จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 1832|ตอบกลับ: 43
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

มนตราทาสบำเรอ.... 11 - 12 ....

  [คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว

“เจ้าชายจารีฟ........” เสียงแหลมๆดังเข้ามาในกระโจม
“เข้าไปไม่ได้นะ” เสียงของทหารองค์รักษ์หน้ากระโจมกั้นไว้สุดฤทธิ์
“ใครน่ะ?” เลแวนซ์ถาม
“ซาช่าเองเพคะ เจ้าชาย ให้หม่อมฉันเข้าเฝ้าด้วย”
สองหนุ่มหันมามองกันขวับ รติกรขมวดคิ้วใครให้แม่คนนี้มากัน?

ตอนที่ 11  เรื่องเคืองใจ
เลแวนซ์สงสัย นางในฮาเร็มจะออกมาข้างนอกโดยไม่มีคำสั่งจากเบื้องบนได้ยังไง เสด็จพ่อหรือว่าใครกันที่จัดการเรื่องนี้ เขาลุกออกไปนอกกระโจมดูให้เห็นกับตา แล้วต้องตกใจที่เห็นคาราวานอูฐยาวเหยียดขนสาวๆและเต้นท์อุปการณ์อำนวยความสะดวกมากมายมาด้วย
“เจ้าชายจารีฟ” ซาช่าเห็นเขาก็ถลาเข้ามาหาด้วยความดีใจ หากเจอฝ่ามือยกขึ้นห้ามให้หยุดอยู่ตรงนั้น
“บอกมาสิ ใครเป็นคนสั่งให้เธอกับคนอื่นๆมาที่นี่กัน”
“ราตู ซารีฟาน่า มีรับสั่งเองเพคะ พระองค์เป็นห่วงว่าฝ่าบาทจะทรงเคร่งเครียดกับการรบเกินไปถึงได้....”  
“หยุด” เขาว่าเสียงเครียดก่อนหันไปบอกนายทหารใกล้ๆ “ไปบอกพวกเขาห้ามเอาของจากหลังอูฐแม้แต่ชิ้นเดียวนะ ให้ทุกคนเดินทางกลับเดี๋ยวนี้เลย”
“เจ้าชาย....ทำไมล่ะเพคะ?”
“ฉันเพิ่งยึดที่นี่ได้แค่วันเดียวเท่านั้น ก็เอาผู้หญิงมานอนฉลองชัยแล้ว พวกทหารได้หัวเราะเยาะเอาน่ะสิ
เธออยากจะให้ฉันขายหน้าหรือไง”
“ตะ แต่ว่า...”
“ราตูจะคิดยังไงก็ช่าง แต่เธอเป็นคนฉลาดนะ ไม่น่าทำให้ฉันลำบากใจเลย”
“มะ....หม่อมฉันไม่ทันคิด พอมีรับสั่งให้มา หม่อมฉันก็มา นี่..จะให้หม่อมฉันกลับไปจริงๆหรือเพคะ” ซาช่าหน้าถอดสี ที่เจ้าชายเมินไปสั่งการทหารให้คุมกองคาราวานเดินทางกลับ  ทั้งที่ไม่ได้พบหน้ากันนาน เธอคิดว่าเขาจะคิดถึงเธอสักนิด แต่ไม่เพียงจะไม่คิดถึงหากยังเฉยเมยมากเลยด้วย แต่ความเสียใจยังไม่มากเท่ากับความขายหน้าที่จะเกิดขึ้นหลังเธอถูกส่งกลับ แม่สาวอเมริกันจะหัวเราะเยาะน่ะสิที่เธอมาถึงไม่ทันไรก็ถูกไล่กลับ
ซะแล้ว ซาช่าฉวยโอกาสที่ชายหนุ่มสั่งการทหารอยู่ เดินตรงไปเข้าไปในกระโจมอย่างเงียบๆ คนที่นั่งเกาแผลที่ฝ่าเท้าอยู่เงยหน้าขึ้น
“อ้อ....อยู่นี่เอง พ่อคนดัง” เธอนวยนาดมานั่งใกล้ๆเขา
“เอ่อ คุณ.....” เขาจำชื่อเธอไม่ได้
“ซาช่า เราเคยพบกันแล้ว”
“ใช่...ผมจำได้แล้ว” รติกรยิ้มแห้งๆ จำได้ว่าถูกเตือนให้ระวังหล่อนไว้ด้วย
“เท้าเป็นไงบ้างล่ะ” เธอถือโอกาสแกะผ้าพันแผลออกให้ด้วย
“โอ้....อย่าไปเกาสิ เดี๋ยวก็อักเสบหรอก แต่แผลไฟไหม้นี้แห้งดีแล้ว ต้องทำความสะอาดหน่อย”
“เดี๋ยวก็มีคนมาดูแลเอง” เขาว่าเมื่อเห็นเธอลุกไปหยิบผ้าสะอาดๆกับยาฆ่าเชื้อมาให้
“ผ้าสกปรกแล้ว ฉันจะเปลี่ยนให้นะ”
“ไม่ต้องๆ เดี๋ยวมีคนทำให้”
“น่า....ฉันทำให้ได้ ฉันเคยทำแผลให้จ้าชายบ่อยๆ” หญิงสาวไม่ยอมให้เขาปฏิเสธ เธอดึงเท้าเขามาวางบนตักลงมือตัดผ้าพันแผลเก่าออกไปอย่างคล่องแคล่ว รติกรมองอย่างไม่ค่อยจะไว้ใจ นางในฮาเร็มของราชวงศ์มาทำให้แผลให้เขา เหลือเชื่อเลยแฮะ....เธอหวังอะไรอยู่นะ เป็นเพื่อนกับเขาหรือไง?
“โอ้ย!” จู่ๆก็เจ็บแผลขึ้นมาแปล้บ มือเล็กแต่เรี่ยวแรงดีดึงผ้าพันแผลบีบรัดแผลเขาแรงๆ
“โทษที ไม่คิดว่าจะเจ็บง่ายขนาดนี้ ....กับจารีฟน่ะเจ็บแค่ไหนเขาก็ไม่เคยโอดครวญให้ได้ยิน.... เขาฝึกซ้อมกับทหารทุกวัน ได้แผลเล็กๆน้อยๆมาบ่อยเชียวล่ะ แล้วต้องมาให้ฉันทำแผลให้เสมอ....ฉันเลยพลอยทำแผลเก่ง
ไปด้วย” เธอยิ้มอ่อนหวาน มือพันแผลให้เขาแน่นสวยไม่แพ้มือหมอเลยทีเดียว
“ขอบคุณ” เขากระแทกเสียงก่อนชักเท้ากลับ กำลังคิดว่าจะหาอะไรมาค้ำยันตัวออกไปข้างนอกดีกว่า อยู่กันสองต่อสองอย่างนี้มันอึดอัดแย่ ไม่ทันไรนิ้วเรียวยาวเล็บสีแดงช้อนใบหน้าให้ชายหนุ่มหันมามองสบตาตรงๆ
“รู้เอาไว้อย่างนะ เกียรติของชายชาวซีเรียอยู่ที่วงษ์ตระกูลและสมบัติของตน เขาไม่ได้มาเพราะต้องการของที่แปดเปื้อนอย่างนายกลับมาหรอก แต่ต้องพานายกลับมาให้ได้ก็เพื่อจะไม่ถูกกล่าวหาว่าขี้ขลาดตาขาวต่างหาก.....อีกอย่าง เงินที่เสียไปเพื่อซื้อแม่ของลูกอย่างนายไปก็ยังไม่ทันได้ใช้ให้คุ้มค่าเลย อย่างน้อยนายก็คงได้มีลูกให้สองพี่น้องสัก 2-3 คนก่อนจะถูกปลดไปทำหน้าที่อื่น หรือไม่.....ก็ถูกยกให้ญาติพี่น้องคนอื่นๆเขาต่อไป”
รติกรขมวดคิ้วไม่พอใจ แม่นี่.....ตั้งอกตั้งใจทับถมให้เขาจมดินเลย หึ.....น่าสมเพช หล่อนไม่รู้หรอกว่าเลแวนซ์มีเป้าหมายที่สูงกว่าที่หล่อนว่ามาก ที่พูดมาทั้งหมดนี่ก็เพื่อให้ตัวเองดูดีกว่าเขาเท่านั้น
“อ้อ.....อีกอย่างนะ กลับวังครั้งนี้นายคงจะยิ่งใหญ่ มีความสำคัญกว่าเดิมแน่ ดีใจไปเถอะ แต่รับรองเลยว่า....คณะแพทย์ของราชวงษ์จะต้องตรวจนายแบบเจาะลึกแน่ๆว่า ไม่มีของโสโครกอะไรตกค้างข้างในจนเกิดตัวอะไรบางอย่างที่ไม่พึงประสงค์”
ประโยคนี้ทำเอาความอดทนแทบขาดผึง เขาขบกรามแน่นก่อนลุกขึ้นยืนไม่สนใจว่าจะเจ็บแผลที่ฝ่าเท้าขนาดไหน เขาต้องออกไปให้ไกลแม่คนนี้ไม่งั้นได้มีตบปากกันแน่
“โอ้ย...” เขาออกมานอกกระโจมก้าวเดียวก็เจ็บจนต้องทรุดลงคุกเข่ากับพื้นทรายแห้งๆ
“รีส? ออกมาทำไมกัน” คาริคอยู่ไม่ไกลนักเขารีบมาหาทันที
“คาริค.....ถามหน่อย ถ้าผมตบปากผู้หญิงในฮาเร็มนี่ จะโดนข้อหาอะไรหรือเปล่า” คำถามนี้เล่นเอาคนฟังทำหน้าเหวอ พอเห็นสีหน้าโกรธจัดของชายหนุ่มร่างเล็กกว่าก็พอเดาได้เลาๆ
“ซาช่าหรือ”
“ใช่”
“ไม่ได้หรอก หล่อนไม่ได้เป็นสมบัติของใครดังนั้นสิทธิ์เหนือกว่านั้นเป็นขององค์สุลต่านและราตู ซารีฟาน่า
คนที่จะตบหล่อนได้มีแค่สองคนนี้เท่านั้นหรือไม่ถ้าองค์สุลตานอนุญาตคุณก็ตบหล่อนได้โดยไม่มีความผิด ”
“ฮึ.....เลแวนซ์อยู่ไหน ผมต้องคุยกับเขา”
“เขายุ่งอยู่  คุณใจเย็นหน่อยเถอะ”
“เย็นอะไร อากาศร้อนอย่างนี้เย็นใจได้ก็แปลกแล้ว” ร่างเล็กตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนโดยมีมือของคาริคช่วยประคองให้เดินกระเพลก มาที่กองคาราวานพวกผู้หญิง เขาค้นสัมพาระบนหลังอูฐอยู่ครู่หนึ่งก็ได้ไม้ตีกลอฟ์อันหนึ่งให้ใช้ต่างไม้เท้า
“นี่คงพอช่วยได้นะ”
“ขอบคุณ” รติกรได้ตัวช่วยถึงจะไม่ค่อยถนัดเท่าไรก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเลย เขาเดินกระเพลกมองหาเลแวนซ์ท่ามกลางผู้คนที่มากมายเดินกันให้ขวั่ก
“คุณ! คุณ.....”
“หยุดนะ”
“ช่วยด้วย” เสียงตะโกนแหลมๆดึงความสนใจให้หันไปมอง ในเต้นท์ผ้าใบสีเขียวเข้มเปิดโล่งรอบด้าน มีหญิงชาวบ้านสวมชุดสีดำปกปิดใบหน้า พยายามจะแหวกวงล้อมทหารออกมา แต่ถูกกระชากตัวล้มคว่ำลงกับพื้นทรายร้อนๆ เธอร้องเสียงดังโหยหวยจนขนลุก ร่างเล็กหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น
“ช่วยด้วย” เธอเงยหน้ามองเขา มือตะกายร้องเรียกหา เขาจำเธอไม่ได้แต่จำลูกชายได้ เด็กตัวเล็กๆพยายามเข้ามาหาแม่แต่โดนทหารดึงคอเสื้อ เหวี่ยงทิ้งซะกระเด็น เขาตรงเข้ามาหาทั้งคู่
“เดี๋ยว...... หยุดก่อน”
“ที่นี่ห้ามเข้า”
“ผมรู้จักเธอ ขอคุยด้วยหน่อย”
“ไม่ได้” ทหารนายนั้นพลั่กเขาเบาๆถึงกับเซไม่เป็นท่า
“คาริค” ชายหนุ่มหันไปขอความช่วยเหลือจากคนที่ตามมาติดๆ
“มีอะไรหรือ”
“แม่ลูกคู่นี้ ผมรู้จัก เธอช่วยผมตอนที่มีไข้....คุณ....พอจะทำอะไรได้บ้าง”
“เรากำลังสอบปากคำทุกคนอยู่ ต้องค่อยเป็นค่อยไป”
“คุณ.....ได้โปรด ช่วยด้วย พวกเราไม่ได้ทั้งอาหาร ทั้งน้ำ ตั้งแต่เมื่อคืนวานแล้ว พวกเด็กๆหิวมาก ได้โปรด
เถอะ...” หญิงผู้นั้นคร่ำครวญอย่างน่าสงสาร รติกรหันไปมองคนตัวโตกว่าสายตาคาดคั้น และก็ได้คำตอบเบาๆแบบอ้อมแอ้มว่า
“ทางเมืองหลวงกำลังส่งมา จะถึงในอีก 3 ชั่วโมง”
“ 3 ชั่วโมง??” ร่างเล็กยืนนิ่งก่อนจะหันไปมองกลุ่มผู้หญิงที่ถูกกักสลับกับมองคาริคไปมาอย่างไม่รู้จะช่วยอย่างไรได้ ก่อนจะเห็นกองคาราวานของสาวๆ
“เดี๋ยว....เลแวนซ์บอกนี่ว่าจะให้กองคาราวานกลับภายในวันนี้”
“ใช่”
“ก็เอาของในกองคาราวานมาให้พวกเธอกินประทังไปก่อนสิ  สาวๆเขาจะกลับไปกินที่วังอยู่แล้วก็ยกให้ทางนี้กินก่อนไม่ดีกว่าหรือ นะ คาริค”
“รีส” ชายหนุ่มเรียกเสียงเขียวก่อนลดระดับเสียงลง
“นั้นของแพงๆทั้งนั้นนะ”
“โธ่....จะถูกจะแพงก็ช่างเถอะ พวกเด็กๆกับผู้หญิงจะเป็นลมกันอยู่แล้ว นะ....นะๆ ช่วยหน่อยเถอะ คาริค....เลแวนซ์เขาคงไม่ว่าหรอก”
“คงไม่ว่า งั้นเหรอ” อีกฝ่ายแลตาใส่อย่างไม่ไคร่จะพอใจนัก รติกรได้แต่ยิ้มแฮ่....เอาใจเต็มที่
“ก็ได้....เกิดอะไรขึ้นก็ไปเคลียร์กันเอาเองนะ”
“ขอบคุณ”
วี้ด..... คาริคเป่าปากเรียกคนงานให้ขนอาหารลงจากหลังอูฐมาแจกจ่ายให้ผู้หญิงและเด็กที่ถูกคุมตัวได้ทาน
ทุกอย่างล้วนแต่เป็นของดี ราคาแพงที่ชนเผ่าเร่ร่อนยังไม่เห็นด้วยซ้ำ เนื้อวัวชิ้นโตๆ ไก่ ปลา เนยแข็ง นมวัว ไข่ปลาคาร์เวีย องุ่นสด แอปเปิ้ล เมล่อน กล้วยหอมลูกโตๆ ช๊อคโกแลต ขนมเค้ก ขนมปัง มากมาย
“อัลเลาะห์...” บางคนดีใจจนอดเอ่ยนามพระเจ้าออกมา ก่อนล้อมวงทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยเป็นกลุ่มๆ
ร่างเล็กจะเข้าไปดูใกล้ๆก็ไม่ได้ พวกทหารไม่ให้เข้าใกล้เกิน 3 เมตรเลย เขาเลยนั่งมองอยู่ห่างพอประมาณ
“ขอบคุณคุณมากเลย”
“ผมจำคุณได้ ตอนผมมีไข้คุณช่วยดูแลผมอยู่”
“ฉันชื่อ นารียะห์ ขอบคุณที่ยังจำได้ แผลคุณเป็นไงบ้าง”
“ดีขึ้นบ้างแล้ว แต่ยังเดินไม่ค่อยไหว ผมชื่อ เนย”
“ชื่อแปลกดีจัง”
เขายิ้มๆไม่รู้จะพูดอะไรอีกนอกจากปล่อยให้ทุกคนได้ทานอาหารเงียบๆ เด็กๆเริ่มมีรอยยิ้มกันบ้างที่ได้ทานขนมอร่อยๆ เขาหันไปมองคาริค
“เลแวนซ์จะทำอะไรกับพวกเธอ”
“สอบปากคำทั้งหมด ถ้าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกลุ่มกองโจรก็จะปล่อยตัวไป”
“ถ้าเกี่ยวข้องล่ะ”
“ก็ต้องคุมตัวไปคุมขังในเมือง”
“นี่มีแต่ผู้หญิงกับเด็กนะ” เขาถามเสียงเบาลง
“ผู้หญิงก็เป็นกำลังสำคัญนะ โดยเฉพาะแม่ที่อบรมสั่งสอนกำลังพลรุ่นใหม่ของกลุ่มกองโจร.....มันไม่ง่ายเลยที่จะปล่อยไปเฉยๆ”
นั้นก็จริง การเมืองเป็นเรื่องที่คิดว่าไกลตัว แต่ในความเป็นจริงนั้นอยู่ใกล้จนแทบไม่รู้สึกตัวเลย  เขาเหลือบไปเห็นร่างสูงในชุดอาหรับสีขาว อยู่หน้ากระโจมถัดไป สีหน้านั้นเคร่งเครียดไม่น้อย รติกรตัดสินใจเข้าไปหา
“เดินไหวแล้วหรือ”
“พอไหว มันเจ็บน้อยกว่าที่คิดเยอะ” เขาตามร่างสูงเข้ามาในกระโจม ภายในรู้สึกได้ถึงความตึงเครียดในอากาศที่ไม่ได้มาจากชายหนุ่ม แต่มาจากคนรอบข้างที่เดินสวนออกไปข้างนอกต่างหาก พวกนี้ทำอะไรนะถึงได้เคร่งเครียดกันนัก
“เลแวนซ์....”
“ฉันกำลังสอบปากคำพวกผู้หญิงอยู่” อีกฝ่ายดักคออย่างรู้ทัน
“ผู้หญิงพวกนั้นอยู่กันแออัด ยิ่งปล่อยไว้นานจะยิ่งลำบากกันหมดนะ ได้ยินว่ากว่าอาหารจะมาถึงก็อีกตั้ง 3 ชั่วโมง ความเป็นอยู่จะลำบากยิ่งขึ้น”
“ฉันรู้”
“แล้ว.....คุณคิดว่าพวกเธอจะเป็นอันตรายกับพวกคุณหรือ”
“ไม่ใช่เป็นอันตรายกับฉัน แต่กับทางการต่างหาก และคำตอบก็คือใช่.....ผู้หญิงในกลุ่มล้วนแต่เกี่ยวข้องเป็นญาติพี่น้องของกองโจรทั้งนั้น” รติกรใจเสียน้อยๆ งั้นก็หมายความว่า....
“คุณจะไม่ปล่อยพวกเธอหรือ” ใบหน้าอ่อนวัยกว่าแสดงความวิตกกังวลออกมาชัดเจน เลแวนซ์มองเขาด้วย
สีหน้าที่อ่านไม่ออก ก่อนจะเชยคางเขาขึ้นและดึงให้มาใกล้ๆ
“ไม่สบายใจหรือ” ชายหนุ่มสอดมือเข้ามากอดเอวเล็กหลวมๆ อากับกิริยาสบายๆเหมือนกับคุ้นเคยกันดีแล้ว
รติกรมองคอเสื้ออีกฝ่ายด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก ไม่สบายใจก็ไม่ใช่ อึดอัดก็ไม่เชิง น่าจะไม่ชินที่ถูกโอ้โลมแบบนี้มากกว่า
“ผู้หญิงที่ถูกจับ.....มีคนหนึ่งที่เคยช่วยผมตอนที่มีไข้ ก็เลย.....”
“ก็เลยอะไร ว่ามาสิ”
ดวงตากลมโตเหลือบมองอย่างสงสัย
“คุณจะรับฟังหรือ?”
“ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรง ก็จะรับฟังนะ”
“ถ้า.....จะ...จะเป็นไปได้ไหมครับ ถ้าจะ....ปล่อยพวกเธอไป” นี่เป็นเรื่องที่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลย เมื่อมีเรื่องการเมืองมาเกี่ยวด้วย เขาเงยหน้ามองด้วยความอยากเห็นความหวังจากสีหน้าอีกฝ่าย หากเหมือนจะรู้แกวเลยโดนคนตัวโตกว่าเอาคางเกยกลางกระหม่อมเสียเลย  นอกจากมองไม่เห็นหน้าแล้วยังต้องยืนเฉยเป็นเสาให้กอดอยู่อย่างนั้นนานสองนาน
“เฮ่อ.....เอาล่ะ” เขาดันร่างเล็กออกห่าง
“ก็ได้ ฉันจะปล่อย”
“จะปล่อย....” รติกรทำหน้างุนงงเล็กน้อยก่อนจะยิ้มกว้างดีใจ
“จริงเหรอ คุณจะปล่อยพวกผู้หญิง....ทุกคนเลยหรือเปล่า”
“ทุกคนเลย”
“เลแวนซ์.....ขอบคุณนะ ขอบคุณจริงๆ” เขาโผเข้ากอดขอบคุณแน่นๆจากใจเลย ความใจดีนี้ทำให้เขามีความสุขที่สุด
“เอาไว้ขอบคุณคืนนี้ก็ได้”
ร่างเล็กผละออกห่างทันควัน สีหน้าดีใจกลายเป็นบึ้งตึงน้อยๆ
“ฝันไปเถอะ  เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับผม”
“ใจจืด ใจดำจริงนะ ฉันอุตส่าห์เอาใจขนาดนี้แล้ว”
หา? นี่เอาใจเขาหรอกหรือ ชายหนุ่มมองหน้าอีกฝ่ายอย่างคาดไม่ถึง ก่อนจะร้อนผ่าวไปทั้งหน้าก้มหน้ามองพื้นแทน รู้สึกเขินแฮะ เขาบอกเสียงเบา
“ขอบคุณ”
คาริคยืนรออยู่หน้ากระโจมรีบถอยให้พ้นทางร่างเล็กเดินก้มหน้างุดออกไป สีหน้านั้นคนล่ะเรื่องกับตอน
เข้าไปเลย เขาเข้าไปข้างในพบร่างสูงใหญ่ที่มองมาอย่างมีความหมายบางอย่าง
“จะปล่อยไปจริงหรือ”
“จริง” เลแวนซ์ยืนยัน
“ทั้งหมด”
“ใช่...ทั้งหมด”
“ท่านรัฐมนตรีไม่พอใจแน่”
“แต่ถ้าได้ข่าวดีล่ะก็เขายิ้มออกแน่ คาริค นายสั่งให้คนเตรียมอาหารและน้ำให้พวกผู้หญิงทั้งหมดพร้อม
ทั้งอูฐด้วย พอส่งพวกเธอออกไปแล้ว นายค่อย....”
เขากระดิกนิ้วให้เอียงหูมาใกล้ๆ แล้วกระซิบกระซาบเสียงเบาไม่นานคาริคก็มียิ้มฉาบบนใบหน้า
“ยิงปืนนัดเดียวได้นกตั้งหลายตัว ร้ายจริงนะ ท่านจารีฟ”
“ไปจัดการตามที่บอกเถอะน่า” เขายิ้มน้อยๆ ซ่อนความรู้สึกยินดีไว้ได้อย่างมิดชิด คาริบ อาฮาบี อิซัส คอยดูเถอะ....อีกไม่นานเขาจะเอาคืนสาสมแล้ว
ข่าวการปล่อยตัวกระจ่างชัดเมื่อ อูฐและอาหารถูกเตรียมไว้พร้อมแล้ว พวกผู้หญิงดีใจจนร้องไห้ที่จะได้เป็นอิสระเสียที นารียะห์ดึงมือรติกรมาจูบ
“ขอบคุณ ขอบคุณจริงๆ”
“ครับๆ” ชายหนุ่มยิ้มๆแต่ต่อๆมาชักยิ้มไม่ออกแล้ว ผู้หญิงพวกนี้ขอบคุณไม่เลิกสักที มือกุมจนเหงื่อชื้นแถมน้ำตาเปียกอีก ขอบคุณน้อยๆก็ได้ ขอบคุณมากไปแล้วชักรู้สึกจะรับไม่ไหวแล้วสิ
“พอเถอะๆ เตรียมตัวกันดีกว่านะครับ”
“คะๆ ฉันดีใจจังจะได้กลับบ้านเสียที ไม่อยากเชื่อเลยนะว่าจะถูกปล่อยตัวง่ายๆอย่างนี้ คุณคงลำบากแย่ที่ออกรับแทนพวกเรา.....หวังว่าคุณคงไม่ได้แลกเปลี่ยนอะไรกับเจ้าชายเพื่อให้ปล่อยพวกเราไปใช่ไหม” นารียะห์
หันมาถาม
“เปล่า...”
“ไม่มีการแลกเปลี่ยนอะไรเช่นนั้นหรอก” คาริคออกมาจากไหนไม่รู้เข้ามาบอกเสียงดังฟังชัดเลยทีเดียว
“ที่เจ้าชายยินยอมปล่อยเพราะทุกคนต่างก็เป็นประชาชนชาวซีเรียที่เท่าเทียมกัน พระองค์ไม่ปรารถนา
สร้างความกังขาอันใดว่ามีการปฏิบัติต่อทุกคนอย่างไม่เสมอภาค ไม่ว่าชนกลุ่มใด....โชคดีที่ตรงกับจุดประสงค์ของคุณรีส ผู้ซึ่งเป็นเนรย่าห์(ดวงใจ)ของเจ้าชายเช่นกัน ทุกอย่างจึงเป็นไปที่ขอ”
“พระอัลเลาะห์....คุณเป็นสมบัติของเจ้าชายหรอกหรือ มิน่าล่ะ”
“ไม่ใช่ๆ คาริค”
“เอาล่ะ ใครพร้อมแล้วก็เริ่มออกเดินทางได้เลย เร็วเข้า” เขาตัดบทไม่ให้ซักไซ้กันอีก เมื่อทุกอย่างพร้อมเลแวนซ์ออกมาส่งผู้หญิงและเด็ก เขาพูดคุยภาษาท้องถิ่นกับทุกคน ก่อนพาขึ้นอูฐทีล่ะคน การลดตัวเข้าหาอย่างเป็นมิตรทำให้สายตาของสตรีชนเผ่าเร่ร่อนที่มองมาเปลี่ยนไปบ้าง แม้จะแค่เริ่มต้นกันได้ไม่ดีนัก แต่ตอนนี้ทุกคนก็ซาบซึ้ง รติกรยืนส่งนารียะห์ขึ้นหลังอูฐ เป็นคนสุดท้ายขบวนคาราวานนี้เดินทางเป็นแถวเป็นแนว ห่างไกลออกไปจากโอเอซีสเรื่อยๆ
“จบแล้วสินะ.....เราจะกลับกันเลยหรือเปล่า”
“ยัง.....ต้องรออีก 2-3 วัน” เลแวนซ์ประคองร่างเล็กเดินกระเพลกกลับไปที่กระโจม
“อีก 2-3 วัน?”
“ทำไมอยากกลับไปเร็วๆหรือ”
“ใครว่า...” รติกรทำหน้างอ กลับไปก็ต้องกลุ้มใจเรื่องลูกอีก เรื่องอะไรจะอยากกลับล่ะ
“ผมแค่....อยากได้เตียงนุ่มๆกับอ่างอาบน้ำสบายๆต่างหาก”
ทั้งคู่เข้ามาในกระโจมเดิมแล้วต้องชะงักกึก ซาช่ายืนรอสีหน้าสดใสในมือถือผ้าเช็ดหน้ารอ ภายในถูกจัดวางเป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาดสะอ้านกลิ่นดอกไม้หอมฟุ้ง ด้านในติดผ้าม่านบางๆพอพรางสายตาได้เล็กน้อย มีอ่างไม้วางตั้งไว้รอท่าแล้ว
“ซาช่า นี่ไม่ได้กลับไปกับคนอื่นๆหรือ”
“หม่อมฉันไม่อยากกลับ หม่อมฉันจะอยู่ถวายการรับใช้”
“ซาช่า ฉันไม่ชอบให้สั่งอะไรซ้ำซากนะ คำสั่งต้องเป็นคำสั่งสิ”
“ก็ได้....หม่อมฉันไม่อยู่เกะกะขวางทางแล้ว หม่อมฉันจะไปอยู่กระโจมเดียวกับพวกนางกำนัล” หญิงสาววางผ้าเช็ดหน้าใส่ในมือเลแวนซ์ พลางสะบัดชายกระโปรงเดินจากไป
“ซาช่า” ชายหนุ่มเรียกเสียงดุ ถึงไม่พอใจแค่ไหนก็ปล่อยให้หล่อนทำตามใจไม่ได้ ไม่เช่นนั้นก็จะทำให้เสื่อมเสียถึงเกียรติของเสด็จพ่อเขาได้ นี่ถ้าหากหล่อนเป็นสมบัติของใครสักคนคงจัดการได้ง่ายกว่านี้เยอะ เขามองรติกรแวบหนึ่ง  
“เจ้าอยู่ที่นี่ได้.....แต่ห้ามทะเลาะกันนะ”
“แน่นอนเพคะ” ร่างบอบบางในชุดสีสดใสร่าเริงขึ้นมาทันที หล่อนคล้องแขนชายหนุ่มเข้าไปหลังผ้าม่านบาง ช่วยถอดเสื้อผ้ารองเท้าให้อย่างคล่องแคล่ว รติกรได้แต่มองอย่างรู้ว่าจะรู้สึกอย่างไรดี โกรธหรือ?? จะโกรธไปทำไม เลแวนซ์ไม่ใช่คนสลักสำคัญอะไรสำหรับเขานี่ อยากทำอะไรก็เชิญเลย
ร่างเล็กเดินกระเพลกมานั่งที่กองหมอนอิง มองไปรอบๆอย่างไม่รู้จะหาอะไรทำดี ยังไม่ได้เวลาอาหารค่ำเลย
พอได้ยินเสียงลงน้ำเขาก็อดหันไปมองไม่ได้ ทันเห็นร่างกำยำเปลือยเปล่าก้าวลงในอ่างน้ำ ซาช่าอยู่ปรนนิบัติเป็นอย่างดี หล่อนขัดถูหลังให้เขาอย่างตั้งใจ สีหน้านั้นภูมิใจและเปี่ยมด้วยความรัก ขณะที่เลแวนซ์นอนพิงขอบอ่างสีหน้าผ่อนคลายพอใจ เห็นเพียงแค่นี้รติกรรู้สึกมีบางอย่างพุ่งปรี้ดในหัวอย่างแรง   ไอ้บ้าเลแวนซ์ อย่าทำหน้าอย่างงั้นนะ!
ตอนที่ 12  หมดความอดทนแล้วนะ
เพี้ยะ!  
รติกรหน้าหงายไปตามแรงตบ เขาตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น หันมามองมือตบที่ยิ้มเยาะใส่อย่างสะใจ ก่อนหันไปมองตัวต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด
“เลแวนซ์!” เขาตะโกนลั่นอย่างเหลืออด นี่ถ้าหล่อนไม่ใช่เพศเดียวกับแม่เขาล่ะก็ พ่อลุยแหลกไม่มียั้งแน่ ร่างสูงเข้ามาแทรก ระหว่างเขากับแม่ซาช่าตัวดีได้ทันเวลา สองมือลูบต้นแขนเขาขึ้นลงเบาๆเป็นการเอาใจ
“ใจเย็นนะ เนย สูดลมหายใจลึกๆเข้า”
“ผมไม่ทนหล่อนแล้วนะ”
“โอเค...”
“จารีฟ....เขาหาเรื่องหม่อมฉันก่อนนะ” ซาช่าเข้ามาดึงแขนเลแวนซ์ รติกรปัดมือหล่อนทิ้งแรงๆ
“ออกไป”
“ว่าไงนะ”
“ผมบอกให้ออกไปนอกกระโจมนี้ เดี๋ยวนี้”
“แกมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน”
“มีสิ เลแวนซ์เขามาตามผมกลับไปพระราชวัง เพราะงั้นที่ๆเขาอยู่ก็คือที่ๆของผม คุณมันแค่ตัวแถมที่มาโดยไม่ได้รับเชิญ ในกระโจมนี้ผมมีสิทธิ์ให้ใครอยู่ก็ได้ แต่ไม่ใช่คุณ ออกไปเดี๋ยวนี้”
“แก.....จารีฟ...ดูเขาสิ ว้าย!” ซาช่าโผเข้าหาเลแวนซ์ แต่โดนกระชากผมเสียก่อน
“เนย...”
“มานี่เลย” ร่างเล็กกระชากผมยาวสลวยของซาช่าแรงๆ
“ว้าย  ตายแล้ว”
“เนย หยุดนะ” เลแวนซ์เข้ามากอดเอวเขาอุ้มยกขึ้นตั้งตัว
“กรี้ด....”
10 ชั่วโมงก่อนหน้านั้น เลแวนซ์อาบน้ำเย็นสบายตัวออกมา อาหารค่ำก็เตรียมพร้อมไว้รอท่าแล้ว นางกำนัลยกสำหรับในถาดเงินหรูหรา อาหารมากมายเกินกว่าคน 3 คนจะจัดการได้หมด
“หิวหรือยัง ทานกันเถอะ” ชายหนุ่มในชุดอาหรับสบายๆนั่งลงตรงกลางพื้นพรม ซาช่าไม่รอช้าเข้ามานั่งใกล้ๆตัวแทบชิดติดกันคอยทำทุกอย่างให้ ชายหนุ่มแทบไม่ต้องขยับมือเลย ก็มีคนป้อนให้ถึงปาก
เพล้ง! ทั้งคู่หันไปมองขวับ จานกระเบื้องชั้นดีในมือรติกรแตกเป็นสองเสี่ยง
“เนย? เป็นอะไร โดนบาดหรือเปล่า” เลแวนซ์ดึงมือเขามาดู
“ไม่เป็นไร ผมคงจับแรงไปหน่อย.....ของแพงก็อย่างงี้แหละ บอบบางเกินไป” ไม่รู้อารมณ์อยากประชดหรือไงเขาถึงว่ากระทบกระเทียบไปอย่างนั้น แต่รติกรรู้สึกเดือดอยู่ข้างในแล้วมันอดทนไม่ไหวแล้วด้วย
“อารมณ์ไม่ดีหรือ” เลแวนซ์เห็นคิ้วก็รู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกอย่างไง
“แหม...เป็นใครก็คงอารมณ์ไม่ดีแน่เพคะ”
“เงียบเถอะน่า ซาช่า”
“จารีฟ....” เธอเรียกเสียงสลด ชายหนุ่มก็ไม่สนใจ
“รู้ไหมว่าฉันเพิ่งได้ของบางอย่างมา กำลังคิดว่าจะเซอร์ไพส์เสียหน่อย” เลแวน์ว่าเสียงระรื่นอารมณ์ดีได้น่าหมั่นไส้ที่สุด
“อะไรหรือครับ” เขาว่าเสียงเนือยๆ ไม่อยากสนใจเท่าไร คงเป็นของประดับราคาแพงแน่ๆ เอาใจผู้หญิงจนเคยตัวหรือไงถึงเอาใจเขาแบบเดียวกัน
รติกรนั่งหน้าบูดมองนางกำนักยกถาดเงินใบหนึ่งมาวางตรงหน้า อะไรน่ะ? ของกินหรือไง พอฝาครอบเปิดออก เขาถึงกับตาโตด้วยความคิดไม่ถึง
“ข้าว?”
“ข้าวหอมมะลิเกรดโกลเด้น ฉันคิดเอาเองว่าเธอคงอยากทาน....ชอบไหม”
รติกรแทบอยากร้องไห้ ข้าว....สิ่งที่เป็นตัวแทนประเทศชาติได้ดีที่สุดคือข้าว ที่เคยเป็นจิตวิญญาณของชาวนา แต่ยุคนี้มันกลับเป็นของแพงหาซื้อยังยากเลย  สาเหตุนั้นมาจาก ข้าวนั้นปลูกได้ยากมาก หลังจากเจอภัยพิบัติ
ทุกปี และดินเสื่อมภาพจากการที่รัฐบาลรับจ้างเก็บสินค้ามีพิษจากนานาประเทศ ทำให้ดินและน้ำปนเปื้อนมากมาย พื้นที่เพาะปลูกเหลือเพียงจำกัด คนไทยเดี๋ยวนี้หันมาทานขนมปังกับ ก๋วยเตี๋ยว บะหมี่เป็นอาหารประจำไปแล้ว ข้าวเกรดถูกสุดยังลิตรล่ะเกือบหมื่นแล้ว ยิ่งเกรดดีที่สุดปาเข้าไปสองหมื่นเศษ คนที่ซื้อได้มีแต่คนรวยๆกับชาวต่างชาติเท่านั้น
“มัน.....มันแพงนะ”
“ใช่....แล้วหุงยากด้วย  ฉันให้แม่ครัวไปหัดทำอาหารไทยหลายอย่างที่ภัตคารใหญ่ที่สุดของเรา กว่าจะหุงข้าวเป็นก็แทบแย่ เสียไปหลายหม้อเลย”
“ทำไมคุณไม่บอกล่ะครับ ผมหุงเป็นนะ ผมทำเป็น” ชายหนุ่มทั้งดีใจ ทั้งเสียดายของดีหายากอย่างนี้
“ทำเป็นจริงหรือ”
“ครับ ตอนอยู่เกรด 3 ที่บ้านเคยทำกินอยู่ 2 ครั้ง แม่ผมสอนหุงข้าวด้วย ผมจำได้ไม่ลืม ข้าวล้างหลายน้ำไม่ได้วิตามินมันจะหายหมด แค่รวนน้ำแรกนิดหน่อย ทิ้งแล้วค่อยใส่น้ำให้ท่วมหลังมือ ผมจำได้ดี”
“งั้น.....กลับวังไปคราวนี้....เธอจะเข้าครัวทำให้ฉันทานด้วยได้ไหม” เลแวนซ์ถามอย่างมีความหมาย
“ได้สิครับ ผมทำได้ ขอบคุณครับ” รติกรยิ้มดีใจน้ำตาแทบไหล เขาไม่สนใจรายละเอียดปลีกย่อยอะไรทั้งนั้น
ได้ทำอาหารแบบไทยๆบ้างมันทำให้เขารู้สึกเหมือนได้อยู่ใกล้บ้านอีกนิด  ใบหน้าอ่อนวัยมียิ้มกว้างดีใจเขาไม่ขัดขืนเลยตอนถูกดึงไปกอด แล้วมีจูบที่หน้าผากแรงๆหลายๆที ซาช่าถึงกับเม้มปากอย่างขุ่นเคือง เจ็บใจนักเชียว จารีฟแสดงออกชัดว่าใส่ใจไอ้หนุ่มหน้าขาวนั้นถึงขนาดซื้อของที่หายากขนาดนี้ให้  ฮึ่ม....ใจเย็นไว้ซาช่า เจ้าชายก็แค่อยากเอาใจมันแค่นั้น รอให้ได้ลูกก่อนเถอะ เขาจะเฉดหัวมันลงไปข้าทาสแน่ ตอนนี้ต้องอดทนไว้...
ทั้งสามลงมือทานอาหารได้ไม่นาน คาริคก็ตามมาสมทบ ทำให้ครึกครื้นขึ้นบรรยากาศผ่อนคลายเป็นงาน
เป็นการ หลังดื่มชาตบท้าย ร่างเล็กขดตัวเอาหัวอิงหมอนมองสองหนุ่มคุยเรื่องงานกันอย่างออกรส สุดท้ายก็เผลอหลับไปทั้งอย่างนั้น
บางอย่างกำลังเลี้อยผ่านเอวไปช้าๆแล้วลอดใต้เสื้อบางๆขึ้นมาหยุดที่หน้าอก รติกรรู้สึกตัวแบบกึ่งหลับกึ่งตื่น
เมื่อมีบางอย่างกำลังลูบไล้ยอดอกเขาไปมาแถมบี้คลึงแรงๆชวนให้วาบหวิวเหลือเกิน
“อืม...” เขาครางไล่ให้เจ้าสิ่งนั้นหยุดเสียที แทนที่มันจะหยุดกลับเป็นเขาที่ถูกรั้งให้พลิกตัวหันมา บางอย่างที่นุ่มนวลแนบลงมาบนเรียวปาก มันเปิดปากเขาออกแล้วบดเคล้าหนักหน่วงปลุกให้ประสาทสัมผัสตื่นตัวมาพบกับรสหวานซ่านแต่เช้า เหมือนจะยังตื่นไม่เต็มที่หรือไรกัน เขาถึงไม่คิดอะไรนอกจากยกมือขึ้นโอบรอบคอให้แนบจูบลงมาอีก ลิ้นอุ่นที่เหมือนงูนั้นทำให้จูบนั้นดื่มด่ำซาบซ่าน ความหวานไหวนั้นโรยรินที่ขั้วหัวใจจนทำให้สั่นไปหมด ริมฝีปากนั้นละจากไปนานกว่าเขาจะลืมตาขึ้นมองได้  เป็นคนที่ไม่อยากจะเห็นจริงๆ แต่เวลานี้เขาหล่อเหลาเหมือนเทพบุตรแถมสายตาที่จ้องมานั้นเต็มไปด้วยความอบอุ่น  ชายหนุ่มยิ้มกว้างอย่างเขินอาย
“แย่ที่สุดเลย” เขาว่าเสียงกระซิบ
“ผมยังไม่ได้แปรงฟันเลย”
“หึ....นอนต่อเถอะ เดี๋ยวฉันต้องทำงานแล้วจะให้คนอยู่เป็นเพื่อนนะ แล้วสายๆจะกลับ”เลแวนซ์จูบที่ขมับเบาๆก่อนลุกจากไป
“โชคดีนะครับ” รติกรผงกหัวขึ้นบอก อุ๊บ! ทำไรไปเนี่ย ยังกะผัวเมียบอกลากันเลย เขาทำหน้าเหมือนนึกได้ว่าอมยาขมอยู่ ส่วนอีกคนนั้นแค่อมยิ้มแล้วออกไป ทิ้งให้ทั้งกระโจมตกอยู่ในความเงียบ  ตอนนี้ตาสว่าง นอนไม่หลับแล้วสิ ร่างเล็กลุกนั่งมองไปรอบๆพบซาช่านอนอยู่อีกมุมของกระโจม โล่งอกที่หล่อนไม่ได้ตามเขาไปเป็นขี้ปลาทองอีกเขาค่อยๆลุกขึ้นแล้วพบว่าเท้าเจ็บน้อยลงมากแล้ว พอเดินเขย่งได้ดีกว่าเมื่อวานมาก จึงรีบจัดการล้างหน้าแปรงฟันเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เสร็จก่อนผู้หญิงตื่น
เสร็จแล้วก็ออกมาข้างนอก รติกรมองอาทิตย์โผล่ขึ้นที่ขอบฟ้าของทะเลทราย มันช่างสวยอะไรอย่างนี้นะ
ผืนทรายที่ตัดเป็นเส้นตรงสุดลูกหูลูกตาเป็นสีเข้มขณะที่สีทองเจิ้ดจ้ากำลังฉายแสงอาบยอดกองทราย เป็นภาพที่สวย สงบยิ่งกว่าที่คิด แสงที่ค่อยๆไล้กว้างลงไปทำให้รู้ว่าโลกนี้ไม่เคยหยุดนิ่งแม้วินาทีเดียว
“คุณรีส...” เสียงเรียกอย่างเกรงใจจากข้างหลังทำให้ตื่นจากภวังค์ สาวอาหรับสวมชุดปกปิดมิดชิดยืนอยู่ข้างหลังเมื่อไรไม่รู้
“อรุณสวัสดิ์” เขาทักทาย
“ฉันชื่อ ฮานน่าคะ เจ้าชายจารีฟมีรับสั่งให้มาอยู่เป็นเพื่อนคุณวันนี้”
“อ้อ ขอบคุณ”
“อาหารเมื่อวานเป็นไงบ้างคะ ฉันหุงข้าวเป็นไงบ้าง”
“อ้อ คุณหรอกหรือ ที่จารีฟให้ไปฝึกทำอาหารไทย.....เมื่อวานดีมากเลย ข้าวหุงได้กำลังดี อร่อยมากเลย”
“ค่อยโล่งอกหน่อยฉันเป็นห่วงว่าจะไม่ถูกปากคุณ เช้านี้อากาศเย็นอยู่นะคะ คุณอยากได้ชาสักถ้วยไหม”
“ดีครับ ขอบคุณ”
ฮานน่ายิ้มดีใจใต้ผ้าคลุมหน้า เธอหันกายเข้าไปในกระโจมถัดไป ไม่นานก็ออกมาพร้อมเพื่อนๆที่ยกพรมปูให้เขานั่ง น้ำชาอุ่นๆกับขนม 2-3 อย่าง รติกรนั่งจิบชามองทิวทัศน์เงียบๆ รู้สึกการเป็นเศรษฐีมีคนบรนนิบัติก็ดีไปอย่าง แต่อีกหน่อยคงกลายเป็นคนสันหลังยาวแน่ๆ เขานั่งทอดอารมณ์สบายๆได้แค่ 10 กว่านาทีก็ต้องกลับเข้าไปข้างในเพราะแดดเริ่มแรงแล้ว
“คุณรีส”  ฮานน่าเรียก
“มีอะไรหรือ” ในมือเธอมีกล่องอลูมิเนียมขนาดเท่าฝ่ามือ
“ถึงกำหนดต้องฉีดยาเข็มที่ 2 แล้วคะ”
เข็มที่ 2  ? ร่างเล็กนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ ใจหวั่นไหวไม่อยากจะเจอเรื่องแบบนี้อีก แต่อีกใจก็คิดว่าเขาอยู่ในสถานที่เช่นนี้ สถานะเช่นนี้ สิ่งเดียวที่จะปกป้องเขาจากอันตรายทั้งปวงคือการมีลูก แต่....เขาไม่อยากทำเลย ร่างเล็กนั่งลงปล่อยให้หญิงสาวฉีดยาให้เงียบๆ รติกรอดถามตัวเองไม่ได้ เขาตัดสินใจถูกแล้วใช่ไหม
“บ้าจริง..”
อิซัสรู้ทันทีเลยว่าสายไปแล้ว เมื่อเห็นกลุ่มควันสีดำลอยเหนือหุบเขาที่ซ่อนตัว ห่างจากโอเอซีสเดิมไป 100 ไมล์
เขาพาคนไปเจรจากับกลุ่มเร่ร่อนอื่นเพื่อขอกำลังไปช่วยเหลือพวกผู้หญิงที่ถูกจับ แต่กลับได้ยินข่าวว่าทั้งหมดถูกปล่อยตัว พร้อมทั้งข่าวลือที่ว่า บางคนยอมเป็นสายให้ทางการเพื่อแลกกับค่าหัวโจร เขารู้เลยว่ามันไม่ปกติแล้วจึงรีบเดินทางกลับ แต่กว่าจะถึงก็....
“ อิซัส มีคนมาทางนี้” โมฮาหมัด ชี้ให้เห็นกลุ่มคนที่ควบม้าหลบหนีออกมาทางตรอกลับที่คนในเท่านั้นรู้เส้นทาง ทุกคนมีอาวุธอยู่ในมือ ชายหนุ่มควบม้าเข้าไปสกัดทันที
“หยุดนะ!” เขาดึงผ้าคลุมหน้าออก
“อิซัส...” กลุ่มคนที่หนีออกมา ดีใจรีบปลดผ้าออกกระโดดลงจากหลังม้ามาหา
“พวกเราถูกโจมตี พวกมันใช้พวกผู้หญิงเป็นสายจริงๆด้วย นังพวกนั้นทรยศพวกเราแล้ว”
“ว่าไงนะ?”
“จริงนะ พวกเราได้ยินจากวิทยุของทางการ พวกมันบอกว่ามีบางคนรับเงินมาแล้ว”
“แล้วพวกแกทำยังไง”
“พวกเราจับผู้หญิงกับเด็กแยกขังสอบสวน คาดคั้นจนถึงเช้านี้ พวกมันถึงบุกมาที่นี่”
“แล้วพวกผู้หญิงกับเด็กๆล่ะตอนนี้อยู่ไหน”   
“จะไปสนพวกมันทำไมล่ะ ผู้หญิงพวกนั้นมันทรยศพวกเราแล้ว”   
“ไอ้ไง่!” อิซัสตวาดใส่
“หลงกลพวกมันไปเต็มๆเลย  พวกมันปล่อยข่าวเรื่องค่าหัวเพื่อให้พวกแกมัวแต่สนใจคาดคั้นกับพวกผู้หญิง
ทำให้หวาดระแวงทำร้ายพวกเดียวกันเอง แกทำร้ายใครไปหรือเปล่า”
พวกนั้นเงียบเห็นสีหน้าก็รู้ว่าใช่ พวกนี้ลงมือกับผู้หญิงจริงๆ
“พวกแกมัน.......ไม่เข้าใจหรือว่า ผู้หญิงและเด็กเป็นกลุ่มที่อ่อนไหวที่สุด มันจงใจปล่อยพวกเธอก็เพื่อให้ไว้วางใจ พอกลับมาพวกแกดันไปทำร้ายพวกเธออีก”
“อิซัส หมายความว่าไง ทางการมันคิดอะไรอยู่” โมฮาหมัดยังไม่เข้าใจ
“พวกมันจะทำลายพวกเราด้วยการแย่งผู้หญิงกับเด็กออกจากลุ่มพวกเราน่ะสิ ป่านนี้แล้วทุกคนคงเห็นมันเป็น
ฮีโร่ที่ช่วยชีวิต และคงไม่กลับมาหาพวกเราอีกแน่”
“ไม่หรอกนะ ยังไงพวกเธอก็เป็นญาติพี่น้องพวกเรา”
“ถ้าไม่โดนทำร้ายและกล่าวหาว่าทรยศ พวกเธอคงกลับมาแน่” ชายหนุ่มว่าอย่างขุ่นเคือง เขาออกไปจากค่าย
วันเดียวก็โดนถล่มซะเละ  นึกไม่ถึงว่าพวกผู้หญิงจะถูกปล่อยเร็วกว่าที่คาด   ที่ไม่คิดอย่างที่สองคือคนของเขาจะหลงกลง่ายๆจนทำร้ายพวกเดียวกันได้ หึ....ซาฮาห์ ฮัสซาล จารีฟ เล่นงานเขาได้ถึงสองครั้ง  คอยดูเถอะ
เขาจะเอาคืนให้สาสมแน่ๆ
“นั้นเสียงอะไรน่ะ”
ซาช่านอนเอกเขนกอยู่ก็ลุกพรวดพราดขึ้น รติกรที่กำลังออกกำลังเบาๆด้วยการเหยียดขาไปมาแก้เบื่อต้องหยุดหันไปมอง ร่างบางถลาออกไปนอกกระโจมอย่างรวดเร็ว เฮ่อ...เป็นผู้หญิงในฮาเร็มนี่เหนื่อยกว่าที่คิดนะนี่
อย่างซาช่าเธอไม่ทำอะไรเลยนอกจากนอน พอตื่นมาก็กิน หลังจากนั้น.....ก็บำรุงความงามกันตลอดทั้งวัน
แค่เห็นของสารพัดอย่างที่เธอสรรหามาพอกหน้าพอกผิวแล้ว เหนื่อยแทนจริงๆ ชายหนุ่มคิดว่านั่งรออยู่เฉยๆดีกว่า แต่เสียงอูฐและม้ามากมายทำให้นึกสงสัย ทำไมเสียงดังวุ่นวายขนาดนี้ เขาคว้าไม้ตีกลอฟ์พยุงกายเดินออกมาข้างนอก สิ่งที่เห็นทำให้แปลกใจไม่น้อย พวกผู้หญิงและเด็กกลับมาในสภาพสะบักสะบอมเนื้อตัวเต็มไปด้วยฝุ่น  เขาอยากจะเข้าไปถามไถ่ให้รู้เรื่อง นารียะห์ปลอดภัยดีหรือไม่ พวกทหารก็ไม่ให้เข้าใกล้เช่นเคย
จึงได้แต่ยืนมองไกลๆเห็นคาริคและเลแวนซ์ อยู่พูดคุยปลอบใจทุกคนอยู่นาน
“ไง...” ร่างสูงในชุดคลุมมิดชิดสีเดียวกับผืนทรายก้าวมาหา สีหน้าเขาเหนื่อยน่าดู แต่ยังไงรติกรก็ต้องถาม
“เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมพวกผู้หญิง.....”
“ก็เป็นห่วงอยู่ว่าพวกผู้หญิงจะปลอดภัยไหม เลยให้คาริคตามไปห่างดูให้แน่ใจว่าพวกเธอถึงที่หมายแล้ว
แต่พวกนั้นคิดว่าพวกเธอเป็นสายให้ทางการเลยจับไปทรมานให้สารภาพ คาริคติดต่อมาว่าจะให้ทำไง ฉันเลยสั่งให้ไปช่วยคนออกมาก่อน”
“ทรมานเหรอ? พวกนั้นทรมานผู้หญิงเหรอ นารียะห์ล่ะเธอปลอดภัยไหม”
“เธอโดนตี....แล้วหักนิ้วน่ะ”  รติกรอ้าปากค้าง ไม่อยากเชื่อเลยว่าคนพวกนั้นจะทำร้ายผู้หญิงได้ลงคอ  เขามีคำถามขึ้นมาในใจทันที  อิซัสทำหรือเปล่า เขารู้เห็นหรือเขาลงมือทำเองกันแน่
“ผม....ผมอยากไปหาเธอหน่อย”
“อย่าเพิ่งเลย หมอกำลังทำแผลให้ เธอเจอเรื่องหนักๆมาทั้งคืนแล้ว ตอนนี้ต้องให้พักผ่อนมากๆ เธอไม่เป็นไรหรอก เชื่อฉันสิ”
เลแวนซ์โอบไหล่เล็กให้กลับมาที่กระโจม
“แล้วคุณจะทำยังไงกับพวกเธอ”
“ก็จะให้โอกาสตัดสินใจเอง ว่าจะกลับบ้านตัวเองเหมือนเดิม.....หรือจะไปกับฉัน  ถ้าไปกับฉันก็จะให้ทางการดูแล หาบ้านและงานทำ ส่วนเด็กๆก็จัดหาโรงเรียนให้” นี่เป็นทางออกที่ดีที่สุด ชายหนุ่มโล่งอกขึ้นเยอะ
ที่เลแวนซ์จัดการทุกอย่างได้อย่างรอบคอบ เขาเกาะชายเสื้อมองด้วยสีหน้าที่โล่งอกขึ้นเยอะ สีหน้าแบบนี้แหละที่คาดคิดไว้แล้วว่าจะได้เห็น  เลแวนซ์ปล่อยผู้หญิง และปล่อยข่าวออกไปเองว่ามีค่าหัวโจร การจะโจมตีกองโจรให้ได้ผลที่สุดคือโจมตีจุดที่อ่อนแอที่สุดคือผู้หญิงและเด็ก และมันก็ได้ผลด้วย พวกนั้นหวาดระแวงว่าจะมีสายของทางการถึงได้ลงมือทำร้ายพวกเดียวกันเอง ผู้หญิงที่สถานะทางสังคมต่ำต้อยที่สุด หากเป็นกำลังสำคัญที่สุดถูกกล่าวหา ถูกทำร้ายทั้งทางร่างกายและจิตใจ ย่อมหวาดกลัวและเอนเอียงเข้าหาคนที่หยิบยื่นโอกาสให้ได้ง่ายๆ ตอนนี้เขาเล่นงานปีศาจทะเลทรายได้  ได้ความไว้วางใจจากผู้หญิงและเด็กนับร้อยๆ และที่สำคัญที่สุด เขาได้สายตาที่มองมาด้วยความขอบคุณ ด้วยความวางใจจากร่างเล็กนี้ด้วย
“โรงเรียนอะไรหรือเพคะ” ซาช่ารอต้อนรับอยู่ในกระโจมอย่างเคย เธอยื่นผ้าเย็นให้เขาเข็ดหน้าเช็ดตา สองคนหนุ่มสาวในฮาเร็มแลตาใส่กันอย่างไม่พอใจ
“เลแวนซ์ แล้วทางการจะดำเนินการให้ได้ทันทีเลยหรือ”
“อืม.....ฉันจะตามเรื่องด้วยเองเลย ไม่ต้องห่วงน่า” เขาลูบไหล่เอาใจน้อยๆ รติกรถึงยิ้มออก
“จารีฟ....อาบน้ำก่อนนะ จะได้สบายตัวขึ้น” ซาช่าดึงแขนชายหนุ่มไปทางส่วนอาบน้ำ
“เดี๋ยวก่อน  เขายังคุยธุระไม่เสร็จ คุณถอยไปก่อน” ร่างเล็กเข้ามาแทรกระหว่างทั้งคู่ มือหนึ่งดันหญิงสาวให้ถอยออกไป อีกมือดันร่างที่สูงใหญ่กว่าให้ไปนั่งก่อน
“อะไรกัน?”
“เขาเพิ่งมาถึงตัวร้อนๆ ให้นั่งพักหายเหนื่อยก่อนสิ และผมมีเรื่องต้องคุยกับเขาด้วย คุณรอไปก่อนเถอะ”
“แก...”  เพี้ยะ!  
รติกรหน้าหงายไปตามแรงตบ เขาตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น หันมามองมือตบที่ยิ้มเยาะใส่อย่างสะใจ ก่อนหันไปมองตัวต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด
“เลแวนซ์!” เขาตะโกนลั่นอย่างเหลืออด นี่ถ้าหล่อนไม่ใช่เพศเดียวกับแม่เขาล่ะก็ พ่อลุยแหลกไม่มียั้งแน่
ร่างสูงเข้ามาแทรกระหว่างเขากับแม่ซาช่าตัวดีได้ทันเวลา สองมือลูบต้นแขนเขาขึ้นลงเบาๆเป็นการเอาใจ
“ใจเย็นนะ เนย สูดลมหายใจลึกๆเข้า”
“ผมไม่ทนหล่อนแล้วนะ”
“โอเค...”
“จารีฟ....เขาหาเรื่องหม่อมฉันก่อนนะ” ซาช่าเข้ามาดึงแขนเลแวนซ์ รติกรปัดมือหล่อนทิ้งแรงๆ
“ออกไป”
“ว่าไงนะ”
“ผมบอกให้ออกไปนอกกระโจมนี้ เดี๋ยวนี้”
“แกมีสิทธิ์อะไรมาสั่งฉัน”
“มีสิ เลแวนซ์เขามาตามผมกลับไปพระราชวัง เพราะงั้นที่ๆเขาอยู่ก็คือที่ๆของผม คุณมันแค่ตัวแถมที่มาโดยไม่ได้รับเชิญ ในกระโจมนี้ผมมีสิทธิ์ให้ใครอยู่ก็ได้ แต่ไม่ใช่คุณ ออกไปเดี๋ยวนี้”
“แก.....จารีฟ...ดูเขาสิ ว้าย!” ซาช่าโผเข้าหาเลแวนซ์ แต่โดนกระชากผมเสียก่อน
“เนย...”
“มานี่เลย” ร่างเล็กกระชากผมยาวสลวยของซาช่าแรงๆ
“ว้าย  ตายแล้ว”
“เนย หยุดนะ” เลแวนซ์เข้ามากอดเอวเขาอุ้มยกขึ้นตั้งตัว
“กรี้ด....”

เฮือก! สองหนุ่มสะดุ้งกับสิ่งที่เห็นรติกรไม่ยอมปล่อยมือแม้จะโดนอุ้มจนตัวลอยทำให้ผมยาวสลวยของซาช่าหลุดติดมือเขามาทั้งยวง วิกผม!หัวหล่อนคลุมด้วยผ้าขาวสำหรับติดวิกเท่านั้น หล่อนโกนผมออกหมดเลย
“อ้าย แก........อ๊าย!” ซาช่ากรีดร้องสุดเสียงหล่อนกระชากวิกผมออกจากมือก่อนวิ่งเตลิดออกไปข้างนอก


หัวหน้าห้อง

โพสต์
1512
พลังน้ำใจ
1612
Zenny
6474
ออนไลน์
812 ชั่วโมง

ประธานนักศึกษา

โพสต์
3627
พลังน้ำใจ
6748
Zenny
6736
ออนไลน์
917 ชั่วโมง
ขอบใจมากครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2605
พลังน้ำใจ
23935
Zenny
38929
ออนไลน์
2280 ชั่วโมง
ชอบมากๆ ขอบคุณมากๆครับ

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1430
พลังน้ำใจ
1430
Zenny
6827
ออนไลน์
291 ชั่วโมง
ขอบคุนครับ

ลูกน้องหัวหน้าห้อง

โพสต์
943
พลังน้ำใจ
827
Zenny
1766
ออนไลน์
176 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1423
พลังน้ำใจ
1338
Zenny
8250
ออนไลน์
245 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2711
พลังน้ำใจ
12929
Zenny
1942
ออนไลน์
5508 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3394
พลังน้ำใจ
15749
Zenny
4625
ออนไลน์
4167 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

น้องใหม่เฟรชชี่

โพสต์
8
พลังน้ำใจ
28
Zenny
70
ออนไลน์
0 ชั่วโมง

น้องใหม่เฟรชชี่

โพสต์
8
พลังน้ำใจ
28
Zenny
91
ออนไลน์
1 ชั่วโมง

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1484
พลังน้ำใจ
1541
Zenny
6736
ออนไลน์
824 ชั่วโมง
ขอบคุณมากนะ

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1736
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง

น้องใหม่เฟรชชี่

โพสต์
22
พลังน้ำใจ
33
Zenny
115
ออนไลน์
2 ชั่วโมง
ขอบคุณมากครา

ประธานนักศึกษา

โพสต์
362
พลังน้ำใจ
4070
Zenny
3893
ออนไลน์
583 ชั่วโมง
ขอบคุนมากเลยนะคับ

ลูกน้องหัวหน้าห้อง

โพสต์
511
พลังน้ำใจ
652
Zenny
101
ออนไลน์
133 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นักศึกษา

โพสต์
389
พลังน้ำใจ
202
Zenny
222
ออนไลน์
12 ชั่วโมง
Thankssssssssssssssssssssssssss

น้องใหม่เฟรชชี่

โพสต์
8
พลังน้ำใจ
46
Zenny
140
ออนไลน์
0 ชั่วโมง
ขอบคุณจ้า

ประธานนักศึกษา

โพสต์
1338
พลังน้ำใจ
4957
Zenny
173
ออนไลน์
713 ชั่วโมง
ขอบคุณมากครับชอบๆๆๆ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
1642
พลังน้ำใจ
12235
Zenny
5406
ออนไลน์
1563 ชั่วโมง
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-4-29 04:30 , Processed in 0.138522 second(s), 25 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้