ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 122|ตอบกลับ: 4

เมื่อผมข้ามมิติและต้องแต่งงานกับผู้ชาย 4 คนพร้อมกัน Ch.19

[คัดลอกลิงก์]

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
204
ตอบกลับ
50
พลังน้ำใจ
7891
Zenny
34496
ออนไลน์
2470 ชั่วโมง




ทุ่งกว้างเขตชายแดน ถูกใช้เป็นที่ปักหลักของเหล่ากองทัพมังกรดำ ขุนศึกนับหมื่นนายกระจายกำลังตรึงอยู่ทั่วพื้นที่ ค่ายพักทหารถูกตั้งเรียงรายไล่ไปตามแนวพรมแดน ไฟคบเพลิงส่องแสงสีส้มลอดออกมาจากเต็นท์บัญชาการที่ยืนเด่นกลางลานดินอันหนาวเหน็บ โดยมีผู้บัญชาการใหญ่คือเอลเซียน สวามีลำดับที่หนึ่งของรัชทายาทผู้เป็นหัวใจกลางเกมนี้


เสียงธงประจำกองพลโบกสะบัดเหนือค่ายพักในยามราตรี สายลมหนาวจากเขตแดนด้านตะวันตกพัดโหมจนได้กลิ่นดินชื้นและไอโลหิตที่ฝังลึกในผืนแผ่นดินแห่งนี้


เอลเซียนยืนนิ่งอยู่หน้าโต๊ะบัญชาการ แผนที่ชายแดนผืนใหญ่ถูกกางไว้เต็มโต๊ะ มีหมุดกำกับจุดเคลื่อนไหวของหน่วยลาดตระเวนที่กระจายกันตรึงแนวรบ


เขาลากปลายนิ้วชี้ไปตามเส้นทางตะเข็บแดน ซึ่งซาร์เอลเคยกล่าวอ้างว่ามีภัยคุกคามและการเคลื่อนไหวของกองกำลังเถื่อน แต่จนแล้วจนรอด ข่าวจากหน่วยสอดแนมกลับไร้วี่แวว ทั้งคน ทัพ และข่าวลือ ราวกับไม่มีอยู่จริง


เอลเซียนไม่ได้ไว้ใจคำสั่งนี้ตั้งแต่แรก หากมันเป็นกับดักเพื่อดึงตัวเขาออกห่างจากเซย์เรน ก็ถือว่าซาร์เอลทำสำเร็จไปครึ่งหนึ่งแล้ว


แต่จะให้เขานิ่งเฉยก็ไม่ได้เหมือนกัน หากเขาฝืนกลับโดยไร้ข้อพิสูจน์ คนที่ถูกตราหน้าว่าละทิ้งหน้าที่จะไม่ใช่ใครนอกจากเขา และคนที่ถูกซ้ำเติมมากที่สุดก็ย่อมเป็นเซย์เรน


เอลเซียนสูดลมหายใจลึก ปล่อยให้ลมหายใจอุ่นกระทบเกราะเหล็กที่ยังไม่ถอดออกแม้แต่ยามพัก เส้นผมสีดำยาวถูกรวบไว้สูงเผยให้เห็นดวงตาคมที่ยังอ่านเกมอยู่เงียบ ๆ


เสียงฝีเท้าของทหารเวรเข้ามาใกล้ ก่อนผู้ช่วยคนสนิทจะก้าวเข้ามาโค้งตัวต่ำ


“ท่านแม่ทัพ ขอโทษที่รบกวนกลางดึก ข่าวจากแนวลาดตระเวนฝั่งตะวันตก รายงานว่ายังไม่พบการเคลื่อนไหวผิดปกติ”


เอลเซียนเพียงพยักหน้าเบา ๆ เสียงของเขานิ่งเย็น “ให้เพิ่มหน่วยสอดแนมเป็นสองเท่า แบ่งคนฝีมือดีเฝ้าแนวเทือกเขาตอนเหนือด้วย"


ผู้ช่วยรับคำสั่งแล้วถอยออกไป เอลเซียนยังคงยืนมองแผนที่นั้นนิ่งอยู่เป็นนาน ความคิดของเขาไม่ได้ผูกติดกับชายแดนเพียงอย่างเดียว แต่กลับวกวนกลับไปยังวังหลวงและคนที่เขาทิ้งไว้เบื้องหลัง


เขานึกถึงใบหน้าอ่อนล้าของรัชทายาทผู้โอบอุ้มทุกอย่างไว้คนเดียวมานานเกินไป หากไม่มีใครอยู่เคียงข้างในยามนี้ แล้วใครจะคอยยื้อเซย์เรนออกจากมือซาร์เอลได้?


มือหนาบีบแน่นที่ด้ามดาบประจำตัว ดวงตาแข็งกร้าวขึ้นท่ามกลางแสงคบเพลิงที่ไหววูบ


ต่อให้เป็นชายแดน หรือเกมของซาร์เอล หากเขาต้องแลกด้วยตำแหน่งหรือชีวิต เพื่อกลับไปยืนอยู่ข้างเซย์เรนอีกครั้ง... เขาก็ยอม


ไม่กี่อึดใจต่อมา เมื่อทุกอย่างรอบกายสงบนิ่งเกินเหตุ เหลือเพียงความเงียบเย็นเฉียบที่ทอดทิ้งไว้ เอลเซียนก้มมองแผนที่แนวชายแดนด้วยใบหน้าเคร่งขรึม ความคิดแผ่กว้างในหัวทีละชั้น แม้กองทัพแห่งนี้จะสร้างขึ้นด้วยอำนาจของเขาเอง และคนของเขาก็ภักดีอย่างไร้ข้อกังขา แต่เมื่อซาร์เอลเริ่มชักใยเข้ามาแทรกแซง ไม่อาจแน่ใจได้เลยว่าจะมีใครถูกซื้อไปแล้วกี่คน


แต่ในความเงียบนั้นเอง เอลเซียนกลับได้ยินเสียงบางอย่าง...


เสียงกระพือปีกแผ่วเบา ราวกับมีบางสิ่งลอยวนอยู่ใกล้เหนือหัว


เขาขมวดคิ้ว เงยหน้าจากแผนที่ช้า ๆ แล้วก็ต้องชะงัก ในเงามืดเหนือคบเพลิง เขามองเห็นสิ่งที่ไม่น่าจะปรากฏขึ้นได้ในค่ายทหารกลางชายแดน...


ผีเสื้อเรืองแสง ปีกบางเฉียบทอประกายม่วงราวอัญมณี สีเดียวกับตราประจำตัวเอลเซียนที่เขาใช้ในฐานะสวามีลำดับหนึ่ง


มันลอยวนอยู่เพียงลำพัง กลางลมหนาวที่ควรจะพัดพาสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ แบบนี้ไปนานแล้ว


“เวทสื่อสาร…” เอลเซียนพึมพำเสียงต่ำ ดวงตาคมวาบขึ้นด้วยความเข้าใจทันที มันไม่ใช่ผีเสื้อธรรมชาติ แต่เป็น เวทสื่อสารโบราณ ที่คนทั่วไปแทบไม่รู้จัก และในหมู่พวกเขา มีเพียงไม่กี่คนที่ร่ายเวทประเภทนี้ได้ หนึ่งในนั้นคือแรนทีล


ผีเสื้อเรืองแสงโบยบินลงมาตรงหน้าเขา ก่อนจะค่อย ๆ สลายตัวเป็นอักขระเรืองแสงลอยวนเป็นรูปวงเวทเล็ก ๆ


เสียงของแรนทีลแว่วออกมาจากวงเวทนั้น ชัดเจนราวกับคนกระซิบข้างหู


“…เอลเซียน ถ้าท่านเห็นสัญญาณนี้ แปลว่าแผนเริ่มแล้ว


อย่าเชื่อในสิ่งที่ซาร์เอลพูดทั้งหมด


หาช่องว่างกลับเมืองหลวงให้เร็วที่สุด แต่ต้องไม่ให้เขาสงสัย


ข้าจะชิงจังหวะจากฝั่งป่าต้องห้าม


เราจะกลับไปข้างเซย์เรน…พร้อมกัน”


เสียงนั้นขาดหายไปเมื่อวงเวทจางหายพร้อมละอองแสงสีม่วง เอลเซียนกำหมัดแน่น ความสับสนพลันถูกแทนที่ด้วยแรงฮึดที่ไม่เคยชัดเจนเท่านี้มาก่อน


แผนของซาร์เอลอาจดูรัดกุมจนไม่มีช่องว่าง แต่หากแรนทีลเริ่มลงมือจากอีกฝั่ง สิ่งที่เขาต้องทำคือไม่ปล่อยให้ตัวเองถูกล่ามอยู่ที่ชายแดนนี้ตลอดไป


เขายกมือแตะจี้โลหะเล็ก ๆ ที่ห้อยคอ เป็นตราสัญลักษณ์ประจำตัวของเซย์เรน ริมฝีปากที่เคยนิ่งสนิทคลี่ออกเป็นรอยยิ้มบางเฉียบ


“…รอก่อนนะ เซย์เรน คราวนี้จะไม่ปล่อยให้ท่านต้องอยู่ลำพัง”






...


ความเงียบในวังหลวงกลับมาเข้าปกคลุมอีกครั้ง วังที่เคยเต็มไปด้วยชีวิตชีวา บัดนี้กลับดูว่างเปล่า เฟลด์ผู้มีใบหน้าเคร่งขรึมและท่าทางระมัดระวัง กำลังตรวจตราความปลอดภัยรอบตำหนักของเซย์เรนอย่างไม่ลดละ ดวงตาของเขากวาดมองทุกซอกมุม ราวกับจะจับผิดแม้กระทั่งเงาที่เคลื่อนไหว สำหรับเฟลด์แล้ว เซย์เรนคือที่สุดของทุกสิ่ง และเขาพร้อมทำทุกอย่างเพื่อปกป้องคนสำคัญคนนี้


แต่แล้ว เสียงฝีเท้าที่ไม่คุ้นเคยก็ดังขึ้นจากด้านหลัง เฟลด์หันกลับไปเผชิญหน้ากับซาร์เอลที่กำลังก้าวเข้ามาใกล้ด้วยรอยยิ้มที่ดูเป็นมิตรเกินจริง


“ดูเหมือนเจ้าจะเคร่งเครียดเกินไปนะ เฟลด์” ซาร์เอลเอ่ยขึ้น น้ำเสียงราบเรียบแต่แฝงด้วยความหมายบางอย่าง “ระวังตัวขนาดนี้ ราวกับจะมีข้าศึกบุกมาถึงวังหลวงเชียว”


เฟลด์ไม่ได้โค้งคำนับ เขาเพียงยืนนิ่ง ดวงตาคมกริบจ้องตอบซาร์เอลอย่างไม่เกรงกลัว “ข้าทำตามหน้าที่ และหน้าที่ของข้าคือการคุ้มครองฝ่าบาทอย่างสุดความสามารถเท่านั้น” น้ำเสียงของเขาไร้อารมณ์ แต่แฝงความหนักแน่นที่ไม่ยอมอ่อนข้อ


ซาร์เอลหัวเราะเบาๆ “นั่นสินะ… แต่เจ้าเองก็ทำงานหนักมาตลอดหลายวัน ดูแลฝ่าบาทอยู่เพียงลำพัง หากปล่อยให้เจ้าล้มป่วยไปเสียอีกคน คงไม่ดี” เขาก้าวเข้ามาใกล้ขึ้นอีกเล็กน้อย ดวงตาจับจ้องใบหน้าของเฟลด์อย่างพินิจพิเคราะห์ “ข้าเพิ่งได้รับรายงานมาว่า มีช่องโหว่บางอย่างในระบบความมั่นคงของวังหลวง…โดยเฉพาะช่วงที่เหล่าสวามีไม่อยู่”


เฟลด์ขมวดคิ้ว ข่าวนี้ไม่เคยผ่านหูเขามาก่อน “ข้ายังไม่ได้รับแจ้งเรื่องนั้น”


“ก็เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้” ซาร์เอลยกยิ้มบาง รอยยิ้มที่เยียบเย็นยิ่งกว่าอากาศค่ำนี้ “และมันน่าเป็นห่วงไม่น้อย ข้าจึงอยากให้เจ้า…ในฐานะหัวหน้าหน่วยเงา ออกไปตรวจสอบด้วยตัวเอง”


หัวใจของเฟลด์เต้นระรัวในอก เขารู้ทันทีว่านี่คือแผนการของซาร์เอลที่จะดึงเขาออกไปจากเซย์เรน ทิ้งให้เซย์เรนอยู่เพียงลำพังโดยไม่มีผู้คุ้มกันที่ไว้ใจได้ ยิ่งไปกว่านั้น การถูกเรียกให้ไปตรวจสอบช่องโหว่ที่ไม่มีอยู่จริง อาจเป็นการถ่วงเวลาและตัดการติดต่อของเขากับไคเรนและแรนทีล


“แล้วถ้าข้าปฏิเสธเล่า?” เฟลด์ถามกลับด้วยน้ำเสียงท้าทาย แววตาคมกริบของเขาไม่ยอมหลบเลี่ยงสายตาของซาร์เอล


ซาร์เอลเลิกคิ้วเล็กน้อย รอยยิ้มยังคงประดับบนใบหน้า แต่ความเยียบเย็นในดวงตาเพิ่มขึ้น “คงไม่ดีต่อเจ้าเท่าไหร่หรอก เฟลด์ การขัดคำสั่งในช่วงเวลาที่ความมั่นคงของวังหลวงสั่นคลอนเช่นนี้…” เขาเว้นวรรค “…อาจถูกมองว่าไม่ภักดีได้นะ”


เฟลด์ยังยืดตัวตรงไม่อ่อนข้อ “ข้าภักดีต่อฝ่าบาทเท่านั้น และความปลอดภัยของพระองค์สำคัญที่สุด หากไม่มีข้าอยู่ข้างกาย ฝ่าบาทอาจตกอยู่ในอันตรายได้”


ซาร์เอลยิ้มกว้างขึ้นเพียงน้อย “ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น ข้าได้เตรียมคนของข้าเองไว้แล้ว องครักษ์พิเศษฝีมือดี พวกเขาจะดูแลฝ่าบาทได้ไม่ต่างจากเจ้า… หรืออาจดีกว่าด้วยซ้ำ” น้ำเสียงราบเรียบแต่เจือความข่มขู่ “เพื่อความปลอดภัยของฝ่าบาทและวังหลวง เราจะละเลยไม่ได้จริงไหม? เตรียมตัวให้พร้อม ข้าจะจัดกำลังให้เจ้าออกเดินทางยามรุ่งสาง”


ฝ่าไหล่ของเฟลด์ถูกตบเบา ๆ อย่างเอื้ออาทร แต่ภายในใจเขากลับตึงราวสายคันศร ขณะที่ซาร์เอลหันหลังจากไป ลมหายใจของเฟลด์หนักอึ้งด้วยความคับแค้น เขารู้ว่า ‘ช่องโหว่’ นั่นอาจมีอยู่จริงเพียงเพื่อเป็นกับดักเปิดทางให้ศัตรูเข้ามาใกล้ฝ่าบาทมากขึ้น


'จะปฏิเสธไปตรง ๆ ไม่ได้' เฟลด์กัดฟันแน่น ความร้อนใจวิ่งพล่านในอก


เขาพยายามสงบสติอารมณ์ ก่อนจะตัดสินใจได้ในที่สุด การปฏิเสธคำสั่งของซาร์เอลในสถานการณ์เช่นนี้เท่ากับการประกาศตัวเป็นศัตรูโดยตรง ซึ่งอาจนำอันตรายมาสู่เซย์เรนได้เร็วขึ้น


เฟลด์หันหลังกลับเดินไปยังมุมหนึ่งของตำหนักที่ลับตาผู้คน เขาเรียกหน่วยเงาคนสนิทสองสามคนออกมาจากเงามืด


“ข้ามีภารกิจให้พวกเจ้า” เฟลด์เอ่ยเสียงต่ำ สีหน้าจริงจัง “จงรีบออกไปสืบข่าวเรื่องช่องโหว่ความมั่นคงของวังหลวงที่ซาร์เอลอ้างถึง หากมีมูลความจริง ให้รีบกลับมารายงานข้าทันที แต่ถ้าไม่มี… ให้จับตาดูความเคลื่อนไหวของซาร์เอลและคนของมันอย่างใกล้ชิด และห้ามคลาดสายตาจากฝ่าบาทแม้แต่วินาทีเดียว”


“รับคำสั่งขอรับ!” หน่วยเงาตอบรับอย่างพร้อมเพรียง ก่อนจะสลายตัวไปในเงามืดอย่างรวดเร็ว


ไม่นาน หน่วยเงาคนหนึ่งกลับมาพร้อมรายงานที่ทำให้เฟลด์ขมวดคิ้วยิ่งกว่าเดิม “ท่านเฟลด์ขอรับ… ช่องโหว่นั้นมีจริง มีร่องรอยการลักลอบเข้าพื้นที่หวงห้าม และเหมือนมีความพยายามปกปิดร่องรอย…”


เฟลด์ขมวดคิ้วแน่นด้วยความกังวล รายงานนี้ทำให้เขายิ่งมั่นใจว่าวังหลวงไม่ปลอดภัยอย่างที่คิด และเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องไปตรวจสอบด้วยตัวเอง


ทันใดนั้นเอง ผีเสื้อเรืองแสงตัวหนึ่งก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าเฟลด์ มันมีปีกบางเฉียบที่ทอประกายสีเหลืองอ่อนนุ่ม สีเดียวกับตราประจำตัวของเขาในฐานะสวามีลำดับที่สี่ ผีเสื้อเวทสื่อสารที่แรนทีลร่ายไว้เพื่อเชื่อมโยงพวกเขาทุกคน


เฟลด์ช้อนมือรับผีเสื้อตัวนั้นไว้เบาๆ ความกังวลในแววตาพลันถูกแทนที่ด้วยความมุ่งมั่น เขารู้ว่านี่คือโอกาสเดียวที่จะส่งข่าวไปถึงสวามีคนอื่นๆ


เขาตั้งสมาธิ ถ่ายทอดข้อมูลทั้งหมดที่เขารับรู้ลงไปในผีเสื้อตัวนั้นอย่างรวดเร็วและกระชับที่สุด ตั้งแต่การมาของซาร์เอล แผนการที่ซาร์เอลพยายามดึงเขาออกไปจากเซย์เรน ไปจนถึงรายงานเกี่ยวกับช่องโหว่ความมั่นคงที่ยืนยันว่ามีอยู่จริง และความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของฝ่าบาทที่อาจถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยว


เมื่อถ่ายทอดข้อความเสร็จสิ้น ผีเสื้อสีเหลืองก็โบยบินขึ้นสู่ท้องฟ้า พุ่งทะยานไปในความมืดมิดอย่างรวดเร็ว เพื่อนำสารสำคัญไปถึงไคเรนและแรนทีล


'หวังว่าพวกท่านจะได้รับสัญญาณนี้... และกลับมาให้เร็วที่สุด'


หลังจากส่งสัญญาณผีเสื้อไปถึงคนที่เขาเชื่อใจ เฟลด์ก็รีบกลับมาตำหนักของเซย์เรนทันที แม้จะรู้ว่าต้องเตรียมตัวออกเดินทางในยามรุ่งสาง แต่เขาไม่สามารถทิ้งฝ่าบาทไว้ลำพังได้แม้แต่วินาทีเดียว เขาเดินตรวจตราห้องบรรทมและพื้นที่โดยรอบอย่างละเอียดถี่ถ้วนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ดวงตาคมกริบสอดส่องหาความผิดปกติทุกตารางนิ้ว


เซย์เรนคงจะหลับไปแล้วในห้องบรรทมที่เงียบสงบ แต่เฟลด์กลับรู้สึกว่าตัวเองไม่อาจข่มตาหลับลงได้เลย ความกังวลกัดกินหัวใจ เขาได้แต่ภาวนาให้ผีเสื้อสื่อสารไปถึงมือไคเรนและแรนทีลโดยเร็วที่สุด


ท้ายที่สุด เขาตัดสินใจเดินเข้าไปในห้องบรรทมอย่างแผ่วเบา ร่างสูงใหญ่ของเฟลด์ขยับตัวขึ้นไปบนเตียงกว้าง พยายามไม่รบกวนการนอนหลับของเซย์เรน เขานอนลงข้าง ๆ หันหน้าเข้าหาคนสำคัญที่กำลังหลับใหลอย่างอ่อนล้า


เฟลด์เอื้อมมือไปโอบร่างบอบบางเข้ามาใกล้ สูดดมกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่คุ้นเคยของเซย์เรนราวกับต้องการเก็บเกี่ยวความอบอุ่นไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดวงตาของเขาจ้องมองใบหน้าอ่อนเยาว์ที่ดูไร้เดียงสาในยามหลับใหล พลางยกมือขึ้นลูบไล้เส้นผมอย่างแผ่วเบา


‘ข้าจะไม่ยอมให้ใครแตะต้องท่านได้... ไม่ว่าซาร์เอลจะวางแผนอะไรไว้ก็ตาม’ เฟลด์คิดในใจอย่างหนักแน่น ความอบอุ่นจากร่างที่แนบชิดทำให้ความกังวลคลายลงได้บ้าง ทว่ามันก็เพียงชั่วคราวเท่านั้น


เขายังคงนอนเฝ้าอยู่ข้างกาย เป็นเงาที่ซื่อสัตย์ คอยปัดเป่าภัยร้ายที่อาจคืบคลานเข้ามาโดยไม่มีใครล่วงรู้ รอเพียงแสงแรกของรุ่งอรุณที่จะพาเขาออกไปตามคำสั่ง และรอข่าวตอบกลับจากเหล่าสวามีที่จะยืนยันว่าพวกเขากำลังกลับมา...


เมื่อแสงสีทองของอรุณรุ่งลอดเข้ามาทางหน้าต่าง เฟลด์ลืมตาขึ้นช้าๆ ความเหนื่อยล้าจากการอดนอนตลอดคืนยังคงเกาะกุม แต่หน้าที่เรียกหา เขารู้ว่าถึงเวลาต้องจากไปแล้ว


เขาขยับตัวลุกขึ้นจากเตียงอย่างแผ่วเบา พยายามไม่รบกวนการหลับใหลของเซย์เรนที่ยังคงซบหน้าอยู่กับหมอน ใบหน้าของฝ่าบาทดูซีดเซียว ดวงตาบวมช้ำจากการร้องไห้เมื่อวันก่อน ทำให้หัวใจของเฟลด์บีบรัด


ขณะกำลังจะก้าวลงจากเตียง มือเรียวเล็กก็เอื้อมมาคว้าคอเสื้อของเฟลด์ไว้เบาๆ ราวกับคนละเมอ เซย์เรนขยับตัวเข้าหา ซบหน้าผากที่ชื้นเหงื่อกับอกของเฟลด์ ลมหายใจอุ่นร้อนปะทะผิว ดวงตาที่ยังคงปิดสนิทมีหยาดน้ำตาไหลรินออกมา


“…ไม่…ไม่ไปได้ไหม…” เสียงละเมอแผ่วเบาหลุดรอดจากริมฝีปากบาง สั่นเครือไปด้วยความเจ็บปวด


เฟลด์ชะงัก เขามองใบหน้าเปื้อนน้ำตาของเซย์เรนอย่างอ่อนโยน ความรู้สึกผิดถาโถมเข้าใส่ แต่เขาก็รู้ว่าไม่มีทางเลือก


"ข้าไปไม่นานหรอก...ฝ่าบาท" เฟลด์กระซิบตอบเสียงนุ่ม พลางยกมือขึ้นลูบไล้กลุ่มผมของฝ่าบาทอย่างแผ่วเบา พยายามปลอบประโลม "อีกไม่นาน...ข้าจะรีบกลับมา"


เขากดจูบลงบนหน้าผากของเซย์เรนอย่างแผ่วเบาอีกครั้ง เป็นจูบที่เปี่ยมด้วยคำมั่นสัญญาและหน้าที่ ก่อนจะค่อยๆ คลายมือของเซย์เรนที่กำคอเสื้อเขาแน่นออกอย่างนุ่มนวล แล้วลุกจากเตียงอย่างเงียบเชียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ เขาเหลือบมองร่างบอบบางที่หลับใหลอย่างอ่อนแรงเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะเดินออกจากห้องบรรทมไป ทิ้งไว้เพียงความเงียบ และร่องรอยหยดน้ำตาบนหมอนที่ยังไม่แห้งดี


ทันทีที่ก้าวพ้นประตู เฟลด์ตรงไปยังหน่วยเงาที่ซ่อนตัวอยู่ภายในวังหลวงโดยไม่ลังเล แม้จะต้องออกไปทำภารกิจตามคำสั่งของซาร์เอล แต่เขาไม่มีวันยอมปล่อยให้เซย์เรนอยู่โดยไร้การคุ้มกันที่แท้จริง


“ข้าจะออกไปจากวังหลวงชั่วคราว” เฟลด์เอ่ยเสียงต่ำกับหัวหน้าหน่วยเงาที่ภักดีที่สุดของเขา


“พวกเจ้าจงกระจายกำลังเฝ้าระวังฝ่าบาทอย่างใกล้ชิดที่สุด อย่าให้คลาดสายตาแม้แต่วินาทีเดียว และที่สำคัญ… จงจับตาดูความเคลื่อนไหวของคนของซาร์เอลทุกฝีก้าว หากมีสิ่งใดผิดปกติแม้เพียงเล็กน้อย ให้รีบส่งสัญญาณแจ้งข้าทันที”


“รับคำสั่งขอรับ ท่านเฟลด์!”  หัวหน้าหน่วยเงารับคำอย่างหนักแน่น ก่อนจะแยกย้ายกันไปปฏิบัติหน้าที่อย่างเงียบเชียบและรวดเร็ว ราวกับเงาที่กลืนหายไปในความมืด


ไม่นานนัก แสงอาทิตย์ก็เริ่มสาดส่องไปทั่ววังหลวง เซย์เรนตื่นขึ้นพร้อมดวงตาที่บวมช้ำจากร่องรอยน้ำตาเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา แต่หน้าที่ของรัชทายาท ย่อมไม่อาจรอใครได้...






...


ณ ห้องประชุมสภาอันโอ่อ่า เหล่าขุนนางชั้นผู้ใหญ่ต่างนั่งประจำที่ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด การประชุมดำเนินไปท่ามกลางความตึงเครียดว่าด้วยปัญหาภัยแล้งที่กำลังคุกคามหลายพื้นที่ของอาณาจักร


“ภัยแล้งครั้งนี้รุนแรงกว่าทุกปีขอรับ” ขุนนางผู้หนึ่งเปรยขึ้น “พืชผลเสียหาย ประชาชนอดอยาก หากไม่เร่งหาทางแก้ไข อาจลุกลามเป็นความวุ่นวายได้”


ท่ามกลางบรรยากาศกดดัน ซาร์เอลลุกขึ้นยืนด้วยท่วงท่าสง่างาม ใบหน้าประดับรอยยิ้มที่ดูจริงใจ แต่แฝงประกายบางอย่างที่ยากจะหยั่งถึง


“ข้าเห็นด้วยว่าปัญหานี้มิอาจเพิกเฉยได้” ซาร์เอลเอ่ยเสียงดัง ฟังชัดถ้อยชัดคำ “ในฐานะที่ข้าเคยออกไปดูแลกิจการภายนอกอยู่บ่อยครั้ง ข้าขอเสนอตัวออกไปบัญชาการแก้ไขปัญหาภัยแล้งด้วยตัวเองขอรับ”


เสียงพึมพำเห็นด้วยดังแว่วในหมู่ขุนนาง เพราะไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าซาร์เอลมีทั้งประสบการณ์และอำนาจเพียงพอจะจัดการเรื่องนี้ได้


แต่เขายังไม่หยุดเพียงเท่านั้น ซาร์เอลหันไปยังบัลลังก์ที่รัชทายาทเซย์เรนประทับอยู่ สายตาเจือรอยครุ่นคิดแต่แวววับด้วยเล่ห์กล


“แต่ข้าเกรงว่าการออกไปเพียงลำพังอาจยังไม่เพียงพอขอรับ” เขาวางน้ำเสียงอย่างเหมาะสม “ภัยแล้งครั้งนี้ส่งผลกระทบโดยตรงต่อราษฎร หากฝ่าบาทรัชทายาทจะเสด็จออกไปเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจประชาชนด้วยพระองค์เอง คงจะสร้างขวัญและกำลังใจให้ไพร่ฟ้าได้อย่างยิ่งขอรับ”


สิ้นคำของซาร์เอล เสียงฮือฮาก็ดังขึ้นทั่วห้อง ขุนนางบางคนเหลือบมองกันด้วยแววประหลาดใจ แต่หลายคนก็พยักหน้าคล้อยตาม เพราะการที่รัชทายาทออกไปเผชิญปัญหาด้วยพระองค์เอง ย่อมปลุกศรัทธาได้อย่างมหาศาล


เซย์เรนยังคงประทับนิ่ง ดวงเนตรทอดมองซาร์เอลอย่างพินิจพิเคราะห์ พระองค์สัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากลในข้อเสนอนี้ แต่ก็ยากจะหาเหตุผลมาปฏิเสธ เพราะซาร์เอลใช้ถ้อยคำที่ฉาบด้วยความห่วงใยประชาชนและหน้าที่ของรัชทายาทอย่างไร้ที่ติ


รอยยิ้มบางปรากฏบนมุมปากของซาร์เอลอย่างพึงใจ นี่คือชัยชนะเล็ก ๆ ที่จะปูทางสู่แผนการใหญ่ การล่อให้เซย์เรนออกจากวังหลวง คือก้าวสำคัญ และตอนนี้… เกมได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว


…เสียงฮือฮาในห้องประชุมยังคงดังระงม แต่เซย์เรนกลับไม่ได้ยินอะไรชัดเจนอีกต่อไป พระองค์ทอดพระเนตรผ่านร่างของซาร์เอลไปไกล ความคิดหมุนวนอยู่กับเรื่องที่เพิ่งรู้ไม่กี่ชั่วยามก่อน


เช้านี้หลังจากตื่นขึ้นมา เฟย์ สาวใช้คนสนิท พูดกับเขาด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา


“ฝ่าบาทเพคะ… ท่านเฟลด์เพิ่งเสด็จออกไปเมื่อครู่เองเพคะ พระองค์ทรงหลับสนิท ท่านเฟลด์ไม่อยากปลุก… พระองค์ทรงทราบหรือไม่เพคะ ว่าท่านเขานอนเฝ้าฝ่าบาททั้งคืน…”


ประโยคนั้นยังวนอยู่ในหัว เซย์เรนยังจำได้ดีว่าความอบอุ่นสุดท้ายคืออ้อมกอดแน่นหนาที่เขารู้สึกผ่านละเมอ… แต่เมื่อรู้สึกตัวอีกที ร่างสูงใหญ่นั้นก็หายไปแล้ว โดยไม่มีแม้แต่ถ้อยคำหรือข้อความใด ๆ ทิ้งไว้


เขาหลุบตาลงช้า ๆ พยายามไม่ให้ใครเห็นความอ่อนแอที่แวบขึ้นมา ตอนนี้ไม่มีใครเหลืออยู่เคียงข้างแล้ว สวามีแต่ละคนต่างแยกย้ายออกไป เพราะรู้ดีว่าถ้ายังอยู่ ซาร์เอลก็จะใช้เป็นข้ออ้างโจมตีเขาได้ตลอดเวลา


น่าขำ… ทั้งที่กำลังจะถูกผลักให้ออกไปอยู่ท่ามกลางดินแดนแห้งแล้งตามเกมของซาร์เอล แต่ในวังที่ควรจะปลอดภัย กลับไม่มีแม้แต่ที่ให้ซุกหัวนอนได้อย่างสงบ


เซย์เรนสูดหายใจเข้าลึก ความเปราะบางในอกถูกกดทับด้วยแรงใจที่ยังเหลืออยู่ เขารู้ดีว่าถ้าปล่อยให้ตัวเองอ่อนแอในตอนนี้ ทุกอย่างจะพังพินาศตามแผนของซาร์เอลทันที


‘เฟลด์… ไคเรน… แรนทีล…เอลเซียน พวกท่านจะต้องกลับมา...'


เขาภาวนาในใจ ริมฝีปากเม้มแน่นแล้วมองไปที่ซาร์เอลอีกครั้ง คราวนี้ไม่มีรอยลังเลหรือความหวาดหวั่นให้เห็น


“ฝ่าบาท พวกเราทั้งสภาต้องกราบทูล… เรื่องนี้คงมิอาจเลื่อนออกไปได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”


เสียงขุนนางผู้ใหญ่คนหนึ่งทำลายความเงียบงัน ทุกสายตาในห้องประชุมจับจ้องมายังรัชทายาทที่บัดนี้ทรงเหมือนรูปสลักประดับบัลลังก์


แล้วเซย์เรนก็ยกมือขึ้นช้าๆ เป็นเชิงให้ทุกคนสงบเสียง ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่ม แต่เย็นเฉียบ


“ถ้าเป็นเพื่อประชาชน ข้าย่อมไม่อาจปฏิเสธ… แต่จงจำไว้ให้ดี”


ดวงตาของเขามองสบกับซาร์เอลตรง ๆ คราวนี้ไม่มีการหลบเลี่ยงอีกแล้ว


“ไม่ว่าผืนดินจะแล้งเพียงใด หรือสายน้ำจะเหือดหายสักเท่าไร… พื้นแผ่นดินนี้ยังเป็นของเราเสมอ… ต่อให้พวกเจ้าจะพยายามตัดรากถอนโคนเพียงใด ข้าก็จะกลับมา ยืนอยู่ที่เดิม”


ครั้นสิ้นถ้อยคำ เสียงในห้องประชุมกลับเงียบกริบ ดวงตาของซาร์เอลยังคงมีรอยยิ้มแตะมุมปาก แต่ในใจของเขากลับแค่นหัวเราะไม่ได้


เพราะแม้จะถูกกดจนไร้ที่พึ่งในวังหลวงแล้วก็ตาม แต่แววตาของรัชทายาทผู้นี้… ยังไม่ยอมแตกสลายแม้แต่น้อย














TBC.


อยากสาปซาร์เอลมาก


แต่ต้องฮึบเอาไว้...

🌸 一期一会 (いちごいちえ)

นายกสโมสร

กระทู้
0
ตอบกลับ
52834
พลังน้ำใจ
270084
Zenny
106144
ออนไลน์
21168 ชั่วโมง
โพสต์ 2025-9-10 14:51:59 | ดูโพสต์ทั้งหมด

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
ตอบกลับ
302
พลังน้ำใจ
2963
Zenny
2611
ออนไลน์
329 ชั่วโมง
โพสต์ 2025-9-10 22:38:56 | ดูโพสต์ทั้งหมด
สนุกมากครับ เข้มข้นขึ้นทุกทีแล้ว พระสวามีทั้งสี่ จะกลับมาช่วยยังไงนะ แล้วซาร์เอลจะลงเอยยังไงนะ
ขอบคุณนะครับ

ประธานนักศึกษา

กระทู้
1
ตอบกลับ
8105
พลังน้ำใจ
51941
Zenny
43025
ออนไลน์
2581 ชั่วโมง
โพสต์ 5 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอขอบคุณมากๆนะครับ

ประธานนักศึกษา

กระทู้
3
ตอบกลับ
10278
พลังน้ำใจ
52400
Zenny
23881
ออนไลน์
2912 ชั่วโมง
โพสต์ 4 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุนครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2025-9-18 22:16 , Processed in 0.089832 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2025 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้