ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 21|ตอบกลับ: 3

ช่วยผมด้วย..ผมโดนมาเฟียรุมข่มขืน!? Chapter 37

[คัดลอกลิงก์]

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
160
ตอบกลับ
45
พลังน้ำใจ
6401
Zenny
28747
ออนไลน์
1740 ชั่วโมง
โพสต์ 5 ชั่วโมงที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด |โหมดอ่าน


Chapter 37
เหยื่อล่อ




สายลมอุ่นพัดผ่านหน้าต่างบานสูงในยามสาย แสงแดดที่ลอดผ่านผ้าม่านสีครีมอ่อนทอดลงบนใบหน้าซีดของเจบีอย่างแผ่วเบา ราวกับอรุณแรกของวันกำลังเอื้อมมือปลุกเขาให้ตื่นจากห้วงฝัน


ดวงตาเรียวลืมขึ้นอย่างเชื่องช้า เจือความฝืดจากอาการพักฟื้นยาวนาน เขาหันศีรษะเล็กน้อยไปทางโซฟาข้างเตียง แล้วพบกับเรนที่นอนขดตัวอยู่ในท่าทางแสนสบาย มือข้างหนึ่งกอดหมอนแน่น อีกข้างวางตกจากพนัก เกือบแตะพื้น แกว่งไปมาตามจังหวะลมหายใจสม่ำเสมอ


“อื้อ~” เสียงครางงัวเงียดังขึ้นจากริมฝีปากของเรน ก่อนเปลือกตาจะเปิดขึ้นช้า ๆ พลางขยับตัวบิดขี้เกียจอย่างคนเพิ่งตื่น “ตื่นแล้วเหรอเจบี…”


“อืม…” เจบีพยักหน้าเบา ๆ สายตายังจับจ้องใบหน้ากึ่งหลับกึ่งตื่นของอีกฝ่าย ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงแผ่ว “ตอนนี้…มีข่าวของฮันแจบ้างหรือยัง”


เรนสะบัดความง่วงออกจากหัวในวินาทีเดียว เขาดันตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว ผมยุ่งเล็กน้อย แต่แววตาตื่นเต็มที่ทันทีเมื่อได้ยินชื่อนั้น


“คิดว่าอีกไม่นาน” เขาตอบจริงจัง “ราฟาเอโร่ให้คนกระจายกำลังตามหาทุกช่องทาง ถ้ามีเบาะแสอะไร เขาจะรีบแจ้งทันที”


เจบีหลุบตาลง ก่อนเอ่ยเสียงเบา แต่หนักแน่นเต็มไปด้วยความตั้งใจ “ฉันดีขึ้นมากแล้ว ให้ฉันออกจากโรงพยาบาลเถอะนะ…”


เรนขมวดคิ้วทันที “ได้ไงล่ะ นายเพิ่งฟื้นเองนะ เจ็บหนักขนาดนั้น พวกเขาไม่มีทางอนุญาตแน่”


“ฉันเป็นห่วงฮันแจ…” เสียงเจบีเบาแทบเป็นกระซิบ “ถ้าช้ากว่านี้…อาจจะไม่ทัน”


เรนเงียบไปครู่หนึ่ง จ้องมองสีหน้าซีดขาวแต่ดวงตากลับแน่วแน่ของเจบี สุดท้ายก็ถอนหายใจออกมาเบา ๆ


“…เฮ้อ ถ้านายยืนยันแบบนี้ ฉันจะลองขอร้องราฟาเอโร่ดู” เขาพูดพลางเอื้อมมือไปวางบนผ้าห่มที่คลุมตัวเจบีไว้ “แต่แค่ขอร้องนะ ไม่รับปากว่าเขาจะยอมหรอก”


ไม่ถึงสิบนาทีต่อมา เรนก็เปิดแอปพลิเคชันบนแท็บเล็ต กดวิดีโอคอลไปยังกลุ่มภายในที่เชื่อมต่อถึงสมาชิกคนอื่น ทุกคนที่อยู่ระหว่างภารกิจต่างก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันบนหน้าจอ แสงจากแต่ละสถานที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันคือสีหน้าเคร่งเครียด และเหนื่อยล้า


“มีอะไร?” แคสเปอร์ถามทันที น้ำเสียงห้วนแต่แฝงความตื่นตัว


เรนเหลือบตามองเจบีก่อนจะถอนหายใจแล้วหันกล้องไปทางเตียง “ก็เด็กดื้อของพวกเราน่ะสิ งอแงอยากออกจากโรงพยาบาลให้ได้ตอนนี้เลย”


“แผลยังไม่ทันปิดเลยด้วยซ้ำ” เสี่ยวไป๋ว่าอย่างรวดเร็ว “นอนให้น้ำเกลือต่ออีกนิดเถอะ หรือเบื่อโรงพยาบาลแล้ว หืม?”


แคสเปอร์เท้าคางกับฝ่ามือ เหลือบตามองกล้อง “อย่าบอกนะว่าอยากแอบหนีออกไปเงียบ ๆ เหมือนตอนอยู่ลอนดอน…”


“ไหน ขอคุยกับเจบีหน่อย” เสียงของราฟาเอโร่ดังขึ้น สั้น เรียบ แต่ชัดเจน


เรนพยักหน้าก่อนจะยื่นแท็บเล็ตไปให้เจบี


เจบีรับมาเงียบ ๆ สบตากับชายในจอที่นั่งอยู่กลางแสงสลัวของห้องประชุม เสียงเครื่องปรับอากาศด้านหลังดังเบา ๆ แต่ไม่มีอะไรกลบความแน่วแน่ในน้ำเสียงของราฟาเอโร่ได้


“ไง เด็กดื้อ…ดีขึ้นแล้วเหรอ?”


เจบีพยักหน้าเล็กน้อย “ครับ ดีขึ้นแล้ว”


“ทำไมถึงอยากออกจากโรงพยาบาลเร็วนักล่ะ?” แคสเปอร์เป็นฝ่ายถามต่อ น้ำเสียงดูเหมือนไม่ได้ดุ แต่ฟังออกว่าเขายังไม่เห็นด้วยนัก


เจบีหลุบตาลงเล็กน้อย ก่อนเอ่ยชื่อหนึ่งออกมาเบา ๆ


“ฮันแจ…เขา—”


เสียงนั้นขาดหายไปชั่วครู่ ราวกับไม่รู้จะเริ่มยังไง


“อืม ฉันรู้ว่านายเป็นห่วง” ราฟาเอโร่รับคำสั้น ๆ ดวงตาในหน้าจอไม่ได้หลบไปไหน เขายังคงมองตรงมา เหมือนกำลังรอฟังบางอย่างที่สำคัญ


เจบีกัดริมฝีปาก กลืนน้ำลายลงคอเหมือนตัดสินใจอะไรบางอย่าง ก่อนพูดออกมาอีกครั้ง “ผมอยากช่วย...ผมรู้จักคิมบอมดี อย่างน้อยก็พอเดาได้ว่าเขาจะทำอะไรต่อ ผมอาจจะไม่รู้ทั้งหมด แต่ก็มีบางอย่างที่พวกคุณควรรู้…จากมุมที่ผมเคยอยู่ ขอให้ผมได้ช่วยอะไรสักอย่าง...เพื่อฮันแจ”


ทุกคนในสายวิดีโอคอลเงียบไปชั่วครู่ ก่อนที่เสี่ยวไป๋จะพูดขึ้นช้า ๆ


“งั้นก็แปลว่าเราควรไปเยี่ยมเด็กดื้อที่โรงพยาบาลกันได้แล้วใช่ไหม?”


ราฟาเอโร่พยักหน้า “เจอกันคืนนี้ พวกเราจะไปที่นั่น และเริ่มวางแผน...ไปด้วยกัน”









ในช่วงดึกของคืนนั้น แสงไฟในห้องพักฟื้นพิเศษส่องกระทบบรรยากาศอุ่นสลัว ราฟาเอโร่ผลักประตูเข้ามาเงียบ ๆ เจบีที่นั่งอยู่บนเตียงเงยหน้าขึ้นทันที ดวงตาเต็มไปด้วยความคาดหวังและความตึงเครียดที่ไม่อาจซ่อนไว้ได้


เรนนั่งอยู่ข้างเตียง มือหนึ่งถือถุงขนมอีกมือคีบชิ้นสุดท้ายขึ้นมากินอย่างสบายใจ แม้จะดูผ่อนคลายแต่สายตาก็ยังจับจ้องทุกความเคลื่อนไหวของเจบี


แคสเปอร์กับเสี่ยวไป๋เดินตามราฟาเอโร่เข้ามาติด ๆ ต่างคนต่างมีสีหน้าจริงจัง แต่ไม่ปราศจากแววห่วงใย ส่วนคนสุดท้ายที่ปิดประตูตามหลังอย่างเงียบเชียบคือกาย แพทย์หนุ่มที่ดูเหมือนจะเป็นคนนอก แต่กลับเป็นหนึ่งในแรงสนับสนุนที่มั่นคงที่สุดของกลุ่ม เขาไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนพิงผนังห้องเงียบ ๆ คอยฟังอย่างตั้งใจ


ราฟาเอโร่เดินเข้ามานั่งลงบนเตียงข้างเจบี ดึงเด็กหนุ่มเข้ามาใกล้ วางมือโอบเอวไว้โดยไม่พูดคำใด เหมือนต้องการให้ความอบอุ่นนั้นเป็นเครื่องยืนยันว่าเจบีไม่ได้อยู่คนเดียว


เสี่ยวไป๋กับแคสเปอร์หย่อนตัวลงบนโซฟาด้านข้าง ส่วนกายยังคงยืนอยู่ที่เดิม ดวงตาภายใต้แว่นสะท้อนแสงไฟสีขาวนวล เฝ้ามองทุกอย่างโดยไม่ขัดจังหวะ


สายตาทั้งหมดในห้องหันไปยังเจบี ร่างบางที่ยังมีสายน้ำเกลือห้อยอยู่ที่ข้อมือ มือสองข้างประสานกันแน่นบนตักคล้ายพยายามรวบรวมสติ


“ไหนลองพูดมาสิ...” ราฟาเอโร่เอ่ยเสียงเรียบชัด พลางเหลือบตาลงมองคนในอ้อมแขน “ว่าพวกเราควรทำยังไงต่อ”


“ค...ครับ” เจบีตอบเบา ๆ เสียงสั่นเล็กน้อย หัวใจเต้นแรงอย่างห้ามไม่อยู่ ไม่รู้ว่าในตอนนี้...เขาควรจะชินกับคนกลุ่มนี้แล้วหรือยัง


“ฮันแจกับผม...เราโตมาด้วยกันครับ” เจบีเริ่มเล่า ดวงตาคู่เรียวมองต่ำ เสียงของเขาค่อย ๆ เสถียรขึ้น แม้ยังแฝงความลังเลเล็กน้อยในจังหวะหายใจ “ตระกูลคิมจะรับเด็กกำพร้าเข้ามาเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม เพื่อฝึกไว้ใช้งาน...หรืออะไรก็ตามแต่ที่พวกเขาเห็นว่าเหมาะสม ฮันแจเล่าว่าแม่ของเขาพามาทิ้งไว้ตั้งแต่ยังเล็ก”


“ในตอนนั้น คุณชายของตระกูล คิมบอม...ก็ยังเป็นแค่เด็กวัยห้าขวบ พวกเขาสนิทกันมากครับ มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน แต่เวลาผ่านไปไม่นาน พวกเขาถูกผู้นำตระกูลจับให้แยกกัน เพราะความต่างของชนชั้น ฮันแจเลยถูกส่งตัวมาฝึกในที่เดียวกับผม…”


เขาหยุดหายใจไปชั่ววูบ ความทรงจำบางอย่างแทรกซ้อนขึ้นมาในหัวอย่างรวดเร็ว


“จะเรียกว่าฝึกได้มั้ย...ก็ไม่แน่ใจ เพราะทุกวันมันคือการเอาชีวิตรอดอย่างแท้จริง ผมถูกฝึกให้เป็นนักฆ่า ให้เชื่อง ให้ไม่ตั้งคำถาม”


มือของเจบีกำชายเสื้อแน่นขึ้นเล็กน้อย


“หลังจากอายุได้สิบเจ็ดหรือสิบแปด ผมก็ถูกส่งตัวกลับมารับใช้ตระกูล...ในฐานะคนของคิมบอม คำพูดของฮันแจที่เคยบอกว่าคิมบอมเป็นคนดี มัน...ผิดจากความจริงไปหมดเลยครับ ผมไม่รู้ว่าอะไรทำให้เขาเปลี่ยนไปได้ขนาดนั้น แค่ไม่กี่ปี คนหนึ่งกลายเป็นอาวุธ อีกคนกลายเป็นผู้ควบคุม”


เขาหลุบตามองพื้น สีหน้าฉายชัดทั้งเศร้าและขมขื่น


“แต่ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ส่วนใหญ่ฮันแจก็เป็นคนที่ออกหน้ารับแทนผมเสมอ ไม่ว่าผมจะพลาด หรือมีปัญหาอะไร...เขาไม่เคยปล่อยให้ผมต้องเผชิญคนเดียว ผมไม่เคยรู้เลยว่าระหว่างเขากับคิมบอม มีปัญหาอะไรกันแน่ เพราะฮันแจไม่เคยพูด...แม้แต่ครั้งเดียว”


เสียงในห้องเงียบลงทันทีหลังคำสุดท้ายของเจบี ทุกคนในกลุ่มขนนกสีเงินรับฟังโดยไม่ขัดจังหวะ แววตาแต่ละคู่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด ไม่มีคำถาม ไม่มีคำพิพากษา มีเพียงความเข้าใจที่เริ่มก่อตัวขึ้นช้า ๆ ต่อสิ่งที่เจบีเผชิญมาตลอดชีวิต


เจบีเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอแล้วเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง


“ผมคิดว่า...คิมบอมต้องการใช้ฮันแจเป็นตัวล่อให้ผมกลับไป เหมือนที่เขาเคยทำทุกครั้งแล้วมันได้ผล”


“เพราะนายรู้มากเกินไปใช่มั้ย?” เสียงทุ้มของแคสเปอร์เอ่ยขึ้น


เจบีพยักหน้า “ผมคือหมากตัวหนึ่งที่เขายังไม่กำจัด ผมรู้ข้อมูลบางอย่างที่เขาไม่อยากให้หลุดออกไป เพราะงั้น...เขาจะไม่มีวันปล่อยผมไว้แน่”


“แล้วนายจะทำยังไงต่อ” ราฟาเอโร่ถาม น้ำเสียงเรียบแต่แฝงด้วยแรงกดดัน


เจบีนิ่งไปเพียงวินาที ก่อนจะพูดชัดถ้อยชัดคำ


“ผมจะกลับไป”


คำพูดนั้นทำให้ทุกคนในห้องขยับตัวเกือบพร้อมกัน ความไม่พอใจ ความกังวล ความหวาดระแวง ถูกผลักขึ้นมาบนสีหน้าอย่างไม่อาจปิดบัง


“จะบ้าเหรอ?” เสียงเรนหลุดขึ้นมาก่อนใคร


“ฉันไม่เห็นด้วย” เสี่ยวไป๋เสริมทันควัน “นายเพิ่งรอดตายมา จะกลับไปให้เขาจับอีกทำไม”


“ผมจะทำทีเป็นว่า...ผมยอมแล้ว แลกกับการขอพบฮันแจ ผมจะทำให้เขาเชื่อว่าผมไม่มีทางหนีได้ และจะยอมกลับไปอยู่ภายใต้คำสั่งของเขา”


ราฟาเอโร่นิ่งไปพักหนึ่ง ก่อนจะถามเสียงต่ำ “เขาจะยอมเชื่อนายเหรอ?”


เจบีพยักหน้า ดวงตาวูบไหวเล็กน้อย แต่เต็มไปด้วยแรงแน่วแน่ “ผมรู้จักเขาดี เขาจะสงสัย...แต่สุดท้ายเขาจะเชื่อ เพราะเขายังอยากได้บางอย่างจากผม และเขาชอบควบคุมคนที่ ‘คิดว่าแพ้’ แล้วมากที่สุด”


“มันเสี่ยงเกินไป” เสี่ยวไป๋ว่าเบา ๆ แววตาเต็มไปด้วยความกังวล


“ผมรู้ครับ” เจบีหันไปสบตาเขาช้า ๆ “แต่ผมจะอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ ถ้าผมไม่ทำอะไรตอนนี้...ผมคงไม่มีวันให้อภัยตัวเองได้เลย”


ไม่มีใครพูดต่อทันที ความเงียบในห้องไม่ใช่เพราะไร้คำตอบ แต่เพราะทุกคนรู้ว่าคำพูดนั้น…คือคำขอจากหัวใจที่แทบจะไม่เหลืออะไรให้ปกป้องอีกแล้ว


“เฮ้อ...” เสียงถอนหายใจดังขึ้นเบา ๆ จากฝั่งกาย ชายหนุ่มในเสื้อกาวน์สีขาวที่ยืนพิงผนังอยู่ตลอดเอ่ยขึ้นบ้าง น้ำเสียงนิ่ง เรียบ แต่แฝงเหตุผลอย่างชัดเจน “ฉันคิดว่ามันก็เป็นทางเลือกที่ดีอยู่นะ ในตอนนี้เรายังไม่รู้ชัดเจนว่าสถานการณ์ของฮันแจเป็นยังไง ดังนั้น...เราควรระวังตัวประกันเป็นหลักก่อน”


ทุกสายตาหันไปมองเขา กายกอดอก มองเจบีด้วยสายตาที่ไม่ได้ตำหนิ แต่สงบเยือกเย็นในแบบของคนที่ผ่านความเสี่ยงมามากพอจะเข้าใจมันดี


“ถ้าเราบุกเข้าไปแบบตรง ๆ โดยไม่มีข้อมูลมากพอ แล้วเกิดอะไรขึ้นกับฮันแจ...มันไม่คุ้มเลยใช่มั้ย” กายพูดต่อ “เราไม่ควรเสี่ยงชีวิตของใคร...โดยไม่มีแผนรองรับที่รัดกุมกว่านี้”


“แต่ชีวิตของเจบีก็สำคัญนะ” แคสเปอร์เอ่ยแทรกขึ้น สีหน้าหนักแน่น แววตาแข็งกร้าวกว่าทุกที


“แน่นอน ฉันรู้ดีว่าพวกนายเป็นห่วงเจ้าเด็กดื้อคนนี้” กายหันไปยิ้มบาง ๆ ให้ทุกคนในห้อง “แต่ถ้าเจบีมั่นใจขนาดนี้ ถ้าเขาไม่ได้เอาหัวใจไปโยนทิ้งเล่น ๆ แต่มีเหตุผลของตัวเองจริง ๆ...บางที เราก็ควรเชื่อใจกันได้แล้วไหม?”


เขาพูดต่อ ช้า ๆ แต่หนักแน่น


“และเราไม่ได้ปล่อยให้เขาไปเผชิญหน้าคนเดียวสักหน่อย”


เสียงนั้นทำให้เจบีหันขวับไปมองกายชัด ๆ


“เราแค่ต้องเปลี่ยนแผนเท่านั้นเอง” แววตากายเจือแววแน่วแน่ขึ้นในที่สุด “ให้เจบีเป็นตัวหมากล่อ แล้วพวกเราล้อมกระดาน”


บรรยากาศในห้องเริ่มเปลี่ยนไปจากความอึดอัด กลายเป็นนิ่งขรึมอย่างมีจุดมุ่งหมาย เรนลุกขึ้นปัดเศษขนมออกจากตัก หยิบแท็บเล็ตมาวางบนโต๊ะหน้าโซฟา เสี่ยวไป๋เอียงตัวโน้มลงนิด ๆ เปิดแผนผังระบบความปลอดภัยบนหน้าจอโปร่งใส แสงสีฟ้าอ่อนสะท้อนขึ้นมากลางห้อง


“งั้น...เราจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี?” แคสเปอร์ถาม ขณะพิงพนักโซฟา แขนไขว้แน่น รอคำตอบจากคนที่นั่งอยู่กลางวงล้อม


เจบีสูดลมหายใจเข้าลึก พยักหน้าช้า ๆ ก่อนจะชี้ไปยังจุดหนึ่งบนหน้าจอ “ระบบเซิร์ฟเวอร์ของคิมบอมมีสามชั้น ชั้นในสุดเป็นตัวควบคุมฐานข้อมูลการเงินและการเคลื่อนไหวทั้งหมด ผมเคยเห็นตอนเขาเปิดระบบ มันมีช่องเข้าจากทางฝั่งตึก C แต่ต้องมีลายนิ้วมือของคนใน”


“นายมีทางเจาะไหม?” เสี่ยวไป๋ถามขณะมองตาม


“มีครับ ถ้าให้ผมเข้าไปถึงระดับกลางได้ ผมจะสามารถรีโมตระบบเพื่อเปิดทางให้พวกคุณเข้าได้ในอีกห้านาทีหลังจากนั้น แต่...ผมต้องอยู่ในนั้นจริง ๆ ถึงจะควบคุมได้ทั้งหมด” น้ำเสียงเจบีนิ่ง เรียบ แต่หนักแน่นเกินกว่าที่ใครจะค้าน


“งั้นฉันกับแคสเปอร์จะเป็นทีมเบี่ยงเบน” เรนว่า “เราจะปล่อยข่าวว่ากลุ่มติดอาวุธจากมาเก๊ากำลังจะเข้าลอบทำลายเซิร์ฟเวอร์ ฝั่งคิมบอมต้องปั่นป่วนแน่ แล้วนายจะมีช่องว่างทำงาน”


“ฉันจะเป็นคนเตรียมจุดออกฉุกเฉิน” กายเอ่ยบ้าง ขณะหยิบแท็บเล็ตของตัวเองขึ้น “เฮลิคอปเตอร์ลำเล็กหนึ่งลำ กับจุดหลบหนีทางน้ำ ถ้าสัญญาณเริ่มเปลี่ยน ฉันจะส่งเจ้านั่นเข้าไปรับ”


“ส่วนฉัน...” ราฟาเอโร่เอ่ยขึ้น ดวงตาคมวาวของเขาไม่ละจากเจบีเลย “...จะเป็นคนพานายเข้าไปในฐานะคนของคิมบอมอีกครั้ง”


“คุณจะไม่ถูกจับได้เหรอครับ” เจบีถามเบา ๆ


“คนอย่างฉัน ไม่เคยเข้าด้วยแผนธรรมดา” ราฟาเอโร่ตอบเรียบ ๆ แล้วเหลือบตายิ้มมุมปากอย่างน่ากลัว


“ฉันจะทำให้เขาคิดว่านายกลับไปหาฝั่งเขาโดยความสมัครใจ” ราฟาเอโร่พูดนิ่ง ก่อนจะหยิบแฟ้มเอกสารบางอย่างขึ้นมาวางบนโต๊ะ


เขาเปิดแฟ้มออก ภายในคือเอกสารปลอม ภาพข่าวในเครือสื่อที่กลุ่มของราฟาเอโร่มีอิทธิพลแฝงอยู่ และหลักฐานบางอย่างที่ถูกจัดเตรียมไว้แล้ว


“ฉันจะปล่อยข่าวลือ ว่านายแอบหลบหนีออกจากโรงพยาบาล แล้วจะให้พวกในเครือรายงานว่าเห็นนายที่ท่าเรือฝั่งตะวันออก ซึ่งตรงกับเส้นทางลำเลียงของเครือข่ายคิมบอม…ให้เขารู้สึกว่านายกำลัง ‘เดินกลับ’ ไปเอง”


“แล้วถ้าเขาไม่เชื่อล่ะครับ?”


“เขาไม่มีเวลาพอจะตั้งคำถาม เพราะฉันจะสร้างแรงกดดันให้เขาเร่งรับนายกลับไปอย่างเงียบ ๆ” ราฟาเอโร่ยกยิ้มช้า ๆ ที่มุมปาก แววตานิ่งสนิทแต่แฝงประกายดุดัน “ข่าวที่พวกเราสร้างขึ้นจะกระทบกับการเจรจาบางอย่างของเขาในตลาดมืดฝั่งยุโรป ถ้าเขาไม่รีบควบคุมสถานการณ์ ก็จะเสียหน้าต่อพันธมิตรของเขาเอง”


“แต่การเข้าไปครั้งนี้ เราต้องวางคนตามประกบ” เสี่ยวไป๋พูดขึ้นบ้าง สีหน้าเคร่งขรึม “ฉันจะฝังคนไว้ในจุดสำคัญ ถ้านายส่งสัญญาณเมื่อไหร่ ฉันจะลากนายออกมาให้ได้ภายใน 10 นาที”


“แคสเปอร์จะช่วยเรื่องการกดระบบการสื่อสาร ถ้านายอยู่ในอาณาเขตของคิมบอม ฉันจะควบคุมคลื่นสัญญาณให้ทั้งหมด” แคสเปอร์พูดขณะไถหน้าจอแท็บเล็ต “จะมีทางเดียวที่พวกเราติดต่อกันได้…ผ่านคลื่น low-band ที่ฝังไว้ในกำไลข้อมือนาย”


เรนพยักหน้า “ส่วนฉันจะเป็นตัวชนหน้า ถ้ามีใครสงสัยหรือดึงจังหวะ ฉันจะทำให้เขาไม่มีโอกาสได้ถามมากกว่านั้น”


เจบีมองไปรอบห้อง แววตาของแต่ละคนเปลี่ยนไป…ไม่ใช่แค่นักวางแผน ไม่ใช่แค่นักฆ่า ไม่ใช่แค่ผู้กุมอำนาจ แต่นี่คือคนที่พร้อมจะล้มกระดานทั้งกระดาน…เพื่อเขา


“ขอบคุณนะครับ สำหรับทุกอย่าง…” เจบีพูดเบา ๆ ขณะก้มหน้า น้ำเสียงสั่นเครือปนหอบล้า ราวกับน้ำหนักที่แบกมาทั้งหมด เพิ่งได้รับอนุญาตให้ปล่อยวาง


ราฟาเอโร่ที่นั่งอยู่ข้างเขาเอื้อมมือมากระชับไหล่บางให้แน่นขึ้น แขนอีกข้างโอบรอบเอว แล้วพาเจบีเอนตัวซบลงบนอกอย่างช้า ๆ อ้อมกอดนั้นไม่มีคำสัญญา ไม่มีคำปลอบโยน แต่เต็มไปด้วยความมั่นคงที่ไม่มีทางหาได้จากที่ไหนอีกแล้ว


“ไม่ต้องขอบคุณ...” เสียงทุ้มแผ่วเบาดังอยู่เหนือศีรษะของเขา “เพราะครั้งนี้...นายไม่ต้องอยู่คนเดียวอีกแล้ว”


เจบีไม่ได้พูดอะไรต่อ น้ำตาไหลออกมาเงียบ ๆ เหมือนร่างกายตัดสินใจแทนหัวใจไปแล้วว่า...พอแล้วกับการฝืน


เรนที่นั่งอยู่ปลายเตียงทำเสียงขึ้นจมูก ก่อนจะลุกขึ้นมาทำหน้าตายียวนกลบความรู้สึกที่กำลังตีขึ้นมา “โอ๊ย เห็นแล้วจะร้องตาม… ใครจะคิดว่าไอ้เด็กดื้อของพวกเราจะพูดจาน่ารักแบบนี้ได้ด้วย”


พูดจบก็ลูบหัวเจบีแรง ๆ แบบคนไม่ถนัดแสดงความรัก


เสี่ยวไป๋ยิ้มจาง ๆ ก่อนจะตามเข้ามา เขาย่อตัวลงนั่งข้างเตียง ใช้ปลายนิ้วไล้เช็ดน้ำตาที่หางตาให้เจบีเบา ๆ แล้วแตะหน้าผากกันอย่างที่ทำเป็นประจำในยามไม่พูดอะไรเลย “จากนี้ พวกเราจะรับฟังนายบ้างแล้ว...ไม่ใช่แค่สั่งให้ทำตาม”


แคสเปอร์ยืนนิ่งอยู่ใกล้ ๆ ไม่พูดมากเช่นเคย แต่กลับเป็นคนเดินเข้ามาก่อนใคร โอบไหล่เจบีไว้หลวม ๆ แล้วโน้มหน้าผากลงแตะเบา ๆ อีกคน “ไม่ต้องกลัวอีกแล้ว เข้าใจไหม? คราวนี้ไม่มีใครทิ้งนายแน่”


เจบีพยายามกลั้นเสียงสะอื้น แต่ก็หลุดออกมาเบา ๆ ขณะที่ทุกสายตายังจับจ้องเขาอย่างไม่ละไปสักคน


กายเดินมาช้า ๆ แล้วหย่อนตัวลงนั่งข้างเตียงเหมือนจะตรวจร่างกาย แต่กลับแค่จับข้อมือเจบีไว้แน่น ดวงตาภายใต้แว่นแสดงถึงความอ่อนโยนที่สุด “มีพวกเราอยู่ตรงนี้ทั้งหมดแล้ว นายแค่ต้องมีชีวิต...แล้วพาเขากลับมา”


“ครับ...” เจบีพึมพำแทบไม่เป็นคำ


ความเงียบโรยตัวชั่วครู่ เหมือนทุกคนต่างใช้จังหวะนั้นสูดลมหายใจเข้าลึกพร้อมกัน เหมือนว่าในที่สุด…พวกเขาเริ่มมองเห็นปลายทางของความสับสนและแผลเป็น


“เอาไว้จบเรื่องทุกอย่างแล้ว...” แคสเปอร์เอ่ยขึ้น ก่อนจะยืดไหล่ยืดหลังราวกับประกาศแผนการครั้งสำคัญ “พวกเราลาพักร้อนกันมั้ย?”


“หืม?” เสี่ยวไป๋เลิกคิ้ว มองอีกฝ่ายอย่างไม่แน่ใจ “งานของเรา...มีลาพักร้อนด้วยเหรอ?”


“ก็ต้องมีบ้างสิ!” แคสเปอร์รีบสวน “ที่ผ่านมาเราทุ่มเททำงานกันจนไม่มีเวลาไปไหนด้วยกันเลยด้วยซ้ำ นะ ๆ ราฟา...ว่าไง?”


ราฟาเอโร่ยังไม่ทันตอบ เสียงจากอีกฟากของเตียงก็ดังแทรกขึ้นมาก่อน


“ฉันอยากไปทะเล!” เรนยกมือขึ้นทันที สีหน้าจริงจังอย่างน่าประหลาด “แบบที่มีบานาน่าโบ๊ท กับคนใส่บิกินี่เดินผ่านไปผ่านมาอะ!”


“ใครถามนาย” แคสเปอร์ตวัดเสียงใส่ทันที “พูดมาก เดี๋ยวโยนนายลงทะเลซะเลยดีมั้ย”


เรนยักคิ้ว “ถ้ามีนายตกตามไปด้วย ฉันไม่ว่าอะไร”


เสี่ยวไป๋ส่ายหน้ายิ้ม ๆ ก่อนเอื้อมมือไปแตะแขนเจบีเบา ๆ “ให้เจบีเลือกดีกว่าว่าอยากไปไหน”


“ก็ได้ ๆ” เรนว่าเสียงอ่อยเหมือนคนที่ยอมแพ้ในเกมเถียง พลางหยิบหมอนบนโซฟามากอดไว้แน่น ก่อนจะหันไปมองหน้าแคสเปอร์แบบหมั่นไส้เล็กน้อย


แคสเปอร์ยักไหล่อย่างเสียไม่ได้ แล้วหันไปทางเจ้าของร่างบางบนเตียงพร้อมรอยยิ้มมุมปาก “ว่ายังไง เด็กดื้อ นายอยากไปไหน ถ้าได้พักจริง ๆ น่ะ?”


เจบีเงียบไปครู่หนึ่ง “ผมขอคิดดูก่อนนะ... แค่คิดว่าทุกคนจะได้ไปไหนด้วยกันแบบนั้น มันก็ดีมากแล้ว”


ทุกคนชะงักไปชั่ววูบ ก่อนจะหัวเราะตามกันเบา ๆ


“ขอแค่มีนายอยู่ด้วย จะไปไหนฉันก็โอเคหมด” เรนพูดพร้อมแกล้งเอนหัวพิงไหล่เจบี จนแคสเปอร์ทำท่าจะเขกหัว


“ไม่ต้องรีบนึกหรอก” ราฟาเอโร่พูดขึ้นบ้าง มือที่วางบนเอวเจบีแน่นขึ้นอีกนิด “เพราะไม่ว่าสุดท้ายจะเลือกอะไร…เราจะไปด้วยกันทั้งหมด”


“ใช่” เสียงของเสี่ยวไป๋กับกายดังขึ้นพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย เจือความจริงใจเต็มน้ำเสียงจนเจบีอดหัวเราะเบา ๆ ไม่ได้ มันไม่ใช่เสียงหัวเราะเพราะตลก แต่มาจากความอุ่นที่ไหลท่วมใจในชั่วขณะนั้น


“นั่นไง ยิ้มได้แล้ว” แคสเปอร์เอ่ยขึ้นทันที ใบหน้ามั่นใจเต็มที่ราวกับตัวเองเป็นต้นเหตุของรอยยิ้มนั้น “ฉันควรได้รับรางวัลใช่ไหม?”


“รางวัลอะไร นายยังไม่ได้ทำอะไรเลยสักอย่าง” เรนสวนทันควัน แถมยังเอียงหน้าทำสีหน้าล้อเลียนอย่างสุดฤทธิ์


แคสเปอร์หันไปถลึงตาใส่ ส่วนเสี่ยวไป๋ก็ส่ายหน้ายิ้ม ๆ ขณะที่กายยืนกอดอกมองภาพตรงหน้าด้วยแววตาอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด


เจบีมองพวกเขาทีละคน...กลุ่มคนที่เคยไกลเกินเอื้อม แต่ตอนนี้กลับอยู่ตรงนี้ ใกล้พอจะยืนข้างเขา และกลายเป็นเหตุผลที่ทำให้เขายิ้มได้อีกครั้ง






🌸 一期一会 (いちごいちえ)

นายกสโมสร

กระทู้
0
ตอบกลับ
50959
พลังน้ำใจ
260407
Zenny
104238
ออนไลน์
20017 ชั่วโมง
โพสต์ 4 ชั่วโมงที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด

นายกสโมสร

กระทู้
28
ตอบกลับ
32773
พลังน้ำใจ
182314
Zenny
184779
ออนไลน์
30459 ชั่วโมง
โพสต์ 3 ชั่วโมงที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณขอรับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
ตอบกลับ
202
พลังน้ำใจ
1782
Zenny
1785
ออนไลน์
207 ชั่วโมง
โพสต์ 2 ชั่วโมงที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
อา หวานเล็กๆ อบอุ่นหน่อยๆ รอต่อนะครับ
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2025-7-9 20:37 , Processed in 0.084662 second(s), 25 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2025 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้