+ d3 k! \ O+ x
อันนี้ฉบับแก้ไข และเพิ่มเนื้อหาใหม่ๆ
สามารถติดตามเพิ่มเติมได้ที่ ธัญ พิมพ์ชื่อเรื่อง
ชิต (ราชาฝูง / พระเอก)
) [/ n7 \( @4 H
แก้ว (กะเทยในหมู่บ้าน)
) e5 a( ^- y) I4 v4 I5 h
แทน (ลูกผู้ใหญ่บ้าน)
/ Q: B2 ^. v. J" p& L! x
- อายุ 23 หนุ่มเกเร ดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ใจร้อน
หลังได้ชิมชิต → กลายเป็นทาสปรสิต → จุดเริ่มของการแพร่ไปยังชายอื่น
5 D7 Q" n: e6 A8 [5 P
& F! d4 ^2 t6 {$ p: K. Q+ n
/ i' {, U& w( v4 R$ C. e ]
0 C+ v3 q1 T* x$ K, {8 m
& [) \4 X% T# c3 R- J) G; n9 i+ R* B
$ w, l+ V/ `; N# @0 d& z3 r# ~1 ]/ d
' C8 s4 o9 z' ^8 a i% j- d7 J
0 B2 V# g6 O3 `2 b! v7 m5 p
1 F2 q7 t) o! @3 @8 s9 _% ?2 e
# J9 S" m- |% e3 [9 |1 G' O/ B9 Q
1 ~& z8 _6 c. N, g0 } {& J
ระยะที่ 1 – กำเนิด + แฝงตัว
+ e- `; y% o4 m, h W. X$ d
ระยะที่ 2 – การยึดร่างเริ่มต้น
! r/ I, c- Y$ \. f2 t2 s- K
; f5 ~& b+ _ T9 t5 b( X5 J N# I# I+ l
ระยะที่ 3 – การแพร่พันธุ์
/ Z; e( K4 n! {& ]3 j- ?' W+ j
* F; j) B6 x1 K: n. P" b0 \ k& `* j, M
2 q4 K! u1 q, ?0 _" o) V/ R
* S7 _& A( l: i: I5 i, i: U- ใหญ่ ยาว เรียวสวย ได้รูปเหมือน “งานปั้น”
- หัวแดงสดเหมือนผลทับทิมสุก → เป็นจุดเด่นสะดุดตา
- ผิวลำขาวเนียนสะอาด แม้ทำงานกลางแดด
- เส้นเลือดรอบท่อนลำชัดเจนเวลาตั้งชัน
7 m( X* {% ~, Z. v3 f* b0 ]- r
( e4 V" b+ P3 |2 W
ช่วงปกติ (ก่อนปรสิต)
( K2 G) F+ z; m( K
" `! p5 j L' V; `5 q5 ~3 j7 @8 M1 ]) q0 P; x
( \: s* A9 ]% D5 L3 j& w- น้ำหวานกว่าคนทั่วไปเล็กน้อย
- กลิ่นหอมต้องดมใกล้ ๆ ไม่ลอยออกมา
& A! A0 A. O. ^0 z) ~! y! Q' \+ I+ V
ช่วงหลังปรสิต
2 x. @2 t v4 ~& Z: p
; i( g3 Z3 \. ~2 Y. v' Y/ i& r
1 B' T* e4 |5 T# K, L
8 r: H- N7 X1 x1 H' W- น้ำเงี่ยน (ใส) ไหลออกตลอดเวลา เป็นสัญญาณ “มีอารมณ์”
- น้ำเชื้อ (ขาว) แตกแรง พุ่งกระฉูดไม่หยุด
- รสหวานกว่าช่วงปกติ → คนที่ได้กินติดใจ
- กลิ่นหอมหวานจาง ๆ ค่อย ๆ แรงขึ้นตามการเจริญเติบโตของปรสิต
- ทุกหยดถูกกินหมดเสมอ (กฎของฝูง: กินหมดไม่เหลือ); T+ W0 V: R3 g8 O* \; R$ q5 S
4 f m" A2 H& x1 W/ X( x! w
- ไม่เคยช่วยตัวเอง → ทุกการปล่อยจึง “สดใหม่บริสุทธิ์”
- ถูกคนพาไปลับ ๆ บ่อย เพราะไม่ระวัง / ไม่เข้าใจเรื่องทางโลก
- รู้สึกอาย แต่ก็ไม่เคยห้ามใครได้จริง → จึงกลายเป็น ของกลางหมู่บ้าน
- หลังปรสิตเข้าร่าง → ยิ่งถูกรีดก็ยิ่งแข็งแรง แทนที่จะเหนื่อยกลับมีแรงเพิ่ม7 X, l9 `0 `, Y; ~! E
) ~$ f/ T5 ^) f o
ตอนที่ 1.1 – หมู่บ้านและชีวิตประจำวัน
ตอนที่ 1.1.1 – เปิดบรรยากาศหมู่บ้าน
แสงอาทิตย์แรกยามเช้าสาดลงมาบนทุ่งนากว้างใหญ่ ละอองหมอกยังลอยเหนือผืนนาและหนองน้ำที่ทอดยาวราวกับทะเลเล็ก ๆ ของหมู่บ้านแห่งนี้ เสียงไก่ขันแว่วก้องไปทั่ว เสียงจักจั่นเริ่มเร่งจังหวะราวกับบรรเลงเพลงต้อนรับวันใหม่
หมู่บ้านแห่งนี้มีบ้านไม้ไม่ถึงห้าสิบหลังเรียงรายกันเป็นกลุ่มเล็ก ๆ หลังคาสังกะสีบางหลังก็เป็นสนิม บางหลังก็ยังคงใช้ฟางคลุมเหมือนเมื่อหลายสิบปีก่อน ที่นี่ไม่มีถนนลาดยาง มีเพียงทางดินและสะพานไม้ไผ่ทอดไปตามคันนา ผู้คนรู้จักกันทุกคน แค่เห็นเงาก็รู้ว่าใครเดินมา
วิถีชีวิตของคนที่นี่เรียบง่าย แต่หนักแน่น ทุกเช้า ผู้ใหญ่จะหาบน้ำใส่โอ่ง เด็ก ๆ วิ่งตามควายร้องเล่นเสียงดัง บ้างก็ถือหนังสติ๊กวิ่งตามนกกระจอก เสียงหัวเราะเจื้อยแจ้วกลายเป็นส่วนหนึ่งของความสงบสุขที่คงอยู่มานานแสนนาน
หนองน้ำทางทิศเหนือของหมู่บ้านคือหัวใจสำคัญ ทั้งเป็นแหล่งหาปลา ที่เล่นน้ำ และเป็นเหมือนสถานที่นัดพบในยามเย็น ผู้เฒ่าผู้แก่บอกต่อกันว่า หนองน้ำนี้มีมานานกว่าหมู่บ้านเสียอีก ใครแตะต้องก็มีแต่โชค แต่ห้ามลบหลู่ เพราะมันคือ “ที่อยู่ของวิญญาณเก่าแก่” ที่คอยดูแลผู้คนมาตลอด
& L( Q9 b6 L; E5 p4 N7 _3 \
แม้ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจตำนาน แต่ต่างก็รู้ว่าหนองน้ำแห่งนี้มีบางสิ่งบางอย่างไม่ธรรมดา เพราะเวลาค่ำ ความเงียบของมันไม่เหมือนหนองน้ำทั่วไป มันมักมีเสียงประหลาดแทรกมาเป็นระยะ คล้ายเสียงพึมพำจากใต้ผิวน้ำ
ยามเช้าของหมู่บ้านจึงเต็มไปด้วยกลิ่นฟืน กลิ่นข้าวหอม และเสียงควายที่ถูกจูงไปนา ส่วนยามค่ำคือความเงียบสงัดจนได้ยินแม้แต่เสียงใบไม้เสียดสีกัน ทุกสิ่งดูธรรมดาเรียบง่าย…แต่กลับแฝงด้วยเงาที่รอวันปรากฏ
, Z' M2 b! [4 A2 }( c8 W! \
ตอนที่ 1.1.2 – วิถีชีวิตของชิต
ท่ามกลางผู้คนในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ใคร ๆ ต่างก็พูดถึงอยู่เสมอ—ชิต
ชิตอายุยี่สิบสองปี หน้าตาคมเข้ม ผิวสีแทนจากการทำงานกลางแดดทุกวัน เขาอาศัยอยู่เพียงลำพังในกระต๊อบไม้เก่า ๆ ริมทุ่งนา หลังพ่อแม่เสียชีวิตตั้งแต่เขายังเป็นวัยรุ่น สิ่งเดียวที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้คือที่นาผืนเล็กกับควายแก่หนึ่งตัว นอกนั้นเขาต้องพึ่งแรงกายของตนเอง
7 F+ [" n: ~! K- h5 }: P1 K6 ^
ชีวิตของชิตเรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า เขาตื่นเช้ากว่าคนอื่นเสมอ ออกไปดูนาก่อนแดดจะร้อน ตรวจร่องน้ำ ดูว่าต้องซ่อมคันนาหรือไม่ ก่อนจะกลับมาหาบน้ำเข้าบ้าน จุดไฟหุงหาอาหาร ข้าวเช้าเรียบง่ายที่สุดคือข้าวสวยกับปลาย่างหรือผักต้มที่เขาเก็บมาจากสวนหลังบ้าน
: ^9 ] @9 v1 a6 \! U1 z- L7 d
กลางวันเขามักอยู่ที่ทุ่งนา ร่างกายกำยำจากการทำงานหนัก เสื้อผ้าที่ใส่ส่วนใหญ่คือผ้าขาวม้าเก่า ๆ หรือกางเกงทำงานที่ซักจนซีด บ่อยครั้งเขามักลงไปหว่านแหหาปลาในหนองน้ำ—เสื้อผ้าเปียกชุ่ม ร่างกายแน่นตึงจนผ้าที่สวมอยู่แทบไม่อาจปิดบังรูปทรงได้
นี่แหละที่ทำให้ชิตกลายเป็นเป้าสายตาของใครต่อใครในหมู่บ้าน
2 A9 Q$ n! e+ o7 S O/ [9 ]
สาว ๆ มักแอบมองเขาตอนยกน้ำใส่โอ่ง เห็นกล้ามแขนเป็นมัด ๆ ขณะที่กะเทยวัยรุ่นก็พูดกันลับ ๆ ว่าเพียงแค่เห็นเขาเดินผ่านตลาดก็ใจเต้นแรงเหมือนจะขาดลม บางคนถึงขั้นแอบตามไปดูเวลาชิตลงน้ำหาปลา หวังได้เห็นร่างกายแน่นตึงกับท่อนลำที่ปูดออกมาในกางเกงในเก่า ๆ
% f$ }* ~( M, c9 z2 `( G, L, G0 a
แต่ชิตเองกลับไม่รู้ตัว เขามีเพียงความอายทุกครั้งที่รู้ว่ามีคนมอง เขาไม่เข้าใจความหมายของการถูกแอบเล็งหรือการถูกลอบแตะต้อง เขาคิดเพียงว่า “เราแค่จนเกินไป ไม่มีใครคิดจริงจังหรอก”
5 N/ f+ T7 b1 }: Y+ A% s& E3 h, B
สิ่งหนึ่งที่คนใกล้ชิดรู้กันดีคือ ความซื่อของชิต เขาแทบไม่เคยออกไปเที่ยวกับใคร นอกจากไปช่วยงานบุญหรืองานวัด เขามักทำงานจนเหนื่อยแล้วกลับมานอนเงียบ ๆ ในกระต๊อบ หลายครั้งที่เพื่อนบ้านมาเรียกไปช่วยยกของหรือทำงานใช้แรง ชิตก็มักยอมทุกครั้งโดยไม่เคยปฏิเสธ
ความไม่รู้เรื่องโลกและความซื่อเกินไปนี้เอง กลับกลายเป็นจุดอ่อนที่ทำให้เขาตกเป็นเป้าของผู้คนที่หวัง “ลอบได้” โดยที่เจ้าตัวไม่เคยบอกใคร…
ตอนที่ 1.1.3 – คนในหมู่บ้านมองชิตอย่างไร
แม้ชิตจะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายและซื่อเหมือนหนุ่มบ้านไร่ทั่วไป แต่สำหรับสายตาคนในหมู่บ้าน เขาไม่เคยเป็น “ธรรมดา” เลย
เวลาชิตเดินผ่านตลาดนัดประจำสัปดาห์ มักมีสายตาหลายคู่เหลือบตามอง ไม่ว่าจะเป็นแม่ค้า ผู้เฒ่า หรือแม้แต่เด็กสาววัยรุ่นที่หัวเราะคิกคักอยู่หลังแผงผัก กะเทยวัยรุ่นในหมู่บ้านอย่างแก้วก็มักจะกระซิบกับเพื่อนว่า “ของชิตมันไม่เหมือนใคร” ทุกครั้งที่เห็นเขาเหงื่อท่วมหลังเลิกงานนา
ในวงเหล้า หนุ่ม ๆ มักพูดกันลับ ๆ เสียงเบาไม่ให้เจ้าตัวได้ยิน พวกเขาเปรียบเทียบความกำยำและรูปร่างของชิตกับนักมวยในเมือง บางครั้งก็เผลอพูดถึงท่อนลำที่ปูดชัดเวลาเขานั่งพักข้างนา ถึงจะเป็นการหยอกล้อ แต่ลึก ๆ แล้วหลายคนก็แอบคิดอยากได้สัมผัสสักครั้ง
ผู้หญิงบางคนถึงขั้นทะเลาะกันเบา ๆ เพราะต่างเคยเห็น “เงา” ของสิ่งที่อยู่ในกางเกงผ้าขาวม้าของเขาเวลาเปียกน้ำ บางคนบอกว่าเห็นหัวแดงโผล่ชัดเหมือนผลทับทิม บางคนบอกว่าเส้นเลือดปูดจนดูน่ากลัว แต่ไม่ว่าใครก็ยอมรับตรงกันว่า “มันงดงามเกินกว่าจะไม่มอง”
' G% y/ ?0 k1 d* }# j" b( w1 Z
แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือ…ไม่มีใครพูดสิ่งเหล่านี้ต่อหน้าชิตเลย ทุกคนเก็บไว้เป็นเรื่องซุบซิบหลังบ้าน เป็นความลับที่ไม่ถูกเปิดเผยราวกับกฎเงียบ ๆ ของทั้งหมู่บ้าน เพราะทุกคนรู้ว่าเจ้าตัวใสซื่อเกินกว่าจะเข้าใจเรื่องพวกนี้
- {8 `. K4 D" U) T" g' }, a
หลายครั้งที่มีงานบุญหรืองานวัด สายตาที่จ้องมองเขาก็มากขึ้นเป็นพิเศษ ยามค่ำในบรรยากาศแสงไฟสลัว เสียงกลองยาวและเสียงหัวเราะดังลั่น ทุกครั้งที่ชิตเดินไปช่วยงาน เขาจะไม่รู้เลยว่ามีคนแอบตามไปด้านหลัง หรือตั้งใจชวนเขาไปมุมลับ ๆ โดยใช้ข้ออ้างเรื่องงาน ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเงียบ ๆ ไม่เคยมีใครพูดออกมาอย่างเปิดเผย
เด็กหนุ่มบางคนที่อายุน้อยกว่าก็แอบเลียนแบบท่าทางการทำงานของชิต บอกว่าอยากแข็งแรงแบบเขา ขณะที่ผู้หญิงบางคนเฝ้าเก็บภาพเขาไว้ในใจเหมือนความฝันต้องห้าม
แต่ในบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความหมายปองเงียบ ๆ นั้น มีเพียงชิตคนเดียวที่ไม่เคยรู้เลยว่า ตัวเองกำลังถูกจับตามองเหมือน “ของล้ำค่า” ที่ใครก็อยากครอบครองสักครั้ง
# r) c O/ O9 S" Z# Z0 d% W6 `
ตอนที่ 1.1.4 – ความซื่อและความไม่รู้เรื่องของชิต
แม้จะเป็นที่หมายปองของใครหลายคน แต่ชิตกลับไม่เคยคิดว่าตัวเองมีเสน่ห์อะไรเลย เขาใช้ชีวิตประจำวันเหมือนหนุ่มบ้านไร่ทั่วไป—ตื่นเช้าหาบน้ำ, ออกนา, ลงแหหาปลา, กินข้าวง่าย ๆ แล้วนอนพัก—โดยไม่ระวังว่ากิริยาท่าทางของเขาจะไปกระตุ้นความคิดใคร
เวลานั่งพักเหนื่อย เขามักนั่งเอนหลังตามคันนา ขยับผ้าขาวม้าแบบไม่ทันระวัง บางครั้งปล่อยให้ร่องผ้าหลวมจนเห็นเกินจำเป็น ถ้าใครผ่านมาพอดี ภาพนั้นก็ติดตาไปนาน แต่ชิตกลับเพียงยกผ้ามัดใหม่ด้วยความเขิน ไม่คิดว่านั่นคือ “การยั่ว” อย่างไม่ตั้งใจ
/ b L3 y8 }2 l8 r' Q5 L# \0 q
เขาเป็นคนอ่อนน้อม ใครขอแรงอะไรก็ไม่เคยปฏิเสธ ไม่ว่าจะหาบน้ำเข้าบ้าน ช่วยซ่อมรั้ว หรือแม้แต่ถูกชวนให้ไปเก็บของหลังงาน เขาก็มักเดินตามไปเงียบ ๆ อย่างไม่ตั้งข้อสงสัยเลยว่าคนชวนมีเจตนาอื่น
เพราะความซื่อนี้เอง หลายครั้งเขาจึงตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้หัวใจเต้นแรงอย่างไม่เข้าใจ—ถูกผลักให้นั่งพิงผนัง ถูกมือหนาลูบผ่านต้นขา หรือถูกสายตาจ้องลึกจนพูดไม่ออก เขาอายจนหน้าร้อนผ่าว แต่ไม่เคยกล้าขัดขืนเต็มที่ และยิ่งไม่กล้าเล่าให้ใครฟัง
ยามค่ำเมื่อเหนื่อยจนเผลอหลับในกระต๊อบเล็ก ๆ บางครั้งเขาก็ตื่นขึ้นมาเพราะความรู้สึกวูบวาบผิดปกติ แต่เมื่อลืมตาแล้วเห็นเงาคนเคลื่อนไหว เขากลับไม่กล้าพูดอะไร นอกจากแกล้งทำเป็นนอนต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เช้าวันถัดมา เขามักบอกตัวเองว่า “คงฝันไป”
$ }( t7 X: N* d/ C! A- j0 C4 m
ความไม่รู้เรื่องโลกของชิตจึงกลายเป็นทั้งเกราะและบ่วง เกราะเพราะเขายังไม่เปิดเผยความลับให้ใครฟัง แต่เป็นบ่วงเพราะทุกครั้งที่เผลอ เขามักถูก “ลอบได้” อยู่เสมอ และสิ่งที่เกิดขึ้นเงียบ ๆ นี้ กลายเป็นกฎที่ไม่พูดออกมาในหมู่บ้าน—ใครได้ชิมแล้วต้องเก็บเป็นความลับ
; T; R) j- y) Y( n. X+ Z$ {8 `# s
แม้ในใจเขาจะรู้สึกอายและสับสน แต่ลึก ๆ ร่างกายกลับตอบสนองทุกครั้งโดยไม่อาจปฏิเสธ นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ชิตค่อย ๆ เดินเข้าสู่เส้นทางอันลึกลับ โดยไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วโชคชะตาของเขากำลังจะเปลี่ยนไปตลอดกาล…
* B6 I* Q! y. D4 \7 O4 O
! M* ~, ~. }( f9 a; E- H& K# S7 D( b. {7 y/ h. k+ P$ s X# v [