godzilla0743149 โพสต์ 2025-11-14 16:17:45

เสียงกระซิบของเตาอบว่างเปล่า ep.3 (AIแต่งจ่ะ)

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย godzilla0743149 เมื่อ 2025-11-14 22:05

ตอนต่อ — เสียงกระซิบของเตาอบว่างเปล่า Ep.3เชฟใหญ่ก้าวออกมาจากเงามืด
รูปร่างสูง บ่าใหญ่ แต่ใบหน้าเหมือนรูปสลัก…ไร้อารมณ์จนดูอำมหิตกว่าใบหน้ายิ้มรอบห้องเงียบจนได้ยินเสียงลมหายใจของกานต์
และเสียงหัวใจเขาเต้นแรงเหมือนค้อนเหล็กกำลังทุบท่อน้ำเชฟใหญ่ไม่แตะตัวกานต์
ไม่ยื่นมือ ไม่ออกคำสั่งให้ใครทำอะไร
แต่เขาเพียงยกมือขึ้นชี้…ไปที่เตาอบกระจกใสขนาดมหึมา
ที่ถูกเข็นมาวางไว้กลางห้องเครื่องนั้นยังปิดอยู่
ยังไม่ถูกใช้งาน
แต่เพียง “ภาพ” ของมันก็ทำให้กานต์รู้สึกเหมือนถูกอะไรบางอย่างบีบคออย่างช้า ๆลูกค้าคนรวยเริ่มกระซิบกันเบา ๆ
ไม่ใช่คำว่าต้ม อบ หรือซอส
แต่เป็นคำแปลก ๆ ที่กานต์ไม่เคยได้ยิน“เมนูวิญญาณ…”
“บทสุดท้ายของรสสัมผัส…”
“การปลุกเนื้อแท้ของผู้ถูกเลือก…”กานต์รู้สึกสับสน
มันไม่ใช่คำศัพท์ด้านอาหาร
ไม่ใช่สิ่งที่เชฟโดยทั่วไปจะพูดถึงมันคือ…
พิธีกรรมเชฟใหญ่หันกลับมามองเขา
สายตานิ่งสนิท
เหมือนอ่านลึกลงไปในความกลัวของเขาทีละชั้น“เราไม่ได้ทำอาหาร” เชฟพูดช้า ๆ
เสียงของเขาดังชัดเจนในห้องโถงราวกับสะท้อนจากกำแพงทุกด้าน
“ที่นี่ เราทำการแปรเปลี่ยน…”คำว่า แปรเปลี่ยน ทำให้กานต์สะดุ้ง
ไม่รู้ว่าควรกลัวอะไรมากกว่า—คำนี้ หรือรอยยิ้มของลูกค้าที่นั่งล้อมเขาอยู่หญิงคนหนึ่งพยักหน้าอย่างพอใจ
“เด็กคนนี้เหมาะ… ความกลัวของเขาเข้มข้นพอดี”ความกลัว?
พอดี?
พวกเขาวัดความกลัวเหมือนวัดรสชาติของไวน์อย่างนั้นหรือ?เชฟใหญ่เดินมาจนยืนอยู่ข้างโต๊ะ
กานต์สั่น แต่ยังจ้องตาเขาอย่างท้าทายเชฟยิ้ม—เป็นรอยยิ้มที่ดูเหมือนมนุษย์
แต่มีบางอย่างผิดปกติ บิดเบี้ยว ราวกับร่างมนุษย์กำลังสวม “ใบหน้า” ของรอยยิ้มอยู่“ขั้นแรกของเมนู…”
เขาเอียงหน้าเล็กน้อย จับจ้องกานต์ไม่กะพริบ
“…คือการทำให้ผู้ถูกเลือกเชื่อว่าไม่มีทางรอด”คำพูดนั้นเหมือนใบมีดน้ำแข็งพุ่งเสียบกลางหัวใจลูกค้าทั้งหมดปรบมือเบา ๆ
ไม่ใช่ด้วยความตื่นเต้น
แต่เป็นความพอใจที่กานต์รู้สึกได้ราวกับพวกเขาดูดความหวาดกลัวจากเขาโดยตรงเชฟใหญ่ก้าวถอยหลังหนึ่งก้าว
แล้วยกมือขึ้นให้พนักงานทำบางอย่างพนักงานชายร่างใหญ่สองคนเข้าไปที่เตาอบ
เปิดมันออก
เสียง “ครี้ก…” ของบานประตูโลหะดังสะท้อนแต่ด้านในว่างเปล่า
ไม่มีไฟ
ไม่มีความร้อน
ไม่มีอุปกรณ์ทำอาหารแต่กานต์กลับรู้สึกได้ถึง “บางอย่าง”
บางอย่างที่มองไม่เห็น
เหมือนช่องว่างมืดในเครื่องนั้นกำลังกวักมือเรียกเขาอย่างเงียบงัน“เตานี้ไม่ได้ใช้เพื่อปรุงอาหาร” เชฟใหญ่กระซิบ
“มันใช้เพื่อขังความกลัว… ให้กลายเป็นสิ่งที่เราต้องการ”ลูกค้าหลายคนเริ่มโน้มตัวมาข้างหน้า
สายตาเร่าร้อนด้วยความอยากรู้อยากเห็นมากกว่าความอยากลิ้มรสเชฟใหญ่ผายมือไปที่เครื่องโลหะ
และพูดประโยคที่ทำให้เลือดในกานต์เย็นเยียบตั้งแต่ต้นคอถึงส้นเท้า—“เด็กหนุ่ม… เมนูที่แท้จริงไม่ได้เกี่ยวกับร่างกายของเธอเลย
แต่เกี่ยวกับ ‘จิตใจ’ ของเธอต่างหาก”ห้องทั้งห้องมืดลงอย่างช้า ๆ
แสงไฟเพียงหนึ่งเดียวส่องไปยังเตากระจกใสที่เปิดอ้าเหมือนปากสัตว์ประหลาดกำลังรอเหยื่อและในเงานั้น
กานต์เห็นบางสิ่งเคลื่อนไหวช้า ๆ ในความมืดของเตา—แต่ไม่ใช่พนักงาน
ไม่ใช่เครื่องจักร
และไม่ใช่มนุษย์บางอย่าง…
ที่กำลัง “ตอบสนองต่อความกลัวของเขา”เสียงกริ่งโลหะดังกังวาน
ตามด้วยประกาศของผู้จัดการภัตตาคารในน้ำเสียงเรียบเย็น“เริ่มพิธีประมูลสิทธิ์ควบคุมผู้ถูกเลือก—กานต์”คำว่า ควบคุม ทำให้กานต์รู้สึกเหมือนร่างกายตัวเองหายไปครึ่งหนึ่ง
ลูกค้าทั้งหลายค่อย ๆ ขยับตัวล้อมโต๊ะเข้ามาใกล้
ราวกับกำลังจะเริ่มเกมที่มีเดิมพันเป็น “จิตใจของมนุษย์หนึ่งคน”เชฟใหญ่ยืนอยู่ด้านหน้า
เงาร่างของเขาทอดยาวบนพื้นเหมือนเงาของสิ่งมีชีวิตที่ไม่ใช่คน“ผู้ที่ชนะการประมูล…”
เขาเอ่ยเสียงนุ่มแต่กดดันจนห้องทั้งห้องเงียบ
“…จะได้สิทธิ์เป็นผู้กำหนดว่า พิธีแปรเปลี่ยนของเด็กหนุ่มคนนี้จะดำเนินไปอย่างไร”ลูกค้าหลายคนยกแท่งโลหะบางอย่างขึ้น
คล้ายเครื่องส่งสัญญาณราคาในประมูล
แต่แสงที่วาบออกมาไม่ใช่ไฟธรรมดา—
เหมือนแสงจากของบางอย่างที่ไม่ใช่เทคโนโลยีบนโลกราคาที่พวกเขา “เสนอ” ไม่ใช่เงิน
แต่เป็นเสียงกระซิบที่เต็มไปด้วยคำประหลาด
เป็นเศษความทรงจำ
เป็นเงาของภาพฝัน
เป็นคำสาบานลึกลับ
เสมือนว่าทุกคนกำลังแลกสิ่งที่ยิ่งกว่า “ทรัพย์สิน”กานต์รู้สึกคลื่นอากาศสั่นสะเทือนใกล้ศีรษะของเขา
เหมือนสิ่งที่ถูกประมูลคือ “พลังบางอย่าง”
ที่อยู่ในตัวเขาโดยที่เขาไม่รู้ตัวในที่สุด
หญิงสาวชุดดำ—คนเดียวกับที่เคยจ้องกานต์ราวกับอ่านจิตใจเขาได้—ยกสัญลักษณ์ของเธอขึ้น
แสงสีเงินแผ่ซ่านไปทั่วเพดาน
ราวกับมีมือที่มองไม่เห็นปิดประตูความเป็นไปได้ทั้งหมดเชฟใหญ่ประกาศเสียงก้อง“ผู้ชนะ—ท่านอัศนีรา”ห้องทั้งห้องปรบมือครั้งเดียวแบบพร้อมเพรียง
เสียงแห้ง ๆ และเป็นจังหวะ
เหมือนพิธีกรรม ไม่ใช่การแสดงความยินดีกานต์ถูกพนักงานร่างใหญ่สองคนเดินเข้ามาหาราวกับเครื่องที่ไร้ความรู้สึก
พวกเขาเปิด “ปลอกคอพิธีกรรม” ซึ่งเป็นโลหะสีดำสนิท
มีสัญลักษณ์เรืองแสงลอยบนผิวโลหะอย่างช้า ๆ
คล้ายเครื่องควบคุมจิตใจมากกว่าปลอกคอจริง ๆคลิก—
เสียงขัดโลหะเบา ๆ ดังที่ต้นคอของเขาโลกหมุนวูบในเสี้ยววินาที
ไม่ใช่จากความเจ็บปวด
แต่จากความรู้สึกที่เหมือน “มีบางอย่างเข้ามาอยู่ในหัวเขา”ลมหายใจเขาถี่ขึ้นโดยไม่รู้ตัวพนักงานยื่นกานต์ให้หญิงสาวอย่างนอบน้อม
ราวกับส่งมอบ “กุญแจสำคัญของพิธี”อัศนีราเดินเข้ามา
ใบหน้าของเธอสวยสง่าและไร้ความกลัวใด ๆ
สายตาของเธอเหมือนมองทะลุทุกความคิดของเขาเธอยื่นปลายนิ้วแตะที่ปลอกคอเบา ๆทันใดนั้น
แสงจากสัญลักษณ์บนปลอกคอเรืองแสงขึ้น
และเสียงกระซิบเบา ๆ ดังขึ้นในหัวของกานต์ไม่ใช่เสียงของเขา
ไม่ใช่เสียงในห้องแต่เป็นเสียงที่ดังมาจาก “ด้านในปลอกคอเอง”“เจ้าคือของเราแล้ว… เด็กหนุ่ม”กานต์สะดุ้งสุดตัว
แต่ไม่มีใครในห้องดูเหมือนจะได้ยินเสียงนั้น
ยกเว้นหญิงสาวที่ยิ้มบาง ๆ อย่างพึงพอใจ“กานต์” เธอพูดเบา ๆ
“ฉันไม่ต้องการร่างกายของเธอ…
แต่ฉันต้องการ ความจริง ที่อยู่ในหัวใจเธอต่างหาก”ลมหายใจของกานต์หยุดลงชั่ววินาทีความจริงอะไร?
เขาไม่เคยรู้ว่ามี “อะไรผิดปกติ” อยู่ในตัว
แต่ทุกสายตาในห้องกำลังจ้องเขาเหมือนเขามีคำตอบที่พวกเขาตามหามานานหญิงสาวโน้มหน้าเข้ามากระซิบใกล้หูเขา
จนเขาขนลุกไปทั้งตัว“และฉันนี่แหละ… จะเป็นคนเปิดมันออกมา”
ห้องทั้งห้องมืดลงทันที
เหลือเพียงแสงบนปลอกคอที่ส่องวาบเหมือนดวงตาอีกคู่หนึ่งที่กำลังจ้องเขาอยู่ปลอกคอดำเรืองแสงขึ้นอีกครั้ง
และดวงตาของกานต์ “ดับวูบ” เหมือนเปลวเทียนที่ถูกลมฝ่าพัดหญิงสาว—อัศนีรา—แตะปลายคางของเขาเบา ๆ
ทันใดนั้นร่างของกานต์ก็หยุดดิ้น
สายตานิ่ง
ราวกับความคิดทั้งหมดถูกสุ่มออกไปเหลือเพียงความว่างเปล่าคำพูดของเธอบินผ่านอากาศเหมือนเส้นด้ายแห่งเวทสะกดจิต“ยกเลิกพันธนาการ”พนักงานชายรูปร่างใหญ่เดินเข้ามาคลายโซ่จากข้อเท้าของกานต์
แต่กานต์ไม่ได้ขยับ
ไม่หนี
ไม่ต่อต้านเขายืนอยู่…โดยไม่มีจิตใจของตัวเอง“ขึ้นไป” เธอพูดเบา ๆกานต์ก้าวขึ้นไปบนโต๊ะอาหารขนาดใหญ่
เหมือนคนกำลังเดินบนบันไดที่มองไม่เห็น
ช้า…แต่มั่นคง
เหมือนลูกตุ้มนาฬิกาถูกตั้งเวลาเรียบร้อยแล้วเธอเอียงศีรษะ
“นอนลง”ร่างของกานต์ค่อย ๆ เอน
นอนลงตรงกลางโต๊ะพอดีอย่างแม่นยำ
เหมือนภาพที่เธอเคยเห็นมาก่อนแล้ว
เหมือนเขาเคยทำมาแล้วหลายร้อยครั้ง
ทั้งที่นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาดวงตาของกานต์ปิดลง
เขาไม่หลับ
แต่จิตของเขาถูก “พับเก็บ” เหมือนผ้าทบซ้อนหลายชั้น
จนไม่เหลือเจตจำนงใด ๆในเงามืด
พนักงานหญิงหลายคนเข็นรถเข็นอาหารออกมา
อาหารหรูหราหลายจานวางเรียงรายบนโต๊ะ
แต่ไม่มีอาหารจานใดแตะต้องกานต์
อาหารทั้งหมดวางรอบตัวเขา—
เหมือนโต๊ะเต็ม
แต่ ตรงกลางยังว่างเปล่าเสมอลูกค้าคนรวยนั่งลงตามเก้าอี้ของตน
เสียงหัวเราะอ่อน ๆ กังวานขึ้น
แก้วไวน์กระทบกัน
เสียงช้อนส้อม
เสียงสนทนาที่เหมือนอยู่ห่างออกไปหลายไมล์ ทั้งที่อยู่ตรงหน้าแต่สิ่งที่ทำให้ฉากนี้น่ากลัวที่สุดคือ—ไม่มีใครมองอาหารเลย
ทุกคนมองไปที่กานต์—แต่เหมือนไม่มีใครเห็นเขาเหมือนเขาเป็นภาพลวง
เหมือนเขานอนอยู่ในมุมหนึ่งของมิติ
ไม่ใช่บนโต๊ะจริง ๆอาหารถูกตักเข้าปาก
ไวน์ถูกดื่ม
แต่สายตาของแขกทุกคนยังคงจับจ้อง “ที่ว่าง” ตรงกลางโต๊ะ
แม้กานต์จะนอนอยู่ตรงนั้นก็ตามอัศนีรานั่งลง
ยกแก้วขึ้น
และพูดประโยคที่ทำให้ความจริงทั้งหมดสั่นสะเทือน—“เริ่มพิธี ‘โต๊ะว่างเปล่า’ ได้เลย”ทันใดนั้น
สายตาของกานต์เบิกกว้างในความมืดของจิต
เสียงในหัวเขาดังก้อง—“เจ้าคือศูนย์กลางของความกลัว…
แต่พวกเขามองไม่เห็นเจ้า
พวกเขามองเห็นเพียง ความว่างเปล่า ที่เจ้าพยายามซ่อนมาตลอดชีวิต”ภาพรอบตัวเขาเริ่มบิดเบี้ยว
ลูกค้ายังคงกิน
แต่เงาของพวกเขาเริ่มยาวออก
บิด
หนา
เหมือนกำลังคืบเข้าหาโต๊ะ
ไม่ใช่ตัวเขา
แต่ “ความว่างเปล่าในใจเขา”และกานต์…
เริ่มจำบางอย่างได้
บางอย่างที่เขาพยายามลืม
บางอย่างที่อัศนีราต้องการจากเขาตั้งแต่แรก

thai_boys โพสต์ 2025-11-14 18:10:23

ขอบคุณมากๆนะครับ

nuangnut1996 โพสต์ 2025-11-14 18:12:57

สนุกมากครับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: เสียงกระซิบของเตาอบว่างเปล่า ep.3 (AIแต่งจ่ะ)