Chapter 7 : พรานกล่ำกับกลิ้งดง
แอบมาขยายสเกลจักรวาลเรื่องนี้กันนิดนึงนะครับ คิดอะไรก็แต่งเลย ไม่ได้แพลนไว้ ไทม์ไลน์งง ๆ ก็อย่าว่ากันครับเด้อพรานกล่ำนั่งจมอยู่ในความคิดของตัวเองภายในห้างกลางป่าแสงจันทร์ส่องลอดใบไม้ยามค่ำคืนเผยให้เห็นรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความแค้นบนใบหน้าของเขาเขาได้ใช้ของอาคมที่สืบทอดกันมาในตระกูลจนสามารถ แปลงร่างเป็นเสือสมิง ได้ตามใจต้องการและเขาก็ใช้ความสามารถนี้ในการหลอกล่อพรานป่าที่ไร้ประสบการณ์หลายคนให้มาติดกับของเขาแต่กลับมีเพียงแค่พรานเดชคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเอาชนะเขาได้ด้วยไหวพริบและเห็ดปริศนาที่เขายังไม่เคยเห็นมาก่อน"ไอ้เดช..."กล่ำพึมพำกับตัวเองด้วยเสียงต่ำ "แกทำให้ข้าต้องอับอายขายหน้า...แต่ข้าก็จะทำให้แกรู้ว่า... ไม่มีใครสามารถเล่นกับข้าได้"กล่ำลูบไล้ไปตามแผงอกของตัวเอง สัมผัสอันร้อนรุ่มจากฤทธิ์ของเห็ดที่ยังไม่เคยจางหายไปง่ายๆทำให้เขาต้องกัดฟันแน่น ความต้องการที่จะแก้แค้นพรานเดชและความรู้สึกเงี่ยนจากสิ่งที่พรานเดชทำให้ผสมปนเปกันไปหมด ทำให้เขาไม่อาจหลับตาลงได้อีกต่อไปหลังจากครุ่นคิดอยู่หลายวันพรานกล่ำก็ตัดสินใจที่จะไม่รีบร้อนเข้าไปหาเดชแต่จะไปหาแหล่งที่มาของเห็ดปริศนานั้นก่อน กล่ำจึงกลับเข้าป่าในไม่กี่วันถัดมา โดยใช้ความสามารถในการดมกลิ่นของเขาในการตามรอยกลิ่นของเห็ดที่ยังติดอยู่ในร่างกายการเดินทางพาเขาไปสู่ส่วนที่ลึกของป่าที่ซึ่งมีเพียงความเงียบสงบและสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวเท่านั้นที่อาศัยอยู่กล่ำเดินลึกเข้าไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเขาได้พบกับ ถ้ำแห่งหนึ่ง ที่มีแสงสีแดงเรืองรองออกมาจากภายในกล่ำเดินเข้าไปในถ้ำอย่างระมัดระวังเขาไม่พบเห็ดที่ตามหา แต่กลับได้เจอกับ ดอกไม้สีชาด ที่งดงามราวกับอัญมณี มันขึ้นอยู่ตามผนังถ้ำ ที่มีไอน้ำเกาะอยู่เต็มไปหมดกล่ำรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยแต่ความสนใจในดอกไม้ปริศนาใหม่นี้ก็เอาชนะความรู้สึกนั้นไปได้พรานกล่ำจดจำชื่อของดอกไม้ป่านี้ได้ดี "ดอกราคาสมิง" เขารู้ว่า เมื่อนำมาขยี้แล้วกินจะทำให้เกิดอาการประสาทหลอน ที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่านั้นก็คือมันจะทำให้ผู้ที่กิน ได้ย้อนกลับไปเห็นภพชาติก่อนๆเมื่อพรานกล่ำได้รู้ถึงคุณสมบัติที่แท้จริงของมันแล้วเขาก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ "เจ้าดอกราคาสมิง..." กล่ำเอ่ยด้วยเสียงต่ำ "เจ้ามีฤทธิ์ที่น่าสนใจกว่าที่ข้าคิดไว้เสียอีก"เขาตัดสินใจที่จะนำดอกไม้นี้ไปใช้ในการแก้แค้นพรานเดชโดยจะทำให้เดชได้เห็นถึง ความลับในภพชาติก่อนๆ ของเขา ซึ่งอาจจะทำให้เดชได้รู้ความจริงบางอย่างที่ไม่อาจยอมรับได้ก่อนที่จะนำดอกไม้นี้ไปใช้กับพรานเดชพรานกล่ำตัดสินใจที่จะ ทดลองมันด้วยตัวเองก่อน เพื่อให้รู้ถึงฤทธิ์ที่แท้จริงของมันเขาหยิบดอกราคาสมิงขึ้นมาดอกหนึ่งแล้ว ขยี้มันในมือ จากนั้นก็ กินเข้าไปทันทีที่ดอกราคาสมิงเริ่มออกฤทธิ์ภาพของถ้ำรอบตัวก็เริ่มเลือนหายไปกล่ำเห็นตัวเองยืนอยู่กลางป่าใหญ่ที่ดูไม่คุ้นเคยข้างกายเขามีชายหนุ่มคนหนึ่งยืนอยู่ซึ่งชายผู้นั้นมีใบหน้าและแววตาที่เหมือนกับพรานเดชในปัจจุบันไม่มีผิดเพี้ยนในอดีตนั้นกล่ำกับเดชเป็นเพื่อนรักที่โตมาด้วยกันในป่านี้เดชในภพชาติก่อนเป็นพรานผู้แข็งแกร่งและสง่างามและกล่ำก็หลงรักเพื่อนสนิทของตัวเองมาโดยตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งเดชได้ทรยศความรู้สึกของกล่ำด้วยการไปรักกับหญิงสาวคนหนึ่งในหมู่บ้านภาพของความสุขในอดีตกลับกลายเป็นความเจ็บปวดในปัจจุบันกล่ำในภพชาติก่อนรับไม่ได้กับการกระทำของเดช ความรักได้กลายเป็นความแค้นที่ฝังลึกกล่ำพยายามที่จะทำร้ายเดช แต่ก็ถูกเดชต่อสู้กลับจนกล่ำต้องสิ้นชีวิตในป่าแห่งนั้นภาพในอดีตสิ้นสุดลงกล่ำตื่นขึ้นมาในถ้ำที่มืดมิดเขารับรู้ได้ถึงความแค้นและความเจ็บปวดที่ฝังลึกอยู่ในจิตวิญญาณของเขามานานหลายภพชาติกล่ำจ้องมองไปที่ดอกราคาสมิงที่เหลืออยู่ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นเขาจะต้องใช้มันเพื่อแก้แค้นเดชให้ได้กล่ำตื่นขึ้นมาจากภวังค์ภาพสุดท้ายที่เขายังจำได้คือความเจ็บปวดจากความรักที่ถูกหักหลัง และในตอนนี้ ก็มืดค่ำแล้ว ความเย็นยะเยือกของอากาศยามค่ำคืนในถ้ำทำให้กล่ำรู้สึกหนาวสั่นไปทั่วร่างแต่กล่ำไม่ได้สนใจความผิดปกติของร่างกายเขาสนใจเพียงแค่ความจริงในอดีตที่เขาเพิ่งได้รับรู้มาเท่านั้น "เจ้าพรานเดช..." กล่ำพึมพำกับตัวเองด้วยเสียงต่ำ "ข้าจะทำให้แกรู้ว่าความแค้นจากภพชาติก่อนมันไม่ได้หายไปง่ายๆ"กล่ำยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ เขาจะต้องใช้ดอกราคาสมิงเพื่อแก้แค้นเดชให้สาสม และในครั้งนี้เขาจะไม่ยอมให้เดชรอดไปได้อีกต่อไปกล่ำตื่นขึ้นมาจากภวังค์ภาพสุดท้ายที่เขายังจำได้คือความเจ็บปวดจากความรักที่ถูกหักหลังและในตอนนี้ก็มืดค่ำแล้วความเย็นยะเยือกของอากาศยามค่ำคืนในถ้ำทำให้กล่ำรู้สึกหนาวสั่นไปทั่วร่างแต่เขาก็ไม่ได้สนใจความผิดปกติของร่างกาย เขาสนใจเพียงแค่ความจริงในอดีตที่เขาเพิ่งได้รับรู้มาเท่านั้นเขาเก็บดอกราคาสมิงที่เหลือใส่ย่ามอย่างรอบคอบก่อนจะเดินออกจากถ้ำที่มืดมิดขณะที่กล่ำกำลังจะเดินพ้นปากถ้ำ เขาได้ยินเสียงอะไรบางอย่างตกลงมา แต่ก็ไม่ได้สนใจนัก จนกระทั่ง เขาเดินเตะเข้ากับบางสิ่ง ที่อยู่บนพื้นอย่างจัง มันรู้สึกเหมือนลูกมะพร้าว แต่กลับ นุ่มกว่า มากนักกล่ำก้มลงไปมองด้วยความสงสัยแล้วก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เมื่อสิ่งที่เขาเตะเข้าไปนั้นไม่ใช่ลูกมะพร้าวแต่เป็น ศีรษะของมนุษย์ ที่มีดวงตากลมโตและผิวหนังเหี่ยวย่น"ฮิๆๆๆ ฮ่าๆๆๆๆ"เสียงหัวเราะที่น่าขนลุกดังขึ้น "ทำไมต้องเตะข้าด้วยล่ะ... เจ้าสมิง"กล่ำมองไปที่หัวของกลิ้งดงด้วยความรังเกียจ "หึ...พวกผีชั้นต่ำ..." เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา "ถอยไป... ข้าไม่มีเวลาเล่นกับพวกเจ้าหรอก" แล้วเขาก็เดินหลบเลี่ยงไปเพื่อจะออกจากถ้ำให้เร็วที่สุดแต่กลิ้งดงก็ยังคง กลิ้งตามเขาไปติดๆ ไม่ยอมปล่อยให้เขาหนีไปได้ง่ายๆ "นี่...อยู่คุยด้วยกันก่อนสิ... ฮิๆๆๆ" เสียงหัวเราะที่น่าขนลุกยังคงตามหลอกหลอนกล่ำไม่หยุด "เจ้ากินดอกไม้นั่นเข้าไปใช่ไหม?แล้วรู้อะไรเกี่ยวกับมันบ้างรึเปล่า...ฮิๆๆๆ"กล่ำยังคง เมินเฉย และ เดินสับเท้า โดยไม่สนใจมัน กลิ้งดงเห็นดังนั้นจึงพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่จริงจังขึ้น "เห็นอดีตชาติแล้ว...มันทำให้เจ้าแค้นขนาดนั้นเลยรึ? แต่เจ้าไม่รู้หรอก...ว่าทำไมมันถึงชื่อ 'ดอกราคาสมิง'?"คำพูดนั้นทำให้กล่ำ หยุดชะงัก ทันทีเขาก้มลงมองหัวของกลิ้งดงด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยและความไม่เข้าใจกล่ำรู้ว่าชื่อของมันมีความหมาย แต่มันเป็นชื่อที่ดูเหมือนจะสอดคล้องกับตัวเขา...แต่ในทางที่ไม่น่าพอใจเท่าไหร่กล่ำมองไปที่หัวของกลิ้งดงด้วยสายตาที่จริงจังขึ้น "มันทำไมรึ?"กล่ำถามด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาแต่แฝงไปด้วยความอยากรู้กลิ้งดง ทำท่ากวนกลิ้งวนเป็นวงกลม ก่อนจะหัวเราะคิกคัก "อ้าวๆ...เริ่มสงสัยแล้วรึ?" มันกล่าว "จริงๆดอกสมิงราคานี่น่ะ... ก็ออกฤทธิ์หลอนประสาทให้ระลึกชาติได้แหละนะ...แต่เจ้าไม่สงสัยจุดที่มันขึ้นอยู่จริงๆ รึ... เจ้าสมิงอ่อนหัด?"คำพูดนั้นทำให้กล่ำ ขมวดคิ้ว ด้วยความไม่พอใจและสับสน "เจ้าหมายความว่าอย่างไร?" กล่ำเอ่ย "มันก็ขึ้นอยู่ในถ้ำนี้... มันมีอะไรมากกว่านั้นรึ?"กลิ้งดงหัวเราะเสียงแหลม "หึหึหึ!ก็ คนที่จะเจอดอกไม้นี่ต้องเป็นสมิงแบบเจ้าไง!"มันกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน"อะไรก็ตามที่มาจากเจ้าดอกไม้นี่... จะนำทางสมิงให้มาเจอมันแล้วก็กินเข้าไป""พอครบหนึ่งวันก็จะเป็นอัมพาต"กลิ้งดงกล่าวต่อ "แต่ก่อนหน้านั้นเจ้าดอกไม้นี่ก็จะดลใจให้เจ้ากลับมานอนตัวแข็งอยู่ในถ้ำนี่...แล้วก็กลายเป็นปุ๋ยให้มันยังไงล่ะ! ฮิๆๆๆๆ"กลิ้งดงกลิ้งวนไปอย่างสนุกสนาน หลังจากบอกความจริงที่น่าสะพรึงกลัวให้พรานกล่ำได้รู้กล่ำยืนนิ่งด้วยความตกใจ ใบหน้าของเขาซีดเผือดลงอย่างเห็นได้ชัดเขากลับเป็นฝ่ายที่ถูกหลอกล่อให้มาติดกับของดอกไม้ป่าดอกนี้เสียเองเมื่อกล่ำได้ยินดังนั้น เขาก็ รีบกว่าเดิม สาวเท้าเดินอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะไปหาเดชโดยไวที่สุดก่อนที่เขาจะเป็นอะไรไป เจ้ากลิ้งดงก็ยังไม่ลดละ "ข้ารู้วิธีแก้พิษน้าาาา" มันตะโกนตามหลัง"เจ้าจะได้มีเวลาแก้แค้นมากกว่านี้ไง เจ้าสมิงโง่!"คำพูดนั้นทำให้กล่ำหยุดชะงัก ทันทีความหวังสุดท้ายในการแก้พิษทำให้เขาหันหลังกลับมาเผชิญหน้ากับกลิ้งดงอีกครั้งกล่ำมองไปที่หัวของกลิ้งดงที่ลอยอยู่กลางอากาศ "เจ้า...มีวิธีแก้พิษนั้นจริงๆ รึ?" กล่ำถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสงสัยแต่ก็แฝงไปด้วยความสิ้นหวัง "ข้าจะยอมทำตามข้อเสนอของเจ้า...ถ้าเจ้าบอกวิธีแก้พิษมา"กลิ้งดงยิ้มด้วยความเจ้าเล่ห์ "ฮ่าๆๆๆ!แน่นอนอยู่แล้ว... เจ้าสมิงอ่อนหัด" มันกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ "แต่ก่อนที่จะบอกเจ้า...ข้าขอให้เจ้าเล่นสนุกกับพวกข้าก่อน..."พลัน สายตาที่เรืองแสงสีแดงเกือบสิบคู่ก็โผล่มา จากรอบๆ ตัวพรานกล่ำทำให้เขาต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ กลิ้งดงไม่ได้อยู่ตัวเดียวแต่ยังมีพวกพ้องที่กำลังเฝ้ามองเขาอยู่จากเงามืด"ข้าจะช่วยเจ้าเอง...เด็กๆ!" กลิ้งดงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ "มาเล่นสนุกกับเจ้าสมิงอ่อนหัดคนนี้กันเถอะ!"สิ้นเสียงของมัน กลิ้งดงตัวอื่นๆก็กลิ้งมาล้อมพรานกล่ำไว้ ประมาณ 7-8 หัว ดวงตาสีแดงของพวกมันจ้องมองมาที่กล่ำอย่างหิวโหยกล่ำยืนนิ่งด้วยความตกใจ เขารู้ดีว่าไม่สามารถต่อสู้กับพวกมันทั้งหมดได้และในตอนนี้เขาก็เหลือทางเลือกไม่มากนัก"จะทำอะไรกันแน่!" กล่ำส่งเสียงดัง พร้อมกับเสียงคำรามของเสือ ที่ออกมาจากลำคอ ตามแขนเขาเริ่มมีลายพาดกลอน โผล่ขึ้นมา เขาเตรียมตั้งท่าต่อสู้"อ๊ะอ่าๆอย่าแตกตื่นไป" เจ้ากลิ้งดงที่ตามกล่ำมาตลอดพูดขึ้น "ข้าจะให้เด็กๆ ช่วยรีดพิษให้เจ้าเอง" ก่อนที่ หัวหนึ่งจะกลิ้งถอยหลังไป แล้ว พุ่งชาร์จกระแทกเข้าใส่ขาของพรานกล่ำ จนเขา ทรุดตัวล้มลง แล้ว หัวทั้งหมดที่เหลือก็พุ่งเข้าใส่ตัวเขาพร้อมกันขณะที่พรานกล่ำกำลังจะ กลายร่างเป็นเสือ เพื่อต่อสู้ เจ้ากลิ้งดงตัวแรก ก็ขยับเข้ามาใกล้แล้ว สวดมนต์อะไรบางอย่าง ทำให้ ลวดลายบนตัวของพรานกล่ำจางหายไป เขารู้ได้ทันทีว่าไม่สามารถแปลงร่างเป็นเสือได้อีกแล้วในตอนนี้"เจ้าโง่นี่... ข้าก็บอกอยู่ว่าจะช่วย" กลิ้งดงตัวแรกกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรำคาญ"อยากตายนักหรือไง?"ตอนนี้มี กลิ้งดงสี่ตัว ทับแขนขาของพรานกล่ำ ให้นอนแผ่อยู่กับพื้น ทั้งๆ ที่เหมือนมีแค่หัวทับแขนขาเขาไว้ แต่เขากลับ ไม่สามารถใช้แรงดิ้นดันหัวกลิ้งดงเหล่านั้นให้หลุดออกไปได้ พรานกล่ำเริ่ม หอบจากการดิ้นรน อย่างหนักหน่วง"นั่นแหละ... นอนนิ่งๆ ไว้" กลิ้งดงที่เหมือน จ่าฝูง นั้น ค่อยๆ กลิ้งมาบนตัวพรานกล่ำกลิ้งดงจ่าฝูง กลิ้งบนตัวพรานกล่ำอยู่สักครู่ ก่อนที่มันจะ กลิ้งเอาหน้ามาจ่ออยู่ที่หัวนมของพรานกล่ำ แล้ว แลบลิ้นยาวออกมาเลียหัวนม จากภายนอกเสื้อยืดจน แฉะไปหมดพรานกล่ำยังคง ดิ้นรนขัดขืน แต่ก็ ไม่รุนแรงเท่าช่วงแรก ความรู้สึกที่เย็นเยียบแต่กลับวาบหวามทำให้กล่ำสับสนและอ่อนแรงลงเรื่อยๆ"เด็กๆ มาช่วยข้าทีสิ"กลิ้งดงตัวจ่าฝูงพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ้าเล่ห์ กลิ้งดงที่เหลือ สองสามตัว ก็ ทยอยกลิ้งขึ้นมาบนตัวพรานกล่ำตัวหนึ่ง เข้าไป เลียหัวนมอีกข้าง ของกล่ำอย่างไม่หยุดหย่อน อีกตัว ก็ พยายามใช้ปากปลดตะขอกางเกงของพรานกล่ำออก ส่วน อีกตัว ก็ มุดเข้าไปใต้เสื้อของพรานกล่ำ แล้ว เลียลิ้มรสกล้ามท้องแกร่งของสมิงพรานกล่ำความรู้สึกวาบหวามและเย็นเยียบที่ถาโถมเข้ามาจากทุกทิศทาง“อะ...อื้มมม...” ทำให้พรานกล่ำ ครางเสียงต่ำๆ ออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ ควยของเขาเริ่มแข็งขึ้นภายใต้กางเกงที่ถูกปลดออก ความเงี่ยนในตัวเขาถูกปลุกให้ตื่นขึ้นอย่างสมบูรณ์ในที่สุดพรานกล่ำก็ยอมจำนนต่อความวาบหวามที่ถาโถมเข้ามาจากพวกกลิ้งดงเขาเลิกดิ้นรน ปล่อยให้พวกมันเล่นกับร่างกายของเขาอย่างเต็มที่ดวงตาของเขาปิดพริ้มลงด้วยความรู้สึกสุขสมที่ไม่อาจปฏิเสธได้"แค่แกได้ปล่อยน้ำควยของแกออกมาพิษก็จะออกมาพร้อมน้ำควยนั้นแล้ว" กลิ้งดงตัวจ่าฝูงเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นแต่เปี่ยมไปด้วยความเจ้าเล่ห์ว่าแล้ว เจ้าตัวจ่าฝูงก็กลิ้งลงไปตรงเป้ากางเกงของพรานกล่ำ ที่ตอนนี้ แท่งควยของเขาชูชันดันซิป จน รูดลงไปเกือบครึ่งแล้ว เจ้าตัวจ่าฝูง สลับตำแหน่ง กับตัวที่กำลังปลดตะขอกางเกง มันกลิ้งขึ้นไปกัดเสื้อตรงส่วนของหัวนมจนขาด แล้วดูดลิ้มรสอย่างกระหาย ส่วน อีกตัวที่เห็นเพื่อนทำนั้นก็ทำบ้าง ทำให้พรานกล่ำ เสียวซี้ดจนแอ่นตัวขึ้นแท่งควยอันใหญ่ของเขาที่กำลังแข็งพาดไปทางขวา ก็เริ่มมี น้ำซึมออกมาเหมือนหยดน้ำค้างจากปลายควย เจ้าจ่าฝูงเห็นดังนั้นก็ ตวัดลิ้นยาว เข้าไปชิม เมื่อลิ้นของกลิ้งดงถูกส่วนหัวของควย เขาก็เสียววาบ "อ่าาาาห์...สะ...เสียว...ควยว่ะ...จัดการมันเลยเจ้าผีชั้นต่ำ" เขาครางออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เจ้าจ่าฝูงค่อย ๆ ใช้ลิ้นดันขอบกางเกงในของพรานกล่ำขึ้นมา แท่งควยของเขาก็ค่อย ๆ ขยับขยายตัวมากขึ้น จากการปลดปล่อยถูกกระตุ้น "อืมมมม...ปล่อยข้าทีเจ้าสองตัว" พรานกล่ำเอ่ยเสียงสั่นเครือกลิ้งดงที่ทับแขนอยู่มองตัวจ่าฝูง เจ้าจ่าฝูงพยักหน้าแล้วพวกมันจึง ปล่อยให้แขนพรานกล่ำมีอิสระ เขาลุกขึ้นจนกลิ้งดงที่อยู่บนตัวหล่นลงพื้นไปยกเว้นเจ้าจ่าฝูงที่จมอยู่ตรงเป้าของเขา เขาค่อย ๆ ดึงกางเกงลงไปกองไว้ที่เข่า เนื่องจากยังมีอีกสองตัวยังทับขาเขาอยู่ก่อนที่เขาจะ นอนลงเหมือนเดิมเอา มือทั้งสองไปไว้ที่ท้ายทอย "จัดการร่างกายข้าได้ตามที่พวกเจ้าต้องการได้เลย...อ่าาาาห์"เจ้ากลิ้งดงจ่าฝูงใช้ ลิ้นยาวที่เย็นเฉียบ ค่อย ๆ ถอกหัวควยของพรานกล่ำลงมาช้าๆ อย่างบรรจงความรู้สึกเย็นที่ตัดกับความร้อนรุ่มจากพิษของดอกราคาสมิงทำให้กล่ำ เสียวซ่านไปทั้งร่าง จนต้องครางเสียงต่ำๆ ออกมาอย่างต่อเนื่องกลิ้งดงอีก สองตัว ที่เคยทับแขนก็ กลิ้งเข้าไปสูดดมแล้วเลียรักแร้ ของพรานกล่ำอย่างกระหาย สัมผัสที่เย็นวาบ แต่กลับปลุกเร้าอารมณ์ให้คุกรุ่นขึ้น ส่วนอีกสองตัวที่หัวนมก็กลิ้งกลับขึ้นไปสลับฝั่งกันดูดเลียหัวนมสีเข้มจนแข็งเป็นไต เสียงดูดดึงที่ดัง "จ๊วบๆ" ในความเงียบสงัดของป่าทำให้พรานกล่ำต้อง บิดเร้าตัวไปมาด้วยความสุขสมที่ไม่อาจปฏิเสธได้กลิ้งดงจ่าฝูง ส่งสายตา ให้กับกลิ้งดงอีก สองตัว ที่ทับขาของพรานกล่ำอยู่ พลัน พวกมันก็กลิ้งไต่ตามขาขึ้นมา แล้ว ช่วยกันดูดเลียแท่งควยขนาดใหญ่ของพรานกล่ำอย่างเข้าขากันกับเจ้าจ่าฝูงความรู้สึกเสียวซ่านที่พุ่งพล่านจากทุกทิศทางทำให้พรานกล่ำ “อ๊ะ...อ๊าาาาาห์ เสียวควยๆๆจะแตก...ตะ...แตกแล้ว...เชี่ย...อ้าาาาาห์...” เขาครางเสียงดังลั่น จนป่าสะท้าน ร่างกายของเขาเกร็งกระตุกอย่างรุนแรง ก่อนจะ พ่นน้ำขาวข้นออกมา เป็นปริมาณมาก น้ำควยที่เคยเป็นพิษบัดนี้กลับเป็นน้ำควยที่เปี่ยมไปด้วยความสุขสมที่ไม่อาจปฏิเสธได้เจ้าจ่าฝูง กลิ้งไปเก็บกวาด แลบลิ้นยาวเลียน้ำควยนั้นจนไม่เหลือแม้แต่หยดเดียว จากนั้น มันก็กลิ้งกลับมาดูดเค้นน้ำควย ที่เหลือจากแท่งควยของพรานกล่ำอีกครั้งพรานกล่ำ ดิ้นเร่า ด้วยความเสียวซ่านที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป "อึ๊อือ..." เขาครางเสียงต่ำๆเจ้าฝูง สั่งเจ้าสี่ตัว ที่เคยทับแขนขาให้ กลับไปประจำที่เดิม แล้วมันก็ผละปากออกจากแท่งควยของเขา ก่อนจะพูดขึ้นว่า "พิษยังไม่หมด... ข้าขออีกนิด...อดทนหน่อยนะ" ว่าแล้วมันก็ กลับไปดูดดุนแท่งควย ของเขาที่ยังไม่อ่อนลงอีกครั้งพรานกล่ำ ครางออกมาไม่เป็นภาษา ดิ้นบิดไปมาอย่างรุนแรง ก่อนจะ ปล่อยน้ำควยออกมารอบสอง ออกมาอย่างขัดขืนไม่ได้ น้ำนั้นส่งถูกส่งเข้าปากไปในกลิ้งดงนั้นจนหมดกลิ้งดงจ่าฝูง เลียทำความสะอาดแท่งควยของพรานกล่ำ อย่างพิถีพิถันก่อนจะบอกให้ลูกน้องปล่อยพรานกล่ำพรานกล่ำนอนหอบอยู่บนพื้นดินอย่างอ่อนแรงเจ้ากลิ้งดงกลิ้งเข้ามาข้างๆ หน้าพรานกล่ำแล้วพูดว่า "ข้าช่วยเจ้าแล้วนะ"มันกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความพึงพอใจ"แล้วก็ขอบคุณสำหรับน้ำสมิงไว้เสริมอาคมให้ข้า ฮิๆ"เจ้ากลิ้งดงเห็นพรานกล่ำยังคงอ่อนเพลียอยู่จึงเอ่ยต่อว่า"พักไปเถอะ" มันกล่าว"ลูกน้องข้าจะดูแลรอบๆ ให้ มีแรงแล้วเจ้าค่อยเดินทางต่อ"สิ้นเสียงของเจ้ากลิ้งดงลูกน้องของมันก็กลิ้งถอยออกไปจากตัวพรานกล่ำ แล้วกลิ้งกลับไปประจำการอยู่รอบๆอย่างเงียบๆปล่อยให้พรานกล่ำนอนพักอยู่เพียงลำพังด้วยความอ่อนเพลียและมึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นแสงอาทิตย์ยามเช้าส่องลอดใบไม้มาทำให้กล่ำตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่สับสน เขารู้สึกปวดเมื่อยไปทั่วร่างกายแต่ความรู้สึกนั้นก็ถูกกลบด้วยความแค้นที่ฝังลึกในจิตใจมานานหลายภพชาติกล่ำลุกขึ้นยืนด้วยความทุลักทุเล แล้วมองสำรวจไปรอบๆเขาสังเกตเห็นว่าพวกกลิ้งดงได้หายไปแล้ว เหลือเพียงแค่ความเงียบสงัดและความว่างเปล่าที่อยู่รอบตัวเขาพรานกล่ำจัดเสื้อผ้าที่หลุดรุ่ยให้เข้าที่สำรวจดอกราคาสมิงที่ใส่ไว้ย่ามอย่างรอบคอบ ในใจของเขากลับมีแผนการใหม่ที่อันตรายยิ่งกว่าเดิมเขาไม่ได้ต้องการแค่แก้แค้นอีกต่อไปแล้วแต่เขาต้องการที่จะได้ครอบครองพรานเดชให้เป็นของเล่นของเขาอย่างสมบูรณ์
เสือสมิงพรานกล่ำ
จากนี้ไปอาจจะออกทะเลขยายจักรวาลไปแบบไปเรื่อยไปเปื่อยกันตันแล้วนะครับ :lol
สนุกมากครับ เสียวมากครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ เป็นเรื่องแปลกที่สนุก รอๆนะคับ {:5_119:} ต่อๆ สุดยอดครับ เขียนดีมาก จินตนาการล้ำเลิศ 👍 ขอบคุณ {:5_137:} ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ {:5_130:} ขอบคุณครับ ขอบคุนครับ ขอบคุณครับ