ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 4839|ตอบกลับ: 49

บาปรัก โดยคุณเป้

 มาแรง [คัดลอกลิงก์]

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
พลังน้ำใจ
79626
Zenny
205823
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
(1): ที่งานเลี้ยงของคณะ
เรื่องนี้คงจะไม่เกิดขึ้นถ้าผมไม่ได้ไปงานเลี้ยงรุ่นของคณะเมื่อ3ปีก่อนและถ้าผมมีพรวิเศษที่จะขอแก้ไขความผิดพลาดในอดีตของผมได้สักเรื่องหนึ่งผมคงเลือกขอแก้อดีตของผมไม่ให้ไปงานเลี้ยงในวันนั้นเป็นแน่
ร้อยวันพันปีผมไม่เคยสนใจที่จะไปงานเลี้ยงรุ่นของคณะเลยแต่พอไปเข้าครั้งเดียวมันก็ทำให้ชีวิตอีกหลายชีวิต รวมทั้งผมด้วย แทบต้องอับปางลงแม้จนบัดนี้ก็ยังบอบช้ำไปตามๆกันอย่างยากที่จะกลับฟื้นขึ้นมาให้เหมือนเดิม
จำได้ว่าปีนั้นผมมีอายุได้ 34 ปีหลังจากที่จบจากคณะมาได้ 12 ปี กลุ่มเพื่อนร่วมรุ่นที่ยังติดต่อกันอยู่ก็มาชวนให้ผมไปร่วมงานวันครบรอบ20 ปีของการตั้งคณะหรือจะเรียกว่างานวันคล้ายวันเกิดของคณะก็คงจะได้ตั้งแต่จบมาผมเคยไปงานเลี้ยงประจำปีของคณะเพียงครั้งเดียวเท่านั้นคือปีถัดมาหลังจากที่จบหลังจากนั้นก็ไม่ได้ไปอีกเลย คงไปร่วมงานแต่งานประจำปีของแผนกซึ่งเป็นเพื่อนๆที่เรียนมาในแผนกเดียวกันและรู้จักกันดีกว่า
ค่ำวันนั้น พวกเรานัดกันได้กลุ่มเล็กขนาดเล็ก ราว 7-8 คนต่างคนต่างก็ไปพบกันในงาน พอผมเลิกงานก็ตรงไปที่งานเลย ที่ทำงานของผมค่อนข้างไกลดังนั้นกว่าจะไปถึงงานก็เริ่มไปแล้ว คงต้องเดินหากันสักพักกว่าจะเจอเพื่อนๆได้
ขณะที่ผมเดินหาเพื่อนๆตามโต๊ะต่างๆนั่นเองสายตาก็สอดส่ายดูแผงอาหารของร้านต่างๆที่นำมาออกงานสายตาของผมก็เหลือบไปเห็นชายคนหนึ่ง ด้านหลังของเขาช่างคุ้นตาผมเหลือเกิน… พี่ยศนั่นเอง
เพียงแค่เห็นเงาหลังของพี่ยศ ความคิดของผมก็ล่องลอยไปเมื่อ16ปีก่อน พี่ยศเป็นพี่รหัสของผม ตอนผมอยู่ปีหนึ่งพี่ยศก็อยู่ปีสี่แล้ว แม้เราห่างกันเพียง 3 รุ่นแต่พี่ยศอายุมากกว่าผม 4 ปีเพราะพี่ยศเรียนตามเกณฑ์ส่วนผมเรียนเร็วไปหนึ่งปี พี่ยศเป็นพี่รหัสที่ดีมาก ใจดีดูแลผมตลอดเวลาที่ผมอยู่ปีหนึ่ง มีอะไรก็จะช่วยเหลือผมตลอดแม้กระทั่งช่วยติววิชาบางวิชาที่ผมไม่ค่อยเข้าใจบางครั้งพี่ยศยังดูตำราของตัวเองไม่เสร็จเลย แต่ก็ยังเป็นห่วงมาติวให้ผมก่อนนี่เองจึงทำให้ผมรักและเคารพ รวมทั้งสนิทกับพี่ยศมาก
เงาของพี่ยศ ลูกแหง่ประจำคณะ… ยังจำได้ว่าฉายานี้เป็นฉายาล้อที่เพื่อนๆชอบล้อเพราะผมติดพี่ยศยิ่งกว่าน้องรหัสติดพี่รหัสคนไหนๆ ผมไม่ค่อยชอบฉายานี้เท่าไรนักส่วนพี่ยศเองไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจกับคำล้อเลียนเหล่านี้ กลับชอบเสียอีก
หลังจากพี่ยศจบ ในช่วงปิดภาคปลายของปี 1 ผมก็ยังติดต่อกับพี่ยศอยู่แรกๆก็ติดต่อกันบ่อยๆ แต่พอผมเปิดเทอมใหม่และเริ่มเรียนปีสองผมเองก็ต้องกลายเป็นพี่รหัสบ้างแล้ว ก็เลยต้องแบ่งเวลาส่วนหนึ่งเพื่อดูแลน้องรหัสรวมทั้งการเรียนก็เริ่มแยกสาขา ทำให้ผมต้องตั้งใจกับการเรียนมากขึ้นประกอบกับครอบครัวของพี่ยศย้ายไปต่างจังหวัด การติดต่อของเราก็ยากขึ้นเพราะต้องใช้การเขียนจดหมาย จึงทำให้เราค่อยๆห่างกันแล้วก็ขาดการติดต่อกันในที่สุด
สิบกว่าปีแล้วสินะที่ผมไม่ได้พบกับพี่ชายที่แสนดีคนนี้ผมคิดในใจ ผมถอนความคิดคำนึงกลับมาก่อนที่มันจะลอยไกลออกไปกว่านี้แล้วเดินไปจับต้นแขนของพี่ยศเขย่าจากด้านหลัง แค่เห็นด้านหลังผมก็จำได้แล้ว ไม่ผิดคนแน่นอน
"พี่ครับ จำผมได้ไหม" ผมทักจากข้างหลังพี่ยศพยายามเหลียวกลับมาดูว่าเป็นใคร แต่ผมตรึงแขนพี่ยศไว้ไม่ให้เหลียวกลับมาได้ "ทายก่อนครับว่าใคร อย่าเพิ่งหันมาดู"
"ไอ้เป้ ไอ้ลูกแหง่ รับรองว่าทายไม่พลาด" พี่ยศตอบกลับมาทั้งที่ไม่เหลียวหลัง
"โห พี่ เก่งจัง" อารามดีใจที่พี่ยศยังจำผมได้ผมเผลอรวบตัวพี่ยศเข้ามากอด แต่ก็เพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้นเมื่อผมได้คิดผมก็รีบผละออกมา การกอดนั้นจึงไม่เป็นที่ผิดสังเกตราวกับเพื่อนหยอกเย้ากันเท่านั้น
พี่ยศหันมาหาผม … พี่ยศยังเป็นคนเดิมอยู่หน้าตาเปลี่ยนไปไม่มาก เพียงแต่เข้มขึ้น กร้านขึ้นผิวหน้าที่เคยราบลื่นเป็นประกายของหนุ่มวัยยี่สิบกว่าก็กลายเป็นผิวหน้ากร้านของชายวัยเกือบสี่สิบแต่มันก็ทำให้พี่ยศดูดีไปคนละแบบ จากหนุ่มน้อยสำอางกลายเป็นหนุ่มใหญ่ผู้คร่ำโลกแกร่ง และภูมิฐาน แต่สิ่งที่ไม่เปลี่ยนคือรอยยิ้มที่นุ่มนวล พร้อมด้วยลักยิ้มที่สองข้างแก้มความคิดของผมเริ่มล่องลอยไปสู่อดีตอีกครั้ง
"เป้จริงๆด้วย" พี่ยศพูดเมื่อเห็นผมทำท่ามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า "ไม่เปลี่ยนสักเท่าไรเลยนะเราแต่ไม่ผอมเหมือนเมื่อก่อน ดูดีกว่าตอนสมัยเรียนอีก"
"พี่ก็ไม่เปลี่ยนนะครับ" ผมว่า
"เฮ่ย จะไม่เปลี่ยนได้ไง อายุจะสี่สิบแล้ว แถมทำงานกรำแดดอยู่บ่อยๆยังกลัวเพื่อนๆจะจำไม่ได้เลย ไม่นึกว่าเป้จะจำได้เพียงแค่เห็นหลังพี่"พี่ยศพูด ยิ้มจนลักยิ้มบุ๋ม
"พี่ไม่ค่อยเปลี่ยนเลยครับ จริงๆ" ผมแก้ไขคำพูดนิดหน่อยจะได้ไม่เว่อร์เกินไป "ไม่งั้นผมจะจำพี่ได้ยังไงแล้วทำไมพี่ทายถูกว่าเป็นผมละครับ"
"ก็เรามันชอบเล่นแบบนี้นี่น่า ตั้งนานนิสัยก็ยังไม่เปลี่ยนเลยนะ"พี่ยศยังจำได้ว่าสมัยเรียนผมชอบมาข้างหลังแล้วจับตัวพี่ไว้ไม่ให้หันกลับมาทำอย่างนี้อยู่บ่อยๆ
หลังจากไต่ถามทุกข์สุขกันก็ได้ความว่าหลังจากครอบครัวของพี่ยศย้ายไปต่างจังหวัดแล้วพี่ยศก็ใช้วิชาที่เรียนมาช่วยงานทางบ้านซึ่งเป็นกิจการรับเหมาก่อสร้างโดยช่วยควบคุมดูแลงาน งานของพี่ยศไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในจังหวัดแต่บางทีก็ยังรับงานข้ามจังหวัดด้วย ทำให้อยู่ไม่ค่อยติดบ้านนักนับว่าเป็นงานที่หนักพอสมควร มิน่าเล่า พี่ยศจึงดูแกร่งขึ้น ส่วนผมเองก็แนะนำตัวไปว่าได้งานที่บริษัทที่ปรึกษาการก่อสร้างโดยงานของผมมีทั้งงานออฟฟิศและออกไซต์ก่อสร้างแต่ส่วนใหญ่งานที่ผมดูแลเป็นไซต์ในกรุงเทพฯ จึงไม่ต้องออกต่างจังหวัดแต่ต่อไปก็ไม่แน่เหมือนกัน
หลังจากที่เราทักทายกันได้สักครู่เพื่อนๆของพี่ยศก็มาลากพี่ยศไปร่วมโต๊ะ พี่ยศจึงขอตัวไปชั่วคราวทิ้งให้ผมยืนเคว้งอยู่ตรงนั้นเอง แต่เพียงชั่วครู่เดียว ผมก็ตั้งสติได้หลังจากนั้นผมก็เริ่มเดินหาเพื่อนๆ งานเลี้ยงของคณะจัดที่สนามหญ้าใหญ่หน้าคณะมีคนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก จะหาเพื่อนๆจึงไม่ง่ายนักเพราะบางโต๊ะก็ซุ่มอยู่ในเงามืด
"เฮ้ย ไอ้เป้ ทางนี้" เสียงเพื่อนเรียกเป็นอันว่าผมไม่เคว้งแล้ว เจอเสียที
เพื่อนที่ส่งเสียงทักพาผมไปเข้ากลุ่มที่โต๊ะซึ่งตอนนี้ทุกคนต่างก็มานั่งกันหมดแล้ว
"เมื่อกี้มึงคุยกับใครวะ กูเห็นไกลๆ" ก้องเพื่อนคนหนึ่งถามขึ้น
"พี่ยศไง อะไรกัน จำไม่ได้เหรอ" ผมตอบ
"ยศไหนวะ มีตั้งหลายยศ กูไม่เห็นหน้านี่หว่า" ก้องยังนึกไม่ออก
"ก็พี่ยศพี่รหัสกูไง"
"อ๋อ ไอ้ลูกแหง่เจอพี่ชายเข้าแล้วสิ มิน่าถึงได้ยืนยิ้มอยู่คนเดียวตอนกูเจอมึง เป็นไง ลูกโตหรือยังก็ไม่รู้" ก้องว่า ผมสะอึก พี่ยศมีลูกมีเมียแล้วหรือนี่
"ไม่รู้โว้ย ยังไม่รู้เลยว่าแต่งงานหรือยังเพิ่งคุยได้เดี๋ยวเดียวเองแล้วพี่เค้าก็แยกไป"
"โอ๊ย ลูกน่ะมีแล้ว ปัญหาคือมีอยู่กี่ลูกเท่านั้นเองกูเคยเจอพี่ยศทีหนึ่งตอนไปเชียงใหม่ ยังอุ้มลูกจูงเมียเดินห้างเลย" ก้องสาธยาย ผมใจหายวูบ รู้สึกอ้างว้างอยู่ในส่วนลึกของหัวใจทำไมผมถึงได้รู้สึกแบบนี้นะ เราห่างเหินกันมาตั้งสิบกว่าปีแล้วจะไปกังวลสนใจทำไมว่าพี่ยศจะมีลูกเมียหรือเปล่า
"เฮ้ย ไอ้เป้ เป็นอะไรวะ เจอพี่ยศเข้าทีซึมเลยเหรอมึง เป็นอะไรไปน่ะ"ชิต เพื่อนอีกคนในกลุ่มเรียกผม ผมสะดุ้งตื่นจากความคิดคำนึง "เปล่า ไม่มีอะไร วันนี้งานเครียดน่ะ ที่ไซต์มีปัญหายังแก้ไม่ตกมึนมาตั้งแต่บ่ายแล้ว" ผมแกล้งพูดรู้สึกผิดนิดหน่อยที่ต้องโกหกเพื่อนๆเพราะที่จริงแล้วเรื่องงานของผมไม่ได้มีปัญหาอะไรเลยแต่ชีวิตส่วนตัวของผมต่างหากที่มีปัญหา … มีปัญหามาหลายปีแล้วด้วย
"เออ มึงไม่ต้องเอามาคิดหรอก มากินเหล้าสนุกกันสักวัน มีปัญหาก็ให้นายมึงรับไปแก้ก็แล้วกันใครเงินเดือนเยอะก็ต้องรับผิดชอบเยอะ" ก้องพูดให้บรรยากาศผ่อนคลายผมได้คิดว่าคงเสียกิริยาไป จึงพยายามควบคุมตนเองให้เป็นปกติหลังจากนั้นเราก็สั่งอาหารและเหล้าเบียร์มากินกันเฮฮากันจนผมลืมเรื่องพี่ยศไปได้ชั่วขณะ
เราดื่มกินกันไปจนถึงประมาณ 5 ทุ่มผมเหลือบไปเห็นพี่ยศเดินไปมาตามโต๊ะอาหารหลายครั้ง ทักคนโน้นบ้าง ทักคนนี้บ้างแต่ไม่ยักแวะมาทางโต๊ะด้านนี้สักทีจนผมเห็นว่าสมควรแก่เวลาและชักจะมึนมากแล้วก็เลยขอตัวกลับส่วนพวกที่เหลือยังสมัครใจที่จะอยู่เฮฮากันต่อไปเพราะงานจะมีจนถึงตีหนึ่ง
ผมเดินเซนิดๆด้วยความมึนงงไม่ได้กินเหล้าหนักอย่างนี้มานานแล้วยังแปลกใจตัวเองว่าวันนี้ทำไมกินเหล้าเข้าไปมาก… ก่อนกลับขอแวะเข้าห้องน้ำเสียหน่อย
ในห้องน้ำที่มีแสงไฟไม่สว่างนักผมเห็นเงาตะคุ่มๆกำลังก้มหน้าล้างหน้าอยู่ที่อ่างล้างมือ … พี่ยศอีกแล้ว
"อ้าว พี่ยศ เจอกันอีกแล้ว" ผมทักพี่ยศพอดีล้างหน้าเสร็จ หลังจากเช็ดหน้าแล้วก็เงยขึ้นมามองหน้าผม "กินเหล้าไปกี่ขวดวะนี่ ทำไมหน้าแดงก่ำขนาดนั้นเดี๋ยวนี้กินเหล้าหนักเลยเหรอ"
"เปล่าครับพี่ กินไม่มาก แต่ผมเมาง่ายครับ นานๆกินทีก็เป็นยังงี้แหละเพื่อนๆมันช่วยมอมผมด้วย ผมไม่ได้ขี้เมานะครับพี่" ผมรีบอธิบาย
"แล้วขับรถไหวเหรอ สภาพแบบนี้ไม่ควรขับรถเลย" พี่ยศมองดูผมด้วยความเป็นห่วงผมรู้สึกอบอุ่นใจอย่างประหลาดความรู้สึกดีๆที่ผมฝังมันไปนานแล้วในหัวใจอันแห้งแล้งของผมเริ่มกลับฟื้นคืนมามันเหมือนเมล็ดพันธุ์ที่ฝังอยู่ในดินแดนอันแห้งแล้งเป็นเวลาแรมปีเมื่อใดที่มันได้รับหยาดฝนอันชุ่มฉ่ำ เมื่อนั้นมันก็เริ่มงอก …
สามปีมาแล้วสินะ ที่หัวใจผมกลับกลายเป็นเย็นชาและแห้งแล้งหลังจากคนรักที่ผมทุ่มเทหัวใจให้เต็มที่จากผมไปมีคนอื่น ด้วยเหตุผลครอบจักรวาลคือ "เราเข้ากันไม่ได้"ใช่สิ เราเข้ากันไม่ได้ เพราะผมไม่มีนิสัยเจ้าชู้แบบเขาความผิดหวังในความรักทำให้สามปีมานี้ผมจึงกลายเป็นคนเงียบและใจลอยอยู่บ่อยๆชอบคิดโน่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อย
"เป้ เฮ้ย ยังงี้ไม่ไหวแล้วว่ะ พูดไม่รู้เรื่องแล้วเหรอขับรถกลับเองไม่ได้แล้วล่ะแบบนี้" พี่ยศพูดอีกคงนึกว่าผมเมามาก ที่จริงไม่ใช่หรอกผมลืมตอบพี่ยศเพราะมัวหวนนึกเรื่องอันเจ็บปวดในอดีตอยู่ต่างหาก "ผมไม่ได้เอารถมาครับ วันนี้กะอยู่แล้วว่าคงเมาเตรียมมานั่งแท็กซี่อยู่แล้วครับพี่"
"เออ ค่อยยังชั่ว รอบคอบดี" พี่ยศว่าผมเดินเซนิดๆไปยังโถปัสสาวะเพื่อจัดการกับธุระส่วนตัวให้เรียบร้อยก่อนกลับแล้วก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้ถามเลยว่าพี่ยศพักที่ไหนเพราะไม่มีบ้านที่กรุงเทพฯแล้ว "แล้วพี่ตอนนี้พักที่ไหนล่ะครับ"ผมถาม
พี่ยศไม่ตอบ เมื่อผมจัดการธุระเสร็จ พี่ยศจึงค่อยตอบผมว่า "พี่ก็อยู่บ้านพี่น่ะสิเอายังงี้ บ้านเป้ยังอยู่ที่เดิมหรือเปล่า เดี๋ยวพี่ไปส่งดีกว่าเห็นสภาพยังงี้แล้วพี่ไม่อยากให้กลับเองเลยดีไม่ดีเจอแท็กซี่โจรอาจต้องไปนอนหมกในคูน้ำข้างทาง"
"ยังอยู่ที่เดิมครับ แต่ไม่ต้องหรอก เสียเวลาพี่เปล่าๆพี่เองก็คงกินเหล้ามาเหมือนกัน ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมกลับเองได้…" ผมเงียบไปอึดใจหนึ่งแล้วก็โพล่งออกมาว่า "เดี๋ยวนี้ผมไม่ใช่ลูกแหง่แล้วนะพี่"
ไม่รู้สิ ไม่รู้ว่าผมพูดประโยคนี้ด้วยอารมณ์อะไรฟังดูแล้วคล้ายทีเล่นทีจริง แต่ก็คล้ายตัดพ้อพี่ยศนิดๆจะตัดพ้อเรื่องอะไรผมก็ไม่ทราบได้มันโพล่งออกไปโดยที่ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แปลกใจตัวเองเหลือเกิน
"อ้อ เดี๋ยวนี้คิดว่าตัวเองโตแล้วเหรอ ไม่หรอกเป้เป็นน้องสำหรับพี่วันยังค่ำนั่นแหละ พี่ยังมีหน้าที่ต้องดูแลเป้อยู่ดีห้ามเถียง รู้จักซีเนียริตี้ใช่ไหม" พี่ยศพูดอย่างจริงจังแต่ตอนยกซีเนียริตี้มา พี่ยศก็อดยิ้มไม่ได้ลักยิ้มบุ๋มนั้นดูมีเสน่ห์อย่างที่ผมไม่เคยสังเกตมาก่อน พร้อมกันนั้นหัวใจที่เย็นชาของผมเริ่มอบอุ่นขึ้น...

9 w3 T9 _7 M+ h; B# u9 A* q

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
พลังน้ำใจ
79626
Zenny
205823
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:02:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(2) : พี่ยศ
' V4 q: Q: H% r3 {; {8 R* E' t9 |
ในที่สุด ผมก็เลยต้องให้พี่ยศขับรถไปส่งผม บ้านของผมยังอยู่ที่เดิมเหมือนเมื่อสมัยเรียน ซึ่งพี่ยศพอจำได้ลางๆ แต่ถนนหนทางก็เปลี่ยนไปมาก ผมจึงต้องคอยบอกทางให้ ระหว่างทาง เราคุยกันเพิ่มเติม ทำให้ผมรู้ว่าพี่ยศกลับมาอยู่ที่กรุงเทพฯได้ปีเศษๆแล้ว
; V/ v' h  p9 s6 B& x+ d"กิจการก็ให้น้องชายดูแลไป ส่วนพี่ก็แยกตัวมาทำงานเอง อยากอยู่กรุงเทพฯน่ะเป้ อยากให้ลูกได้เรียนในกรุงเทพฯ แต่ก็ไม่อยากส่งลูกมาอยู่โรงเรียนประจำ ทำไงได้ล่ะ ก็ต้องหาทางกลับมาตั้งหลักปักฐานที่กรุงเทพฯใหม่" พี่ยศว่า 0 G1 U% u. z8 G$ k
หัวใจที่เริ่มอบอุ่นของผมกลับเย็นวูบลงไปอีก พี่ยศมีลูกแล้ว เมื่อมีลูกก็ต้องมีเมียแล้วน่ะสิ…
3 N* w" l) y, x  F& v4 a! O"มีข่าวดีตั้งแต่เมื่อไหร่ครับนี่ ผมไม่ได้ข่าวเลย" ผมพยายามพูดด้วยเสียงปกติ
. v+ o0 }4 W7 N"แต่งมา 14 ปีแล้ว หลังจากที่พี่จบได้ 2 ปีก็แต่ง ตอนนี้ลูกอายุได้ 13 ขวบแล้ว กำลังเป็นหนุ่มเชียว" พี่ยศตอบ6 f" w5 E' B' f6 n$ Y4 Y/ }
"แล้วใครเป็นสาวผู้โชคดีครับ" ผมถามไปเรื่อยๆ แม้ว่าจะรู้สึกผิดหวังอยู่บ้างที่พี่ยศมีเจ้าของเสียแล้ว แต่ก็เป็นเพียงอารมณ์ของปุถุชนเท่านั้น ไม่ได้เสียใจหรืออิจฉาแต่อย่างใด เพราะผมเองก็ไม่ได้ติดต่อกับพี่ยศนานมากแล้ว ความสนิทสนมในอดีตคงมีเหลืออยู่ไม่มากนัก "พี่ในคณะหรือเปล่าครับ"
2 }0 l4 U! S! L4 O% a"สาวที่ไหนกัน พ้นวัยสาวไปแล้ว" พี่ยศตอบ "เป็นคนเชียงใหม่น่ะ รู้จักกันหลังจากที่พ่อแม่พี่ย้ายไปที่นั่น" 6 ?" P6 p+ q+ |2 C
หลังจากนั้นเราก็คุยกันในเรื่องทั่วไป ระยะเวลาเพียง 45 นาทีจากคณะมาที่บ้านผม ผมกลับรู้สึกราวกับว่ามันช่วยฟื้นความสนิทสนมระหว่างผมกับพี่ยศให้กลับคืนมาได้อีกหลายปีทีเดียว พี่ยศในปัจจุบันกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีเสน่ห์และมีนิสัยดีน่าคบหาในสายตาของผม
7 q5 F  \" b( @0 q% T"ตรงนี้ละครับ ถึงแล้ว" ผมบอกพี่ยศให้จอดรถเมื่อเห็นพี่ยศจะขับเลยบ้านไป "แถวนี้คงเปลี่ยนไปมากจนพี่จำไม่ได้จริงๆ พี่จะเข้ามาข้างในบ้านก่อนไหมครับ"& x& p% u2 ~( u& G9 J
พี่ยศมองนาฬิกา "ไม่ดีกว่าเป้ ดึกมากแล้ว เดี๋ยวคนในบ้านตื่น รบกวนเปล่าๆ เอาไว้วันหลังพี่ค่อยมาตอนกลางวันก็แล้วกัน"
2 Q7 W! s& d9 A! [3 s"ถือเป็นสัญญานะครับว่าพี่จะมาอีก" ผมถือโอกาสคาดคั้นพี่ยศ ยังนึกแปลกใจตัวเองเหมือนกันที่ทำไมต้องไปเอาจริงเอาจังคำพูดตามมารยาทของพี่ยศขนาดนี้  b1 v( x' l$ r& X3 F$ B
หลังจากวันนั้น จิตใจของผมไม่ค่อยเป็นปกติเท่าไร คอยนึกถึงแต่พี่ยศ รู้สึกดีใจและประทับใจที่ได้พบกันอีก ผมไม่ค่อยแน่ใจตัวเองนักว่าผม 'ชอบ' พี่ยศเข้าให้แล้ว เพราะผมเองยังเข็ดขยาดกับความบอบช้ำที่ได้รับมาจากคนรักเก่า อีกอย่างพี่ยศก็เป็นคนมีลูกมีเมียแล้ว ผมยิ่งไม่ควรเข้าไปข้องเกี่ยว แต่อีกใจหนึ่งผมก็เข้าข้างตัวเองว่าผมคงอยากแสวงหาความอบอุ่นจากผู้ใหญ่ที่สนิทสนมบางคนเพื่อความสบายใจเท่านั้น มันคงเป็นการถวิลหาเพื่อชดเชยความอบอุ่นจากพ่อที่ผมขาดไปในวัยเด็ก ครับ พ่อเลิกกับแม่และไปมีหญิงคนใหม่ มันทำให้แม่เจ็บปวดมาก พ่อเป็นคนเจ้าชู้ มันทำให้ผมทั้งต่อต้านพ่อเพราะพ่อทำร้ายจิตใจแม่ แต่ขณะเดียวกันก็อยากได้ความอบอุ่นจากพ่อเหมือนเด็กคนอื่นๆที่มีพ่อแม่อยู่กันพร้อมหน้า พร้อมกันนั้นผมก็พัฒนาความรู้สึกไม่ชอบผู้หญิงมาตั้งแต่วัยเด็ก เพราะผู้หญิงเป็นคนมาแย่งพ่อไปจากแม่ แต่ผมก็รักแม่แม้แม่จะเป็นผู้หญิงก็ตาม 6 h0 l  [$ V, I9 o& k; \
ตั้งแต่เด็กมาผมโตมาด้วยจิตใจที่สับสน ทั้งต่อต้านพ่อและอยากได้พ่อกลับมา ทั้งไม่ชอบผู้หญิงและก็ทั้งรักแม่ เมื่อผมพบพี่ยศอีกครั้ง ผมแก้ตัวให้แก่ตัวเองถึงความเปลี่ยนแปลงในจิตใจว่าคงเป็นเพราะต้องการ 'เพื่อน' ที่เข้าใจมากกว่า เพราะในอดีตพี่ยศเคยดูแลผมมา แม้จะเป็นช่วงสั้นๆเพียง 1 ปีในมหาวิทยาลัยก็ตาม : z+ B0 g4 ^1 p6 O
หลายวันต่อมา ผมตัดสินใจโทรศัพท์ไปหาพี่ยศที่บ้านในตอนเย็น หลังจากที่พยายามหักห้ามใจไม่ให้โทรไป แต่แล้วผมก็แพ้ใจตนเอง ผมเข้าข้างตัวเองว่าจะเป็นไรไปล่ะ ก็แค่โทรคุยนิดหน่อย ไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ทำไมจะโทรไปหาไม่ได้
3 {6 {: L, {5 C6 x"ฮัลโหล" เสียงแจ้วๆมาตามสาย คงเป็นภรรยาของพี่ยศนั่นเอง ผมใจแป้วเล็กน้อย ใจหนึ่งอยากจะวางหูโทรศัพท์ลงไปเหมือนกัน แต่แล้วในที่สุดผมก็ไม่ได้วางหู "สวัสดีครับ ผมขอสายพี่ยศครับ"
1 P$ \9 ?# E, i% x9 j6 Pสักครู่พี่ยศก็ถูกตามตัวมารับสาย ผมหาเรื่องชวนคุยไปเรื่อย เพียงแค่อยากคุย อยากได้ยินเสียงของพี่ยศเท่านั้นเอง พี่ยศคงจะสงสัยอยู่เหมือนกันว่าผมโทรมาเพื่ออะไรกันแน่ เพราะฟังแล้วไม่มีอะไรเป็นสาระในการคุยเลย1 Y5 q8 P2 l7 C. |. ]' @" U" A# m
"ที่เป้โทรมานี่มีอะไรพิเศษหรือเปล่า มีอะไรให้พี่ช่วยไหม" พี่ยศคงอยากรู้เต็มทีว่าผมมีวัตถุประสงค์อะไรกันแน่ ทั้งๆที่แม้แต่ผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่าผมโทรไปเพื่ออะไร แต่แล้วผมก็ฉุกคิดประเด็นขึ้นมาได้ "ก็ที่พี่รับปากไว้ไงครับ ผมโทรมาทวงสัญญา พี่คงลืมแล้วมั้ง" * x' E/ \$ t* V
"อ๋อ" พี่ยศหัวเราะ "นึกว่าอะไร นี่เราเอาจริงเหรอ" พี่ยศถาม ผมอึ้งไปหน่อย จริงๆแล้วใครๆก็รู้ว่าการคุยในตอนนั้นมันเป็นตามมารยาทเท่านั้น นึกไม่ออกว่าจะพูดอะไรต่อดี ก็พอดีพี่ยศช่วยหาทางออกให้ เห็นไหมครับว่าพี่ยศยังเป็นพี่ที่ดีของผมเสมอ "เอายังงี้ เรานัดไปกินข้าวกันสักมื้อดีไหม จะได้คุยเรื่องเก่าๆกัน"  l0 }; Z' s# a# N
ผมตอบรับด้วยความยินดี ตกลงนัดกันตอนเย็นวันรุ่งขึ้นหลังเลิกงาน ที่ห้องอาหารแห่งหนึ่ง ใจหนึ่งของผม… คงเป็นส่วนดีของจิตใจ… พยายามบอกว่าผมไม่ควรไป และไม่ควรเดินไปให้ไกลกว่านี้ด้วย แต่…อีกใจหนึ่ง…บอกผมว่า ไปเถอะ แค่นี้จะเป็นไรไป … 1 |; S- y$ A6 N* R$ l, L; k
เย็นวันนั้นเป็นวันที่ผมมีความสุขมาก ได้รับประทานอาหารมื้อเย็นกับอดีตพี่รหัส … ผมฟังพี่ยศเล่าถึงประสบการณ์ในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมา หลังจากที่พี่ยศจบจากคณะก็ย้ายไปอยู่ที่เชียงใหม่พร้อมกับครอบครัวเพื่อตั้งรกรากและทำธุรกิจก่อสร้างที่นั่น โดยพี่ยศเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงช่วยพ่อดำเนินกิจการ ที่บ้านของพี่ยศเป็นครอบครัวชาวจีน พ่อแม่ของพี่ยศยังนิยมวิธีแต่งงานแบบกึ่งคลุมถุงชนอยู่ คือมีแม่สื่อมาแนะนำหญิงสาวให้รู้จักกัน เพื่อให้หนุ่มสาวได้สานความสัมพันธ์กันต่อไป ก็คงดีกว่าการคลุมถุงชนในสมัยก่อน ที่จับแต่งงานกันเลยตามความพอใจของพ่อแม่ แต่นี่ยังทอดเวลาให้ทั้งคู่สร้างความสัมพันธ์กันบ้าง แต่ผลสุดท้ายก็คงลงเอยไม่ต่างกันนัก อยู่แต่ว่าช้าหรือเร็วเท่านั้น
" W/ b% u% R+ u' w3 V6 yพี่ยศแต่งงานด้วยวิธีนี้ ผมมองหน้าพี่ยศซึ่งนั่งอยู่ตรงข้ามบนโต๊ะอาหารสี่เหลี่ยมราวกับจะค้นหาความจริงอะไรบางอย่าง แต่… ผมไม่พบอะไรเลย9 I  V4 Y( d! g
"เป้จ้องหน้าพี่ทำไม" ถามยิ้มๆ "มีอะไรงอกที่หน้าพี่เหรอ" 6 D! R2 ]. J. B3 u, Z
"ไม่มีหรอกครับ" ผมตอบ "อยากจะดูชัดๆว่าพี่เปลี่ยนไปแค่ไหนเท่านั้นเอง"
# [' j) D- ?; _"แล้วเปลี่ยนไปแค่ไหนล่ะ" พี่ยศจ้องหน้าจะเอาคำตอบจากผม จนผมต้องหลบสายตา "ก็มีทั้งที่เปลี่ยนและไม่เปลี่ยนครับ พี่ดูภูมิฐานขึ้น แต่นิสัยก็ยังคงเหมือนเดิม…น่ารักเหมือนเดิมครับ" ผมหลุดปากคำว่า 'น่ารัก' ออกไป 0 R1 y: y* W. E/ a0 W# V
พี่ยศถอนใจ "เวลาไม่คอยใครเลยนะเป้ พี่รู้ตัวว่าเปลี่ยนไปมาก บางทีก็ยังอยากกลับไปอยู่ในวันเวลาเก่าๆเหมือนกัน การได้เจอเป้ทำให้พี่รู้สึกมีความสุข เหมือนกับว่าได้ย้อนกลับไปในวันเก่าๆ แม้มันจะไม่เป็นความจริงก็ตาม แต่มันก็ยังเป็นความรู้สึกที่ดี"
1 O  x. y, L# g7 e# r# o6 c6 h"ว่ากันว่าคนที่คิดถึงความสุขในอดีตแสดงว่าปัจจุบันมีความทุกข์ แต่เท่าที่ดูพี่ก็สมบูรณ์พร้อมนี่ครับ มีฐานะ มีครอบครัว งานก็ดี …"
" l3 c' G5 h" q' W: V8 i"มันก็ไม่เชิงหรอก" พี่ยศพูดขัดขึ้น ผมชักจะเห็นอะไรรำไรอยู่ในสีหน้าของพี่ยศ แต่แล้วพี่ยศก็เปลี่ยนไปชวนคุยเรื่องอื่น ทำให้เบาะแสในสีหน้านั้นขาดลง2 p; w3 x1 j% O6 B# o3 J6 [
วันนั้นเราคุยกันอยู่หลายชั่วโมงทีเดียว เป็นอาหารเย็นที่ใช้เวลานานมาก แต่ผมกลับรู้สึกว่าเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ยิ่งคุยกับพี่ยศก็ยิ่งมีความสุข ผมรู้สึกตัวว่ากลับไปเป็นนักศึกษาอีกครั้ง พี่ยศเองก็คงมีความรู้สึกนี้เช่นเดียวกัน
6 Z2 E# @2 I) K/ O6 fหลังจากนั้นเราก็เริ่มติดต่อกันอีกครั้งหนึ่ง ผมโทรไปหาพี่ยศบ้าง พี่ยศโทรมาหาผมบ้าง เราคุยเล่นกันอย่างสนุกสนาน บางทีก็นัดกันไปกินข้าวเที่ยง ส่วนข้าวเย็นนั้นพี่ยศขอร้องว่าอยากกลับไปกินที่บ้านเพราะจะได้มีเวลาอยู่กับลูกๆด้วย ซึ่งผมก็เข้าใจ ความสนิทสนมและเป็นกันเองค่อยๆกลับคืนมาคล้ายเมื่อครั้งที่เรายังเป็นพี่รหัสน้องรหัสกันอยู่ 4 g+ T! K% ^* E6 g
บางครั้งก่อนผมเข้านอน ผมจะสำรวจชีวิตของตนเองโดยนึกทบทวนเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไป การสำรวจชีวิตทำให้ผมพบความจริงว่าความสนิทสนมที่ผมมีให้แก่พี่ยศมันเริ่มไม่ธรรมดาเสียแล้ว วัยสามสิบกว่าอย่างผมไม่ใช่วัยที่ 'ติดเพื่อน' อีกแล้ว แต่นี่ผมกลับรู้สึก 'ติดพี่' นี่แหละที่ทำให้ผมต้องเริ่มตั้งสติและสำรวจใจของตนเองอย่างละเอียด
! r0 D. v$ }& B1 I- r2 Pแม้ผมจะรู้สึกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นในใจของตนเอง แต่ทางด้านพี่ยศแล้วผมยังไม่เห็นอะไร พี่ยศยังคงวางตัวดี ไม่ได้แสดงอาการว่า 'ชอบ' ผมในเชิงนั้นแม้แต่น้อยแม้ว่าเดี๋ยวนี้เราจะสนิทกันมากขึ้นก็ตาม ก็จะไปชอบได้อย่างไรล่ะในเมื่อพี่ยศเป็นผู้ชายแท้ๆ ทั้งยังมีครอบครัวแล้วด้วย + ?/ R/ p% S& s$ g) X& ~. {
ก็ดีไปอย่าง ผมนึกในใจ ลูกเมียของพี่ยศจะได้เป็นกำแพงกั้นระหว่างผมกับพี่ยศไม่ให้เกินเลยขอบเขต ถ้าไม่มีกำแพงนี้อยู่ผมก็อาจควบคุมใจตนเองไม่ได้เหมือนกัน แต่เมื่อมีกำแพงนี้ ผมก็ยอมรับมัน ตอนนี้ผมขอเพียงแค่เสพความอบอุ่น ความสนิทสนม เท่าที่เพื่อนหรือพี่จะให้ได้อย่างมีขอบเขต … ผมขอเท่านั้นก็พอแล้ว
* n8 }* J' N+ c2 v6 N( Y9 p"เป้ วันนี้มากินข้าวเย็นที่บ้านพี่ไหม เป้ยังไม่รู้จักพี่ป้อมเลยนะ" จู่ๆพี่ยศก็โทรมาหาผมในเช้าวันเสาร์วันหนึ่ง อยากชวนผมไปกินข้าวที่บ้านเพื่อไปรู้จักกับครอบครัวของแก ผมรู้สึกแปลกใจเพราะเป็นคำเชิญที่ผมไม่คาดคิด ผมลังเลเล็กน้อย เพราะยังรู้สึกตะขิดตะขวงกับการไปพบหน้าคนในครอบครัวของพี่ยศ ถ้าเป็นไปได้ผมไม่อยากรู้จักหรอกครับ
; p% a; M# B) i# s. S"มาเถอะน่า ป้อมเค้าทำอาหารเก่งนะจะบอกให้" พี่ยศคะยั้นคะยอ ในที่สุดผมก็ตอบรับคำเชิญ ; a6 v; o' d1 a8 @" d  K

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
พลังน้ำใจ
79626
Zenny
205823
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:03:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(3) : อุบัติเหตุ
3 d1 e) C- O! G+ v6 R# n/ Y/ G9 _+ c4 w& N
หลังจากนั้นผมก็ได้มีโอกาสไปเยี่ยมพี่ยศที่บ้าน และร่วมรับประทานอาหารกับครอบครัวของพี่ยศ ภรรยาของพี่ยศ พี่ป้อม เป็นคนที่เงียบๆ ไม่ค่อยโอภาปราศรัยนัก ผมเลยยังดูแกไม่ออกว่าเป็นคนอย่างไร แต่ลูกชายของพี่ยศน่ารักมาก มี 2 คน คนโตอายุ 13 กำลังเป็นหนุ่ม หน้าตาหล่อเชียว คล้ายพี่ยศสมัยเรียนมาก คุยเก่ง เข้ากับผู้ใหญ่ได้ดี ท่าทางจะโตเกินวัย หรือจะเรียกว่าค่อนข้างแก่แดดก็พอได้ ชื่อโต ส่วนอีกคนอายุ 10 ขวบ เจ้าเนื้อ ออกไปทางแม่มากกว่า ชื่อเล็ก
, j6 K, [, O) n2 {ครอบครัวของพี่ยศเท่าที่ดูก็มีความสุขดี ลูกๆก็น่ารัก โดยเฉพาะผมเข้ากับโตได้ดีทีเดียว หลังจากนั้นผมก็มาเที่ยวที่บ้านพี่ยศอีกเป็นบางครั้ง บางครั้งโตก็เอาการบ้านมาถามผม ซึ่งผมก็ช่วยได้บ้าง ช่วยไม่ได้บ้าง ทำเท่าที่พอจะจำได้ แต่โตเริ่มรู้สึกชอบ เลยขอให้ผมช่วยมาติววิชาเรียนให้แก
# [) L- ^3 f( j" G% sผมก็ชอบสิครับ เพราะอยากมาหาพี่ยศที่บ้านบ่อยๆ อยู่เหมือนกัน ยอมรับว่าเมื่อยู่ใกล้พี่ยศแล้วรู้สึกอบอุ่นใจ แม้จะรู้สึกตะขิดตะขวางใจอยู่กับพี่ป้อมอยู่บ้างก็ตามเพราะถึงอย่างไรทั้งคู่ก็เป็นสามีภรรยากัน การที่ผมมาแอบชอบพี่ยศนั้นออกจะไม่สมควร เพราะถึงชอบไปก็ทำอะไรไม่ได้ รังแต่จะสร้างความปวดร้าวใจแก่ตัวเองภายหลังเปล่าๆ แต่มันก็เหมือนกับแมงเม่ากับกองไฟ รู้ทั้งรู้ว่าไฟร้อนและอันตราย แต่ก็ยังอดเข้าไปไม่ได้ ผมก็เช่นเดียวกัน
+ c3 w& I1 ]7 N5 X% Hผมหาข้ออ้างให้แก่ตัวเองว่า แค่เราหาความสุขเล็กๆน้อยๆโดยการแอบชื่นชมคนที่เราพอใจ แล้วจะเป็นอะไรไป ผมไม่ได้ตั้งใจที่จะแย่งพี่ยศมาครอบครองเลย เพียงแค่อยากหาความสุขในใจเท่านั้นเอง
7 R( a% K3 a( u8 ~7 M" S4 ^; b6 cตกลงผมเลยอาสาว่าจะมาติววิชาให้โตทุกวันเสาร์บ่าย พี่ยศเกรงใจผมมาก ตอนแรกไม่ยอม เพราะรู้ว่าผมทำงานก็เหนื่อยแล้ว แต่ผมก็ยืนกรานว่าไม่เป็นไร ผมยินดี ต่อมาพี่ยศเลยบอกว่าจะให้ค่าเหนื่อยผม ผมก็ปฏิเสธไม่รับ เพราะผมไม่ได้หวังเงินทองจากพี่ยศ พี่ยศเลยไม่อนุญาตให้โตเรียนกับผมเพราะเกรงใจผม ตั้งใจว่าจะส่งให้โตไปเรียนพิเศษแทน ในที่สุดผมก็เลยยอมรับค่าตอบแทนเพื่อแลกกับการให้ได้มาสอนพิเศษให้โต 3 R8 x  p; f2 }) d% e* n8 C: l
ผมกับโตเข้ากันได้ดีทีเดียว ซึ่งนั่นเป็นช่องทางที่ดีที่จะทำให้ผมเข้ากับคนอื่นๆในครอบครัวพี่ยศได้ดีไปด้วยในเวลาต่อมา หลายเดือนผ่านไป ผมตั้งใจติวให้โตเป็นอย่างดี ไม่ได้คิดเพียงเพื่อเอามาเป็นข้ออ้างบังหน้า โตมีผลการเรียนที่ดีขึ้น ในที่สุด ผมก็เลยคล้ายเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ไปโดยปริยาย โดยวันเสาร์บ่ายจะเป็นวันที่ผมไม่ยอมนัดกับใคร เพราะผมมีนัดที่บ้านพี่ยศเสียแล้ว
" t1 t* X6 W/ ^' }2 |' g" s0 h1 yบางครั้ง เมื่อว่างจากการสอนพิเศษ บางทีผมก็อาสาพาโตกับเล็กไปเดินเที่ยวห้างบ้าง หรือบางครั้งเมื่อพี่ยศจะออกไปซื้อของ ผมก็ขอติดรถไปห้างด้วย (ระยะหลังผมไม่ค่อยได้ขับรถไปสอนพิเศษ เพราะจะได้มีข้ออ้างติดรถไปกับพี่ยศได้) บางครั้งพี่ป้อมไปด้วย แต่บางครั้งผมก็ไปกับพี่ยศสองต่อสอง
, o& i7 q5 o* Lผมสนิทกับพี่ยศมากขึ้นทุกวัน รู้สึกอบอุ่นและเป็นสุขทุกครั้งที่ได้ไปเดินซื้อของกับพี่ยศสองต่อสอง ความสนิทของผมเป็นความสนิทสนมที่พี่ป้อมไม่ทันได้ระแวง เพราะผมเข้านอกออกในบ้านพี่ยศอย่างเปิดเผย รวมทั้งเวลาอยู่ในบ้านผมก็พยายามวางตัวไม่ให้สนิทสนมกับพี่ยศจนเกินขอบเขต ส่วนตอนที่เราไปไหนมาไหนด้วยกันสองคนนั้นเราจะเดินไป คุยไป อย่างสนุกสนานและเป็นกันเอง ผมมีความรู้สึกลึกๆ ซึ่งไม่รู้ว่าเข้าข้างตัวเองหรือเปล่า ว่าพี่ยศก็ดูจะมีใจให้ผมบ้างเหมือนกัน) x% A% u* o+ h0 R' ?
นานวันเข้า ผมก็หายใจเข้าออกเป็นพี่ยศ แผลใจของเมื่อ 3 ปีที่แล้วได้รับการเยียวยาจากพี่ยศจนหายสนิท ตอนนี้ผมหลงพี่ยศอย่างถอนตัวไม่ขึ้นเสียแล้ว แม้ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจะคอยเตือนผมว่านี่มันเลยขอบเขตอันควรมาไกลแล้ว แต่ผมก็ไม่สนใจ ผมมักอ้างกับตัวเองเสมอว่านี่เป็นเพียงแค่ความสุขทางใจของผมเท่านั้น เพราะผมกับพี่ยศยังไม่มีอะไรกันทางร่างกาย รวมทั้งพี่ยศเองก็ยังไม่เคยแสดงออกว่าชอบผมด้วย เพียงแค่สนิทกันเท่านั้น แล้วอย่างนี้จะเป็นไรไป& G1 [( n! K0 |/ u/ ]) U
แม้ผมรู้ว่าผมกำลังหลอกตัวเอง แต่ผมก็ยินดีที่จะหลอกตัวเอง ช่วงนั้นเหมือนกับว่าผมขาดพี่ยศไม่ได้เลย ผมโทรไปหาพี่ยศทุกวันที่ที่ทำงาน ที่โทรไปที่ที่ทำงานเพราะไม่ต้องการให้พี่ป้อมรู้ คุยกันวันละนิดวันละหน่อย แต่บางวันก็คุยกันนาน วันไหนหากไม่ได้ยินเสียงพี่ยศผมจะหงุดหงิดใจมาก บางทีถึงกับทำงานไม่รู้เรื่อง
! m2 n6 y% c% J# K! Jและที่น่าแปลกคือ บางวันที่ผมติดประชุมและไม่สามารถโทรไปหาพี่ยศได้ เมื่อผมเลิกประชุม ผมกลับพบว่าที่โทรศัพท์มือถือของผมมีหมายเลขของพี่ยศค้างอยู่ นั่นแสดงว่าพี่ยศก็รู้สึกว่าอยากคุยกับผมทุกวันเหมือนกัน ความจริงข้อนี้ทำให้ผมค้นพบว่าพี่ยศก็เริ่มมีใจผูกพันกับผมแล้ว ซึ่งที่จริงผมก็รู้สึกมานานพอสมควรแล้วเหมือนกัน แต่พี่ยศมักไม่แสดงอะไรออกมาให้เห็นอย่างชัดแจ้ง ผมจึงไม่ค่อยแน่ใจเท่าใดนัก
; S  x* X4 h3 I& ^: bความจริงข้อต่อมาที่ผมสังเกตได้ก็คือ ระยะหลังพี่ยศมักหาโอกาสที่จะไปเดินเที่ยวห้างกับผมบ่อยๆ บ่อยกว่าที่จะไปกับพี่ป้อมเสียอีก โดยบางครั้งก็มีโตกับเล็กติดไปด้วย ส่วนพี่ป้อมอยู่เฝ้าบ้าน
6 \$ k% s- N5 g# f2 @$ T5 b"เป้ หยุดได้แล้ว" ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของผมเตือนตัวเองในใจเสมอ "เรื่องอะไรจะหยุด มาถึงขั้นนี้แล้ว" ใจใฝ่ต่ำของผมตอบ
  d8 a- d% a# c: c"ไหนว่าจะหาความสุขทางใจเท่านั้นไง นี่มันเกือบจะถอนตัวไม่ขึ้นแล้วนะ" ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของผมเตือนอีก "ก็เรายังไม่มีอะไรกันนี่นา แล้วก็จะไม่มีอะไรกันด้วย แล้วจะต้องไปถอนตัวทำไม" ใจใฝ่ต่ำของผมยังปากแข็ง
$ q3 z! b1 K9 T2 ^  q. e+ L2 Pเย็นวันหนึ่ง ขณะที่ผมเลิกงานและกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ภายในบ้าน วันนั้นเป็นวันที่ผมรู้สึกผิดปกติ จิตใจไม่สบายมาตั้งแต่ตอนกลางวันแล้ว 0 A0 q6 P9 d3 R2 ]
จนเย็นแล้ว แม่ก็ยังไม่กลับบ้าน ผมรู้สึกแปลกใจ เพราะวันไหนหากแม่ไปจ่ายตลาดก็มักกลับไม่เกินบ่าย 4 โมง จากนั้นก็จะเข้าครัวทำกับข้าวเล็กๆน้อยๆกินกัน 2 แม่ลูก ตั้งแต่พ่อแยกทางไป แม่ก็กัดฟันเลี้ยงดูส่งเสียผมมาตลอดโดยไม่ยอมมีพ่อใหม่เพราะกลัวว่าผมจะเข้ากับพ่อเลี้ยงไม่ได้ นี่จึงทำให้ผมรักแม่มาก เราสองคนฝากชีวิตแก่กันและกันมาตลอด( R( u) v" a* C6 x  Y
แต่นี่ 6 โมงเย็นแล้วก็ยังไม่เห็นวี่แววของแม่เลย …
6 H$ X1 O  m9 }% e6 โมงครึ่ง เสียงกริ่งโทรศัพท์ดังขึ้น ผมรีบไปรับสาย แม่โทรมาแน่ๆ% J* L8 ^5 Y0 J* @/ g& m  j8 g' A
"ฮัลโหล บ้านคุณ…ใช่ไหมคะ" เสียงนั้นเอ่ยชื่อผม "ใช่ครับ" ผมตอบ ใจหายที่ไม่ใช่แม่ เงาทมึนแห่งความกลัวครอบคลุมจิตใจของผมอย่างรวดเร็ว ผมเริ่มสังหรณ์ใจว่าจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้น "คุณเป็นอะไรกับคุณ … หรือคะ" เสียงนั้นเอ่ยชื่อแม่ของผม "เป็นแม่ครับ" ผมตอบเสียงสั่น+ z$ n! {6 [  e0 Z, W; v
"ดิฉันโทรจากโรงพยาบาล … นะคะ คุณแม่ของคุณได้รับอุบัติเหตุค่ะ ตอนนี้อยู่ในห้องไอซียู เราพบนามบัตรของคุณในกระเป๋าถือของคนไข้ เลยโทรมาแจ้งให้ทราบค่ะ" ผมใจหายวาบ โทรศัพท์ที่ถืออยู่แถบหลุดจากมือ มันเป็นเหตุร้ายครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม "ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้ครับ" ผมตอบ
% {& o7 C" |) L" C7 yผมรีบเดินทางไปโรงพยาบาลทันที ตอนนั้นจิตใจผมไม่อยู่กับตัว ผมไม่กล้าขับรถเพราะคิดว่าผมไม่อยู่ในภาวะที่จะขับรถได้ในตอนนั้น จึงเรียกแท็กซี่ไปส่งที่โรงพยาบาล
0 O/ ^4 f! [& A0 Z1 qเมื่อไปถึงที่โรงพยาบาล ผมจึงทราบจากพยาบาลที่ดูแลแม่ว่า แม่ถูกนำมาส่งที่โรงพยาบาลเนื่องจากถูกรถชนขณะข้ามถนน มีพลเมืองดีนำมาส่งที่โรงพยาบาลพร้อมทั้งฝากหมายเลขทะเบียนรถที่ชนไว้ให้ด้วย อาการของแม่หนักมาก ศีรษะกระแทกพื้น มีเลือดออกในสมอง จนบัดนี้ก็ยังไม่ฟื้น
' G  `- c! x2 Cสมองผมตื้อไปหมด คิดอะไรไม่ออก แม้ผมจะมีอายุล่วงเข้าวัยเลขสามแล้ว แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ผมก็ยากที่จะจัดการได้ เหตุร้ายที่เกิดขึ้นกับแม่ที่ผมรักมากที่สุดทำให้ผมสูญเสียความเยือกเย็นและความสามารถในการตัดสินใจเกือบทั้งหมดไป ผมต้องการที่พึ่งในยามหน้าสิ่วหน้าขวานนี้สักคน9 L* T9 a" q/ P8 W/ E2 i4 d
พี่ยศ! ชื่อนี้วูบเข้ามาในใจผม ใช่แล้ว พี่ยศต้องช่วยผมได้แน่ อย่างน้อยก็ทำให้ผมไม่รู้สึกเดียวดายเหมือนอยู่คนเดียวในโลก ตอนนั้นเป็นเวลา 2 ทุ่มแล้ว เมื่อผมนึกได้ก็รีบโทรหาพี่ยศทันที' x0 F3 y- z( W) r
พี่ยศรับทราบเรื่องแล้วก็รีบเดินทางมาที่โรงพยาบาลในทันทีทั้งๆที่ยังกินอาหารเย็นค้างอยู่ ผมรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมา เมื่อได้พบกับพี่ยศ มันเหมือนกับคนเรือแตกที่เกาะเกี่ยวขอนไม้ในทะเลไว้ได้
4 I% ^( F& y+ a. Tพี่ยศรีบสอบถามอาการของแม่จากผมและอยู่เป็นเพื่อนผม จนเกือบเที่ยงคืน แม่ก็ยังไม่รู้สึกตัว หมอแนะนำให้ผมกลับไปพักผ่อนก่อนแล้วพรุ่งนี้ค่อยมาใหม่ เพราะอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร
6 G# e# D$ A; a: B( tเที่ยงคืนแล้ว พี่ยศพาผมไปส่งที่บ้าน จากนั้นเตรียมตัวจะกลับ แต่แล้วพี่ยศก็หยุดชงักแล้วมองหน้าผม. R% D# ?4 U4 Y, V
"เป้ อยู่คนเดียวได้นะ" พี่ยศถามอย่างเป็นห่วง "ได้ครับพี่ ไม่ต้องเป็นห่วง" ผมตอบ
1 L0 P& u4 ?% @9 k- q"พักผ่อนเสียนะ พรุ่งนี้ยังต้องยุ่งอีก" พี่ยศกำชับ ผมรู้สึกอบอุ่นใจ "คงนอนไม่หลับหรอกครับ ผมเป็นห่วงแม่ กลัวเหลือเกินว่าแม่จะเป็นอะไรไป" ว่าแล้วผมก็กลั้นสะอื้นไม่อยู่ แม้พยายามกลั้นอย่างสุดความสามารถ ลูกผู้ชายจะร้องไห้ง่ายๆได้อย่างไร โดยเฉพาะต่อหน้าคนอื่น3 p  z( O) Q* I: ^6 J
แต่แล้วผมก็กลั้นไม่อยู่ จากสะอื้นกลายเป็นปล่อยโฮออกมา ผมร้องไห้อย่างไม่อายพี่ยศเลย ตอนนั้นผมใจเสียมากเพราะรู้จากหมอว่าอาการของแม่นั้นหนักมาก หนักจนอาจไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าแม่อีก จะมีโอกาสก็ต้องเกิดปาฏิหาริย์เท่านั้น นี่ถ้าพี่ยศไม่อยู่ผมอาจไม่ร้องไห้ออกมาก็ได้ แต่การที่พี่ยศอยู่ทำให้ผมรู้สึกเหมือนกับว่าความทุกข์ของผมยังมีพี่ชายอีกคนหนึ่งที่คอยช่วยแบ่งเบา
3 `! ?) \/ |1 Yพี่ยศรีบเข้ามาปลอบผมทันที "เป้ ใจเย็นๆนะ อย่าเพิ่งตีตนไปก่อนไข้ เอายังงี้ คืนนี้พี่อยู่เป็นเพื่อนเป้เอาไหม" พี่ยศอาสา เป็นอันว่าคืนนั้นพี่ยศก็นอนค้างที่บ้านผมเพื่ออยู่เป็นเพื่อนผม โดยโทรศัพท์ไปบอกพี่ป้อมไว้
" @$ o9 w; t! ]/ R- k6 O8 N( O

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
พลังน้ำใจ
79626
Zenny
205823
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:04:34 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(4) : ความสูญเสีย
. a$ M2 s: S: k
. B6 |. m5 _' d6 U6 J7 H' bเนื่องจากปกติที่บ้านของผมอยู่กันเพียง 2 คน ดังนั้นห้องที่สามารถใช้นอนได้จึงมีเพียง 2 ห้อง คือ ห้องแม่และห้องผม ส่วนห้องอื่นๆก็เอาไว้เก็บของบ้าง ถูกทิ้งไว้จนฝุ่นเกาะบ้าง ไม่สามารถใช้นอนได้ ผมจึงให้พี่ยศนอนในห้องของผม ส่วนผมไปนอนในห้องแม่แทน
. b  i( r  ]& m3 P& D  Mแม้จะเหน็ดเหนื่อย แต่ผมก็กลุ้มใจจนนอนไม่หลับ พลิกไปมากระสับกระส่ายอยู่เป็นนานก็ไม่หลับ จึงคิดว่าถ้าอย่างนั้นลองฟังเพลงผ่อนคลายอารมณ์สักพักเผื่อว่าจะทำให้หลับได้ เพราะถึงอย่างไรผมก็ควรพักผ่อนเอาไว้เพื่อให้มีแรงผจญกับเรื่องยุ่งในวันรุ่งขึ้น2 u6 a) e; P& h) c
ผมเดินออกจากห้องนอนแม่เพื่อเข้าไปเอาวิทยุในห้องนอนของผม หวังว่าพี่ยศคงไม่ได้ล็อกห้อง ผมจะได้เข้าไปหยิบได้โดยสะดวก
) Z) m6 _, o$ ]โชคดีที่พี่ยศไม่ได้ล็อกห้อง ผมจึงเดินเข้าไปเปิดไฟดวงเล็กที่โต๊ะทำงาน และหยิบวิทยุอย่างเงียบกริบ เพราะเกรงว่าพี่ยศจะตื่น + x9 D  }1 k' c) m# X
ขณะหยิบวิทยุ สายตาของผมก็อดมองพี่ยศที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่บนเตียงผมไม่ได้ แสงสลัวจากไฟดวงเล็กขับเน้นยิ่งทำให้พี่ยศดูน่ารักยิ่งขึ้น ผมใช้สายตากวาดดูพี่ยศมาตั้งแต่ดวงหน้าอันงดงาม เรือนร่างอันสมส่วนและแข็งแรง และไปหยุดที่เป้ากางเกงนอนตัวบาง มันตุงขึ้นมาอย่างผิดสังเกต มังกรของพี่ยศคงกำลังชูชันอยู่ภายใน ผมมองพี่ยศด้วยความชื่นชมสักครู่แล้วก็ออกมาอย่างเงียบๆ
# |2 q! p" J3 S0 a# z6 \ผมนอนไม่หลับจนกระทั่งเช้า หลังจากอาบน้ำแต่งตัวก็เตรียมจะไปที่โรงพยาบาล พี่ยศเห็นท่าทางผมอิดโรยมากจึงอาสาไปส่งผมเช่นเคย ซึ่งคราวนี้ผมก็ไม่ปฏิเสธเพราะนึกอยากได้ใครสักคนไปเป็นเพื่อนด้วยจริงๆ ตอนบ่าย พวกญาติๆซึ่งมีกันไม่มากก็ทยอยกันมาเยี่ยม และหลังจากนั้นก็มาอีกเป็นครั้งคราว ตามแต่ใครจะสะดวก ซึ่งญาติก็มากันไม่มากนักเพราะถึงมาก็เข้าไปเยี่ยมแม่ไม่สะดวกเพราะแม่ไม่รู้สึกตัวอยู่ในห้องไอซียู ส่วนพี่ยศนั้นหลังจากวันแรกแล้ววันต่อๆมาก็มักจะมาในตอนเย็นและอยู่เป็นเพื่อนผมจนกระทั่งดึก
! P$ Q1 ?# u: }' ]4 zหลังจากที่แม่เข้ารักษาอยู่ในโรงพยาบาลได้ 5 วัน เช้าวันหนึ่ง แม่ก็จากผมไปอย่างไม่มีวันกลับ แม่ไม่ได้ฟื้นขึ้นมาอีกเลยหลังจากเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นผมจึงไม่มีโอกาสแม้แต่จะร่ำลาแม่เป็นครั้งสุดท้าย แม่เสียชีวิตอย่างเดียวดายในห้องไอซียูตอนเช้ามืด ก่อนที่ผมจะมาถึงเล็กน้อย ดังนั้นครั้งสุดท้ายที่ผมได้อยู่กับแม่สองต่อสองก็เป็นตอนที่แม่จากโลกนี้ไปแล้ว ผมพยายามกลั้นสะอื้นไว้แต่ก้อนสะอื้นนั้นมันใหญ่เกินกว่าผมจะกลั้นไว้ได้ ในที่สุดผมก็ร้องไห้ออกมาเหมือนเด็กๆ นึกถึงความหลังที่ผ่านมาแล้วก็สงสารแม่ แม่มักเดียวดายเสมอ หลังจากที่พ่อจากไป แม่ก็กลายเป็นคนเงียบขรึม กลางวันแม่จะอยู่ที่บ้านคนเดียวเสมอเนื่องจากผมต้องไปเรียนหรือไปทำงาน
6 b& Y) ~* a' f9 bพยาบาลแจ้งให้ผมทราบว่าผมควรรีบแต่งตัวแม่โดยเร็ว เพราะถ้าทิ้งไว้นานจะแต่งตัวยากเนื่องจากร่างกายจะเริ่มแข็งเกร็ง พร้อมทั้งทิ้งให้ผมอยู่กับแม่เพียงลำพังเพื่อจัดการแต่งตัวแม่ ผมนั่งนิ่งอยู่ข้างเตียงของแม่ ตอนนี้ผมงงไปหมด คิดอะไรไม่ออกเลย เรื่องต่างๆประดังเข้ามาในสมอง ไหนจะต้องจัดการเรื่องหลังของแม่ ไหนจะเรื่องการดำเนินคดีกับคนขับรถใจทรามที่ชนแม่แล้วหนีไป ไหนจะห่วงพะวงเรื่องงาน เรื่องบ้าน มันสับสนไปหมด…! p  |# Z2 J: T$ l2 ?1 Y' @8 O
ขณะที่ผมกำลังนั่งสะอื้นอยู่นั้นเอง ผมก็รู้สึกว่ามีมือมาตบที่ไหล่ของผมเบาๆ ผมหันกลับไปดู พี่ยศนั่นเอง…
7 p5 ^( L5 _" L% hไม่รู้ว่าพี่ยศมาตั้งแต่เมื่อไร แต่ช่างโชคดีเหลือเกินที่วันนี้พี่ยศแวะมาตอนเช้า พอผมเห็นพี่ยศเท่านั้น น้ำตาลูกผู้ชายที่ผมพยายามกลั้นเอาไว้ก็หลั่งออกมาอีก ผมโถมเข้าไปกอดพี่ยศพร้อมทั้งปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อาย . N  X! P1 @+ v, D7 T( M  i) n
พี่ยศสวมกอดผมไว้ เอามือตบหลังผมเบาๆ ช่วงนั้นเองที่ผมได้รับรู้ถึงความอบอุ่นจากร่างกายอันแข็งแกร่งของพี่ยศ มันเป็นความอบอุ่นคล้ายกับที่พ่อเคยมีให้แก่ผมเมื่อนานมาแล้ว
. k  x/ Q' T1 ]' L0 d2 C; z9 Uพี่ยศกอดผมไว้สักครู่ก็ผละออก แล้วเตือนให้ผมได้สติเพื่อจัดการเรื่องต่างๆให้เรียบร้อย ส่วนตัวพี่ยศเองก็บอกว่าวันนี้จะไม่ไปทำงานแต่จะอยู่ช่วยผม รวมจนถึงพรุ่งนี้ด้วยถ้าจำเป็น, b# O; T: \- }% Z4 L
ผมรีบจัดการแต่งตัวให้แม่ แต่งไปน้ำตาก็คลอเบ้าไป จำได้ว่าเด็กๆแม่เป็นคนแต่งตัวให้ผมไปโรงเรียน ต้องเคี่ยวเข็ญกันตั้งนานกว่าจะแต่งตัวเสร็จ แต่ผมไม่นึกเลยว่าจะมีโอกาสได้แต่งตัวให้แม่บ้างในสภาพการณ์เช่นนี้ ส่วนพี่ยศก็รีบจัดการติดต่อวัดเพื่อจัดงานศพให้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องที่ผมไม่มีความรู้หรือประสบการณ์เลย นี่ถ้าไม่ได้พี่ยศเรื่องราวต่างๆคงไม่เรียบร้อยโดยง่ายขนาดนี้
3 G/ r# b2 q5 z: b' w9 z% jในช่วงบ่าย เรื่องวัดก็เรียบร้อย ผมจึงโทรไปแจ้งญาติๆถึงกำหนดการเกี่ยวกับงานศพซึ่งเป็นงานศพที่เรียบง่าย เพราะบ้านของเราไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร ไม่มีคนรู้จักหรือนับหน้าถือตา คงมีแต่เพื่อนฝูงของแม่ ของผม และญาติๆข้างแม่เท่านั้น แต่ในบรรดาญาติทั้งหลาย มีอยู่คนเดียวที่ผมไม่ได้แจ้งข่าวเกี่ยวกับเรื่องของแม่ คนๆนั้นก็คือพ่อ! ผมไม่ต้องการให้พ่อรู้และมางานเพราะผมคิดว่าพ่อต้องรับผิดชอบต่อการตายของแม่ด้วย แม้มันจะเหมือนกับความคิดของเด็กๆที่พาลไปโทษพ่อ แต่มันก็ช่วยไม่ได้ เพราะแม่คงไม่เป็นอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้และมาพบจุดจบเช่นนี้ถ้าพ่อไม่ทิ้งแม่ไป. p/ z- Q+ m( ~# g' N
เย็นวันนั้น งานสวดศพวันแรกก็เริ่มขึ้น เป็นงานเล็กๆ มีคนมากันเพียงยี่สิบกว่าคน ผมกะว่าสวด 3 วันก็น่าจะพอเพราะเราไม่ใช่ครอบครัวใหญ่เป็นที่รู้จักแต่อย่างใด อีกอย่าง ชีวิตแม่เรียบง่ายมาตลอด แม่คงชอบใจกับการจัดการเรื่องหลังของแม่อย่างเงียบๆมากกว่า ซึ่งนั่นก็เป็นนิสัยของผมที่รับมาจากแม่ด้วยเช่นกันที่ไม่ชอบความเอิกเกริกหรูหรา
* o- p4 @' J8 {) R0 nพี่ยศช่วยผมมากทีเดียวในงานศพครั้งนี้ ผมรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของพี่ยศมาก แต่ก็ไม่รู้จะตอบแทนอย่างไรดี หลังจากงานสวดวันแรกเสร็จสิ้นลง และแขกทุกคนกลับกันหมดแล้ว คงเหลือผมและพี่ยศที่กำลังจะกลับ ผมจึงถือโอกาสขอบคุณพี่ยศ เพราะตั้งแต่มีเรื่องยุ่งๆ พี่ยศช่วยผมมาตลอดโดยที่ผมยังไม่มีโอกาสกล่าวคำขอบคุณสักครั้งเลย ผมยกมือไหว้พี่ยศอย่างนอบน้อม แล้วกล่าวขอบคุณพี่ยศอย่างจริงใจ/ l8 q8 w* |+ X+ v
"นี่ถ้าไม่ได้พี่ผมก็ไม่รู้จะจัดการเรื่องพวกนี้ให้เรียบร้อยได้ยังไง ผมขอบคุณพี่มาก ซาบซึ้งในน้ำใจพี่จริงๆครับ"
; F% g2 a- j) Zพี่ยศรับไหว้แล้วยกมือลูบหัวผมเบาๆ แปลกมาก ปกติพี่ยศไม่เคยลูบหัวผมเลย แต่วันนี้กลับทำ เงาร่างของพี่ยศจากที่เคยอยู่ในฐานะของพี่ชายที่แสนดี ตอนนี้กลับเคลื่อนเข้าไปทับซ้อนกับเงาร่างของ 'พ่อ' ในจินตนาการของผมเข้าไปทุกขณะ "ไม่เป็นไรเป้ พี่ยินดีช่วย อย่าลืมสิว่าเป้เป็นน้องรหัสของพี่" พี่ยศหยอกผม ทำให้อารมณ์ของผมแจ่มใสขึ้นบ้างเล็กน้อย4 a" I; ~" e, v4 B% ~; q' _! u1 k$ A
"แต่นี่เราจบมาตั้งนานแล้วนะครับ" ผมแย้ง แต่ลึกๆแล้วกลับรู้สึกอบอุ่น( U4 ?# G9 ?1 Z8 C1 q
"ใครบอกว่าเป็นแค่ตอนเรียนล่ะ เราเป็นน้องพี่ตลอดชีวิตเลยต่างหาก" พี่ยศบอก ผมรู้สึกตื้นตัน ต่อมน้ำตาใกล้จะเริ่มทำงานอีกแล้ว ผมต้องสูดลมหายใจลึกๆเพื่อข่มความพลุ่งพล่านในใจเอาไว้
. Z9 q9 T$ l/ X3 @  D7 U"ไป เรากลับกันเถอะ พรุ่งนี้ยังต้องยุ่งอีก" พี่ยศว่า ผมเห็นด้วย จึงลาพี่ยศเพื่อจะกลับบ้าน แต่พี่ยศฉุดมือผมไว้
. Z4 y2 R4 q+ Q; d"เดี๋ยวก่อนเป้ แน่ใจหรือว่ากลับไปนอนที่บ้านนั้นคนเดียวได้" พี่ยศถาม ผมอึ้งไป ใช่สิ ถ้าผมกลับไปก็ต้องนอนอยู่ในบ้านนั้นคนเดียว ความรู้สึกของผมกับบ้านหลังนั้นแตกต่างไปจากเดิม แต่ก่อนเคยเป็นรังเล็กๆอันอบอุ่นให้นกน้อยอย่างผมซุกหัวนอนใต้ปีกของแม่นกอย่างแม่ แต่ตอนนี้ บ้านหลังนั้นเป็นเพียงแค่ความหลังอันอบอุ่นเสียแล้ว เพราะนับแต่นี้จะไม่มีแม่อีกต่อไป ใจหนึ่งผมก็อยากกลับไป กลับไปอยู่ในบ้านที่ผมและแม่เคยรัก แต่อีกใจหนึ่งก็กลัว ผมกลัวความเงียบเหงาเดียวดาย และความคิดถึงแม่ $ x" j6 c/ \# s) R. R0 L
"ได้ครับ พี่" ผมจำใจโกหก
9 x6 A  f$ e1 ~- y; Y6 v9 ^- Pพี่ยศมองหน้าผมราวจะค้นหาความจริง "ไม่จริงละมั้ง ต้องการให้พี่ไปอยู่เป็นเพื่อนไหม เป้บอกมาได้เลย ไม่ต้องเกรงใจ"
0 l( V- V8 S) w1 r/ x0 W- z, G+ mใจหนึ่งผมก็รู้สึกต้องการดังที่พี่ยศว่า แต่อีกใจก็เกรงใจพี่ยศ รวมทั้งทางบ้านของพี่ยศด้วย หลังจากลังเลอยู่อึดใจหนึ่ง ในที่สุดผมก็โยนภาระการตัดสินใจให้พี่ยศ "แล้วแต่พี่ก็แล้วกันครับ ผมเกรงใจพี่น่ะครับ พี่ยุ่งเพราะผมมามากแล้ว อีกอย่าง โตกับเล็กอาจจะคิดถึงพ่อด้วย"
  t6 V9 V& r: }* H3 F# A$ @"ยังงั้นตกลงตามนี้" พี่ยศสรุป ซึ่งผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่าที่ว่าตกลงตามนี้คืออะไร แต่แล้วก็เข้าใจเมื่อพี่ยศพูดต่อ "พี่เป็นห่วงเป้น่ะ รู้ว่าเป้นอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว เดี๋ยวขับรถกลับบ้านคนเดียวแล้วจะอันตราย ถ้างั้นคืนนี้พี่จะไปอยู่เป็นเพื่อนเป้ แล้วจะได้ขับรถกลับบ้านตามเป้ไปด้วย"
( h# ~) J1 w& O! aเราทั้งคู่ขับรถกลับจากวัดมาถึงบ้านของผมด้วยความเรียบร้อย คืนวันก่อนที่พี่ยศมาค้าง ผมนอนที่ห้องแม่ ส่วนพี่ยศนอนที่ห้องผม แต่คืนนี้ผมไม่อยากนอนที่ห้องแม่เลย ผมเลยจัดแจงย้ายเครื่องนอนมาเพื่อจะนอนที่ชั้นล่าง เมื่อพี่ยศเห็นเข้าก็แปลกใจ "อ้าว นั่นเป้ทำอะไรน่ะ"; H! z5 i- X" \* l. j7 D. U" i
"คืนนี้ผมจะนอนข้างล่างครับ ผมไม่อยากนอนที่ห้องแม่ ผมไม่ได้กลัวนะครับ แต่อยู่ในนั้นแล้วนอนไม่หลับ จะร้องไห้เอาด้วย คิดถึงแม่ครับ" ผมพูดเสียงเศร้า คราวนี้พี่ยศดึงผมเข้ามาชิดตัวแล้วโอบผมไว้ เหมือนพี่โอบน้อง เหมือนพ่อโอบลูก หรือเหมือน…& V% L6 P% n# P
"งั้นเป้เข้าไปนอนในห้องเป้ก็แล้วกัน พี่จะนอนข้างล่างเอง" พี่ยศเสนอ
; r/ `! N8 R# ~0 ~, U) Z6 V0 Y"ไม่ได้ครับ ผมจะให้พี่นอนข้างล่างได้ไง ยุงเยอะครับ แล้วต้องนอนบนโซฟาด้วย มันไม่สบายเหมือนเตียงหรอก ผมนอนเองครับ" ผมไม่ยอม& n7 M( D% n. k' q1 O6 }) o4 p
"เอายังงี้ เราก็นอนห้องเดียวกันก็แล้วกัน เป้อย่ามานอนข้างล่างเลย พี่ปูเสื่อนอนกับพื้นในห้องนอนเป้ก็ได้" ดูสิครับ พี่ยศทำให้ผมซาบซึ้งและอบอุ่นใจเหลือเกิน
) P0 Z/ N- D1 R) [/ Eเป็นอันว่าคืนนั้นเราทั้งคู่นอนอยู่ในห้องเดียวกัน คือห้องนอนของผม โดยผมยกเตียงนอนให้พี่ยศพร้อมทั้งห้ามพี่ยศปฏิเสธ ส่วนผมเอาเตียงพับมากางนอน ซึ่งก็นอนได้สบายพอควร
, T2 n! x3 V- z" ~- t' mดึกแล้ว… ผมยังไม่หลับ คงนั่งอยู่บนเตียงพับท่ามกลางความมืด คิดโน่นคิดนี่ไปเรื่อยเปื่อย สายตาของผมจับจ้องอยู่ที่พี่ยศบนเตียงนอนทั้งๆที่มองไม่ค่อยเห็นอะไรเนื่องจากไม่ได้เปิดไฟ ถึงมองไม่เห็นแต่ก็อยากมอง หลายวันนี้ผมยุ่งกับเรื่องราวต่างๆมากมาย แต่ก็ยังรู้สึกได้ถึงความใกล้ชิดและเอื้ออาทรที่พี่ยศมอบให้ในยามที่ผมต้องการความช่วยเหลือ ผมอยากมีพี่ชายหรือมีพ่อที่ให้ความอบอุ่นแก่ผมแบบนี้มานานแล้ว
, q' a0 ^% \& B  Oตีสามแล้ว ผมค่อยๆล้มตัวลงนอน ยังไงก็ต้องพักผ่อนเอาแรงไว้บ้าง พรุ่งนี้ยังมีเรื่องอีกมาก แต่เพิ่งจะนอนนิ่งไปได้หน่อยเดียวก็รู้สึกว่าพี่ยศขยับตัวลุกขึ้นมาจากเตียง ผมหรี่ตาดู แกล้งทำเป็นหลับ เพื่อจะดูว่าพี่ยศจะทำอะไร3 s  M  w% Y$ ?
พี่ยศเดินมาทางผม แล้วยืนนิ่งสักครู่ คล้ายกำลังมองดูผมอยู่ จากนั้นก็เอื้อมมือมาขยับผ้าห่มของผมให้เข้าที่เรียบร้อย ผมรู้สึกว่าพี่ยศกำลังนั่งลงแล้วโน้มหน้ามาใกล้ใบหน้าของผม ผมจึงรีบหลับตาให้สนิท พี่ยศเอื้อมมือมาลูบศีรษะของผมเบาๆ ผมรู้สึกได้ว่ามือข้างนั้นแฝงความรักใคร่เอ็นดูผมอยู่อย่างเต็มเปี่ยม จากนั้นพี่ยศก็ลุกขึ้นแล้วกลับไปนอน แล้วหลังจากนั้นไม่นาน ผมก็เคลิ้มหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย% X0 q1 k+ r5 Z4 N
วันรุ่งขึ้น พี่ยศมาที่วัดตั้งแต่ตอนบ่ายแก่ๆเพื่อมาช่วยผม ตอนกลางวันก็ไม่มีอะไรมากเพราะไม่มีใครมาเคารพศพ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีใครเฝ้า การสวดพระอภิธรรมในคืนที่สองก็เป็นเช่นคืนแรก มีเพียงญาติสนิทมิตรสหายไม่กี่คน คืนนี้พี่ป้อมก็มาด้วย แต่ไม่ได้พาเด็กๆมา คงถือเคล็ดว่าเด็กไม่ควรมางานศพก็เป็นได้
: W0 L+ @$ h: f7 eหลังเลิกงาน ผมขอให้พี่ยศกลับบ้านไปเพราะเกรงใจถ้าพี่ยศจะอยู่เป็นเพื่อนผมอีกคืน แต่คราวนี้พี่ยศกลับยื่นข้อเสนอใหม่ "คืนนี้เป้ไปนอนที่บ้านพี่ดีกว่า พี่ว่าหากช่วงนี้เป้อยู่ในบ้านนั้นจะยิ่งมีแต่ความเศร้านะ มาค้างที่บ้านพี่สักคืนก็แล้วกัน เผื่อจะสบายใจขึ้นบ้าง"( F3 Q  }9 g: _4 @# X+ n
ผมก็ว่าความคิดนี้ไม่เลว แต่ก็ติดขัดที่ว่าบ้านของพี่ยศก็ไม่มีที่นอนสำหรับแขกเตรียมไว้เช่นกัน "อย่าเลยพี่ ลำบากพี่เปล่าๆ" ผมปฏิเสธ , @: X" @+ |" g2 j9 m) r
"ไม่เห็นลำบากเลย ที่ทางก็มี เป้ไปนอนห้องโตก็ได้ แล้วให้โตมานอนกับเล็ก หรือเป้จะนอนกับโตก็ได้ ในห้องนั้นมีฟูกสำรองสำหรับปูนอนอยู่ เอามาปูเสียก็นอนได้แล้ว หมอนก็มี พี่ว่าเล็กกับโตคงดีใจที่ได้เจอหน้าเป้ ไม่เจอกันมาเป็นอาทิตย์แล้วนี่" พี่ยศโน้มน้าว- r3 r1 V' s5 _$ [! Y  @4 y$ J
ในที่สุดผมก็ตกลง ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะขัดความหวังดีไม่ได้ แต่อีกส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะว่าผมอยากได้อยู่ใกล้ชิดกับพี่ยศด้วย
; l6 r0 ?/ s4 A9 @; U- H' Sคืนนั้น ผมนอนห้องเดียวกับโตโดยปูฟูกนอนกับพื้น ซึ่งโตก็ไม่ได้ขัดข้องหรือไม่พอใจแต่อย่างใดที่ผมมาบุกรุกห้องของแก ตรงกันข้าม กลับรู้สึกว่าจะดีใจเสียด้วยซ้ำ ซึ่งผมก็ไม่ได้เฉลียวใจอะไร เพราะปกติก็สนิทสนมกับโตและเล็กอยู่แล้ว เมื่อผมมานอนบ้านพี่ยศ ผมกลับรู้สึกว่าใจสงบลงได้อย่างประหลาด ผิดกับตอนที่นอนอยู่ที่บ้านของตนเองซึ่งใจว้าวุ่นอยู่ตลอดเวลา เห็นทีพี่ยศจะพูดถูกที่ผมควรมานอนที่นี่ 7 [9 R3 R- c2 `. h" u- h
ผมตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะได้ยินเสียงสวบสาบ แม้ผมจะหลับดีกว่าวันก่อนๆแต่ก็หลับไม่สนิทมากนัก แม้มีเสียงผิดปกติรบกวนเพียงเล็กน้อยก็ทำให้ผมตื่นได้ ผมแปลกใจว่าเสียงสวบสาบนั้นมาจากที่ไหน ผมลืมตา แต่ตัวยังนอนนิ่งอยู่บนฟูก พร้อมทั้งตั้งใจหาที่มาของเสียง เสียงมาจากเตียงของโตที่อยู่เบื้องหน้าผมนั่นเอง
; v3 A$ p3 ]( h7 \( i8 X6 l0 l

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
พลังน้ำใจ
79626
Zenny
205823
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:05:17 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(5) : ความในใจ . i4 r# D) F) G  ]/ O8 B( y/ Q
4 D. _2 v6 [9 d( z; w
ผมกำลังนอนตะแคงหันหน้าไปทางเตียงที่โตนอนอยู่พอดี จึงหรี่ตามองในความมืด เห็นโตกำลังนอนคว่ำหน้าอยู่บนเตียงนอน ตะโพกขยับขึ้นลงทำท่าคล้ายกำลังร่วมเพศ จากแสงสลัวเพียงเล็กน้อยผมเห็นคล้ายกับว่าก้นของโตนั้นเปลือยเปล่า ไม่มีอะไรปกปิด แล้วข้างใต้โตคงเป็นหมอน โตคงกำลังสำเร็จความใคร่ให้ตัวเองอยู่ เสียงการกระทำของโตค่อนข้างดังทีเดียว โตคงกำลังมีอารมณ์ตามประสาเด็กในวัยกำลังเป็นหนุ่ม. _7 D, v8 g) Z4 K
ผมนอนหรี่ตาดูโตสำเร็จความใคร่ให้ตนเองเป็นเวลาสักพัก โตคงเพลิดเพลินกับมันมากทีเดียว ภาพสลัวๆที่ผมเห็นเร้าให้ผมเกิดอารมณ์ขึ้นเล็กน้อย ผมจึงรู้สึกอยากดูไปเรื่อยๆว่าจะเป็นอย่างไร ประกอบกับความง่วงด้วยกระมัง ผมจึงไม่ได้เฉลียวใจคิดให้ละเอียดอีกสักนิดว่าโตทำไมถึงได้ตื่นมาช่วยตัวเองดึกดื่นขนาดนี้ และทำไมโตถึงได้ใจกล้านักที่ช่วยตัวเองทั้งๆที่ผมนอนอยู่ในห้องด้วย และนี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นของความผิดพลาดอันนำไปสู่บาปรักของผมในเวลาต่อมา
$ ?' T& e7 a$ j! cสักพักโตก็หยุดเคลื่อนไหว นอนนิ่งสักครู่แล้วก็ลุกขึ้น ใส่กางเกง แล้วรีบเดินออกไปจากห้อง คงไปจัดการตอนสุดท้ายต่อในห้องน้ำ แม้ภาพที่ผมเห็นจะกระตุ้นให้ผมเกิดอารมณ์ได้บ้าง แต่ก็เป็นเพียงการกระตุ้นจากภาพเหตุการณ์เฉพาะหน้าเท่านั้น รสนิยมของผมอยู่ที่คนที่มีอายุมากกว่า ไม่ใช่เด็กหนุ่ม ดังนั้นผมจึงไม่ได้ให้ความสนใจที่จะติดตามโตไปที่ห้องน้ำ เมื่อรู้ว่าอะไรเป็นอะไรแล้วผมก็หมดความสนใจและนอนหลับต่อไป
* f- y7 y/ W, q. u% I5 mเช้าวันรุ่งขึ้น ผมลืมเรื่องราวปฏิบัติการของโตไปเสียสนิท ผมรีบออกจากบ้านของพี่ยศแต่เช้าเพื่อกลับมาที่บ้านแม่เพื่อจัดเตรียมเรื่องราวต่างๆสำหรับงานสวดวันสุดท้าย รวมทั้งธุระอื่นๆที่เกี่ยวกับแม่ ซึ่งก็เป็นเวลาที่โตกับเล็กกำลังจะไปโรงเรียนพอดี ปกติสองพี่น้องจะไปโรงเรียนโดยรถเมล์เพราะพี่ยศเลี้ยงลูกแบบติดดิน ไม่ฟุ้งเฟ้อ วันนี้ผมจึงอาสาไปส่งสองพี่น้องที่โรงเรียนให้
) ~/ S7 j' ~$ ~/ D! rสองพี่น้องนี้ช่างพูดและสนิทกับผมทั้งสองคน โตอายุ 13 ย่าง 14 ปี ส่วนเล็กอายุ 10 ย่าง 11 ปี แต่ถ้าจะว่ากันตามจริงแล้วดูโตจะสนิทสนมกับผมมากกว่า โตมักจะชวนผมคุยอยู่เสมอ และมักชอบให้ผมพาเที่ยวห้าง บางทีก็ให้พาไปว่ายน้ำ ซึ่งผมคิดว่าความสนิทสนมนี้คงเกิดจากการที่ผมสอนพิเศษให้โตเป็นประจำนั่นเอง
9 G7 H0 O; M! K* C3 o"อาเป้เสียใจมากไหมครับ" โตผมถามระหว่างนั่งในรถ  t6 e+ g4 t/ D! `$ R1 }
"เสียใจมากสิ อารักแม่มาก แต่ไม่ค่อยมีโอกาสดูแลแม่เท่าไร กว่าจะได้คิดก็สายไปเสียแล้ว" ผมพูดเสียงเศร้า ทำให้บรรยากาศในรถเงียบเหงาลงในทันที ผมนิ่งนิดหนึ่งแล้วก็อดพูดความในใจออกไปไม่ได้ว่า "วันนี้สำคัญที่สุดนะโต ตั้งใจจะทำอะไรก็ทำเสีย ทำวันนี้ให้ดีที่สุด อย่าผัดวันประกันพรุ่ง ไม่งั้นอาจจะต้องเสียใจเหมือนอา" ผมก็ไม่แน่ใจว่าเด็กในวัยของโตจะเข้าใจความหมายของผมหรือเปล่า แต่ถึงไม่เข้าใจก็ไม่เป็นไร เพราะมันเป็นการระบายความในใจของผมมากกว่าที่ต้องการให้โตเข้าใจ3 [( V: R. c2 G& _7 r$ L
"ตั้งใจจะทำอะไรก็ทำเสีย ทำวันนี้ให้ดีที่สุด อย่าผัดวันประกันพรุ่ง" โตทวนคำอย่างครุ่นคิด
. w4 X" N6 f1 V"ใช่" ผมตอบ "พรุ่งนี้ไม่มีอะไรแน่นอน พรุ่งนี้คือความหวัง แต่ปัจจุบันคือการกระทำ" 6 {( ]' \) I8 D' {( h8 |( ^
"ครับ อาเป้" โตรับคำ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าโตเข้าใจแค่ไหน ส่วนเล็กนั้นไม่สนใจเอาเสียเลย "อาเป้พูดเข้าใจยากจัง พูดให้มันเข้าใจง่ายๆหน่อยสิครับ" เล็กว่า ผมอดหัวเราะในความอ่อนเยาว์ของเล็กไม่ได้; o" I8 q6 _+ _9 k$ R* A& @
เมื่อผมขับรถมาส่งโตและเล็กที่โรงเรียน ก่อนลงจากรถ โตหันมาถามผมว่า "อาเป้ คืนนี้มาค้างอีกไหมครับ"0 t" W2 D4 m( h2 L
"คงไม่หรอก" ผมตอบ "เกรงใจเราน่ะ อามาแย่งห้องนอนโตใช้ คืนนี้ว่าจะนอนที่บ้านอาดีกว่า"0 u* S. R1 t% R& u
"ไม่แย่งหรอกครับ" โตว่า "อามาอีกสิครับ ผมชอบ มีอานอนอยู่ด้วยในห้องแล้วอุ่นใจดี"
; F) Q2 s( Y( A0 z"เอ๊ะ ในห้องมีผีหรือไง ถึงได้นอนคนเดียวแล้วไม่อุ่นใจ" ผมหัวเราะ . I4 \5 D* b" P1 ~
"ก็ไม่เชิงหรอกครับ" โตพูด "แต่แต่อยากให้อาเป้มานอนเป็นเพื่อนน่ะครับ นะครับ" & J5 a0 s* Q8 a3 z/ u9 X9 G) d
"คงต้องดูก่อนนะ ถ้าวันนี้มาไม่ได้อาขอเป็นวันหลังค่อยมานอนเป็นเพื่อนก็แล้วกัน" ผมว่า
: Q( H9 a8 S# q7 H3 T6 W" w* }"อารับปากแล้วนะครับ ห้ามผิดสัญญาล่ะ" โตคาดคั้น
( ]6 E* E+ e7 F4 d"เถอะน่า อาไม่ผิดสัญญาหรอก เดี๋ยวพ่อเราจะได้ต่อว่าอาปะไร เอ้า ถึงแล้ว แล้วเจอกันใหม่นะ" ผมบอก แล้วโตกับเล็กก็ไหว้ผมและลงจากรถเข้าไปในโรงเรียน
& F# u. y: s) c4 [งานสวดศพวันที่สามก็ผ่านไปด้วยความเรียบร้อย พี่ยศมาช่วยงานตั้งแต่บ่ายแก่ๆตามเคย วันนี้พี่ป้อมไม่ได้มาด้วยเนื่องจากต้องอยู่ดูแลโตกับเล็กที่บ้าน
/ E% M+ E( m* B% nเมื่อเลิกงานสวด ทุกคนกลับกันไปหมดแล้ว เหลือแต่ผมกับพี่ยศ และพนักงานของทางวัด ผมมองที่โลงและรูปของแม่ที่อยู่หน้าศพอีกครั้ง แม้แม่จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่สามวันนี้ผมก็ยังมีความรู้สึกคล้ายกับว่ายังได้อยู่ใกล้ๆแม่ … ถึงแม้ได้อยู่ใกล้ร่างที่ไร้วิญญาณของแม่ก็ยังรู้สึกอบอุ่นใจ แต่ต่อไป เมื่อพิธีเผาศพผ่านไป ผมคงไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับร่างของแม่อีกแล้ว ผมมองไปที่โลงใส่ร่างของแม่อย่างอาลัยอาวรณ์ น้ำตาไหลพรากออกมาโดยไม่รู้ตัว ผมมักรู้สึกว่าเป็นความผิดของผมส่วนหนึ่งเสมอที่แม่เกิดอุบัติเหตุขึ้น หลายวันที่ผ่านมา ผมเฝ้าตำหนิตัวเองอยู่ตลอดเวลา$ x2 i$ X5 @- k; g. {
"เป้ คนก็จากไปสบายแล้ว เป้อย่าเอาแต่เศร้าโศกสิ เดี๋ยวแม่เขาจะกังวลนะ" พี่ยศพูด พลางเอามือตบไหล่ผม # g& }  |4 t5 \! c+ H6 J1 Y
"มันอดไม่ได้ครับ ผมรู้สึกว่ามันเป็นความผิดของผม ถ้าผมดูแลแม่ดีกว่านี้แม่ก็คงไม่จากไปเร็วอย่างนี้" ผมพยายามกลั้นสะอื้น2 }0 W" P$ Y+ h/ s8 [9 v6 p
"เป้อย่าตำหนิตัวเองเลย คิดเสียว่าคุณอาทำบุญมาแค่นี้" พี่ยศปลอบ "พี่ว่าเรากลับกันเถอะ"
! ~8 L5 m5 \7 L5 ]3 ?6 mผมรับคำ มองหน้าแม่ในภาพอีกครั้งพร้อมกล่าวคำอำลาแม่ในใจ
' y* ^' H2 x* F, U" f- Nขณะที่ผมกำลังขับรถเพื่อจะกลับบ้าน ผมสังเกตว่าพี่ยศขับรถตามมาข้างหลัง ผมนึกว่าพี่ยศมีเรื่องอะไร จึงจอดรถเข้าข้างทางเพื่อสอบถาม
  C, J) u5 e- D# }"พี่ยศมีอะไรหรือครับ" ผมถามหลังจากที่ผมและพี่ยศจอดรถแล้ว
  y* o% l# X  g/ _- U4 ]' y2 {"ไม่มีอะไรนี่ พี่นึกว่าเป้มีอะไรเสียอีก เห็นจอดรถ พี่เลยจอดตาม" พี่ยศว่า5 w& |" Y: e% ]" n1 L0 d/ f5 s  U) e
"ก็ผมเห็นพี่ขับรถตามผมมานี่ครับ" ผมสงสัย
( D' }: Z0 F/ v+ O, k6 S"อ้อ เรื่องนี้เองหรอกหรือ ไม่มีอะไรหรอก พี่เป็นห่วงเป้น่ะ ก็เลยขับรถตามมา กะว่าจะขับไปส่งเป้จนถึงบ้านเสียก่อนแล้วค่อยกลับ") Q" x# P7 ]. I& ?
ผมปฏิเสธด้วยความเกรงใจ เพราะบ้านผมกับบ้านพี่ยศไปคนละทางกัน อีกอย่าง หลายวันมานี้ผมก็พอทำใจได้บ้างแล้ว ผมอยู่ในสภาพที่ขับรถได้ แต่พี่ยศไม่ยอม ยืนกรานจะไปส่งให้ได้ ผมไม่อยากให้พี่ยศเสียน้ำใจจึงปล่อยเลยตามเลย3 n& j: Z: N8 X! m) L+ L/ p
เมื่อมาถึงบ้าน ผมจึงเชิญพี่ยศเข้าไปในบ้าน เมื่อแรกย่างเท้าเข้าไปในบ้าน ผมรู้สึกถึงความเงียบเหงาวังเวง ความรู้สึกที่ว่าสามารถทำใจได้แล้วกลับสั่นคลอน ผมเริ่มรู้สึกว้าเหว่และหดหู่ ต่างจากความรู้สึกเมื่อตอนไปค้างอยู่ที่บ้านของพี่ยศซึ่งตอนนั้นผมรู้สึกว่าสภาพอารมณ์ของผมมั่นคงดีแล้ว แต่ตอนนี้กลับไม่ใช่ อาจจะเป็นเพราะว่าช่วงนี้ผมเหนื่อยและคิดมากเกินไป สุขภาพจิตจึงอ่อนแอลงไปบ้าง
2 f7 u8 [; _" @" K+ W, Z# c5 j, zพี่ยศเองคงสังเกตเห็นสีหน้าของผมไม่ค่อยดีเท่าไรนัก จึงถามผมว่าผมเป็นอะไรไป
" b$ S: _. c0 M: L/ r"รู้สึกหดหู่ขึ้นมาน่ะครับ แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมรู้สึกอย่างนั้น พออยู่บ้านนี้แล้วอดคิดถึงความหลังเมื่อครั้งแม่ยังอยู่ไม่ได้ครับ" ผมสารภาพความรู้สึกไปตามตรง
& ^  c- D0 n9 z# F8 |/ P7 \: Wพี่ยศเอื้อมมือมาโอบผมราวกับพี่ชายที่กำลังให้ความอบอุ่นแก่น้องชาย "ยังงั้นอย่านอนที่นี่เลยคืนนี้ ไปค้างที่บ้านพี่อีกไหม หรือไม่งั้นก็ให้พี่นอนที่นี่เป็นเพื่อนก็ได้"
/ g0 l7 K9 Z- k* f: d8 t& ~เมื่อได้รับไออุ่นจากพี่ยศ ความแข็งแกร่งของผมก็เริ่มพังทลาย ผมเผลอตัวเอื้อมมือไปกอดพี่ยศเหมือนกับที่เคยกอดแม่ แต่เมื่อนึกได้ว่าไม่สมควรผมก็รีบผละออก ที่จริงตอนนี้ผมรู้สึกชอบพี่ยศมากแล้ว จะเรียกว่าหลงรักก็พอจะได้กระมัง แต่ก็ต้องพยายามข่มใจเอาไว้เพราะพี่ยศเป็นคนที่มีเจ้าของแล้ว แต่เมื่อมีเหตุการณ์เรื่องแม่เกิดขึ้น ความทุกข์ทำให้ผมต้องการพึ่งพาใครสักคน และคนที่ก้าวเข้ามาเป็นที่พึ่งของผมก็คือพี่ยศนั่นเอง นั่นยิ่งทำให้ผมรู้สึกผูกพันกับพี่ยศมากขึ้น จนเรียกว่าแทบจะขาดพี่ยศไม่ได้เลย จนในที่สุดผมก็เผลอตีแผ่ความในใจออกมาด้วยการแสดงออกของผม นั่นคือการกอด/ r1 x0 o$ E, U
เมื่อผมผละจากพี่ยศ พี่ยศกลับดึงผมเข้าไปกอดไว้อีก คราวนี้เราเลยยืนกอดกันแน่น "กอดเถอะเป้ ถ้ามันทำให้เป้สบายใจ" พี่ยศว่า
6 M" v- s8 P5 r5 N; xถึงตอนนี้ผมก็หมดความข่มกลั้นใจ ผมอยากกอดและได้รับไออุ่นจากพี่ยศมานานแล้ว แต่ก็ต้องเก็บงำไว้ไม่กล้าแสดงออก ในที่สุดความฝันของผมก็เป็นความจริง ผมเลยกอดพี่ยศเสียแน่น "ขอกอดนานๆนะครับพี่ยศ" ผมพูด   n6 J- |3 U. B1 V
"ตามสบายเลยเป้" พี่ยศตอบ
1 O( _) Y  X8 P% P8 f; gผมกอดพี่ยศแน่นและนาน ความคิดถึงแม่ ความคิดถึงพ่อ และความว้าเหว่ในใจถูกระบายออกมากับการกอดครั้งนี้จนหมดสิ้น พี่ยศเองก็กอดผมตอบเช่นกัน เรากอดกันนานจนผมรู้สึกว่าเป้ากางเกงของพี่ยศเกิดความผิดปกติ มันมีอาการแข็งแกร่งขึ้นอย่างประหลาด เนื่องจากส่วนสูงของผมพอๆกับพี่ยศ ส่วนที่แข็งแกร่งของพี่ยศนั้นจึงสัมผัสกับความเป็นชายของผมพอดี
2 J2 n! X+ T  Q5 c' _5 a- ]ผมเริ่มเขินอายและต้องการผละออกจากอ้อมกอดของพี่ยศ แต่พี่ยศกลับไม่ยอมคลายอ้อมกอดลง กลับกอดผมแน่นยิ่งขึ้น ความเป็นชายอันแข็งแกร่งของพี่ยศทาบสนิทกับความเป็นชายของผมและบดขยี้ไปมาตามแรงกอด เพียงครู่เดียวความเป็นชายของผมก็ถูกปลุกขึ้นมาบ้าง
& H. a' g3 G# w- L* X( Dเรากอดกันในสภาพนั้นอยู่นาน แม้เราไม่ได้ทำอะไรเกินเลยไปกว่านั้น แต่เพียงแค่นี้เราก็ได้ถ่ายถอดความในใจของกันและกันออกมาแล้วว่าผมชอบพี่ยศและพี่ยศก็ชอบผม…/ p4 ~1 C* w% f. l6 P$ R2 b( z
"แต่ก่อนผมเห็นพี่เป็นพี่ชาย … แต่ … แต่หลังจากผ่านเหตุการณ์ในหลายวันนี้มา ความรู้สึกของผมก็เริ่มเปลี่ยนไปแล้วครับ ผมรู้สึกอยากให้พี่เป็นมากกว่าพี่ชายของผมครับ แต่ก็เป็นแค่ความฝันเท่านั้นนะครับ เพราะผมรู้ว่ามันเป็นความจริงไปไม่ได้" ผมผละออกจากตัวพี่ยศ พร้อมกับพูดเผยความในใจ+ Z$ [4 z' w# O+ H$ \
"พี่ก็เช่นกัน เป้" พี่ยศว่า "เป้รู้ไหมว่าพี่ชอบเป้มาสิบกว่าปีแล้วนะ ตั้งแต่เป้อยู่ปีหนึ่งนั่นแหละ แต่พรหมลิขิตทำให้เราต้องคลาดคลากัน" พี่ยศถือโอกาสนี้เปิดเผยความในใจเช่นกัน ผมไม่เคยรู้มาก่อนและไม่นึกเลยว่ามันจะเป็นไปได้ มันแทบจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ คนอย่างพี่ยศน่ะหรือจะมามีรสนิยมทางเพศเบี่ยงเบนแบบผม มันไม่น่าเชื่อเลย … ในที่สุดความลับในใจของเราทั้งสองที่ปกปิดกันและกันมากว่า 15 ปีก็คลี่คลายออกมา เมื่อผมหวนทบทวนเหตุการณ์ในอดีตตอนที่ผมเป็นน้องรหัส มิน่าล่ะ ทำไมพี่ยศถึงได้ดีกับผมเป็นพิเศษ ที่แท้พี่ยศก็ชอบผมตั้งแต่ตอนนั้นแล้วนั่นเอง ผมนี่โง่จริงๆ
: N: N" w# ^( w* F2 S7 H1 T6 R"ไม่น่าเชื่อเลยครับพี่ ที่จริงผมก็ชอบพี่มาตั้งแต่อยู่ปีหนึ่งแล้ว แต่ผมดูพี่ไม่ออกเลย เลยไม่กล้าแสดงความรู้สึกของผมกับพี่" ผมว่า
7 v- D% W* h! K* g"พี่พยายามต่อสู้กับตัวตนของตนเองอยู่ ตอนนั้นพี่ชอบเป้ แต่พี่ก็ยอมรับความรู้สึกนี้ของตนเองไม่ได้ พี่เลยพยายามไม่คิดมัน และไม่แสดงท่าทีอะไรออกมาไง พี่พยายามหาทางออกโดยการคบเพื่อนหญิง เผื่อว่ามันจะช่วยได้บ้าง" พี่ยศสารภาพ
4 N6 w( Y2 w% x6 m: y! w"แล้วพี่ก็ทำสำเร็จ ได้แต่งงานมีครอบครัว" ผมเสริม แม้จะเป็นการเสริมคำพูดของพี่ยศ แต่ก็เป็นคำถามอยู่กลายๆ เพราะถ้าพี่ยศทำได้สำเร็จจริงเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ก็คงไม่เกิดขึ้น  D/ W/ E6 x  W4 c) `: |9 H
ผมกับพี่ยศพากันเดินไปนั่งที่โซฟา เพื่อจะได้คุยเรื่องนี้กันอย่างจริงจัง
- Z2 r+ |* J! [3 p8 }& F1 ~% }"พ่อพี่เกลียดเกย์มาก" พี่ยศเล่าขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย "สมัยก่อนไม่มีคำว่าเกย์หรอก มีแต่คำว่ากระเทย ซึ่งมันก็คงคล้ายๆกัน คือพวกที่มีความต้องการทางเพศเบี่ยงเบน ชอบเพศเดียวกัน" 8 a9 \  B2 y/ Z  ]* ]9 s
"แล้วไงครับ" ผมถาม
+ B. `- r7 z5 l2 e# o/ Z% Z

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
พลังน้ำใจ
79626
Zenny
205823
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:14:19 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(6) : ใครลิขิต ) F2 P" K1 b6 v8 s
9 R& L% X8 @6 G9 N3 d1 z# U
สายตาพี่ยศทอดออกไปในความมืดนอกหน้าต่าง เหมือนจะทบทวนความหลัง "เวลาพ่อพี่เห็นเด็กกระเทยแถวบ้าน พ่อพี่จะรังเกียจมาก เอามาคุยให้คนในบ้านฟังบ่อยๆว่าโชคดีที่บ้านเราไม่มีใครเป็นกระเทย หากมีจะตัดพ่อตัดลูกและไล่ออกจากบ้านทันทีเลย พ่อแสดงความชิงชังรังเกียจอย่างออกนอกหน้าเลยทีเดียว"
5 M8 j( V+ B4 L  Cพี่ยศถอนใจ "พอพี่เริ่มเข้าสู่วัยรุ่น พี่ก็เริ่มรู้ตัวว่าคนที่พ่อชิงชังรังเกียจนั้นก็คงหมายถึงตัวพี่ด้วย … หมายถึงว่าถ้าพ่อรู้ความจริงนะ … แต่พี่ไม่ได้เป็นกระเทยเหมือนพวกนั้น พ่อก็เลยไม่รู้ แต่ความรู้สึกของพี่กับพวกนั้นก็คงไม่ต่างกันเท่าไร คือชอบผู้ชายด้วยกัน" พี่ยศเล่าอย่างตรงไปตรงมา ไม่อ้อมค้อม "พอพี่รู้ว่าตัวเองเป็นอย่างที่พ่อชิงชังรังเกียจ พี่เสียใจมาก เสียใจกับตัวเอง และพยายามเปลี่ยนความคิดของตัวเองเสีย ให้กลับมาชอบผู้หญิงให้ได้ พี่ก็เลยทำทุกอย่างอย่างที่คนปกติทำกัน ไม่ว่าจะจีบผู้หญิง เที่ยวผู้หญิง มีแฟน และเรื่องอื่นๆ …"( s3 Q5 h0 F8 ]
"ครับพี่" ผมไม่รู้จะพูดอะไรได้ดีไปกว่านั้น คงส่งเสียงรับคำเพื่อให้พี่ยศรู้ว่าผมกำลังฟังอยู่
& {* M" m' C5 i5 H& J- i"ตอนที่พี่ได้เป้มาเป็นน้องรหัสใหม่ๆ พี่ก็เริ่มรู้สึกชอบเป้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ยิ่งพอได้รู้จักกันขึ้นพี่ก็ยิ่งชอบเป้มาก พี่ชอบตรงที่เป้มีนิสัยดีและน่ารัก แต่พี่ก็ไม่คิดว่าเป้จะเป็นเกย์เพราะดูไม่ออกเลย พี่ต้องหักห้ามใจตนเองอย่างมากไม่ให้ชอบเป้เพราะรู้อยู่ว่าความรักชอบกันแบบนี้ไม่มีทางลงเอยได้"
' \% K) E2 Q5 S+ Z$ `/ Xพี่ยศหยุดทบทวนความทรงจำเล็กน้อยแล้วจึงเล่าต่อ "จนพี่เรียนจบ พี่ก็คิดว่าตัวเองชอบผู้หญิงคนหนึ่งที่ผู้ใหญ่แนะนำให้รู้จักกัน เราคบกันระยะหนึ่ง จนในที่สุดพ่อแม่ของทั้งเราสองฝ่ายก็เห็นว่าเราเหมาะสมกันดี ก็เลยจัดงานแต่งงานให้" พี่ยศย้อนอดีตถึงการแต่งงานให้ฟัง "พี่ก็คิดว่ามันคงสำเร็จ พี่ได้แต่งงานกับผู้หญิงที่พี่คิดว่าพี่รัก … หลังจากแต่งงานแล้วพี่ก็คิดว่าพี่คงสามารถเป็นชายเต็มตัวได้ … และมีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์" พี่ยศหยุดเล่า อึ้งไปสักพัก4 R; M& S, z! z: j% l& L, U2 e& z
"แต่พี่คิดผิด" ผมต่อประโยคที่เหลือให้
" Q' {* J3 y7 T! W0 V0 p"ใช่แล้ว" พี่ยศพยักหน้า "พี่คิดผิด พี่พยายามหลอกทุกคน พยายามหลอกแม้แต่ใจของตนเอง แต่ในที่สุดพี่ก็พบว่าพี่อาจหลอกคนได้ทุกๆคน แต่ไม่อาจหลอกใจของตนเองได้ การแต่งงานและมีครอบครัวไม่ได้ทำให้ชีวิตของพี่สมบูรณ์เลย ตรงกันข้าม พี่กลับรู้สึกลำบากใจ ยิ่งมีลูกแล้วก็ยิ่งลำบากใจ มันเหมือนกับว่าพี่กำลังฝืนธรรมชาติของตนเอง แม้มันจะเป็นธรรมชาติที่ผิดๆก็ตาม"
3 S) P" W% V  O6 y6 }7 J"ที่จริงหลายปีมานี้ มีชายอื่นที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของพี่แต่พี่ก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมากนัก เพราะว่ามีครอบครัวแล้ว จะทำอะไรก็ต้องคิดถึงครอบครัวไว้ก่อน แต่…" ว่าแล้วพี่ยศก็จับมือผมมากุมไว้ "พี่พยามหักห้ามใจไม่ให้เอาความปรารถนาของตนเองมาเป็นเหตุทำลายครอบครัว แต่มีอยู่คนหนึ่งที่พี่ไม่อาจลืมได้ตลอดมา คนนั้นก็คือเป้ … เพราะเป้ … มันเป็นรักครั้งแรกของพี่ด้วย พี่จึงลืมมันไม่ได้ พี่ดีใจมากที่เราได้มาพบกันอีก มันเหมือนกับ … เหมือนกับ…" พี่ยศตะกุกตะกักอีก แล้วก็ตัดสินใจพูดออกมา "เหมือนกับเป็นพรหมลิขิต", i+ c; A" B  ~6 n- _) B8 c
ผมช็อกกับความในใจของพี่ยศ ไม่นึกเลยว่าเบื้องหลังของพี่ยศจะมีเรื่องราวมากมายขนาดนี้ ใจหนึ่งก็รู้สึกดีใจที่เรามีกระแสใจที่ตรงกันมาตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว แต่อีกใจหนึ่งก็เสียใจที่เราทั้งคู่ไม่เคยมีโอกาสบอกความในใจแก่กันและกันเลย เวลาเกือบสองทศวรรษ มันไม่สั้นเลย พี่ยศเป็นคนที่ดีพร้อมมากในสายตาของผม นี่ถ้าผมมีโอกาสได้รู้ความในใจของพี่ยศแต่แรก ชีวิตของผมคงไม่ต้องล้มเหลวในเรื่องความรักครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างที่เป็นอยู่นี้ แต่เมื่อมารู้ตอนนี้ทุกอย่างมันก็สายไปเสียแล้ว …" f! G6 u/ @; l" q+ }- `
ผมปล่อยให้พี่ยศกุมมือ ใจสับสนไปหมด ความคิดหลายอย่างประดังเข้ามาในสมอง ทั้งรู้สึกเสียดายเวลาที่ผ่านไป วัยหนุ่มอันมีสีสันของเราทั้งสองคนต้องผ่านไปอย่างอับเฉาอย่างที่ไม่สามารถเรียกคืนได้ เพราะกฎเกณฑ์ของสังคมทำให้เราไม่เป็นตัวของตัวเอง ทั้งรู้สึกว่าทุกอย่างไม่มีคำว่าสายเกินไป แม้เราทั้งสองจะอยู่ในวัยเลข 3 แล้วก็ตาม ขอเพียงแต่ผมพร้อมที่จะเริ่มมันอีกครั้ง… ความสำเร็จของผมอยู่แค่เอื้อม ขอเพียงผมเดินหน้าต่อไปอีกเล็กน้อย ผมก็คงสามารถเริ่มต้นกับพี่ยศฉันท์คนรักได้ แต่จะให้ผมครอบครองคนที่มีครอบครัวแล้วกระนั้นหรือ…
2 n8 ~6 {$ o1 P7 i: a5 Y"ผมก็เคยรักพี่ยศครับ…" ผมเน้นคำว่า 'เคย' เป็นพิเศษ "ตอนอยู่ปีหนึ่งผมติดพี่มาก พี่ดีกับผมทุกอย่าง ผมแอบรักพี่ตั้งแต่ตอนนั้นแหละครับ"3 O5 S, j9 _+ c7 b4 P% X
"แล้วตอนนี้ล่ะ" พี่ยศรุก' O3 V/ f2 u2 _9 M( N
… เงียบ ไม่มีคำตอบจากผม
: L; h  |9 ?2 J8 Y  T; _6 h( o7 A"พี่รู้นะว่าเป้คิดยังไง แต่พี่อยากฟังจากปากของเป้เองมากกว่า" พี่ยศคาดคั้น* |; }) q  v7 c" a$ R+ k: K
"ผมไม่ทราบครับ" ผมว่า สายตามองต่ำเพื่อหลบสายตาของพี่ยศ "ผมอยากจะรักพี่ครับ แต่ผมไม่กล้ารัก"$ O0 J2 s2 k' X
"เพราะว่าพี่มีครอบครัวแล้วใช่ไหม มันไม่เกี่ยวกันนะเป้ เป้อย่าเข้าใจผิด ที่พี่อยากรู้จากเป้ก็เพียงเพื่อว่า … เพียงเพื่อยืนยันว่าพี่ไม่ได้คิดไปเองข้างเดียว เท่านั้นแหละที่พี่ต้องการ" พี่ยศอธิบาย9 ~" R" m7 l8 C! [: Z4 Y7 g3 A
ถึงตอนนี้ผมเงยหน้าขึ้นมองพี่ยศแล้วตัดสินใจตอบออกไป ก็ดีเหมือนกัน จะได้รู้ความในใจกันไป ไม่ต้องคอยปกปิดกันอีก สิบกว่าปีก่อนที่เราสองคนพลาดก็เพราะปกปิดความในใจนี้ไว้ การเปิดใจต่อกันน่าจะดีกว่า "ครับพี่ ผมรักพี่ ตอนนั้นผมเคยรักพี่ ถึงเดี๋ยวนี้ผมก็ยังรักพี่" หยุดนิดหนึ่งแล้วพูดต่อ "แต่ที่ผมคบกับพี่ทุกวันนี้ไม่ใช่เพราะว่าผมต้องการแย่งพี่มาครอบครองนะครับ ผมรักพี่ป้อม รักโตกับเล็กด้วย ผมไม่ต้องการทำลายครอบครัวของพี่ ผมเพียงต้องการได้รับความอบอุ่นใจเล็กๆน้อยๆจากการได้อยู่ใกล้ชิดพี่เท่านั้นเองครับ แค่นั้นก็พอแล้วสำหรับผม") `% ^. U; K+ L2 `5 N- j% ?; q( D+ I
พี่ยศลุกขึ้นยืนแล้วดึงผมมากอดอีกครั้ง เหมือนกับจะปลอบใจน้องน้อยให้หายผิดหวัง เรากอดกกันแน่น ถ่ายทอดความในใจแก่กันด้วยสัมผัสทางกายอันอบอุ่น
- ?+ v( h- v, n! G: Z"ขอบใจมากเป้ ดีใจที่ในที่สุดพี่ก็ได้รู้ความในใจของเป้" พี่ยศพูด แล้วคลายกอดจากตัวผม "แล้วชีวิตรักที่ผ่านมาของเป้เป็นยังไงบ้างล่ะ เป้ไม่เคยพบใครที่ … ที่ …" พี่ยศพยายามจะถามเกี่ยวกับเรื่องความรักของผม แต่ก็นึกคำถามที่เหมาะสมไม่ถูก จึงพูดอย่างตะกุกตะกัก แต่ผมก็เข้าใจความหมายของคำถามนี้ดี. r; `+ x  b% r* K& ^% E
"หลังจากที่ผมเรียนจบแล้วผมเคยมีความรัก 2 ครั้งครับ ครั้งแรกเราคบกันได้เพียงปีกว่าๆ รักครั้งนั้น … ไม่ใช่สิครับ มันเป็นครั้งที่ 2 เพราะรักครั้งแรกของผมก็คือพี่ครับ" ผมพูด "ผมคิดว่ามันเป็นความรักที่ค่อนข้างฉาบฉวย คงเป็นเพราะตอนนั้นยังเด็กกระมังครับ คบกันง่าย เป็นแฟนกันง่ายๆ"/ W5 d- _0 t. [$ Q/ S' L. d8 E) a
"แล้วครั้งที่สาม…" พี่ยศถาม' }$ {6 W7 U" }  d$ V( l! \) V
"ครั้งที่สามนี้ต่างกันครับ เราจริงจังต่อกันมาก และฝันว่าจะได้มีชีวิตคู่ที่อบอุ่น เราคบกันมาถึง 6 ปี แต่แล้วมันก็กลายเป็นฝันสลายครับ เพราะพออยู่กันไปนานๆนิสัยเดิมของเขาก็เริ่มแสดงออกมา แฟนของผมเจ้าชู้มากครับ ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเลิกกับผมเพื่อไปอยู่กับคนใหม่ที่เขาคิดว่าดีกว่าและเหมาะกับเขามากกว่า" ผมเล่าไปเรื่อยๆ ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ผมคงรู้สึกเจ็บปวดเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ แต่ตอนนี้ผมกลับไม่รู้สึกอะไรแล้ว น่าแปลกที่แผลใจของผมซึ่งผมคิดว่ามันจะไม่มีวันหายกลับหายสนิท คงเป็นเพราะพี่ยศเป็นยารักษาแผลใจให้ผมนั่นเอง# V+ M3 o6 W! f, r
"เอ้อ… แฟนของเป้นี่เป็นหญิงหรือชาย" พี่ยศถามอย่างไม่แน่ใจ
7 n5 y  V; u. k( x' q. p- ~"ผมหมายถึงผู้ชายครับ" ผมยิ้ม พี่ยศนี่ช่างไร้เดียงสาในเส้นทางสีม่วงเสียจริง "ผมก็เคยคิดจะมีแฟนเป็นผู้หญิงครับ แต่แล้วก็มาได้คิดว่ามีแล้วจะมีประโยชน์อะไร เพราะมันไม่ใช่ตัวตนของเรา ถึงมีไปชีวิตก็คงไม่มีความสุข รวมทั้งชีวิตของฝ่ายหญิงด้วยครับ ก็เลยไม่คิดที่จะมีแต่งงานมีครอบครัว กับแฟน 2 คนที่คบกันมานี่ก็ต้องคบกันแบบหลบๆซ่อนๆครับ ซึ่งก็เป็นธรรมดาของสังคมไทยที่ยังไม่ยอมรับเรื่องเกย์เท่าไร" ผมอธิบาย, e/ T2 I$ f+ H! ?' x1 t
สีหน้าพี่ยศแสดงอาการครุ่นคิด คงกำลังตรึกตรองอะไรบางอย่างจากคำพูดของผม เมื่อเห็นว่าเป็นเวลาดึกมากแล้วพี่ยศก็จบการสนทนาในคืนนั้นลง "ดึกแล้ว เราพักผ่อนกันดีกว่า คืนนี้พี่จะอยู่เป็นเพื่อนเป้เอง ตกลงนะ"
' E  p! o; p5 M6 v. Fคราวนี้ผมไม่ปฏิเสธ พี่ยศไม่ได้เตรียมมาค้างคืนที่นี่ ผมจึงจัดชุดนอนของผมให้ เนื่องจากขนาดตัวของเราไล่เลี่ยกัน พี่ยศจึงใส่ชุดนอนของผมได้พอดี หลังจากที่พี่ยศโทรศัพท์บอกทางบ้านเสร็จก็อาบน้ำและเข้านอน เรานอนในห้องเดียวกันคือห้องของผม ผมให้พี่ยศนอนเตียง ส่วนผมนอนข้างล่าง เราเข้านอนโดยไม่ได้ล่วงเกินอะไรกัน เพราะต่างก็เข้าใจสถานการณ์และสถานภาพของตนเองดี
0 s6 K( J3 e4 r9 \ดึกแล้ว … ผมนอนลืมตาโพลง แม้จะเหนื่อยแต่ก็ยังไม่หลับ สมองนึกทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนที่เราสารภาพความในใจกันซ้ำไปซ้ำมา มันช่างเป็นเวลาที่ดีและอบอุ่นเสียนี่กระไร ผมไม่กล้าไปนึกถึงอนาคต เพราะรู้ดีว่าความรักแบบนี้ต้องไม่มีผลลัพธ์ที่ดีแน่นอน สุดท้ายคงต้องลงเอยด้วยความเจ็บปวด ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าคราวนี้จะมีความเข้มแข็งพอที่จะรับมันได้หรือไม่ แต่ขณะเดียวกันผมก็ไม่เข้มแข็งพอที่จะถอนตัวออกมาตั้งแต่ตอนนี้ ผมคิดโน่นคิดนี่จนกระทั่งหลับไปโดยไม่รู้ตัว& e; D; O  b! B" Z
หลังจากวันนั้นเป็นต้นมา ผมกับพี่ยศยิ่งสนิทสนมกันมากกว่าเดิม คล้ายกับเป็นเพื่อนหรือเป็นพี่น้องที่รู้ใจกัน หรือหากจะอธิบายให้ใกล้เคียงยิ่งกว่านี้ก็คงต้องบอกว่าเราเหมือนเป็นคู่รักที่หวานชื่น เพียงแต่ว่าไม่มีการล่วงเกินกันทางร่างกายเท่านั้นเอง ชีวิตช่วงนี้เป็นช่วงที่ผมมีความสุขมาก ผมได้รักครั้งแรกที่เคยคิดว่าสูญเสียมันไปแล้วกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง คิดดูสิครับว่ามันเป็นความรู้สึกที่ดีเพียงใด
9 Y4 K# T: m! r3 cเราโทรศัพท์คุยกันทุกวัน นอกจากนั้นบางวันเราก็ยังได้เจอกันอีกด้วย ปกติตอนเย็นพี่ยศจะไปเล่นเวทที่ศูนย์ฟิตเนสใกล้บ้านเป็นประจำ ผมก็เลยไปสมัครเป็นสมาชิกที่นั่นด้วย ที่นี่เองที่ทำให้เรามีโอกาสพบกันเกือบทุกวัน บางวันเราก็ไปเดินซื้อของด้วยกัน เปลือกนอกเราก็เหมือนพี่น้องหรือเพื่อนกัน ซึ่งใครๆที่รู้จักพี่ยศก็คงไม่สงสัยอะไรเพราะว่าพี่ยศมีลูกมีเมียแล้ว คงคิดว่าผมเป็นญาติหรือน้องชาย
) J; Q, w0 j: @. X2 Mส่วนวันเสาร์นั้นผมก็ยังไปสอนพิเศษให้โตที่บ้านตามปกติ และยิ่งไปกว่านั้น บางครั้งยังนอนค้างที่บ้านพี่ยศเสียด้วย โดยให้ผมนอนกับแกที่ห้อง ซึ่งผมไม่เคยปฏิเสธเลย ดีเสียอีกที่ได้มีโอกาสคลุกคลีใกล้ชิดกับพี่ยศ หลายครั้งเข้าผมก็เลยนอนที่บ้านพี่ยศทุกเสาร์ไปเสียเลย ซึ่งเมื่อถึงตอนนี้แล้วผมสนิทสนมกับครอบครัวของพี่ยศมาก ทุกคนเข้ากับผมได้ดี แต่ผมอดรู้สึกผิดในใจลึกๆกับพี่ป้อมไม่ได้ แม้ว่าผมจะไม่มีอะไรกับพี่ยศทางร่างกายดังนั้นจึงไม่อาจเรียกได้ว่าผม 'แย่ง' พี่ยศมาก็ตาม แต่มโนธรรมของผมก็มักติเตียนผมในเรื่องนี้อยู่เสมอ/ e$ Z2 W# P/ p2 w* {
หลายครั้งที่ผมเคยคิดทบทวนเรื่องความสัมพันธ์ในลักษณะนี้ว่าในที่สุดจะลงเอยอย่างไร แต่ผมก็ไม่กล้าคิดไปจนได้คำตอบ รวมทั้งผมก็ไม่กล้าถามพี่ยศเรื่องนี้ด้วย ซึ่งผมคาดว่าพี่ยศก็คงคิดไม่ตกเหมือนกัน เพราะสังเกตว่าพี่ยศไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องอนาคตข้างหน้ากับผมเลย
- i+ l1 v% d" {2 W) o. Fสติสั่งให้ผมรีบถอนตัวโดยเร็วที่สุด ก่อนที่จะถลำลึกยิ่งไปกว่านี้ แต่อารมณ์สั่งให้ผมเก็บเกี่ยวความอบอุ่นจากพี่ยศต่อไป สองฝ่ายในตัวผมต่อสู้กันอยู่เสมอ และผมก็มักเลือกเชื่ออารมณ์ … และนี่เองที่นำไปสู่ความผิดครั้งใหญ่ของผมและพี่ยศ# O* \$ A( s2 r* U& R
บ่ายวันหนึ่ง ขณะที่ผมกับพี่ยศกำลังนั่งอบซาวน่ากันอยู่ในศูนย์ฟิตเนส ห้องซาวน่าที่นี่มีคนใช้น้อยมากในเวลาบ่ายถึงเย็น ผมกับพี่ยศนั่งอยู่ตั้งนานก็ยังไม่มีใครมาร่วมวงอบซาวน่าด้วยเลย ซึ่งมันก็มักเป็นอย่างนี้เสมอที่ผมกับพี่ยศได้อบซาวน่ากันสองคน วันนั้นเราไปถึงฟิตเนสราวบ่ายสามโมง พี่ยศทำธุรกิจส่วนตัวจึงไม่มีปัญหาเรื่องเวลาทำงาน ส่วนผมก็เสร็จงานที่ไซต์แล้ว เวลาหลังจากนั้นจึงอิสระ
. ?  Q/ H( s. v. \ปกติเราสองคนเคยไปไหนมาไหนด้วยกัน อบซาวน่าด้วยกัน หรือแม้แต่เคยนอนห้องเดียวกัน เราก็ไม่เคยล่วงเกินกันเลย เพราะต่างรู้ดีว่าขอบเขตควรอยู่แค่ไหน ทั้งๆที่ใจจริงอยากจะไปให้เลยขอบเขตนั้นก็ตาม
0 W& F. N  C$ E( z  ~แต่วันนี้ ขณะที่ผมนั่งอบซาวน่าโดยผมนั่งอยู่บนม้ายาวตัวหนึ่ง และพี่ยศนั่งอยู่บนม้ายาวด้านตรงข้าม เราสองคนนั่งเงียบ ผมปล่อยใจให้คิดอะไรต่ออะไรไปเรื่อยเปื่อย ส่วนสายตาก็จับจ้องที่ใบหน้าพี่ยศอย่างลืมตัว ใบหน้าของพี่ยศดูดีมาก แม้ไม่หล่อเหมือนนายแบบ แต่ก็ดูเท่ เข้มแข็ง อบอุ่น และน่าสนิทสนมด้วย ภายใต้ผ้าขนหนูผืนเล็กผืนเดียวที่พันกายพี่ยศอยู่ ทำให้ผมเห็นเรือนร่างของพี่ยศได้เกือบทั้งหมด เรือนร่างที่แข็งแรง แม้ไม่บึกบึนแต่ก็มีกล้ามพองามตามแบบของคนที่เล่นเวทเป็นประจำ ท่อนขาที่แข็งแรง ปลีน่องที่มีขนรุงรัง ฯลฯ เรือนร่างนั้นช่างเซ็กซี่สำหรับผมเสียนี่กระไร ผมใช้สายตาโลมไล้เรือนกายของพี่ยศอย่างลืมตัวซึ่งเป็นเรื่องที่ผมไม่เคยทำมาก่อน( f7 V- I3 G# Z8 C
และแล้ว ผมก็เริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกายของผม ท่อนลำที่ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ผ้าขนหนูผืนเล็กของผมก็เริ่มขยายตัวอย่างไม่อาจควบคุมได้ ผ้าขนหนูที่พันกายสำหรับอบซาวน่านั้นมีขนาดเล็กนิดเดียว มันจะไปปกปิดอะไรได้ ท่อนลำของผมจึงชูชันเหมือนเสาค้ำผ้าขนหนูอยู่ ซึ่งพี่ยศที่นั่งอยู่ตรงข้ามเห็นได้อย่างถนัด0 A: I0 m2 B9 F( W- c
ผมรู้สึกอายพี่ยศ แม้เราจะสนิทกัน … หรือเรียกได้ว่ารักกัน และผมก็เคยรู้สึกเกิดอารมณ์เพศกับพี่ยศ แต่นั่นก็เป็นตอนที่พี่ยศไม่อาจเห็นหรือรับรู้ได้ เราไม่เคยสนทนากันถึงเรื่องเซ็กซ์เลยเพราะต่างฝ่ายต่างก็รู้ว่าแค่คบกันแบบนี้ก็รู้สึกผิดในใจอยู่พอสมควรแล้ว ดังนั้นจึงกระดากที่จะคุยเรื่องเซ็กซ์กัน ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพี่ยศเคยเกิดอารมณ์กับผมหรือเปล่า แต่ในวันนี้ ร่างกายของผมได้ฟ้องความต้องการของตนเองออกมาแล้ว และพี่ยศก็กำลังจับจ้องดูมันอย่างตาไม่กระพริบ
7 e# }7 J6 u* U9 D

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
พลังน้ำใจ
79626
Zenny
205823
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:15:27 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(7) : เพลงบาป 5 X% ?0 d2 ^  P2 r

  ^/ g( u. x6 l6 B, Xท่อนลำของผมชูชันอยู่ภายใต้ผ้าขนหนูด้วยอารมณ์ปรารถนาที่เก็บซ่อนไว้มานาน ขณะเดียวกันผมก็สังเกตเห็นว่าผ้าขนหนูที่พันท่อนล่างของพี่ยศก็เริ่มโป่งพองขึ้นเช่นกัน2 s/ U6 _7 v0 o& @
พี่ยศมองหน้าผม ดวงตาเป็นประกายจนผมไม่กล้าที่จะตีความหมายในสายตาของพี่ยศ จากนั้นพี่ยศก็ลุกขึ้นมานั่งข้างๆผม ท่อนลำของพี่ยศชูชันเต็มที่ ใจของผมนั้นปรารถนาที่จะปลดผ้าขนหนูผืนน้อยนั้นลงมาเสียเหลือเกิน แต่ก็ไม่กล้าทำ ขณะนั้นผมทำอะไรไม่ถูก ใจสั่น มันสับสนไปหมด เพราะสิ่งที่ผมทั้งอยากให้มันเกิดขึ้น และในขณะเดียวกันก็กลัวว่ามันจะเกิดขึ้น ผมกำลังมาถึงทางสองแพร่งแล้ว มันจะเกิดขึ้นหรือไม่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเราสองคน ผมเองในขณะนั้นก็ตัดสินใจไม่ถูกเหมือนกัน มโนธรรมของผมพยายามตักเตือนให้ผมหยุดการกระทำนี้เสีย เหมือนอย่างที่เคยเตือนผมมาตลอดและผมก็มักไม่ยอมฟัง คราวนี้ผมควรจะฟังหรือไม่?6 u* b3 a4 B) L3 k4 W0 M; ?8 ~
พี่ยศเอาท่อนแขนมาโอบไหล่ผมและกระชับตัวผมให้เข้าใกล้ ร่างกายท่อนบนที่เปลือยเปล่าและชุ่มไปด้วยเหงื่อของเราสองคนเสียดสีกัน ผมซบศีรษะลงกับหัวไหล่ของพี่ยศ ผมสามารถรับรู้กลิ่นกายของพี่ยศ สำหรับผมแล้วมันช่างหอมกรุ่นเสียนี่กระไร ผมอยากให้พี่ยศโอบผมเช่นนี้ไปนานๆ 6 P2 |1 k- `% _) Y$ ~- I
พี่ยศนิ่งไปชั่วครู่ สัญชาติญาณของผมบอกว่าพี่ยศกำลังตัดสินใจเรื่องที่สำคัญมากอย่างหนึ่ง พี่ยศคงกำลังสับสนที่จะตัดสินใจเลือกทางเดินเช่นเดียวกับผม เสียงมโนธรรมของผมยังคงร้องเตือนก้องในหูของผมให้รีบผละออกมา แต่เสียงนั้นยิ่งนานยิ่งอ่อนล้า…& M$ N# S6 j% i9 q& u; d- X
ทันใดนั้นพี่ยศเปลี่ยนจากการโอบมาเป็นการกอด แล้วโน้มหน้ามาซุกไซร้ติ่งหูและซอกคอของผม ผมรู้สึกเสียวซ่านอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน เพียงเท่านี้ผมก็รู้แล้วว่าพี่ยศตัดสินใจอย่างไร และแล้ว ผมก็กำหนดการตัดสินใจของตนเองเช่นกัน , g; v( U! D7 a- r* Q
เสียงของมโนธรรมในหูของผมเงียบหายไปแล้ว คงเหลือแต่เพียงเสียงหอบหายใจอย่างเร่าร้อนของเราสองคน ผมตอบสนองพี่ยศด้วยการก้มหน้าลงซุกไซร้หน้าอกอันบึกบึนและหัวนมสีชมพูของพี่ยศเช่นกัน เสียงหอบหายใจของเราสองคนนี้คล้ายบทเพลงประสานเสียงที่ร้อนแรงและช่วยทวีความเร่าร้อนของอารมณ์ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นเหมือนบทเพลงแห่งความบาปที่ล่อลวงเราสองคนให้กระทำผิดอย่างที่ไม่อาจถอนตัวได้ …
6 G- D. \0 y; y' K5 b* wเมื่อปลายลิ้นของผมสัมผัสกับหัวนมของพี่ยศ มันแข็งตัวเป็นไตทันที พี่ยศตัวสั่นสะท้าน กอดผมไว้แน่น ถึงตอนนี้ผมยับยั้งใจไว้ไม่ไหวแล้ว ผมเอื้อมมือตะปบไปที่ผ้าขนหนูตรงท่อนลำของพี่ยศ มันแข็งแกร่งราวกับจะแตกระเบิดออกมา
7 L0 N  v) Q* ]1 {' |3 Qพี่ยศไม่ยอมน้อยหน้า ปลดผ้าขนหนูของตนเองออกจากเอวเพื่อให้ผมจับท่อนลำได้ถนัด พร้อมกับเอื้อมมือมาปลดผ้าของหนูออกจากตัวผมและคว้าท่อนลำของผมไว้เช่นกัน ร่างท่อนบนของเราโอบรัดและซุกไซร้กัน ส่วนท่อนล่างก็ใช้มือลูบไล้กันอย่างเร่าร้อน
! v0 j( x$ \1 f* }9 {+ ]9 e) M"ไปที่อื่นเถอะเป้ อยู่นี่เดี๋ยวคนมาเห็นเข้า" พี่ยศบอก พลางผละออกจากตัวผม และเอาผ้าขนหนูมานุ่งตามเดิม ผมจำใจต้องหยุดด้วยความเสียดาย แต่ก็จริงอย่างที่พี่ยศว่า เพราะแม้ห้องซาวน่านี้ปกติจะไม่มีคนอื่นเลยในเวลานี้ แต่อย่างไรเราก็ไม่ควรประมาท0 U/ t& P5 i1 P0 F* \% e
"ไปที่ไหนดีละครับ" ผมถาม   @3 W* r, y# l- I
"ออกไปก่อนละกัน เดี๋ยวค่อยนึก" พี่ยศว่า 0 `: y5 [- W( ?% C) o) }; }' y
เราอาบน้ำแต่งตัว และขับรถออกจากซาวน่าโดยผมขับรถตามพี่ยศออกมา พี่ยศขับวนไปเวียนมา คล้ายกับจะหาที่แวะ แต่ก็ไม่รู้จะแวะที่ไหน ในที่สุดก็ต้องลงมาปรึกษากัน พี่ยศเสนอว่าไปที่บ้านผม แต่ผมบอกพี่ยศไปว่าตะขิดตะขวงใจ เพราะรู้สึกอายแม่ แม้แม่จะจากไปแล้ว แต่ผมก็ยังมักคิดอยู่เสมอว่าแม่ยังอยู่คุ้มครองผมและบ้านหลังนั้น จึงไม่อยากทำเรื่องนี้ในบ้านให้แม่เห็น เราสองคนเห็นพ้องกันว่าไม่ควรไปตามโรงแรมม่านรูด เพราะอาจมีคนเห็นเราหรือจำรถได้ คิดไปคิดมาก็ได้ข้อสรุปว่าไปที่บ้านของพี่ยศ
" B' ~( q8 d% H2 R1 H6 g1 J; rเราไปถึงที่บ้านของพี่ยศหลังบ่ายสี่โมงเล็กน้อย ซึ่งเวลานั้นปกติแล้วยังไม่มีใครกลับบ้าน พี่ป้อมมักจะกลับบ้านราว 6 โมงเย็น ส่วนโตกับเล็กก็เช่นกันเพราะอยู่เล่นกีฬาหลังเลิกเรียน อย่างเร็วก็ 5 โมงกว่า ดังนั้นทางของเราจึงสะดวก แต่ถึงคนในบ้านจะกลับมาก่อนเวลาเราก็จะได้ยินเสียงเปิดประตูก่อน
5 I* e& L  R9 k$ O. x; @เมื่อมาถึงบ้านของพี่ยศ เราสองไม่รอช้า พากันเดินขึ้นไปชั้นบน เมื่อถึงชั้นบน พี่ยศนิ่งไปชั่วครู่ ผมเดาใจพี่ยศออก พี่ยศคงรู้สึกละอายใจเหมือนกันที่จะพาผมเข้าไปในห้องนอน เพราะห้องนั้นเป็นของทั้งพี่ยศและพี่ป้อม ผมเองก็รู้สึกไม่สบายใจที่จะใช้ห้องนั้นและนอนบนเตียงนั้นเหมือนกัน
% }4 o; p3 ?" t9 l$ B9 j' }# C"ไปห้องโตก็แล้วกันครับ ใช้ฟูกที่ผมนอนก็ได้" ผมเสนอ ก็คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้วในตอนนั้น
) O5 N9 G3 l  y% H8 cเมื่อไปถึงห้องของโตซึ่งเป็นห้องที่ผมใช้นอนเป็นประจำเวลามาพักที่นี่ ทันทีที่เราเข้ามาในห้อง เราสองคนไม่รอช้า ต่างคนต่างก็โถมเข้าหากัน เรายืนกอดและซุกไซร้กัน ขณะที่ผมกอดพี่ยศอยู่นั้น มือซนของพี่ยศก็ลูบไล้และขยำบั้นท้ายของผมอย่างมันมือ พร้อมทั้งเบียดท้องน้อยของตนเองมาบดขยี้กับท้องน้อยของผมด้วยอารมณ์อันเร่าร้อน ผมเพิ่งตระหนักถึงอีกด้านหนึ่งของพี่ยศที่ผมไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย นั่นคือด้านที่เร่าร้อนและเร้าใจ และแล้ว เพลงบาปที่หยุดบรรเลงไปชั่วครู่ก็เริ่มบรรเลงต่อไป4 F9 \" O5 A$ e
ผมเอาฟูกมาปูเหมือนอย่างที่เคยทำ และแล้วเราทั้งคู่ก็ล้มตัวลงและกอดก่ายกันบนฟูกทั้งเสื้อผ้า… เราก็ประกบปากกัน พร้อมทั้งแลกลิ้นกันอย่างเร่าร้อน ร่างท่อนล่างของเราก็บดขยี้กัน ผมสามารถรับรู้ถึงความแข็งแกร่งของท่อนลำพี่ยศได้แม้จะมีกางเกงกางกั้นอยู่
) o. S/ x# z! G" n# mไม่รอช้า เราสองต่างช่วยกันปลดเปลื้องเสื้อผ้าของกันและกัน ไฟปรารถนาของเราทั้งสองคุโชนเต็มที่อย่างที่ไม่มีอะไรจะมายับยั้งได้อีกแล้ว และแล้ว เราทั้งสองก็อยู่ในสภาพเกือบเปลือยเปล่า มีเพียงกางเกงในติดกายเท่านั้น กลิ่นกายของพี่ยศกระตุ้นอารมณ์ของผมให้กระเจิดกระเจิง ผมโถมลงไปบนตัวพี่ยศและซุกไซร้หน้าอก ลำตัว ระเรื่อยไปจนถึงหน้าท้องอย่างเมามัน ขนที่หน้าท้องของพี่ยศเริ่มที่สะดือและลามหายเข้าไปในกางเกงใน ผมตามไซร้จากสะดือไปจนถึงขอบกางเกงใน และที่นั่นเอง ผมก็ได้เห็นกางเกงในอันโป่งพองของพี่ยศอย่างใกล้ชิด กลิ่นอับชื้นของกางเกงในที่ใส่มาทั้งวันแทนที่จะทำให้ผมรู้สึกไม่ดี ตรงกันข้าม ผมกลับรู้สึกว่ามันรัญจวนใจอย่างประหลาด ผมก้มลงไปงับท่อนลำที่โป่งพองอยู่ในกางเกงในทันที( W/ S( v3 R2 l  P' o( d4 w  R- P
ผมรู้สึกคล้ายกำลังงับใส่เสาหิน มันแข็งเกร็งมาก พี่ยศสะดุ้งเฮือก บิดตัวไปมา จะว่าไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนหรืออย่างไรก็สุดคาดเดาได้ ผมโลมไล้อยู่ภายนอกกางเกงในเป็นเวลานานจนพี่ยศทนไม่ได้! |  V+ E5 `5 ~. m- x
"เป้ จะทำอะไรก็ทำเถอะ พี่ทนไม่ไหวแล้ว" พี่ยศขอร้อง พร้อมทั้งส่งเสียงครางด้วยความเสียวซ่าน 5 E  ?, ]' ^  k( s4 s! F
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ผมจึงถอนปากจากกางเกงในของพี่ยศ แล้วดึงกางเกงในของพี่ยศลง ท่อนลำของพี่ยศก็ดีดผึงออกมา มันสวยงามมาก ตั้งตรงและแข็งแกร่ง ท่อนลำของพี่ยศมีสีคล้ำกว่าร่างกายส่วนอื่นเล็กน้อย คงเป็นเพราะใช้งานมามากนั่นเอง ส่วนปลายของท่อนลำเปิดได้ครึ่งหัว ทำให้เห็นดอกเห็ดสีแดงคล้ำเพียงครึ่งเดียว ส่วนปลายดอกเห็ดเยิ้มฉ่ำไปด้วยน้ำหล่อลื่นอันเหนียวข้น & c8 S( O+ i+ {! S$ Z
ผมยังไม่ลงมือโจมตีท่อนลำของพี่ยศ แต่ยังคงวนเวียนซุกไซร้อยู่ตามหน้าท้องและกลุ่มมุ่นไหมอันดกดำของพี่ยศ ซึ่งมันทำให้พี่ยศเกร็งไปทั้งตัว ท่อนลำเบ่งพองด้วยความกำหนัด และที่ปลายมีหยดน้ำเหนียวข้นหลั่งออกมามากมายจนย้อยหยดลงมาตามท่อนลำ
; n0 Y* [7 F' I: a( D$ qผมละจากกลุ่มไหมที่ทั้งดกและนุ่ม อ้อมลงมาที่พวงสวรรค์ของพี่ยศ ผมใช้ลิ้นวนและดูดไปมาจนพี่ยศดิ้นพราด และอย่างคาดไม่ถึง พี่ยศจับศีรษะของผมแน่นแล้วเอาท่อนลำมาแนบกับใบหน้าของผมและถูไถไปมา คล้ายกับพยายามจะหาช่องทางเข้ามาในปากของผม พี่ยศคงสุดจะกลั้นแล้ว ผมจึงสนองด้วยการปล่อยให้พี่ยศถูไถท่อนลำไปมา จากนั้นจึงเริ่มโจมตีการใช้ริมฝีปากขบท่อนลำของพี่ยศเอาไว้ พร้อมทั้งใช้ปากรูดไล้ไปมา; e. V+ ~3 a0 ]2 b4 q
พี่ยศร้องครวญคราง บิดตัวไปมา ผมเริ่มปฏิบัติการโจมตีขั้นต่อไป จากการขบท่อนลำมาเป็นการเอาปากครอบลงไป พร้อมทั้งใช้ลิ้นวนที่ปลายดอกเห็ดซึ่งเยิ้มฉ่ำ ขณะเดียวกันก็รูดปากลงเพื่อปอกดอกเห็ดของพี่ยศให้พ้นจากสิ่งปกคลุม
* W' v/ I; p4 dพี่ยศร้องครางเสียงดัง ฟังไม่ได้ศัพท์ ขณะที่ผมยังบรรจงรูดปากขึ้นลงและใช้ลิ้นฉกปลายท่อนลำของพี่ยศ เพียงครู่เดียว พี่ยศก็ทนไม่ไหว จับศีรษะของผมไว้แน่นพร้อมทั้งกระดกเอวขึ้นลงอย่างรุนแรง มันเป็นการกระทำที่รุนแรงมากจนปากของผมเจ็บระบมไปหมด แต่ผมก็ยอมทน และรู้ดีว่าพี่ยศกำลังเพลินเพลินจนลืมตัวและมาถึงจุดสำคัญแล้ว ผมขยับหัวขึ้นลงเพื่อเสริมแรงกระแทกของพี่ยศให้ดุดันยิ่งขึ้น เพื่อให้พี่ยศมีความสุขมากๆ…3 m+ `1 Z) z* H! _" a: z/ X! w
และแล้ว จุดวิกฤตก็มาถึง พี่ยศตัวเกร็ง หยุดเคลื่อนไหว ขณะเดียวกันท่อนลำของพี่ยศก็กระแทกเข้าปากผมจึงถึงคอหอย พร้อมทั้งกระตุกเป็นจังหวะ ผมรู้สึกถึงของเหลวอุ่นๆที่พุ่งเข้าไปในคอของผมตามจังหวะการกระตุกของท่อนลำ มันมากเหลือเกิน ทั้งมากและคาว บางส่วนผมก็กลืนเข้าไปแต่บางส่วนก็ไหลออกมาเป็นทางตามมุมปาก
- D  W# N* \& A$ P& yหลังจากพายุร้ายผ่านไป คลื่นลมก็สงบลง ผมปล่อยให้ท่อนลำของพี่ยศคาอยู่ในปากอย่างนั้น อยากคามันไว้ให้นานที่สุด " N" H0 [  C4 O' y# ?
เมื่อผมขบท่อนลำ ของเหลวอุ่นๆของพี่ยศก็หลั่งเข้ามาในปากผมอีก ผมจึงใช้ปากรีดเอาน้ำรักส่วนที่ค้างอยู่ในท่อนลำออกมาให้มากที่สุด พร้อมทั้งใช้ลิ้นค่อยๆวนเวียนชำระท่อนลำให้พี่ยศจนสะอาด ขณะที่ผมดำเนินการอยู่นี้ พี่ยศก็ยังคงร้องครวญครางและบิดตัวไปมาด้วยความเสียวซ่านตลอดเวลา8 T  I2 t5 Q9 N( J8 o/ p
"พอแล้วล่ะเป้ ขอบใจมาก" พี่ยศบอก พร้อมทั้งดึงตัวผมเข้ามากอด ร่างของผมจึงทับพี่ยศเอาไว้ "พี่ไม่เคยมีความสุขอย่างนี้มาก่อนเลย" พี่ยศกระซิบเบาๆที่ข้างหูผมด้วยความรักใคร่
5 z  p( y, Y  G. b! Y; a"จริงหรือครับ ไม่น่าเชื่อเลย" ผมพูด ใจก็นึกจินตนาการภาพพี่ยศกำลังบรรเลงเพลงรักกับผู้หญิงคนหนึ่งอย่างถึงพริกถึงขิง "พี่น่าจะผ่านประสบการณ์มาเยอะแล้ว"
3 ^4 b- ^( P* n' s8 y"มันก็ใช่ แต่นั่นไม่ใช่ความสุขที่แท้จริงของพี่ พี่เพิ่งรู้ความจริงเดี๋ยวนี้เองว่าความสุขที่พี่เคยได้รับจากคนอื่นนั้นมันเทียบไม่ได้กับที่พี่ได้รับจากเป้เลย เพราะนั่นไม่ใช่ธรรมชาติที่แท้จริงของพี่" พี่ยศพูด ผมรู้ดีว่า 'คนอื่น' ที่พี่ยศหมายถึงนั้นคือใคร * a! |1 `* I( k/ M5 C, a
"ผมก็มีความสุขมากเช่นกันครับ ที่ทำให้คนที่ผมรักมากที่สุดมีความสุข" ผมพูด$ B. s2 j& Q8 K) a. m8 O+ z
"ยังหรอก เป้ยังพูดอย่างนั้นไม่ได้ เพราะว่าเป้เพิ่งจะ 'ให้' พี่โดยที่ยังไม่ได้รับอะไรเลย คราวนี้ถึงคราวที่พี่จะตอบแทนเป้บ้างแล้วล่ะ" ว่าแล้วพี่ยศก็พลิกตัวผมให้นอนหงายอยู่บนฟูก แล้วตนเองขึ้นไปนอนอยู่บนตัวผมแทน… . B& q0 E! W) U2 g7 b

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
พลังน้ำใจ
79626
Zenny
205823
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:16:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(8) : ห้วงรัก เหวลึก 3 s, e  @+ _, F7 [( z/ [, g6 J

, }! r/ ^: G  kพี่ยศบรรจงไซร้ผมจากใบหู ติ่งหู ซอกคอ เรื่อยมาจนถึงหน้าอก และเม็ดสีชมพูของผม ลีลาของพี่ยศเร่าร้อนมาก ถึงตอนนี้เองผมก็เข้าใจว่าเมื่อครู่พี่ยศรู้สึกอย่างไรตอนที่ร้องครวญคราง เพราะตอนนี้ผมก็รู้สึกเสียวซ่านอย่างสุดกลั้นเช่นกัน ผมเริ่มครวญครางออกมาบ้าง( d$ M0 @; \, A! I6 Z9 B6 Y: H( e
พี่ยศยังไม่หยุดแค่นั้น ยังคงซุกไซร้ไล่ลงมา เมื่อมาถึงกางเกงใน พี่ยศก็เลียนแบบจากสิ่งที่ผมทำให้ดูเมื่อครู่ โดยการเล้าโลมจากด้านนอกของกางเกงในก่อน พี่ยศเรียนรู้ได้เร็วทีเดียว จากนั้นชั่วครู่ พี่ยศก็เปลื้องกางเกงในของผมออก7 W& e4 k" A4 G
ท่อนลำของผมโผล่ออกมาทักทายพี่ยศ โดยไม่รอช้า พี่ยศครอบปากลงไปทันที ปากของพี่ยศเหมือนกระบอกสูบที่ทำงานอย่างช้าๆ ท่าทางพี่ยศจะไม่ชำนาญเรื่องนี้เพราะดูท่าเงอะงะ อีกทั้งฟันของพี่ยศยังมักกระแทกท่อนลำของผมจนรู้สึกเจ็บ แต่ถึงแม้จะเจ็บมันก็เป็นความสุขอย่างที่ผมไม่เคยพบมาก่อน
* N- N- Q9 T2 ^% i2 kสักพักพี่ยศดูจะชำนาญขึ้น เริ่มใช้ลิ้นตวัดที่ปลายดอกเห็ดของผมบ้าง ทำให้ผมครางเสียงหลงด้วยความเสียวอย่างสุดๆ ถึงตอนนี้ผมทนนอนต่อไปเฉยๆไม่ได้แล้ว ผมพลิกตัวขึ้นมาแล้วกลับลำตัวให้หัวไปทางปลายเท้าของพี่ยศ แล้วอ้าปากครอบท่อนลำของพี่ยศที่ขณะนี้กำลังแข็งตัวอยู่แต่ยังไม่เต็มที่- ]; u1 m# X' y3 H
เมื่อเราอยู่ในท่า 69 เราต่างก็มอบความเสียวซ่านให้แก่กันอย่างเอาเป็นเอาตาย เมื่อท่อนลำของพี่ยศอยู่ในปากของผมมันก็กลับแข็งตัวเต็มที่อย่างรวดเร็ว ดูท่าพี่ยศจะมีพลังเหลือเฟือจริงๆ เพียงครู่เดียวผมก็รู้สึกเต็มกลั้นและพร้อมที่จะระเบิดความสุขออกมาแล้ว
/ y! @: F. o6 E! |- y"พี่ครับ ผมจะแตกแล้วนะครับ" ผมเตือนพี่ยศ เผื่อว่าพี่ยศไม่อยากให้ของผมแตกในปาก พี่ยศครางเสียงอู้อี้ แทนที่จะถอนปากออกกลับโจมตีท่อนลำของผมหนักยิ่งขึ้น "งั้นผมปล่อยแล้วนะพี่" ผมรีบบอกเพราะสุดที่จะกลั้นทำนบต่อไปได้ พี่ยศไม่ตอบ ; n' T# E+ ~5 K+ a
ผมรู้สึกเสียวท้องน้อยอย่างสุดกลั้น พยายามกลั้นมันไว้ให้ได้นานที่สุดเพื่อตักตวงความสุขอย่างเต็มที่ แต่แล้วผมก็ต้องปลดปล่อยมันออกมา ท่อนลำของผมกระตุกอย่างแรงพร้อมทั้งฉีดพ่นน้ำรักเข้าไปในปากพี่ยศจนพี่ยศสำลักต้องรีบถอนปากออกมา แต่น้ำรักของผมยังไม่หมด มันยังฉีดพุ่งต่อจนเลอะหน้าพี่ยศและยังเลอะที่หน้าท้องของผมด้วย มันกระตุกพร้อมทั้งพ่นพิษออกมาราว 5-6 ครั้งก่อนที่จะหมดฤทธิ์
3 S0 _% \2 @: ^# s( l- ]"เยอะเหลือเกิน" พี่ยศพูดเบาๆ ว่าแล้วพี่ยศก็ก้มหน้าลงไปทำความสะอาดท่อนลำให้ผมเหมือนอย่างที่ผมทำเป็นตัวอย่างไว้เมื่อรอบแรก ท่าทางพี่ยศไม่ได้รังเกียจกับคราบรักที่เปื้อนใบหน้าเลย คงปล่อยมันไว้อย่างนั้นไม่เช็ดออก 5 s" E& N) M" t7 h, f2 |
"รสชาติเป็นยังไงครับ" ผมละปากจากท่อนลำของพี่ยศชั่วคราว แล้วถามยิ้มๆ "ทั้งเค็ม ทั้งคาว เป็นครั้งแรกของพี่ ยังไม่ค่อยคุ้นกับรสชาติมันเท่าไหร่" พี่ยศตอบ แล้วถามผมบ้าง "แล้วของพี่ละ"
& C! B; n, P7 f) F+ K2 w"ก็เค็มและคาวเหมือนกันครับ เป็นธรรมดา"
$ ^: K* s4 S2 }% Hพี่ยศขยับตัวลุกขึ้น คราวนี้จับผมนอนคว่ำ แล้วตัวพี่ยศก็ทอทาบลงไปบนลำตัวผม พี่ยศบรรจงซุกไซร้ต้นคอและแผ่นหลังของผมด้วยปากและจมูก ส่วนท่อนลำอันแข็งแกร่งของพี่ยศก็ซอกซอนอยู่ที่ร่องก้นของผม บางครั้งมันก็กระแทกเข้าที่ปากประตูหลัง เพียงครู่เดียว พี่ยศก็กระซิบเบาๆที่ข้างหูผม
5 S6 U/ G. r4 ]. N, B"เป้ ขอพี่เถอะนะ" เพียงเท่านี้ผมก็เข้าใจว่าพี่ยศหมายถึงอะไร ผมพยักหน้า โดยธรรมชาติของผมแล้วผมชอบเป็นฝ่ายรุกมากกว่า แต่สำหรับกับพี่ยศแล้วผมเต็มใจที่จะเป็นฝ่ายรับตามที่พี่ยศต้องการ เพราะความรักที่มีต่อพี่ยศนั่นเอง/ |( \7 Z2 J, X. G, o6 O$ d5 Y$ K& V
พี่ยศขอตัว แล้วเดินออกไปนอกห้องทั้งๆที่ตัวเปล่าเปลือย ท่อนลำชี้พุ่งไปข้างหน้า เพียงครู่เดียวก็กลับมาพร้อมกับเควายเยลลี่
5 M! }# h% X- \3 R) Z% O2 P- i$ Eพี่ยศจับผมนอนหงาย ยกขา จากนั้นทาเควายกับท่อนลำของตัวเอง แล้วค่อยๆชำแรกมันเข้าไปในถ้ำของผม ผมเจ็บมากแม้จะมีเควายช่วยหล่อลื่นก็ตามเพราะปกติผมไม่ได้เป็นฝ่ายรับ คนรักในอดีตของผมก็ล้วนแต่ชอบให้ผมเป็นฝ่ายรุก ดังนั้นประตูหลังของผมจึงไม่ค่อยได้ผ่านงานเท่าไรนัก ตอนนั้นมันไม่สนุกเลยแม้แต่น้อย ผมร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด แต่ก็พยายามทน
9 Y8 N8 {: ]# J& n& Uพี่ยศเห็นว่าถ้ำของผมฝืดมาก ก็เลยทาเควายที่ท่อนลำเพิ่มไปอีก แต่มันก็ยังฝืดอยู่ คราวนี้พี่ยศเลยบีบเควายใส่นิ้ว แล้วส่งเยลเข้าไปโดยใช้นิ้วล้วงเข้าไปในถ้ำของผม จากนั้นชักนิ้วเข้าออกเบาๆ คราวนี้ได้ผล เควายในปริมาณมากช่วยให้ผมสบายขึ้นและรู้สึกสนุกกับการกระทำของพี่ยศได้
1 c! x" `& \: D9 e) c" lพี่ยศค่อยๆเสียบท่อนลำเข้าไปจนสุด จากนั้นคาไว้ชั่วครู่เพื่อให้ผมเคยชิน จากนั้นก็โยกเข้าโยกออกช้าๆ ถึงบทนี้พี่ยศคงมีประสบการณ์มามาก จึงทำได้อย่างนุ่มนวล
3 d' \# Z5 A$ T3 o0 K. n0 m2 d0 l"คับเหลือเกินเป้" พี่ยศคราง ขณะเดียวกันก็เริ่มเร่งความเร็ว ผมเริ่มรู้สึกเสียวขึ้นมาบ้างแล้วเช่นกัน เพียงครู่เดียวท่อนลำของพี่ยศก็กลายเป็นลูกสูบที่โหมกระหน่ำเข้าใส่กระบอกสูบของผมอย่างไม่ยั้ง เสียงแผ่นเนื้อและถุงบอลของพี่ยศกระแทกก้นของผมดังพั่บๆช่วยเร้าอารมณ์ของเราทั้งสองได้มาก , e7 q6 ~# g; [3 V0 T7 K& D5 o8 `
สักพักผมก็รู้สึกฝืดและเริ่มแสบอีก พี่ยศจึงทาเควายเพิ่มให้ จากนั้นพี่ยศจึงเปลี่ยนท่าโดยให้ผมนอนคว่ำแล้วพี่ยศนอนทับอยู่บนลำตัวของผม และค่อยๆชำแรกท่อนลำเข้ามาอีกครั้ง พี่ยศซุกไซร้ลำตัวของผมอย่างเร่าร้อนในขณะที่ท่อนล่างโหมกระหน่ำใส่ถ้ำของผม แรงกระแทกทำให้ผมสั่นสะท้านไปทั้งตัว ลีลาของพี่ยศยอดเยี่ยมมาก รวมทั้งยังอดทนอีกต่างหาก เวลาผ่านไปแล้วสิบห้านาที ทาเควายเพิ่มไปหลายรอบ พี่ยศก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเสร็จ
& [5 S' G" Q0 q, b"พี่ครับ ผมไม่ไหวแล้วครับ" ผมร้องบอกพี่ยศเพราะหลังจากโดนถล่มอยู่นาน แม้มีเควายก็ยังช่วยไม่ไหว ตอนนี้ผมรู้สึกแสบไปทั้งถ้ำ * B* h: T7 Z% |/ i5 R
"ทนอีกนิดนะเป้" เมื่อพี่ยศได้ยินดังนั้นจึงเร่งความเร็วขึ้น และเพียงครู่เดียว ผมก็รู้สึกถึงของเหลวอุ่นๆจำนวนมากฉีดพุ่งอยู่ภายในถ้ำของผม 1 a) [( N0 A; q5 ^' i
พี่ยศชะลอความเร็วของลูกสูบลง ของเหลวจากตัวพี่ยศทำให้ผมรู้สึกสบายขึ้นมากเพราะมันทั้งมากและลื่น บรรเทาความแสบร้อนได้ดี เพียงครู่เดียวลูกสูบก็หยุดทำงานและพี่ยศก็ฟุบลงบนแผ่นหลังของผม
7 I2 X: o1 B' N, I+ e  `( s7 O7 f% |ผมปล่อยให้ท่อนลำของพี่ยศคาไว้และให้พี่ยศนอนพักผ่อนอยู่ในท่านั้นจนท่อนลำหลุดออกมาเอง พี่ยศหลั่งออกมาเยอะมากจริงๆ มากจนมันรั่วไปเลอะผ้าปูที่นอนเล็กน้อย และเมื่อผมลุกขึ้นยืน มันก็ยังไหลย้อยออกมาจากประตูหลังของผมลงมาตามขาอ่อน จนต้องรีบเอาทิชชู่มาซับ
, P1 V$ j  I! I1 J8 z9 U! b* `) h) \' c"พี่หลั่งเยอะจัง" ผมแซว พี่ยศยิ้มๆไม่ตอบอะไร แต่โน้มหน้ามาหอมแก้มผมอย่างเอ็นดู "ขอบใจมากเป้ นี่เป็นครั้งแรกของพี่เลยนะ หมายถึงกับ… ผู้ชายด้วยกันน่ะ"
7 M& }0 b, |) g; _ผมพยักหน้ารับทราบ รู้สึกดีใจที่เป็นผู้ชายคนแรกที่ได้นอนกับพี่ยศ แม้จะกล่าวคำว่า 'คนแรก' ได้ไม่เต็มปากนัก ต้องใช้คำว่า 'ชายคนแรก' ก็ตาม) a' v/ R. Y2 m7 O4 [
หลังจากนั้นเราทำความสะอาดร่างกายและรีบออกไปจากบ้านก่อนที่คนอื่นๆในบ้านจะกลับมา และหลังจากนั้นเป็นต้นมา พี่ยศกับผมก็มักมีอะไรกันเสมอๆ โดยใช้ที่บ้านของพี่ยศนั่นเอง เพียงแต่เลือกเวลาให้เป็นเวลาบ่ายซึ่งยังไม่มีใครกลับ ส่วนผมนั้นส่วนใหญ่จะไม่มีปัญหาในการนัดพบกับพี่ยศเพราะสามารถจัดคิวงานในแต่ละวันได้โดยไม่ให้เสียงาน
0 p0 e' Z. B! m( Wในที่สุดผมก็ได้ครอบครองพี่ยศ ความรักความสุขที่เราได้มอบให้แก่กันและกันมันมีความหมายมาก ทั้งผมและพี่ยศต่างก็รู้สึกว่าชีวิตของเราจะขาดกันและกันไม่ได้ ในขณะเดียวกันเปลือกนอกเรายังคงพยายามไม่ให้สนิทสนมกันมากเกินไปเพราะเกรงจะเป็นที่ผิดสังเกต แม้เราทั้งคู่จะมาถึงจุดที่อาจเรียกได้ว่าประสบความสำเร็จในเรื่องความรักแล้ว แต่ในส่วนลึกของหัวใจแล้วเหมือนมีเงาทะมึนครอบคลุมอยู่ เพราะสิ่งที่เราได้ทำไปนั้นเป็นสิ่งผิด ผมรู้ทั้งรู้ว่าทางสายนี้เป็นทางที่ผิด ผมไม่ควรรักคนที่มีเจ้าของแล้ว แต่ผมก็ยังเดินไป ถลำเข้าไปเรื่อยๆโดยหาข้ออ้างให้แก่ตัวเองต่างๆนานาเพื่อจะไม่ต้องถอนตัวจากพี่ยศ สิ่งที่ผมเคยคิดว่าผมจะรักกับพี่ยศโดยไม่ต้องแย่งพี่ยศมาครอบครองโดยที่เราไม่มีเพศสัมพันธ์กันนั้น ตอนนี้ก็ได้พิสูจน์แล้วว่ามันเป็นไปไม่ได้ ทั้งผมและพี่ยศไม่สามารถทนความเย้ายวนแห่งกิเลสตัณหาที่มาพร้อมกับความรักได้   ^1 r' H5 }, l: |5 _5 V! z
แต่ถึงแม้ผมทราบว่าปลายทางสายนี้เป็นเหวลึก ผมก็สมัครใจที่จะเดินไป…! t/ Z3 O- [: X" k7 p
ผมยังคงมาสอนหนังสือให้โตและค้างที่บ้านพี่ยศเป็นประจำทุกวันเสาร์ ที่จริงมาระยะหลังนี้ผมรู้สึกตะขิดตะขวงใจอยู่เหมือนกันที่ต้องเผชิญหน้ากับพี่ป้อม ผมเป็นเหมือนวัวสันหลังหวะ ผมรู้ว่าพี่ยศคงมีความรู้สึกคล้ายๆกันแต่ต่างคนก็ไม่อยากพูดออกมาเพื่อสร้างความลำบากใจให้กัน ดังนั้นต่างรู้ต่างก็เงียบไว้
! e# n: w  n( G' b. L7 g/ K/ e1 wในตอนเย็นของเสาร์หนึ่ง ขณะที่ผมกำลังสอนหนังสือให้โตอยู่ ผมได้ยินเสียงคนเถียงกันแว่วเข้ามาในหู พี่ยศกำลังเถียงกับพี่ป้อมอยู่ในห้องครัวนั่นเอง ทั้งสองเถียงกันค่อนข้างเบา ผมจึงจับใจความไม่ได้ แต่รู้แน่ว่าทั้งสองกำลังมีปากเสียงกัน/ o: X! p! }2 i2 U2 e2 u0 |; F8 B
"เฮ้อ" โตถอนใจ แล้วเอนตัวมาซบผมแบบเด็กอ้อน ยิ่งนานผมกับโตก็ยิ่งสนิทกัน จนเป็นเหมือนอาหลานกันจริงๆ โตรักและไว้วางใจผมมาก บางทียังเอาเรื่องเพื่อนสาวที่โรงเรียนมาปรึกษาตามประสาของเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ที่เป็นแฟนกันตั้งแต่เรียนมัธยม ถึงแม้โตจะเข้าสู่วัยรุ่นแล้ว แต่ด้วยความสนิทสนม บางครั้งโตก็เผลอแสดงนิสัยแบบเด็กๆออกมา อย่างเช่นการมาซบผม…เหมือนที่โตทำกับพ่อ ซึ่งนี่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมรักและเอ็นดูโตมาก : a$ u/ Q7 M- b! K
"โตถอนใจทำไม มีอะไรไม่สบายใจเหรอ" ผมโอบแกไว้ด้วยความเอ็นดู# [* t) Q0 A8 P* ~. _
"ก็พ่อกับแม่น่ะซี หมู่นี้เถียงกันอยู่เรื่อย" โตบ่น เดี๋ยวนี้โตพูดจากับผมไม่ค่อยจะมี 'ครับ' ต่อท้ายแล้ว เพราะความสนิทกันนั่นเอง2 z' g, U/ t% c# k$ f+ @* U
ผมชักเอะใจ "ใจเย็นๆน่า คู่รักกันอยู่ด้วยกันมานานก็ต้องมีปากเสียงกันบ้างนั่นแหละ อ้อ แล้วเถียงกันเรื่องอะไรล่ะ"
/ X- W& c) Y8 ^& C! x1 I) g"เรื่องไม่เป็นเรื่องครับ" โตบอก แล้วเปลี่ยนซบที่ลำตัวผมมาเป็นนอนหนุนตัก ระยะหลังนี้โตชอบนอนหนุนตักผมบ่อยๆ เราเรียนกันอย่างตามสบาย นั่งๆนอนๆได้ตามอัธยาศัย บางทีโตเมื่อยก็มานอนหนุนตักผมเล่น"บางทีก็เถียงกันเรื่องอาหาร คนนึงอยากกินอย่างนั้น อีกคนอยากกินอย่างนี้ บางทีดูทีวียังเถียงกันเรื่องหนังเลย ไม่รู้เกิดอะไรขึ้น แม่ยังเคยบ่นเลยว่าพ่อเปลี่ยนไป" ' t" V3 j" V  D$ {$ s
ผมนิ่งอึ้ง เงาทมึนในใจผมยิ่งมืดมิด ความเปลี่ยนแปลงของพี่ยศนี้ต้องเกี่ยวกับผมแน่ๆ * u9 e: [9 D$ J9 R$ p& J$ b

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
พลังน้ำใจ
79626
Zenny
205823
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:17:39 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(9) : รอยร้าวในครอบครัว 9 a" x+ a: I) f$ U

5 _* g! d6 Y1 v) D4 \) Rเมื่อมีครั้งแรกก็ต้องมีครั้งที่สอง และเมื่อมีครั้งที่สองก็ต้องมีครั้งต่อๆไป ผมกับพี่ยศลักลอบมีเพศสัมพันธ์กันเป็นประจำโดยใช้สถานที่คือที่บ้านของพี่ยศ แม้ผมจะรู้สึกผิดที่ทำอย่างนี้ แต่ความรู้สึกผิดก็ไม่สามารถยับยั้งการกระทำของเราสองได้ และเมื่อนานไป เราก็เริ่มชินชากับความรู้สึกผิดนั้น   [0 I- X7 f" B! {
หลังจากนั้นผมก็พบว่าพี่ยศกับพี่ป้อมมักมีกิริยาปั้นปึ่งต่อกัน คล้ายกับว่าไม่พอใจอะไรกันบางอย่าง จะเป็นอย่างนี้อยู่เป็นครั้งคราว ผมเริ่มรู้สึกอึดอัดใจที่เห็นครอบครัวนี้อยู่ในสภาพเช่นนี้ จึงลองเลียบเคียงถามโตดูในคืนวันเสาร์หนึ่งหลังจากที่เราเตรียมตัวเข้านอน
$ e* @7 r* K& J"โต พ่อกับแม่เป็นไงบ้างหมู่นี้" ผมถาม  Y4 q3 Y/ E% R( O: a5 `: z. u7 e
โตทำหน้าเบ้ "ไม่ค่อยจะดีครับ งอนกันอยู่เรื่อยเลย ที่จริงพ่อก็เฉยๆนะครับ แต่ดูว่าแม่จะงอนพ่อมากกว่า พ่อก็ยังเฉยของพ่ออยู่เรื่อย จะมีก็บางครั้งที่เห็นพ่อหงุดหงิด"
1 A7 ~; x. W4 H+ Z0 S4 O"แล้วที่แม่ว่าพ่อเปลี่ยนไปน่ะมันเรื่องอะไรบ้างล่ะ" ผมถามต่อ- Z% X+ s  t2 X: D0 R' `9 A- ?
"ก็ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ผมว่าพ่ออาจจะเปลี่ยนไปบ้างจริงๆ ดูพ่อเฉยยิ่งกว่าเก่าอีกครับ แต่ก็เถียงกับแม่บ่อย คือตอนเถียงก็พูดน่ะครับ แต่ตอนอยู่เฉยๆแล้วเงียบกว่าเก่าอีก" โตอธิบาย แล้วพูดต่อ "ผมกับเล็กยังคุยกับพ่อน้อยลงเลย รู้สึกว่าพ่ออารมณ์ไม่ค่อยจะดี แต่ก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร"
3 r! f  g, T1 N: V/ i5 q, Aว่าแล้วโตก็ลงมานั่งข้างๆผมที่ฟูก แล้วกอดผมไว้ "ไม่คุยกับพ่อก็ไม่เป็นไร คุยกับอาเป้ดีกว่า"
& g7 N  ?$ `  G' w" E) R" e2 d# Y! eผมเอามือขยี้ผมโตด้วยความเอ็นดู ยิ่งนานโตยิ่งช่างอ้อนกับผมมากขึ้นทุกวัน "จะคุยอะไรกับอาล่ะ อาง่วงแล้ว"
. |! R% z( N; ]' b: P- s( b8 V$ X+ ]"น่า อาเป้ คุยกับผมหน่อย" แล้วโตก็ทำท่าเขินๆ "อยากถามอะไรอาบางอย่าง"3 W  Y% |- B4 u5 B: _8 W
"อะไรล่ะ ว่ามาสิ" ผมชักรู้สึกสนใจกับกิริยาของโต คำถามนี้คงเป็นคำถามค่อนข้างส่วนตัวเป็นแน่5 D5 w% Y% k6 `2 Q  O
"เอ่อ… ผมอยากรู้ว่าอาเคยใช้ถุงยางไหม" โตหน้าแดงเมื่อถามคำถามนี้ ผมเองก็สะอึกไปเหมือนกัน
+ t; L# j. T6 ^5 o4 T7 E- V"โตถามทำไมกันล่ะ" ; d/ r; @1 g" `
"ก็อยากรู้น่ะครับ คือ… คือ…" โตอึกอัก
! t; F3 z, q; R1 ?"บอกมาก่อน ว่าอยากรู้ไปทำไม" 5 S8 v+ @9 Y2 o2 e% ?; e
"คือ ผมอยากมีเซ็กซ์กับแฟนผมอ่ะครับ แต่ยังใช้ถุงยางไม่เป็น" โตพูด ผมตะลึง ไม่นึกเลยว่าเด็กวัยรุ่นสมัยนี้จะไวไฟขนาดนี้
% K+ b8 M' {3 J1 i( H& ^# U"อะไรกันโต นี่เพิ่งจะ ม.4 เอง ยังเด็กอยู่เลย ริจะมีเซ็กซ์แล้วเหรอ ทำไมถึงได้ไวกันขนาดนี้ล่ะ"ผมถามด้วยความประหลาดใจและตกใจเล็กน้อย แต่ก็รู้สึกดีใจที่โตถามคำถามนี้กับผม เพราะถ้าไม่อย่างงั้นแกอาจไปทำใครท้องก็ได้
0 H' n" _$ N( w. g. v7 w5 d"อะไรกันอาเป้ เด็กที่ไหน ผมมีบัตรประชาชนแล้วนะ" โตย้อน "อีกอย่าง เพื่อนผมมันนอนกับแฟนตั้งแต่ ม.3 แล้ว นี่ผม ม.4 แล้วยัง… ยังไม่มีอะไรกับใครเลย จะว่าเร็วได้ไง"
* J! a; Q4 [/ y/ Z: y$ Dผมอดขำไม่ได้ แม้โตจะเป็นหนุ่มแล้ว แต่บางทีผมก็คิดว่าแกยังเด็กอยู่ "แล้วทำไมไม่ถามเพื่อนล่ะถ้ายังงั้น"
. m0 P: h  A  h4 k7 V' }6 o' x2 g: S* L"ก็เพื่อนผมมันไม่ใช้ถุงยางนี่ครับ แต่ผมรู้จักระวังตัว เดี๋ยวแฟนท้องแล้วจะยุ่ง อีกอย่าง ไม่อยากถามใครด้วยครับ เสียฟอร์มหมด เดี๋ยวมันจะหาว่าแค่นี้ก็ไม่รู้" โตสาธยาย "อาเป้รู้ก็บอกมาสิครับ หรือว่าไม่รู้" แน่ะ ท้าทายผมเล็กๆอีกด้วย
. ?$ I4 p3 _) S) |5 w+ O. u% P"โต ฟังอาก่อน" ผมพยายามอธิบาย "ใช้น่ะใช้เป็น แต่อาว่าสิ่งที่โตคิดจะทำมันเร็วไปนะ เอาไว้โตเป็นผู้ใหญ่ก่อนจะไม่ดีกว่าหรือ เกิดพ่อแม่ผู้หญิงเขารู้เรื่องแล้วเอาเรื่องจะทำยังไง โตไม่เสียอนาคตเหรอ" 9 y3 k4 @! [5 l: d
"โธ่เอ๊ย อาเป้ไปอยู่ไหนมา ถ้าไม่ท้องล่ะมันไม่มีปัญหาหรอกครับ เป็นแฟนกันใครๆเขาก็ไปนอนกันทั้งนั้น บางคนมันยังเอามาเล่าให้เพื่อนฟังสนุกๆเลย" ; Z: X* A- }0 k# T! S; I1 V& `
"ไม่เอาล่ะ อาว่าอายังไม่สอนโตดีกว่า" ผมตัดบท เมื่อเห็นว่าการสนทนาชักจะไปกันใหญ่ และเรื่องแบบนี้ผมรับมือไม่ถูกเสียด้วย ผมไม่อยากมีส่วนส่งเสริมให้โตชิงสุกก่อนห่าม
2 a0 t+ d! E* Y$ H7 ~* F8 f"น่า น่า สอนหน่อยน่า อาเป้" โตอ้อนอีก พลางล้มตัวลงทับผม "ไม่สอนผมกดอาไว้ไม่ให้ไปไหนด้วย" + G% R, L6 g6 U: W$ {+ L
ว่าแล้วเราทั้งสองก็กอดปล้ำกันเล่น บางทีโตนึกสนุกก็จะมาปล้ำกับผมเล่น แต่ก่อนก็ไม่บ่อยนัก แต่ผมเพิ่งจะมาสังเกตว่าช่วงหลังที่โตเริ่มเติบโตขึ้น โตมักชอบเล่นปล้ำกับผมบ่อยๆ คงอยากประลองกำลังกระมัง เพราะโตตัวโตอย่างรวดเร็ว ปีสองปีที่ผมเห็นโต จากเด็กน้อยหุ่นเผอมพรียวกลายเป็นเด็กหนุ่มร่างสูงและมีกล้ามเนื้ออันเนื่องมาจากการเล่นกีฬา
& n! Z. d# ^2 r1 }! R2 W; @' w- _$ @โตทับตัวผมไว้ ซึ่งผมรู้สึกว่าทับนานเป็นพิเศษ และแล้ว…ผมก็รู้สึกถึงสัมผัสอันค่อนข้างแข็งจากแก่นกายของโตที่ทาบอยู่บนท้องของผม … คงเป็นปฏิกิริยาตามธรรมชาติของเด็กหนุ่มที่ส่วนนั้นโดนเสียดสี ผมคิด แล้วก็ผลักตัวโตลงไปจากตัวผม แต่ไม่ให้โตรู้ว่าผมจงใจ คงเหมือนกับการเล่นกัน6 r5 c2 U( V3 b' i
"พอแล้ว โต ดึกแล้วนะ อาว่าเรานอนกันดีกว่า" ผมเปลี่ยนเรื่อง โตมีสีหน้าเปลี่ยนไปนิดๆ แต่ตอนนั้นผมไม่ได้สนใจ คงนึกว่าโตผิดหวังที่ผมไม่ยอมสอนการใช้ถุงยาง จากนั้นเราทั้งสองก็เข้านอน และคืนนั้นเอง เมื่อผมตื่นขึ้นมากลางดึกผมก็พบว่าโตกำลังช่วยตัวเองโดยนอนคว่ำแล้วถูไถกับเตียงเหมือนอย่างที่เคยทำตอนที่ผมมาค้างที่นี่ใหม่ๆ
3 t9 F* V0 ]- ^; l4 h) b9 Kเมื่อแรกๆ บางครั้งผมต้องตื่นขึ้นมากลางดึกจากเสียงรบกวนบางอย่าง และพบว่าโตกำลังช่วยตัวเองแบบนี้อยู่ แต่สักปีที่ผ่านมาอาการนี้หายไป จะเป็นเพราะโตเลิกทำหรือเป็นเพราะผมหลับสนิทก็ไม่แน่ใจ แต่เอาเป็นว่าผมไม่ได้สังเกตพฤติกรรมแบบนี้อีกในช่วงหลัง เพิ่งจะมาสังเกตได้อีกคืนนี้เอง แต่ผมก็ไม่ได้ตื่นขึ้นมาขัดจังหวะโต คงนอนหลับต่อไป เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมชาติของวัยรุ่น หลังจากนั้นในวันต่อๆมาผมก็ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท
) U1 a8 f/ o1 O% \  wจากข้อมูลที่โตเล่าให้ผมฟัง ผมจึงพยายามหาโอกาสคุยกับพี่ยศเรื่องความระหองระแหงที่เกิดขึ้นในครอบครัว เดิมทีผมไม่คิดจะพูดเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องในครอบครัวซึ่งผมไม่ควรเข้าไปก้าวก่าย แต่เมื่อมาถึงตอนนี้แล้วผมคิดว่าผมมีส่วนอยู่ด้วย จึงอยากถามพี่ยศให้กระจ่าง3 q! b0 Z) E; q8 a. W+ v3 r
และแล้ว โอกาสเหมาะก็มาถึงเมื่อวันหนึ่งเรานั่งคุยกันในห้องซาวน่าในยามบ่าย ที่จริงผมกับพี่ยศก็ยังเจอกันบ่อยๆ รวมทั้งยังมีเพศสัมพันธ์กันสม่ำเสมอ อีกทั้งพี่ยศก็ยังสินทสนมและแสนดีกับผมอย่างเสมอต้นเสมอปลาย แต่ผมก็ยังไม่สามารถหาโอกาสเหมาะที่จะคุยเรื่องนี้ได้ เพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลย จนกระทั่งวันนี้…) F$ a4 f+ V& N* G8 Y
"พี่ครับ" ผมเริ่ม หลังจากที่เราปล่อยอารมณ์ตามสบายกับไอน้ำร้อนที่อบอวลอยู่ในห้องซาวน่าได้พอสมควรแล้ว "ผมรู้สึกว่าพี่กับพี่ป้อมหมู่นี้ไม่ค่อยจะ… จะ… " ผมพูดไม่ออก นึกไม่ออกว่าจะใช้คำอะไรดี "คือผมรู้สึกว่าพี่สองคนมีปากเสียงกันเล็กๆน้อยๆอยู่เสมอน่ะครับ" ผมพยายามพูดให้สถานการณ์ดูเบาอย่างที่สุด "มันผิดไปจากเมื่อก่อน"4 G. E! G6 c1 _/ U9 R5 w2 X- _, Q$ k
พี่ยศหน้าเครียดไปหน่อยหนึ่ง "เป้สังเกตออกหรือ" 2 j: j7 w  f9 s- r
"ใครๆก็ดูออกครับพี่ แม้แต่พวกเด็กๆ" ผมหมายถึงเล็กกับโต "ผมรู้สึกไม่สบายใจครับ เพราะผมแน่ใจว่ามันเกี่ยวกับผม" : G* k1 Y1 c' U! a! I
สีหน้าพี่ยศเครียดลงไปอีก แต่เมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ถึงอย่างไรเราก็ต้องพูดกัน "มันก็ไม่เชิงเกี่ยวกับเป้หรอก"/ [4 E+ x" Y3 [' f+ q- V
"ถ้าไม่เกี่ยวยังงั้นพี่บอกผมได้ไหมครับว่ามันเกิดอะไรขึ้น" ผมรุก, g9 x: c0 `3 T9 @0 y
พี่ยศถอนใจ แม้ว่าพี่ยศจะระหองระแหงกับพี่ป้อมในระยะหลัง แต่พี่ยศไม่เคยอารมณ์เสียกับผมเลย พี่ยศดีกับผมทุกอย่าง จนผมแปลกใจว่าทำไมพี่ป้อมกับพี่ยศจึงระหองระแหงกันได้ในเมื่อพี่ยศนิสัยดีออกอย่างนี้5 p: ~7 H# ]. O; ?* z
"ที่จริงมันเกี่ยวกับพี่มากกว่า" พูดแล้วพี่ยศก็ถอนหายใจอีก "ยังไงละครับ" ผมถามรุกอีก
; ]2 b* W6 ^4 R3 C  V4 a"คือ… เอาละ พี่จะบอกให้เป้ฟังก็แล้วกัน คือที่เราระหองระแหงกันในช่วงนี้เพราะป้อมเขาหงุดหงิดพี่น่ะ" พี่ยศเล่าแค่นี้แล้วก็นิ่งอึ้ง "แล้วทำไมต้องหงุดหงิดพี่ด้วยละครับ" ผมถาม ยังนึกหาสาเหตุไม่ออก& a: c  h8 y$ v9 v5 `+ D4 z; S% k) Z
"คือพี่ไม่ยอมทำการบ้านกับป้อมเขาน่ะ" พี่ยศสารภาพ
2 T1 T& W- J5 |3 jในที่สุดพี่ยศก็ยอมพูดถึงต้นตอของปัญหาออกมา ผมนิ่งเงียบ รับมือกับปัญหานี้ไม่ถูกเหมือนกัน เพราะมันเป็นปัญหาที่ผมนึกไม่ถึงมาก่อนเลย "แล้วอย่างนี้พี่ยังบอกว่าไม่เกี่ยวกับผมหรือครับ มันเกี่ยวกับผมชัดๆ" - p8 I$ `2 }8 Q
"เป้ ฟังพี่ก่อนนะ คือว่าพี่ฝืนความรู้สึกที่ต้องมีอะไรกับผู้หญิงมานานแล้ว จนมาระยะหลังนี่พี่รู้สึกว่าพี่ไม่อยากฝืนต่อไปแล้ว พูดตรงๆนะ พี่แทบจะไม่เกิดอารมณ์กับผู้หญิงเลยในระยะหลัง ไม่ได้หมายความว่าป้อมมีอะไรบกพร่องนะ แต่พี่หมายถึงตัวเอง พี่เบื่อที่จะต้องฝืนความรู้สึกของตัวเองต่อไป ถึงเป้ไม่ได้เข้ามาในชีวิตของพี่ พี่ก็ยังต้องทำแบบนี้กับป้อมอยู่ดี" พี่ยศพยายามอธิบาย ; M( U4 D* V  S( t2 t
ผมไม่แน่ใจว่าสิ่งที่พี่ยศพูด คือหมายถึงว่าถ้าผมไม่ได้เข้ามาในชีวิตพี่ยศแล้วทุกอย่างมันจะเลวลงแบบนี้หรือไม่ คงไม่มีใครบอกได้เพราะว่าถึงอย่างไรผมก็เข้ามาแล้ว- X6 U' k; W& r  B
"แล้วผมควรจะทำอย่างไรครับ เพราะเท่ากับผมกำลังทำให้ครอบครัวของพี่แตกแยก" ผมพูดอย่างสำนึกผิด "ผมอยากถอนตัวเองออกมาเหมือนกันครับ แต่ว่าผมก็ทำไม่ได้" / j3 E$ P3 h" \9 s4 F  l
พี่ยศปลอบผมด้วยการตบไหล่ผมเบาๆ "พี่เองก็ยังไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน คงต้องค่อยๆคิด"- ?1 k- E' ~7 V6 ~
ผมตัดสินใจถามเรื่องส่วนตัวของพี่ยศออกไป "แล้วพี่เคยพยายามฝืนทำเพื่อพี่ป้อมได้รับความสุขบ้างไหมครับ"
1 [0 X: I/ h/ P& Q: b9 C& t"เคยสิเป้ ทำไมจะไม่เคย แต่มันไม่ได้ผล ระยะหลังนี้พี่ไม่มีอารมณ์กับป้อมเขาเลย พี่ทำให้มันแข็งไม่ได้" พี่ยศสารภาพ "พอพี่รู้ว่าพี่ทำไม่ได้ พี่ก็พยายามหลีกเลี่ยง หนักเข้าป้อมก็เลยทนไม่ไหว คิดว่าพี่ตายด้าน เลยพยายามให้พี่ไปปรึกษาหมอ พี่ก็ไม่ยอมไปเพราะพี่รู้ดีว่าพี่ไม่ได้ตายด้านอย่างที่ป้อมคิด ป้อมก็เลยหงุดหงิด หาว่าพี่ไม่ยอมให้ความร่วมมือ" - u6 u8 i7 \. p8 p2 p2 Q2 z/ g
เราทั้งคู่นิ่งเงียบ ผมจับมือพี่ยศบีบเบาๆอันเป็นความหมายว่าผมเข้าใจและเห็นใจพี่ยศ ถึงตอนนี้ผมเข้าใจหมดแล้ว และไม่ได้ซักถามอะไรอีก ผมอยากหนีสภาพนี้ไปให้ไกลแสนไกล แต่ก็ทำไม่ได้ เพราะผมทิ้งพี่ยศไปไม่ได้… 3 Z. a/ L' e# f$ K3 n

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
พลังน้ำใจ
79626
Zenny
205823
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:18:40 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(10) : ของขวัญวันเกิด . Q6 o5 y7 F! f$ h; A2 F
8 ^0 `+ K6 ~, E# |% H+ y6 v
หลังจากนั้นสถานการณ์ภายในบ้านพี่ยศมีแต่จะทรงตัวกับแย่ลง ไม่ได้ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย พี่ยศยังคงมีปัญหาเรื่องบนเตียงกับพี่ป้อม ซึ่งปัญหานี้ไม่ว่าใครก็คงช่วยไม่ได้ นอกจากตัวของพี่ยศเอง
. Q; v* D! }4 ~8 A9 rผมเองก็คิดหนักเพราะรู้สึกผิดในใจมาตลอด แต่ทุกครั้งความเห็นแก่ตัวชนะมโนธรรมของผม ทำให้ผมครอบครองทั้งกายและใจของพี่ยศเรื่อยมา แต่พอนานวันเข้า ผมเริ่มได้สำนึก มโนธรรมที่ถูกฝังไปเนิ่นนานแล้วกลับคล้ายดอกบัวที่ชำแรกก้านดอกโผล่พ้นโคลนตมอันหนาทึบได้สำเร็จ ผมเริ่มไคร่ครวญเรื่องความผิดชอบชั่วดีอีกครั้ง ผมคงต้องทำอะไรสักอย่าง แต่ผมต้องการเวลาที่จะคิดทบทวนเรื่องนี้อีกสักระยะหนึ่ง6 R: Z! X" h( C3 y- a7 T
ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมอึดอัดมาก ผมไม่อยากไปค้างที่บ้านพี่ยศเลย ดังนั้นผมจึงบอกกับพี่ยศว่าจะของดสอนโตสัก 2-3 สัปดาห์ เพราะไม่สบายใจที่ผมเองเป็นตัวต้นเหตุแต่ยังไปคลุกคลีอยู่ในบ้านของพี่ยศ ซึ่งผมเชื่อว่าหากผมหายไปสักพักคงจะทำให้พี่ยศอึดอัดใจน้อยลงด้วย พี่ยศก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร แต่อย่างไรก็ตาม เรายังนัดเจอกันที่ศูนย์ฟิตเนสอยู่เป็นประจำ
+ k& j( n# e7 Q/ O! |, x( @4 ~1 pวันหนึ่ง พี่ยศมานั่งอบซาวน่าด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด ปกติพี่ยศจะมีใบหน้าที่เรียบเฉย อารมณ์ดี แม้ยามเคร่งเครียดหน้าก็จะตึงขึ้นเล็กน้อยเท่านั้น แต่สีหน้าในวันนี้ราวกับท้องฟ้าอันดำทมึนก่อนพายุฝนโหมกระหน่ำ เป็นสีหน้าที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน พี่ยศนั่งนิ่งไม่พูดจา3 K9 o% D2 G( g
"พี่ครับ" ผมเอ่ยอย่างระมัดระวัง "ดูวันนี้พี่เครียดมากนะครับ"0 z- e) L6 b' \8 K% x% w& X
พี่ยศนั่งนิ่ง แล้วสักพักก็ถอนใจ "ใช่ วันนี้พี่รู้สึกแย่มากๆเลย"
: F' B; `  W* L$ F; L$ @"พี่พอจะบอกผมได้ไหมครับว่าเรื่องอะไร" ผมเลียบเคียงถาม
9 m, g4 ]6 f& i* ?5 _. f"ก็ป้อมน่ะสิ จะอะไรเสียอีก" พอพี่ยศพูดถึงพี่ป้อมก็ส่ายหน้า
3 O: v# V4 z/ ~' c( b5 ]9 C"ทำไมหรือครับ" ผมชักสังหรณ์ใจว่าสถานการณ์ภายในบ้านของพี่ยศในช่วงที่ผมไม่ได้ไปค้างคืนวันเสาร์คงจะแย่ลง
. y* s) k7 ]) q7 S" L' g! E3 F0 e"เอ้อ…" พี่ยศอึกอัก แต่ผมคะยั้นคะยอให้พูด "ป้อมคิดว่าพี่ไปมีเมียน้อยน่ะสิ เมื่อคืนอาละวาดใหญ่เลย"
3 x0 _% v% ^5 ]2 q4 E/ _ผมชะงักกับคำพูดของพี่ยศ 'เมียน้อย' คำนี้แสลงใจผม แม้ผมจะไม่ใช่แต่ก็ใกล้เคียง แต่ถ้าพี่ป้อมพูดว่าพี่ยศไปมีคนอื่นละก็…ใช่เลย
8 I/ C- H, n' T7 N* Z6 A"แล้วพี่ว่าอย่างไรครับ" ผมถาม
( C' q2 P' b$ C1 h) f) X% S"จะไปว่าอะไรได้ล่ะ" พี่ยศถอนใจแล้วถอนใจอีก สีหน้าหมองคล้ำลงไปมาก "ป้อมยังบอกอีกว่าอย่าให้จับได้ ถ้าจับได้เมื่อไรจะขอหย่าทันที" , A2 Y9 k0 Z2 j% L+ R3 @- {. e
ผมไม่แน่ใจว่าถ้าไม่ใช่ 'เมียน้อย' แต่รูปการณ์ใกล้เคียงกันแล้วพี่ป้อมจะว่าอย่างไร แต่ผมก็คาดว่าพี่ป้อมยังไม่ระแคะระคายความสัมพันธ์ของเราสองคน
2 L4 r* W$ u1 S* |& U"พี่คิดจะทำอย่างไรต่อครับ" ผมถามตรงจุด พี่ยศอึ้งไปนานก็ยังตอบไม่ออก
% R; e, c0 s4 g' w$ p5 e"พี่ไม่รู้" หยุดไปนิดหนึ่งแล้วก็โพล่งออกมา "นี่ถ้าไม่มีลูกด้วยกันพี่กลับจะดีใจเสียอีกที่ป้อมจะขอหย่า พี่ก็รู้สึกว่าชีวิตการแต่งงานมันแย่เต็มทีแล้ว" % f$ K" d* N% E) E5 w
คำพูดของพี่ยศทำให้ผมต้องตะลึง ดูวันนี้อารมณ์ของพี่ยศช่างพลุ่งพล่านเสียเหลือเกิน ผมตัดสินใจพูดเรื่องที่คิดไว้กับพี่ยศทันที9 r5 Y" B3 x/ w5 @0 O: P
"พี่ครับ ผมคิดว่าผมควรเป็นฝ่ายหลีกทางนะครับ"
: ~+ Q: E  f" ^9 e, E+ Rพี่ยศมองหน้าผมอย่างตกใจ "ทำไมเป้คิดยังงั้นล่ะ พี่บอกแล้วว่านี่มันไม่เกี่ยวกับเป้ ถึงไม่มีเป้พี่ก็ยังต้องเป็นแบบนี้อยู่ดี"
' M7 [9 O7 a! I. I"แม้พี่ยศจะบอกว่าผมไม่เกี่ยว แต่ผมก็รู้ดีว่ามันไม่จริงเสียทีเดียวครับ ถ้าผมไม่เข้ามาในชีวิตของพี่ อย่างน้อยพี่ก็คงทนชีวิตแต่งงานได้อีกหลายปีอย่างแน่นอน" ผมว่า
" S: E6 c% _- S: p"มันก็ไม่แน่ ถึงพี่ไม่มีเป้ พี่ก็อาจไปมีคนอื่นได้ จริงไหม" ผมยศพยายามแก้ต่างเพื่อให้ผมสบายใจขึ้น แม้ผมรู้ว่านั่นเป็นการปลอบใจ แต่ผมก็ยังรู้สึกอบอุ่นที่พี่ยศคอยปกป้องผมตลอดมา แม้ในวันที่พี่ยศประสบมรสุมชีวิตที่เลวร้ายเช่นนี้
+ m7 r0 Q0 {& ]3 U$ N$ N) b/ o& ["ผมคิดเรื่องนี้มาสักพักแล้วครับ แต่ยังไม่ลงตัว ผมเองก็ตัดใจจากพี่ไม่ได้เหมือนกันครับ" ผมสารภาพ "แต่ผมคิดว่าผมต้องทำ เพราะไม่อยากให้โตกับเล็กต้องกลายเป็นเด็กบ้านแตก"
5 Z' h( R  u5 Z$ W0 c6 s"ไม่เอานะ ห้ามคิดอะไรเลอะเทอะแบบนั้น" พี่ยศตัดบท แล้วการสนทนาเรื่องปัญหาโลกแตกของเราในวันนั้นก็จบลงเพียงแค่นี้ คำว่า 'ลูก' นั้นทำให้พี่ยศต้องคิดหนัก การคุยกันในวันนั้นคงเหมือนเดิม คือยังไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ วันนั้นเราสองคนจากกันด้วยความเคร่งเครียด. E) C. w, k0 m0 w) q8 Q
หลังจากที่ผมแยกจากพี่ยศไม่นาน เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น เมื่อผมรับสายก็ได้ยินเสียงแตกๆแหบๆของวัยรุ่นคนหนึ่ง
6 G+ P7 V5 H: r0 ?6 q; x8 V. f* q"หวัดดีครับ อาเป้" เสียงนั้นทักทาย
" }* R7 ?: g, v* S"เฮ้" ผมทัก อารมณ์สดชื่นขึ้นมาก เสียงของโตนั่นเอง รู้สึกคิดถึงโตอยู่เหมือนกันเพราะไม่ได้ไปสอนหนังสือให้โตมา 3 สัปดาห์แล้ว ตอนที่จะหยุดสอนชั่วคราวก็ไม่ได้บอกโตล่วงหน้า คงบอกแต่เพียงพี่ยศแล้วให้พี่ยศไปบอกโตอีกที "เป็นไงบ้าง แปลกใจจังที่โตโทรมาหาอา"" r4 F7 u0 O- [- ^
ผมแปลกใจอยู่บ้างจริงๆเพราะแม้โตจะมีเบอร์โทรศัพท์มือถือของผม แต่ปกติโตไม่เคยโทรมาเลย 9 G% q" X( p+ U, v: C! ]
"ก็คิดถึงอาเป้น่ะสิครับ หายหน้าหายตาไปไม่บอกผมสักคำ" โตพูด
: }/ l7 T/ [% E- a"ปากหวานนะเรา พอดีช่วงนี้อายุ่งน่ะ ต้องขอโทษด้วย" ผมพูด "มีเรื่องให้ช่วยหรือจะขออะไรจากอาล่ะสิ ไม่งั้นไม่โทรมาอยู่แล้ว" ) w  T6 |0 I5 ]
"อาเป้รู้ใจผมจัง" โตหัวเราะ "มีเรื่องให้ช่วยอยู่เหมือนกันครับ", W9 t8 t% Z% Z: m( g
"ว่ามาสิ ดูก่อนว่าอาพอจะช่วยได้ไหม"
8 @+ j/ z  J% V- t4 h"อาเป้ช่วยได้อยู่แล้วล่ะ อาทิตย์นี้วันเกิดอาเป้ไม่ใช่เหรอครับ ผมอยากให้อามาค้างที่บ้าน ผมมีของขวัญจะให้ครับ" โตนี่น่ารักนัก ดูสิครับ จำวันเกิดผมได้เสียอีกทั้งๆที่ผมเคยบอกเพียงครั้งเดียวเท่านั้น) D- z9 F, }+ H7 y) u2 n
"จำวันเกิดอาได้ด้วยเหรอ เก่งจัง แต่…" ผมลังเลที่จะไปค้างที่บ้านพี่ยศอีก
( G8 U, i: `& C% \"มานะอาเป้ มาให้ได้" โตอ้อนวอน "อยากอวยพรวันเกิดอาเป้น่ะครับ"2 p8 E. y3 o2 P$ _% i7 P
ในที่สุดผมอดใจอ่อนไม่ได้ จึงรับปากไป" K( v: E$ s+ p1 k9 H+ K
วันเสาร์นั้นสถานการณ์ดูแช่มชื่นขึ้น ที่บ้านพี่ยศจัดงานวันเกิดเล็กๆให้ผมโดยที่ผมไม่ได้ระแคะระคายมาก่อนเลย อาหารมื้อเย็นวันนั้นพี่ป้อมจัดเมนูพิเศษต่างจากมื้ออาหารปกติ หลังอาหารมีการตัดเค้กขนาด 2 ปอนด์ โดยผมเป็นคนตัด ไม่มีการเป่าเทียน แต่มีการร้องเพลงอวยพร ผมซาบซึ้งใจมาก เพราะหลังจากที่แม่จากไปแล้วผมก็ไม่เคยมีโอกาสพิเศษเช่นนี้อีกเลย ซึ่งผมมาทราบทีหลังว่าความคิดเรื่องงานวันเกิดเล็กๆนี้เป็นของโต ส่วนพี่ป้อมรับหน้าที่เตรียมอาหาร และพี่ยศจัดการเรื่องเค้กวันเกิด บรรยากาศที่บ้านพี่ยศผ่อนคลายลงได้ชั่วคราว ทำให้ผมดีใจอยู่เงียบๆ: K- s* _6 k% w6 b4 x' L" ^
คืนวันนั้น ราวห้าทุ่ม หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายกันเข้านอนแล้ว ผมก็นั่งคุยกับโตในห้องนอน# L  I! p; x1 U: D
"โต ไหนล่ะของขวัญ" ผมทวงของขวัญ เราสนิทกันจนผมเอ่ยปากทวงของขวัญดื้อๆ "อาว่าจะไม่ถามแล้วเชียว แต่รอแล้วรอเล่า โตก็ไม่ยักให้เสียที"
  d4 u- ~: E0 I0 S9 P( E1 E  c"อะไรกันครับ อาเป้ วันเกิดอาคือวันอาทิตย์นะครับ ยังอีกตั้งชั่วโมงกว่าจะขึ้นวันใหม่" โตแย้ง
% ^2 |+ e2 }+ A  ?0 F"แล้วเมื่อไรจะให้อาล่ะ ก็อยากได้นี่นา" ผมพูดเล่น
. C7 `# ^5 z: y, K1 ~( \) ]+ y  Jอย่างไม่คาดฝัน โตปราดเข้ามาประชิดผม กอดผมแล้วก็หอมแก้มผม "สุขสันต์วันเกิดครับ เอานี่ไปก่อนละกัน ของขวัญต้องรอดึกๆ" แล้วโตรีบผละจากตัวผม พร้อมทั้งยิ้มทำสีหน้าลึกลับ8 S1 @; t- G( z! x) z: ~2 [! V% }, D4 p
หลังจากที่ผมต้องตะลึงในความคิดของพี่ยศจากการคุยกันเมื่อวันก่อน มาวันนี้ผมก็ต้องตะลึงอีกครั้งกับการกระทำของโต อะไรกันนี่ อยู่ดีๆโตก็มาหอมแก้มผมแบบทีเล่นทีจริง จริงอยู่ ถ้าเป็นการล้อกันเล่นสนุกๆก็คงไม่แปลกอะไรมากนัก แต่นี่ผมรู้สึกอะไรบางอย่าง เพราะเวลาพี่ยศซุกไซร้ผม พี่ยศชอบวนเวียนหอมแก้มผมนานๆ สัญชาติญาณในตัวผมบอกว่าการหอมแบบนี้ช่างคล้ายพี่ยศเหลือเกิน!  M4 I3 u8 y. X' d3 Q4 J
ผมแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้กับการกระทำของโต จากนั้นเราทั้งสองก็เข้านอน แม้จะรู้สึกง่วงอยู่บ้าง แต่ผมยังไม่หลับในทันที เพราะใจมัวคิดถึงการกระทำของโตเมื่อครู่ซึ่งผมรู้สึกว่าเป็นเรื่องผิดปกติ แต่คิดไปได้ไม่นานผมก็ผลอยหลับไป  a8 I! b" O/ V6 K: v8 B
กลางดึกคืนนั้น ผมต้องตื่นเพราะเสียงสวบสาบดังรบกวนการนอน เสียงโตนั่นเอง โตกำลังช่วยตัวเองด้วยการเอาลำตัวถูกไถกับหมอนซึ่งเป็นวิธีที่โตชอบทำ แต่ครั้งนี้ดูเหมือนจะรุนแรงเป็นพิเศษ
5 J! F6 S  Q8 F( C! yผมแกล้งทำเป็นนอนหลับ ปล่อยให้โตทำไปตามสบาย สักครู่ผมก็ได้ยินเสียงกุกกักๆ ผมอดหรี่ตาดูไม่ได้ จากเงาตะคุ่มบอกผมว่าโตกำลังนั่งอยู่บนเตียง ผมเห็นโตหันไปหันมา ไม่แน่ใจว่ากำลังทำอะไร แต่คงไม่ได้ช่วยตัวเองอยู่
* E4 S# f$ Y* O) t9 l0 v8 jสักพักผมเห็นโตลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินมาที่ฟูกที่ผมนอน ถึงตอนนี้ผมรีบหลับตา เพราะไม่อยากให้โตรู้ว่าผมตื่น และแล้ว ผมก็รู้สึกว่าโตล้มตัวลงมานอนข้างๆผม ไม่เพียงเท่านั้น ยังกอดผมและเอาลำตัวกอดก่ายผมด้วย!
8 E$ D- {+ X& s; T/ K4 f5 Qผมงง ยังทำอะไรไม่ถูก ผมไม่แน่ใจว่าควร 'ตื่น' ขึ้นมาได้หรือยัง ขณะลังเลตัดสินใจไม่ถูกก็ปล่อยให้โตกอดก่ายไปก่อน จากสัมผัสของผมบอกว่าท่อนล่างของโตเปลือยเปล่าอยู่
' r4 g# V* l2 G  U7 f! \เพียงพริบตาเดียว ขณะที่ผมกำลังลังเลอยู่นั้น ผมก็รู้สึกว่าโตลุกขึ้น จากนั้นกางเกงนอนของผมถูกรั้งลงอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งรู้สึกว่ามีบางอย่างกำลังกลืนกินท่อนลำที่สงบนิ่งของผมอยู่9 x* P2 w* Q2 N, B
ถึงตอนนี้ผมแกล้งหลับต่อไปไม่ได้แล้ว ผมเบี่ยงตัวหนีแล้วเรียกโต "โต นั่นกำลังทำอะไรน่ะ"+ ]0 i$ F2 C3 b: k5 q
เมื่อผมเบี่ยงตัวและลุกขึ้นนั่งได้ ผมก็รีบลุกไปเปิดไฟดวงเล็กที่โต๊ะข้างเตียงนอนของโตทันที แสงไฟสลัวๆส่องให้เห็นโตกำลังนั่งคุกเข่าอยู่บนฟูกที่ผมนอน ท่อนบนใส่เสื้อนอน ส่วนท่อนล่างเปลือยเปล่า เห็นท่อนลำที่กำลังแข็งและเบ่งบานเต็มที่ได้ถนัด
: ]- y0 O8 V0 i2 g; z2 D"ก็ให้ของขวัญอาเป้ไงครับ" โตพูดหน้าตาเฉย# j& V0 ], y' \& B0 h9 w$ I; H
ผมใจสั่น สังหรณ์ใจอะไรบางอย่าง นึกไม่ถึงว่าโตจะให้ของขวัญแบบนี้แก่ผม "โตรู้หรือเปล่าว่าโตกำลังทำอะไร" นอกจากใจสั่นแล้วเสียงของผมยังสั่นเล็กน้อยอีกด้วย
+ l9 H' Q' k$ l3 o7 r6 B& T' |9 h"รู้ครับ" โตพูด "ก็ให้ของขวัญที่อาเป้ชอบไงครับ" + s. ~: K) R3 y. |, g% p+ j0 p
ผมตกใจมาก หูผมไม่ฝาด ไม่ได้ยินโตพูดผิดไป โตรู้ความลับของผมได้อย่างไรกัน "โตพูดอะไรน่ะ"
; c. {" X: P# \! r8 g"อาเป้อย่ามาทำไก๋เลยครับ ผมรู้เรื่องของพ่อกับอาเป้มาตั้งนานแล้ว" โตพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
% m4 ]) m3 X, V! \ราวกับฟ้าถล่ม ผมไม่สามารถบรรยายได้ว่าความตกใจที่เกิดขึ้นมีมากขนาดไหน ผมยืนตะลึงขณะที่โตพูดต่อ "แล้วผมก็รักอาเป้มานานแล้วด้วยครับ วันนี้ผมเลยเลือกของขวัญชิ้นนี้ให้อาเป้ นึกว่าอาจะชอบ" ว่าแล้วโตก็เดินมากอดผมไว้อีก ร่างท่อนล่างที่เปลือยเปล่าของโตเสียดสีลำตัวของผมไปมา มันทั้งร้อนและทั้งแกร่งราวกับเหล็กเผาไฟ ผมมองหน้าโตอย่างเต็มตา โตก็ยังเป็นวัยรุ่น หน้าตาน่ารักคนเดิม แต่พฤติกรรมของโตในวันนี้เป็นสิ่งที่ผมนึกไม่ถึงมาก่อนเลย ในชีวิตไม่นึกว่าจะได้พบกับเรื่องเช่นนี้ อีกทั้งไม่เคยนึกฝันมาก่อนว่าโตจะเป็นเกย์ เพราะท่าทางของโตไม่ส่อเลยแม้แต่น้อย หรือที่ผมเคยอ่านพบว่าเกย์เป็นกรรมพันธุ์นั้นจะเป็นความจริง# y* M' T' l, Y' G9 V. X- Z

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
พลังน้ำใจ
79626
Zenny
205823
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:19:48 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(11) : ผู้กรรโชก
0 k$ ?+ k$ c- w+ B! w: z4 J. ^0 ?) X* u0 t
เมื่อผมระงับสติอารมณ์ได้แล้ว ผมจึงค่อยๆแกะตัวโตออก ผมไม่อยากทำอะไรด้วยความหักหาญ จึงค่อยๆใช้น้ำเย็นเข้าลูบ พร้อมทั้งเลียบเคียงถามโตว่ารู้เห็นความสัมพันธ์ของผมกับพี่ยศได้อย่างไร "เดี๋ยวก่อนโต เรามาคุยกันก่อนได้ไหม อางงไปหมดแล้ว โตใส่กางเกงเสียก่อน" ว่าแล้วผมก็หยิบกางเกงให้โตใส่ เมื่อโตเห็นผมท่าทางเป็นกันเองและผ่อนคลายลง โตก็ทำตามอย่างว่าง่าย
% ~) {* l8 {" Z3 a5 g"อย่าบอกนะครับว่าอาเป้ไม่ได้มีอะไรกับพ่อ" โตย้ำ5 c' V/ ]8 v# t) E2 i0 g
"เราไปรู้มาได้ยังไง" ผมถาม& i3 \/ L: U6 i: o7 L
"มีอยู่วันหนึ่ง วันนั้นที่โรงเรียนแข่งกีฬาสี เลยงดเรียน ผมเลยกลับบ้านตั้งแต่บ่าย ก็เห็นรถพ่อกับรถอาเป้จอดอยู่ในบ้าน เห็นผิดสังเกตผมเลยย่องเข้ามาดูเงียบๆ ผมขึ้นมาดูชั้นบน เห็นประตูห้องนี้เปิดแง้มไว้เแล้วมีเสียงคนลอดออกมา ผมเลยแอบดูครับ" โตเปิดเผย, ]3 ~* q) O  m  s  \$ c
"แล้วโตเห็นอะไรบ้าง" ผมถาม/ C% Y# o" t3 Q6 r- s
"เห็นหมดทุกอย่างเลยครับ เห็นบทรักของพ่อกับอาเป้ด้วย" โตพูด
/ c) x/ r+ U+ A" a- [1 vผมรู้สึกว่าห้องหมุนโคลงเคลงไปหมด ผมสับสนมาก แล้วผมควรจะรับมืออย่างไรกับสถานการณ์เช่นนี้ "แล้ว… แล้ว… แล้วโตคิดยังไง" ผมตัดสินใจถาม
( R" G9 V! b+ U2 j% ~, _"อาเป้ครับ" โตเงยหน้ามองผม ตาจ้องมาที่ผม ผมเองเสียอีกที่ไม่กล้าสบตาโต "ผมรักอาเป้มานานแล้วครับ จากเดิมผมรักอาแบบอา แต่ตอนนี้มันเปลี่ยนไปแล้วครับ ผมไม่ว่าอะไรหรอกครับที่อาจะมีอะไรกับพ่อ แต่ผมก็รักอาเป้ และอยากมีความสุขกับอาเป้ด้วยคน ผมรู้นะครับว่าอาก็รักผม" 2 P3 ~, |) [# V4 N8 p+ e! c' b! b" P
สถานการณ์ชักจะเลวร้ายลงทุกที นี่ถ้าผมรับมือผิดพลาดจะต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่บานปลายต่อไปแน่ๆ
+ l+ n/ A2 E( m5 e9 I  W1 E"โตเป็นเกย์เหรอ ก็ไหนโตเคยบอกอาว่าโตมีแฟนสาวที่โรงเรียนไง" ผมถามตรงๆ+ S; B$ O$ O# f4 V* W
"ใช่ครับ ก็เป็นเหมือนที่พ่อเป็นนั่นแหละครับ" โตรับ "แฟนเฟินอะไรนั่นมันไม่จริงหรอกครับ คือผมควงสาวไว้เพื่อไม่ให้เพื่อนสงสัยน่ะครับ แต่ผมไม่ได้รักเธอแบบแฟน" ' E* ~% H7 @5 C' j0 y- w
ชีวิตของพี่ยศกับโตสองพ่อลูกกับคล้ายกันอย่างบังเอิญ หรือนี่เป็นพรหมลิขิต0 t' A$ W7 \6 d$ _; H3 y, O% e
"เดี๋ยว โต ฟังอาก่อนนะ ถูกล่ะ อารักโต แต่อารักโตแบบหลานนะ" ผมพยายามอธิบาย
# t; y3 L& I, T3 O' u4 K, W) R"แล้วยังไงล่ะครับ" โตย้อนถาม4 U! ~/ T2 u6 K$ O4 a$ r
"ก็…" ผมอึกอัก "อาว่าเราไม่ควรมีเพศสัมพันธ์กันนะ โตยังเด็กเกินไปนะ" ผมตัดสินใจพูดตรงๆ5 U- ^- e; v* Q& S% K
"เด็กอีกแล้ว ผมโตแล้วนะครับอาเป้ ผมไม่เชื่อหรอกครับว่าอาเป้ไม่อยากมีอะไรกับผม ตอนเรากอดเล่นกันอายังไม่ว่าอะไรเลย ผมว่าอาเกรงใจพ่อมากกว่า" 9 _  r) t, `0 U" }3 ?- F
ความสนิทสนมของผมกลับทำให้โตเข้าใจผิด ไหนๆก็รู้ว่าโตก็เป็นเกย์แล้ว ผมพยายามอธิบายถึงความรู้สึกที่แตกต่างกันระว่างการที่ผมรักโตซึ่งไม่มีความใคร่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเลย กับที่ผมรักกับพี่ยศ ว่ามันเป็นความรักคนละแบบกัน ความรักแบบที่โตมีอยู่นั้นมันไม่ใช่ความรักแท้ๆ มันเกิดจากอารมณ์ของวัยหนุ่มด้วย แต่ถึงกระนั้นก็ตาม ก็ต้องเกิดจากความคิดที่ตรงกันทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ทึกทักเอาเพียงข้างเดียว แต่โตไม่ยอมเข้าใจ โตยังรักผมแบบที่ต้องการมีความสุขกับผม
/ ~9 k! P& |3 s8 U5 x"ทำไมโตถึงมาจู่โจมอาวันนี้ล่ะ โตไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนี่" ผมถามสิ่งที่ผมข้องใจมากที่สุดออกไป
1 {/ Y8 S( s) W3 ?; c"ที่จริงผมรักอาเป้มานานแล้วครับ ตอนกลางคืนผมพยายามช่วยตัวเองให้อาเห็น เผื่อว่า…เผื่อว่าอาจะเข้าใจ แต่อาก็ไม่เคยตื่นซักที แต่ผมว่าอาอาจจะแกล้งหลับมากกว่า" โตพูดอย่างรู้ทัน "หลังจากที่พ่อกับแม่ทะเลาะกัน อาก็หายหน้าไป ผมเลยกลัวว่าอาจะหายหน้าไปเลยแล้วไม่มาที่นี่อีก ผมก็เลยคิดจะมอบของขวัญและบอกความจริงกับอา ผมกลัวว่าจะไม่มีโอกาสบอกอาอีกน่ะครับ"
+ R7 R& D) {" z, q0 w7 e' aถึงตอนนี้ปริศนาเส้นผมบังภูเขาก็คลี่คลาย ความสนิทสนมกับผมเป็นพิเศษ เหตุการณ์ทุกอย่างไม่ว่าการช่วยตัวเองกลางดึกของโต หรือพฤติกรรมแปลกๆเช่นการกอดรัดกับผม หรือแม้แต่การเอาท่อนลำมาเบียดเสียดกับตัวผม เหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณบ่งบอกทั้งสิ้นว่าโตมีจิตปฏิพัทธ์ผม ผมนี่ช่างโง่เหลือเกินที่ไม่ทันเฉลียวใจ ไม่เช่นนั้นเรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้ แต่เรื่องหนึ่งที่ผมยังแปลกใจไม่หายก็คือเหตุใดคืนนี้โตจึงมีใจกล้าขนาดนี้$ O9 G* r* i6 W
"โต เรามีอะไรกันยังงั้นไม่ได้นะ อารักโตเหมือนหลานจริงๆ แล้วอาจะทำอะไรยังงั้นกับโตได้ยังไง อาทำไม่ลงหรอก โตควรเปลี่ยนความคิดเสียใหม่นะ" ผมพยายามกล่อม ขณะที่โตเข้ามากอดผมอีกครั้ง
$ j" _0 U  s' q; u+ R: z9 q"ตั้งใจจะทำอะไรก็ทำเสีย ทำวันนี้ให้ดีที่สุด อย่าผัดวันประกันพรุ่ง" โตพูด / b6 [- U# h. R, M, q2 f& C
"นั่นโตว่าอะไรน่ะ" ผมถาม รู้สึกว่าประโยคนี้คลับคล้ายคลับคลา
! z4 j9 a& E& Q+ z* v"ที่อาเคยสอนผมไงครับ ผมจำไว้ไม่เคยลืม อาลืมแล้วเหรอ" โตทวนความจำให้ผม "ผมอยากมีความสุขกับอาเป้ครับ ขอผมสักครั้งนะครับ ผมกลัวว่าอาจะหนีผมไป" ว่าแล้วโตก็เข้ามากอดและซุกไซร้ผม เหมือนอย่างที่พี่ยศทำกับผมไม่มีผิด โตคงฝังใจกับบทรักที่แอบดูมามาก ซึ่งจะว่าไปแล้วทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความผิดของโต ผมจึงไม่อาจตัดใจปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใย อีกอย่าง ที่จริงโตก็ไม่ใช่เด็กๆแล้ว สังคมเพื่อนๆของโตคงสอนอะไรให้โตมากมาย รวมทั้งตามปกติโตกับผมก็สนิทกันมาก ดังนั้นวันนี้โตจึงมีการแสดงออกอย่างเปิดเผยว่าต้องการผม ซึ่งผมต้องรับมืออย่างระมัดระวัง/ l/ w- {* D5 \, R2 w/ u
"อย่าเลยโต" ผมขอร้อง "โตอย่าทำอย่างนี้กับอานะ"
2 a0 `, B/ O, P2 [โตไม่ยอมหยุด ส่วนผมก็ถอยหนี เมื่อเห็นผมไม่ยอมแน่ ในที่สุดโตก็ยื่นไม้ตาย0 {  h# o8 Y) J4 v
"ผมอยากมีความสุขกับอาเป้สักครั้ง นะครับอาเป้ อาคงไม่อยากให้แม่รู้เรื่องของพ่อกับอานะครับ" ( _4 |3 I$ x* f  q" r1 l
ผมรู้สึกเหมือนโดนใครชกท้องเข้าอย่างจัง มันจุกจนแทบพูดไม่ออก "นี่ … นี่เรากำลังขู่อาเหรอ"
5 B4 y4 g# w5 i5 n7 s( |โตมีสีหน้าเสียใจขึ้นแว่บหนึ่ง "ผมไม่อยากพูดแบบนี้หรอกครับ แต่อาบังคับผมนี่ครับ"5 f2 a6 n, A. x6 {* ~2 \
ผมชักโกรธที่โตกำลังหน้ามืดจนไม่คิดถึงความผิดถูก "อาไม่ว่าอะไรหรอกนะที่โตเป็น…" ผมอ้ำอึ้ง "…เป็นเกย์ เพราะอาก็เป็นเหมือนกัน แต่โตไม่ควรเอาเรื่องนี้มาขู่อานะ เพราะเท่ากับว่าโตกำลังทำลายครอบครัวของตัวเอง"
2 p$ b* Z* P4 [; ^"ใครทำลายกันแน่ครับ ถึงยังไงแม่ก็ต้องรู้อยู่แล้ว จะช้าหรือเร็วเท่านั้นเอง ถ้าผมบอกแม่ก็รู้เร็วขึ้นอีกหน่อยเท่านั้น อาเป้คงไม่รู้หรอกครับว่าตอนนี้คนใช้ของเพื่อนบ้านซุบซิบกันให้แซ่ดว่าตอนบ่ายรถของพ่อกับของอาเป้ทำไมต้องแวะมาจอดที่บ้าน ตอนเย็นก็ขับออกไปอีก แล้วค่ำๆก็กลับเข้ามาใหม่ สักวันเรื่องซุบซิบพวกนี้ก็ต้องเข้าหูแม่ แล้วแม่ก็ต้องรู้อยู่ดี"
& x" p3 a4 c. O7 y/ n' n  yผมรู้สึกหมดเรี่ยวหมดแรง ประโยคที่ว่า 'ใครทำลายกันแน่' นั้นจี้ใจดำของผมเข้าเต็มที่ ผมกับพี่ยศพลาดไปถนัดใจที่ใช้บ้านของตัวเองเป็นสนามรัก ขณะที่เราเข้าใจว่าปกปิดทุกคนในบ้านได้สนิท แต่เราลืมไปว่าเราจะไปปิดหูปิดตาเพื่อนบ้านไม่ได้ $ G8 E1 f7 @* ?  A  Y. [" o/ t
"แล้วทำไมโตรู้เรื่องพวกนี้" ผมถาม' _. u9 h8 l. ?  l7 Y, x) l
"วันก่อนไอ้หนึ่งมันเอามาบอกครับ ว่าคนใช้ของมันซุบซิบเรื่องนี้กัน" ไอ้หนึ่งของโตหมายถึงลูกของเพื่อนบ้านที่อยู่บ้านใกล้กัน มีวัยใกล้เคียงกับโต
+ g4 b+ t: V$ \/ q0 w* k"อาเป้ครับ" โตพูดอย่างเสียใจ "ผมขอโทษที่ใช้วิธีขู่อา ผมก็รู้ว่าผมไม่ควรทำอย่างนั้น แต่ผมอยากมีความสุขกับอาสักครั้ง ขอผมสักครั้งเถอะครับ นะครับ นะครับ ผมรักอามากจริงๆ" ว่าแล้วโตก็น้ำตาไหล ตรงเข้ามากอดผม แม้ผมจะผ่านชีวิตวัยรุ่นมาแล้ว แต่ผมไม่เข้าใจอารมณ์ของวัยรุ่นอย่างโตเลย ไม่นึกว่าจะมีความกล้าพูดจาได้เปิดเผยและแสดงออกได้ขนาดนี้ 8 u* b: F. ]- s
ผมควรทำอย่างไรดี ผมรู้ดีว่าโตไม่มีวันทำตามที่ขู่ เพราะโตเป็นคนที่น่ารัก ที่พูดก็เพราะอารมณ์ชั่ววูบเท่านั้นเอง ถ้าผมไม่ยอม โตก็คงเสียใจมาก แต่ถ้าผมยอม แล้วผมจะอยู่ในสภาพอย่างไร แล้วผมจะมองหน้าพี่ยศได้อย่างไร? 4 x' }( ~* y/ S+ ~  J$ X9 \
และแล้ว ผมตัดสินใจทำบางสิ่งบางอย่างลงไป ผมตัดสินใจถอนตัวจากเหวลึกนี้ … เพื่อความสงบสุขของทุกคน แต่ก่อนที่ผมจะละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไป ผมจะโอนอ่อนผ่อนตามโตสักเล็กน้อย ผมรู้ว่าผมกำลังทำผิด แต่ผมคิดว่าถ้าผมไม่ทำอย่างนี้แล้วผมอาจจะผิดมากกว่า เพราะโตคงไม่ยอมเลิกราง่ายๆ อีกอย่าง ในเมื่อโตแสดงตนอย่างชัดเจนว่ามาอยู่ในเส้นทางสายนี้แล้ว ข้อกังวลเรื่องชักจูงโตให้เป็นเกย์ก็คงตัดไปได้
) g0 w3 X) [. t"เอาอย่างนี้ เรามาพบกันครึ่งทาง อาจะใช้มือช่วยโตก็แล้วกัน ตกลงไหม ไม่มีอะไรเกินเลยไปกว่านี้ และเพียงครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น" ผมยื่นข้อเสนอ) j( D6 _% c; E. ?* C/ q$ x" T# w
โตหยุดคิดเล็กน้อยแล้วก็ตกลง คงเพราะจะรู้ดีว่าผมโอนอ่อนได้มากที่สุดก็เพียงนี้ และโดยที่ผมไม่ต้องบอก โตก็ถอดเสื้อและกางเกงออก ท่อนลำของโตชูชันขึ้นมาในพริบตา ท่าทางโตจะต้องการผมมาก เพราะดูโตไม่อายผมเลยแม้แต่น้อย
; r/ ]' l' J1 z* oผมใช้มือคว้าไปที่ท่อนลำของโต แล้วรูดเเข้าออก แต่โตห้ามไว้ "อาเป้ ถอดเสื้อผ้าออกด้วยสิครับ" + }/ K8 p' o6 u
"ไม่ต้องหรอก" ผมว่า5 H0 d' ]! c: b) s
"นี่ไม่ได้เกินกว่าข้อตกลงนะครับ" โตทวงสิทธิ์
' `4 y$ n  w0 u, X"ไม่ใช่ไม่เกิน เราลืมตกลงกันเรื่องนี้ต่างหาก" ผมว่า โตอ้อนวอน ในที่สุดผมก็ยอม เหตุที่ยอมก็เพราะที่จริงตอนที่เราไปว่ายน้ำด้วยกันเราก็ใส่แต่กางเกงว่ายน้ำตัวจิ๋ว โตก็เคยเห็นของผมมาแล้ว บางทีก็ตอนอาบน้ำ บางทีก็ตอนเข้าห้องน้ำ เพราะห้องน้ำที่สระว่ายน้ำไม่ค่อยมิดชิดนัก $ l1 A& @; K4 p! u, z
และแล้ว ผมจึงอยู่ในสภาพเปลือยเปล่า ปล่อยให้โตดูเรือนร่างของผมอย่างเต็มตา ขณะเดียวกันก็ใช้มือช่วยโตไปด้วย โตร้องครวญครางอย่างมีความสุข พร้อมทั้งอมนิ้วจนเปียกน้ำลาย แล้วใช้นิ้วสอดเข้าไปในถ้ำของตนเอง ผมอดแปลกใจไม่ได้ว่าโตไปเอาวิธีนี้มาจากไหน เพราะผมกับพี่ยศก็ไม่เคยทำอะไรกันแบบนี้มาก่อน
. q) v8 g$ [  P8 g: {: Tใจผมขณะนั้นไม่ได้มีความสุขเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม มันกลับเป็นความขมขื่นใจ ผมไม่เคยนึกเลยว่าการให้ความสุขแก่ใครบางคนจะสร้างความขมขื่นให้แก่ตนเองได้ขนาดนี้ คนที่ผมรักและเอ็นดูกลับมาขู่กรรโชกผม รวมทั้งหลังจากวันนี้ผมจะ…
  e; t7 P% o! t! T& c8 Bฉับพลันนั้น ประตูห้องเปิดผลัวะออก แสงไฟจากโคมไฟเล็กส่องให้เห็นใบหน้าของผู้ที่ยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องนอน แม้แสงจะสลัวแต่ก็ดูรู้ว่าเป็นใคร… พี่ยศนั่นเอง * E; y, ]! i* X7 U2 s7 [" B

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
พลังน้ำใจ
79626
Zenny
205823
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:20:44 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(12) : จำพราก
6 d' ~' Q- X/ Y; s* \+ ^
) \! q: ~6 N: T. j8 I5 Bทั้งผมและโตต่างตกใจมาก เพราะนึกไม่ถึงว่าพี่ยศจะเข้ามาในเวลานี้ ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณตีสามแล้ว ผมนึกขึ้นได้ว่าพี่ยศบางครั้งก็ตื่นขึ้นมากลางดึกเพื่อสำรวจความเรียบร้อยรอบๆบ้าน เนื่องจากแถวนี้มีคดีย่องเบางัดแงะอยู่บ้าง แต่ผมก็ลืมเรื่องนี้ไปสนิท พี่ยศคงตื่นขึ้นมาสำรวจรอบบ้านและเห็นแสงไฟที่ลอดจากช่องประตูห้องนอน จึงเปิดเข้ามาดู
0 B9 q, m1 ~* a( e  Zเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึก 'อาย' ที่พี่ยศเห็นเรือนร่างอันเปล่าเปลือยของผมทั้งๆที่เราก็มีความสัมพันธ์อันลึกซึ้งกัน ผมรีบคว้าเสื้อผ้ามาปิดบังร่างกาย โตก็เช่นเดียวกัน ผมเห็นใบหน้าของพี่ยศถมึงทึงเมื่อรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องนี้ ส่วนโตนั้นยืนหน้าซีดตัวสั่นอยู่ข้างๆผม ผมไม่เคยเห็นใบหน้าของพี่ยศดุดันและน่ากลัวเช่นนี้มาก่อนเลยตั้งแต่รู้จักกันมาเกือบยี่สิบปี
. P" s/ s& k9 |( ?4 S0 [พี่ยศยืนนิ่งคล้ายกำลังควบคุมอารมณ์อยู่ ส่วนผมและโตนิ่งเงียบ สักครู่พี่ยศก็ออกคำสั่งเสียงเฉียบ
" \5 r2 N. a3 ~& M2 I, w2 j"เป้ แต่งตัวแล้วลงไปหาพี่ที่ห้องทำงานข้างล่างหน่อย" แล้วหันมาสั่งโต "โตไม่ต้องตามลงไปนะ"( o4 @9 s, M* O' u0 _- L9 k
จากนั้นพี่ยศก็หมุนตัวกลับออกจากห้องไป โตรีบมาคว้าแขนผม ผมหันไปมองเห็นโตหน้าซีด มีสีหน้าตกใจและกังวล โตมองผมอย่างคล้ายกับจะขอความช่วยเหลือ ) q5 J  }5 G6 U* {
ผมเองก็ไม่รู้ว่าจะช่วยอย่างไร เพราะไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น คนมักพูดกันว่าคนที่เงียบๆ เย็นๆ เวลาโกรธขึ้นมาจะระเบิดราวภูเขาไฟ รุนแรงยิ่งกว่าคนขี้โมโหโกรธเป็นไหนๆ วันนี้ผมคงได้พิสูจน์คำกล่าวที่ว่านี้แล้ว ผมบีบมือโตเบาๆเป็นเชิงปลอบใจ แล้วรีบแต่งตัวลงไปข้างล่าง # F: C! x" u+ q9 d
ที่ห้องทำงานของพี่ยศ ผมเห็นพี่ยศยืนมองออกไปนอกหน้าต่าง สีหน้าของพี่ยศเคร่งเครียดและทมึนยิ่งกว่ารัตติกาลภายนอกหน้าต่างเสียอีก ผมรู้สึกหนาวเย็นขึ้นมาที่ก้นบึ้งของหัวใจ & g2 B( t, H4 J3 ]
"พี่ครับ" ผมเรียกเบาๆ พี่ยศหันหน้ามามองผม พี่ยศมองผมราวกับเป็นคนแปลกหน้า ส่วนผมเองก็รู้สึกว่าพี่ยศที่ผมเห็นอยู่นี้ไม่ใช่พี่ยศคนเดิมที่ทั้งใจดีและอบอุ่น แต่เป็นพี่ยศที่ดุร้ายน่ากลัว9 U" F8 j; b$ J  t9 ^/ C- }3 D
"เป้ ทำไมทำอย่างนี้กับหลาน เลวมาก" พี่ยศพูดเสียงสั่นด้วยความโกรธ ! t0 e2 b) K7 c- E5 [+ ]
ผมรู้สึกจุกในลำคอ พี่ยศที่เคยรักและเอ็นดูผมเสมอมาถึงกับออกปากด่าผมว่า 'เลวมาก' โดยยังไม่ฟังคำอธิบายจากผมสักคำ พี่ยศไม่เคยพูดอะไรที่รุนแรงกับผมมาก่อนเลย ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ผมพูดไม่ออก ดวงตารู้สึกพร่าเพราะเอ่อไปด้วยน้ำตา ตอนนั้นผมรู้สึกทั้งผิดหวัง เสียใจ ผมรู้สึกว่าได้รับความอยุติธรรม ความรู้สึกเหล่านี้แหลมคมประดุจคมมีดที่กรีดเชือดลงไปที่หัวใจของผม# x1 n# f9 [+ u8 q0 n  A6 [
"พี่ครับ ฟังผมก่อน…" ผมพูดเสียงเครือ พยายามเค้นเสียงอย่างยากเย็นกว่าเสียงจะผ่านก้อนสะอื้นที่จุกลำคอออกมาได้
# L. }1 i' \" ]7 z"จะให้ฟังอะไรอีกล่ะ พี่เห็นมากับตา" พี่ยศตะคอกเสียงดัง พี่ยศไม่เคยตะคอกผมมาก่อนเลย ดูเหมือนว่าวันนี้ผมได้พบกับอะไรๆที่เป็น 'ครั้งแรก' จากพี่ยศหลายอย่างหลังจากที่รู้จักและผูกพันกันมานาน
8 I: C$ t/ F$ ?  m2 j$ Z! U; Hผมนึกอะไรไม่ออก หัวหมุนไปหมด คิดจะเรียบเรียงคำพูดให้เป็นลำดับเพื่ออธิบายก็เรียบเรียงไม่ถูก นึกอยู่อย่างเดียวคือต้องช่วยโตไว้ก่อน เพราะเรื่องนี้โตเป็นคนก่อขึ้นมา' J. a% n/ E; R( o4 R9 y9 x
"พี่ครับ โตยังเด็กอยู่ พี่อย่าไปโทษโตเลยครับ" ผมพยายามอธิบาย แต่คำพูดที่สั้นเกินไปของผมพี่ยศกลับเข้าใจผิดไปกันใหญ่- E; A; m0 o' K5 X0 g0 y
"พี่จะไปโทษโตได้ยังไง ก็ในเมื่ออามันเป็นคนชักจูง เด็กมันก็ขัดขืนไม่ได้น่ะสิ" พี่ยศพูดเสียงตะคอกอีก
" c' d. S% ]8 Q. B% L, Dผมนิ่ง มองหน้าพี่ยศเหมือนกับไม่เคยเห็นชายคนนี้มาก่อน ความโกรธทำให้พี่ยศกลายเป็นคนละคนไป ผมไม่นึกเลยว่าพี่ยศจะเหมาเอาง่ายๆว่าทั้งหมดเป็นความผิดของผมเช่นนี้ ตอนนั้นน้ำตาลูกผู้ชายของผมรื้นเต็มสองตาแล้ว แต่ผมไม่ยอมปล่อยสะอื้นออกมา ผมต้องเข้มแข็งเพื่อรับมือกับสถานการณ์
$ [1 A- [0 G/ \/ W. s9 @"โตเป็นเกย์นะครับ"
. s" I: x9 \( w  ?+ q+ Rผมตัดสินใจบอกความลับของโตออกไป แล้วเตรียมจะเล่าเรื่องทั้งหมดให้พี่ยศฟัง แต่พี่ยศกลับมีท่าทีรับไม่ได้กับสิ่งที่ผมพูดออกไป พร้อมทั้งตะคอกผมอีก9 i+ I1 B4 V% ~( }- D# _6 l: H
"เฮ้ย มันจะเป็นไปได้ยังไง ก็มันยังเดินควงเพื่อนสาวของมันอยู่เลย แกคงยัดเยียดให้มันเป็นล่ะสิ ไม่น่าปล่อยให้นอนห้องเดียวกันเลย นี่ถ้ามันกลายเป็นเกย์จริงๆจะเอาให้ตายทั้งคู่เลย"
, I0 l' R7 E( R1 s* `'แก' เป็นคำเรียกที่พี่ยศไม่เคยเรียกผมมาก่อน แต่วันนี้ผมก็ได้ยินแล้ว ผมตกใจกับท่าทีอันโกรธเกรี้ยวเมื่อผมบอกพี่ยศว่าโตเป็นเกย์มาก ผมคิดว่าถ้าพี่ยศมีปืนอยู่ในมือตอนนั้นพี่ยศก็คงยิงผมได้อย่างไม่ลังเลเลย
5 u* Y0 B& W4 S7 i9 A"พี่ ฟังผมก่อน" ผมพยายามฉุดรั้งอารมณ์ของพี่ยศเอาไว้ แต่พี่ยศไม่ยอมฟัง
. n# G  M. l7 W  X! P1 g"กลับไปก่อนเถอะ ตอนนี้ยังไม่อยากเห็นหน้า" พี่ยศตัดบท ผมรู้สึกใจหายกับประโยคสุดท้ายที่พี่ยศพูด พี่ยศไม่เรียกตัวเองว่า 'พี่' และไม่เรียกผมว่า 'เป้' เหมือนก่อน กลายเป็นประโยคที่ไม่มีสรรพนาม มันบ่งบอกอะไรบางอย่าง คล้ายกับว่าพี่ยศชิงชังผมอย่างที่สุด… จนไม่อยากนับญาติกัน … จนไม่ต้องการแม้แต่จะเอ่ยชื่อ
: v0 P, }) f. j& ~# Aเมื่อถูกออกปากไล่เช่นนี้ ผมก็สุดที่จะด้านหน้าอธิบายอยู่ต่อไปได้ หลบไปเสียก่อนก็ดีเหมือนกัน รอให้พี่ยศอารมณ์เย็นลงแล้วค่อยอธิบาย แต่ถึงอย่างไรผมก็ไม่วายห่วงโต แม้โตจะขู่กรรโชกผม แต่ผมก็ไม่ได้ถือสา ยังคงรักเอ็นดูโตเช่นเดิมและต้องการจะปกป้องโตเอาไว้ ก่อนไปผมยังไม่วายเตือนสติพี่ยศว่า
5 F: z- k: M* ^$ X. L* N$ v% f' }( B"พี่อย่าไปทำอะไรรุนแรงกับโตนะครับ ถ้าพี่ทำ พี่ก็กำลังจะกลายเป็นคนที่พี่ไม่อยากเป็น … เป็นเหมือนพ่อพี่"
$ N# u5 q/ }+ z2 e, }1 Uผมออกจากบ้านพี่ยศกลางดึกในคืนนั้นเองด้วยความสะเทือนใจ และหลังจากนั้นเราก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย " {' a. t) z! N8 e9 O
หลังจากวันที่เกิดเรื่อง ชีวิตของผมกลับกลายจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากคนที่เคยสดชื่นรื่นเริงกลับกลายเป็นคนหมดอาลัยตายอยาก ผมพยายามไปทำงานทั้งๆที่ทำงานไม่รู้เรื่อง แต่ผมไม่ต้องการหยุดงานเพราะการหยุดอยู่คนเดียวเงียบๆจะยิ่งทำให้ผมฟุ้งซ่าน เพื่อนๆที่ที่ทำงานต่างก็สังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของผม แม้ผมพยายามจะซ่อนมันไว้แต่ก็ซ่อนไม่ได้ เพราะความกระทบกระเทือนใจครั้งนี้ใหญ่หลวงเกินกว่าที่ผมจะแสร้งทำชีวิตให้เป็นเช่นปกติได้& P0 V9 l1 e/ [
หลายครั้งที่ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อจะโทรไปอธิบายให้พี่ยศฟังถึงเรื่องราวทั้งหมด แต่อีกใจหนึ่งก็เกิดทิษฐิ ในคืนวันนั้นถ้าพี่ยศใจเย็นกว่านี้สักเล็กน้อยก็คงจะยอมฟังผมอธิบายบ้าง แต่พี่ยศไม่ยอมฟังเลย ทั้งยังไล่ตะเพิดผมอย่างไม่มีเยื่อใย กลางคืนผมต้องนอนน้ำตาไหลเมื่อคิดถึงการกระทำของพี่ยศที่ทำกับผม มันไม่เหมือนคนที่รักกันเลย แต่มันเป็นเหมือนคนที่ชิงชังกันมากกว่า
$ n/ ]( _3 M  S8 E6 nผมหวนนึกทบทวนถึงช่วงเวลาอันมีความสุขที่ผ่านมา มันช่างผ่านไปรวดเร็วเสียจริงๆ ฝันสุขฝันดีมีเมื่อใด ผมเคยคิดที่จะปลีกตัวจากพี่ยศมาเพื่อให้ความสงบสุขกลับคืนมาสู่ครอบครัวของพี่ยศ แต่ผมก็นึกไม่ถึงว่าจะต้องจากมาด้วยสภาพเช่นนี้ พร้อมด้วยตราบาปว่าล่อลวงหลานมาเสพสุข กลางคืนผมนอนไม่หลับเพราะมัวแต่คิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ยิ่งคิดก็ยิ่งสับสน…
, i( Y8 _+ S) Y( A- @+ l. ]ผมครุ่นคิดทบทวนชีวิตที่ผ่านมาอยู่ 3 วัน ช่วงเวลา 3 วันนี้แม้ผมจะคิดมาก แม้ผมจะต้องหลั่งน้ำตา แต่แปลกที่หัวใจผมไม่รู้สึกเจ็บปวด ผมเคยเห็นคนงานก่อสร้างเกิดอุบัติเหตุถูกเครื่องมือตัดนิ้ว คนงานบอกกับผมว่าหลังถูกตัดแล้วรู้สึกชาอยู่พักใหญ่ จากนั้นจึงเริ่มรู้สึกเจ็บปวด หัวใจของผมคงเป็นเช่นนี้กระมัง ยังชาด้านอยู่ & ^( e- J, F" n! o
และแล้วผมก็ตัดสินใจ ผมตัดสินใจตอนที่หัวใจยังชาด้าน ซึ่งอยู่คงดีกว่าตอนที่เจ็บปวด เพราะสติของผมยังไม่ถูกความเจ็บปวดเข้าครอบงำ ผมตัดสินใจไปจากกรุงเทพฯ ผมลาออกจากงาน ตามระเบียบของบริษัท ผมต้องลาออกล่วงหน้า 1 เดือน แต่เนื่องจากผมยังมีวันลาพักร้อนสะสมอยู่ 2 สัปดาห์ ดังนั้นผมจึงต้องอยู่ทำงานจริงๆอีกเพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น ' d. `: g8 G9 @6 V- M. [
ผมใช้เวลาที่เหลืออยู่จัดการเกี่ยวกับเรื่องบ้านแม่ที่ผมอาศัยอยู่ ผมรู้ว่าแม่รักบ้านหลังนี้ และผมเองก็รักบ้านหลังนี้เช่นเดียวกัน บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ให้ความอบอุ่นแก่ผมมาแต่น้อยคุ้มใหญ่ ยิ่งตอนนี้ยิ่งรู้สึกรักมัน เพราะมันทำให้ผมนึกถึงแม่ ถึงตอนนี้เองที่ผมได้ตระหนักถึงความจริงว่าไม่มีใครรักผมจริงเท่ากับแม่ แม่พร้อมให้อภัยผมได้ทุกเรื่อง แต่พี่ยศไม่…
8 J  }$ o6 U5 Oเดิมผมตั้งใจจะจากกรุงเทพฯไปโดยไม่กลับมาอีกเลย ไม่อยากมีห่วงอยู่ที่กรุงเทพฯให้พะวง รวมทั้งไม่คิดปรับความเข้าใจกับพี่ยศอีกแล้วด้วย เพราะผมหมดอาลัยตายอยากเสียแล้ว จึงอยากจะขายบ้านหลังนี้ไปเสีย แต่เมื่อมาคิดอีกที ผมกลับไม่อาจตัดใจขายได้ จึงฝากให้ญาติข้างแม่ช่วยดูแลไปสักระยะหนึ่งก่อน จนกว่าผมจะตัดสินใจได้
( J) L3 M  {1 n9 ^  dเมื่อถึงวันที่ผมเป็นอิสระจากงานประจำ ผมเตรียมเงินสดก้อนหนึ่ง และเดินทางขึ้นเหนือไปเรื่อยๆ ก่อนออกจากบ้าน ผมมองดูรอบๆบ้านเป็นครั้งสุดท้ายด้วยความอาลัยอาวรณ์ ผมคลำรอยบิ่นที่เสาราวบันไดพร้อมกับรำลึกถึงความหลัง รอยบิ่นนี้เกิดจากฟันของผมเองตอนที่ผมซนจนกลิ้งตกบันไดเมื่อเด็กๆ สามสิบกว่าปีแล้วมันก็ยังคงอยู่ วัตถุธาตุยังคงอยู่ แต่คนและจิตใจคนกลับเปลี่ยนแปลงไป…: p% X- {% s# I, C0 G( |3 C
ผมกำลังจะจากทุกสิ่งทุกอย่างไป ผมมองดูแจกันใส่ดอกไม้ใบโปรดของแม่ พร้อมทั้งเอารูปถ่ายของแม่ใบเล็กๆใบหนึ่งมาใส่กระเป๋าสตางค์ไว้ ใจหนึ่งผมยังอาลัยอาวรณ์ต่อทุกคนและทุกสิ่งทุกอย่าง แต่อีกใจหนึ่งก็บอกตนเองว่าผมจำเป็นต้องไป … คราวนี้เป้จะพาแม่ไปด้วยนะแม่ … ไปเป็นเพื่อนเป้หน่อย& G3 f4 M+ S: |
เพื่อนๆที่ที่ทำงานไม่มีใครรู้ว่าผมลาออกไปไหน ผมอยากหายตัวไปเงียบๆ มีเพียงญาติที่ผมฝากบ้านไว้เท่านั้นที่รู้ว่าผมจะไปจากกรุงเทพฯ แต่ก็ยังไม่รู้ว่าผมไปไหนอยู่ดี
8 d" ~+ G2 M( `% T. `' d( D9 C! Hผมเดินทางขึ้นเหนือพร้อมเป้และเต๊นท์คู่ใจที่ไม่ได้ใช้มาหลายปีแล้ว ในอดีตผมรักชีวิตการเดินทางและแค้มปิ้งกลางป่าเขา มาถึงวันนี้ ผมตัดสินใจที่จะหวนกลับไปสัมผัสกับชีวิตแบบนั้นอีกสักครั้ง ผิดกันแต่ว่าทุกครั้งผมมีเพื่อนๆร่วมเดินทางไปด้วย แต่ครั้งนี้ผมต้องเดินทางอย่างเดียวดายและสิ้นหวังในชีวิต… มีเพียงความรู้สึกลมๆแล้งๆว่ามีแม่อยู่เคียงข้าง การเดินทางของผมครั้งนี้เปรียบเหมือนการแสวงหาครั้งใหม่ของผม ผมกำลังแสวงหาอะไรบางอย่างที่ผมสูญเสียไป หรือไม่ก็เป็นอะไรบางอย่างที่ผมไม่เคยได้มันมาก่อน… เงินทองที่ผมสะสมอยู่คงช่วยให้ผมเดินทางได้สักปีโดยไม่ต้องทำงาน หลังจากนั้นค่อยมาคิดกันอีกทีว่าผมควรทำอย่างไรต่อไป
# {" a$ J: x0 |7 }* O" x  ^การเดินทางคนเดียวแทนที่จะทำให้ผมได้คิดและปลงตก ตรงกันข้าม มันกลับทำให้ผมจมอยู่ในห้วงทุกข์ ผมรอนแรมไปตามป่าเขาของอุทยานแห่งชาติแห่งต่างๆ คล้ายๆกับพระธุดงค์ แต่ใจของผมไม่ได้สงบนิ่งเช่นผู้ทรงศีล ความเดียวดายทำให้ผมคิดมากและฟุ้งซ่านมากยิ่งขึ้น ความเจ็บปวดในจิตใจได้กัดกร่อนผมมาตั้งแต่เริ่มการเดินทาง และยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ ผมยอมปล่อยให้ความเจ็บปวดเข้าครอบงำและกัดกร่อนจิตใจ ด้วยหวังว่ามันจะช่วยลดทอนบาปกรรมที่ผมได้แย่งชิงคนรักของผู้อื่นมาครอบครองไว้ได้บ้าง
/ a1 D' u: m/ L3 f

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
พลังน้ำใจ
79626
Zenny
205823
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-3-12 09:22:07 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(13) : การเดินทาง (จบ)( u: L2 L# J8 K  h$ ~/ g0 B& q- Z

1 Z, w0 I! t- U& e+ s: K2 q+ oผมไม่โทษใครในสิ่งที่เกิดขึ้น หากจะโทษก็ต้องโทษตัวเอง ผมก่อบาปกรรมเอาไว้กับครอบครัวของพี่ยศ ผมจึงสมควรได้รับผลกรรมนั้นตอบแทน ผมไม่คิดอธิบายอะไรอีกแล้ว ผมอยากปล่อยให้ทุกอย่างผ่านเลยไป ปล่อยให้ชีวิตเป็นเช่นจอกแหน ความสุข ความทุกข์ ความรัก ความโกรธ อยากให้ทุกอย่างเป็นเหมือนทิวทัศน์สองฝั่งของแม่น้ำ ที่ปัจจุบันเราเห็นมันอยู่เบื้องหน้าสายตา แต่สักพักมันก็จะคล้อยไปอยู่ข้างหลัง และลับสายตาไปในที่สุด แต่แล้วผมก็ยังทำไม่ได้ ! s! a2 @/ [$ t  k" U, T
หลังจากวันที่เกิดเรื่องเกือบสามสัปดาห์ ขณะนั้นผมกำลังรอนแรมอยู่ในป่าในเขตอุทยาแห่งชาติน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์ ผมก็พบว่ามีข้อความฝากถึงผมทางโทรศัพท์มือถือ ที่จริงผมคิดจะขายโทรศัพท์มือถือเพราะไม่ต้องการจะใช้มันอีกต่อไปแล้ว แต่ใจหนึ่งก็รู้สึกเสียดาย จึงเก็บเอาไว้ก่อน คงเป็นเพราะว่าผมยังเหลือเยื่อใยเส้นเล็กๆไว้กระมัง และคิดว่าพี่ยศอาจจะติดต่อมา, D, p- a4 c  l1 X
และแล้วความอาวรณ์ใยสุดท้ายที่หลงเหลืออยู่ก็เป็นความจริง ในที่สุดพี่ยศก็โทรติดต่อมา แต่ปกติผมจะปิดโทรศัพท์มือถือเอาไว้ ดังนั้นพี่ยศจึงทำได้เพียงแค่ฝากข้อความไว้! ?( m  ]$ e& Y
"เป้ พี่เองนะ" เสียงพี่ยศพูด เสียงนั้นฟังดูอบอุ่นและนุ่มนวลเหมือนเมื่อก่อนเกิดเรื่อง "อยากให้เป้โทรหาพี่หน่อย พี่อยากคุยด้วย"8 A' P' a; [4 W+ V) z
ผมรู้สึกอบอุ่นวูบขึ้นมาในหัวใจ ประโยคสั้นๆจากคนที่ผมรักเป็นเหมือนสายลมอันอบอุ่นในฤดูเหมันต์ แต่อีกใจหนึ่งก็เจ็บปวดที่ได้ยินเสียงนั้น จิตใจคนนี่ยากจะหยั่งจริงๆ แม้แต่เจ้าของใจก็ยังไม่รู้จักใจตนเองดีพอ ทั้งๆที่ผมอยากคุยกับพี่ยศแทบจะขาดใจ แต่ผมกลับตัดสินใจไม่โทรไปหาพี่ยศ ผมไม่ต้องการอธิบายอะไรอีกแล้ว
; r# n- m: r4 x"เป้ พี่ยศนะ" เสียงนั้นดังขึ้นอีกในวันต่อมาเมื่อผมเช็คข้อความที่ฝากไว้อีกครั้ง "เป้อยู่ที่ไหน พี่โทรไปที่ที่ทำงาน คนที่นั่นก็บอกว่าเป้ลาออกไปแล้ว พอไปดูที่บ้านก็เห็นบ้านปิดตายไว้" เสียงนั้นหยุดไปครู่หนึ่ง "ถ้าเป้ไม่อยากโทรหาพี่ เป้เปิดเครื่องหน่อยสิ พี่อยากคุยด้วย ขอให้พี่คุยกับเป้หน่อยนะครับ"
8 u5 C7 }! l! U& vผมไม่ตอบ รวมทั้งไม่เปิดเครื่องไว้ด้วย แต่กลับรอนแรมเดินทางต่อไป 3 E$ E$ c+ p% v: A/ ^' I
ยามกลางคืนส่วนใหญ่ผมจะกางเต๊นท์นอนในอุทยานไม่ที่ใดก็ที่หนึ่ง ในบริเวณซึ่งห่างไกลผู้คน ท้องฟ้ายามกลางคืนในป่าสวยงามยิ่งนัก เต็มไปด้วยดวงดาวพราวพราย แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความอ้างว้างเพราะเหมือนกับว่ามีผมอยู่เพียงเดียวดายในโลกกว้าง ความเดียวดายทำให้ผมรู้สึกหดหู่ ผมพยายามจะลืมอดีตแต่ก็ลืมไม่ได้ มันวนเวียนไปมาอยู่ในความคิดของผมตลอดเวลา ผมกำลังหลอกตัวเองว่าผมจะลืมทุกอย่างได้ เหมือนกับที่ผมเคยหลอกตัวเองว่าผมไม่ได้คิดครอบครองพี่ยศ แต่ที่จริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น 8 f* t6 [% r. {. J
ผมคิดถึงพี่ยศ แม้พี่ยศจะดูเหมือนสิ้นไร้เยื่อใยในตัวผมแล้วก็ตาม แต่ผมก็ยังรักพี่ยศอยู่ ทุกคืนผมต้องนอนน้ำตาซึม กว่าจะข่มตาหลับได้ก็เป็นชั่วโมง " ความตายนั้นน่ากลัวแต่การพลัดพรากกลับน่ากลัวกว่า"  เพราะคนที่ตายไปแล้วก็หมดห่วงหมดอาวรณ์ ไม่ต้องเป็นทุกข์อีก แต่คนที่พลัดพรากนี่สิกลับยังต้องเวียนว่ายอยู่ในทะเลทุกข์เพราะความห่วงหาอาวรณ์ ผมเสียใจที่วันที่เราต้องจากกันนั้นแทนที่จะจากกันด้วยความรักและความเข้าใจ กลับกลายเป็นจากกันด้วยความชิงชัง ผมมีความรักมา 3 ครั้งแล้วก็ล้มเหลวทั้ง 3 ครั้ง ผมอดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมชีวิตของผมจึงอับโชคในเรื่องความรักเช่นนี้
3 f6 A/ N4 Y* {4 e; k5 h. w; Kผมเดินทางไปเรื่อยๆโดยไม่ได้เปิดโทรศัพท์ฟังอีกเลย เพราะผมกลัวที่จะได้ยินเสียงพี่ยศอีก จนเมื่อผมกำลังจะเดินทางเข้าป่าอุ้มผาง ผมจึงเปิดโทรศัพท์เพื่อฟังข้อความอีกครั้ง ก็พบว่าพี่ยศโทรมาครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ข้อความ 2 ครั้งสุดท้ายนั้นยาวกว่าข้อความอื่นๆ
  N' ~3 l* R+ b1 i$ Y  E# }"เป้" เสียงนั้นเรียกผม "ที่จริงพี่อยากจะคุยกับเป้ จะได้ปรับความเข้าใจกัน แต่ถ้าเป้ไม่อยากคุยก็ไม่เป็นไร พี่ฝากบอกไว้ก็ได้…" เสียงนั้นเงียบไปชั่วครู่ "พี่รู้ความจริงทุกอย่างแล้ว โตเพิ่งมาสารภาพกับพี่ ว่าทุกอย่างที่พี่เห็นเมื่อวันนั้นเกิดจากความต้องการของโต ไม่ใช่ของเป้ ตอนแรกพี่โกรธโตมาก จนโตเข้าหน้าพี่ไม่ติด โตเลยไม่กล้าบอกความจริง แต่โตบอกว่าทนสงสารเป้ไม่ได้ที่ต้องมารับบาปแทน ในที่สุดจึงมาบอกความจริงกับพี่ และเรื่องที่พี่กับเป้ไม่เคยรู้มาก่อนก็คือโตไม่ได้ไร้เดียงสาเลย โตเคยมีประสบการณ์แบบนี้กับเพื่อนที่โรงเรียนมาหลายครั้งแล้ว" เสียงนั้นหยุดไปอีกครู่หนึ่ง เหมือนกำลังเรียบเรียงคำพูด แล้วโทรศัพท์ก็ตัดไป
" x1 K# s0 O& J. l4 e3 q6 {หลังจากนั้นผมก็เปิดฟังข้อความถัดมา "พี่ต้องขอบใจเป้ที่เตือนสติพี่ด้วยคำพูดประโยคสุดท้าย ถ้าไม่ได้คำพูดประโยคนั้นพี่คงทำอะไรรุนแรงกับโตไปแล้วจริงๆ ตอนนี้พี่มีเวลาคิดแล้ว ที่จริงโตก็คืออดีตของพี่เมื่อเด็กๆนั่นเอง ไม่น่าเชื่อที่พี่โกรธอดีตของตนเองได้ เป้พูดถูก ตอนนั้นพี่ก็เป็นเหมือนพ่อของพี่เอง แต่ตอนนี้พี่ได้คิดแล้ว เป้ไม่ต้องเป็นห่วงโตนะ …" เสียงนั้นเงียบไปอีก "เป้ พี่ขอโทษในสิ่งที่ทำไป พี่คิดถึงเป้มาก … อยากให้ทุกอย่างกลับคืนมาเหมือนเดิมอีก พี่ไม่รู้ว่าตอนนี้เป้อยู่ที่ไหน แต่อยากให้เป้กลับมาหาพี่อีก เป้โทรกลับมาหาพี่ด้วยครับ"3 x# [4 n( L. N1 _4 n
ผมทรุดนั่งลงกับพื้นดินชอุ่มของป่าอุ้มผางท่ามกลางสายฝนปรอย หัวใจคลายทุกข์ลงไปเปลาะหนึ่ง อย่างน้อยก็รู้ว่าโตไม่มีปัญหาอีกแล้ว ความจริงทุกอย่างกระจ่าง มิน่าเล่าทำไมโตถึงได้กล้าทำกับผมเช่นนี้ ก็เพราะโตเคยมีประสบการณ์มาบ้างแล้วนั่นเอง ผมอดนึกน้อยใจไม่ได้ เพราะถ้าพี่ยศเข้าใจผมอย่างแท้จริง เรื่องเข้าใจผิดนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น หลายปีที่ผูกพันกันมาพี่ยศน่าจะทราบดีว่าผมชอบแต่คนที่มีอายุมากกว่า ไม่ได้สนใจเด็กๆหรือว่าคนที่อายุน้อยกว่าเลย แล้วผมจะทำเรื่องแบบนั้นกับโตได้อย่างไร- |  \5 \( z# J  O9 K5 E# Y2 u
"ความตายไม่น่ากลัวเท่าการพลัดพราก" ผมพึมพำเบาๆกับตัวเอง หนึ่งเดือนที่ผมรอนแรมเดินทางท่ามกลางความเจ็บปวดที่กัดกร่อนจิตใจ เมื่อความจริงกระจ่าง ตอนนี้ผมมีโอกาสที่จะกลับไปแล้ว แต่ผมสมควรกลับไปหรือ?; z; S8 |1 o( u% k9 P
ไฟแบตเตอรี่หมดแล้ว ไฟของแบตเตอรี่สำรองก็หมด ผมเก็บโทรศัพท์ไว้ในเป้ ผมไม่คิดหาที่ชาร์จแบตเตอรี่อีกเพราะคงไม่จำเป็นต้องใช้มันอีกต่อไปแล้ว เมื่อความจริงกระจ่าง พี่ยศก็คงไม่เกลียดชังผมอีกแล้ว และความรู้สึกดีๆที่มีต่อผมก็คงกลับคืนมาเช่นเดิม หนึ่งเดือนแห่งการเดินทางของผมนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรเพิ่มขึ้นมาบ้าง อย่างน้อยก็ได้ตระหนักว่าชีวิตนั้นไม่แน่นอน …" และความไม่แน่นอนนี่เองที่ทำให้ความทรงจำมีค่า … เมื่อต้นเหตุแห่งความทรงจำนั้นไม่ได้คงอยู่อีกต่อไปแล้ว …" ไหนๆผมก็ต้องการถอนตัวออกมาจากครอบครัวของพี่ยศอยู่แล้ว ผมควรปล่อยให้พี่ยศประทับความทรงจำที่ดีเกี่ยวกับตัวผมไว้เช่นนี้ตลอดไปจะดีกว่า
/ X: d9 {( B* F( K" K' ?& Z- Cผมออกจากอุ้มผาง มุ่งไปสุโขทัย รอนแรมไปยังเวียงโกศัย แม่ปิง ขุนตาล และเข้าสู่ป่าอินทนนท์-ดอยสุเทพ-ดอยปุย จังหวัดเชียงใหม่ จิตใต้สำนึกนำพาผมมาสู่เชียงใหม่ … ที่ซึ่งพี่ยศเคยตั้งรกรากอยู่หลายปีหลังจากเรียนจบ เมื่อผมรอนแรมไปถึงดอยปุย ผมก็ต้องล้มป่วยเพราะไข้มาลาเรีย เป็นไปได้ว่าผมคงได้รับเชื้อตั้งแต่ก่อนมาถึงเชียงใหม่ และเพิ่งมาแสดงอาการ เจ้าหน้าที่ขององค์กรพัฒนาชนบทของภาคเอกชนที่ทำงานกับกลุ่มชาวเขาคนหนึ่งมีใจอารีพาผมเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล หลังจากนั้นผมก็มาพักฟื้นอยู่ที่โรงเรียนชาวเขาแห่งหนึ่งในจังหวัดทางภาคเหนือที่องค์กรนี้ไปช่วยพัฒนาอยู่
  F5 ]7 v6 L% L  \ที่นี่ ผมได้เรียนรู้ความจริงเกี่ยวกับชีวิตมากยิ่งขึ้น ผมได้เรียนรู้ว่าชีวิตไม่ได้มีเพียงแค่ความรักความชอบส่วนตัว แต่ชีวิตยังมีความรักที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น นั่นคือความรักเพื่อนมนุษย์ ผมรู้สึกเสียใจที่ตนเองลุ่มหลงอยู่แต่ชีวิตรักส่วนตัวมานาน ถวิลหาแต่ชีวิตคู่ที่อบอุ่น โดยลืมไปว่าในโลกยังมีผู้คนอีกมากที่แม้แต่ความต้องการพื้นฐานยังขาดแคลน อย่าว่าแต่เรื่องชีวิตรักเลย 1 s7 s$ B5 n5 J/ V- P; A8 w
ผมตัดสินใจใช้ที่นี่เป็นที่ชำระล้างบาปรักที่ติดพันอยู่ในจิตใจ รวมทั้งเยียวยารักษาแผลใจของผม หลังจากที่ผมหายป่วยจากมาลาเรียแล้ว ผมจึงอาสาเป็นครูสอนหนังสือในโรงเรียนชนบทและช่วยงานองค์กรพัฒนาชนบทแห่งหนึ่งในถิ่นนี้ แม้เงินเดือนจะน้อยนิดอย่างเทียบไม่ได้กับเงินเดือนวิศวกร และด้วยวัยของผมก็ออกจะเป็นเรื่องแปลกประหลาดอยู่บ้างที่มาทำงานเช่นนี้ เพราะอาสาสมัครเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ในวัยหนุ่มสาว แต่มันก็ไม่สำคัญอะไร เพราะผมได้พบกับชีวิตที่สงบสุขและมีความหมายที่นี่ แม้ในป่าเขาจะไม่สะดวกสบายเทียบเท่าในเมือง แต่ก็ทำให้จิตใจของผมสงบร่มเย็นได้ ผมคงอยู่ที่นี่เพื่อพักฟื้นจิตใจอันบอบช้ำของผมไปเรื่อยๆจนกว่าผมจะคิดอะไรที่ดีกว่านี้ออก ซึ่งผมก็ยังไม่รู้ว่าเมื่อไร0 B9 r5 a- ~9 {- j) T! G
บางครั้งที่ผมมีโอกาสเข้าตัวเมือง ผมจะใช้เวลาส่วนหนึ่งอยู่ในร้านอินเตอร์เน็ตเพื่อบันทึกเรื่อง "บาปรัก" ที่ทุกคนกำลังอ่านอยู่นี้ ผมต้องเข้าเมืองหลายครั้งทีเดียวกว่าจะบันทึกเรื่องนี้จนจบ ผมจำเป็นต้องเปลี่ยนชื่อบุคคลและดัดแปลงเหตุการณ์บางอย่างไปบ้างเพราะบุคคลที่ถูกกล่าวถึงในเรื่องนี้ล้วนแต่ยังมีชีวิตอยู่ ผมไม่อยากให้กระทบกระเทือนใคร แต่ผมเชื่อแน่ว่าหากผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องได้อ่านเรื่องนี้ก็คงทราบว่าเรื่องนี้ใครเป็นผู้เขียน และเขียนถึงใคร( D& @. ?6 x* J: m
"ถ้าโตมีโอกาสได้อ่านเรื่องนี้ ซึ่งอาเชื่อว่าสักวันหนึ่งโตจะเข้ามาอ่านพบ ก็ขอให้โตรู้ว่าอาสบายดี พร้อมทั้งต้องขอโทษด้วยที่เราต้องจากกันโดยที่ไม่มีโอกาสได้ร่ำลา ตอนนี้โตคงสบายใจแล้วเพราะมีพ่อที่เข้าใจจิตใจของโตอยู่เคียงข้าง และครอบครัวของโตก็คงสงบสุขแล้วเมื่ออาไม่อยู่ ฝากบอกพ่อของโตด้วยว่าอาได้ฟังข้อความทั้งหมดในโทรศัพท์แล้ว แต่เห็นว่าไม่มีความจำเป็นต้องตอบจึงไม่ได้ตอบกลับไป อาขอให้โตและพ่อของโตเก็บอาไว้ในความทรงจำก็เพียงพอแล้ว ไม่มีความจำเป็นที่เราต้องพบกันอีก"
3 d: v8 n' k. T; W/ @3 h* nตอนนี้ผมใช้ชีวิตอยู่อย่างสมถะบนดอย ท่ามกลางเด็กๆและกลุ่มคนผู้มีน้ำใจเสียสละ แม้จะมีสันติสุขในจิตใจ แต่ก็ยอมรับว่าในส่วนลึกแล้วยังมีความอ้างว้างแฝงอยู่ ยามดึกสงัด ผมชอบออกมาเดินเล่นที่ลานกว้างหน้าโรงเรียน แหงนดูดวงดาวพราวพรายเต็มท้องฟ้า ฟังเสียงแมลงหรีดร้องระงม พร้อมทั้งอดคิดถึงพี่ยศไม่ได้ ผมไม่อาจลืมพี่ยศได้เลย พี่ยศเป็นทั้งพี่ชายและเป็นเหมือนพ่อของผม เป็นบุคคลที่ผมผูกพันชีวิตด้วยมากที่สุด และก็เป็นผู้ที่สร้างความบอบช้ำให้แก่ชีวิตของผมมากที่สุดเช่นกัน … ป่านนี้พี่ยศกำลังทำอะไรอยู่หนอ... แม้ช่วงเวลาที่ผมได้ใกล้ชิดกับพี่ยศจะไม่นานมากนัก แต่ก็เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่จะทำให้ผมหวนรำลึกไปได้ชั่วชีวิต เส้นทางชีวิตข้างหน้าแม้จะเดียวดาย แต่ผมจะมีความทรงจำดีๆส่วนนี้คอยเป็นสิ่งหล่อเลี้ยงจิตใจให้มีกำลังพอที่จะต่อสู้ชีวิตต่อไป
& M- W  y9 S' C4 ~ท่ามกลางแสงดาวและเสียงแมลงระงม เสียงสายลมพัดผ่านราวป่าดังหวีดหวิว ผมมักยืนฟังเสียงหวีดหวิวนี้คราวละนานๆเสมอ และในจินตนาการ ผมแว่วยินเสียงเพลงที่พี่ยศรักแทรกประสานมากับสายลม พี่ยศเคยบอกว่ารักเพลงนี้มากเพราะเพลงนี้หมายถึงผม และต่อมามันก็เป็นเพลงที่ผมรักมากที่สุดเช่นกัน หรือพี่ยศกำลังฝากเสียงเพลงและคำรักมาถึงผม…
0 ]. t* b: }5 ~* Uเมื่อมาคิดว่าพี่ยศอาจกำลังเป็นทุกข์เพราะไม่รู้ว่าผมเป็นตายร้ายดีอย่างไร ดังนั้นในคืนดึกสงัดคืนหนึ่ง ผมจึงตัดสินใจโทรศัพท์กลับไป ผมเลือกเวลาดึกเพราะพี่ยศคงปิดโทรศัพท์ไปแล้ว … ผมเพียงต้องการฝากข้อความไว้เท่านั้น …
. ?! M) X0 k+ M$ i$ d; h" U  ?"พี่ยศครับ ไม่รู้ว่าเป็นเวรกรรมอะไรที่ผมต้องมาครอบครองคนที่มีเจ้าของแล้ว แต่ผมผิดแล้วจะไม่ผิดซ้ำอีก ผมจึงตัดสินใจถอนตัวจากพี่ ผมอยากให้พี่รู้ว่าผมไม่ได้จากพี่มาเพราะความโกรธหรือน้อยใจในสิ่งที่พี่ทำกับผม แต่ผมจากพี่มาเพราะต้องการให้พี่มีชีวิตครอบครัวที่เป็นสุข… จะมีเรื่องที่เสียใจก็เพียงเรื่องเดียวคือการที่เราต้องจากกันโดยที่ไม่มีโอกาสร่ำลากัน… ผมอยากให้พี่รู้ว่าพี่เป็นพี่ชายที่แสนดีและอบอุ่นคนเดียวของผม และจะประทับอยู่ในความทรงจำของผมตราบนานเท่านาน …". J9 A; h. }) |* O5 {9 [$ X
ผมปิดโทรศัพท์ สายตาทอดไปในความมืดอันไม่มีที่สิ้นสุดของรัตติกาล ท่ามกลางเสียงลมพัดราวป่าดังหวีดหวิว … ลาก่อนครับ พี่ยศ
5 Y' d$ ]0 \" o1 P( i2 q; Yเป้
1 R2 Y2 K7 S8 z- s  f) C) i) e8 I5 w+ j7 w/ l
ป.ล.7 C0 |7 _- Q& R  Q
ผมให้ที่อยู่อีเมล์ไว้ในเรื่องด้วย จุดประสงค์ของผมคืออยากได้กำลังใจจากเพื่อนๆบ้าง รวมทั้งฟังเพื่อนๆแสดงความคิดเห็นว่าชีวิตในอดีตนั้นผมทำผิดหรือถูกประการใด และอยากให้ชีวิตของผมนี้เป็นอุทาหรณ์แก่ทุกคน ผมคงไม่มีโอกาสตอบอีเมล์เหล่านี้เพราะข้อจำกัดในเรื่องความสะดวก อีกทั้งผมยังไม่อยู่ในสภาพพร้อมที่จะติดต่อกับใคร และสุดท้ายนี้ผมขอฝาก เพลงที่พี่ยศและผมรักมากที่สุด ให้แก่ทุกๆคนครับ - e8 R+ K. [, V1 t
peeradej@nettaxi.com, s4 [) e4 |; V

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
152
พลังน้ำใจ
11432
Zenny
108524
ออนไลน์
280 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกตสมาชิกระดับเพชรสมาชิกระดับเพชรบริหาร

โพสต์ 2013-3-12 10:15:18 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ผมว่านะครับให้เป็นเรื่องยาวต่อเนื่องเป็นตอน ๆ แบ่งเป็นกระทู้ย่อยให้ชวนน่าติดตาม  
( v& q3 B' W' ]5 k( c8 N. u' zจบตอนนี้แล้วจะรุ้นตอนต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร  แล้วปล่อยปลายทิ้งไว้ให้น่าติดตาม& A7 A( y" |& o# ]2 G& ~

แสดงความคิดเห็น

พอดีผมเห็นว่าเนื้อเรื่องดีน่าอ่านก็เลยลงรวดเดียว ไม่อยากกั๊กไว้ครับ  โพสต์ 2013-3-12 12:30
ศาสตราจารย์ (Admin) อธิการบดี
โพสต์ 2013-3-12 18:57:49 | ดูโพสต์ทั้งหมด
โทดนะคะ ปล. ที่ จขกท. ลงไว้นี่ เมล์ของ จขกท. หรือว่าเมล์ของต้นฉบับที่ก๊อบมาคะ

แสดงความคิดเห็น

เจ้าของต้นฉบับครับ  โพสต์ 2013-3-12 19:36
 นักศึกษาภาคพิเศษ (M.D.A)
ปริญญากิตติมศักดิ์
โพสต์ 2013-3-13 03:56:04 | ดูโพสต์ทั้งหมด
( h) L/ i1 w( q3 q8 p" a
ขอบคุณมากครับ

แสดงความคิดเห็น

ไม่เป็นไรครับ  โพสต์ 2013-3-13 15:33

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
15842
Zenny
7467
ออนไลน์
3613 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-7-26 22:24:09 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณมากคับ

ประธานนักศึกษา

กระทู้
457
พลังน้ำใจ
79626
Zenny
205823
ออนไลน์
9900 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-8-2 21:29:00 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ไปขุดมาให้อ่านครับ

รุ่นน้องจูเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
238
Zenny
-9
ออนไลน์
51 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-8-12 21:35:43 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ยาวเเต่ก็สนุกคับ

ประธานนักศึกษา

กระทู้
2
พลังน้ำใจ
68873
Zenny
601
ออนไลน์
21701 ชั่วโมง
โพสต์ 2014-8-18 00:37:05 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2025-5-2 21:49 , Processed in 0.178005 second(s), 27 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2024 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้