แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Alaskan เมื่อ 2025-11-21 16:20 2 \: @: j7 G) ?
9 l7 [* N1 s3 ]0 V" U. เรื่องราวนี้เป็นทริปที่ผมตั้งใจไปเที่ยวยังประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อค้นหาและเข้าใจตนเองมากขึ้น เป็นทริปที่ผมปล่อยจอย อยากทำอะไรขอให้ได้ทำ เกี่ยวกับการค้นหาตนเองในแบบของexhibitionistกับ naturist philosophy ถ้าผู้อ่านชอบและสนใจเรื่องเล่าประสบการณ์ของผมสามารถร่วม comment พูดคุยกันได้นะครับ
* y3 o. z, B! E! C8 X1 P# j
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------ เช้าวันศุกร์ที่กรุงเทพยังคงร้อนอบอ้าว ผมตื่นมาด้วยความตื่นเต้น วันนี้จะได้เดินทางไปวังเวียงเพื่อสำรวจธรรมชาติและวัฒนธรรม และที่สำคัญคือได้ใช้ชีวิตแบบที่ผมเป็นจริงๆ สำหรับผมที่เป็น naturist การเตรียมเสื้อผ้าไม่ซับซ้อนเลย กระเป๋าเป้ใบเล็กบรรจุเสื้อผ้าแค่สามชุด เพราะส่วนใหญ่ผมไม่ค่อยได้ใส่อยู่แล้ว
, z9 s; q- O( a6 `% M( Z
วันนี้ผมเลือกชุดวอร์มผ้าร่มสีน้ำเงินเข้ม ผ้าบางเบาลื่นนิ่ม เหมาะกับการเดินทางไกล แต่สิ่งพิเศษไม่ใช่ตัวชุด แต่คือสิ่งที่ข้างใต้ — หรือแท้จริงแล้วคือการไม่มีอะไรเลย ผมถอดผ้าเช็ดตัวออก ยืนเปลือยกายกลางห้อง แล้วค่อยๆ สวมเสื้อเข้าไป ผ้าเย็นๆ แตะผิวหนังเปลือยตรงหน้าอก ตรงท้อง ทำให้ผิวซู่ซ่าเล็กน้อย จากนั้นค่อยๆ สวมกางเกง ผ้าร่มบางๆ ลื่นไหลขึ้นไปตามขา แตะที่ต้นขาเปลือย แตะที่ก้น ไม่มีกางเกงในคั่นกลาง มีเพียงผิวเปลือยกับผ้าร่มชั้นเดียว
3 M& d* `2 V2 A8 G8 G/ a
ผมดึงเชือกที่เอวผูกไว้พอให้กางเกงไม่หลุด แล้วลองเดินไปมาในห้อง ทุกก้าวที่เดิน ผ้าร่มจะเคลื่อนไหวตามการเดิน มันจะถูไปมากับผิวหนังเปลือย ตรงหน้าอกรู้สึกได้ถึงการสัมผัส ตรงต้นขารู้สึกถึงการลื่นไหล มันให้ความรู้สึกเสียวๆ แต่ก็สบาย เป็นอิสระอย่างที่ไม่เคยรู้สึกเมื่อใส่กางเกงในรัดๆ
* ]) Y4 Q: E: g! j6 O }& N
ผมยิ้มให้กับตัวเองในกระจก นี่แหละคือความรู้สึกที่ผมชอบ ความรู้สึกของการเป็นอิสระ แม้ว่าจะอยู่ในเสื้อผ้า แต่ข้างในนั้นเปลือยเปล่า ไม่มีอะไรขัดขวาง มีเพียงผ้าบางๆ เพียงชั้นเดียวคั่นระหว่างผิวเปลือยกับโลกภายนอก .เวลาสามทุ่มครึ่งที่สถานีหมอชิต ผมขึ้นรถทัวร์ VIP 24 ที่นั่งไปวังเวียง เลือกที่นั่งแถวเดียวหมายเลข 3A เพื่อความสบายและมีพื้นที่ส่วนตัว ช่วงเวลาที่นั่งลง ผมรู้สึกถึงความแตกต่างอย่างชัดเจน แอร์เย็นจัดจนเกือบหนาว เมื่อก้นเปลือยสัมผัสกับเบาะนั่ง แม้จะมีผ้าร่มบางๆ คั่นกลาง แต่ความรู้สึกก็ยังชัดเจน เบาะนุ่มๆ กดไปกับผิวหนัง ผ้าร่มเย็นๆ แตะอยู่ ผิวหนังรู้สึกถึงทุกพื้นผิว ตรงต้นขา ตรงก้น มันเป็นความรู้สึกที่แปลกและน่าตื่นเต้น การนั่งแบบนี้ในที่สาธารณะ รอบๆ มีผู้โดยสารคนอื่นๆ แต่ไม่มีใครรู้ว่าข้างในชุดวอร์มผ้าร่มที่ดูธรรมดานี้ ผมไม่ได้ใส่อะไรเลย . พนักงานแจกผ้าห่มบางๆ สีน้ำตาลอ่อน ผมรับมาคลุมไว้บนตัก ทำให้รู้สึกปลอดภัยและมั่นใจมากขึ้นว่าไม่มีใครจะสังเกตเห็นอะไรผิดปกติ
/ k1 v( k. N; |6 W
รถออกตรงเวลา 21:00 น. มุ่งหน้าสู่หนองคาย ใช้เวลาประมาณ 9-10 ชั่วโมง ผู้โดยสารเกือบเต็มรถ มีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ด้านหน้าเป็นชายคนหนึ่งนั่งคนเดียว ด้านหลังเป็นคู่รักฝรั่ง ฝั่งขวาตรงข้ามเป็นครอบครัวไทย ไฟในรถค่อยๆ ดับลง เหลือแค่ไฟสลัวๆ ตามทางเดิน บรรยากาศเงียบลงเหลือแต่เสียงเครื่องยนต์หึ่งๆ และเสียงล้อกับพื้นถนน ผมปรับที่นั่งให้นอนสบาย เอาผ้าห่มคลุมตัว หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูหนัง แต่จริงๆ แล้วผมไม่ได้สนใจหนังมากนัก สิ่งที่ผมสนใจคือความรู้สึกที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ความรู้สึกของการนั่งแบบนี้ท่ามกลางผู้คนเกือบเต็มรถ ในความมืดนี้ ไม่มีใครรู้ว่าผมไม่ได้ใส่อะไรข้างใน
. z( d, m# B. P! f
ทุกครั้งที่รถสั่น ผ้าร่มบางๆ จะขยับไปตามการสั่นของรถ มันจะถูไปมากับผิวหนังเปลือย ตรงหน้าอกจะรู้สึกได้ถึงผ้าที่เคลื่อนไหว ตรงท้องจะรู้สึกถึงการลื่นไหล ตรงต้นขาจะรู้สึกถึงการสัมผัส เวลารถเข้าโค้ง ร่างกายจะเอียงไปตามแรงเหวี่ยง ผ้าร่มจะขยับ ถูไปมา ทุกครั้งที่มันถู ผมจะรู้สึกเสียวๆ นิดหน่อย มันทำให้รู้สึกถึงการมีชีวิต รู้สึกถึงความเป็นอิสระ เวลาที่รถเบรก ร่างกายจะถูกดันไปข้างหน้า ผ้าร่มจะขยับถูไปทางหน้ามันเสียวๆแต่ก็สบาย เวลารถเร่งร่างกายจะถูกดันไปข้างหลัง ผ้าร่มจะขยับถูกลับไปทางหลัง มันเป็นจังหวะเป็นริทึม
# l; R# t6 k! K7 z- u* A
ผมปิดตาลงตอนนี้ไม่ได้ดูหนังแล้ว ผมปล่อยให้ความรู้สึกไปตามการเคลื่อนไหวของรถ ให้รู้สึกไปตามการเคลื่อนไหวของผ้าร่ม รู้สึกไปตามการสัมผัสกับผิวหนัง มันเป็นประสบการณ์ที่พิเศษมาก การนั่งแบบนี้ท่ามกลางผู้คนเกือบเต็มรถ ทุกคนกำลังหลับ กำลังพักผ่อน แต่ไม่มีใครรู้ว่าผมกำลังรู้สึกถึงอะไร ไม่มีใครรู้ว่าข้างใต้ผ้าร่มบางๆ นี้ผมเปลือยกายเต็มที่ เป็นอิสระอย่างถึงที่สุด มันเป็นความลับของผมคนเดียว ความลับที่น่าตื่นเต้น ความลับที่ทำให้รู้สึกเป็นอิสระ ความลับที่ทำให้ผมยิ้มในความมืด ) o ^4 z: L: W$ X( f3 M
กลางคืนรถพักครั้งหนึ่งประมาณ 15-30 นาที ให้ผู้โดยสารเข้าห้องน้ำและซื้อของ ผมก็ลงไปด้วย ลมข้างนอกเย็นพัดผ่านผ้าร่มบางๆ เข้าแตะผิวหนังข้างใน ผมเดินเข้าห้องน้ำปลดเชือกดึงกางเกงลง ความรู้สึกของการที่ไม่ต้องดึงกางเกงในลงก่อน มันง่าย สะดวกรวดเร็วต่อการทำธุระมาก เมื่อเข้าห้องน้ำเสร็จผมก็กล้บขึ้นรถต่อ & d5 v# {9 Z; n' J
รถวิ่งต่อไปตลอดคืน ผมหลับหลับตื่นตื่นไป จนถึงตอนเช้าแสงแดดเริ่มสว่าง ผมมองออกไปนอกหน้าต่าง เห็นวิวทิวทัศน์เปลี่ยนไป ไม่ใช่ทุ่งนาแบบไทยอีกต่อไป ป่าไม้เขียวขจี นี่คือลาวแล้ว ประมาณ 8 โมงเช้า รถเข้าสถานีเวียงจันทร์หลังเดินทาง 11 ชั่วโมงครึ่ง คุ้มค่ากับตั๋วไม่ถึงพันบาท จากนั้นผมต่อรถไฟไปวังเวียง . ไม่นานนักรถไฟก็พาผมมาถึงวังเวียง สิ่งแรกที่รู้สึกได้คืออากาศ มันเย็นกว่ากรุงเทพมาก ลมเย็นๆ พัดมา ผ่านผ้าร่มบางๆ แตะผิวหนังข้างใน มันสดชื่นสบายมาก
+ Q$ `8 R! R$ A# N8 |0 Hผมหายใจเข้าลึกๆ กลิ่นอากาศสะอาด ไม่มีมลพิษ ไม่มีควันรถ แค่กลิ่นของธรรมชาติ การเดินทางครั้งนี้เริ่มต้นแล้ว .% i; F7 U# e$ h: }
.
) r2 q& i/ \0 ]" f! B* S4 e. ผมมองไปรอบๆ เป็นสถานีขนส่งเล็กๆเรียบง่ายมีรถสองแถวจอดอยู่หลายคัน ผมหารถสองแถวเพื่อนั่งรถต่อไปโรงแรมที่ผมจองไว้ ผมขึ้นไปนั่งในรถสองแถวผมเลือกนั่งมุมด้านในสุด ใกล้กับตัวรถวางเป้ข้างๆ รอผู้โดยสารคนอื่นตอนนั่งเฉยๆรอคนเต็มผมเปิดรูดซิบเสื้อผ้าร่มลงถึงเกือบครึ่งอกเพื่อให้ลมโกรกเข้ามาโดยตังระบายเหงื่อและไอร้อนออกจากร่างกาย
& D4 g7 o0 U# j7 }9 ]8 J: u
รอไปประมาณสิบนาที มีคนมาขึ้นรวมทั้งหมด 7-8 คน พอดี รถสองแถววิ่งไปตามถนนในเมืองวังเวียง ถนนไม่ใหญ่มาก ลาดยางเรียบสองข้างทางเป็นบ้านเรือน ร้านค้า ร้านอาหาร สลับกับต้นไม้ และทุกครั้งที่รถกระเด้งผมก็รู้สึกได้อย่างชัดเจน ขณะที่รถวิ่งลมจะพัดเข้ามาแรง เพราะข้างรถเปิดโล่งลมจะพัดผ่านผ้าร่มบางๆแตะผิวหนังข้างในที่มีเหงื่อเกาะเล็กน้อย มันช่างเย็นสบายเย็นวูบวาบตามผมที่ผ่านหน้าอกสัมผัสกับหัวนมเต็มๆที่เริ่มแข็งเป็นไตนูนออกมา . ผมมองออกไปนอกรถ พยายามทำตัวเหมือนนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ ที่กำลังมองชมวิวแต่จริงๆแล้วความรู้สึกส่วนใหญ่ของผมอยู่ที่ความสัมผัสใต้ผ้าร่ม รถวิ่งผ่านแม่น้ำซอง ผ่านภูเขาหินปูน สูงตระหง่าน รถวิ่งผ่านทุ่งนา เขียวขจีทุกครั้งที่รถเลี้ยวร่างกายจะเอียงไปตามแรงเหวี่ยง ผ้าร่มจะขยับควยจะโคลงไปทางที่เอียง ผ้าร่มจะถูไปทางนั้นมันทำให้ผมเสียว แต่ผมก็ทำหน้าเฉยๆมองออกไปนอกรถ ไม่มีใครสังเกตอะไร . รถหยุดปล่อยผู้โดยสารคนแรก และนักท่องเที่ยวลงไปตามโรงแรมต่างๆตามทางเรื่อยๆ จนตอนนี้เหลือแค่ผมคนเดียว คนขับเลยลงจากรถลงมาบอกว่า "โรงแรมอยู่ไกลสุดเลย" คนขับพูด"อีกนิดเดียว" "ไม่เป็นไรครับ" ผมตอบ . ผมเดินทางถึงโรงแรมน่าจะเป็นช่วงสายๆประมาณเกือบๆ10โมงเช้า ตอนนี้ยังไม่เป็นให้ check in ผมตัดสินใจเดินดูรอบๆพบว่าโรงแรมนี้เป็นอาคารคอนกรีตทรงเหลี่ยมสูงหลายชั้นตั้งตระหง่านอยู่กลางวังเวียงราวกับก้อนหินใหญ่ที่ถูกสลักให้มีช่อง มีกรอบ มีเงาทุกระเบียงยื่นออกมาเป็นกล่องสลับจังหวะ ดูดิบ เท่และปล่อยให้เถาวัลย์เขียวยาวเลื้อยลงไปตามผิวคอนกรีต—เหมือนธรรมชาติกำลังแต้มลายให้สถาปัตยกรรมทีละเส้นมีสระว่ายน้ำและห้องอาหารเช้าอยู่ชั้นล่างหันหน้าออกสู่แม่น้ำซอง . ตั้งแต่มาถึงผมยังไม่ได้กินอะไรเลย ท้องเริ่มร้องช่วงเช้าวังเวียงยังมีไอเย็นอยู่ ผมหาคาเฟ่เล็กๆ ริมแม่น้ำซองนั่งกินอาหารเช้าแบบง่ายๆโต๊ะไม้สีซีดจากแดดถูกปัดอย่างลวก ๆ ให้เก้าอี้มีฝุ่นนิด ๆแบบธรรมชาติของเมืองท่องเที่ยวที่ไม่พยายามจะเพอร์เฟกต์อะไรนัก บนเคาน์เตอร์ด้านในมีเมล็ดกาแฟลาวคั่วเข้มวางอยู่ในโหลแก้ว กลิ่นคั่วหอมไหม้นิดๆ ลอยฟุ้งในอากาศ ข้างกันมีเครื่องชงสีเงินเก่าๆที่ดังเสียงไอน้ำเป็นจังหวะ . เมนูในร้านเป็นกระดาษลามิเนตเรียบง่าย มีทั้งของคุ้นเคยและของพื้นถิ่นจากภาพจำที่ผมเก็บไว้ในกล้อง เช้าวันนั้นผมสั่งอาหารเช้าแบบง่ายๆเป็นกาแฟลาวแบบร้อน แพนเค้กกล้วย BananaPancake Baguette และ Croissant มากิน นั่งกินไปชมวิวบรรยากาศ ภาพของผู้คนสัญจรไปมา เสียงกริ่งจักรยาน ประสานกับเสียงเครื่องปั่นสมูทตีดังเป็นระยะๆลอยเข้ามาเบา ๆ ผสมกับภาพของน้ำซองที่ไหลเอื่อยอยู่ตรงหน้าผิวน้ำสีเขียวหม่นสะท้อนแดดสายเป็นประกายเหมือนกระจกแตกละเอียด . มีคายัคสองลำพายผ่านไปช้า ๆคนพายคุยกันหัวเราะเบา ๆค่อย ๆ เลื่อนไปไกลจนกลายเป็นจุดสีเล็กบนสายน้ำ กลิ่นเข้มหอมหวานแบบกาแฟลาวแท้ๆ ผสมกับอากาศเย็น มันทั้งปลุกให้ตื่นและทำให้ใจนิ่งในเวลาเดียวกัน ภูเขาหินปูนสูงใหญ่ด้านหลังยังมีหมอกบางๆ คลุมยอด เหมือนผ้าขาวกำลังจะถูกแดดช่วงสายกลืนไปทีละนิด ช้า สวยและมีชีวิตในแบบที่ไม่ต้องพยายามอะไรเลย ) n; Q6 y0 ? \$ M) E( S' N
เช้านั้นที่วังเวียง…แม้ว่ายังไม่ได้เช็คอินแต่รู้สึกเหมือนเช็คอินเข้าธรรมชาติเรียบร้อยแล้วตั้งแต่แก้วแรกที่มาถึงกับสัมผัสแรกที่จิบรสชาติกาแฟ . . เวลาแห่งความสุขมักจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ สักพักก็เที่ยงแล้วถึงเวลาผมที่ขอearlycheck in ไว้เพื่อจะได้อาบน้ำล้างเนื้อล้างตัว เมื่อเดินเข้าไปสู่ห้องพักความดิบของภายนอกของโรงแรม เปลี่ยนเป็นความสงบเรียบง่ายทันทีห้องกว้างพื้นปูนขัดมันเย็นเท้า เตียงสีขาวสะอาดวางนิ่งอยู่กลางห้องและแสงอ่อนจากโคมไฟไม้ทรงหยดน้ำทำให้มุมต่าง ๆ ของห้องอุ่นขึ้นอย่างนุ่มนวล . แต่สิ่งที่ดึงสายตามากที่สุดไม่ใช่เตียงไม่ใช่เฟอร์นิเจอร์ แต่เป็นกระจกใสบานใหญ่ที่เปิดโลกอีกใบหนึ่งตรงหน้า จากห้องชั้นบนของอาคารเห็นทิวเขาวังเวียงตั้งเรียงกันเป็นชั้น ๆ แบบไม่มีที่สิ้นสุดภูเขาหินปูนสูงใหญ่สีหม่น อมเขียวตัดกับฟ้าไล่เฉดเหมือนถูกวาดด้วยพู่กันขนาดใหญ่ของธรรมชาติ แสงแดดสะท้อนยอดเขาเป็นประกายบาง ๆส่วนด้านล่างเป็นป่าเตี้ยและทุ่งหญ้าที่ทอดไกลจนเหมือนเชื่อมกับเส้นขอบฟ้ามีที่แม่น้ำซองไหลผ่านกลางเมืองคนเคี้ยวเปรียบเสมือนดั่งกระดูกสันหลังที่หล่อเลี้ยงวิถีชีวิตของคนที่นี่ . บนระเบียงมีเพียงเก้าอี้ไม้สองตัว—วางไว้พอดีสำหรับคนสองคนหรือนั่งคนเดียวแบบเงียบๆ ก็ได้—เหมือนชวนให้ออกไปนั่งรับลม สูดอากาศและปล่อยให้วิวตรงหน้ากินเวลาทั้งวันไปอย่างง่ายดาย ที่นี่ให้ความรู้สึกแบบพิเศษ…เหมือนโลกข้างนอกทั้งหมดถูกเก็บใส่กรอบกระจกบานใหญ่และเราถูกแยกไว้กับภูเขาและท้องฟ้าเพียงสองสามอย่างเท่านั้น เป็นวิวที่ทำให้หัวใจเต้นช้าลงทำให้ลมหายใจยาวขึ้น และทำให้ทุกอย่างรอบตัวดูเรียบง่ายกว่าที่เคย . ผมดึงซิปเสื้อผ้าร่มลง ค่อยๆถอดออกผ้าร่มเย็นๆลื่นไหลลงจากไหล่ จากแขน จากหน้าอก จากท้องความรู้สึกของมันที่แตะผิวหนังครั้งสุดท้ายก่อนจะหลุดออกไป แล้วก็ถอดกางเกงออกดึงเชือกเอวคลาย ค่อยๆลื่นลง ผ้าร่มลื่นไหลลงจากเอว จากก้น จากต้นขาจากควยและไข่ครั้งสุดท้ายก่อนจะหลุดออกไป ลงไปตามขา จนถึงเท้า
4 \- D% o* }" a
ผมก้มลงถอดออกกางเกงออก ยืดตัวขึ้นเปลือยกายสนิทไม่มีอะไรปกคลุม ไม่มีผ้าร่ม ไม่มีผ้าห่ม ไม่มีอะไรเลย แค่ผิวเปลือยกับอากาศ ลมจากระเบียงพัดเข้ามา เย็นๆ สดชื่นแตะผิวหนังเปลือยทั่วตัว แตะที่หน้า ที่คอ ที่หน้าอก ไหลลงมาตามท้อง แตะที่ควยแตะที่ไข่ ไหลลงไปตามขา มันเป็นความรู้สึกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงจากตอนที่ใส่ผ้าร่มตอนที่ใส่ผ้าร่มเป็นความตื่นเต้นแบบแอบๆ แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรขัดขวาง ไม่มีอะไรปกปิดมันเป็นอิสระเต็มที่ เป็นอิสระที่แท้จริง
: D/ k5 C3 P' E
ผมเดินไปที่ระเบียง เปิดประตูกระจกออก เดินออกไปยืนอยู่ที่ระเบียง เปลือยกายสนิทมองออกไปเห็นวิวภูเขาถึงแม้ว่าจะมีบ้านเรือนอยู่ไกลๆ ผมอยู่บนชั้นห้าสูงกว่าบ้านเรือนรอบๆ มีเพียงท้องฟ้า ภูเขาและแม่น้ำที่เป็นพยานถึงความเปลือยเปล่าของผม ผมยกแขนขึ้น ยืดตัว หายใจเข้าลึกๆ อากาศสะอาดเย็นสบาย ลมพัดมากระทบผิวหนังเปลือย หลับตาปล่อยให้สายลมและแสงแดด แตะทุกส่วนของร่างกาย นี่แหละคือสิ่งที่ผมรอคอยนี่แหละคือเหตุผลที่ผมมาที่นี่ ไม่ใช่เพียงเพื่อดูวัฒนธรรม เพื่อดูธรรมชาติแต่เพื่อได้ใช้ชีวิตแบบที่ผมเป็น แบบที่ผมรักอย่างแท้จริง แบบที่เป็นอิสระ แบบที่ไม่ต้องปิดบังแบบที่ไม่ต้องกลัว ผมยืนอยู่ที่นั่นนานมาก มองวิว ฟังเสียงธรรมชาติ เสียงลมเสียงนก เสียงน้ำไหลไกลๆ ฟังเสียงของตัวเอง เสียงหายใจ เสียงหัวใจเต้น ยิ้มให้กับตัวเอง ผมมาถึงแล้ว ผมอยู่ที่นี่แล้ว และผมจะใช้ชีวิตแบบที่ผมเป็นอย่างเต็มที่ . . . หลังจากพักผ่อนในห้องไปประมาณชั่วโมงหนึ่งอาบน้ำ เช็ดตัว ผมตัดสินใจออกไปสำรวจเมืองวังเวียง ถึงเวลาต้องแต่งตัวอีกครั้งแต่ครั้งนี้ผมรู้ดีว่าจะใส่อะไร หยิบชุดวอร์มผ้าร่มสีน้ำเงินเข้มขึ้นมาชุดเดิมที่ใส่มา ค่อยๆสวมเข้าไป เหมือนเดิม ไม่มีอะไรข้างใน ไม่มีเสื้อกล้ามไม่มีกางเกงใน แค่ผิวเปลือยกับผ้าร่มบางๆ ความรู้สึกของผ้าร่มที่แตะผิวหนังอีกครั้งมันคุ้นเคย มันสบาย มันเป็นส่วนหนึ่งของผมแล้ว ผูกเชือกเอว สวมรองเท้าผ้าใบหยิบกระเป๋าสตางค์ โทรศัพท์ ออกจากห้อง ทุกก้าวที่เดินควยจะโคลงไปมาผ้าร่มจะถูไปมา ไข่จะโคลงตาม มันเป็นความรู้สึกที่น่าตื่นเต้น แต่ผมก็ทำหน้าเฉยๆเดินลงไปตามปกติ
7 `& U0 k2 h% x, A- Fออกจากโรงแรม เดินไปตามถนนมองหาร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ เดินไปได้ไม่ถึงร้อยเมตรก็เจอร้านเล็กๆมีมอเตอร์ไซค์จอดอยู่หลายคัน ผมเซ็นเอกสารเช่า วางเงินประกันและรับกุญแจ…. สตาร์ทเครื่อง เสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นช่วงเวลานั้นที่นั่งลงบนเบาะมอเตอร์ไซค์ มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษมาก เบาะหนังเย็นๆแตะกับก้นเปลือย แม้จะมีผ้าร่มบางๆคั่นกลาง แต่ก็ยังรู้สึกได้ชัดเจนแต่ก็นุ่มพอสมควร กดไปกับก้น ผิวหนังรู้สึกทุกรอยย่นของหนัง
' I/ N7 t+ W3 a) ^
ควยกับไข่วางอยู่บนเบาะ ผ้าร่มบางๆคลุมอยู่แต่ก็รู้สึกถึงเบาะ ถึงความหนา ถึงความอุ่นที่ค่อยๆถ่ายเทจากร่างกายไปยังเบาะ เครื่องยนต์สั่นความสั่นสะเทือนส่งผ่านเบาะมาถึงก้น ถึงไข่ ถึงควย มันสั่นเล็กๆเป็นจังหวะผมบิดมือให้น้ำมัน มอเตอร์ไซค์วิ่งออกไป . ลมพัดมากระทบตัว เย็นสบาย ผ่านผ้าร่มบางๆแตะผิวหนังข้างใน แตะที่หน้าอก ไหลลงมาตามท้อง พัดไปรอบๆเอว ทุกครั้งที่เร่งร่างกายจะถูกดันไปข้างหลัง ก้นจะกดลงไปบนเบาะแน่นขึ้น ควยจะโคลงไปข้างหลังนิดหน่อยผ้าร่มจะถูไปทางหลัง มันเป็นประสบการณ์ที่แปลกและน่าตื่นเต้นอย่างยิ่งการขับมอเตอร์ไซค์แบบนี้ ไม่มีกางเกงในรัด ไม่มีอะไรขัดขวางควยกับไข่โคลงไปมาอย่างอิสระ ผ้าร่มบางๆถูไปมา ลมพัดผ่านเข้ามาข้างใน / s4 I2 |4 b+ J5 c5 D1 @/ l
ผมขับไปตามถนนในเมืองวังเวียง มองไปรอบๆ ชมวิวชมบรรยากาศ แต่ส่วนหนึ่งของความรู้สึกก็อยู่ที่ข้างล่าง อยู่ที่ความสัมผัสอยู่ที่ความเคลื่อนไหว ผมยิ้มในใจ “นี่แหละที่ผมชอบ นี่แหละที่ผมเป็น” . หลังจากขับมอเตอร์ไซค์เที่ยวรอบเมืองไปสักพักจุดหมายแรกที่ผมตัดสินใจไปถ้ำน้ำ ถ้ำที่มีน้ำไหลผ่าน สามารถว่ายน้ำเข้าไปข้างในได้ระยะทางจากเมืองประมาณ 7 กิโลเมตร ขับไปตามถนนลาดยางผ่านทุ่งนา ผ่านหมู่บ้าน ผ่านภูเขาหินปูน ลมเย็นพัดมา ผ่านผ้าร่มบางๆ แตะผิวหนังสบายมาก ควยโคลงไปมาตามการขับ รู้สึกทุกครั้ง ถึงถ้ำน้ำผมจอดมอเตอร์ไซค์เดินเข้าไปมีเจ้าหน้าที่เก็บค่าเข้า และผมเช่าห่วงยางสำหรับลอยไปในถ้ำ . "เปลี่ยนชุดว่ายน้ำได้ที่โน้นครับ"เจ้าหน้าที่ชี้ไปที่กระท่อมไม้ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเล็กๆ
7 E3 i, [" a. p" K, ? s9 p; f a
ผมเดินไปที่กระท่อม เปิดประตู เข้าไปมันคือห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเล็กๆ มีม้านั่งไม้หนึ่งตัว มีตะขอแขวนของแสงสลัวๆส่องเข้ามาจากช่องระบายอากาศ ผมถอดชุดวอร์มผ้าร่มออก ถอดเสื้อ ถอดกางเกง เปลือยกายสนิทยืนอยู่ในห้องเล็กๆ ลมเย็นๆพัดเข้ามาจากช่องระบายอากาศ แตะผิวหนังเปลือย ' x3 J. ?" e( a" M
หยิบกางเกงว่ายน้ำสีดำออกมาจากเป้ กางเกงขาสั้นเอวยางยืด ผ้าบางเบา สวมเข้าไป ความรู้สึกของผ้าว่ายน้ำที่แตะผิวหนังเปลือยโดยตรงมันแตกต่างจากผ้าร่ม ผ้าว่ายน้ำชื้นๆ แน่นกว่า กระชับกว่า รัดที่เอวรัดที่ต้นขา ควยและไข่อยู่ข้างในแน่นรู้สึกทุกการเคลื่อนไหว
" j5 ]+ T% }9 M9 p1 V/ z7 m7 d
ผมไม่สวมเสื้อเหมือนกับนักท่องเที่ยวฝรั่งอีกสองสามคน ผมเอาผ้าแห้งทุกอย่างใส่กระเป๋าพลาสติกกันน้ำเดินออกจากกระท่อมรับห่วงยางจากเจ้าหน้าที่ เดินไปยังทางเข้าถ้ำ ทางเข้าถ้ำเป็นช่องเปิดกว้างในหน้าผาหินปูนมีน้ำไหลออกมา น้ำเย็นจัด ใส ผมถือยางเข้าไป เท้าแตะน้ำ เย็นมาก หนาวซู่ซ่าขึ้นไปตามขาค่อยๆเดินลงไปในน้ำน้ำสูงถึงเข่า ถึงต้นขา ถึงเอว เย็นจัดมาก ผิวหนังยืดตัว ขนลุก ควยหดเล็กลงทันที จากน้ำเย็นไข่หดขึ้นไปใกล้ตัว ผ้าว่ายน้ำเปียกชุ่ม แนบกับผิวหนัง ผมนั่งลงบนยางยางกดลงไปในน้ำนิดหน่อยก้นเปลือยแตะยางเปียก ผ้าว่ายน้ำบางๆคั่นกลาง ความเย็นของน้ำส่งผ่านยางมาถึงก้น ( c% `7 g3 B5 x, _: R1 @, j `7 c
ปล่อยตัวลอยไปค่อยๆดึงเชือกให้ห่วงยางไหลไปตามกระแสน้ำไหลผ่านเข้าไปในถ้ำที่ความมืดค่อยๆห่อหุ้มมีเพียงแสงไฟฉายเล็กๆที่ผมคาดหัวไว้และแสงไฟจากนักท่องเที่ยวคนอื่นๆที่อยู่ข้างหน้า เสียงน้ำหยด จากหินงอกหินย้อยด้านบนดังก้องอยู่ในถ้ำ เสียงหายใจ ของผม ดังชัดเจน ลมเย็นจัด ในถ้ำพัดมากระทบผิวหนังเปียก เย็นมาก แต่ก็ตื่นเต้น ยางลอยไปตามกระแสน้ำ ช้าๆ บางครั้งชนกับฝาผนังถ้ำบางครั้งต้องใช้มือดันผนังเพื่อเลี้ยว บางครั้งต้องหมอบลงเพราะเพดานถ้ำต่ำ น้ำเย็นล้อมรอบตัวแตะทุกส่วนของร่างกาย แตะที่ขา แตะที่ก้น แตะที่หลังแนบกับท้อง กางเกงแนบกับควยและไข่รู้สึกทุกอย่าง
& X3 N, }' |6 s
มันเป็นประสบการณ์ที่พิเศษมาก การลอยไปในถ้ำมืดๆน้ำเย็นจัด ลมหนาว ความเงียบ มีเพียงเสียงน้ำหยดและเสียงหายใจ ... 0 p4 E* Y3 ` ~% U; b# F7 A
ลอยไปเรื่อยๆประมาณ 500 เมตร ใช้เวลาประมาณ30 นาที แล้วก็ออกจากปากถ้ำอีกด้านหนึ่ง แสงแดดสว่างจ้า ตัดกับความมืดในถ้ำอากาศอบอุ่น ตัดกับความเย็นในถ้ำ ผมขึ้นจากยางเดินขึ้นบนฝั่ง น้ำหยดลงจากตัวกางเกงว่ายน้ำเปียกโชก ที่แนบกับตัวเห็นรูปร่างของลำควยและหัวเงี่ยงอย่างชัดเจน มีนักท่องเที่ยวคนอื่นๆที่ลอยห่วงยางรอบเดียวกันขึ้นมาด้วย ทุกคนเปียกโชกเหมือนกัน พากันหัวเราะ พูดคุยกัน ; x; F9 j% N1 O5 [0 O( [
ผมเดินไปคืนห่วงยาง แล้วเดินกลับไปที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าผมถอดกางเกงขาสั้นที่เปียกออก เปลือยกายสนิท ยืนอยู่ในห้องเล็กๆ สักพักมีฝรั่งเดินตามผมเข้ามาในห้องแต่งตัวเดียวกัน เขาเห็นผมแก้ผ้าหมดก็มองด้วยสีหน้าแปลกๆ จากนั้นเขาถอดกางเกงออกนุ่งผ้าเช็ดแล้วแล้วเปลี่ยนกางเกง แต่ผมไม่สนใจ ผมค่อยๆเอาผ้าเช็ดตัวมาเช็ด เช็ดหน้าเช็ดคอ เช็ดหน้าอก เช็ดท้อง เช็ดขา เช็ดก้น เช็ดควยและไข่ให้แห้ง แล้วหยิบชุดวอร์มผ้าร่มมาใส่ เพื่อไปเที่ยวยังจุดหมายต่อไป ซึ่งก็คือ......บลูลากูนที่อยู่ไม่ไกลนัก . . ผมขับมอเตอร์ไซค์ออกไปจากถ้ำน้ำ มุ่งหน้าไปบลูลากูน เป็นระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตร ผ่านทุ่งนา ผ่านหมู่บ้าน ผ่านต้นไม้ใหญ่สองข้างทางแดดร้อน ลมพัด อากาศดี ผ่านกลับเข้าเมืองเพื่อจะไปยังบลูลากูนที่อยู่ตรงกันข้ามของเมืองนั้นเอง ; i& m) L4 c! b& L; h
ไปถึงบลูลากูน เป็นเหมือนสระน้ำขนาดกว้างใหญ่ น้ำสีฟ้าใสสะอาด เห็นมองลึกได้เห็นก้นสระ มีต้นไม้ใหญ่ล้อมรอบ ร่มรื่น มีที่กระโดดน้ำหลายระดับ มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลก ชายหญิงทุกวัย ใส่ชุดว่ายน้ำหลากสี เสียงหัวเราะเสียงกรี๊ด เสียงน้ำกระเซ็น บรรยากาศสนุกสนาน
' l/ s& @; }9 ?( \$ `
ผมเดินรอบๆเพื่อสำรวจมองหาจุดที่เหมาะสม ผมได้เดินลึกเข้าไปภายใน เห็นต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งมุมสระด้านใน หลังต้นไม้มีพื้นที่ค่อนข้างโล่งมีพุ่มไม้บัง ไม่ค่อยมีคนเดินผ่าน เหมาะดี เดินไปที่ต้นไม้ใหญ่ มองซ้ายมองขวาไม่มีใครสังเกต ยืนอยู่หลังต้นไม้ หัวใจเริ่มเต้นแรง ถอดชุดวอร์มเสื้อผ้าร่มออกก่อนพับเก็บใส่ประเป๋าเป้ ถอดรองเท้าแตะ วางข้างๆ แล้วก็... หยุดคิดสักครู่มองรอบๆอีกครั้ง ไม่มีใคร ทำได้ ถอดกางเกงออกตอนนี้ผม ไม่มีสิ่งใดติดตัว แก้ผ้าตัวเปล่าอยู่ข้างสระ ผมยืนอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ เปลือยหมดลมพัดมาแตะผิวหนัง แตะหน้าอก แตะท้อง แตะขา แตะควย ไม่มีผ้าผืนใดคลุม ความรู้สึกแปลกใหม่ตื่นเต้น เร้าใจ ผมเก็บเสื้อผ้าทั้งหมดใส่เป้สะพาย ซุกเป้ไว้หลังพุ่มไม้เอาเพียงกระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์มาถือ เดินออกจากหลังต้นไม้ เดินไปทางขอบสระ เปลือยกายสนิท ไม่มีอะไรคลุมไม่มีอะไรปิดบัง ด้านนี้ของสระมีคนน้อยนานๆทีจะมีคนเดินผ่านมาทีหนึ่งส่วนมากเป็นต่างชาติ มีต้นไม้บัง แต่ก็มีคนเห็น มีคนสองสามคนหันมามองมองอีกครั้งสีหน้าประหลาดใจ แต่ไม่ได้ตะโกนอะไร ผมเดินไปที่ขอบสระ เท้าแตะน้ำ เย็น สบายค่อยๆลงไป น้ำสูงถึงเท้า ถึงข้อเท้า ถึงน่อง ถึงเข่า เย็นฉ่ำ ลงไปอีกน้ำสูงถึงต้นขา แตะระหว่างขา แตะไข่ แตะควย เย็นมาก แต่สบาย ไม่มีผ้าคั่นกลางรู้สึกได้ทุกอณูของน้ำ ผมเดินลงไปอีก น้ำสูงถึงเอว ถึงท้อง ถึงอก ดำลงไปน้ำท่วมหัว เย็นฉ่ำทั้งตัว น้ำห่อหุ้มทุกส่วน ทุกตารางเซนติเมตรของร่างกายเปลือย เปิดตาใต้น้ำ น้ำใสมาก เห็นแสงแดดส่องลอดผิวน้ำลอยขึ้นผิวน้ำ หายใจ ว่ายไปมา ดำลง ลอยขึ้น น้ำไหลผ่านตัว ผ่านผิวหนังเปลือยผ่านระหว่างขา ผ่านก้น ผ่านควย ผ่านไข่ ความรู้สึกชัดเจนทุกการเคลื่อนไหวไม่มีอะไรขัดขวาง อิสระเต็มที่ ผมมองเห็นกิ่งไม้ที่ยื่นลงไปในสระ ผมว่ายไปที่นั้นค่อยๆขึ้นจากน้ำ น้ำไหลหยดลงจากตัว ขึ้นบันไดไม้ ขาเปลือย ก้นเปลือย หลังเปลือยค่อยๆปีนขึ้นไปทีละขั้นตอนนี้ผมเห็นมีฝรั่งผู้ชายสองคนกำลังเดินมาพอดี หันไปบอกเพื่อน เพื่อนหันมามองแล้วก็หัวเราะ ผมจึงรีบปีนขึ้นไปยืนอยู่บนกิ่งไม้นั้นเปลือยกายสนิทแสงแดดส่องมา ลมพัดมา รู้สึกได้ทุกอย่าง รู้สึกตื่นเต้นสุดขีด เห็นว่ามีคนกำลังยืนดูผมแล้วผมก็กระโดดตกลงไปในน้ำ ลมหวือผ่านตัวเปลือย น้ำพุ่งขึ้นมา ตัวจมลงไปในน้ำเย็นฉ่ำทั้งตัว จมลึก แล้วก็ลอยขึ้นมา โผล่ผิวน้ำ หายใจ ผมได้ยินเสียงปรบมือ เสียงหัวเราะ ดังมาจากฝรั่งสองคนนั้น ผมพยายามว่ายน้ำ และดำแช่น้ำ ด้วยความเขินอายพอสองคนนั้นเดินจากไป ผมก็ค่อยเดินขึ้นมา น้ำหยดลงจากตัวไหลยาวไปเป็นทาง ผมเดินไปกลับที่ต้นไม้ต้นเดิม แต่คราวนี้ผมปีนขึ้นไปอีกครั้งสูงกว่าเดิมด้วยความที่มันสูงขึ้น ก็ขึ้นไปยากขึ้น คราวนี้ผมต้องก้าวขายาวขึ้นเพื่อจะได้ไปถึงตำแหน่งที่ผมต้องการ ถ้าหากใครมองขึ้นมา ก็คงเห็นควย ไข่รูตูดผมชัดเจนแน่นอน ยิ่งผมโกนจนสะอาดเกลี้ยงเกลาแล้วก็อาจจะยิ่งชัดเห็นชัดไปกันใหญ่ คราวนี้ผมยืนอยู่แบบนั้น นานกว่าเดิมจนกระทั้งเริ่มเห็นคนเดินมา ผมเลยกระโดดลงไปในน้ำ จมลึกกว่า…. จากนั้นโผล่ขึ้นมาดำผุดดำว่าย ทำทีเป็นเล่นน้ำอยู่แบบนั้นทั้งๆที่ผมไม่ได้ใส่อะไรเลย เป็นความรู้สึกที่แปลกใหม่ และตื่นเต้นมากที่ได้แก้ผ้าในที่สาธารณะแบบนี้ เวลาผ่านไป บ่ายสาม บ่ายสี่ แดดเริ่มลดคนเริ่มลดลง บรรยากาศเริ่มเงียบลง ผมขึ้นจากน้ำ เดินไปหาเสื้อผ้าที่วางไว้หยิบเป้ออกมา เปิดดู มีชุดวอร์ม กางเกงขาสั้น แต่ผมไม่อยากใส่ ผมอยากกลับแบบนี้ เปลือยกายสนิทแต่ด้วยกฎหมายที่นี้ ทำให้ผมต้องใส่เกงกางขาสั้นเดินกลับออกไปแต่ถ้ามองดูเวลาที่เดินจะเห็นควยส่ายไปมาอย่างชัดเจน แค่นี้ก็ทำให้ผมมีความสุขได้ ผมเดินไปที่มอเตอร์ไซค์ เสียบกุญแจสตาร์ทเครื่อง เสียงเครื่องยนต์ดัง ขึ้นขี่ นั่งลง ขับออกจากบลูลากูนออกไปสู่ถนนใหญ่ ลมพัดมากระทบตัว แตะหน้าอก แตะท้อง แตะแขน แตะขา พัดเข้ามาตามขากางเกงแตะควยแตะไข่ เย็นสบาย ควยและไข่โคลงไปมาตามการขับ อิสระเต็มที่ ไม่มีอะไรรัดไม่มีอะไรกัน ขับมอเตอร์ไซต์เข้าไป จอดหน้าโรงแรม ปิดเครื่องลงมาเดินเข้าไปในล็อบบี้ สภาพกึ่งเปลือยกาย มีเพียงกางเกงขาสั้นตัวเดียวไม่ใส่กางเกงในกับกระเป๋าเป้พลาสติกกันน้ำเล็กๆเจ้าหน้าที่สองคนที่เคาน์เตอร์มองมา ตาโต ไม่รู้จะพูดอะไร "สวัสดีครับ" ผมทักทาย ยิ้มให้ "สวั... สวัสดีค่ะ" พวกเธอตอบ . ผมกลับห้องเข้าห้อง ถอดกางเกงออก ยืนอยู่กลางห้องหายใจหนัก หัวใจเต้นแรง ร่างกายเปลือยยังคงรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้น เดินไปที่ระเบียง เปิดประตูกระจก เดินออกไปยืนมองวิว แสงแดดกำลังตกดิน ท้องฟ้าสีส้มทอง ภูเขาลอยเงาทอดยาว ลมพัดมาเย็นๆแตะผิวหนังเปลือย ผมยืนอยู่บนระเบียง เปลือยกายสนิท มองพระอาทิตย์ตกดิน หายใจลึกๆ มันเป็นบ่ายที่ไม่มีวันลืม ผมว่ายน้ำเปลือยกายท่ามกลางผู้คนกระโดดน้ำเปลือยกายให้ทุกคนดู เดินเปลือยกายรอบสระ แล้วขับมอเตอร์ไซค์กลับโรงแรมในสภาพเกือบเปลือยกายสนิทเกือบ 10 กิโลเมตร และมันเป็นประสบการณ์ที่สุดยอดที่สุด ผมยิ้ม นี่คือเสรีภาพ นี่คือการปลดปล่อยนี่คือชีวิต ตอนที่สอง เอาจริงๆเรื่องนี้ผมอยากจะเขียนแค่ตอนเดียวแต่ความประทับใจมันยังคงอยู่ เลยอยากจะขอเล่าต่อให้ทุกคนฟังอีกสักตอนนะครับ . . แสงแดดยามเช้าส่องผ่านม่านบางกระทบผิวกายเปลือยเปล่าของผม ความอบอุ่นนั้นค่อยๆ ดึงผมออกจากห้วงหลับใหลผมลืมตาขึ้น รู้สึกถึงอากาศเย็นๆ ของวังเวียงพัดโชยเข้ามาผ้าห่มถูกเตะออกไปนอนอยู่ริมเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ร่างกายปฏิกิริยาตามธรรมชาติยามเช้าความแข็งตึงที่คุ้นเคย ผมนอนแผ่บนเตียงนุ่มสบาย สายตามองไปฟ้าเพดานปล่อยตัวตามสบายไม่ปกปิดอะไร มันเป็นเรื่องธรรมชาติ เป็นส่วนหนึ่งของการตื่นรับวันใหม่ ลุกนั่งขึ้น ยืดแขนยืดขาให้กล้ามเนื้อคลายตึงลงจากเตียงโดยไม่คิดจะหาอะไรนุ่งห่ม เดินเปลือยเปล่าไปที่เครื่องทำกาแฟ Nespressoที่มุมห้อง ใส่แคปซูล กดปุ่ม เสียงวี้ดๆ ของเครื่อง กาแฟร้อนๆหยดลงมา กลิ่นหอมกรุ่นอบอวลไปทั่วห้อง ผมหยิบแก้วกาแฟขึ้นจิบความร้อนและความขมกลมกล่อมลงคอ รู้สึกฟื้นมีชีวิตชีวาขึ้นทันที จากเดินไปที่ประตูกระจกบานใหญ่เปิดออก ก้าวไปยืนบนระเบียง ลมเช้าพัดมาเย็นสดชื่นสัมผัสผิวกายเปลือยเปล่าทั่วทุกตาราง แสงแดดส่องมาอุ่นๆ เย็นๆ สลับกัน สบายแปลกๆ ยืนดื่มกาแฟ มองวิวภูเขาที่ปกคลุมด้วยหมอกบางๆท้องฟ้าสีฟ้าใส ไร้เมฆ ความแข็งตึงเริ่มคลายลง ควยผมตอนนี้ค่อยๆอ่อนตัวลงห้อยลงมาตามธรรมชาติโคลงไปมาเบาๆ ตามลมที่พัดผ่าน ความรู้สึกนี้... เสรี ไร้ภาระ ไม่มีอะไรมาบีบรัดไม่มีผ้าคลุม ไม่มีกฎเกณฑ์ มีแค่ผม แสงแดด ลม และธรรมชาติ ผมจิบกาแฟไปเรื่อย พร้อมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คข้อความเลื่อนดูโซเชียลมีเดีย ยืนดื่มกาแฟต่อร่างกายเปลือยเปล่าโดยสมบูรณ์ท่ามกลางแสงเช้าปล่อยให้ควยและไข่อันเปลือยเปล่าอันไร้ขนและเสื้อผ้าอาภรณ์ใดๆ ไม่รู้สึกอายหรือกังวล มันเป็นเรื่องธรรมชาติเหมือนสัตว์ป่าที่ไม่เคยรู้จักความอับอาย ผมยืนเกาะระเบียง มองลงไปข้างล่าง เห็นถนนเห็นผู้คนเริ่มออกมาเดินทำธุระ ชาวบ้าน นักท่องเที่ยว บางคนปั่นจักรยานบางคนเดินไปหาอาหารเช้า และแน่นอน... บางคนมองขึ้นมา สบตากับชายหนุ่มคนหนึ่ง เขาเดินผ่านไป แล้วหยุดมองกลับมาอีกครั้ง จ้องมอง คิ้วขมวด คงไม่แน่ใจว่าตัวเองเห็นอะไร ผมยืนนิ่งดื่มกาแฟต่อ ไม่หลบ ไม่หนี ให้เขามอง ชาวบ้านสองสามคนยืนคุยกันอยู่ข้างล่างคนหนึ่งเหลือบมองขึ้นมา ตาโต พูดอะไรบางอย่าง เพื่อนๆ เงยหน้าตาม ชี้ขึ้นมาพูดกันเสียงดัง หัวเราะ บางคนส่ายหัว บางคนยิ้มกริ่ม ผมยกแก้วกาแฟขึ้นจิบ ผมทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นหยิบโทรศัพท์ขึ้นทำเป็นคุยสาย ยกมือขึ้นชี้ไปชี้มา พูดเสียงดังๆ ทำเป็นกำลังคุยงานคุยธุรกิจอะไรสักอย่างที่สำคัญ ความจริง... ไม่ได้คุยกับใครแค่แอ๊คทำเป็นคุยไปงั้น แต่ภาพลักษณ์นั้นสำคัญผู้ชายเปลือยกายยืนอยู่บนระเบียง กำลังคุยโทรศัพท์ สบายๆเหมือนเป็นเรื่องปกติธรรมดา มั่นใจ ไม่กังวล สายตาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนหยุดมอง คนชี้แต่ผมยืนอยู่ต่อ ดื่มกาแฟต่อ ปล่อยให้พวกเขามอง ปล่อยให้แสงแดดสัมผัสผิวกายปล่อยให้ลมพัดโชยผ่าน พวกเขาอาจจะแค่คิดว่าเป็นคนต่างชาติ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ผมรู้ว่าพวกเขามอง รู้ว่าพวกเขาชี้ คุยกันหัวเราะ แต่ผมไม่รู้สึกอะไร ไม่รู้สึกผิด ไม่รู้สึกอายตราบใดที่ผมไม่ได้ทำอะไรลามก ไม่ได้แสดงอนาจาร ไม่ได้มีเจตนาล่วงล้ำใครมันก็ไม่ใช่เรื่องผิด มันเป็นแค่ร่างกาย ร่างกายที่เกิดมาตามธรรมชาติไม่มีอะไรน่าอับอาย ชาวบ้านอาจมองว่าแปลก มองว่าบ้านักท่องเที่ยวบางคนอาจช็อก บางคนอาจชื่นชม แต่ผมเชื่อในสิ่งที่ผมทำนี่ไม่ใช่การอวดหรู ไม่ใช่การยั่วยุทางเพศ มันคือการเลือกที่จะปลดปล่อยการเคารพร่างกายของตัวเองการให้เสรีภาพกับผิวหนังที่ถูกกักขังอยู่ในเสื้อผ้ามาตลอด ผมต้องยอมรับว่า...มีอะไรบางอย่างในตัวผมที่ชอบความรู้สึกนี้ ความรู้สึกที่รู้ว่ามีคนมอง มีคนเห็นมันไม่ใช่เพื่อความต้องการทางเพศ แต่มันคือความมั่นใจ ความกล้าความรู้สึกเป็นอิสระอย่างแท้จริง การกล้าแสดงออกโดยไม่กลัวคำตัดสินบางทีผมอาจมีนิสัยชอบโชว์อยู่เล็กน้อยแต่มันไม่ได้ทำให้สิ่งที่ผมทำกลายเป็นเรื่องลามกมันแค่เพิ่มความหมายให้กับเสรีภาพที่ผมเลือก การที่ผมโกนขนหมด ทุกอย่าง เรียบเกลี้ยง สะอาดมันไม่ใช่เพื่อยั่วยุ มันคือการเลือกสุนทรียะของผม ผมชอบความรู้สึกเรียบชอบความสะอาด ชอบที่ผิวหนังได้สัมผัสอากาศโดยตรง ไม่มีอะไรมาบังการปล่อยให้อวัยวะเพศอยู่ในสภาพธรรมชาติ ผ่อนคลาย ห้อยลงมาตามแรงโน้มถ่วง มันไม่ใช่การแสดงไม่ใช่การอวด มันคือสภาวะปกติของร่างกายผู้ชาย ไม่ได้แข็งตัว ไม่ได้ถูกกระตุ้นแค่เป็นไปตามธรรมชาติ ผมไม่ได้พยายามปิดบัง ไม่ได้หันตัวหลีกไม่ได้ใช้มือบัง เพราะมันไม่มีอะไรต้องอับอาย การโกนขนทำให้มันดูชัดเจนขึ้น ใช่แต่มันก็ทำให้รู้สึกสะอาด เบา โปร่ง ผิวหนังได้หายใจ ได้สัมผัสแสงแดด ลม อากาศอย่างเต็มที่ และใช่... ความรู้สึกที่รู้ว่ามีคนมองเห็นทุกอย่างอย่างชัดเจนมันทำให้ผมรู้สึกมีชีวิต รู้สึกกล้า รู้สึกเป็นตัวเองอย่างสมบูรณ์ มันเป็นความงามในรูปแบบหนึ่งสุนทรียะที่ไม่ต้องอาศัยผ้าคลุม ความเป็นอิสระที่แท้จริงของร่างกายการยอมรับในสิ่งที่เรามี ไม่ปกปิด ไม่แกล้งทำ ไม่แกล้งแต่งแค่ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ ผสมผสานกับความกล้าที่จะแสดงออกกล้าที่จะให้คนอื่นเห็น ไม่ใช่เพื่อความต้องการทางเพศ แต่เพื่อความเป็นอิสระเพื่อความมั่นใจ เพื่อการทำลายกรอบที่สังคมสร้างขึ้นมา แสงแดดสัมผัสผิว ลมพัดผ่านทุกตารางนิ้ว ทุกส่วนไม่เว้นแม้แต่ส่วนที่สังคมบอกว่าต้องปิดบัง สายตาจากข้างล่างที่รู้ว่ามีคนกำลังมองกำลังพูดถึง มันทำให้ความรู้สึกนี้เต็มเปี่ยมยิ่งขึ้น สมบูรณ์ เป็นอิสระไม่มีอะไรมาบีบรัด ไม่มีอะไรมากั้น มีแค่ผม กับธรรมชาติ กับโลกที่กว้างใหญ่กับความกล้าที่จะเป็นตัวเอง ผมดื่มกาแฟต่อ ยืนต่อ ปล่อยให้พวกเขามองปล่อยให้พวกเขาคิดไปตามที่ต้องการ เพราะผมรู้ว่าผมไม่ได้ทำผิดอะไร ผมแค่เป็นตัวเองอย่างที่ธรรมชาติสร้างมา ผสมผสานกับความกล้าที่จะแสดงออกความกล้าที่จะอยู่ในสายตาสาธารณะ ไม่มีส่วนไหนของร่างกายที่น่าอายทุกส่วนสมควรได้รับเสรีภาพ ได้รับแสงแดด ได้รับลมพัด และได้รับการมองเห็นเท่าเทียมกัน สมบูรณ์ เป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ และกับตัวเองที่แท้จริง นี่คือความเป็นอิสระที่แท้จริง ไม่กลัวสายตาไม่กลัวคำตัดสิน ยอมรับร่างกายตามธรรมชาติ แสดงออกโดยไม่ละอายไม่ได้ทำอะไรอนาจารแค่เป็นตัวของตัวเอง ครึ่งชั่วโมงผ่านไป กาแฟหมดแก้วข้อความตอบหมดแล้ว สเต็ปนี้เสร็จสมบูรณ์ ผมเดินกลับเข้าห้อง ปิดประตูกระจก รอยยิ้มเล็กๆ เกิดขึ้นที่มุมปากวันนี้เริ่มต้นได้ดีทีเดียว . ใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวผ้าสาลูบางๆ โปร่งมาก ถ้ามองก็จะเห็นหัวนมผ่านผ้าใส่กางเกงผ้าลินินสีน้ำตาลอ่อน ผ้าโปร่ง ไม่ใส่กางเกงใน ตามเคย เดินลงไปทานอาหารเช้า ห้องอาหารอยู่ชั้นล่างวิวแม่น้ำ บรรยากาศดี มีโต๊ะริมระเบียง มองเห็นแม่น้ำไหล เห็นภูเขา เดินไปหยิบอาหาร ข้าวต้ม ไข่ดาว เบคอน กาแฟเอาไปนั่งที่โต๊ะริมระเบียง โต๊ะเดี่ยว เก้าอี้ไม้ นั่งลง กางเกงผ้าโปร่งรัดตัวเห็นรูปร่างของควยชัดเจน ผมนั่งอ้าขาเล็กน้อย ถ้ามองจากด้านข้างจะเห็นหัวควยโผล่ออกมาจากขอบกางเกงผ้าบาง มีเจ้าหน้าที่สาวเดินมาเติมน้ำให้ มองมาเห็นหน้าแดง รีบเดินหนี ผมนั่งกินอาหารชิวๆ มองวิวแม่น้ำ ดื่มกาแฟ อ่านข่าว มีแขกโรงแรมคนอื่นๆมาทานอาหารเช้า ฝรั่ง จีนญี่ปุ่น เกาหลี บางคนมองมาทางผม มองที่กางเกง แล้วก็หันหน้าหนี . . หลังจากกินอาหารเสร็จ ผมไปเลือกซื้อโปรแกรมทัวร์พายเรือคายัคครับกับทางโรงแรม โดยมีเส้นทางพายเรือไปตาม พายเองได้เลยแต่มีไกด์พายนำหน้าอยู่ห่างๆตลอดมีเส้นทางกำหนดไว้มีป้ายบอกทาง จากนั้นเจ้าหน้าที่พาผมไปที่ท่าเรือไม้ริมแม่น้ำมีเรือคายัคหลายลำจอดเรียงรายอยู่และมีนักท่องเที่ยวหลายๆคนรอที่จะออกเดินทางพร้อมๆกันซึ่งโปรแกรมของที่นี่จะมีระบุเป็นช่วงเวลาไว้เพื่อความสะดวกต่อการจัดการ "นี่เรือของคุณค่ะ"เจ้าหน้าที่ชี้ไปที่เรือลำหนึ่ง สีเหลือง มีพายสองอัน มีชูชีพสีส้ม "ควรใส่ชูชีพด้วยนะคะ เพื่อความปลอดภัยอาจจะเปียกน้ำได้ ถ้าไม่อยากให้เสื้อผ้าเปียก ควรถอดออกเก็บใส่ถุงกันน้ำไว้ค่ะ" "โอเคครับ" ผมตอบ ผมถอดเสื้อออก เปลือยหน้าอก ใส่ชูชีพรัดสายให้แน่น ผมยังกางเกงอยู่ผ้าโปร่ง แต่ไม่ได้ใส่กางเกงใน ผมลงเรือ นั่งลงก้นแตะพื้นเรือพลาสติกอุ่นๆ เรือลอยออกไปในแม่น้ำน้ำไหลช้าๆ . ผมหยิบพายขึ้นมา เริ่มพาย พายไปทางหน้าไปตามแม่น้ำ น้ำใส เห็นก้นแม่น้ำ เห็นหินก้อนเล็กก้อนน้อย เห็นปลาว่ายอยู่ แสงแดดส่องมา อบอุ่น ลมเย็นๆ สบาย พายไปสักพักมาถึงบริเวณที่ไม่มีคน ไม่มีบ้าน แค่ต้นไม้สองข้างฝั่ง ป่าทึบ ผมคิดอะไรขึ้นมาได้ ผมมองซ้ายมองขวา เมื่อไม่มีเรือลำอื่นอยู่ใกล้ๆผมวางไม้พายลง ยกก้นขึ้น ถอดกางเกงดึง เอาขาออกทีละข้าง เปลือยหมด แล้วเก็บวางกางเกงไว้ข้างตัว . ผมนั่งลงก้นเปลือยแตะพื้นเรือโดยตรง ไม่มีผ้าคั่นกลาง รู้สึกได้ทุกเนื้อสัมผัสทุกรอยขรุขระ ควยและไข่เปลือยแตะกางเกง แตะพื้นเรือ แตะอากาศ อิสระเต็มที่ ตอนนี้ผมพายเรือเปลือยกายใส่แค่ชูชีพ ถ้ามองจากข้างๆจากฝั่ง ก็ไม่เห็นอะไรเท่าไหร่ เพราะผมนั่งอยู่ในเรือขอบเรือบังอยู่ แต่ถ้ามองจากสะพาน มองจากด้านบน มองลงมาผมเชื่อว่าเห็นแน่นอนเห็นควย เห็นไข่ เห็นก้น เห็นหมด คิดแล้วตื่นเต้นมาก หยิบพายขึ้นมาพายต่อ ล่องไปตามแม่น้ำลมพัดและกระน้ำบางช่วงพัดกระเซ็น มากระทบหน้าอกเปลือย กระทบท้องเปลือยกระทบควยเปลือย เย็นสบาย เหมือนได้แช่น้ำอยู่บนเรือ ควยโคลงไปมาตามการพายแข็งขึ้นเล็กน้อยจากน้ำและลมเย็นๆที่ประทะร่างเปลือยเปล่าตลอดเวลา ผมพายไปเรื่อยๆ ผ่านต้นไม้ ผ่านหน้าผาผ่านทุ่งนาวิวสวย แล้วก็มาถึงสะพาน…. เป็นสะพานเหล็กสีน้ำเงินเข้ม ข้ามแม่น้ำ ไว้ให้สำหรับคนเดินข้ามเป็นสะพานสมวิวแม่น้ำซองหลักคนสัญจรไปมา และยืนดูวิวเยอะมาก ตอนนี้หัวใจผมเต้นแรง แต่ผมไม่หยุด ผมพายเนียนๆต่อไปพายเข้าไปใกล้สะพาน มีผู้หญิงสามคนยืนอยู่บนสะพาน มองลงมาในน้ำ พวกเธอเห็นผมเห็นเรือผม มองมา มองอีกครั้งทำตาโต ชี้ลงมาพร้อมๆกับทำท่าทางบอกกับเพื่อนของเธอเพื่อนชะโงกมองลงมา ทั้งสามคนจ้องมาที่ผม ชี้มา คุยกันดังๆหัวเราะคิกคัก พวกเธอเห็นแน่นอน เห็นควยผม เห็นไข่ผม เห็นก้นผม เห็นหมด ควยผมแข็งขึ้นเรื่อยๆ แข็งเต็มที่ ตั้งตรง พวกเธอชี้มาตรงมาที่ผมหัวเราะดังขึ้น ผมพายผ่านใต้สะพาน พายไปเรื่อยๆ มองกลับไปเห็นพวกเธอยังยืนมอง ยังชี้ ยังหัวเราะ หัวใจเต้นแรงมาก ตอนนี้ควยแข็งมากตื่นเต้นสุดขีด . ตอนนี้ผ่านสะพานไปแล้ว มาถึงบริเวณที่มีเรือลำอื่นมีนักท่องเที่ยวพายเรืออยู่ ฝรั่ง จีน เกาหลี พวกเขามองมาเห็นผม เห็นผมเปลือยกายตาโต ชี้มา หัวเราะ ผมรีบจ่วงพายผ่านไป ทำที่เป็นว่าไม่สนใจ สีหน้าเรียบเฉยหน้าตาปกติเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา พอผมมาถึงจุดพัก ที่เป็นท่าเรือไม้เล็กๆมีนักท่องเที่ยวหลายคนพักอยู่ผมพายเรือเข้าไปใกล้ฝั่ง ก่อนลงเรือรีบหยิบกางเกงขึ้นมาสวม เข้าไปทำทีว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น เดินขึ้นมาพักผ่อนบนศาลาพัก จู่ๆก็มีฝรั่งคนหนึ่งเดินมาหาผู้ชายอายุประมาณสี่สิบ ผมสั้น หนวดหนา "Hey man, was that you under the bridge?" เขาถาม ยิ้มกว้าง ผมยิ้ม "Maybe" เขาหัวเราะ "You'recrazy! But awesome, man. I respect that." ชูมือเข้ามาจับมือ ผมจับมือเขา "Thanks" ผมตอบ พายเรือต่อ พายกลับ ครั้งนี้ผมใส่กางเกงไม่กล้าถอดอีกแล้ว . หลังจากที่ผมพักเสร็จ ก็พายเรือกลับถึงท่าเรือของโรงแรมเจ้าหน้าที่ช่วยจับเรือช่วยดึงเรือขึ้นฝั่ง แล้วพานั่งรถสองแถวกลับไปยังโรงแรม พอถึงโรงแรม ผมก็เจอกับพนักงานหญิงคนเดิมที่ช่วยแนะนำผมตอนลงเรือ "สนุกไหมคะ" เธอถาม "สนุกมากครับ" ผมตอบ ยิ้มให้ ผมถอดชูชีพออกถือเสื้อไว้ในมือถึงกระเป๋าเดินกลับห้องทั้งๆที่ยังไม่ได้ใส่เสื้อแบบนั้น ตอนผมถึงห้องผมรีบถอดกางเกงที่เปียกออกจากนั้นเข้าห้องน้ำส่องกระจกดูก็ตกใจกับตัวเอง ที่ผมว่าทั้งตัวผม คอ หน้า ไหล่ แขนแดงไปหมด ต้นขาและควยก็แดง มีเพียงรอยขาวๆบนอกเท่านั้นที่ได้มาจากเสื้อชูชีพที่ป้องกันร่างกายผมกับแสงแดด... ผมอาบน้ำ นอนพักผ่อน นึกถึงตอนแก้ผ้าพายเรือตอนผ่านสะพาน ตอนผู้หญิงสามคนมองลงมา ตอนพวกเธอเห็นควยผมแข็ง ควยผมแข็งขึ้นมาอีกครั้ง แข็งเต็มที่ ผมยิ้ม มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก . ตอนนี้ผมนอนอยู่บนเตียง นึกถึงตอนนั้นควยผมเริ่มตอบสนอง เริ่มแข็งขึ้นมา ค่อยๆตั้งขึ้น ยกตัวขึ้นจากท้อง หัวโป่งบวมเต่งตึง เส้นเลือดนูนชัด ผมมองลงไป มองควยตัวเอง แข็งเต็มที่ เหมือนตอนบนเรือเหมือนตอนที่ผู้หญิงสามคนมอง ผมหลับตายิ้ม ยกมือขวาขึ้นค่อยๆ เลื่อนลงมาสัมผัสหน้าอก ลงมาที่ท้อง ผิวยังอุ่นจากแดด ลงต่อมาที่ขาหนีบ เรียบเกลี้ยง ไม่มีขนสัมผัสนุ่มลื่น นิ้วมือสัมผัสโคนควย หัวแม่มือลูบเบาๆ ไล้ไปมา ควยกระตุกเล็กน้อยตอบสนอง อยากได้มากขึ้น ผมค่อยๆ จับ ประกบนิ้วรอบด้าม อุ่น แข็ง เส้นเลือดเต้นตุบๆจับหมดทั้งความยาว แล้วค่อยๆ ลูบขึ้น ลูบจากโคนไปหัว ช้าๆ รู้สึกทุกนิ้ว ทุกจังหวะ หลับตาภาพนั้นกลับมาชัดเจนขึ้นผู้หญิงสามคนยืนบนสะพาน มองลงมา มองควยผม แข็งตั้งขึ้นมา พวกเธอชี้ หัวเราะพูดกันเสียงดัง "Look at that!" "Oh my god!""He's completely naked!" "And he's... oh wow!" ผมเห็นสายตาพวกเธอ เห็นรอยยิ้ม เห็นความตื่นเต้นเห็นว่าพวกเธอมองอย่างไม่กระพริบตา มือผมเริ่มเคลื่อนไหวเร็วขึ้นลูบขึ้นลงจังหวะสม่ำเสมอ จากโคนไปหัว กลับลงมาโคน ขึ้นไปหัวอีกครั้งหัวแม่มือลูบผ่านหัวโป่ง ลูบรอบ ลูบที่จุดที่ไว ควยกระตุก ตอบสนองทันที มืออีกข้างลงไปจับไข่ประคอง ลูบเบาๆ มันแน่น เต่งตึง สลับกับลูบไปตามหน้าท้องเขี่ยหัวนมซ้ายขวาไปๆมาๆ หายใจเริ่มหอบ อกขึ้นลงภาพในหัวชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ผู้หญิงคนหนึ่งถ่ายรูป ผมเห็นแฟลชกระพริบ เธอยิ้มกว้างพูดอะไรบางอย่างกับเพื่อน พวกเธอหัวเราะ มองผมต่อ มองควยผมที่แข็งตั้งตรงขึ้นมา มือเคลื่อนไหวเร็วขึ้น แรงขึ้น จับแน่นขึ้นจังหวะไม่หยุด ขึ้นลงไม่หยุด รู้สึกถึงความร้อนสะสม รู้สึกถึงแรงดันเพิ่มขึ้น "ใช่... พวกเธอมอง... พวกเธอเห็นหมด...เห็นควยผมแข็ง... เห็นว่าผมโกนหมด... เห็นทุกอย่าง..." ผมพึมพำเบาๆ ขาเริ่มตึงขึ้น เท้าชี้ตรง ร่างกายเกร็งจุดสุดยอดใกล้เข้ามาแล้ว …. ภาพผู้หญิงสามคนยืนมองลงมายิ้ม หัวเราะ ชี้ ถ่ายรูป พูดกันเสียงดัง พวกเธอเห็น พวกเธอรู้พวกเธอกำลังมองผมชักว่าวในใจตอนนี้เหมือนกัน "อ๊ะ... อ๊าา..." ผมครางเบาๆ ร่างกายกระตุกแรง ควยเต้นตุบๆ น้ำเชื้อสีขาวขุ่นพุ่งออกมาสาดขึ้นไปถึงหน้าอก ไหลลงมาที่ท้อง ลงมาที่มือ มันอุ่น ข้นและเยอะมาก ผมหายใจหอบ หน้าอกกระเพิ่มขึ้นลงแรงควยยังแข็งอยู่ในมือ ยังกระตุกๆอยู่ น้ำเชื้อยังไหลออกมาเป็นหยด ลงมาที่นิ้วมือ ค่อยๆ คลายตัว ปล่อยมือ นอนแผ่อยู่อย่างนั้นน้ำเชื้อไหลลงมาข้างลำตัว เปื้อนผ้าปูที่นอน แต่ผมไม่สนใจค่อยเช็ดที่หลังได้ ผมยิ้มกว้าง พอใจ เต็มอิ่ม นี่คือความทรงจำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิตและมันจะอยู่กับผมไปตลอด นอกเหนือจากประสบการณ์ที่ผมเล่ามาแล้ว นอกนั้นก็เป็นเหมือนนักท่องเที่ยวทั่วไปกิน ดื่ม เที่ยว ตามปกติ ผมใช้ชีวิตอยู่ที่นี่สามวันสองคืนเต็มๆ ผมได้เที่ยวธรรมชาติ น้ำตก วัด ถ้ำและศึกษาวัฒนธรรมตามความต้องการของผมหมดแล้ว มันหมดเวลาของการท่องเที่ยวสำหรับผมถึงเวลาที่ผมจะต้องเดินทางกลับ วันสุดท้ายที่ผมต้องจากสถานที่แห่งนี้มาถึงแล้วผมเดินทางกลับตามเส้นทางเดิม มาถึงสถานีขนส่งช่วงเย็น รถบัสที่ผมนั่งเป็นรถ VIP สายเวียงจันทร์–กรุงเทพ ออกประมาณหกโมงเย็น เป็นรถบัสแบบ 3 แถว (1–2) ตอนขามา ผมใส่ชุดผ้าร่มแบบเดียวกับวันนี้เพราะรู้ดีว่าในรถบัสแอร์จะเย็น แต่ครั้งนี้… ผมมีแผนอื่น ผมเลือกซื้อตั๋วออนไลน์ไว้ล่วงหน้าเป็นที่นั่งแถวสุดท้าย ด้านซ้ายซึ่งเป็นที่นั่งเดี่ยว ติดหน้าต่างไม่มีใครนั่งข้าง ๆ มีเพียงทางเดินและแถวคู่อีกฝั่งเท่านั้น เมื่อขึ้นรถ ผมเดินไปนั่งที่แถวหลังสุดวางกระเป๋าเป้ไว้ใต้เท้า แล้วดึงผ้าห่มออกมากางบนตัก ปรับเบาะให้เอนสบาย ๆจัดท่าทางให้พร้อมสำหรับการเดินทางยาว ผู้โดยสารทยอยขึ้นรถ คนไม่เต็มประมาณครึ่งหนึ่ง แถวหลังมีแค่ผม และคู่รักชาวลาวที่นั่งอีกฝั่งห่างออกไปสองแถวพวกเขาหลับตาพักผ่อนตั้งแต่แรกขึ้นรถ พนักงานเดินตรวจตั๋ว นับจำนวนผู้โดยสารและเช็กความพร้อมก่อนรถออกตรงเวลา รถบัสค่อย ๆ เคลื่อนออกจากเวียงจันทร์ผ่านถนนคดเคี้ยวที่มีภูเขาล้อมสองข้างทาง วิวยามเย็นสวยงามแสงแดดสีทองอ่อนส่องลงมาทาบทาไปทั่ว ผมนั่งมองวิวอยู่สักพักแล้วความคิดนั้นก็เริ่มขึ้นมา ตอนมาผมปกติดี ใส่เสื้อผ้า นั่งสบายๆ หลับ ดูหนังฟังเพลง แต่ตอนกลับ... หลังจากสามวันที่วังเวียง หลังจากประสบการณ์เหล่านั้นบนระเบียง ริมแม่น้ำ บนเรือคายัค... ผมอยากทำอะไรสักอย่างอีกครั้ง อะไรที่ตื่นเต้น อะไรที่เสี่ยงแต่ไม่รุนแรงเกินไปผมมองรอบๆ คนส่วนใหญ่นั่งด้านหน้า หลับตา หรือดูโทรศัพท์ผ้าม่านหน้าต่างถูกดึงปิดเกือบหมด เพราะแดดที่ส่องตรงเข้าดวงตา ในรถมืดสนิทเหลือแต่แสงสลัวๆ จากซอกผ้าม่าน ผมดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวคลุมจากอกลงมาถึงหัวเข่า ทำเป็นปรับให้นุ่มสบาย . . แล้วผมก็เริ่มถอดเสื้อผ้าใต้ผ้าห่มมือผมเริ่มเคลื่อนไหว ค่อยๆ ซิบเสื้อผ้าร่มลงผ่านหน้าอก ผ่านหัวนม ดึงลงมาจนสุด แล้วค่อยๆเอาแขนออกมาทีละข้างพับเก็บเสื้อไว้ข้างๆ ใต้ผ้าห่ม ไม่มีใครเห็น อากาศในรถเย็น แอร์เปิดเต็มที่ผิวเปลือยรู้สึกได้ทันที หัวนมแข็งตัวเล็กน้อย หายใจลึกๆ แล้วลงมือต่อ ผมปลดเชือกมัดกางเกง ค่อยๆดึงกางเกงลงยกสะโพกขึ้นเล็กน้อย ดึงผ่านก้น ผ่านต้นขา ดึงลงมาถึงเท้า ถอดออกมาทั้งตัวพับเก็บไว้กับเสื้อ ตอนนี้ผมเปลือยกายสนิท ใต้ผ้าห่มบนรถบัสที่กำลังวิ่งไปบนถนนคดเคี้ยวของลาว ไม่มีอะไรสวมใส่เลยไม่มีชั้นผ้ากั้นระหว่างผิวกายกับผ้าห่ม แค่ผมกับผ้า สัมผัสโดยตรง ผมเอนหลังพิงพนักพิงปล่อยขายาวเหยียดออกไปใต้ที่นั่งหน้า ผ้าห่มคลุมจากคอลงมาถึงปลายเท้านอกรถดูปกติดี ผู้โดยสารคนหนึ่งกำลังหลับพักผ่อน แต่ใต้ผ้า... เปลือยกายทั้งหมด หัวใจเต้นแรง ควยเริ่มตอบสนองเริ่มแข็งขึ้นมาช้าๆ . รถวิ่งต่อไป ผ่านหมู่บ้าน ผ่านทุ่งนา ผ่านป่าไม้ถนนเริ่มเรียบขึ้น ราบขึ้น รถแล่นเร็วขึ้น ผมนอนอยู่อย่างนั้น รู้สึกทุกอย่าง รู้สึกผ้าห่มสัมผัสผิวหนังนุ่ม อุ่น เบา ปกคลุมทั่วทั้งตัว รู้สึกแอร์เย็นๆ รั่วเข้ามาตามช่องว่างพัดโชยผ่านใบหน้า คอ ควยแข็งขึ้นเรื่อยๆ ค่อยๆ ตั้งขึ้นมายกผ้าห่มขึ้นเป็นเต็นท์เล็กๆ ผมมองลงไป เห็นรูปทรงนูนชัด ใครที่เดินผ่านมาก็คงเห็นแต่โชคดีที่ไม่มีใครผ่าน ทุกคนนั่งที่ตัวเอง หลับตา ผมอยากสัมผัส อยากจับควยเล่นแต่ผมยังกลั้นไว้ เพราะยังไม่ใช่เวลา รถแล่นต่อไป ประมาณหนึ่งชั่วโมง ผ่านเมืองเล็กๆ มุ่งหน้าไปด่านชายแดน เมื่อถึงด่านชายแดนลาว-ไทยประมาณบ่ายสอง ทุกคนต้องลงจากรถ ถือพาสปอร์ต เดินไปตรวจเอกสาร ผมต้องแต่งตัวใต้ผ้าห่ม ผมรีบหยิบกางเกงขึ้นมาดึงสวมเข้าขา ยกสะโพกขึ้น ดึงขึ้นมาคาดเอว ซิปขึ้น กระดุมเข้าแล้วก็หยิบเสื้อสวมเข้าไป ทำเสร็จทันเวลาไม่มีใครสงสัย ผมทำเรื่องออกจากลาวและเข้ากลับเข้าประเทศไทยและทุกคนทำเสร็จ รถออกอีกครั้ง เข้าสู่ดินแดนไทย มุ่งหน้ากรุงเทพ อีกประมาณ 10-12 ชั่วโมง ตอนนี้เย็นแล้ว ฟ้าเริ่มมืด ไฟในรถปิดเหลือแค่ไฟอ่อนๆ ตามทางเดิน โอกาสมาถึงผมอีกครั้งหนึ่งแล้ว ผมหวนกลับคืนสู่ความเปลือยเปล่า ผมมองไปยังด้านหน้าถัดจากผมไปเห็นชาวลาวสองคนนั่งที่เดิม เล่นโทรศัพท์ไม่ได้สนใจอะไร มองไปรอบๆก็ไม่มีการเคลื่อนไหวคราวนี้ผมไม่ห่มผ้าแล้ว ผมเริ่มถอดเสื้อผ้าออกอีกครั้ง ทั้งเสื้อและกางเกงพับเก็บไว้ข้างๆตัวตอนนี้ผมแก้ผ้าล่อนจ้อนอยู่บนรถ จากนั้นผมเอาผ้าขึ้นมาห่ม กลับมาเปลือยกายสนิทอีกครั้งแต่ครั้งนี้มืดกว่า เย็นกว่า และควยแข็งกว่าเดิม รถวิ่งบนทางหลวง มืดสนิท เห็นแต่ไฟรถสวนทางไฟฟ้าริมถนน ผ่านไปเร็ว ผมนอนคลุมผ้าห่มถึงคอ มือทั้งสองอยู่ใต้ผ้า ควยแข็งเต็มที่ตั้งตรงขึ้นมา แข็งมากจนเจ็บเล็กน้อย ผมอดใจไม่ไหวแล้ว… . มือขวาเลื่อนลงไป สัมผัสหน้าอก ลูบเบาๆหัวนมแข็ง สัมผัสแล้วรู้สึกซู่ลงไปถึงควย ลงต่อมาที่ท้อง ลูบช้าๆ ผ่านสะดือลงมาที่ขาหนีบเรียบเกลี้ยง สัมผัสลื่น นุ่ม นิ้วมือแตะโคนควย ลูบเบาๆ รอบๆ ไม่รีบค่อยๆสัมผัส ควยกระตุก น้ำเงี่ยนค่อยๆไหลเอ่อออกจากหัวควยเป็นหยดๆ ผมมีต้องการมากขึ้น ผมมองรอบๆ อีกครั้ง คู่รักฝั่งขวายังหลับสบายคนอื่นๆ ด้านหน้าก็หลับตา ใส่หูฟัง ดูโทรศัพท์ ไม่มีใครสนใจผม ผมจับควยประกบนิ้วรอบด้าม แข็งมาก ร้อน เต้นตุบๆ เริ่มลูบขึ้นลงช้าๆ จากโคนไปหัว ขึ้น ลงขึ้น ลง จังหวะเบา ไม่เร็ว ผ้าห่มขยับเล็กน้อยตามการเคลื่อนไหวของมือแต่จากข้างนอกดูไม่ชัด เหมือนปรับท่านอนธรรมดา ความรู้สึกนั้นเข้มข้นมาก ในรถบัสที่มืดสนิทล้อมรอบด้วยคนแปลกหน้า แต่ผมกำลังเปลือยกายใต้ผ้าห่ม กำลังชักว่าวช้าๆ ไม่รีบร้อนผ่อนคลายเพลิดเพลิน มือขยับเร็วขึ้นนิดหนึ่งลูบจากโคนไปหัวลูบรอบหัวขอบเงี่ยงที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำเงี่ยนหัวแม่มือลูบไล้ที่ช่องเปิด ความรู้สึกซู่ๆ วิ่งขึ้นไปตามสันหลัง หายใจลึกๆพยายามควบคุม ไม่ให้หอบ ไม่ให้เสียงดัง มือซ้ายลงไปจับคลึงไข่ ประคองลูบเบาๆ บีบเบาๆมันแน่น เต่งตึง มือขวายังลูบต่อ ขึ้นลง ขึ้นลง จังหวะสม่ำเสมอ ไม่หยุด ผมรู้สึกว่าใกล้แล้ว แรงดันสะสมขึ้นเรื่อยๆควยเต้นแรงขึ้น ร้อนขึ้น ภาพที่วังเวียงวนเวียนกลับมา แก้ผ้าโดดน้ำที่บลูลากูน ภาพบนระเบียงริมแม่น้ำ บนเรือคายัค ผู้หญิงสามคนมองลงมา เห็นควยผมแข็งเห็นทุกอย่าง และตอนนี้ ผมกำลังทำอีกครั้ง แต่แอบ ลับไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น แค่ผม รู้ แค่ผม เพลิดเพลิน มือขยับเร็วสุดจับแน่นลูบแรง ขึ้นลงไม่หยุด ขาตึงขึ้น เท้าชี้ตรง ร่างกายเกร็ง— จุดสุดยอดมาถึงผมกัดริมฝีปากแน่น กลั้นเสียงควยเต้นตุบๆ เปิดผ้าห่มที่คลุ่มตัวออก….น้ำเชื้อพุ่งออกมา สาดขึ้นไปถึงหน้าอก ไหลลงมาที่ท้อง ไหลลงมาที่มือ อุ่น ข้นเยอะมาก พุ่งอีกครั้ง สองครั้ง สามครั้ง ทุกครั้งแรง ทุกครั้งเยอะ น้ำเชื้อเปื้อนหน้าอก เปื้อนผิวหนังเปื้อนเสื้อที่พับเก็บไว้ข้างๆ ผมหยิบเสื้อพลิกด้านในออกมาเช็ด เช็ดหน้าอกเช็ดท้อง เช็ดมือ เช็ดควย แล้ววางทิ้งไว้ข้างๆ เปื้อนเป็นวงๆ ควยค่อยๆ อ่อนตัวลง แต่ยังไม่หมดยังครึ่งแข็งอยู่ ผมหายใจลึกๆ ค่อยๆ สงบลง ร่างกายผ่อนคลาย มองออกหน้าต่างไฟรถสวนทางผ่านไปเป็นแถบสว่าง มืดอีกครั้ง สว่างอีกครั้ง สลับไปนาฬิกาบนมือบอกจะเที่ยงคืนแล้ว รถยังวิ่งต่อ อีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงกรุงเทพ . ผมพยายามหลับ แต่หลับไม่ได้ ควยเริ่มแข็งขึ้นมาอีกครั้งมันยังไม่พอ มันยังอยาก ผมมองรอบๆ อีกครั้ง ทุกคนหลับหมดแล้ว ผมได้ยินเสียงกรนเบาๆจากไกลๆผสมกับเสียงแอร์รถ มือผมเลื่อนลงไปอีกครั้งจับควยที่เริ่มแข็งขึ้นมา ครั้งนี้ช้ากว่า นานกว่า เพลิดเพลินมากกว่า ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงลูบไปมา หยุด พัก ลูบต่อ หยุด พัก คิดถึงทุกอย่างที่ผ่านมาที่วังเวียง แล้วก็มาถึงจุดสุดยอดอีกครั้งครั้งนี้เบากว่าแต่ก็ยังเยอะ ยังพุ่งออกมา ไหลตามท้องลงต้นขา ผมเช็ดน้ำว่าวที่อยู่ตามขาด้วยเสื้อจนแห้งสนิทแล้วกางคลุมตัว ตอนนี้ผมเอามึงกุมควยกับไข่ไปด้วย เพื่อให้ความอบอุ่นกับมือผม ครั้งนี้หลับได้ . ตื่นขึ้นมาตอนเจ็ดโมงเช้า แสงแดดส่องผ่านผ้าม่านรถวิ่งอยู่บนทางด่วน มองเห็นตึกสูงของกรุงเทพแล้ว ผมยังเปลือยกายอยู่ใต้ผ้าห่ม รีบหยิบเสื้อผ้าที่เปื้อนน้ำเชื้อมาสวมใส่กลิ่นจางๆ แต่ผมไม่สนใจ สวมเข้าไป แล้วก็จัดกระเป๋า รถเข้าสถานีหมอชิตตอน 08:30 น. ตรงเวลา ลงจากรถ ถือกระเป๋า มองเห็นปื้นน้ำเชื้อแห้งเป็นวงๆสีเหลืองจางติดตามเสื้อทะลุออกมา ยิ้มเบาๆ เดินออกจากสถานี . . 1 O# E- y1 y1 g$ q4 b+ Q8 g
การเดินทางครั้งนี้จะอยู่ในความทรงจำตลอดไป สามวันที่วังเวียงยี่สิบชั่วโมงบนรถบัส เปลือยกายมีแต่ความเป็นอิสระ ไม่มีอะไรน่าอายไม่มีอะไรต้องเสียใจ ผมได้ค้นหาและเข้าใจตัวเอง จนผมรู้จักตัวเองอย่างแท้จริงที่สุด….. ( E4 O: a* X ^
|