ภูมิ สูงเกือบ 185 ซม. กล้ามเนื้อแน่นกระชับทุกส่วนรอยยิ้มของเขาเปล่งแสงพอจะทำให้คนทั้งยิมหยุดเคลื่อนไหว แต่สิ่งที่ผมไม่เคยมองข้ามคือส่วนโค้งนูนที่อยู่ใต้กางเกงฟิตพอดีตัว สีเทาเข้มชื้นด้วยเหงื่อ มันทั้งเด่นทั้งชัด… และเย้ายวนเกินห้ามใจ “มองอะไรอยู่สัน?” เสียงทุ้มๆ ของภูมิถามพลางยกดัมเบลขึ้นเหนือหัวกล้ามเนื้อหน้าท้องเกร็งแน่น ผมเงยหน้าขึ้นจากท่าทางที่เกือบจะดูผิดปกติเกินไปพยายามเบนสายตาจากสิ่งที่แทบสะกดจิตผมไว้ “ปะ...เปล่าแค่ดูท่าออกกำลังกายน่ะ อยากทำให้ถูกเหมือนนาย” “หืม...อยากให้สอนไหมล่ะ?” คำถามนั้นธรรมดาแต่น้ำเสียงของเขา... โคตรจะมีเสน่ห์ สนามฟุตบอลตอนเย็น แสงแดดทาบลงบนต้นขาแข็งแรงของเขาขณะที่ภูมิกำลังผูกเชือกรองเท้า ท่าทางโน้มตัวลงทำให้กางเกงบอลสีขาวรัดรูปแน่นยิ่งขึ้น โค้งนูนตรงเป้านั้นชัดเจน... เหมือนตั้งใจ ผมกลืนน้ำลายกำลูกบอลแน่นในมือ “เอ้า!สัน ส่งบอลมาเร็ว!” “อ๊ะ...เอ่อ...ได้ๆ!” ผมโยนบอลออกไป แต่ตาผมยังไม่ละจากตรงนั้น ผมไม่รู้ว่าภูมิรู้ไหมว่าเขาทำให้ผมคลั่งแค่ไหนทุกย่างก้าว ทุกหยาดเหงื่อที่ไหลผ่านเอวต่ำทุกครั้งที่เขาสะบัดกางเกงหรือยืดตัวจนผ้าตึงมันเหมือนยั่วให้ผมต้องเก็บภาพไปฝันทุกคืน ห้องซาวน่า ไอน้ำลอยฟุ้งกลิ่นยูคาลิปตัสผสมกับกลิ่นกายของเขาทำผมหัวหมุน ภูมินั่งกางขาพิงผนังตู้อยู่แค่สองคน... ผ้าขนหนูสีขาวพันเอวหลวมๆ เผยร่องรอยของต้นขาแน่นและ...เป้าที่ยกตัวสูง เห็นเป็นทรงชัดเจนภายใต้ผ้าบาง ผมพยายามไม่จ้องตรงนั้นแต่หัวใจเต้นรัวเหมือนจะทะลุอก “ร้อนว่ะ...เหงื่อไหลไปหมดเลย” เขาเช็ดอก แล้วเอนตัวให้ผ้าเลื่อนลงเล็กน้อย ผมรู้ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจแต่ทุกการเคลื่อนไหวของเขาเหมือนยั่วเย้าให้ผมหลุดจากขอบเขตของมโนธรรม “เออ...ร้อนจริง ๆ” ผมตอบเบา ๆ สายตาเผลอมองต่ำอีกครั้ง ใจผมคิดเพียงสิ่งเดียว...ถ้าเขารู้ว่าผมเฝ้ามองเขาแบบนี้ตลอดเวลา เขาจะรังเกียจผมไหม คืนนั้นผมนอนไม่หลับภาพของเขาในกางเกงบอลรัดรูป เหงื่อไหลซึมจนเป้าชัดเหมือนภาพฝันและซาวน่าที่ผ้าขนหนูแทบไม่ปกปิดอะไรเลย... มันวนเวียนในหัวไม่จบ “ภูมิ...”ผมพึมพำในความมืด พลิกตัวในเตียง เสียงหอบเบาๆหลุดออกจากริมฝีปากผม ขณะที่มือค่อยๆ ลูบผ่านหน้าท้องตัวเองลงไปช้าๆ...ปรารถนาเขาเกินจะบรรยาย แต่ผมก็ยังคงตีสนิทยิ้มให้เขา เดินข้างเขา พูดจาเหมือนเพื่อนธรรมดา... ทั้งที่หัวใจอยากจะกรีดร้องว่าผมรักคุณ เขาคือความลับที่ผมไม่กล้าบอกใครและทุกเป้านูนที่เขาเดินผ่านไป มันก็ยิ่งตอกย้ำว่า...ผมไม่มีวันหนีออกจากแรงดึงดูดนี้ได้เลย ตอนที่ 2: กลิ่นกาย เสียงน้ำ และความลับที่ยังไม่เปิดเผย ห้องน้ำชาย/ เวลาหลังเลิกฟิตเนส ผมยืนอยู่หน้ากระจกล้างหน้าไปเรื่อย ๆ ทั้งที่จริง ๆ แล้ว... ผมกำลังรอให้ใครบางคนเดินเข้ามา เสียงฝักบัวจากอีกฝั่งดังขึ้นพร้อมเสียงเปิดล๊อกเกอร์ เหมือนสัญญาณเตือนหัวใจให้เต้นแรงขึ้นโดยไม่ตั้งใจ “วันนี้เล่นโหดเลยว่ะเหงื่อท่วมตัวไปหมด”
เสียงทุ้มคุ้นหูของภูมิดังขึ้นด้านหลัง ผมแสร้งหัวเราะพลางแอบชำเลืองจากกระจก เห็นเขากำลังถอดเสื้อออก...กล้ามอกแน่นแนบกับเหงื่อที่เคลือบตัว ...เขากำลังถอดกางเกง ผ้าสีดำแนบเนื้อหลุดลงจากเอวต่ำกล้ามเนื้อสะโพกไล่ระดับลงมาชัดเจนอย่างไร้ที่ติ และเป้านูนภายในกางเกงในสีเทาอ่อน...ใหญ่ ชัด และโดดเด่นราวกับจงใจให้มอง “สัน...วันนี้เข้าอาบน้ำดิ เดี๋ยวรอนะ”
เขาว่าพลางเดินผ่านผมไป ร่างเปลือยท่อนบน กลิ่นกายอุ่นปะทะปลายจมูกกลิ่นแชมพู ผสมกลิ่นเหงื่อชาย... ผมแทบทรุด แกร๊ก
เสียงประตูกระจกของห้องอาบน้ำเลื่อนปิด
เสียงน้ำไหล
ผมหลับตาแน่น ภาพของเขาในกางเกงในเปียกเหงื่อ ยังชัดเจนเกินกว่าจะละสายตาได้ ผมเดินไปที่ล็อกเกอร์ช้าๆ ใจเต้นแรงเหมือนเด็กแอบมองคนที่ตัวเองแอบรัก... แต่ความรู้สึกมันลึกกว่านั้น มันไม่ใช่แค่รักมันคือความโหยหา ในห้องแต่งตัว/ หลังอาบน้ำ ผมอาบเสร็จเดินออกมาในผ้าขนหนูเส้นเดียว คล้ายกับที่เขากำลังทำอยู่ตอนนี้
ภูมิยืนอยู่หน้าล็อกเกอร์เดียวกันกับผมสะโพกเปลือยเปล่ากำลังหันมาทางผมโดยบังเอิญ เขาไม่รู้ตัวว่าแค่ขยับสะโพกเบาๆ ยังทำให้ผมหายใจติดขัด “สัน...”เขาหันมามองผมขณะหยิบเสื้อในลิ้นชัก
“นายอ่ะ... ช่วงนี้ดูจ้องฉันบ่อย ๆ นะ” ผมตัวแข็ง
เขารู้? “ฉะ...ฉันก็แค่... นายมันหล่ออะ ใครจะไม่มอง” ผมตอบติดตลกพยายามกลบเกลื่อนความร้อนบนหน้า ภูมิยิ้ม...ยิ้มแบบที่ไม่ได้สงสัย “งั้นดีแล้วจะได้มีกำลังใจฟิตหุ่นต่อ” เขาหยิบกางเกงในขึ้นมาสวมต่อหน้าผม
เป้านูนที่ยังเปียกนิด ๆ ดันผ้าบางจนเห็นรูปทรงชัดเจนผมรู้ว่าตัวเองไม่ควร...
แต่ผมกลับยืนมอง... เหมือนถูกสะกด “ชอบดูสินะ”
เขาถามลอย ๆ ด้วยรอยยิ้มร้าย ๆ บางอย่าง
แต่ผมไม่แน่ใจว่าเขารู้จริง หรือแค่พูดเล่น “...เปล่าหรอก” ผมตอบเบา ๆ ตาหลบ แต่ในใจปฏิเสธไม่ได้เลย เขาหัวเราะในลำคอแล้วหันกลับไปเก็บของ
กล้ามเนื้อหลังของเขาขยับทุกครั้งที่เคลื่อนไหวมัดกล้ามแต่ละส่วนเล่นแสงไฟสีขาวในห้องแต่งตัวราวกับภาพยนตร์สโลว์โมชั่น ผมนั่งลงบนม้านั่งมองมือของเขาหยิบครีม ทาแขน ทาขา... แล้วก็หยุดตรงเป้า เขาลูบผ่านมันเบาๆ ขยับเล็กน้อยเพื่อจัดให้เข้าที่
รู้ตัวไหมว่าทำให้ฉันฝันถึงทุกคืน... คืนนั้นผมกลับถึงห้องและไม่สามารถลืมภาพนั้นได้เลย เสียงฝักบัว
กลิ่นแชมพู
กล้ามเนื้อที่เปลือยเปล่า
และเป้านูนที่สะกดหัวใจ ผมนอนลงบนเตียงปิดไฟ
ภาพของภูมิยังวนเวียนอยู่ในหัว ยิ้มของเขา สายตาที่เหมือนไม่รู้ตัวแต่ก็ก้ำกึ่ง ผมเอื้อมมือลงไปสัมผัสตัวเองเบาๆ เหมือนซ้ำฉากที่เขายืนอยู่ต่อหน้าผมเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน
ทุกอย่างในหัวคือเขา... เป้าของเขา กล้ามของเขา และความลับของผม "เกิดเหตุการณ์เลี่ยงไม่ได้" มันเริ่มจากห้องพักต่างจังหวัดที่เราต้องแชร์กัน ชมรมของเราจัดกิจกรรมเข้าค่าย2 วัน 1 คืนที่ชายทะเล และด้วยจำนวนคนไม่ลงตัวห้องพักคู่สุดท้ายถูกจับฉลาก... ผมกับภูมิได้พักห้องเดียวกัน “เออ...พักกับนายก็โอเคนะ” ภูมิหัวเราะเบา ๆ ขณะวางกระเป๋า
“สบายใจดี อย่างน้อยไม่กรนแบบไอ้บอย” แต่เขาไม่รู้เลยว่า...การอยู่ในห้องเดียวกับเขา คือคำสาปหวาน ๆ ที่ผมต้องรับมือด้วยหัวใจเต้นรัว กลางคืน หลังอาบน้ำ เขาเดินออกมาจากห้องน้ำผ้าขนหนูพันเอวหย่อนต่ำเล็กน้อย ผิวเปียกชื้น กล้ามเนื้อแน่นรับแสงไฟนวล ๆ
แต่สายตาผมไม่ได้ไปไหนไกลจากจุดเดิม... "ตรงนั้น" ที่นูนดันออกมาจนผ้าขนหนูโค้งเป็นทรงสวย เห็นชัดเจนเกินจะทำเหมือนไม่เห็นได้ “สันนายเอาโลชั่นไหม?”
เขาหยิบขวดโลชั่นแล้วยื่นให้ ขณะที่อีกมือหนึ่งยังลูบลงบนต้นขา
มือเขาเฉียดเป้าตัวเองเบา ๆ เหมือนไม่รู้ตัว
ผมนั่งข้างเขาบนเตียง ตาล็อกแน่นกับสิ่งนั้น “อะ...อือเอาก็ได้”
ผมรับขวดมาด้วยมือสั่นนิด ๆ เขาเอนหลังพิงหัวเตียงยกขาข้างหนึ่งขึ้นพาดอีกข้าง ทำให้ผ้าขนหนูเปิดออกเล็กน้อย
ผมมองเห็นเส้นโค้งของเป้าชัดเจน... เหมือนงานศิลป์ เหตุการณ์ที่ใกล้ชิดที่สุดเกิดขึ้นตอนกลางดึก ผมตื่นขึ้นมากลางดึกเพราะฝันถึงเขาอีกครั้งหันไปเห็นว่าเขานอนหลับลึก เสื้อยืดเลิกขึ้น เผยหน้าท้องแน่น ๆ และ... กางเกงบอลที่เขาใส่นอนมันบางเกินไป เป้านูนของเขาตรึงตาไม่ต่างจากกลางวัน
ผ้าบางแนบชิดจนเห็นเส้นขอบ เส้นโค้ง และเงาที่ชัดกว่าทุกครั้ง
เหมือนมันพองขึ้นเล็กน้อยตอนนอน ผมลุกขึ้นนั่งอย่างช้าๆ ขยับตัวเบา ๆ ไม่ให้เขาตื่น แล้วก็… เผลอวางมือบนขาเขาเบา ๆขณะจะลุกไปเข้าห้องน้ำ เป้าของเขาอยู่ตรงหน้าห่างจากปลายนิ้วผมไม่ถึงสองนิ้ว แต่แล้ว...
เขาขยับตัว “อืม…หนาวแฮะ...”
เขาพลิกตัวมากอดแขนผมแบบง่วง ๆ โดยไม่รู้ว่าทำให้ผมแทบหยุดหายใจ หน้าเขาแนบต้นแขนผม
และต้นขาเขาแนบต้นขาผม… พร้อมกับสิ่งนั้นที่กดลงบนตักผมเบา ๆ ผมได้สัมผัสเป้านูนของเขาเป็นครั้งแรก แม้จะมีกางเกงคั่นไว้
แต่มันชัด... อุ่น... และหนักกว่าที่ผมเคยจินตนาการไว้ ผมนั่งนิ่งเหมือนรูปปั้นใจเต้นเหมือนจะระเบิด เช้าวันถัดมา “เมื่อคืนฉันเผลอกอดนายเหรอฮ่า ๆ ขอโทษที นอนดิ้นอะ”
ภูมิพูดพลางหัวเราะแบบไม่รู้เรื่อง “ไม่เป็นไร...”
ผมตอบเบา ๆขณะสายตายังเลื่อนไปมองกางเกงบอลตัวเดิมที่เขายังไม่เปลี่ยน รอยนูนยังอยู่ตรงนั้นเต็มทรง เด่นชัด และไม่เคยเบาแรงลงเลย ผมไม่เคยได้ใกล้เขาขนาดนี้มาก่อนและมันทำให้ผมติด... เสพติดเขา ทุกสัมผัสที่เกิดขึ้นจาก“ความบังเอิญ” กลายเป็นแรงผลักดันให้ผมอยาก “เผลออีก”
อยากใกล้เขาอีก… อยากสัมผัสอีก… จนไม่แน่ใจแล้วว่าผมยังควบคุมตัวเองได้หรือเปล่า คืนวันที่สอง ห้องพักเดิม แต่คืนนี้ฝนตกหนัก ไฟดับและเครื่องปรับอากาศไม่ทำงาน “ร้อนว่ะ...”
ภูมิถอนหายใจเบา ๆ พลางถอดเสื้อออกแล้วขยับตัวลงนอนบนฟูกเดียวกับผมที่ปูไว้กลางห้อง พื้นที่มีจำกัดฟูกไม่ใหญ่ และฝนที่ตกกระหน่ำด้านนอกทำให้เราต้องนอนเบียดกันมากกว่าคืนก่อน “ขอโทษนะถ้านอนเบียดไป”
เขาพูดด้วยเสียงนุ่ม ๆ ขณะวางแขนผ่านเหนือหน้าอกผมเผลอกระชับตัวเข้ามาใกล้ยิ่งกว่าเดิม “ไม่เป็นไรหรอก...”
ผมพยายามตอบนิ่ง ๆ ทั้งที่ข้างในแทบจะระเบิด ความร้อนจากกายเขาแผ่ผ่านผ้าห่มบางๆ กลิ่นของเขาชัดเจน หวาน เย้ายวน และอบอุ่น เวลาผ่านไป ร่างเขาแนบมาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆแบบไม่ตั้งใจ เขาพลิกตัว…ขาเขาเกี่ยวขาผม แขนพาดผ่านหน้าอก
แล้วเป้านูนของเขาแนบมาตรงต้นขาผมแบบเต็ม ๆ ครั้งนี้… ไม่ใช่แค่สัมผัสผ่านๆ มันแนบชิด
หนักแน่น
และอุ่นมาก จนผมแทบหายใจไม่ออก ผมนอนนิ่ง…ใจเต้นไม่เป็นจังหวะ เป้าของเขาในกางเกงบอลบางๆ ขยับเบา ๆ ตามจังหวะหายใจ สันนิษฐานไม่ได้ว่าเกิดจากอะไร…แต่ทุกจังหวะที่เขาขยับตัวเหมือนถูกจัดวางให้พอดีอย่างไร้ความปรานี “อืม…”
เสียงครางเบา ๆ จากภูมิ ทำให้ผมตัวแข็งทื่อ
เขาขยับตัวเข้ามาแน่นขึ้นอีก
ต้นขาของเขาทับกับต้นขาผม ขณะที่สิ่งนั้นกดแนบมาที่ต้นขาในองศาใหม่ มันทั้งเต็มแน่น…ยืดหยุ่น… และเต้นตุบเบา ๆ เหมือนมีชีวิต ผมไม่กล้าขยับ
แต่ก็ไม่อยากให้มันหลุดไปจากตรงนั้น
ผมปล่อยให้มันเป็นแบบนั้น... อยู่แบบนั้น และก็... เอื้อมมือไปแตะมือเขาเบาๆ
ไม่ใช่เพื่อปลุก แต่เพื่อ "รู้สึก" ถึงเขาอีกนิด
เขาไม่ได้ตื่น เขานอนนิ่ง ร่างกายผ่อนคลายและ... วางใจ เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมง ร่างของภูมิกอดรัดผมแบบหลวมๆ ตลอดเวลาเหมือนเป็นหมอนข้าง
เป้านูนของเขาแนบต้นขาผมไม่ห่างแม้แต่นิด ผมจำได้แม่นถึงรูปทรงความอบอุ่น ความแน่นทุกจุด
แม้จะมีกางเกงคั่นไว้แต่มันคือความใกล้ชิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิต ผมหลับตา...
จินตนาการเสียงหายใจของเขา กลิ่นเหงื่อจาง ๆ ที่ยังติดผ้าห่ม
กล้ามอกที่บางครั้งแนบกับแขนผม
และเป้าของเขาที่ผมรู้สึกได้ทุกจังหวะหายใจเข้าออก ผมไม่เคยคิดจะล้ำเส้น...แต่ผมจำทุกสัมผัสนั้นได้หมด และเมื่อเช้ามาถึง...
แสงแดดลอดผ่านม่านบาง ๆ
ภูมิยังนอนอยู่ในท่าเดิม แขนยังพาดหน้าอกผม ขาเรายังเกี่ยวกัน
และเป้านูนของเขา… ยังคงแนบต้นขาผมอยู่… ชัดเจนเหมือนคืนที่ผ่านมา “เมื่อคืนฉันคงดิ้นอีกแล้วสิฮ่า ๆ...”
เขายิ้ม เขิน ๆ ขยับตัวออกเบา ๆ
“ถ้าเผลอกอดแน่นไปขอโทษนะ” ผมยิ้มจาง ๆตอบกลับ “ไม่เป็นไรเลย...มันดีต่างหาก” แต่ในใจผม…คำว่า “ดี” มันยังไม่พอจะอธิบายความรู้สึกนั้นเลย มันคือแรงดึงดูดที่แทบกลืนผมทั้งร่าง
คือความลับที่ผมยังไม่กล้าเปิดเผย
คือความรัก... ความปรารถนา... และความโหยหาที่ได้สัมผัสเขาในแบบที่เขาไม่รู้ตัว
ช่วงเย็นวันสุดท้ายก่อนกลับ พวกเราลงเล่นบอลชายหาดกันอย่างสนุกสนาน
ภูมิ ใส่กางเกงบอลสีขาว ตัวบาง...ไม่มีซับใน ไม่มีชั้นใน
ผมรู้เพราะเห็นกับตาตั้งแต่เขาเปลี่ยนเสื้อในห้องพัก “มันเปียกอยู่ตัวเดียวอะใส่แบบนี้แหละสบายดี” เขาหัวเราะใส ๆ แบบไม่คิดอะไร
“อย่ามองนานล่ะ เดี๋ยวเขิน ฮ่า ๆ” แต่เขาไม่รู้เลยว่า…
ผ้าสีขาวที่เปียกฝนเข้าเนื้อ มันเผยออกมาทุกอย่าง...จนไม่ต้องใช้จินตนาการใด ๆ แล้วฝนก็ตกลงมา—แรงรุนแรง เร็วกว่าที่คิด ทุกคนวิ่งกลับเข้าที่พักกันจ้าละหวั่น
ผมกับภูมิวิ่งเข้าห้องน้ำก่อน เพราะใกล้ที่สุด
ตัวเปียกโชก... กางเกงแนบเนื้อ... หัวใจผมแทบหยุดเต้น “รีบอาบก่อนจะหนาวนะเดี๋ยวฉันเปิดน้ำรอเลย”
ภูมิพูดขณะถอดเสื้อเปียกออก เผยผิวเนื้อขาวนวลแน่นตึงเปียกชื้น
จากนั้น... เขาก็ถอดกางเกงบอลลง... ทิ้งร่างเปลือยไว้ต่อหน้าผม ร่างของเขาสมบูรณ์แบบ
แต่สายตาผมไปจบอยู่ที่ตรงนั้น ที่ เป้านูน ที่ตอนนี้ ไม่ใช่เป้าอีกต่อไป
เพราะเขาเปลือย... เต็มรูปแบบ...
ขนาด รูปร่าง ทรงที่ตั้งตัวลงอย่างสง่างามทำให้โลกทั้งใบของผมหยุดเคลื่อนไหว ผมตัวชา ไม่ขยับ
เหมือนเวลาถูกหยุดไว้ “เฮ้ยสัน! เป็นอะไร ตัวสั่นเลยอะ”
ภูมิเข้ามาใกล้ เอาผ้าขนหนูซับหัวผมเบา ๆ
“รีบอาบเถอะ เดี๋ยวไม่สบาย” เขาพาผมเข้าไปในห้องอาบน้ำที่มีม่านกั้นเพียงครึ่ง
เรายืนอยู่ด้วยกัน… ตัวเปล่า…
น้ำไหลลงมาจากฝักบัว ละอองไออุ่นปะทะกับผิวเราทั้งคู่ ผมหลับตา แต่ภาพของเขา...ทรงของเขา... ความสวยงามแบบชายแท้ที่ทรงพลังและมีอำนาจ...มันชัดเจนจนไม่อาจลืมตาไปมองอย่างอื่นได้อีก ค่ำคืนสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ เราเลือกนอนที่ฟูกเดิมไม่มีใครพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องอาบน้ำ
แต่ทั้งผมและเขารู้ดีว่า... มันใกล้เกินไปแล้ว “สัน…”
“คืนนี้ฉันขอนอนใกล้ ๆ นะ”
เสียงเขาเบาลงกว่าปกติ มือหนึ่งวางบนอกผมเบา ๆ
“ไม่รู้ทำไม รู้สึกแปลก ๆ ในใจ” เขาไม่พูดต่อ...
แต่เขาขยับตัวเข้ามาใกล้ วางหน้าผากแนบที่บ่าผม
หน้าอกเขาแนบกับแขนผม
หน้าท้องแนบกับหน้าท้องผม
และ... สิ่งนั้นของเขา... แนบตรงเป้าผมอย่างพอดิบพอดี เปลือยเปล่า
จริงแท้
ร้อนระอุ ผมหลับตาแน่น
มือข้างหนึ่งสั่นเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็วางเบา ๆ ลงที่สะโพกเขา
แล้วเผลอเลื่อนช้า ๆ
สัมผัสไล่ตามความโค้งของบั้นท้ายที่แน่นราวหิน
ก่อนจะหยุดที่บริเวณหน้าท้องต่ำ เขาไม่ขยับหนี
ไม่พูดอะไร
แค่… หายใจแรงขึ้นนิดหนึ่ง ผมขยับใบหน้าลงช้าๆ ซบลงที่ไหล่เขา
สูดกลิ่นกายเขาเข้าไปลึก ๆ
กลิ่นที่ผสมเหงื่อ กายชาย และแชมพูจากห้องอาบน้ำยังไม่จางไป ผมไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเป็นยังไง
แต่คืนนี้... ผมรู้ว่า ผมรักเขา—ทั้งร่างกายและวิญญาณ และเมื่อเขาขยับเบียดแน่นเข้ามาอีกครั้ง
สิ่งนั้นที่แนบมาอีกที... ยิ่งใหญ่กว่าครั้งไหน
เต้นตุบเบา ๆ เหมือนหัวใจอีกดวงหนึ่งที่ผมอยากจะเก็บไว้ทั้งชีวิต ตีสองเศษ
เสียงฝนยังตกลงบางเบา เสียงลมหายใจของ ภูมิ ข้างตัวผมยังหนักแน่นสม่ำเสมอ เขานอนกอดผมจากด้านหลัง
ผิวเปลือยของเราทั้งคู่ยังแนบกันตั้งแต่หลัง คอ สะโพก จนถึงต้นขา
อุณหภูมิร่างกายเขาทำให้ผมรู้สึกปลอดภัยและ... ตื่นตัว ผมไม่ได้ตั้งใจจะตื่นกลางดึก
แต่บางอย่าง... บางความรู้สึก... มัน "ปลุก" ให้ผมรู้ว่า มีสิ่งพิเศษเกิดขึ้น สิ่งนั้นของเขา...
แข็งตัว
ใหญ่ขึ้น
อุ่นจัดจนเหมือนเป็นแหล่งพลังงานเล็ก ๆ ตำแหน่งที่มันอยู่…ประจวบเหมาะกับร่องก้นของผมโดยบังเอิญ หรือไม่ก็โชคชะตา ผมนิ่ง...ไม่กล้าขยับ
ไม่ใช่เพราะตกใจ
แต่เพราะ กลัวว่ามันจะหลุดออกไป ผมรู้ว่าเขาน่าจะกำลังฝัน
เพราะเขาครางเบา ๆ
เสียงแผ่ว เหมือนคนเรียกชื่อใครบางคนในฝัน “...เมย์…” ชื่อของเธอ...ผู้หญิงที่เขาชอบ
เสียงเรียกนั้นแผ่วเบา ปนหอบและขยับสะโพกนิดหนึ่งในจังหวะเดียวกับที่เขาเคลิ้ม และตอนนั้นเอง..."ของเขา" ก็กดเข้ามาเต็ม ๆ กับร่องของผม... สัมผัสลึกขึ้น
แนบแน่นขึ้น
เหมือนทุกส่วนของร่างกายเขาถูกออกแบบมาเพื่อ "พอดี"กับผมโดยไม่ตั้งใจ เขาไม่รู้ตัว...
แต่ผมรู้—ผมรู้ทุกแรงเต้น ทุกอุณหภูมิ และทุกโค้งของมันที่แนบมา
มันงดงาม ใหญ่โต และมีอำนาจเหมือนเคย… แต่คืนนี้ มันทรงพลังกว่า ผมหลับตาแน่น
กัดปากไว้ไม่ให้เสียงใดเล็ดลอดออกมา
ขณะที่สะโพกของเขากดเข้ามาเบา ๆ อีกครั้งหนึ่ง... และอีกครั้ง... “อืม...”
เขาครางต่ำอย่างสุขสมในฝัน
มือที่วางอยู่ตรงเอวผมเลื่อนลงเล็กน้อย ราวกับกำลังโอบรัดหญิงในฝัน
แต่คนที่เขาโอบ... คือผม ผมรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันเกินเลยไปมาก
แต่ผมไม่อาจหลบเลี่ยงได้ ไม่ใช่คืนนี้... ผมปล่อยให้ตัวเองซึมซับทุกวินาทีของการแนบชิดนั้น
ทุกอณูของผิวสัมผัส
ทุกอุณหภูมิจากสิ่งนั้นที่เขาฝันว่าอยู่ในเธอ แต่มันอยู่ตรงกับผมแทน และในขณะที่เขาเคลื่อนไหวเบาๆ ในฝัน
เหมือนเขา รัก ใครสักคนในความฝันนั้น
ผมกลับเป็นคนที่ได้สัมผัสความรักนั้นก่อนใคร ในโลกจริง “ภูมิ…”
ผมกระซิบเสียงเบา ราวกับไม่อยากปลุกเขา
“นายไม่มีวันรู้หรอก... ว่าคืนนี้ฉันมีความสุขแค่ไหน” ความสุขที่ไม่ควรเป็นของผมแต่ผมจะเก็บมันไว้จนวันสุดท้ายของหัวใจ และในค่ำคืนที่ความฝันของเขายังดำเนินต่อไป
ความจริงของผม... กลับมีค่ากว่านั้นเสมอ เช้าวันกลับจากค่าย
หลังจากค่ำคืนนั้น ที่ภูมิฝันถึง “เธอ”แต่ผมเป็นคนที่อยู่ในฝันนั้นโดยไม่ได้ตั้งใจ ผมไม่ได้นอน
ผมนอนฟังเสียงลมหายใจของเขาแนบหลัง
รับรู้ถึงน้ำหนักอุ่นร้อนที่แนบอยู่ตรงตำแหน่งเดิม
และหัวใจที่เต้นผิดจังหวะของตัวเอง ผมกำลังแตกสลายช้าๆ ด้วยความสุข ฟิตเนสเย็นวันถัดมา เราเจอกันอีกตามปกติที่ยิม— แต่ผมไม่เหมือนเดิม
แรงดึงดูดในใจผมมันเพิ่มทวีคูณจนแทบระเบิด
เขายังคงไม่รู้
ไม่รู้เลยว่ากล้ามอก กล้ามแขน กลิ่นกาย และที่ชัดเจนที่สุดคือ“ตรงนั้น”
มันไม่ได้เป็นแค่สิ่งเร้า
แต่มันคือความทรมานหวาน ๆ ที่ผมเต็มใจกลืนมันลงไปทุกวัน “สันมานี่ เดี๋ยวฉันจะสอนท่า Glute bridge แบบใช้ตัวช่วย”
“ใช้น้ำหนักตัวฉันน่ะ ลองดู สนุกดี” ผมยังไม่ทันตอบเขาก็นั่งคุกเข่าด้านหลังผม
แล้ว… เขานั่งคล่อมลงมา
โดยไม่รู้เลยว่าส่วนนั้นของเขา... กำลังบดขยี้อยู่กับก้นของผม ผ้ากางเกงออกกำลังกายแนบเนื้อทั้งคู่
ไม่มีอะไรกั้นมากพอ
ผมรู้สึกถึงความแน่น ความนูน ความอุ่น และแรงเต้นเล็ก ๆ “อ่ะ...แบบนี้...เกร็งไว้”
เสียงของเขายังมั่นใจ
มือจับที่เอวผมประคอง
ขณะเขาขยับสะโพกไปข้างหน้าเล็กน้อยเพื่อล็อกท่าทาง เขาขยับ!
...และผม สั่นไปทั้งตัว “เป็นไงท่านี้ได้กล้ามสะโพกเยอะเลยใช่มั้ย?” ผมหลับตาแน่น
กล้ามสะโพกเหรอ... ไม่รู้สิ...แต่ตอนนี้มันคือกล้ามใจผมที่แทบขาด ลมหายใจผมสั่น
หัวใจเต้นจนหูอื้อ
แรงบดนั้นยังอยู่ ไม่ขยับหนี ไม่ถอยห่าง
มือเขายังจับที่เอวผม
และเสียงเขายังเป็นเสียงของคนไม่รู้เลย... ว่าตัวเองกำลัง"ทรมาน" เพื่อนอย่างไร “ภูมิ...”
ผมพึมพำเบา ๆ ด้วยเสียงแผ่วจนแทบไม่ได้ยิน
“…อยากได้...”
มันหลุดออกมาโดยไม่ตั้งใจ “หืม?ว่าไงนะ?” ผมชะงัก
หันหน้าไปเล็กน้อย
เห็นดวงตาเขามองลงมาด้วยความใสซื่อ ไม่มีแววระแคะระคาย “ปะ…เปล่า…ฉันแค่… อยากได้กล้ามก้นแบบนายไง ฮ่า ๆ”
ผมรีบหัวเราะกลบ เขาหัวเราะตาม “เออก็ตั้งใจเล่นให้ดี เดี๋ยวก็ได้... เดี๋ยวฉันช่วย” เขาพูดด้วยความจริงใจ
ขณะที่ “ตรงนั้น” ยังแนบกับผม
และผมก็ยังรู้สึกมัน… ทุกเสี้ยววินาที
แน่นชัด ร้อนรุ่ม และเร้าใจเกินกว่าคำว่า ‘เพื่อน’ คืนนั้นผมกลับบ้าน... แล้วร้องไห้ ไม่ใช่เพราะเสียใจ
แต่เพราะ... มันดีเกินไป ดีเกินไปสำหรับสิ่งที่ไม่มีทางครอบครองได้ “ภูมิ…”
ผมกระซิบกับตัวเองในห้องมืด
“ถ้านายรู้สักครึ่งหนึ่งของสิ่งที่ฉันรู้สึก...นายคงไม่กล้าอยู่ใกล้ฉันอีกเลย” แต่โชคดี…
นายยังไม่รู้
และเพราะอย่างนั้น ผมจึงยังมีโอกาส ได้ใกล้ ได้ “สัมผัส”ได้แอบรัก... อย่างเงียบงัน
ช่วงเย็นวันเสาร์เรานัดกันไปวิ่งที่สวนสาธารณะ
ฝนตกบาง ๆ พื้นลื่นเล็กน้อย และอากาศเย็นจัดเกินกว่าปกติ ภูมิ ยังเป็นภูมิคนเดิม ร่างกายแน่นเป้ากางเกงวิ่งโค้งนูนอย่างสมบูรณ์แบบในชุดสีเทาอ่อนที่เปียกน้ำ
เขาไม่ใส่ชั้นใน เพราะเขาบอกว่า "มันอึดอัดตอนวิ่ง" นั่นคือเหตุผลที่ผมต้องต่อสู้กับสายตาตัวเองทุกครั้งที่เขาหันหลังหรือตอนที่เขาวิ่งแซงผมไปด้วยความเร็ว หลังวิ่งเขาชวนเข้าห้องอาบน้ำของยิม
ห้องอาบน้ำรวมไม่มีใครเลย เพราะฝนทำให้คนไม่มาซ้อม “ไม่เป็นไรใช่มั้ยเดี๋ยวฉันเข้าไปก่อนละกัน”
“อาบทีเดียวไปเลย จะได้ไม่เสียเวลา” ผมพยักหน้าเหมือนปกติ
แต่ข้างใน… เต้นรัว เราสองคนยืนอาบน้ำภายใต้ฝักบัวใกล้กัน
ผ้าขนหนูพาดข้างนอก
ไม่มีอะไรปกปิดอีกแล้ว ภูมิสบัดน้ำออกจากผมพลางยืดตัวขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
หน้าอกแน่น ๆ กล้ามท้องแนวชัด และ… “ของเขา” ที่ห้อยอวดอยู่ตรงหน้า
มันไม่ใช่แค่เป้านูนในกางเกงอีกแล้ว มันคือความจริงที่สั่นคลอนหัวใจ ผมกลืนน้ำลาย
พยายามหันไปอีกทาง
แต่เขาจับไหล่ผมไว้ พร้อมหัวเราะ “ทำไรอะทำหน้าซีดเลย เป็นไรหรือเปล่า?”
“หรือยังไม่ชินกับห้องอาบน้ำรวม ฮะ ๆ” ผมฝืนยิ้ม “ไม่…เปล่า ไม่มีอะไร” เขาเลื่อนมือมาแตะหน้าผากผม “เห้ยตัวก็อุ่น ๆ นะ ไหวมั้ย?” ตอนนั้นเอง ที่เขาก้มหน้ามาดูใกล้ๆ
จนหน้าเราแทบชนกัน
มือของเขากุมหัวผมไว้เบา ๆ… สายตาเราสบกันโดยไม่ได้ตั้งใจ …ผมเผลอมองลึกเกินไป
…เผลอให้สายตาสั่นไหว แดงวาบ และ…
อัดแน่นด้วยความรักทั้งหมดที่เก็บมาเป็นปี เขาชะงัก
นิ่งไป มือยังค้างอยู่ที่หัวผม
ใบหน้าเขายังห่างกันไม่ถึงคืบ “...สัน...” เขาเรียกชื่อผมเสียงเบา
“เมื่อกี้… นายมองฉันเหมือน…” ผมสะดุ้ง
ใจตกไปถึงตาตุ่ม
ก่อนรีบเบือนหน้าหนีแล้วหัวเราะกลบ “เหมือนจะเป็นไข้น่ะ…นายคิดมากไปละ ฮ่า ๆ” ผมเดินหนีไปหยิบผ้าเช็ดตัว
แต่ข้างหลัง… เขายังยืนอยู่ที่เดิม เงียบ… คืนนั้นเราไม่พูดอะไรกันอีก
แต่ผมรู้ เขาเริ่มสงสัยแล้ว
เขาเห็น "บางอย่าง" ในสายตาผม และวันถัดมา
สิ่งที่ไม่ควรเกิด ก็เกิดขึ้น... ตอนบ่ายภูมิชวนผมซ้อมเวท ท่าที่ต้องนอนหงาย ให้เขานั่งบนสะโพกเพื่อถ่วงน้ำหนัก
ท่าที่เขาเคยทำให้ผมหลายครั้ง… แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป เพราะเขามองผมนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนนั่งลงอย่างช้า ๆ
โดยที่ “ของเขา” ยังอุ่นอยู่ และอยู่ตรงตำแหน่งเดิมที่ผมจำได้ดี และระหว่างที่ผมออกแรงยกเขาก็ก้มหน้ามากระซิบ “…เมื่อคืน ฉันฝันถึงนาย…” ผมชะงัก
กล้ามเนื้อแทบหมดแรง
“…อะไรนะ?” เขายิ้ม ไม่ตอบ
แต่มือข้างหนึ่งแตะแผ่นอกผมเบา ๆ
…ขณะที่สะโพกของเขายังบดอยู่ตรงนั้นอย่างไม่ถอย และนั่นคือครั้งแรก…ที่ผมไม่แน่ใจว่า “เขาไม่รู้” จริง ๆ ช่วงเย็นในสนามฟุตบอล
ผมนั่งดู ภูมิ วิ่งวอร์มอยู่กับกลุ่มเพื่อน
เขาใส่เสื้อบอลตัวพอดี ขากางเกงสั้นจนนั่งเฉย ๆ ยังเห็นลอนกล้ามขาและ… เป้า
เป้าที่ผมเผลอมองเสมอ และไม่มีวันเบื่อเลย เขาหัวเราะกับเพื่อน
ผู้หญิงกลุ่มหนึ่งที่เดินผ่านถึงขั้นหยุดมอง
หนึ่งในนั้นทักเขาเสียงหวาน
ภูมิหันไปยิ้ม… ยิ้มแบบเดียวกับที่เขาเคยยิ้มให้ผม “สัส...”
ผมสบถในใจอย่างหงุดหงิด
ทำไมต้องแจกยิ้มให้ทุกคน?
นายไม่รู้เลยหรือไงว่าฉัน “หวง” ผมนั่งอยู่ตรงขอบสนาม
เบื้องหน้าคือการซ้อมบอล แต่สายตาผมกลับ “ล่า” ไปที่ภูมิตลอด
ทุกครั้งที่เขาหัวเราะ
ทุกครั้งที่เขาสะบัดเหงื่อ
ทุกครั้งที่เพื่อนชายตบหลัง หรือโอบคอเขาอย่างสนิทสนม “กูหึงนะเว้ย…ได้ยินมั้ย…” ผมพูดเบา ๆกับตัวเอง
แต่ไม่มีใครได้ยิน หลังเกมจบเขาเดินมาหาผม “เป็นไรทำไมหน้าบึ้ง?”
เขาถาม พลางยื่นขวดน้ำให้ “ไม่มีอะไร”ผมรับมา แต่ไม่สบตา เขนยักไหล่แล้วหันไปคุยกับเพื่อนอีกคน
คราวนี้เป็น ผู้ชายหน้าคม รูปร่างดี
อีกฝ่ายแตะบ่าเขาเบา ๆ แล้วหยอกเขาอะไรบางอย่าง
ภูมิหัวเราะเสียงดังอีกแล้ว… ผมลุกขึ้นทันที “กูไปก่อนนะ!”
ผมพูดเสียงแข็ง คืนนั้นเรากลับมาที่ห้อง
ผมเงียบตลอดทาง “ตกลงเป็นไรวะ?”
เขาถามอีกครั้ง
“วันนี้ทำตัวแปลก ๆ” “แล้วทำไมต้องไปหัวเราะกับมันด้วย?”
ผมหลุดถามออกไป
“หรือจะผู้หญิงที่มองนายตาเยิ้มก็เหมือนกัน” เขาชะงัก
ก่อนหัวเราะเบา ๆ “หึงเหรอ?” “ไม่ใช่…”
ผมรีบปฏิเสธ
“ฉันแค่รำคาญ… คนมันไม่รู้จักเกรงใจบ้างเลย” “หรือจริงๆ แล้ว นายหวง?”
เขาแกล้งแหย่
แล้วเดินมาใกล้
จนผมต้องถอยหลังไปติดขอบเตียง เขายกมือมาล็อกเอวผมไว้
ใบหน้าใกล้จนผมเห็นละอองเหงื่อ
กลิ่นตัวของเขาหลังออกกำลังยังอุ่นอวลอยู่
หายใจร้อน… สัมผัสร้อน… ตาเขาจ้องลึก “หวงใช่มั้ยสัน?”
“แค่พูดมาคำเดียว ฉันจะหยุดยิ้มให้คนอื่นเลยก็ได้” หัวใจผมเต้นโครมคราม
ริมฝีปากอยากพูดว่า “ใช่”
แต่สุดท้าย ผมหันหน้าหนี “ไม่มีอะไรหรอก...กูแค่หิวเฉย ๆ” เขามองผมนิ่ง
ก่อนจะหัวเราะเบา ๆ แล้วลูบหัวผม “ถ้าหิว…งั้นไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวกูทำมาม่าให้” เขาหันหลังเดินไป
ปล่อยให้ผมยืนนิ่ง
ทั้งหึง ทั้งอึดอัด และโกรธตัวเองที่พูด “ไม่ออก” แต่ข้างในใจผมมันชัดยิ่งกว่าน้ำตา “กูหวงมึง…หวงทุกคนที่มองมึง
หวงทุกคนที่ได้ยินเสียงหัวเราะของมึง
หวงทุกคนที่อยู่ใกล้กว่ากู” แต่สิ่งเดียวที่ผมพูดได้…
มีแค่คำว่า “ขอเพิ่มไข่สองฟองนะ…”
|