แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย insomniac เมื่อ 2025-7-8 18:08
Red Tag : ออฟฟิศนี้มีพวกผม
/5/
ภาพตัวเองในผ้าเตี่ยวตัวเดียวที่กระจายไปทั่วบริษัททั้งดูผิดที่ผิดทางและอนาจารจนไม่ควรเกิดขึ้นในออฟฟิศไหนๆหลอกหลอนพีทอยู่หลายวัน เขาบอกตัวเองว่า Fundoshi เป็นเครื่องแต่งกายที่น่าเกลียดที่สุดและเขาจะไม่มีวันใส่มันอีกเป็นอันขาด
เสียง Slack ดังในกลุ่มSupport :Red Tag
“หัวหน้าแผนกจัดหาเกิดวันนี้เตรียมห้องประชุม D2 ช่วยกันนะคะ”
เด็กป้ายแดง 5 คนถูกแท็กชื่อ— พีทเห็นชื่อเขาอยู่ในลิสต์ พีทมองตารางงานที่ว่างเปล่ามือกำป้ายชื่อสีแดงแน่น — เขาเพิ่งผ่านมา Fundoshi Day ได้ไม่กี่วันคราวนี้ชื่อเขาขึ้นมาอีก
“นี่มันงานอะไรอีกวะ…”
ดิว รุ่นพี่ป้ายแดงเดินผ่านตบหลังเบาๆ
“สบาย ๆโว้ย น่าจะแค่ไปช่วยเสิร์ฟ เผลอๆ มีคนเลี้ยงข้าว ฮ่าๆ”
ห้องประชุม D2 ก่อนเวลาจัดงาน1 ชม.ฝ่ายจัดหา ฝ่ายบุคคล ป้ายม่วงอีกครึ่งโหลช่วยกันปูผ้าขาวบนโต๊ะประชุมใหญ่ไฟดาวน์ไลท์เปิดตรงกลางโต๊ะยาว บนโต๊ะเล็กด้านข้างวางขวดสาเกเหล้าบ๊วย ถาดซูชิข้าวปั้น ถ้วยโชยุ จานปลาดิบ และแผ่นสาหร่ายเรียงอย่างเป็นระเบียบ กลิ่นสดคาวทะเลหอมจาง ๆ ลอยคลุ้งไปทั่วห้องแอร์
ข้าง ๆ มีถุง Fundoshi ผืนใหม่พับเรียบร้อย — รุ่นพี่ HR ยื่นให้ป้ายแดงแต่ละคน
“น้องพีทตัวนี้นะ ของใหม่ มัดให้เรียบร้อยหน่อย จะได้ไม่โป๊ หึๆ”
เด็กป้ายแดงห้าคนยืนก้มหน้าถอดกางเกงพร้อมกันไม่มีใครพูดอะไรมากนอกจากเสียงหัวเราะแห้ง ๆ เวลาตาคนหนึ่งเหลือบไปเห็นกล้ามท้องขนหน้าท้อง หรือขนรักแร้ของอีกคน พีทจับผ้าผืนบางในมือใจสั่นเพราะไม่รู้จะมัดยังไงให้มันปิดได้จริง ดิวต้องเข้ามาช่วยรัดชายด้านข้างให้ มัดเงื่อนหลวมพอให้ขยับได้แต่ก็ไม่พ้นวับ ๆ แวม ๆ ตามจังหวะลมหายใจ
“แน่นพอแล้วมั้ง…แต่ระวังนะหายใจแรงหน่อยมันก็หลวมแล้ว ฮ่า ๆ” ดิวกระซิบขณะที่รุ่นกลางอีกคนซึ่งมัดเสร็จก่อนยกแขนขึ้นยืดตัวจนขนรักแร้สีเข้มปรากฏเต็มแสงไฟ “เฮ้ย ขนมึงรกไปรึเปล่าวะ” เสียงรุ่นพี่คนหนึ่งแซวขึ้น บางคนหัวเราะต่อเหมือนมุกเบาๆ ที่ไม่มีใครจริงจัง แต่พีทรู้สึกเหมือนขนทั้งตัวเขาลุกชันจนหนาวไปหมด
พีทถอดหายในเฮือกใหญ่คิดว่าวันนี้คงต้องคอยเสิร์ฟสาเกในชุดที่แทบไม่ปกปิดอะไรนี่ไปจนดึกแต่เมื่อได้ยินจุดที่ตัวเองต้องไปประจำการก็รู้ว่าตัวเองคิดน้อยไป แม้แต่ดิวยังหน้าถอดสี พีทโดนจัดให้นอนทอดร่างอยู่บนโต๊ะที่มีแม่งานแผนกจัดหายืนเท้าสะเอวรออยู่ก่อนแล้วดิวอยู่กลางโต๊ะ ป้ายแดงอีกสามคนถูกวางเรียงแน่นเหมือนจานอาหารจริง ๆไม่มีใครพูดอะไรนอกจากเสียงลมหายใจสั้น ๆ ตอนผิวเปลือยสัมผัสไม้เย็น ๆ
แม่บ้านที่ถูกเรียกตัวมาช่วยเริ่มคืบซูชิวางทีละคำบนผิวเนื้อเปลือยเปล่าตรงหน้าเรียงชิ้นเนื้อปลาดิบบนอก บนหน้าท้อง วางข้าวปั้นข้างร่องสะดือแล้วแตะสาหร่ายพาดชายผ้าเตี่ยวให้มันคลออยู่พอดีเขาบังเอิญสบตากับหญิงรุ่นราวคราวแม่ที่ฉายแววสงสารอย่างชัดเจนจนต้องหันหน้าหนี พีทรู้สึกเหมือนกำลังเป็นจานเนื้อมีชีวิตมือเขากำขอบผ้าผืนบางแน่นเท่าที่จะไม่ให้มันร่นไปกว่านี้แต่ก็รู้ว่ามันห้ามไม่อยู่ดุ้นเนื้ออวบใหญ่อัดแน่นอยู่ภายใต้ผ้าผืนบางนูนเด่นกว่าใครเพื่อนในบรรดาป้ายแดงด้วยกัน เสียงซุบซิบข้างหูดังแทรก
“ดูเต็มไม้เต็มมือดี สะดือก็สวยนะคะ ลองใส่โชยุดูดีกว่า”
ป้ายม่วงคนที่พูดหัวเราะขณะเทโชยุจากขวดเล็ก ๆ ลงในหลุมสะดือที่มีไรขนอยู่ไม่น้อยน้ำดำล้นขอบหยดตามร่องกล้ามท้องลงไปแตะชายผ้าขาวบางเหมือนตั้งใจก่อนเธอจะหันไปหัวเราะกับรุ่นพี่ป้ายม่วงที่ยืนกอดอกดูผลงานเหมือนเช็กว่าซูชิชิ้นไหนเรียงสวยสุดรุ่นพี่หยิบกระดาษทิชชู่ถูไปมาตรงจุดที่เปรอะเปื้อนจนขอบผ้าถลกลงต่ำพีทไม่กล้าผงกหัวขึ้นมองแต่รู้สึกได้ถึงขนที่ลับที่โผล่ออกมาไล่ลงไปถึงส่วนโคนรำไร มีเสียงผู้ชายอีกคนหัวเราะ
“เฮ้ยหมอยโผล่ว่ะ ถ้าโกนให้เกลี้ยงหน่อยน่าจะน่ากินกว่านี้”
โต๊ะประชุมที่เคยเป็นที่ถกเถียงธุรกิจกันอย่างเคร่งเครียดถูกแปลงเป็นแท่นวางร่างคน 5 ร่างทั้งมัดกล้าม ขน รอยเหงื่อ เสียงลมหายใจ กลายเป็นที่รองรับซูชิสด ข้าวขาวและโชยุในถ้วยเล็ก กลิ่นสาเกที่ถูกอุ่นโชยมาจากมุมห้อง คนห้อยป้ายม่วงผลัดกันยกแก้วหัวหน้าแผนกจัดหายืนยิ้มมองภาพตรงหน้าอย่างภูมิใจ
“ขอบใจมาที่จัดงานให้พี่ทานให้อร่อยนะทุกคน” เธอพูดแค่สั้น ๆ พร้อมกับส่งรอยยิ้มไปทั่วห้อง
พีทนอนหงายบนโต๊ะความหนาวจากไม้เย็นซึมเข้ากระดูกขอบตาร้อนเพราะน้ำตาที่คลออยู่แต่ไม่มีทางปล่อยให้ไหล ชายผ้าเตี่ยวแนบสะโพกบางส่วนจนรู้สึกถึงลมหายใจคนยืนล้อมที่กำลังหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายรูปอาหารก่อนรับประทานตามธรรมเนียมคนไทย ป้ายชื่อสีแดงห้อยอยู่ด้านข้างโต๊ะมันรั้งคอเขาแน่นราวกับเป็นปลอกคอเส้นหนึ่ง สาเกขวดแรกหมดไปตั้งแต่เสียงหัวเราะรอบโต๊ะยังดังไม่ถึงครึ่งพีทนอนนิ่งบนโต๊ะไม้ที่เริ่มอุ่นเพราะร่างกายเขากับแสงไฟข้างบน ชายผ้าเตี่ยวที่มัดไว้ด้วยมือดิวเริ่มร่นลงเพราะเขาขยับขาไปมาหลายทีตอนโดนวาซาบิหกใส่ใครบางคนจงใจแต้มเพิ่มตรงหัวนมให้มันแสบขึ้นอีก เส้นขนหน้าท้องที่ชื้นเหงื่อเกาะวาซาบิสีเขียวเป็นหย่อมเล็ก ๆ จนพีทไม่กล้าขยับแรง
ข้างตัวเขาดิวหัวเราะเสียงต่ำเหมือนคนคุมอารมณ์ได้ดีกว่าเยอะ ป้ายแดงอีกสองคนที่อยู่ปลายโต๊ะตรงข้ามกันต่างก็เริ่มปรับร่างกายให้ชินกับการนอนนิ่งคนหนึ่งขยับหัวคุยกับป้ายม่วงได้หน้าตาเฉยเหมือนร่างตัวเองไม่ต่างจากถาดไม้ที่วางปลา
เสียงตะเกียบแตะจานโชยุเบา ๆดังถี่ขึ้น ใครคนหนึ่งเอื้อมมาคีบข้าวปั้นที่วางบนกล้ามอกพีท มืออีกข้างถือถ้วยสาเกพลางหัวเราะ
“โอ๊ย น้องใหม่แม่งตัวสั่นว่ะ ห่อหมกสั่นตามเลย” ตะเกียบจงใจเฉี่ยวหัวนมพีทสะดุ้งจนชายผ้าเคลื่อนต่ำกว่าเดิมสายตาหลายคู่หันมองขอบผ้าสีขาวที่ร่นไปแตะโคนควยจนเงาดำ ๆของแนวหมอยโผล่เป็นเงาในไฟสีเหลือง
“ระวังหน่อยน้องเดี๋ยวหก ฮ่าๆ” เสียงหัวหน้าแผนกจัดหาเอ่ยเหมือนจะเตือนแต่รอยยิ้มบนหน้าไม่มีแววห้ามสักนิด มือข้างหนึ่งถือแก้วเหล้า อีกมือกวาดตาดูตั้งแต่กล้ามอก หน้าท้อง สะดือ จนถึงผ้าเตี่ยวที่หลุดรุ่ยของพีทที่ตอนนี้ไม่รู้จะยังปิดอะไรได้อีกมั้ย
เสียงหัวเราะถัดไปยิ่งดังขึ้นเมื่อใครสักคนตัดสินใจหยิบตะเกียบสอดไปใต้แนวผ้าแล้วดึงขึ้นสูง“ดูดิ หลวมแล้วว่ะ จะร่นไปถึงไหน ฮ่าๆ” พีทได้แต่กลั้นใจ ลมแอร์เย็นๆมีช่องทางเป่าเข้าไปใต้ผ้าลดความร้อนและอับชื้นด้านใน
รุ่นพี่ป้ายแดงคนข้าง ๆขำเสียงดังพอช่วยให้ความเงียบอึดอัดหายไปนิด “พี่จะคีบซูชิโรลก็เล็งดีๆ สินั้นมันดุ้นผม เดี๋ยวหมออ้อยก็ติดตะเกียบหรอก ฮ่าๆ” พนักงานป้ายม่วงคนถือแก้วหัวเราะกลับ “ก็มึงวางไม่เรียบร้อยเองนี่หว่า!”
เสียงมือถือแชะตามมาอีกระลอกทุกคนรู้ว่าภาพที่ได้ไม่ใช่แค่ชิ้นปลาดิบบนท้อง แต่มีทั้งเงาแนวขนสะดือเงาเส้นหมอย และดุ้นควยรำไรที่สดใหม่ไม่แพ้เนื้อปลา หัวหน้าจากต่างแผนกเทโชยุเพิ่มลงในร่องสะดือของพีทแล้วคีบวาซาบิก้อนใหญ่ละเลงลงไป เสียงพีทหอบในลำคอเพราะความเผ็ดแสบจากวาซาบิที่ซึมเข้ารูสะดือ
“ขนท้องน้องมันตั้งหมดเลยว่ะฮ่าๆ”
“ดิ้นจนผ้าหลุดหมดแล้ว…ขาวอวบน่ากินกว่าโฮตาเตะซะอีก เกรดฮอกไกโดชัดๆ”
บรรยากาศในห้องประชุมตอนนี้เหมือนภัตตาคารญี่ปุ่นกึ่งคลับซูชิเถื่อนเสียงคัมปาย เสียงหัวเราะ เสียงซุบซิบเรื่องผ้าหลุด หมอยโผล่ ขนรักแร้รก ขนขาเข้มกลายเป็นเครื่องเคียงที่ทำให้ทุกคำซูชิดูอร่อยกว่าปกติ
พีทนอนนิ่งเหมือนของตกแต่งบนโต๊ะทั้งที่ในหัวเขาวิ่งวนแต่ประโยคเดียว แค่ผ่านคืนนี้ไปให้ได้ คงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้ว…ขอแค่ใครอย่าทะลึ่งเอาตะะเกียบเปื้อนวาซาบิมาทิ่มรูเยี่ยวกูละกัน…
แต่ร่างกายเขาก็ยังสั่นชายผ้าที่คลายจนแทบไม่เหลืออะไรปิดแนวใต้ร่มผ้าเสียงหัวเราะรอบโต๊ะดังเหมือนใครหยิบมือถือมาถ่ายซ้ำเก็บไว้แล้วโยนขึ้น Slack Meme ภายในก่อนจะลุกกลับไปเติมสาเกรอบใหม่
เขากำป้ายชื่อสีแดงแน่นกว่าเดิมรู้ว่ามันไม่เคยช่วยบังอะไร นอกจากบอกทั้งห้องว่า นี่คือภาชนะมนุษย์ที่ใครจะคีบจะเขี่ย จะแหย่ จะดึง ไปถึงไหนก็ได้…
|