แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย KinhoKang เมื่อ 2025-8-6 11:48 . W# W& x1 s! |+ l
- C! B1 V$ h& {( g0 H- Aสองสัปดาห์ผ่านไป หลังจากคืนที่อาทินมาเยี่ยมความทรงจำเรื่องคืนนั้นยังคงชัดเจนในหัวของเดชแต่มันก็ถูกแทนที่ด้วยความมุ่งมั่นในการทดลองเห็ดปริศนาที่เขาเพาะขึ้นมา เดชขลุกตัวอยู่แต่ในกระท่อมทั้งวันทั้งคืนเขาพยายาม เปลี่ยนเจลใสให้เป็นน้ำยาวิเศษ ที่สามารถสาดใส่ได้เลยโดยไม่ต้องอาศัยการสัมผัสน้ำเพิ่มเติมเขาอยากให้มันออกฤทธิ์ทันทีที่น้ำยานั้นปะทะเข้ากับร่างกายไม่ว่าร่างกายนั้นจะแห้งหรือเปียก แต่ดูเหมือนว่าความพยายามของเขายัง ไม่สำเร็จซักที ไม่ว่าจะนำเจลไปผสมกับน้ำป่า,น้ำฝน, หรือแม้แต่นำไปผสมกับสมุนไพรอื่นๆ ที่มีคุณสมบัติในการปลุกอารมณ์ก็ยังไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ ฤทธิ์ของมันยังคงทำงานแบบเดิมคือต้องใช้การสัมผัสโดยตรงกับร่างกายที่เปียกชื้นเท่านั้นเดชเริ่มรู้สึกท้อแท้กับการทดลองที่ดูเหมือนจะไร้จุดสิ้นสุด ในขณะที่เดชกำลังนั่งถอนหายใจกับผลการทดลองที่ล้มเหลว เสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยก็ดังขึ้น จากนอกกระท่อม ก่อนที่ร่างของ พรานโด่ง จะปรากฏตัวที่หน้าประตู "เฮ้ย! เดช! กูว่าแล้วว่ามึงต้องอยู่ข้างใน" พรานโด่งเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงคุ้นเคย"เห็นว่ามัวแต่หมกตัวอยู่กับไอ้เจ้าเห็ดนี่... แต่กูมาเรื่องสำคัญว่ะ" โด่งเดินเข้ามาในกระท่อมพลางวางกระป๋องเบียร์ลงบนโต๊ะ "มีคนในเมืองติดต่อมา" โด่งกล่าวต่อ "อยากให้กูช่วยพาเข้าไปหาของป่าหน่อย" เดชเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย"คนเมืองเหรอ? แล้วทำไมต้องเป็นมึงล่ะ" "ก็นั่นแหละประเด็น" โด่งถอนหายใจ "กูเป็นสายล่าสัตว์มันไม่ถนัดเรื่องหาของป่าเลยมาหามึงเผื่อจะช่วยได้"โด่งกล่าวพร้อมกับเหลือบมองไปที่กองเห็ดปริศนาที่วางอยู่บนพื้น"สงสัยว่าถ้ามึงไปช่วยเขา... เขาอาจจะสนใจไอ้เจ้าเห็ดนี่ของมึงก็ได้นะ" เดชพยักหน้าอย่างครุ่นคิด"ไหนเล่ามาสิ ว่าคนเมืองคนนี้เป็นใคร" โด่งหยิบเบียร์ขึ้นมาจิบหนึ่งอึกก่อนจะเริ่มเล่า"เขาชื่อ คุณดนัย"โด่งกล่าว "เหมือนจะเป็น เภสัชของบริษัทยา อะไรสักอย่าง" "เขาอยากมาหา สมุนไพร อะไรสักอย่างไปทำ ยาตัวใหม่" โด่งอธิบาย"เขาบอกว่ามันเป็นสมุนไพรที่หายากมาก แล้วก็ขึ้นอยู่ในป่าลึกในแถบของเรานี่แหละแต่รายละเอียดมากกว่านี้เขาไม่ได้บอกอะไรกูมา" เดชฟังอย่างตั้งใจใบหน้าของเขาเริ่มมีแววตื่นเต้นขึ้นมาอีกครั้งนี่อาจเป็นโอกาสที่เขาจะได้พบเจอกับพืชพรรณลึกลับชนิดอื่นๆที่อาจมีคุณสมบัติที่น่าสนใจไม่แพ้เห็ดปริศนาของเขาหรืออาจจะเป็นโอกาสที่จะได้แลกเปลี่ยนความรู้กับคนที่มีความรู้เรื่องสมุนไพรจริงๆ เดชพยักหน้าช้าๆพลางหยิบกระป๋องเบียร์ของตัวเองขึ้นมาจิบหนึ่งอึก "ก็ได้... กูจะไปช่วย" เดชกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น"แต่บอกเขาด้วยนะว่าข้าไม่ได้ไปแค่เพื่อหาของป่าอย่างเดียว" โด่งเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย"แล้วเขาจะไปทำอะไรวะ?" "กูจะเอา น้ำยาวิเศษ ที่กูทำไว้ไปทดลองด้วย" เดชตอบ พลางยิ้มอย่างมีเลศนัย"ถ้ามันสำเร็จ... เราอาจจะได้เงินมากกว่าที่เขาจะจ่ายให้เราเสียอีก" โด่งหัวเราะเสียงดังด้วยความสนุกสนาน"เออ! ดีเลย! งั้นพรุ่งนี้เราไปเจอกันที่ปากทางเข้าป่าแต่เช้าเลยนะ"โด่งกล่าวพลางลุกขึ้นยืนเตรียมตัวกลับ "เขาบอกว่าเขาจะพักค้างคืนในป่าเพื่อหาของด้วย" เดชพยักหน้าเข้าใจเขาโบกมือให้โด่งก่อนที่เพื่อนจะหายลับเข้าไปในป่าความคิดของเดชตอนนี้ไม่ได้อยู่แค่การหาของป่าอีกต่อไปแล้วแต่เป็นการพิสูจน์ความสามารถของน้ำยาวิเศษที่เขายังทำไม่สำเร็จและการเผชิญหน้ากับคนเมืองผู้มีความรู้เรื่องสมุนไพรอย่างคุณดนัย เช้าวันรุ่งขึ้นแสงแรกของดวงอาทิตย์สาดส่องลงมายังกระท่อมของเดชเดชตื่นขึ้นมาด้วยความกระปรี้กระเปร่าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเขาเริ่มเก็บข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับการเดินทางเข้าป่าในครั้งนี้อย่างตั้งใจไม่ใช่แค่ปืนกับข้าวห่อ แต่ยังมีสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งที่เขาเตรียมมาเป็นพิเศษ เดชเดินไปที่มุมหนึ่งของกระท่อมแล้วหยิบขวดแก้วออกมาสองขวด ขวดแรกเป็น ขวดขนาดกลางที่บรรจุเจลใส ซึ่งสกัดจากเห็ดปริศนาที่เขาเพาะเองจนสำเร็จเดชปิดฝาขวดอย่างแน่นหนาด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ อีกขวดหนึ่งเป็น น้ำยาวิเศษที่ยังปรับผลแสดงฤทธิ์ออกมาไม่ได้ ที่เขาพยายามทดลองมานานหลายสัปดาห์เดชหยิบขวดนั้นขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกันทั้งความท้อแท้และอยากรู้อยากเห็น แต่เขาก็ไม่ยอมแพ้ เขาเก็บมันใส่ย่ามอย่างรอบคอบ "เผื่อเอาไปถามคุณดนัยดูดีกว่า" เดชพึมพำกับตัวเอง"เขาเป็นเภสัชกร บางทีอาจจะรู้วิธีทำให้มันสำเร็จก็ได้" เมื่อเตรียมตัวเสร็จเรียบร้อยเดชก็สะพายย่ามคู่ใจที่มีเจลและน้ำยาวิเศษอยู่ภายในพลางหยิบปืนคู่ใจแล้วเดินออกจากกระท่อมไปอย่างมุ่งมั่นเพื่อมุ่งหน้าไปหาพรานโด่งและคุณดนัยที่นัดเจอกันไว้ที่ปากทางเข้าป่า เมื่อเดชเดินมาถึงปากทางเข้าป่าเขาก็เห็นพรานโด่งยืนรออยู่กับชายแปลกหน้าคนหนึ่ง ชายคนนั้นคือ คุณดนัย ตามที่โด่งได้เล่าให้ฟัง เขามีรูปร่างสูงโปร่งแต่งกายด้วยเสื้อแขนยาวและกางเกงที่ดูทันสมัย คุณดนัยเป็น หนุ่มตี๋อายุประมาณ 30 กลาง ๆ มีแววตาที่ฉายแวว ฉลาด แต่ก็ แฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์ทำให้เดชรู้สึกไม่ไว้ใจตั้งแต่แรกเห็น "นี่เดช... นี่คุณดนัย" พรานโด่งแนะนำก่อนที่คุณดนัยจะเดินเข้ามาจับมือกับเดชอย่างถือตัวเล็กน้อย "ยินดีที่ได้รู้จักครับพรานเดช" คุณดนัยเอ่ยด้วยน้ำเสียงสุภาพ"ผมได้ยินชื่อเสียงของพรานมาจากพรานโด่งแล้วครับ" เดชพยักหน้ารับคำทักทายแต่ในใจของเขากลับรู้สึกไม่สบายใจอย่างประหลาดเขาไม่เชื่อในคำพูดของคนเมืองคนนี้เลยสักนิดราวกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างกำลังถูกซ่อนอยู่ พรานโด่งยิ้มร่าอย่างมีความสุขที่เห็นทั้งสองคนทำความรู้จักกัน"เอาล่ะๆ พอคุยกันแล้วก็รีบไปเถอะ ก่อนที่แสงจะหมดซะก่อน" คุณดนัยพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะหันมามองพรานทั้งสองด้วยแววตาจริงจัง "เป้าหมายของผมในการเข้าป่าครั้งนี้" คุณดนัยกล่าว "คือการหาสมุนไพรชนิดหนึ่งครับมันเป็นพืชที่หายากมาก แต่ผมเชื่อว่ามันมีคุณสมบัติที่น่าสนใจอยู่" "ถ้าเราสามารถนำมันไปสกัดได้สำเร็จมันจะสามารถนำไปใช้เป็นยาบำรุงกำลังตัวใหม่ของบริษัทยาที่ผมทำงานอยู่ได้"คุณดนัยอธิบายต่อด้วยน้ำเสียงที่ดูน่าเชื่อถือ "ซึ่งมันจะช่วยให้ชีวิตของใครหลายคนดีขึ้นได้แน่นอน" เดชมองเข้าไปในดวงตาของคุณดนัยอย่างไม่กระพริบเขาฟังคำพูดที่ฟังดูดีอย่างตั้งใจแต่ในใจกลับคิดว่าคำพูดเหล่านี้เป็นเพียงสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อปกปิดเป้าหมายที่แท้จริงเอาไว้ "และแน่นอนว่าถ้าเราหามันจนเจอ...ผมจะจ่ายให้พวกคุณอย่างงามแน่นอน"คุณดนัยกล่าวทิ้งท้ายด้วยรอยยิ้มที่เดชรู้สึกได้ถึงความเจ้าเล่ห์ของมัน เดชยังคงไม่ไว้ใจเขาจึงตัดสินใจลองถามคำถามที่สำคัญ "แล้วสมุนไพรนั่น... คุณดนัย เคยเห็นมันมาก่อนไหมครับ?" คุณดนัยยิ้มอย่างมั่นใจ"ไม่เคยครับพรานเดช" เขาตอบ"แต่ผมมีข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือว่า ในป่าแถบนี้ มีมันขึ้นอยู่แน่นอน" เมื่อได้คำตอบทั้งสามคนก็ เริ่มออกเดินทางเข้าสู่ผืนป่า โดยมีพรานโด่งนำหน้าพรานเดชเดินตามมาติดๆ ส่วนคุณดนัยเดินรั้งท้าย เดชใช้จังหวะนี้ กระซิบกับโด่ง ด้วยน้ำเสียงที่เบาที่สุด "อย่าเพิ่งบอกคุณดนัยเกี่ยวกับเรื่องเห็ดนะ" พรานโด่งพยักหน้ารับคำอย่างเข้าใจแล้วพวกเขาจึงเดินลึกเข้าไปในป่าด้วยความเงียบสงัด การเดินทางเริ่มต้นขึ้นโดยมีพรานโด่งนำทางอย่างคุ้นเคย คุณดนัยมองสำรวจระหว่างทางอย่างละเอียด เขากวาดสายตาไปรอบๆราวกับกำลังมองหาอะไรบางอย่างโดยเฉพาะ ซึ่งเดชได้แต่จับตาดูอยู่เงียบๆ เดชถอยไปเดินระวังหลัง อย่างระมัดระวังเขาไว้ใจพรานโด่งที่จะนำทางได้อย่างดีเยี่ยมแต่กลับไม่ไว้ใจคนแปลกหน้าที่ดูฉลาดและเจ้าเล่ห์อย่างคุณดนัยเลย เวลาล่วงเลยไปกว่าครึ่งวัน จนพวกเขาเดินลึกเข้าไปถึงใจกลางผืนป่าที่ไร้ซึ่งเส้นทางเดินที่ชัดเจนบรรยากาศรอบตัวเริ่มเปลี่ยนไปอย่างน่าประหลาด จากที่เคยเต็มไปด้วยเสียงของธรรมชาติทั้งเสียงนกร้องและเสียงแมลงที่อื้ออึง ตอนนี้ ป่ากลับตกอยู่ในความเงียบสงัด มีเพียงแค่ เสียงลมที่สีกับใบไม้ เท่านั้นที่ดังขึ้นเป็นระยะ ความเงียบที่ผิดปกติเช่นนี้ทำให้พรานเดชรู้สึกถึงลางร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้นเขาหยุดเดินแล้วยกมือขึ้นทำสัญญาณให้พรานโด่งและคุณดนัยหยุดตามไปด้วย ในความเงียบที่น่าขนลุกนั้นเอง เสียงกรอบแกรบจากพุ่มไม้พุ่มหนึ่งก็ดังขึ้น อย่างแผ่วเบาแต่ชัดเจน พรานโด่งหันปากกระบอกปืนไปทางนั้นในทันที มือของเขาถือปืนอย่างมั่นคงสายตาจับจ้องไปที่ความเคลื่อนไหวอย่างไม่กะพริบตา จากพุ่มไม้ที่สั่นไหว งูจงอางตัวใหญ่เกือบเท่าแขน และ ลำตัวยาวหลายเมตร ก็ปรากฏตัวออกมา มันกำลังเลื้อยไปบนพื้นป่าอย่าง แผ่วเบา และไร้เสียง ทุกคนในที่นั้นต่างหยุดชะงัก ราวกับถูกตรึงด้วยความตายที่อยู่ตรงหน้า พรานเดชกระซิบเบาๆ "อย่าขยับ... หายใจช้าๆ" ทุกคนต่าง กั้นหายใจเฮือกใหญ่ ในใจทุกคนเต้นระรัวอย่างบ้าคลั่งหวังเพียงว่าสัตว์ร้ายจะไม่สังเกตเห็นการมีอยู่ของพวกเขางูจงอางตัวนั้นเลื้อยผ่านพวกเขาไปอย่างเชื่องช้าแต่ดูเหมือนไม่มีทีท่าว่าจะทำร้ายใดๆ เมื่อมันเลื้อยผ่านไปจนลับตาแล้ว ทุกคนจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก หยาดเหงื่อเย็นๆผุดขึ้นบนหน้าผากของคุณดนัยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน เขาหอบหายใจอย่างแรง หลังจากทุกคนตั้งสติได้คุณดนัยก็ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ยังคงสั่นเครือเล็กน้อย "พรานเดช ทำไมไม่ยิงมันครับ" เขาถามราวกับว่านั่นเป็นทางออกที่สมเหตุสมผลที่สุด เดชหันไปมองคุณดนัยด้วยแววตาที่เรียบเฉย"เรา จะไม่ฆ่าสัตว์โดยไม่จำเป็นครับ"เดชตอบอย่างหนักแน่น"มันไม่ได้ทำร้ายเรา เราก็ไม่ควรไปทำร้ายมัน" คุณดนัยขมวดคิ้วด้วยความไม่เข้าใจแต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาอีกส่วนพรานโด่งพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของเดชราวกับว่ามันเป็นกฎที่ทุกคนในป่าต้องยึดถือ หลังจากเดินทางต่ออีกครู่หนึ่งเดชก็ตัดสินใจลองเชิงคุณดนัย เขาชวนคุยเรื่องเห็ดปริศนา ที่เขาพกมาด้วย "คุณดนัยครับ...ถ้าผมมีเห็ดชนิดหนึ่งที่กินแล้ว มันทำให้กระชุ่มกระชวย เหมือนได้เติมพลังให้ร่างกาย คุณจะสนใจมันไหมครับ?" คุณดนัยหัวเราะเบาๆ"ก็คงจะสนใจครับ แต่เห็ดที่ออกฤทธิ์แบบนั้นก็มีอยู่หลายชนิดในป่า"เขาตอบด้วยท่าทีที่ไม่แสดงความสนใจมากนัก"บริษัทยาของผมกำลังมองหาสิ่งที่ลึกลับและมีประสิทธิภาพมากกว่านั้นครับ" คำพูดนั้นทำให้เดชยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัยเขาคิดในใจว่า 'แปลว่าสมุนไพรที่เขาตามหาน่าสนใจกว่านี้สินะ' ความสงสัยของเดชที่มีต่อคุณดนัยยิ่งเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว เมื่อคุณดนัยสังเกตเห็นว่าเดชเงียบไปเขาก็พูดขึ้นว่า "เราเดินทางมานานแล้วผมว่าเราน่าจะหาที่พักค้างแรมได้แล้วนะครับ" หลังจากเดินทางมาตลอดทั้งวันพรานโด่งก็ชี้ไปยังที่โล่งใกล้กับลำธาร "ตรงนั้นแหละเดช!เราจะพักกันที่นั่น!" พวกเขาช่วยกัน กางเตนท์ และก่อกองไฟเพื่อเป็นที่พักค้างแรมในยามค่ำคืนเมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ทั้งสามก็นั่งพักรอบกองไฟที่เดชก่อขึ้นอย่างชำนาญ ทันใดนั้นคุณดนัยที่กำลังยืดเส้นยืดสายก็บ่นขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอ่อนล้า"โอย... ปวดเนื้อปวดตัว ไปหมดเลยครับ" เขาเอ่ย"ไม่เคยต้องเดินป่าหนักขนาดนี้มาก่อนเลย" พรานเดชที่กำลังนั่งมองกองไฟอยู่เงียบๆหันไปมองคุณดนัยด้วยแววตาที่มีประกายบางอย่างผุดขึ้นมานี่คือโอกาสที่เขาจะได้ลองใช้เจลปริศนาอีกครั้งเดชจึงล้วงเข้าไปในย่ามแล้วหยิบขวดเจลใสขนาดกลางที่เตรียมมาออกมา "เอาอย่างนี้ไหมครับ" เดชเอ่ยพลางยื่นขวดเจลใสให้คุณดนัย"ผมมีเจลบำรุงกำลังอยู่ตัวหนึ่งเอาไปทาแล้วจะช่วยให้หายปวดเมื่อยได้ดีเลยครับ" คุณดนัยมองขวดเจลใสในมือของเดชด้วยความสงสัยแต่ด้วยความปวดเมื่อยที่ทนไม่ไหว เขาก็ตัดสินใจรับขวดนั้นมา"ขอบคุณมากครับพรานเดช" คุณดนัยกล่าวก่อนจะเปิดฝาขวดออกและเริ่มทาเจลลงบนแผงอกและแขนที่รู้สึกปวดเมื่อย ไม่นานหลังจากทาเจลใสลงบนร่างกาย คุณดนัยก็เบิกตากว้างขึ้นด้วยความตกใจ ร่องรอยความอ่อนล้าบนใบหน้าหายไปในทันทีถูกแทนที่ด้วยความสดใสและกระปรี้กระเปร่าอย่างน่าประหลาด "ว้าว!" คุณดนัยอุทานเสียงดัง "พรานเดช! นี่มันอะไรกันครับ!ผมไม่เคยเจอสมุนไพรตัวไหนที่ออกฤทธิ์เร็วขนาดนี้มาก่อนเลย" เขามองดูขวดเจลในมืออย่างสนใจ ก่อนจะหันไปถามเดชถึงวัตถุดิบ ที่ใช้ทำมันเดชยิ้มอย่างพึงพอใจกับปฏิกิริยาของอีกฝ่าย "มันก็คือ เห็ดที่ผมเคยพูดถึงไป นั่นแหละครับ" เดชตอบอย่างตรงไปตรงมาแต่เขาเองก็ยังคงไม่เปิดเผยความลับทั้งหมด คุณดนัยมองขวดเจลในมือสลับกับมองหน้าเดชด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นอย่างแท้จริง"เห็ดนี้ช่างน่าสนใจขึ้นมาแล้วสิครับเนี่ย" เขากล่าวด้วยน้ำเสียงจริงจัง "ผมไม่คิดว่ามันจะทำให้ กระปรี้กระเปร้าขึ้นมาขนาดนี้" คุณดนัยกล่าวต่อ "ถ้าหากว่าคุณสมบัติของมันคงที่...เห็ดชนิดนี้มีค่ามหาศาลเลยนะครับ" เดชยิ้มตอบกลับไปอย่างมีเลศนัยไม่แพ้กัน"ผมก็บอกได้แค่นั่นแหละครับ" เดชกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ไม่ได้จริงจังนัก"วิธีปลูก... มันก็เป็นความลับทางการค้าน่ะครับ" คุณดนัยหัวเราะเบาๆแต่ในแววตาของเขากลับไม่มีรอยยิ้ม "อย่างนั้นเหรอครับ... น่าเสียดายจัง"เขากล่าวพลางวางขวดเจลลงบนพื้นอย่างช้าๆ ในขณะนั้นเอง พรานโด่ง ที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ ก็ ยิ้ม ออกมาเล็กน้อยเขารู้ดีว่าเดชกำลังเล่นเกมอะไรอยู่และเขาก็เชื่อมั่นว่าเดชจะไม่มีวันเปิดเผยความลับทั้งหมดให้คนเมืองอย่างคุณดนัยรู้แน่นอน "ถ้าอย่างนั้น... ผมขอเสนออย่างนี้ก็แล้วกันครับ"คุณดนัยกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่เดชไม่ชอบใจนัก"ถ้าหากว่าคุณยอมเปิดเผยความลับเรื่องเห็ดนี้ทั้งหมดให้ผม ผมจะจ่ายเงินให้คุณล้านนึง" เดชส่ายหน้าช้าๆพลางยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ "ผมไม่ได้รับข้อเสนอเรื่องเงินหรอกครับแต่ผมมีข้อเสนอที่ดีกว่านั้น" คำพูดของเดชทำให้คุณดนัยเลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย"ข้อเสนอที่ดีกว่านั้นเหรอครับ? ลองว่ามาสิ" "ผมอยากให้ คุณดนัยต้องมาลองฤทธิ์ของเห็ดนี่ดูด้วยตัวเอง" เดชกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง"คุณจะได้รับรู้ถึงคุณสมบัติที่น่าอัศจรรย์ของมันอย่างแท้จริงซึ่งผมเชื่อว่ามันมีค่ามากกว่าเงินทองที่ท่านมี" เดชก้มลงหยิบขวดน้ำยาวิเศษที่ยังไร้ฤทธิ์ขึ้นมาโชว์ให้คุณดนัยดู"ตอนนี้ ผมกำลังทดลองทำบางสิ่งอยู่ แต่ผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการสกัดสมุนไพรมากนัก"เดชกล่าวต่อ "ผมอยากได้คนฉลาดๆ อย่างคุณดนัยมาช่วยผมครับ" คุณดนัยมองหน้าเดชด้วยแววตาครุ่นคิดเขาลังเลอยู่ชั่วครู่แต่ความอยากรู้อยากเห็นในฐานะนักวิทยาศาสตร์ก็เอาชนะความระแวดระวังในที่สุด "งั้นผมขอลองดูฤทธิ์มันก่อนว่ามันสุดยอดแค่ไหน"คุณดนัยกล่าวอย่างจริงจัง "ถ้ามันดีจริง...ผมก็ยินดีที่จะร่วมมือกับคุณ" เดชยิ้มอย่างพึงพอใจนี่คือโอกาสที่เขาจะได้พิสูจน์ความสามารถของเห็ดให้คนเมืองผู้ฉลาดอย่างคุณดนัยได้ประจักษ์แก่สายตาตัวเองเขาหยิบเห็ดดอกหนึ่งออกมาจากย่ามแล้วยื่นให้คุณดนัย "ลองกินนี่ดูครับ" เดชกล่าว "แล้วเดี๋ยวผมจะให้คุณดูว่า...ความลับที่แท้จริงของมันคืออะไร" คุณดนัยรับเห็ดดอกนั้นมาอย่างระมัดระวังแล้วกลืนลงไปอย่างไม่ลังเล เดชไม่ได้บอกความจริงเรื่องน้ำกับเขาแต่แทนที่จะเป็นอย่างนั้น เดชกลับลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปที่ด้านข้างของเต็นท์ เมื่อคุณดนัยกลืนเห็ดลงไปได้ไม่นานเดชก็ ลุกขึ้นไปหยิบกระติกน้ำ ที่อยู่ข้างตัว แล้ว ราดน้ำใส่ตัวคุณดนัยอย่างช้าๆ คุณดนัยมองการกระทำของเดชด้วยความสับสนแต่ก็ยังไม่ได้เอ่ยปากถามอะไรออกมา แต่แล้ว ร่างกายของเขาก็เริ่มร้อนรุ่มขึ้นมา อย่างน่าประหลาดความร้อนนั้นไม่ได้มาจากไฟ แต่มาจากภายในราวกับกระแสไฟที่พลุ่งพล่านไปทั่วทุกอณู เขาลูบไล้ไปตามร่างกายตัวเอง เพื่อสำรวจความผิดปกติที่เกิดขึ้นแต่กลับเป็นผลตรงกันข้าม มันกลับยิ่งเร้าอารมณ์เขาให้มากขึ้น ความเงี่ยนที่ไม่อาจควบคุมได้เริ่มเข้าครอบงำเขาอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของคุณดนัยเริ่มแดงก่ำดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้นด้วยความตกใจและความเสียวซ่านที่ถาโถมเข้ามาเขาไม่เคยสัมผัสกับความรู้สึกเช่นนี้มาก่อน คุณดนัยพยายามที่จะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่สามารถทำได้ "อืมมมมม..." เสียงครางต่ำ ๆหลุดออกมาจากลำคอของเขา ถอนหายใจเฮือกใหญ่หนึ่ง แล้ว เริ่มหายใจถี่ขึ้น มือของเขาลูบไล้ไปทั่วร่างกายตัวเองอย่างไม่หยุด ราวกับกำลังค้นหาสัมผัสที่ปลุกเร้าที่สุด "ความรู้สึกนี้มันอะไรกันครับพรานเดช..."คุณดนัยเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า "อ่าาาาาห์..." เสียงครางด้วยความเสียวซ่านหลุดตามมาอีกครั้งใบหน้าของเขาเหยเกด้วยความทรมานปนความสุขสม เขาเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้ อีกต่อไปแล้ว พรานโด่งที่นั่งอยู่ข้างๆ มองเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานเขารู้ดีว่าเดชกำลังทำอะไรส่วนเดชก็มองคุณดนัยด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจและอยากรู้อยากเห็นในผลการทดลองของเขาเอง พรานเดชหันไปมองพรานโด่งที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "โด่ง...ลองของให้ใหม่กูหน่อยดิ"เดชเอ่ยอย่างอารมณ์ดี พลาง โยนขวดเจล ที่เหลือให้เพื่อนรัก พรานโด่งรับขวดเจลมาอย่างไม่มีข้อสงสัย เขาปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตออก อย่างรวดเร็วเผยให้เห็นแผงอกที่กำยำและชุ่มไปด้วยเหงื่อ เขา เปิดฝาขวดแล้วราดเจลลงบนตัว แล้ว ค่อย ๆ ลูบเกลี่ยเจลไปทั่วร่างกาย ของตัวเองอย่างช้า ๆกลิ่นของเจลผสมกับกลิ่นกายของพรานโด่งลอยอบอวลไปทั่ว คุณดนัยที่เห็นภาพตรงหน้า เหมือนถูกกระตุ้นมากยิ่งขึ้น เขามองพรานโด่งด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนาแล้ว เริ่มบีบคลึงส่วนต่างๆ ของร่างกายตนเองแรงขึ้น เสียงหอบหายใจของเขาดังขึ้นเป็นระยะ โด่งยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์เขารู้ดีว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น เขาคว้าขวดน้ำของตัวเองที่วางอยู่ข้างตัว แล้ว ราดน้ำลงบนตัว ที่ถูกชโลมทับเจลอย่างช้าๆความรู้สึกวาบหวามและร้อนรุ่มแล่นพล่านไปทั่วร่าง ความเสียวซ่านแผ่ไปทั่วร่างกายของเขาทันทีที่น้ำถูกตัว เขากัดริมฝีปากแน่นเพื่อกลั้นเสียงแต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหว ปล่อยเสียงครางจากลำคอ ออกมาอย่างไม่ขัดขืน คุณดนัยมองดูเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยดวงตาที่เบิกกว้างเขาไม่เคยเห็นมนุษย์คนไหนมีปฏิกิริยาต่ออะไรบางอย่างได้รุนแรงขนาดนี้มาก่อน พรานเดชเดินเข้าไปหาคุณดนัย แล้ว นั่งลง ตรงหน้าเขาอย่างช้า ๆ เดชไม่ได้พูดอะไร แต่ใช้มือ ค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อของคุณดนัยออก อย่างแผ่วเบาเผยให้เห็นแผงอกที่กำยำตามกาลเวลา เดชยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วใช้นิ้วชี้เขี่ยไล่จากลูกกระเดือก ลงมาตาม ไหปลาร้า หน้าอก หน้าท้อง ที่มีมัดกล้ามจากการออกกำลังกาย สะดือ และมาหยุดอยู่ที่ ขอบกางเกง คุณดนัยที่ถูกฤทธิ์ของเจลเข้าครอบงำอย่างสมบูรณ์ แอ่นตัวรับการกระทำนั้นของเดชเป็นอย่างดี ดวงตาของเขาปิดพริ้มลงด้วยความรู้สึกเสียวซ่านที่พุ่งพล่านไปทั่วร่างกาย "ชะ...ช่วยผม...หน่อยครับคุณเดช..." คุณดนัยครางออกมาเสียงสั่นเครือ เขาแอ่นเป้า ที่ตอนนี้ แท่งควยแข็งดันกางเกงพาดไปทางขวา อย่างชัดเจน ยื่นมาทางเดช เพื่อเชื้อเชิญอย่างไม่อาจปกปิดความปรารถนาได้อีกแล้ว เดชมองดูการเชื้อเชิญนั้นด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เขายังคงไม่ทำตามที่อีกฝ่ายต้องการ แกล้งใช้ปลายนิ้วไล้ลงมาถึงตรงเชือก ของกางเกงแล้ว หยุด จากนั้น ข้ามไปเขี่ยไล้ตามกล้ามขาแกร่ง ของคุณดนัยแทน คุณดนัย ซี้ดปาก ด้วยความเสียวซ่าน แต่ก็ ผิดหวัง ในเวลาเดียวกัน เขาอยากให้เดชสัมผัสตรงนั้นของเขาใจแทบขาด เดชยังคงเล่นกับความรู้สึกของคุณดนัยอย่างต่อเนื่อง เขี่ยปลายนิ้วไปแถวๆ วีเชป ที่เป็นกล้ามเนื้อหน้าท้องส่วนล่างคุณดนัย แอ่นตัวตามนิ้วของเดชไม่หยุด ดวงตาของเขาปิดพริ้มลงด้วยความสุขสมที่ถาโถมเข้ามาไม่ขาดสายจนในที่สุดเขาก็ทนไม่ไหว คุณดนัย คว้ามือของเดชมาจับแท่งควยของเขา อย่างรวดเร็ว แล้วจับมันรูดไปมา ทับกับกางเกงอย่างช้า ๆ สัมผัสที่ได้ทำให้เขา ครางออกมาเสียงดัง ด้วยความเสียวซ่านที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไปแล้ว เดชยิ้มมุมปากอย่างพึงพอใจ เขาดึงขอบกางเกงและกางเกงในของดนัยยืดออก จน แท่งควยของดนัยดีดขึ้นมา เผยให้เห็นส่วนปลายที่ ขาว มีหัวสีชมพูสวย ดูน่าดึงดูดมากบวกกับหยดน้ำใสๆ ที่ไหลซึมออกมา ยิ่งทำให้เดชเกิดอารมณ์ขึ้นมาตามๆกัน แต่เดชที่มีสติอยู่คนเดียว เขาต้องการเล่นสนุก จึงดึงกางเกงทั้งสองชั้นของดนัยออกจนหมด แล้ว ก้มลงไปสำรวจแท่งควย ของคนเมืองอย่างใกล้ชิด มันมีขนาดประมาณ 7 นิ้ว เห็นเส้นเลือดปูด และ โคนมีหมอยที่กันเป็นทรงดูสวยงามไข่ขาวนวลดูเกลี้ยงเกลา เดช เอาหน้าไปจ่อใกล้ๆ แท่งควยแล้วค่อยๆเป่าลมอุ่นๆ เล่นกับควยของดนัย ดนัย ครางออกมาเบาๆ พยายาม แอ่นควยให้ชนกับหน้าเดชแต่เดชก็หลบเลี่ยงไม่ยอมให้แตะต้อง เหงื่อผุดออกจากหน้าผากของดนัย ไหลย้อยลงมาเต็มใบหน้า เดชแกล้ง ทำท่าเลียแบบไม่ได้สัมผัสแท่งควย ของดนัยเลยแม้แต่น้อย เมื่อเห็นภาพนั้นดนัยก็ยิ่งถูกเร้าอารมณ์มากขึ้น เขายกมือขึ้นจะมากดศีรษะของเดช ให้ลงไปสัมผัสกับแท่งควย ของตนแต่ เดชปัดออก อย่างรวดเร็ว และในจังหวะที่เดช อ้าปาก เหมือนกำลังจะอม ดนัยก็ ดันแท่งควยของเขาพรวดเข้าปากเดชไป เดช เบิกตากว้างด้วยความตกใจ คายแท่งควยออก แล้วถอยออกมาเล็กน้อย "หยุดแกล้งกันสักทีเถอะครับ" ดนัยเอ่ย "ช่วยผมหน่อยเถอะครับพรานเดช..." น้ำเสียงของเขาแผ่วเบาและดูอ้อนวอน เดชจึงหยุดแกล้งแล้ว พุ่งเข้าไปจู่โจมแท่งควยสีสวยและรสหวานแท่งนั้นอย่างกระหาย อีกครั้งหนึ่ง ใช้ลีลาการดูดและเลียอย่างช่ำชอง ดนัยที่ถูกปรนเปรออย่างถึงใจก็ ลุกขึ้นแล้วจับหัวเดชไว้ รัวเด้าปาก อย่างรุนแรงจนเดช สำลัก ต้องผละออกมาเพื่อหายใจเพียงครู่เดียวแต่แล้วดนัยก็ กลับมาเด้าใส่ปากเดชต่อ อย่างไม่ลดละ มือเขาลูบหัวเดชอย่างแผ่วเบา แต่จังหวะนั้นรัวเหมือนกระต่าย ในขณะนั้นเอง พรานโด่ง ที่นั่งดูภาพตรงหน้าอยู่ก็ ช่วยตัวเองไปด้วย เขาไม่รอช้า ลุกขึ้นเดินตรงมาแล้วถอดกางเกงและกางเกงในของเดชออก อย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นแท่งควยที่แข็งชูชันของเดช เขาก้มลงมาเลียรูสวรรค์ของเดชจนชุ่มใช้นิ้วเขี่ยอยู่ซํกพัก แล้วจึงเสียบแท่งควยของเขาเข้าไปในร่างกายเดช เดช ครางออกมาแต่ไม่ชัด เพราะปากไม่ว่างจากการควยของดนัย ตอนนี้เดชกลายเป็นเครื่องมือปลดปล่อยราคะของคุณดนัยและพรานโด่งไปโดยปริยาย เมื่อความร้อนรุ่มถึงขีดสุดดนัยค่อยๆ ถอยตัวออก จากเดชช้าๆ พลาง ดึงเดชเข้าไปในเต็นท์ ที่กางไว้ เมื่อเข้าไปแล้ว ดนัยก็รีบลงกับพื้นเต็นท์ เพื่อพักหายใจอย่างเหนื่อยหอบ ดนัยแกล้งเดชกลับเขากระดกควยหงึก ๆ เชื้อเชิญเดชให้เข้ามาจัดการมันต่อ แต่พอเดชเข้ามาเขาก็ใช้มือจับแท่งควยของเขา หลบปากเดชไปซ้ายทีขวาทีแล้ว พอเดชตามไม่ทันมือนึงเขาก็จับหัวของเดชให้หยุดนึงไว้ ก่อนที่จะเอาแท่งควยฟาดหน้าเดชดัง"แปะๆๆๆ" จนพอใจแล้ว เขาก็ปล่อยให้เดชจัดการต่อ อย่างเต็มที่ ส่วนพรานโด่งที่ตามเข้ามาในเตนท์ก็ กระเด้าเอวใส่รูสวรรค์ของเดชอย่างรัวแรงไม่แพ้กันทั้งสามตกอยู่ในห้วงความเสียวที่ไม่อาจบรรยาย พวกเขาครางออกมาแทบไม่เป็นภาษาลั่นป่า ครู่ใหญ่ดนัยบอกโด่งว่า"ผมขอลองรูของพรานเดชบ้างสิครับ"พวกเขาหยุดให้เดชลุกขึ้นกลับหลังหันหน้ามาทางโด่ง เดชนั่งลงบดแท่งควยของดนัยดนัยครางเสียวซี้ด โด่งก็ยื่นแท่งควยของเขามาที่หน้าเดชทั้งสามเริ่มจังหวะรักอีกครั้ง ดนัยดันก้นเดชขึ้นเล็กน้อยก่อนจะรัวใส่ไม่ยั้ง ส่วนเดชก็ร้องครางระส่ำ มือนึงก็ชักควยของโด่งอีกมือก็ชักของตัวเอง ดนัยผ่อนจังหวะลงเล็กน้อย ก่อนจะรัวเร่งใส่สุดแล้วครางเสียงดัง"โอ้ยยยยย เสียวมากครับ...จะตะ...จะแตกแล้ว!"แล้วเขาก็หยุดจังหวะนั้นทรุดลงปล่อยแท่งควยกระตุกปล่อยน้ำรักเข้ารูสวรรค์ของเดช 6-7ครั้ง จนน้ำรักขาวข้นมันไหลย้อยออกจากรูของพรานเดชลงมาเปื้อนแท่งควยเขาจนถึงดงหมอย ขณะเดียวกันนั้นเดชก็สาวมือรัวตามจังหวะของดนัย"อ้าาาาห์ อะ...อ่าาาาห์ ....จะแตกแล้วๆๆๆ" ปล่อยน้ำรักขาวข้นออกมาเลอะขาของโด่งเช่นกันเมื่ออีกสองคนถึงจุดสุดยอดแล้ว โด่งก็ผละออกมา สาวมือรัว ๆ ยื่นแท่งควยไปที่หน้าเดช"ซี้ดดด อื้มมมม จะแตกละๆๆ อ่าาาห์"พ่นน้ำรักที่ขุ่นข้นออกมาเต็มหน้าของเดชที่หลับตาพรื้ม โด่งเอาแท่งควยปาดน้ำรักไปมาบนหน้าของเดชเดชก็แลบแลบลิ้นเลียชิมส่วนที่ไหลผ่านปากอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อพักได้ซักพักเดชที่มีสติที่สุดเพราะไม่ได้ใช้ทธิ์ของอะไรก็ลุกไปทำความสะอาดตัวเองและคนอื่นที่นอนหมดแรงไปแล้ว จับกันยัดเข้าไปในเตนท์อย่างทุลักทุเลแล้วทั้งสามก็นอนกอดก่ายกันในคืนนั้น โดยที่วันนี้ยังไม่ได้อะไรติดไม้ติดมือเลย 2 q. K6 x$ c3 }* W0 ]9 F7 [
5 @/ i( V1 F: j
, N; Z& O1 g4 {7 P
คุณดนัย
. y: W+ Q2 _4 _$ s/ e
# ?. j; ~" ?( k/ |3 L. d. _
ปูยาวนิดนึงนะครับ ไม่คิดไม่ฝันว่ามันจะดำเนินไปเรื่อยได้ขนาดนี้เลยครับ 
! f0 C( Y1 j4 O) t |