ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 57|ตอบกลับ: 3

เมื่อผมข้ามมิติและต้องแต่งงานกับผู้ชาย 4 คนพร้อมกัน Ch.6

[คัดลอกลิงก์]

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
127
พลังน้ำใจ
5726
Zenny
26665
ออนไลน์
1470 ชั่วโมง
โพสต์ เมื่อวาน 14:11 | ดูโพสต์ทั้งหมด |โหมดอ่าน
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย NOOFONG เมื่อ 2025-6-14 14:28


ตอนที่ 6

สวามีลำดับที่ 2


หลายวันมานี้ผมยุ่งหัวฟูกับราชกิจแทบไม่เว้นแต่ละวันจนลืมไปเลยว่าตัวเองเคยเป็นแค่คนธรรมดาที่ไม่เคยข้องแวะกับอะไรแบบนี้มาก่อน

ไคเรนแทบจะเป็นคนกำหนดตารางชีวิตให้ผมในแต่ละวันราวกับเป็นเงาที่เดินตามอยู่ทุกฝีก้าว ชายหนุ่มผู้มีบทบาทสำคัญในสภาสูงฉลาดเป็นกรด คำพูดคมเหมือนมีดที่ฝนจนบางเฉียบ เหวี่ยงใส่พวกขุนนางแก่ ๆได้อย่างแม่นยำ

ในโลกแห่งการชิงอำนาจเขาคือโล่กำบังที่ไม่เพียงแต่แข็งแรงและทนทาน แต่ยังสวยงามและเฉียบคมพอจะสะท้อนอาวุธกลับไปยังต้นทางได้อย่างหมดจด

ก็ถ้าจะเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย...

ชีวิตช่วงนี้ของผมก็เหมือนพนักงานออฟฟิศที่ตื่นเช้าไปทำงานเจอหัวหน้าหัวแข็ง เพื่อนร่วมงานหลายบุคลิก เจองานหิน งานหยาบงานที่คนโยนมาแล้วทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

แต่ในความวุ่นวายทั้งหมดนั้น...ผมมี “แบ็กดี”

แม้จะขรึมเกินไปในบางจังหวะแต่ก็ไว้ใจได้ไม่เคยเปลี่ยน ก็ต้องยอมรับว่า แบ็กดีมีชัยไปกว่าครึ่ง คำนี้ไม่เกินจริงเลยสักนิด

ผมนั่งเอนตัวพิงเก้าอี้เบาๆ ในห้องพักของตำหนักส่วนตัว จิบชาอุ่น ๆ ที่เฟย์เพิ่งรินให้ แสงแดดยามสายส่องผ่านผ้าม่านบางร่วงหล่นลงบนโต๊ะไม้ขัดมัน

“นี่เฟย์...”

ผมถามขึ้นในขณะที่ยังมองไอน้ำจากถ้วยชา

“ก่อนหน้านี้ พวกเขาต้องทำงานพวกนี้ แทนข้าตลอดเลยเหรอ?”

สาวใช้ประจำตัวเงยหน้าขึ้น ริมฝีปากขยับยิ้มเล็กน้อยราวกับจำอะไรบางอย่างได้

“เพคะ ท่านไคเรนกับฝ่าบาท แม้ว่าจะไม่ค่อยถูกกันนัก...”

เธอเว้นจังหวะเล็กน้อย คล้ายจะเลือกคำ

“...แต่เรื่องของพระองค์ เขาให้ความสำคัญเป็นที่หนึ่งเลยนะคะ”

ผมหันไปมองหน้าต่าง ริมฝีปากยังคงแตะขอบถ้วยชา เงาสะท้อนจากกระจกมองเห็นเพียงด้านข้างใบหน้าตัวเองกับเสี้ยวของใครบางคนที่เคยยืนตรงนั้น

ไคเรนไม่เคยอ่อนโยน ไม่เคยพูดดี ไม่เคยทำให้ผมรู้สึกเหมือนเป็นเจ้าชายที่ได้รับการเทิดทูน

...แต่ก็ไม่เคยปล่อยมือ

ต่อให้คำพูดของเขา จะฟังเหมือนการสั่งการ หรือคำตำหนิ

ก็ไม่มีวันกลายเป็นคำที่ “ทอดทิ้ง” เลยสักครั้ง

น่าแปลก…

ทั้งที่ผมไม่ใช่ใครที่ควรค่าให้ใครต้อง “ให้ความสำคัญเป็นที่หนึ่ง” เลยแท้ ๆ

ผมยกถ้วยชาขึ้นจิบอีกครั้ง...แต่คราวนี้รู้ตัวว่ากำลังแอบยิ้มกับตัวเองโดยไม่ตั้งใจ

ทันทีที่รู้ตัวก็รีบเปลี่ยนสีหน้าใหม่ เพราะรู้สึกได้ว่าเฟย์ยังมองอยู่

“ฝ่าบาท คืนนี้เป็นคืนเข้าหอของพระองค์กับท่านแรนทีลนะเพคะ”

จริงด้วยสิ ผมลืมเรื่องนั้นไปสนิท

“อยากให้หม่อมฉันเตรียมอะไรเป็นพิเศษมั้ยเพคะ”

ผมถอนหายใจเบาๆ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ “อืม...เขาเป็นคนของสภาเวทข้าเองก็ไม่มีความรู้ด้านนั้นเลย เจ้าคิดว่าควรจะเตรียมอะไรให้เขาดีล่ะ”

เฟย์ยิ้มน้อยๆ อย่างมั่นใจ “ถ้าเป็นฝ่าบาทเลือกให้ ไม่ว่าอะไร...ท่านแรนทีลต้องชอบแน่นอนเพคะ”

ผมหลุบตาลงมองถ้วยชาที่อยู่ในมือ พลางคิดบางอย่างขึ้นมาเงียบ ๆ

ที่โลกเดิมผมเคยประดิษฐ์ของขวัญเล่น ๆ อยู่บ้างอย่างกล่องกระดาษที่เปิดแล้วมีผีเสื้อกระดาษกระพือปีกบินออกมา…มันอาจดูไร้สาระ แต่มันก็ทำให้คนที่ได้รับหัวเราะได้เสมอ

ผมไม่รู้หรอกว่าแรนทีลจะชอบหรือเปล่า…แค่รู้สึกว่าอยากทำอะไรเพื่อเขาบ้าง

“…เฟย์” ผมวางถ้วยชาลงบนโต๊ะ “ช่วยเตรียมของให้ข้าหน่อยสิ”

เธอเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย “ของอะไรหรือเพคะ?”

“กระดาษสีแบบพับง่าย ๆ ถ้ามีหลายแบบก็ดี...เชือกเส้นเล็กๆ บาง ๆ แล้วก็กาว หรืออะไรที่ทำให้กระดาษติดกันได้”

เฟย์กระพริบตาปริบๆ ดูเหมือนจะงุนงงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มออกมาเหมือนจับทางได้ เธอไม่ได้ถามอะไรอีกแค่พยักหน้าแล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องไปเงียบ ๆ

ไม่นานนักเธอก็กลับมาพร้อมของที่ขอแม้มันจะดูไม่สมบูรณ์แบบนักเมื่อเทียบกับวัสดุจากโลกเดิมของผม แต่ก็ยังพอใช้ได้

ผมค่อยๆ ตัดกระดาษตามลวดลายที่นึกขึ้นได้ในหัว แบ่งเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยก่อนจะประกอบมันด้วยกาวเหนียว ๆจนกลายเป็นกล่องกระดาษใบเล็กที่เปิดออกแล้วจะดีดผีเสื้อกระดาษบางเบาบินออกมา

ข้างในกล่องผมวางต่างหูคู่หนึ่งที่เลือกทำขึ้นเป็นพิเศษ ตัวเรือนสีเงินที่คล้ายกับสีผมของแรนทีลตรงกลางประดับด้วยอัญมณีสีม่วงเข้มเหมือนดวงตาของเขามีกลีบดอกไม้แห้งโรยรองอีกชั้น กลิ่นหอมอ่อน ๆ ลอยแตะปลายจมูก

ผมมองผลงานตรงหน้าพลิกกล่องไปมาอย่างพอใจ

…ดูไปดูมาผมก็มีฝีมือเหมือนกันนะเนี่ย

“ฝ่าบาทงดงามมากเพคะ ท่านแรนทีลจะต้องชอบแน่นอน” เฟย์ชมด้วยน้ำเสียงจริงใจ

ผมหัวเราะน้อยๆ อย่างเขิน ๆ แล้วพยักหน้าเบา ๆ “ขอบใจนะ เฟย์”


อีกแค่ไม่กี่อึดใจ...ก็จะถึงเวลาเข้าหอ

ผมเองก็ยังไม่แน่ใจเหมือนกันว่าควรรู้สึกยังไงดี ตื่นเต้น? กังวล? หรือควรรีบหนีออกนอกหน้าต่างตอนนี้เลยดี?

เฟย์ช่วยเตรียมตัวให้ผมอย่างดีเหมือนทุกครั้ง เพราะตามธรรมเนียมของราชสำนัก คืนนี้นอกจากจะเป็นพิธีสำคัญระหว่างคู่สมรสแล้วยังถือเป็นหน้าที่ของรัชทายาทที่จะต้อง ‘พร้อม’ ต่อการสืบทายาทในอนาคตด้วย

และใช่ครับ...เธอเตรียมให้พร้อมทุกอย่างจริงๆ

ร่างของผมถูกอาบด้วยกลิ่นหอมอ่อนๆ จากน้ำมันดอกไม้ เฟย์เป็นคนเลือกชุดให้ ผ้าพลิ้วบางสีขาวนวลแซมประกายเงินดูโปร่งแสงนิด ๆ ในบางมุม โดยเฉพาะเวลาแสงเทียนสะท้อนกับกระจก

มันก็...เอ่อ...จะว่ายังไงดีล่ะ น่าหลงใหลจนน่ากลัวนิดหน่อย

ผมนั่งมองตัวเองในกระจกแล้วต้องหลุดหัวเราะเบาๆ ไม่รู้ว่าคนในนั้นคือผมจริง ๆ หรือเปล่าดูไม่เหมือนคนที่เคยนั่งประชุมกับไคเรนเมื่อเช้าเลยสักนิดเดียว

เอาจริงๆ นะ ผมไม่ได้กลัวหรอก...ก็แค่กังวลประมาณหนึ่งนั่นแหละ

รู้แหละว่าเป็นธรรมเนียมรู้ว่าทุกคนต้องทำ แต่สิ่งที่ทำให้ใจมันหน่วง ๆกลับเป็นความรู้สึกบางอย่างที่ผมไม่ค่อยอยากยอมรับเท่าไหร่

คล้ายกับน้อยใจ

คล้ายกับว่า...ผมเป็นแค่ตัวแทนของใครบางคน

คล้ายกับว่าคนที่เขาเฝ้ารออาจไม่ใช่‘ผม’ จริง ๆ

หรืออย่างน้อย...ก็ไม่ใช่ผมในแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้

บางทีอาจเป็นเพราะชื่อ "เซย์เรน" ที่ทำให้ใครหลายคนคาดหวัง

แต่สำหรับผมแล้ว...

ผมแค่อยากให้ใครสักคนมองผมในแบบที่ผมเป็น แบบที่ไม่ได้สมบูรณ์ หรือยิ่งใหญ่ หรือเป็นใครคนอื่น

ผมแตะมือที่กระจกเบาๆ ปลายนิ้วชื้นเหงื่อ แม้จะไม่มีใครเห็นแต่ก็พยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ

“ฝ่าบาท...ถึงเวลาแล้วเพคะ”เสียงของเฟย์ดังขึ้นเบื้องหลังเบา ๆ

ผมพ่นลมหายใจแรงๆ พลางหยิบกล่องของขวัญที่ตั้งใจทำเองขึ้นมา กล่องกระดาษเด้ง ๆที่เปิดออกมาแล้วมีผีเสื้อกระดาษกระพือปีก ดูเหมือนของเล่นเด็กแต่ก็แอบมีต่างหูเงินซ่อนไว้ข้างใน หวังว่าเขาจะไม่ตกใจวิ่งหนีนะครับ

“โอเคเซย์เรน นายทำได้ นายไม่ได้ไปออกศึกนายแค่...กำลังจะเข้าหอกับจอมเวทระดับสูงที่หน้าตาเหมือนเทพเจ้าจุติ”

ผมพูดกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืน สูดลมหายใจอีกครั้ง แล้วก้าวออกจากห้องเตรียมตัว

คืนนี้ไม่รู้จะออกหัวหรือก้อยแต่อย่างน้อย...ก็ขอให้ผีเสื้อในกล่องมันบินได้นะ



.
.
.

ผมนั่งตัวเกร็งอยู่กลางห้องโถงในตำหนักในที่เงียบเกินไป ม่านบางพลิ้วไหวรับลมเบาๆ พรมเนื้อดีถูกโรยกลีบดอกไม้หอมละมุน แสงเทียนสลัว ๆให้ความรู้สึกอบอุ่นจนน่ากลัวเล็ก ๆ คือไม่ใช่กลัวผีนะ...แต่กลัวใจตัวเองมากกว่า

บรรยากาศทุกอย่างดูโรแมนติกเกินไปหน่อย ผมกวาดสายตามองไปรอบ ๆ อย่างประหม่าความเงียบของห้องทำให้ได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นโครมครามจนเริ่มไม่แน่ใจว่านั่นเสียงหัวใจหรือเสียงตีกลอง

เส้นผมสีดำถูกปล่อยยาวถึงกลางหลัง มีเครื่องประดับเงินห้อยย้อยเป็นสาย พอขยับตัวก็ได้ยินเสียงกระทบกันเบา ๆคล้ายระฆังจิ๋วที่ดังอยู่แค่ในโลกส่วนตัว ท่อนบ่าถูกปล่อยโล่งมีเพียงเครื่องประดับเงินที่ตกแต่งไว้ให้ดูพองามเท่านั้น

มันคือชุดเข้าหอที่ ‘จริงจัง’ มาก...จนผมหน้าแดงอยู่ใต้ผ้าลูกไม้บาง ๆ ที่คลุมหน้าไว้เรียบร้อยแล้ว

...ยังดีนะที่มีผ้าปิดหน้านี่ ไม่งั้นผมคงอายจนหายใจไม่ออก

แล้วเสียงฝีเท้าก็ใกล้เข้ามา...

ใกล้เข้ามา...

“ฝ่าบาท”

แค่เสียงเรียกสั้นๆ นั้น...หัวใจผมกระตุกจนแทบหลุดออกไปกองอยู่ด้านนอก

ผมไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองด้วยซ้ำ ได้แต่หลุบตาต่ำแล้วปล่อยให้เขาคุกเข่าลงตรงหน้าอย่างนุ่มนวล ก่อนจะคว้ามือผมไปประทับริมฝีปากลงเบา ๆ แบบที่เรียกว่า...ทุกอย่างชะงักไปหมดยกเว้นอัตราการเต้นของหัวใจที่เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ

“ร...แรนทีล”ผมพูดออกมาแบบตะกุกตะกักเหมือนเครื่องจะดับ “คืนนี้ ฝากท่านด้วยนะ...”

ผมตัวสั่นนิดๆ แบบที่เห็นได้ชัดเลยล่ะ แต่เขากลับยิ้มอย่างใจเย็น

“ท่านมองข้าสิ”

ไม่เอาไม่มอง! ยิ่งมองยิ่งหล่อ ยิ่งหล่อยิ่งประหม่า! อย่าใช้สายตาคนดีแบบนี้ได้ไหมผมใจไม่แข็งพอ!

“ฮือ...อย่าแกล้งกันสิ” ผมพึมพำอย่างหมดแรง ใช้เสียงหวานปนหงุดหงิดกลบความเขิน

เขาหัวเราะ...หัวเราะจริงจังแบบที่ไม่คิดว่าแรนทีลจะหัวเราะแบบนี้ออกมาได้มันดูเป็นมนุษย์ธรรมดาขึ้นมาอย่างประหลาด

“ไม่ต้องกลัวหรอก คืนนี้ข้าจะไม่ทำอะไรท่าน”

“ห๊ะ!?” ผมเผลออุทานออกไปเสียงสูงกว่าแผนที่วางไว้ในหัวนิดหนึ่ง

แรนทีลยังยิ้มแบบใจดีไม่เลิก“ข้ารู้...ท่านยังไม่ทันได้เตรียมใจ ข้าจะไม่ฉวยโอกาสหรอกนะ”

โอ๊ย...แล้วจะพูดดีอะไรตอนนี้ครับ! คนมันตั้งใจเตรียมตัวมาซะขนาดนี้!

นี่ถ้ารู้ว่าไม่ต้องทำอะไรผมจะได้ใส่ชุดนอนปิดมิดชิดมานั่งจิบชาซะให้รู้แล้วรู้รอด!

แล้วเขาก็ยังใจดีไม่เลิก ถึงขั้นถอดเสื้อคลุมของตัวเองมาห่มให้ผมด้วยความเป็นห่วงเป็นใย เหมือนกลัวว่าผมจะหนาว

ความเป็นห่วงแบบนั้น...ยิ่งทำให้ผมถอนหายใจเงียบๆ อยู่ในใจ

ไม่ได้เตรียมใจเหรอ...ไม่งั้นจะนั่งอยู่ในสภาพนี้เหรอครับคุณสามี!?

จะว่าไป...หัวจะปวดกับสามีแต่ละคนจริงๆ

ผมนั่งเงียบไม่รู้จะพูดอะไรต่อ จะงอนก็ไม่เต็มที่ จะเขินก็เหมือนโดนตัดจังหวะ

แต่แรนทีลกลับโน้มตัวเข้ามายื่นมือมาลูบแก้มผมเบา ๆ ด้วยท่าทีเหมือนปลอบเด็ก

สัมผัสอุ่นๆ ปลายนิ้วแบบนั้น ทำเอาผมแข็งไปชั่วครู่

“เซย์เรน” เขาเรียกผมเสียงนุ่ม “ท่านงดงามมากนะคืนนี้”

ผมกระพริบตาปริบๆ รับคำชมเงียบ ๆ ในใจก็แอบกรีดร้องเบา ๆ ว่า 'แงงขอบใจที่ชม...แต่จะดีกว่านี้ถ้ามีแอคชันมากกว่านี้อีกนิดนะครับคุณแรนทีล!'

ผมยังนั่งนิ่งใต้แสงเทียนสลัวที่ไหวไกวตามลมเย็นจากหน้าต่างบานใหญ่ จะว่าไป...เราจะนั่งเงียบกันไปอีกนานแค่ไหนกันนะ?

บรรยากาศรอบตัวเงียบเสียจนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นตุบๆ ผมเองก็ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะชวนคุยอะไรดี เพราะในความทรงจำของร่างเดิมมันแทบไม่มี ‘ช่วงเวลาดี ๆ’ ระหว่างเราสองคนเลยสักนิดเหมือนความสัมพันธ์ของพวกเขาเคยมีแต่ความห่างเหิน เงียบงัน และระวังตัว

...ซึ่งก็ไม่ต่างจากตอนนี้เท่าไหร่

“นั่น...คืออะไร?”

เสียงทุ้มของแรนทีลดังขึ้นท่ามกลางความเงียบ เขามองมาทางกล่องกระดาษที่วางอยู่ใกล้มือผมด้วยสีหน้าสงสัย

“ข้าเตรียมไว้ให้ท่าน...” ผมตอบเบา ๆพลางดันกล่องไปข้างหน้า “ไม่รู้ว่าท่านจะชอบมั้ยนะ”

เขาขมวดคิ้วน้อยๆ เหมือนกำลังพิจารณาสิ่งแปลกประหลาดตรงหน้า ซึ่งก็เข้าใจได้เพราะหน้าตากล่องนั่นมันก็ไม่ได้ดูหรูหราอะไรเลย แถมยังดูเหมือนของเด็กเล่นด้วยซ้ำ

“ข้าเปิดได้เลยหรือเปล่า?”

“อืม เปิดเลย” ผมพยักหน้าให้

ทันทีที่ฝาเปิดออกผีเสื้อกระดาษจำนวนหนึ่งก็โผล่พรวดออกมาพร้อมแรงดีด กลางอากาศแสงเทียนที่ไหวไหวทำให้เงาของมันเต้นระบำอยู่บนผนังไปด้วย

แรนทีลชะงักไปเล็กน้อยจ้องมองภาพตรงหน้าเหมือนเด็กเจอของเล่นครั้งแรก

เขาทั้งประหลาดใจและ...เหมือนจะพอใจอยู่ไม่น้อย

“ท่านทำได้อย่างไร?”เขาถามพลางหันกลับมาหาผม“หรือแอบไปเรียนเวทแล้วไม่บอกข้า?”

ผมหัวเราะเบาๆ “เวทอะไรกันล่ะ นี่มันก็แค่...กลเล็ก ๆ จากกระดาษ ลองดูของข้างในอีกสิ”

แรนทีลยังยิ้มไม่หุบตอนผีเสื้อกระดาษตัวสุดท้ายบินไปหล่นอยู่บนผ้าพรมเขาหันกลับมามองผมอีกครั้ง ก่อนจะค่อย ๆดึงกลีบดอกไม้แห้งที่โรยทับไว้ขึ้นอย่างระวัง

ใต้กลีบดอกไม้บางเบานั้นคือกล่องเล็ก ๆ ที่บรรจุต่างหูสีเงินคู่หนึ่ง ตัวเรือนบางเรียบ ละเอียดประณีตประดับด้วยอัญมณีสีม่วงอ่อนที่เพียงแวบแรกก็ชวนให้นึกถึงสีดวงตาของเขาอย่างไม่มีผิด

เขาเงียบไปนานจนผมเริ่มรู้สึกกังวลขึ้นมานิดหน่อย

“…ไม่ชอบเหรอ?”ผมถามออกไปเบา ๆ

“เปล่าเลย” เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงทุ้มละมุน ฟังดูอ่อนโยน“ข้าแค่...แปลกใจ”

ผมกระแอมกลบเก้อ“ก็แค่ของขวัญน่ะ..”

“ต่างหูเงิน…” เขาพึมพำ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย“สีเดียวกับเส้นผมข้า… และหินสีดวงตา”

แล้วเขาก็หันมาสบตาผมตรงๆ อย่างไม่มีปิดบัง “ท่านสังเกตละเอียดขนาดนี้เชียวหรือ?”

โอ๊ยถามแบบนี้มันก็เขินกันพอดีสิครับ!

ผมหลุบตาลงมองกระโปรงบาง ๆ ของตัวเองด้วยความร้อนหน้า

“อย่าเข้าใจผิดนะ ข้าไม่ได้ตั้งใจมอง...มากขนาดนั้น ”พูดไปก็แทบอยากมุดพรมหนี “...ก็แค่เห็นทุกวัน มันเลยจำได้เองเฉย ๆ”

แรนทีลหัวเราะเบาๆ ก่อนจะยื่นมือลูบหัวผมเบา ๆ อย่างเอ็นดู

“ข้าจะใส่มันบ่อย ๆ ให้สมกับที่ท่านตั้งใจทำนะ เซย์เรนขอบคุณมาก”

คำว่า‘ขอบคุณ’ จากเขา ฟังดูไม่ใช่แค่คำขอบคุณสำหรับของขวัญแต่มันอบอุ่นพอจะทำให้ผมเลิกหน้างอไปได้อีกสักพักเลยล่ะ

“ข้าก็มีของจะมอบให้ท่านเหมือนกัน” แรนทีลพูดก่อนจะปรบมือเบา ๆ สองครั้ง

แสงเทียนและแสงไฟในห้องพลันดับลงเหลือเพียงความมืดสลัวชั่วอึดใจผีเสื้อแสงสีม่วงก็เริ่มโบยบินขึ้นจากพื้นอย่างช้าๆ ล่องลอยเหมือนละอองเวทมนตร์ที่มีชีวิต บินวนอย่างนุ่มนวลในห้องราวกับเวทมนตร์ในนิทาน

ผมยิ้มออกมาอย่างไม่ปิดบังความรู้สึกเลยแม้แต่น้อยผีเสื้อตัวหนึ่งบินมาเกาะที่ปลายนิ้ว ก่อนจะสลายกลายเป็นประกายเล็ก ๆทิ้งสิ่งหนึ่งไว้แทนที่

แหวนวงบางเรียบแต่สง่างาม ตัวเรือนดูไม่ใช่โลหะที่ผมคุ้นเคย มันไม่ใช่ทองหรือเงินแต่เป็นวัสดุแปลกตา มีเนื้อสัมผัสคล้ายหินที่ผ่านการขัดอย่างประณีตทุกองศาที่สะท้อนกับแสงเทียนอ่อน ๆ ล้วนเป็นเฉดสีรุ้งแผ่วเบา สีไม่ได้ฉูดฉาดแต่ไล่เฉดอย่างอ่อนโยนราวกับสีของท้องฟ้าก่อนรุ่งสาง

“แหวนวงนี้...ข้าตั้งใจจะมอบให้ท่านมานานแล้ว” แรนทีลกล่าวเสียงเบา“มันถูกหลอมขึ้นจากหินดาวตกที่ข้าตามเก็บจากอีกฟากของทวีปว่ากันว่าหินนี้จะเปล่งสีแตกต่างกันไปตามจิตใจของผู้สวมใส่ และไม่มีวันแตกหัก”

เขาหยุดเล็กน้อยก่อนเอ่ยต่อ “ข้าได้ใส่จิตวิญญาณส่วนหนึ่งของข้าลงไปในนั้น ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่ไหนข้าจะอยู่เคียงข้างเสมอ... ต่อให้อยู่ไกลลับฟ้า หรือแม้กระทั่งอีกโลกหนึ่งข้าก็จะตามหาท่านจนพบ”

ผมชะงักไปเล็กน้อยหัวใจเหมือนโดนบีบเข้าแผ่ว ๆ กับถ้อยคำเหล่านั้น จนอดไม่ได้ที่จะคิด...เขารู้ใช่ไหม?

รู้ว่าผมไม่ใช่เซย์เรน คนนั้นที่เขาเคยรู้จัก…




.
.
.

ผ้าม่านสีขาวนวลไหวตามลมที่พัดผ่านหน้าต่างบานกว้างกลิ่นดอกไม้จากพรมที่โรยไว้ยังแตะจาง ๆ อยู่ในอากาศ เทียนเล่มสุดท้ายใกล้ปลายไส้มันไหวระริกเหมือนหัวใจเขา

แรนทีลนั่งเงียบๆ อยู่บนขอบเตียงขณะที่เซย์เรนกำลังจัดหมอนจัดผ้าห่มด้วยสีหน้าเหมือนกำลังคิดว่าจะซุกตัวนอนฝั่งไหนดีโดยไม่ดูประเจิดประเจ้อเกินไป

“ข้า...นอนได้เลยใช่ไหม?” เซย์เรนเอ่ยเสียงเบา ไม่สบตาเขาดึงผ้าห่มขึ้นมาถึงอก ก่อนจะล้มตัวลงช้า ๆด้วยท่าทีที่เหมือนคนเตรียมไปต่อสู้มากกว่านอนพัก

“อืม แน่นอน ท่านเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนี่” แรนทีลพยักหน้าเรียบนิ่ง แต่ในอกกลับเหมือนมีอะไรอุ่น ๆ วิ่งวนอยู่

เซย์เรนพยักหน้าหงึกๆ แล้วหันหน้าเข้าหาหมอน ซุกตัวจนแทบจะกลายเป็นก้อนกลม ๆ ใต้ผ้าห่ม

“...แล้วท่านจะนอนตรงไหน?” เสียงแผ่วเล็ดลอดออกมาจากหมอน

“ข้าก็ตรงนี้ ข้างท่านนี่ล่ะ” แรนทีลยิ้มบางยกมือปลดเครื่องประดับบนบ่าชุดพิธีการออกแล้วถอดเสื้อคลุมชั้นนอกพาดเก้าอี้อย่างเรียบร้อยก่อนจะเดินมานั่งอีกฝั่งของเตียงอย่างเงียบเชียบ

“ใกล้ไปมั้ย...” เซย์เรนพึมพำ แต่ก็ไม่ได้ถอยหนี

แรนทีลหัวเราะในลำคอเบาๆ “ไม่ต้องห่วง ข้าจะไม่แตะต้องท่านหากท่านยังไม่พร้อม”

คำพูดนั้นทำเอาเซย์เรนยิ่งจมหัวลงในหมอนกลายเป็นกล่องเสียงที่ปล่อยเสียงครางอู้อี้ออกมาแทนคำตอบ ซึ่งเขาฟังไม่ออกว่าเขินหรือกำลังน้อยใจที่เขาไม่คิดจะทำอะไรเลย

หลังจากนั้น...พวกเขาก็เงียบกันไปครู่หนึ่ง

เซย์เรนดูเหนื่อยมากจริงๆ จากทั้งพิธี ชุดพิถีพิถัน และความประหม่าเกร็งตลอดเย็นแรนทีลรู้ว่าอีกฝ่ายพยายามอย่างมากแล้วไม่ใช่แค่ในคืนนี้...แต่ตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมานับแต่เขาเริ่มเปลี่ยนไปจากเดิม

เขานอนตะแคงหันหน้าไปยังคนที่หลับไปก่อนแล้วมือหนึ่งหนุนศีรษะไว้ ขณะที่อีกมือยังเก็บไว้ใต้อกเหมือนไม่กล้าขยับเขามองเซย์เรนที่หลับสนิทไปแล้ว เส้นผมสีเข้มกระจายบนหมอนอย่างไร้แบบแผนลมหายใจสม่ำเสมอทำให้ผิวแก้มขยับน้อย ๆ แรนทีลเผลอยิ้มบางกับภาพตรงหน้า

ใบหน้าของเซย์เรนยามหลับ...อ่อนโยนกว่าตอนตื่นเยอะ

ไม่มีดวงตาที่คอยหลบเลี่ยงเขาไม่มีคำพูดกระทบกระทั่ง ไม่มีระยะห่างอย่างจงใจแบบในวันเก่า ๆที่อีกฝ่ายพยายามตีกรอบตัวเองไว้จนเขาไม่กล้าเข้าใกล้มากกว่านั้น

ช่วงเวลาที่แรนทีลรู้จักเซย์เรนเขาเคยคิดว่าสายตาของอีกฝ่ายไม่มีวันหันมาหาเขาเลยด้วยซ้ำ ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนเซย์เรนก็ยังคงวางกำแพงไว้แน่นหนา พูดจาเรียบเฉย ชอบทำเป็นไม่รู้ว่าเขาอยู่ตรงนั้นชอบหันหลังให้เสมอ

แต่คืนนี้คนที่หลับอยู่ข้างเขา...กลับไม่ใช่เซย์เรนคนเดิมอีกต่อไปแล้ว

เขาเอื้อมมือออกไปลูบปลายผมเบา ๆ อย่างแผ่วที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อนจะเกลี่ยปอยผมที่ปรกใบหน้าออกอย่างอ่อนโยนปลายนิ้วแตะผิวแก้มอีกฝ่ายแค่พริบเดียวก่อนจะชักกลับไม่ใช่เพราะกลัวอีกฝ่ายตื่น...แต่เพราะไม่อยากให้คืนแบบนี้ผ่านไปเร็วเกินไปต่างหาก

“ท่านหลับได้สบายก็ดีแล้ว”เขาพึมพำเบา ๆ กับตัวเองริมฝีปากยังคงแตะรอยยิ้มที่ดูจะเก็บไว้ใช้กับเซย์เรนเพียงคนเดียว

“รู้ไหมว่าท่านในตอนนี้...ช่างอันตรายกว่าท่านในวันก่อนเสียอีก” แรนทีลหัวเราะนิด ๆ“เพราะข้าเผลอรักท่านมากขึ้นทุกที”

เขาเฝ้ามองอยู่อย่างนั้นอีกพักใหญ่ไม่ได้หวังให้อีกฝ่ายได้ยิน ไม่ได้หวังคำตอบ ไม่ได้หวังให้รู้แม้แต่น้อยแค่ตอนนี้ที่ได้เฝ้ามอง ได้อยู่ใกล้ ได้ยินเสียงลมหายใจที่เคยอยู่ไกลเกินเอื้อม มันก็เพียงพอแล้วสำหรับค่ำคืนหนึ่ง

สุดท้ายแรนทีลขยับเข้าไปใกล้ขึ้นอีกนิด เอียงตัวแนบลงนอนข้าง ๆ โดยระวังไม่ให้เตียงสั่นไหว

เขาหลับตาแล้วบอกตัวเองเบา ๆ ว่า...

ขอแค่คืนนี้ท่านยังอยู่ตรงนี้กับข้า

...แค่นี้ก็พอแล้ว


-----------------------------
ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะ
รักคนอ่าน
ขอบคุณทุกคอมเม้นต์ ทุกกำลังใจเลยนะครับ


นายกสโมสร

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
257017
Zenny
103233
ออนไลน์
19630 ชั่วโมง
โพสต์ เมื่อวาน 15:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นายกสโมสร

กระทู้
28
พลังน้ำใจ
179535
Zenny
182420
ออนไลน์
30071 ชั่วโมง
โพสต์ เมื่อวาน 16:25 | ดูโพสต์ทั้งหมด
🍬🍬🍬

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
พลังน้ำใจ
1138
Zenny
1200
ออนไลน์
106 ชั่วโมง
โพสต์ เมื่อวาน 23:25 | ดูโพสต์ทั้งหมด
โอย ฟิน หวาน  หัวใจจะละลาย
รอตามต่อไป  ขอบคุณนะครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2025-6-15 04:10 , Processed in 0.097958 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2025 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้