ธีร์ กรณ์ สิงห์ ตอนที่ 2
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย realman เมื่อ 2025-6-30 22:23ธีร์ กรณ์ สิงห์ตอนที่ 2
บทที่ 6: สัมผัสที่ไม่คาดฝันในสวน
หลังจากเหตุการณ์เมื่อเช้า ธีร์ใช้เวลาทั้งวันไปกับการพยายามทำใจให้เป็นปกติ เขารู้สึกประหลาดใจกับปฏิกิริยาของกรณ์ที่ไม่ได้แสดงท่าทีรังเกียจหรือตกใจ แต่กลับดูเหมือนจะเข้าใจ... และนั่นเองที่ทำให้ธีร์ยิ่งสับสนและตื่นเต้นไปพร้อมๆ กัน
ตกเย็น ธีร์ตัดสินใจว่าเขาต้องการผ่อนคลายความตึงเครียดที่สะสมมาทั้งวัน เขาเลือกที่จะลงไปแช่น้ำใน สระว่ายน้ำส่วนกลางของคอนโด ที่ออกแบบมาในสไตล์สวนป่าทรอปิคอล ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้นานาพันธุ์ และมีมุมที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัว ธีร์ตั้งใจจะว่ายน้ำเบาๆ ก่อนจะแวะเข้าห้องอบไอน้ำเพื่อคลายกล้ามเนื้อ
เมื่อมาถึงสระว่ายน้ำ บรรยากาศยามพลบค่ำทำให้รู้สึกสงบ ธีร์เดินตรงไปยังโซน ฝักบัวอาบน้ำกลางแจ้ง ที่อยู่ท่ามกลางพุ่มไม้เขียวขจี เขาปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกทีละชิ้นอย่างไม่รีบร้อน เผยให้เห็นเรือนร่างที่แข็งแรงและกล้ามเนื้อที่คมชัดทุกส่วน โดยเฉพาะหน้าท้องที่มีซิกแพคสวยงามภายใต้แสงสลัวๆ ของดวงจันทร์ที่เริ่มทอแสง เขาเปิดน้ำจากฝักบัวให้น้ำเย็นชื่นใจไหลผ่านกาย ตั้งใจจะชำระล้างเหงื่อไคลก่อนลงสระ
น้ำเย็นกระทบผิวหนังทำให้ธีร์รู้สึกสดชื่น เขายืนหลับตา ปล่อยให้น้ำไหลรินจากศีรษะลงมาตามแผ่นหลังที่กว้าง และบั้นท้ายกลมกลึงที่เปลือยเปล่า อารมณ์ที่คุกรุ่นเมื่อเช้ายังคงค้างคาอยู่ภายใน ความรู้สึกสยิวที่กรณ์อาจจะเห็นเขาในสภาพที่อ่อนไหวที่สุดนั้นทำให้หัวใจของธีร์ยังคงเต้นระรัว
ขณะที่กำลังเคลิบเคลิ้มไปกับสายน้ำที่ไหลผ่านร่างกาย มือของธีร์เอื้อมไปหยิบสบู่ และกำลังจะถูหลังตัวเอง เสียงฝีเท้าที่แผ่วเบาก็หยุดลงใกล้ๆ เขา ธีร์รู้สึกถึงเงาที่ทอดลงมาทางด้านหลัง และก่อนที่เขาจะทันได้หันไปมอง มือแกร่งคู่หนึ่งก็เอื้อมมาหยิบสบู่ไปจากมือของเขา
ธีร์เบิกตากว้างด้วยความตกใจสุดขีด เขากำลังจะอ้าปากถามว่าใคร แต่แล้ว... มือคู่นั้นก็ค่อยๆ ถูสบู่ไปตามแผ่นหลังของเขาอย่างแผ่วเบา จังหวะการสัมผัสนั้นเนิบนาบ แต่เต็มไปด้วยความนุ่มนวลและหนักแน่นในเวลาเดียวกัน กลิ่นสบู่หอมสะอาดผสมกับกลิ่นกายที่คุ้นเคยลอยแตะจมูก ธีร์รู้ได้ทันทีว่าใครคือเจ้าของมือคู่นี้... กรณ์!
ร่างกายของธีร์ชาวาบไปทั้งตัวด้วยความตกใจปนสยิว เขายืนนิ่งราวกับถูกสาป ไม่กล้าแม้แต่จะขยับ มือของกรณ์ยังคงลูบไล้ไปตามแผ่นหลังกว้างของธีร์อย่างเชื่องช้า สัมผัสที่ปลายนิ้วไล่ไปตามแนวสันหลัง กระดูกสันอก และไล่ต่ำลงไปจนถึง บั้นท้ายกลมกลึงที่เปลือยเปล่า สัมผัสที่แผ่วเบาแต่เร่าร้อนทำให้ธีร์รู้สึกเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแล่นปราดไปทั่วร่าง ขนทั่วกายลุกซู่ด้วยความรู้สึกที่บรรยายไม่ถูก
กรณ์ไม่ได้พูดอะไร มีเพียงเสียงน้ำจากฝักบัวที่ไหลริน และเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของทั้งคู่ ความเงียบที่น่าอึดอัดนี้กลับเต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดแน่นจนเกินจะรับไหว สัมผัสของกรณ์ไม่ได้หยุดเพียงแค่การถูหลัง แต่ปลายนิ้วของเขากลับเลื่อนต่ำลงไปอีกเล็กน้อย คล้ายจะ นวดผ่อนคลาย ไปตามกล้ามเนื้อส่วนล่างของแผ่นหลัง สัมผัสที่หนักแน่นและตรงจุดราวกับรู้ว่าตรงไหนที่ธีร์กำลังตึงเครียด
ธีร์รู้สึกเหมือนร่างกายกำลังจะระเบิด เขากำลังจะหมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับกรณ์ แต่แล้ว... กรณ์ก็ดึงมือกลับอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเสียงทุ้มต่ำที่กระซิบแผ่วเบาข้างใบหู
"ขอโทษทีว่ะธีร์... พอดีเห็นแกคงเหนื่อยๆ เลยอยากช่วย"
บทที่ 7: ความไม่เข้าใจที่คลุมเครือ
ธีร์หมุนตัวกลับไปเผชิญหน้ากับกรณ์ทันทีด้วยความตกใจปนประหลาดใจ กรณ์ยืนอยู่ห่างออกไปเล็กน้อย ใบหน้าของเขาดูเรียบเฉยจนยากจะคาดเดา แต่ดวงตาของเขากลับทอประกายบางอย่างที่ธีร์ไม่เข้าใจ
"กรณ์... นาย... นายทำอะไร?" ธีร์ถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่สั่นพร่า ดวงตาเบิกกว้างด้วยความสับสนและอับอาย เขายังคงยืนเปลือยกายอยู่ภายใต้สายน้ำที่ไหลริน
กรณ์ยิ้มบางๆ แล้วส่ายหน้าช้าๆ "เปล่าหรอก... แค่เห็นว่าแกดูเหนื่อยๆ เลยอยากช่วยถูหลังให้" น้ำเสียงของกรณ์ฟังดูเป็นธรรมชาติ แต่กลับมีความจริงจังและนุ่มนวลแฝงอยู่
ธีร์รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้า ไม่รู้จะตอบโต้อย่างไรดี เขายังคงจดจำสัมผัสเมื่อครู่ได้เป็นอย่างดี สัมผัสที่ไม่ได้เป็นเพียงแค่การถูสบู่ แต่เป็นการลูบไล้ที่ละเอียดอ่อนและกระตุ้นความรู้สึกบางอย่างในตัวเขาอย่างรุนแรง
"แต่... นายไม่น่า..." ธีร์พูดไม่จบประโยค ความคิดมากมายตีกันอยู่ในหัว เขากำลังจะพูดว่า "นายไม่น่าทำแบบนี้" แต่ก็ไม่กล้าพูดออกไป เพราะลึกๆ แล้ว เขายอมรับว่าร่างกายของเขาตอบสนองต่อสัมผัสของกรณ์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
กรณ์ก้าวเข้ามาใกล้ธีร์อีกเล็กน้อย ดวงตาของเขาสบเข้ากับดวงตาของธีร์อย่างจัง บรรยากาศรอบข้างดูเหมือนจะหยุดนิ่งไปชั่วขณะ
"ฉันแค่เห็นว่าแกดูเครียดๆ แล้วก็... เห็นว่าแกตัวคนเดียว" กรณ์พูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลลงกว่าเดิมเล็กน้อย "ฉันแค่เป็นห่วงแกนะธีร์"
คำพูดของกรณ์ทำให้ธีร์รู้สึกสับสนยิ่งกว่าเดิม ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีตีกันวุ่นวายในใจ เขารู้สึกอับอายที่กรณ์มาเห็นเขาในสภาพนั้น และยิ่งไปกว่านั้นคือการที่กรณ์มาสัมผัสร่างกายของเขาในลักษณะที่ใกล้ชิดเช่นนี้
"นาย... นายเห็นฉันเหรอ... เมื่อเช้า..." ธีร์ตัดสินใจถามออกไปในที่สุด แม้จะรู้สึกอับอายจนแทบอยากจะแทรกแผ่นดินหนี
กรณ์ยิ้มบางๆ แล้วส่ายหน้าช้าๆ "ไม่เห็นหรอก... แค่ได้ยินเสียงน้ำ แล้วก็เห็นว่าประตูแง้มอยู่" เขาหยุดพูดไปครู่หนึ่ง แล้วเลื่อนสายตาลงมองต่ำเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาธีร์อีกครั้ง "แต่ฉันก็... ได้ยินเสียงของแกนะ"
คำพูดของกรณ์ทำให้ธีร์ชาวาบไปทั้งตัว เขาไม่รู้ว่ากรณ์ "ได้ยิน" อะไรไปบ้าง แต่ความหมายของคำพูดนั้นกลับชัดเจนเกินกว่าที่ธีร์จะยอมรับได้
"ฉัน... ฉันขอตัวก่อนนะ" ธีร์พูดเสียงเบา พยายามจะก้าวเดินออกจากบริเวณฝักบัว แต่กรณ์กลับก้าวเข้ามาขวางเล็กน้อย
"ธีร์... แกไม่ต้องกังวลอะไรหรอกนะ" กรณ์พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ "ฉันเป็นเพื่อนแกเสมอ... ไม่ว่าแกจะเป็นแบบไหน"
คำพูดของกรณ์ทำให้ธีร์รู้สึกเหมือนกำลังถูกปลดปล่อย แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเหมือนกำลังถูกตอกย้ำถึงความจริงที่เขาพยายามหลีกหนี ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกรณ์กำลังก้าวข้ามเส้นบางๆ ไปแล้ว และธีร์ไม่รู้ว่าเขาจะรับมือกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้ได้อย่างไร
กรณ์ยื่นมือไปแตะไหล่ของธีร์เบาๆ สัมผัสที่แผ่วเบานั้นกลับทำให้ธีร์รู้สึกสั่นสะท้านไปทั้งตัว
"ฉันรู้ว่าแกกำลังหาใครสักคน... ที่จะมาเติมเต็มแกได้จริงๆ" กรณ์พูดเสียงเบา ใบหน้าของเขามีแววเศร้าเล็กน้อย "แต่บางที... คนที่อยู่ใกล้ตัวแกที่สุด อาจจะเป็นคนที่แกมองข้ามไปก็ได้นะ"
กรณ์พูดจบก็ถอนมือออก แล้วเดินจากไปอย่างเงียบๆ ทิ้งให้ธีร์ยืนนิ่งอยู่ภายใต้สายน้ำที่ยังคงไหลริน ความรู้สึกสับสน ตื่นเต้น อับอาย และความปรารถนาที่ซ่อนเร้นตีกันวุ่นวายในใจ
ธีร์ไม่รู้ว่ากรณ์กำลังจะสื่ออะไรกันแน่ เขากำลังจะบอกว่าเขารู้สึกอย่างไรกับธีร์? หรือแค่กำลังปลอบใจเพื่อน? แต่สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ สัมผัสที่ไม่คาดฝันในวันนี้ และคำพูดสุดท้ายของกรณ์ ได้จุดประกายความรู้สึกบางอย่างในใจของธีร์ ที่ไม่เคยมีใครเคยทำได้มาก่อน... และมันกำลังจะเปลี่ยนแปลงชีวิตของเขาไปตลอดกาล
บทที่ 8: แรงดึงดูดที่ซ่อนเร้น
หลังจากกรณ์จากไป ธีร์ยังคงยืนนิ่งอยู่ใต้สายน้ำที่ไหลริน หัวใจของเขายังคงเต้นระรัวราวกับจะหลุดออกมาจากอก สัมผัสของกรณ์ยังคงตราตรึงอยู่บนแผ่นหลังและบั้นท้ายของเขา ความรู้สึกร้อนผ่าวและวาบหวามปะปนกับความสับสนจนแทบจะระเบิด
เขาปิดฝักบัวลง แล้วเดินออกมาจากบริเวณอาบน้ำอย่างเชื่องช้า ความเย็นของอากาศกระทบผิวกายที่เปียกชื้น ทำให้ธีร์รู้สึกตัวขึ้นมาเล็กน้อย แต่ภาพของกรณ์ที่ยิ้มอย่างมีความหมาย และคำพูดสุดท้ายของเขายังคงวนเวียนอยู่ในหัว
"บางที... คนที่อยู่ใกล้ตัวแกที่สุด อาจจะเป็นคนที่แกมองข้ามไปก็ได้นะ"
คำพูดนี้ดังก้องอยู่ในโสตประสาทของธีร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาไม่เคยคิดถึงกรณ์ในแง่มุมนี้มาก่อน กรณ์เป็นเพื่อนสนิท เป็นเหมือนน้องชายที่เขารักและไว้ใจมาตลอด แต่การกระทำและคำพูดของกรณ์ในวันนี้ มันกำลังสั่นคลอนความสัมพันธ์แบบเพื่อนที่พวกเขามีมานาน
ธีร์เดินไปที่ล็อกเกอร์ หยิบผ้าเช็ดตัวมาพันรอบเอวอย่างลวกๆ พยายามควบคุมลมหายใจให้เป็นปกติ เขาเหลือบมองไปรอบๆ สระว่ายน้ำ ไม่มีใครอยู่แล้ว มีเพียงแสงไฟสลัวๆ จากโคมไฟที่ส่องสว่างอยู่ทั่วบริเวณ
เขาก้าวเข้าไปในห้องอบไอน้ำ ความร้อนระอุที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างช่วยให้กล้ามเนื้อที่ตึงเครียดของเขาผ่อนคลายลง แต่ความร้อนภายในใจของเขากลับยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น ธีร์นั่งลงบนม้านั่งไม้ ปล่อยให้เหงื่อไหลซึมออกมาจากรูขุมขน
ในความเงียบสงัด ภาพของกรณ์ก็กลับมาปรากฏในห้วงความคิดอีกครั้ง ใบหน้าคมเข้ม ดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความเข้าใจ และรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ทำให้ธีร์รู้สึกวาบหวาม ภาพมือของกรณ์ที่ลูบไล้ไปตามแผ่นหลังของเขา ปลายนิ้วที่สัมผัสกับผิวเนื้ออย่างอ่อนโยนแต่หนักแน่น และการลูบไล้ที่เลยลงไปต่ำกว่าขอบกางเกงในเล็กน้อย...
ธีร์กัดริมฝีปากตัวเองเบาๆ พยายามสลัดภาพเหล่านั้นออกจากหัว แต่ยิ่งพยายามเท่าไหร่ ภาพเหล่านั้นกลับยิ่งชัดเจนขึ้นเท่านั้น ความรู้สึกสยิวที่ถูกกระตุ้นเมื่อครู่ยังคงค้างคาอยู่ภายใน ความต้องการที่ถูกปลุกเร้าให้ตื่นขึ้นมาอย่างไม่ตั้งใจ
เขาจมดิ่งลงไปในห้วงภวังค์ของตัวเอง ปล่อยให้ความรู้สึกนำพาไป สัมผัสเมื่อครู่ช่างลึกซึ้งและปลุกเร้าเกินกว่าที่เขาจะปฏิเสธได้ ธีร์รู้สึกถึงแรงดึงดูดบางอย่างที่เขาไม่เคยสัมผัสจากใครมาก่อน ไม่ใช่แค่ความใคร่ แต่เป็นความผูกพันที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้สัมผัสนั้น
ธีร์ยกมือขึ้นลูบไล้ไปตามหน้าท้องของตัวเองช้าๆ ไล่ต่ำลงไปตามแนวกล้ามเนื้อ มือของเขาหยุดนิ่งอยู่ตรงจุดที่อ่อนไหวที่สุด ความรู้สึกสยิวเริ่มแผ่ซ่านไปทั่วร่างอีกครั้ง ยิ่งคิดถึงสัมผัสของกรณ์เมื่อครู่มากเท่าไหร่ ความต้องการภายในก็ยิ่งปะทุขึ้นเท่านั้น
เขาหลับตาลงแน่น พลางจินตนาการถึงใบหน้าของกรณ์ที่อยู่ใกล้แค่เอื้อม เสียงกระซิบแผ่วเบาข้างใบหู และสัมผัสที่ร้อนผ่าวไปทั่วทั้งร่างกาย ธีร์ปล่อยให้ตัวเองจมดิ่งลงไปในห้วงแห่งจินตนาการอันเร่าร้อน เขาลืมสิ้นทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัว มีเพียงความปรารถนาที่พุ่งพล่านอยู่ภายในเท่านั้น...
บทที่ 9: บทสนทนาที่ยังไม่ถูกพูด
ธีร์ใช้เวลาอีกพักใหญ่ในห้องอบไอน้ำ ปล่อยให้ความร้อนช่วยขับไล่ความสับสนออกจากกายและใจ เมื่อรู้สึกดีขึ้น เขาจึงเดินกลับขึ้นมาที่คอนโดพร้อมกับความรู้สึกที่ยังคงปั่นป่วนอยู่ในอก เขาพยายามไม่คิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ภาพของกรณ์และสัมผัสเมื่อครู่ยังคงชัดเจนราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วินาทีที่ผ่านมา
เช้าวันรุ่งขึ้น ธีร์ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่หนักอึ้งกว่าปกติ เขารู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่เกิดขึ้นในความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกรณ์ สิ่งที่เคยเป็นเส้นแบ่งบางๆ กำลังเลือนหายไป และเขาก็ไม่แน่ใจว่าควรจะรู้สึกอย่างไรกับมันดี
ตลอดทั้งวัน ธีร์พยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด แต่ทุกครั้งที่โทรศัพท์มือถือสั่น เขาก็อดคิดไม่ได้ว่าจะเป็นกรณ์ที่โทรมา และทุกครั้งที่คิดถึงกรณ์ ภาพของเขาก็กลับมาพร้อมกับความรู้สึกสยิวที่กระตุ้นให้ร่างกายของธีร์ตื่นตัว
ตกเย็น ธีร์ตัดสินใจว่าจะต้องคุยกับกรณ์ให้รู้เรื่อง เขาไม่สามารถปล่อยให้ความรู้สึกคลุมเครือแบบนี้ดำเนินต่อไปได้ เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกดเบอร์ของกรณ์ด้วยมือที่สั่นเล็กน้อย
"ฮัลโหลไอ้ธีร์ ว่าไงวะ?" เสียงทักทายของกรณ์ฟังดูร่าเริงและเป็นกันเองเหมือนปกติ แต่สำหรับธีร์แล้ว มันกลับทำให้เขารู้สึกประหม่ามากกว่าเดิม
"กรณ์... แกว่างไหม? ฉันมีเรื่องอยากคุยด้วย" ธีร์พยายามทำเสียงให้เป็นปกติที่สุด
"อืม... ว่างอยู่แล้วล่ะ มีอะไรวะ? เสียงแกดูแปลกๆ นะ" กรณ์ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่สังเกตเห็นความผิดปกติของธีร์ได้
"คือ... มันเป็นเรื่องที่... ฉันอยากเจอแกแล้วคุยกันตัวต่อตัวมากกว่า" ธีร์พูดด้วยความลังเล
กรณ์เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบกลับมาว่า "โอเค งั้นเจอกันที่ร้านเดิมนะ อีกครึ่งชั่วโมง"
ธีร์วางสายลงด้วยความรู้สึกประหม่า ความรู้สึกที่อัดอั้นมาตั้งแต่เมื่อวานกำลังจะถูกเปิดเผยในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เขานั่งลงบนโซฟา พยายามรวบรวมคำพูดและเตรียมรับมือกับทุกปฏิกิริยาที่อาจเกิดขึ้นจากกรณ์
เมื่อมาถึงร้านกาแฟที่พวกเขามักจะมานั่งคุยกัน กรณ์มาถึงก่อนแล้ว เขานั่งจิบกาแฟอยู่ริมหน้าต่าง มองดูผู้คนที่เดินผ่านไปมา ธีร์เดินเข้าไปใกล้ๆ กรณ์หันมามอง แล้วยิ้มให้เขาเล็กน้อย
"มาแล้วเหรอวะ? มีอะไรสำคัญขนาดต้องมาคุยกันจริงจังเลยเหรอ?" กรณ์ถาม น้ำเสียงของเขาฟังดูติดจะล้อเลียนเล็กน้อย
ธีร์นั่งลงตรงข้ามกับกรณ์ เขาสูดลมหายใจลึกๆ พยายามรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี
"กรณ์... ฉันขอโทษนะ... สำหรับเรื่องเมื่อวาน" ธีร์พูดออกไปในที่สุด ใบหน้าของเขาขึ้นสีแดงก่ำด้วยความอับอาย
กรณ์เลิกคิ้วเล็กน้อย แล้วยิ้มบางๆ "เรื่องอะไรวะธีร์? แกทำอะไรผิดแต่เช้าเหรอ?"
ธีร์รู้สึกเหมือนโดนแกล้ง เขารู้ว่ากรณ์กำลังเล่นตลกกับเขา แต่เขาก็ไม่กล้าโวยวายอะไรออกไป
"ก็เรื่องที่... นายมาเห็นฉันตอน... ตอนที่ฉัน..." ธีร์พูดตะกุกตะกัก ไม่กล้าพูดคำนั้นออกมาตรงๆ
กรณ์หัวเราะเบาๆ "อ้อ... เรื่องนั้นเอง" เขาพูดด้วยน้ำเสียงสบายๆ ก่อนจะจ้องมองมาที่ธีร์ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเข้าใจ "ฉันบอกแกแล้วไงว่าไม่เป็นไร ฉันเข้าใจ"
"แต่... นายเห็นอะไรไปบ้าง?" ธีร์ถามย้ำอีกครั้ง เสียงของเขาเบาหวิว
กรณ์ถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วโน้มตัวเข้ามาใกล้ธีร์เล็กน้อย ดวงตาของเขาทอประกายบางอย่างที่ทำให้ธีร์รู้สึกวาบหวาม
"ฉันเห็น... ความต้องการของแกนะธีร์" กรณ์พูดเสียงเบา "แล้วฉันก็เห็นว่าแก... กำลังเหงา"
คำพูดของกรณ์ทำให้ธีร์ตกใจ เขาไม่คิดว่ากรณ์จะพูดออกมาตรงๆ แบบนี้ ความรู้สึกอับอายผสมกับความตื่นเต้นทำให้หัวใจของธีร์เต้นระรัว
"นาย... นายหมายความว่าไง?" ธีร์ถามเสียงสั่น
กรณ์ยิ้มบางๆ แล้วเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ดวงตาของเขายังคงจับจ้องอยู่ที่ธีร์ไม่วางตา
"ฉันก็หมายความตามที่ฉันพูดนั่นแหละ" กรณ์ตอบ "แกไม่เคยมีความสุขกับใครได้นานๆ แกยังคงมองหาอะไรบางอย่างที่ขาดหายไปในชีวิต"
ความเงียบเข้าปกคลุมอีกครั้ง เป็นความเงียบที่เต็มไปด้วยความหมาย ธีร์ไม่รู้จะพูดอะไรต่อดี เขาเพียงแค่นั่งนิ่งๆ มองหน้ากรณ์ด้วยความรู้สึกที่หลากหลายปะปนกันไป
"แล้ว... เรื่องเมื่อวาน... ที่สระว่ายน้ำ..." ธีร์ตัดสินใจถามอีกครั้ง เขาอยากรู้ว่ากรณ์คิดอะไรอยู่กันแน่
กรณ์ยิ้มมุมปากเล็กน้อย "เรื่องนั้น... ฉันแค่อยากช่วยแกผ่อนคลาย" เขากล่าวพลางเลื่อนมือมาวางบนหลังมือของธีร์ สัมผัสที่อ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยความหมายนั้น ทำให้ธีร์รู้สึกราวกับมีกระแสไฟฟ้าแล่นปราดไปทั่วร่าง
"ธีร์... แกเชื่อเรื่องพรหมลิขิตไหม?" กรณ์ถามด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวล และสายตาที่เต็มไปด้วยความจริงจัง
คำถามของกรณ์ทำให้ธีร์รู้สึกสับสนยิ่งกว่าเดิม เขายังคงมองหน้ากรณ์ด้วยความไม่เข้าใจ แต่ในใจลึกๆ เขาก็เริ่มรู้สึกถึงแรงดึงดูดบางอย่างที่อธิบายไม่ได้
บทที่ 10: ความใกล้ชิดที่เกินกว่าเพื่อน
คำถามของกรณ์ทำให้ธีร์นิ่งไป เขามองลึกเข้าไปในดวงตาของเพื่อนสนิท พยายามค้นหาคำตอบที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังแววตาที่เต็มไปด้วยความจริงจังคู่นั้น ธีร์ไม่รู้จะตอบอย่างไรดี เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมา เขามักจะเชื่อในสิ่งที่จับต้องได้มากกว่าเรื่องของโชคชะตาหรือพรหมลิขิต
"ฉัน... ฉันไม่แน่ใจว่ะกรณ์" ธีร์ตอบเสียงเบา "ฉันไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนั้นเท่าไหร่"
กรณ์ยิ้มบางๆ มือของเขายังคงวางทับอยู่บนหลังมือของธีร์ สัมผัสที่อ่อนโยนนั้นกำลังปลุกเร้าความรู้สึกบางอย่างในตัวธีร์ที่เขาพยายามจะกดเอาไว้
"งั้นลองเชื่อดูไหมล่ะ?" กรณ์พูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ ดวงตาของเขาทอประกายอย่างมีเลศนัย "บางที... พรหมลิขิตอาจจะกำลังเล่นตลกกับเราอยู่ก็ได้นะ"
ธีร์รู้สึกร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้า เขาดึงมือกลับช้าๆ พยายามรักษาระยะห่างที่เคยมี แต่หัวใจของเขากลับเต้นรัวอย่างควบคุมไม่ได้
"แกหมายความว่าไงวะกรณ์?" ธีร์ถาม เสียงของเขาแทบจะกลืนหายไปในลำคอ
กรณ์หัวเราะเบาๆ แต่เสียงหัวเราะของเขากลับเต็มไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้งเกินกว่าที่ธีร์จะเข้าใจ
"ก็หมายความว่า... บางทีคนที่แกตามหามาตลอด อาจจะอยู่ใกล้แกจนแกมองไม่เห็นไง" กรณ์พูด พลางยื่นมือมาลูบไล้ไปตามเส้นผมที่ชื้นเล็กน้อยของธีร์ สัมผัสที่แผ่วเบานั้นทำให้ธีร์สะดุ้งเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้หลบหนี
บรรยากาศรอบตัวดูเหมือนจะหยุดนิ่งไปชั่วขณะ มีเพียงเสียงเพลงคลอเบาๆ จากในร้าน และเสียงหัวใจของธีร์ที่กำลังเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง ธีร์รู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของกรณ์ที่เป่ารดอยู่ข้างแก้ม ความใกล้ชิดที่เกินกว่าเพื่อนกำลังกัดกินพื้นที่ระหว่างพวกเขา
"กรณ์... แกพูดอะไรของแกเนี่ย" ธีร์พยายามถามออกไปอีกครั้ง แม้เสียงจะฟังดูแหบพร่า
กรณ์โน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ธีร์อีกเล็กน้อย จนปลายจมูกของพวกเขาสัมผัสกัน ธีร์รู้สึกได้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวกรณ์ กลิ่นที่เขาคุ้นเคยมานาน แต่ตอนนี้กลับรู้สึกว่ามันช่างเย้ายวนอย่างประหลาด
"ฉันก็พูดสิ่งที่ฉันรู้สึกไงธีร์" กรณ์กระซิบเสียงแผ่วเบา ดวงตาของเขาสบเข้ากับดวงตาของธีร์อย่างจัง ราวกับกำลังสะกดจิต ธีร์ไม่สามารถละสายตาไปจากกรณ์ได้เลยแม้แต่น้อย
"แก... แกกำลัง..." ธีร์พยายามจะพูด แต่คำพูดกลับติดอยู่ที่ลำคอ ความรู้สึกสับสน ตื่นเต้น และความปรารถนาที่ซ่อนเร้นตีกันวุ่นวายในใจ
กรณ์ไม่รอให้ธีร์พูดจบ เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้กว่าเดิม จนหน้าผากของพวกเขาสัมผัสกันเบาๆ ธีร์รู้สึกได้ถึงความร้อนผ่าวจากร่างกายของกรณ์ที่แผ่ซ่านมาถึงตัวเขา
"ฉันแค่อยากให้แกมีความสุขนะธีร์" กรณ์กระซิบอีกครั้ง "และถ้าฉันทำให้แกมีความสุขได้... ฉันก็จะทำ"
คำพูดของกรณ์ทำให้ธีร์รู้สึกเหมือนกำลังถูกผลักให้ไปยืนอยู่ริมหน้าผา เขารู้สึกถึงแรงดึงดูดที่ไม่สามารถต้านทานได้ ความใกล้ชิดระหว่างพวกเขาทำให้หัวใจของธีร์เต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาจากอก เขาไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี
กรณ์ค่อยๆ เลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ธีร์มากขึ้นเรื่อยๆ จนลมหายใจอุ่นๆ ของทั้งคู่ปะทะกัน ธีร์หลับตาลงแน่น เตรียมพร้อมรับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น... แต่แล้ว เสียงโทรศัพท์ของกรณ์ก็ดังขึ้นมาเสียก่อน ทำลายบรรยากาศทั้งหมดลงอย่างกะทันหัน
กรณ์ถอนใบหน้าออกห่างจากธีร์อย่างช้าๆ ใบหน้าของเขามีแววผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว เขากดรับโทรศัพท์แล้วพูดคุยกับปลายสายด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลายลง
ธีร์ลืมตาขึ้นมา มองกรณ์ที่กำลังคุยโทรศัพท์ด้วยความรู้สึกโล่งใจปนผิดหวัง เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามเรียกสติกลับมา ภาพเมื่อครู่ยังคงชัดเจนอยู่ในความทรงจำ และความรู้สึกวาบหวามก็ยังคงค้างคาอยู่ภายใน
"โทษทีว่ะธีร์ พอดีมีเรื่องด่วนนิดหน่อย" กรณ์พูดพลางเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋า "ฉันคงต้องไปแล้วล่ะ"
ธีร์พยักหน้าช้าๆ "อืม..."
กรณ์ลุกขึ้นยืน แล้วยื่นมือมาแตะไหล่ของธีร์เบาๆ ดวงตาของเขายังคงจับจ้องที่ธีร์อย่างมีความหมาย
"เอาเป็นว่า... เรื่องของเรา... เรามาคุยกันต่อวันหลังนะ" กรณ์พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ก่อนจะยิ้มบางๆ แล้วเดินจากไป ทิ้งให้ธีร์นั่งอยู่เพียงลำพังกับความรู้สึกที่ยังคงค้างคาและไม่แน่ใจในความสัมพันธ์ของเขากับเพื่อนสนิท... ผู้ที่ดูเหมือนจะไม่ได้อยากเป็นแค่เพื่อนอีกต่อไปแล้ว
เรื่องราวต่อไปนี้จะเป็นเช่นไรโปรดติดตามตอนต่อไป
ขอคนละ1 คอมเมนต์นะครับ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผมต่อไป เรื่องราวเหล่านี้แต่งโดยAI ผ่านจินตนาการและการกำกับของผมเองเรียกผมว่า ชายธีร์
ขอบคุณครับ สนุกมากครับ สนุกมากกกครับ ขอบคุงมากคร้าบ สนุกมากคร้าบ{:5_119:} ขอขอบคุณ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ กรณ์ดูเปิด และตั้งใจเข้าหา เหลือแต่ธีร์แหละที่ลังเล ขอบคุนครับ ขอบคุณครับ
หน้า:
[1]