ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
โรงหนังชั้นสองกับเทพบุตรของผม ประสบการณ์ของผม เกิดขึ้นสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี้เองตอนนั้นประมาณห้าโมงได้ หลังจากผมเลิกงานแล้วผมไปดูหนังที่โรงหนังชั้นสองแห่งหนึ่ง ซึ่งไม่ได้ฉายหนังปลุกใจหนุ่ม ๆ แต่อย่างใดเป็นหนังสองเรื่องควบเพิ่งออกจากโรงหนังชั้นหนึ่งไม่เท่าไร อารมณ์ตอนนั้นอยากเข้าไปดูหนังจริงๆ พอเข้าไปในโรง หนังกำลังฉายประมาณปลายเรื่องแล้ว ผมก็เลือกนั่งเก้าอี้แถวท้ายสุดผมเข้าไปนั่งได้สักครู่ สายตาเริ่มชินกับความมืด มองถัดไปสักสามเก้าอี้ก็เห็นวัยรุ่นคนหนึ่ง นั่งดูหนังอยู่เช่นกันผมก็ดูหนังไปสายตาก็เหลือบมองไปที่น้องคนนั้นอยู่เรื่อย ๆ โดยไม่ได้หันหน้าไปมองแต่น้องกลับหันหน้ามามองที่ผมบ่อย ๆ จนผมเริ่มรู้สึกว่ามีอะไรแปลก ๆอยู่ตามประสาคนที่มีประสบการณ์ด้านนี้มาพอสมควร ผมก็เลยหันหน้าไปมองน้องเขาบ้างแต่เขาก็หันหน้ากลับไปทันที เป็นอย่างนี้อยู่หลายหน จนหนังจบเรื่อง ผมก็เดินออกมายืนสูบบุหรี่ด้านนอกโรงหนังน้องเขาก้ออกมานั่งสูบบุหรี่เหมือนกัน พอเห็นหน้าเขาชัด ๆผมก็เกิดความรุ้สึกอย่างว่าขึ้นมาทันที เพราะน้องเขาหน้าตาดีมาก ผิวขาวเหมือนดาราเกาหลีที่แสดงเป็นพระเอกเรื่องจูมง รูปร่างสูงประมาณเกือบร้อยแปดสิบผิวขาวใส่เสื้อยือคอกลมสีดำ กางเกงยีนส์ขาดมากหลายแห่งที่สำคัญบริเวณขาพับด้านในขาดมากถึงขนาดที่ว่าเห็นกางเกงในสีแดงแลบออกมานิด หน่อยพอน้องเขาเห็นผมจ้องอยู่ เขาก็จัดระเบียบกางเกงใหม่ แล้วยิ้มน้อย ๆ โอวผมเห้นแคนั้นก็สติขาดผึง เดินเข้ามาพูดกับเขาอย่างไม่ลังเล "น้องมาดูหนังคนเดียวหรือครับ"
แต่ น้องเขาไม่ตอบได้แต่พยักหน้าแล้วยิ้มในตอนนั้นน้องเขาสูบบุหรี่หมดพอดี เขาก็เดินกลับเข้าไปในโรงหนังผมก็ยืนรีรออยู่สักพักเพราะไม่รู้ว่าเขาจะเล่นกับเราหรือเปล่าแต่ความอยากมีมากกว่าความกลัว ผมเลยเดินกลับเข้าไปในโรงหนังแล้วตรงไปที่ห้องน้ำทันที แต่แล้วสายตาผมก็เห็นวัยรุ่นคนนั้นกำลังยืนฉี่อยู่ทันทีที่เขาหันมาเห็นผมเข้า เขาก็รีบเก็บของเข้ากางเกง แล้วเดินออกจากห้องน้ำทันทีอารมณ์ตอนนั้นของผมรู้สึกฉุนนิด ๆเพราะไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องทำเหมือนกลัวผมจะไปควักอะไรเขาอย่างนั้นหละ(เขาเข้าใจไม่ผิดเลย อิอิ) ทั้งที่ผมก็ไม่ได้แสดงท่าทางออกสาวสักนิดการแต่งเนื้อแต่งตัวก็ไม่ได้ไปในแนวทางนั้น เพียงแต่มีกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆเท่านั้นเอง วิญญาณแวมไพร์ของผมก็เริ่มเปิดเผยออกมาทันทีผมจึงเดินออกมาแหวกผ้าม่านกั้นห้องน้ำแล้วมองตามหลังน้องเขา ว่าเขานั่งตรงแถวไหนเดี๋ยวเถอะให้ตูฉี่เสร็จก่อนจะตามไปดูดเลือด(ขาว) ของเอ็งให้ได้ แฮ่
หลังจากทำธุระเสร็จผมก็เดินไปบริเวณแถวที่น้องเขา นั่งซึ่งอยู่ประมาณแถวที่ห้าได้ แล้วก็ไปนั่งห่างจากน้องเขาสองเก้าอี้น้องเขาก็หันหน้ามามองหน่อยหนึ่งแล้วก็นั่งหลับตาฟังเพลงที่ทางโรงเขาเปิด ให้ฟัง(เพลงรอหนังฉายเรื่องต่อไปอ่ะนะ)พอเห็นดังนั้นผมก็เริ่มส่งเสียงทักทายน้องเขาอีกครั้ง
"น้องครับโรงหนัง ที่นี่เขาปิดกี่โมงอ้ะเรื่องที่แล้วพี่ดูไปได้นิดเดียวเอง" ฟอร์มถามไปงั้นก็หน้าโรงเขาก็ติดกำหนดการฉายหนังไว้ ยังแรดถามผู้ชายอีก อิอิ
"พมกอไม่รู่เมือนกัน" ผมประหลาดใจนิดหน่อยสำเนียงเขาชาวต่างชาติชัด ๆ เลย
"น้องมาดูหนังที่นี่บ่อยมั้ย?" ยังไม่ท้อใจอย่างน้อยเขาก็ตอบคำถามเราแล้ว
"มายเคยเคามาดูเลย เพิงมาดูฮนแรก" สำเนียงกัมพูชาชัดเจนเริ่มแสดงท่าว่ารำคาญ
"ไม่ทำงานเหรอ มาดูหนังอย่างนี้น่ะ" ถามไปงั้นชักท้อใจนิดๆ ละ ว่าต้องกินแห้วแน่เลย
"เลิกงานแลว" พูดห้วน ๆ
"ทำงานอะไรหรอครับ" พูดเพราะสุดขีดแล้วนะเนี่ยกลัวโดนอวัยวะเบื้องล่างก่อนได้ชิมอวัยวะเบื้องกลาง
"ซงนำแคง" ทำท่าหันรีหันขวางเหมือนจะหาที่นั่งใหม่
"อ๋อ ส่งน้ำแข็ง แล้วน้องพักที่ไหนหรือครับ" ถามไปงั้นในใจก็ภาวนาว่าอย่าให้เค้าลุกหนีไปเลย
"พีเปนตำรวจรือ พมมีใบทำงานนา" สงสัยเขาจะกลัวผมเพราะว่าผมใส่กางเกงสีกากี และใส่เสื้อคลุมสีดำ คล้ายพวกสืบสวนสอบสวน
"ไม่ ใช่ ไม่ใช่ พี่เห็นน้องมาคนเดียว พี่ก็มาคนเดียวแล้วโรงหนังนี้ก็ไม่ค่อยมีคนดู น่ากลัวออก" เสียงอ่อนเสียงหวานสุด ๆแล้วนะเนี่ย อย่าลุกหนีไปเลยนะที่รัก อิอิ ว่าไปนั่น
"พี่ขอไปนั่ง เก้าอี้ตัวนี้นะ" โดยไม่ต้องรอการอนุญาตรีบไปนั่งเก้าอี้ข้างตัวเขาทันที ขึ้นชื่อว่าปีศาจ ก็ย่อมปรากฏกายออกมาจนได้ อิอิแฮ่
เขาก็ไม่ม่ทีท่าว่าจะลุกไปไหน แค่ขยับตัวไปนั่งชิดเก้าอี้อีกด้านแหมกลัวไปได้ ไม่ทำอะไรหรอกกกกก แฮ่รรรร
"ว่าแต่ยังไม่ตอบพี่เลย ว่าพักแถวไหน?" แน้ ยังจะถามอีก ก็หนังมันยังไม่ฉายนี่นาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วนะเนี่ย
"แทวถนน.....กลางซอย.......พักทีโรงนำแค็ง"ควบกล้ำชัดเปรี๊ยะเลยอ้ะ น่าจะไปเป็นครูสอนภาษาไทย
แล้ว ก็เหมือนโกหกว่าโลกกลมเพราะว่าเขาพักซอยเดียวกับผมเลยสงสัยจะทำงานกับโรงน้ำแข็งที่อยู่ในซอยย่อยตรงกันข้ามกับซอยย่อยของผมแน่เลยผมก็เก็บความคิดนี้ไว้ในใจ พรางคิดว่าเป็นบุพเพฯ แน่เลย อิอิ แฮ่
"ทำไมไม่ไปดูโรงหนังตรงข้ามโรงหนังนี้ล่ะเขาฉายหนังโป๊นะ"ฮั่นแน่เริ่มหยอดแล้ว แต่ดูเหมือนเขาไม่รู้ตัวเพราะเขาตอบแบบซื่อ ๆ ว่า
"พมไม่รู ถ้ารูก็ไปดูแลว" ฮึไม่น่าชี้โพรงให้กระรอกเลยตู
"น้องจะว่าอะไรไหมถ้าพี่จะชวนไปดูหนังเอ๊กซ์ที่ห้องพี่ที่ซอย......"
"จริงรือ"ไม่รู้ว่าน้องเขาประหลาดใจที่ผมพักอยู่แยกตรงข้ามกับแยกที่โรงน้ำแข็งของน้องเขาตั้งอยู่หรือว่าประหลาดใจที่ผมชวนไปดูหนัง
"อือ นะไปดูหนังอย่างว่าที่ห้องพี่เหอะนะหนุกกว่านี้เยอะ" แฮ่
ทำท่าคิดนิดนึง
"กอได แตรดูนังอีกเรืองให้จบกอนนะ"
"ได้ พี่ก็ว่าจะดูหนังก่อนเหมือนกัน"แต่ใจผมเตลิดไปไกลแล้ว แฮ่
ระหว่าง นั่งดูหนังใจผมก็เต้นไม่เป็นส่ำ ดูหนังไม่รู้เรื่องเลย กลัวน้องเขาจะเปลี่ยนใจระหว่างหนังฉายเขาลุกไปเข้าห้องน้ำ ผมก็ต้องชะเง้อดูกลัวว่าเขาจะออกไปเลยพอเขาออกจากห้องน้ำมาผมก็ทำท่าดูหนังอย่างตั้งใจพอเขากลับมานั่งผมก็พยายามจะให้แขนชนกัน เขาก็ขยับหนี อยู่เรื่อย เฮ้อเหนื่อยใจจริง ๆ
พอดูหนังจบเราก็นั่งรถเมล์กลับมาที่ห้องผม เขาบอกว่าเขาชื่อวิน(นามสมมุติ) อายุสิบแปดปี มาทำงานตั้งแต่อายุสิบเจ็ดเพิ่งได้ใบต่างด้าวอนุญาติให้ทำงานมาได้เพียงหกเดือนพอถึงเซเว่นแถวบ้านผมก็ซื้อเบียร์มาสามขวดกะจะมอมเขาให้ได้ เขาบอกว่าไม่เคยกินผมบอกว่าไม่เป็นไรหรอก กินเป็นเพื่อนพี่ก็แล้วกัน ทุกท่าทางของเขาไม่รอดพ้นสายตาผมไปได้
พอมาถึงที่ห้องผมก็ไล่เขาให้ไปอาบน้ำแล้วหากางเกงบ๊อกเซอร์ให้เขาใส่ ในระหว่างที่เรานั่งกินเบียร์ แกล้มหนังเอ็กซ์กางเกงที่เขาใส่อยู่ก็โป่งขึ้นมาอย่างชัดเจน ผมชำเลืองตามองจนเขาสังเกตเห็นแล้วก็เอาหมอนอิงมาปิดเป้าเขาไว้ อดทนไว้เดี๋ยวไก่ตื่น ผมได้แต่ปลอบใจตัวเอง สักพักเขาก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ
ระหว่าง นั้นผมก็ลุกขึ้นเดินไปสำรวจเสื้อผ้าเขาหยิบกางเกงในสีแดงของเขาขึ้นมาดม อารมณ์ผมก็คุกรุ่นเกินห้ามใจประกอบกับเริ่มมึนเบียร์นิด ๆ ความยับยั้งชั่งของผมก็ขาดผึงลงไปทันทีผมเดินไปที่ห้องน้ำ หาเหรียญห้าบาทในกระเป๋าแล้วไขลูกบิดประตูห้องน้ำเข้าไปทันที
ภาพที่ผม เห็นท่อนล่างเขาเปลือยเปล่า มือกำท่อนลำของเขาอยู่ เขาผงะแล้วรีบเอามือบังแท่งทวนยักษ์ของเขาทันที ซึ่งอย่างไรเสียมันก็ปิดไม่มิดเพราะมันกำลังแข็งปั๋ง ผงาดง้ำเสียขนาดนั้น
เท่านั้นเองผมก็วีนแตกทันที
"ทำไมวินทำอย่างนี้ ไม่ไว้หน้าพี่เลย เห็นพี่เป็นอะไร"อารมณ์ของผมตอนนั้นมันน้อยใจสุดๆ
"กอพีเป็นผู้ชายเหมือนผม" ดู ๆ มันตอบแบบซื่อๆเลยโกรธไม่ลงจริง ๆ
"ออกมาเลย" ผมพูดพร้อมกับดึงแขนวินออกมาเขาก็เดินตามมาโทง ๆ ครึ่งตัวแบบนั้น แท่งทวนกลายเป็นหนอนน้อยไปเสียแล้ว
เมื่อ กลับมานั่งหน้าโทรทัศน์ ซึ่งมิยาเบะกำลังส่งเสียงอ๊า ๆ ๆ อยู่ผมก็อธิบายให้วินฟังว่าที่ผมชวนเขามาเพราะอะไร สอนเขาเรื่องเกย์ซึ่งเขาบอกว่ารู้จัก แต่ไม่เขาไม่เคยมีประสบการณ์อย่างว่ากับใครเลยไม่ว่ากับเกย์หรือผู้หญิง ท่าทางเขาตอบแบบซื่อ ๆ แต่ผมก็ยังแย็บกับไป
"ไม่เชื่อหรอก แล้วเวลาที่วินอยาก วินทำไงล่ะ"มันก็ทำแบบที่ทำในห้องน้ำเมื่อสักครู่นั่นไง ถามแบบโง่ ๆ ไปได้ ตุ
"ผมก็ช่วยตัวเอง"
"ช่วยยังไง" แน้ ตูนี่โง่จริงวุ้ยตอนนั้นเริ่มเมาเบียร์แล้ว เลยถามแบบไม่คิด
"ฉักวาว" วินตอบหน้าตาเฉย เขาเป็นผู้ชายก็เลยตอบสวนมาแบบนั้น
ผมนิ่งไปสักครู่ แล้วก็รินเบียร์ใส่แก้วทั้งสองใบ
"อย่า โกรธพี่เลยนะพี่น้อยใจนิดหน่อยที่วินไม่ให้ความสำคัญกับพี่ แล้วไป "ฉักวาว"ในห้องน้ำน่ะ อ้ะ กินเบียร์ซะ แล้วคืนนี้นอนกับพี่ที่นี่แหละนะ"
"แตพม ตองไปซงนำแค็ง ตังแต่ตีซาม" เขาตอบแบบเกรงใจผมแต่มันก็ทำให้ผมรู้สึกหงุดหงิดจริง ๆ เลย ผมอาจเห็นแก่ตัวไปสักนิดเพราะตอนนั้นคิดว่าเขาจะหลุดมือผมไป แหมก็หล่อเสียขนาดนั้นจะยอมให้เขาไปจากชีวิตผมได้ยังไงล่ะ ผมพูดแบบออกคำสั่งทันที
"พรุ่งนี้ไปลาออก พี่จะพาไป"
วินทำหน้าเหวอ แล้วตอบกลับมาแบบคนเริ่มมึนเบียร์
"อ๊า ๆ อิกกือ ๆ" แหมตูรำคาญเสียงอีมิยาเบะจริงๆ เลย
"ไมได ไมได พมจะเอาอะไรกิน แลวพมจะยูทีไหน"ก็จริงของมันเนาะ
"พี่ จะพาไปสมัครงานใหม่ เพื่อนพี่มันทำร้านขายเหล็กแถวนนทบุรี พี่จะฝากงานให้ แล้ววินก็มาอยู่กับพี่นี่หละ ถึงแม้ว่าที่ทำงานมันจะไกลไปสักหน่อยแต่วินก็ตื่นแต่เช้า แล้วก็นั่งรถเมล์ไป จากบ้านพี่ก็นั่งรถเมล์สายเดียวก็ถึงนะนะนะ" มันเป็นการพนันที่ผมทุ่มสุดตัวเพราะว่าผมพนันมันด้วยชีวิตของผมทีเดียว ผมเพิ่งรู้จักกับวินได้ไม่ถึงวันไม่รู้หัวนอนปลายเท้า แล้วเขาก็เป็นคนต่างชาติเสียด้วย ถ้าเขาไม่ซื่อกับผมแทนที่คุณจะได้อ่านประสบการณ์ของผมกับครั้งแรกของวินคุณก็คงจะหาอ่านได้จากข่าวหน้าหนึ่งนั่นแหละ
วินทำท่าคิดอยู่สักพัก ผมรีบรินเบียร์ใส่แก้วให้เขายกขึ้นดื่มที่เดียวหมดแก้ว แล้วหันมาจ้องหน้าผม
"พีรักผมหรือ" เขาถามเสียงเบา ๆ
"อย่า เพิ่งพูดว่ารักเลย เอาเป็นว่าตอนนี้พี่ชอบวินนะเราเพิ่งจะรู้จักกัน ไม่รู้ว่าวันหน้าจะเป็นอย่างไร แต่พี่ขอรับรองได้ในตอนนี้ว่าถ้าวินดีกับพี่ พี่ก็จะดีกับวินก็แล้วกัน" ผมพูดออกมาจากใจจริง
"แล้วทาพีไมรักผม พมจะทำยังไง"ผมเดาเอาว่าเขาก็พูดจากใจจริง
"เอา เป็นว่าเรื่องนี้เราต้องเสี่ยงกันล่ะ มันเหมือนกับซื้อล็อตเตอรี่นะรู้จักมั้ยหวยน่ะ ขณะที่เราซื้อล็อตเตอร์รี่มา เราไม่รู้หรอกเราจะถูกรางวัลหรือไม่ แต่พี่ขอให้วินเชื่อพี่เถอะว่าถ้าวินดีกับพี่ พี่ก็จะดีกับวิน" อนาคตเราไม่สามารถรู้ได้หรอกครับว่ามะตอนนั้นผมอยากให้เขาเป็นของผม ผมจะพูดอย่างไรก็ได้ คุณ ๆ คงไม่ว่าผมนะ ในสถานการณ์แบบนี้ ผมคงพูดได้หมดนั่นหละ จะยกสวรรค์มาให้ยังได้เลยเราทุกคนก็เป็นแบบนี้กันทั้งนั้นไม่ใช่หรือ? แต่ผมคิดว่าผมพูดได้ดีที่สุด และเป็นกลางที่สุดแล้วนะทั้งวินและผมอายุยังไม่มากเท่าไร ผมเรียนจบปริญญาตรี และทำงานได้เพียงสองปีเองแต่ผมก็เช่าซื้อคอนโดแห่งนี้ด้วยน้ำพักน้ำแรงของผมเองซึ่งผมก็สามารถผ่อนได้อย่างสบาย ๆ ยังมีเงินเอาไว้เลี้ยงผู้ชายได้อีกเยอะ อิอิ แฮ่
วินหน้าแดงมาก ๆ คงใช้ความคิดอย่างหนักเอหรือว่ามันเมาเบียร์กันแน่หว่า อิอิ
"พมตกลง ก็แลวกัน พมอยู่ทีนีคนเดียว เพือนทีมาดวยกันกอโดนจับซงกลับไปหมดแล้ว พมไมมีใครแลว พีอย่าทิงพมนา" เขาพูดแบบเริ่มลิ้นพันกันแล้วแต่ก็เป็นการพูดที่ยาวที่สุดตั้งแต่ผมรู้จักกับเขา
"อ้าว ทำไมล่ะ เขาไม่ได้ใบอนุญาติเหรอ" ตอนนี้นังมิยาเบะเสร็จกับผู้ชายคนที่สามแล้ว
"มัน ไมไดทำโรงนำแค็งเมือนพม มันบอกว่างานหนักเจ้านายมันไมพาไปทำ แตเจ้าคองโรงนำแค็งเคาดีกับพม เคาพาพมไปทำนี่พมยังไมรูว่าจะบอกเคายังไงดี ว่าจะออก" พูดแบบตาแดง ๆ
"ไม่เป็นไรหรอกนะ พี่บอกแล้วไงว่าพี่จะไปพูดให้ถ้าเขาจะเรียกเงินอะไรพี่จะออกให้ก่อน นะทำใจให้สบายดูหนังกินเบียร์กันดีกว่านะ" คุณว่าผมเห็นแก่ตัวไหมเนี่ย จะ(ให้เขา)เอาถ้าเดียว
ตอนนี้มิยาเบะกำลังบัวให้กับชายหนุ่มสุดหล่อคนที่สี่อยู่พอดีผมเริ่มหื่นขึ้นมาอีกครั้ง ขยับตัวเข้าไปนั่งติด กับวินทันที
วินซึ่งใส่แต่เสื้ออยู่เอาหมอนมาปิดหนอนน้อยซึ่งกำลังเป็นมังกรยักษ์อีกแล้ว อิอิ
"วิน พี่ถามจริง ๆ วินไม่เคยนอนกับใครจริง ๆ เหรอ"เริ่มส่งเสียงแบบออดอ้อนอีกแล้วตู แฮ่
"พมนอนรวมกับเพือนทีซงนำแค็ง" มันตอบตรงคำถามไหมเนี่ย
"พี่หมายถึงว่าไม่เคยนอนกับผู้หญิง หรือกับเกย์เลยหรือแบบว่าเอากันอ้ะ" มือเริ่มเลื้อยแล้วตู
"ยังไมเคยเลย" วินตอบมา ผมสังเกตุเห็นขนแขนวินลุกซู่เลยอ้ะ(อย่างอื่นไม่ต้องพูดถึงมันลุกสู้อยู่แล้น อิอิ)
"พี่ จะสอนให้นะ" ว่าแล้วมือก็เริ่มแตะที่ขาอ่อนของวินลูบไล้ไปมาช้า ๆ วินยิ้มหน้าแดง (มันแดงอยู่แล้ว เพราะเบียร์น่ะ) จับมือผมออก ฮึ! อารมณ์เสีย แต่เค้าคงอายเราน่ะคิดเข้าข้างตัวเอง
"วินบอกพี่ว่านอนรวมกับเพื่อน แล้วเวลามีอารมณ์อย่างว่าขึ้นมาแบบว่าเสี้ยนน่ะ ทำไงอ่ะ"
"ผมก็ ฉักวาวเวลาอาบนำในฮองนำ"(ขี้เกียจพิมพ์แบบพูดไม่ชัดแล้วเอาเป็นว่าจะพิมพ์ตามปกติก็แล้วกันคุณอ่านเป็นเสียงแบบพูดไม่ชัดกันเองนะ อิอิ 555)
"แล้วคนอื่นเขาไม่สงสัย เหรอว่าทำไมเราอาบน้ำนานน่ะ"มือเริ่มลูบไล้หน้าอกของวินแล้ว เรื่อยไปจนถึงหน้าท้องที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแน่นเป็นแพ็คทีเดียว
"คงไม่มั้ง มันเป็นเรื่องปกติของผู้ชายคนอื่นเขาก็อาบน้ำนานเหมือนกัน ผมยังไม่สนใจเลย" วินพูดเสียงสั่น
ตอนนี้มือผมเริ่มเกาะแกะบริเวณหมอนอิงแล้ว
"พี่ทำแบบในหนังให้นะ" ตอนนี้มิยาเบะกำลังโดนเอาอยู่
"ผมกลัวเจ็บ" โถ ๆๆ เด็กน้อยเอ๊ยพี่ให้เธอมาเป็นสามีพี่ ไม่ได้ให้เป็นภรรยาสักหน่อย
"ไม่ใช่ แบบว่าพี่จะทำแบบว่าพี่เป็นนางเอกน่ะ" ฮู้ยอายว่ะ แฮ่
วิ นหัวเราะเสียงดัง แล้วเขาก็ดึงหน้าผมไปหอมที่แก้ม ผมเริ่มเลื่อนปากมาประกบปากของวินเขาอ้าปากรับลิ้นของผมอย่างเก้ๆ กังๆแต่สักครู่เดียวลีลาจูบของเขาก็เล่นเอาผมเคลิ้มลืมตัวไปเลย
ผมค่อย ๆถอดเสื้อของเราทั้งคู่ แล้วก็ไล้ลิ้นเรื่อยลงไปบริเวณคอหน้าอก แล้วดูดดุนนมของวินอย่างช้า ๆ วินส่งเสียงครางออกมา
"เสียว"
"เดี๋ยว จะเสียวกว่านี้อีก" แล้วหมอนอิงก็ถูกโยนไปไกลผมเลื่อนหน้าและไล้ลิ้นลงมาบริเวณหน้าท้อง จนไปถึงแท่งทวนซึ่งกำลังผงาดหงึก ๆอย่างเชื้อเชิญ
"ซี้ด อาห์ เสียวจริง ๆ ซี้ด อย่าหยุด ๆ เสียวจริง ๆ"วินพูดซ้ำไปซ้ำมาอย่างกระสันสุด ๆ เมื่อผมครอบปากลงไปที่แก่นกลางกายของเขาพร้อมกับผงกหัวขึ้นลง
"เมียจ๋า อย่างนั้นล่ะ ดีๆ ซี้ด อาห์" แน้!ไม่ทันไรมันเรียกตูว่าเมียซะแล้ว อิอิ แฮ่
"โอ๊ว ซี้ดจะออกแล้ว ซี้ด ออกแล้ว ๆ" วินพูดไม่ขาดปากพร้อมกับยกสะโพกขึ้นลงอย่างเร็วกระแทกปากผม ซึ่งเกือบหายใจไม่ออก แล้วน้ำขาวขุ่น ก็กระจายเข้าไปอยู่ในปากผมผมรู้สึกอุ่นในปาก แล้วก็แสดงความจริงใจอย่างแรกด้วยการกลืนน้ำของเขาไปจนหมดโดยไม่มีท่าทีรังเกียจ เขาเป็นคนแรกที่ผมกลืนน้ำให้เหมือนกันกับที่ผมเป็นคนแรกที่ช่วยทำให้เขาน้ำแตกเช่นกัน
"แหม ไวจัง ตื่นเต้นเหรอเรา" ผมถามเขา วินยิ้มอย่างอาย ๆแล้วก็จับหน้าผมขึ้นไปจูบปาก จากกริยาที่เขาทำผมว่าเราต่างประทับใจซึ่งกันและกันนะ
หลังจากเสร็จกิจผมกับวินก็เข้าไปอาบน้ำกันในระหว่างที่ผมถูสบู่ให้กับหนอนน้อยของเขาอยู่นั้นมันก็กลายร่างเป็นงูยักษ์เผือกอีกครั้ง
ผม รีบอาบน้ำล้างตัวให้เขาอย่างรีบเร่ง แล้วก็ดึงตัวเขามาเช็ดตัวให้แก่นกลางกายของเขาผงกหัวหงึก ๆ ราวกับต้องการหาที่หลบภัยอย่างนั้นล่ะรอสักครู่นะวินน้อย (แต่ไม่เล็ก) เดี๋ยวจะให้เข้าไปสำรวจถ้ำนะจ๊ะ
หลังจากที่เราเช๊ดตัวเสร็จ ผมรีบดึงวินมาที่เตียงนอนหยิบอุปกรณ์ตำน้ำพริกมาพร้อมสรรพ
"พี่ อยู่บนแล้วกันนะ วินนอนเฉย ๆ นะน้องไม่ต้องพี่ทำเอง" ว่าแล้วก็สวมเครื่องป้องกัน และละเลงครีมหล่อลื่นจนเยิ้มแหมเล็กอยู่ซะเมื่อไหร่ล่ะ ถ้าไม่ลื่นมีหวังทั้งฉีก ทั้งแสบแน่ ๆวินสูดปากอย่างเสียวซ่านแล้วผมก็เริ่มจับแก่นกลางกายอันแข็งแกร่งของวินสอดใส่เข้าไปในตัวผมอย่างช้า ๆรู้สึกเจ็บวาบ ๆ สงสัยจะฉีกแน่เลยเรา
"ซี้ด ๆ อ้าห์ เสียว แน่นไปหมดเลยพี่"
"อูย พี่ก็เจ็บเหมือนกัน อย่าเพิ่งขยับนะ เดี๋ยวดีเองหละ"ว่าแล้วผมก็เริ่มขยับช้า ๆ
"โอ๊ว เสียวดีจริง ๆ เลย อาห์"วินครางเสียงกระเส่าอย่างลืมตัว
"วิน ช่วยฉักวาวให้พี่ทีสิ" ผมพูดล้อเขาเวลาอย่างนี้ยังตลกอีกนะตู
วินเอามือมาจับอาวุธผมชักเข้าออก ช้า ๆ แล้วค่อย ๆเปลี่ยนเป็นเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ตามจังหวะที่ผมขึ้นลงเข้าใส่แท่งทวนของเขา
"โอ๊วดีจริง ๆ อย่างนั้นหละ เมียจ๋า โอ้ว เร็วขึ้นอีกนะเร็วขึ้น อย่าช้า เร็วขึ้น นั่นหละ ดีมาก"
วิ นส่งเสียงออกมาอย่างคนที่มีกำหนัดกระสันสุดๆผมก็กระหน่ำขึ้นลงตามคำสั่งเขาอย่างว่าง่าย ทั้งที่เปิดแอร์ไว้แต่จังหวะรักอันเร่าร้อนของเราเล่นเอาเหงื่อโทรมกายเราทั้งคู่ แล้วในที่สุด
"โอย ทนไม่ไหวแล้ว เร็ว ๆ เลยที่รัก"พูดไม่พูดเปล่าวินลุกขึ้นนั่ง แล้วกระแทกแท่งทวนของเขาเข้าใส่ตัวผมอย่างลืมตาย
"โอ๊ว ซี้ดส์ ออกแล้วๆๆ"ส่วนผมไม่ต้องพูดถึงเสร็จตามเขาไปติด ๆ พุ่งกระฉูดถึงใบหน้าของวินติดเลอะผมของวินไปทั่ว
"พี่รักวินนะ"
"ผมก็เหมือนกัน" จากนั้นเราก็นอนกอดก่ายกันไปมามีแต่คำพูดหวาน ๆ พูดใส่กัน สักครู่ใหญ่เราก็ไปล้างตัวกันอีก
"ผมอยากอีกแล้ว" ถึงวินไม่พูดผมก็รู้ก็วินน้อยมันบอกผมนี่นา อิอิ
กว่าจะได้นอนเล่นเอาฟ้าเหลืองไปเลยครับ ผมเจ็บแทบแย่เอาเป็นว่าชาไปทั้งแถบอิอิอิ แฮ่ มีความสุขจัง
บ่าย วันรุ่งขึ้นผมพาวินไปลาออกกับเจ้าของโรงน้ำแข็งเขาต่อว่าวินเล็กน้อยที่ไม่ยอมมาบอกเขาว่าไม่มาทำงาน พร้อมกับหักเงินงวดสุดท้ายที่จะจ่ายให้วินไปห้าร้อยบาทแต่น้ำเสียงที่ต่อว่า และกริยาท่าทางของเขาก็เจือความเมตตาไว้จนผมรู้สึกได้
"เดี๋ยวเอ็งไปรอพี่เขาข้างนอก ตูจะพูดกับน้องเขาสักหน่อย"วินเดินออกจากห้องไปอย่างว่าง่าย
เจ้า ของโรงน้ำแข็ง แต่จิตใจของเขาไม่เย็นชาเลยถามคำถามผมนิดหน่อยผมเล่าให้เขาฟังอย่างไม่ปิดบัง ว่าผมจะอยู่กับวินฉันท์สามีภรรยาไม่มีท่าทีแปลกใจแต่อย่างใด
"ฝากวินมันด้วยนะน้องมันอยู่กับพี่มาปีกว่าพี่ก็พอดูออกแล้วว่ามันเป็นคนดี เป็นคนว่าง่าย ไม่รู้มากไม่เคยอู้งาน" แหมรับรองให้เสร็จ
หลังจากออกจากโรงน้ำแข็งผม ก็พาเขาไปสมัครงานที่ร้านเพื่อนผมซึ่งเรียนมัธยมมาด้วยกันและไอ้เพื่อนคนนี้ก็รู้ว่าผมเป็นอย่างไรแต่มันไม่ได้เป็นแบบผมนะครับ จะแต่งงานปลายปีนี้แล้ว
มันก็ให้ข้อคิด และตักเตือนผมพอสมควรด้วยความที่มันเป็นห่วงอ่ะครับ
"ตลอด เวลาที่กูรู้จักมึงมากูก็รู้ว่ามรึงเบื่อง่ายเมื่อมรึงจะตัดสินใจที่จะมีคู่ กูก็รู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย แต่กูก็ขออวยพรให้มึงสมหวังนะยังไงซะเมื่อมันทำงานที่นี่กรูจะดูความประพฤติให้ก็แล้วกัน" ซึ้งจริงๆเลยเพื่อนเอ๋ย
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคตผมก็ยังไม่รู้เหมือนกันเพราะผมกับวินเพิ่งเรียนรู้ซึ่งกันและกันยังไม่ถึงเดือน รู้แต่ว่าวันนี้ผมรักวินและจะขออยู่กับเขาไป โดยใช้ชีวิตคู่ของเราให้ดำเนินไปอย่างสวัสดิภาพและจะพยายามรักษามันให้ดีที่สุด
|