แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย gutoon เมื่อ 2025-7-10 22:25 2 X2 ~8 p# P, j, Z$ i& u- C
# U, g- @) D1 k. O
ตอนที่ 6 ไพ่แห่งชนวนแค้น 1 t3 ?0 W' q3 I6 F) k6 u
“โพดำฤทธิ์ร้อนแรง อีกโพแดงแฝงคมหนาม ข้าวหลามตัดสัตว์สงคราม ดอกจิกนามมารคราบคน”
2 }% [4 `* K$ y" @0 d ~3 [1 a.: u( {5 `+ `, U$ H
.' ~; P1 F8 c0 L# d* m
. กลอน บั่นทอนปัญญาข้างต้นคือสโลแกนชื่อแต่ละตำแหน่งของจตุรเทพ ยศฐาบรรดาศักดิ์ที่เด็กมัธยมต้นอุปโลกน์กันขึ้นมาอย่างไร้สาระ แต่ก็ถือเป็นตำนานเฉพาะของห้องม.3/3 เป็นตำแหน่งที่เกิดจากการยอมรับโดยดุษฎีจากเพื่อนร่วมห้อง ไม่ใช่ใครนึกอยากจะนั่งแท่นก็ทำได้ บางรุ่นบางตำแหน่งก็ปล่อยว่างหากขาดผู้มีคุณสมบัติเพียงพอ การสถาปนาจตุรเทพกำมะลอขึ้นมาเองมั่วซั่ว นอกจากไม่น่าเกรงขามแล้ว ยังถือว่าน่าทุเรศหากถูกนำไปเปรียบเทียบกับจตุรเทพรุ่นพี่บางรุ่นที่เหนือ ชั้นจนทิ้งห่าง อย่างไรก็ดี ไม่รู้โชคดีหรือโชคร้ายที่ในรุ่นผมมีคนครบทั้งสี่ตำแหน่ง
. ?0 a5 ]6 i& S h! V: yผม ต้องเท้าความถึงที่มาว่าโรงเรียนเซนต์แมธธิวใช้การแบ่งห้องเรียนตามเกรด เฉลี่ย เด็กห้องหนึ่งคือเด็กที่เรียนเก่งที่สุดไล่ลงมาตามลำดับตัวเลข
1 Y: U0 B' h! x6 h1 iฉะนั้น ห้องสามหรือห้องปานกลางจึงเป็นห้องที่เรียกได้ว่ามีวีรกรรมและมีบทบาทใน โรงเรียนมากที่สุด เพราะมีทั้งสมองและความแสบผสมผสานกันอย่างลงตัว ขณะที่เด็กห้องคิงจะเคร่งครัดในระเบียบวินัยและการเรียน ไม่กล้าทำอะไรนอกลู่นอกทาง ส่วนเด็กห้องบ๊วยก็ไม่ต่างอะไรกับนักเลงปลายแถว คิดการใหญ่ไม่เป็น
& Y$ J8 @3 X6 W3 j! Y. P1 [, vจตุร เทพจึงเกิดขึ้นและเป็นที่กล่าวขานเฉพาะห้องสาม ทุกคนจะมีเอกลักษณ์อย่างหนึ่งร่วมกัน คือมีความเป็นตัวเองสูง ไม่ยี่หระ เอาตัวรอดเก่ง ทันคน และมีเขี้ยวเล็บ จนมีคำกล่าวว่าหัวหน้าห้องเป็นเพียงหุ่นเชิด ผู้ที่อยู่เบื้องหลังความเคลื่อนไหวในห้องเรียนและกุมพลังเงียบไว้ในมือก็ คือพวกจตุรเทพ และพวกนั้นก็ไม่สนใจชิงตำแหน่งหัวหน้าห้องแม้แต่น้อย จึงไม่แปลกที่คนอย่างวีรวุฒิจะได้เป็นหัวหน้าห้อง ขณะที่ผู้มีคุณสมบัติเป็นหัวหน้าห้องที่แท้จริงแฝงตัวอยู่ในกลุ่มจตุรเทพ ซึ่งแต่ละตำแหน่งนำมาจากสัญลักษณ์ที่ปรากฏบนไพ่สำรับทั่วไปที่เรารู้จักกัน ซึ่งได้แก่
# t: \8 c! V# i6 S/ X- p( \โพ ดำ : ตำแหน่งของนักเรียนชายผู้มีบารมีสูงสุด มีทั้งพระเดชพระคุณเป็นที่เคารพของเพื่อนในห้อง อาจไม่จำเป็นต้องเรียนเก่ง แต่มีภาวะผู้นำและต้องฉลาดทางโลกมากพอที่จะได้รับความไว้วางใจให้เป็นตัวแทน ของรุ่น โพดำเป็นตำแหน่งที่น่าเกรงขามกว่าหัวหน้าห้องเสียอีก เพราะหัวหน้าห้องได้รับการแต่งตั้งจากครู แต่หัวหน้านอกห้องซึ่งสำคัญยิ่งกว่าต้องมาจากการเห็นชอบจากเพื่อนนักเรียน เท่านั้น มีศักดิ์สูงสุดในจตุรเทพด้วยกัน
1 h2 U4 C! u2 s$ Bโพ แดง : ตำแหน่งของนักเรียนหญิงที่เป็นนางพญาประจำรุ่น หรือพูดง่าย ๆ ก็คือผู้หญิงที่แสบที่สุดในรุ่น เนื่องจากตำแหน่งนี้เป็นเก้าอี้เดียวที่เปิดโอกาสให้ผู้หญิงได้เป็นหนึ่งใน กลุ่มจตุรเทพ ดังนั้นแค่เป็นตัวแม่อย่างเดียวคงไม่พอ ตำแหน่งโพแดงแทบทุกรุ่นเรียกได้ว่าเป็นสาวสวยบุคลิกดี เพราะจะเป็นหน้าเป็นตาให้กับจตุรเทพที่เหลืออีกสามคน
3 u8 ^/ E4 c3 i! F$ f
ข้าว หลามตัด : ตำแหน่งของนักเรียนชายที่ช่ำชองการศึกและการทะเลาะวิวาทที่สุดของรุ่น ซึ่งมักแปรผกผันกับความสามารถเชิงเหตุและผล ข้าวหลามตัดจะมีบทบาทสำคัญเมื่อเกิดเรื่องบาดหมางระหว่างชั้นปีหรือระหว่าง โรงเรียน มักเป็นคนมีพวกพ้องเยอะ ส่วนใหญ่เมื่อเรียนจบจะไม่ยอมถอดเขี้ยวเล็บ ยังคงใช้ชีวิตเยี่ยงนักเรียนนักเลงต่อไปในระดับการศึกษาที่สูงขึ้น ที่ถูกยิงตายหรือติดคุกเพราะเลือกเดินเส้นทางนี้ก็มีไม่น้อย
5 j" O5 _% j; Uดอก จิก : ตำแหน่งของนักเรียนชายที่เป็นตัวอันตรายที่สุดในห้อง หากให้นิยามคำว่า “อันตราย” ในที่นี้ ก็ขอให้นึกภาพว่าอะไรจะเกิดขึ้นหากผู้มีความสามารถระดับ “โพดำ” กลายเป็นคนร้ายกาจสุดขั้ว โพดำกับดอกจิกบางครั้งก็ถูกเปรียบเหมือนเทพผู้ทรงอำนาจกับมารผู้ทรงอิทธิ ฤทธ์ เป็นคู่ตรงกันข้ามด้านสว่างและด้านมืดของห้อง ส่วนใหญ่ดอกจิกชอบทำตัวลึกลับเพราะชีวิตในวัยเรียนข้องเกี่ยวกับการพนัน ยาเสพติด สุรานารี หรือไม่ก็สิ่งผิดกฎหมาย มีเพื่อนในห้องเรียนน้อย สันโดษ ไม่ค่อยปรากฏตัวเพราะขาดเรียนบ่อย เรื่องชกต่อยอาจมีบ้างแต่ยังถือเป็นรองข้าวหลามตัด ผู้ที่ได้รับตำแหน่งดอกจิกอาจถือได้ว่าเป็นการประณามจากเพื่อนมากกว่าให้ สมญานามยกย่อง และมักพบอนาคตลงท้ายไม่สวยงามเช่นเดียวกับข้าวหลามตัด
1 V8 e. F) c% q! J \
คราว นี้คุณหายข้องใจหรือยังว่าทำไมผมถึงแกะรอยพวกมันลำบากยากเข็ญเหลือเกิน คนที่มีวิถีคิดแบบนั้นคงจะมานั่งเล่นเฟซบุ๊คอัพรูปภาพชีวิตสดใสวัยเฟรชชี่ใน รั้วมหาวิทยาลัยหรอกนะ โดยเฉพาะข้าวหลามตัดและดอกจิก แน่ นอนอย่างยิ่ง พวกมันทั้งสี่ติดค้างหนี้ก้อนโตกับผมไว้ เนื่องจากพวกมันเป็นถึงจตุรเทพ เป็นกลุ่มคนที่ไม่ธรรมดา ย่อมทำเจ็บแสบกับผมหนักมือกว่าคนทั่วไป คนหนึ่งสักรูปโนบิตะบนท้องแขนผม คนหนึ่งบันทึกภาพขณะผมถูกทารุณและแพร่กระจายส่งต่อไปอีกหลายมือ คนหนึ่งทำให้ผมตัดสินใจกระโดดตึก
4 m" _4 \6 y7 H ^8 O4 F0 C.
6 m5 P1 v+ |4 Z) c.) h# _. t) }6 f6 b( h5 [6 \
.8 a* e9 x! @1 M% p- v
และอีกคนหนึ่งคือความหลังฝังใจที่ทำให้ผมเป็นเกย์จนถึงทุกวันนี้ " S2 x% S5 I) B5 ]3 _
ภาพจากโทรทัศน์ที่ฉาย อยู่ตรงหน้าผมคือสาวสวยใสวัยนักศึกษากำลังดำเนินรายการเพลงและตอบคำถามจาก ผู้ชมทางบ้าน วีรวุฒิให้ข้อมูลว่าเธอผู้นี้คือ “ไอช่า” ดาราศิลปินและวีเจยอดนิยม หรือชื่อเก่าคือน้ำหวาน เจนสุดา โพแดงแห่งรุ่น 40 ไม่น่าเชื่อว่าจตุรเทพคนแรกที่ผมเข้าถึงเบาะแสเป็นเพียงเส้นผมบังภูเขา สาเหตุที่ผมมืดแปดด้านไม่ทราบว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน เป็นเพราะไม่ชอบดูโทรทัศน์และเสพย์สื่อบันเทิงเท่านั้นเอง แต่ต่อให้ผมเห็นเธอผ่าน ๆ ก็คงจำไม่ได้ เธอเปลี่ยนไปเยอะมาก ทั้งที่สมัยเรียนเธอก็เป็นคนหน้าตาดีอยู่แล้ว ไม่คิดว่าวันเวลาที่ผ่านไปจะทำให้เธอสวยขึ้นทวีคูณราวกับนางฟ้า ผิวพรรณนวลเนียน ฟันขาวแวววับ ผมดำขลับ รูปร่างอรชร แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าในอดีตสาวน้อยช่างเจรจาพาทีผู้นี้เคยทำเรื่องชั่ว ช้าสามานย์แค่ไหนกับเพื่อนร่วมชั้น… : @5 f7 g+ t, }0 W6 g! T- o
คง ยังไม่ถึงเวลาที่ผมจะคิดบัญชีกับสี่คนนี้ การตามล่าพวกมันคงต้องวางแผนอย่างรัดกุมและระมัดระวังเป็นพิเศษ แม้แต่ไอช่าซึ่งหันหลังให้กับวงการนักเลงแล้วยังกลายเป็นดาราทำให้เข้าถึง ตัวยาก ซึ่งก็ไม่ทราบว่าคนอื่น ๆ จะมีหน้าด่านแน่นหนามากกว่านี้หรือเปล่า ยังดีที่ธรรมชาติของจตุรเทพมีความเป็นปัจเจกสูง พวกมันคงไม่รวมตัวกันหรือเลือกเรียนอยู่ที่เดียวกันง่าย ๆ ผมประเมินไว้ได้เลยว่า หากมีคนใดคนหนึ่งรู้ว่าผมกำลังตามล่าเพื่อนร่วมรุ่นแล้วติดต่อร่วมมือกับอีก คนเป็นอย่างน้อย ก็มีโอกาสที่พวกมันจะพลิกเกมจนผมอาจเป็นฝ่ายถูกตามล่าเสียเองได้
' B# W' P2 o/ P3 u+ D2 l% E0 oเสียง แมลงหรีดหริ่งยามค่ำคืนคลอด้วยเสียงไหลรินของน้ำตกจำลองบริเวณสวนหลังบ้าน ช่างไพเราะจับใจ ช่วยกล่อมเกลาให้ผมมีสมาธิอยู่ในห้องทำงานได้นานครึ่งค่อนวัน
/ X% \* u- A3 O% c$ R; d
และในที่สุดผมก็สามารถสังเคราะห์ข้อมูลทุกอย่างในมือให้ออกมาเป็นเข็มทิศแห่งการล่า! + D7 C* Q3 K: B: G0 Y Z$ o! L, M
ม.3/3รุ่น 40 มีนักเรียนทั้งสิ้น 36 คน จำแนกผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องรวมตัวผมเข้าไปด้วยเป็น 3 คน นอกนั้นคือลูกหนี้ทั้ง 33 คน แบ่งเป็นกลุ่มคนที่ผมชำระความแล้วจนถึงรายล่าสุดคือวีรวุฒิ 21 คน คงเหลือคนที่ผมต้องตามล่าอีก 12คน หรือถ้าจะให้แบ่งย่อยลงไปอีก คือกลุ่มธรรมดา 8 คนและจตุรเทพทั้งสี่8 ^$ ], Q, I# ~: c; ]5 Y
.
: ]7 ~1 A" K5 C! @& p Z., b/ r1 C: U1 }: c6 v3 K
.' E6 Y- w/ s) T
เหลืออีกคนอีกโหลที่ผมต้องจัดการพิพากษาลงทัณฑ์ และเจ้า “คู่เจรจา” ก็นับเป็นหนึ่งในนั้น ที่สำคัญ ผมคงจะต้องรีบเก็บหมอนี่ก่อนที่มันจะส่งข่าวให้คนอื่น ๆ รู้เรื่องของผม - G- m% R# q: z8 ~% m; H' d
สามวันให้หลัง… . . . . ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเท่าไหร่แล้วที่นับตั้งแต่ผมทอดตัวบนม้านั่งหน้าบาร์เล็ก ๆ แห่งหนึ่งแถบชานเมือง ดูเหมือนกลุ่มแมลงกลางคืนที่บินฉวัดเฉวียนไปมารอบโคมไฟหน้าร้านจะเป็นที่ดึงดูดสายตาผมเพียงจุดเดียวในเวลาน่าเบื่อเช่นนี้ 0 b8 h3 G& ~+ D8 |$ e
ชุมชน พาณิชย์ละแวกนี้ค่อนข้างเงียบเหงาเมื่อเทียบกับในตัวเมือง ราวสองทุ่มต่างก็ปิดร้านเกือบหมด เหลือเพียงร้านนั่งดื่มและร้านสะดวกซื้อนิดหน่อยที่ยังเปิดไฟส่องแสงห่างกัน หลายระยะช่วงตัว แทนสัญลักษณ์ว่ายังพร้อมให้บริการ
3 q& S0 ?0 t* c. X- G7 v; mเสาไฟฟ้าบางต้นกระ พริบติด ๆ ดับ ๆ เสียงแมวจรร้องหง่าวหาคู่ดังแว่วมาจากมุมมืด บรรยากาศซังกะตายเหล่านี้ทำเอาผมอยากจะนั่งหลับสักงีบเสียจริง ถ้าไม่ติดห่วงทรัพย์สินก้อนโตที่พกติดตัวมาด้วยล่ะก็
1 s" W$ L+ _5 ]) b+ Qระหว่าง ที่ลอยชายมองอะไรเรื่อยเปื่อย ผมก็ต้องผงะเล็กน้อยเมื่อรู้สึกว่ามีคนทิ้งตัวลงนั่งจนชิดกับผม ทั้งที่ผมตำแหน่งของผมอยู่กลางม้านั่ง อะไรจะกล้าขนาดนี้
' z& {$ j3 Z# z) O1 Jแต่ยังไม่ทันที่ผมจะหายจากความฉงน เขาก็เป็นฝ่ายชิงพูดขึ้นมาก่อน
2 l }* D' o- y% E! u“แย่ จริง ผมปล่อยให้ผู้บริหารระดับสุพรีมแพลตทินั่มรอนานไปหน่อย ขอโทษที่ให้คอยนะคุณเตอร์” ชายวัยรุ่นราวคราวเดียวกันที่นั่งข้าง ๆ เอ่ยทักผม เขาสวมเสื้อคลุมดำกางเกงยีนส์ อำพรางใบหน้าด้วยแว่นกรองแสงสีชา
7 e9 j3 ~5 p" j: H, }9 W) n
“อยากให้เรียกว่าเตอร์หรือเต๋อ?” 9 b$ i+ W4 q/ A
“อะไรก็ได้ที่เรียกแล้วนายไม่กระดากปาก”
' {; }" f3 i: \! J. h3 [“ฮะ ๆ ๆ เดี๋ยวนี้รู้จักยอกย้อนซะด้วยนะ” เขาหัวเราะร่า “เอางี้ดีกว่า ให้เกียรติเรียกคุณเตอร์แล้วกัน เผื่อว่าไม่อยากให้พูดถึงวันเก่า ๆ” ไม่ต้องให้ผมอ่านใจก็รู้ว่าเจ้านี่กำลังเสแสร้งแกล้งทำ
! ]1 z- J' ^; E( C
“ได้รับจดหมายแล้วสินะถึงมานี่ได้” เขาเปิดประเด็นฉับพลันจนผมแทบไม่ทันตั้งตัว แต่ก็ดีเหมือนกัน ทางนี้เองก็อยากรีบสะสางให้จบ ๆ 8 w7 }( k2 W8 O2 r
“ไปคุยกันในร้านดีกว่า” ผมผายมืออย่างเชื้อเชิญ อีกฝ่ายพยักหน้ารับและลุกขึ้นพร้อมกัน
9 c ?+ p4 d& A“สองคนครับ” เขาชูสองนิ้วสื่อกับพนักงานต้อนรับสาว เธอเปิดประตูพร้อมส่งยิ้มให้เราทั้งสองอย่างเป็นมิตร
8 ^& ?8 F! Q0 _& w- P9 q
“ทำ ให้มันดูเป็นธรรมชาติหน่อยนะ ไม่ต้องเกร็ง ผมไม่ฆ่าแกงคุณเตอร์หรอก” เขาแสร้งโอบไหล่กอดคอผม ภาพที่เห็นไม่ต่างอะไรกับเพื่อนชายคู่ซี้ตระเวนนั่งก๊งเหล้าที่เห็นกันดาษ ดื่น ผมทำเป็นเล่นละครตามใจเขา ถ้าอยากให้ดูสนิทชิดเชื้อกันก็ย่อมได้
- A0 }( z+ k8 D) s. W.( k) `+ _9 V) \. P( [& A* ]/ b
.# U- ^* z; {' U0 y
ด้วย จังหวะที่อีกฝ่ายไม่ทันสังเกตเพราะมัวแต่ปรายตามองหาทำเลดี ๆ สักโต๊ะ ผมใช้โอกาสนั้นเหลียวหลังไปยังสาวต้อนรับหน้าประตู สบตากับเธอเพื่อส่งสัญญาณลับ5 h& }, ]3 u: |( E5 [6 P
.
( v/ i6 @9 Y0 S4 _0 }" n.; o/ ]5 N4 t/ O5 M, h( X4 ^
.
5 i. g# I, F2 F# L# h+ eเธอจัดแจงปิดไฟหน้าร้านทุกดวง ลงสลักล็อคประตูทางเข้าออก . . และคล้องป้าย “Closed”
c* ?, N; J# J1 P' L7 k0 d' bโต๊ะที่เรานั่งอยู่ บริเวณด้านในสุด เป็นมุมอับที่ไม่ค่อยมีคนผ่าน ส่วนโต๊ะที่ไม่ห่างจากบาร์เครื่องดื่มมากนักถือเป็นทำเลทองของลูกค้าส่วน ใหญ่ บางโต๊ะอดจ้องมองด้วยความสงสัยไม่ได้ว่าเราเลือกนั่งในจุดร้างผู้คนทำไม ในเมื่อยังเหลือที่นั่งทำเลดี ๆ อีกพอสมควร
6 @* ?- A% T& g8 M0 J$ O Z% d, H* o$ ]บัดนี้คู่เจรจาที่อยู่ตรงหน้าผมถอดแว่นและหมวกเพื่อเปิดเผยตัวแล้ว
! r% z- M- [& O2 L; J
“แจ็ค” ผมทำเป็นทวนชื่อเขาไปอย่างนั้นเอง , j8 d6 C3 n2 s( j8 a9 D f
“ดีที่ยังจำกันได้” เขารินเบียร์ส่งให้ผม & W/ g! b5 ~- D- j/ Z+ _! v
“ไม่ล่ะขอบคุณ เข้าเรื่องเลยดีกว่า” 0 v; v. [: K! \7 e5 X. v
“จะเอาอย่างนั้นรึ...ได้สิ” เขายักไหล่พลางควักบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบหน้าตาเฉย
) H" D# _) L/ V$ r9 R“ไหน? เงิน?” ไม่น่าเชื่อว่าแจ็คจะกล้าแบมือขอเงินกันดื้อ ๆ ให้ตายเถอะคนอะไรหน้าหนากว่ายางรถยนต์
' E; l7 v& s. q2 T. J+ Uผมแง้มกระเป๋าถือให้เขาดูโดยเว้นระยะไม่ให้เอื้อมมือถึง เมื่อเขาเห็นจนพอใจแล้วก็เป็นฝ่ายชูซองสีน้ำตาลขึ้นมาบ้าง
4 d7 N. W: L+ ^! Z' r5 f9 R- D“ผมมีรูปทั้งหมดห้าใบ อยู่ในซองนี้สามใบ อีกสองใบจะให้คุณเตอร์ต่อเมื่อตรวจนับเงินครบแล้ว” เขายิ้มกรุ้มกริ่มแสดงท่าทางเป็นผู้คุมเกม
8 v" G2 T7 D o& v“ไม่ ใช่ฟิล์มหรอกรึ” ผมแปลกใจเล็กน้อย การแบล็คเมล์เรียกร้องเงินจำนวนขนาดนี้มันควรจะแลกด้วยฟิล์มต้นฉบับไม่ใช่ หรือ แบบนี้ใครจะการันตีได้ว่าวันดีคืนดีจะไม่มีรูปพวกนี้ส่งมาขู่กรรโชกถึงบ้าน ผมอีก
3 N5 Q+ ^- T g! l- ?% [2 i
“ผม ไม่ได้เป็นคนเก็บฟิล์มนี่หว่า มีอยู่แค่นี้แหละ อย่าเรื่องมากเลยน่าคุณเตอร์” ไม่รู้ว่าผมจะทำยังไงกับคนประเภทนี้นอกจากส่ายหน้าอย่างเอือมระอา มีปัญญาแบล็คแมล์คนได้แค่นี้? ชักรู้สึกเหมือนเอาพิมเสนแลกเกลือขึ้นไปทุกที ๆ 0 m0 h( l& T( B
“ทำหน้าแบบนั้นหมายความว่าไงวะ” เขาถามเสียงแข็ง แต่ผมไม่ได้ตอบอะไรไป ทำเป็นเปลี่ยนเรื่อง
( O z! S5 v$ h! p+ `# R“ถามหน่อยได้ไหม มีความจำเป็นอะไรต้องใช้เงินขนาดนี้ ถึงกับต้องขู่กรรโชกผม”
3 f* G5 p2 X- T3 u% F6 @7 Cแจ็คทำเป็นหันไปเขี่ยบุหรี่เพื่อหลบสายตาผม
, \. H3 C2 ^$ o+ ?" T“โต๊ะบอลอีกแล้วสินะแจ็ค” เชื่อขนมกินได้เลยว่ายังไงก็เรื่องนี้ ไม่ต้องอ่านใจผมก็เดาถูก
. v0 `- a2 n& r; |1 B! m
“เออ! แล้วมึงจะทำไมไอ้เต๋อ! เสือกแล้วจะได้อะไรขึ้นมา” แล้วกัน ไหนเมื่อกี้บอกจะให้เกียรติเรียกคุณเตอร์ อยู่ดี ๆ ก็มึงมาพาโวย ชักรู้สึกเสียเวลากับเจ้านี่มากขึ้นทุกที คงพอได้แล้วละ ผมจะเดินเกมรุกบ้าง 9 ?$ l) t2 v7 ~
“สมัย เรียนผมได้เงินมาโรงเรียนวันละไม่กี่บาท นายก็ยังรีดไถผมเอาเงินไปเล่นพนันกับเพื่อน ถึงเวลานี้ผมอุตส่าห์สร้างเนื้อสร้างตัวจนลืมตาอ้าปากได้แล้ว นายยังจะตามรังควาญผมอีกเหรอแจ็ค ไม่อยากเชื่อเลยว่านายจะทำแบบนี้ได้ลงคอ” ผมปั้นหน้าเศร้าเพื่อทดสอบปฏิกิริยาของอีกฝ่าย ( G9 R+ z! `+ }! U5 ]3 h9 z
“ไม่ ต้องสำออยไอ้เต๋อ สัจธรรมง่าย ๆ ปลาใหญ่กินปลาเล็กไม่เคยได้ยินรึไงวะ โชคร้ายที่มึงเกิดมามีดวงต้องรองมือรองตีนคนอื่นเอง ไปโทษเวรโทษกรรมเอาเถอะ” " ] W+ n# A" [# e. y
“.............” ไม่มีอาการตอบสนองใด ๆ จากผม + u9 h. ~% v9 U
“ใช่! กูติดหนี้ โต๊ะบอลตามทวงอยู่ กูต้องใช้เงิน”
# S9 }4 h' j8 j3 f8 t% o" v“............” ผมนิ่งเงียบ ยังคงเฝ้ารอจังหวะเหมาะสม
; A3 ~5 `) U) a0 n
“คนเราพอจนตรอก เหี้ยแค่ไหนก็ต้องทำเพื่อตัวเองทั้งนั้น!” พูดจบแจ็คก็กระดกเบียร์หมดแก้วราวกับสรุปจบสุนทรพจน์
0 e& G0 t) [& |6 U6 K. T“น่า เห็นใจนะแจ็ค แต่นายทำตัวเองทั้งนั้น ใครบังคับให้นายเล่นการพนัน แล้วทำไมผมต้องรับผิดชอบกับปัญหาที่นายก่อขึ้นด้วย ที่ไถไปสมัยเด็กนั่นก็หลายตังค์อยู่นะ นายเองก็ทำแอนนาเบลล์อยู่นี่นา ทำไม่ไม่ตั้งใจเอาดีให้มันรุ่งอย่างผมไปเลยล่ะ” ผมเริ่มเปลี่ยนอิริยาบถที่สื่อถึงความเป็นต่อ เหยียดตัวตามสบายโดยไม่แคร์บุคลิกที่ถูกตามมารยาท เท้าแขนบนขอบพนักเก้าอี้โซฟา กระหยิ่มยิ้มจ้องตาคู่สนทนา ดูเหมือนว่าแจ็คเองก็แปลกใจต่อท่าทีที่เริ่มเปลี่ยนไป
: [& }( [9 d* D/ @“ไม่ ต้องทำปากเก่ง! หน้าอย่างมึงจะไปสั่งสอนใครได้!” เขาโน้มตัวมาทางผมและใช้ศอกเท้าโต๊ะ เป็นท่าทีที่สื่อว่าต้องการกดดันผมทางอ้อม บรรยากาศคุกรุ่นได้ที่ คงได้ฤกษ์ที่ผมจะตัดริบบิ้นเปิดเกมเสียที . . . . “รู้ตัวไหมแจ็ค ทันทีที่ก้าวขาเข้ามาในร้าน นายก็ติดกับที่ผมวางไว้แล้ว” . . . .
5 h$ ]$ B- B- _" n/ e1 H9 r$ I- d) t
|