| 
 ปัญหาสุขภาพหลายๆ อย่างเกิดจากการรับประทานอาหารไม่ถูกสัดส่วน บางคนก็เลือกที่จะทานอาหารเสริมเพื่อทดแทนสารอาหารส่วนที่ตัวเองขาดไป พอดีผมได้อ่านเจอบทความที่จะช่วยจัดการระบบการทานอาหารของเราให้ง่ายขึ้น อาจะทำให้ประหยัดค่าอาหารเสริมไปได้หลายตัว ชาว G4Guys  ถ้าเป็นไปได้ก็พยายามทานให้ครบๆ กันนะครับ  
 
 
แคลเซียม 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน 
 
ช่วยในเรื่องของกระดูก คุณสามารถหาได้จากผลิตภัณฑ์นมทุกประเภท ปลาเล็กปลาน้อย และจากผักใบเขียว  
  
Tips : หากคุณต้องการซื้อแคลเซียมเม็ดมาเสริม เราแนะนำให้คุณซื้อปลาเล็กปลาน้อยมากินทุกวันดีกว่า ทั้งถูกและร่างกายดูดซึมได้ดีกว่า  
 
 
 
ไฟเบอร์ 25 มิลลิกรัมต่อวัน 
 
ประโยชน์ของไฟเบอร์คือป้องกันการเกิดโรคเบาหวานและลดความเสี่ยงของอาการอุดตันของไขมันในเส้นเลือด ลดความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจอีกด้วย 
 
Tips : คุณสามารถหาได้จากผัก ผลไม้ ธัญพืชต่างๆ และข้าวไม่ขัดสี หากคุณไม่แน่ใจว่าคุณได้รับเพียงพอหรือไม่ เราแนะนำให้คุณเปลี่ยนมาบริโภคข้าวกล้องแทนข้าวขาวในทุกๆ มื้อ ก็จะเป็นการดี 
 
แมกนีเซียม 320 มิลลิกรัมต่อวัน 
 
ช่วยในการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาทให้เป็นปกติ และเป็นส่วนประกอบที่สำคัญอย่างหนึ่งของกระดูก คุณหาได้จากปลา ธัญพืช และรำข้าว 
 
Tips : ดูแล้วอาจเป็นปริมาณที่ไม่มาก แต่คุณไม่สามารถขาดแมกนีเซียมได้ ทางที่ดีการบริโภคข้าวกล้องนั้นก็ยังเป็นหนทางที่ง่ายและสะดวกที่สุดในการป้องกันการขาดแมกนีเซียม  
  
 
 
 
โพแทสเซียม 4,700 มิลลิกรัมต่อวัน 
 
ความสำคัญของโพแทสเซียมคือการควบคุมความดันของเลือดให้ทำงานอยู่ในระดับปกติ และป้องกันการเกิดนิ่วในไตและลดการสูญเสียมวลกระดูก พบมากในมันฝรั่ง มะเขือเทศ ถั่วเหลือง และกล้วย 
 
Tips : การกินมะเขือเทศแปรรูป เช่น ซอสมะเขือเทศ เป็นหนทางที่สะดวกที่สุด นักโภชนาการพบว่า การกินมะเขือเทศสดนั้นอาจไม่ค่อยดีนัก เพราะร่างกายสามารถย่อยสารไลโคปีน (Lycopene) ซึ่งเป็นสารอต้านอนุมูลอิสระได้ไม่ดีเท่าไหร่  
  
 
 
 
วิตามินเอ 2,310 International Units ต่อวัน 
 
มีส่วนสำคัญในการบำรุงสายตา การผลิตเม็ดเลือดแดงและเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย พบมากในผักใบเขียว ผักที่มีสีส้ม 
 
Tips : การกินวิตามินเอเสริมนั้นอาจไม่ได้ผลดีนัก เพราะร่างกายดูดซึมได้น้อยมาก ฉะนั้นทางที่ดีคุณจึงควรหันมาบริโภคผักสดที่สะอาดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ น่าจะเป็นผลดีกว่าการกินวิตามินเอในรูปแบบเม็ดสกัดอาจจะใช้ได้ดีกับผู้ป่วยบางประเภท เช่น ผู้ที่มีภาวะสิวอักเสบอย่างรุนแรง  เพราะมีรายงานทางการแพทย์พบว่า ผู้ที่มีภาวะสิวอักเสบอย่างรุนแรงมักมีระดับวิตามินเอในเลือดต่ำ 
 
วิตามินซี 75 มิลลิกรัมต่อวัน 
 
ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกายและต่อต้านอนุมูลอิสระพบมากในผัก ผลไม้รสเปรี้ยวต่างๆ 
 
Tips : วิตามินซีเป็นวิตามินที่เสื่อมสลายง่ายที่สุด แค่คุณปลิดมันออกจากต้น กระบวนการเสื่อมก็เริ่มขึ้นแล้ว ทางที่ดียามที่ซื้อผลไม้พยายามซื้อที่ลูกของมันยังมีขั้วกิ่งอยู่ และหากอยากกินสมูทตี้ส์ ให้คุณทำแล้วกินให้หมดทันที! การกินวิตามินซีเสริมในรูปแบบเม็ดทุกวัน อาจเป็นทางเลือกที่ดี ทั้งนี้คุณควรปรึกษาแพทย์และนักโภชนาการของคุณก่อนตัดสินใจ  
  
 
 
 
 
วิตามินอี 15 มิลลิกรัมต่อวัน 
 
คุณสมบัติอันประเสิรฐของวิตามินอีก็คือช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะริ้วรอยที่อาจเกิดขึ้นจากการเสื่อมสภาพของผิว คุณสามารถหาได้จากน้ำมันมะกอก อัลมอนด์ และเนยถั่ว 
 
Tips : ประโยชน์ของวิตามินอีนั้นมีมากมายตั้งแต่ชะลอความแก่ มีส่วนสำคัญในการต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเกิดสารไนโตรซามีน (Nitrosamine) ตัวการหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคมะเร็ง และยังพบว่าการกินวิตามินอีวันละประมาณ 400-800 IU ต่อวัน ช่วยลดการเกิดโรคหัวใจวายได้มากถึงร้อยละ 77  
ที่มา : GM Magazine  |