อาศัยอยู่ในจังหวัดนนทบุรี
ลงทะเบียน2011-5-10
ล่าสุด2014-4-25
วันเกิด1994 ปี 3 เดือน 27 วัน
พี่ว้ากตัวร้าย
- กระทู้
- 47
- ตอบกลับ
- 232
- พลังน้ำใจ
- 608
- Zenny
- 5796
- ออนไลน์
- 43 ชั่วโมง
|
ใครว่าใหญ่แล้วดี (1) : ไอ้ม้า
! N; r/ C; Z3 _. Jเขียนโดย หนึ่ง
: k b+ r$ m8 g% n- F/ q$ d1 N& Fผมได้อ่านประสบการณ์ของคนอื่นมามากแล้ว ส่วนใหญ่มักจะเล่าว่าเคของตัวเอง (หรือของคู่ขาในเรื่อง) ยาว 7 นิ้วบ้าง 8 นิ้วบ้าง บอกจริงๆผมว่าโม้เป็นส่วนใหญ่ เพราะของคนไทยโดยเฉลี่ยแล้วราว 5 นิ้วเท่านั้นเอง อะไรจะมี 7-8 นิ้วได้มากมายขนาดนั้น2 F$ l/ G# j2 b& ^0 b2 L6 q
' C( P, f# a9 w% v3 a
และอีกอย่าง คนที่ว่าใหญ่ๆยาวๆนั้นที่จริงแล้วไม่มีความสุขหรอกครับ มันทรมานมากกว่า อย่างเช่นชีวิตของผมนี่ไง เพราะความที่เคใหญ่จึงทำให้ผมต้องกลายมาเป็นเกย์ ซึ่งถ้าผมเลือกได้หรือย้อนเวลาไปได้ ผมอยากขอมีเคเล็กๆ (หมายถึงขนาดปกติ ไม่ต้องเล็กมาก) แล้วเป็นผู้ชายปกติธรรมดาดีกว่า
0 z3 X9 A' v5 c P
/ F- D+ [4 W2 x! R4 I, l* `* h4 hจำได้ว่าตอนเด็กๆนั้น (ราว 8-9 ขวบ) เจ้าน้องชายประจำตัวของผมก็ไม่ได้ใหญ่กว่าของคนอื่นหรอกครับ เพราะเคยแก้ผ้าอาบน้ำกับเพื่อนๆแถวบ้าน (บ้านผมอยู่ติดคลอง) อยู่บ่อยๆ ทั้งตอนที่มันสงบและตอนที่มันตื่นตัว แต่พออายุได้ราว 10 ขวบสิครับ เวลามันตื่นตัวก็ชักจะเริ่มใหญ่โตผิดเพื่อนๆรุ่นราวคราวเดียวกัน แต่ก็ยังไม่เท่าไรเพราะเวลาเล่นน้ำในคลองนั้นเล่นเป็นกลุ่ม มีเด็กที่โตกว่าผมก็มี ของผมก็ไปใหญ่ราวเด็กอายุ 12-133 A- x& A9 k; E( u! U8 c% Y5 @
# A& l! S, V5 Z: D& t3 ]8 s, f0 d/ ?6 r+ dแต่พอผมเริ่มเป็นหนุ่ม อายุได้สัก 12 เจ้าน้องชายของผมมันก็ยาวใหญ่ขึ้นกว่าเดิมอีก คงจะประมาณ 5-6 นิ้วได้มั้งครับ เพราะตอนนั้นยังเป็นเด็ก ไม่เคยสนใจไปวัดดูหรอก แต่ก็ยาวผิดเพื่อนๆเยอะแล้วล่ะ แถมน้องชายยังอ้วนใหญ่อีกต่างหาก เวลาว่ายน้ำแล้วแข็งตัวทีไรมันจะชี้โด่เป็นลำเลย ในขณะที่เพื่อนๆแข็งแล้วก็ยังไม่ใหญ่กันเท่าไร เพื่อนๆก็เลยชอบล้อเลียนผมกัน ว่ายาวใหญ่เหมือนของม้า แล้วผมก็ได้ฉายา “ไอ้ม้า”; x; T( p. S# M: Y( P/ y3 I
7 D8 ~4 f9 H- ?* B+ yเพื่อนๆคงคิดว่าผมจะภูมิใจในความใหญ่ของตัวเอง แต่ที่จริงไม่ใช่หรอกครับ เพราะเวลาถูกเรียกว่า “ไอ้ม้า” นั้นมันรู้สึกไม่ค่อยดีเลย จำได้ว่าผมได้ฉายานี้ตอน ม. 2 หลังจากที่ได้ฉายานี้มาจากคลองหลังบ้าน มันก็เริ่มแพร่เข้ามาในโรงเรียนเพราะเพื่อนที่ร่วมเล่นน้ำด้วยกันนั้นบางคนก็อยู่โรงเรียนเดียวกับผม แต่หลังจากที่ผมได้ฉายานี้ผมก็เลยไม่แก้ผ้าเล่นน้ำที่คลองหลังบ้านอีก หากจะเล่นก็จะนุ่งผ้าขาวม้าหรือใส่กางเกงใน เพราะโตแล้วก็เริ่มมีความอาย อีกทั้งขนเพชรก็เริ่มขึ้นแล้วด้วย ขืนปล่อยให้เพื่อนเห็นมันก็ต้องเอาไปล้ออีก& w* y) }, h) d: ?, @1 c) _
# D: r4 F7 C, C1 Q
ยิ่งตอนขึ้นชั้น ม. 3 ในแต่ละปีนักเรียนจะถูกคละห้องเรียนใหม่ เจ้าเพื่อนในห้อง ม.2 เดิมบางคนก็ได้ไปอยู่ร่วมห้องกับผมในชั้น ม.3 ด้วย มันก็เรียกผมว่าไอ้ม้าๆ พวกเพื่อนใหม่ในชั้น ม.3 ก็มักจะถามหาที่มาว่าทำไมถึงชื่อไอ้ม้า ไอ้เพื่อนมันก็จะบอกว่า “ไปถามไอ้ม้ามันดูเองสิ” ส่วนใหญ่ผมก็จะยิ้มๆ ไม่ยอมตอบ แต่ไปๆมาๆเจ้าเพื่อนมันคันปากก็เลยแย้มๆออกไปว่า “บางอย่างมันใหญ่เหมือนม้าว่ะ เลยได้ชื่อนี้” แค่นี้ทุกคนก็รู้แล้วว่าหมายถึงอะไร คราวนี้ผมเลยกลายเป็นตัวตลกประจำห้องเลย โดนล้อเลียนเรื่องนี้เป็นประจำ บางคนก็บอกว่าจะขอยืมไปทำเสาธงบ้าง อะไรบ้าง ทั้งๆที่ไม่มีใครเคยเห็นเคของผมจริงๆเลยนอกจากเพื่อนที่เคยเล่นน้ำคลองด้วยกันเพียงไม่กี่คน
8 x6 @6 ]9 x. O4 M: s
2 [* h! C4 L- U1 ~) i- W- [0 `เพราว่าโดนล้อเลียนบ่อยๆ ผมก็เลยมีความรู้สึกว่าการมีเคใหญ่ผิดเพื่อนๆนั้นมันเป็นปมด้อย ไม่เคยรู้สึกภูมิใจเลยครับ ยิ่งใครต่อใครพยายามขอดู บางทีก็แอบดูเวลาผมฉี่ในห้องน้ำ (ที่จริงตอนไม่แข็งก็ไม่ได้ใหญ่กว่าของคนอื่นเท่าไรนักหรอก) ก็ยิ่งทำให้ผมรู้สึกว่ามีปมด้อยมากขึ้น, U5 B% R# N! r; r% X7 J
. s$ m0 q8 _' @; d
ตอนผมอยู่ ม.5 ผมได้เพื่อนสนิทคนหนึ่ง ชื่อก้อย (ผู้ชายนะครับ โรงเรียนผมเป็นโรงเรียนชายล้วน) เพิ่งคบกันตอน ม. 5 เอง แต่ก้อยนิสัยดีมาก ไม่เคยล้อผมว่า “ไอ้ม้า” เลย แต่จะเรียกผมว่า “หนึ่ง” ซึ่งเป็นชื่อเล่นจริงๆของผมเสมอ ก้อยบอกว่าไม่ชอบล้อเลียนคนอื่น มันไม่ดี นี่เองที่ทำให้ผมสนิทกับก้อยมากขึ้นเรื่อยๆ
: `6 a* \8 t7 q5 Y% a7 c
. S C% Y ?9 a2 [อยู่มาวันหนึ่ง พวกเพื่อนๆในห้องคุยกันเรื่องเที่ยวซ่อง มีเพื่อนในห้องบางคนไปเที่ยวแล้วกลับมาเล่าให้ฟัง คุยแล้วก็เคแข็งเด่ไปตามๆกัน ตอนนั้นผมอายุย่าง 16 แล้ว เคยาวเกือบๆ 8 นิ้ว ใหญ่ราว 8 นิ้ว ใหญ่กว่าตอนอยู่ ม.3 อีก (แต่ไม่เคยมีใครเห็น) ของผมพอแข็งแล้วก็จะตุงเป็นลำในกางเกง มองเห็นได้ชัดเลย ผมเลยต้องนั่งซุกตัวอยู่ในโต๊ะเรียนขณะคุย แต่ก็สังเกตว่าก้อยเหลือบมองมาที่เป้ากางเกงของผมบ่อยๆ...% Z* a7 w6 J' X, ~+ [! v# Q8 V
6 e2 z/ [" X/ U; t
วันนั้นพวกเรา (มีอยู่ 5 คน) ตกลงใจว่าจะไปเที่ยวซ่องกัน โดยมีคนที่เคยไปมาแล้วอาสาพาพวกเราไปขึ้นครูที่ซ่องในเมือง ผมตื่นเต้นมากเพราะไม่เคยมีประสบการณ์ทางเพศเลย ไม่เคยแม้แต่จะช่วยตัวเองเพราะทำไม่เป็น อาศัยฝันเปียกเอาเป็นประจำ ผมก็ถามเพื่อนๆไปว่าเข้าไปแล้วจะเอาผู้หญิงยังไง เพื่อนมันก็บอกว่าเดี๋ยวพอถึงเวลาเขาก็สอนให้เองนั่นแหละ
- L* U/ d6 r* d0 x, H7 C9 v7 X R6 L6 }1 U" A( X( I; `
จำได้ว่าตอนที่ผมเที่ยวซ่องครั้งแรกนั้นตื่นเต้นมาก ผมเลือกได้สาวอายุราว 19 ปีคนหนึ่ง หน้าตาดีทีเดียว แล้วทุกคนก็แยกย้ายกันไปเข้าห้องของตัว...
9 l3 w: e# ~- J% c! f* q9 ]3 B
" @8 o4 E: A7 e( r; T. g9 G0 ^- Tในห้องเปิดไฟสลัวๆ คู่นอนของผมเห็นผมนั่งเซ่ออยู่บนเตียงก็ถามผมว่าจะมานั่งเล่นเหรอ (ถามแบบน่ารักนะครับ) ผมก็บอกว่านี่เป็นครั้งแรก ตื่นเต้นจนทำอะไรไม่ถูก เธอก็บอกว่างั้นจะสอนให้ ว่าแล้วเธอก็ถอดเสื้อของผมออก จากนั้นก็ถอดกางเกง แล้วก็กางเกงใน
% A4 J2 }) n) _# n% A) S. H+ r8 G `. C! M
พอกางเกงในหลุดจากเอวเท่านั้นแหละครับ เคของผมก็ผงาดลำ 8 นิ้วขึ้นมาทันทีเพราะผมเองตอนนั้นเกิดอารมณ์เต็มที่แล้วตั้งแต่เธอเริ่มถอดเสื้อผ้าให้ แต่พอเธอเห็นเคของผมเท่านั้นแหละครับ เธอร้องอุ๊ยออกมาเบาๆ หน้าเสียเลย จากนั้นเธอก็บอกผมว่าของผมใหญ่มาก เธอรับไม่ไหว กลัวเครื่องพัง จากนั้นก็ขอร้องให้ผมเปลี่ยนเป็นคนอื่นแทน แถมยังบอกอีกว่าอย่าเลือกคนอายุน้อยๆ เพราะคงไม่กล้ารับอีกเหมือนกัน ให้เลือกสาวที่อายุมากหน่อยเพราะผ่านผู้ชายมาเยอะแล้ว คงพอรับไหว% s: J) t8 E3 B& ?
% K3 {" T) N. w9 uพอผมได้ยินอย่างนั้นเข้าก็หมดอารมณ์ทันที เพราะรู้สึกว่าเสียศักดิ์ศรีลูกผู้ชายอย่างมากที่โดนผู้หญิงปฏิเสธ ผมรู้สึกว่าตัวเองเหมือนสัตว์ประหลาดที่ผิดมนุษย์ ผมเลยแต่งตัวแล้วกลับบ้านทันทีโดยไม่ยอมเปลี่ยนคนใหม่ ไม่ขอเงินคืนด้วยเพราะว่าอายแม่เล้า ทั้งอายทั้งเจ็บใจครับ
# _- f3 ?5 f" m$ U/ I
" ^/ U+ Y) C' }: [! Z# ?) rวันรุ่งขึ้น เจ้าเพื่อนที่ไปเที่ยวซ่องด้วยกันก็เอามาคุยฟุ้งในห้องถึงรสสวาทที่ได้รับมาจากซ่อง มีแต่ผมเท่านั้นที่นั่งหน้าบูดอยู่เพราะอารมณ์ไม่ดีมาตั้งแต่เมื่อคืน นอกจากความอับอายแล้วผมยังรู้สึกหงุดหงิดอีกด้วยเพราะความต้องการไม่ได้ระบายออก (ก็อย่างที่บอก ตอนนั้นยังช่วยตัวเองไม่เป็นเลยครับ) เพื่อนมันก็แซวว่าสงสัยผู้หญิงที่นอนกับผมต้องไปพักฟื้นแน่เลยเพราะเครื่องพัง ผมฟังแล้วยิ่งโมโหเลยเดินหนีออกจากกลุ่มไป ทิ้งให้ทุกคนงงในพฤติกรรมของผม ใครมาถามผมก็ไม่ตอบ เอาแต่เงียบลูกเดียว เพราะปกติผมก็เป็นคนเงียบๆอยู่แล้ว...
( ^# m+ A6 y! N1 Q* ?8 v. U s7 }% ^4 }( j
เย็นวันนั้น หลังเลิกเรียน ทุกคนออกจากห้องกันไปหมดแล้ว เหลือผมเป็นคนสุดท้าย นั่งคิดอะไรเพลินๆอยู่ก็เห็นก้อยย้อนกลับเข้ามาในห้อง
( \/ c+ X2 P4 m1 c1 t- G d A# P" Q8 s, ?: W4 J- n
“เฮ้ย หนึ่ง ทำไมยังไม่กลับวะ” ก้อยทัก
. B1 f0 f6 {* o) L* p
; H+ _, j9 K oเงียบ ผมไม่ตอบเพราะไม่รู้จะตอบว่าอะไร5 v7 n: U- l2 _: Z
0 {& {7 B' I2 r3 o% h6 _* f1 A: E“นายหนึ่ง ทำไมวันนี้หน้าตาไม่ดีเอาเลย เมื่อคืนไปเที่ยวมาน่าจะมีความสุขนะ” ก้อยพูดต่อ ถึงก้อยไม่ได้ไปด้วยแต่ก้อยก็นั่งฟังเจ้าเพื่อนกลุ่มนั้นคุยมาตั้งแต่ตอนกลางวันแล้ว
# Q( m) }. q) c5 `% ]( H1 g" J2 a) A: N4 o
“เฮ้ย หนึ่ง เป็นอะไรไปวะ ปล่อยให้เราพูดคนเดียวอยู่ได้”5 }, N0 @0 O# Y' E2 R1 |; a+ ]
) O- @- O" z& ~: w7 q s% o7 M“ไม่มีอะไรหรอก” ผมตอบ แต่หนึ่งไม่เชื่อ
' }1 e$ Q; b, l) Y8 D% J; D* t/ m# W- F7 @. n& ]+ V) N
“เฮ่ย มีอะไรก็เล่าสู่กันฟังได้นะ เผื่อว่านายจะสบายใจขึ้นบ้าง” ก้อยพยายามปลอบใจผม แต่ผมก็ยังไม่ยอมเล่าอยู่ดี เรื่องน่าอายแบบนี้จะเล่าได้ยังไง แม้ว่าก้อยจะป็นเพื่อนที่ผมสนิทที่สุดก็ตาม& b6 X$ M# m2 i9 [
( i0 ]3 S# C6 x" x“เอา ไม่เล่าก็ไม่เล่าวะ เอายังงี้ นายอย่าเพิ่งกลับบ้านเลย ไปเที่ยวบ้านเราไหม เผื่อจะสบายใจขึ้น”' q1 n$ y6 t( {/ K; F/ f7 H
7 f. F' ]3 f0 W% P4 O+ B9 \& Hเมื่อก้อยเปลี่ยนเรื่องพูด ผมรู้สึกขอบคุณก้อยในใจที่ทำตัวเป็นเพื่อนที่ดี และหวังที่จะช่วยผมโดยไม่คิดสอดรู้สอดเห็น ผมก็เลยตอบตกลงว่าจะไปเที่ยวบ้านก้อย7 z/ i, Y8 E/ `& K# L* [
8 q+ {- F/ P- f
บ้านของก้อยอยู่ในอำเภอซึ่งเป็นย่านพักอาศัยของคนที่มีฐานะดี เป็นบ้านขนาดปานกลาง ไม่ใหญ่ ไม่เล็ก ตกแต่งดี น่าอยู่ ดูก็รู้ว่าเป็นครอบครัวที่มีฐานะ ต่างจากบ้านของผมที่เป็นครอบครัวชาวสวนอยู่ที่กิ่งอำเภอ
# V/ X2 C4 i( }, H" ?2 K2 g+ W# A( ] C8 m
ก้อยพาผมไปไหว้พ่อแม่ของเขา จากนั้นก็เลี้ยงน้ำและขนมผม แล้วพาผมขึ้นไปที่ห้องนอนของก้อย ห้องนอนนอนของก้อยขนาดกะทัดรัด จัดอย่างเรียบร้อย ดูน่าอยู่ ผิดกับห้องของผมที่รกรุงรัง ก้อยเอาเทปเพลงมาให้ผมเลือกเพื่อจะเปิดให้ผมฟัง พลางก็อวดเครื่องเสียงชุดเก่งที่ก้อยภูมิใจมาก ครับ ก้อยเป็นคนชอบฟังเพลงมากทีเดียว รวมทั้งยังหลงใหลเครื่องเสียงอีกด้วย
2 d! V! ~3 a% d: R' m
% ?! A5 s( o+ I, `& _! `# z( fก้อยชวนผมคุยนั่นคุยนี่โดยไม่ถามถึงเรื่องที่ผมหน้าบูดตลอดวันอีกเลย จนผมรู้สึกเกรงใจในความดีของก้อย หลังจากนั้นมาผมก็รู้สึกว่าสนิทกับก้อยมากขึ้นกว่าเดิม และมักไปนั่งฟังเพลงจากเครื่องเสียงชุดเก่งของก้อยบ่อยๆ
) z( i9 h, ^7 e# \/ b; q F% n/ r
4 u3 ], l2 Y k! l3 T, s- f2 v5 ?2 `: w% Q/ t: o. L3 f9 V0 c
- }# E' G# v: k8 L/ @( _, w+ h! K
---
& g0 M; v& D8 E4 }& [7 Bใครว่าใหญ่แล้วดี (2) : รักครั้งแรก
4 T* Q4 X- G! p% y# cเขียนโดย หนึ่ง# S, ]- H& U% [
หลังจากการเที่ยวซ่องครั้งนั้น พวกเพื่อนๆที่ไปมาแล้วต่างก็ติดใจ พากันไปอีก เพื่อนในห้องที่ไม่เคยไปก็ทยอยกันติดสอยห้อยตามคนที่ไปแล้วมั่ง ไปๆมาๆก็ไปเที่ยวซ่องกันกว่าครึ่งห้องแล้ว แต่ก็ไม่ได้ไปบ่อยหรอกครับเพราะว่าไปแต่ละทีต้องใช้เงิน เด็กต่างจังหวัดนั้นไม่ได้มีฐานะแบบเด็กกรุงเทพฯหรอกครับ ก็เลยไปได้ไม่บ่อยนัก แต่ผมไม่ได้ตามไปด้วยอีกเลยเพราะเสียความรู้สึกจากการเที่ยวครั้งก่อนมาก แต่ก็อ้างกับเพื่อนๆว่าไม่มีเงิน เพื่อนๆก็พากันแปลกใจว่าชวนทีไรก็ไม่มีเงินสักที ในขณะเดียวกันผมก็เริ่มสังเกตว่าก้อยก็ไม่เคยไปเที่ยวซ่องกับเพื่อนๆเลยทั้งๆที่บ้านก็มีฐานะดี" A( p6 L% Q" s6 P2 t
4 D. G! V2 c4 w% Sและแล้ว วันหนึ่ง ความลับของผมก็แตก เพราะเพื่อนของผมคนหนึ่งบังเอิญได้ไปนอนกับผู้หญิงคนที่เคยปฏิเสธผม แล้วไอ้เพื่อนผมนี่มันช่างคุยเสียด้วย ชวนผู้หญิงเขาคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ จนในที่สุดผู้หญิงเขาก็เล่าว่าเคยมีแขกคนหนึ่ง เคใหญ่ยังกับม้า จนเธอไม่กล้านอนด้วย1 T* @) m6 w4 ^5 t5 k, \* R* O9 `
) D, J/ l- M: Y% _1 L- mพอพูดถึงม้าเท่านั้นแหละ มันก็นึกถึงผมขึ้นมาทันที (เพื่อนๆก็ยังเรียกผมว่าไอ้ม้ามาตลอด) ไล่เรียงกันจนในที่สุดก็ได้รู้ความจริงว่าคืนนั้นเกิดอะไรขึ้นกับผมในซ่อง และทำไมผมถึงได้หน้าบูดในวันต่อมา
+ o+ m! q/ v( n% M& h* n* A' @
( b3 y% M+ S" c, qเท่านั้นแหละครับ เจ้าเพื่อนปากสว่างมันก็เอาไปโพนทนาในห้องเรียนทันที สมัยนั้นก็ยังเด็กๆกัน เป็นวัยคะนอง เรื่องที่จะมารักษาน้ำใจหรือความรู้สึกกันไม่ค่อยคิดถึงหรอก เอาแต่ความสนุกสนาน ผมก็เลยกลายเป็นตัวตลกประจำห้องไปอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ใครๆก็พากันตื่นเต้นมาขอดูเคผมกันใหญ่ ผมก็ได้แต่เดินหนี แต่ในใจนั้นทั้งเจ็บ ทั้งอาย ผมรู้สึกว่าเจ้าน้องชายประจำตัวของผมมันเป็นปมด้อยอย่างใหญ่หลวงในชีวิต ผมเคยคิดมากจนต้องนอนร้องไห้ทั้งคืน
i" P9 n; m8 E) j% @* l1 c6 k3 d$ e# Z E6 ^/ I) z
ในขณะที่ผมต้องขมขื่นใจกับการล้อเลียนของเพื่อนๆนั้นเอง ก้อยเป็นคนเดียวที่ไม่เคยล้อผมเลย ทั้งไม่ล้อและไม่ถามถึงเรื่องเคของผม ไม่ถามถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในซ่อง มีแต่คอยชวนคุยเรื่องอื่นๆที่ทำให้ผมสบายใจขึ้น ผมเองแม้จะสนิทกับก้อย แต่ก็รู้สึกอายที่จะพูดถึงเรื่องปมด้อยของตัวเอง ก็เลยไม่เคยพูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องความไม่สบายใจของผมเลย ทั้งๆที่ใจจริงแล้วก็อยากให้มีคนมาฟังผมระบายอยู่เหมือนกัน9 K2 }8 u [9 W2 A
& t8 P6 c7 [ p. Vเมื่อผมจบชั้น ม.5 ผมได้ไปทำงานในตัวเมืองในช่วงปิดภาคฤดูร้อน เพื่อหารายได้พิเศษ เป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร ที่นั่นผมได้รู้จักกับนักเรียนหญิงที่มาทำงานหารายได้พิเศษช่วงปิดเทอมเช่นกัน เธอชื่อสุดา5 F- s z3 f: {: `; D
: C# b$ r% ^; U$ ^5 Jสุดาเป็นคนน่ารัก เธอเป็นนักเรียนของโรงเรียนสตรีประจำจังหวัด ดังนั้นจึงรอบรู้และคล่องกว่าผมมาก สุดาเป็นคนคุยเก่ง พูดจาคมคาย เธอมักชวนผมคุยนั่นคุยนี่เสมอ นานวันเข้าก็เลยกลายเป็นความสนิทสนมกัน
$ H5 h( _* I( p9 w! L' _8 v: ?
4 m3 a9 ~" ~6 b8 A! Q; T% Mเมื่อทำงานที่ร้านอาหารนั้นได้ 2 เดือน ผมก็รู้สึกว่าผมหลงรักสุดาเข้าให้แล้ว สุดาน่ารักถูกใจผมไปหมดทุกอย่าง ผมอยากขอให้เธอเป็นแฟนของผมแต่ก็ไม่กล้าพูด เราสนิทกันมากขึ้น บางวันหลังเลิกงานตอนเย็น ผมมักพาสุดาไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะเสมอ ที่นั่นบรรยากาศร่มรื่น ตัวสวนมีพื้นที่กว้างมาก มีบึงน้ำอยู่ตรงกลาง รอบๆปลูกทั้งไม้พุ่มและไม้ขึ้นต้นเต็มไปหมด เธอกับผมชอบมานั่งเล่นริมน้ำและคุยกัน
8 {8 z, N9 d% c0 w3 T( v& [# S; p( a" X$ }- R
ใกล้เปิดเทอมเต็มทีแล้ว อีกไม่กี่วันเราก็ต้องเลิกทำงานที่ร้านอาหารและแยกย้ายกันไปเรียนต่อตามเดิม เย็นวันหนึ่งผมจึงตัดสินใจหยั่งเชิงสุดา ดูว่าเธอชอบผมและคิดจะเป็นแฟนกับผมหรือไม่ ผมชวนเธอไปนั่งคุยที่สวนสาธารณะตามเดิม แต่วันนั้นผมเลือกนั่งบริเวณที่มีพุ่มไม้หนาทึบเป็นพิเศษเพื่อจะได้พร่ำพรอดกับเธอโดยไม่มีใครเห็น4 j6 y' x/ L& C, b- Q) c0 @/ p0 [( Y
9 v( Z7 \# I/ c/ a( ~9 W" Q
ผมกล้าๆกลัวๆอยู่นาน ในที่สุดเห็นว่าค่ำแล้ว หากไม่ทำอะไรเลยวันนี้ก็คงไม่มีโอกาสหยั่งใจเธอ ผมจึงตัดสินใจเอื้อมมือไปจับมือสุดา (ตั้งแต่คบกันผมยังไม่เคยจับมือถือแขนเธอเลยครับ) สุดานิ่งเฉย หันมายิ้มให้ ผมได้ใจเลยเอามือเธอมากุมไว้ในสองมือของผม
. k# [% Z( r1 Z, h) y2 H1 g }* ^# z5 r# C; `2 a6 F
เมื่อเห็นว่าสุดามีใจให้ผม ผมจึงเอาแขนไปโอบเธอไว้ สุดาหันมายิ้มให้แล้วพูดว่า9 {/ j5 K- [& [ O" s5 F) ^
8 a% @1 V' m- I0 N“อยากให้หนึ่งทำอย่างนี้มานานแล้วล่ะ ทีแรกดายังนึกว่าหนึ่งไม่ชอบดาเสียอีก”" |. O3 r7 i8 f2 o% [
2 w- B l( N: @2 b9 N* P. {ได้การ เมื่อหัวใจตรงกันอย่างนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากแล้ว ผมโอบกระชับเธอเข้ามาอีก ขณะเดียวกันสุดาก็ซบหน้าลงที่หน้าอกผม ใจผมเต้นตึ้กตั้กจนสุดารู้สึกได้
# r I* Z+ _' X7 r' w2 v- |# A: `# m3 Y' U A$ l0 d
“หนึ่งตื่นเต้นมากเหรอ” สุดาพูดปนหัวเราะ
! x$ b' U" j1 f0 h( a9 ]* P) l+ b
% B$ _! @ |4 Z6 u+ C$ I( [) O“ฮื่อ ใช่” ผมยิ้มอายๆ ดูสุดาจะเขินอายน้อยกว่าผมเสียอีก คงเป็นเพราะเธอเป็นเด็กในเมืองนั่นเอง จึงประสีประสาในเรื่องรักมากกว่าผม
7 k$ w) v5 a5 G9 C$ g& m1 V9 i( s$ f5 R' G) ~/ B
“หนึ่งชอบดานะ ชอบมากเลย หนึ่งจริงจังกับดามาก แต่ไม่รู้ว่าดาชอบหนึ่งไหม เรา เรา เราจะเป็นแฟนกันได้มั้ย”& g( l9 n- `; ^- i
`2 l- d8 l/ c: r% k6 v
“ดาก็ชอบหนึ่งเหมือนกัน ที่มานั่งคุยกันแบบนี้แล้วยังไม่เรียกว่าเป็นแฟนกันอีกเหรอ”' C! L }# o3 M/ C& _9 h+ h( D
x2 W- E$ w! Z9 |% Dผมดีใจมากที่สุดาไม่รังเกียจเด็กชาวสาวนอย่างผม ผมจับมือสุดาขึ้นมาหอมเบาๆ อย่างที่เคยอ่านจากในนวนิยาย
+ h! a2 B7 T; X5 t& u: S2 n8 o y- a9 Q+ \! \- i7 O# B
“ดาชักง่วงแล้วล่ะ” สุดาพูดยิ้มๆ! m0 ]* k8 S( y1 n0 W7 R( f
$ U, G9 p: D: A# f9 k" B
“ยังงั้นเรารีบกลับกันก็แล้วกัน” ผมอึ้ง พูดด้วยความเสียดาย เพราะเราเพิ่งประสานใจเข้าหากัน ต้องแยกย้ายกลับบ้านกันเสียแล้ว
6 u& X$ Z1 U+ j7 n2 [( C3 f; X, G+ Q( Q/ v; Z- F. ~# v4 \
“ไม่เอา เราอยากนอนตรงนี้ เย็นสบายดี”
7 q! {2 o8 _3 r. b3 G% J4 D0 n6 i _4 @( Q) d
“จะนอนได้ยังไง หัวหูเปื้อนหมดสิ เสื่อก็ไม่มี หมอนก็ไม่มี” ผมว่า
8 {5 x4 y( M" l
+ p. O& }4 h+ }- \+ k0 X) h“โธ่เอ๊ย หนึ่งล่ะก็ มีอะไรดาก็หนุนได้”0 x8 I: x2 I9 @- y3 @' {
% K& x7 \0 M# u$ J6 e4 Kคราวนี้ผมค่อยเข้าใจว่าสุดาหมายถึงอะไร เธอคงไม่ได้อยากกลับไปนอนที่บ้านจริงๆหรอก ไอ้ผมมันซื่อบื้อ ทีแรกไม่ทันคิด แต่ไม่เป็นไร คิดได้ตอนนี้ก็ยังไม่สาย
* @- w. { a) l( t; J/ f/ ^
6 \6 \) U9 q0 @/ u p7 `“ยังงั้นดานอนหนุนตักหนึ่งก็แล้วกัน” ผมว่า เด็กวัยรุ่นสมัยนี้ก็ไวไฟยังงี้ละครับ- C* k* {- @# V3 ~' \/ ^
. f5 q4 \7 S9 }9 }, J0 G9 [4 dสุดาไม่อิดออดแม้แต่น้อย ขยับตัวนิดหน่อยแล้วล้มลงนอนบนตักผมทันที ตอนนั้นเป็นเวลาพลบค่ำแล้ว แถมยังอยู่ในพุ่มไม้ รับรองไม่มีใครเห็นเราสองคนแน่ ดูเธอก็ไม่ได้เหนียมอายเท่าไร คงเห็นเป็นเรื่องธรรมดาของวัยรุ่นในยุคนี้ ยิ่งเธอเป็นเด็กในเมืองอีกด้วย วิถีชีวิตจึงค่อนข้างทันสมัย
! C/ }5 x6 A3 N8 y6 k: _ v0 G
1 z. m, j5 w. ?1 n& L; uสุดานอนหนุนตักผมเพียงครู่เดียวผมก็รู้สึกเกิดอารมณ์เพศขึ้นมาอย่างรุนแรง เร็วเท่าความคิด เจ้าน้องชายประจำตัวผมมันก็ขยายตัวทันที เนื่องจากน้องชายของผมยาวมาก มันจึงดันกางเกงจนตุง ผมอายมาก พยายามขยับหัวสุดาออกไปให้พ้นจากรัศมีของเจ้าน้องชายผม แต่ช้าไป เธอรู้สึกถึงมันได้เสียแล้ว5 E. A" l" J9 |/ U% H$ p. y
M7 ~: a# a+ h: ?1 q/ X* G2 }' K8 o“อะไรแข็งๆน่ะ” สุดาลุกขึ้นมา ผมอายแทบแทรกแผ่นดิน เธอคงรู้แต่ยังแกล้งถาม คงอยากเย้าผมเล่น6 L+ v/ D% F6 V& z2 t
/ H s! i! ~9 s$ c8 l4 m# ^* ^. k+ Pเมื่อเธอเห็นผมอายมาก คงกลัวว่าผมจะเสียหน้า จึงพูดกับผมว่า
. n4 g7 D ]3 D7 N' X: S% b9 X% h, X) ^" F* N1 X
“ไม่เป็นไรหรอกหนึ่ง มันของธรรมชาติ ไม่น่าอับอายอะไรหรอก”$ ^$ N9 E( D: k+ K K4 m$ h
+ M$ Z, m; v0 T! W9 Kผมรู้สึกดีขึ้นบ้าง แต่เจ้าน้องชายประจำตัวก็ยังไม่ยอมสงบ มันยังคงแข็งตุงกางเกงอยู่อย่างนั้น สุดาก็เห็นเพราะร่องรอยของมันเห็นได้ชัดเจนมาก3 x+ r: ^- z9 V0 k# o/ P+ k8 V. @
1 ^9 ^+ f% w A! ]“หนึ่ง สุดาขอลองจับดูหน่อยได้ไหม เคยเรียนแต่ในวิชาสุขศึกษา แต่ไม่เคยจับของผู้ชายจริงๆเลย” สุดาพูด คงนึกอยากรู้อยากเห็นตามประสาวัยรุ่นยุคโลกาภิวัตน์ ผมทั้งอายและตกใจ รีบปฏิเสธไปทันที แต่สุดายังออดอ้อน
' c% M8 v% g |# q& u; N# n$ L! T$ `4 ? J3 w
“น่า นะ หนึ่งนะ เป็นแฟนกันจับแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก เรื่องธรรมดาจะตาย เพื่อนๆดาบางคนมีอะไรกับแฟนมากกว่านี้อีก หรือหนึ่งไม่คิดว่าดาเป็นแฟน”3 s' ^) V/ b0 b) V1 k4 T) }
0 s/ C- y0 l: Y+ T aโดนไม้นี้เข้าผมก็ปลื้มน่ะสิครับ เพราะนั่นเท่ากับว่าสุดายอมรับผมเป็นแฟนของเธอแล้ว ผมกลัวเธอโกรธจึงยอมให้สุดาจับเจ้าน้องชายของผมในที่สุด เธอจับแล้วบีบเบาๆ “อึ๋ย แข็งจัง”; t3 b# r" x% T- x9 H8 e" h' ~
& L7 R i/ v3 X6 |' r
เมื่อโดนเธอจับและบีบ อารมณ์ของผมยิ่งลุกโชน ทำให้เคของผมยิ่งแข็งมากขึ้น แข็งจนผมรู้สึกเจ็บ ความต้องการตามธรรมชาติบอกให้ผมเอื้อมมือไปจับหน้าอกเธอเบาๆบ้าง6 ?) g; V Y/ k& K a
5 B8 A% x9 @+ p! \! j5 X" n+ F
สุดานิ่งเฉย ยอมให้ผมจับอกแต่โดยดี แล้วเธอก็บอกว่า3 }: ]4 E E) o* r& g
, q! [1 B: O9 b+ @
“หนึ่ง ขอดาดูของหนึ่งหน่อยสิ อยากเห็นจัง”
& h0 Q2 z. K/ f" N5 Y$ L5 T; V |
คะแนน
-
ดูบันทึกคะแนน
|