แอบมาขยายสเกลจักรวาลเรื่องนี้กันนิดนึงนะครับ คิดอะไรก็แต่งเลย ไม่ได้แพลนไว้ ไทม์ไลน์งง ๆ ก็อย่าว่ากันครับเด้อ
2 R) b: m0 F; Q- s8 O; p% c8 i" X" B; T/ H: V
% ~+ }3 B# X+ J" J5 p+ a
พรานกล่ำนั่งจมอยู่ในความคิดของตัวเองภายในห้างกลางป่าแสงจันทร์ส่องลอดใบไม้ยามค่ำคืนเผยให้เห็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความแค้นบนใบหน้าของเขา เขาได้ใช้ของอาคมที่สืบทอดกันมาในตระกูลจนสามารถ แปลงร่างเป็นเสือสมิง ได้ตามใจต้องการและเขาก็ใช้ความสามารถนี้ในการหลอกล่อพรานป่าที่ไร้ประสบการณ์หลายคนให้มาติดกับของเขาแต่กลับมีเพียงแค่พรานเดชคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเอาชนะเขาได้ด้วยไหวพริบและเห็ดปริศนาที่เขายังไม่เคยเห็นมาก่อน "ไอ้เดช..."กล่ำพึมพำกับตัวเองด้วยเสียงต่ำ "แกทำให้ข้าต้องอับอายขายหน้า...แต่ข้าก็จะทำให้แกรู้ว่า... ไม่มีใครสามารถเล่นกับข้าได้" กล่ำลูบไล้ไปตามแผงอกของตัวเอง สัมผัสอันร้อนรุ่มจากฤทธิ์ของเห็ดที่ยังไม่เคยจางหายไปง่ายๆทำให้เขาต้องกัดฟันแน่น ความต้องการที่จะแก้แค้นพรานเดชและความรู้สึกเงี่ยนจากสิ่งที่พรานเดชทำให้ผสมปนเปกันไปหมด ทำให้เขาไม่อาจหลับตาลงได้อีกต่อไป หลังจากครุ่นคิดอยู่หลายวันพรานกล่ำก็ตัดสินใจที่จะไม่รีบร้อนเข้าไปหาเดชแต่จะไปหาแหล่งที่มาของเห็ดปริศนานั้นก่อน กล่ำจึงกลับเข้าป่าในไม่กี่วันถัดมา โดยใช้ความสามารถในการดมกลิ่นของเขาในการตามรอยกลิ่นของเห็ดที่ยังติดอยู่ในร่างกาย การเดินทางพาเขาไปสู่ส่วนที่ลึกของป่าที่ซึ่งมีเพียงความเงียบสงบและสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวเท่านั้นที่อาศัยอยู่กล่ำเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาได้พบกับ ถ้ำแห่งหนึ่ง ที่มีแสงสีแดงเรืองรองออกมาจากภายใน กล่ำเดินเข้าไปในถ้ำอย่างระมัดระวังเขาไม่พบเห็ดที่ตามหา แต่กลับได้เจอกับ ดอกไม้สีชาด ที่งดงามราวกับอัญมณี มันขึ้นอยู่ตามผนังถ้ำ ที่มีไอน้ำเกาะอยู่เต็มไปหมดกล่ำรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแต่ความสนใจในดอกไม้ปริศนาใหม่นี้ก็เอาชนะความรู้สึกนั้นไปได้ พรานกล่ำจดจำชื่อของดอกไม้ป่านี้ได้ดี "ดอกราคาสมิง" เขารู้ว่า เมื่อนำมาขยี้แล้วกินจะทำให้เกิดอาการประสาทหลอน ที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่านั้นก็คือมันจะทำให้ผู้ที่กิน ได้ย้อนกลับไปเห็นภพชาติก่อนๆ เมื่อพรานกล่ำได้รู้ถึงคุณสมบัติที่แท้จริงของมันแล้วเขาก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ "เจ้าดอกราคาสมิง..." กล่ำเอ่ยด้วยเสียงต่ำ "เจ้ามีฤทธิ์ที่น่าสนใจกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก" เขาตัดสินใจที่จะนำดอกไม้นี้ไปใช้ในการแก้แค้นพรานเดชโดยจะทำให้เดชได้เห็นถึง ความลับในภพชาติก่อนๆ ของเขา ซึ่งอาจจะทำให้เดชได้รู้ความจริงบางอย่างที่ไม่อาจยอมรับได้ ก่อนที่จะนำดอกไม้นี้ไปใช้กับพรานเดชพรานกล่ำตัดสินใจที่จะ ทดลองมันด้วยตัวเองก่อน เพื่อให้รู้ถึงฤทธิ์ที่แท้จริงของมันเขาหยิบดอกราคาสมิงขึ้นมาดอกหนึ่งแล้ว ขยี้มันในมือ จากนั้นก็ กินเข้าไป ทันทีที่ดอกราคาสมิงเริ่มออกฤทธิ์ภาพของถ้ำรอบตัวก็เริ่มเลือนหายไปกล่ำเห็นตัวเองยืนอยู่กลางป่าใหญ่ที่ดูไม่คุ้นเคยข้างกายเขามีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ซึ่งชายผู้นั้นมีใบหน้าและแววตาที่เหมือนกับพรานเดชในปัจจุบันไม่มีผิดเพี้ยน ในอดีตนั้นกล่ำกับเดชเป็นเพื่อนรักที่โตมาด้วยกันในป่านี้เดชในภพชาติก่อนเป็นพรานผู้แข็งแกร่งและสง่างามและกล่ำก็หลงรักเพื่อนสนิทของตัวเองมาโดยตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งเดชได้ทรยศความรู้สึกของกล่ำด้วยการไปรักกับหญิงสาวคนหนึ่งในหมู่บ้าน ภาพของความสุขในอดีตกลับกลายเป็นความเจ็บปวดในปัจจุบันกล่ำในภพชาติก่อนรับไม่ได้กับการกระทำของเดช ความรักได้กลายเป็นความแค้นที่ฝังลึกกล่ำพยายามที่จะทำร้ายเดช แต่ก็ถูกเดชต่อสู้กลับจนกล่ำต้องสิ้นชีวิตในป่าแห่งนั้น ภาพในอดีตสิ้นสุดลงกล่ำตื่นขึ้นมาในถ้ำที่มืดมิดเขารับรู้ได้ถึงความแค้นและความเจ็บปวดที่ฝังลึกอยู่ในจิตวิญญาณของเขามานานหลายภพชาติกล่ำจ้องมองไปที่ดอกราคาสมิงที่เหลืออยู่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นเขาจะต้องใช้มันเพื่อแก้แค้นเดชให้ได้ กล่ำตื่นขึ้นมาจากภวังค์ภาพสุดท้ายที่เขายังจำได้คือความเจ็บปวดจากความรักที่ถูกหักหลัง และในตอนนี้ ก็มืดค่ำแล้ว ความเย็นยะเยือกของอากาศยามค่ำคืนในถ้ำทำให้กล่ำรู้สึกหนาวสั่นไปทั่วร่าง แต่กล่ำไม่ได้สนใจความผิดปกติของร่างกายเขาสนใจเพียงแค่ความจริงในอดีตที่เขาเพิ่งได้รับรู้มาเท่านั้น "เจ้าพรานเดช..." กล่ำพึมพำกับตัวเองด้วยเสียงต่ำ "ข้าจะทำให้แกรู้ว่าความแค้นจากภพชาติก่อนมันไม่ได้หายไปง่ายๆ" กล่ำยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เขาจะต้องใช้ดอกราคาสมิงเพื่อแก้แค้นเดชให้สาสม และในครั้งนี้เขาจะไม่ยอมให้เดชรอดไปได้อีกต่อไป กล่ำตื่นขึ้นมาจากภวังค์ภาพสุดท้ายที่เขายังจำได้คือความเจ็บปวดจากความรักที่ถูกหักหลังและในตอนนี้ก็มืดค่ำแล้วความเย็นยะเยือกของอากาศยามค่ำคืนในถ้ำทำให้กล่ำรู้สึกหนาวสั่นไปทั่วร่างแต่เขาก็ไม่ได้สนใจความผิดปกติของร่างกาย เขาสนใจเพียงแค่ความจริงในอดีตที่เขาเพิ่งได้รับรู้มาเท่านั้น เขาเก็บดอกราคาสมิงที่เหลือใส่ย่ามอย่างรอบคอบก่อนจะเดินออกจากถ้ำที่มืดมิด ขณะที่กล่ำกำลังจะเดินพ้นปากถ้ำ เขาได้ยินเสียงอะไรบางอย่างตกลงมา แต่ก็ไม่ได้สนใจนัก จนกระทั่ง เขาเดินเตะเข้ากับบางสิ่ง ที่อยู่บนพื้นอย่างจัง มันรู้สึกเหมือนลูกมะพร้าว แต่กลับ นุ่มกว่า มากนัก กล่ำก้มลงไปมองด้วยความสงสัยแล้วก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่อสิ่งที่เขาเตะเข้าไปนั้นไม่ใช่ลูกมะพร้าวแต่เป็น ศีรษะของมนุษย์ ที่มีดวงตากลมโตและผิวหนังเหี่ยวย่น "ฮิๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ"เสียงหัวเราะที่น่าขนลุกดังขึ้น "ทำไมต้องเตะข้าด้วยล่ะ... เจ้าสมิง" กล่ำมองไปที่หัวของกลิ้งดงด้วยความรังเกียจ "หึ...พวกผีชั้นต่ำ..." เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา "ถอยไป... ข้าไม่มีเวลาเล่นกับพวกเจ้าหรอก" แล้วเขาก็เดินหลบเลี่ยงไปเพื่อจะออกจากถ้ำให้เร็วที่สุด แต่กลิ้งดงก็ยังคง กลิ้งตามเขาไปติดๆ ไม่ยอมปล่อยให้เขาหนีไปได้ง่ายๆ "นี่...อยู่คุยด้วยกันก่อนสิ... ฮิๆๆๆ" เสียงหัวเราะที่น่าขนลุกยังคงตามหลอกหลอนกล่ำไม่หยุด "เจ้ากินดอกไม้นั่นเข้าไปใช่ไหม?แล้วรู้อะไรเกี่ยวกับมันบ้างรึเปล่า...ฮิๆๆๆ" กล่ำยังคง เมินเฉย และ เดินสับเท้า โดยไม่สนใจมัน กลิ้งดงเห็นดังนั้นจึงพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้น "เห็นอดีตชาติแล้ว...มันทำให้เจ้าแค้นขนาดนั้นเลยรึ? แต่เจ้าไม่รู้หรอก...ว่าทำไมมันถึงชื่อ 'ดอกราคาสมิง'?" คำพูดนั้นทำให้กล่ำ หยุดชะงัก ทันทีเขาก้มลงมองหัวของกลิ้งดงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและความไม่เข้าใจกล่ำรู้ว่าชื่อของมันมีความหมาย แต่มันเป็นชื่อที่ดูเหมือนจะสอดคล้องกับตัวเขา...แต่ในทางที่ไม่น่าพอใจเท่าไหร่ กล่ำมองไปที่หัวของกลิ้งดงด้วยสายตาที่จริงจังขึ้น "มันทำไมรึ?"กล่ำถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาแต่แฝงไปด้วยความอยากรู้ กลิ้งดง ทำท่ากวนกลิ้งวนเป็นวงกลม ก่อนจะหัวเราะคิกคัก "อ้าวๆ...เริ่มสงสัยแล้วรึ?" มันกล่าว "จริงๆดอกสมิงราคานี่น่ะ... ก็ออกฤทธิ์หลอนประสาทให้ระลึกชาติได้แหละนะ...แต่เจ้าไม่สงสัยจุดที่มันขึ้นอยู่จริงๆ รึ... เจ้าสมิงอ่อนหัด?" คำพูดนั้นทำให้กล่ำ ขมวดคิ้ว ด้วยความไม่พอใจและสับสน "เจ้าหมายความว่าอย่างไร?" กล่ำเอ่ย "มันก็ขึ้นอยู่ในถ้ำนี้... มันมีอะไรมากกว่านั้นรึ?" กลิ้งดงหัวเราะเสียงแหลม "หึหึหึ!ก็ คนที่จะเจอดอกไม้นี่ต้องเป็นสมิงแบบเจ้าไง!"มันกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน"อะไรก็ตามที่มาจากเจ้าดอกไม้นี่... จะนำทางสมิงให้มาเจอมันแล้วก็กินเข้าไป" "พอครบหนึ่งวันก็จะเป็นอัมพาต"กลิ้งดงกล่าวต่อ "แต่ก่อนหน้านั้นเจ้าดอกไม้นี่ก็จะดลใจให้เจ้ากลับมานอนตัวแข็งอยู่ในถ้ำนี่...แล้วก็กลายเป็นปุ๋ยให้มันยังไงล่ะ! ฮิๆๆๆๆ" กลิ้งดงกลิ้งวนไปอย่างสนุกสนาน หลังจากบอกความจริงที่น่าสะพรึงกลัวให้พรานกล่ำได้รู้กล่ำยืนนิ่งด้วยความตกใจ ใบหน้าของเขาซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัดเขากลับเป็นฝ่ายที่ถูกหลอกล่อให้มาติดกับของดอกไม้ป่าดอกนี้เสียเอง เมื่อกล่ำได้ยินดังนั้น เขาก็ รีบกว่าเดิม สาวเท้าเดินอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะไปหาเดชโดยไวที่สุดก่อนที่เขาจะเป็นอะไรไป เจ้ากลิ้งดงก็ยังไม่ลดละ "ข้ารู้วิธีแก้พิษน้าาาา" มันตะโกนตามหลัง"เจ้าจะได้มีเวลาแก้แค้นมากกว่านี้ไง เจ้าสมิงโง่!" คำพูดนั้นทำให้กล่ำหยุดชะงัก ทันทีความหวังสุดท้ายในการแก้พิษทำให้เขาหันหลังกลับมาเผชิญหน้ากับกลิ้งดงอีกครั้ง กล่ำมองไปที่หัวของกลิ้งดงที่ลอยอยู่กลางอากาศ "เจ้า...มีวิธีแก้พิษนั้นจริงๆ รึ?" กล่ำถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัยแต่ก็แฝงไปด้วยความสิ้นหวัง "ข้าจะยอมทำตามข้อเสนอของเจ้า...ถ้าเจ้าบอกวิธีแก้พิษมา" กลิ้งดงยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์ "ฮ่าๆๆๆ!แน่นอนอยู่แล้ว... เจ้าสมิงอ่อนหัด" มันกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ "แต่ก่อนที่จะบอกเจ้า...ข้าขอให้เจ้าเล่นสนุกกับพวกข้าก่อน..." พลัน สายตาที่เรืองแสงสีแดงเกือบสิบคู่ก็โผล่มา จากรอบๆ ตัวพรานกล่ำทำให้เขาต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ กลิ้งดงไม่ได้อยู่ตัวเดียวแต่ยังมีพวกพ้องที่กำลังเฝ้ามองเขาอยู่จากเงามืด "ข้าจะช่วยเจ้าเอง...เด็กๆ!" กลิ้งดงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "มาเล่นสนุกกับเจ้าสมิงอ่อนหัดคนนี้กันเถอะ!" สิ้นเสียงของมัน กลิ้งดงตัวอื่นๆก็กลิ้งมาล้อมพรานกล่ำไว้ ประมาณ 7-8 หัว ดวงตาสีแดงของพวกมันจ้องมองมาที่กล่ำอย่างหิวโหยกล่ำยืนนิ่งด้วยความตกใจ เขารู้ดีว่าไม่สามารถต่อสู้กับพวกมันทั้งหมดได้และในตอนนี้เขาก็เหลือทางเลือกไม่มากนัก "จะทำอะไรกันแน่!" กล่ำส่งเสียงดัง พร้อมกับเสียงคำรามของเสือ ที่ออกมาจากลำคอ ตามแขนเขาเริ่มมีลายพาดกลอน โผล่ขึ้นมา เขาเตรียมตั้งท่าต่อสู้ "อ๊ะอ่าๆอย่าแตกตื่นไป" เจ้ากลิ้งดงที่ตามกล่ำมาตลอดพูดขึ้น "ข้าจะให้เด็กๆ ช่วยรีดพิษให้เจ้าเอง" ก่อนที่ หัวหนึ่งจะกลิ้งถอยหลังไป แล้ว พุ่งชาร์จกระแทกเข้าใส่ขาของพรานกล่ำ จนเขา ทรุดตัวล้มลง แล้ว หัวทั้งหมดที่เหลือก็พุ่งเข้าใส่ตัวเขาพร้อมกัน ขณะที่พรานกล่ำกำลังจะ กลายร่างเป็นเสือ เพื่อต่อสู้ เจ้ากลิ้งดงตัวแรก ก็ขยับเข้ามาใกล้แล้ว สวดมนต์อะไรบางอย่าง ทำให้ ลวดลายบนตัวของพรานกล่ำจางหายไป เขารู้ได้ทันทีว่าไม่สามารถแปลงร่างเป็นเสือได้อีกแล้วในตอนนี้ "เจ้าโง่นี่... ข้าก็บอกอยู่ว่าจะช่วย" กลิ้งดงตัวแรกกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรำคาญ"อยากตายนักหรือไง?" ตอนนี้มี กลิ้งดงสี่ตัว ทับแขนขาของพรานกล่ำ ให้นอนแผ่อยู่กับพื้น ทั้งๆ ที่เหมือนมีแค่หัวทับแขนขาเขาไว้ แต่เขากลับ ไม่สามารถใช้แรงดิ้นดันหัวกลิ้งดงเหล่านั้นให้หลุดออกไปได้ พรานกล่ำเริ่ม หอบจากการดิ้นรน อย่างหนักหน่วง "นั่นแหละ... นอนนิ่งๆ ไว้" กลิ้งดงที่เหมือน จ่าฝูง นั้น ค่อยๆ กลิ้งมาบนตัวพรานกล่ำ กลิ้งดงจ่าฝูง กลิ้งบนตัวพรานกล่ำอยู่สักครู่ ก่อนที่มันจะ กลิ้งเอาหน้ามาจ่ออยู่ที่หัวนมของพรานกล่ำ แล้ว แลบลิ้นยาวออกมาเลียหัวนม จากภายนอกเสื้อยืดจน แฉะไปหมด พรานกล่ำยังคง ดิ้นรนขัดขืน แต่ก็ ไม่รุนแรงเท่าช่วงแรก ความรู้สึกที่เย็นเยียบแต่กลับวาบหวามทำให้กล่ำสับสนและอ่อนแรงลงเรื่อยๆ "เด็กๆ มาช่วยข้าทีสิ"กลิ้งดงตัวจ่าฝูงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ กลิ้งดงที่เหลือ สองสามตัว ก็ ทยอยกลิ้งขึ้นมาบนตัวพรานกล่ำ ตัวหนึ่ง เข้าไป เลียหัวนมอีกข้าง ของกล่ำอย่างไม่หยุดหย่อน อีกตัว ก็ พยายามใช้ปากปลดตะขอกางเกงของพรานกล่ำออก ส่วน อีกตัว ก็ มุดเข้าไปใต้เสื้อของพรานกล่ำ แล้ว เลียลิ้มรสกล้ามท้องแกร่งของสมิงพรานกล่ำ ความรู้สึกวาบหวามและเย็นเยียบที่ถาโถมเข้ามาจากทุกทิศทาง“อะ...อื้มมม...” ทำให้พรานกล่ำ ครางเสียงต่ำๆ ออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ควยของเขาเริ่มแข็งขึ้นภายใต้กางเกงที่ถูกปลดออก ความเงี่ยนในตัวเขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ ในที่สุดพรานกล่ำก็ยอมจำนนต่อความวาบหวามที่ถาโถมเข้ามาจากพวกกลิ้งดงเขาเลิกดิ้นรน ปล่อยให้พวกมันเล่นกับร่างกายของเขาอย่างเต็มที่ดวงตาของเขาปิดพริ้มลงด้วยความรู้สึกสุขสมที่ไม่อาจปฏิเสธได้ "แค่แกได้ปล่อยน้ำควยของแกออกมาพิษก็จะออกมาพร้อมน้ำควยนั้นแล้ว" กลิ้งดงตัวจ่าฝูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นแต่เปี่ยมไปด้วยความเจ้าเล่ห์ ว่าแล้ว เจ้าตัวจ่าฝูงก็กลิ้งลงไปตรงเป้ากางเกงของพรานกล่ำ ที่ตอนนี้ แท่งควยของเขาชูชันดันซิป จน รูดลงไปเกือบครึ่งแล้ว เจ้าตัวจ่าฝูง สลับตำแหน่ง กับตัวที่กำลังปลดตะขอกางเกง มันกลิ้งขึ้นไปกัดเสื้อตรงส่วนของหัวนมจนขาด แล้วดูดลิ้มรสอย่างกระหาย ส่วน อีกตัวที่เห็นเพื่อนทำนั้นก็ทำบ้าง ทำให้พรานกล่ำ เสียวซี้ดจนแอ่นตัวขึ้น แท่งควยอันใหญ่ของเขาที่กำลังแข็งพาดไปทางขวา ก็เริ่มมี น้ำซึมออกมาเหมือนหยดน้ำค้างจากปลายควย เจ้าจ่าฝูงเห็นดังนั้นก็ ตวัดลิ้นยาว เข้าไปชิม เมื่อลิ้นของกลิ้งดงถูกส่วนหัวของควย เขาก็เสียววาบ "อ่าาาาห์...สะ...เสียว...ควยว่ะ...จัดการมันเลยเจ้าผีชั้นต่ำ" เขาครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เจ้าจ่าฝูงค่อย ๆ ใช้ลิ้นดันขอบกางเกงในของพรานกล่ำขึ้นมา แท่งควยของเขาก็ค่อย ๆ ขยับขยายตัวมากขึ้น จากการปลดปล่อยถูกกระตุ้น "อืมมมม...ปล่อยข้าทีเจ้าสองตัว" พรานกล่ำเอ่ยเสียงสั่นเครือกลิ้งดงที่ทับแขนอยู่มองตัวจ่าฝูง เจ้าจ่าฝูงพยักหน้าแล้วพวกมันจึง ปล่อยให้แขนพรานกล่ำมีอิสระ เขาลุกขึ้นจนกลิ้งดงที่อยู่บนตัวหล่นลงพื้นไปยกเว้นเจ้าจ่าฝูงที่จมอยู่ตรงเป้าของเขา เขาค่อย ๆ ดึงกางเกงลงไปกองไว้ที่เข่า เนื่องจากยังมีอีกสองตัวยังทับขาเขาอยู่ก่อนที่เขาจะ นอนลงเหมือนเดิมเอา มือทั้งสองไปไว้ที่ท้ายทอย "จัดการร่างกายข้าได้ตามที่พวกเจ้าต้องการได้เลย...อ่าาาาห์" เจ้ากลิ้งดงจ่าฝูงใช้ ลิ้นยาวที่เย็นเฉียบ ค่อย ๆ ถอกหัวควยของพรานกล่ำลงมาช้าๆ อย่างบรรจงความรู้สึกเย็นที่ตัดกับความร้อนรุ่มจากพิษของดอกราคาสมิงทำให้กล่ำ เสียวซ่านไปทั้งร่าง จนต้องครางเสียงต่ำๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง กลิ้งดงอีก สองตัว ที่เคยทับแขนก็ กลิ้งเข้าไปสูดดมแล้วเลียรักแร้ ของพรานกล่ำอย่างกระหาย สัมผัสที่เย็นวาบ แต่กลับปลุกเร้าอารมณ์ให้คุกรุ่นขึ้น ส่วนอีกสองตัวที่หัวนมก็กลิ้งกลับขึ้นไปสลับฝั่งกันดูดเลียหัวนมสีเข้มจนแข็งเป็นไต เสียงดูดดึงที่ดัง "จ๊วบๆ" ในความเงียบสงัดของป่าทำให้พรานกล่ำต้อง บิดเร้าตัวไปมาด้วยความสุขสมที่ไม่อาจปฏิเสธได้ กลิ้งดงจ่าฝูง ส่งสายตา ให้กับกลิ้งดงอีก สองตัว ที่ทับขาของพรานกล่ำอยู่ พลัน พวกมันก็กลิ้งไต่ตามขาขึ้นมา แล้ว ช่วยกันดูดเลียแท่งควยขนาดใหญ่ของพรานกล่ำอย่างเข้าขากันกับเจ้าจ่าฝูง ความรู้สึกเสียวซ่านที่พุ่งพล่านจากทุกทิศทางทำให้พรานกล่ำ “อ๊ะ...อ๊าาาาาห์ เสียวควยๆๆจะแตก...ตะ...แตกแล้ว...เชี่ย...อ้าาาาาห์...” เขาครางเสียงดังลั่น จนป่าสะท้าน ร่างกายของเขาเกร็งกระตุกอย่างรุนแรง ก่อนจะ พ่นน้ำขาวข้นออกมา เป็นปริมาณมาก น้ำควยที่เคยเป็นพิษบัดนี้กลับเป็นน้ำควยที่เปี่ยมไปด้วยความสุขสมที่ไม่อาจปฏิเสธได้ เจ้าจ่าฝูง กลิ้งไปเก็บกวาด แลบลิ้นยาวเลียน้ำควยนั้นจนไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว จากนั้น มันก็กลิ้งกลับมาดูดเค้นน้ำควย ที่เหลือจากแท่งควยของพรานกล่ำอีกครั้งพรานกล่ำ ดิ้นเร่า ด้วยความเสียวซ่านที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป "อึ๊อือ..." เขาครางเสียงต่ำๆ เจ้าฝูง สั่งเจ้าสี่ตัว ที่เคยทับแขนขาให้ กลับไปประจำที่เดิม แล้วมันก็ผละปากออกจากแท่งควยของเขา ก่อนจะพูดขึ้นว่า "พิษยังไม่หมด... ข้าขออีกนิด...อดทนหน่อยนะ" ว่าแล้วมันก็ กลับไปดูดดุนแท่งควย ของเขาที่ยังไม่อ่อนลงอีกครั้งพรานกล่ำ ครางออกมาไม่เป็นภาษา ดิ้นบิดไปมาอย่างรุนแรง ก่อนจะ ปล่อยน้ำควยออกมารอบสอง ออกมาอย่างขัดขืนไม่ได้ น้ำนั้นส่งถูกส่งเข้าปากไปในกลิ้งดงนั้นจนหมด กลิ้งดงจ่าฝูง เลียทำความสะอาดแท่งควยของพรานกล่ำ อย่างพิถีพิถันก่อนจะบอกให้ลูกน้องปล่อยพรานกล่ำ พรานกล่ำนอนหอบอยู่บนพื้นดินอย่างอ่อนแรงเจ้ากลิ้งดงกลิ้งเข้ามาข้างๆ หน้าพรานกล่ำแล้วพูดว่า "ข้าช่วยเจ้าแล้วนะ"มันกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ"แล้วก็ขอบคุณสำหรับน้ำสมิงไว้เสริมอาคมให้ข้า ฮิๆ" เจ้ากลิ้งดงเห็นพรานกล่ำยังคงอ่อนเพลียอยู่จึงเอ่ยต่อว่า"พักไปเถอะ" มันกล่าว"ลูกน้องข้าจะดูแลรอบๆ ให้ มีแรงแล้วเจ้าค่อยเดินทางต่อ" สิ้นเสียงของเจ้ากลิ้งดงลูกน้องของมันก็กลิ้งถอยออกไปจากตัวพรานกล่ำ แล้วกลิ้งกลับไปประจำการอยู่รอบๆอย่างเงียบๆปล่อยให้พรานกล่ำนอนพักอยู่เพียงลำพังด้วยความอ่อนเพลียและมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องลอดใบไม้มาทำให้กล่ำตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่สับสน เขารู้สึกปวดเมื่อยไปทั่วร่างกายแต่ความรู้สึกนั้นก็ถูกกลบด้วยความแค้นที่ฝังลึกในจิตใจมานานหลายภพชาติกล่ำลุกขึ้นยืนด้วยความทุลักทุเล แล้วมองสำรวจไปรอบๆเขาสังเกตเห็นว่าพวกกลิ้งดงได้หายไปแล้ว เหลือเพียงแค่ความเงียบสงัดและความว่างเปล่าที่อยู่รอบตัวเขา พรานกล่ำจัดเสื้อผ้าที่หลุดรุ่ยให้เข้าที่สำรวจดอกราคาสมิงที่ใส่ไว้ย่ามอย่างรอบคอบ ในใจของเขากลับมีแผนการใหม่ที่อันตรายยิ่งกว่าเดิมเขาไม่ได้ต้องการแค่แก้แค้นอีกต่อไปแล้วแต่เขาต้องการที่จะได้ครอบครองพรานเดชให้เป็นของเล่นของเขาอย่างสมบูรณ์
( n! ^9 G& ^, A- d: Q, z
{7 _. v! k5 E Y: h/ k' I* D y3 ?9 z; C: q; K) \* Y) A
2 F% o2 x( {- ~1 C, O( b6 p, K# C* W) X& C
& D, d M, G* s/ |
เสือสมิงพรานกล่ำ
: g2 T' _' k& z7 s+ ]$ B: i
k# \# a* H9 W3 ^# }
' k5 L9 W6 B! Zจากนี้ไปอาจจะออกทะเลขยายจักรวาลไปแบบไปเรื่อยไปเปื่อยกันตันแล้วนะครับ 
4 h, S- f" ^( U. F9 i9 t7 T |