backroom โพสต์ เมื่อวานซืน 10:33

สัมผัสพิเศษ ตอนที่ 002 ได้พบหน้ากัน






สัมผัสพิเศษตอนที่002ได้พบหน้ากัน




จากเหตุการณ์ในตอนที่แล้ว ....
หลังจากที่"เขมชาติ"หรือ"เขม"ได้สร้างปาฎิหาริย์ให้ผู้คนได้รับรู้กัน
เรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นก็ถูกนำไปพูดต่อๆกันจนเป็นวงกว้าง


ทำให้เมื่อ"เขม"ถูกพ่อและแม่พาเดินทางกลับมาถึงบ้าน .....
ก็ได้มีผู้คนมากมายต่างพากันมาเพื่อเยี่ยมเยียนไม่ขาดแถมบางคนยังเอาเครื่องบูชามาเพื่อไหว้ขอพร
ทำให้ผู้เป็นพ่อกับแม่ของ"เขม"เกิดความรู้สึกไม่สบายใจเพราะเกรงว่า"เขม"จะถูกคนกลุ่มนี้ทำให้กลายเป็นเด็กไม่ปกติ


พ่อและแม่ของ"เขม"เลยตัดสินใจพา"เขม"มากราบ"หลวงตาคง"เจ้าอาวาสในวัย 60 ปี ณ วัดประจำหมู่บ้าน
เพื่อขอความเมตตาจากท่านให้ช่วยหาทางออกให้กับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่ ณ ตอนนี้
ซึ่งการพา"เขม"มาที่นี่นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง .... ด้วยเพราะ"หลวงตาคง"ได้หาทางออกโดยการบอกให้หลายคนทราบว่า .....


"เขม"คือเด็กปกติคนหนึ่งและไม่มีความพิเศษใดๆ
หากแต่เรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้เป็นแม่ของ"เขม"นั้นเกิดจากความพอดิบพอดีเท่านั้นมิได้มีเรื่องของคุณวิเศษใดมาเกี่ยวข้อง
ซึ่งหลังจากพูดจบ .... "หลวงตาคง"ก็แสร้งทำกลอุบายบางอย่างเพื่อทดสอบให้ทุกคนเชื่อว่า .... ความวิเศษไม่มีอยู่จริง


ก่อนจะเอ่ยปากบอกให้ชาวบ้านและเด็กในวัดพากันเอาเรื่องนี้ไปบอกต่อๆกันเพื่อให้ชาวบ้านเลิกงมงาย
แล้วจากนั้น ..... "หลวงตาคง"ก็ได้อุ้ม"เขม"เพื่อพาเดินไปยังอุโบสถเก่าประจำวัดพร้อมกับพ่อและแม่ของ"เขม"ด้วย
หากแต่ยังไม่ทันก้าวเท้าพ้นธรณีประตูอุโบสถเข้าไปข้างในฟ้าฝนก็เทลงมากระหน่ำพร้อมกับเสียงร้องลั่นของ"เขม"ที่ดังกังวาล


"หลวงตาคง"เลยก้มหน้าลงมองใบหน้าของ"เขม"ด้วยความเมตตาอยู่ชั่วครู่พร้อมกับสวดมนต์อะไรบางอย่างออกมาเบาๆ
จากนั้นก็ก้าวเท้าข้ามธรณีประตูพา"เขม"ผ่านเข้าอุโบสถไป .... โดยมีพ่อและแม่ของ"เขม"เดินตามมาติดๆ
กระทั่งเมื่อ"หลวงตาคง"วางเขมลงบนพื้นหน้าพระประธานอันศักดิ์สิทธิ์ .....


พายุที่โหมหระหน่ำนั่นก็มีอันสงบเงียบลงพร้อมกับ"เขม"ที่หยุดร้องและหลับปุ๋ยไปอย่างนิ่งสนิท
"หลวงตาคง"เลยพยักหน้ารับสิ่งที่เกิดขึ้นเล็กน้อยก่อนที่จะหันหน้ามาหาพ่อและแม่ของ"เขม"พร้อมกับย้ำถามทั้งสองคนว่า ....
พวกเขาเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้แล้วใช่ไหม .... และพอเดาได้ใช่ไหมว่า .... นั่นคือเรื่องไม่ปกติธรรมดา


ซึ่งพ่อและแม่ของ"เขม"ก็เอ่ยปากรับคำ"หลวงตาคง"อยากเข้าใจ
พร้อมกับถาม"หลวงตาคง"ว่า .... เรื่องที่เกิดขึ้นจะดีหรือร้ายแบบไหนและมีทางแก้ไขได้หรือไม่
"หลวงตาคง"ที่นั่งฟังอยู่จึงหลับตาลงทำสมาธิอยู่ชั่วครู่ก่อนจะลืมตาขึ้นมาแล้วพูดกับพ่อและแม่ของ"เขม"ว่า .....


"เด็กนี่นาสงสารนักเขาเกิดมาอายุสั้นเพราะเกิดอยู่ผิดที่ผิดทาง ..... อันที่จริงแล้วเขาควรไปเกิดอยู่กับใครคนนึงมากกว่า"


พอ"หลวงตาคง"พูดจบก็หันหน้าไปมอง"เขม"อย่างเมตตาอีกนิดนึง
ก่อนที่จะหันกลับมาพูดกับพ่อและแม่ของ"เขม"ว่า ..... พวกเขาอยากเลี้ยงลูกเองแต่ต้องรับสภาพว่าลูกจะอยู่ได้แค่ไม่เกิน 1 ปี
หรือจะยอมพาลูกไปยกให้คนที่เหมาะสมเลี้ยงดูเพื่อให้"เขม"อายุยืนยาวอย่างที่ควรจะเป็น


ซึ่งพอพ่อและแม่ของ"เขม"ฟังจบ .... พวกเขาก็รีบตกปากรับคำว่าจะเลือกยกลูกให้ผู้อื่นดูแลทันทีทั้งๆที่ในใจก็รู้สึกบอบช้ำหากแต่อยากให้ลูกมีชีวิตอยู่
"หลวงตาคง"ที่ได้ฟังก็พยักหน้ารับคำนั้นให้อย่างไม่แสดงสีหน้าพร้อมกับนำกระดานไม้ขึ้นมาเขียนด้วยช็อคสีดำสนิทก่อนจะพูดว่า ....


"ลองไปดูซิว่าญาติของพวกเอ็งคนไหนที่อยู่ไปทางทิศเหนือบ้างคนนั้นแหละคือคนที่ลูกเอ็งจะต้องไปอยู่ด้วย"


พอ"หลวงตาคง"พูดจบ .... พ่อและแม่ของเขมก็รีบพา"เขม"กลับเพื่อไปหาคำตอบให้กับเรื่องนี้ทันที
โดยการไปขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยดูทิศทางตามแผนที่ให้ว่า .... ทิศเหนือคือทางไหนและจากที่อยู่ตรงจุดใดอยู่ในเขตทิศเหนือบ้าง
จนได้คำตอบมาว่า .... มีจังหวัดเลยที่ตั้งอยู่ ณ เขตทิศนั้น .....


และนั่นคือสิ่งยืนยันให้กับพ่อและแม่ของ"เขม"ว่า .....
"หลวงตาคง"ดูไว้ไม่ผิดจริงๆ ..... พวกเขาสองคนมีญาติที่อาศัยอยู่ทางทิศเหนือณ อ.ปากชม จ.เลย
ซึ่งญาติคนนั้นมิใช่ใครหากแต่เป็น"พล"หนุ่มใหญ่ในวัย 50 ปีผู้เป็นปู่แท้ๆของของ"เขม"นั่นเอง


และเมื่อรู้แบบนี้แล้ว ......
พ่อและแม่ของ"เขม"เลยไม่รอช้า .... รีบพา"เขม"กลับมากราบลา"หลวงตาคง"ในทันใด
ก่อนที่จะพากันเดินทางไปหา"พล"ณที่พักอาศัยของเขาที่ตั้งอยู่ใน อ.ปากชม จ.เลยนั่นเอง


และเมื่อพ่อกับแม่ของ"เขม"พา"เขม"ไปถึงที่นั่น ....
เรื่องราวปาฎิหาริย์ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง .... เมื่อมีพายุพัดกระหน่ำเข้ามาอย่างแรงจนต้นไม่ไหวเอนแทบจะหักล้มลง
ก่อนที่จะมีสายฟ้าฟาดลงมาที่กิ่งไม้ขนาดใหญ่จนร่วงหล่นสร้างความตื่นตระหนกให้กับคนในบ้านนั้นอย่างมา


จนทุกคนต้องพากันออกมาดูและเห็นว่า ..... พ่อและแม่ของ"เขม"กำลังอุ้ม"เขม"แล้วส่งเสียงตะโกนร้องเรียกอยู่
"พล"ผู้เป็นปู่ที่เดินออกมาและพบเห็นถึงการมาเยือน .... เลยรีบลงจากบ้านมาโอบรับผู้มาเยือนอย่างดีใจทันที
ก่อนที่จะได้รู้ว่า"เขม"คือหลานของตน ..... เลยทั้งดีใจทั้งตื่นเต้นที่ได้พบเจอจนอดไม่ได้ที่จะขออุ้ม"เขม"ไปไว้ในอ้อมกอดของตนเอง


และนั่น ..... กลับทำให้ทุกอย่างสงบลงอย่างฉันพลัน
ท้องฟ้าที่มืดมิดน่ากลัวนั่นกลับเปิดโล่งสว่าง .... ทุกอย่างที่ดูโหมกระหน่ำเกิดการหยุดชะงักไปหมด
เหลือไว้เพียงบรรยากาศที่แสนสดใสมีเพียงแค่หยดน้ำฝนประปรายที่เกาะอยู่ตามใบไม้ให้ดูสดชื่น


นั่นช่างเป็นเรื่องที่ทำให้ทุกคนฉงนใจอยู่ไม่น้อย
หากแต่กลับไม่มีใครสนใจมากนักนอกจากพ่อและแม่ของ"เขม" .... ด้วยเพราะคนอื่นๆคิดว่ามันคงเป็นแค่เรื่องของธรรมชาติ
อีกทั้งทุกคนยังตื่นเต้นกับการได้เห็น"เขม"เลยมิได้สนใจในสิ่งที่เกิดขึ้นมากนัก


กระทั่งเมื่อพากันขึ้นบ้านมานักพูดจาทักทายกันได้ชั่วครู่นั่นแหละ ....
พ่อและแม่ของ"เขม"ถึงได้แสดงสีหน้าลำบากใจออกมาก่อนที่จะเอ่ยปากบอกกับ"พล"ว่าจะขอเอา"เขม"มายกให้เลี้ยงดู
ซึ่ง"พล"นั้นก็หน้าบึ้งไปชั่วครู่ด้วยเพราะคิดว่าลูกชายของตนกับลูกสะใภ้ช่างไม่มีความรับผิดชอบในการเป็นพ่อและแม่เลย


หากแต่ทั้งสองก็ไม่ปล่อยให้"พล"และคนอื่นๆเข้าใจผิดไปเสียยกใหญ่
พร้อมกับรีบอธิบายบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้ทุกคนฟังจนทุกคนพากันมองหน้าไปมาแล้วเริ่มพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่
ซึ่งนั่นแหละที่ทำให้"พล"เข้าใจในเจตนาการมาของลูกชายและลูกสะใภ้ได้อย่างดี


จนต้องรีบเอ่ยปากรับเลี้ยง"เขม"เอาไว้เป็นลูกของตนเอง
พร้อมกับหันไปขอความเป็นจากเมียของตนซึ่งเป็นเมียใหม่ของ"พล"ที่อยู่กินกันมาเป็น 10 ปี ว่าสะดวกใจไหม
"จันทร์"หญิงสาวใบหน้าอบอุ่นนั่นก็ยิ้มรับให้อย่างยินดีพร้อมกับบอกว่าเธอเองก็ไม่มีลูกและอยากมีมากๆเลยยิ่งยินดีกับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้


นั่นเลยทำให้พ่อและแม่ของ"เขม"รู้สึกสบายใจมากๆจึงได้เอ่ยปากฝากฝัง"เขม"เอาไว้ตามเจตนาของพวกตน
จากนั้นพ่อและแม่ของ"เขม"ก็ขอตัวกลับ .... ซึ่งพวกเขาทั้งสองคนนั้นต้องกลับไปด้วยหัวใจที่บอช้ำมากๆ
หากแต่นี่คือทางออกที่ดีที่สุดแล้ว .... พวกเขาเลยจำต้องลากจาก"เขม"ไปโดยที่มิได้อยู่เลี้ยงดูอย่างที่ควรจะเป็น


ส่วนทางด้านของ"เขม"นั้น .... หลังจากที่ต้องมาอยู่ในความดูแลของ"พล"ผู้เป็นปู่และ"จันทร์"ผู้เป็นย่าแล้ว
ชีวิตของ"เขม"ก็ดูจะมีความสุขมากๆ .... ด้วยเพราะทั้งปู่และย่าทั้งรักทั้งหลง"เขม"สุดๆ
จวบจนกระทั่งเมื่อ"เขม"อายุครบ 1 ขวบปี .... ก็มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น .....


เพราะอยู่ดีดีก็มีสายฟ้าฟาดลงมาที่ตัวของ"เขม"ขณะที่กำลังนอนหลับอยู่ในเปลไม่ไกลจากจุดที่"พล"กำลังทำไร่อยู่
นั่นเลยทำให้"พล"ตกใจหวาดกลัวมากๆจนรีบวิ่งไปหา"เขม"ที่เปลอย่างไม่กลัวตาย
หากแต่เมื่อไปถึงกลับพบว่า"เขม"นอนอยู่ในเปลอย่างสงบไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆมีเพียงแค่สายสิญจน์ที่"หลวงตาคง"ผูกมาให้ที่เกิดรอยไหม้จนขาดออก


"พล"เลยรีบอุ้ม"เขม"ขึ้นมากอดไว้ด้วยความหวั่นใจทันที
ก่อนที่จะรีบพา"เขม"กลับไปหา"จันทร์"ที่บ้านและเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้"จันทร์"ฟังอย่างไม่แทบไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น
ทำให้"จันทร์"รู้สึกตกใจตามจนต้องรีบอุ้ม"เขม"ไปกอดเอาไว้ก่อนจะพาเข้าห้องพระไปสวดมนตน์ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครง


แล้วก็ไม่ยอมให้"เขม"ออกจากบ้านไปที่ไร่ที่นาอีกเลย
จวบจนกระทั่งเมื่อ"เขม"อายุได้ 3 ขวบปี ..... "จันทร์"และ"พล"ถึงได้ยอมพา"เขม"ออกจากบ้านมาเพื่อพาไปเข้าโรงเรียนในระดับเตรียมอนุบาล
แต่การออกมาในครั้งนี้ก็เกิดปัญหาเมื่ออยู่ดีดี"เขม"กลับจากโรงเรียนมาแล้วไม่สบายจนต้องหยุดพักอยู่บ้านอีกเป็นสัปดาห์


ทำให้"จันทร์"ตัดสินใจไปขอลาออกจากโรงเรียนเพื่อให้"เขม"อยู่บ้านและตนเองคอยสอนนั่นสอนนี่เอา
ซึ่งนั่นก็ดูเหมือนจะเป็นทางออกที่ดีเพราะ"เขม"ดูไม่ป่วยไข้และมีความสุขตามแบบฉบับที่เด็กคนนึงควรจะเป็น
แต่แล้ว ..... เมื่อเวลาผ่านไปอีก 1 ปีจนถึงเกณฑ์ที่"เขม"จะต้องเข้าเรียนชั้นอนุบาลจริงๆ


"จันทร์"ก็มีท่าทีจะไม่ยอมให้"เขม"ไปเรียนเพราะกลัวว่า"เขม"จะป่วยไข้เหมือนคราวที่แล้ว
หากแต่"พล"กลับไม่อยากให้เป็นแบบนั้นเพราะคิดว่ายังไงเสีย"เขม"ก็ต้องใช้ชีวิตเป็นปกติให้ได้เลยตัดสินใจพา"เขม"มาหาพ่อและแม่ของตน
เพื่อให้พาไปหา"หลวงตาคง"สำหรับขอทางออกในเรื่องนี้ .....


"หลวงตาคง"ที่ได้เจอ"เขม"อีกครั้งก็ดูจะดีใจและยิ้มรับการมาของ"เขม"อย่างยินดี
ก่อนที่จะบอกกับทุกคนว่า .... "เขม"จะไม่มีอาการป่วยไข้อีกแล้วเพราะอยู่มาถึงเวลานี้ได้แสดงว่าโชคชะตายอมเปิดทางให้มีชีวิตต่อแล้ว
พอ"หลวงตาคง"พูดจบ .... สายลมเย็นก็พัดเข้ามาปะทะร่างของทุกคนให้รู้สึกสบายตัว สบายใจ


ก่อนที่"หลวงตาคง"จะบอกให้ทุกคนพากันนำ"เขม"ออกไปก่อนเหลือไว้เพียงแค่"พล"ผู็เป็นปู่คนเดียว
เพื่อที่"หลวงตาคง"จะพูดคุยกับ"พล"ถึงเรื่องที่"หลวงตาคง"จับญานแล้วเห็นว่า .... ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นมีกรรมเป็นเครื่องพันผูก
โดย"หลวงตาคง"ได้บอกกับ"พล"ว่า ..... อดีตเมื่อ 25 ปีที่แล้วกำลังหวนคืนกลับมาหากลับมาเพื่อทวงคำสัญญาของ"พล"นั่นเอง


และเมื่อ"หลวงตาคง"พูดจบ ....
"หลวงตาคง"ก็ได้หยิบรากไม้ขนาดเล็กๆรากนึงมอบให้กับ"พล"พร้อมกับมองหน้า"พล"อย่างให้คำตอบ
ซึ่ง"พล"นั้นก็รับรากไม้นั้นมาถือไว้อย่างหวนถึงอดีตก่อนที่จะกราบลา"หลวงตาคง"เพื่อพา"เขม"เดินทางกลับมายังบ้านของตนเองเช่นเดิม


โดยหลังจากที่พา"เขม"เดินทางกลับมาแล้ว ....
ในคืนนั้นเองขณะที่"พล"กำลังนอนกอด"เขม"และหลับตาลงพักด้วยกันอย่างสนิทบนเตียงนอนข้างๆ"จันทร์"
"พล"กลับฝันถึงเรื่องราวในอดีตขึ้นมาโดยในฝันนั้น .....


"พล"เห็นตัวเองที่อยู่ในชุดทหารกำลังเดินลาดตะเวนอยู่ในป่าทึบกับเพื่อนๆเพื่อหากลุ่มคนที่แอบขนยาเสพติดเข้ามาเพื่อจำหน่ายโดยการผ่านป่านี้
หากแต่ยิ่งเดินเข้าไปลึกมากเท่าไหร่ .... ก็หากลุ่มคนที่กระทำผิดกฎหมายไม่เจอสักที .....
ผู้บังคับบัญชาเลยสั่งให้ทีมเดินเข้าไปในป่าลึกมากขึ้นเรื่อยๆจนเมื่อ"พล"มารู้ตัวอีกทีก็พบว่า .....





ตนเองได้เดินหลงทางออกมาจากกลุ่มเพื่อนเสียแล้ว .....
และที่มากไปกว่านั้นก็คือ .... "พล"ไม่รู้ว่าตนเองหลงมาไกลแค่ไหนรู้เพียงแค่ว่าป่าละแวกนี้ดูอึมครึมน่ากลัวกว่าจุดใด
เลยพยายามส่งเสียงเรียกหาเพื่อนของตนเองหากแต่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีเสียงของใครตอบกลับและนั่นทำให้"พล"รู้สึกหวัดใจสุดๆ


"พล"เลยรีบย่างเท้าเดินไปเรื่อยๆเพื่อหาทางออกแต่สิ่งที่"พล"พบก็คือ .....
"พล"ยังคงเดินวนเวียนอยู่ที่เดิมไม่ได้ออกห่างไปไหนเลยแม้แต่คืบเดียว ......

GuN009 โพสต์ เมื่อวานซืน 11:09

สนุกครับผม รอติดตามต่อนะครับ
ขอบคุณครับ

nuangnut1996 โพสต์ เมื่อวานซืน 13:32

สนุกมากครับ

คำปุ้ย โพสต์ เมื่อวานซืน 14:57

ลุ้นอะไรทำไมน้อสนุกคับ ชวนให้ติดตามรอตอนต่อไปคับขอบคุนคับ

Mariya234 โพสต์ เมื่อวานซืน 15:51

ขอบคุณครับ

nuvo โพสต์ เมื่อวาน 07:36

ต่อครับ

Pakchinki โพสต์ เมื่อวาน 08:39

ดีมากเลยครับ มาต่อเร็วๆนะครับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: สัมผัสพิเศษ ตอนที่ 002 ได้พบหน้ากัน