ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 41|ตอบกลับ: 0

ผู้ชายขายตัว cop

[คัดลอกลิงก์]

นักศึกษาเกเร

กระทู้
130
ตอบกลับ
670
พลังน้ำใจ
-24697
Zenny
-18270
ออนไลน์
2559 ชั่วโมง
โพสต์ 2 ชั่วโมงที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด |โหมดอ่าน
ผู้ชายขายตัว

เรื่องนี้ผมนำมาจากเรื่องจริงที่เกิดขึ้น ก่อนจะนำมาเรียบเรียง สอดแทรกด้วยบทรัก ถูกใจไม่ถูกใจ ช่วย Comment มาด้วยนะครับ ถ้ามีคนคอมเม้นมากๆ ผมอาจจะมีกำลังใจ ต่อตอน 2ให้ครับ

1
         
        ครับ  ผมนี่ล่ะครับผู้ชายขายตัว แต่อย่าไปบอกใครนะครับ ผมบอกแค่คุณคนเดียว และผมอยากจะเล่าเรื่องราวมากมายจากประสบการณ์ ซึ่งมีทั้งหวานและขมให้คุณฟัง

        คุณอยากฟังไหม

       มันคงต้องเริ่มต้นจากว่าทำไมผมถึงต้องทำ ทำในสิ่งที่สังคมรังเกียจ สังคมรังเกียจคนที่มีอาชีพสุจริตอย่างผม แต่ทีนักการเมืองโกงบ้านโกงเมือง ก็เห็นยกมือไหว้กันเป็นฝักถั่ว ไม่ยักกะมีใครรังเกียจ

       สังคมไทยชอบคนรวย แต่งตัวโก้ มีรถหรูไงครับ

       ผมถึงอยากเป็นคนรวย แต่งตัวโก้ ขี่รถหรูๆ กับเขาบ้าง แต่มันก็เป็นเพียงแค่ฝันเพราะงานประจำที่ผมทำอยู่ เงินเดือนแสนจะน้อยนิด จนป่านนี้ผมอายุเกือบจะสามสิบแล้ว ยังไม่มีเงินเก็บกับเขาเลย แล้วเมื่อไหร่ผมจะรวยกับเขาสักที ผมถึงได้คิดหาอาชีพเสริม

       ตอนแรกก็ไม่คิดจะมาทำอะไรแบบนี้หรอก ไม่ได้อยากมีอาชีพเสริมด้วยการขายตัว ถ้าไม่เป็นเพราะวันหนึ่งที่ผมไปเจอเพื่อนเก่าที่ไม่เคยเจอกันมาเป็นปี ชื่อ ยศ

        เพื่อนดูหล่อขึ้นกว่าเดิมมาก ผิวขาวขึ้น จมูกโด่งชนิดที่รู้ว่าไปทำศัลยกรรมมา จนทำให้หน้าตาเปลี่ยนไปจนจำเกือบไม่ได้ นอกจากหล่อขึ้นแล้ว ยศยังแต่งตัวดี มีรถราคาแพงขับโก้จนผมแปลกใจเพราะยศเป็นเด็กต่างจังหวัดเข้ามาเรียนกรุงเทพฯ เหมือนผม ฐานะครอบครัวก็ปานกลาง ใช่ว่าจะร่ำรวยอะไร

        "โห รถเท่มากเลย กี่ตังค์วะนี่"

        ยศบอกราคาที่ทำให้ผมสะดุ้งแล้วหลุดปากถามออกไปว่า "ไปรวยอะไรมาวะ ถูกล็อตเตอรี่ ขายยาบ้าหรือเป็นหนูตกถังข้าวสาร"

        เพื่อนหัวเราะ ไม่ตอบคำถามแล้วชวนผมไปเลี้ยงเบียร์

        "มันอยู่ที่จังหวะและโอกาส" หลังจากหมดเบียร์ไปสองขวด ยศก็เริ่มจะบอกเล่าอะไรบางอย่างกับผม ซึ่งก่อนหน้านั้น เขาเลี่ยงไปคุยเรื่องสัพเพเหระ

        ผมนิ่งมองหน้า รอให้ยศพูดต่อ

       "โอกาสมันมี เพียงแต่เราจะเลือกคว้ามันไหม"

        "สำหรับฉัน มองไม่เห็นโอกาสอะไรเลย ได้แต่ก้มหน้าทำงานเป็นมนุษย์เงินเดือนไปวันๆ โอกาสก้าวหน้าก็ยังบอกไม่ได้"

       "ก็ทำไมไม่ลาออกมาหางานใหม่ล่ะ"

       "เศรษฐกิจแบบนี้ มีงานทำก็บุญแล้ว นายล่ะ ไปทำไรมาถึงได้มีเงินซื้อรถราคาหลักล้านแบบนี้" ผมตัดสินใจถามตรงๆ ต่างคนต่างก็กรึ่มๆ กันแล้ว

       "เป็นออแกไนเซอร์จัดปาร์ตี้"

       "จัดปาร์ตี้เนี่ยนะรวย จริงรึวะ ไม่ใช่ขายยาอีพ่วงไปด้วยนะ"

       "เฮ้ย รับรอง ไม่มีเรื่องผิดกฎหมาย"

       ผมยังคงมองหน้ายศ สีหน้าไม่เชื่อถือสักเท่าไหร่

      "เอางี้ คืนพรุ่งนี้นายว่างไหม จะชวนไปดูว่าฉันจัดปาร์ตี้แบบไหน ว่าแต่นายมีชุดเสื้อผ้าดีๆ ใส่หรือเปล่า งานโรงแรมหรูนะ"

      "ก็พอมี แต่ไม่แน่ใจว่าจะหรูไหม ต้องใส่สูทหรือเปล่า ฉันไม่มีหรอกนะ"

       "ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวหาให้" แล้วยศก็ดึงผมให้ยืนขึ้นแล้วมองดูรูปร่างเพื่อกะขนาดเสื้อผ้า "นายสูงดีนะหุ่นดีใช้ได้เลย เข้าฟิตเนสบ้างหรือเปล่า" ถามพร้อมกับเอื้อมมือมาบีบกล้ามที่แขนผม

       "เอาเงินที่ไหนไปเข้าฟิตเนส แค่จะกินยังไม่พอเลย แต่ก็มีออกกำลังบ้าง ไปเตะบอลกับพรรคพวกแถวบ้าน"

      "ดี" แล้วยศก็มองผมอย่างพินิจพิเคราะห์อีกครั้งก่อนจะนัดหมายสำหรับปาร์ตี้คืนพรุ่งนี้ ก่อนจะแยกย้ายกันไปโดยไม่ลืมแชร์ไลน์กับเบอร์มือถือ


       ที่หน้าโรงแรมหรู ผมก้มลงมองตัวเองอีกครั้งว่าชุดที่ใส่มาวันนี้สุภาพเรียบร้อยไม่ซอมซ่อเกินไปจนยามไล่ไม่ให้เข้างาน

       ยศออกมารับผมที่ล็อบบี้แล้วพาขึ้นลิฟต์ไปที่ห้องพักห้องนึง มีผู้ชายหลายคนกำลังแต่งตัวกันอยู่ มันทำให้ผมรู้สึกแปลกๆ ยังไงพิกล  ยศหยิบเสื้อสูทตัวหนึ่งออกมาจากถุงร้านซักแห้งให้ผมลองใส่ดูว่าพอดีตัวไหม ผมมองดูกระจก เห็นตัวเองใส่เสื้อสูทแล้วอดที่จะยิ้มอย่างพึงใจไม่ได้ว่าผมนี่ก็หล่อไม่เบา

      "หิวไหม ทานอะไรมาหรือยัง" ยศถาม

      "รองท้องมานิดหน่อยแล้ว" ผมตอบ นึกถึงอาหารในงานเลี้ยงค็อกเทลตามงานแต่งงานที่ผมเคยไปมา มันมีแต่ของว่างเป็นคำๆ ให้จิ้มเข้าปาก มันจะอิ่มตรงไหน ผมถึงต้องรองท้องก่อนมา

      "เดี๋ยวเข้าไปในงานมีของกินเพียบ เครื่องดื่มไม่อั้น"

      ยศพาผมเดินออกจากห้อง ผมอดที่จะหันไปมองหนุ่มๆ 5-6 คนที่ยังคงแต่งตัวอยู่ในห้องนั้นไม่ได้

       พอพ้นมาแล้ว ผมถามขึ้นว่า

      "คนพวกนั้นเป็นใครหรือ"

      "ในห้องนั่นน่ะหรือ เด็กมาช่วยงาน" ยศตอบเลี่ยงๆ ไม่สบตา แล้วดึงผมให้ลงลิฟต์ไปที่งานปาร์ตี้

       พอเดินเข้างาน ผมก็ต้องแปลกใจที่เกือบทั้งงานมีแต่ผู้หญิงเต็มไปหมด หันไปทางไหนก็เจอแต่ผู้หญิง ไม่เหมือนงานแต่งงานที่ผมเคยไป น่าจะเป็นงานเลี้ยงสังสรรค์ของสมาคมสตรีอะไรสักอย่าง ผมนึก

       ยศเดินเข้าไปสวัสดีคนนั้น ทักทายคนนี้ ดูเพื่อนผมออกจะกว้างขวางไม่น้อย และยศก็ไม่ลืมที่จะแนะนำผมไปด้วย

      "นี่ นิว เพื่อนผมเอง" ยศแนะนำด้วยชื่อเล่นของผม เอาเถอะ คงไม่ต้องมีพิธีรีตองกันมากเพราะถึงแนะนำชื่อจริงไปคุณหญิงคุณนายไฮโซทั้งหลายในงานก็ใช่ว่าจะจำผมได้

       ยศพาผมไปหย่อนไว้ที่มุมอาหารมุมหนึ่งของงาน พร้อมทั้งเรียกบริกรที่ถือถาดเครื่องดื่มให้แวะมา

       "ไวน์ ไหม เหล้าก็มีนะ" ยศถามแต่หยิบแก้วไวน์ทรงสูงยื่นให้ผม เกิดมาผมก็เพิ่งเคยดื่มไวน์ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ผมรับมาจิบนิดหน่อยพอเป็นพิธี ถ้าจะให้ดื่มสนุก ผมขอเบียร์หรือเหล้าไทยๆ ดีกว่า คอมันคุ้นแบบนั้น

      "กินให้อิ่มนะ เดี๋ยวฉันมา"

      "จะให้ช่วยอะไรก็บอกนะ" ผมไม่ลืมว่าตัวเองไม่ใช่แขกในงานนี้ แต่มากับเพื่อนที่เป็นคนจัดงาน ผมน่าจะมีหน้าที่ช่วยเหลืออะไรบ้าง ไม่ใช่มากินมา
สนุกอย่างเดียว

      "ช่วยทำตัวให้สนุกก็พอ"

      ผมยิ้มรับ จู่ๆ ก็ได้มางานเลี้ยง มากินฟรีดื่มฟรีอย่างนี้ ก็ต้องกิน ต้องดื่มให้มันสะใจไปเลย

       งานเลี้ยงค็อกเทลเป็นงานที่ผู้คนเดินสังสรรค์กันทั่วงาน ผมก็เดินมั่งกินมั่งสนุกกันไป มีผู้หญิงบางคนเดินผ่านแล้วส่งยิ้มให้ ผมอดจะสะดุดใจไม่ได้ ปกติผู้หญิงไม่แลหางตามองผมสักเท่าไหร่เพราะผมมันหน้าตาแสนจะธรรมดาไม่ได้หล่ออย่างเพื่อน แถมไม่มีรถขับโก้ ผู้หญิงที่ไหนเขาจะมองผม รึว่าเป็นเพราะเสื้อสูทตัวนี้ที่ทำให้คนใส่ดูมีสง่าราศีขึ้นมาบ้าง

      "อาหารเขาอร่อยนะคะ" มีเสียงพูดดังขึ้นข้างๆ ผมหันไปมองคนพูดที่เป็นสาวสูงวัยคนหนึ่งในชุดราตรีงามวิจิตรและเครื่องเพชรแพรวพราวจนตาผมแทบพร่า ไม่แน่ใจว่าหล่อนพูดกับผมหรือไม่ ดวงตาคมที่ตกแต่งไว้อย่างประณีตจับจ้องที่ใบหน้าผมพร้อมรอยยิ้มให้ผมมั่นใจว่าหล่อนพูดกับผม

      "เอ่อ ครับ อร่อย" ผมรีบตอบด้วยกิริยาสุภาพนอบน้อมกว่าปกติ ผมไม่เคยคุยกับคนระดับนี้มาก่อน

      "ลองไปทางมุมโน้นซิคะ มีแฮมที่เขาปรุงพิเศษเลยนะคะ ไปลองชิมดู แล้วจะติดใจ" หล่อนชวนผม แล้วดึงมือผมให้เดินตามไป ผมทำอะไรไม่ถูกนอกจากออกเดินตามแรงจูงนั้นไป มือนุ่มนิ่มอบอุ่นนั้นกุมกระชับจนผมไม่กล้าดึงมือออก พอไปถึงซุ้มอาหาร หล่อนหยิบจานที่มีแฮมหั่นไว้แล้ว 2-3 ชิ้น มาให้ พร้อมทั้งเรียกบริกรเครื่องดื่มมา

      "นอกจากอาหารอร่อยแล้ว ไวน์ที่เสิร์ฟในงานนี้ก็ชั้นเลิศด้วยนะคะ" หล่อนแนะนำ พร้อมกับส่งแก้วไวน์มาให้ผมจิบ ผมรับไปจิบพอเป็นพิธี เหล้าหลายแก้วที่ผมดื่มก่อนหน้านี้ กำลังจะตีกับไวน์ เดี๋ยวได้เมากลิ้งไปหรอก ผมบอกตัวเองแล้วคาดคะเนว่าผู้หญิงตรงหน้าคงจะเป็นเจ้าภาพของงานที่คอยมาดูแลแขก อยากจะบอกว่าผมไม่ใช่แขกหรอกครับ ก็พอดียศเดินมาหา

      "สวัสดีครับพี่แก้ว" ยศยกมือไหว้ผู้หญิงที่ยืนข้างผม "เจอกันแล้วใช่ไหมครับ นี่เพื่อนผม นิว" ยศแนะนำ ผมจึงยกมือไหว้

      "สูง หุ่นดีนะ" แก้วกล่าวยิ้มๆ พลางมองผมตลอดร่างด้วยแววตาบางอย่างที่ผมไม่แน่ใจ แววตาเจ้าชู้โลมเลีย ? ไม่ใช่ละมั้ง ผมคงเริ่มเมาแล้วตาฝาด

       ยศช่างคุย ช่วยนำพาบรรยากาศของคนแปลกหน้าตรงนั้นให้สนุกน่าสนใจ เหล้าบ้าง ไวน์บ้างถูกหยิบยื่นมาให้ผม เสียงดนตรีเร้าใจชวนให้ครึกครื้น ผมเดินไปทั่วงานอย่างมีความสุข ผู้หญิงรอบตัวล้วนแล้วแต่สวยๆ ทุกคน มันทำให้หัวใจหนุ่มฉกรรจ์ที่เปลี่ยวเหงารู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นอย่างบอกไม่ถูก ไม่เคยมางานปาร์ตี้อะไรที่แสนสนุกอิ่มอร่อยแบบนี้มาก่อน

       แต่มันก็ชักจะดึก และผมก็เริ่มจะมึนๆ แล้ว ถ้าไม่ขอตัวกลับตอนนี้ ต้องหาทางกลับบ้านไม่ถูกแน่ๆ

       "จะกลับแล้วหรือ" ยศถาม

      "ชักมึนๆ แล้วว่ะ แต่ก็พอจะโหนรถเมล์กลับบ้านไหว ขี้เกียจเสียค่าแท็กซี่"

      "ไหวแน่นะ"

      "เออ ขอบใจนะที่ชวนมาสนุก" ผมยืนยันและไม่ลืมที่จะขอบใจเพื่อน

      "เพื่อเพื่อน ได้อยู่แล้ว อ้อ ก่อนกลับ ช่วยเอาเสื้อสูทไปคืนที่ห้องหน่อยซิ จำห้องได้ใช่ไหม"

      ผมก้มลงมองเสื้อที่เพื่อนให้ยืม จริงซิ เกือบลืมคืน

      "ได้ ได้ เดี๋ยวเอาไปคืนให้ ห้องเบอร์อะไรนะ"

       ยศบอกเบอร์ห้องแล้วโบกมือให้ "กลับบ้านดีๆ ล่ะ"

      "ขอบใจเพื่อน" ผมบอกแล้วเดินออกจากงานไปที่ด้านหนึ่งของล็อบบี้ มีลิฟต์ตั้งอยู่

       "1508  1508" ผมท่องจำเบอร์ห้องไปตลอดทาง กลัวว่าสติครึ่งๆ กลางๆ ของผมตอนนี้จะทำให้ผมลืม "ชั้น 15 ห้องเบอร์ 8 ใช่ไหม" ผมซักซ้อมกับตัวเอง แล้วเดินไปหยุดหน้าห้องดังกล่าว ดึงคีย์การ์ดที่ยศจับใส่มือผมออกมาสอดเข้าที่ประตู แสงสีเขียวของมันเป็นสัญญาณเปิดผมกดก้านลูกบิดประตูแล้วผลักเข้าไป ภายในห้องมืดสนิททำให้ผมต้องคลำหาสวิทช์ไฟ

       เมื่อไฟในห้องสว่างขึ้น ผมก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นว่ามีใครคนหนึ่งอยู่ภายในห้อง

"โอ๊ะ ! ขอโทษครับ ผมเข้าห้องผิด" รีบบอกแล้วถอยกรูดไปที่ประตู แทบหายเมา

        "ไม่ผิดหรอกค่ะ" เสียงหวานบอกแล้วก้าวเข้ามาประชิดตัวผม

        "คุณแก้ว" ผมอุทานออกมาเมื่อมองเห็นหน้าชัดๆ ว่าเจ้าของห้องคือใคร แต่ตอนนี้ คุณแก้วไม่ได้อยู่ในชุดราตรีอีกแล้ว แต่เป็นชุดนอนลูกไม้เนื้อดี กลิ่นน้ำหอมที่รวยรินมาจากกายสาวตรงหน้าทำเอาหัวใจผมปั่นป่วน

       "เอ่อ ทำไม..." ผมงงไปหมดแล้ว และยิ่งพูดไม่ออกบอกไม่ถูกเมื่อมือนุ่มๆ ที่เคยดึงรั้งให้ผมเดินไปในงาน ตอนนี้เอื้อมมากุมมือผมไว้ แล้วประคองมือผมขึ้นแนบแก้มพร้อมกับส่งยิ้มดวงตาเป็นประกายหวานปานจะหยดมาให้

    "อยู่เป็นเพื่อนพี่ก่อนนะคะ อย่าเพิ่งกลับ"

    "ผ  ผม" ยามนี้ ผมพูดอะไรไม่ออกจริงๆ

    "พี่เมา ขับรถกลับบ้านไม่ไหวเลยต้องมาเปิดห้องนอนพัก แต่มันแปลกที่ พี่นอนไม่หลับ กลัวผีอีกต่างหาก" หล่อนเว้าวอน แถมมือยังลูบไล้แขนผมจนขนลุกไปหมดแล้ว

    "แต่..เอ่อ มันจะไม่เหมาะนะครับ"

    "รังเกียจพี่หรือคะ"

    "ปละ...เปล่าครับ ผมไม่ได้คิดอย่างนั้นเลย"

        "ถ้างั้นอยู่เป็นเพื่อนพี่นะ"

        "เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า" ผมชักจะใจอ่อน ก็ใครจะปฏิเสธลง ร่างนุ่มๆ หอมๆ กำลังเบียดตัวเข้ามาแนบชิดแบบนี้ แถมหล่อนเอื้อมมือมาปลดเสื้อสูทออกจากตัวผมด้วย

       "ไม่มีใครเห็นหรอก" หล่อนเขย่งตัวขึ้นมากระซิบข้างหูผม พร้อมทั้งเบียดร่างอุ่นๆ เข้ามา หล่อนเอื้อมมือไปกดดับสวิทช์ไฟให้ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความมืด ผมถูกกอดรัด มือหล่อนลูบไล้ไปทั่วร่าง ปลุกเร้าให้ผมร้อนผ่าวไปทั้งตัว ริมฝีปากชุ่มชื้นแนบมาที่ริมปากผมราวกับจะเชิญชวน ยามนี้สติของผมกระเจิดกระเจิงสุดระงับผมรัดร่างอวบนั้นแล้วกดปากลงจุมพิตริมฝีปากที่เผยอรอรับ เป็นจุมพิตเร่าร้อนกับผู้หญิงแปลกหน้าที่ผมไม่เคยคุ้น ผมไม่คิดจะหยุดยั้งตัวเองกับความต้องการที่พลุ่งพล่านขึ้นในขณะนี้

ผมก้มลงกดปากเข้ากับริมฝีปากสวยของเธออย่างกระหาย หล่อนส่งลิ้นเข้าไปในปากผมอย่างชำนาญ เราแลกน้ำลายกัน หล่อนส่งเสียงอืออาในลำคอ  สองมือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของผม  ขณะที่มือของผมก็ลูบไล้ และล้วงเข้าไปในชายเสื้อของหล่อน เคล้นคลึงเนินอก เมื่อชั้นในมันเกะกะมือ หล่อนก็ถอดให้ผม เผยให้เห็นทรวงอกอวบขาวเนียนน่าจับต้อง ผมลูบไล้ไปตามเนินอกจนถึงหัวนมที่แข็งชันเพราะอารมณ์เสียว

หล่อนเริ่มทนไม่ไหวอีกต่อไป รีบแบะอกเสื้อผมออก แล้วดึงออกไป ผมจำต้องละมือจากอกของหล่อนเพื่อถอดเสื้อออก  เมื่อร่างกายพ้นพันธนาการของเสื้อแล้ว ผมจึงจัดการดึงชายเสื้อของหล่อนขึ้นไปไว้เหนือเต้านมเปลือยเปล่า  ปากของผมเปลี่ยนจากการจูบแลกลิ้น  มาเป็นซุกไซ้ที่ซอกคอ ต่ำลงไปที่เต้านม  สองมือบีบขยำ ใบหน้าฟอนเฟ้นที่เนินสวยที่ผมหลงไหล  แล้วแลบลิ้นออกไล้เลียและดูดที่ยอดหัวนมสีน้ำตาลอ่อนตัดผิวที่ขาวนั้นอย่างเมามัน หล่อนครางในลำคออย่างพึงพอใจในสิ่งที่ได้รับ

ฝ่ายผมก็เคล้นคลึงเชยขมเต้านมทั้งสอง  พร้อมๆกับดึงเสื้อออกทางศีรษะของเธอ  จากนั้นจึงเลื่อนใบหน้าต่ำลงมา จนถึงหน้าท้อง  ผมปลดตะขอกระโปรงยีนสั้นออกแล้วแหวกซิปหน้า เผยให้เห็นเส้นขนอ่อนสีดำขลับ  ผมเลื่อนใบหน้าต่ำลงมาคลอเคลียอยู่ที่ขนสีดำตรงนั้น  หล่อนนอนหงายร่างสั่นสะท้าน ส่งเสียงอา อา... ในลำคอตลอดเวลา  ในที่สุดเหมือนหล่อนไม่ทันใจในสิ่งที่เขาทำ หล่อนยกสะโพกขึ้นแล้วดึงกระโปรงสั้นของตัวเองลงไป แล้วยกเข่าข้างขวาขึ้นปลดกางเกงออกจากขาข้างขวา

เมื่อเปลื้องผ้าออกจากตัวแล้วหล่อนก็คว้าเรือนผมของผมด้านหลัง กดใบหน้าเข้ากับเนินเนื้อของเธอ ดูหล่อนจะชื่นชอบและชำนาญในการทำแบบนี้  สะโพกของหล่อนเริ่มไม่อยู่นิ่ง มันเริ่มแอ่นลอยขึ้นเป็นจังหวะ  พร้อมกับเสียงร้องอา อา ที่เริ่มจะมีเสียงซี้ดซ้าดออกมาบ้างแล้ว

...ดูด ดูดตรงนั้น นั่นแหละ เอาลิ้นใส่เข้าไปด้วย เร็วๆ ให้พี่เสร็จสักทีนึงก่อน...

หล่อนเริ่มส่งเสียงดังขึ้น สะโพกเริ่มแอ่นลอยจนไม่ติดพื้น  สุดท้ายส่งเสียงร้องยาว แอ่นสะโพกค้าง ร่างสั่นกระตุกเบาๆ  มือที่กดศีรษะผมคลายออก

...เร็วๆสิ พี่อยากได้ท่อนเอ็น ไม่ไหวแล้ว เอามาใส่ของพี่เร็วๆ...

มือทั้งสี่ช่วยกันปลดเข็มขัดและกางเกงของผมเป็นพัลวัน  จับควยขนาด 7x8นิ้วแข็งแกร่งหัวบานเต็มที่ออกมา  ทันทีที่กางเกงหลุดออกจากปลายเท้า ผมก็แทรกตัวเข้าระหว่างซอกขาหล่อนทันที

...ใส่เลย ใส่เลยเร็วเข้า...

ตอนนี้แหละ เสียงหนึ่งดังขึ้นในหัวผม  อย่าทำ นี่ไม่ใช่แฟนเรา คนที่เรารักจะแต่งงานด้วย หยุดตัวเองให้ได้ แต่อีกเสียงหนึ่งสั่ง มันไม่ทันแล้ว ไม่มีอะไรเสียหานนี่เราเป็นผู้ชาย ช่างมันเถอะ ปล่อยมันเถอะ ตอนนี้หาความสุขให้ตัวเราเองดีกว่า

...อา อา อา....

เสียงของหล่อนทำให้ผมเลือกความคิดอย่างหลัง ผมเริ่มขยับเอวเพื่อส่งท่อนลำเข้าไปข้างในตัวเธอ ดูมันเข้าไปไม่ยากนัก พอผมสอดใส่เข้าไปก็รู้ว่าเวลาที่หล่อนมีอารมณ์มากๆ น้ำของหล่อนจะเยอะมาก ผมอัดท่อนเนื้อเข้าใส่เนินอย่างเนิบช้า หล่อนก็ยกสะโพกสวนตามจังหวะ  แล้วค่อยๆ ยกขาทั้งสองขึ้นสูงเพื่อรับการกระแทกกระทั้นที่รุนแรงขึ้นเป็นลำดับ  จนในที่สุดหล่อนก็ยกขาขึ้นสูง อ้ากว้าง ผมยกตัวเองขึ้นแล้วอัดหนอกเนินเนื้อของหล่อนเสียงดังชัดเจน

ผมเอาแขนสอดเข้าได้ขาพับทั้งสองข้างของหล่อนที่ยกชูขึ้นอยู่ข้างๆตัวผม แล้วโน้มขาของหล่อนไปจนชิด  ต้นขาของหล่อนเบียดอัดกับเต้านมทั้งสองจนบี้แบน  สะโพกของลอยขึ้นจากพื้น พูกลีบเนื้อทั้งสองเบียดเสียดอยู่ตรงระหว่างขา  ตรงกลางระหว่างพูเนื้อ  มีท่อนลำเป็นมันปลาบของผมเสียบคา ชักเข้าออกรวดเร็ว เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังประสานกับเสียงน้ำแฉะๆ ให้ผมได้ยิน

...อา อา อา อา อา....

คราวนี้เสียงร้องของหล่อนไม่ใช่แค่ครางในลำคออีกต่อไป  แต่มันเปล่งเสียงออกมาชัดเจนลั่นห้อง  ในที่สุดผมก็หยุด ดูเหมือนจะหมดแรงต้องพักหอบหายใจเล็กน้อย หล่อนกลับผลักผมลงนอน  กลีบเนื้อของหล่อนคายท่อนของผมออก น้ำเหนียวยืดเป็นเส้นอย่างอาลัยอาวรณ์  ผมนอนแผ่หงาย  หล่อนก้าวขาขึ้นคร่อมตรงกลางตัวผม ย่อขาลงเอาร่องฉ่ำน้ำที่เบิกอ้าเล็กน้อยจรดที่ปลายท่อนที่ชโลมด้วยน้ำหล่อลื่น  จากนั้นจึงวางน้ำหนักกด  กลืนท่อนเนื้อลงไป พร้อมๆ กับเสียงอา... ยาวของหล่อน

หล่อนไม่รอทำจากช้าไปเร็วแล้ว ทันทีที่ท่อนลำมุดเข้าไปในระหว่างกลีบร่องประดับด้วยขน ก็ควบขย่มอย่างหนักหน่วงรุนแรงต่อเนื่อง  เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่น หล่อนขย่มรุนแรงจนเต้านมทั้งสองแกว่งสะบัดไปมา  ฝ่ายผมก็เอื้อมมือไขว่คว้าบีบเคล้น  แล้วเลื่อนไปจับที่สะโพกที่สะบัดสะท้อนเป็นลอนตามจังหวะการกระแทก  จากลูบจับ เป็นบีบเคล้น  เริ่มมีเสียงซี้ดซ้าดด้วยความเสียวออกมาจากปากฝ่ายผมบ้างแล้ว

...จะเสร็จแล้ว พี่จะเสร็จแล้ว...

ผมได้ยินเสียงหล่อนอย่างนั้น ผมรู้งานใช้มือจับแน่นที่สะโพกแล้วกระแทกสวนขึ้นไป  หล่อนร้องอา ยาวอีกครั้ง  โหย่งตัวกระแทกร่องเนื้อเข้ากับท่อนเนื้ออย่างบ้าคลั่ง ผมเผ้ากระจายไม่เป็นทรง  ผมส่งเสียงร้องครางเสียวออกมา หล่อนกระแทกและตอดควย 8นิ้วของผมแรงๆ ส่งท้ายอีกชุดหนึ่ง แล้วจึงหยุด นั่งทับท่อนเนื้อ ร่างกายกระตุกสั่นอยู่อย่างนั้น  แล้วฟุบตัวลงกับอกของผม  ก่อนจะเงยหน้าดูดปากกับผมอย่างสุขสม


       แสงแดดยามสาย ปลุกผมขึ้นมา พยายามคิดว่าผมมานอนอยู่ที่นี่ได้อย่างไร อาการปวดหัวแทรกขึ้นมาเป็นริ้วๆ จนต้องกุมขมับบีบคลึงให้หายปวด ผมจำได้ว่ายศชวนมางานเลี้ยง แล้วผมก็ดื่มไปหลายแก้ว แค่มึนๆ กรึ่มๆ ไม่ได้เมาจนไม่รู้เรื่อง ผมมองที่เตียงรอบตัวผ้าปูที่นอนยับย่น เมื่อคืน....

       จริงซิ เมื่อคืน ผมทำอะไร กับใคร

       ใจหายแล้วกลับเต้นแรง บทรักเร่าร้อนบนเตียงนี้ ใช่แล้ว ผมไม่ได้ฝันไป และไม่ได้เมามากจนจำอะไรไม่ได้ แต่เมากำลังได้ที่ชนิดที่ไม่อาจเหนี่ยวรั้งตัวเองให้หยุดการกระทำนั้นยามถูกกระตุ้น ถูกสัมผัสลูบไล้ ผมก็พร้อมที่จะทะยานไปตามแรงต้องการของสัญชาตญาณดิบเถื่อนที่ผู้ชายทุกคนมี

       แล้วนี่ คุณแก้ว...

       "คุณแก้ว คุณแก้วครับ" ผมลุกขึ้นตามหา แต่ไม่มีแม้เงา เธอไปแล้ว แล้วนี่ผมจะมีปัญหาไหม หากคุณแก้วไปบอกยศว่าโดนผมปลุกปล้ำ จะทำยังไงกัน ถ้ามันเป็นอย่างนั้นงานนี้ผมซวยแน่ๆ แต่ผมไม่ได้ปลุกปล้ำนะ เธอเต็มใจเธอเป็นฝ่ายเสนอผมเอง ถ้าผมไม่สนองก็คงถูกผู้หญิงหัวเราะเยาะ ผมอาจจะถูกมองว่าเป็นตุ๊ด

       สารพัดความคิดที่พลุ่งพล่านอยู่ในสมอง ผมแต่งตัวไปคิดวิตกกังวลไป ก่อนจะออกจากห้อง ผมหันไปเห็นเสื้อสูทพาดอยู่ที่เก้าอี้ ผมต้องเอาไปคืนยศ แต่ไม่รู้ว่ายศอยู่ที่ไหน เก็บไว้ก่อนแล้วกัน แล้วค่อยนัดเจอและคืนให้

       ผมมองตัวเองในกระจกดูความเรียบร้อยก่อนออกจากห้อง เสื้อเชิ้ตที่ใส่อยู่ยับยู่ยี่หมดแล้ว เดินออกไปแบบนี้ คนต้องมอง ผมจึงสวมสูททับจะได้ไม่มีใครเห็น ในกระเป๋าสูทมีซองอะไรสักอย่าง จำได้ว่าตอนใส่ครั้งแรกไม่มีอะไรในกระเป๋านะ

        พอผมหยิบซองออกมาแล้วเปิดดูข้างในก็ต้องตกใจ มันเป็นเงินธนบัตรใบละพันจำนวนห้าใบ อยู่ในซองนั้น !


        หลายวันหลังจากนั้น ผมรอให้ยศโทร.มา แต่เพื่อนก็เงียบหายไป ครั้นผมจะโทร.ไปหา ก็มีชนักติดหลังไม่กล้าบอกเพื่อนว่าทำไมคืนนั้นผมไม่ได้เอาเสื้อไปคืน แต่ยังไงๆ ผมต้องหาคำตอบให้ได้ว่าคืนนั้น มันเกิดอะไรกันแน่

       ในที่สุดผมก็ตัดสินใจโทร.ไปหายศ บอกเพียงว่าขอนัดเอาเสื้อไปคืน ยศตอบตกลง ไม่ได้ซักถามอะไรเกี่ยวกับเสื้อ

       เย็นวันศุกร์ ที่เบียร์การ์เด้นใจกลางเมือง ผมยื่นเสื้อสูทที่ซักแห้งเรียบร้อยแล้วส่งให้เพื่อน

       "คืนนั้น นายบอกเบอร์ห้องผิดหรือเปล่า ฉันเลยไม่ได้คืนเสื้อ"

       "ไม่ผิด ทำไมหรือ"

       "เอ่อ คือ .." ผมไม่รู้จะบอกเพื่อนยังไง "มี ..คนอื่นอยู่ในห้องนั้นด้วย"

      "ใคร"

       ผมลดเสียงลงมาเป็นกระซิบ "คุณแก้ว"

       "แล้วไง" ท่าทางยศดูจะไม่แปลกใจ ผมชะงักก่อนจะตัดสินใจว่าผมต้องเคลียร์เรื่องนี้ให้ได้ ถ้าผมยังคงเก็บความสงสัยไว้แบบนี้ ผมคงต้องอัดใจตายแน่ๆ

       "เธอ เอ่อ มานัวเนียกับฉัน  แล้ว..."

       ยศยิ้ม รอให้ผมพูดต่อ

       "แล้วมันก็เลยเถิดกันไป ฉันไม่สบายใจเลยว่ะ คุณแก้วเธอจะหาว่าฉันทำมิดีมิร้าย เอาเรื่องฉันไหมนี่" ผมโพล่งทั้งหมดออกไป

       "คุณแก้วเธอคงเมา นายก็เมา คงไม่มีใครจำอะไรได้"

       ผมมองหน้าเพื่อน

        "นายรู้เรื่องนี้ใช่ไหม ท่าทางสนิทสนมกัน เธอเล่าอะไรให้นายฟังหรือเปล่า"

       "ไม่ต้องคิดมากหรอกนะ ต่างคนต่างพอใจ มีความสุข แล้วก็ลืมมันไปซะ"

        "แล้วสามีคุณแก้วจะไม่มาเล่นงานฉันหรอกหรือ"

       "แม่ม่าย ผัวตาย ขี้เหงา" เป็นคำตอบที่ทำให้ผมพอจะหายใจทั่วท้องขึ้นมาบ้าง

       "ไม่มีปัญหาแน่นะ แต่ถ้าคุณแก้วเขาไม่พอใจจะเอาเรื่อง จะให้ฉันไปขอโทษ ขอขมาอะไรก็ได้นะ" ผมยังคงเดือดร้อนกับเรื่องนี้

       "ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวช่วยเคลียร์ให้"

       "อ้อ อีกเรื่องนึง นี่เงินห้าพันของนายใช่ไหม" ผมควักเงินออกมา "ฉันเจออยู่ในกระเป๋าเสื้อสูท นายลืมทิ้งไว้หรือเปล่า"

       "เปล่านะ ก่อนส่งร้านซักแห้ง ฉันตรวจทุกกระเป๋าแล้ว ไม่ลืมอะไรหรอก ยิ่งเป็นเงินแล้วไม่มีทางลืม"

       "อ้าว ถ้างั้นของใครล่ะ"

       "ไม่รู้ซิ ถ้าหาเจ้าของไม่ได้ ก็เก็บไว้เองเหอะ ตั้งห้าพัน ช่วยค่าห้องเช่าไปได้เกือบสองเดือน"

       จริงอย่างยศว่า ผมเก็บเงินคืนใส่กระเป๋า

       "ถ้ามีปาร์ตี้คราวหน้า อยากไปอีกไหม" ยศหยั่งเสียงผม

       "ก็สนุกดีนะ กินฟรี ดื่มฟรีไม่อั้นแบบนั้นใครจะไม่ชอบ แต่ฉันไม่ได้ช่วยงานนายเลยนะ"

       "พวกลูกน้องเขาเตรียมเสร็จหมดแล้ว แต่ปาร์ตี้แต่ละครั้งก็ไม่เหมือนกันหรอก งานเล็กบ้างใหญ่บ้างไม่ใช่จัดในโรงแรมหรูทุกครั้ง"

       "ก็ได้ บอกมาแล้วกัน จะไปช่วย"


        มันเป็นวันทำงานกลางอาทิตย์ที่น่าเบื่อวันหนึ่ง แล้วจู่ๆ มือถือของผมก็ดังขึ้น ดูเบอร์ที่หน้าจอแล้วไม่คุ้นแต่ผมก็กดรับ

       "สวัสดีค่ะ ขอสายนิวค่ะ"

       "ครับ กำลังพูด" ผมนึกแปลกใจที่ทางปลายสายเรียกชื่อเล่นผม

       "นี่พี่เองค่ะ พี่แก้ว จำได้ไหม"

        ผมสะดุ้งสุดตัวกับชื่อนั้น ทำไมจะจำไม่ได้ เหตุการณ์คืนนั้นเพิ่งผ่านมาไม่ถึงอาทิตย์ นี่ผมจะซวยงานนี้กระมัง

       "เอ่อ ค..ครับ จำได้" ผมตอบแล้วลุกเดินออกไปคุยนอกห้องทำงาน ไม่อยากให้ใครรู้เรื่องราวระหว่างผมกับพี่แก้ว

       "คือ พี่คิดถึงนิว เราเจอกันอีกได้ไหม"

         "เจอกัน !? " ผมอุทานออกไป ชักจะเริ่มเครียด นี่หล่อนจะนัดผมไปเคลียร์หรือยังไง "คือ เรื่องคืนนั้นผมเมา ไม่ได้ตั้งใจ ผมต้องขอโทษพี่ด้วยครับ"

       มีเสียงหัวเราะมาตามสาย

       "ใครเขาไปว่าอะไรนะ ก็เป็นเพราะคืนนั้นน่ะซิ พี่ถึงได้คิดถึงนิวตลอดเวลา"

        ผมอึ้งไปกับคำตอบนั้น

       "มาเจอพี่สักครั้งเถอะนะ รึว่าจะให้พี่ไปหาที่ทำงาน"

       เจอไม้นี้ มันทำให้ผมต้องรีบปฏิเสธทันทีทันควัน

       "โอะ ไม่ ไม่ต้องครับ ผมไปหาพี่เอง สะดวกแถวไหนหรือครับ"


       สถานที่นัดพบคือร้านอาหารแถบชานเมืองที่ไม่พลุกพล่านนัก คุณแก้วนั่งรออยู่ก่อนแล้ว ผมเดินเข้าไปนั่งตรงข้ามแล้วยกมือสวัสดีผู้อาวุโส

       "สวัสดีครับพี่" ผมยังไม่ค่อยกล้าสบตา รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ กับความผิดบาปที่ทำลงไปแต่ก็พยายามทำใจดีสู้เสือ

       "หิวไหม อยากทานอะไรก็สั่งนะ" น้ำเสียงของผู้ใหญ่ใจดีนั้นช่วยให้ผมคลายใจลงได้บางส่วน

        "คืนนั้น ผมต้องขอโทษพี่ ผมเมา..แล้ว..." ความรู้สึกผิดทำให้ผมต้องพูดออกไป

        คุณแก้วเอื้อมมือมาแตะหลังมือผมเป็นเชิงปลอบ

       "ไม่ต้องคิดมาก พี่ก็เมา คนเมาสองคนมาเจอกัน สนุกดีออก จริงไหม"

        แล้วเธอก็ตักอาหารทานเล่นมาใส่จานผม พร้อมทั้งเชิญชวนให้ชิมอาหารอร่อยที่ทยอยกันมาเสิร์ฟ 3-4 อย่าง เบียร์เย็นเป็นวุ้นช่วยทำให้ผมคลายความร้อนรุ่มในความผิดที่ก่อไปได้บ้าง

       พอเริ่มอิ่มกันแล้ว คุณแก้วก็ขยับย้ายที่นั่งจากฝั่งตรงข้ามมานั่งข้างๆ ผม และพูดเบาๆ พอได้ยินกันสองคนว่า

       "นิวไม่ต้องคิดมากนะ พี่ชอบนิว คืนนั้นนิวไม่ได้ทำผิดต่อพี่แม้แต่น้อย ตรงกันข้าม นิวทำให้พี่มีความสุขมาก มากจนพี่อยากจะขอบคุณนิวด้วยซ้ำ"

       ผมมองสบตาคนข้างๆ อย่างจะย้ำให้มั่นใจ

       "ยศบอกนิวแล้วใช่ไหมว่าพี่ไม่มีใคร ไม่มีเจ้าของหรือใครที่จะมาหึงหวงพี่แล้วเอาเรื่องกับนิว สบายใจได้ พี่เป็นตัวของพี่เองมีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ตามที่ใจปรารถนา"

      พี่แก้วเอื้อมมือมาบีบมือผม มองด้วยสายตาเว้าวอนก่อนจะสารภาพออกมาว่า

"พี่เหงา พี่อยากมีใครสักคนที่เป็นคนดี ไม่เอาเปรียบพี่ ใครที่ทำให้พี่รู้สึกอบอุ่น มีความสุขยามอยู่ใกล้ พอพี่เจอนิว พี่ก็รู้ทันทีว่านิวคือคนที่ใช่"

        "แต่ ผม ผมไม่มีอะไรจะดูแลพี่ได้เลยนะครับ"

        "นิวไม่ต้องดูแลพี่ ขอพี่เป็นฝ่ายดูแลนิว พี่จะไม่บังคับ ไม่เรียกร้องถึงขนาดว่าจะต้องอยู่กินกัน ขอแค่เราเจอกันเป็นครั้งคราว มีความสุขด้วยกัน ไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือต่างประเทศ หรือถ้านิวจะมีแฟน พี่ก็ไม่หวงห้าม ขอแค่แบ่งเวลามาให้พี่บ้าง"

        ผมนิ่งไป คิดถึงสิ่งที่คุณแก้วขอ

       "พี่คงไม่ได้ขอมากไปใช่ไหม"

       หลังอาหารมื้อนั้น คุณแก้วพาผมไปยังคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง คงไม่ต้องบอกว่าเกิดอะไรขึ้นที่คอนโดฯ แห่งนั้น


       หลายคืนที่ผมนอนไม่หลับ ถามตัวเองซ้ำๆ ว่ากำลังทำอะไร กำลังหาเรื่องใส่ตัว หรือกำลังเล่นกับไฟ ?

        ตอนนี้ผมเริ่มปะติดปะต่อเรื่องราวทั้งหมดได้แล้ว ยศ คือตัวไขปริศนาทั้งหมด ตั้งแต่ชวนผมไปสนุกกับงานปาร์ตี้ ให้ผมเอาเสื้อสูทไปคืนในห้องที่มีคุณแก้วนอนรอผมอยู่ และเงินห้าพัน นั่นคือค่าตอบแทน

       ยศก็คงอยู่ในสถานะที่ไม่ต่างจากผม รถหรูราคาหลายล้าน ใส่เสื้อผ้าดีๆ นาฬิกาเรือนหรู ได้เข้าสังคมมีระดับ สิ่งเหล่านี้ ยศได้มาอย่างไร ผมไม่ต้องถามเพื่อนอีกต่อไปแล้ว

       คำขอของคุณแก้วที่ผมไม่กล้าปฏิเสธออกไป มันทำให้ผมรู้สึกคล้ายตกกะไดพลอยโจน เอาเถอะ จะลองดูสักตั้ง ถ้าทำไปแล้วดูจะมีปัญหาก็ถอย ผมเป็นผู้ชาย ไม่เสียหายอะไรและถ้าคิดแบบผู้ชายเห็นแก่ตัว ผมก็มีแต่ได้กับได้


    คุณแก้วหายเงียบไปอาทิตย์หนึ่ง แล้วจู่ๆ ก็โทร.มาชวนผมไปเที่ยวภูเก็ต ผมยังไม่เคยไปมาก่อนแต่ก็นึกภาพออกถึงน้ำทะเลสีฟ้า ผมไม่ได้ไปเที่ยวทะเลมาหลายปี อาจจะสิบปีแล้วกระมัง

    แต่ปัญหาของผมคือ ตอนนี้ผมลางานไม่ได้ ผมยังมีงานประจำที่ต้องรักษาไว้

    "คือถ้าไปวันธรรมดา ผมต้องลางานนะครับพี่"

    "ถ้างั้น เสาร์ อาทิตย์ก็ได้" คุณแก้วพูดง่าย ตามใจผมตลอด

    และแล้วตอนเช้าวันเสาร์ ผมก็มีโอกาสได้บินลัดฟ้าไปเห็นทะเลภูเก็ต ห้องพักของโรงแรมหรูหันหน้าสู่วิวทะเลอย่างที่ผมต้องขอออกไปยืนชมทะเลที่ริมระเบียงอยู่นานๆ

    "ทะเลสวยจังเลยครับพี่" ผมหันมาบอกคุณแก้วที่เดินเข้ามาโอบกอดผมจากทางเบื้องหลัง

    "แล้วไม่อยากลงไปเล่นน้ำทะเลหรอกหรือ"

    "อยากซิครับ" ผมตอบอย่างกระตือรือร้น

    "ถ้างั้นมาดูนี่ มาดูว่าพี่ซื้ออะไรมาให้" แล้วเธอก็จูงมือผมมาที่กระเป๋าเดินทางใบหนึ่งที่เปิดอ้าอยู่ที่พื้นพรมของห้อง ผมจำได้ว่าช่วยคุณแก้วลากกระเป๋าทั้งสองใบนี้มา แต่ไม่นึกว่าหนึ่งในนั้นคือกระเป๋าที่คุณแก้วตั้งใจจะให้ผม

    "เสื้อผ้า ข้าวของในกระเป๋าใบนี้ทั้งหมด พี่ซื้อมาให้นิว"

    ผมอ้าปากค้าง นี่มันอะไรกัน ผมทรุดตัวลงนั่งข้างๆ กระเป๋า หยิบเสื้อผ้าที่มีทั้งเสื้อยืดโปโล กางเกงขายาวผ้าลินินสีขาว กางเกงขาสั้น เสื้อเชิ๊ตฮาวายลวดลายและสีสดใสสำหรับมาเที่ยวทะเล ทุกชิ้นล้วนแล้วแต่เป็นของใหม่เพราะยังมีป้ายราคาติดอยู่

    "ขอบคุณครับพี่" ผมยกมือไหว้ ปลาบปลื้มกับเสื้อผ้าดีๆ ทั้งกระเป๋าใบนั่น

    "แล้วนี่  กางเกงว่ายน้ำของนิว" คุณแก้วหยิบกางเกงว่ายน้ำแบบบิกินีสีสดออกมาจากกองเสื้อผ้า ผมต้องสารภาพว่าไม่เคยมีกางเกงว่ายน้ำกับเขามาก่อน สระว่ายน้ำก็ไม่เคยลง เคยแต่นุ่งกางเกงขาสั้นกระโดดลงคลองที่บ้านนอก

    "เอาไปใส่ แล้วเราลงไปเล่นน้ำกัน"

    ผมคว้ากางเกงแล้วเดินเข้าห้องน้ำ แต่พอใส่เสร็จ ผมไม่กล้าเดินออกมา

    "เสร็จรึยัง นิว" คุณแก้วมาเรียกที่หน้าห้องน้ำ

    "คือ มันตัวเล็กมากเลยครับ"

        "ไหนออกมาให้พี่ดูซิ"

        ผมนุ่งผ้าเช็ดตัวปิดไว้ ค่อยๆ กระมิดกระเมี้ยนเดินออกมา กางเกงว่ายน้ำตัวเล็กจิ๋วมันไม่ได้ปกปิดควยผมเลยทั้งหมอยทั้งหัวควยโผล่ซะอายเลยก็ควยไม่ได้เล็กเนอะ

        "ไหน เล็กยังไง พี่ซื้อมาผิดขนาดหรือ" ไม่ถามเปล่า เธอดึงผ้าเช็ดตัวออกแล้วก็ทำตาลุกวาวกับภาพที่เห็นตรงหน้า "โอ ว้าว" แล้วก็หัวเราะคิกออกมา "มันเล็กไปจริงๆ เอาเถอะถ้าใส่ไม่ได้ก็ไม่ต้องลงไปเล่นน้ำ เราเล่นอย่างอื่นกันดีกว่า"

        จนบ่ายแก่ เราถึงจะได้ทานข้าวกลางวัน คุณแก้วพาผมไปเดินเลือกซื้อกางเกงว่ายน้ำตัวใหม่ภายในศูนย์การค้าเล็กๆ ของโรงแรม แล้วผมก็ได้ว่ายน้ำทั้งในสระว่ายน้ำและในทะเล

        ช่างเป็นทริปที่วิเศษสุด ผมมีความสุขอย่างเหลือเกิน

        อีกเดือนถัดมา คุณแก้วก็พาผมไปเที่ยวต่างประเทศเป็นครั้งแรก เกาหลีและต้องเย็ดปล่อยในให้คุณแก้วเสียวทุกคืนแบบอิ่มหีไปเลย

        มันทำให้โลกทัศน์ของผมเปิดกว้าง บรรยากาศและอากาศหนาวเย็นแตกต่างจากเมืองร้อนของบ้านเรา ผมรู้แล้วว่าทำไมคนไทยชอบไปเที่ยวต่างประเทศ


       วันหนึ่งคุณแก้วโทร.มาบอกผมว่า

       "พี่จะซื้อรถให้นิวนะ"

       "อะไรนะครับ ซื้อรถ" ผมตื่นเต้นกับของขวัญชิ้นใหม่ แต่แล้วก็ฉุกใจคิดว่าถ้าผมมีรถขับ คนที่ทำงานก็ต้องสงสัยว่าพนักงานระดับล่างเงินเดือนน้อยอย่างผม จะเอาปัญญาที่ไหนมาซื้อรถ

       "ขอบคุณพี่มากครับ แต่ผมไม่อยากให้คนที่ทำงานสงสัย"

       "ก็ลาออกไปซะเลยซิ" คุณแก้วสะบัดเสียงฉุนเฉียว "ทุกวันนี้พี่ก็มีเงินเดือนให้ ไม่เห็นต้องง้องานเลย เงินเดือนก็น้อย จะไปไหนด้วยกันทีก็ลางานลำบาก"

       ผมอึ้งไป หลังๆ มานี่ คุณแก้วเริ่มหงุดหงิดบ่อยครั้งและมีคำพูดที่ดูจะรักษาน้ำใจกันน้อยลงเรื่อยๆ

      "ถ้านิวมีรถ จะได้มาหาพี่ไม่ผิดเวลา ไม่ใช่มัวแต่ยืนคอยรถเมล์ อีกอย่างนะ พี่ไม่อยากให้นิวไปเบียดกับคนบนรถเมล์ เหม็นเหงื่อสกปรก"

       ผมสะอึกกับคำพูดนั้น

      "เวลาผมไปหาพี่ ผมก็อาบน้ำสะอาดทุกครั้งและนั่งแท็กซี่ไปนะครับ"

      ดูเหมือนคุณแก้วจะรู้สึกตัว เธอทอดเสียงอ่อนลงว่า

      "พี่ก็ไม่ได้ว่านิวสกปรก แต่พี่ไม่อยากให้นิวลำบาก"

      "เรื่องรถ ถ้าพี่จะกรุณา ผมก็ขอบคุณมาก แต่ขอเป็นรถมือสองคันเล็กๆ ก็ได้ครับ" ผมไม่อยากโต้เถียงอีก

       "นี่ล่ะนิวของพี่ ไม่เคยโลภ ไม่เคยเรียกร้องหรืออยากมีอยากได้อะไรเลย พี่ถึงได้รักนิวมากๆ รู้ไหม" เสียงหวานๆ และคำบอกรักนั้นทำให้ผมสบายใจขึ้น

       แล้วผมก็ได้รถญี่ปุ่นมือสอง สภาพดีมาขับให้คนที่ทำงานมองตาโต พวกสาวๆ ในออฟฟิศเริ่มแลหางตามามองผมกันแล้ว แน่นอนต้องมีความสงสัยตามมาว่าผมเอาเงินที่ไหนมาซื้อรถ ผมเลยต้องโกหกว่า ซื้อต่อจากญาติ เขาลดราคาให้ถูกพิเศษแถมผ่อนระยะยาว

       ผมมาคิดๆ ดูแล้วว่า การที่ผมมีอาชีพเสริมแบบนี้ มันทำให้ผมต้องหลบซ่อน ต้องโกหก ซึ่งผมกลัวว่าสักวันหนึ่งความลับนี้จะถูกจับได้แล้วผมจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน อีกทั้งมันน่าเหนื่อยเหลือเกินกับชีวิตสองด้าน ถึงมีเสื้อผ้าดีๆ แบรนด์ดัง ผมก็ต้องเก็บแอบไว้ใส่ตอนไปกับคุณแก้ว พอวันทำงาน ผมก็ต้องทำตัวซอมซ่อแบบเดิม

       นี่คือชีวิตที่ผมเลือกหรือ แล้วผมจะมีชีวิตแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่

       แต่ไม่นาน ผมก็มีคำตอบให้กับตัวเอง

       คุณแก้วหงุดหงิดใส่ผมบ่อยขึ้น จนบางครั้งเรามีปากเสียงกัน ผมคิดว่าผมควรพิจารณาตัวเองได้แล้วว่าจะคงความสัมพันธ์นี้ต่อไปไหม

       วันหนึ่ง หลังจากผมคิดไตร่ตรองอยู่นาน ผมก็เอารถไปคืนคุณแก้ว

       "ผมคิดดีแล้วครับพี่ เราจากกันด้วยดีเถอะนะครับ"

        คุณแก้วสะดุ้ง เบิกตากว้างมองผมด้วยความแปลกใจ ไม่คาดฝัน

       "ผมกราบขอบพระคุณพี่แก้วที่ได้ชุบชีวิตผมให้เป็นคนใหม่ พี่สอนสิ่งดีๆ มอบโอกาสดีๆ ให้ผม อย่างที่ผมไม่เคยคิดฝันว่าจะได้รับ ผมจะไม่มีวันลืมบุญคุณนี้เลยครับ"

       คุณแก้วรับกุญแจรถคืนไปพร้อมกับทำตาแดงๆ

       "พี่ก็จะไม่ลืมนิวเช่นกัน ขอให้นิวโชคดีนะ"

       เพียงเวลา 5 เดือน ผมกับคุณแก้วจบลงง่ายๆ แบบนี้เอง ตอนนี้ผมมีบทเรียนแล้วและจะไม่ยอมตกอยู่ในสภาพที่เป็นเบี้ยล่างของใคร ไม่ว่าหญิงหรือชาย ผมกลับไปเป็นมนุษย์เงินเดือนอย่างเดิม แม้บางครั้งจะรู้สึกโหยหาชีวิตช่วงหนึ่ง ช่วงเวลาที่มีความสุขราวกับพระราชา ได้กิน ได้เที่ยวมีเงินใช้เต็มมือ ทุกครั้งที่ผมเปิดตู้แล้วเห็นเสื้อผ้าดีๆ ที่ไม่มีโอกาสใส่เหล่านั้น ภาพความหลังก็ย้อนกลับมา แม้แต่กางเกงว่ายน้ำตัวเล็กนั่น ผมก็ยังเก็บไว้

       ไม่กี่วันต่อมา ยศโทร.มาหาผม

       "เป็นไงบ้าง" เพื่อนทักขึ้น ดูเหมือนผมไม่ต้องพูดต้องเล่าอะไรมาก

       "อาจจะไม่สุขกายนัก แต่ก็สบายใจว่ะ "

       "แล้วไง กลับไปใช้ชีวิตเดิมๆ ?"

       "ก็อยู่ได้ เคยอยู่มาแล้ว ก็อยู่แบบนี้ต่อไป"

       "นายอดทนเก่งนะ เป็นฉัน ให้กลับเบียดคนบนรถเมล์ ไปกินข้าวแกงข้างถนน คงไม่ไหวแล้วล่ะ"

        "นายโชคดี เธอคนนั้นคงจะดีกับนายมากซินะ" พูดไปแล้ว ผมก็นึกขึ้นได้ "เอ่อ ไม่ได้หมายความว่าคุณแก้วเธอไม่ดีกับฉันนะ ฉันแค่อยากเป็นอิสระ"

       "ทำแบบอิสระก็ได้นี่ เป็นนายตัวเอง ตั้งกติกาให้ตัวเอง ไม่ผูกมัดกับใครก็ได้"

        ผมนิ่งไป ลังเลในความคิดบางอย่าง

        ในที่สุดผมก็ตัดบทไปว่า "ขอบใจนะเพื่อน ที่แนะนำให้ฉันได้มีโอกาสดีๆครั้งหนึ่งในชีวิต คนอย่างเรามันคงต้องเลือกปากท้องมาก่อนใช่ไหม" ตอนท้ายผมประชดตัวเอง   

       "อย่างที่ฉันเคยบอก คนเรามันอยู่ที่จังหวะและโอกาส ถ้ามันมีโอกาสผ่านมา จะคว้าหรือไม่ ก็ลองคิดดู"

        "แต่โอกาสสำหรับเด็กบ้านนอก ไม่ได้เรียนสูง มันคงต้องดิ้นรนเยอะกว่าคนอื่น"

       "มันถึงต้องใช้วิธีลัดยังไง"

       ก่อนจะวางหู ยศถามผมว่า "เบอร์โทร.ของนาย อนุญาตไหม ถ้ามีใครสนใจติดต่อมา"

        วันนั้นผมไม่ตอบคำถามเพื่อน แล้วจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยติดต่อกันนานเป็นเดือน ผมยุ่งอยู่กับงานประจำแถมพ่อที่บ้านนอกก็ล้มป่วย เป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากสำหรับผมพอสมควร ผมรวบรวมเงินเก็บทั้งหมดที่มีไปใช้รักษาพ่อจนท่านหายเป็นปกติ มันทำให้ผมระลึกถึงบุญคุณคุณแก้วที่ทำให้ผมมีเงินก้อนนี้ แล้วมันทำให้ผมคิดต่อไปถึงอนาคตข้างหน้า ความมั่นคงทางการเงินที่ผมไม่มี

       เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมมองหน้าจอ เป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นเคย พอผมกดรับ

       "ขอสายคุณนิวค่ะ"

       "ครับ กำลังพูด"

       "พี่ได้เบอร์คุณมาจากคุณยศ"

       เพียงแค่นี้ ก็ไม่ต้องอธิบายอะไรกันให้มากความอีกแล้ว ผมสูดลมหายใจลึกแล้วตัดสินใจตอบว่า

      "มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ"
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2025-9-19 12:34 , Processed in 0.083300 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2025 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้