แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Peaze เมื่อ 2025-6-13 01:36
สัปดาห์ของการสอบ
วันแรกของการกลับมายังโรงเรียนหลังจากที่ถูกพักการเรียนไปหนึ่งสัปดาห์ จำได้มั้ยที่ผมเคยปากเก่งบอกกับพี่ว่าตัวเองจะรับมือกับสายตาของคนอื่น ๆ ได้ แต่เปล่าเลย ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนที่ผมเป็นผู้ถูกกระทำ ตอนนั้นเป็นเหยื่อของความรุนแรงทางเพศ สายตาที่ทุกคนมองมาเจือแฝงความรู้สึกสงสารและเห็นใจ แต่ตอนนี้พวกเขามองผมด้วยความสมเพช แม้บางคนจะแสร้งทำเป็นไม่สนใจ แต่พอเดินผ่านผม พวกเขาก็จะซุบซิบกันแล้วหัวเราะออกมา หรือบางทีผมควรจะย้ายโรงเรียนตามที่พี่ทีนต้องการดีนะ?
“นิน...” มือที่สั่นเทาถูกเกาะกุมด้วยฝ่ามืออบอุ่นของอีกคน ทองเอกกระชับมือแน่นอย่างเป็นห่วง มันก็รู้สึกดีนะ แต่ผมก็รู้สึกผิดด้วยที่ทำให้ทองเอกต้องมาอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน อีกทั้งการที่เด็กผู้ชายสองคนเดินจับมือกันในยุคสมัยนี้มันก็ดูประหลาด
ระหว่างเข้าแถวเคารพธงชาติผมยังคงเป็นจุดสนใจของเด็กนักเรียนแทบทุกคนในบริเวณนั้น ความรู้สึกขุ่นข้องคัดค้านอยู่ในใจ นี่คือสิ่งที่ผมควรได้รับจริง ๆ เหรอ? ตัดภาพไปที่ไอ้พี่แบงค์ที่อยู่สองแถวถัดไป ผมเห็นมันยังคงคุยกับเพื่อนแล้วหัวเราะร่าราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น โคตรน่าเจ็บใจ... ผิดกับคนเป็นน้องอย่างไอ้บอส มันมองดูผมอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วงๆ ผมแอบส่งสายตาพลางพยักหน้าเบา ๆ เพื่อบอกมันว่าผมโอเค
บรรยากาศหน้าเสาธงคิดว่าแย่แล้ว ภายในห้องเรียนนั้นยิ่งกว่า สายตาของเพื่อน ๆ ทำผมอึดอัดเหมือนถูกกดทับด้วยกระสอบปุ๋ย แทบจะไม่มีใครเอ่ยปากคุยกับผมเลยด้วยซ้ำ แค่เสียงหัวเราะคิกคักของบางคนดังขึ้นผมก็ทึกทักเอาเองว่าพวกนั้นพูดถึงผมอยู่ ผมเผลอเหลือบไปมองทางกลุ่มอีจี๋ สายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังส่งกลับมาปะทะใบหน้าเหมือนคลื่นความร้อน ไม่ใช่จากอีจี๋นะ แต่จากชีเบล นางคงเกลียดผมเหลือประมาณ นั่นก็เพราะผมทำให้ทองเอกต้องบอกเลิกนาง ไงก็เถอะ ผมไม่รู้สึกผิดหรอก ก็ผมเคยบอกไปแล้วนี่ว่าถ้าไม่เลิกระราน ผมจะแย่งทองเอกกลับคืนมา และอีจี๋เพื่อนรักนางเป็นคนที่ลำเส้นกับผมก่อน ทองเอกหยิบหนังสือวิชาสังคมขึ้นมาวางตรงหน้า เปิดออกแล้วชี้นิ้วลากไปมาเพื่อให้ผมละความสนใจจากเรื่องอื่น
การสอบวันแรกผ่านไปด้วยดี เราสองคนใช้เวลาว่างก่อนโรงเรียนเลิก เคลียร์งานและการบ้านให้หมดเพื่อที่ปิดเทอมแล้วจะได้ไม่ต้องมาคอยตามส่งงานทีหลัง
“พร้อมยัง?” ทองเอกถาม สีหน้าท่าทางเปลี่ยนเป็นโหมดเคร่งเครียด ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะพยักหน้าตอบเสียงอ้อมแอ้มในลำคอ “อืม” ทองเอกได้ยื่นข้อเสนอให้ผมข้อนึง มันจะยอมให้ผมกับไอ้บอสเป็นเพื่อนกันได้ โดยที่ผมต้องเล่าความจริงเรื่องครูกันต์ให้ครูสมยศฟัง ข้อเสนอง่าย ๆ ที่ผมตกลงรับทันที เพราะถ้าเรื่องนี้แดงออกไป ผมก็จะปลอดภัยจากครูกันต์ไปตลอด
ภายในห้องพักครู ลักษณะคร่าว ๆ ก็คล้ายกับห้องเรียน โดยจะมีโต๊ะทำงานของครูแต่ละคนตั้งเรียงรายกัน มีฉากกั้นแบ่งเขต ครูสมยศกำลังง่วนอยู่กับการตรวจการบ้าน ผมกวาดสายตามองรอบห้อง พอรู้ว่าตอนนี้ครูกันต์ไม่ได้อยู่ในห้องด้วยก็รู้สึกโล่งใจ
“มีอะไรรึเปล่าชนินทร์?” ครูทักทันทีที่เงยหน้าขึ้นมาเจอผม ผมกลั้นใจเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตรงหน้าโต๊ะแก อึกอักไม่รู้ว่าจะเริ่มพูดยังไง หันกลับไปมองทองเอกที่รออยู่ด้านนอกอย่างกระวนกระวาย แม้ผมจะเตรียมใจมาแล้วแต่ก็ยังประหม่าอยู่ดี ทองเอกยิ้มอ่อนแต่แววตาแฝงไปด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ผมไม่เข้าใจ “ตอนนี้โอเคแล้วใช่มั้ย?” ครูสมยศเป็นฝ่ายถามผมก่อน “เอ่อ...ครับ” “แล้วมาหครูมีอะไรรึเปล่า?” “คือ...” ผมกลืนน้ำลาย รวบรวมความกล้าและกำลังจะพูดออกไป จู่ ๆ ก็มีนักเรียนชายสามคนเดินเข้ามา พวกนั้นชายตามองผมแล้วแอบยิ้มก่อนจะถามหาครูกันต์ “ครูกันต์ลาไปเฝ้าเมียแกที่โรงพยาบาล เมียแกเพิ่งคลอดลูก ถ้าจะส่งงานอะไร ก็ตั้งไว้บนโต๊ะแกได้เลย เดี๋ยวพรุ่งนี้แกมาตรวจให้” ครูสมยศตอบ
ฉิบหาย... ผมหน้าชาราวกับเพิ่งถูกตบ ล้มเลิกความตั้งใจและเหตุผลที่เข้ามาอยู่ตรงนี้ รู้ว่าตอนเดินกลับออกไปทองเอกจะต้องโกรธแน่ แต่ผมทำไม่ลงจริง ๆ ครูกันต์แม่งเป็นคนสารเลว... แต่ผมจะเป็นคนแบบไหนล่ะ ถ้าพูดความจริงออกไปแล้วมันสามารถทำลายครอบครัวคนอื่นลงทันที
“ว่าไงมีอะไรมั้ย?” ครูสมยศจี้ถาม “ไม่มีอะไรแล้วครับ!” ผมส่ายหน้าตอบแล้วลุกเดินหนีออกมา ทิ้งให้ครูนั่งทำหน้าสงสัยอยู่อย่างนั้น “นิน!” ทองเอกดึงแขนผมส่งเสียงดุ “ไม่ได้...” “ถ้ามึงไม่พูด กูพูดเองนะ!” ทองเอกบอก ทำท่าเหมือนจะเดินเข้าไปหาครู ผมรั้งแขนมันเอาไว้ รีบดึงตัวออกมา โดยส่งสายตาอ้อนวอนมันไปด้วย มันถอนหายใจอย่างเอือมระอา ทองเอกคงเหนื่อยหน่ายกับความใจอ่อนของผมเต็มทนแล้ว แต่จะให้ผมทำยังไงล่ะ ภรรยาที่เพิ่งคลอดต้องการสามี ส่วนลูกที่เพิ่งเกิดมาก็ต้องการพ่อคอยดูแล ผมมีสิทธิ์ทำลายพวกเขางั้นหรอ? ถ้าผมพูดความจริงออกไป มันก็เหมือนกับการล้มโดมิโน่ที่ส่งผลกระทบไปเป็นทอด ๆ “ไอ้ครูเชี้ยนั่นมันทำร้ายมึงขนาดนี้มึงยังคิดจะปกป้องมันอยู่อีก!” “กูไม่ได้ปกป้องครูกันต์! ถ้ากูพูดออกไปเมียกับลูกเขาจะเป็นยังไง? กูไม่อยากเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวคนอื่นต้องพัง” “ทำไมวะ? มันจะมีลูกหรืออะไรก็ไม่เกี่ยวกับมึงเลยนะ!” “อืม ก็รู้ แต่กูทำไม่ได้” “ก็ปล่อยให้เขาจัดการปัญหาครอบครัวตัวเองไปสิ! นิน! มันไม่ใช่เรื่องที่มึงจะต้องมาแบกรับนะ” ทองเอกขึ้นเสียง “แล้วถ้าเขาไปทำกับคนอื่นอีกล่ะ?” ผมก้มหน้าลดสายต่ำ น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว ไม่อยากเถียงกันเรื่องนี้ นี่อาจนับเป็นครั้งแรกของเราที่ทะเลาะกันหลังจากคบกันเป็นแฟน ทองเอกเห็นแบบนั้นจึงพยายามสงบสติอารมณ์ก่อนจะดึงผมไปกอด “กูขอโทษ...” ผมบอกซุกหน้าตัวเองที่บ่ามัน “เฮ้อ! ช่างเถอะ เอาไว้ค่อยคิดอีกทีว่าจะทำยังไง ที่กูอยากให้มึงบอกครูก็เพราะว่ากูเป็นห่วงมึง กูกลัวเขาจะมาทำอะไรมึงอีก”
เราสองคนหาที่นั่งพักปรับอารมณ์กันครู่ใหญ่จนถึงเวลาเลิกเรียน

วันนี้ทองเอกชวนผมให้นอนค้างที่บ้านด้วย เพราะอาทิตย์ก่อนมันมานอนบ้านผมหลายวันแล้ว มันกลัวแม่มันจะบ่น ตอนแรกผมก็เกร็ง ๆ ถึงแม้เราจะเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งหลายปี แต่ผมก็ยังไม่เคยนอนค้างบ้านทองเอกเลย เย็นวันนั้นแม่ทองเอกเตรียมกับข้าวเอาไว้เยอะมาก ล้วนแต่เป็นของที่ทองเอกกับผมชอบ ไม่ว่าจะเป็นไก่ทอด ไข่พะโล้ แล้วก็ผัดดอกไม้กวาดใส่กุ้ง แม่มันทำกับข้าวอร่อยมากจนผมต้องขอแถมข้าวหลายจาน กินเยอะจนลืมความเกรงใจไปเลย แม่มันยิ้มแล้วหัวเราะเบา ๆ ตอนเห็นผมเคี้ยวข้าวอย่างเอร็ดอร่อย นั่นทำให้ผมรู้สึกเขินขึ้นมาทันที
“ช่วงก่อนหน้านี้แม่ไม่ค่อยเห็นนินกับเอกอยู่ด้วยกันเลย นึกว่าทะเลาะกันซะอีก สองคนยังสนิทกันดีแม่ก็สบายใจ” “แหะ ๆ ครับ” ผมหัวเราะแก้เขิน ไม่กล้าบอกว่าก็ทะเลาะกันจริง ๆ “เห็นเอกบอกว่านินทำกับข้าวอร่อย วันหลังแม่คงต้องให้นินโชว์ฝีมือให้แม่ชิมบ้างแล้ว” “โห ไม่หรอกครับ แม่ทำอร่อยกว่าเยอะ แม่ตุ๊เพิ่งสอนผมทำแค่ไม่กี่อย่างเอง” *เผื่อบางคนอาจจะลืม แม่ตุ๊ คือแม่ของพี่พี “นินก็ยังเก่งนะ ทำกับข้าวเป็นด้วย เจ้าเอกเนี่ย แม่ให้ทอดปลาทูยังทอดไหม้เลย” “แม่!” ทองเอกเขิน ร้องเสียงหลง เราสามคนหัวเราะกันอย่างขบขัน โชคดีหน่อยที่วันนี้พ่อทองเอกยังไม่กลับจากทำงาน เพราะผมน่าจะเกร็งกว่านี้ถ้าพ่อมันอยู่ด้วย
หลังกินข้าวเสร็จ พวกกลับเข้ามาอยู่ในห้องนอนอ่านหนังสือเตรียมสอบกันครู่หนึ่ง ทองเอกจะเริ่มงุ่นง่าน มันขยับตัวขึ้นมานอนทับผมที่นอนคว่ำอ่านหนังสืออยู่บนเตียง กดสะโพกบดท่อนเนื้อแข็งเป็นหินไปกับร่องก้นผมแล้วซุกไซร้ใบหน้าขบกัดไปตามซอกคอผมอย่างซุกซน “อืออ ทองเอก... ขออ่านหนังสือก่อน” ผมปราม แต่มันไม่ฟัง สอดแขนเข้ามาแล้วดึงเอวผมขึ้นให้อยู่ในท่าโก้งโค้ง “เดี๋ยวก่อน!”
“ไม่เดี๋ยวแล้ว! ตอนอยู่โรงเรียนมึงยั่วกูทั้งวัน” มันพ่นลมหายใจอุ่น ๆ ก่อนจะงับที่ใบหูผมทำเอาเสียวซ่านไปทั่งตัว “อืออ ไอ้หื่น...” ทองเอกขยับเอวเสียดสีลำควยแข็งของตัวเองผ่านกางเกงบอล น้ำเงี่ยนไหลซึมจนเปียกเยิ้ม ผมเด้งสะโพกตอบสนอง หนังสือเรียนถูกดันจนหล่นลงไปข้างเตียง มันถกกางเกงผมลงเล็กน้อย เผยให้เห็นรูสวาทที่ถูกทำความสะอาดมาอย่างดี เพราะผมรู้ว่ายังไงเราก็ต้องมีเซ็กซ์กันแน่นอนอยู่แล้ว ทองเอกดึงกางเกงตัวเองลง จับท่อนเอ็นอุ่น ๆ ถูไถบนแก้มก้นผมอย่างเย้าแหย่ ทาบขนานไปตามแนวร่องแล้วขยับใบหน้ามาจูบผม “อืมม” ผมเอี้ยวหัวจูบมันอย่างทุลักทุเล มันขยับตัว ถอดกางเกงแล้วนั่งกางขาออกอ้าซ่า ควยแท่งตรงผงกหัวหงึก น้ำเงี่ยนหยดยืดเป็นสายย้อยลงเปียกผ้าปูที่นอนเป็นดวง ผมซุกหน้าไปที่หว่างขามัน ปลายจมูกสัมผัสกับปลายควย สูดกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของสบู่เด็กที่เคล้ากับกลิ่นควยจาง ๆ ใช้ลิ้นตวัดเลียแล้วจะครอบปากลงไปดูดกลืนจากดุ้นโดยตรง “โอยย ซี๊ดส์ เสียวว” ทองเอกสะดุ้งโหยง เงยหน้าสูดปากเสียว ผมละเลงลิ้นรัวรอบหัวหยัก ลากลิ้นจากปลายลงไปยังพวงไข่ ขยับหัวขึ้นลงจนควยของทองเอกชุ่มโชกไปด้วยน้ำลาย “อืมม อืออ” ผมสูดกลืนน้ำเงี่ยนรสเค็มลงคอ คล้ายกับตอนที่ดูดไอติมที่กำลังละลาย “อูยย นิน กูโคตรเสียวเลย” ผมลูบไล้ไปตามลำตัว ทองเอกเสียวเกร็งจนท้องแข็งขึ้นเป็นร่องกล้าม ผมใช้มือข้างหนึ่งกำควยมันแล้วรูดขึ้นลงช้า ๆ ขณะที่โลมเลียมันไล่ขึ้นไปจนถึงอกแกร่ง ตวัดปลายลิ้นทักทายหัวนมที่แข็งเป็นไต ทองเอกกดหัวผมอัดเข้าไปผมจึงขบกัดแล้วดูดดุนอย่างรุนแรง “ซี๊ดส์ โอยยย นิน อ่าห์” มันครางเสียงต่ำ พ่นลมหายใจหนักหน่วง ผมดันตัวทองเอกนอนราบ ขยับขึ้นไปนั่งที่หน้าขาของมัน จับควยของตัวเองแนบไปกับควยของทองเอกแล้วกำทั้งสองดุ้นเอาไว้ ค่อย ๆ รูดเบา ๆ แล้วเร่งจังหวะ ทองเอกขยับเอวเนิบ ๆ ขึ้นลง ก้อนไข่หดกลมของเราทั้งคู่บดเบียดกันในท่านั้น ขณะที่ดุ้นที่แนบสนิทก็เสียดสีกันไปมาก่อ เกิดความเสียวที่เราทั้งสองคนเสพติด “อืออ นิน ชักเร็ว ๆ เลยกูจะแตกแล้ว อ่าห์” ทองเอกครวญคราง ผมเร่งมือตามคำวอน น้ำเงี่ยนของเราสองคนไหลเยิ้มรวมกัน เปียกแฉะไปทั้งท่อนลำ ทองเอกยื่นมือขึ้นมายัดนิ้วชี้เข้ามาในปากผม ผมจึงดูดดุนมันราวว่าเป็นควยอีกแท่ง “อืมม อืออ” ผมรู้สึกได้ถึงแรงเคลื่อนของน้ำอสุจิในอัณฑะของทองเอกที่กำลังถูกอัดฉีดออกมาผ่านท่อปัสสาวะ “อ่าห์ นิน กูจะแตกแล้ว!!!” “อืออ อืมม” ผมดูดนิ้วทองเอกแรงขึ้นตอนที่รู้สึกเหมือนกำลังจะเสร็จ ผมรัวมือ กระถอกลำควยสองแท่งแนบสนิทด้วยความเร็ว ความเสียวระเบิดปะทุ น้ำควยของเราสองคนพวยพุ่งออกมาอย่างท่วมท้น ไหลนองเต็มตัวทองเอก “อื้ออ อ่าาาห์” ควยทองเอกกระตุก ฉีดพ่นน้ำคาวกามออกมาอีกหลายระลอก ผมผ่อนจังหวะรัวมือ พยายามรีดเร้นจนดุ้นเอ็นของมันเริ่มสลบลง ผมคายนิ้วมันออกอ้าปาก หอบหายใจ ก่อนจะฟุบตัวลงไปจูบมัน ทองเอกตวัดลิ้นไปมาอย่างช่ำชอง มันดันตัวผมออกตอนที่รู้สึกว่าน้ำอสุจิของเรากำลังจะไหลลงไปเปรอะที่นอน รีบหยิบกางเกงตัวเองขึ้นมาเช็ดอย่างไวเพราะกลัวเลอะ ผมหยิบกางเกงของตัวเองมาช่วยเช็ดทำความสะอาด ทองเอกยืดตัวขึ้นกอดผมที่นั่งอยู่บนตักของมัน “รู้มั้ยว่ากูโคตรมีความสุขเลย” “อืม กูก็เหมือนกัน” ผมตอบแล้วจูบหน้าผากมันอย่างแผ่วเบา เราสบตากัน จูบกันอย่างดูดดื่ม แท่งเนื้อของทองเอกกลับชูชันอีกครั้ง มันดันตัวผมนอน ลงยกขาของผมขึ้นพาดที่คอก่อนจะทำสิ่งที่ผมไม่คาดคิดว่ามันจะทำมาก่อน ทองเอกฉกลิ้นเลียรอบรูทวารของผมอย่างมูมมาม ความเสียวกระสันในแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนวิ่งแล่นทั่วร่าง “อืออ ทองเอก!! อย่า!!” แม้ปากจะห้ามปราม แต่ผมต้องยอมรับว่ามันเสียวเหลือเกิน ผมแค่กังวลเรื่องความสะอาด แต่ทองเอกกลับทำราวกับว่ารูสวรรค์ของผมเป็นดั่งของหวานหลังมื้ออาหาร มันโลมเลียตวัดลิ้นลิ้มรสช่องทางรักที่เคยใช้แต่ควยสอดใส่ ผมดิ้นพล่านเพราะความเสียว จิกเท้าเกร็ง “อืออ พอแล้ว!! เย็ดกูเถอะ! กูอยากโดนควยมึงเย็ดแล้ว” ผมอ้อนวอน ทองเอกเงยหน้าขึ้น ยิ้มยิ่วยวน ขยับใบหน้าขึ้นมางับซอกคอผม พ่นลำหายใจแผ่วเบาพูดเสียงสั่นเครือ “พูดอีกทีสิ” “กูอยากโดนมึงเย็ดแล้ว” “ได้ครับที่รัก” ทองเอกถ่มน้ำลายลงบนแท่งเอ็นของตัวเองทดแทนเจลล์หล่อลื่น จับลำควยจ่อแล้วค่อย ๆ ดันเข้ามาช้า ๆ มันไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่ เพราะหูรูดผมคงผ่อนคลายตอนที่ทองเอกใช้ลิ้น “อูยย ตอดแรงแบบนี้เดี๋ยวกูก็แตกพอดี” ลำควยขนาดเจ็ดนิ้วเสียดแทรกผนังลำไส้เข้ามาเรื่อย ๆ จนสุดลำ สร้างความรู้สึกวาบหวิวในท้องน้อยเหมือนตอนตกจากที่สูง “อ่าส์ เสียวว” ผมพยายามครางในลำคอ เพราะกลัวเสียงจะเล็ดลอดออกไป ทองเอกขยับเอวเนิบ ๆ แม้ผมจะเพิ่งเสร็จไปไม่กี่นาทีก่อน แต่ความเสียวสะสมตั้งแต่ตอนที่มันใช้วิชาชิวหาพาเพลินทำผมแทบจะกลั้นเอาไว้ไม่อยู่ จึงขอให้มันแช่ลำควยคาเอาไว้เฉย ๆ เมื่อระดับปรอทความเสียวลดลง ผมก็ขยับเอวตัวเองเป็นสัญญาณบอกว่าพร้อมต่อแล้ว ทองเอกซอยเอวช้า ๆ เนิบ ๆ มองผมด้วยแววตาที่เอ่อล้นไปด้วยความรักและความต้องการ “อ่าห์ เย็ดแรง ๆ เลย!” ผมพูดอ้อมแอ้ม แม้เราจะทำเรื่องนี้กันมานับครั้งไม่ถ้วน แต่ผมก็ยังเขินมันจนหน้าร้อนผ่าว ทองเอกยิ้ม “รอให้มึงขออยู่พอดี” สิ้นคำมันก็ถอนลำควยออกจนเกือบสุดแล้วดันกลับเข้ามาใหม่ “อึก!อ่าาส์” ผมบิดตัวเสียว มือกำผ้าปูที่นอนแน่น “อ่า อ่าาห์ ซี๊ดดส์ รูมึงแม่งโคตรตอดควย” “อื้ออ อ่าาห์” ตัวผมสั่นโยกไปตามแรงกระเด้า โชคดีที่ทองเอกรู้เทคนิค มันไม่กระแทกเข้ามาสุดควยเพื่อจะได้ไม่เกิดเสียงเนื้อกระทบกัน จนทำให้พ่อแม้มันที่อยู่ข้างนอกรู้ว่าเรากำลังเย็ดกันอยู่ “อูยย อ่าาส์ นิน กูจะแตกแล้ว!! อ่าาห์” มันช้อนก้นผมลอยขึ้น อัดกระแทกลำควยเข้ามาในจังหวะสุดท้าย ทำเอาผมน้ำแตกออกมาทันที “อ่าาห์ ทองเอก!! กูแตกแล้ว!!” “กูก็แตกแล้ว อ่าห์ นิน แตกแล้ว!!!!” น้ำควยอุ่นเหลวพุ่งทะลักเข้ามาในตัวผมจนร้อนวาบ มันเสียบควยคาไว้อย่างนั้น หายใจเหนื่อยหอบเหมือนคนเพิ่งวิ่ง ก่อนจะวางท่อนล่างผมลงแล้วถอนดุ้นเอ็นของตัวเองออกมา น้ำควยร้อนฉ่าไหลตามออกมาด้วยจนเลอะเทอะ ทองเอกฟุบตัวมากอดแล้วแนบหัวตัวเองบนอกผม “โคตรรักมึงเลย”
เราเห็นพ้องต้องกันว่าเย็ดที่บ้านผมสะดวกกว่า เพราะเราสามารถครางออกมาได้โดยที่ไม่ต้องกลัวใครจะได้ยิน
กลางดึกคืนนั้นผมสะดุ้งตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของทองเอกเพราะดันฝันถึงครูกันต์ คิดทบทวนเรื่องแก บางทีผมควรจะเลิกแคร์คนอื่นแล้วแคร์คนที่ผมรักมากกว่านี้ ผมรู้ว่าทองเอกไม่โอเคกับการตัดสินใจของผม และถ้าเป็นแบบนี้บ่อย ๆ มันจะพาลเบื่อผมไหม? ผมรักทองเอก และรู้ว่ามันก็รักผมมากเช่นกัน หลังจากทองเอกรู้เรื่องนั้น มันก็ยอมผมทุกอย่าง ซึ่งผมไม่ชอบเลย ไม่อยากให้ซ้ำรอยกับพี่ทีนที่เอาเรื่องตอนนั้นมาผูกมัดตัวเองไว้กับผม สามวันก่อน ผมตื่นขึ้นมาตอนสาย ๆ ไม่เห็นพี่อยู่ในห้องก็รู้สึกใจหาย คิดว่าพี่กลับไปแล้ว พอได้ยินเสียงแว่ว ๆ ที่หน้าบ้านก็รีบชะโงกหน้าจากหน้าต่างลงไปมอง พี่ทีนกำลังเช็ดรถเครื่องอยู่ ผมกำลังจะร้องทักแต่เห็นทองเอกเดินมาพอดี เหลือบหันไปมองนาฬิกา เพิ่งจะเก้าโมงเช้า ทำไมทองเอกถึงยังไม่ได้ไปโรงเรียนล่ะ?
“พี่ทีน นินล่ะ?” “น่าจะยังไม่ตื่น” พี่ตอบโดยที่ยังคงง่วนกับการใช้ผ้าเช็ดถูรถจนขึ้นเงา “มึงมาทำไมเนี่ย? แล้วไม่ไปโรงเรียนหรอ?” “หยุดพักผ่อนวันนึงน่ะ ผมขอขึ้นไปหาไอ้นินนะ” “เดี๋ยว!” พี่ทีนส่งเสียงเข้ม ทองเอกถึงกับชะงัก “ขอคุยด้วยหน่อย” พูดจบพี่ก็ลุกขึ้นเดินไปนั่งที่แคร่ ทองเอกเดินตามไปอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ “กูว่าจะให้ไอ้นินย้ายโรงเรียน” พี่ทีนพูดเข้าประเด็น “ย้ายไปอยู่ใกล้ ๆ กูจะได้ดูมันได้” “อ้าว...” “แต่มันไม่ยอมไปเพราะมึง!” “แล้ว... พี่จะให้ผมคุยกับมันหรอ?” “มึงอยากให้มันย้ายไปมั้ย?” “เอ่อ... ไม่...” ทองเอกก้มหน้ามองพื้นตอนตอบ “แล้วมึงคิดว่ามันจะอยู่ที่นี่ต่อไปได้หรอ คลิปมันว่อนขนาดนั้น คนในโรงเรียนจะมองมันยังไง?” “ไอ้นินมันเข้มแข็งกว่าที่พี่คิดนะ” “กูรู้! แต่กูไม่อยากเสี่ยงอีกแล้ว เกิดเรื่องแบบนี้กูไม่อยากทิ้งให้มันอยู่คนเดียว กลัวมันจะคิดสั้นเหมือนครั้งก่อนอีก” “ห้ะ? คิดสั้น?” ทองเอกทำท่าตกใจ ถามย้ำพี่ทีนอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้หูฝาด ผมใจหายวูบ หน้าร้อนผ่าวตอนที่พี่พูดเรื่องนั้น ผมยังไม่เคยบอกทองเอกและไม่อยากบอกด้วย กลัวมันจะกังวลและคิดมาก มารู้จากปากพี่แบบนี้คงทำให้มันโกรธผมน่าดู “หืม? นินไม่เคยบอกมึงหรอ?” “ไม่เคย! เมื่อไหร่หรอพี่??” พี่ทีนถอนหายใจยาว ๆ “ก็เรื่องเมื่อตอนนั้นนั่นแหละ หลังจากมันโดนพ่อซ้อม มันก็เกือบจะ...” พี่ทีนหยุดพูด กลืนก้อนความเสียใจลงคอ “มันใช้ผ้าม่านผูกกับขื่อไม้กลางบ้าน และกำลังจะ... โชคดีที่ไอ้พีมาเจอแล้วช่วยเอาไว้ได้ทัน” ผมแอบเห็นพี่ยกมือขึ้นมาปาดน้ำตา เดาว่าพี่ยังคงโทษตัวเองเรื่องนั้นอยู่
ผมไม่ได้ฟังต่อ ลุกกลับมานอนที่เตียง ในใจหวิวโหวง สิ่งที่ผมทำตอนนั้นเปรียบเสมือนบ่วงรัดคอพี่มาตลอด มันคือสาเหตุที่ทำให้พี่เป็นห่วงและกังวลเรื่องผมมากเกินความพอดี
ครู่ใหญ่ ๆ ผ่านไป เสียงฝีเท้าของทั้งสองคนเดินขึ้นบันไดมา ผมจึงแกล้งทำเป็นหลับ คนใดคนหนึ่งนั่งลงบนที่นอนข้างตัวผมแล้วใช้มือเช็ดน้ำตาที่หางตาของผมออกอย่างแผ่วเบา “กูก็ไม่อยากบังคับมัน แต่แบบนั้นน่าจะดีกว่า” คนดังกล่าวคือพี่ทีน “ให้มันได้เริ่มชีวิตใหม่ อยู่ในสังคมใหม่ ๆ จะได้ลืมเรื่องพวกนี้ซะ” “อืม ถ้าพี่คิดว่าแบบนั้นดีกับมันจริง ๆ ผมจะลองพูดให้ก็แล้วกัน” “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวมันจะพาลรู้สึกแย่ คิดว่ามึงไม่รักมันอีกคน” “แต่ผม...” “ทองเอก... นินมันรักมึงมากนะรู้มั้ย? อาจจะรักมากกว่ากูด้วยซ้ำ”
ผมอยากลืมตาขึ้นมาแล้วบอกพี่ว่านั่นไม่จริงเลย ถ้าเป็นเมื่อก่อนกฌอาจจะใช่ ผมให้ทองเอกเป็นที่หนึ่ง แต่หลังจากอะไร ๆ ผ่านไปแล้ว ผมคิดว่าผมรักพี่ทีนมากกว่าใคร ๆ ในโลกนี้
“พี่ทีน... พี่จะว่าอะไรมั้ย? ถ้า... ผมขอคบกับไอ้นิน... แบบแฟน...” ผมเผลอหลุดไอออกมาตอนที่ได้ยินแบบนั้น ไม่คิดว่าทองเอกจะกล้าขนาดนี้ ตั้งใจฟังคำตอบของพี่อย่างใจจดใจจ่อ พี่ทีนเงียบไปครู่หนึ่ง “มึงมั่นใจหรอ? ก่อนหน้านี้มึงก็ทิ้งมันไปมีแฟนเป็นผู้หญิงนี่ อะไรทำให้มึงคิดว่ามึงจะรักมันได้ แล้วไม่ทิ้งมันไปอีก?” ทองเอกชะงัก คิดว่าพี่น่าจะแค่พูดลองใจทองเอก เพราะมันรู้อยู่แล้วว่าผมกับทองเอกกำลังคบกัน “ผมก็ไม่รู้หรอก ผมรู้แค่ว่าอยู่กับมันแล้วผมโคตรมีความสุข มันเองก็คงมีความสุขเหมือนกัน” พี่ทีนวางมือบนอกผมเบา ๆ “อืม ถ้าพวกมึงรักกัน ก็คบกันไปเถอะ ไม่ต้องมาขออนุญาตกูหรอก” “ขอบใจนะพี่” “ถ้าเป็นมึงกูก็คงวางใจได้” พูดจบ พี่ก็เขย่าตัวผมแล้วเรียกเบา ๆ “นิน... นิน กูต้องไปแล้ว” ผมแกล้งทำเป็นสะลึมสะลือตื่น “วันนี้กูต้องเข้างานตอนบ่าย เดี๋ยววันศุกร์กูกลับมานะ” พี่ทีนบอกก่อนจะโน้มตัวลงมาหอมหน้าผากผมต่อหน้าทองเอก ผมขยับแขนทั้งสองข้างโอบกอดพี่ “ผมรักพี่นะ” “อืม รักมึงเหมือนกัน” พี่กล่าวตอบ หอมแก้มผมซ้ำก่อนจะเดินออกไป
ผมลุกจากที่นอน มองพี่จากหน้าต่างตรงจุดเดิม ไม่อยากให้เราแยกกันด้วยบรรยากาศเคล้าความเศร้าแบบนี้ จึงตะโกนบอกกับพี่ไปว่า “พี่ทีน! ฝากเตะพี่พีให้ผมทีนึงนะ!” พี่ทีนหัวเราะ พยักหน้าแล้วสวมหมวกกันน็อคก่อนจะสตาร์ทรถแล้วพี่ออกไป
ผมมองจนรถของพี่ลับสายตาไป ทองเอกเดินมาประชิดหลังผม สอดแขนสองข้างโอบรัดตัวผมไว้แล้วเกยคางบนบ่าของผม มันหอมแก้มผมฟอดใหญ่
“ทำไมไม่ไปเรียนเนี่ย?” “กูขอแม่หยุดเพื่อพักสมองวันนึง แล้วก็อยากอยู่กับมึงด้วย” “เกเร” “ไม่ต้องพูดเลย เรามีเรื่องต้องคุยกัน!” “หืม?” “มีเรื่องอะไรที่มึงยังไม่บอกกู สารภาพมาซะดี ๆ” “เรื่องอะไร?” ผมแกล้งทำเป็นไขสือ “พี่ทีนบอกว่ามึงเคยเกือบจะฆ่าตัวตาย! ทำไมไม่เคยเล่าเรื่องนี้ให้กูฟังเลย?” ทองเอกเค้นเสียง ผมเบะปากคว่ำมองมันตาละห้อย “เพราะรู้ว่ามึงจะโกรธไง” “เออ! กูโกรธ! โกรธมากด้วย! ทำไมมึงถึงมีความคิดจะทำอะไรแบบนั้น?”
ผมถอนหายใจ เล่าเหตุการณ์ในวันนั้นให้ทองเอกฟัง ทุกเหตุการณ์ ความรู้สึกเจ็บปวดยังคงคุกรุ่นราวกับว่าทั้งหมดเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน มันน้ำตาคลอ ดึงผมเข้าไปกอด “ตอนนั้นกูจินตนาการภาพในหัวว่า เห็นมึงกำลังร้องไห้ในงานศพกู กูก็เปลี่ยนความคิดทันทีเลย กูไม่อยากให้มึงเสียใจ” “ถ้าวันนั้นมึงทำลงไปจริง ๆ กูเสียใจแน่นอน คงเสียใจไปตลอดชีวิต” ผมกระชับกอดแน่น “มึงห้ามมีความคิดแบบนั้นอีกนะ รู้มั้ย?” “ที่กูไม่บอกให้มึงรู้ ก็เพราะกูไม่อยากให้มึงเป็นห่วง เห็นพี่ทีนมั้ย? ตั้งแต่วันนั้นมันก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคน บางทีกูก็คิดว่าที่มันพยายามเอาใจกู ก็เพราะว่ามันกลัวกูจะคิดสั้นอีก” “พี่ทีนมันดูรักมึงมากเลยนะ” “อืม แต่กูชอบตอนมันเป็นคนกวน ๆ แบบเมื่อก่อนมากกว่า” ทองเอกหัวเราะเบา ๆ นึกถึงสมัยก่อน ตอนนั้นทองเอกแทบจะต่อยกับพี่ทีนด้วยซ้ำ เวลาที่พี่ชอบหาเรื่องแกล้งผม “กับมึงก็เหมือนกัน กูไม่อยากให้มึงกลายเป็นคนวิตกกังวลเรื่องกูจนเกินไป เดี๋ยวมึงก็จะกลายเป็นคนที่ยอมกูทุกอย่างเพราะกลัวกูจะคิดสั้น สุดท้ายการอยู่กับกูจะไม่ใช่ความสุขอีกต่อไป” “ถึงยังไงกูก็ไม่ทิ้งมึงหรอก ต่อให้ไม่รู้เรื่องนั้น” “งั้นกูถามตรง ๆ ถ้ามึงรู้เรื่องนั้นก่อนหน้านี้ มึงจะยังทิ้งกูไปคบกับเบลมั้ย?” ทองเอกเงียบ “เห็นป่ะ?” “กูก็ไม่ได้ทิ้งมึงซะหน่อย ตอนนั้นเรายังเป็นแค่เพื่อนกันนี่ มึงนั่นแหละที่ไปคบกับไอ้บอสแล้วทิ้งกู!!” “มึงนั่นแหละทิ้งกู! วันนั้นมึงปั่นจักรยานหนีกูนะ!” “ก็มึงอ่ะ!...” เราสองคนเงียบ จ้องหน้ากัน ก่อนที่จู่ ๆ จะหลุดหัวเราะออกมา ทองเอกดึงมือผมไปกุม หอมฟอดบนหลังมือแล้วแนบแก้มตัวเองไว้ “พูดจริงนะ กูไม่ชอบเลยเวลามึงมีปัญหาอะไร แล้วชอบกันกูออกทุกที! แล้วกูต้องมารับรู้เรื่องของมึงตอนที่ทุกอย่างมันแย่ลงไปแล้ว” “เป็นมึงก็คงทำแบบเดียวกัน...” “สัญญามา! จากนี้ไปไม่ว่าเรื่องอะไรมึงจะต้องบอกกูให้หมด” ทองเอกยื่นมืออีกข้างออกมา ชูนิ้วก้อยเป็นสัญลักษณ์ของการปฏิญาณคำมั่น “เร็ว ๆ” ผมเกี่ยวนิ้วก้อยคล้องตอบ “ห้ามมีความลับกันไม่ว่าเรื่องอะไร!” “อืม” “พูดด้วยว่าสัญญา!” “อือ... สัญญา”
แม้ผมจะตอบฉะฉาน แต่มีแน่ ๆ เรื่องนึงแหละที่ผมต้องอิ๊บไว้ มีแค่เรื่องนั้นเรื่องเดียวที่บอกกับทองเอกไม่ได้... เรื่องของผมกับพี่ทีน...
“นี่! นึกยังไงถึงขอพี่ทีนว่าจะเป็นแฟนกู? ไม่กลัวโดนมันเตะหรอ?” “อ้าว ได้ยินด้วยหรอ?”
เอาเป็นว่าหลังจากนี้ความสัมพันธ์ของผมกับทองเอกก็ดำเนินไปด้วยดี หลายคนคงสงสัยว่า แล้วมันไปขาขวิด พลาดท่า มีปัญหากันตอนไหนล่ะถึงเลิกกัน? เหตุผลง่าย ๆ ไม่ซับซ้อนหรอก หลังจบ ม.6 เราสองคนสอบเข้าได้คนละที่กัน จึงจำใจต้องห่างกันไป แม้ในช่วงแรก ๆ เราจะยังติดต่อกันอยู่ประจำ วันหยุดสุดสัปดาห์ก็จะกลับมาเจอกันที่บ้านแล้วใช้เวลาร่วมกัน แต่พอนาน ๆ ไป ต่างคนต่างเริ่มมีภาระหน้าที่มากขึ้น ตอนนั้นผมต้องเริ่มหางานพาร์ทไทม์ทำไปด้วย เพราะไม่อยากเบียดเบียนเรื่องเงินพี่ทีน ทำให้เราไม่ค่อยมีเวลาคุยกัน สุดท้าย ต่างคนต่างค่อย ๆ หลุดวงโคจรจากกันไป
ย้อนกลับไปตอนผมขึ้นม.6 เทอมแรก แม้ผมจะไม่ได้ทำตามข้อตกลงเรื่องครูกันต์ แต่ทองเอกก็ยอมให้ผมกับไอ้บอสกลับมาเป็นเพื่อนกันได้ มันคงคิดว่าได้ไอ้บอสคอยช่วยดูแลผมอีกคนน่าจะดีกว่า
ส่วนครูกันต์ บางคนอาจจะคิดว่าแกลอยนวล แต่ไม่ใช่หรอก ตอนนั้นแกไม่ได้มาสอนที่โรงเรียนอีก เราได้ข่าวว่าแกลาออกไปแล้ว หนีไปอยู่ที่อื่น ลือกันว่า แกถูกกลุ่มเด็กช่างซ้อมจนปางตาย นอนโรงพยาบาลเป็นเดือน ๆ เพราะกันไปหลีหญิงของขาใหญ่ ผมคิดว่าแกก็น่าจะได้รับผลของการกระทำไปแล้ว แม้จะไม่ใช่จากผมก็ตาม ไงก็เถอะ ผมอโหสิกรรมให้ครู เพื่อที่เวรกรรมที่แกทำไว้กับผมจะได้ไม่ตกไปถึงลูก ๆ ของแก
-------------------------------------------------------------------------
อ่าาาา จากตรงนี้ไปคงจบพาร์ทอดีตของนินแล้ว ยอมรับตรง ๆ เลยว่าตอนนี้หัวตัว พอนินลงเอยกับทองเอกแล้ว ผมก็ไม่อยากเขียนให้นินนอกใจไปมีอะไรกับคนอื่นอีก เหมือนกับในพาร์ทตอนโตที่ไม่อยากให้นอกใจพี่พีด้วยเช่นเดียวกัน เพราะงั้นมันก็เลยค่อนข้างยากที่จะเขียนเรื่องราวที่มีแค่นินกับทองเอก หรือนินกับพี่พี ให้ออกมาแบบไม่ซ้ำซากและจำเจ แต่ก็ตามที่เคยเกริ่นไว้ว่าอาจมีรีเทิร์นสำหรับพี่ทีน ถ้าไม่หมดไฟไปซะก่อน ก็คงเขียนให้จบตามที่ตั้งใจไว้ บางทีอาจจะอีกแค่สองหรือสามตอน เรื่องนี้ก็คงจบแล้ว เท่าที่ดูจากยอดคนอ่านที่ลดลงจากภาคแรกแล้ว คิดว่าเรื่องนี้ก็คงมาสุดทางแล้ว ยังไงก็ขอบคุณทุกคนที่ชื่นชอบและติดตามมาตลอด เวลามีคนพูดคุยในประเด็น หรืออินกับเนื้อเรื่อง มันทำให้คนเขียนใจฟู และมีกำลังใจตลอด
ตั้งใจว่าถ้าเขียนเรื่องนี้จบแล้ว ก็อยากจะกลับไปเขียนนิยายสายหลักของตัวเองต่อ พักเรื่องเสียวไว้ก่อน ฮ่า ๆๆ
ขอบพระคุณอย่างสูง
|