หมายเหตุ : เรื่องราวทั้งหมดเป็นเรื่องที่สมมติขั้น เพื่ออรรถรสในการอ่านเท่านั้น
ช่วงปี 2560 เป็นช่วงที่ทุกโรงเรียนกีฬาพยายามเฟ้นหาตัวนักเรียนมาเรียนและมาเป็นนักกีฬาประจำโรงเรียน เพราะแต่ละโรงเรียนขาดแคลนนักเรียนเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงโรงเรียนสินสมุทรด้วย ซึ่งเป็นโรงเรียนชายล้วนที่มีแต่หัวกะทิของแต่ละด้านเข้ามาแข่งขัน เพื่อให้ได้เรียนในโรงเรียนนี้ที่พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบครบครัน และการเรียนที่ทันสมัยที่สุดในประเทศ
พลก็เป็นนักเรียนอีกคนที่กำลังหาโรงเรียนเพื่อเข้ามาเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พลเป็นคนที่มีความสามารถทางด้านการปั่นจักรยานตั้งแต่เด็ก แต่ที่บ้านของพลนั้นไม่มีเงินเรียนมากพอ พลจึงหาโอกาสในการสอบชิงทุนเรียนโรงเรียนต่างๆ เท่าที่พลมีความสามารถ และพลก็อยากเข้าโรงเรียนสินสมุทรเช่นเดียวกับเด็กชายคนอื่นๆ เช่นกัน
แต่แล้ววันหนึ่งในขณะที่พลไปเดินดูงานแนะแนวของแต่ละโรงเรียน จู่ ๆ อาจารย์ศักดิ์ชัย ซึ่งเป็นอาจารย์แนะแนวของโรงเรียนสินสมุทรก็มาทักทายพล เพราะอาจารย์ศักดิ์ชัยเห็นพลจดจ่อกับหุ่นนักปั่นจักรยานที่ตั้งอยู่ที่บูธของโรงเรียนสินสมุทร
“เธอสนใจอยากเป็นนักปั่นจักรยานเหรอ?” อาจารย์ศักดิ์ชัยเริ่มคุยกับพล พลได้ยินแล้วก็เริ่มตอบกลับไปว่า “ใช่ครับอาจารย์ แต่ผมไม่มีเงินเรียนเลยครับ” อาจารย์จึงให้พลนั่งที่เก้าอี้และพูดคุยกันถึงแผนการเรียน โดยให้พลแนะนำตัวเองกับอาจารย์ได้ฟัง อาจารย์ศักดิ์ชัยรู้สึกสนใจในตัวพลมากๆ พลยังบอกด้วยว่าพลชอบชุดปั่นจักรยานของที่นี่มาก เพราะมันเท่และอยากมีโอกาสเรียนที่นี่
อาจารย์ศักดิ์ชัยจึงแนะนำทุน “นักกีฬาจักรยาน” ของโรงเรียนสินสมุทร ซึ่งด้วยความที่พลสนใจ เนื่องจากเป็นทุนเรียนฟรีจนจบปริญญาตรีโดยที่ไม่มีค่าธรรมเนียมใดๆ เพียงแค่พลเอาตัวเข้ามาในโรงเรียนเท่านั้น ที่เหลือโรงเรียนมีให้ครบหมดแล้ว ที่สำคัญพลแค่สอบสัมภาษณ์เท่านั้น และยื่นพอร์ตนิดหน่อย พลจึงยินดีตอบรับสมัครทุนนี้ทันที
พอดิบพอดี วันนั้นพลเอาพอร์ตมาด้วย อาจารย์ศักดิ์ชัยจึงพาพลมาที่โรงเรียนสินสมุทรทันที โดยให้ครูคนอื่นช่วยเฝ้าบูธไปก่อน โดยก่อนที่อาจารย์ศักดิ์ชัยจะพาพลไปนั้น อาจารย์ก็พามาชมที่หุ่นนักปั่นจักรยานอีกรอบ แล้วพูดว่า “หุ่นชุดนี้เห็นแล้วเป็นอย่างไรบ้าง?” พลตอบว่า “ชอบมากๆ ครับ ถ้าผมมีโอกาสได้ใส่ ผมสัญญาว่าจะทำทุกอย่างเพื่อโรงเรียนครับ” อาจารย์ตอบกลับว่า “ทุกอย่างจริงๆ ใช่ไหม?” พลงงนิดหน่อยแต่ก็พยักหน้า อาจารย์จึงโทรไปที่แผนกกีฬาของโรงเรียน และให้เตรียมเอกสารสามสี่ชุดไว้ให้ แล้วพาพลไปที่โรงเรียนโดยทันที
จุดเริ่มต้นของ “นักปั่นจักรยานประจำโรงเรียน”
หลังจากนั้นพลกับอาจารย์ศักดิ์ชัยก็ได้เดินทางมาถึงโรงเรียน และพาชมแผนกกีฬา ซึ่งในนั้นมีหุ่นโชว์ชุดกีฬาของโรงเรียนมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกีฬาวิ่ง ไตรกีฬา ฟุตบอล ว่ายน้ำ บาสเก็ตบอล วอลเล่ย์บอล รับบี้ รวมไปถึงจักรยานด้วย ซึ่งรายละเอียดของหุ่นแต่ละตัวเหมือนมนุษย์มากๆ เพียงแต่มันไม่มีชีวิต และขยับตัวไม่ได้ รวมถึงมันเงายิ่งกว่าคนทั่วไปเสียด้วยซ้ำ ซึ่งพลดูหุ่นเหล่านี้แล้วรู้สึกว่าตนเองอยากเป็นอย่างหุ่นพวกนี้บ้าง
ในขณะเดียวกันอาจารย์ศักดิ์ชัยก็ดำเนินการเอกสาร และพลก็เดินมาเซ็นเอกสารทั้งหมด ซึ่งพลนั้นด้วยความที่ไม่มีพ่อแม่ เนื่องจากพ่อแม่เสียชีวิต และพลต้องอยู่ด้วยตัวคนเดียว มีเพียงเงินจากประกันที่ได้มาจากอุบัติเหตุ เลยทำให้พลสามารถเซ็นเอกสารได้โดยที่ไม่ต้องมีใครรับรอง และโรงเรียนนี้ก็เป็นโรงเรียนพิเศษที่นักเรียนสามารถสมัครได้เอง จึงไม่มีข้อติดขัด แต่ด้วยการที่พลรีบร้อน และไม่อ่านให้ถี่ถ้วน จึงรีบเซ็นเอกสารทั้งหมดทันที
ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว หนึ่งในเอกสารก็คือ “สัญญาว่าด้วยการมอบชีวิตให้เป็นทรัพย์สินของโรงเรียนสินสมุทร” ซึ่งมีรายละเอียดก็คือร่างกายและชีวิตของพลจะต้องตกเป็นทรัพย์สินของโรงเรียนสินสมุทรตั้งแต่วันที่ลงลายมือชื่อ พลจะไม่มีสิทธิ์ใดๆ ในชีวิตอีก ทุกอย่างต้องได้รับคำสั่งจากโรงเรียนเท่านั้น รวมถึงมอบสิทธิ์ทุกอย่างให้โรงเรียนจนกว่าจะเสียชีวิตด้วย
หลังจากพลเซ็นเอกสารเสร็จ พลก็ไม่ทันตั้งตัวว่ามีผู้ชายสองคนอยู่ข้างหลังและล็อคตัวพลไว้ อาจารย์ศักดิ์ชัยจากที่พูดเพราะก็เปลี่ยนท่าทีทันที “มึงไปเอาเข็มมาให้กูหน่อย” พลตกใจ แต่ไม่ทันได้พูดอะไรก็ถูกฉีดยากล่อมประสาทลงไปทันที พลสลบลงไป และยาตัวนี้เองที่ทำให้อาจารย์ศักดิ์ชัยสามารถตั้งโปรแกรมใหม่ให้กับพลได้
หลังจากนั้นพลตื่นมาอีกครั้งก็อยู่ในสภาพที่ตนเองขยับตัวไม่ได้ พูดไม่ได้ และไม่มีความจำก่อนหน้านี้หลงเหลืออยู่เลย พลไม่สามารถแม้แต่จะกระพริบตาได้ เพราะพลถูกฉีดด้วยสารที่ทำให้ร่างกายแข็งตัวแล้วแต่ทำให้ไม่ตาย และทำให้มีอารมณ์ทางเพศมากขึ้นด้วย
หลังจากนั้นอาจารย์ศักดิ์ชัยจึงเข้ามาดูและพูดว่า “สวัสดีครับ ต่อไปนี้เธอคือที่นอนหมายเลข 0414 เจ้าของเธอชื่อ อดิศร วัฒนบารมี เธอจะมีหน้าที่ก่อนที่จะเข้าศึกษา 1 ปีเพื่อเป็นเย็บรวมเป็นที่รองนอนให้กับนักเรียนแผนกวิทยาศาสตร์ได้นอนนะ เฮ้ย มึงยกมันขึ้นไปที่แผนกโรงนอนนักเรียนวิทย์ ชั้น ม.1 ได้แล้ว” พลไม่สามารถร้องไห้ใดๆ ได้ ทั้ง ๆ ที่ในใจพลนั้นเสียใจมากที่ตัวเองต้องมาอยู่ในสภาพเป็นที่รองนอนให้กับใครก็ไม่รู้
หลังจากนั้นพลถูกนำตัวไปฉีดยาระงับการอยากอาหาร การขับถ่าย และให้น้ำหนักตัวเบาลงเท่ากับตุ๊กตาปกติ เพื่อให้พลอยู่ได้นานตลอดระยะเวลา 1 ปี และนำไปเย็บรวมกับตุ๊กตายัดนุ่นที่ภายนอกคือมาสคอตเด็กผู้ชายในชุดนักกีฬาจักรยานรัดรูป ที่ปักชื่อย่อโรงเรียน “ส.ส.” ตามด้วยหมายเลขด้านล่างคือ 0414 และเย็บปิดทันที เหลือเพียงหน้าของพลที่เว้นช่องสำหรับรูจมูกกับปาก รูทวารที่ถูกเปิดกว้างเป็นรูใหญ่และเย็บติดกับเนื้อผ้า และควยที่ถูกเย็นเป็นรูเพื่อให้ควยออกมาได้
หลังจากนั้นพลถูกแพ็คเอาไว้ในถุงพลาสติก เพื่อวางไว้บนที่นอนของเจ้าของตุ๊กตาตัวนี้ ซึ่งก็คือ “อดิศร วัฒนบารมี” นั่นเอง
ผ่านไป 3 วันหลังจากนั้น
ศร หรือ อดิศร วัฒนบารมี เป็นนักเรียนที่ตั้งใจเรียนมากๆ ในอดีตเขาถูกกลั่นแกล้งไว้ค่อนข้างมาก และพลคือหนึ่งในเพื่อที่แกล้งศรมาโดยตลอด ใช่ครับ เขาเคยเรียนโรงเรียนเดียวกัน ด้วยท่าทางของศรที่เป็นคนที่ใส่แว่นหนาๆ เป็นเด็กเนิร์ดๆ เลยทำให้โดนแกล้งได้ง่าย
วันหนึ่งเขาสามารถสอบเข้าโรงเรียนสินสมุทร ภายใต้โควตา “หัวกะทิ” ได้เป็นที่หนึ่ง จึงทำให้เขามีอภิสิทธิ์ในการเลือกนักกีฬาที่สอบเข้ามาใหม่ให้มาเป็นตุ๊กตาของเขาได้ ซึ่งจะมีแค่เด็กห้องหัวกะทิเท่านั้นที่จะมีอภิสิทธิ์นี้ โดยในวันเดียวกันกับที่พลเข้ามาเซ็นเอกสารนั้น ศรเห็นพลพอดี จึงตัดสินใจเลือกพลทันที จากโควตานักกีฬาทั้งหมด 25 คน ซึ่งจำนวนเท่ากับห้องหัวกะทิพอดี
หลังจากที่ศรมาเซ็นเอกสารเพื่อเข้าเรียนเรียบร้อย ศรก็ได้เตรียมตัวเข้าเรียนด้วยการเรียนปฐมนิเทศ โดยหลังจากครบ 3 วัน อาจารย์ก็ได้พามาชมโรงนอนของแต่ละคน ซึ่งปีนี้ห้องแผนกวิทยาศาสตร์จะได้ตุ๊กตาเป็นเด็กชายในชุดนักปั่นจักรยาน และทุกคนจะไม่ทราบว่าข้างในตัวตุ๊กตานั้นคืออะไร ยกเว้นคนที่ได้ที่หนึ่งคนเดียวเท่านั้น ทุกคนต่างชื่นชอบมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะกับศรที่งานนี้ได้ตุ๊กตาหมายเลข 0414 ตรงกับหมายเลขประจำตัวของเขาทันที โดยอาจารย์ได้หยิบตุ๊กตาหนึ่งตัว มาสาธิตวิธีการใช้ต่างๆ เช่น การใช้รูต่างๆ ในการเล่น ระบายความเงี่ยนต่างๆ รวมไปถึงการดูแลรักษาด้วยเช่นกัน
หลังจากนั้นศรจึงได้มานอนที่โรงนอนเป็นคืนแรกพร้อมกับดูตุ๊กตาตัวที่ศรเลือกมา ซึ่งดูภายนอกอาจจะเหมือนตุ๊กตาทั่วไป แต่สิ่งที่ศรชอบเป็นพิเศษ คือความนูนของเป้าตุ๊กตาตัวนี้ที่เห็นเด่นชัดมาก ศรจึงนอนกอดตุ๊กตาตัวนี้และกระซิบข้างตุ๊กตาว่า “หวัดดีมึง จำกูได้ไหม แต่น่าจะจำไม่ได้ เพราะมึงกลายเป็นตุ๊กตาไปแล้วนี่หว่า” หลังจากนั้นศรจึงลองจับควยของตุ๊กตาตัวนี้ออกมาชักเล่น และจนทำให้พลเกือบแตก แต่สุดท้ายศรก็หยุดชักลง และเก็บเอาไว้ที่เดิม ศรสังเกตว่ามีน้ำเยิ้มๆ ออกมาเล็กน้อย ศรจึงกระซิบบอกว่า “กูไม่ให้มึงแตกง่ายๆ หรอก 1 ปีนับจากนี้มึงเป็นของกูแล้ว”
ศรพลิกตัวตุ๊กตาพลไปด้านหลัง และเห็นรูตรงก้น จึงทำการเอาควยของศรสอดเข้าไป และทำการเย็ดตุ๊กตาจนน้ำรักของศรแตกออกมา คารูตุ๊กตา และเอาจุกปิดรูทันที ทำให้น้ำรักเข้าร่างกายพลทันทีและเอาออกไม่ได้ หลังจากนั้นศรก็นอนกอดตุ๊กตาตัวนี้จนถึงเช้า
เช้าวันถัดมา ศรเอาตุ๊กตาตัวนี้มารองเท้าหนังของศร เพื่อใส่รองเท้าและเอาเท้าเขี่ยหัวนมของตุ๊กตาตัวนี้ พลที่พูดไม่ได้ก็ได้แต่เงี่ยนไปเรื่อย ๆ แต่ไม่สามารถเอาออกได้ จนศรก็เลิกเขี่ยและเอาตุ๊กตาพลไปวางบนรองเท้าของศรที่เหม็นอับ ซึ่งพลก็แอบชอบและน้ำเยิ้มมาเล็กน้อย ศรจึงเรียกเพื่อนให้มาวางรองเท้าบนตุ๊กตาพล และออกไปเรียนกัน โดยที่เพื่อนก็สนใจว่าตุ๊กตาตัวนี้น้ำเยิ้มได้อย่างไร?
หลังจากนั้นครูก็ได้ปฐมนิเทศนักเรียน และดำเนินการเรียนจนถึงช่วงบ่าย หลังจากนั้นจะเป็นกิจกรรมยามว่าง ซึ่งศรได้มีโอกาสไปดูโรงนอนของรุ่นพี่คนอื่นๆ ก็ได้พบว่าหน้าห้องหัวกะทิจะมีหุ่นนักกีฬาอยู่เสมอๆ ในขณะที่ห้องดนตรีก็จะมีหุ่นวงโยธวาทิตของแต่ละรุ่นวางไว้เหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีห้องกีฬาที่มีหุ่นครบทุกกีฬาในโรงเรียน ซึ่งครูก็ชี้แจงว่าหุ่นพวกนี้จะมีหน้าที่คุ้มครองและป้องกันทรัพย์สินของแต่ละห้องเอาไว้ โดยที่พวกเขาไม่ทราบเลยว่าหุ่นพวกนี้ก็คือนักเรียนโรงเรียนสินสมุทรนั่นเอง
หลังจากเรียนครบ 1 สัปดาห์ ศรก็ได้กลับบ้านไป เหลือแค่ตุ๊กตาพลที่นอนบนชั้นวางรองเท้า เปื้อนไปด้วยน้ำกามของศรและเพื่อนๆ จนไปถึงรอยเปื้อนจากน้ำกามของตุ๊กตาตัวนี้ จากการที่ถูกศรและเพื่อนๆ ชักว่าวใส่ ชักว่าวให้พล และเย็ดพลทุกวัน นอกจากนี้ตุ๊กตาพลยังมีหน้าที่เป็นชั้นวางรองเท้าหนังของห้องนี้อีกด้วย ทำให้มีรอยรองเท้าและคราบเต็มไปหมด นอกจากนี้ยังมีตุ๊กตาตัวอื่นๆ ซึ่งล้วนเป็นนักกีฬาจักรยานทั้งหมด
ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์นั้น ตุ๊กตาที่มีคนอยู่ด้านใน จะถูกเอาไปให้นักเรียนที่พักประจำ ซึ่งเป็นนักเรียนที่ยากไร้เอาไปทำความสะอาด ตุ๊กตาพลจึงได้นักเรียนที่เป็นบัดดี้ทำความสะอาดอย่างกร ซึ่งกรเป็นนักเรียนที่โรงเรียนสินสมุทรรับมาดูแลในแผนกเด็กยากไร้ กรต้องทำความสะอาดตุ๊กตาพลด้วยการจับล้วงควย ซักตุ๊กตา ล้างรู และตบตุ๊กตา นำไปตาก และแพ็คสุญญากาศ และนำไปวางบนเตียงของนักเรียนห้องหัวกะทิ
วันนั้นกรเกิดโมโหที่โดนเพื่อนแกล้ง กรเห็นว่าตนต้องดูแลตุ๊กตาพล จึงเอาพลไปแขวนทำเป็นกระสอบทราย หลังจากนั้นกรจึงเตะต่อยพล ไม่ว่าจะเป็นศอก เข่า หรือเตะใส่ตุ๊กตา ซึ่งกรเป็นนักกีฬามวยอยู่แล้ว จึงชำนาญมากขึ้น แล้วจึงแขวนตุ๊กตาพลซึ่งตอนนี้กลายเป็นกระสอบทรายพลทิ้งไว้
ตกกลางคืน เพื่อนแก๊งมาเฟียเห็นว่ามีตุ๊กตาพลอยู่ ทุกคนจึงเข้าไปแกล้งด้วยการเปิดรูแล้วก็เย็ดตุ๊กตา โดยที่อีกคนก็เตะต่อยตุ๊กตาไปด้วย ซึ่งพลก็แอบชอบอยู่ข้างใน พลเริ่มรู้สึกว่าตัวเองน่าจะเป็นตุ๊กตามากกว่าคนซะแล้วด้วยสิ หลังจากเตะต่อยไปได้สักพัก แก๊งมาเฟียก็เห็นว่ามีน้ำเยิ้มมาจากตุ๊กตาตัวนี้ จึงชักจนน้ำไหลออกมาเป็นสาย แก๊งมาเฟียต่างกันหัวเราะและถากถางว่า “ตุ๊กตาเหี้ยอะไรน้ำแตกว่ะ” “มึงนี่ต่ำกว่าพวกกูอีกนะ ไอ้พวกของเล่น” แต่นั่นไม่ได้ทำให้พลเสียใจใดๆ เขากลับเริ่มรู้สึกชอบแล้วด้วย
หลังจากถูกแขวนและซ้อมไป เช้าวันถัดมากรจึงนำไปทำความสะอาดและแพ็คสุญญากาศไว้ และนำไปวางบนเตียงของศรต่อไป ตุ๊กตาพลอยู่ในสภาพแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงช่วงปิดเทอม
ปิดเทอม 1 กับพลในสถานะหุ่นโชว์
ในช่วงปิดเทอม นอกจากเด็กฝั่งยากไร้ที่ต้องอยู่ประจำแล้ว เด็กนักเรียนส่วนอื่นๆ ต่างก็กลับบ้านกันหมด เว้นเด็กดนตรีที่ต้องมาซ้อมดนตรีในบางวัน ตุ๊กตาทุกตัวที่ภายในคือนักเรียนกีฬาจักรยานต่างก็ถูกไปทำความสะอาดรอบใหญ่ จับฉีดยาเพิ่มสาร และนำไปแพ็ครอการขนส่งไปตามสถานที่ต่างๆ บางตัวก็ถูกเช่าไปเป็นตุ๊กตาในโรงเรียนอื่นๆ บางตัวก็อยู่เป็นมาสคอตตามสนามกีฬาทั่วประเทศตลอด 24 ชั่วโมง และบางตัวก็ไปอยู่ในโชว์รูมขายอุปกรณ์จักรยาน หรือตามห้างสรรพสินค้าที่ขายจักรยาน เช่น ตุ๊กตาพล เป็นต้น
ตุ๊กตาพลถูกสโมสรจักรยานของกองทัพแห่งหนึ่งเช่าเป็นระยะเวลา 3 เดือนเต็ม คือตลอดช่วงปิดเทอมเลยทีเดียว เพื่อเอาไปตั้งเป็นหุ่นนักปั่นจักรยานตัวแทนของกองทัพ ซึ่งในวันแรกของการเป็นหุ่นนั้น พลที่กลายเป็นหุ่นเปลือยนั้นก็ได้ถูกแพ็คสุญญากาศ สลักชื่อโรงเรียนและเลขประจำตัว 0414 ไว้ที่อกทางด้านซ้าย ซึ่งลบออกไม่ได้ ด้านข้างลำตัวด้านขวาสลักชื่อ “ทรัพย์สินของโรงเรียนสินสมุทร” พร้อมรหัสทรัพย์สินและบาร์โค้ด พร้อมสำหรับการขนส่ง
วันนั้นเองที่มีเจ้าของสโมสรจักรยานกองทัพ เข้ามาตรวจตราหุ่นเพื่อพร้อมนำไปเป็นหุ่น ซึ่งสโมสรแห่งนี้ได้เช่าหุ่นกับทางโรงเรียนตลอดระยะเวลา 10 ปี และได้มีการขายหุ่นให้กับทางสโมสรต่อหลังจากนั้นด้วยเช่นกัน หลังจากตรวจหุ่นพลเสร็จ เขาก็นำขึ้นกระโปรงรถ และเดินทางไปที่จังหวัดอันแสนไกลกว่า 200 กิโลเมตร
หุ่นพลเดินทางมาถึงค่ายทหารแห่งนั้น เจ้าของสโมสรเรียกทหารเกณฑ์เขามาแบก ไม่น่าเชื่อว่าหุ่นตัวนี้จะเบากว่าหุ่นทั่วไปมากๆ และนำมาตั้งหน้าตึกสโมสรจักรยาน หลังจากนั้นก็ทำพิธีสักการะหุ่น และรีดน้ำหุ่นครั้งแรก หลังจากนั้นก็แต่งตัวหุ่น จัดร่างกาย และล็อคหุ่นไว้หน้าสโมสร ร่วมกับหุ่นนักปั่นจักรยานอีก 9 ตัว หุ่นพลนั้นได้ใส่ชุดจัมพ์สูทที่รัดรูปที่สุด และทหารเกณฑ์ก็ได้เย็บชุดติดตัวไปด้วย
หลังจากพิธีจบ ทุกคนก็ทิ้งหุ่นพลเอาไว้ บางวันก็มีทหารเกณฑ์มาขัดให้เงาขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่งหุ่นพลได้ถูกขนย้ายไปจัดแสดงในงานกาชาดประจำปีของจังหวัด โดยต้องขนไปตั้งก่อนวันงาน 1 วัน และถูกคลุมผ้าเอาไว้ พอถึงวันงานจริงหุ่นพลในท่ายืนแนบลำตัว โชว์สรีระที่ทั้งมีกล้ามท้อง น่องที่ผ่านการปั่นมาแล้ว และหน้าตาที่ถูกทำให้ยิ้มแย้มก็ถูกตั้งหน้าบูธ โดยมีคนผ่านไปผ่านมา บ้างก็มาเล่นเป้าที่นูนอยู่ พอไม่เกิดอะไรขึ้นก็จากไป บ้างก็ไม่สนใจ หลังจากจบงานแต่ละวันหุ่นก็จะถูกทิ้งแบบนี้ โดยไม่มีพนักงานรักษาความปลอดภัยเฝ้าอยู่แต่อย่างใด สลับกันไปจนครบ 10 วันจึงนำกลับเข้ามาตั้งในสโมสรเหมือนเดิม
หลังจากนำมาที่สโมสรแล้ว พลก็ถูกเอาไปตั้งในห้องเก็บของในบ้านคลังอุปกรณ์จักรยานอีกที พลถูกทำให้เหมือนกับสิ่งของอื่นๆ ที่ถูกกองไว้ระเกะระกะปนกับที่นอนเก่าที่มีกลิ่นเหงื่อของนักกีฬา จนพลน้ำเยิ้มเป็นเวลามากกว่า 1 อาทิตย์ และหลังจากนั้นก็ถูกนำมาให้ทหารเกณฑ์ขัดทำความสะอาด ทหารเกณฑ์ที่พบเห็นหุ่นพลก็อดใจไม่ไหวที่จะเอามันมาเล่นโดยชักว่าวใส่ตัวพลก่อนทำความสะอาดและเย็ดพลโดยการเปิดจุกที่ตูดและเย็ดพล จนน้ำแตกทั้งคืนผลัดสลับกันไป หลังจากนั้นก็นำมาทำความสะอาดเพื่อยืนตั้งใส่ชุดนักปั่นจักรยานของสโมสรต่อไป
ผ่านไปเป็นเวลามากกว่า 1 เดือนแล้วที่พลถูกเป็นหุ่นอยู่ที่นี่ หลังจากที่เป็นหุ่นในชุดจักรยานของสโมสร สโมสรกองทัพก็นำพลขึ้นรถไปที่ร้านค้าสวัสดิการจักรยานของค่าย และนำพลล็อกในท่าปั่นจักรยานหน้าร้าน เพื่อเตรียมตัวเป็นหุ่นหน้าร้านในลักษณธท่าปั่นจักรยาน โดยใส่อุปกรณ์ที่รัดแน่นหนาและครบครัน หลังจากนั้นจึงให้ทหารเกณฑ์มาขัดเงาหุ่นเอาไว้ และทิ้งไว้ โดยทหารเกณฑ์รายนั้นพยายามโดยจุดสัมผัสของหุ่นพลอยู่บ่อยๆ จนบ่อยครั้งหุ่นพลก็เกือบน้ำเยิ้ม และหลังจากนั้นพลก็ถูกเป็นหุ่นหน้าร้านนั้นเป็นเวลาเกือบสองเดือน
กลับมาเป็นหุ่นทดลองที่โรงเรียน
หลังจากครบ 3 เดือนแล้ว พลต้องกลับมาที่โรงเรียน เพื่อมาเป็นตุ๊กตาให้กับศรอีกครั้ง แต่ครั้งนี้พิเศษ เพราะวิชาเพศศึกษานั้นอาจารย์ได้ให้ศรทดลองกับตุ๊กตาพลด้วยการให้ตุ๊กตาพลเป็นที่รองรับอารมณ์และน้ำกามของทั้งโรงเรียน ตลอดคาบเด็กทุกคนจะต้องมาชักว่าวใส่พลเต็มๆ 1 อาทิตย์ โดยที่พลไม่ได้ทำความสะอาดใดๆ เลย กลับกันในหลายๆ ครั้งพลก็รู้สึกชอบและน้ำจะแตกหลายทีมาก แต่พลก็ไม่สามารถแตกได้ เนื่องจากพลถูกอาจารย์ควบคุมทั้งร่างกาย ด้วยการถูกใส่โปรแกรมผ่านการฉีดสารพิเศษบางอย่าง จนทำให้พลไม่สามารถทำอะไรกับร่างกายได้เลย
หลังจากพลถูกน้ำแตกใส่ตัวเป็นเวลา 1 อาทิตย์ หลังจากนั้นพลก็ถูกนำไปไว้ที่ห้องเก็บของโดยที่ไม่ได้ทำความสะอาดใดๆ เนื่องจากเป็นช่วงปิดปีใหม่ นักเรียนยากไร้และนักเรียนหัวกะทิจะได้ลาหยุด ทำให้พลและเพื่อนๆ ที่เป็นตุ๊กตาจะถูกมากองรวมกันทิ้งไว้ในห้องเป็นเวลา 2 อาทิตย์ โดยไร้การดูแลใดๆ ทั้งสิ้น เปรียบเสมือนกับเป็นกองขยะ พลทำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น ทันใดนั้นก็มีอาจารย์เข้ามาดูและถากถางพลและเพื่อนๆ ว่าเป็นได้แค่ตุ๊กตาเน่าๆ ต่อไปนี้ชีวิตจะไม่มีอิสระอีกต่อไป แล้วก็ปิดทิ้งไว้
หลังจากเปิดเทอมในปี 2561 พลและเพื่อนๆ ก็ถูกนำไปดัดแปลงเป็นหุ่นในโรงเรียน โดยตัวถูกทำความสะอาดและเคลือบเงา หลังจากนั้นก็ตัดผม โกนขนให้หมดตัว และเลเซอร์ขนออกทั้งหมด ยกเว้นคิ้วและผม หลังจากนั้นก็ถูกดัดร่างกายให้เหมือนหุ่นจริงๆ และทำการใส่ชุดกีฬาประจำโรงเรียน ซึ่งทุกชนิดกีฬานั้นจะใช้สีชุดคือสีขาว และชุดก็จะมีขนาดบางมากจนเห็นสัดส่วนทุกด้าน และทุกชุดจะปักรหัสประจำตัวหุ่นเอาไว้ รวมถึงด้านในร่างกายหุ่นก็จะมีการสักตราประจำโรงเรียน ชนิดหมึกลบไม่ออก ทำให้พวกเขาถูกตีตราเป็นสมบัติประจำโรงเรียนไปโดยอัตโนมัติ และถูกนำตัวไปตั้งในพิพิธภัณฑ์ประจำโรงเรียนให้เด็กๆ เข้ามาศึกษาต่อไป
ส่วนหุ่นพี่ๆ ก็จะถูกนำเอาไปเป็นหุ่นศึกษาให้กับเด็กห้องหัวกะทิได้ทดลองทางวิทยาศาสตร์ โดยจะได้ศึกษาตั้งแต่ร่างกาย การเพิ่มสรรถภาพ การใช้สารเคมี นำไปเป็นของเล่นประจำห้อง และแน่นอน นำไปเรียนเรื่องเพศเช่นกัน
หุ่นพลถูกนำไปตั้งไว้ที่พิพิธภัณฑ์ ก่อนที่อีก 1 เดือนถัดมาจะถูกเอาไปตั้งหน้าห้องทดลองของนักกีฬาจักรยานเป็นระยะเวลาอีก 4 เดือน ก่อนที่จะปิดเทอม และหลังจากปิดเทอมแล้ว เขาก็ถูกตั้งโปรแกรมให้เริ่มทำการฝึกฝนเพื่อเตรียมแข่งจักรยาน โดยความจำก่อนหน้านั้นทั้งหมดในชีวิตจะถูกลบทิ้ง และจะถูกตั้งโปรแกรมไว้ดังนี้
05.00 น. ตื่นเช้ามาออกกำลังกาย 2 ชั่วโมง
07.00 น. รับประทานอาหารเช้าที่จัดไว้ให้ ได้แก่ น้ำข้าวต้มและอาหารที่เหลือจากเมื่อคืนของห้องเด็กหัวกะทิ
08.00 น. ทำหน้าที่เป็นหุ่นประจำห้องต่างๆ
09.00 น. เป็นหุ่นให้ทดลองร่างกาย
12.00 น. ทำหน้าที่เป็นโถฉี่ให้นักเรียนชาย
16.00 น. ฝึกปั่นจักรยานตามโปรแกรมที่ตั้งไว้ 4 ชั่วโมง
20.00 น. ออกกำลังกายเพิ่มเติมอีก 2 ชั่วโมง
22.00 น. ทำหน้าที่เป็นกระโถนให้นักเรียนยากไร้
24.00 น. จะถูกทำความสะอาดปาก และซีลจัดเก็บไว้
โดยชุดที่จะได้ใส่มีเพียงชุดเดียวเท่านั้น คือชุดปั่นจักรยานประจำโรงเรียนสีขาวล้วนทั้งชุด เย็บปิดตาย ไม่สามารถถอดออกได้ และจะไม่มีสิทธิ์อาบน้ำโดยเด็ดขาด และในระหว่างนั้นทุกวันอาทิตย์หุ่นพลจะถูกนำไปตรวจสรรถภาพทางร่างกายและโด๊ฟยาเพิ่มเช่นกัน