แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย NOOFONG เมื่อ 2025-1-22 12:26  
 
18  
 
  มึงเป็นใคร   ชมผานั่งอยู่ในมุมห้องแม้แสงจากหลอดไฟจะสลัวเพียงใด แต่รอบตัวกลับเต็มไปด้วยความมืดมิด เขาถูกผ้าปิดตาไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองอยู่ที่ไหน และไม่รู้ว่าคนที่จับตัวเขามาเป็นใครความกลัวลึกๆ ในใจเริ่มก่อตัวขึ้น  
 เสียงฝีเท้าหลายคู่ดังขึ้นเดินวนเวียนไปมารอบตัวเขา ก่อนจะเหลือเพียงความเงียบงันสักพักหนึ่งก็มีเสียงฝีเท้าคู่หนึ่งเดินเข้ามาอย่างช้าๆ ใกล้เข้ามาเรื่อยๆชมผาขยับตัวออกห่างด้วยความหวาดกลัว กลัวว่าจะถูกทำร้ายอีกครั้ง  
 ฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาหยุดลงตรงหน้าชมผาเขากลั้นหายใจ หัวใจเต้นรัวอยู่ในอกเสียงลมหายใจของอีกฝ่ายแผ่วเบาแต่ชัดเจนในความเงียบ จากนั้นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นเสียงทุ้มต่ำและหนักแน่น ไม่เหมือนใครที่ชมผาเคยได้ยิน  
 "อย่าขยับถ้าไม่อยากเจ็บตัว" เสียงนั้นสั่งอย่างเฉียบขาด แต่แฝงด้วยความเยือกเย็น  
 ชมผาสะดุ้งเล็กน้อย หยุดการขยับตัวทันทีเขาพยายามฟังเสียงอีกฝ่ายเพื่อจับความคุ้นเคย แต่เสียงนั้นฟังดูแปลกใหม่ราวกับคนแปลกหน้าที่เขาไม่เคยพบมาก่อน  
 "ใคร... มึงเป็นใคร?"ชมผาถามเสียงสั่นเล็กน้อย  
 แต่เสียงทุ้มต่ำกลับตอบอย่างเรียบเฉย"ไม่จำเป็นต้องรู้ ตอนนี้มึงแค่ต้องทำตามที่สั่ง"  
 ชมผายังคงนั่งนิ่ง หัวใจยังเต้นแรงเขาพยายามสงบสติอารมณ์ แต่ความกลัวก็ยังคงเกาะกุมอยู่ในใจ ส่วนอีกฝ่ายยังคงยืนนิ่งราวกับกำลังสังเกตการณ์หรือรออะไรบางอย่าง  
 สิ่งที่ชมผาไม่รู้คือคนที่อยู่ตรงหน้าเขาคือสิงหะ แต่สิงหะจงใจทำเสียงให้เข้มและเปลี่ยนแปลงน้ำเสียงเพื่อไม่ให้ชมผาจำได้ว่าเขาเป็นใคร  
 สิงหะยืนมองชมผาที่นั่งอยู่ตรงหน้า สายตาที่จ้องมองดูเหมือนจะลึกซึ้งขึ้นความคิดของเขาย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ที่ผ่านมาไม่นานนักในวันที่เขาและเจ้าทัพเพิ่งกลับจากการใช้ชีวิตในป่าไกลห่างจากความวุ่นวายของเมืองหลวง  
 เมื่อเจ้าทัพขับรถเข้ามาในเมืองสิงหะก็นึกขึ้นได้ถึงชุดที่สั่งตัดไว้ เขาหันไปบอกเจ้าทัพว่า "พี่ทัพสิงขอแวะร้านตัดเสื้อก่อนนะ น่าจะเสร็จพอดี จะได้เอากลับเลย"  
 "ให้พี่รอมั้ย?"  
 "ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวสิงกลับเอง"สิงหะตอบด้วยรอยยิ้ม เจ้าทัพพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะขับรถไปจอดที่หน้าร้านตัดเสื้อสิงหะลงจากรถพร้อมกล่าวลาพี่ชายด้วยความเคารพ"เจอกันที่บ้านนะครับพี่ทัพ"  
 หลังจากรับชุดเสร็จสิงหะเดินออกจากร้านตัดเสื้อ ในมือถือชุดใหม่ที่เพิ่งเสร็จเรียบร้อยเขาเรียกสามล้อที่ริมถนนใหญ่  
 "ไปบ้านซอยหกครับ"สิงหะบอกคนถีบสามล้อ ก่อนจะหยิบขนมขึ้นมากิน ลมเย็นพัดผ่านใบหน้าทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าหลังจากหลายวันที่อยู่ในป่า  
 คนถีบพยักหน้าเงียบๆ ระหว่างทางสิงหะปล่อยใจให้เพลินกับบรรยากาศ แต่เมื่อใกล้ถึงบ้าน เขาเริ่มสังเกตเห็นชายแปลกหน้ายืนด้อมๆมองๆ อยู่หน้าบ้าน ท่าทางลับๆ ล่อๆ ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ  
 "ขอลงตรงนี้เลยครับ"สิงหะบอกพลางหยิบเศษเหรียญจ่ายค่าโดยสาร  
 "ไม่ถึงบ้านเหรอ ไอ้หนุ่ม?"คนถีบสามล้อถาม  
 "ไม่เป็นไรครับขอลงตรงนี้แหละ" สิงหะยิ้ม ก่อนเดินไปยังมุมหนึ่งที่สามารถมองเห็นบ้านได้ชัดเจนโดยไม่ถูกสังเกต  
 เขายืนอยู่ตรงนั้น คิ้วขมวดแน่นนึกถึงคำพูดของเจ้าทัพ  
 "สิงพี่รู้สึกเหมือนมีคนตามเรามานะ" เจ้าทัพเคยพูดขึ้น  
 "ผมก็รู้สึกเหมือนกันครับแต่คิดว่าอาจเป็นแค่ความรู้สึกไปเอง" สิงหะตอบในตอนนั้น  
 แต่ตอนนี้เขาเริ่มคิดว่ามันอาจไม่ใช่แค่ความรู้สึก สิงหะมองชายแปลกหน้าที่เกาะรั้วบ้านแม้ไม่แน่ใจว่าเป็นใคร แต่รู้สึกได้ว่าต้องมีเจตนาอะไรบางอย่างแน่นอน  
 สิงหะยืนอยู่ในมุมมืดร่างของเขาเกือบจะกลืนหายไปกับเงา ท่ามกลางความเงียบสงัดของค่ำคืน เขาค่อยๆลอบมองไปยังชายหนุ่มที่ยืนอยู่ไม่ไกลในขณะที่ภาพของชายผู้นั้นเริ่มชัดเจนขึ้นในสมองความรู้สึกในใจของสิงหะเริ่มปะติดปะต่อกันจนรู้สึกถึงความรู้สึกที่ค้างคา  
 เขาจำได้จากระยะไกล ชายผู้นั้นคือชมผาชายหนุ่มที่เขาหมายปองมาตลอด คนที่อยู่ในใจมาตลอดเวลา แต่ไม่นึกเลยว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้ที่ติดตามเขามาถึงที่นี่  
 "ชมผา..."สิงหะพึมพำกับตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อ สายตาของเขาจ้องไปที่ชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่ลดละไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรเขาต้องรู้ให้แน่ชัด   
 อีกอย่าง... มาให้เขาจับกินถึงที่แบบนี้คงไม่รู้สินะว่าจะต้องเจอกับอะไร   
 เขายิ้มกระตุกที่มุมปากก่อนจะเดินไปทางประตูลับที่ด้านหลังตัวบ้าน ชายฉกรรจ์สามคนถูกเรียกพบก่อนจะพูดคุยกันสองสามประโยคแล้วแยกย้ายออกไป  
 “ไปอุ้มตัวมา”  
 ชายฉกรรจ์ทั้งสามพยักหน้าอย่างเข้าใจก่อนจะแยกย้ายกันออกไปตามที่ได้รับคำสั่ง การเคลื่อนไหวของพวกเขาคล่องแคล่วราวกับเคยทำมาแล้วหลายครั้ง สิงหะมองดูจนกระทั่งพวกเขาหายไปจากสายตาจากนั้นเขาก็หันกลับไปยังห้องของตัวเอง  
 “รอหน่อยนะครับ คนดี” สิงหะพึมพำกับตัวเองด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความหมายก่อนจะจัดการอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ออกจากบ้านไป  
 อั่ก!!เมื่อเห็นร่องรอยฟกช้ำที่ตัวของชมผา สิงหะก็รู้สึกถึงความโกรธที่พุ่งขึ้นมาในทันทีเขาเดินออกไปจากห้องและตรงไปยังลูกน้องของเขาทันทีก่อนจะระบายอารมณ์ที่เก็บไว้อย่างหนัก   
 “บอกพวกมึงแล้วใช่มั้ย ว่าอย่าให้มีแม้แต่รอยขีดข่วน!”เขาพูดเสียงต่ำแต่เต็มไปด้วยอำนาจ  
 “ขอโทษครับนาย พวกฉันพลั้งมือไปหน่อย”ลูกน้องคนหนึ่งรีบตอบออกมาอย่างหวาดกลัว  
 โดยไม่พูดอะไรมากสิงหะยกมือขึ้นแล้วทิ้งหมัดแรงๆ เข้าไปที่ใบหน้าของชายร่างใหญ่คนหนึ่งหมัดนั้นเต็มแรงจนชายคนนั้นล้มลงไปทันที เลือดเริ่มไหลออกมาจากมุมปาก กลุ่มชายร่างใหญ่ก้มหน้าต่ำลงอยู่ปลายตีนของคนที่พวกเขาเรียกว่านาย  
 “พวกมึงรีบไปไกลๆ ตีนกู!”สิงหะคำรามออกมาเสียงต่ำ  
 “ครับนาย!!”ทั้งสามคนรีบถอยร่นออกไปอย่างรวดเร็วปล่อยให้เขายืนอยู่ตรงนั้นด้วยความโกรธที่ยังคุกรุ่นเต็มที่  
 สิงหะพยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองอยู่พักใหญ่ก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้อง ชมผายังคงนั่งนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่กล้าขยับไปไหนความเงียบเข้าปกคลุมทั้งห้อง สิงหะย่อตัวลงและใช้ปลายจมูกสูดกลิ่นจากซอกคอของชมผากลิ่นที่ไม่คุ้นเคยแต่กลับทำให้เขารู้สึกตื่นตัวชมผาถึงกับตกใจสะบัดหน้าหนีอย่างรวดเร็วสีหน้าของเขาตึงเครียดและเต็มไปด้วยความวิตก  
 “อย่าดื้อ” สิงหะกล่าวเสียงต่ำพร้อมกับใช้มืออีกข้างจับใบหน้าให้ชมผาหันมาทางเขา แม้ชมผาจะถูกปิดตาอยู่แต่ริมฝีปากสวยๆ ของคนตรงหน้าก็ทำให้สิงหะอดใจแทบไม่ไหว  
 “ฮึก! มึงจะทำอะไรกู?”ชมผาพูดเสียงสั่น ร่างกายเริ่มสั่นสะท้านด้วยความกลัว เมื่อมือเย็นๆสัมผัสลงมาบนร่างกายของเขา ความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยทำให้เขาตัวแข็งทื่อใจเต้นรัวเหมือนจะหลุดออกจากอก เขาพยายามดึงตัวเองออก แต่ก็ไม่สามารถหลบหลีกได้  
 เชือกที่รัดแน่นตัดลึกเข้าไปในเนื้อข้อมือของชมผามือที่ถูกมัดจนไร้เรี่ยวแรงทำให้เขาขยับเขยื้อนร่างกายได้อย่างยากลำบาก ยิ่งดิ้นรนมากเท่าไหร่เชือกก็ยิ่งรัดแน่นขึ้นเท่านั้น ราวกับต้องการพันธนาการเขาไว้กับความมืดมิดนี้ตลอดกาล  
 ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกถึงสัมผัสเย็นเฉียบที่คืบคลานเข้ามาใต้เสื้อปลายนิ้วเรียวไล้ไปตามผิวเนื้ออย่างเชื่องช้า ก่อนจะหยุดอยู่ที่หน้าอกสัมผัสแผ่วเบาคล้ายขนนกวนเวียนอยู่รอบๆ หัวใจของชมผากระหน่ำเต้นรัวเร็ว เลือดสูบฉีดไปทั่วร่างความรู้สึกแปลกประหลาดก่อตัวขึ้นภายในกาย ร่างกายของเขาตอบสนองต่อสัมผัสนั้นโดยไม่รู้ตัวราวกับต้องมนตร์สะกด ความร้อนผ่าวแล่นไปทั่วสรรพางค์กาย ปลุกเร้าอารมณ์บางอย่างให้พลุ่งพล่านขึ้นมา  
 “อื้อ~ อย่า” ชมผาครางเสียงแหบพร่า พยายามขัดขืนด้วยแรงทั้งหมดที่มี มือเย็นเฉียบนั้นยังคงซุกซนอยู่ใต้เสื้อ  
 "อย่านะ... ได้โปรด" ชมผากัดริมฝีปากน้ำตาคลอหน่วย เสียงอ้อนวอนแผ่วเบา แต่ก็ไร้ความหมาย มือคู่นั้นยังคงสำรวจร่างกายเขาต่อไปอย่างไม่ลดละ  
มือหนาคว้ากลุ่มผมของชมผาอย่างแรงกระชากศีรษะให้เงยขึ้นเผชิญหน้า ใบหน้าคมเงยขึ้นเผยให้เห็นลำคอระหงที่ขึ้นสีระเรื่อ  
 ริมฝีปากอุ่นร้อน ประกบลงมาบนริมฝีปากของชมผาอย่างรวดเร็วปล้นชิงลมหายใจ ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัด ชิมความหวาน สำรวจโพรงปากอย่างถือสิทธิ์  
 ชมผาเบิกตากว้างด้วยความตกใจความหวาดกลัวแล่นปราดไปทั่วสรรพางค์กาย เขาพยายามดิ้นรน แต่ก็ไร้ผล  
 ในจังหวะที่ริมฝีปากร้อนผละออกเล็กน้อย ชมผาอาศัยโอกาสนั้นกัดลงไปบนริมฝีปากนุ่มอย่างแรง  
 "อ๊ะ!" เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดดังขึ้น  
 กลิ่นคาวเลือดอบอวลอยู่ในโพรงปาก แต่แทนที่อีกฝ่ายจะผละออกกลับยิ่งบดขยี้ริมฝีปากลงมาหนักกว่าเดิม ราวกับต้องการลงโทษ  
 ความหวาดกลัว ตื่นตระหนก และความรู้สึกแปลกประหลาดปะปนกันจนแยกไม่ออก  ร่างกายของเขาสั่นเทา ไร้เรี่ยวแรง  
 ในที่สุด ริมฝีปากร้อนก็ผละออก ปล่อยให้ชมผาเป็นอิสระ  
 "ฮา... ฮา..."  ชมผาหอบหายใจ พยายามสูดอากาศเข้าปอดให้เต็มที่  
 แต่ความสงบนั้นอยู่ได้เพียงไม่กี่อึดใจ...  
 มือแข็งแรงคว้าต้นแขนของชมผาไว้แน่น ก่อนจะดึงร่างเข้าไปแนบชิด  
 ริมฝีปากร้อน ที่เพิ่งผละออกไป กลับมาประกบลงบนริมฝีปากบวมเจ่อของชมผาอีกครั้ง  
 คราวนี้ รุนแรงกว่าเดิม ดุเดือดกว่าเดิมราวกับสัตว์ร้ายที่หิวกระหาย ต้องการครอบครอง  
 ลิ้นร้อนเกี่ยวกระหวัด ชิมความหวานสำรวจโพรงปากอย่างไม่รู้จักพอ  
 เสียงดูดจ๊วบจ๊าบ  ดังขึ้นในความเงียบ  
 ชมผาครางประท้วงในลำคอแต่ก็ถูกกลืนหายไปกับจูบที่ร้อนแรง  
 มือเย็นเฉียบ เลื่อนลงมาปลดพันธนาการที่ข้อมือให้คลายออกเล็กน้อยก่อนจะเปลี่ยนมาลูบไล้ไปตามผิวกาย ปลุกเร้าความรู้สึกต้องห้าม  
 ชมผาพยายามขัดขืน แต่ร่างกายกลับทรยศ ตอบสนองต่อสัมผัสนั้นโดยไม่รู้ตัว  
 ชมผากัดริมฝีปากแน่น พยายามสะกดกลั้นเสียงครางน้ำตาไหลรินอาบแก้ม ไม่ใช่เพราะความเจ็บปวด แต่เป็นเพราะความอับอาย  
 "ฮึก... ฮึก..." เสียงสะอื้นไห้เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากสั่นเทาของชมผาน้ำตาหยดแล้วหยดเล่า เปรอะเปื้อนใบหน้าคม  
 แต่เสียงสะอื้นนั้น กลับยิ่งปลุกเร้าสัญชาตญาณดิบ  
 มือแข็งแรง กระชากเสื้อเชิ้ตตัวบาง ที่เป็นเกราะกำบังชิ้นสุดท้ายของชมผาออกอย่างไม่ใยดี  
 "ฉีก!" เสียงผ้าขาดดังขึ้น  
 เม็ดกระดุม กระเด็นหลุดออกจากเสื้อกลิ้งหล่นหายไปกับความมืด  
 เรือนร่างขาวผ่อง ไร้สิ่งปกปิด  
 แผ่นอก ขึ้นลง ตามจังหวะการหายใจ  
 มัดกล้ามหน้าท้อง แข็งแกร่ง สวยงาม  
 ราวกับงานแกะสลักชั้นยอด  
 สิงหะกลืนน้ำลายอึกใหญ่มองดูเรือนร่างที่ไร้การปกปิดเบื้องหน้า  
 “สวย...” เขาพึมพำ  
 ปลายนิ้ว เช็ดเลือดที่มุมปาก   
 เลือดสีแดงสด ตัดกับริมฝีปากสีเข้ม  
 สิงหะหรี่ตาลงเล็กน้อย ความเย่อหยิ่งในดวงตาคมกริบฉายแววแข็งกร้าวขึ้น  
 "หึ พยศแบบนี้...ต้องโดนสั่งสอนเสียแล้ว" เขาพึมพำกับตัวเองริมฝีปากหยักยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็น ราวกับสิงโตเจ้าป่าที่กำลังหมายตาเหยื่ออันโอชะ  
 ปลายลิ้นร้อนไล้เลียไปตามแนวโค้งเว้าของแผ่นอกเนียนละเอียด ดวงตาคู่สวยหลุบลงต่ำ ซ่อนความสับสนเอาไว้ภายใต้ เขาไม่เข้าใจ...ทำไมร่างกายถึงได้ทรยศ ตอบสนองต่อสัมผัสของคนแปลกหน้าเช่นนี้  
 "อื้อ..."เสียงครางต่ำหลุดลอดจากริมฝีปากของชมผา เมื่อปลายลิ้นร้อนของสิงหะไล้เลียไปตามแนวโค้งเว้าของแผ่นอก  
 ผิวขาวเนียนขึ้นสีระเรื่ออย่างห้ามไม่อยู่ ยิ่งอีกฝ่ายไล้นิ้วไปตามร่างกาย ความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยก็ยิ่งทวีคูณ  
 "อ๊ะ...  อื้อ..." เสียงครางในลำคอ เมื่อปลายนิ้วร้อนไล้วนรอบยอดอก  
 "อย่า... อย่าทำแบบนี้" เขาพยายามเอ่ยห้ามแต่เสียงนั้นกลับแผ่วเบา  
 "ทำไมล่ะ" เสียงทุ้มกระซิบถามข้างหู ลมหายใจอุ่นๆ รดปลายใบหู ยิ่งทำให้ชมพาขนลุกซู่  "ไม่ชอบเหรอ" สิงหะเว้นวรรคเล็กน้อยปลายนิ้วเรียวไล้ไปตามโครงหน้าหวานอย่างเชื่องช้า ก่อนจะหยุดอยู่ที่ริมฝีปากอิ่ม "แต่ดูเหมือน...ร่างกายของมึงจะชอบนะ"  
 ชมผารู้สึกเหมือนกางเกงกำลังถูกรูดต่ำลงความเย็นเฉียบจากอากาศภายนอกปะทะกับผิวเนื้อ ยิ่งทำให้เขารู้สึกหวาดกลัว หัวใจเต้นระรัวราวกับกลองรบ  
 "มะ... ไม่นะ" ชมผาพยายามขัดขืนแต่เรี่ยวแรงที่มีกลับน้อยนิด "อย่าทำอะไรกูเลยนะ... มึงต้องการอะไร กูยอมให้มึงทุกอย่าง" น้ำเสียงอ้อนวอนขอร้องให้อีกฝ่ายเห็นใจ แต่ดูเหมือนคำพูดเหล่านั้นจะไร้ผล  
 สิงหะแสยะยิ้ม ดวงตาคมวาวโรจน์ด้วยความสนุกสนาน "ทุกอย่างเลยเหรอ..." เขาโน้มตัวลง กระซิบที่ข้างหูชมผา "ถ้าอย่างนั้น..."    
  
  
 ----------------------------------------- ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะ ไอ้เด็กนี่มันร้ายกว่าที่ทุกคนคิด!!    
 |