ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 185|ตอบกลับ: 5

ดีไซน์กลไกรัก (นักออกแบบXเด็กวิศวะเครื่องกล) 1

[คัดลอกลิงก์]

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
223
ตอบกลับ
54
พลังน้ำใจ
8671
Zenny
35636
ออนไลน์
2848 ชั่วโมง
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย NOOFONG เมื่อ 2025-10-20 13:22





บนชั้นที่ 35 ของคอนโดมิเนียมหรูใจกลางกรุงเทพฯ ที่มูลค่าหลักสิบล้านบาท อาทิตย์ วัยสามสิบปี กำลังสวมเสื้อยืดสีซีดและกางเกงวอร์มตัวเก่าที่ใส่มาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย เขานั่งอยู่หน้าจอ iMac Pro จอใหญ่เบิ้ม ดีไซน์เนอร์ฟรีแลนซ์ระดับท็อปที่กวาดรายได้เจ็ดหลักต่อเดือนกำลังเร่งเคลียร์งานออกแบบแบรนด์สินค้าออร์แกนิกจากยุโรป


เสียงเตือนของแอปพลิเคชันจัดการการเงินดังขึ้นบนมือถือที่วางอยู่ข้างจานข้าวเหนียวหมูทอดข้างทางที่ซื้อมาในราคา 40 บาท อาทิตย์เหลือบมองตัวเลขที่แจ้งว่าวันนี้ค่าใช้จ่ายของเขายังไม่ถึงหลักร้อย ก็พอใจ


อาทิตย์เป็นบุคคลที่เต็มไปด้วยความย้อนแย้งอย่างถึงที่สุด เพราะแม้ว่าเขาจะมีรายได้สูงลิ่ว มีบัญชีเงินฝากที่งอกเงยจนแทบไม่ต้องมองตัวเลขเวลาใช้จ่าย แต่เขากลับเลือกใช้ชีวิตแบบกินง่ายอยู่ง่าย มื้อเที่ยงคืออาหารข้างทาง และแทบไม่เคยออกไปเดินห้างด้วยซ้ำ


ชีวิตเรียบง่ายของเขาถูกจัดระเบียบอย่างประหยัดและสมเหตุสมผล แม้จะอยู่คอนโดหรูเพื่อความสะดวกในการทำงานและการเดินทาง แต่เขาไม่เคยคิดจะซื้อบ้านหลังใหญ่โต แค่ห้องสี่เหลี่ยมที่สะอาดสะอ้านและมีพื้นที่สำหรับทำงานก็เพียงพอแล้ว


“ซื้อบ้านทำไม ต้องจ่ายค่าดูแล ค่าตกแต่ง เอาเงินไปลงทุนดีกว่า” นั่นคือคติประจำใจของเขา


แต่ชีวิตที่ลงตัวนี้มักถูกสั่นคลอนด้วยสายโทรศัพท์ที่โทรมาจากแดนใต้... บ้านเกิด


บ้านของอาทิตย์คืออาณาจักรสีเขียวขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นทุเรียนกว่าร้อยไร่ ครอบครัวของเขาเป็นชาวสวนผู้มั่งคั่งมาหลายรุ่น ทว่าอาทิตย์กลับเป็นแกะดำที่ไม่สนใจในกลิ่นหอมแรงของทุเรียน ไม่ชอบสัมผัสของดินโคลน และไม่ถนัดงานใช้แรงงานหนัก


ติ๊งต่อง!


เสียงแจ้งเตือนไลน์จากกลุ่มครอบครัวดังขึ้นอีกครั้ง รูปภาพที่ส่งมาคือทุเรียนผลใหญ่ที่เพิ่งเก็บเกี่ยว และข้อความจากบิดา:


พ่อ: "ไอ้ทิตย์! มึงกลับมาแลสวนได้แล้ว มึงจะไปทำดีไซน์บ้า ๆ บอ ๆ หวิบงานที่บ้านไปทำไส น้อง ๆ ก็ยังเด็ก มึงต้องมาเรียนรู้งานให้ทันฤดูหน้า แหลงรู้เรื่องม้าย!"


อาทิตย์ถอนหายใจยาวเหยียดขณะจ้องมองภาพสวนทุเรียนที่เหมือนถูกบังคับให้รับช่วงต่อ เขารู้ดีว่าสักวันหนึ่งเขาต้องกลับไป แต่มันยังไม่ใช่ตอนนี้ เขาไม่พร้อมที่จะทิ้งชีวิตอิสระในห้องสี่เหลี่ยมเพื่อไปจมอยู่กับกองดินและต้นไม้


เพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น ขณะที่อาทิตย์กำลังจดจ่อกับการทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ในความเงียบสงบของคอนโด เสียงเรียกเข้าของแอปพลิเคชันไลน์ดังขึ้นพร้อมชื่อที่ปรากฏหราบนจอ: "ไอ้แฝดนรก (ลม/ฟ้า) "


เขากดรับสายพร้อมกับถอนหายใจยาวเหยียด เพราะรู้ดีว่าปลายสายจะมาพร้อมกับความวุ่นวายและการเรียกร้องให้กลับบ้าน


“พรือ! มีไหรต้องแหลงหลาว โทรมาหาแต่กู ไม่ให้กูทำงานอยู่หวิบ!” อาทิตย์เปิดฉากบ่นทันที แต่น้ำเสียงไม่ได้จริงจังนัก


เสียงของสายลมดังเจื้อยแจ้วมาก่อนใครเพื่อน “โธ่ พี่ทิตย์! แหลงพันนี้! น้องหวังเหวิดพี่อยู่ น้องอยากให้พี่กลับมา แล้วหวางนี้พี่สบายดีม้าย กินข้าวกินปลาได้ไหม! ผอมหม้าย!”


“กูกินดีอยู่ดี ไม่ต้องหวังเหวิด ไม่ต้องมาแหลงถึง กูอยู่กรุงเทพฯ ไม่ใช่ไปออกรบ แล้วมึงสองคนล่ะ! ไม่ไปทำงานในสวนไส แล้วไซร้มาวุ่นวายกับกูอยู่” อาทิตย์สวนกลับอย่างรวดเร็ว


“เออ! ไอ้ลมแหลงถูก! พ่อกะบ่นถึงพี่อยู่คุมวัน ว่าพี่เป็นลูกชายคนโต ทำไสไม่กลับมาแลสวน มัวแต่ไปทำดีไซน์พันพรืออยู่ กลับมาที!” เสียงของสายฟ้าเข้ามาร่วมวงทันที ดูจริงจังกว่าน้องชายฝาแฝดเล็กน้อย


สายลมทำเสียงตัดพ้อกลับมาทันควัน “โถ่! ใครอี้มาแย่งงานดีไซเนอร์รวย ๆ ของพี่เล่า! น้องกะแค่อยากให้พี่กลับมา พี่ไม่หอนมีแฟน กลับมาให้น้องดูหน้ากวนใจเล่นบ้าง พี่ทิตย์ไม่ใจดีเลย กลับมาเลยเด้! ถ้าไม่กลับมาจะขึ้นไปตาม”


“เออ! เดี๋ยวกูจะกลับไปแลเอง! ไม่กี่วันนี้แหละ เลิกโทรมาตามได้แล้ว รกอก” อาทิตย์ตัดบทด้วยความหงุดหงิด (รำคาญ) เขาเริ่มคิดจริงจังแล้วว่าต้องกลับบ้านเพื่อให้น้อง ๆ เลิกวุ่นวายและเพื่อดูว่าพ่อมีปัญหาอะไรกับการรับช่วงต่อถึงขนาดต้องโทรมาตามทุกวัน


อาทิตย์กดวางสายไปทันที พลางมองหน้าจอที่ดับไปแล้วด้วยสายตาครุ่นคิด การตัดสินใจกลับบ้านที่ถูกเลื่อนมาตลอดเป็นสิบปี ดูเหมือนจะต้องเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้แล้ว






...


ห้องเรียนขนาดใหญ่ของคณะวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งภาคใต้คึกคักไปด้วยเสียงพูดคุยและกลิ่นน้ำมันเครื่องจาง ๆ ทว่าจุดที่ผู้คนให้ความสนใจมากที่สุดกลับเป็นโต๊ะมุมในสุด ที่ถูกล้อมรอบด้วยเศษชิ้นส่วนโลหะ และ เครื่องพิมพ์ 3D ขนาดเล็กสำหรับสร้างต้นแบบ ข้าวเม่า หรือ นายอัครา อนันตไพศาล กำลังก้มหน้าจดจ่ออยู่กับแบบจำลองกลไกที่ซับซ้อนอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง


ข้าวเม่าเป็นนักศึกษาปี 4 ที่โดดเด่นในสาขาอย่างแท้จริง เขาเป็นอัจฉริยะด้านการประดิษฐ์และปรับปรุงเครื่องจักรกล ไม่เพียงแต่เรียนเก่ง แต่ยังมีความบ้าคลั่งในการทดลองจนเพื่อน ๆ มักจะเรียกเขาว่า "แมงเม่า" เพราะความทุ่มเทจนไม่สนใจอันตรายของตัวเอง


ผิวคล้ำแดดของเขาไม่ได้มาจากงานสวน แต่มาจากการใช้เวลาอยู่กับงานช่างและกลางแจ้งเพื่อทดสอบเครื่องประดิษฐ์ของตัวเอง ซึ่งตอนนี้เขาก็กำลังวุ่นอยู่กับงานกลุ่มวิจัยก่อนจบที่ต้องทำร่วมกับเพื่อนสนิทอย่าง สายฟ้า และ สายลม


“ไอ้เม่า! แหลงอะไรมามั่ง! กูสองคนนั่งเบร่ออยู่เป็นชั่วโมงแล้วเด้” เสียงของสายลมดังขึ้นอย่างหงุดหงิด


“เออ! มัวแต่มาจิ้มไอต้นแบบบ้า ๆ บอ ๆ นี่อยู่ทำไส โปรเจกต์จบมันสำคัญกว่าอี้นายหัว!” สายฟ้าเสริมขึ้นอีกคน


ข้าวเม่าเงยหน้าขึ้นจากกลไกของเขา ดวงตาที่ดูจริงจังตลอดเวลาเหลือบมองเพื่อนฝาแฝดทั้งสอง “กูก็คิดอยู่หวิบ! ถ้าอาจารย์อนุมัติวิจัยเรื่องระบบเซ็นเซอร์ตรวจสอบคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง มันก็อาจจะทำได้เร็วกว่า ไม่ยุ่งยาก แล้วก็ใช้เงินน้อยกว่า” ข้าวเม่าแหลงเสียงเรียบ


สายลมรีบส่ายหน้าอย่างแรง “หม้าย! ไม่ได้! ของพันนั้นมันง่ายไป! ไม่น่าสนใจ! ต้องเอาแบบหวือหวา! ไอ้ระบบวัดผลผลิตทางการเกษตรที่มึงอยากทำนั่นแหละดีแล้ว!”


สายฟ้าแทรกขึ้นอย่างกระตือรือร้น “มึง! กูสองคนมีของดี! สวนทุเรียนร้อยไร่ของพ่อกูที่บ้าน! เอาไปใช้ทำโปรเจกต์ได้เลย! เราจะทำระบบน้ำหยดอัตโนมัติอัจฉริยะแบบที่มึงเคยเสนอไว้ มึงไม่ต้องเสียตังค์แม้แต่แดงเดียว เพราะพ่อกูออกให้เหม็ด แลว่ามึงจะเอาแบบไส!”


ข้าวเม่าถอนหายใจยาว พลางนวดขมับเบา ๆ เดิมทีเขาอยากทำโปรเจกต์วิจัยอื่นจริง ๆ แต่สองฝาแฝดนี้ก็เป็นเพื่อนที่แสนดีและมักจะคอยช่วยเหลือเขาเรื่องอื่น ๆ เสมอ ยิ่งไปกว่านั้น สวนทุเรียนขนาดร้อยไร่คือ ห้องทดลองขนาดใหญ่ ที่นักประดิษฐ์อย่างเขาไม่สามารถปฏิเสธได้


“โอเค กูตามน้ำมึง! แต่ถ้ากูจะเข้าไปเก็บข้อมูลจริงจัง อาจจะต้องค้างที่โน่นบ้าง มึงจะให้กูนอนในสวนหวา!” ข้าวเม่าถามพร้อมทำสีหน้าไม่ไว้ใจ


สายลมรีบยื่นหน้าเข้ามาใกล้ด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “โธ่! น้องบ่าว! พี่สองคนจะให้มึงนอนกลางดินกินกลางทรายได้ไส! ห้องพักในบ้านกูก็มี จะให้ทำแบบง่าย ๆ หรือจะให้ทำแบบแอร์เย็น ๆ มึงแหลงมา! กูจัดให้เหม็ด รวมถึงค่าเดินทาง ค่าอุปกรณ์ พวกกูจะรับผิดชอบให้เหม็ดเลย ขอแค่มึงทำโปรเจกต์ให้มันเสร็จ แล้วได้คะแนนดี ๆ”


ข้าวเม่ายอมจำนนให้กับความกระตือรือร้นและข้อเสนอที่เย้ายวนนี้ แม้จะรู้สึกว่าสองแฝดจะผลักดันเกินเบอร์ไปมาก แต่โอกาสทดลองระบบกับพื้นที่จริงขนาดใหญ่นั้นเป็นสิ่งที่เขาไม่อาจละเลยได้


“เออ แล้วจะเริ่มไส” ข้าวเม่าถามสั้น ๆ พลางเริ่มวาดโครงร่างของระบบลงในสมุดบันทึก


สายฟ้ากับสายลมยิ้มกว้าง มองหน้ากันอย่างพอใจ “ต่อโพรก! มึงไปกับกูเลย! เราจะได้ไปแลสถานที่จริงกัน!”


วันรุ่งขึ้นตามที่ได้นัดหมาย สายฟ้าและสายลมก็พานายอัครา (ข้าวเม่า) ตรงดิ่งมาที่สวนทุเรียนทันที


ณ เรือนใหญ่ใจกลางอาณาจักรสีเขียว ข้าวเม่า ถูกแนะนำให้รู้จักกับ พ่อและแม่ของสองแฝด อย่างเป็นทางการ พ่อมีใบหน้าบึ้งตึงเล็กน้อยตามแบบฉบับคนใต้ที่ทำงานหนัก แต่ก็เต็มไปด้วยความเมตตา ส่วนแม่ยิ้มแย้มต้อนรับอย่างอบอุ่น


“สวัสดีครับลุง สวัสดีครับป้า” ข้าวเม่าไหว้อย่างนอบน้อม


“เออ! ไอ้หนู! เพื่อนของสองตัวนี้เหอ เห็นลูกแหลงถึงอยู่ เข้ามากินน้ำกินท่าก่อนเด้” แม่ต้อนรับอย่างใจดี พลางตักขนมกวนให้ชิม


สายฟ้าและสายลมรีบอธิบายถึงวัตถุประสงค์ของข้าวเม่าทันที


“พ่อ! นี่แหละไอ้เม่า! มันเก่งหนัด! มันจะมาทำวิจัยระบบน้ำหยดอัตโนมัติที่สวนของเรา เป็นโปรเจกต์จบ แลว่าพ่อ! ให้มันใช้ที่สวนได้ม้าย” สายฟ้าเอ่ย


พ่อมองข้าวเม่าด้วยสายตาประเมิน ก่อนจะพยักหน้าเล็กน้อย “เออ ถ้าพันนั้นก็ดี! ร้อยไร่ของกู! กูอี้หาคนมาช่วยดูแล มาช่วยทำระบบ คนก็ยาก! ไอ้ทิตย์ ลูกชายคนโตก็ไม่ยอมกลับมาสักที มัวแต่ไปทำดีไซน์บ้าบอของมันอยู่!”


(คำแปล: เออ ถ้าแบบนั้นก็ดี! ร้อยไร่ของฉัน! ฉันจะหาคนมาช่วยดูแล มาช่วยทำระบบ คนก็หายาก! ไอ้ทิตย์ ลูกชายคนโตก็ไม่ยอมกลับมาสักที มัวแต่ไปทำดีไซน์บ้าบอของมันอยู่!)


พ่อหันไปพูดกับแม่เสียงดังพอให้ข้าวเม่าได้ยิน “แม่เหอ! ฝากแลไอ้หนูคนนี้ด้วย! พ่อว่าดี! เดี๋ยวพ่อจะให้นายหัว (คนงาน) ช่วยให้ข้อมูลมัน แล้วให้มันใช้บ้านเล็กที่ท้ายสวนไปเลย ถ้าอี้ค้างก็ไม่เป็นไรรร! ลูกชายคนโตไม่มา ก็ให้เจ้าหนูคนนี้แหละมาช่วยแลสวนแทน!”


แม่พยักหน้าเห็นด้วย “โอ๊ย! ไม่ต้องห่วงเด้! ป้าจะทำแกงส้มให้กินทุกวัน ไอ้หนู! อยากได้ไหรกะแหลงมาเลย ไม่ต้องเกรงใจ!”


ข้าวเม่ารับปากด้วยความซาบซึ้งใจ เขาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นราวกับเป็นลูกชายอีกคน และการอนุญาตให้เขาใช้พื้นที่ท้ายสวนเพื่อติดตั้งและทดลองระบบก็ทำให้เขามั่นใจว่าโปรเจกต์นี้จะสำเร็จตามเป้าหมาย


การมาของข้าวเม่าจึงเป็นที่รับรู้และถูกอนุญาตจากผู้ใหญ่ในบ้านอย่างเป็นทางการ ทว่ามีเพียง อาทิตย์ ลูกชายคนโตที่อยู่กรุงเทพฯ เท่านั้นที่ยังไม่รู้…






...


ในห้องพักคอนโดที่กรุงเทพฯ อาทิตย์กำลังยืนอยู่กลางกองเสื้อผ้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ถูกกองอยู่บนพื้น การจัดการกองสัมภาระเหล่านี้ก็สร้างความวุ่นวายและหงุดหงิดให้เขาไม่น้อย อาทิตย์ตัดสินใจบินกลับบ้านเกิดที่แดนใต้ เพราะขี้เกียจขับรถเองเป็นพันกิโลเมตร


Rrrrrr— เสียงวิดีโอคอลจากไลน์ดังขึ้นอีกครั้งอย่างไม่รู้จักจบสิ้น พร้อมชื่อ "ไอ้แฝดนรก (ลม/ฟ้า) " ที่กระพริบอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์


อาทิตย์ขยับปากบ่นอุบอิบก่อนจะกดรับสาย ใบหน้าของสองแฝดปรากฏขึ้นบนจอ พร้อมรอยยิ้มกวนประสาทตามแบบฉบับ


“พี่ทิตย์! ถึงไสแล้วนิ! น้องสองคนมารอรับพี่ที่สนามบิน ถ้าพี่หิ้วสาวสวยมาด้วยกะไม่แหลงไส!” สายลมแหลงแซวทันที


อาทิตย์ตวาดกลับไปทันควันด้วยความหงุดหงิดที่เขากำลังเร่งรีบ “หุบปากเลย! กูยังไม่ถึงสนามบินที! แล้วพวกมึงมารอไส! กูแหลงให้มึงมาตอนเครื่องลงแล้วม้าย! กูอี้หอบของพะลุงพะลังไปหามึงสองคนอยู่หวิบ!”


สายฟ้าหัวเราะเสียงดัง “โถ่! พวกเราก็แค่มาต้อนรับ! แล้วนี่! หอบไอเครื่องมือทำงานเยอะจัง! เอามาเหม็ดเลยเหอ! แหลงถึงรวยนะ แต่หอบงานไปทำต่อในสวน พักบ้างเถอะ พี่บ่าว!”


“มึงอย่ามาวุ่นวาย! รกอก กูวางสายแล้ว! กูอี้ไปสนามบินแล้ว ถ้ามึงวิดีโอคอลมาหลาว กูอี้ปิดเครื่องเด้!” อาทิตย์ตัดบทก่อนจะกดวางสายทันที เขามองนาฬิกาบนข้อมือแล้วสบถอย่างหัวเสีย






อาทิตย์มาถึงบ้านสวนในช่วงเย็นแล้ว แต่เพราะความเหนื่อยล้าจากการเดินทางและหงุดหงิดเรื่องการพลาดเที่ยวบิน เขาจึงปฏิเสธที่จะออกไปกินข้าวเย็นกับครอบครัว เขาขอเพียงแค่พักผ่อนและสำรวจสวนเป็นการส่วนตัวเพื่อจัดการความเครียด


ราวสี่ทุ่มกว่า ๆ ความมืดสนิทเข้าครอบคลุมสวนทุเรียนกว่าร้อยไร่ อาทิตย์หยิบไฟฉายและปืนลูกซองเฝ้าสวนที่เก็บไว้ในห้องเก็บของอย่างเป็นระเบียบติดมือออกมา เขาเดินลัดเลาะไปตามทางเดินแคบ ๆ ที่เต็มไปด้วยต้นทุเรียนเก่าแก่ ไม่ช้าก็ถึงบริเวณท้ายสวนที่ค่อนข้างเปลี่ยว


เขาเคยได้ยินแม่บ่นว่าช่วงนี้ทุเรียนเริ่มสุกและใกล้เก็บเกี่ยวแล้ว ความระแวงตามประสาคนรักความสะอาดและหวงทรัพย์สินจึงสูงเป็นพิเศษ


ขณะที่ไฟฉายส่องผ่านกลุ่มต้นทุเรียนลูกใหญ่ ดวงตาของอาทิตย์ก็จับจ้องเข้ากับเงาตะคุ่ม ๆ ของผู้บุกรุก เขามองเห็นคนตัวเล็กกว่ากำลังก้ม ๆ เงย ๆ อยู่ใกล้กับโคนต้นไม้ใหญ่ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือโลหะที่สะท้อนแสงไฟจาง ๆ


ขโมย!


สัญชาตญาณของการป้องกันทรัพย์สินแล่นเข้าสมองอย่างรวดเร็ว อาทิตย์ลดตัวลงเล็กน้อย เงื้อปืนลูกซองขึ้นมาเล็งอย่างใจเย็น เสียงหอบหายใจของเขาดังอยู่ในความเงียบงัน


ปัง!!!


เสียงปืนดังสนั่นในความมืดมิดของสวนทุเรียนยามค่ำคืน ทำให้ทุกชีวิตที่กำลังหลับใหลต้องสะดุ้งตื่น ข้าวเม่าสะดุ้งสุดตัว ทรุดลงนั่งกับพื้นดินเปียกชื้น ใจเต้นระรัวจนแทบทะลุออกมาจากอก ไม่เคยมีครั้งไหนที่เขาเข้ามาในสวนยามวิกาลแล้วต้องเผชิญกับเหตุการณ์ที่คุกคามชีวิตขนาดนี้


เมื่อเสียงปืนสงบลง สิ่งที่ปรากฏต่อหน้าข้าวเม่าคือชายร่างสูงโปร่งคนหนึ่ง เขายืนตระหง่านอยู่ไม่ไกล มือถือปืนยาวที่ยังคงมีควันจาง ๆ ลอยออกมาจากปากกระบอก


อาทิตย์ก้าวเท้าเข้าไปหาเหยื่อที่ล้มอยู่กับพื้นดินอย่างระมัดระวัง เขาตั้งใจที่จะ 'สั่งสอน' โจรขโมยทุเรียนให้หลาบจำ แต่เมื่อแสงไฟฉายสาดไปถึงใบหน้าของคนที่นอนอยู่ เขาก็ชะงัก


เด็กหนุ่มคนนั้น... ไม่เหมือนโจร ทั่วไป เขาอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงวอร์มลำลอง ผิวคล้ำแดดจากการทำงานกลางแจ้ง ใบหน้าได้รูปคมเข้ม และดูเป็น เด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับน้องชายฝาแฝด ดวงตาที่เบิกกว้างด้วยความตกใจนั้นดึงดูดสายตาของอาทิตย์อย่างประหลาด


ทันใดนั้น เสียงฝีเท้าที่เร่งรีบก็ดังมาจากบ้านหลังใหญ่ พร้อมกับเสียงตะโกนที่เต็มไปด้วยความตกใจ


"เกิดอะไรขึ้น!" เสียงของสายฟ้าดังขึ้นก่อน


"ไอ้เม่า! นั่นมันไอ้เม่า!" เป็นเสียงของสายลมที่ตื่นตระหนกกว่า


สายฟ้ากับสายลมรีบวิ่งมาหยุดอยู่ข้างตัวข้าวเม่า สายฟ้าแทรกตัวเข้าประคองเพื่อนสนิทให้ลุกขึ้นจากพื้นดินอย่างรวดเร็ว ข้าวเม่าตัวสั่นเทิ้มราวกับลูกนกที่เปียกปอน ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองคนที่ยืนอยู่เบื้องหน้า สายฟ้ากอดไหล่เพื่อนไว้แน่น พยายามปลอบโยน


ส่วนสายลมที่เห็นพี่ชายตัวเองยืนถือปืนอยู่ ก็รีบเอาตัวไปยืนขวางกั้นระหว่างพี่ชายกับเพื่อนรักทันที เขาเงยหน้าขึ้นมองพี่ชายฝาแฝดที่เพิ่งกลับมาบ้านด้วยความไม่เข้าใจ


"พี่ทิตย์! พี่จะทำไหรไอ้เม่า! พี่จะบ้ายหวา! ไอ้นี่เพื่อนลม! พี่จะยิงเพื่อนลมไส!" สายลมถามเสียงแข็ง ดวงตาเต็มไปด้วยความโกรธปนความกลัว


อาทิตย์ก็ถึงกับทำตัวไม่ถูก เขาค่อย ๆ ลดปืนลงช้า ๆ แต่ก็ยังไม่ปล่อยมือออก ความรู้สึกผิดเข้ามาแทนที่ความระแวงในทันที “กู...กูไม่รู้! กูกะคิดว่าเป็นโจร! ไอ้เม่าไหนกูกะไม่โร้จัก!”


สายลมยังคงไม่ไว้ใจ "โจรที่ไหนเขาถือโน้ตบุ๊กกับเครื่องวัดอะไรไม่รู้มาขโมยทุเรียนกันครับพี่! พี่มาถึงก็ลั่นปืนเลย! เพื่อนลมตกใจหวิดตายแล้ว!"


สายฟ้าที่ประคองข้าวเม่าอยู่ก็พูดเสริมขึ้นอย่างห้วน ๆ "พี่ทิตย์... แลหน้าเพื่อนผม หวาดอย่างแรกแล้วเด้"


อาทิตย์ยิ่งรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก เมื่อเห็นว่าข้าวเม่ายังคงก้มหน้าไม่ยอมมองเขาเลยแม้แต่น้อย ใบหน้าคมเข้มนั้นยังคงซีดเผือด และตัวที่สั่นอยู่ในการประคองของสายฟ้าก็ชัดเจนว่าเด็กคนนี้หวาดกลัวเขามากจริง ๆ


ไม่นานนัก พ่อและแม่ ของสองแฝดก็รีบรุดออกมาจากบ้านใหญ่ด้วยสีหน้าตื่นตระหนก พ่อถือตะเกียงเจ้าพายุมาด้วย


“ไอ้ทิตย์! มึงทำไหร่! นี่มันเสียงปืน! มึงลั่นปืนในสวนหวา! ไอ้บ้า!” พ่อตะคอกเสียงดังลั่นสวน จนอาทิตย์สะดุ้ง


แม่รีบเดินเข้าไปหาข้าวเม่าด้วยความเป็นห่วง “ตายแล้ว! ไอ้หนู! เป็นไรม้ายลูก! บาดเจ็บไสหวา! มาให้ป้าแลเด้!”


สถานการณ์ตึงเครียดจนน่าอึดอัด พ่อกวาดสายตาไปรอบ ๆ เห็นข้าวของของข้าวเม่ากระจัดกระจายอยู่บนพื้น ก็เข้าใจเรื่องราวได้ทันที ท่านหันไปสั่งเสียงเข้ม “ไป! มาแหลงกันในบ้านให้เหม็ด! มึงด้วยไอ้ทิตย์! เก็บปืนแล้วเดินตามมา!”


ข้าวเม่าถูกสองแฝดประคองกลับมาที่บ้านใหญ่ ข้าวเม่าได้แต่นั่งก้มหน้าตัวแข็งทื่ออยู่บนโซฟาไม้ในห้องโถง พ่อและแม่ยืนอยู่เบื้องหน้าด้วยสีหน้าไม่พอใจ ส่วนอาทิตย์ยืนทำสีหน้ากระอักกระอ่วนอยู่ด้านข้าง


สายลม ทนไม่ไหว พูดโพล่งออกมาก่อน “พี่ทิตย์ทำอะไรหม้ายเหตุผลเลย! เพื่อนลมมาช่วยงานสวน! พ่อก็อนุญาตแล้ว! พี่ไม่หอนโทรมาถามไส! มาถึงก็ยิงเลย ถ้าโดนเพื่อนลมขึ้นมาอี้ทำไส!”


“เออ! ไอ้ทิตย์! มึงหวิบมาด่าน้องอยู่! มึงแหลงมา! มึงทำไสพันนั้น!” พ่อหันไปตำหนิอาทิตย์บ้าง


อาทิตย์รู้สึกถูกรุมล้อมด้วยความไม่เป็นธรรม เขาพยายามควบคุมอารมณ์ “จะให้ผมทำไส! ด่าทิตย์อยู่ได้ ทิตย์ไม่ได้ตั้งใจ! ทิตย์เห็นเป็นเงาตะคุ่ม ๆ ในสวน! สวนเราก็มีแต่ของแพง! ทิตย์กะคิดว่าเป็นโจรเด้! แล้วก็ไม่มีใครเป็นไหรเลยสักหน่อย! จะรุมทิตย์อยู่หวิบ!”


พ่อจ้องหน้าอาทิตย์อย่างเขม็ง “ไอ้ทิตย์! มึงเพิ่งมาถึง! มึงไม่โร้จักไหร! เอาเป็นว่า! ไอ้หนูคนนี้ ชื่อข้าวเม่า! เพื่อนของไอ้ฟ้าไอ้ลมมัน มันมาช่วยทำโปรเจกต์ให้สวนเรา เออ! นี่แหละลูกชายคนโตของลุง ชื่ออาทิตย์ โร้จักกันไว้! แล้วทีนี้! มึงกะขอโทษน้องมันซะ! เดี๋ยวนี้เลย!”


อาทิตย์ถูกคำสั่งของพ่อตรึงไว้กับที่ เขาค่อย ๆ หันไปมองคนที่ถูกเรียกว่า ข้าวเม่า อีกครั้ง เด็กหนุ่มผิวคล้ำหน้าคมที่กำลังก้มหน้าซ่อนความหวาดกลัวอยู่ เมื่อถูกจ้อง ข้าวเม่าก็ยิ่งเกร็งจนแทบไม่กล้าหายใจ


“เออ... พี่ขอโทษ พี่ไม่โร้จักมึง พี่กะแค่ป้องกันสวน ขอโทษอย่างแรง” อาทิตย์พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่พยายามทำให้เป็นมิตรที่สุดเท่าที่จะทำได้ภายใต้สถานการณ์อันน่าอับอายนี้


ข้าวเม่ายังคงไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมามองคนที่เกือบจะพรากชีวิตเขาไปเมื่อไม่กี่นาทีก่อน เขากระซิบตอบกลับไปเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน “มะ...หม้ายเป็นไหรครับพี่”


คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +16 Zenny +300 ย่อ เหตุผล
ดอกม่วง + 16 + 300

ดูบันทึกคะแนน

🌸 一期一会 (いちごいちえ)

นายกสโมสร

กระทู้
0
ตอบกลับ
54027
พลังน้ำใจ
276068
Zenny
108402
ออนไลน์
21850 ชั่วโมง
โพสต์ 2025-10-20 15:59:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นายกสโมสร

กระทู้
28
ตอบกลับ
34219
พลังน้ำใจ
190754
Zenny
192707
ออนไลน์
31206 ชั่วโมง
โพสต์ 2025-10-20 16:41:20 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอขอบคุณ

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
0
ตอบกลับ
331
พลังน้ำใจ
3543
Zenny
2647
ออนไลน์
411 ชั่วโมง
โพสต์ 2025-10-22 15:02:08 | ดูโพสต์ทั้งหมด
คุณฟง มาต่อเรื่องใหม่อีกเรื่องแล้ว  เปิดตัวคู่พระนางครบแล้วหม้าย
รออ่านต่อ อย่างสนุกสนานเลยนะครับ
ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

กระทู้
0
ตอบกลับ
11536
พลังน้ำใจ
66992
Zenny
176
ออนไลน์
5887 ชั่วโมง
โพสต์ 2025-10-23 23:31:02 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

กระทู้
3
ตอบกลับ
10328
พลังน้ำใจ
52855
Zenny
24130
ออนไลน์
2932 ชั่วโมง
โพสต์ 2025-10-24 20:10:35 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2025-11-4 02:58 , Processed in 0.094500 second(s), 27 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2025 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้