ในวันที่สองของการแข่งขัน ทุกอย่างดูเหมือนเดิม ยกเว้น “ใจ”
แดดเช้าส่องผ่านผ้าใบเต็นท์ฝึก เหงื่อจากการวิ่งเบา ๆ เริ่มซึมเสื้อ Tight-fit นายพยายามตั้งสมาธิ
แต่มันไม่ง่ายเลย—หลังจากที่รชตพูดเมื่อคืน และสายตานิ่ง ๆ ของหมายเลข 11 ยังคงวนเวียนในหัว
“นี่มันไม่ใช่แค่ฝันแล้ว...กูเริ่มรู้สึกกับทั้งสองคนจริง ๆ”
แววตาจากนักบอล ที่ราวกับบอกว่า “คืนนี้...กูจะไม่ปล่อยให้ฝันอยู่ฝ่ายเดียว” ระหว่างวอร์มกล้าม นายเผลอมองไปทางมุมสนาม
นักบอลหมายเลข 11 กำลังดื่มน้ำ เสื้อฝึกชื้นแนบแผ่นอก แล้วเขาก็เลียริมฝีปากเบา ๆ ก่อนจะมองตรงมาทางนาย
ไม่มีคำพูด ไม่มีรอยยิ้ม มีเพียงแววตา ที่เหมือนจะพูดว่า...“คืนนี้...กูจะไม่ปล่อยให้มึงแค่ฝัน”
หลังเลิกซ้อม รชตเดินมาใกล้แบบไม่ให้ตั้งตัว วางมือลงบนต้นคอของนาย แล้วกระซิบติดหูเสียงทุ้มต่ำ
“อย่าเผลอให้ใครแตะตรงนี้...ถ้ากูยังอยู่ในสนามนี้” มือของเขาร้อน แรงกดแน่นพอจะสื่อว่า เขาไม่พร้อมให้ใครมาแบ่ง
นาย…ที่เริ่มรับรู้ว่า ร่างกายกำลังสั่นเพราะใครก็ได้ หลังกลับถึงเต็นท์พัก นายทิ้งตัวลงบนเสื่อถอดเสื้อฝึกออก
กลิ่นเหงื่ออบอวล แต่ในหัวไม่มีคำว่า “เหนื่อย” เลย มีแค่…กล้ามอกของรชต เป้าชื้น ๆ ของนักบอล และเสียงในฝันที่ยังวนว่า
“ถ้าคืนนี้มีจริง…มึงจะยอมใครก่อน?”
หลังอาบน้ำเสร็จ นายทิ้งตัวลงบนเสื่อในเต็นท์ กลิ่นสบู่อ่อน ๆ ยังติดผิว แต่กลิ่นอีกอย่างที่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวคือ…
เหงื่อ และลมหายใจของนักบอลหมายเลข 11 แผ่นหลังเขายังรู้สึกได้ถึงมือของรชต สะโพกยังรู้สึกได้ถึงสัมผัสในฝัน
และสายตาเขา…ก็มองไปยังปลายผ้าใบเต็นท์ ก่อนจะได้ยินเสียงนั้นดังขึ้นเบา ๆ
“นาย...ออกมาหน่อย”
เขาลุกขึ้น เดินอย่างเงียบที่สุด ฝ่าอากาศเย็นยามค่ำ และพบกับ หมายเลข 11 ยืนพิงต้นไม้หลังค่าย
ใส่เสื้อแขนสั้นตัวหลวม แต่ไม่มีอะไรซ่อนกล้ามแน่นของเขาได้ กางเกงวอร์มต่ำขอบกางเกงในสีเทาโผล่นิดเดียว
“ทำไมเรียกผม…” เขาพูดไม่จบ เพราะอีกฝ่ายเดินเข้ามาใกล้ แล้ววางมือบนไหล่เขา
“กูแค่อยากรู้...ว่าคืนนี้มึงจะยอมให้กูอยู่ในฝันอีกมั้ย”
“หรือ...จะให้กูเป็นจริงไปเลย”
เขาไม่ตอบ หัวใจเต้นแรงเกินกว่าจะพูด นักบอลขยับมือจากไหล่ เลื่อนไปวางที่เอว
แล้วกดเบา ๆ ให้เขาเข้าใกล้ “เมื่อคืนมึงครางชื่อกูในฝันจริงหรือเปล่า?”
“ตอบได้...ก่อนที่กูจะเริ่มทำให้เสียงนั้นหลุดออกมาตอนตื่นจริงๆ” ลมหายใจของอีกฝ่ายแตะริมฝีปาก จังหวะข้างในเขา...เหมือนจะระเบิด
มือข้างหนึ่งของหมายเลข 11 วางบนเอวเขา กดช้า ๆ จนหลังแทบแนบกับแผ่นอก กล้ามอกของอีกฝ่ายแน่น ชื้น อุ่น
หัวใจเต้นประสานกันในจังหวะที่ไม่ต้องซ้อม “นาย…” เขาพูดเบา แต่เสียงขาดห้วง
“อย่าเรียกกูแบบนั้น” นักบอลกระซิบที่ข้างหู “เรียกชื่อกูเหมือนในฝัน…สิ”
ฝ่ามือของอีกฝ่ายลูบจากเอว สอดเข้าใต้เสื้อฝึก ลูบผ่านหน้าท้อง นายสะดุ้งเล็กน้อย แต่กลับ “ไม่ขยับหนี”
“ตรงนี้ยังอุ่นอยู่เลย…” เขาพูดพร้อมแตะที่กล้ามท้องของนาย
“เมื่อคืนมึงเสร็จเพราะกูจริง ๆ ใช่มั้ย” เขาไม่ตอบ เพราะตอนนี้แค่ยืนนิ่งก็ลำบากแล้ว
นักบอลค่อย ๆ ดันเขาถอยหลัง จนแผ่นหลังแนบกับต้นไม้ใหญ่ มือสองข้างยันไว้ด้านข้างร่าง
ริมฝีปากของเขาอยู่ห่างกันไม่ถึงคืบ “กูจะไม่รุก...ถ้ามึงไม่ยินยอม”
“แต่ถ้ามึงยังยืนนิ่งแบบนี้ กูจะถือว่ามึงยอมหมดทุกอย่างแล้วนะ...”
นายหลับตาลงช้า ๆ ปล่อยลมหายใจออก แล้วพูดเบา ๆ ด้วยเสียงที่แทบไม่เป็นเสียง
“…ขอแค่ไม่มีใครเห็น” และในวินาทีนั้น ริมฝีปากของเขาทั้งสองก็แนบกัน กล้ามแน่นเบียดแน่นอก
มือยังวางที่เอว ริมฝีปากแลกลมหายใจแบบไม่ต้องมีคำขออนุญาต
“คืนนี้...กูจะไม่ให้มึงฝันถึงใครนอกจากกู”
เขากระซิบ แล้วคืนนั้น… ใต้ต้นไม้หลังค่าย ไม่มีเสียงใดดัง นอกจากเสียงจังหวะใจที่ “ยอม” โดยสมบูรณ์
เช้าวันถัดมา นายยังรู้สึกถึงลมหายใจเมื่อคืน แสงเช้าอุ่น ๆ ทาบใบหน้าขณะลืมตา ร่างยังคงรู้สึกอ่อน… ไม่ใช่เพราะการฝึก
แต่เพราะ “ริมฝีปาก กล้ามแขน และคำกระซิบ” ของนักบอลเมื่อคืน มือเขายังแตะเบา ๆ ที่ต้นคอ จำได้ว่าโดนจูบเบา ๆ ตรงนี้…
ก่อนอีกฝ่ายจะบอกลาและแยกกลับเต็นท์ นายหลับตา ยิ้มออกมาเพียงลำพัง
แต่รอยยิ้มก็หยุดลง…เมื่อได้ยินเสียงนี้จากข้างหลัง “มึงคิดว่าคนอื่นเค้าไม่เห็นกันเลยเหรอ?” เสียงนั้นนิ่ง
ตรง และไม่ใช่ใครนอกจาก…รชต เขายืนกอดอกพิงเสาเต็นท์ เสื้อฝึกไม่ใส่ เหลือแค่กางเกงลำลองกับกล้ามอกที่ตึงเต็มแนวสายตา
แววตา…นิ่งแบบที่อ่านไม่ออก
“เมื่อคืนมึงกลับช้ากว่าปกติ 14 นาที”
“เส้นผมด้านขวาเปียกฝนบางส่วน”
“และมีรอยแดงตรงต้นคอฝั่งซ้าย — ที่กูไม่ได้ทำ” นายพูดอะไรไม่ออก ใจเต้นแรง แต่รชตยังพูดต่อ…
“กูไม่ใช่เจ้าของมึง…แต่กูเป็นคนแรก”
“คนแรกที่มึงไม่เคยปฏิเสธ”
เขาเดินเข้ามาใกล้ ใกล้จนไออุ่นของร่างแตะกับผิว สายตานิ่งขึ้นกว่าเดิม
“จำไว้นะ…”
“มึงจะฝันถึงใครก็ได้…แต่กูจะทำให้มึง จำกู ได้ในตอนตื่น”
แล้วเขาก็โน้มตัวมาแนบหน้าผาก
มือข้างหนึ่งแตะหน้าอกของนาย
“ตรงนี้มันยังมีชื่อกูอยู่…แค่ตอนนี้มึงยังไม่กล้าพูดมันออกมา”
นายกลับเข้ามาในเต็นท์คนแรก ไม่มีเสียงพูด ไม่มีคำแซว เขาแค่ปูผ้าบาง ๆ นอนลง และเงียบ…เหมือนกำลังหลบหนี
ทั้งจากสายตารชต จากกลิ่นกายของนักบอล ที่ยังติดในปาก
“ทำไมกูไม่รู้สึกพอ…”
“ทำไมถึงอยากได้ทั้งสองคน ทั้งที่รู้ว่ามันต้องเจ็บ…”
ภาพเมื่อคืนย้อนขึ้นมาไม่หยุดมือหนาที่วางตรงเอว เสียงหายใจที่รินรดต้นคอ กล้ามหน้าท้องที่กระชับแนบแผ่นหลัง
เขาสะดุ้ง มือขยำผ้าห่ม ใจเต้นจนแน่นหน้าอก แล้วภาพที่รชตเดินเข้ามา... กดมือลงกลางอก และพูดว่า
“ตรงนี้มันยังมีชื่อกูอยู่” ก็ย้อนกลับมาพร้อมกัน
นายไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคิดถึงใคร ร่างกายยังร้อน ปลายนิ้วเผลอแตะลงบนหน้าท้องของตัวเอง และลากลงช้า ๆ
แต่ยังไม่ทันแตะจุดปลายทาง เขากลับดึงมือกลับขึ้นมาแน่น แล้วกัดริมฝีปากตัวเอง
“กูไม่ได้รักใครเลย…ใช่มั้ย?” หรือแค่… “กูเสพติดการยอมให้ใครก็ได้ที่ ‘ทำให้กูสั่นได้’”
[ เบอร์ไม่รู้จัก – ไม่มีชื่อบันทึก ] หน้าจอสว่างวาบ เขารับสาย เสียงปลายสายเป็นเสียงทุ้มนิ่งที่คุ้นจนสั่นไหว
“คืนนี้มึงหลับตาลงได้หรือยัง?”
“ถ้ายังก็...อย่าหลับเลย”
“เพราะพรุ่งนี้กูจะทำให้มึงตื่นแบบที่ลืมฝันทุกครั้งก่อนหน้าไปหมด”
เช้าอึมครึม…เพราะบรรยากาศไม่ใช่แค่เรื่องอากาศ ท้องฟ้าวันนี้ไม่สดใส
ฝนตกปรอย ๆ ตั้งแต่ตีห้า นายตื่นก่อนปลุก และรู้สึกว่าหน้าท้องยังอุ่นจากฝ่ามือของเมื่อคืนก่อน
เสียงฝนรินเงียบ ๆ แต่เสียงในอกกลับดังกว่าทุกวัน เพราะเขารู้ว่า...เช้านี้ รชตกับหมายเลข 11 จะไม่ยอมอยู่เงียบ ๆ อีกแล้ว
บนสนามซ้อมย่อย เมื่อ “บังเอิญมาเจอกัน” มันไม่ใช่แค่บังเอิญ นายกำลังยืดเส้นที่ขอบสนาม กล้ามขาเกร็ง ก้มหน้าเช็ดเหงื่อ
แล้วสองเงาก็เดินเข้ามาจากสองทิศ “มึงมีเวลาสิบห้านาทีมั้ย?” รชต
“กูแค่อยากคุยต่อจากเมื่อคืน” หมายเลข 11
เขาเงยหน้า กลืนน้ำลาย แล้วเห็นว่าทั้งคู่…ยืนอยู่ตรงหน้าเขาในรัศมีไม่ถึงหนึ่งเมตร
“เมื่อคืน...กูเห็น” — รชต
“เมื่อคืน...กูก็ได้” — หมายเลข 11
ความเงียบตึงเครียด ไม่มีใครยอมหลบสายตาใคร มีแต่นายที่ยืนอยู่ตรงกลาง กล้ามแขนสองคู่ เหงื่อสองกลิ่น สองแรงขั้วตรงข้าม...แต่ดึงเขาเข้าหาไม่แพ้กัน
“มึงจะเลือกใคร?” — รชต
“หรือมึงแค่ยอมให้ใครก็ได้ ที่ทำให้มึงสั่น?” — หมายเลข 11
นายหอบเบา ๆ ไม่ใช่เพราะซ้อม แต่เพราะแรงอารมณ์ที่ตีกันในอก เขาหลับตา สูดลมหายใจ
แล้วพูดว่า… “กูไม่รู้ว่ากูรักใคร…”
“แต่กูรู้ว่า ร่างกายกูไม่เคยปฏิเสธพวกมึงเลยสักครั้ง…”
ทั้งสองคนมองเขานิ่ง สายตาที่ทั้งคาดหวัง และพร้อมเจ็บ แล้วรชตพูดก่อน
“งั้นคืนนี้…กูจะไม่ขออีกแล้ว”
“ถ้ามึงยังยืนเฉย กูจะถือว่า...มึงให้กูเหมือนเดิม” หมายเลข 11 ขยับเข้ามา ลมหายใจเป่าข้างหูเขา
“และถ้าคืนนี้...มึงเรียกชื่อกูอีก”
“กูจะทำให้เสียงนั้นกลายเป็นความจริงจนมึงลืมคนอื่นไปหมด”
แสงจันทร์ลอดผ้าใบ เต็นท์เงียบสนิท เสียงหายใจของเพื่อนรวมกลุ่มดังแผ่ว แต่นาย…ยังนอนไม่หลับ
เพราะหัวใจยัง “เลือกไม่ได้” ระหว่างสองเงา คนหนึ่ง…คืออดีตที่เขาไม่เคยปฏิเสธ อีกคน…คือความเร้าใจที่ร้อนเกินห้ามใจ
แต่คืนนี้…เขาต้องตัดสินใจ
มือเอื้อมไปแตะหน้าอกตัวเอง…ตรงที่รชตเคยแตะ
“ตรงนี้มันยังมีชื่อกูอยู่” — เสียงของรชตวนอยู่ในหัว ร่างของเขาสั่นเบา ๆ
เพราะรู้ว่าคำพูดนั้น…มัน “ไม่ใช่แค่ครอบครอง” แต่มันคือการขอให้ “มึงอย่าลืมว่ากูเคยอยู่ในหัวใจมึงจริง ๆ”
เขาหลับตา แล้วเห็นภาพวันแรก ที่รชตอยู่ข้างเขา ฝึกด้วยกัน จ้องตา แลกเป้า และสุดท้าย…กอดเขาไว้ทั้งคืนหลังวันฝึกโหด
ขาเปลือยเปล่าสัมผัสพื้นเย็น มือข้างหนึ่งหยิบเสื้อคลุม อีกมือ…สั่นเล็กน้อย เขาไม่บอกใคร ไม่เขียนโน้ต แค่เปิดผ้าใบเต็นท์ออกเงียบ ๆ
แล้วเดินเข้าสู่เงาค่ำ ตรงไปยัง “เต็นท์ของรชต”
แค่เปิดผ้าใบ…อีกฝ่ายก็ลุกขึ้นยืนโดยไม่ต้องพูดอะไร “มึงมาแล้ว…” รชตพูดช้า ๆ เสียงไม่ได้ดัง แต่แน่นจนแน่นหน้าอก
นายยืนตรงหน้าเขา มองกล้ามไหล่เปลือยเปล่าในแสงไฟสลัว รอยแผลเล็ก ๆ จากการฝึกยังอยู่ที่ปลายแขน แต่สายตาของรชต…ไม่เคยดูเจ็บเท่าตอนนี้
เขาไม่พูด แค่เดินเข้าไป วางหน้าผากแนบอก และกอดร่างนั้นไว้แน่น
“กูคิดว่ามึงจะไม่มา…”
“แต่ก็รู้อยู่แล้วแหละ ว่าถ้ามึงจะ ‘เป็นของใคร’ จริง ๆ มันต้องเป็นตอนมึงเดินมาหากูเอง” นายพยักหน้าแนบอก
มือกำเสื้อแน่น ลมหายใจร้อน แล้วรชตก็พูดปิดท้าย...เบาแต่ลึกถึงกระดูก “คืนนี้กูจะไม่ขออะไรจากมึง”
“เพราะแค่มึงมาหา...กูก็รู้แล้วว่ามึง ‘เลือกให้กูอยู่ในความจริง’ มากกว่าฝันใด ๆ”
เต็นท์ทั้งหลังอุ่นขึ้นจากไออารมณ์ ร่างทั้งสองนั่งแนบกัน ไม่พูดมาก ไม่เร่งอะไร
แค่กล้ามแนบกล้าม เหงื่ออุ่นแตะหลังต้นคอ และนาย...ก็ยอมให้มือของรชต วางลงบนหัวใจที่เขาเคยบอกว่า
“ยังมีชื่อกูอยู่ตรงนี้เสมอ”