คำพูดเหล่านี้คือเสียงก่นด่านินทาที่ลอยแว่วมาตามลมให้ผมได้ยินระหว่างทางที่ผมกำลังเดินไปที่เตียงของตนเอง ได้ยินจนชินแล้วล่ะคำพูดที่เต็มไปด้วยมลทินแบบนี้ผมไม่สนใจคำพูดเหล่านั้นเดินตรงกลับไปที่เตียงพิเศษของตัวเองเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนอนเล่นที่เตียงของตัวเองได้ไม่นานก็มีบราเธอร์ต้น (Brother – ตำแหน่งบุคลากรขั้นพื้นฐานที่ทำงานภายในที่แห่งนี้)เดินเข้าโรงนอนเพื่อเรียกตัวผมเขาบอกว่าเฮดฟาเธอร์คมสัน (Head Father – ตำแหน่งผู้ดูแลสูงสุดของที่นี่)กำลังจะเรียกประชุมผู้ทำคะแนนสำเร็จการศึกษาสูงสุด 20 อันดับตอน 5 โมงเย็น ผมชำเลืองมองไปที่นาฬิกาที่ติดอยู่กับผนังของโรงนอนซึ่งนี่ก็ใกล้เวลานั้นมากแล้ว ผมจึงเดินตามบราเธอร์ต้นออกไป มาถึงห้องประชุมใหญ่ที่มีเวทีที่นี่มีเด็กคนอื่นๆ รออยู่แล้ว และทุกๆ คนก็กำลังเดินไปที่ที่นั่งของตัวเองโดยจัดตามลำดับของคะแนนดังนั้นผมจึงนั่งเป็นคนหน้าสุดของแถวแรกสุด เฮดฟาเธอร์คมสันยืนรออยู่บนเวทีรอให้เด็กๆทั้ง 20 คนนั่งลงบนที่นั่งของตนเอง เฮดฟาเธอร์คมสันมองมาที่ผม คุณพ่อส่งรอยยิ้มและพยักหน้าให้กับผมผมจึงพยักหน้าตอบ เมื่อทุกๆ อย่างเข้าที่เข้าทางแล้วไฟในห้องประชุมจึงค่อยๆหลี่แสงลงเหลือไว้แค่แสงสปอร์ตไลท์หนึ่งดวงที่ส่องลงมาที่เฮดฟาเธอร์คมสันที่ยืนอยู่บนเวทีภายใต้ลำแสงปรากฏเงาสลัวที่บิดเบี้ยวทำให้ร่างสูงผอมของเฮดฟาเธอร์คมสันยิ่งดูผอมสูงจนน่ากลัวก่อนที่เฮดฟาเธอร์คมสันจะกล่าวอะไรเสียงที่แหบแห้งไร้ชีวิตของเขาได้เอ่ยสวดบทวิงวอนถึงองค์ปฐมแห่งความว่างเปล่าซึ่งประกอบด้วย 3 องค์ องค์ที่ 1. วิงวอนสารภาพบาป; z8 t: X- O% w/ H/ d, v m
องค์ที่ 2.พันธนาการเจตจำนง องค์ที่ 3. ประกายแสงในหุบเหว เมื่อสวดจบจึงเข้าสู่พิธีการ
0 L) i1 x; K& S. c, g
' L$ {) _0 {( \; K
/ n$ h. l& q5 Z; k; L) G) m
1 A) H% X: U# `6 v ~
: N& }; `) H/ V4 A“พ่อภูมิใจในตัวลูกชายทุกคนในที่นี้มากมากๆ พวกเธอทุกคนคือที่ภาคภูมิใจของที่แห่งนี้ พ่อเชื่อว่าทุกคนมีเส้นทางที่องค์ปฐมแห่งความว่างเปล่าได้จัดสรรกำหนดไว้แล้วโดยเฉพาะเจ้า... ดิอาร์ค ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของพ่อ ผู้ซึ่งทุ่มเทยิ่งกว่าใครผู้ซึ่งประจำอยู่หัวแถวในทุกๆ การปวารณาตน ผู้เป็นที่หนึ่งเสมอมา และลูกชายคนอื่นๆ พ่อก็เชื่อว่า จะทำสิ่งที่ถูกต้องและยิ่งใหญ่เช่นกันในอนาคน และ ยอมรับหน้าที่ที่ยิ่งใหญ่กว่าการออกไปเผชิญโลกอันแปดเปื้อนข้างนอกนั่น”เฮดฟาเธอร์คมสันกล่าวจบตรงนี้ก่อนจะค่อยผายมือผอมแห้งออกทั้งสองข้าง สองแขนบดบังลำแสงสปอร์ตไลท์ทำให้เกิดเงาวูบไหวไปมารอบๆห้อง
( Y! U p& z B! f
“ลูกชายของพ่อทุกคน วันนี้เป็นวันที่ แสงธรรมขององค์ปฐมแห่งความว่างเปล่า ได้ประจักษ์แก่สายตาโลกผ่านความเพียรพยายามของพวกเจ้าตลอดหลายปีที่ผ่านมา พวกเจ้าได้ผ่านการฝึกฝนทั้งกายและจิตวิญญาณภายใต้กฎเกณฑ์อันเคร่งครัดและบททดสอบอันท้าทาย พ่อภูมิใจในตัวพวกเจ้าทุกคน ผู้ซึ่งได้พิสูจน์แล้วว่ามีดวงจิตที่แข็งแกร่งและมีปัญญาที่จะใช้เป็นอาวุธในการเผชิญหน้ากับความมืดมิดในโลกภายนอก ในวันพรุ่งนี้เช้าตรู่ก่อนรุ่งอรุณแสงแรกจะนำพวกลูกชายของพ่อทั้ง 20 คน ออกจากอาณาเขตแห่งนี้สู่เส้นทางที่องค์ปฐมทรงกำหนด พวกเจ้าจะได้รับเงินจำนวนหนึ่งติดตัวไปเพื่อเป็นเมล็ดพันธุ์แห่งการเริ่มต้นในการสร้างชีวิตของตนเองพ่อเชื่อมั่นว่าด้วยวิชาความรู้ที่พวกเจ้าได้ร่ำเรียนมาจะนำพาพวกเจ้าไปทำหน้าที่อันศักดิ์สิทธิ์ในการส่องสว่างนำทางผู้ที่หลงผิด และปกป้องผู้บริสุทธิ์จากการไม่ตระหนักรู้ ไม่ว่าจะอยู่ในตำแหน่งใดไม่ว่าจะประกอบอาชีพใด จงจำไว้ว่าหน้าที่ของพวกเจ้าคือ การเป็นกระจกสะท้อนความบริสุทธิ์ขององค์ปฐมแห่งความว่างเปล่า จงยืนหยัดเป็นประภาคารในโลกที่เต็มไปด้วยความมืดมิดหากช่วงแรกของการเดินทาง ลูกรักของพ่อคนใดที่รู้สึกเคว้งคว้างไร้ที่พึ่งหรือยังไม่สามารถหาที่พักพิงที่มั่นคงได้พ่อขอต้อนรับพวกเจ้ากลับคืนสู่บ้านหลังนี้เสมอ ที่แห่งนี้จะยังคงเป็นเสมือนป้อมปราการสุดท้ายที่พวกเจ้าสามารถกลับมาพักพิงได้เสมออย่างไรก็ตาม จงจำไว้ว่าหนทางที่แท้จริงของเจ้าคือการออกไป ทำหน้าที่อันสูงส่ง ให้สำเร็จลุล่วง”
0 q$ m! p7 T/ z+ c, k
“บัดนี้ถึงเวลาที่พวกเจ้าจะได้รับเครื่องยืนยันแห่งความสำเร็จ ผู้ที่ทำคะแนนสูงสุด 10อันดับแรกจนถึงอันดับที่ 2 จงก้าวออกมาข้างหน้าเพื่อรับใบประกาศจบการศึกษา อันเป็นประจักษ์พยานแห่งความมุ่งมั่นและ รับเข็มกลัดแห่งรุ่งอรุณ อันเป็นสัญลักษณ์ของการเริ่มต้นใหม่”
สิ้นเสียงแหบแห้งของเฮดฟาเธอร์คมสันเด็กหนุ่ม 9 คนเดินขึ้นไปรับใบประกาศและเข็มกลัดท่ามกลางเสียงปรบมือของคนอื่นๆ ที่เหลือ
/ K/ S, m5 O) c a. O, K
“และสุดท้าย...สำหรับผู้ที่ได้คะแนนสูงสุดเป็นอันดับที่ 1 ผู้ซึ่งได้พิสูจน์แล้วว่า เป็นหนึ่งเดียวแห่งแสงธรรมที่สว่างเจิดจ้าที่สุดในหุบเหวที่มืดมิดแห่งนี้ จงก้าวออกมา...ดิอาร์ค” เสียงปรบมือเงียบสนิทลงทันที ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่จะตบมือยินดีให้กับผมมีเพียงเสียงฝีเท้าผมเองที่ก้าวออกไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้า แสงสปอร์ตไลท์หันสาดส่องลงบนตัวผมผมเดินภายใต้แสงจ้านั่นไปจนถึงเวที เฮดฟาเธอร์คมสันจึงหยิบ ถ้วยรางวัลที่ทำจากแก้วคริสตัลใสบริสุทธิ์ ขึ้นมาถ้วยนั้นเปล่งประกายลึกลับยามต้องแสง มันถูกครอบมุมด้วยทองคำแวววาว ที่ประดับประดาอย่างวิจิตรบรรจงและมีหูจับเรียวโค้งงดงามถึง สามคู่ คู่แรกคือปีกนางฟ้าที่บอบบางพลิ้วไหว คู่ที่สองคือปีกค้างคาวที่กางออกอย่างดุดัน และคู่สุดท้ายคือ ปีกผีเสื้อที่อ่อนช้อยแต่แฝงด้วยความลึกลับ
7 _" [% a ?; J
“นี่คือ ถ้วยสุญญตา ถ้วยแห่งความว่างเปล่า พ่อว่ามันเหมาะกับเธอดิอาร์ค มารับมันไปสิ”เฮดฟาเธอร์คมสันเอ่ยอธิบายด้วยเสียงทุ้มลึกวังเวง พลางยื่นถ้วยรางวัลนั้นให้
+ H& V% Y, P5 _9 W0 {( J
“จงรับมันไว้ คือก้าวแรกบนเส้นทางที่องค์ปฐมแห่งความว่างเปล่าได้มอบหมายให้แก่เจ้าจงแบกรับมันไว้ด้วยความซื่อสัตย์ และจงจำไว้ว่า ความมืดมิดกำลังรอคอยแสงสว่างจากเจ้าอยู่” ทันทีที่ยื่นมือไปรับถ้วยรางวัลนิ้วของผมก็แตะไปบนผิวสัมผัสจากส่วนปีกที่ทำจากโลหะของมันช่างเย็นยะเยือก
6 k( v+ R) ^$ r+ i/ D$ {/ M( `. \5 C+ e% I, c# \
$ g; Z- w$ @3 k6 g6 _! _) G! N% b
“คืนนี้มาหาพ่อที่ห้องเอาถ้วยสุญญตามาด้วย พ่อจะอำนวยพรให้” เฮดฟาเธอร์คมสันก้มโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูผมขณะส่งมอบถ้วยรางวัลหลังจากนั้นก็มีถ่ายภาพรวมทุกคน จากนั้นผู้คนทั้งหมดก็แยกย้ายกันไปที่ห้องกิจกรรมที่ตอนนี้ใช้เป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงส่งรุ่นของผมภายในงานเต็มไปด้วยอาหารหรูหรานานาชาติ เด็กทุกคนต่างก็ตื่นเต้นยินดีเพราะปกติแล้วอาหารภายในบ้านเด็กกำพร้าจะเรียบง่ายและมีเพียงไม่กี่อย่างเท่านั้น ดังนั้นแล้ววันสำเร็จการศึกษาจึงเป็นวันที่เด็กทุกๆคนรอคอย
) e. ]) r( ~8 h1 J" G. r" D* d
ผมเดินไปที่โซนของหวานอย่างใจจดใจจ่อแล้วกวาดสายตามองหาสิ่งที่เป็นของโปรดของผมผมหวังว่างานสำเร็จการศึกษารอบนี้จะมีเจ้าสิ่งนี้ให้ผมทานเพราะรอบการศึกษารอบที่แล้วไม่มีมันอยู่ในอาหารจัดเลี้ยง ผมไม่ได้กินมันเลย 1ปีเต็ม แทบจะลืมไปแล้วว่ามันรสชาติเป็นอย่างไร แต่ก็ต้องผิดหวังอีกครั้งที่เดินดูอาหารจัดเลี้ยงที่อยู่ภายในงานเป็นสิบรอบก็ไม่เห็นสิ่งที่เป็นของโปรดของผมผมเลยเลือกที่จะไปหยิบบาร์บีคิวเนื้อมาทานสักสองสามไม้ และซุปเห็ดถ้วยเล็กๆผมนั่งทานอยู่คนเดียวโดยปราศจากความสนใจเด็กคนอื่นๆ
# d4 d7 l) s# v0 w; g
* g, y U" C5 I+ J' M' v9 X
ตกดึกคืนนั้นเด็กหลายๆคนกำลังเตรียมตัวเข้านอน ส่วนตัวผมก่อนจะนอนได้ลงมาคุกเข่ากับพื้นที่ปลายเตียงนอนโดยวางถ้วยสุญญตาไว้ข้างบนจากนั้นผมก็เริ่มเอ่ยสวดบทวิงวอนถึงองค์ปฐมแห่งความว่างเปล่า สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เหล่าเด็กชายทุกคนที่อยู่ที่นี่ต้องทำก่อนนอนทุกคืนสวดเสร็จผมก็ขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วยกเอาถ้วยสุญญตาไปตั้งไว้บนหัวเตียง ผมจ้องมองถ้วยกำเนินสุญญตาจ้องมองอยู่อย่างนั้นเนิ่นนานจนเผลอหลับไป จนกระทั่งผมรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาท่ามกลางความเงียบเนื่องจากเด็กในโรงนอนทุกคนหลับกันหมดแล้วผมค่อยๆ ลุกยันตัวเองขึ้นจากเตียงอย่างเชื่องช้าไร้ซุ่มเสียง ลุกขึ้นได้ก็ไม่ลืมที่จะเอื้อมคว้าถ้วยสุญญตามาถือไว้แล้วค่อยย่างก้าวออกไปจากโรงนอนอย่างเงียบงันโดยไม่มีใครสังเกตเห็นผมเดินผ่านความมืดมิดวังเวงนอกตัวอาคารไปโดยปราศจากความกลัว ผมเดินลัดเลาะมาจนถึงโซนพื้นที่ที่แยกออกมาจากตัวบ้านเด็กกำพร้าและโรงเรียนสอนศาสนาส่วนนี้จะเป็นที่ตั้งของบ้านเฮดฟาเธอร์คมสันผมมายืนอยู่หน้าประตูไม้บานสีน้ำตาลเข้มที่เป็นประตูบ้านของเฮดฟาเธอร์คมสัน แค่ผมได้เห็นประตูบานนั้นความรู้สึกของผมก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าจนอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ ภายในร่ายกายนี้สั่นระริกรัวด้วยความอยากรู้
# N: s- ^1 w2 C i: _, x
ก๊อกๆ!! ผมเคาะที่ประตู 2 ที
: k* e" U7 {# j7 Y# A5 ]0 O. k
“เข้ามาสิพ่อไม่ได้ล็อคประตู”
& k/ Z3 d. Z' R/ n
0 L, R; Y, Q0 d1 E: d+ P0 d4 S% I----------------------------------------------------------------
@! O1 t; l2 }( p R/ |* S$ L2 S1 ~เท่านี้ก่อนนะครับ อยู่ในช่วงขัดเกลาทิศทางบทครับ หัดเขียนนะครับติชมได้
" W7 z y m/ d% H/ d& O3 X