แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย pipolucky เมื่อ 2025-7-13 17:56
ช่วงปลายปีที่แล้ว ผม ‘ปั้น’ เด็กหนุ่มหน้าตาดีที่ใครๆ ก็ชอบล้อว่าเหมือนพระเอกลิเก กำลังยืนเคว้งคว้างอยู่กลางสถานีขนส่งหมอชิต ผมเพิ่งนั่งรถ บขส มาจากอีสาน หวังจะมาพักกับเพื่อนสนิทที่วัดมหาธาตุ แต่โชคชะตากลับเล่นตลก เพื่อนไม่อยู่ แถมรถบัสที่จะไปต่อก็หมดรอบไปแล้วด้วย ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางทั้งวันถาโถมเข้ามาจนผมแทบทรุด ผมลากกระเป๋ามานั่งแหมะลงบนม้านั่งไม้ตัวยาวที่จัดไว้ให้ผู้โดยสาร ความคิดตีกันวุ่นในหัว
‘เอาไงดีวะกูคืนนี้...จะนอนข้างถนนเลยเหรอ’
ขณะที่ผมกำลังนั่งทอดถอนใจอยู่นั้น ก็มีเงาร่างสูงโปร่งทอดทับลงมาข้างๆ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ลอยมาแตะจมูก ผมเงยหน้าขึ้นมอง ชายหนุ่มคนนั้นหน้าตาคมเข้ม แต่แฝงความหวานซึ้งแปลกๆ ดวงตาคมกริบคู่นั้นจ้องมองมาที่ผมอย่างสนใจ พร้อมรอยยิ้มกรุ่มกริ่ม
“น้อง...มานั่งคนเดียวดึกๆ ดื่นๆ แบบนี้ ระวังจะโดนหมาป่าคาบไปกินนะ” เสียงทุ้มต่ำเอ่ยขึ้นอย่างเป็นกันเอง แต่แฝงความหมายบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ
ผมหน้าขึ้นสีเล็กน้อย “ฮะ...หมาป่าอะไรครับพี่?”
เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ สายตาไล้โลมตั้งแต่ศีรษะจรดเท้าของผมอย่างไม่ปิดบัง “ก็หมาป่าแถวนี้ไง...หิวๆ อยู่ด้วย เห็นเหยื่อน่ากินอย่างน้องแล้วมันอดใจไม่ไหวหรอก”
ผมอึกอัก ไม่รู้จะตอบอะไรดี “ผม...ผมแค่ไม่มีที่ไปครับ เพื่อนไม่อยู่ รถก็หมดแล้ว”
เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้ขึ้น จนผมได้กลิ่นกายของเขาชัดเจนขึ้นไปอีก “งั้นไปพักกับพี่ไหมล่ะ ห้องพี่มีที่ว่างเยอะแยะ...แถมพี่รับรองว่าจะดูแลน้องอย่างดี ไม่มีหมาป่าตัวไหนกล้าเข้าใกล้แน่ๆ”
ใจผมเต้นรัวจนแทบจะทะลุอกออกมา “เอ่อ...ผม...”
เขาไม่รอให้ผมตอบ จับมือผมเบาๆ แล้วบีบคลึงนิ้วเล่นอย่างช้าๆ “อย่าคิดมากน่า...อยู่คนเดียวแบบนี้มันอันตรายนะ หรือว่าน้องอยากจะลองอยู่กับพี่ดูสักคืน...พี่รับรองว่าน้องจะติดใจจนไม่อยากกลับบ้านเลยล่ะ”
คำพูดของเขาเหมือนมีมนต์สะกด บวกกับความอ่อนเพลียและไม่มีทางเลือกอื่น ผมจึงพยักหน้าตกลงไปกับเขาอย่างง่ายดาย
เรานั่งรถเมล์ไปลงสนามหลวง แล้วต่อรถไปเรื่อยๆ จนถึงห้องเช่าของเขาที่พระโขนง เวลาล่วงเลยไปเกือบสี่ทุ่มครึ่ง เมื่อถึงห้องพักเล็กๆ กระทัดรัดที่เขาบอกว่าอยู่คนเดียว ชายโสด...ผมก็เริ่มรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
“ไปอาบน้ำก่อนไหมน้อง จะได้สดชื่น...หรืออยากจะให้พี่ช่วยถูหลังให้?” เขาเอ่ยถามพลางถอดเสื้อผ้าออก เผยให้เห็นรูปร่างสมส่วน กล้ามเนื้อเป็นมัดๆ ที่ไม่ได้ใหญ่โตแต่ดูแข็งแรง โดยเฉพาะเป้ากางเกงในตัวจิ๋วที่นูนเด่นจนผมแทบกลืนน้ำลาย ผมแก้มแดงก่ำ “ไม่เป็นไรครับพี่ เดี๋ยวผมอาบเอง”
หลังจากอาบน้ำเสร็จ ผมออกมาในผ้าเช็ดตัวผืนเดียว กลิ่นสบู่หอมอ่อนๆ ลอยคละคลุ้งไปทั่วห้อง แต่สิ่งที่ทำให้ผมตะลึงยิ่งกว่าคือ พี่ภาคภูมิในชุดวันเกิดที่ยืนรออยู่แล้ว สายตาคมกริบของเขาจ้องมองเรือนร่างของผมอย่างหิวโหย ตั้งแต่เส้นผมที่เปียกชื้นลงมาถึงปลายเท้า
“ไหนมาให้พี่ดูสิ...ตัวหอมจังเลย” เขาเอ่ยเสียงพร่า พร้อมรอยยิ้มมุมปากที่ดูเจ้าเล่ห์ ผมพยายามหลบสายตา “พี่...พี่จะทำอะไรครับ?” เขาไม่ตอบ แต่เดินเข้ามาใกล้ ดึงผมเข้ามากอดอย่างรวดเร็ว กลิ่นกายหอมกรุ่นของเขาโอบตัวผมไว้
“ก็ทำให้น้องหายเหนื่อยไง...พี่เห็นน้องนั่งหงอยๆ ตั้งนานแล้ว”
มือหนาของเขาเริ่มซุกซน ลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเนียนของผม ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนลงต่ำไปบีบเฟ้นบั้นท้ายกลมกลึงของผมอย่างจงใจ “อ๊ะ...พี่!” ผมสะดุ้งเฮือก “ชู่ว์...อย่าเสียงดังสิ เดี๋ยวคนอื่นได้ยิน...หรือว่าน้องชอบให้พี่ทำเสียงดังๆ?” เขาใช้ปลายลิ้นเลียใบหูของผมช้าๆ ก่อนจะกดจูบลงบนซอกคอ ผมครางออกมาเบาๆ เมื่อรู้สึกถึงความเย็นจากริมฝีปากที่ประทับลงบนผิวเนื้ออ่อน
เขาค่อยๆ ช้อนตัวผมขึ้นอุ้ม เดินไปที่เตียง แล้ววางผมลงอย่างนุ่มนวล เขาโน้มตัวลงมาจูบผมอย่างเร่าร้อน ลิ้นร้อนตวัดเกี่ยวกันไปมาอย่างดูดดื่ม มือของภาคภูมิเริ่มซุกซน ปลดผ้าเช็ดตัวของผมออก เผยให้เห็นร่างกายขาวผ่อง
“โอ้โห...พี่ไม่เคยเห็นของสวยงามขนาดนี้มาก่อนเลย” เขาเอ่ยเสียงพร่า มองสำรวจท่อนเนื้อของผมที่กำลังผงาดขึ้นอย่างช้าๆ เขาเลื่อนมือลงไปสัมผัสแก่นกายของผมอย่างแผ่วเบา ก่อนจะบีบคลึงเบาๆ “อยากให้พี่ช่วยปลุกมันให้ตื่นกว่านี้ไหม?” ผมหอบหายใจ ดวงตาปรอยปรอย “อื้อ...พี่...”
ภาคภูมิก้มลงใช้ปากครอบครองแก่นกายของผม อมดูด เลีย และใช้ลิ้นตวัดวนรอบหัวบานฉ่ำอย่างช่ำชอง ผมแอ่นตัวเกร็ง ส่งเสียงครางกระเส่า เมื่อความเสียวแล่นพล่านไปทั่วร่าง “ชอบไหมน้อง...พี่ดูดเก่งไหม?” เขาเงยหน้าขึ้นมองผม ดวงตาเป็นประกาย “เสียว...เสียวมากครับ...อื้อออ” ผมตอบเสียงสั่นเครือ “นี่แค่เริ่มต้นเองนะ...คืนนี้พี่ยังมีอะไรเด็ดๆ ให้น้องลองอีกเยอะ” เขายิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเริ่มขยับปากเร็วขึ้น แรงขึ้น ดูดดึงแก่นกายของผมอย่างดูดดื่ม จนผมแทบจะทนไม่ไหว “พี่...พี่ภาค...ผม...ผมจะแตกแล้ว” ผมครางเสียงสั่น เขาถอนปากออกแล้วยิ้ม “ใจเย็นสิ...ของดีต้องเก็บไว้ทีหลัง” เขาพลิกตัวผมให้นอนคว่ำ แล้วเริ่มนวดคลึงบั้นท้ายกลมกลึงของผมอย่างช้าๆ ก่อนจะค่อยๆ สอดนิ้วเข้าไปสำรวจช่องทางรักของผม “อ๊ะ...พี่!” ผมสะดุ้งเฮือก “ผ่อนคลายนะคนดี...พี่จะทำให้น้องสบายที่สุด” เขากระซิบข้างหู หลังจากเตรียมความพร้อมอย่างดีแล้ว ภาคภูมิก็ค่อยๆ จ่อแก่นกายใหญ่ยักษ์ของตนเองที่แข็งขืนเต็มที่เข้าไปที่ช่องทางรักของผม ผมถึงกับเบิกตากว้างเมื่อเห็นขนาดที่ใหญ่โตของมัน “พร้อมไหม...น้องปั้น” เขาถามเสียงพร่า ผมพยักหน้าเบาๆ “ครับ...พี่” เขาค่อยๆ ดันแก่นกายเข้าไปช้าๆ ความรู้สึกคับแน่นและเจ็บแปลบทำให้ผมต้องกัดปากแน่น “โอ๊ย...พี่...มันใหญ่จัง” ผมกัดฟันพูด “อดทนหน่อยนะคนดี...เดี๋ยวก็ชิน” เขาก้มลงจูบปลอบ เมื่อแก่นกายเข้าไปจนสุด ผมก็รู้สึกถึงความเต็มตื้นอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ภาคภูมิเริ่มขยับสะโพกช้าๆ เน้นย้ำจังหวะหนักแน่น ก่อนจะเร่งจังหวะให้เร็วและรุนแรงขึ้น “อื้ออออ...อ๊าาาา...” ผมครางไม่เป็นภาษา
“ชอบใช่ไหมล่ะ...ชอบให้พี่เย็ดแรงๆ ใช่ไหม..” เขาตอบ พลางกระแทกกระทั้นไม่ยั้ง เสียงเนื้อกระทบกันผสมกับเสียงครางกระเส่าของผมที่ดังไปทั่วห้อง สองร่างบิดเกร็งเข้าหากันอย่างบ้าคลั่ง พี่ภาคภูมิเร่งจังหวะจนผมรู้สึกเสียวไปถึงขั้วหัวใจ ก่อนที่น้ำรักอุ่นร้อนจะฉีดพุ่งเข้าสู่ร่างกายของผม จนเราถึงจุดสูงสุดพร้อมกัน
เราทั้งคู่กอดก่ายกันแน่น หอบหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน แต่ยังคงความรู้สึกเร่าร้อนอยู่เต็มเปี่ยม คืนนั้นเราทั้งคู่ดำเนินกิจกรรมรักไปถึง 5 เกมส์ ด้วยความสุขสมที่ยากจะลืมเลือน รุ่งเช้า ผมลาพี่ภาคภูมิด้วยความอาลัยอาวรณ์ แม้จะเป็นเพียงค่ำคืนเดียว แต่ความสุขที่ได้รับทำให้ผมไม่อยากจากไปไหนเลย.....จบ
|