโดยผมขับรถตามพี่ยศออกมา พี่ยศขับวนไปเวียนมา คล้ายกับจะหาที่แวะ แต่ก็ไม่รู้จะแวะที่ไหน ในที่สุดก็ต้องลงมาปรึกษากัน พี่ยศเสนอว่าไปที่บ้านผม แต่ผมบอกพี่ยศไปว่าตะขิดตะขวงใจ เพราะรู้สึกอายแม่ แม้แม่จะจากไปแล้ว แต่ผมก็ยังมักคิดอยู่เสมอว่าแม่ยังอยู่คุ้มครองผมและบ้านหลังนั้น จึงไม่อยากทำเรื่องนี้ในบ้านให้แม่เห็น เราสองคนเห็นพ้องกันว่าไม่ควรไปตามโรงแรมม่านรูด เพราะอาจมีคนเห็นเราหรือจำรถได้ คิดไปคิดมาก็ได้ข้อสรุปว่าไปที่บ้านของพี่ยศ
/ x9 L. i- Q# @3 Z# G5 mเราไปถึงที่บ้านของพี่ยศหลังบ่ายสี่โมงเล็กน้อย ซึ่งเวลานั้นปกติแล้วยังไม่มีใครกลับบ้าน พี่ป้อมมักจะกลับบ้านราว 6 โมงเย็น ส่วนโตกับเล็กก็เช่นกันเพราะอยู่เล่นกีฬาหลังเลิกเรียน อย่างเร็วก็ 5 โมงกว่า ดังนั้นทางของเราจึงสะดวก แต่ถึงคนในบ้านจะกลับมาก่อนเวลาเราก็จะได้ยินเสียงเปิดประตูก่อน
/ E  r: ^2 z  M1 k* j$ Dเมื่อมาถึงบ้านของพี่ยศ เราสองไม่รอช้า พากันเดินขึ้นไปชั้นบน เมื่อถึงชั้นบน พี่ยศนิ่งไปชั่วครู่ ผมเดาใจพี่ยศออก พี่ยศคงรู้สึกละอายใจเหมือนกันที่จะพาผมเข้าไปในห้องนอน เพราะห้องนั้นเป็นของทั้งพี่ยศและพี่ป้อม ผมเองก็รู้สึกไม่สบายใจที่จะใช้ห้องนั้นและนอนบนเตียงนั้นเหมือนกัน" D$ d) t" @/ F/ R8 s
"ไปห้องโตก็แล้วกันครับ ใช้ฟูกที่ผมนอนก็ได้" ผมเสนอ ก็คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วในตอนนั้น
0 o" O6 ]9 q% m7 {! @เมื่อไปถึงห้องของโตซึ่งเป็นห้องที่ผมใช้นอนเป็นประจำเวลามาพักที่นี่ ทันทีที่เราเข้ามาในห้อง เราสองคนไม่รอช้า ต่างคนต่างก็โถมเข้าหากัน เรายืนกอดและซุกไซร้กัน ขณะที่ผมกอดพี่ยศอยู่นั้น มือซนของพี่ยศก็ลูบไล้และขยำบั้นท้ายของผมอย่างมันมือ พร้อมทั้งเบียดท้องน้อยของตนเองมาบดขยี้กับท้องน้อยของผมด้วยอารมณ์อันเร่าร้อน ผมเพิ่งตระหนักถึงอีกด้านหนึ่งของพี่ยศที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย นั่นคือด้านที่เร่าร้อนและเร้าใจ และแล้ว เพลงบาปที่หยุดบรรเลงไปชั่วครู่ก็เริ่มบรรเลงต่อไป
: ^+ E' R" w, i8 x( s0 jผมเอาฟูกมาปูเหมือนอย่างที่เคยทำ และแล้วเราทั้งคู่ก็ล้มตัวลงและกอดก่ายกันบนฟูกทั้งเสื้อผ้า… เราก็ประกบปากกัน พร้อมทั้งแลกลิ้นกันอย่างเร่าร้อน ร่างท่อนล่างของเราก็บดขยี้กัน ผมสามารถรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของท่อนลำพี่ยศได้แม้จะมีกางเกงกางกั้นอยู่
9 z% P& G2 b4 X( k' pไม่รอช้า เราสองต่างช่วยกันปลดเปลื้องเสื้อผ้าของกันและกัน ไฟปรารถนาของเราทั้งสองคุโชนเต็มที่อย่างที่ไม่มีอะไรจะมายับยั้งได้อีกแล้ว และแล้ว เราทั้งสองก็อยู่ในสภาพเกือบเปลือยเปล่า มีเพียงกางเกงในติดกายเท่านั้น กลิ่นกายของพี่ยศกระตุ้นอารมณ์ของผมให้กระเจิดกระเจิง ผมโถมลงไปบนตัวพี่ยศและซุกไซร้หน้าอก ลำตัว ระเรื่อยไปจนถึงหน้าท้องอย่างเมามัน ขนที่หน้าท้องของพี่ยศเริ่มที่สะดือและลามหายเข้าไปในกางเกงใน ผมตามไซร้จากสะดือไปจนถึงขอบกางเกงใน และที่นั่นเอง ผมก็ได้เห็นกางเกงในอันโป่งพองของพี่ยศอย่างใกล้ชิด กลิ่นอับชื้นของกางเกงในที่ใส่มาทั้งวันแทนที่จะทำให้ผมรู้สึกไม่ดี ตรงกันข้าม ผมกลับรู้สึกว่ามันรัญจวนใจอย่างประหลาด ผมก้มลงไปงับท่อนลำที่โป่งพองอยู่ในกางเกงในทันที
5 t/ h( ]# S: i  _* tผมรู้สึกคล้ายกำลังงับใส่เสาหิน มันแข็งเกร็งมาก พี่ยศสะดุ้งเฮือก บิดตัวไปมา จะว่าไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนหรืออย่างไรก็สุดคาดเดาได้ ผมโลมไล้อยู่ภายนอกกางเกงในเป็นเวลานานจนพี่ยศทนไม่ได้
! t, q9 `+ t( M+ Y"เป้ จะทำอะไรก็ทำเถอะ พี่ทนไม่ไหวแล้ว" พี่ยศขอร้อง พร้อมทั้งส่งเสียงครางด้วยความเสียวซ่าน # p; q; z' Z6 {+ T+ c0 i
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผมจึงถอนปากจากกางเกงในของพี่ยศ แล้วดึงกางเกงในของพี่ยศลง ท่อนลำของพี่ยศก็ดีดผึงออกมา มันสวยงามมาก ตั้งตรงและแข็งแกร่ง ท่อนลำของพี่ยศมีสีคล้ำกว่าร่างกายส่วนอื่นเล็กน้อย คงเป็นเพราะใช้งานมามากนั่นเอง ส่วนปลายของท่อนลำเปิดได้ครึ่งหัว ทำให้เห็นดอกเห็ดสีแดงคล้ำเพียงครึ่งเดียว ส่วนปลายดอกเห็ดเยิ้มฉ่ำไปด้วยน้ำหล่อลื่นอันเหนียวข้น 8 ~$ W, \# p3 R' Z; B+ X3 u" E
ผมยังไม่ลงมือโจมตีท่อนลำของพี่ยศ แต่ยังคงวนเวียนซุกไซร้อยู่ตามหน้าท้องและกลุ่มมุ่นไหมอันดกดำของพี่ยศ ซึ่งมันทำให้พี่ยศเกร็งไปทั้งตัว ท่อนลำเบ่งพองด้วยความกำหนัด และที่ปลายมีหยดน้ำเหนียวข้นหลั่งออกมามากมายจนย้อยหยดลงมาตามท่อนลำ5 C# w+ ?7 u" {: [) L  G# P8 ~
ผมละจากกลุ่มไหมที่ทั้งดกและนุ่ม อ้อมลงมาที่พวงสวรรค์ของพี่ยศ ผมใช้ลิ้นวนและดูดไปมาจนพี่ยศดิ้นพราด และอย่างคาดไม่ถึง พี่ยศจับศีรษะของผมแน่นแล้วเอาท่อนลำมาแนบกับใบหน้าของผมและถูไถไปมา คล้ายกับพยายามจะหาช่องทางเข้ามาในปากของผม พี่ยศคงสุดจะกลั้นแล้ว ผมจึงสนองด้วยการปล่อยให้พี่ยศถูไถท่อนลำไปมา จากนั้นจึงเริ่มโจมตีการใช้ริมฝีปากขบท่อนลำของพี่ยศเอาไว้ พร้อมทั้งใช้ปากรูดไล้ไปมา+ q/ ]- k( n7 @- g
พี่ยศร้องครวญคราง บิดตัวไปมา ผมเริ่มปฏิบัติการโจมตีขั้นต่อไป จากการขบท่อนลำมาเป็นการเอาปากครอบลงไป พร้อมทั้งใช้ลิ้นวนที่ปลายดอกเห็ดซึ่งเยิ้มฉ่ำ ขณะเดียวกันก็รูดปากลงเพื่อปอกดอกเห็ดของพี่ยศให้พ้นจากสิ่งปกคลุม
" @  f* t) t& w  \0 a/ ]5 cพี่ยศร้องครางเสียงดัง ฟังไม่ได้ศัพท์ ขณะที่ผมยังบรรจงรูดปากขึ้นลงและใช้ลิ้นฉกปลายท่อนลำของพี่ยศ เพียงครู่เดียว พี่ยศก็ทนไม่ไหว จับศีรษะของผมไว้แน่นพร้อมทั้งกระดกเอวขึ้นลงอย่างรุนแรง มันเป็นการกระทำที่รุนแรงมากจนปากของผมเจ็บระบมไปหมด แต่ผมก็ยอมทน และรู้ดีว่าพี่ยศกำลังเพลินเพลินจนลืมตัวและมาถึงจุดสำคัญแล้ว ผมขยับหัวขึ้นลงเพื่อเสริมแรงกระแทกของพี่ยศให้ดุดันยิ่งขึ้น เพื่อให้พี่ยศมีความสุขมากๆ…5 |8 Q0 F# V! J5 k3 A' R5 _) f
และแล้ว จุดวิกฤตก็มาถึง พี่ยศตัวเกร็ง หยุดเคลื่อนไหว ขณะเดียวกันท่อนลำของพี่ยศก็กระแทกเข้าปากผมจึงถึงคอหอย พร้อมทั้งกระตุกเป็นจังหวะ ผมรู้สึกถึงของเหลวอุ่นๆที่พุ่งเข้าไปในคอของผมตามจังหวะการกระตุกของท่อนลำ มันมากเหลือเกิน ทั้งมากและคาว บางส่วนผมก็กลืนเข้าไปแต่บางส่วนก็ไหลออกมาเป็นทางตามมุมปาก
+ w8 E7 m9 u- p! \& dหลังจากพายุร้ายผ่านไป คลื่นลมก็สงบลง ผมปล่อยให้ท่อนลำของพี่ยศคาอยู่ในปากอย่างนั้น อยากคามันไว้ให้นานที่สุด   A6 ?9 T  B1 y+ u) I
เมื่อผมขบท่อนลำ ของเหลวอุ่นๆของพี่ยศก็หลั่งเข้ามาในปากผมอีก ผมจึงใช้ปากรีดเอาน้ำรักส่วนที่ค้างอยู่ในท่อนลำออกมาให้มากที่สุด พร้อมทั้งใช้ลิ้นค่อยๆวนเวียนชำระท่อนลำให้พี่ยศจนสะอาด ขณะที่ผมดำเนินการอยู่นี้ พี่ยศก็ยังคงร้องครวญครางและบิดตัวไปมาด้วยความเสียวซ่านตลอดเวลา7 Q$ E$ m* I3 V3 `
"พอแล้วล่ะเป้ ขอบใจมาก" พี่ยศบอก พร้อมทั้งดึงตัวผมเข้ามากอด ร่างของผมจึงทับพี่ยศเอาไว้ "พี่ไม่เคยมีความสุขอย่างนี้มาก่อนเลย" พี่ยศกระซิบเบาๆที่ข้างหูผมด้วยความรักใคร่* Y) I% _6 p! F9 i* e
"จริงหรือครับ ไม่น่าเชื่อเลย" ผมพูด ใจก็นึกจินตนาการภาพพี่ยศกำลังบรรเลงเพลงรักกับผู้หญิงคนหนึ่งอย่างถึงพริกถึงขิง "พี่น่าจะผ่านประสบการณ์มาเยอะแล้ว"( i, B' P: R7 Q
"มันก็ใช่ แต่นั่นไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงของพี่ พี่เพิ่งรู้ความจริงเดี๋ยวนี้เองว่าความสุขที่พี่เคยได้รับจากคนอื่นนั้นมันเทียบไม่ได้กับที่พี่ได้รับจากเป้เลย เพราะนั่นไม่ใช่ธรรมชาติที่แท้จริงของพี่" พี่ยศพูด ผมรู้ดีว่า 'คนอื่น' ที่พี่ยศหมายถึงนั้นคือใคร 8 B5 d) l6 [: C9 i4 M; q; @4 o
"ผมก็มีความสุขมากเช่นกันครับ ที่ทำให้คนที่ผมรักมากที่สุดมีความสุข" ผมพูด4 L$ [6 A, W+ n
"ยังหรอก เป้ยังพูดอย่างนั้นไม่ได้ เพราะว่าเป้เพิ่งจะ 'ให้' พี่โดยที่ยังไม่ได้รับอะไรเลย คราวนี้ถึงคราวที่พี่จะตอบแทนเป้บ้างแล้วล่ะ" ว่าแล้วพี่ยศก็พลิกตัวผมให้นอนหงายอยู่บนฟูก แล้วตนเองขึ้นไปนอนอยู่บนตัวผมแทน… ! W6 H  _" w+ z

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
ตอบกลับ
16222
พลังน้ำใจ
79556
Zenny
210037
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:16:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(8) : ห้วงรัก เหวลึก
. e* ~* E4 ^5 @% w
2 ]% H  d& i, W, R) {6 x$ Vพี่ยศบรรจงไซร้ผมจากใบหู ติ่งหู ซอกคอ เรื่อยมาจนถึงหน้าอก และเม็ดสีชมพูของผม ลีลาของพี่ยศเร่าร้อนมาก ถึงตอนนี้เองผมก็เข้าใจว่าเมื่อครู่พี่ยศรู้สึกอย่างไรตอนที่ร้องครวญคราง เพราะตอนนี้ผมก็รู้สึกเสียวซ่านอย่างสุดกลั้นเช่นกัน ผมเริ่มครวญครางออกมาบ้าง
$ X% B1 G. f" vพี่ยศยังไม่หยุดแค่นั้น ยังคงซุกไซร้ไล่ลงมา เมื่อมาถึงกางเกงใน พี่ยศก็เลียนแบบจากสิ่งที่ผมทำให้ดูเมื่อครู่ โดยการเล้าโลมจากด้านนอกของกางเกงในก่อน พี่ยศเรียนรู้ได้เร็วทีเดียว จากนั้นชั่วครู่ พี่ยศก็เปลื้องกางเกงในของผมออก
  I6 l, Q$ V5 E1 h0 vท่อนลำของผมโผล่ออกมาทักทายพี่ยศ โดยไม่รอช้า พี่ยศครอบปากลงไปทันที ปากของพี่ยศเหมือนกระบอกสูบที่ทำงานอย่างช้าๆ ท่าทางพี่ยศจะไม่ชำนาญเรื่องนี้เพราะดูท่าเงอะงะ อีกทั้งฟันของพี่ยศยังมักกระแทกท่อนลำของผมจนรู้สึกเจ็บ แต่ถึงแม้จะเจ็บมันก็เป็นความสุขอย่างที่ผมไม่เคยพบมาก่อน
$ K. ?# o; Y" J; O$ iสักพักพี่ยศดูจะชำนาญขึ้น เริ่มใช้ลิ้นตวัดที่ปลายดอกเห็ดของผมบ้าง ทำให้ผมครางเสียงหลงด้วยความเสียวอย่างสุดๆ ถึงตอนนี้ผมทนนอนต่อไปเฉยๆไม่ได้แล้ว ผมพลิกตัวขึ้นมาแล้วกลับลำตัวให้หัวไปทางปลายเท้าของพี่ยศ แล้วอ้าปากครอบท่อนลำของพี่ยศที่ขณะนี้กำลังแข็งตัวอยู่แต่ยังไม่เต็มที่7 f  _/ L5 d* i' y+ D
เมื่อเราอยู่ในท่า 69 เราต่างก็มอบความเสียวซ่านให้แก่กันอย่างเอาเป็นเอาตาย เมื่อท่อนลำของพี่ยศอยู่ในปากของผมมันก็กลับแข็งตัวเต็มที่อย่างรวดเร็ว ดูท่าพี่ยศจะมีพลังเหลือเฟือจริงๆ เพียงครู่เดียวผมก็รู้สึกเต็มกลั้นและพร้อมที่จะระเบิดความสุขออกมาแล้ว
2 P1 i9 I1 L. Q: c8 f: ~"พี่ครับ ผมจะแตกแล้วนะครับ" ผมเตือนพี่ยศ เผื่อว่าพี่ยศไม่อยากให้ของผมแตกในปาก พี่ยศครางเสียงอู้อี้ แทนที่จะถอนปากออกกลับโจมตีท่อนลำของผมหนักยิ่งขึ้น "งั้นผมปล่อยแล้วนะพี่" ผมรีบบอกเพราะสุดที่จะกลั้นทำนบต่อไปได้ พี่ยศไม่ตอบ + B$ X( V$ x( Q- w0 E, }/ u4 Q
ผมรู้สึกเสียวท้องน้อยอย่างสุดกลั้น พยายามกลั้นมันไว้ให้ได้นานที่สุดเพื่อตักตวงความสุขอย่างเต็มที่ แต่แล้วผมก็ต้องปลดปล่อยมันออกมา ท่อนลำของผมกระตุกอย่างแรงพร้อมทั้งฉีดพ่นน้ำรักเข้าไปในปากพี่ยศจนพี่ยศสำลักต้องรีบถอนปากออกมา แต่น้ำรักของผมยังไม่หมด มันยังฉีดพุ่งต่อจนเลอะหน้าพี่ยศและยังเลอะที่หน้าท้องของผมด้วย มันกระตุกพร้อมทั้งพ่นพิษออกมาราว 5-6 ครั้งก่อนที่จะหมดฤทธิ์
0 \) |1 ?/ r! ]6 O"เยอะเหลือเกิน" พี่ยศพูดเบาๆ ว่าแล้วพี่ยศก็ก้มหน้าลงไปทำความสะอาดท่อนลำให้ผมเหมือนอย่างที่ผมทำเป็นตัวอย่างไว้เมื่อรอบแรก ท่าทางพี่ยศไม่ได้รังเกียจกับคราบรักที่เปื้อนใบหน้าเลย คงปล่อยมันไว้อย่างนั้นไม่เช็ดออก 5 Q- y' {2 v& `& P) c
"รสชาติเป็นยังไงครับ" ผมละปากจากท่อนลำของพี่ยศชั่วคราว แล้วถามยิ้มๆ "ทั้งเค็ม ทั้งคาว เป็นครั้งแรกของพี่ ยังไม่ค่อยคุ้นกับรสชาติมันเท่าไหร่" พี่ยศตอบ แล้วถามผมบ้าง "แล้วของพี่ละ"
& F: _! z/ s1 p' H2 f"ก็เค็มและคาวเหมือนกันครับ เป็นธรรมดา" ! C; i7 ^  |1 q8 p
พี่ยศขยับตัวลุกขึ้น คราวนี้จับผมนอนคว่ำ แล้วตัวพี่ยศก็ทอทาบลงไปบนลำตัวผม พี่ยศบรรจงซุกไซร้ต้นคอและแผ่นหลังของผมด้วยปากและจมูก ส่วนท่อนลำอันแข็งแกร่งของพี่ยศก็ซอกซอนอยู่ที่ร่องก้นของผม บางครั้งมันก็กระแทกเข้าที่ปากประตูหลัง เพียงครู่เดียว พี่ยศก็กระซิบเบาๆที่ข้างหูผม
' `- I: U0 c. v# G$ j7 q"เป้ ขอพี่เถอะนะ" เพียงเท่านี้ผมก็เข้าใจว่าพี่ยศหมายถึงอะไร ผมพยักหน้า โดยธรรมชาติของผมแล้วผมชอบเป็นฝ่ายรุกมากกว่า แต่สำหรับกับพี่ยศแล้วผมเต็มใจที่จะเป็นฝ่ายรับตามที่พี่ยศต้องการ เพราะความรักที่มีต่อพี่ยศนั่นเอง
' n! h) T0 w- U& r- Iพี่ยศขอตัว แล้วเดินออกไปนอกห้องทั้งๆที่ตัวเปล่าเปลือย ท่อนลำชี้พุ่งไปข้างหน้า เพียงครู่เดียวก็กลับมาพร้อมกับเควายเยลลี่
" E6 N, |2 Z) X) g3 Iพี่ยศจับผมนอนหงาย ยกขา จากนั้นทาเควายกับท่อนลำของตัวเอง แล้วค่อยๆชำแรกมันเข้าไปในถ้ำของผม ผมเจ็บมากแม้จะมีเควายช่วยหล่อลื่นก็ตามเพราะปกติผมไม่ได้เป็นฝ่ายรับ คนรักในอดีตของผมก็ล้วนแต่ชอบให้ผมเป็นฝ่ายรุก ดังนั้นประตูหลังของผมจึงไม่ค่อยได้ผ่านงานเท่าไรนัก ตอนนั้นมันไม่สนุกเลยแม้แต่น้อย ผมร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด แต่ก็พยายามทน8 I4 W- }- U: d% m  h% F
พี่ยศเห็นว่าถ้ำของผมฝืดมาก ก็เลยทาเควายที่ท่อนลำเพิ่มไปอีก แต่มันก็ยังฝืดอยู่ คราวนี้พี่ยศเลยบีบเควายใส่นิ้ว แล้วส่งเยลเข้าไปโดยใช้นิ้วล้วงเข้าไปในถ้ำของผม จากนั้นชักนิ้วเข้าออกเบาๆ คราวนี้ได้ผล เควายในปริมาณมากช่วยให้ผมสบายขึ้นและรู้สึกสนุกกับการกระทำของพี่ยศได้5 H) h# g3 E5 j8 r& S2 m
พี่ยศค่อยๆเสียบท่อนลำเข้าไปจนสุด จากนั้นคาไว้ชั่วครู่เพื่อให้ผมเคยชิน จากนั้นก็โยกเข้าโยกออกช้าๆ ถึงบทนี้พี่ยศคงมีประสบการณ์มามาก จึงทำได้อย่างนุ่มนวล
- g. T, u& v, I$ X+ j7 t' j"คับเหลือเกินเป้" พี่ยศคราง ขณะเดียวกันก็เริ่มเร่งความเร็ว ผมเริ่มรู้สึกเสียวขึ้นมาบ้างแล้วเช่นกัน เพียงครู่เดียวท่อนลำของพี่ยศก็กลายเป็นลูกสูบที่โหมกระหน่ำเข้าใส่กระบอกสูบของผมอย่างไม่ยั้ง เสียงแผ่นเนื้อและถุงบอลของพี่ยศกระแทกก้นของผมดังพั่บๆช่วยเร้าอารมณ์ของเราทั้งสองได้มาก
* T* Y8 A/ [- t# }สักพักผมก็รู้สึกฝืดและเริ่มแสบอีก พี่ยศจึงทาเควายเพิ่มให้ จากนั้นพี่ยศจึงเปลี่ยนท่าโดยให้ผมนอนคว่ำแล้วพี่ยศนอนทับอยู่บนลำตัวของผม และค่อยๆชำแรกท่อนลำเข้ามาอีกครั้ง พี่ยศซุกไซร้ลำตัวของผมอย่างเร่าร้อนในขณะที่ท่อนล่างโหมกระหน่ำใส่ถ้ำของผม แรงกระแทกทำให้ผมสั่นสะท้านไปทั้งตัว ลีลาของพี่ยศยอดเยี่ยมมาก รวมทั้งยังอดทนอีกต่างหาก เวลาผ่านไปแล้วสิบห้านาที ทาเควายเพิ่มไปหลายรอบ พี่ยศก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จ
/ m1 h4 v; A$ F+ j' c"พี่ครับ ผมไม่ไหวแล้วครับ" ผมร้องบอกพี่ยศเพราะหลังจากโดนถล่มอยู่นาน แม้มีเควายก็ยังช่วยไม่ไหว ตอนนี้ผมรู้สึกแสบไปทั้งถ้ำ
/ s7 k& ^+ ^4 C& u. x) U"ทนอีกนิดนะเป้" เมื่อพี่ยศได้ยินดังนั้นจึงเร่งความเร็วขึ้น และเพียงครู่เดียว ผมก็รู้สึกถึงของเหลวอุ่นๆจำนวนมากฉีดพุ่งอยู่ภายในถ้ำของผม
2 r  }! m3 m  _) c' w' Fพี่ยศชะลอความเร็วของลูกสูบลง ของเหลวจากตัวพี่ยศทำให้ผมรู้สึกสบายขึ้นมากเพราะมันทั้งมากและลื่น บรรเทาความแสบร้อนได้ดี เพียงครู่เดียวลูกสูบก็หยุดทำงานและพี่ยศก็ฟุบลงบนแผ่นหลังของผม/ b2 ?) v4 }+ y7 Y, y, ^
ผมปล่อยให้ท่อนลำของพี่ยศคาไว้และให้พี่ยศนอนพักผ่อนอยู่ในท่านั้นจนท่อนลำหลุดออกมาเอง พี่ยศหลั่งออกมาเยอะมากจริงๆ มากจนมันรั่วไปเลอะผ้าปูที่นอนเล็กน้อย และเมื่อผมลุกขึ้นยืน มันก็ยังไหลย้อยออกมาจากประตูหลังของผมลงมาตามขาอ่อน จนต้องรีบเอาทิชชู่มาซับ
; x. j2 P* ]; c5 X2 O5 N"พี่หลั่งเยอะจัง" ผมแซว พี่ยศยิ้มๆไม่ตอบอะไร แต่โน้มหน้ามาหอมแก้มผมอย่างเอ็นดู "ขอบใจมากเป้ นี่เป็นครั้งแรกของพี่เลยนะ หมายถึงกับ… ผู้ชายด้วยกันน่ะ"   b- x0 q. R2 S- B  H
ผมพยักหน้ารับทราบ รู้สึกดีใจที่เป็นผู้ชายคนแรกที่ได้นอนกับพี่ยศ แม้จะกล่าวคำว่า 'คนแรก' ได้ไม่เต็มปากนัก ต้องใช้คำว่า 'ชายคนแรก' ก็ตาม
2 F( E5 {6 [! }หลังจากนั้นเราทำความสะอาดร่างกายและรีบออกไปจากบ้านก่อนที่คนอื่นๆในบ้านจะกลับมา และหลังจากนั้นเป็นต้นมา พี่ยศกับผมก็มักมีอะไรกันเสมอๆ โดยใช้ที่บ้านของพี่ยศนั่นเอง เพียงแต่เลือกเวลาให้เป็นเวลาบ่ายซึ่งยังไม่มีใครกลับ ส่วนผมนั้นส่วนใหญ่จะไม่มีปัญหาในการนัดพบกับพี่ยศเพราะสามารถจัดคิวงานในแต่ละวันได้โดยไม่ให้เสียงาน5 H# G! L# X8 K! d
ในที่สุดผมก็ได้ครอบครองพี่ยศ ความรักความสุขที่เราได้มอบให้แก่กันและกันมันมีความหมายมาก ทั้งผมและพี่ยศต่างก็รู้สึกว่าชีวิตของเราจะขาดกันและกันไม่ได้ ในขณะเดียวกันเปลือกนอกเรายังคงพยายามไม่ให้สนิทสนมกันมากเกินไปเพราะเกรงจะเป็นที่ผิดสังเกต แม้เราทั้งคู่จะมาถึงจุดที่อาจเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จในเรื่องความรักแล้ว แต่ในส่วนลึกของหัวใจแล้วเหมือนมีเงาทะมึนครอบคลุมอยู่ เพราะสิ่งที่เราได้ทำไปนั้นเป็นสิ่งผิด ผมรู้ทั้งรู้ว่าทางสายนี้เป็นทางที่ผิด ผมไม่ควรรักคนที่มีเจ้าของแล้ว แต่ผมก็ยังเดินไป ถลำเข้าไปเรื่อยๆโดยหาข้ออ้างให้แก่ตัวเองต่างๆนานาเพื่อจะไม่ต้องถอนตัวจากพี่ยศ สิ่งที่ผมเคยคิดว่าผมจะรักกับพี่ยศโดยไม่ต้องแย่งพี่ยศมาครอบครองโดยที่เราไม่มีเพศสัมพันธ์กันนั้น ตอนนี้ก็ได้พิสูจน์แล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ ทั้งผมและพี่ยศไม่สามารถทนความเย้ายวนแห่งกิเลสตัณหาที่มาพร้อมกับความรักได้
* Q& v( Z, u+ A' w9 b0 G2 oแต่ถึงแม้ผมทราบว่าปลายทางสายนี้เป็นเหวลึก ผมก็สมัครใจที่จะเดินไป…
4 b6 D, G  l5 b+ q+ q- O, uผมยังคงมาสอนหนังสือให้โตและค้างที่บ้านพี่ยศเป็นประจำทุกวันเสาร์ ที่จริงมาระยะหลังนี้ผมรู้สึกตะขิดตะขวงใจอยู่เหมือนกันที่ต้องเผชิญหน้ากับพี่ป้อม ผมเป็นเหมือนวัวสันหลังหวะ ผมรู้ว่าพี่ยศคงมีความรู้สึกคล้ายๆกันแต่ต่างคนก็ไม่อยากพูดออกมาเพื่อสร้างความลำบากใจให้กัน ดังนั้นต่างรู้ต่างก็เงียบไว้
" G+ Z& ?% f9 Eในตอนเย็นของเสาร์หนึ่ง ขณะที่ผมกำลังสอนหนังสือให้โตอยู่ ผมได้ยินเสียงคนเถียงกันแว่วเข้ามาในหู พี่ยศกำลังเถียงกับพี่ป้อมอยู่ในห้องครัวนั่นเอง ทั้งสองเถียงกันค่อนข้างเบา ผมจึงจับใจความไม่ได้ แต่รู้แน่ว่าทั้งสองกำลังมีปากเสียงกัน
! x! A9 x  v+ Q  D, U2 t$ i"เฮ้อ" โตถอนใจ แล้วเอนตัวมาซบผมแบบเด็กอ้อน ยิ่งนานผมกับโตก็ยิ่งสนิทกัน จนเป็นเหมือนอาหลานกันจริงๆ โตรักและไว้วางใจผมมาก บางทียังเอาเรื่องเพื่อนสาวที่โรงเรียนมาปรึกษาตามประสาของเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ที่เป็นแฟนกันตั้งแต่เรียนมัธยม ถึงแม้โตจะเข้าสู่วัยรุ่นแล้ว แต่ด้วยความสนิทสนม บางครั้งโตก็เผลอแสดงนิสัยแบบเด็กๆออกมา อย่างเช่นการมาซบผม…เหมือนที่โตทำกับพ่อ ซึ่งนี่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมรักและเอ็นดูโตมาก ' j0 M& [6 @% B
"โตถอนใจทำไม มีอะไรไม่สบายใจเหรอ" ผมโอบแกไว้ด้วยความเอ็นดู7 O( y0 k" Z) k2 Q3 W" e
"ก็พ่อกับแม่น่ะซี หมู่นี้เถียงกันอยู่เรื่อย" โตบ่น เดี๋ยวนี้โตพูดจากับผมไม่ค่อยจะมี 'ครับ' ต่อท้ายแล้ว เพราะความสนิทกันนั่นเอง
  |* a1 A# R: s9 Hผมชักเอะใจ "ใจเย็นๆน่า คู่รักกันอยู่ด้วยกันมานานก็ต้องมีปากเสียงกันบ้างนั่นแหละ อ้อ แล้วเถียงกันเรื่องอะไรล่ะ"( B$ z7 f# [! \  L# _
"เรื่องไม่เป็นเรื่องครับ" โตบอก แล้วเปลี่ยนซบที่ลำตัวผมมาเป็นนอนหนุนตัก ระยะหลังนี้โตชอบนอนหนุนตักผมบ่อยๆ เราเรียนกันอย่างตามสบาย นั่งๆนอนๆได้ตามอัธยาศัย บางทีโตเมื่อยก็มานอนหนุนตักผมเล่น"บางทีก็เถียงกันเรื่องอาหาร คนนึงอยากกินอย่างนั้น อีกคนอยากกินอย่างนี้ บางทีดูทีวียังเถียงกันเรื่องหนังเลย ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น แม่ยังเคยบ่นเลยว่าพ่อเปลี่ยนไป"
% t% A# l1 f2 \8 t; ~/ Iผมนิ่งอึ้ง เงาทมึนในใจผมยิ่งมืดมิด ความเปลี่ยนแปลงของพี่ยศนี้ต้องเกี่ยวกับผมแน่ๆ ) B8 T- N4 E* `% D8 R

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
ตอบกลับ
16222
พลังน้ำใจ
79556
Zenny
210037
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:17:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(9) : รอยร้าวในครอบครัว & r) H* _5 L$ R& ~( e

& J3 B6 w2 R4 r$ H. `เมื่อมีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สอง และเมื่อมีครั้งที่สองก็ต้องมีครั้งต่อๆไป ผมกับพี่ยศลักลอบมีเพศสัมพันธ์กันเป็นประจำโดยใช้สถานที่คือที่บ้านของพี่ยศ แม้ผมจะรู้สึกผิดที่ทำอย่างนี้ แต่ความรู้สึกผิดก็ไม่สามารถยับยั้งการกระทำของเราสองได้ และเมื่อนานไป เราก็เริ่มชินชากับความรู้สึกผิดนั้น ; Z7 i7 F6 ?7 c( s& d& S
หลังจากนั้นผมก็พบว่าพี่ยศกับพี่ป้อมมักมีกิริยาปั้นปึ่งต่อกัน คล้ายกับว่าไม่พอใจอะไรกันบางอย่าง จะเป็นอย่างนี้อยู่เป็นครั้งคราว ผมเริ่มรู้สึกอึดอัดใจที่เห็นครอบครัวนี้อยู่ในสภาพเช่นนี้ จึงลองเลียบเคียงถามโตดูในคืนวันเสาร์หนึ่งหลังจากที่เราเตรียมตัวเข้านอน7 [4 @1 J6 t, t6 `0 `8 q
"โต พ่อกับแม่เป็นไงบ้างหมู่นี้" ผมถาม
7 I& Y. P4 v* y! h+ \7 x" vโตทำหน้าเบ้ "ไม่ค่อยจะดีครับ งอนกันอยู่เรื่อยเลย ที่จริงพ่อก็เฉยๆนะครับ แต่ดูว่าแม่จะงอนพ่อมากกว่า พ่อก็ยังเฉยของพ่ออยู่เรื่อย จะมีก็บางครั้งที่เห็นพ่อหงุดหงิด"9 f! s) U+ u& N8 S# [) N  z
"แล้วที่แม่ว่าพ่อเปลี่ยนไปน่ะมันเรื่องอะไรบ้างล่ะ" ผมถามต่อ
* n  d5 d( @3 l+ y# }% r"ก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ผมว่าพ่ออาจจะเปลี่ยนไปบ้างจริงๆ ดูพ่อเฉยยิ่งกว่าเก่าอีกครับ แต่ก็เถียงกับแม่บ่อย คือตอนเถียงก็พูดน่ะครับ แต่ตอนอยู่เฉยๆแล้วเงียบกว่าเก่าอีก" โตอธิบาย แล้วพูดต่อ "ผมกับเล็กยังคุยกับพ่อน้อยลงเลย รู้สึกว่าพ่ออารมณ์ไม่ค่อยจะดี แต่ก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร"
1 _% r. R( f, `& eว่าแล้วโตก็ลงมานั่งข้างๆผมที่ฟูก แล้วกอดผมไว้ "ไม่คุยกับพ่อก็ไม่เป็นไร คุยกับอาเป้ดีกว่า" % ?7 w  e8 i4 g
ผมเอามือขยี้ผมโตด้วยความเอ็นดู ยิ่งนานโตยิ่งช่างอ้อนกับผมมากขึ้นทุกวัน "จะคุยอะไรกับอาล่ะ อาง่วงแล้ว"
% o! k% |5 T/ F2 a# D"น่า อาเป้ คุยกับผมหน่อย" แล้วโตก็ทำท่าเขินๆ "อยากถามอะไรอาบางอย่าง"2 G9 }+ p! R0 x3 H& J( X6 D9 r
"อะไรล่ะ ว่ามาสิ" ผมชักรู้สึกสนใจกับกิริยาของโต คำถามนี้คงเป็นคำถามค่อนข้างส่วนตัวเป็นแน่
" y$ w( j8 j3 f. M+ P3 T"เอ่อ… ผมอยากรู้ว่าอาเคยใช้ถุงยางไหม" โตหน้าแดงเมื่อถามคำถามนี้ ผมเองก็สะอึกไปเหมือนกัน
" x+ t. ?/ X1 o"โตถามทำไมกันล่ะ"
/ ]- F( R* p. r4 d) P! S"ก็อยากรู้น่ะครับ คือ… คือ…" โตอึกอัก
6 g) Q! n6 {8 ^$ q"บอกมาก่อน ว่าอยากรู้ไปทำไม" ; U1 s  B5 D4 \: i5 T& J" Z
"คือ ผมอยากมีเซ็กซ์กับแฟนผมอ่ะครับ แต่ยังใช้ถุงยางไม่เป็น" โตพูด ผมตะลึง ไม่นึกเลยว่าเด็กวัยรุ่นสมัยนี้จะไวไฟขนาดนี้
4 W6 M. {5 A  C2 m8 Y"อะไรกันโต นี่เพิ่งจะ ม.4 เอง ยังเด็กอยู่เลย ริจะมีเซ็กซ์แล้วเหรอ ทำไมถึงได้ไวกันขนาดนี้ล่ะ"ผมถามด้วยความประหลาดใจและตกใจเล็กน้อย แต่ก็รู้สึกดีใจที่โตถามคำถามนี้กับผม เพราะถ้าไม่อย่างงั้นแกอาจไปทำใครท้องก็ได้
) F% q! \* l# A0 u  Y"อะไรกันอาเป้ เด็กที่ไหน ผมมีบัตรประชาชนแล้วนะ" โตย้อน "อีกอย่าง เพื่อนผมมันนอนกับแฟนตั้งแต่ ม.3 แล้ว นี่ผม ม.4 แล้วยัง… ยังไม่มีอะไรกับใครเลย จะว่าเร็วได้ไง"
+ K9 k4 j* v7 qผมอดขำไม่ได้ แม้โตจะเป็นหนุ่มแล้ว แต่บางทีผมก็คิดว่าแกยังเด็กอยู่ "แล้วทำไมไม่ถามเพื่อนล่ะถ้ายังงั้น"
/ k0 E0 t; S+ {' p& X4 [/ ?"ก็เพื่อนผมมันไม่ใช้ถุงยางนี่ครับ แต่ผมรู้จักระวังตัว เดี๋ยวแฟนท้องแล้วจะยุ่ง อีกอย่าง ไม่อยากถามใครด้วยครับ เสียฟอร์มหมด เดี๋ยวมันจะหาว่าแค่นี้ก็ไม่รู้" โตสาธยาย "อาเป้รู้ก็บอกมาสิครับ หรือว่าไม่รู้" แน่ะ ท้าทายผมเล็กๆอีกด้วย
) |  E6 K% ?$ q' P"โต ฟังอาก่อน" ผมพยายามอธิบาย "ใช้น่ะใช้เป็น แต่อาว่าสิ่งที่โตคิดจะทำมันเร็วไปนะ เอาไว้โตเป็นผู้ใหญ่ก่อนจะไม่ดีกว่าหรือ เกิดพ่อแม่ผู้หญิงเขารู้เรื่องแล้วเอาเรื่องจะทำยังไง โตไม่เสียอนาคตเหรอ"
! t" @/ e$ V6 G* r+ e% s4 r"โธ่เอ๊ย อาเป้ไปอยู่ไหนมา ถ้าไม่ท้องล่ะมันไม่มีปัญหาหรอกครับ เป็นแฟนกันใครๆเขาก็ไปนอนกันทั้งนั้น บางคนมันยังเอามาเล่าให้เพื่อนฟังสนุกๆเลย"
6 e) v# O1 u! o9 _1 o8 \% ~; \"ไม่เอาล่ะ อาว่าอายังไม่สอนโตดีกว่า" ผมตัดบท เมื่อเห็นว่าการสนทนาชักจะไปกันใหญ่ และเรื่องแบบนี้ผมรับมือไม่ถูกเสียด้วย ผมไม่อยากมีส่วนส่งเสริมให้โตชิงสุกก่อนห่าม
: g2 e+ U6 }" h6 p3 }8 I"น่า น่า สอนหน่อยน่า อาเป้" โตอ้อนอีก พลางล้มตัวลงทับผม "ไม่สอนผมกดอาไว้ไม่ให้ไปไหนด้วย" 5 Y1 H4 ^7 H! d8 ^0 }4 x* y
ว่าแล้วเราทั้งสองก็กอดปล้ำกันเล่น บางทีโตนึกสนุกก็จะมาปล้ำกับผมเล่น แต่ก่อนก็ไม่บ่อยนัก แต่ผมเพิ่งจะมาสังเกตว่าช่วงหลังที่โตเริ่มเติบโตขึ้น โตมักชอบเล่นปล้ำกับผมบ่อยๆ คงอยากประลองกำลังกระมัง เพราะโตตัวโตอย่างรวดเร็ว ปีสองปีที่ผมเห็นโต จากเด็กน้อยหุ่นเผอมพรียวกลายเป็นเด็กหนุ่มร่างสูงและมีกล้ามเนื้ออันเนื่องมาจากการเล่นกีฬา! s6 ?- A8 F8 s7 I+ `" K4 g
โตทับตัวผมไว้ ซึ่งผมรู้สึกว่าทับนานเป็นพิเศษ และแล้ว…ผมก็รู้สึกถึงสัมผัสอันค่อนข้างแข็งจากแก่นกายของโตที่ทาบอยู่บนท้องของผม … คงเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติของเด็กหนุ่มที่ส่วนนั้นโดนเสียดสี ผมคิด แล้วก็ผลักตัวโตลงไปจากตัวผม แต่ไม่ให้โตรู้ว่าผมจงใจ คงเหมือนกับการเล่นกัน  N5 n2 ?& K0 o+ b  {
"พอแล้ว โต ดึกแล้วนะ อาว่าเรานอนกันดีกว่า" ผมเปลี่ยนเรื่อง โตมีสีหน้าเปลี่ยนไปนิดๆ แต่ตอนนั้นผมไม่ได้สนใจ คงนึกว่าโตผิดหวังที่ผมไม่ยอมสอนการใช้ถุงยาง จากนั้นเราทั้งสองก็เข้านอน และคืนนั้นเอง เมื่อผมตื่นขึ้นมากลางดึกผมก็พบว่าโตกำลังช่วยตัวเองโดยนอนคว่ำแล้วถูไถกับเตียงเหมือนอย่างที่เคยทำตอนที่ผมมาค้างที่นี่ใหม่ๆ
0 o; [( b+ k& F* O7 I# O; c9 xเมื่อแรกๆ บางครั้งผมต้องตื่นขึ้นมากลางดึกจากเสียงรบกวนบางอย่าง และพบว่าโตกำลังช่วยตัวเองแบบนี้อยู่ แต่สักปีที่ผ่านมาอาการนี้หายไป จะเป็นเพราะโตเลิกทำหรือเป็นเพราะผมหลับสนิทก็ไม่แน่ใจ แต่เอาเป็นว่าผมไม่ได้สังเกตพฤติกรรมแบบนี้อีกในช่วงหลัง เพิ่งจะมาสังเกตได้อีกคืนนี้เอง แต่ผมก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมาขัดจังหวะโต คงนอนหลับต่อไป เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมชาติของวัยรุ่น หลังจากนั้นในวันต่อๆมาผมก็ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท / |7 L4 s8 e# y4 e2 J
จากข้อมูลที่โตเล่าให้ผมฟัง ผมจึงพยายามหาโอกาสคุยกับพี่ยศเรื่องความระหองระแหงที่เกิดขึ้นในครอบครัว เดิมทีผมไม่คิดจะพูดเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องในครอบครัวซึ่งผมไม่ควรเข้าไปก้าวก่าย แต่เมื่อมาถึงตอนนี้แล้วผมคิดว่าผมมีส่วนอยู่ด้วย จึงอยากถามพี่ยศให้กระจ่าง
  Y! z3 k" Y& r+ [และแล้ว โอกาสเหมาะก็มาถึงเมื่อวันหนึ่งเรานั่งคุยกันในห้องซาวน่าในยามบ่าย ที่จริงผมกับพี่ยศก็ยังเจอกันบ่อยๆ รวมทั้งยังมีเพศสัมพันธ์กันสม่ำเสมอ อีกทั้งพี่ยศก็ยังสินทสนมและแสนดีกับผมอย่างเสมอต้นเสมอปลาย แต่ผมก็ยังไม่สามารถหาโอกาสเหมาะที่จะคุยเรื่องนี้ได้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย จนกระทั่งวันนี้…& e& c  G! ~* r
"พี่ครับ" ผมเริ่ม หลังจากที่เราปล่อยอารมณ์ตามสบายกับไอน้ำร้อนที่อบอวลอยู่ในห้องซาวน่าได้พอสมควรแล้ว "ผมรู้สึกว่าพี่กับพี่ป้อมหมู่นี้ไม่ค่อยจะ… จะ… " ผมพูดไม่ออก นึกไม่ออกว่าจะใช้คำอะไรดี "คือผมรู้สึกว่าพี่สองคนมีปากเสียงกันเล็กๆน้อยๆอยู่เสมอน่ะครับ" ผมพยายามพูดให้สถานการณ์ดูเบาอย่างที่สุด "มันผิดไปจากเมื่อก่อน"/ O5 g: H. g( ^3 @4 S
พี่ยศหน้าเครียดไปหน่อยหนึ่ง "เป้สังเกตออกหรือ" # C6 e% D% e' Q; S2 [! ~
"ใครๆก็ดูออกครับพี่ แม้แต่พวกเด็กๆ" ผมหมายถึงเล็กกับโต "ผมรู้สึกไม่สบายใจครับ เพราะผมแน่ใจว่ามันเกี่ยวกับผม" & H& U; Z. b9 O! ]2 `6 ]. L1 l( b- ]& w
สีหน้าพี่ยศเครียดลงไปอีก แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ถึงอย่างไรเราก็ต้องพูดกัน "มันก็ไม่เชิงเกี่ยวกับเป้หรอก"
# f+ h( r9 X& j"ถ้าไม่เกี่ยวยังงั้นพี่บอกผมได้ไหมครับว่ามันเกิดอะไรขึ้น" ผมรุก
1 n/ f. G  Y  ?พี่ยศถอนใจ แม้ว่าพี่ยศจะระหองระแหงกับพี่ป้อมในระยะหลัง แต่พี่ยศไม่เคยอารมณ์เสียกับผมเลย พี่ยศดีกับผมทุกอย่าง จนผมแปลกใจว่าทำไมพี่ป้อมกับพี่ยศจึงระหองระแหงกันได้ในเมื่อพี่ยศนิสัยดีออกอย่างนี้
; N2 E& |2 c- Y$ {4 ?1 f"ที่จริงมันเกี่ยวกับพี่มากกว่า" พูดแล้วพี่ยศก็ถอนหายใจอีก "ยังไงละครับ" ผมถามรุกอีก . f6 f% l( p- H0 T
"คือ… เอาละ พี่จะบอกให้เป้ฟังก็แล้วกัน คือที่เราระหองระแหงกันในช่วงนี้เพราะป้อมเขาหงุดหงิดพี่น่ะ" พี่ยศเล่าแค่นี้แล้วก็นิ่งอึ้ง "แล้วทำไมต้องหงุดหงิดพี่ด้วยละครับ" ผมถาม ยังนึกหาสาเหตุไม่ออก0 O# }2 l5 F+ `! `! n7 E
"คือพี่ไม่ยอมทำการบ้านกับป้อมเขาน่ะ" พี่ยศสารภาพ0 e3 S0 w3 ?2 m8 j; g
ในที่สุดพี่ยศก็ยอมพูดถึงต้นตอของปัญหาออกมา ผมนิ่งเงียบ รับมือกับปัญหานี้ไม่ถูกเหมือนกัน เพราะมันเป็นปัญหาที่ผมนึกไม่ถึงมาก่อนเลย "แล้วอย่างนี้พี่ยังบอกว่าไม่เกี่ยวกับผมหรือครับ มันเกี่ยวกับผมชัดๆ"
% h9 @- `5 p' d2 z, H1 C5 |, A"เป้ ฟังพี่ก่อนนะ คือว่าพี่ฝืนความรู้สึกที่ต้องมีอะไรกับผู้หญิงมานานแล้ว จนมาระยะหลังนี่พี่รู้สึกว่าพี่ไม่อยากฝืนต่อไปแล้ว พูดตรงๆนะ พี่แทบจะไม่เกิดอารมณ์กับผู้หญิงเลยในระยะหลัง ไม่ได้หมายความว่าป้อมมีอะไรบกพร่องนะ แต่พี่หมายถึงตัวเอง พี่เบื่อที่จะต้องฝืนความรู้สึกของตัวเองต่อไป ถึงเป้ไม่ได้เข้ามาในชีวิตของพี่ พี่ก็ยังต้องทำแบบนี้กับป้อมอยู่ดี" พี่ยศพยายามอธิบาย
8 \6 z+ t. [% s; W5 b6 s4 @ผมไม่แน่ใจว่าสิ่งที่พี่ยศพูด คือหมายถึงว่าถ้าผมไม่ได้เข้ามาในชีวิตพี่ยศแล้วทุกอย่างมันจะเลวลงแบบนี้หรือไม่ คงไม่มีใครบอกได้เพราะว่าถึงอย่างไรผมก็เข้ามาแล้ว9 ^4 g' k+ v( K1 p4 `& }" Q& G
"แล้วผมควรจะทำอย่างไรครับ เพราะเท่ากับผมกำลังทำให้ครอบครัวของพี่แตกแยก" ผมพูดอย่างสำนึกผิด "ผมอยากถอนตัวเองออกมาเหมือนกันครับ แต่ว่าผมก็ทำไม่ได้" + n" t! U  e- q* a+ {
พี่ยศปลอบผมด้วยการตบไหล่ผมเบาๆ "พี่เองก็ยังไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน คงต้องค่อยๆคิด"
( }0 t- b* W7 `9 Oผมตัดสินใจถามเรื่องส่วนตัวของพี่ยศออกไป "แล้วพี่เคยพยายามฝืนทำเพื่อพี่ป้อมได้รับความสุขบ้างไหมครับ"
6 `5 M" p% a5 l1 `: @8 t* y"เคยสิเป้ ทำไมจะไม่เคย แต่มันไม่ได้ผล ระยะหลังนี้พี่ไม่มีอารมณ์กับป้อมเขาเลย พี่ทำให้มันแข็งไม่ได้" พี่ยศสารภาพ "พอพี่รู้ว่าพี่ทำไม่ได้ พี่ก็พยายามหลีกเลี่ยง หนักเข้าป้อมก็เลยทนไม่ไหว คิดว่าพี่ตายด้าน เลยพยายามให้พี่ไปปรึกษาหมอ พี่ก็ไม่ยอมไปเพราะพี่รู้ดีว่าพี่ไม่ได้ตายด้านอย่างที่ป้อมคิด ป้อมก็เลยหงุดหงิด หาว่าพี่ไม่ยอมให้ความร่วมมือ"
% H/ v9 K8 T6 k7 ~4 y' l) ^: O! L4 {เราทั้งคู่นิ่งเงียบ ผมจับมือพี่ยศบีบเบาๆอันเป็นความหมายว่าผมเข้าใจและเห็นใจพี่ยศ ถึงตอนนี้ผมเข้าใจหมดแล้ว และไม่ได้ซักถามอะไรอีก ผมอยากหนีสภาพนี้ไปให้ไกลแสนไกล แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะผมทิ้งพี่ยศไปไม่ได้… . K8 t2 |3 B$ N4 n3 S3 {

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
ตอบกลับ
16222
พลังน้ำใจ
79556
Zenny
210037
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:18:40 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(10) : ของขวัญวันเกิด
( s0 d) A8 \% G+ c& L
1 W. q: b* C, H" |" W9 Zหลังจากนั้นสถานการณ์ภายในบ้านพี่ยศมีแต่จะทรงตัวกับแย่ลง ไม่ได้ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย พี่ยศยังคงมีปัญหาเรื่องบนเตียงกับพี่ป้อม ซึ่งปัญหานี้ไม่ว่าใครก็คงช่วยไม่ได้ นอกจากตัวของพี่ยศเอง
9 e* ~. G3 L) @, hผมเองก็คิดหนักเพราะรู้สึกผิดในใจมาตลอด แต่ทุกครั้งความเห็นแก่ตัวชนะมโนธรรมของผม ทำให้ผมครอบครองทั้งกายและใจของพี่ยศเรื่อยมา แต่พอนานวันเข้า ผมเริ่มได้สำนึก มโนธรรมที่ถูกฝังไปเนิ่นนานแล้วกลับคล้ายดอกบัวที่ชำแรกก้านดอกโผล่พ้นโคลนตมอันหนาทึบได้สำเร็จ ผมเริ่มไคร่ครวญเรื่องความผิดชอบชั่วดีอีกครั้ง ผมคงต้องทำอะไรสักอย่าง แต่ผมต้องการเวลาที่จะคิดทบทวนเรื่องนี้อีกสักระยะหนึ่ง
0 a* o, S! @1 {% k) M( _* nช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมอึดอัดมาก ผมไม่อยากไปค้างที่บ้านพี่ยศเลย ดังนั้นผมจึงบอกกับพี่ยศว่าจะของดสอนโตสัก 2-3 สัปดาห์ เพราะไม่สบายใจที่ผมเองเป็นตัวต้นเหตุแต่ยังไปคลุกคลีอยู่ในบ้านของพี่ยศ ซึ่งผมเชื่อว่าหากผมหายไปสักพักคงจะทำให้พี่ยศอึดอัดใจน้อยลงด้วย พี่ยศก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร แต่อย่างไรก็ตาม เรายังนัดเจอกันที่ศูนย์ฟิตเนสอยู่เป็นประจำ6 J' Y/ X1 a7 A9 u+ F0 n
วันหนึ่ง พี่ยศมานั่งอบซาวน่าด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด ปกติพี่ยศจะมีใบหน้าที่เรียบเฉย อารมณ์ดี แม้ยามเคร่งเครียดหน้าก็จะตึงขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น แต่สีหน้าในวันนี้ราวกับท้องฟ้าอันดำทมึนก่อนพายุฝนโหมกระหน่ำ เป็นสีหน้าที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน พี่ยศนั่งนิ่งไม่พูดจา4 m2 L" u& N. x
"พี่ครับ" ผมเอ่ยอย่างระมัดระวัง "ดูวันนี้พี่เครียดมากนะครับ": d/ s2 `0 d* i
พี่ยศนั่งนิ่ง แล้วสักพักก็ถอนใจ "ใช่ วันนี้พี่รู้สึกแย่มากๆเลย" ; E6 ^: {/ a+ i! U; ^
"พี่พอจะบอกผมได้ไหมครับว่าเรื่องอะไร" ผมเลียบเคียงถาม: T( l# c% A( q" H1 q
"ก็ป้อมน่ะสิ จะอะไรเสียอีก" พอพี่ยศพูดถึงพี่ป้อมก็ส่ายหน้า8 J+ V. D% D' @3 [- v
"ทำไมหรือครับ" ผมชักสังหรณ์ใจว่าสถานการณ์ภายในบ้านของพี่ยศในช่วงที่ผมไม่ได้ไปค้างคืนวันเสาร์คงจะแย่ลง
) y7 \4 u  _! S+ l"เอ้อ…" พี่ยศอึกอัก แต่ผมคะยั้นคะยอให้พูด "ป้อมคิดว่าพี่ไปมีเมียน้อยน่ะสิ เมื่อคืนอาละวาดใหญ่เลย"' r+ Z: ~# W. S5 L
ผมชะงักกับคำพูดของพี่ยศ 'เมียน้อย' คำนี้แสลงใจผม แม้ผมจะไม่ใช่แต่ก็ใกล้เคียง แต่ถ้าพี่ป้อมพูดว่าพี่ยศไปมีคนอื่นละก็…ใช่เลย
8 i4 I3 M' E6 i6 w% C* v+ b) J( ]"แล้วพี่ว่าอย่างไรครับ" ผมถาม
: B3 ]* b" I* N( \7 ["จะไปว่าอะไรได้ล่ะ" พี่ยศถอนใจแล้วถอนใจอีก สีหน้าหมองคล้ำลงไปมาก "ป้อมยังบอกอีกว่าอย่าให้จับได้ ถ้าจับได้เมื่อไรจะขอหย่าทันที" . {. P; B$ O  P3 K+ o; j8 Q
ผมไม่แน่ใจว่าถ้าไม่ใช่ 'เมียน้อย' แต่รูปการณ์ใกล้เคียงกันแล้วพี่ป้อมจะว่าอย่างไร แต่ผมก็คาดว่าพี่ป้อมยังไม่ระแคะระคายความสัมพันธ์ของเราสองคน
* N$ A6 n7 R* `- f. h"พี่คิดจะทำอย่างไรต่อครับ" ผมถามตรงจุด พี่ยศอึ้งไปนานก็ยังตอบไม่ออก3 x+ \- ^; O, B# H5 g6 N
"พี่ไม่รู้" หยุดไปนิดหนึ่งแล้วก็โพล่งออกมา "นี่ถ้าไม่มีลูกด้วยกันพี่กลับจะดีใจเสียอีกที่ป้อมจะขอหย่า พี่ก็รู้สึกว่าชีวิตการแต่งงานมันแย่เต็มทีแล้ว" $ k- b" T% D* k
คำพูดของพี่ยศทำให้ผมต้องตะลึง ดูวันนี้อารมณ์ของพี่ยศช่างพลุ่งพล่านเสียเหลือเกิน ผมตัดสินใจพูดเรื่องที่คิดไว้กับพี่ยศทันที. g9 c( f! [# Q, i: e; c6 t
"พี่ครับ ผมคิดว่าผมควรเป็นฝ่ายหลีกทางนะครับ" : t  B  \& I, S
พี่ยศมองหน้าผมอย่างตกใจ "ทำไมเป้คิดยังงั้นล่ะ พี่บอกแล้วว่านี่มันไม่เกี่ยวกับเป้ ถึงไม่มีเป้พี่ก็ยังต้องเป็นแบบนี้อยู่ดี" 1 `/ v( _3 x/ b; z- J2 h0 z1 t
"แม้พี่ยศจะบอกว่าผมไม่เกี่ยว แต่ผมก็รู้ดีว่ามันไม่จริงเสียทีเดียวครับ ถ้าผมไม่เข้ามาในชีวิตของพี่ อย่างน้อยพี่ก็คงทนชีวิตแต่งงานได้อีกหลายปีอย่างแน่นอน" ผมว่า6 k2 D4 G$ }2 N3 b6 J. E" C- q
"มันก็ไม่แน่ ถึงพี่ไม่มีเป้ พี่ก็อาจไปมีคนอื่นได้ จริงไหม" ผมยศพยายามแก้ต่างเพื่อให้ผมสบายใจขึ้น แม้ผมรู้ว่านั่นเป็นการปลอบใจ แต่ผมก็ยังรู้สึกอบอุ่นที่พี่ยศคอยปกป้องผมตลอดมา แม้ในวันที่พี่ยศประสบมรสุมชีวิตที่เลวร้ายเช่นนี้
) m2 V- V+ W" C4 r& V"ผมคิดเรื่องนี้มาสักพักแล้วครับ แต่ยังไม่ลงตัว ผมเองก็ตัดใจจากพี่ไม่ได้เหมือนกันครับ" ผมสารภาพ "แต่ผมคิดว่าผมต้องทำ เพราะไม่อยากให้โตกับเล็กต้องกลายเป็นเด็กบ้านแตก"
& n- V) V% S0 i" y1 Q# b"ไม่เอานะ ห้ามคิดอะไรเลอะเทอะแบบนั้น" พี่ยศตัดบท แล้วการสนทนาเรื่องปัญหาโลกแตกของเราในวันนั้นก็จบลงเพียงแค่นี้ คำว่า 'ลูก' นั้นทำให้พี่ยศต้องคิดหนัก การคุยกันในวันนั้นคงเหมือนเดิม คือยังไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ วันนั้นเราสองคนจากกันด้วยความเคร่งเครียด
6 b+ f) S2 q( pหลังจากที่ผมแยกจากพี่ยศไม่นาน เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เมื่อผมรับสายก็ได้ยินเสียงแตกๆแหบๆของวัยรุ่นคนหนึ่ง1 P4 [! Q, _+ ]# {+ m
"หวัดดีครับ อาเป้" เสียงนั้นทักทาย
% Z& D; J% }; @  G$ ^"เฮ้" ผมทัก อารมณ์สดชื่นขึ้นมาก เสียงของโตนั่นเอง รู้สึกคิดถึงโตอยู่เหมือนกันเพราะไม่ได้ไปสอนหนังสือให้โตมา 3 สัปดาห์แล้ว ตอนที่จะหยุดสอนชั่วคราวก็ไม่ได้บอกโตล่วงหน้า คงบอกแต่เพียงพี่ยศแล้วให้พี่ยศไปบอกโตอีกที "เป็นไงบ้าง แปลกใจจังที่โตโทรมาหาอา"8 L. _: w: x+ t- H4 z  o( B# v( V
ผมแปลกใจอยู่บ้างจริงๆเพราะแม้โตจะมีเบอร์โทรศัพท์มือถือของผม แต่ปกติโตไม่เคยโทรมาเลย % d" L( {+ A, |+ ^5 D* p# a2 Y
"ก็คิดถึงอาเป้น่ะสิครับ หายหน้าหายตาไปไม่บอกผมสักคำ" โตพูด
: l; {1 k# X, l1 v  D4 ^) y3 u"ปากหวานนะเรา พอดีช่วงนี้อายุ่งน่ะ ต้องขอโทษด้วย" ผมพูด "มีเรื่องให้ช่วยหรือจะขออะไรจากอาล่ะสิ ไม่งั้นไม่โทรมาอยู่แล้ว" ( |5 o8 f9 O4 h; [( _6 T; Q
"อาเป้รู้ใจผมจัง" โตหัวเราะ "มีเรื่องให้ช่วยอยู่เหมือนกันครับ"5 L2 b; k3 s4 I- U$ p$ Q
"ว่ามาสิ ดูก่อนว่าอาพอจะช่วยได้ไหม"- j* [/ w" H3 v6 Y) ]
"อาเป้ช่วยได้อยู่แล้วล่ะ อาทิตย์นี้วันเกิดอาเป้ไม่ใช่เหรอครับ ผมอยากให้อามาค้างที่บ้าน ผมมีของขวัญจะให้ครับ" โตนี่น่ารักนัก ดูสิครับ จำวันเกิดผมได้เสียอีกทั้งๆที่ผมเคยบอกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
+ {6 I* f& O# ?' F"จำวันเกิดอาได้ด้วยเหรอ เก่งจัง แต่…" ผมลังเลที่จะไปค้างที่บ้านพี่ยศอีก: f0 O) l6 C3 [2 ~
"มานะอาเป้ มาให้ได้" โตอ้อนวอน "อยากอวยพรวันเกิดอาเป้น่ะครับ"1 `" {- h5 D- p( B" m3 b
ในที่สุดผมอดใจอ่อนไม่ได้ จึงรับปากไป0 H: X" [) r& V* @, I
วันเสาร์นั้นสถานการณ์ดูแช่มชื่นขึ้น ที่บ้านพี่ยศจัดงานวันเกิดเล็กๆให้ผมโดยที่ผมไม่ได้ระแคะระคายมาก่อนเลย อาหารมื้อเย็นวันนั้นพี่ป้อมจัดเมนูพิเศษต่างจากมื้ออาหารปกติ หลังอาหารมีการตัดเค้กขนาด 2 ปอนด์ โดยผมเป็นคนตัด ไม่มีการเป่าเทียน แต่มีการร้องเพลงอวยพร ผมซาบซึ้งใจมาก เพราะหลังจากที่แม่จากไปแล้วผมก็ไม่เคยมีโอกาสพิเศษเช่นนี้อีกเลย ซึ่งผมมาทราบทีหลังว่าความคิดเรื่องงานวันเกิดเล็กๆนี้เป็นของโต ส่วนพี่ป้อมรับหน้าที่เตรียมอาหาร และพี่ยศจัดการเรื่องเค้กวันเกิด บรรยากาศที่บ้านพี่ยศผ่อนคลายลงได้ชั่วคราว ทำให้ผมดีใจอยู่เงียบๆ
: q& B/ s, R9 T: |& n8 `- B6 Qคืนวันนั้น ราวห้าทุ่ม หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันเข้านอนแล้ว ผมก็นั่งคุยกับโตในห้องนอน4 H9 u( C  ^& o, T! E: O' N
"โต ไหนล่ะของขวัญ" ผมทวงของขวัญ เราสนิทกันจนผมเอ่ยปากทวงของขวัญดื้อๆ "อาว่าจะไม่ถามแล้วเชียว แต่รอแล้วรอเล่า โตก็ไม่ยักให้เสียที"; X- o. V9 H! B. ]; u8 R9 `" `
"อะไรกันครับ อาเป้ วันเกิดอาคือวันอาทิตย์นะครับ ยังอีกตั้งชั่วโมงกว่าจะขึ้นวันใหม่" โตแย้ง
, `- w5 W# P* K+ u- N: g) E% b"แล้วเมื่อไรจะให้อาล่ะ ก็อยากได้นี่นา" ผมพูดเล่น
4 l4 X0 l+ }3 K( }: }  r! Y, Y. Eอย่างไม่คาดฝัน โตปราดเข้ามาประชิดผม กอดผมแล้วก็หอมแก้มผม "สุขสันต์วันเกิดครับ เอานี่ไปก่อนละกัน ของขวัญต้องรอดึกๆ" แล้วโตรีบผละจากตัวผม พร้อมทั้งยิ้มทำสีหน้าลึกลับ" T) M8 [% y1 S2 l; e: U: t) A
หลังจากที่ผมต้องตะลึงในความคิดของพี่ยศจากการคุยกันเมื่อวันก่อน มาวันนี้ผมก็ต้องตะลึงอีกครั้งกับการกระทำของโต อะไรกันนี่ อยู่ดีๆโตก็มาหอมแก้มผมแบบทีเล่นทีจริง จริงอยู่ ถ้าเป็นการล้อกันเล่นสนุกๆก็คงไม่แปลกอะไรมากนัก แต่นี่ผมรู้สึกอะไรบางอย่าง เพราะเวลาพี่ยศซุกไซร้ผม พี่ยศชอบวนเวียนหอมแก้มผมนานๆ สัญชาติญาณในตัวผมบอกว่าการหอมแบบนี้ช่างคล้ายพี่ยศเหลือเกิน!
) Y, J: ~) |- U5 E3 ?ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับการกระทำของโต จากนั้นเราทั้งสองก็เข้านอน แม้จะรู้สึกง่วงอยู่บ้าง แต่ผมยังไม่หลับในทันที เพราะใจมัวคิดถึงการกระทำของโตเมื่อครู่ซึ่งผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องผิดปกติ แต่คิดไปได้ไม่นานผมก็ผลอยหลับไป
( O% k4 M7 J" Q7 Q! m( A$ b, gกลางดึกคืนนั้น ผมต้องตื่นเพราะเสียงสวบสาบดังรบกวนการนอน เสียงโตนั่นเอง โตกำลังช่วยตัวเองด้วยการเอาลำตัวถูกไถกับหมอนซึ่งเป็นวิธีที่โตชอบทำ แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะรุนแรงเป็นพิเศษ 1 y, g! n$ w1 L1 O
ผมแกล้งทำเป็นนอนหลับ ปล่อยให้โตทำไปตามสบาย สักครู่ผมก็ได้ยินเสียงกุกกักๆ ผมอดหรี่ตาดูไม่ได้ จากเงาตะคุ่มบอกผมว่าโตกำลังนั่งอยู่บนเตียง ผมเห็นโตหันไปหันมา ไม่แน่ใจว่ากำลังทำอะไร แต่คงไม่ได้ช่วยตัวเองอยู่8 R& n6 ?. ]# i
สักพักผมเห็นโตลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินมาที่ฟูกที่ผมนอน ถึงตอนนี้ผมรีบหลับตา เพราะไม่อยากให้โตรู้ว่าผมตื่น และแล้ว ผมก็รู้สึกว่าโตล้มตัวลงมานอนข้างๆผม ไม่เพียงเท่านั้น ยังกอดผมและเอาลำตัวกอดก่ายผมด้วย!* X2 C$ H  ^) d; ]1 r9 W' ]% y
ผมงง ยังทำอะไรไม่ถูก ผมไม่แน่ใจว่าควร 'ตื่น' ขึ้นมาได้หรือยัง ขณะลังเลตัดสินใจไม่ถูกก็ปล่อยให้โตกอดก่ายไปก่อน จากสัมผัสของผมบอกว่าท่อนล่างของโตเปลือยเปล่าอยู่* p1 `% r7 K0 u. T
เพียงพริบตาเดียว ขณะที่ผมกำลังลังเลอยู่นั้น ผมก็รู้สึกว่าโตลุกขึ้น จากนั้นกางเกงนอนของผมถูกรั้งลงอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังกลืนกินท่อนลำที่สงบนิ่งของผมอยู่" C+ I% S/ H/ n: {
ถึงตอนนี้ผมแกล้งหลับต่อไปไม่ได้แล้ว ผมเบี่ยงตัวหนีแล้วเรียกโต "โต นั่นกำลังทำอะไรน่ะ". x5 N3 n% `0 p( y7 S
เมื่อผมเบี่ยงตัวและลุกขึ้นนั่งได้ ผมก็รีบลุกไปเปิดไฟดวงเล็กที่โต๊ะข้างเตียงนอนของโตทันที แสงไฟสลัวๆส่องให้เห็นโตกำลังนั่งคุกเข่าอยู่บนฟูกที่ผมนอน ท่อนบนใส่เสื้อนอน ส่วนท่อนล่างเปลือยเปล่า เห็นท่อนลำที่กำลังแข็งและเบ่งบานเต็มที่ได้ถนัด 6 Z) n: X1 s9 c
"ก็ให้ของขวัญอาเป้ไงครับ" โตพูดหน้าตาเฉย5 [+ Y" r9 D0 {$ w1 J
ผมใจสั่น สังหรณ์ใจอะไรบางอย่าง นึกไม่ถึงว่าโตจะให้ของขวัญแบบนี้แก่ผม "โตรู้หรือเปล่าว่าโตกำลังทำอะไร" นอกจากใจสั่นแล้วเสียงของผมยังสั่นเล็กน้อยอีกด้วย8 @' C( F  }: R# e3 o# `2 k
"รู้ครับ" โตพูด "ก็ให้ของขวัญที่อาเป้ชอบไงครับ"
9 ]' U  D. m7 c; M/ m1 z4 u2 }ผมตกใจมาก หูผมไม่ฝาด ไม่ได้ยินโตพูดผิดไป โตรู้ความลับของผมได้อย่างไรกัน "โตพูดอะไรน่ะ"5 ^  a4 v4 h0 @
"อาเป้อย่ามาทำไก๋เลยครับ ผมรู้เรื่องของพ่อกับอาเป้มาตั้งนานแล้ว" โตพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
* |  B" b2 s4 i/ gราวกับฟ้าถล่ม ผมไม่สามารถบรรยายได้ว่าความตกใจที่เกิดขึ้นมีมากขนาดไหน ผมยืนตะลึงขณะที่โตพูดต่อ "แล้วผมก็รักอาเป้มานานแล้วด้วยครับ วันนี้ผมเลยเลือกของขวัญชิ้นนี้ให้อาเป้ นึกว่าอาจะชอบ" ว่าแล้วโตก็เดินมากอดผมไว้อีก ร่างท่อนล่างที่เปลือยเปล่าของโตเสียดสีลำตัวของผมไปมา มันทั้งร้อนและทั้งแกร่งราวกับเหล็กเผาไฟ ผมมองหน้าโตอย่างเต็มตา โตก็ยังเป็นวัยรุ่น หน้าตาน่ารักคนเดิม แต่พฤติกรรมของโตในวันนี้เป็นสิ่งที่ผมนึกไม่ถึงมาก่อนเลย ในชีวิตไม่นึกว่าจะได้พบกับเรื่องเช่นนี้ อีกทั้งไม่เคยนึกฝันมาก่อนว่าโตจะเป็นเกย์ เพราะท่าทางของโตไม่ส่อเลยแม้แต่น้อย หรือที่ผมเคยอ่านพบว่าเกย์เป็นกรรมพันธุ์นั้นจะเป็นความจริง4 E6 R, Z: `0 F2 ?4 l

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
ตอบกลับ
16222
พลังน้ำใจ
79556
Zenny
210037
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:19:48 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(11) : ผู้กรรโชก ) _/ b" U0 y! }9 b
2 a6 R/ e! d3 R% y3 h
เมื่อผมระงับสติอารมณ์ได้แล้ว ผมจึงค่อยๆแกะตัวโตออก ผมไม่อยากทำอะไรด้วยความหักหาญ จึงค่อยๆใช้น้ำเย็นเข้าลูบ พร้อมทั้งเลียบเคียงถามโตว่ารู้เห็นความสัมพันธ์ของผมกับพี่ยศได้อย่างไร "เดี๋ยวก่อนโต เรามาคุยกันก่อนได้ไหม อางงไปหมดแล้ว โตใส่กางเกงเสียก่อน" ว่าแล้วผมก็หยิบกางเกงให้โตใส่ เมื่อโตเห็นผมท่าทางเป็นกันเองและผ่อนคลายลง โตก็ทำตามอย่างว่าง่าย
" V! f! P- @* U. B0 G"อย่าบอกนะครับว่าอาเป้ไม่ได้มีอะไรกับพ่อ" โตย้ำ7 H% E# j  m9 a5 q
"เราไปรู้มาได้ยังไง" ผมถาม
# j! }% U- w5 _  B, S"มีอยู่วันหนึ่ง วันนั้นที่โรงเรียนแข่งกีฬาสี เลยงดเรียน ผมเลยกลับบ้านตั้งแต่บ่าย ก็เห็นรถพ่อกับรถอาเป้จอดอยู่ในบ้าน เห็นผิดสังเกตผมเลยย่องเข้ามาดูเงียบๆ ผมขึ้นมาดูชั้นบน เห็นประตูห้องนี้เปิดแง้มไว้เแล้วมีเสียงคนลอดออกมา ผมเลยแอบดูครับ" โตเปิดเผย
" ~( f! E, ?8 b* W( D  t"แล้วโตเห็นอะไรบ้าง" ผมถาม
% n9 k* H$ R! m"เห็นหมดทุกอย่างเลยครับ เห็นบทรักของพ่อกับอาเป้ด้วย" โตพูด
3 x; Z7 G2 j) l& `, b7 zผมรู้สึกว่าห้องหมุนโคลงเคลงไปหมด ผมสับสนมาก แล้วผมควรจะรับมืออย่างไรกับสถานการณ์เช่นนี้ "แล้ว… แล้ว… แล้วโตคิดยังไง" ผมตัดสินใจถาม/ a1 Z8 g) n" t% A: Y
"อาเป้ครับ" โตเงยหน้ามองผม ตาจ้องมาที่ผม ผมเองเสียอีกที่ไม่กล้าสบตาโต "ผมรักอาเป้มานานแล้วครับ จากเดิมผมรักอาแบบอา แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วครับ ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับที่อาจะมีอะไรกับพ่อ แต่ผมก็รักอาเป้ และอยากมีความสุขกับอาเป้ด้วยคน ผมรู้นะครับว่าอาก็รักผม" # b( ?  \7 x, \0 e: h$ [
สถานการณ์ชักจะเลวร้ายลงทุกที นี่ถ้าผมรับมือผิดพลาดจะต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่บานปลายต่อไปแน่ๆ
& X( @; L, z0 z" S7 V, K: ~"โตเป็นเกย์เหรอ ก็ไหนโตเคยบอกอาว่าโตมีแฟนสาวที่โรงเรียนไง" ผมถามตรงๆ
% y0 H$ R$ U+ f0 G# f- m/ s"ใช่ครับ ก็เป็นเหมือนที่พ่อเป็นนั่นแหละครับ" โตรับ "แฟนเฟินอะไรนั่นมันไม่จริงหรอกครับ คือผมควงสาวไว้เพื่อไม่ให้เพื่อนสงสัยน่ะครับ แต่ผมไม่ได้รักเธอแบบแฟน" ; u) P: l, g* t1 |
ชีวิตของพี่ยศกับโตสองพ่อลูกกับคล้ายกันอย่างบังเอิญ หรือนี่เป็นพรหมลิขิต2 L7 `% B  D$ b* O, ^  ~
"เดี๋ยว โต ฟังอาก่อนนะ ถูกล่ะ อารักโต แต่อารักโตแบบหลานนะ" ผมพยายามอธิบาย
1 T. W2 D3 I& ^; {"แล้วยังไงล่ะครับ" โตย้อนถาม7 p7 h- i7 Y; I9 P
"ก็…" ผมอึกอัก "อาว่าเราไม่ควรมีเพศสัมพันธ์กันนะ โตยังเด็กเกินไปนะ" ผมตัดสินใจพูดตรงๆ
4 g) O$ @6 L! k' j' K- L"เด็กอีกแล้ว ผมโตแล้วนะครับอาเป้ ผมไม่เชื่อหรอกครับว่าอาเป้ไม่อยากมีอะไรกับผม ตอนเรากอดเล่นกันอายังไม่ว่าอะไรเลย ผมว่าอาเกรงใจพ่อมากกว่า"
, z0 A/ M  K: ^  n- R0 _ความสนิทสนมของผมกลับทำให้โตเข้าใจผิด ไหนๆก็รู้ว่าโตก็เป็นเกย์แล้ว ผมพยายามอธิบายถึงความรู้สึกที่แตกต่างกันระว่างการที่ผมรักโตซึ่งไม่มีความใคร่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเลย กับที่ผมรักกับพี่ยศ ว่ามันเป็นความรักคนละแบบกัน ความรักแบบที่โตมีอยู่นั้นมันไม่ใช่ความรักแท้ๆ มันเกิดจากอารมณ์ของวัยหนุ่มด้วย แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ก็ต้องเกิดจากความคิดที่ตรงกันทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ทึกทักเอาเพียงข้างเดียว แต่โตไม่ยอมเข้าใจ โตยังรักผมแบบที่ต้องการมีความสุขกับผม
( q; }, w- G3 b"ทำไมโตถึงมาจู่โจมอาวันนี้ล่ะ โตไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนี่" ผมถามสิ่งที่ผมข้องใจมากที่สุดออกไป8 E4 \4 I* q2 m% A" _5 p
"ที่จริงผมรักอาเป้มานานแล้วครับ ตอนกลางคืนผมพยายามช่วยตัวเองให้อาเห็น เผื่อว่า…เผื่อว่าอาจะเข้าใจ แต่อาก็ไม่เคยตื่นซักที แต่ผมว่าอาอาจจะแกล้งหลับมากกว่า" โตพูดอย่างรู้ทัน "หลังจากที่พ่อกับแม่ทะเลาะกัน อาก็หายหน้าไป ผมเลยกลัวว่าอาจะหายหน้าไปเลยแล้วไม่มาที่นี่อีก ผมก็เลยคิดจะมอบของขวัญและบอกความจริงกับอา ผมกลัวว่าจะไม่มีโอกาสบอกอาอีกน่ะครับ"
" c- W/ _6 l/ b) |ถึงตอนนี้ปริศนาเส้นผมบังภูเขาก็คลี่คลาย ความสนิทสนมกับผมเป็นพิเศษ เหตุการณ์ทุกอย่างไม่ว่าการช่วยตัวเองกลางดึกของโต หรือพฤติกรรมแปลกๆเช่นการกอดรัดกับผม หรือแม้แต่การเอาท่อนลำมาเบียดเสียดกับตัวผม เหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณบ่งบอกทั้งสิ้นว่าโตมีจิตปฏิพัทธ์ผม ผมนี่ช่างโง่เหลือเกินที่ไม่ทันเฉลียวใจ ไม่เช่นนั้นเรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้ แต่เรื่องหนึ่งที่ผมยังแปลกใจไม่หายก็คือเหตุใดคืนนี้โตจึงมีใจกล้าขนาดนี้' C8 C) G$ P2 g( U  H/ J/ `( e
"โต เรามีอะไรกันยังงั้นไม่ได้นะ อารักโตเหมือนหลานจริงๆ แล้วอาจะทำอะไรยังงั้นกับโตได้ยังไง อาทำไม่ลงหรอก โตควรเปลี่ยนความคิดเสียใหม่นะ" ผมพยายามกล่อม ขณะที่โตเข้ามากอดผมอีกครั้ง
( N* C( N6 ~7 p5 _1 J; v) v) f"ตั้งใจจะทำอะไรก็ทำเสีย ทำวันนี้ให้ดีที่สุด อย่าผัดวันประกันพรุ่ง" โตพูด 2 Y+ W/ k, T+ Q( Q  Y4 S5 S7 X
"นั่นโตว่าอะไรน่ะ" ผมถาม รู้สึกว่าประโยคนี้คลับคล้ายคลับคลา
) h  P  I% v* P"ที่อาเคยสอนผมไงครับ ผมจำไว้ไม่เคยลืม อาลืมแล้วเหรอ" โตทวนความจำให้ผม "ผมอยากมีความสุขกับอาเป้ครับ ขอผมสักครั้งนะครับ ผมกลัวว่าอาจะหนีผมไป" ว่าแล้วโตก็เข้ามากอดและซุกไซร้ผม เหมือนอย่างที่พี่ยศทำกับผมไม่มีผิด โตคงฝังใจกับบทรักที่แอบดูมามาก ซึ่งจะว่าไปแล้วทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความผิดของโต ผมจึงไม่อาจตัดใจปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย อีกอย่าง ที่จริงโตก็ไม่ใช่เด็กๆแล้ว สังคมเพื่อนๆของโตคงสอนอะไรให้โตมากมาย รวมทั้งตามปกติโตกับผมก็สนิทกันมาก ดังนั้นวันนี้โตจึงมีการแสดงออกอย่างเปิดเผยว่าต้องการผม ซึ่งผมต้องรับมืออย่างระมัดระวัง* L: E  Y( ?, ]) d8 F) I
"อย่าเลยโต" ผมขอร้อง "โตอย่าทำอย่างนี้กับอานะ"
9 w8 i* t$ q* Z, Bโตไม่ยอมหยุด ส่วนผมก็ถอยหนี เมื่อเห็นผมไม่ยอมแน่ ในที่สุดโตก็ยื่นไม้ตาย
! t  U, h6 n* X: ~"ผมอยากมีความสุขกับอาเป้สักครั้ง นะครับอาเป้ อาคงไม่อยากให้แม่รู้เรื่องของพ่อกับอานะครับ"
; b" M7 |- y2 f7 l6 p% _3 _# kผมรู้สึกเหมือนโดนใครชกท้องเข้าอย่างจัง มันจุกจนแทบพูดไม่ออก "นี่ … นี่เรากำลังขู่อาเหรอ"1 D6 R$ B+ n7 T' c3 X  a5 y1 c
โตมีสีหน้าเสียใจขึ้นแว่บหนึ่ง "ผมไม่อยากพูดแบบนี้หรอกครับ แต่อาบังคับผมนี่ครับ"
9 d7 H) ?9 A: t  Fผมชักโกรธที่โตกำลังหน้ามืดจนไม่คิดถึงความผิดถูก "อาไม่ว่าอะไรหรอกนะที่โตเป็น…" ผมอ้ำอึ้ง "…เป็นเกย์ เพราะอาก็เป็นเหมือนกัน แต่โตไม่ควรเอาเรื่องนี้มาขู่อานะ เพราะเท่ากับว่าโตกำลังทำลายครอบครัวของตัวเอง"
8 i( V- [! c9 c( G" H- {2 d"ใครทำลายกันแน่ครับ ถึงยังไงแม่ก็ต้องรู้อยู่แล้ว จะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง ถ้าผมบอกแม่ก็รู้เร็วขึ้นอีกหน่อยเท่านั้น อาเป้คงไม่รู้หรอกครับว่าตอนนี้คนใช้ของเพื่อนบ้านซุบซิบกันให้แซ่ดว่าตอนบ่ายรถของพ่อกับของอาเป้ทำไมต้องแวะมาจอดที่บ้าน ตอนเย็นก็ขับออกไปอีก แล้วค่ำๆก็กลับเข้ามาใหม่ สักวันเรื่องซุบซิบพวกนี้ก็ต้องเข้าหูแม่ แล้วแม่ก็ต้องรู้อยู่ดี"
# p: V4 P+ n4 l$ A& ~* i+ s3 ?' q( Tผมรู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรง ประโยคที่ว่า 'ใครทำลายกันแน่' นั้นจี้ใจดำของผมเข้าเต็มที่ ผมกับพี่ยศพลาดไปถนัดใจที่ใช้บ้านของตัวเองเป็นสนามรัก ขณะที่เราเข้าใจว่าปกปิดทุกคนในบ้านได้สนิท แต่เราลืมไปว่าเราจะไปปิดหูปิดตาเพื่อนบ้านไม่ได้ 1 `: j  w8 B- \
"แล้วทำไมโตรู้เรื่องพวกนี้" ผมถาม
7 a8 x$ t1 F6 b$ n: G% h( u"วันก่อนไอ้หนึ่งมันเอามาบอกครับ ว่าคนใช้ของมันซุบซิบเรื่องนี้กัน" ไอ้หนึ่งของโตหมายถึงลูกของเพื่อนบ้านที่อยู่บ้านใกล้กัน มีวัยใกล้เคียงกับโต
! x: m. q; [* C& S! P+ l5 }* G: I"อาเป้ครับ" โตพูดอย่างเสียใจ "ผมขอโทษที่ใช้วิธีขู่อา ผมก็รู้ว่าผมไม่ควรทำอย่างนั้น แต่ผมอยากมีความสุขกับอาสักครั้ง ขอผมสักครั้งเถอะครับ นะครับ นะครับ ผมรักอามากจริงๆ" ว่าแล้วโตก็น้ำตาไหล ตรงเข้ามากอดผม แม้ผมจะผ่านชีวิตวัยรุ่นมาแล้ว แต่ผมไม่เข้าใจอารมณ์ของวัยรุ่นอย่างโตเลย ไม่นึกว่าจะมีความกล้าพูดจาได้เปิดเผยและแสดงออกได้ขนาดนี้
# _! ?, ]. b7 o6 @0 `  r, Fผมควรทำอย่างไรดี ผมรู้ดีว่าโตไม่มีวันทำตามที่ขู่ เพราะโตเป็นคนที่น่ารัก ที่พูดก็เพราะอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้นเอง ถ้าผมไม่ยอม โตก็คงเสียใจมาก แต่ถ้าผมยอม แล้วผมจะอยู่ในสภาพอย่างไร แล้วผมจะมองหน้าพี่ยศได้อย่างไร?
5 z2 N. ~* X+ v, w- {และแล้ว ผมตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่างลงไป ผมตัดสินใจถอนตัวจากเหวลึกนี้ … เพื่อความสงบสุขของทุกคน แต่ก่อนที่ผมจะละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไป ผมจะโอนอ่อนผ่อนตามโตสักเล็กน้อย ผมรู้ว่าผมกำลังทำผิด แต่ผมคิดว่าถ้าผมไม่ทำอย่างนี้แล้วผมอาจจะผิดมากกว่า เพราะโตคงไม่ยอมเลิกราง่ายๆ อีกอย่าง ในเมื่อโตแสดงตนอย่างชัดเจนว่ามาอยู่ในเส้นทางสายนี้แล้ว ข้อกังวลเรื่องชักจูงโตให้เป็นเกย์ก็คงตัดไปได้
. \( [7 ^8 z( w9 h6 a8 O, X7 Q, x"เอาอย่างนี้ เรามาพบกันครึ่งทาง อาจะใช้มือช่วยโตก็แล้วกัน ตกลงไหม ไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่านี้ และเพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น" ผมยื่นข้อเสนอ2 t- x2 y# ?: Y6 Z# b
โตหยุดคิดเล็กน้อยแล้วก็ตกลง คงเพราะจะรู้ดีว่าผมโอนอ่อนได้มากที่สุดก็เพียงนี้ และโดยที่ผมไม่ต้องบอก โตก็ถอดเสื้อและกางเกงออก ท่อนลำของโตชูชันขึ้นมาในพริบตา ท่าทางโตจะต้องการผมมาก เพราะดูโตไม่อายผมเลยแม้แต่น้อย
% U1 z; K4 |9 s6 T! k' aผมใช้มือคว้าไปที่ท่อนลำของโต แล้วรูดเเข้าออก แต่โตห้ามไว้ "อาเป้ ถอดเสื้อผ้าออกด้วยสิครับ" " d. @5 Q  [& ]+ l
"ไม่ต้องหรอก" ผมว่า
8 t& ]% ^0 r/ F% Q2 i$ `"นี่ไม่ได้เกินกว่าข้อตกลงนะครับ" โตทวงสิทธิ์
6 K: S5 R4 N+ e, E3 n. W  k"ไม่ใช่ไม่เกิน เราลืมตกลงกันเรื่องนี้ต่างหาก" ผมว่า โตอ้อนวอน ในที่สุดผมก็ยอม เหตุที่ยอมก็เพราะที่จริงตอนที่เราไปว่ายน้ำด้วยกันเราก็ใส่แต่กางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋ว โตก็เคยเห็นของผมมาแล้ว บางทีก็ตอนอาบน้ำ บางทีก็ตอนเข้าห้องน้ำ เพราะห้องน้ำที่สระว่ายน้ำไม่ค่อยมิดชิดนัก
9 n5 I7 m) ]+ L( nและแล้ว ผมจึงอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ปล่อยให้โตดูเรือนร่างของผมอย่างเต็มตา ขณะเดียวกันก็ใช้มือช่วยโตไปด้วย โตร้องครวญครางอย่างมีความสุข พร้อมทั้งอมนิ้วจนเปียกน้ำลาย แล้วใช้นิ้วสอดเข้าไปในถ้ำของตนเอง ผมอดแปลกใจไม่ได้ว่าโตไปเอาวิธีนี้มาจากไหน เพราะผมกับพี่ยศก็ไม่เคยทำอะไรกันแบบนี้มาก่อน
8 t1 U3 h) Y$ H' ?ใจผมขณะนั้นไม่ได้มีความสุขเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม มันกลับเป็นความขมขื่นใจ ผมไม่เคยนึกเลยว่าการให้ความสุขแก่ใครบางคนจะสร้างความขมขื่นให้แก่ตนเองได้ขนาดนี้ คนที่ผมรักและเอ็นดูกลับมาขู่กรรโชกผม รวมทั้งหลังจากวันนี้ผมจะ…3 n5 j7 B4 `4 P3 K3 y) ]9 g
ฉับพลันนั้น ประตูห้องเปิดผลัวะออก แสงไฟจากโคมไฟเล็กส่องให้เห็นใบหน้าของผู้ที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องนอน แม้แสงจะสลัวแต่ก็ดูรู้ว่าเป็นใคร… พี่ยศนั่นเอง
0 E, [3 `# Q; o1 o$ z

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
ตอบกลับ
16222
พลังน้ำใจ
79556
Zenny
210037
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:20:44 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(12) : จำพราก 3 h6 E, D3 s4 Z( J

3 }9 N+ V1 S. O! C0 rทั้งผมและโตต่างตกใจมาก เพราะนึกไม่ถึงว่าพี่ยศจะเข้ามาในเวลานี้ ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณตีสามแล้ว ผมนึกขึ้นได้ว่าพี่ยศบางครั้งก็ตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อสำรวจความเรียบร้อยรอบๆบ้าน เนื่องจากแถวนี้มีคดีย่องเบางัดแงะอยู่บ้าง แต่ผมก็ลืมเรื่องนี้ไปสนิท พี่ยศคงตื่นขึ้นมาสำรวจรอบบ้านและเห็นแสงไฟที่ลอดจากช่องประตูห้องนอน จึงเปิดเข้ามาดู9 C0 R" p7 H0 K: \! E2 z
เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึก 'อาย' ที่พี่ยศเห็นเรือนร่างอันเปล่าเปลือยของผมทั้งๆที่เราก็มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกัน ผมรีบคว้าเสื้อผ้ามาปิดบังร่างกาย โตก็เช่นเดียวกัน ผมเห็นใบหน้าของพี่ยศถมึงทึงเมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องนี้ ส่วนโตนั้นยืนหน้าซีดตัวสั่นอยู่ข้างๆผม ผมไม่เคยเห็นใบหน้าของพี่ยศดุดันและน่ากลัวเช่นนี้มาก่อนเลยตั้งแต่รู้จักกันมาเกือบยี่สิบปี; g) t% p' Q" M" Y
พี่ยศยืนนิ่งคล้ายกำลังควบคุมอารมณ์อยู่ ส่วนผมและโตนิ่งเงียบ สักครู่พี่ยศก็ออกคำสั่งเสียงเฉียบ& {8 D$ K. ]% ]
"เป้ แต่งตัวแล้วลงไปหาพี่ที่ห้องทำงานข้างล่างหน่อย" แล้วหันมาสั่งโต "โตไม่ต้องตามลงไปนะ"' ^  b0 A# M8 Z# }4 [. U$ s
จากนั้นพี่ยศก็หมุนตัวกลับออกจากห้องไป โตรีบมาคว้าแขนผม ผมหันไปมองเห็นโตหน้าซีด มีสีหน้าตกใจและกังวล โตมองผมอย่างคล้ายกับจะขอความช่วยเหลือ 3 O) Q# K; k7 O3 R! v* {
ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไร เพราะไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น คนมักพูดกันว่าคนที่เงียบๆ เย็นๆ เวลาโกรธขึ้นมาจะระเบิดราวภูเขาไฟ รุนแรงยิ่งกว่าคนขี้โมโหโกรธเป็นไหนๆ วันนี้ผมคงได้พิสูจน์คำกล่าวที่ว่านี้แล้ว ผมบีบมือโตเบาๆเป็นเชิงปลอบใจ แล้วรีบแต่งตัวลงไปข้างล่าง
8 K+ |4 v' _' B, x! S% o; E0 bที่ห้องทำงานของพี่ยศ ผมเห็นพี่ยศยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง สีหน้าของพี่ยศเคร่งเครียดและทมึนยิ่งกว่ารัตติกาลภายนอกหน้าต่างเสียอีก ผมรู้สึกหนาวเย็นขึ้นมาที่ก้นบึ้งของหัวใจ 2 Z8 B4 @  P) E% y+ [
"พี่ครับ" ผมเรียกเบาๆ พี่ยศหันหน้ามามองผม พี่ยศมองผมราวกับเป็นคนแปลกหน้า ส่วนผมเองก็รู้สึกว่าพี่ยศที่ผมเห็นอยู่นี้ไม่ใช่พี่ยศคนเดิมที่ทั้งใจดีและอบอุ่น แต่เป็นพี่ยศที่ดุร้ายน่ากลัว
1 P, ~( ^# {) g! G$ S0 [1 V& a! L* T4 W/ }"เป้ ทำไมทำอย่างนี้กับหลาน เลวมาก" พี่ยศพูดเสียงสั่นด้วยความโกรธ 8 M  @3 h7 c, d  o' R) p- I
ผมรู้สึกจุกในลำคอ พี่ยศที่เคยรักและเอ็นดูผมเสมอมาถึงกับออกปากด่าผมว่า 'เลวมาก' โดยยังไม่ฟังคำอธิบายจากผมสักคำ พี่ยศไม่เคยพูดอะไรที่รุนแรงกับผมมาก่อนเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ผมพูดไม่ออก ดวงตารู้สึกพร่าเพราะเอ่อไปด้วยน้ำตา ตอนนั้นผมรู้สึกทั้งผิดหวัง เสียใจ ผมรู้สึกว่าได้รับความอยุติธรรม ความรู้สึกเหล่านี้แหลมคมประดุจคมมีดที่กรีดเชือดลงไปที่หัวใจของผม7 J6 T2 [2 z7 X6 ?- k1 y
"พี่ครับ ฟังผมก่อน…" ผมพูดเสียงเครือ พยายามเค้นเสียงอย่างยากเย็นกว่าเสียงจะผ่านก้อนสะอื้นที่จุกลำคอออกมาได้
: b4 _  k* @4 c1 }"จะให้ฟังอะไรอีกล่ะ พี่เห็นมากับตา" พี่ยศตะคอกเสียงดัง พี่ยศไม่เคยตะคอกผมมาก่อนเลย ดูเหมือนว่าวันนี้ผมได้พบกับอะไรๆที่เป็น 'ครั้งแรก' จากพี่ยศหลายอย่างหลังจากที่รู้จักและผูกพันกันมานาน
# ]1 N9 k; o; w0 O9 n% z1 {7 J& Xผมนึกอะไรไม่ออก หัวหมุนไปหมด คิดจะเรียบเรียงคำพูดให้เป็นลำดับเพื่ออธิบายก็เรียบเรียงไม่ถูก นึกอยู่อย่างเดียวคือต้องช่วยโตไว้ก่อน เพราะเรื่องนี้โตเป็นคนก่อขึ้นมา) f: }* c& D; _" [! [. d
"พี่ครับ โตยังเด็กอยู่ พี่อย่าไปโทษโตเลยครับ" ผมพยายามอธิบาย แต่คำพูดที่สั้นเกินไปของผมพี่ยศกลับเข้าใจผิดไปกันใหญ่1 v" }3 {6 ^# L7 z6 ^
"พี่จะไปโทษโตได้ยังไง ก็ในเมื่ออามันเป็นคนชักจูง เด็กมันก็ขัดขืนไม่ได้น่ะสิ" พี่ยศพูดเสียงตะคอกอีก  c" D0 J  V5 Z  k4 N. d5 Q  s
ผมนิ่ง มองหน้าพี่ยศเหมือนกับไม่เคยเห็นชายคนนี้มาก่อน ความโกรธทำให้พี่ยศกลายเป็นคนละคนไป ผมไม่นึกเลยว่าพี่ยศจะเหมาเอาง่ายๆว่าทั้งหมดเป็นความผิดของผมเช่นนี้ ตอนนั้นน้ำตาลูกผู้ชายของผมรื้นเต็มสองตาแล้ว แต่ผมไม่ยอมปล่อยสะอื้นออกมา ผมต้องเข้มแข็งเพื่อรับมือกับสถานการณ์
0 f8 y5 z2 g2 T$ r"โตเป็นเกย์นะครับ"
1 m. J; z" E. I3 k. O3 Nผมตัดสินใจบอกความลับของโตออกไป แล้วเตรียมจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่ยศฟัง แต่พี่ยศกลับมีท่าทีรับไม่ได้กับสิ่งที่ผมพูดออกไป พร้อมทั้งตะคอกผมอีก
* @' b3 q6 }2 p"เฮ้ย มันจะเป็นไปได้ยังไง ก็มันยังเดินควงเพื่อนสาวของมันอยู่เลย แกคงยัดเยียดให้มันเป็นล่ะสิ ไม่น่าปล่อยให้นอนห้องเดียวกันเลย นี่ถ้ามันกลายเป็นเกย์จริงๆจะเอาให้ตายทั้งคู่เลย"
3 G- f' y: Z2 E7 U! f7 ?( S'แก' เป็นคำเรียกที่พี่ยศไม่เคยเรียกผมมาก่อน แต่วันนี้ผมก็ได้ยินแล้ว ผมตกใจกับท่าทีอันโกรธเกรี้ยวเมื่อผมบอกพี่ยศว่าโตเป็นเกย์มาก ผมคิดว่าถ้าพี่ยศมีปืนอยู่ในมือตอนนั้นพี่ยศก็คงยิงผมได้อย่างไม่ลังเลเลย. ?, ?1 c& ^& R
"พี่ ฟังผมก่อน" ผมพยายามฉุดรั้งอารมณ์ของพี่ยศเอาไว้ แต่พี่ยศไม่ยอมฟัง9 ^: L* s: |! s6 a9 {: q- h
"กลับไปก่อนเถอะ ตอนนี้ยังไม่อยากเห็นหน้า" พี่ยศตัดบท ผมรู้สึกใจหายกับประโยคสุดท้ายที่พี่ยศพูด พี่ยศไม่เรียกตัวเองว่า 'พี่' และไม่เรียกผมว่า 'เป้' เหมือนก่อน กลายเป็นประโยคที่ไม่มีสรรพนาม มันบ่งบอกอะไรบางอย่าง คล้ายกับว่าพี่ยศชิงชังผมอย่างที่สุด… จนไม่อยากนับญาติกัน … จนไม่ต้องการแม้แต่จะเอ่ยชื่อ
" N) K. q) e* M3 `+ jเมื่อถูกออกปากไล่เช่นนี้ ผมก็สุดที่จะด้านหน้าอธิบายอยู่ต่อไปได้ หลบไปเสียก่อนก็ดีเหมือนกัน รอให้พี่ยศอารมณ์เย็นลงแล้วค่อยอธิบาย แต่ถึงอย่างไรผมก็ไม่วายห่วงโต แม้โตจะขู่กรรโชกผม แต่ผมก็ไม่ได้ถือสา ยังคงรักเอ็นดูโตเช่นเดิมและต้องการจะปกป้องโตเอาไว้ ก่อนไปผมยังไม่วายเตือนสติพี่ยศว่า
/ a1 C- O/ R% X"พี่อย่าไปทำอะไรรุนแรงกับโตนะครับ ถ้าพี่ทำ พี่ก็กำลังจะกลายเป็นคนที่พี่ไม่อยากเป็น … เป็นเหมือนพ่อพี่"
) \: g4 h4 j! P6 H, V/ `ผมออกจากบ้านพี่ยศกลางดึกในคืนนั้นเองด้วยความสะเทือนใจ และหลังจากนั้นเราก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย / V: m: ?2 ^( `( V
หลังจากวันที่เกิดเรื่อง ชีวิตของผมกลับกลายจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากคนที่เคยสดชื่นรื่นเริงกลับกลายเป็นคนหมดอาลัยตายอยาก ผมพยายามไปทำงานทั้งๆที่ทำงานไม่รู้เรื่อง แต่ผมไม่ต้องการหยุดงานเพราะการหยุดอยู่คนเดียวเงียบๆจะยิ่งทำให้ผมฟุ้งซ่าน เพื่อนๆที่ที่ทำงานต่างก็สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของผม แม้ผมพยายามจะซ่อนมันไว้แต่ก็ซ่อนไม่ได้ เพราะความกระทบกระเทือนใจครั้งนี้ใหญ่หลวงเกินกว่าที่ผมจะแสร้งทำชีวิตให้เป็นเช่นปกติได้
6 d0 B: u  }3 p( |หลายครั้งที่ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะโทรไปอธิบายให้พี่ยศฟังถึงเรื่องราวทั้งหมด แต่อีกใจหนึ่งก็เกิดทิษฐิ ในคืนวันนั้นถ้าพี่ยศใจเย็นกว่านี้สักเล็กน้อยก็คงจะยอมฟังผมอธิบายบ้าง แต่พี่ยศไม่ยอมฟังเลย ทั้งยังไล่ตะเพิดผมอย่างไม่มีเยื่อใย กลางคืนผมต้องนอนน้ำตาไหลเมื่อคิดถึงการกระทำของพี่ยศที่ทำกับผม มันไม่เหมือนคนที่รักกันเลย แต่มันเป็นเหมือนคนที่ชิงชังกันมากกว่า ! d2 g' S$ S- g" y% {' M
ผมหวนนึกทบทวนถึงช่วงเวลาอันมีความสุขที่ผ่านมา มันช่างผ่านไปรวดเร็วเสียจริงๆ ฝันสุขฝันดีมีเมื่อใด ผมเคยคิดที่จะปลีกตัวจากพี่ยศมาเพื่อให้ความสงบสุขกลับคืนมาสู่ครอบครัวของพี่ยศ แต่ผมก็นึกไม่ถึงว่าจะต้องจากมาด้วยสภาพเช่นนี้ พร้อมด้วยตราบาปว่าล่อลวงหลานมาเสพสุข กลางคืนผมนอนไม่หลับเพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน…
  ~0 I- f9 m+ pผมครุ่นคิดทบทวนชีวิตที่ผ่านมาอยู่ 3 วัน ช่วงเวลา 3 วันนี้แม้ผมจะคิดมาก แม้ผมจะต้องหลั่งน้ำตา แต่แปลกที่หัวใจผมไม่รู้สึกเจ็บปวด ผมเคยเห็นคนงานก่อสร้างเกิดอุบัติเหตุถูกเครื่องมือตัดนิ้ว คนงานบอกกับผมว่าหลังถูกตัดแล้วรู้สึกชาอยู่พักใหญ่ จากนั้นจึงเริ่มรู้สึกเจ็บปวด หัวใจของผมคงเป็นเช่นนี้กระมัง ยังชาด้านอยู่ 2 S8 m( I2 J7 g( h+ D
และแล้วผมก็ตัดสินใจ ผมตัดสินใจตอนที่หัวใจยังชาด้าน ซึ่งอยู่คงดีกว่าตอนที่เจ็บปวด เพราะสติของผมยังไม่ถูกความเจ็บปวดเข้าครอบงำ ผมตัดสินใจไปจากกรุงเทพฯ ผมลาออกจากงาน ตามระเบียบของบริษัท ผมต้องลาออกล่วงหน้า 1 เดือน แต่เนื่องจากผมยังมีวันลาพักร้อนสะสมอยู่ 2 สัปดาห์ ดังนั้นผมจึงต้องอยู่ทำงานจริงๆอีกเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น ( [3 I$ |2 \6 g& P& j
ผมใช้เวลาที่เหลืออยู่จัดการเกี่ยวกับเรื่องบ้านแม่ที่ผมอาศัยอยู่ ผมรู้ว่าแม่รักบ้านหลังนี้ และผมเองก็รักบ้านหลังนี้เช่นเดียวกัน บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ให้ความอบอุ่นแก่ผมมาแต่น้อยคุ้มใหญ่ ยิ่งตอนนี้ยิ่งรู้สึกรักมัน เพราะมันทำให้ผมนึกถึงแม่ ถึงตอนนี้เองที่ผมได้ตระหนักถึงความจริงว่าไม่มีใครรักผมจริงเท่ากับแม่ แม่พร้อมให้อภัยผมได้ทุกเรื่อง แต่พี่ยศไม่…; S4 @3 A9 B" |( a/ w
เดิมผมตั้งใจจะจากกรุงเทพฯไปโดยไม่กลับมาอีกเลย ไม่อยากมีห่วงอยู่ที่กรุงเทพฯให้พะวง รวมทั้งไม่คิดปรับความเข้าใจกับพี่ยศอีกแล้วด้วย เพราะผมหมดอาลัยตายอยากเสียแล้ว จึงอยากจะขายบ้านหลังนี้ไปเสีย แต่เมื่อมาคิดอีกที ผมกลับไม่อาจตัดใจขายได้ จึงฝากให้ญาติข้างแม่ช่วยดูแลไปสักระยะหนึ่งก่อน จนกว่าผมจะตัดสินใจได้, h" o; `( k% d. ]4 b1 B0 ~) `8 d) Q: a
เมื่อถึงวันที่ผมเป็นอิสระจากงานประจำ ผมเตรียมเงินสดก้อนหนึ่ง และเดินทางขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ ก่อนออกจากบ้าน ผมมองดูรอบๆบ้านเป็นครั้งสุดท้ายด้วยความอาลัยอาวรณ์ ผมคลำรอยบิ่นที่เสาราวบันไดพร้อมกับรำลึกถึงความหลัง รอยบิ่นนี้เกิดจากฟันของผมเองตอนที่ผมซนจนกลิ้งตกบันไดเมื่อเด็กๆ สามสิบกว่าปีแล้วมันก็ยังคงอยู่ วัตถุธาตุยังคงอยู่ แต่คนและจิตใจคนกลับเปลี่ยนแปลงไป…& I3 f9 m( n# D
ผมกำลังจะจากทุกสิ่งทุกอย่างไป ผมมองดูแจกันใส่ดอกไม้ใบโปรดของแม่ พร้อมทั้งเอารูปถ่ายของแม่ใบเล็กๆใบหนึ่งมาใส่กระเป๋าสตางค์ไว้ ใจหนึ่งผมยังอาลัยอาวรณ์ต่อทุกคนและทุกสิ่งทุกอย่าง แต่อีกใจหนึ่งก็บอกตนเองว่าผมจำเป็นต้องไป … คราวนี้เป้จะพาแม่ไปด้วยนะแม่ … ไปเป็นเพื่อนเป้หน่อย
( D) o1 d- K. l1 @# X; iเพื่อนๆที่ที่ทำงานไม่มีใครรู้ว่าผมลาออกไปไหน ผมอยากหายตัวไปเงียบๆ มีเพียงญาติที่ผมฝากบ้านไว้เท่านั้นที่รู้ว่าผมจะไปจากกรุงเทพฯ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าผมไปไหนอยู่ดี
6 j6 f; ?3 ?' J. G* v3 M. Qผมเดินทางขึ้นเหนือพร้อมเป้และเต๊นท์คู่ใจที่ไม่ได้ใช้มาหลายปีแล้ว ในอดีตผมรักชีวิตการเดินทางและแค้มปิ้งกลางป่าเขา มาถึงวันนี้ ผมตัดสินใจที่จะหวนกลับไปสัมผัสกับชีวิตแบบนั้นอีกสักครั้ง ผิดกันแต่ว่าทุกครั้งผมมีเพื่อนๆร่วมเดินทางไปด้วย แต่ครั้งนี้ผมต้องเดินทางอย่างเดียวดายและสิ้นหวังในชีวิต… มีเพียงความรู้สึกลมๆแล้งๆว่ามีแม่อยู่เคียงข้าง การเดินทางของผมครั้งนี้เปรียบเหมือนการแสวงหาครั้งใหม่ของผม ผมกำลังแสวงหาอะไรบางอย่างที่ผมสูญเสียไป หรือไม่ก็เป็นอะไรบางอย่างที่ผมไม่เคยได้มันมาก่อน… เงินทองที่ผมสะสมอยู่คงช่วยให้ผมเดินทางได้สักปีโดยไม่ต้องทำงาน หลังจากนั้นค่อยมาคิดกันอีกทีว่าผมควรทำอย่างไรต่อไป
, v4 o6 }0 H  B/ Dการเดินทางคนเดียวแทนที่จะทำให้ผมได้คิดและปลงตก ตรงกันข้าม มันกลับทำให้ผมจมอยู่ในห้วงทุกข์ ผมรอนแรมไปตามป่าเขาของอุทยานแห่งชาติแห่งต่างๆ คล้ายๆกับพระธุดงค์ แต่ใจของผมไม่ได้สงบนิ่งเช่นผู้ทรงศีล ความเดียวดายทำให้ผมคิดมากและฟุ้งซ่านมากยิ่งขึ้น ความเจ็บปวดในจิตใจได้กัดกร่อนผมมาตั้งแต่เริ่มการเดินทาง และยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ผมยอมปล่อยให้ความเจ็บปวดเข้าครอบงำและกัดกร่อนจิตใจ ด้วยหวังว่ามันจะช่วยลดทอนบาปกรรมที่ผมได้แย่งชิงคนรักของผู้อื่นมาครอบครองไว้ได้บ้าง 6 C4 e9 g2 T# F% N

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
ตอบกลับ
16222
พลังน้ำใจ
79556
Zenny
210037
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:22:07 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(13) : การเดินทาง (จบ)
" b; r0 F( s6 k3 R$ |
' u( w4 B& f& x! S) I( ~# Pผมไม่โทษใครในสิ่งที่เกิดขึ้น หากจะโทษก็ต้องโทษตัวเอง ผมก่อบาปกรรมเอาไว้กับครอบครัวของพี่ยศ ผมจึงสมควรได้รับผลกรรมนั้นตอบแทน ผมไม่คิดอธิบายอะไรอีกแล้ว ผมอยากปล่อยให้ทุกอย่างผ่านเลยไป ปล่อยให้ชีวิตเป็นเช่นจอกแหน ความสุข ความทุกข์ ความรัก ความโกรธ อยากให้ทุกอย่างเป็นเหมือนทิวทัศน์สองฝั่งของแม่น้ำ ที่ปัจจุบันเราเห็นมันอยู่เบื้องหน้าสายตา แต่สักพักมันก็จะคล้อยไปอยู่ข้างหลัง และลับสายตาไปในที่สุด แต่แล้วผมก็ยังทำไม่ได้
. |2 F$ P# d$ [2 Hหลังจากวันที่เกิดเรื่องเกือบสามสัปดาห์ ขณะนั้นผมกำลังรอนแรมอยู่ในป่าในเขตอุทยาแห่งชาติน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ ผมก็พบว่ามีข้อความฝากถึงผมทางโทรศัพท์มือถือ ที่จริงผมคิดจะขายโทรศัพท์มือถือเพราะไม่ต้องการจะใช้มันอีกต่อไปแล้ว แต่ใจหนึ่งก็รู้สึกเสียดาย จึงเก็บเอาไว้ก่อน คงเป็นเพราะว่าผมยังเหลือเยื่อใยเส้นเล็กๆไว้กระมัง และคิดว่าพี่ยศอาจจะติดต่อมา
) e" c  n3 p' cและแล้วความอาวรณ์ใยสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ก็เป็นความจริง ในที่สุดพี่ยศก็โทรติดต่อมา แต่ปกติผมจะปิดโทรศัพท์มือถือเอาไว้ ดังนั้นพี่ยศจึงทำได้เพียงแค่ฝากข้อความไว้& Q( ~; Q$ q7 B% ]/ V3 }0 Q0 ]/ y4 r
"เป้ พี่เองนะ" เสียงพี่ยศพูด เสียงนั้นฟังดูอบอุ่นและนุ่มนวลเหมือนเมื่อก่อนเกิดเรื่อง "อยากให้เป้โทรหาพี่หน่อย พี่อยากคุยด้วย", r. Y. D0 `2 w/ l) F
ผมรู้สึกอบอุ่นวูบขึ้นมาในหัวใจ ประโยคสั้นๆจากคนที่ผมรักเป็นเหมือนสายลมอันอบอุ่นในฤดูเหมันต์ แต่อีกใจหนึ่งก็เจ็บปวดที่ได้ยินเสียงนั้น จิตใจคนนี่ยากจะหยั่งจริงๆ แม้แต่เจ้าของใจก็ยังไม่รู้จักใจตนเองดีพอ ทั้งๆที่ผมอยากคุยกับพี่ยศแทบจะขาดใจ แต่ผมกลับตัดสินใจไม่โทรไปหาพี่ยศ ผมไม่ต้องการอธิบายอะไรอีกแล้ว; y& h/ a4 M% f5 {7 S1 [
"เป้ พี่ยศนะ" เสียงนั้นดังขึ้นอีกในวันต่อมาเมื่อผมเช็คข้อความที่ฝากไว้อีกครั้ง "เป้อยู่ที่ไหน พี่โทรไปที่ที่ทำงาน คนที่นั่นก็บอกว่าเป้ลาออกไปแล้ว พอไปดูที่บ้านก็เห็นบ้านปิดตายไว้" เสียงนั้นหยุดไปครู่หนึ่ง "ถ้าเป้ไม่อยากโทรหาพี่ เป้เปิดเครื่องหน่อยสิ พี่อยากคุยด้วย ขอให้พี่คุยกับเป้หน่อยนะครับ"
& F( k6 f' H- E) F% u0 z  Rผมไม่ตอบ รวมทั้งไม่เปิดเครื่องไว้ด้วย แต่กลับรอนแรมเดินทางต่อไป ' o% A" _" ]/ E$ Y8 p! F0 Q: r
ยามกลางคืนส่วนใหญ่ผมจะกางเต๊นท์นอนในอุทยานไม่ที่ใดก็ที่หนึ่ง ในบริเวณซึ่งห่างไกลผู้คน ท้องฟ้ายามกลางคืนในป่าสวยงามยิ่งนัก เต็มไปด้วยดวงดาวพราวพราย แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความอ้างว้างเพราะเหมือนกับว่ามีผมอยู่เพียงเดียวดายในโลกกว้าง ความเดียวดายทำให้ผมรู้สึกหดหู่ ผมพยายามจะลืมอดีตแต่ก็ลืมไม่ได้ มันวนเวียนไปมาอยู่ในความคิดของผมตลอดเวลา ผมกำลังหลอกตัวเองว่าผมจะลืมทุกอย่างได้ เหมือนกับที่ผมเคยหลอกตัวเองว่าผมไม่ได้คิดครอบครองพี่ยศ แต่ที่จริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น " Z: U  U- g9 J1 z7 [! j7 X
ผมคิดถึงพี่ยศ แม้พี่ยศจะดูเหมือนสิ้นไร้เยื่อใยในตัวผมแล้วก็ตาม แต่ผมก็ยังรักพี่ยศอยู่ ทุกคืนผมต้องนอนน้ำตาซึม กว่าจะข่มตาหลับได้ก็เป็นชั่วโมง " ความตายนั้นน่ากลัวแต่การพลัดพรากกลับน่ากลัวกว่า"  เพราะคนที่ตายไปแล้วก็หมดห่วงหมดอาวรณ์ ไม่ต้องเป็นทุกข์อีก แต่คนที่พลัดพรากนี่สิกลับยังต้องเวียนว่ายอยู่ในทะเลทุกข์เพราะความห่วงหาอาวรณ์ ผมเสียใจที่วันที่เราต้องจากกันนั้นแทนที่จะจากกันด้วยความรักและความเข้าใจ กลับกลายเป็นจากกันด้วยความชิงชัง ผมมีความรักมา 3 ครั้งแล้วก็ล้มเหลวทั้ง 3 ครั้ง ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมชีวิตของผมจึงอับโชคในเรื่องความรักเช่นนี้1 }( I% t8 p0 K( _  U: J' R& l7 N
ผมเดินทางไปเรื่อยๆโดยไม่ได้เปิดโทรศัพท์ฟังอีกเลย เพราะผมกลัวที่จะได้ยินเสียงพี่ยศอีก จนเมื่อผมกำลังจะเดินทางเข้าป่าอุ้มผาง ผมจึงเปิดโทรศัพท์เพื่อฟังข้อความอีกครั้ง ก็พบว่าพี่ยศโทรมาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้อความ 2 ครั้งสุดท้ายนั้นยาวกว่าข้อความอื่นๆ
% b5 e3 U+ O6 T"เป้" เสียงนั้นเรียกผม "ที่จริงพี่อยากจะคุยกับเป้ จะได้ปรับความเข้าใจกัน แต่ถ้าเป้ไม่อยากคุยก็ไม่เป็นไร พี่ฝากบอกไว้ก็ได้…" เสียงนั้นเงียบไปชั่วครู่ "พี่รู้ความจริงทุกอย่างแล้ว โตเพิ่งมาสารภาพกับพี่ ว่าทุกอย่างที่พี่เห็นเมื่อวันนั้นเกิดจากความต้องการของโต ไม่ใช่ของเป้ ตอนแรกพี่โกรธโตมาก จนโตเข้าหน้าพี่ไม่ติด โตเลยไม่กล้าบอกความจริง แต่โตบอกว่าทนสงสารเป้ไม่ได้ที่ต้องมารับบาปแทน ในที่สุดจึงมาบอกความจริงกับพี่ และเรื่องที่พี่กับเป้ไม่เคยรู้มาก่อนก็คือโตไม่ได้ไร้เดียงสาเลย โตเคยมีประสบการณ์แบบนี้กับเพื่อนที่โรงเรียนมาหลายครั้งแล้ว" เสียงนั้นหยุดไปอีกครู่หนึ่ง เหมือนกำลังเรียบเรียงคำพูด แล้วโทรศัพท์ก็ตัดไป: C: o. v, |& ?- m: l
หลังจากนั้นผมก็เปิดฟังข้อความถัดมา "พี่ต้องขอบใจเป้ที่เตือนสติพี่ด้วยคำพูดประโยคสุดท้าย ถ้าไม่ได้คำพูดประโยคนั้นพี่คงทำอะไรรุนแรงกับโตไปแล้วจริงๆ ตอนนี้พี่มีเวลาคิดแล้ว ที่จริงโตก็คืออดีตของพี่เมื่อเด็กๆนั่นเอง ไม่น่าเชื่อที่พี่โกรธอดีตของตนเองได้ เป้พูดถูก ตอนนั้นพี่ก็เป็นเหมือนพ่อของพี่เอง แต่ตอนนี้พี่ได้คิดแล้ว เป้ไม่ต้องเป็นห่วงโตนะ …" เสียงนั้นเงียบไปอีก "เป้ พี่ขอโทษในสิ่งที่ทำไป พี่คิดถึงเป้มาก … อยากให้ทุกอย่างกลับคืนมาเหมือนเดิมอีก พี่ไม่รู้ว่าตอนนี้เป้อยู่ที่ไหน แต่อยากให้เป้กลับมาหาพี่อีก เป้โทรกลับมาหาพี่ด้วยครับ"+ Y- ^" v& n- Y' x1 ?1 c
ผมทรุดนั่งลงกับพื้นดินชอุ่มของป่าอุ้มผางท่ามกลางสายฝนปรอย หัวใจคลายทุกข์ลงไปเปลาะหนึ่ง อย่างน้อยก็รู้ว่าโตไม่มีปัญหาอีกแล้ว ความจริงทุกอย่างกระจ่าง มิน่าเล่าทำไมโตถึงได้กล้าทำกับผมเช่นนี้ ก็เพราะโตเคยมีประสบการณ์มาบ้างแล้วนั่นเอง ผมอดนึกน้อยใจไม่ได้ เพราะถ้าพี่ยศเข้าใจผมอย่างแท้จริง เรื่องเข้าใจผิดนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น หลายปีที่ผูกพันกันมาพี่ยศน่าจะทราบดีว่าผมชอบแต่คนที่มีอายุมากกว่า ไม่ได้สนใจเด็กๆหรือว่าคนที่อายุน้อยกว่าเลย แล้วผมจะทำเรื่องแบบนั้นกับโตได้อย่างไร
) n' ~- T0 n) N( C3 |7 n"ความตายไม่น่ากลัวเท่าการพลัดพราก" ผมพึมพำเบาๆกับตัวเอง หนึ่งเดือนที่ผมรอนแรมเดินทางท่ามกลางความเจ็บปวดที่กัดกร่อนจิตใจ เมื่อความจริงกระจ่าง ตอนนี้ผมมีโอกาสที่จะกลับไปแล้ว แต่ผมสมควรกลับไปหรือ?
  i7 H; C" B* ~  ?' h/ h7 Q1 Iไฟแบตเตอรี่หมดแล้ว ไฟของแบตเตอรี่สำรองก็หมด ผมเก็บโทรศัพท์ไว้ในเป้ ผมไม่คิดหาที่ชาร์จแบตเตอรี่อีกเพราะคงไม่จำเป็นต้องใช้มันอีกต่อไปแล้ว เมื่อความจริงกระจ่าง พี่ยศก็คงไม่เกลียดชังผมอีกแล้ว และความรู้สึกดีๆที่มีต่อผมก็คงกลับคืนมาเช่นเดิม หนึ่งเดือนแห่งการเดินทางของผมนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้นมาบ้าง อย่างน้อยก็ได้ตระหนักว่าชีวิตนั้นไม่แน่นอน …" และความไม่แน่นอนนี่เองที่ทำให้ความทรงจำมีค่า … เมื่อต้นเหตุแห่งความทรงจำนั้นไม่ได้คงอยู่อีกต่อไปแล้ว …" ไหนๆผมก็ต้องการถอนตัวออกมาจากครอบครัวของพี่ยศอยู่แล้ว ผมควรปล่อยให้พี่ยศประทับความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับตัวผมไว้เช่นนี้ตลอดไปจะดีกว่า 2 z6 O- z6 H/ _/ ~) H
ผมออกจากอุ้มผาง มุ่งไปสุโขทัย รอนแรมไปยังเวียงโกศัย แม่ปิง ขุนตาล และเข้าสู่ป่าอินทนนท์-ดอยสุเทพ-ดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ จิตใต้สำนึกนำพาผมมาสู่เชียงใหม่ … ที่ซึ่งพี่ยศเคยตั้งรกรากอยู่หลายปีหลังจากเรียนจบ เมื่อผมรอนแรมไปถึงดอยปุย ผมก็ต้องล้มป่วยเพราะไข้มาลาเรีย เป็นไปได้ว่าผมคงได้รับเชื้อตั้งแต่ก่อนมาถึงเชียงใหม่ และเพิ่งมาแสดงอาการ เจ้าหน้าที่ขององค์กรพัฒนาชนบทของภาคเอกชนที่ทำงานกับกลุ่มชาวเขาคนหนึ่งมีใจอารีพาผมเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หลังจากนั้นผมก็มาพักฟื้นอยู่ที่โรงเรียนชาวเขาแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือที่องค์กรนี้ไปช่วยพัฒนาอยู่ " d: n% a- V: r/ e- z3 X
ที่นี่ ผมได้เรียนรู้ความจริงเกี่ยวกับชีวิตมากยิ่งขึ้น ผมได้เรียนรู้ว่าชีวิตไม่ได้มีเพียงแค่ความรักความชอบส่วนตัว แต่ชีวิตยังมีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น นั่นคือความรักเพื่อนมนุษย์ ผมรู้สึกเสียใจที่ตนเองลุ่มหลงอยู่แต่ชีวิตรักส่วนตัวมานาน ถวิลหาแต่ชีวิตคู่ที่อบอุ่น โดยลืมไปว่าในโลกยังมีผู้คนอีกมากที่แม้แต่ความต้องการพื้นฐานยังขาดแคลน อย่าว่าแต่เรื่องชีวิตรักเลย
% E& T9 Q7 N- B. Kผมตัดสินใจใช้ที่นี่เป็นที่ชำระล้างบาปรักที่ติดพันอยู่ในจิตใจ รวมทั้งเยียวยารักษาแผลใจของผม หลังจากที่ผมหายป่วยจากมาลาเรียแล้ว ผมจึงอาสาเป็นครูสอนหนังสือในโรงเรียนชนบทและช่วยงานองค์กรพัฒนาชนบทแห่งหนึ่งในถิ่นนี้ แม้เงินเดือนจะน้อยนิดอย่างเทียบไม่ได้กับเงินเดือนวิศวกร และด้วยวัยของผมก็ออกจะเป็นเรื่องแปลกประหลาดอยู่บ้างที่มาทำงานเช่นนี้ เพราะอาสาสมัครเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่มันก็ไม่สำคัญอะไร เพราะผมได้พบกับชีวิตที่สงบสุขและมีความหมายที่นี่ แม้ในป่าเขาจะไม่สะดวกสบายเทียบเท่าในเมือง แต่ก็ทำให้จิตใจของผมสงบร่มเย็นได้ ผมคงอยู่ที่นี่เพื่อพักฟื้นจิตใจอันบอบช้ำของผมไปเรื่อยๆจนกว่าผมจะคิดอะไรที่ดีกว่านี้ออก ซึ่งผมก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อไร% o9 v- ^% V$ c$ c: Z2 j7 q" L2 M, C
บางครั้งที่ผมมีโอกาสเข้าตัวเมือง ผมจะใช้เวลาส่วนหนึ่งอยู่ในร้านอินเตอร์เน็ตเพื่อบันทึกเรื่อง "บาปรัก" ที่ทุกคนกำลังอ่านอยู่นี้ ผมต้องเข้าเมืองหลายครั้งทีเดียวกว่าจะบันทึกเรื่องนี้จนจบ ผมจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อบุคคลและดัดแปลงเหตุการณ์บางอย่างไปบ้างเพราะบุคคลที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องนี้ล้วนแต่ยังมีชีวิตอยู่ ผมไม่อยากให้กระทบกระเทือนใคร แต่ผมเชื่อแน่ว่าหากผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องได้อ่านเรื่องนี้ก็คงทราบว่าเรื่องนี้ใครเป็นผู้เขียน และเขียนถึงใคร
* L/ r; a: k1 ~" ^- H. L1 k0 m6 x"ถ้าโตมีโอกาสได้อ่านเรื่องนี้ ซึ่งอาเชื่อว่าสักวันหนึ่งโตจะเข้ามาอ่านพบ ก็ขอให้โตรู้ว่าอาสบายดี พร้อมทั้งต้องขอโทษด้วยที่เราต้องจากกันโดยที่ไม่มีโอกาสได้ร่ำลา ตอนนี้โตคงสบายใจแล้วเพราะมีพ่อที่เข้าใจจิตใจของโตอยู่เคียงข้าง และครอบครัวของโตก็คงสงบสุขแล้วเมื่ออาไม่อยู่ ฝากบอกพ่อของโตด้วยว่าอาได้ฟังข้อความทั้งหมดในโทรศัพท์แล้ว แต่เห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องตอบจึงไม่ได้ตอบกลับไป อาขอให้โตและพ่อของโตเก็บอาไว้ในความทรงจำก็เพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่เราต้องพบกันอีก"
( w2 y8 c+ F) E2 ]; y% T, S, xตอนนี้ผมใช้ชีวิตอยู่อย่างสมถะบนดอย ท่ามกลางเด็กๆและกลุ่มคนผู้มีน้ำใจเสียสละ แม้จะมีสันติสุขในจิตใจ แต่ก็ยอมรับว่าในส่วนลึกแล้วยังมีความอ้างว้างแฝงอยู่ ยามดึกสงัด ผมชอบออกมาเดินเล่นที่ลานกว้างหน้าโรงเรียน แหงนดูดวงดาวพราวพรายเต็มท้องฟ้า ฟังเสียงแมลงหรีดร้องระงม พร้อมทั้งอดคิดถึงพี่ยศไม่ได้ ผมไม่อาจลืมพี่ยศได้เลย พี่ยศเป็นทั้งพี่ชายและเป็นเหมือนพ่อของผม เป็นบุคคลที่ผมผูกพันชีวิตด้วยมากที่สุด และก็เป็นผู้ที่สร้างความบอบช้ำให้แก่ชีวิตของผมมากที่สุดเช่นกัน … ป่านนี้พี่ยศกำลังทำอะไรอยู่หนอ... แม้ช่วงเวลาที่ผมได้ใกล้ชิดกับพี่ยศจะไม่นานมากนัก แต่ก็เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่จะทำให้ผมหวนรำลึกไปได้ชั่วชีวิต เส้นทางชีวิตข้างหน้าแม้จะเดียวดาย แต่ผมจะมีความทรงจำดีๆส่วนนี้คอยเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงจิตใจให้มีกำลังพอที่จะต่อสู้ชีวิตต่อไป5 E/ n, r2 X; F9 u# x2 L
ท่ามกลางแสงดาวและเสียงแมลงระงม เสียงสายลมพัดผ่านราวป่าดังหวีดหวิว ผมมักยืนฟังเสียงหวีดหวิวนี้คราวละนานๆเสมอ และในจินตนาการ ผมแว่วยินเสียงเพลงที่พี่ยศรักแทรกประสานมากับสายลม พี่ยศเคยบอกว่ารักเพลงนี้มากเพราะเพลงนี้หมายถึงผม และต่อมามันก็เป็นเพลงที่ผมรักมากที่สุดเช่นกัน หรือพี่ยศกำลังฝากเสียงเพลงและคำรักมาถึงผม…) l+ Y+ \  L3 ^- C' j, V/ B0 ?
เมื่อมาคิดว่าพี่ยศอาจกำลังเป็นทุกข์เพราะไม่รู้ว่าผมเป็นตายร้ายดีอย่างไร ดังนั้นในคืนดึกสงัดคืนหนึ่ง ผมจึงตัดสินใจโทรศัพท์กลับไป ผมเลือกเวลาดึกเพราะพี่ยศคงปิดโทรศัพท์ไปแล้ว … ผมเพียงต้องการฝากข้อความไว้เท่านั้น …
# C) r5 `$ A% x8 |"พี่ยศครับ ไม่รู้ว่าเป็นเวรกรรมอะไรที่ผมต้องมาครอบครองคนที่มีเจ้าของแล้ว แต่ผมผิดแล้วจะไม่ผิดซ้ำอีก ผมจึงตัดสินใจถอนตัวจากพี่ ผมอยากให้พี่รู้ว่าผมไม่ได้จากพี่มาเพราะความโกรธหรือน้อยใจในสิ่งที่พี่ทำกับผม แต่ผมจากพี่มาเพราะต้องการให้พี่มีชีวิตครอบครัวที่เป็นสุข… จะมีเรื่องที่เสียใจก็เพียงเรื่องเดียวคือการที่เราต้องจากกันโดยที่ไม่มีโอกาสร่ำลากัน… ผมอยากให้พี่รู้ว่าพี่เป็นพี่ชายที่แสนดีและอบอุ่นคนเดียวของผม และจะประทับอยู่ในความทรงจำของผมตราบนานเท่านาน …"
. ]; z5 W/ V: Q6 oผมปิดโทรศัพท์ สายตาทอดไปในความมืดอันไม่มีที่สิ้นสุดของรัตติกาล ท่ามกลางเสียงลมพัดราวป่าดังหวีดหวิว … ลาก่อนครับ พี่ยศ" w; _3 s9 R" M$ p3 L3 S
เป้
! A) K$ @, }  g6 c+ \
1 ~8 C# S' X2 ^' X& w$ qป.ล.' z3 p/ R, |/ O2 F3 p5 B
ผมให้ที่อยู่อีเมล์ไว้ในเรื่องด้วย จุดประสงค์ของผมคืออยากได้กำลังใจจากเพื่อนๆบ้าง รวมทั้งฟังเพื่อนๆแสดงความคิดเห็นว่าชีวิตในอดีตนั้นผมทำผิดหรือถูกประการใด และอยากให้ชีวิตของผมนี้เป็นอุทาหรณ์แก่ทุกคน ผมคงไม่มีโอกาสตอบอีเมล์เหล่านี้เพราะข้อจำกัดในเรื่องความสะดวก อีกทั้งผมยังไม่อยู่ในสภาพพร้อมที่จะติดต่อกับใคร และสุดท้ายนี้ผมขอฝาก เพลงที่พี่ยศและผมรักมากที่สุด ให้แก่ทุกๆคนครับ / I9 a: B; T- F) m* i4 M
peeradej@nettaxi.com, }9 m" @: M# L( X- N0 B+ ?0 h3 ?5 p

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
152
ตอบกลับ
1575
พลังน้ำใจ
11432
Zenny
108524
ออนไลน์
280 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหาร

โพสต์ 2013-3-12 10:15:18 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ผมว่านะครับให้เป็นเรื่องยาวต่อเนื่องเป็นตอน ๆ แบ่งเป็นกระทู้ย่อยให้ชวนน่าติดตาม  
- k* a9 T  i! {; _จบตอนนี้แล้วจะรุ้นตอนต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร  แล้วปล่อยปลายทิ้งไว้ให้น่าติดตาม
, q( c. k& C1 w9 D$ e

แสดงความคิดเห็น

พอดีผมเห็นว่าเนื้อเรื่องดีน่าอ่านก็เลยลงรวดเดียว ไม่อยากกั๊กไว้ครับ  โพสต์ 2013-3-12 12:30
ศาสตราจารย์ (Admin) อธิการบดี
กระทู้
574
ตอบกลับ
2574
พลังน้ำใจ
41308
Zenny
150800
ออนไลน์
17024 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-3-12 18:57:49 | ดูโพสต์ทั้งหมด
โทดนะคะ ปล. ที่ จขกท. ลงไว้นี่ เมล์ของ จขกท. หรือว่าเมล์ของต้นฉบับที่ก๊อบมาคะ

แสดงความคิดเห็น

เจ้าของต้นฉบับครับ  โพสต์ 2013-3-12 19:36
นิสิตภาคบัณฑิต (M.D.A)
Money Donate Approved
กระทู้
234
ตอบกลับ
2766
พลังน้ำใจ
6296
Zenny
75140
ออนไลน์
1371 ชั่วโมง
โพสต์ 2013-3-13 03:56:04 | ดูโพสต์ทั้งหมด
, V; U* t3 N, D0 Z; f
ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น

ไม่เป็นไรครับ  โพสต์ 2013-3-13 15:33

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
ตอบกลับ
5960
พลังน้ำใจ
15837
Zenny
7462
ออนไลน์
3613 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-7-26 22:24:09 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากคับ

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
ตอบกลับ
16222
พลังน้ำใจ
79556
Zenny
210037
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-8-2 21:29:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ไปขุดมาให้อ่านครับ

รุ่นน้องจูเนียร์

กระทู้
0
ตอบกลับ
105
พลังน้ำใจ
238
Zenny
-9
ออนไลน์
51 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-8-12 21:35:43 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ยาวเเต่ก็สนุกคับ

ประธานนักศึกษา

กระทู้
2
ตอบกลับ
10174
พลังน้ำใจ
73941
Zenny
371
ออนไลน์
22442 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-8-18 00:37:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2025-11-21 03:49 , Processed in 0.135720 second(s), 27 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2025 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้