แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย ninkung เมื่อ 2025-10-11 03:07

**ตอนที่ 1 ผู้มีพระคุณ?**
**ไดอารี่ของกัปตัน**
ผมชื่อ ‘กัปตัน’ อายุ 16 เรียนอยู่ม.4 แต่สิ่งที่ผมอยากมาเล่าให้พวกคุณได้อ่านไม่ใช่ตัวผมเองหรอก แต่มันคือคนๆหนึ่งที่ดูเด่นที่สุดในโรงเรียน มันคือ ‘ไอ้ก้าน’ เพื่อนร่วมห้องของผมเอง หมอนี่มันอายุ 17 มากกว่าผมไปปีหนึ่ง แต่เพราะมันเคยดรอบเรียนด้วยเรื่องส่วนตัว ทำให้มันต้องกลับมาเรียนม.4 ใหม่อีกครั้งด้วยออร่าความหล่อเหลาของมันที่ราวกับดารา แถมยังมีหุ่นที่ทั้งสูงและกล้ามแน่นแบบนักกีฬา ทำให้ช่วงแรกที่มาย้ายเข้ามาเรียนที่นี่ หลายคนก็ต่างพากันหลงใหลมันกันแต่ก็เพราะนิสัยความเป็นนักเลงของมัน ทำให้ไม่มีใครกล้าหือกับมันอีกเลย แถมในบางคนพอเกลียดนิสัยของมันก็พาลให้ไม่ชอบหน้ามันอีกด้วย ก็คงมีแค่ผมเท่านั้นแหละมั้งที่มองมันเป็นแค่ไอ้บื้อคนหนึ่ง
เรื่องราวที่ผมจะมาเล่าให้พวกคุณได้อ่านกันในไดอารี่เล่มนี้ คือเรื่องของผมกับมันโดยเริ่มจากจุดเริ่มต้นของความเป็นเพื่อนและผู้มีพระคุณ ที่คนอย่างมันไม่กล้าหือด้วยได้เริ่มต้นขึ้นนับจากตรงนี้ไป
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้
“เฮ้ยๆ อย่าให้มันหนีไปได้นะโว้ย” เสียงโหวกเหวกโวยวายของคนกลุ่มหนึ่ง ดังขึ้นมาจากในซอยหนึ่ง ผมที่กำลังกลับบ้านหลังจากเลิกเรียนพิเศษ มันอดสงสัยไม่ได้ผมเลยย่องไปดู ก็พบว่าเป็นไอ้ก้านนักเลงหัวโจกของโรงเรียนเพื่อนร่วมห้องของผม มันกำลังวิ่งหนีสุดชีวิตจากกลุ่มของนักเรียนอีกโรงเรียนที่วิ่งตามหลังมันมาพร้อมอาวุธในมือ
“หยุดนะโว้ย อย่าหนีนะมึง” เสียงของหนึ่งในนั้นพูดขึ้น ก่อนที่จะมีหนึ่งในนั้นปากระป๋องโค้กใส่หัวเกรียนๆของไอ้ก้านเต็มๆ ทำเอามันวิ่งเซไปนิดหน่อย
“ไอ้พวกเชี่ย” ไอ้ก้านหันไปด่าอีกฝ่ายก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาวิ่งต่อ เพื่อที่จะหนีพวกหมาหมู่นั่นให้พ้น
“หึที่แท้ก็ไอ้ก้านนี่เอง กรรมตามสนองแล้วสิ” ผมที่ยืนดูก็ได้แต่สมน้ำหน้ามันด้วยความสะใจ แต่แล้วความซวยก้ดันมาเยือนผมอีกคนจนได้ เพราะอยู่ๆก็มีสายเรียกเข้าดังขึ้น
“วี้หว่อ…วี้หว่อ…” เสียงริงโทนของมือถือผมนั่นเองที่ส่งเสียงดังลั่น ผมนี่ตกใจจนเกือบทำมือถือตกแล้วสิ ทว่าดูเหมือนว่าโชคร้ายที่ว่าจะยังไม่มาถึง
“เชี่ยแล้วไง พ่อมา” พวกมันคนหนึ่งพูดก่อนที่จะพากันวิ่งหนีหายไปในซอย เหลือเพียงแค่ไอ้ก้านที่ยืนหอบแฮ่กๆเหมือนหมา
“รอดแล้วกู ว่าแต่ตำรวจมาจริงดิ” ไอ้ก้านพูดสายตามองมายังทางผม
“เชี่ยๆๆ ขอล่ะอย่ามาลงที่กูอีกเลย” ผมนี่ได้แต่หลับตาภาวนา เพราะคิดว่าจะโดนไอ้ก้านมันเพ่นกระบานเข้าแน่ๆ เหมือนที่มันมักทำประจำกับผมมาตลอด ทว่าทุกอย่างกลับผิดคาดเมื่อมันเห็นว่าเจ้าของเสียงไซเรนตำรวจเมื่อกี้ก็คือผมเอง
“เฮ้ย!...ไอ้เหี้ยกัป โล่งอกสัดๆไอ้เหี้ย” ไอ้ก้านพูดด้วยความดีใจ มันรีบโผลเข้ามากอดผมที่ยังยืนงงอยู่
“อะไรของมึงเนี่ย มาไม้ไหนอีกวะ” ผมถาม
“ไม้เม้ยไรวะเพื่อนรัก กูแค่ดีใจที่ถึงกูจะเคยแกล้งมึงไป แต่มึงแม่งก็ยังมาช่วยกู มึงแม่งเพื่อนแท้ยิ่งกว่าไอ้สัตว์เจมส์ที่แม่งทิ้งกูไปตอนเจอพวกแม่ง” มันบ่น ก่อนจะยิ้มร่าใส่ผม ทำเอาขนลุกไปแว๊บหนึ่งเลยล่ะ
“อะไรของมึงเนี่ยกูขนลุกไปหมดละ” ปกติพอผมพูดแบบนี้ใส่ ถ้าเป็นมันคนเก่าก็คงได้ชกหน้าผมแน่ แต่มันในตอนนี้กลับทำหน้ายิ้มให้ผมเฉยๆ
“เอาน่าเพื่อน ก็มึงไม่ใช่หรอวะที่เปิดเสียงไซเรนตำรวจน่ะ พวกมันเลยวิ่งหนีไป” พอมันพูดมาแบบนี้ผมถึงได้เข้าใจ
“อ๋อเออ ใช่ๆก็มึงกำลังเดือดร้อนนี่หว่า” ผมแกล้งเออออตอบมันไป มันเองก็ยิ้มดีใจยิ่งกว่าเดิมไปอีก (อ่ะผมขอดักไว้ก่อนเลยนะว่า นี่ไม่ใช่ซีนบอกรักนะ)
“นี่แหละๆ เอาเป็นว่ากูขอสัญญาเลยนะโว้ย ว่าจากนี้ไปมึงคือเพื่อนรักของกูไม่ใช่เบ้กูอีกต่อไป” มันพูดเสร็จก็กอดผมอีกครั้ง
“มึงพูดจริงนะ” ผมถามย้ำ
“ก็จริงดิวะเพื่อนรัก ถ้าหมาตัวไหนมันกล้ารังแกมึง มันได้โดนหมัดกูแน่นอน” พูดเสร็จมันก็โบกมือลาก่อนจะวิ่งไปอีกทางทิ้งให้ผมยืนงงอยู่ตรงนั้นพักใหญ่ จนกระทั่งคนรถที่บ้านผมมาจอดรับผมถึงได้นั่งรถกลับบ้านไปพร้อมกับความสงสัยไม่หาย ไม่รู้ว่าเรื่องตรงหน้าเมื่อกี้มันคือความจริง หรือแค่มันหลอกจะหาเรื่องมาแกล้งผมอีกมั้ยนะ
เช้าวันต่อมาในตอนที่ผมไปโรงเรียน ผมก็พบว่าไอ้ก้านมันมานั่งรอผมอยู่ที่หน้าโรงเรียนอยู่ก่อนแล้วบนมอเตอร์ไซค์สุดเท่ของมัน
“ไงเพื่อน” มันเป็นคนที่เอ่ยปากทักผมก่อน พร้อมรอยยิ้มที่จริงใจ แต่ก็ทำผมแอบสยองอยู่นิดหน่อยด้วยว่ารอยยิ้มแบบนี้ของมันมักนำพามาด้วยเรื่องเสียเงินตลอด
“ไงมึง แล้วนี่พวกเพื่อนมึงล่ะ” ผมตอบกลับ ก่อนจะยิงคำถามกลับไป
“พวกมันเข้าไปก่อนแล้ว กูแค่รอจะเจอมึงก่อนไง เดี๋ยวจะหาว่ากูไม่เท่าเทียม” มันตอบ
“เอ้อ…เรื่องเมื่อคืนกูขอบใจมึงอีกครั้งนะ ถ้ามีไรให้กูช่วยบอกได้ กูยินดีเลยจะได้เป็นการตอบแทนที่มึงช่วยกูไว้เมื่อคืนน่ะ” มันร่ายยาวถึงเรื่องเมื่อคืน แล้วจบท้ายที่ว่าจะตอบแทนผม ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ผมพูดออกไปแบบนี้
“ถ้ามึงอยากตอบแทนกูจริงๆ มึงช่วยถอดเสื้อออกได้ปะ” พอได้ยินประโยคนี้ไปสีหน้าของมันก็เปลี่ยนทันที
“อะไรของมึงเนี่ย” มันถาม
“ก็เอ้าไหนมึงบอกว่าจะตอบแทนกูไง แค่ให้มึงลองถอดเสื้อแค่นี้มึงยังทำไม่ได้เลย” ผมแกล้งพูดทำหน้าจ๋อยๆใส่มันไป สีหน้าของไอ้ก้านก็เริ่มอ่อนลง
“โห่…ก็มึงเล่นพูดมาแบบนั้นกูก็งงดิ แล้วทำไมต้องให้กูถอดด้วยวะ”
“ก็เมื่อคืนมึงเพิ่งโดนพวกนั้นมันไล่ฟาดมาไม่ใช่ไง กูเลยจะดูหน่อยว่าคนถึกอย่างมึงจะมีรอยฟกช้ำมั้ย” ผมตอบออกไป แม้จะปั้นสีหน้าให้ดูนิ่งแต่ในใจผมตอนนี้ หัวใจกลับเต้นโครมครามอยู่แทบตลอด
“เอ่อๆก็ได้วะ” แล้วมันก็ยอมถอดเสื้อออก โชว์ให้ผมได้เห็นร่างกายของมัน ที่ทั้งขาวล่ำและหน้าท้องชัดเป็นลอน แม้ว่าโดยปกติไอ้หมอนี่มันก็ชอบถอดเสื้อโชว์สาวๆอยู่ลอดตอนเตะบอลก็เหอะ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ผมดันมาเห็นมันต่อหน้าแบบใกล้มาก
“เป็นไงวะ” มันเอ่ยถามทำให้ผมได้สติอีกครั้ง
“ก็อืมไม่มีรอยอะไรเลยแหะ” ผมตอบกลับ แล้วมองดูรูปร่างมันอีกครั้ง ในขณะที่มันสวมเสื้อแล้วติดกระดุมกลับไป จะว่าไปมันก็ดูว่าง่ายจนน่าตกใจเหมือนกันนะเนี่ย แต่มันจะเข้าขั้นซื่อบื้อมั้ยคงต้องลองทดสอบดูอีกหน่อยละกัน หลังจากนั้นเราก็พากันเดินเข้าโรงเรียนจนถึงช่วงเข้าแถวเรียบร้อยซึ่งในช่วงนี้ยังไม่มีเรื่องอะไรมากมายนัก กระทั่งในตอนที่ต้องแยกย้ายกันไปเข้าห้องเรียนเพื่อนที่จะเรียนคาบแรก ในตอนนั้นไอ้ก้านก็ยังคงทำสันดานเดิมของมัน แต่ครั้งนี้มันดันต่างออกไปตรงที่
“เฮ้ยไอ้กัปตัน ไปห้องน้ำเป็นเพื่อนกูหน่อยได้ปะ กูไม่ค่อยไว้ใจใครแล้วว่ะ” มันพูดจบก็คว้าแขนผมให้เดินเข้าห้องน้ำไปกับมัน เพื่อที่มันจะแอบไปนั่งสูบบุหรี่ในห้องส้วมเหมือนทุกที
“กูขอยืนรอตรงนี้ละกัน กูแพ้กลิ่นบุหรี่ว่ะ” ผมบอกมันไปมันก็พยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะเดินเข้าไปในส้วมด้านในสุด ไม่นานควันสีเทาก็ลอยออกมาจากในห้องส้วม ผมจำต้องมายืนแอบๆไม่ให้ครูจับได้อยู่พักหนึ่งก่อนที่มันจะเดินกลับออกมาพร้อมกับเคี้ยวหมากฝรั่ง แต่กลับไม่ได้กลิ่นบุหรี่จากตัวของมันเลย มีแค่กลิ่นหมากฝรั่งกับกลิ่นน้ำหอมอ่อนๆเท่านั้นเลย
“นี่มึงเข้าไปทำอะไรกันแน่วะ” ผมร้องถาม
“ก็ไปสูบบุหรี่ดิวะถามแปลกๆนะมึง” แล้วมันก็เดินไปที่โถฉี่ ผมเลยต้องเดินตามไปหามัน
“แล้วไหงกูถึงไม่ได้กลิ่นวะ”
“ก็เพราะว่ากูถอดเสื้อผ้าไว้อีกห้อง แล้วเดินเข้าไปสูบบุหรี่ห้องในสุดไง พอเสร็จกูก็แค่เอาผ้าเปียกมาเช็ดตามตัวฉีดน้ำหอม แล้วก็ใส่เสื้อผ้าเดินออกมานี่แหละ” มันตอบออกมาหน้าตาเฉย ราวกับว่าที่มันทำอยู่คือเรื่องปกติของมัน
“แล้วนี่มึงทำตอนสูบกับเพื่อนมึงด้วยปะ”
“ไม่ว่ะ แต่ที่ครั้งนี้กูทำได้ เพราะมึงยืนรอข้างนอกไง” ผมเลยเข้าใจมากขึ้น ก่อนที่ทั้งผมและไอ้ก้านจะต่างควักควยกันออกมาฉี่ ในตอนนั้นเองสายตาผมดันเหลือบไปเห็นควยไอ้ก้านเข้าตอนจังหวะที่มันกำลังเก็บควยเข้าที่
‘เชี่ย!...ควยไอ้ก้านแม่งใหญ่ว่ะ แต่ทำไมหนังหุ้มมันเยอะจังวะ อย่างกับยังไม่ถอกเลย’ ผมได้แค่คิดอยู่ในใจเท่านั้นแต่ยังไม่กล้าพอที่จะถามมัน แล้วพวกเราก็รีบกลับขึ้นห้องเรียน โชคก็ยังคงเข้าข้างผมเมื่อครูยังไม่มาเข้าสอนผมกับไอ้ก้านเลยรอดตัวกันไป
ในช่วงพักเที่ยงในเวลาต่อมา ขณะที่ผมกับมันกำลังเดินไปที่โรงอาหารจู่ๆก็มีรุ่นน้องคนหนึ่งที่เดินไม่ดูทางแถมในมือยังถือแก้วน้ำแดงมาอีก ชนเข้ากับไอ้ก้านเต็มๆทำให้ทั้งเสื้อและกางเกงของมันเลอะน้ำแดงเข้า
“โห่ไอ้เชี่ย! นี่มึงเดินไม่มองทางเลยรึไงวะ แม่งเลอะกูหมดแล้วเนี่ย” มันโวยวายยกใหญ่ทำท่าว่าจะชกหน้าอีกฝ่ายด้วยความโมโห
“ผมขอโทษครับพี่ ไม่ได้ตั้งใจเลย” อีกฝ่ายรีบยกมือไหว้ประหลกๆด้วยความตกใจกลัว ผมเลยต้องช่วยห้ามทัพ
“เห้ยๆ น้องมันก็ขอโทษแล้วนี่ไง มึงก็ใจเย็นดิวะ ไปๆรีบไปล้างตัวมึงเหอะก่อนที่จะซักไม่ออก” ผมบอกก่อนจะกึ่งลากพาให้มันเดินออกมาจนพ้นโรงอาหาร
“ไอ้ห่า เดินไม่ดูตาม้าตาเรือเลยแม่ง ถ้ามึงไม่ห้ามกูคงได้ซัดหน้าแม่งละ” พวกเราพากันเดินมาจนถึงห้องน้ำ ผมกับมันตรงไปยังอ้างล้างหน้าและนั่นเป็นอีกครั้ง ที่ผมได้เห็นมันถอดเสื้อโชว์กล้ามแบบใกล้ชิดมันพยายามขยี้ซักเสื้อนักเรียนอยู่ครู่หนึ่งจนสีแดงจางๆที่เลอะเสื้อได้จางหายไปแล้ว
“เห้อค่อยยังชั่วหว่ะ” มันพูดในขณะที่เดินออกไปยืนสะบัดเสื้อที่เปียก
“ใจคอมึงจะเดินกลับไปแดกข้าว แล้วเข้าเรียนด้วยสภาพนั้นจริงดิ ไม่เหนียวไข่มึงแย่เลยหรอวะ” ผมแกล้งถามมันออกไป
“เอ้อหว่ะ แต่ถ้ากูซักแล้วกูจะใส่อะไรวะ” ถึงตอนนั้นผมเลยเดาออกได้ว่า มันแม่งซื่อบื้อจริงๆแถมยังน่าจะช่วยให้ผมได้แก้แค้นแม่งให้สาสม
“เอางี้เดี๋ยวมึงรีบถอดออกมาซักเหอะว่ะ แล้วค่อยเข้าไปซ่อนตัวในห้องน้ำแล้วกูจะไปหายืมเสื้อผ้าของครูฝ่ายปกครองมาให้” ผมบอกออกไป มันเองก็ทำท่าคิดหนักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้ารับคำผม แล้วเริ่มทำในสิ่งที่ผมรอคอย นั่นคือมันถอดเอากางเกงนักเรียนออกมาดึงเข็มขัดแล้วยื่นส่งมาให้ผม ก่อนจะยืนซักกางเกงในสภาพที่มันใส่แค่กางเกงในสีขาวตัวเดียวต่อหน้าผม
‘มันถอดจริงด้วยว่ะ แม่งบื้อฉิบหาย’ ผมยืนมองดูรูปร่างที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของมัน กับเป้าตุงๆนั่นอยู่พักหนึ่งจนเห็นว่า กางเกงในของมันเองก็เปื้อนด้วยนี่หว่า ผมถึงกับหุบยิ้มแทบไม่ได้เพราะถ้ามันยอมถอดจริงต่อหน้าผมก็คงดีไม่น้อย
“เออมึงกางเกงในมึงก็เลอะว่ะ แถมยังสีขาวด้วย” ผมว่างแล้วชี้นิ้วไปที่ขอบกางเกงในมัน
“เออว่ะไอ้เชี่ยนั่นแม่งต้องชดใช้” มันพูดด้วยความหัวเสีย ก่อนที่จะเดินเข้าไปด้านในแล้วยืนสะบัดกางเกงนักเรียนของมันเพื่อไล่น้ำให้ออกมากที่สุด แล้วเดินกลับมาที่เดิมทำท่าจะถอดเอากางเกงในออกโดยที่ยังมีผมยืนอยู่
“นี่มึงจะถอดเลยหรอวะ ไหนปกติมึงไม่ทำต่อหน้าคนอื่นนิ” ผมแกล้งเอ่ยปากถามออกไป
“เออว่ะ งั้นมึงหันหลังไปก่อนดิ” มันสั่งผมเลยจำต้องยอมหันหลังให้ สักพักผมได้ยืนเสียงเปิดก๊อกน้ำอีกครั้งเลยลองเหลือบไปมองๆดู ก็เห็นว่ามันถอดออกจริงด้วยกำลังยืนซักกางเกงในในสภาพล่อนจ้อนควยห้อยโทงเทง ผมเลยต้องรีบหันหนีเพราะเกรงว่าจะได้โดนตีนของมันเข้าแน่ เวลาผ่านไปอีกนิดหน่อยมันก็ซักเสร็จแล้วเรียกผม
“เออไอ้กัป” แล้วผมก็ดันหันไปตอบรับมันเพราะลืมตัว จนได้เห็นมันยืนหันหน้ามาทางผมอวดทั้งตัวของมันให้ผมเห็นเต็มสองตาว่าควยของมันยาวแค่ไหนแม้จะหดอยู่ก็ตาม
“ไอ้ห่าหันมาทำไมวะ แต่เอาเหอะไหนๆมึงก็เห็นละแต่อย่าเอาไปพูดที่ไหนนะมึง” ในตอนนั้นผมนี่โล่งใจสุดๆเลยที่ไม่โดนมันต่อยหน้า แถมมันยังยืนแอ่นเหมือนจะอวดผมอย่างไม่มียางอายเลยแหะ
“มึงช่วยเอาไปตากให้กูทีดิ แล้วอย่าลืมเอาเสื้อผ้ามาให้กูด้วยนะ เดี๋ยวกูรีบไปซ่อนตัวแปบ” แล้วมันก็รีบเดินเข้าไปซ่อนตัวในห้องน้ำอย่างไว ทิ้งให้ผมต้องหอบเอาเสื้อผ้าของมันออกไปวางตากที่ราวตาก ที่ปกติเอาไว้ตากพวกผ้าขี้ริ้วสำหรับเช็ดถูห้องเรียนอยู่แล้วนั่นเอง แล้วผมก็รีบบึ่งไปยังห้องฝ่ายปกครองเพื่อที่จะขอยืมเสื้อผ้าชุดหนึ่งมาให้มัน โดยที่ผมบอกครูฝ่ายปกครองไปว่าไอ้ก้านมันโดนรุ่นน้องทำน้ำหวานหกใส่จนเลอะไปทั้งตัวเลยต้องถอดซัก โชคดีที่ในห้องนั้นพอจะมีเสื้อผ้าที่พอดีตัวมันด้วย
“เห้อสุดท้ายกูก็ยังคงเหมือนเป็นเบ๊มึงอยู่ดีเลยแหะ แต่ก็เอาเหอะอย่างน้อยๆกูก็ได้เห็นควยมันแหละนะ” ผมบ่นเบาๆกับตัวเองในขณะที่เดินกลับมาที่ห้องน้ำ พอผมเปิดประตูห้องส้วมที่มันอยู่ทั้งผมและมันต่างก็พากันตกใจยกใหญ่
“เฮ้ย!..แม่งมาไม่บอกกันวะ” มันร้องโวยในขณะที่สองมือพยายามปิดลำควยแข็งโด่ของมัน
“เชี่ย!..นี่มึงมายืนว่าวรอเนี่ยนะ” ผมเองก็ตกใจไม่น้อยไปกว่ามัน เพราะดันเป็นอย่างที่เดาไว้เมื่อเช้าว่าควยของมันในตอนที่แม้จะแข็งตัวสุดๆอย่างตอนนี้ มันก็ยังคงไม่ถอกหนังหุ้มปิดหัวควยอย่างกับของเด็กน้อย จะต่างก็แค่ว่ามันมีดงหมอยที่ขึ้นปกคลุมกับเรื่องขนาดของมันที่ในตอนนี้แข็งโด่ราว 8 นิ้วกว่าๆเลยมั้งนะ ด้วยความกลัวจะโดนมันต่อยก็เลยรีบยื่นเสื้อผ้าให้มัน แล้วรีบปิดประตูให้ก่อนจะเดินกลับออกไปยืนรอมันซึ่งมันเองก็ไม่รอช้ารีบสวมเสื้อผ้าแล้วเดินเป้าตุงออกมาหาผม ท่าทางของมันในตอนนี้ทำผมแอบขนลุกไม่น้อย เพราะมันเล่นเดินทำหน้าหงุดหงิดมาทางผม
“มึงแม่ง” มันบ่นใส่ผมท่าทางไม่ค่อยจะพอใจเท่าไหร่
“กูขอโทษ ก็ใครมันจะไปรู้วะว่ามึงจะว่าว” ผมรีบขอโทษมันทันที ดูเหมือนว่ามันจะทำได้แค่บ่นผมต่ออีกหน่อย
“เห้อมึงแม่งเห็นควยกูจนได้ นี่ถ้าไม่ใช่เพราะมึงเคยช่วยกูนะ กูคงได้ชกหน้ามึงไปแล้ว” มันพูดเสร็จก็เดินนำผมออกไปจาห้องน้ำ
“ว่าแต่นึกไงมึงถึงได้ว่าวเนี่ย” ผมลองถามมันดูในขณะที่เดินตามหลังมันแบบห่างๆ ด้วยความที่ยังไม่แน่ใจว่ามันจะหันมาชกผมมั้ย
“มึงนี่แม่งวอนหาเรื่องจังนะ แต่เอาเหอะเห็นแก่ที่มึงช่วยกูไว้นะ” พอเห็นมันหันมาตอบด้วยท่าทางหงุดหงิดผมเลยไม่กล้าเซ้าซี้มันต่อแล้วพากันเดินไปหาซื้ออะไรกิน ซึ่งทุกคนที่ได้เห็นชุดของมันที่เป็นชุดพละก็พากันมองงงๆ บ้างก็มีหัวเราะกันบ้างจนโดนมันตะโกนด่าไปทีทุกคนถึงไม่กล้าหัวเราะมันต่อ
ในตอนช่วงบ่ายหลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ ซึ่งปกติผมจะนั่งคู่กับเพื่อนอีกคนมาตลอดแม้แต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาก็ด้วย ทว่าในตอนที่เดินเข้ามาในห้องหลังจากที่ผมกับเพื่อนนั่งลงที่โต๊ะเสร็จ ไอ้นักเลงกล้ามโตก็เดินเข้ามาแล้วไล่เพื่อนผมให้ลุกไป
“เฮ้ย! มึงหลบไปดิ๊ไอ้เชี่ยแม็ค กูจะนั่งตรงนี้ว่ะ” มันไม่เพียงแค่สั่งเฉยๆเท่านั้น แต่ยังทำสันดานนักเลงด้วยการดึงคอเสื้อแม็คให้ลุกขึ้น ทำให้แม็คมองมันด้วยความไม่พอใจ รวมถึงผมด้วยแต่ก็ต้องทำเงียบเอาไว้ก่อน พอที่นั่งว่างแล้วไอ้เวรนี่ก็ลงมานั่งข้างผมทันที แล้วเผยรอยยิ้มที่ชวนให้ผมเริ่มจะหวั่นๆขึ้นมาว่ามันจะมาไม้ไหนอีกเนี่ย
“ไงมึง เรื่องเมื่อตอนนั้นกูขอโทษนะโว้ย ก็แม่งอยู่ๆก็โดนมึงมาเจอเข้า กูเลยหงุดหงิดไปหน่อยน่ะ อย่าถือสากันนะ” มันกระซิบคุยกับผม พร้อมกับขอโทษเรื่องตอนเที่ยงด้วย
“อืม…แล้วมึงจะตอบกูได้ยังว่าทำไม” ผมตอบรับคำขอโทษ แล้วลองถามกลับอีกครั้ง
“ก็กูไม่ได้ว่าวมาหลายวันนี่หว่า แถมช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ต้องเก็บตัวฝึกซ้อม เลยแทบไม่ได้เอาออกเลย กูนึกว่ามันจะไปนานกว่านี้ก็…แหะๆ” มันตอบแล้วหัวเราะกลบความอาย
“มึงก็เลยกะจะชักว่าวตอนนั้นสินะ” มันพยักหน้ารับ
“เดี๋ยวตอนเลิกเรียนมึงก็กลับไปว่าวให้แตกดิวะ” แต่อยู่ๆความคิดชั่วช้าก็ผุดขึ้นมาในหัวผมสะงั้น
“หรือว่ามึงจะอยากลองอะไรใหม่ๆเสียวๆปะ” ผมลองเริ่มด้วยคำถามนี้ไปที่มัน คราวนี้จากที่ตาของมันมองกระดานดำหน้าห้องก็เปลี่ยนเป็นหันมามองผม
“มึงหมายความว่าไงวะ”
“เอาเป็นว่า ตอนเย็นหลังเลิกเรียนกูจะรออยู่ที่ห้องนี้แหละ ถ้าอยากรู้ก็มาเจอกันที่นี่แหละ” ผมบอกมันออกไป ก่อนที่จะสนใจการเรียนจนหมดคาบแรกในช่วงบ่าย จากนั้นก็ถึงคาบต่อไปและจบท้ายที่วิชาศิลปะที่ต้องย้ายลงไปห้องศิลปะอีกตึกหนึ่ง ผมกับมันเลยถือโอกาสแวะไปดูเสื้อผ้าของมันที่ตากเอาไว้ จนพบว่าเสื้อผ้าที่ตากเอาไว้เริ่มจะแห้งแล้วแต่ก็ยังชื้นๆบ้างเล็กน้อย ทว่าโชคร้ายไปหน่อยตรงที่กางเกงในของมันดันหายไปอย่างไร้ร่องรอย คงต้องมีใครมาขโมยไปแน่นอนแหละ
“แม่งเอ้ย” มันสบถนิดหน่อยก่อนจะรีบใส่ชุดนักเรียนอีกครั้ง แล้วพวกเราถึงได้พากันไปเรียนวิชาสุดท้ายต่อ
หลังหมดเวลาผมกับมันต่างก็แยกกัน เพราะไอ้ก้านมันยังต้องแวะไปซ้อมบอลก่อนนั่นเอง ส่วนผมก็ขึ้นมารอมันที่ห้องเรียนเดิมกระทั่งเวลาผ่านพ้นไปอีกพักใหญ่ ผมถึงได้เห็นว่าไอ้ก้านมันมาหยุดยืนอยู่หน้าห้องด้วยสภาพเหนื่อยหอบ เสื้อนักเรียนถูกปลดกระดุมออกทุกเม็ดเผยให้เห็นว่าทั้งใบหน้าหล่อๆของมันและมัดกล้ามขาวๆเต็มไปด้วยเหงื่อกายที่ชโลมจนเงาวับไปหมด
“มาแล้วสิมึง กูก็นึกว่ามึงจะไม่มาแล้ว” ผมเอ่ยทักมัน
“ก็ต้องมาดิวะ กูอยากรู้นี่หว่าว่าที่มึงพูดเมื่อกลางวันคืออะไร” พูดเสร็จมันก็เดินเข้ามานั่งลงบนโต๊ะครู
“ที่ผ่านมาตอนมึงชักว่าว มึงทำไงวะลองทำให้กูดูได้ปะ เผื่อว่ากูจะช่วยดูให้ว่าควรทำแบบไหนดี” ผมลองหยังเชิงถามมันดู แต่มันกลับทำหน้างงๆ
“อะไรของมึงเนี่ยอยู่ๆมาขอให้กูทำให้ดู”
“ก็เพราะกูสงสัยไง ก็เมื่อตอนกลางวันที่กูเห็นควยมึงน่ะ มันดูเท่ไม่เหมือนใครน่ะจนอดคิดไม่ได้ว่าควยแบบนี้เวลาชักว่าวมันต้องทำไงวะ” ผมลองแกล้งชมมัน
“หืม…มึงบอกว่าควยกูเท่ไม่เหมือนใครหรอวะ?” มันถามย้ำสีหน้าแววตาบ่งบอกได้ถึงความปลื้มใจ
“ก็ใช่ดิวะ ถึงได้อยากให้มึงชักให้กูดูหน่อยว่า ควยแบบนี้มันชักยังไงวะ” ผมแกล้งชมเพิ่มไปอีก ทำให้มันยิ้มร่าออกมา
“ถ้าเพื่อนอยากดูกูจัดให้ก็ได้วะ” ใบหน้าขาวๆของมันเริ่มแดงขึ้นมานิดหน่อย ไม่รู้ว่าเพราะความอายหรือเขินที่โดนผมชมไปกันแน่ สุดท้ายมันก็ยอมทำในสิ่งที่ชวนอึ้งไม่น้อย เพราะทันทีที่พูดจบมันก็ลุกมายืนตรงหน้าผม แล้วถอดเอากางเกงนักเรียนออกแถมยังโยนไปหลังห้องอีก โชว์ให้ผมได้เห็นควยห้อยๆในดงหมอยของมันอีกครั้ง ผมถึงได้สังเกตว่าควยของมันมีหนังหุ้มปิดเอาไว้อย่างชัดเจนเต็มสองตาอีกครั้ง
“ให้กูเริ่มเลยมั้ยวะ” มันถาม ผมเลยพยักหน้าบอกมันไป แล้วจากนั้นมันถึงได้เอามือขวามากำรอบควยของมันชักชึ้นลงช้าๆ ก่อนจะค่อยๆเร่งความเร็วขึ้นท่อนควยของมันค่อยๆขยายในมือของมัน อวดลำควยที่อวบใหญ่จนแม้แต่มือมันเองยังแทบจะกำไม่รอบ เส้นเลือดขึ้นชัดเหมือรรากไม้ทว่าแม้จะแข็งเต็มที่และโดนมือเจ้าของรัวชักอยู่ หนังหุ้มก็กลับไม่ร่นลงเลยมันยังคงหุ้มปิดสนิทอยู่อย่างนั้น
“อ๊า…อ๊า…” เสียงครางต่ำเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ
“พอก่อนเพื่อน เดี๋ยวมึงได้แตกก่อนที่กูจะบอกเคล็ดลับแน่เลยว่ะ” พอเห็นว่ามันเริ่มเครื่องติดผมเลยรีบเบรกมันก่อนที่จะเลยเถิดไปไกลกว่านี้
“เชี่ยแม่ง…อ่าแล้วทำไงต่อล่ะวะ” มันถาม แล้วยืนแอ่นอวดควยโด่ๆที่เริ่มกระตุกจากความเสียวให้ผมได้ดู
“ให้กูลองช่วยชักให้มึงปะ” ผมถาม
“ห๊ะ!...มึงพูดไรวะ…จะช่วยชักให้กูเนี่ยนะ” คราวนี้สีหน้าของมันเริ่มเปลี่ยนไปความงุนงงแทนที่ ควยของมันค่อยๆหดลงทีละนิด
“ก็เออดิวะ” ผมตอบ
“หึๆ มึงเนี่ยไม่รู้อะไรซะแล้วไอ้ก้าน การที่โดนคนอื่นมาชักควยให้เนี่ย มันเสียวยิ่งกว่าชักเองอีกนะมึงกูน่ะเคยโดนมาแล้วโว้ย” ผมรีบชิงพูดต่อ พร้อมกับโกหกมันเพื่อให้คนซื่อแบบมันเชื่อมากขึ้น คราวนี้ใบหน้าของมันกลับมาตื่นเต้นอีกครั้ง
“มึงพูดจริงปะ” มันเอ่ยถาม ผมเลยพยักหน้าตอบมันกลับไป แล้วแกล้งทำท่าชักให้มันดู
“ไม่ลองไม่รู้นะโว้ย ไม่แน่มึงอาจจะเสียวมากกว่าชักเองก็ได้นะ” ผมพูดกระตุ้นต่อมอยากรู้ของมันต่อ ได้ผลแหะเพราะคราวนี้ควยของมันค่อยๆกลับมาผงาดอีกครั้ง แล้วมันก็เดินเข้ามาใกล้ผมแอ่นควยไม่ถอกนั่นมาใกล้มาขึ้นไปอีก
“เอาดิวะมาลองดูกัน ว่ามันจะจริงอย่างที่มึงว่ามั้ย” พอไอ้ก้านอนุญาตแล้ว ผมก็เริ่มจากลองเอื้อมมือไปคว้าควยของมันที่แข็งเหมือนหิน แล้วลองจับมันถอกดูช้าๆ
“อ๊ะ..โอ๊ยไอ้เหี้ยกูเจ็บ…ทำอะไรของมึงเนี่ย” มันโอดร้องขึ้นมาในตอนที่โดนผมจับถอกหนังหุ้มปลายลงจนพอเห็นหัวควยสีชมพูของมัน ผมเลยต้องรีบขอโทษมันไปก่อนจะโดนมันซัดหน้า
“กูขอโทษนะ พอดีกูแค่สงสัยว่ามันถอกลงได้แค่ไหนน่ะ” โชคดีไปที่มันไม่ได้ว่าอะไรผมต่อ แถมยังคงแอ่นควยให้ผมจับชักต่อ คราวนี้ผมเริ่มจากกำควยของมันด้วยมือขวาแล้วค่อยๆรูดขึ้นลงช้าๆโดยที่ผมเลียนแบบมาจากมัน ก่อนจะเพิ่มความเร็วขึ้นอีกแล้วเอามืออีกข้างเอื้อมขึ้นไปสะกิดหัวนมสีชมพูของมัน
“อ๊ะ!...เชี่ยกูตกใจหมด” มันสะดุ้งเดินถอยหลังไปก้าวหนึ่งด้วยความตกใจนิดหน่อย แต่พอผมสะกิดหัวนมของมันอีกครั้งไปพร้อมกับชักควยมันด้วยน้ำหนักมือที่ไม่รูดแรงเกินไปและไม่เบาจนเกินไป ไอ้ก้านก็เริ่มครางอีกครั้ง
“อ๊า…อ๊า…เชี่ยแม่งเสียวจริงว่ะ…อ๊า” จากนั้นมันก็เริ่มเด้าเอวใส่มือของผมพร้อมกับแหงนหน้ามองเพดานโดยที่มันไม่หลงเหลือความอายอีกต่อไป
“เชี่ยแม่งเสียวเหี้ยๆ” มันสบถออกมาในขณะที่แอ่นเอวปล่อยควยของมันให้อยู่ในอุ้งมือของผม
“ถ้ากูรู้ว่าแม่งจะเสียวแบบนี้ รู้งี้กูให้พวกแม่งจับชักให้ด้วยตอนกูสูบบุหรี่ก็ดีหรอก อ๊า…เชี่ย…อ๊า”
“มันก็แน่อยู่แล้วดิวะ กูบอกแล้วว่าเสียวกว่าชักเองเป็นไหนๆ” ผมยังคงตั้งหน้าตั้งตากำควยมันชักอยู่พักใหญ่กระทั่งตัวมันเริ่มกระตุก
“เชี่ยๆ กูจะแตกแล้วว่ะไอ้เชี่ย…อ๊า…” พอเห็นว่าไอ้ก้านทำท่าจะแตก ผมเลยขอแกล้งมันซะหน่อยด้วยการหยุดมือแล้วปล่อยออก ด้วยความที่ใกล้จะแตกเต็มทนทำให้ไอ้ก้านยืนเด้าอากาศอยู่อย่างนั้น
“มึงจะหยุดมือทำไมวะ เหี้ยเอ้ย”
“ก็ขอกูเอาคืนที่มึงเคยแกล้งกูหน่อยไม่ได้ไงวะ” ผมได้ทีเลยพูดออกมา ทว่าแทนที่มันจะด่าทอผมต่อกลับกลายเป็นว่า มันพยักหน้ารับคำซะงั้น
“เออกูขอโทษนะ มึงอยากแกล้งก็เอาที่สบายใจเลย แต่ขอกูแตกก่อนได้มั้ยวะ” มันร้องขอทั้งที่ความจริงแล้ว มันจะจับควยตัวเองชักต่อให้แตกเลยก็ได้แต่มันกลับเลือกที่จะแอ่นมาให้ผมชักต่อ
“ถ้างั้นมึงต้องยอมมาให้กูแกล้งแบบนี้จนกว่ากูจะพอใจได้มั้ยล่ะ” ไอ้ก้านพยักหน้ารับคำอย่างหว่าง่าย
“เอาดิกูยอมเลย ช่วยชักให้กูต่อนะๆ” ไอ้นักเลงที่เคยแกล้งผมมาตลอด มาตอนนี้กลับยืนแอ่นควยขอร้องให้ผมช่วยชักควยอุบาทว์ให้อย่างน่าทุเรศ
“เออๆถ้างั้นมังหันหลังได้ปะ กูไม่อยากให้น้ำควยมึงพุ่งใส่หน้าว่ะ” พอโดยสั่งมันก็ยอมอย่างว่าง่าย ค่อยๆหันกลังโชว์บั้นท้ายที่ขาวเนียนเหมือนกับผิวส่วนอื่นของมัน
โอ๊ะ! ผมน่าจะยังไม่ได้บอกสินะว่าควยของมันมีสีเข้มกว่าผิวส่วนอื่นของมันนะ น่าจะเพราะมันว่าวบ่อยแหละมั้งแต่ก็ยังคงขาวกว่าควยผมแหละนะ
มาต่อกันดีกว่าพอมันหันหลังเสร็จมันก็เริ่มเอื้อมมือไปกำควยมันอีกครั้ง ก่อนจะรัวชักให้มันต่อ
“อ๊า…อ๊า…แม่งเสียวสัตว์อ๊า” แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ค่อยถนัดทั้งตัวผมเองและมันด้วย บวกกับว่าผมอยากแกล้งมันเพิ่มเลยสั่งให้มันถอดเสื้อนักเรียนออกแล้ว เดินไปยืนหน้าประตูห้องโดยหันหน้าออกไปแอ่นเอวไปข้างหน้าให้ลำควยของมันโผล่ออกไปนอกห้องนั่นเอง
“มึงพร้อมแล้วนะไอ้ก้าน” มันพยักหน้ารับในขณะที่ชะโง้กหน้าไปคอยมองทางเดินอย่างกลัวๆ ส่วนผมก็ยืนอยู่ด้านหลังมันมือซ้ายบีบบี้หัวนมของมัน มือขวากำควยไม่ถอกนั่นชักรัวๆอีกครั้ง
“เชี่ยทั้งเสียวทั้งตื่นเต้นเลยว่ะ อ๊า…แม่งจะแตกแล้ว…อ๊า…” สุดท้ายควยของมันกระตุกอยู่สิบกว่าทีพร้อมกับน้ำควยของมันที่ทะลักขาวข้นที่ทะลักไหลลงมาอาบลำควยของมัน และมือของผมด้วย
“เชี่ยทำไมน้ำมึงไม่พุ่งวะ” ผมถามออกไป
“กูก็ไม่รู้เหมือนกัน ปกติมันก็ไหลทะลักแบบนี้ตลอดนะมึง” พอมันหายเหนื่อยก็รีบเช็ดน้ำควยของมันทั้งจากมือผมและบนพื้นจนแน่ใจว่าเกลี้ยงดีแล้ว ผมเลยไล่มันไปใส่เสื้อผ้าก่อนจะแยกย้ายกันกลับบ้านโดยที่ผมลองถามทิ้งท้ายกลับมัน
“เป็นไงวะมึงเสียวดีปะ”
“เสียวดิแม่ง กูชอบว่ะ” มันตอบ
“แล้วจะให้กูช่วยรีดน้ำควยของมึงอีกปะ กูยังมีเทคนิคเสียวๆอีกนะโว้ย” พอผมบอกไปแบบนี้คราวนี้สายตาของมัน มีประกายขึ้นมาอีก
“ยังมีอีกหรอวะ เชี่ยเอาดิครั้งหน้านะโว้ย เดี๋ยวกูจะยอมให้มึงแกล้งคืนด้วยเลย” จากนั้นผมกับมันก็กลับบ้านกัน
อันนี้เป็นฉบับที่เอามาแต่งใหม่นะครับผม มีให้อ่านฟรีแค่ตอนเดียวนะครับผม
|