ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 136|ตอบกลับ: 7

หัวใจดีไซน์ Ep.10 (สถาปนิกxคนงานก่อสร้าง)

[คัดลอกลิงก์]

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
195
ตอบกลับ
50
พลังน้ำใจ
7604
Zenny
34156
ออนไลน์
2290 ชั่วโมง
โพสต์ 5 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด |โหมดอ่าน




ตอนที่ 9






กลิ่นยาฆ่าเชื้อคลุ้งอยู่ทั่วห้องพยาบาล นับหนึ่งนั่งอยู่บนเตียงคนไข้ ปล่อยให้พยาบาลทำแผลที่ข้อศอกกับหัวเข่าอย่างเงียบ ๆ รอยถลอกแสบ ๆ ทำให้เผลอขมวดคิ้ว แต่เขาก็ยังพยายามเก็บสีหน้าไว้ไม่ให้ใครเป็นห่วงเกินไป


“พี่นับหนึ่ง! เป็นยังไงบ้างครับ เจ็บตรงไหนอีกมั้ย” คีตะรีบก้าวเข้ามา ใบหน้าเต็มไปด้วยความร้อนรน สองตามองสำรวจตั้งแต่หัวจรดเท้าเหมือนกลัวว่าจะมีรอยแผลอื่นซ่อนอยู่


นับหนึ่งยกมือขึ้นห้ามเบา ๆ “ไม่เป็นไร แค่ถลอกนิดหน่อยเอง โชคดีที่ยืนห่างจากตรงนั้น ถ้าใกล้กว่านี้คงหนักกว่านี้แล้ว” เขาฝืนยิ้มให้ แม้ในใจยังเต้นแรงกับเหตุการณ์เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา


คีตะกัดฟันแน่น แววตาที่มองอยู่เต็มไปด้วยความกังวลปนแค้น “มันเกิดขึ้นได้ยังไง…ทั้งที่งานควรจะปลอดภัยกว่านี้” เสียงทุ้มติดเครียดเหมือนคนพยายามกดอารมณ์ไม่ให้ปะทุออกมา


“ก็แค่พลาดน่ะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอก” นับหนึ่งพยายามบอกให้เบาลง แต่ยิ่งเห็นสีหน้าของคีตะ เขาก็อดจะสะท้อนใจไม่ได้ อีกฝ่ายห่วงเขาขนาดนี้เชียวหรือ


คีตะเงียบไปชั่วครู่ เหมือนกำลังคิดอะไรในใจ ก่อนจะพยักหน้าเบา ๆ “ครับ…ถ้าพี่ว่าอย่างนั้น” แต่ในใจเขากลับโกรธจนแทบไม่อาจเก็บซ่อน พระพาย…จะใช่มึงหรือเปล่า


หลังจากทำแผลเสร็จ ทั้งคู่เดินออกจากโรงพยาบาลพร้อมกัน คีตะยืนกรานจะขับรถไปส่งจนสุดทาง ถึงหน้าบ้านนับหนึ่งเขาก็ยังทำท่าจะไม่ยอมกลับง่าย ๆ


“พี่พักเยอะ ๆ นะครับ อย่าฝืน งานค่อยว่ากันทีหลัง” คีตะพูดเสียงจริงจัง ดวงตาเต็มไปด้วยความห่วงใย


นับหนึ่งพยักหน้ารับ “ขอบใจนะคีตะ พี่ไม่เป็นไรหรอก”


คีตะเม้มปากเหมือนอยากจะพูดอะไรอีก แต่สุดท้ายก็ได้แค่ถอนหายใจ “งั้นผมกลับไปเคลียร์งานก่อน พรุ่งนี้ผมจะแวะมาหา”


นับหนึ่งส่งยิ้มบางให้ “อืม ขับรถดี ๆ ล่ะ”


เมื่อร่างสูงหันหลังเดินกลับไปขึ้นรถ นับหนึ่งยืนมองตามด้วยความรู้สึกประหลาดในใจ เขาไม่รู้ว่าคีตะกำลังคิดอะไรอยู่ แต่แววตาที่อีกฝ่ายมองเขา…มันจริงจังจนทำให้หัวใจเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว









คีตะรีบจอดรถหน้าบริษัทโดยแทบไม่สนใจความเงียบสงัดรอบตัว ทางเดินในออฟฟิศมืดเกือบทั้งชั้น ไฟเพียงไม่กี่ดวงส่องแสงจาง ๆ พอให้เขาเห็นทาง แต่พอผลักประตูห้องทำงานเข้าไป กลับพบว่าข้างในมืดสนิท


เสียงสะอื้นแผ่ว ๆ ทำให้เขาชะงัก มองตามจนเห็นร่างของพระพายที่นั่งคุดคู้ตรงมุมห้อง ความมืดซ่อนใบหน้าที่เคยเชิดหยิ่งไว้แทบมิด มีเพียงแสงไฟจากทางเดินลอดเข้ามา เผยให้เห็นข้าวของที่กระจัดกระจายเต็มพื้น แฟ้มเอกสารตกเกลื่อน กระจกบนโต๊ะยังร้าวเป็นเส้นยาว


คีตะขมวดคิ้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น…


พระพายเงยหน้าช้า ๆ ดวงตาแดงก่ำ น้ำตายังเปื้อนแก้ม เมื่อเห็นว่าเป็นคีตะ เขากลับหัวเราะเบา ๆ ทั้งที่เสียงยังสั่นสะท้านเหมือนจะขาดใจ


“มึงจะมาหาเรื่องกูอีกคนใช่มั้ย” เสียงแหบพร่าเอ่ยออกมา สะอื้นติดปลายประโยค “ทำไมวะ...ทำไมพอเป็นกูถึงไม่มีใครปกป้องบ้าง แต่พอเป็นไอ้หน้าจืดนั่น…” เขากัดฟันแน่น ตาแดงก่ำจ้องขึ้นมาด้วยความเจ็บปวดผสมแค้น “ใครต่อใครก็พร้อมใจกันปกป้องมันหมดเลย”


คำพูดที่พุ่งตรงมาทำให้คีตะยืนนิ่ง ความสงสัยที่กดทับอยู่ในใจยิ่งหนักขึ้นกว่าเดิม เขาไม่รู้ว่าใครมาที่นี่ก่อนหน้าเขา แต่จากสภาพห้องและสภาพของพระพาย ดูยังไงก็ไม่ใช่การเสแสร้ง…


คีตะยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง มองภาพพระพายที่คุดคู้ร้องไห้จนตาบวมแดง ความโมโหที่เคยตั้งใจจะพุ่งเข้าไปเอาเรื่องพลันมลายหายสิ้น เหลือเพียงความสับสนและหนักอึ้งในอก เขาไม่เคยเห็นพระพายในสภาพแบบนี้มาก่อนเลย


เสียงสั่นเครือของพระพายดังขึ้น ท่ามกลางห้องที่ยังมืดสนิท


“มึงคงสะใจใช่มั้ย...ที่กูเป็นแบบนี้”


เขายิ้มเยาะตัวเองทั้งที่น้ำตายังไม่หยุด “ต่อไปนี้...กูจะไม่ยุ่ง ไม่วุ่นวายกับชีวิตมึงอีกแล้ว แต่กูไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น คีตะ...กูไม่อยากให้มึงเข้าใจกูผิด”


คีตะกำมือแน่น แต่กลับพูดอะไรไม่ออก


พระพายหันหน้าหนี ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล ร่างเซไปนิดเพราะแรงหมด แต่ยังฝืนก้มลงคว้ากระเป๋า ค่อย ๆ สะพายขึ้นไหล่ ก่อนเอ่ยเสียงแผ่วเหมือนคนสิ้นแรง


“อย่างน้อย...มึงกับกู...ก็ยังเป็นเพื่อนกันได้ใช่มั้ย”


เขาไม่รอคำตอบ ก้าวเดินช้า ๆ ออกจากห้อง สะโพกไหล่เอียงเหมือนจะล้มทุกย่างก้าว แต่ยังพยายามพาตัวเองออกไปให้ไกลที่สุด









หน้าจอโทรศัพท์สว่างขึ้นพร้อมเสียงแจ้งเตือน นะโมเหลือบตามอง ก่อนจะเห็นชื่อพี่ชาย "ธีร์" ปรากฏขึ้นพร้อมไฟล์แนบหลายไฟล์ เขารีบกดเปิดดู ข้อมูลที่ส่งมาคือรายละเอียดลูกค้าร้านเหล้าในคืนนั้น


ทันทีที่ภาพปรากฏบนหน้าจอ นะโมถึงกับเบิกตากว้าง พอเห็นหน้าคนในรูปชัด ๆ นะโมก็แทบเผลอทำโทรศัพท์ร่วงจากมือ หัวใจเต้นกระแทกแรงขึ้นอย่างควบคุมไม่อยู่


ความทรงจำบางส่วนแล่นกลับมาในหัว...ภาพรอยสักผีเสื้อเล็ก ๆ ที่กลางแผ่นหลัง รอยที่เขาไม่ทันสังเกตชัดนักในตอนแรก กลับกลายเป็นเบาะแสยืนยันอย่างจัง มันคือลายเดียวกัน ไม่มีผิดแน่


“...เวรเอ๊ย” นะโมสบถเบา ๆ พลางกุมหน้าผาก ความรู้สึกหลากหลายถาโถม ทั้งตกใจ ทั้งงง ทั้งรู้สึกผิดแปลก ๆ อย่างประหลาด เพราะไม่คิดว่าคนที่เขาเคยปะทะฝีปาก ด่าทอกันแทบทุกครั้งที่เจอหน้า จะกลายเป็นคนเดียวกับคนในคืนนั้น


เขารีบยกหูโทรหาพี่ชายแทบจะทันที


“ธีร์...แน่ใจใช่มั้ยว่า มึงไม่ได้ส่งมาผิดคน” เสียงทุ้มที่เคยกวนใครต่อใครกลับกลายเป็นเสียงต่ำตึงเครียด


ปลายสายมีเสียงหัวเราะหยัน ๆ ของธีร์ดังลอดออกมา “เออดิ กูอุตส่าห์เสียบัตรคอนเสิร์ตที่โคตรหายากไปใบนึงเลยนะ กว่าจะขอรูปมาได้จากร้านมันเนี่ย มึงควรจะขอบใจกูด้วยซ้ำ ดีนะที่ไอ้ไลอาเจ้าของร้านมันเป็นเพื่อนกู ไม่งั้นมึงไม่มีทางได้ภาพเด็ด ๆ แบบนี้หรอก”


นะโมเงียบไป ไม่เอ่ยคำตอบ เสียงหายใจหนัก ๆ ดังลอดสายออกมาแทน


สักพักธีร์ก็ทัก “เฮ้ย...ทำไมวะ หรือว่ามึงรู้จักคนนี้?”


แต่ยังไม่ทันได้คำตอบ สายก็ถูกตัดไปทันที


“แม่งเอ๊ย...” เขาสบถออกมาเสียงต่ำ ความรู้สึกสับสนปะปนกันยุ่งเหยิง ทั้งหงุดหงิด ทั้งใจหาย และ...เป็นห่วงโดยไม่รู้ตัว


นะโมไปดักรอพระพายอยู่หน้าบริษัทรับออกแบบตั้งแต่เช้า แต่ทั้งวันก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของอีกฝ่าย จนแดดคล้อยไปถึงยามเย็น ร่างสูงที่ยืนพิงเสาอยู่เริ่มหงุดหงิดใจ


จนกระทั่งได้ยินเสียงพนักงานสองคนที่เดินลงมาจากตึกคุยกันพอดี


“นี่ รู้ข่าวยัง คุณพระพายยื่นจดหมายลาออกแล้วนะ แถมจะไม่มาทำงานอีกด้วย”


อีกคนก็รีบต่อทันที “ใช่ ๆ ได้ยินมาว่าหุ้นทั้งหมดก็ขายคืนให้คุณคีตะไปแล้ว ฉันว่าน่าจะทะเลาะกันแรงแน่ ๆ”


คำพูดนั้นเหมือนแรงกระแทกใส่หัวใจนะโมทันที เขายืนนิ่งไปชั่วขณะ ก่อนจะกำหมัดแน่น ทั้งงง ทั้งโกรธ ทั้ง...สับสนว่าพระพายคิดอะไรอยู่กันแน่


...




คอนโดของนะโมยามค่ำ เสียงเครื่องปรับอากาศดังเบา ๆ แต่ในหัวเขากลับวุ่นวายไม่หยุด เขากำโทรศัพท์แน่น ก่อนกดโทรออกหาลูกน้องคนสนิท


“ครับคุณนะโม” ปลายสายรับแทบจะทันที


เสียงนะโมทุ้มต่ำ แฝงอำนาจจนอีกฝ่ายเงียบไปชั่วขณะ “กูอยากได้ที่อยู่ใหม่ของคน ๆ นึง ภายในพรุ่งนี้”


ปลายสายตอบรับทันที “รับทราบครับ เดี๋ยวผมจัดการให้”


“อย่าให้กูต้องทวง” นะโมพูดเสียงเย็นกดต่ำ ก่อนกดตัดสายทันที


เขาทิ้งตัวเอนพิงโซฟาอีกครั้ง สายตาเหม่อมองเพดาน แต่ในอกกลับร้อนรุ่มเหมือนถูกไฟลน…


“แล้วกูจะทำไปทำไมวะ...” เขาพึมพำกับตัวเอง เสียงเต็มไปด้วยความหงุดหงิด “คนอย่างมันน่ะ ทำให้พี่หนึ่งต้องเจอเรื่องซวย ๆ ยังจะต้องไปห่วงอีกหรือไง”


เขาทึ้งหัวตัวเองแรง ๆ เหมือนจะขับไล่ความคิดนั้นออกไป แต่ยิ่งทำก็ยิ่งชัด ภาพใบหน้าของพระพายตอนที่ร้องไห้สะอึกสะอื้น ใบหน้าที่เปราะบางและหมดท่าใต้ร่างเขาในคืนนั้น มันกลับวนเวียนไม่ยอมเลือนหาย


นะโมกัดฟันแน่น “เหี้ยเอ๊ย...กูแม่งโง่จริง ๆ”






วันต่อมา…


เสียงสั่นของโทรศัพท์ดังขึ้นระหว่างที่นะโมยืนพิงรถ ริมถนนมืด ๆ หลังเลิกงาน เขากดรับทันทีโดยแทบไม่ต้องมองชื่อ


“ครับคุณนะโม ได้เรื่องแล้ว” เสียงลูกน้องดังมาในสาย น้ำเสียงออกจะเกรงใจปนรีบรายงาน


นะโมยกยิ้มมุมปาก “ว่ามา”


“คุณพระพาย…ตอนนี้ไม่ได้อยู่คอนโดแล้วครับ ย้ายออกตั้งแต่สองวันก่อน มีคนเห็นไปโผล่ที่ห้องเช่าย่านไซต์งานเก่า พวกเราตามจนเจอห้องแน่นอนแล้วครับ”


นะโมหัวเราะหึเบา ๆ ในลำคอ “เร็วดีนี่…กูชอบ”


ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งก่อนถามอย่างระมัดระวัง “เอ่อ…จะให้พวกผมเข้าไปคุยด้วยเลยมั้ยครับ”


เสียงทุ้มต่ำตอบกลับชัดถ้อยชัดคำ “ไม่ต้อง กูไปเอง …มึงแค่ส่งโลเคชั่นมา”


“ครับ ผมจะส่งให้เดี๋ยวนี้เลย”


สุดท้ายเขาก็กำโทรศัพท์ในมือแน่น ตัดสินใจแน่วแน่ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม เขาจะต้องตามหาอีกฝ่ายให้เจอก่อน


ระหว่างทางที่เดินไปตามที่อยู่ตามที่ได้มา นะโมก็อดรู้สึกแปลกใจไม่ได้ ที่มันคุ้นนัก เพราะมันอยู่แถวๆ ไซต์งานนั่นเอง ห้องเช่าธรรมดาในละแวกที่คนงานใช้ชีวิตกันอยู่


เขาเดินผ่านร้านสะดวกซื้อ กำลังจะก้าวพ้นทางเข้าพอดี ก็ชนเข้ากับใครบางคนที่เดินเหม่อไม่มองทาง จนอีกฝ่ายล้มก้นกระแทกพื้นเต็มแรง


“โอ๊ย…” เสียงครางเบาๆ ดังขึ้น


นะโมชะงักไปชั่วขณะ ก่อนจะย่อตัวลงไปช่วยประคอง อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นสบตาเพียงเสี้ยววินาที ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนเป็นตื่นตกใจทันที เหมือนเจอผีในตอนกลางวัน


“มึง...” พระพายกัดปากแน่น รีบคว้ากระเป๋าจะลุกหนีแทบจะทันที


แต่ไปได้ไม่กี่ก้าว นะโมก็ตามทัน มือใหญ่คว้าข้อมือเอาไว้แน่น


“ปล่อยนะ!” พระพายดิ้นสุดแรงเหมือนสัตว์ที่ถูกต้อนจนมุม


“หยุดดิ้นหน่อยเหอะ” นะโมกัดฟัน ดึงอีกฝ่ายเข้ามากอดล็อกไว้แน่น แรงกอดที่มากพอจะทำให้ร่างผอมบางสงบลง ไม่ใช่ด้วยความเต็มใจ แต่เพราะแรงต้านของพระพายแทบไร้ค่าเมื่อเทียบกับเขา


พระพายหอบหายใจแรง ใบหน้าแดงก่ำทั้งเพราะโกรธและเพราะถูกกอดแน่น เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมาอย่างห้ามไม่อยู่


นะโมก้มลงกระซิบข้างหู เสียงต่ำขรึมแต่จริงจัง “กูไม่ได้จะมาหาเรื่อง...แต่กูไม่ยอมให้มึงหนีไปแบบนี้”


พระพายกัดฟันแน่น สะบัดข้อมือสุดแรงแต่ก็ไม่อาจหลุดจากวงแขนที่แข็งแรงราวกับโซ่ตรวน เสียงสะอื้นถูกกลั้นไว้จนคอแน่นไปหมด แต่สุดท้ายก็ระเบิดออกมา


“มึงเป็นเหี้ยอะไรนักหนาวะ! กูไม่ใช่หมาที่มึงจะลากมาทำเชี่ยอะไรก็ได้!” พระพายตะโกนลั่น ทั้งเสียงสั่นทั้งขาดห้วง ดวงตาแดงก่ำเหมือนจะบวมจนปิด


นะโมชะงักไปนิด แต่ก็ยังกอดไม่ปล่อย


“กูอุตส่าห์…กูอุตส่าห์จะไม่ยุ่งกับใครแล้วด้วยซ้ำ! ทุกคนแม่งก็เอาแต่หันหลังให้กูทั้งนั้น ไม่ว่ากูจะพูดอะไรแม่งก็ไม่มีใครเชื่อ”


พระพายหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งทั้งที่น้ำตาไหลพราก “กูมันเลวใช่มั้ย เลยไม่มีสิทธิ์ให้ใครอยู่ข้างกู กูมันสมควรถูกเหยียบ ถูกด่า ถูกลากลงไปต่ำ ๆ อยู่คนเดียวสินะ!”


แรงดิ้นเริ่มเปลี่ยนเป็นการทุบอกนะโมแทน หมัดเล็ก ๆ ฟาดลงมาไม่แรงนักแต่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด “แล้วมึงอีก! มึงแม่งคิดว่ากูอยากเจอมึงนักหรือไง กูเกลียดมึง…เกลียดจนไม่อยากหายใจร่วมอากาศด้วยซ้ำ!”


พระพายยังคงทุบอกเขาซ้ำ ๆ ทั้งน้ำตา ทั้งเสียงสะอื้นที่ติดขัดจนแทบจะขาดใจ


แต่ครั้งนี้นะโมไม่โต้ ไม่กวน ไม่แข็งใส่เหมือนทุกที เขาเพียงยืนนิ่ง ยอมให้หมัดเล็ก ๆ ฟาดลงมาราวกับรับเอาความเจ็บทั้งหมดแทน


มือใหญ่ค่อย ๆ ลูบแผ่นหลังบางเบา ๆ เสียงทุ้มต่ำเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา ไม่เหมือนทุกครั้งที่แข็งกร้าว


“กูฟังอยู่…มึงด่ามาเลย จะเกลียดกูก็ได้…แต่หยุดร้องเถอะนะ”


พระพายชะงักเล็กน้อย ดวงตาสั่นระริก น้ำตายังไม่หยุด แต่แรงทุบกลับค่อย ๆ อ่อนลงทีละนิด


นะโมกดคางซบลงข้างขมับของอีกฝ่าย สูดลมหายใจลึกเหมือนพยายามกดความรุ่มร้อนในใจ มืออีกข้างยกขึ้นเช็ดน้ำตาที่เปื้อนแก้มอย่างเงอะงะ “ปล่อยออกมาให้หมดเถอะ กูจะอยู่ตรงนี้แหละ…กูไม่ไปไหน”


พระพายกัดปากแน่นเหมือนพยายามข่มเสียงสะอื้น แต่สุดท้ายก็โถมตัวเข้าซุกอกหนาอย่างหมดแรง ความดื้อดึงและเกราะศักดิ์ศรีที่เคยตั้งตระหง่านเหมือนถูกทุบจนร้าวไปหมด


นะโมกอดกระชับแน่นขึ้น อ่อนโยนอย่างที่ไม่เคยทำกับใครมาก่อน


..






พระพายเดินเช็ดน้ำตาป้อย ๆ ตลอดทาง ใบหน้าบึ้งตึงพยายามไม่หันมามองคนที่เดินประกบข้าง ก้าวเท้าก็ถี่เหมือนอยากให้ถึงห้องเร็วที่สุด


“กูบอกแล้วไงว่าไม่ต้องมาส่ง” พระพายเอ่ยเสียงแข็ง พยายามเร่งฝีเท้า


นะโมหัวเราะในลำคอเบา ๆ “มึงคิดว่ากูจะปล่อยมึงเดินโซซัดโซเซกลับห้องคนเดียวรึไงวะ…ถ้าไม่ให้ไปด้วย กูแบกไปโรงแรมจริง ๆ นะ”


พระพายชะงักไปทันที หันขวับมามอง ตาเบิกโพลง “ไอ้—! กูไม่ไปที่แบบนั้นเด็ดขาด!”


“งั้นก็เงียบแล้วเดินต่อดี ๆ” นะโมตัดบทเสียงเรียบ แต่สายตาเต็มไปด้วยความดื้อรั้นที่เถียงไม่ชนะอยู่ดี


พระพายกัดฟันแน่น ยอมเดินนำไปอย่างหงุดหงิด เสียงรองเท้ากระทบพื้นปูนดังถี่ ๆ บอกชัดว่าเจ้าตัวยังไม่พอใจ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะข้อมือยังถูกมือใหญ่จับไว้หลวม ๆ เหมือนเตือนว่าหนีไม่รอด


เมื่อถึงหน้าห้องเช่าเล็ก ๆ ในซอย พระพายรีบคว้ากุญแจไขเข้าไปข้างในทันที พยายามดันประตูปิด แต่แรงของนะโมก็ยันไว้ไม่ให้ปิดง่าย ๆ


“กูบอกให้กลับไปไง!” พระพายหันมาขึ้นเสียง แต่เสียงสั่นเล็กน้อย


นะโมก้าวเข้ามาครึ่งตัว ใช้บ่าแทรกดันประตู “กูไม่ไปไหนทั้งนั้น…”






------------------------------------------------
ฝากติดตามต่อด้วยนะครับ
มีใครเชียร์คู่นี้กันมั้ยเอ่ย
ปากแซ่บทั้งคู่555


คอมเม้นท์คุยกับผมหน่อยนะครับ
คิดเห็นอย่างไรกันบ้างง
ขอกำลังใจหน่อยเน้ออ
รักคนอ่าน




คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +16 Zenny +300 ย่อ เหตุผล
ดอกม่วง + 16 + 300

ดูบันทึกคะแนน

🌸 一期一会 (いちごいちえ)

นายกสโมสร

กระทู้
0
ตอบกลับ
52456
พลังน้ำใจ
268037
Zenny
105395
ออนไลน์
20923 ชั่วโมง
โพสต์ 5 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
1
ตอบกลับ
625
พลังน้ำใจ
5566
Zenny
2166
ออนไลน์
428 ชั่วโมง
โพสต์ 5 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ สนุกมากมายรอติดตามต่อครับ

ประธานนักศึกษา

กระทู้
3
ตอบกลับ
10262
พลังน้ำใจ
52275
Zenny
23825
ออนไลน์
2907 ชั่วโมง
โพสต์ 5 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
อยากให้นะโมกับพระพายเข้าใจกัน

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
0
ตอบกลับ
1229
พลังน้ำใจ
36371
Zenny
14941
ออนไลน์
10334 ชั่วโมง
โพสต์ 5 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
นะโมนี่แหละจะเป็นคนปลดล็อกทุกอย่างของพระพาย ถ้าคุณNOOFONG ไม่ใจร้ายหักมุมนะ555555555

นายกสโมสร

กระทู้
28
ตอบกลับ
33590
พลังน้ำใจ
186941
Zenny
189028
ออนไลน์
30973 ชั่วโมง
โพสต์ 5 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
เลิฟๆ ครับผม

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
ตอบกลับ
289
พลังน้ำใจ
2748
Zenny
2579
ออนไลน์
290 ชั่วโมง
โพสต์ 5 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด

ประธานนักศึกษา

กระทู้
51
ตอบกลับ
12188
พลังน้ำใจ
69614
Zenny
52860
ออนไลน์
6054 ชั่วโมง
โพสต์ 3 วันที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2025-9-3 22:53 , Processed in 0.145918 second(s), 27 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2025 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้