แสงแรกของยามเช้าส่องลอดเข้ามาทางรอยแตกของกระท่อมสาดส่องไปยังร่างที่เปลือยเปล่าของพรานทั้งสองที่นอนซบกันอยู่บนพื้นไม้ที่เปียกชื้นเสียงฝนที่เคยกระหน่ำในยามค่ำคืนได้หยุดสนิทแล้วเหลือเพียงเสียงนกนานาชนิดที่เริ่มส่งเสียงร้องทักทายยามเช้า และเสียงน้ำที่หยดติ๋งๆจากชายคาเท่านั้น เดชค่อยๆปรือตาตื่นขึ้นมา ความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้คือความปวดเมื่อยไปทั่วร่างกายโดยเฉพาะช่วงเอวและสะโพก เมื่อสายตาของเขาปรับเข้ากับแสงสว่างเขาจึงตระหนักได้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในอ้อมกอดของใครบางคนและร่างกายของเขาก็แนบชิดกับร่างกำยำที่คุ้นเคย เดชมองไปที่ใบหน้าของพรานโด่งที่ยังคงหลับอยู่ข้างๆด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกัน ทั้งความตกใจ ความอับอาย และความสับสน พลันสติของเดชก็กลับมาอย่างสมบูรณ์ความทรงจำของเหตุการณ์เมื่อคืนก่อนทั้งหมดถาโถมเข้ามาในหัว ทั้งเรื่องเห็ด,การทดลองที่ล้มเหลว, ฝนที่ตกลงมา, การแสดงความเร่าร้อนของเพื่อน, และการกระทำของเขาทั้งสองคน... เดชรีบขยับตัวออกห่างจากพรานโด่งเบาๆ เสียงขยับตัวทำให้พรานโด่งตื่นขึ้นมาเช่นกันเขาก็ช็อกไม่แพ้กันเมื่อเห็นสภาพตัวเองและเพื่อน ความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่วกระท่อมทั้งสองคนจ้องมองหน้ากันด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยคำถามมากมายกลิ่นคาวที่เคยหอมหวนในยามค่ำคืน ตอนนี้กลับเป็นกลิ่นคาวที่ทำให้รู้สึกอับอายอย่างบอกไม่ถูก ในที่สุดพรานโด่งก็ทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดนี้ลงได้ "เฮ้ยไอ้เดช... เมื่อวานมันเหี้ยอะไรกันเนี่ย..."เขาเอ่ยเสียงแหบพร่าใบหน้ายังคงแสดงถึงความมึนงงระคนตกใจแต่แล้วแววตาของเขากลับมีประกายบางอย่างผุดขึ้นมา "แต่... แม่ง...เสียวชิบหายเลยว่ะเพื่อน" คำพูดนั้นทำให้เดชถึงกับไปไม่เป็นเขาไม่รู้จะตอบเพื่อนอย่างไรดีความรู้สึกที่ซับซ้อนในใจตอนนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ความอับอายอีกแล้วแต่ยังมีความรู้สึกที่คล้ายกับความพึงพอใจและความอยากรู้อยากเห็นที่ยังไม่สิ้นสุด พรานโด่งขยับตัวลุกขึ้นนั่งพลางมองดูสภาพร่างกายของตัวเองที่เต็มไปด้วยร่องรอยของการกระทำเมื่อคืนก่อนรวมถึงกลิ่นคาวที่ยังคงคละคลุ้ง เขายกมือขึ้นลูบหน้าก่อนจะหันไปมองเดชด้วยแววตาที่จริงจังขึ้น เดชถอนหายใจยาวๆแล้วพยายามรวบรวมคำพูดเพื่ออธิบายทุกสิ่ง "โด่ง... กูขอโทษจริงๆ ว่ะมึง" เดชเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สำนึกผิดแต่ก็แฝงไปด้วยความตื่นเต้นที่ไม่อาจซ่อนได้"คือ...เรื่องมันเป็นอย่างนี้..." เดชเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้พรานโด่งฟังตั้งแต่ที่เขาบังเอิญเจอเห็ดในป่าและได้ชิมเข้าไปจนเกิดเรื่องราวไม่คาดฝันในลำธารจากนั้นเขาก็เล่าถึงการทดลองครั้งแล้วครั้งเล่าที่ได้ผลลัพธ์เพียงแค่ความกระปรี้กระเปร่าจนกระทั่งเขาได้เจอพรานโด่งที่มาพร้อมกับสายฝนที่กระหน่ำลงมา "กูก็เลยคิดว่า... กูอยากรู้ว่าเห็ดมันออกฤทธ์ยังไง" เดชกล่าวต่อ "เลยลองให้มึงกินตอนที่ตัวเปียกดู... แล้วตอนนี้... กูก็รู้แล้วว่ามันเป็นยังไงเพราะมึง" พรานโด่งนั่งฟังเพื่อนรักอย่างเงียบๆใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นความงุนงงสลับกับความตกใจแต่เมื่อเดชพูดถึงกลไกของเห็ดที่ต้องสัมพันธ์กับน้ำสีหน้าของโด่งก็เริ่มคลี่ออกเล็กน้อยด้วยความเข้าใจเขามองไปที่เดชด้วยแววตาที่ผสมผสานกัน ทั้งความโกรธที่ถูกหลอกใช้ แต่ก็มีความรู้สึกอื่นที่ซับซ้อนอยู่ข้างใน "แล้วมึงจะเอายังไงต่อวะกับเห็ดบ้านั่นน่ะ?" พรานโด่งถามด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง เดชยิ้มเล็กน้อยพลางเดินไปหยิบเห็ดที่เหลืออยู่ในห่อผ้ามาแสดงให้พรานโด่งดู "นี่ไง มึงก็เห็นฤทธิ์มันแล้วนี่ ว่ามันสุดยอดแค่ไหน" "ที่กูให้มึงกินตอนแรกมันแค่ทำให้กระปรี้กระเปร่า...แต่ถ้ามีน้ำมาเกี่ยวข้องเมื่อไหร่ ฤทธิ์มันจะรุนแรงจนปลุกความเงี่ยนในตัวคนได้แถมออกฤทธิ์ไวมาก" เดชอธิบายอย่างกระตือรือร้น"กูว่าเห็ดนี่มันต้องมีค่ามากแน่ๆ และถ้าเราสามารถควบคุมมันได้...มันจะทำอะไรได้อีกเยอะเลย" "เพราะงั้น... กูก็อยากลองเพาะพันธุ์มันดูว่ะ" เดชกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่น"ถ้าเราเพาะมันได้ เราก็ไม่ต้องออกไปหาในป่าอีกแล้วและเราอาจจะค้นพบวิธีที่จะใช้ประโยชน์จากมันในแบบอื่นๆ ได้ด้วย" พรานโด่งนั่งเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอกระคนเหนื่อยใจ "มึงนี่มันบ้าชิบหายเลย" โด่งเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงกว่าเดิมมากเขามองไปที่เดชด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อน แต่ก็มีรอยยิ้มจางๆผุดขึ้นที่มุมปาก "แต่ทีหลัง... ให้กูตั้งตัวก่อนสิวะ" โด่งกล่าวต่อ "เดี๋ยวเรามาลอง กินเห็ดนี่ด้วยกันอีก" คำพูดนั้นทำให้เดชยิ้มกว้างอย่างดีใจโด่งไม่ได้โกรธเขาเลย แต่กลับสนใจและต้องการที่จะทำความเข้าใจในเห็ดนี้ด้วยกัน พรานโด่งขยับตัวลุกขึ้นยืนเดินไปหาเดชที่ยังนั่งอยู่ แล้ว จุ๊บลงบนแก้มของเดช อย่างแผ่วเบาและรวดเร็ว ก่อนจะถอยออกมาแล้วพูดขึ้นว่า "ปะไปอาบน้ำเถอะ" เขาเอ่ยพลางหัวเราะเบาๆ "กลิ่นน้ำเงี่ยนฟุ้งเต็มเลยเนี่ย" คำพูดของพรานโด่งทำให้เดช เขินเป็นอย่างมาก ใบหน้าของเขาขึ้นสีแดงเรื่อๆแต่ก็ไม่ได้ขัดขืนเมื่อโด่ง ลากเขาไปอาบน้ำที่โอ่งหน้ากระท่อม ทั้งคู่ช่วยกันวักน้ำเย็นๆจากโอ่งมาล้างร่างกายที่เหนียวเหนอะหนะจากคราบเหงื่อไคลและคราบน้ำรักที่ติดอยู่ ระหว่างที่ล้างตัว มือของโด่งก็ซุกซน เขาจงใจใช้มือแกล้ง แหย่เจ้าน้องชายของเดช ที่บัดนี้กลับมาอยู่ในสภาพปกติแล้วเดชสะดุ้งเล็กน้อย พลางส่งเสียงหัวเราะ แต่เดชก็ไม่ยอมแพ้ จับของโด่งคืน แล้วแกล้งแหย่กลับไปเช่นกัน ทั้งคู่ เล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ราวกับเรื่องราวร้อนแรงเมื่อคืนไม่เคยเกิดขึ้น หลังจากเล่นน้ำกันจนหายเหนื่อยและสะอาดดีแล้วทั้งคู่ก็ กลับเข้าบ้านไปแต่งตัว ในเสื้อผ้าที่แห้งและสะอาดอีกครั้งก่อนที่โด่งจะเอ่ยขึ้นว่า "กูคงต้องไปแล้วล่ะเดช" พรานโด่งหยิบย่ามคู่ใจที่วางอยู่ข้างฝาขึ้นมาสะพายไว้บนไหล่เขามองไปที่เดชด้วยแววตาที่เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิงไม่ได้มีเพียงแค่ความเป็นเพื่อนเท่านั้นแต่ยังมีประกายของความเข้าใจและบางสิ่งบางอย่างที่ซ่อนอยู่ "แล้วเราจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่?" เดชถามด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนกว่าที่เคยเป็น "เดี๋ยวถ้าฝนตกจนทำข้าเปียกแล้วจะแวะมาอีก" พรานโด่งตอบ"อย่าลืมเก็บเห็ดนั่นไว้ให้ดีล่ะ... แล้วก็เตรียมตัวให้พร้อมด้วย" พรานเดชยิ้มกว้างอีกครั้งพลางพยักหน้ารับรู้ พรานโด่งโบกมือให้เขาครั้งหนึ่งก่อนจะเดินจากไปและหายลับเข้าไปในแนวป่าที่แสงอาทิตย์ยามเช้ากำลังสาดส่องลงมาเดชมองตามหลังเพื่อนจนลับตาไป ************************************************************************************************* เวลาผ่านไปเกือบเดือน นับตั้งแต่เหตุการณ์คืนนั้นที่เปลี่ยนชีวิตของพรานเดชและพรานโด่งไปตลอดกาลวันคืนที่เงียบสงบได้กลับมาสู่กระท่อมกลางป่าของเดชอีกครั้งแม้เขาจะยังคงศึกษาเห็ดปริศนานั้นอยู่และพอจะเพาะพันธุ์มันได้แล้วแต่ก็ยังไม่กล้าที่จะทดลองกับมันด้วยตัวเองอีก ในวันหนึ่งเดชรู้สึกว่าถึงเวลาแล้วที่จะกลับไปทำหน้าที่พรานป่าอย่างเต็มตัวเขาจัดเตรียมอุปกรณ์ยังชีพและปืนคู่ใจให้พร้อม ครั้งนี้เขากะจะเข้าไปนั่งห้างส่องสัตว์ เพื่อรอจังหวะที่สัตว์ป่าจะออกมาหากินในยามค่ำคืน เดชออกเดินทางลึกเข้าไปในป่าด้วยความคุ้นเคยเขามองหาต้นไม้ที่เหมาะสมเพื่อทำห้างสำหรับนั่งซุ่มและในที่สุดก็พบกับต้นตะเคียนยักษ์ต้นหนึ่งซึ่งมีกิ่งก้านที่แข็งแรงพอจะรองรับน้ำหนักของเขาได้ หลังจากสร้างห้างซุ่มเสร็จเดชก็ปีนขึ้นไปนั่งรออย่างเงียบสงัน เวลานี้เป็นช่วงที่สัตว์ป่าเริ่มออกมาหากินดวงตาของเขากวาดมองไปทั่วบริเวณอย่างระมัดระวังรอบตัวมีแต่เสียงแมลงร้องและเสียงลมพัดผ่านใบไม้เดชหยิบข้าวเหนียวที่ห่อมาขึ้นมากินพลางรอคอยสัตว์ป่า เหตุการณ์ดำเนินไปอย่างปกติ จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปจน ดึกดื่น แสงจันทร์ส่องลอดผ่านม่านเมฆลงมาเป็นครั้งคราวแต่ก็ไม่มากพอที่จะทำให้ผืนป่าสว่างขึ้นได้ ความเงียบเข้าปกคลุมไปทั่วอาณาบริเวณมีเพียงเสียงของใบไม้แห้งที่กรอบแกรบใต้ฝ่าเท้าของสัตว์ป่าที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ในที่ห่างไกลและเสียงหอบหายใจของตัวเขาเองเท่านั้นที่ดังขึ้นเป็นระยะ เดชยังคงนั่งรออย่างอดทนสายตาจับจ้องไปยังพุ่มไม้เบื้องหน้า แต่วันนี้ดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างนักสัตว์ป่าที่เขาเฝ้ารอคอยยังคงไม่ปรากฏตัวเขาเริ่มรู้สึกง่วงนอนและอ่อนเพลียเล็กน้อยพลางคิดในใจว่าคืนนี้คงต้องกลับบ้านมือเปล่าเสียแล้ว... ในความเงียบสงัดและยามดึกดื่นเช่นนั้นเองพลันก็มี เงาร่างของหญิงสาวคนหนึ่ง ปรากฏขึ้นในที่โล่งเบื้องล่างเดชชะงักค้าง มือที่กำลังถือปืนแน่นขึ้นโดยอัตโนมัติเขาจ้องมองด้วยความไม่เชื่อสายตาหญิงสาวผู้นั้นสวมใส่เสื้อผ้าสีขาวสะอาดตัดกับความมืดมิดของผืนป่าผิวพรรณของเธอผุดผ่องราวกับแสงจันทร์ และมี หุ่นที่สมส่วนน่ามอง ราวกับนางไม้ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อความงดงามโดยเฉพาะ หญิงสาวผู้นั้นเงยหน้าขึ้นมองมาทางห้างซุ่มของเดชด้วยแววตาที่ยิ้มแย้มก่อนจะเอ่ยปากเรียกเขาด้วยน้ำเสียงหวานใสที่กังวานไปทั่วป่าอย่างน่าประหลาด"ท่านพราน... ท่านพรานเดช..." ความอยากรู้อยากเห็นเอาชนะความระมัดระวังในตัวเดชเขาค่อยๆยกปืนขึ้นเพื่อใช้ไฟฉายที่ติดอยู่กับลำกล้องส่องไปยังร่างของหญิงสาวปริศนาเบื้องล่างในชั่วพริบตาที่ลำแสงส่องไปถึงใบหน้าของเธอ เดชก็แทบจะหยุดหายใจเขาสามารถเห็นรายละเอียดที่ชัดเจนของใบหน้าอันงดงามนั้นแต่มันไม่ใช่ใบหน้าของมนุษย์ทั่วไป ดวงตาของเธอนั้นงดงามราวกับอัญมณีแต่มันกลับเปล่งประกายด้วย แววตาสีเขียวที่สะท้อนแสงไฟ ราวกับดวงตาของสัตว์ป่าที่กำลังจ้องเหยื่อ เดชรู้ได้ทันทีว่านั่นไม่ใช่คน เขารีบหรี่ไฟฉายลงทันทีหัวใจเต้นรัวด้วยความตื่นตระหนกแต่ความกลัวนั้นกลับถูกแทนที่ด้วยความฮึกเหิมอย่างประหลาดราวกับสัญชาตญาณพรานป่ากำลังถูกปลุกเร้าให้ตื่นขึ้น เดชสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะตะโกนลงไปด้วยน้ำเสียงที่มั่นคง "ข้ารู้นะว่าเอ็งเป็น เสือสมิง!" คำพูดของเขาดังก้องไปทั่วความเงียบของป่าหญิงสาวคนนั้นหยุดยิ้มทันที แววตาของเธอเปลี่ยนเป็นเย็นชาและเปี่ยมไปด้วยความสงสัยเดชเห็นดังนั้นก็ยิ่งได้ใจ "ถ้าแน่จริงก็ แปลงร่างเป็นคนอื่นมาดูหน่อยสิ! ถ้าถูกใจ ข้าถึงจะยอมลงไปหาเองเลย!" เมื่อได้ยินคำท้าของเดช เสือสมิงก็ไม่รอช้า ค่อยๆถอยหลังหายลับเข้าไปกับความมืด ของป่าทึบอย่างเงียบเชียบ ราวกับไม่เคยมีตัวตนอยู่ตรงนั้นมาก่อนเดชยังคงนั่งนิ่งอยู่ในห้างซุ่มจ้องมองไปยังจุดที่เงาร่างนั้นหายไปอย่างไม่กะพริบตา เวลาผ่านไปเพียงชั่วอึดใจ เงาร่างของหญิงสาวอีกคนก็ปรากฏขึ้น แทนที่คนเดิมเธอเดินออกมาจากพุ่มไม้ด้วยท่วงท่าที่ยั่วยวนยิ่งกว่าเดิม ผมดำยาวสลวยใบหน้าเรียวรูปไข่ ริมฝีปากอวบอิ่มน่าสัมผัส และที่สำคัญคือ รูปร่างของเธอสวยงามไม่แพ้คนแรก เธอยืนอยู่ในความมืดสลัวเบื้องล่างก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลแต่แฝงไปด้วยความเย้ายวน "แล้วร่างนี้... ถูกใจท่านพรานหรือไม่?" แทนที่จะตอบคำถามของเสือสมิงด้วยวาจาเดชกลับทำในสิ่งที่คาดไม่ถึง เขายิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนจะคว้ากระบอกน้ำที่อยู่ข้างตัว แล้ว สาดน้ำเย็นๆ ลงไปที่ร่างของหญิงสาวผู้นั้น น้ำเย็นเฉียบสาดซัดเข้าใส่ร่างที่เปียกปอนไปทั้งตัวเสื้อผ้าสีขาวที่แนบเนื้อยิ่งเผยให้เห็นสัดส่วนที่ชัดเจน เธอสะดุ้ง ด้วยความตกใจ ดวงตาที่เคยเย้ายวนบัดนี้เต็มไปด้วย ความงุนงง ต่อการกระทำของเดช เดชหัวเราะออกมาอย่างขบขันเขารู้ดีว่าเสือสมิงตนนี้กำลังใช้มนต์มายาเพื่อล่อลวงเขาแต่เขาไม่ใช่พรานป่าที่ไร้ประสบการณ์จนตกเป็นเหยื่อใครง่ายๆ "เฮ้ย! ข้าชอบผู้ชายโว้ย! อีโง่!" เดชตะโกนลงไปด้วยเสียงอันดังและชัดเจน คำพูดนั้นดังสนั่นป่าหญิงสาวผู้นั้นชะงักค้าง แววตาของเธอเปลี่ยนจากความงุนงงเป็นความตกใจระคนความโกรธเสียรู้ให้กับมนุษย์อย่างไม่น่าเชื่อ ในชั่วพริบตาที่เดชกล่าวจบคำ ร่างของหญิงสาวก็เริ่มเปลี่ยนสภาพ กล้ามเนื้อของเธอขยายใหญ่ขึ้นเสื้อผ้าสีขาวฉีกขาดออกจนหมดแล้วไหลรวมไปกับเส้นขนเผยให้เห็นลายพาดกลอนที่เริ่มปรากฏขึ้นบนผิวกายมือของเธอยาวและเปลี่ยนเป็นกรงเล็บที่แหลมคม ใบหน้ากลายเป็นปากกระบอกของสัตว์ร้ายและดวงตาสีเขียวน่าสะพรึงที่เคยซ่อนไว้ก็จ้องมองมาที่เดชอย่างอำมหิต เธอกลายเป็น เสือโคร่งขนสีฟางตัวใหญ่ ที่สง่างามแต่เต็มไปด้วยความอันตรายเสือสมิงตัวนั้นยืนอย่างหงุดหงิดอยู่เบื้องล่าง คำรามลั่นด้วยความโกรธ ที่ถูกดูถูกและถูกปฏิเสธจากมนุษย์คนหนึ่ง เดชมองดูการเปลี่ยนแปลงนั้นด้วยความทึ่งแต่ความกลัวของเขากลับถูกแทนที่ด้วยความท้าทายที่น่าสนใจกว่าเดิมเขาจึงตัดสินใจท้าทายเธออีกครั้ง "จะโกรธเป็นฟืนเป็นไฟไปทำไมเล่า..." เดชกล่าวพลางยิ้มยั่ว "เอ็งจะอวดความสามารถไปถึงไหนกัน เอ็งแปลงร่างได้เหมือนขนาดไหนกันวะ?" คำถามนั้นทำให้เสือสมิงชะงักกึกเดชจึงถามต่อด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้นอีกเล็กน้อย "เหมือนจนขนาดควยเลยหรือเปล่า?" คำพูดของเดชทำให้เสือสมิงคำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราดแต่แทนที่จะพุ่งเข้าโจมตีมันเลือกที่จะทำตามคำท้าของเขา ร่างของมันกลับคืนสู่ร่างมนุษย์อีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่ใช่หญิงสาวผู้งดงามคนเดิม มันกลับกลายเป็น ตัวเดชเอง แผงอกที่กำยำ กล้ามเนื้อทุกมัด และแม้กระทั่งเสื้อผ้าที่เขาใส่อยู่ตอนนี้ รูปร่างหน้าตาของมันเหมือนเดชเปี๊ยบ 'เดช' อีกคนยืนอยู่เบื้องล่างด้วยรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เลียนแบบเสียงของเดชอย่างสมบูรณ์แบบ "เอ็งอยากให้แปลงเป็นใครอีกล่ะ?" มันไม่รอช้า เปลื้องเสื้อผ้า ที่ติดมาจากการแปลงร่างออกจนหมดเผยให้เห็นเรือนร่างที่เหมือนเดชทุกประการ จากนั้นมันก็ แอ่นแท่งควยอ่อนๆ ส่ายไปส่ายมาให้เดชตัวจริงดู เป็นการยั่วยวนที่เหนือกว่าจินตนาการของเดชอย่างสิ้นเชิง เดชที่นั่งมองร่างของตัวเองอยู่เบื้องล่างนั้นไม่ได้ตกใจหรือรู้สึกถูกคุกคามแต่อย่างใดเขากลับ ยิ้มมุมปาก อย่างพึงพอใจในความสามารถของเสือสมิงตัวนี้นี่คือเกมที่อันตรายและน่าตื่นเต้นที่สุดที่เขาเคยเล่นมา "แปลงเป็นตัวเองน่ะมันก็ดีอยู่หรอก..." เดชเอ่ยพลางหัวเราะเบาๆ"แต่ข้าไม่อยากเล่นกับตัวเองหรอกนะ" เขาจึงตัดสินใจท้าทายเธออีกครั้ง"มึงลองแปลงเป็น ไอ้กล่ำ ให้หน่อยสิ" คำพูดนั้นทำให้'เดช' ที่อยู่ข้างล่างชะงักไปเล็กน้อย แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ก็ยังคงอยู่ "ข้าอยากเห็นรูปร่างมันมานานแล้ว" เดชกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่จริงจังกว่าเดิม เสือสมิงในร่างของเดชหัวเราะในลำคอเบาๆราวกับถูกใจกับคำขอที่คาดไม่ถึงนี้ ก่อนที่ร่างนั้นจะเริ่มเปลี่ยนแปลงอีกครั้งกล้ามเนื้อขยายใหญ่ขึ้น แผงอกกว้างขึ้น ใบหน้าเปลี่ยนไปเผยให้เห็นเค้าโครงใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเคราเข้มข้นและมีรูปร่างที่ใหญ่โตยิ่งกว่าเดชเสียอีก เมื่อเสือสมิงในร่างของพรานกล่ำปรากฏตัวขึ้นเดชมองดูด้วยความพึงพอใจและยอมรับในความสามารถของมัน "เอ็งนี่เก่งจริง ๆว่ะ" เดชเอ่ยชมด้วยน้ำเสียงที่ดังขึ้น "ข้ายอมใจเลย" แล้วเดชก็ยื่นคำท้าครั้งสุดท้าย"ไหนลอง ยั่วข้าดูหน่อยซิ" เสือสมิงในร่างพรานกล่ำยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์มันไม่รอช้า ฉีกเสื้อยืดสีดำออกอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็น แผงอกแกร่ง ที่อัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามราวกับมันรับรู้ว่านี่คือสิ่งที่เดชปรารถนาจะเห็น มันเริ่ม ค่อยๆ คลึงเป้ากางเกงสามส่วน ที่เปียกชุ่มของตัวเอง พร้อมกับ ทำหน้าคราง ซี้ดซ้าด และ เสียงครางต่ำๆ ในลำคอที่ยั่วยวน แท่งควยที่ถูกสัมผัสก็เริ่มตอบสนอง ดันเนื้อผ้ากางเกงออกมาให้เห็นเป็นรูปร่าง ที่แข็งขืน มันใช้มือ บีบให้เดชดูแท่งควยนั้นนอกเนื้อผ้าว่ามันมีขนาดเท่าใด และการกระทำนั้นก็ทำให้เดชที่นั่งมองอยู่บนห้างซุ่ม เกิดอารมณ์ขึ้นมาอย่างปฏิเสธไม่ได้ ร่างกายของเขาเริ่มร้อนผ่าวขึ้นมา เดชยกมือของเขาขึ้นมา เริ่มคลึงแท่งควยของตัวเองนอกกางเกง เช่นกันสัมผัสถึงความร้อนที่แผ่ซ่านไปทั่วตัว จนควยของเขา ชูชันขึ้นมาเหมือนกัน เป็นการตอบรับการยั่วยวนจากเบื้องล่างอย่างไม่อาจปฏิเสธได้ เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเดช เสือสมิงก็ยิ่งได้ใจ มันยิ้มกว้างอย่างมีชัย พลาง ถอดกางเกงสามส่วนลง อย่างช้าๆ เผยให้เห็นต้นขาที่กำยำและแท่งควยที่ถูกซ่อนไว้มันหยุดอยู่ครู่หนึ่ง โชว์แท่งควยอันใหญ่กว่ามาตรฐานชายไทย ที่ตั้งชันเต็มที่ มัน พาดไปทางซ้าย อยู่ใต้ กางเกงในสีแดงเก่าๆ เสือสมิงเริ่ม ลูบๆ คลึงๆแท่งควยที่ยังอยู่ในกางเกงในอย่างช้าๆ ทำหน้าชักชวนพรานเดชอย่างยั่วยวน ราวกับเชื้อเชิญให้เดชลงมาหาและสัมผัสความเร่าร้อนนี้ด้วยตัวเอง แทนที่จะลงจากห้างซุ่มเดชกลับหัวเราะในลำคอเบาๆ เขายังคงคลึงแท่งควยของตัวเองที่กำลังแข็งขึ้นอย่างไม่ลดน้ำเงี่ยนใสเริ่มซึมออกมาดวงตาของเขาจ้องมองไปที่เสือสมิงในร่างพรานกล่ำอย่างไม่เกรงกลัว "ใจเย็นก่อนะ" เดชตะโกนบอก "ข้ามีเงื่อนไขอีกอย่างนึงว่ะ" คำพูดนั้นทำให้เสือสมิงชะงักค้างอีกครั้งใบหน้าที่ยั่วยวนของมันเปลี่ยนเป็นความสงสัยระคนหงุดหงิด มันยืนนิ่งอยู่เบื้องล่างรอคอยว่าเดชจะพูดอะไรออกมา เดชล้วงมือเข้าไปในย่ามข้างกายแล้วหยิบห่อผ้าที่มัดแน่นออกมา เขาคลี่ห่อผ้าออก เผยให้เห็น เห็ดมันวาวประดุจหยดน้ำค้าง ที่เป็นต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด พรานเดช ขว้างเห็ดดอกหนึ่งลงไป ที่พื้นเบื้องล่างอย่างไม่ลังเลเห็ดนั้นตกกระทบพื้นใกล้เท้าของเสือสมิงพอดีแล้วเดชก็ตะโกนบอกมันด้วยน้ำเสียงจริงจัง "เอ็งกินไอ้นี่ลงไปก่อน!" "รับรองว่า เนื้อข้าจะอร่อยขึ้นอีก" เดชกล่าวต่อด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ "แล้วข้าจะลงไปทันทีเลย" เสือสมิงในร่างพรานกล่ำก้มมองเห็ดสีสันฉูดฉาดที่พื้นอย่างระแวดระวังใบหน้าที่ยั่วยวนกลับกลายเป็นจริงจังมันรู้ดีว่ามนุษย์อย่างเดชไม่ได้มีเจตนาดีอย่างแท้จริง "มัน... มันน่าสงสัยไปว่ะ ข้าไม่กินหรอก!"มันเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาด เดชยักไหล่อย่างไม่แยแส"งั้นก็แล้วแต่เถอะ" เขาทำท่าจะหันหลังกลับเพื่อไปนอนต่อ"ข้านอนล่ะ" ท่าทีของเดชทำให้เสือสมิงชะงักกึกอีกครั้งความปรารถนาที่จะได้ตัวเดชมาเป็นของเล่นยามค่ำคืนมีมากกว่าความสงสัยมันตัดสินใจอย่างรวดเร็ว "เออๆ ข้ากินก็ได้!" เสือสมิงในร่างพรานกล่ำหยิบเห็ดดอกนั้นขึ้นมาแล้วกลืนลงไปอย่างไม่ลังเล เดชยิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจเพราะเขาได้พิสูจน์สมมติฐานของตัวเองอีกครั้งแล้ว หลังจากกินเห็ดเข้าไปได้ไม่นานเสือสมิงก็รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในร่างกาย มันรู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที ความเหนื่อยล้าจากการแปลงร่างหลายครั้งได้หายไปในพริบตา "อื้อหือ! ของดีนี่หว่าเอ็ง!" เสือสมิงเอ่ยชมเดชด้วยความประหลาดใจแววตาของมันกลับมามีประกายความอยากรู้อยากเห็นอีกครั้ง "ข้ากินแล้ว! ลงมาได้แล้ว!" เดชมองดูเสือสมิงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นเขาเริ่มรู้สึกถึงความร้อนรุ่มที่ถาโถมเข้ามาในร่างกายอีกครั้งเมื่อมองเห็นร่างกำยำของพรานกล่ำที่ถูกครอบงำด้วยฤทธิ์เห็ด "เดี๋ยว... แต่ก่อนตาย" เดชตะโกนบอก"ข้าขอ มีความสุขกับเอ็งก่อน ได้ไหมวะ" เสือสมิงในร่างพรานกล่ำยิ้มอย่างพึงพอใจกับคำพูดนั้นมันรับรู้ได้ถึงความปรารถนาในน้ำเสียงของเดช "ไว้ใจข้าเถอะ" มันเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลแต่เต็มไปด้วยความเย้ายวน "รีบๆลงมา" เดชปีนลงจากห้างซุ่มอย่างรวดเร็วเขายังคงอยู่ในสภาพที่พร้อมจะเผชิญหน้ากับความตายได้ทุกเมื่อแต่ความปรารถนาที่กำลังถูกปลุกขึ้นอย่างรุนแรงนั้น ทำให้เขาลืมความกลัวไปหมดสิ้นเขาเดินตรงเข้าไปหาเสือสมิงที่รออยู่เบื้องล่างด้วยหัวใจที่เต้นรัว พรานเดชปีนลงมาจากห้างซุ่มอย่างรวดเร็วในใจของเขารู้ดีว่าตัวเองกำลังทำสิ่งที่บ้าบิ่นที่สุดในชีวิตเขากำลังเอาชีวิตมาเสี่ยงเพราะความอยากรู้อยากลองจากเห็ดนี่อีกแล้ว แต่ความตื่นเต้นและร้อนรุ่มในร่างกายทำให้เขาไม่รู้สึกหวาดกลัวเลยแม้แต่น้อย เขา ซ่อนขวดน้ำไว้ด้านหลังค่อยๆ เดินเข้าไปหาสมิงอย่างช้าๆ ร่างกำยำของพรานกล่ำยืนรออยู่เบื้องหน้าอย่างสงบมีเพียงแท่งควยที่แข็งโด่กำลังกระดกหงึก ๆ น้ำเงี่ยนไหลซึมจนกางเกงในตัวเก่าเปียกชุ่มซึ่งแสดงถึงความเงี่ยนที่ไม่อาจซ่อนได้ พอเข้าไปใกล้เดชก็ไม่รอช้า สาดน้ำที่ซ่อนไว้ใส่ร่างนั้นจนเปียกไปหมด สมิง สะดุ้งกระโดดถอยหลัง ไปเล็กน้อย มัน ยืนสี่ขาในร่างพรานกล่ำ "เฮ้ย!เอ็งทำอะไรอีกวะ!" มันโวยวายออกมาด้วยความงุนงง "ก็ เพิ่มความเซ็กซี่ของเอ็งไง" เดชตอบพลางยิ้มยั่ว "ดูสิเนี่ย...เปียกปอนไปหมดเลย หยดน้ำบนตัวมันช่างยั่วยวนข้าเหลือเกิน" เดชเดินตรงเข้าไปหามันอย่างไม่ลังเลดึงมันลุกขึ้นแล้ว ลูบไล้หยดน้ำไปบนกล้ามเนื้อแกร่ง ของสมิง "มันเหมือนจริงได้ขนาดนี้เลยรึเนี่ย?"เดชถามอย่างทึ่งๆ เขาใช้ สองมือบีบหน้าอกแกร่ง ของสมิงแล้ว วนหัวเขี่ยนมอยู่ 4-5 ครั้ง จนมัน แข็งขึ้นมา เป็นเม็ดบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่าน เดชจึง ลูบไล้กล้ามท้องลงมาคว้าแท่งควยของสมิงที่อยู่ภายในกางเกงใน "อ่า...ห์" เสียงครางเบาๆหลุดออกมาจากลำคอของเสือสมิงอย่างห้ามไม่ได้ ในวินาทีที่เดชสัมผัสแท่งควยของมัน ฤทธิ์ของเห็ดก็เริ่มทำงานอย่างเต็มที่ ด้วยเงื่อนไขที่สมบูรณ์แบบเห็ดที่กินเข้าไปก่อนหน้านี้ได้ทำปฏิกิริยากับน้ำที่เปียกปอนบนร่างกายของมันความร้อนผ่าวพลุ่งพล่านขึ้นมาอย่างบ้าคลั่งทันที แววตาที่เคยมีแต่ความงุนงงของเสือสมิงบัดนี้เต็มไปด้วยความเงี่ยนอย่างรุนแรงมันยืนอยู่ในท่าทางที่อ่อนแรงราวกับร่างกายที่กำยำกำลังถูกควบคุมโดยแรงเร้าที่ไม่อาจต้านทานได้ บวกกับการเล้าโลมจากพรานเดช ที่ปลุกเร้าอารมณ์ของมันอย่างจงใจ มันพยายามรวบรวมสติที่เลือนลางแต่กลับทำไม่ได้ ควยของมันที่ถูกเดชสัมผัสอยู่แข็งจนแทบระเบิดน้ำเงี่ยนไหลเยิ้มออกจากปลายควยไม่หยุด ความสุขสมที่ปะปนกับความสับสนถาโถมเข้ามาจนทำให้มันต้องครางเสียงต่ำในลำคอ ด้วยความเสียวซ่านที่ทวีความรุนแรงขึ้นเสือสมิงในร่างพรานกล่ำ ทรุดตัวคุกเข่าลง อย่างเชื่องช้า มันอยู่ในท่าทางที่อ่อนระทวยและเปราะบางมือของมันกำแน่นบนพื้นดินที่ชื้นแฉะ เดชยิ้มอย่างพึงพอใจกับปฏิกิริยาของมันเขา อ้อมไปด้านหลัง เสือสมิง พลางโน้มตัวลงไป กระซิบข้างหูมัน ด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าและเต็มไปด้วยเลศนัย "สรุป...เอ็งเป็นตัวผู้หรอวะ?" คำถามนั้นยิ่งทำให้เสือสมิงสั่นสะท้านมันไม่ตอบอะไรแต่กลับรู้สึกถึงสัมผัสที่เร่าร้อนของเดชที่เริ่มเล้าโลมไปทั่วร่างกาย เดชบรรจงจูบและไซร้ไปตามซอกคอ ของมันอย่างอ่อนโยนแต่เร้าอารมณ์มือข้างหนึ่งของเดช บีบและเขี่ยหัวนม ที่แข็งตัวของเสือสมิงอย่างไม่หยุดหย่อน ส่วนมืออีกข้างก็ วนคลึงและเล่นกับหัวแท่งควย ของมันอย่างเพลิดเพลิน ความสุขสมที่ถาโถมเข้ามาอย่างบ้าคลั่งทำให้เสือสมิงไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป มันครางออกมาอย่างรุนแรง เสียงครางนั้น ปะปนกับเสียงคำรามของเสือ ที่ดังแผ่วเบาจากลำคอของมันเป็นเสียงที่แสดงถึงความเงี่ยนที่ไม่อาจซ่อนไว้ได้และความป่าเถื่อนที่ซ่อนอยู่ภายใน เดชหยุดการกระทำทุกอย่างชั่วครู่แล้วยืนขึ้นเพื่อ เปลื้องเสื้อผ้าของตัวเองออก เสื้อเชิ้ตและกางเกงที่เปียกชื้นจากเหงื่อถูกทิ้งลงบนพื้นเผยให้เห็นร่างกายของเขาที่เหลือเพียง บ็อกเซอร์สีฟ้าอ่อนลายสก็อต และเพราะเดชไม่ได้สวมกางเกงในอยู่ แท่งควยของเขาที่แข็งชูชันจึงดันออกมาให้เห็นชัด เดชกลับไปหาเสือสมิงที่ยังคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าเขา เอาแท่งควยที่แข็งโด่ของตัวเองถูไถไปบนหลัง ของมันอย่างยั่วยวน แล้วมือก็ กลับไปเล่นกับร่างกายกำยำของสมิง จากด้านหลังอย่างเร่าร้อน เดช ลูบไล้กล้ามแขนและกล้ามขา อย่างสำรวมราวกับกำลังสำรวจรูปร่างที่เขาเคยปรารถนาจะเห็นมานานแล้ว เขาสูดดมกลิ่นสาปเสืออ่อนๆปนกับกลิ่นดินหอมๆ ที่ติดอยู่บนตัวของสมิงอย่างหื่นกระหาย เดช ดึงตัวเสือสมิง ที่ยังอยู่ในท่าคุกเข่าให้ นอนหงายลง อย่างช้าๆ เสือสมิงในร่างพรานกล่ำยอมทำตามโดยดีราวกับร่างกายที่อยู่ภายใต้ฤทธิ์เห็ดได้ทำตามคำสั่งของเดชทุกประการ เดช อ้อมขึ้นไปนั่งคร่อมตัวมัน อย่างช้าๆเขาใช้ร่างกายที่แข็งแรงของตัวเองควบคุมร่างจำแลงเพื่อนเอาไว้ เดช ใช้ก้นของตัวเองถูไถไปบนแท่งควย ที่แข็งโด่ของสมิง ไปมา อย่างยั่วยวน ในขณะที่ก้นของเขากำลังสร้างความเสียวซ่านให้กับสมิงมือของเดชก็ไม่หยุดนิ่ง เขา บีบและคลึงเขี่ยหัวนม ของเสือสมิงในร่างพรานกล่ำอย่างชำนาญ แล้วก้มลงไปดูดอย่างหื่นกระหาย ราวกับจะดื่มด่ำกับทุกสัมผัสและทุกความรู้สึกที่เกิดขึ้น เมื่อความเร่าร้อนทวีขึ้นถึงขีดสุดเดช ถอยลงไปนั่งตรงหว่างขาของสมิง เขายังคงมองด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นเดช ใช้มือข้างหนึ่งควักแท่งควยของสมิงออกมาจากกางเกงใน อย่างช้าๆ ในวินาทีที่แท่งควยของสมิงถูกปลดปล่อยออกมาเดชก็ถึงกับต้องอ้าปากค้างด้วยความตกใจ มันมีขนาดใหญ่เกือบ 9 นิ้ว ตั้งชันอย่างน่าเกรงขาม สีของมันเป็นสีน้ำผึ้งเช่นเดียวกับผิวของพรานกล่ำหัวแดงก่ำ เดชได้แต่อึ้งตะลึงกับความใหญ่โตนี้ ราวกับมันไม่ใช่ของของมนุษย์ทั่วไป เขาลอง ถอกหนังหุ้มหัวของควยออก ให้มันออกมาเชยชมโลกภายนอก น้ำใสๆที่ปลายไหลเยิ้มจนเลอะมือ ของเดช เดชไม่รอช้ารีบ เอาปากไปครอบหัวของมัน อย่างเต็มที่ ชิมน้ำใส จากแท่งแกร่งนั้นอย่างดูดดื่มและกระหายจนเปียกชุ่ม เจ้าสมิงเสียวจนตัวบิดไปมา อย่างรุนแรง แต่มันก็ดิ้นแรงไม่ได้ เพราะเดชกำลังนั่งคร่อมมันอยู่ ทำให้ถูกควบคุมไว้ในท่าทางที่เปราะบางนี้ เดชลุกขึ้นยืนช้าๆ เขามองแท่งควยของเสือสมิงด้วยความประหลาดใจและปรารถนาที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไปเดช ดึงบ็อกเซอร์ของตัวเองลง จนแท่งควยของเขาดีดเด้งออกมาทักทายกับอากาศยามค่ำคืน เขา จับแท่งควยของเสือสมิงให้ตั้งฉากขึ้น อย่างแผ่วเบาที่สุด จากนั้น ค่อย ๆ นั่งลง ให้แท่งควยเจ้าสมิงเข้าไปในรูสวรรค์ของเขา อย่างช้า ๆเขาทำด้วยความแผ่วเบาที่สุดเพราะมิเช่นนั้นรูของเขาอาจฉีกขาดก็เป็นได้ เมื่อแท่งควยของเสือสมิงได้เข้าไปในร่างกายของเดชจนสุดแล้ว ก้นสวยของเขาก็แนบชิดกับดงหมอยของมัน พลัน เสียงครางของเดชก็ดังลั่นออกมาอีกรอบ ด้วยความสุขสมที่เกินบรรยาย เดชโน้มตัวลงไป กระซิบกับมัน ด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าและเต็มไปด้วยความปรารถนา "ไหนโชว์ลีลาของเอ็งหน่อยสิ" คำพูดนั้นเป็นเหมือนคำสั่งที่ปลุกเร้าสัญชาตญาณดิบในตัวเสือสมิงให้ตื่นขึ้น มันยกก้นของเดชขึ้น อย่างช้าๆ แล้วค่อย ๆ แทงสวนขึ้นเป็นจังหวะ ความรู้สึกสุขสมทวีคูณยิ่งขึ้นจน เดชครางด้วยความเสียวขั้นสุด ในขณะที่ถูกเติมเต็มจากด้านหลังมือของเดชก็ไม่หยุดนิ่ง เขาช่วยตัวเอง ด้วยการสาวควยตัวเองขึ้นลง กับเล่นหัวนมของตัวเองไปด้วย พลาง ออดอ้อนเสือสมิงให้กระแทกแรงขึ้นเรื่อยๆ ทั้งคู่ออกลีลารักกันอย่างช่ำชอง และดื่มด่ำไปกับความสุขสมท่ามกลางความเงียบสงัดของป่า ในที่สุด เจ้าสมิงก็อดกลั้นไว้ไม่ได้ ร่างกายของมันสั่นสะท้านอย่างรุนแรง มันคราง "อ่าาาาาาห์...ตะ...แตกแล้ว..." ก่อนจะ ปล่อยน้ำรักอุ่นร้อนเข้าสู่รูสวรรค์ของเดชสี่ห้ากระฉอก อย่างรุนแรงและเต็มเปี่ยม มันยังคง ปล่อยแท่งควยคาไว้ในตัวเดช เช่นนั้นชั่วขณะ ก่อนที่ แท่งควยมันจะค่อยๆ หดลง จน หลุดออกมาเอง พร้อมกับ น้ำรักที่ไหลลงมาตามแท่งควยขนาดใหญ่ นั้นด้วย เดชนอนหอบหายใจอย่างหนักหน่วงเขาสัมผัสได้ถึงความอุ่นร้อนที่ยังคงค้างอยู่ในร่างกาย รูของพรานเดชเต้นตุ้บๆ และมี น้ำรักชุ่มไปหมด ส่วนเจ้าสมิงนั้นนอนหอบอยู่ข้างๆยังไม่สามารถประคองสติที่เลือนลางจากฤทธิ์ของเห็ดและแรงปรารถนาที่เพิ่งถูกปลดปล่อยได้ พรานเดชฝืนลุกไปหยิบเห็ดอีกชิ้นแล้วยัดเข้าปากเจ้าสมิงจากนั้นก็อุดปากไว้จนมันต้องฝืนเคี้ยวกลืนเข้าไปก่อนจะใช้น้ำที่เหลือจากขวดราดลงบนตัวมันอีกครั้งเจ้าสมิงตะโกนห้ามแต่ไม่ทันเสียแล้ว พรานเดชบรรจงลูบน้ำไปทั่วร่างแกร่งของมันร่างกายของมันตอบสนองด้วยความร้อนผ่าว ดวงตาเบิกโพลง "ข้ายังไม่เสร็จเลย เล่นเป็นเพื่อนข้าอีกหน่อยนะ" เดชกล่าวก่อนจะเลื่อนขึ้นไปจูบมันใช้ลิ้นไล้ไปตามฟันจนเจอเขี้ยวทั้งสี่ซี่แล้วแลกเปลี่ยนลิ้นกันอย่างกระหายสมิงใช้มือกดคอเดชไว้ไม่ให้ผละจูบจนหมดลมหายใจแล้วจึงปล่อยออกเดชเลื่อนตัวลงไปคว้าแท่งควยของสมิงมาวางคู่กับของตัวเองแล้วใช้สองมือชักขึ้นไปพร้อมกันลงเป็นจังหวะทั้งคู่ครางพร้อมกันด้วยความเสียว "อะ...ข้าจะแตกแล้ว…ซี้ดดดดด""ข้าก็จะแตก! แตกแล้วๆๆๆอ้าาาห์!" เดชเร่งจังหวะจนทั้งคู่ถึงจุดสุดยอดพร้อมกันพ่นน้ำรักพุ่งกระจายเลอะหน้าท้องของสมิงพรานเดชทรุดนอนซบอยู่กับร่างแกร่งของสมิงด้วยความเพลีย "เอ็งมีแรงจะกินข้าอยู่อีกรึเปล่า?" เดชถามพลางซุกซนเล่นกับหน้าอกของสมิง "มีแรงข้าก็กินเอ็งไม่ลงแล้วว่ะเมียจ๋า"สมิงตอบกลับแล้วคว้าคอเดชมาจูบอีกครั้ง พอผละออกเดชก็ลุกขึ้นนั่งข้างๆ แล้วถามว่า"น้ำสมิงมันรสชาติยังไงรึ ข้าขอลองชิมได้หรือไม่?" สมิงพยักหน้าเดชก้มลงไปเลียชิมน้ำรักก่อนจะลงไปดูดแท่งควยของสมิงอีกครั้งจนมันสะดุ้ง "โอ๊ยยยย พอแล้วจ้า...เมียจ๋า พอแล้ว...ข้าเสียวววว..."มันร้องออกมาด้วยความสุขสมจนร่างกายมีลายพาดกลอนและหางโผล่มาให้เห็น "คืนนี้ข้าสนุกมาก เอ็งขึ้นไปพักผ่อนเถอะพรานเดชถ้ามีโอกาสหน้าข้าจะกลับมาเล่นกับเอ็งอีกแน่" สมิงบอกกับพรานเดชด้วยรอยยิ้มก่อนที่ร่างของมันจะค่อยๆ เปลี่ยนกลับเป็นเสือโคร่งตัวใหญ่และหายลับไปกับความมืดมิดในป่าลึกปล่อยให้เดชกลับขึ้นไปนอนอยู่บนพื้นห้างซุ่มเพียงลำพังด้วยความเหนื่อยล้าและประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืม $ A" w& g2 A, L' x5 {& G
" L: [3 v" A! o% m
เสือสมิงพรานกล่ำ
4 I" S0 d' L. ~. a% q
0 N% C" p. @! L
; [& E" i6 S3 E; F0 ?
8 m0 y$ y. M* z! l
ไม่คิดว่ากระแสตอบรับจะดี ขอบคุณทุกคนนะครับ แล้วก็ขอบคุณคอมเมนต์ที่บอกว่าเหลือพรานกล่ำนะครับ ปิ๊งไอเดียนี้ออกพอดีเลยมาสานต่อให้ครับ / x* F( {0 Y, G* c5 F4 ~
|