จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 2655|ตอบกลับ: 63
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

มนตราทาสบำเรอ.... 7 - 8 ....

  [คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับและขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว

“คนต่างชาติ ขี่ม้าออกมาตามลำพังเลยพามาให้นายดู”คนพูดเข้ามาแกะเชือกที่พันเขาอยู่หมอนี่ถีบเขาให้ม้วนกลิ้งเป็นเศษพรมเลยร่างเล็กหอบแฮ่กยังไม่มีแรงจะยันตัวลุกขึ้นเลยก็มีมือดีกระชากคอเสื้อเขาลุกขึ้นยืน
ชายสองคนจับแขนเขาหักไปด้านหลังพาตัวมายืนต่อหน้าชายคนหนึ่งคนที่....มีสายตาน่ากลัวจนรู้สึกขนลุก ขนตางอนกระพริบปริบๆก่อนจะวูบหมดสติไปจริงๆ   
ตอนที่ 7 ปีศาจแห่งทะเลทราย
แปะ! แปะ!
“เฮ้....ตื่นได้แล้ว”
มือสากกระด้างแข็งตบเบาๆที่หน้าปลุกรติกรให้ลืมตาขึ้นมา เขาสะดุ้งเฮือกทันทีที่เห็นหน้าดุดันอยู่ห่างไปแค่คืบเดียว ดวงตาสีดำเย็นชาเหมือนราตรีที่มืดยิ่งกว่ามืด ไร้อารมณ์ ความรู้สึกใดๆ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากบางเม้มเหมือนคนอารมณ์บูดตลอดเวลา แค่มองก็ทำให้คนถูกมองรู้สึกอึดอัดได้แล้ว ร่างเล็กเขยิบหนีแต่ติดหมอนจำนวนมากที่รายล้อม เขาเหลียวมองไปรอบๆพบว่าตัวเองนอนบนฟูกนุ่มภายใต้กระโจมสีขาวสกปรก
“คุณเป็นใคร?”
“ฉันต่างหากที่ควรเป็นคนถาม” พูดจบอุ้งมืออันใหญ่โตคว้าปลายคางเขาไว้แน่นลากให้คลานเข้ามาใกล้ๆ จนได้กลิ่นบุหรี่เย็นๆจากลมหายใจ
“พูดมา”
“ผม....” จะให้เริ่มตรงไหนล่ะ รติกรไม่รู้ว่าจะพูดยังไงให้ตัวเองปลอดภัยดี
“ชื่อ?”
“เนย...”
“มาจากไหน”
“วอชิงตัน ดีซี”
“แล้วไปทำอะไรในวังสุลต่านคาเมน” ใบหน้าอ่อนวัยตกใจไม่น้อย รู้ได้ยังไงว่าเขามาจากที่นั้น อีกฝ่ายถึงหยิบเสื้อคลุมที่สวมมาให้ดู มีตราที่ปักเป็นรูปเหยี่ยวสีทองเหนืออักษรย่อ KM คงเป็นตราของพระราชวัง
“ผม...ผม.....ถูกจ้างไปทำงานก่อสร้างที่นั้น ผมหนีมา” มือที่บีบปลายคางเขาแน่นปล่อยทันที รติกรใจชื้นขึ้นหน่อย เขารีบเขยิบออกห่างไปสุดปลายของฟูก ใกล้ๆนั้นมีโต๊ะเตี้ยให้นั่งทำงานได้ สังเกตได้จากมีหนังสือ ปากกาและตะเกียงน้ำมัน เลยไปอีกหน่อยถึงออกไปข้างนอกได้ เขาเห็นเงาคนเหมือนกำลังทำงานบ้านอยู่
ข้างหลัง
“ถอดสิ”
“อะไรนะ?” เด็กหนุ่มหันมามองหน้า
“ฉันไม่เชื่อที่พูดหรอกนะ ตัวเล็ก ผิวขาวอย่างนี้น่ะหรือเป็นคนงานก่อสร้าง  ถอดเสื้อออกมาให้ดูหน่อยสิ”
ทำงั้นได้ไงล่ะ ร่างเล็กนั่งตัวแข็งสีหน้าปฏิเสธโจ่งแจ้ง คนคอยจึงลุกขึ้นมาหา
“อย่า....” เขาถอยหนี พยายามปัดมือที่คว้าคอเสื้อเอาไว้ออกไป แต่ก็ถูกจับกดลงกับพื้น มือเขาปัดโต๊ะเตี้ยๆนั้นล้มไปด้วย ร่างสูงใหญ่คล่อมเหนือร่างเขา พยายามถอดเสื้อที่สวมอยู่ออกให้ได้  
“อย่า....ปล่อยผม”
“อิซัส ทำอะไรอยู่” ใครคนหนึ่งเข้ามาถาม น้ำเสียงราบเรียบไม่ได้ตกใจในสิ่งที่ได้เห็นแม้แต่น้อย
“สอบปากคำมันอยู่ จาร์ฟา ออกไปก่อน....” อิซัสสะดุ้งน้อยๆ เขาหันกลับมาพบว่ามีบางอย่างแทงเข้าที่สีข้างเขา ใต้ร่างเขาตะเกียกตะกายหนีออกไปจนได้
“หยุดนะ”
ริตกรไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เขาวิ่งออกจากกระโจมมาวิ่งลงเนินทรายไปหาโอเอซีสเบื้องหน้า มีสาวๆที่กำลังทำอาหารและฝูงอูฐผูกไว้ใกล้ๆนั้น เขาต้องไปให้ถึงพวกมัน แต่เพียงวิ่งไปใกล้เท่านั้นก็มีเสียงตะโกนโวกเวกขึ้นมา
“ช่วยด้วย!.... ช่วยด้วย” หญิงชาวอาหรับคนหนึ่งสวมชุดคลุมปกปิดใบหน้ามิดชิดเห็นลูกตาตะโกนขึ้น เธอเห็นเขาวิ่งเข้ามาก็รีบโผเข้าหา ชี้นิ้วบอกเขา
“ลูกฉันจมน้ำ ช่วยด้วย เร็วเข้า!”
เธอคงนึกว่าเขาจะมาช่วย รติกรเห็นโอเอซีสนี้มีจุดที่ลึกอยู่ มีเด็กตะกุยตะกายน้ำกระจาย  พอได้ยินคำว่า
‘เร็วเข้า’ความคิดก็เหมือนถูกสลับสวิทกระทันหัน เขากระโจนลงน้ำ ตูม...วินาทีต่อมาถึงรู้ว่าตัดสินใจผิดไปแล้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากว่ายไปให้ถึงเด็กเร็วที่สุด เขาคว้าตัวเด็กไว้ได้
“อ๊า! อ๊า...”
“ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไร” วงแขนโอบรอบคอเด็กพาว่ายไปถึงฝั่ง
“ได้แล้ว....ได้แล้วๆ” สาวๆ ร้องเสียงดีใจสุดขีดช่วยกันลากเด็กขึ้นมาก่อน แต่ก็มีมือแข็งแรงคว้าตัวเขาขึ้นมาเช่นกัน แม่ของเด็กเข้ามาลูบหลังเขาแล้วกล่าวสั้นๆ
“ขอบคุณ”
ขอบคุณอะไร? เขาแค่ตัดสินใจผิดพลาดเท่านั้น รติกรอยากจะบอก หากมือแข็งๆนั้นลากเขากลับไปที่กระโจมอย่างไม่ปราณีปราศรัยเลย มาถึงก็พลั่กเขาล้มลงบนพรม ต่อหน้าผู้ชายอีกคนที่ถอดเสื้อลงมากองที่เอวกำลัง
ทำแผลอยู่
“เป็นไรหรือเปล่า” คนโยนเขาถามคนนั่งทำแผล
“นิดเดียวเอง” เขาแปะสก๊อกเทปเสร็จถึงหันมาชี้นิ้วใส่
“แก....แทงฉันด้วยปากกา”
“ฮะฮะ....” จาร์ฟาหัวเราะ
“มันแทงฉันด้วยปากกา...ของฉันเอง” อิซัสหัวเราะเขาลุกขึ้นอวดเรือนร่างที่แข็งแกร่ง กระชากแขนเล็กลากกลับมาที่ฟูกนอน
“แกต้องชดใช้”
“อย่า...อย่า ผมไม่ได้ตั้งใจ” เขาถูกเหวี่ยงล้มลง เสื้อที่สวมอยู่ถูกกระชากขาด แคว่ก!
“อย่า....ปล่อยนะ”
ผิวขาวโพลนตัดกับแสงทึมๆภายในกระโจมปรากฏต่อสายตาทั้งคู่ อิซัสกระชากเสื้อตัวบนออกไปจนหมด
เขาตรึงสองมือไว้เหนือศีรษะมองผิวเนื้อเปียกๆอย่างพอใจ รติกรน้ำตาร่วงลงหางตา กลัวเหลือเกิน เขาไม่น่าหนีมาเลย ไม่น่าเลย....
“นี่เหรอ เด็กคนงานก่อสร้าง ผิวมันคนล่ะอย่างเลย” จาร์ฟาเข้ามานั่งชมใกล้ๆด้วย  เขาไล้นิ้วไปมาบนพวง
แก้มนุ่ม
“ฉันว่าเป็นคู่นอนให้พวกนั้นเสียมากกว่า....ใช่ไหม...เนย” อิซัสกระซิบถาม
“ฮึ่ก..” ร่างเล็กกลั้นสะอื้นไม่อยู่ คล้ายคำตอบกลายๆ ชายหนุ่มมียิ้ม-เอี้ย-มบนใบหน้าทันที เขาช้อนใบหน้าให้หันมาสบตา มีความหมายที่ซ่อนความอยู่และรติกรเห็นแววเย้ยหยัน สะใจ แกมชิงชัง...ที่ไม่ได้ชิงชังเขา แต่ชิงชังคนที่เขาหนีมาต่างหาก ผู้ชายคนนี้เกลียดราชวงศ์
ริมฝีปากอุ่นแนบลงมาในลักษณะรุนแรง ป่าเถื่อน จงใจให้เขาเจ็บจนต้องเผยอปากเพื่อให้ความเจ็บปวด
บรรเทาลง หากกลับเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายสอดลิ้นเข้าไปทำให้เขาปั่นป่วนยิ่งขึ้น
“อือ!” เด็กหนุ่มได้แต่ท้วงอย่างเดือดดาล แต่ครู่เดียวอารมณ์โกรธก็ต้องหยุดลง เมื่อจูบนั้นนุ่นนวลขึ้น มือที่จับตรึงมือเขานั้นคลายออกเพื่อโอบกอดเขาทั้งตัว ริมฝีปากบดเคล้านุ่มนวลทำให้จูบซาบซ่านหวานในแบบที่ไม่เคยประสบมาก่อน รติกรเลื่อนมือลงยันไหล่กว้างด้วยกำลังที่เหลืออยู่น้อยนิด ขณะที่ท่อนแขนแกร่งรั้งเอวบางขึ้นแนบชิดจนรู้สึกได้ถึงความแข็งขืนตรงกลาง กลิ่นของความกระหายโชยมาแตะจมูก ไม่....แบบนี้ ไม่เอา!
“อะ..” อิซัสผงะเล็กน้อย เขายันตัวขึ้นมา นิ้วแตะแผลถูกกัดที่มุมปาก
“เป็นไร” จาร์ฟาถาม
“เห้อะ.....ยังไม่มีใครได้แตะต้องเขาเลย”
“รู้ได้ไง”
ชายหนุ่มไม่ตอบเขาแค่ผายมือให้ดูเอาเอง ร่างเล็กตัวสั่นน้อยๆ ตาแข็งกร้าวทั้งที่น้ำตาไหลไม่หยุด ริมฝีปาก
ขบเม้มกลั้นอารมณ์ตัวเองไม่ให้หลุดลอดออกมา อากับกิริยาต่อต้าน ไม่ได้โอนอ่อนเอาใจเพื่อชีวิตของตัวเองเลย  คาริบ  อาฮาบี อิซัส เลียริมฝีปากตัวเอง ลิ้มรสเลือดอย่างถูกใจ เขาเร่ร่อนไปทั่วผืนทะเลทราย คอยปล้นสินค้าของมีค่าทุกอย่างของราชวงศ์ที่น่ารังเกียจ ไม่คิดว่าจะได้เจอของดีๆอย่างนี้เข้า
อยากได้  นี่เป็นความรู้สึกที่ไม่ได้รู้สึกมานาน หลังจากเสียผู้หญิงคนแรกในชีวิตไปแล้ว ชาวต่างชาติคนแรก
ที่ปากหวานและกล้าแทงเขา กัดเขา ทำให้รู้สึกกลับไปเป็นหนุ่มที่รักสนุกอย่างแต่ก่อน
“สมบัติที่ยังไม่ได้ถูกแตะต้องของอัลมาอิดะฮ์ มันจะรู้สึกอย่างไงนะถ้ารู้ว่าเป็นของฉันแล้ว.....จาร์ฟา ไปเอาตราเหล็กเผาไฟให้หน่อย”
“เอางั้นเลยเหรอ” เขาถามแต่ก็ยอมลุกไปโดยดี
“คุณจะทำอะไร?” รติกรรู้สึกกลัวขึ้นมา เขาพยายามพลั่กไสร่างที่ทาบทับตัวออกไป อิซัสยึดสองมือไว้เขามองไปทั่งร่างแล้วจับพลิกคว่ำหน้าลง มือข้างหนึ่งไล้ไปทั่วแผ่นหลัง
“ปล่อยผมนะ ปล่อย!”
“จะประทับตรงไหน” จาร์ฟากลับพร้อมของบางอย่างที่ได้กลิ่นไอร้อนโชยมา
อิซัลไล้ปลายนิ้วจากแผ่นหลังลงมาถึงเนินสะโพกลงไปถึงน่องและข้อเท้า
“ตรงนี้”
“ไม่นะ...อย่า! อย่า ปล่อยผม เลแวนซ์  อ๊า!”
ฉ่า... เสียงเนื้อไหม้ดังก้องในหู รติกรเจ็บปวดที่สุดในชีวิต เหล็กร้อนๆเผาฝ่าเท้ามันทรมานจนหมดแรงจะรับรู้ได้อีก เขาเป็นลมไปจนได้แต่ก่อนที่สติจะหลุดลอยก็ยังรู้สึกถึงรอยประทับนุ่มนวลที่ขมับเบาๆพร้อมเสียงกระซิบว่า
“จำไว้....เธอเป็นสมบัติของ คาริบ อาฮาบี อิซัลแล้ว”
‘ไม่....เลแวนซ์ คุณอยู่ไหน?’รติกรนึกก่อนความมืดจะครอบงำเขา
ตอนที่ 8  เส่นห์หาใต้เงาจันทร์
ร้อน....ร้อนเหลือเกิน
รติกรรู้สึกเหมือนอยู่กลางกองไฟที่ร้อนผ่าว เหงื่อเขาซึมจนรู้สึกได้ถึงการไหลของหยดน้ำบนเนื้อตัว ทว่า....ทั้งที่ร้อนทรมานอยู่อย่างนี้เขากลับขยับนิ้วไม่ได้เลยด้วยซ้ำ มันอ่อนล้าราวกับถูกถ่วงด้วยหิน ขณะที่รอบตัวนั้นมืดไปหมด มืด...แล้วน่ากลัวเหลือเกิน
“อิซัส”
“นารียะห์” ชายหนุ่มเดินออกกำลังนอกกระโจม ญาติห่างๆคนหนึ่งก็มาหา
“ได้ยินว่าคนที่คุณเพิ่งจับมาไม่ค่อยสบายหรือ”
“ใช่”
“ขอฉันไปดูเขาหน่อยได้ไหม”
“ทำไมหรือ?”
“ก็....เขาช่วยชีวิตฮัสซันลูกชายฉันไว้เมื่อวันก่อน  ยังไม่ได้ขอบคุณเขาดีๆเลยก็ได้ยินว่าไม่สบายเสียแล้ว ให้ฉันดูเขาหน่อย” คำบอกเล่าของเธอทำให้เขาแปลกใจนิดหน่อย
“ผมไม่ยักกะได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นกับฮัสซันเลย มันเกิดขึ้นเมื่อไรหรือ”
“เมื่อวาน เขาวิ่งเตลิดออกไปตอนที่ฮัสซันเป็นตะคิวพอดี โชคดีมากเลยที่เขาอยู่ที่นั้น ฉันยังไม่ได้ขอบคุณดีๆเลย” ไม่บ่อยนักที่สตรีอาหรับจะใส่ใจเป็นห่วงเป็นใยชาวต่างชาติแปลกหน้านัก หากไม่ใช่คนที่มีบุญคุณจริงๆ เขาอนุญาตให้เข้าไปในกระโจมได้ เมื่อวานหลังตีตราเหล็กเผาไฟ เด็กนั้นก็ไม่ตื่นอีกเลย เขาเองก็มัวแต่ยุ่งเรื่องประชุมวางแผนการปล้นครั้งต่อไปจึงลืมเรื่องนี้เสียสนิทใจ
“ตายแล้ว...” นารียะห์อุทาน เธอแค่เอามือแตะหน้าผากเท่านั้นก็ต้องตกใจที่พบว่าเขาตัวร้อนเป็นไฟ ใบหน้าเปียกเหงื่อไปหมด อิซัสเข้ามาดูอาการอีกคนอาการตัวร้อน มีไข้แบบนี้หนักหนาเอาการ
“ฉันจะไปเอาน้ำมาเช็ดตัวเขาหน่อย คุณถอดเสื้อเขาออกด้วยล่ะ”
ชายหนุ่มพยักหน้า เขารอให้นารียะห์ออกไปก่อนถึงถอดเสื้อเปียกๆออก มือสัมผัสเนื้อตัวอุ่นๆ จับตรงไหนก็แดงตรงนั้นจนอยากจะขย้ำเนื้อนุ่มแรงๆให้หายมันเขี้ยว นิ้วแข็งแรงไล้แก้มใสเบาๆร่างเล็กผวาน้อยๆพยายาม
ปัดป่ายอย่างอ่อนแรง ปากก็เพ้อเบาๆ
“อย่า..... เลแวนซ์ ช่วยด้วย.....ปล่อยผมไป....ผมอยากกลับบ้าน....”
“แม่ฮะ” รติกรนอนขดตัวราวกับเด็กทารก น้ำตาร่วงแล้วร่วงอีก อิซัสมองด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย  
เขาช้อนร่างเล็กขึ้นมาบนตัก มือปัดผมออกจากใบหน้าเบาๆ เด็กอาไร้....ขนตางอนชะมัด ปากก็แดง น่ารังแกออกอย่างนี้ยังหลุดรอดจากวังสุลต่านมาได้นี่ช่างเหลือเชื่อจริงๆ
อยู่ใกล้อย่างนี้ได้กลิ่นเหงื่อจางๆชวนให้ชายหนุ่มอดใจไม่ไหว ต้องขอลักขโมยสักครั้ง เขาบดเคล้าเรียวปากนุ่มแรงลิ้มรสหวานที่น่าพอใจแล้วสอดลิ้นเข้าไปทำให้จูบนั้นดื่มด่ำเร่าร้อนแทบจะละลายในอ้อมแขนได้  สติที่เลือนรางถูกดึงกลับมาสู่โลกอันร้ายกาจจนได้  รติกรพยายามดิ้นรนด้วยเรี่ยวแรงที่มี แต่ขยับมือได้ก็ยากเย็นแล้ว เขาทำอะไรไม่ได้จนอิซัสพอใจยอมปล่อยเขาถึงมีโอกาสได้หอบหายใจ
“อย่ามาแตะต้องผม”
“ไม่มีแรงแล้วยังจะดื้อรั้นอีกนะ”
โชคดีเป็นของเด็กหนุ่มที่นารียะห์กลับมา เขาถูกวางลงผ้าห่มหนาคลุมลงบนตัว อิซัสถอดเสื้อผ้าทุกชิ้นของเขา ไม่สนเสียงประท้วงอ่อนแรงแม้แต่คำเดียว แต่พอผู้หญิงมาช่วยเช็ดเนื้อเช็ดตัวลดไข้ให้ เขากลับไม่ต่อต้านเลยปล่อยให้เธอทำเหมือนเขาเป็นเด็กเล็กๆที่ต้องมีแม่ค่อยดูแล เธอเช็ดตัวแล้วสวมเสื้อผ้าใหม่ที่แห้งสะอาดให้
เขาก็หลับไปอีกครั้ง
“อิซัส” นารียะห์หันมาต่อว่าญาติด้วยสายตา เมื่อเห็นแผลพุพองที่เท้าของรติกร
“ของมันต้องตีตราจองไว้ก่อน” เขาว่าน้ำเสียงระรื่น
“เกิดแผลอักเสบขึ้นมาจะว่าไง”
“เขาไม่เป็นไรหรอก ผมวานทำอะไรอ่อนๆให้เขาทานหน่อยนะ”
“เฮ่อ.....ให้ได้อย่างนี้ทุกทีสิน่า” เธอบ่นว่ายังไงสุดท้ายก็ทำตามใจเขาอยู่ดี คาราวานเร่ร่อนนี้มีชายหนุ่มเป็นเสมือนหัวหน้าปกครอง ความกล้า บ้าบิ่น กล้าได้กล้าเสีย ไม่กลัวใครทำให้เข้มแข็งกว่าชนเผ่าเร่ร่อนอื่นๆ จนได้ฉายา ปีศาจทะเลทราย กองโจรกลุ่มเดียวที่กล้าท้าทายอำนาจของราชวงศ์ซีเรีย
อิซัสเพิ่งรู้สึกว่าการได้มองใบหน้าหลับใหลของใครบางคนน่าสนใจกว่าการอ่านหนังสือเสียอีก เขามองขนตางอนๆและริมฝีปากสีระเรื่อไปมาอยู่ชั่วครู่จาร์ฟาเข้ามาในกระโจมพร้อมใครบางคนในชุดเครื่องแบบทหาร
“อิซัส”
“ว่าไง ซัสทันไม่ได้พบกันนานเลยนะ”
“อืม...ได้ข่าวว่าหน่วยอารักขาที่ 23 ออกลาดตะเวนกะทันหันเมื่อ 2 วันก่อน ฉันเลยรีบมาแจ้งข่าว”
“2 วัน? แล้วเพิ่งมาบอกนี่นะ” ชายหนุ่มตวัดสายตาใส่ไม่พอใจอย่างมาก
“ก็ในราชวังมีการตรวจตราเข้มงวดมากขึ้น แทบจะกระดิกตัวไม่ได้เลยหลังจากมีทาสหนีออกไปได้คนหนึ่ง” ซัสทันแจ้งในสิ่งที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะได้ยิน สองหนุ่มเหลือบมองตากันอย่างรู้ความหมาย
“ทาสหรือ?”
“ใช่ ได้ยินว่าเป็นทาสต่างชาติที่เพิ่งซื้อมา แต่หนีออกไปได้เพราะความหละหลวมของเวรยาม เลยมีการปรับระบบกันขนานใหญ่ ฉันถูกโยกจากกองสื่อสารไปกองคลังแทน ถึงได้ส่งข่าวให้นายโดยตรงไม่ได้ ตอนนี้ทำอะไรก็ลำบากไปหมด”
“งั้นหรือ....แล้วหน่วยที่ 23 นั้นใครเป็นผู้บัญชาการ”
“เจ้าชายจารีฟ”
“เด็กเมื่อวานซืนนั้นหรือ” เซอร์ไพส์จริงๆ สุลต่านคาเมนยอมให้ลูกชายวัย 17 ออกคุมกองทหารเอง นี่จะเป็นจุดตกต่ำหรือจุดเปลี่ยนของราชวงศ์นี้กันแน่นะ อิซัสไม่รู้แต่ก็ไม่อยากประมาท เขาเองก็จับปืนตั้งแต่อายุ 12 กว่าจะรวบรวมผู้คนสร้างกองกำลังของตัวเองให้เข้มแข็งได้ขนาดนี้ก็ปาเข้าอายุ 27 แล้ว เด็กหนุ่มคนนั้นจะเป็นลูกเสือหรือลูกสุนัขกันแน่นะ
“กะอีกแค่ทาสคนเดียวถึงกับให้กองทหารอารักขาออกติดตามเลยเชียวหรือ” นี่เป็นอีกข้อที่เขาสงสัย
“นั้นสิ ฉันเองก็ยังสงสัย....ได้ยินว่าเพิ่งมาใหม่ได้ไม่กี่วันเองคงยังเสียดายอยู่ล่ะมั่ง”
“อย่าเดาส่งเดช” ชายหนุ่มว่าน้ำเสียงขุ่นจนคนฟังสะดุ้ง
“ไปสืบมาซะ”
“ได้....แล้วจะรีบกลับมา”ซัสทันรีบออกไปก่อนที่ถูกโกรธมากกว่านี้
รติกรมีไข้สูง เขาหลับๆตื่นๆหลายครั้ง เวลาตื่นคือตอนรู้สึกปวดแผลที่เท้าและตอนที่นารียะห์มาป้อนอาหาร นอกนั้นเขาจะหลับตลอดเวลาในความรู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่นนั้นเขารู้สึกถึงการแตะต้องเบาๆที่ผม ที่ติ่งหูบ้าง บางครั้งก็มานอนใกล้ๆเอาแขนพาดเอวเขาไว้ น่ารำคาญ....แต่เขาก็ไม่มีแรงจะว่าอะไรได้ นอกจากพยายามนอนเอาแรงหวังว่าจะหายให้เร็วที่สุด
เขารู้สึกตัวตื่นเมื่อถูกช้อนอุ้มขึ้นมาเหมือนกำลังอุ้มเด็กตัวเล็กๆ มันให้ความรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก ได้ซุกหน้า
กับอกกว้างวงแขนแข็งแรงโอบรัดแน่น ทำให้นึกถึงตอนที่ตัวเล็กพ่อชอบกอดเขาแบบนี้เสมอ ตัวพ่อมีกลิ่นไอแดดร้อนผ่าวเหมือนดวงตะวัน เอ๊ะ? พ่อไม่ได้กลิ่นนี้นี่นา ดวงตากลมโตลืมโพลงทันที
“ตื่นแล้วเหรอ” ใบหน้าที่ไม่อยากเห็นมากที่สุดในโลกปรากฏต่อหน้า ฝันร้ายชะมัด รติกรเหลียวมองรอบๆตัว ถึงพบว่าตัวเองถูกอุ้มออกมานอกกระโจมยามดึก ลมแรงเย็นยะเยือกภายใต้แสงจันทร์สุกสกาวกลางท้องฟ้า
เขาไม่ได้เห็นจันทร์เต็มดวงโตขนาดนี้มาก่อน อิซัสวางเขาลงบนผ้าปูผืนใหญ่ท่ามกลางหมอนจำนวนนับไม่ถ้วน นี่จะมาปิกนิกหรือไรกัน?
“ไม่เป็นไรแล้วนะ” เขาถาม มือก็ถือวิสาสะแตะหน้าผากและเลยมาถึงซอกคอ
“อย่ามาเตะผม”
“ทำหวงตัวเป็นผู้หญิงไปได้”คำประชดประชันนี้ทำให้เด็กหนุ่มหยุดดิ้นรนเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายขยำหน้าอกผ่านเสื้อบางๆไปทีหนึ่ง เขาได้แต่อ้าปากค้างโกรธจนไม่รู้จะด่าว่าอะไรดี
“ลองโกรธได้ขนาดนี้แสดงว่าหายดีแล้วสินะ”
คำพูดของเขาทำให้รู้สึกถึงการเปลี่ยงแปลงในตัว ความร้อนหายไปเกือบหมดแล้ว เหลือแค่ความอ่อนเพลียและเรี่ยวแรงที่ยังไม่เต็มร้อย
“ผมหลับไปนานแค่ไหน”
“นับวันนี้แล้วก็ 7 วันพอดี หิวไหมกำลังได้ที่เลย” อิซัสหันไปสนใจหม้อต้มบนกองไฟข้างๆพรม ห่างไปอีกนิดก็คือแอ่งน้ำที่เดิมที่เขาเคยช่วยเด็ก รติกรมองไปรอบๆ มืดออกอย่างนี้แถมเท้ายังเจ็บอยู่คงทำอะไรได้ลำบาก
ชามซุปร้อนหอมกรุ่นยื่นมาให้ กระตุ้นต่อมหิวเข้าพอดี
“ซุปเนื้อแพะตุ๋น”
“.......ขอบคุณ” ไม่อยากกล่าวคำนี้นัก แต่ก็จำต้องพูด เขาหิวมากขนาดที่มือสั่นน้อยๆตอนตักเข้าปาก อาหารอุ่นๆไหลลงไปอุ่นกระเพาะทำให้สดชื่นมีกำลังกลับคืนมาอย่างรวดเร็ว เด็กหนุ่มก้มหน้าตาไม่ได้สังเกตอีกฝ่ายที่นั่งอมยิ้มมองเขาทานอย่างเอร็ดอร่อยเกลี้ยงชาม
“เติมอีกไหม”
“ไม่ล่ะ ขอบคุณ” อันที่จริงเขาเองก็อยากเติมอีกนิด แต่คิดว่าพอดีกว่า อีกฝ่ายถึงเลื่อนถาดข้างๆตัวมาใกล้ มีโถน้ำ และขวดยาเขาหยิบมาดูเป็นยาแก้อักเสบกับลดไข้ที่มีขายอยู่ทั่วไปจึงทานอย่างล่ะเม็ด
“รู้สึกดีขึ้นหรือยัง”
“อืม...”
“เอาล่ะในเมื่อรู้สึกดีขึ้นแล้ว ก็น่าจะได้เวลาทำความรู้จักกันเสียทีนะ ฉัน คาริบ อาฮาบี อิซัส”
“คุณทำร้ายผม”
“ฉันไม่ปฏิเสธ”
“คุณไม่มีสิทธิ์มาตีตราผม ผมไม่ใช่วัว ไม่ใช่อูฐ ที่คุณบังเอิญผ่านมาเห็นเข้าแล้วจับมาตีตราจองนะ ผมเป็นพลเมืองอเมริกัน” รติกรต่อว่าต่อขานไม่ทันไรก็ต้องหยุดเมื่ออีกฝ่ายยกนิ้วแตะที่ปากเป็นสัญญาณเตือนให้เขาหยุดพูดได้แล้ว
“ทาสที่หนีเจ้านายมาก็ไม่ต่างจากวัวหลงฝูงหรอก ใครเห็นก่อนคนนั้นก็มีสิทธิ์ เธอน่าจะดีใจนะที่เธอไม่ใช่
วัวหรืออูฐ เพราะไม่งั้นแล้วเธออาจจะถูกฆ่าเสียตรงที่เจอเลย”
“โฮ๊ะ...พูดอะไรของคุณกันเนี่ย แล้วขอโทษเถอะ อย่าเรียกผมว่าเธอได้ไหม”
“ฉันจะเรียกเธอ....ว่าเธอ เพราะเธอ.....เป็นของฉัน”
รติกรหน้าแดงวูบ ผู้ชายเมืองนี้ประเทศนี้ยังไงกันนะ เลแวนซ์ก็คนหนึ่งแล้ว ผู้ชายคนนี้ก็ทำแบบเดียวกันอีก ทำไมถึงชอบตู่เอาง่ายๆอย่างนี้
“ผม.....ผมไม่ใช่ผู้หญิง”
“งั้นก็เป็นเสียสิ.....มาเป็นผู้หญิงของฉันซะ”  เด็กหนุ่มอ้าปากพะเงิบพะงาบอย่างไม่รู้จะค้นหาคำด่าว่าอย่างไรดี เขากล้าดียังไงถึงพูดออกมาได้แบบไม่มียางอายเลย อิซัสมองด้วยสายตาที่เห็นแล้วหนาวไปถึงกระดูก
“และฉันไม่ยอมรับคำปฏิเสธหรอกนะ”
บ้ากันไปหมดแล้ว เขาเบือนหน้าหนีสายตาดุดันนั้นเสียพยายามคิดหัวแทบระเบิดว่าจะพูดกับคนเอาแต่ใจนี้อย่างไรดี
“คุณ...คาริบ”
“อิซัส” เขาแก้ให้ใหม่
“อิซัส.....เราจะ.....พูดกันด้วยเหตุผลดีๆได้หรือเปล่า”
“ว่ามาสิ” ร่างสูงเอนหลังพิงสบายๆทำให้คลายความตึงเครียดไปมาก
“ผม...ไม่ใช่ชาวซีเรีย ไม่ใช่คนทะเลทราย ผมเป็นชาวเมืองชินชากับชีวิตที่สะดวกสบาย ชอบโทรศัพท์สั่งอาหารมาส่งถึงบ้าน ทำงานตั้งแต่จันทร์ถึงเสาร์มีเวลาดื่มเหล้าเฮฮากับเพื่อนบ้าง ผมใช้ชีวิตแบบนี้มานานแล้ว ที่นี่!
ผมอยู่ไม่ได้หรอกนะ แค่เดินออกไปจากที่นี่วันเดียวผมก็อาจจะตายได้”
“ผมไม่ชอบที่นี่แล้วอยู่ไม่ได้ด้วย......ได้โปรดปล่อยผมไปเถอะ อยู่ที่นี่ผมไม่มีประโยชน์อะไรกับคุณเลย นอกจากเป็นภาระเสียเปล่าๆ  นะ.....ได้โปรด” รติกรไม่อายที่ขอร้อง เขามีทางเลือกอื่นหรือ แต่ก็เหมือนพูดจากับกำแพงที่ไร้ชีวิตจิตใจ เพราะสีหน้าอีกฝ่ายไม่เปลี่ยนแปลงหรือมีแววเห็นใจเลย ตรงข้ามแววตากลับเต้นระริกอย่างขบขัน
“เธอนี่ตลกดีนะ” เขายิ้มกว้างทำให้ใบหน้าเปลี่ยนไปจนคนมองยังแปลกใจ บรรยากาศอึดอัดหรือหม่นหมองถึงกับหายวับไปกับตาเลย อิซัสพ่นลมออกมาอย่างขบขัน “อยู่ที่นี่ไม่มีประโยชน์อะไรหรือ เนย.....เธอไม่รู้หรอกหรือว่าตัวเองมีค่ามากแค่ไหน...ในดินแดนแห่งนี้”
เขาพูดถึงอะไรกัน? รติกรทำหน้างง ชายหนุ่มร้องเฮ้อ..ออกมาคำหนึ่ง
“ฉันขี้เกียจพูดด้วยแล้ว”
“จะทำอะไร!” ร่างเล็กผวาตกใจ เมื่อร่างสูงลุกเข้ามากดเขาลงกับพื้นพรมนุ่ม
“รู้อะไรไว้อย่างหนึ่งนะ....ถ้าอยู่ในวังที่หรูหรานั้น เธอจะเป็นหนึ่งในบรรดาภรรยามากมายของผู้ชายที่นั้น
แต่ถ้าอยู่ที่นี่....เธอจะเป็นหนึ่งเดียวของฉัน”
“ว่าไงนะ?” เด็กหนุ่มอ้าปากค้าง เห็นสายตาที่มุ่งมั่นนั้นและลมหายใจที่ร้อนผ่าวรินรดใบหน้าก็ใจเสียขึ้นมาวูบ นี่เขาจะหนีจากเรื่องพรรค์นี้ไม่พ้นเลยหรือไงกัน ริมฝีปากอุ่นแนบลงมาแรง พร้อมกันร่างหนักอึ้งตรึงเขาไว้แน่นจนดิ้นรนไม่ออกเลย ขณะที่ปากอันร้ายกาจนั้นชอนไชไปทั่ว ทั้งในปาก ทั้งในความรู้สึก
“อือ” เสียงประท้วงในลำคออู้อี้ อารมณ์ซาบซ่านแล่นจากสันหลังไปทั่วตัวอย่างช่วยไม่ได้เมื่อมือเย็นเฉียบสอดเข้ามาใต้เสื้อลูบไล้ผิวกายเขาไปทั่วและหยุดนิ่งที่ยอดอก นิ้วแข็งแรงบีบบี้มันไปมาร่างเล็กถึงกับสั่นสยิว
“อย่า....อิซัส” ปากบอกว่าอย่า แต่ร่างกายกลับแอ่นโค้งตามมือข้างนั้นราวกับสัตว์เชื่องๆ ชายหนุ่มกัดฟันกรอดด้วยความกระหายที่ลุกโชน เมื่อได้รับคำเชิญชวนจากร่างกายนี้ชัดเจน เขาฉีกเสื้อออก แคว่ก!
“ไม่ อย่านะ!” รติกรร้องลั่นด้วยความตกใจ แต่ก็ถูกหยุดคำประท้วงทั้งปวงด้วยปากที่ร้อนรนนั้น อิซัสกระชากเสื้อออกจากร่างผอมบางลงกองที่ข้อศอกแล้วมัดรวบไข้วหลังเสียเลย เท่านี้เขาก็ขัดขืนไม่ได้แล้ว
“อะ...อ๊ะ” ร่างเล็กสะดุ้งเฮือกๆพลางบิดร่าใต้ร่างอันใหญ่โต ปากร้อนผ่าวนั้นขบกัดเขาไปเสียทั่วทำให้เจ็บแปล้บๆปนเสียว ยิ่งโดนดูดดุนที่ยอดอกทั้งสองข้าง เขาก็ถึงกับสั่นสะท้านไปทั้งร่าง เสียวซ่านตรงกึ่งกลางลำตัวอย่างช่วยไม่ได้ เขาไม่ใช่อิฐ ไม่ใช่ปูนนี่นา
“ยะ...อย่าทำผม...อิซัส  อึ่ก..อือ”
อิซัสเงยหน้ามองใบหน้าหวานแสดงอารมณ์ที่ตรงข้ามกับคำพูด เขากดสะโพกบดเบียดเสียดสีตรงกลางหว่างขาหนักหน่วงจงใจยั่วเย้า ไม่นานก็รู้ถึงความแข็งขืนตอบโต้ชัดเจน เขาจึงสอดมือเข้าไปในกางเกงบางเบา ลูบคลำมันทำให้ชูชันยิ่งขึ้น
“อ้า...อา.....”รติกรหลับตาพริ้มอย่างช่วยไม่ได้ มือข้างนั้นมอบความหวานซ่าบซ่านจนเกือบจะทนไม่ไหวแล้ว ร่างเล็กแอ่นโค้งตอบสนองมือนั้น ปากน้อยๆเผยอค้างเรียกร้องจนได้จูบบดเคล้าลงมาหนักหน่วง เป็นจูบที่เรียกร้องดูดดื่มถึงวิญญาณเลย เขาอยากกอดร่างแกร่ง อยากให้แตะต้องแรงกว่านี้  
“อยากให้สัมผัสแบบไหน” อิซัสยันตัวเหนือร่างทำให้ความร้อนผ่าวนั้นกระจายหายไปอย่างน่าเสียดาย สองมือร่นกางเกงเขาลงแค่ต้นขา เผยออัวยวะชูชันสีชมพูเข้มกำลังเรียกร้องบางสิ่งอยู่  ต่างฝ่ายต่างเหลือบมองสบตากัน “อยากให้ฉันแตะต้องแบบไหน หื้อ?”
ใบหน้าอ่อนวัยแดงซ่านด้วยความอาย นี่เขาต้องพูดตรงๆด้วยหรือ
“ปาก.....หรือมือ เนย” อิซัสกระซิบข้างหูชวนสยิวขนลุกไปหมด
“ปาก.....หรือมือ” ลิ้นอุ่นแทรกเข้าในใบหู อารมณ์ข้างในตัวพุ่งทะยานทันที เด็กหนุ่มสั่นระริก ปากเขาขยับว่าเสียงเบาแทบไม่ลอดออกมาเป็นเสียงเลย แต่อีกฝ่ายก็ได้ยินชัด ใบหน้าคมสันที่คลี่ยิ้มนั้นชวนมองเหลือเกิน
เมื่อกี้เขาพูดอะไรไปนะ?
รติกรเห็นเขาก้มหน้าต่ำลงไป....จนถึงที่นั้น และแล้ว
ร่างเล็กก็ได้รับรู้ถึงความดื่มด่ำ เขาแอ่นตัวโค้งขึ้นแหงนหงายใบหน้าด้วยความรู้สึกเต็มตื้น ดวงตาเบิกกว้างมองเห็นดวงจันทร์กลมโตบนท้องฟ้า มันช่างสวยงามราวกับได้อยู่บนสวรรค์ ใช่.....เขาอยู่บนสวรรค์แล้ว บางอย่างแข็งขืนสอดใส่เข้ามาในตัวเขาช้าๆ นั้น....นิ้วที่แข็งแรงกำลังขยายตัวเขาให้เปิดกว้าง อา.....มันช่างสุดยอดจริงๆ

ตูม!  สวรรค์ที่สวยงามของพวกเขาล่มทันทีทันควัน วิ๊ด เสียงเป่าปากดึงความสนใจทั้งคู่ไปที่กระโจม จาร์ฟาตะโกนเรียกสุดเสียง
“หน่วยลาดตะเวนของทางการบุกมาแล้ว!”
เลแวนซ์! รติกรใจเต้นโครมๆ




หัวหน้าห้อง

โพสต์
1512
พลังน้ำใจ
1612
Zenny
6474
ออนไลน์
812 ชั่วโมง

ประธานนักศึกษา

โพสต์
3627
พลังน้ำใจ
6748
Zenny
6736
ออนไลน์
917 ชั่วโมง
ขอบใจมากครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
3394
พลังน้ำใจ
15749
Zenny
4625
ออนไลน์
4167 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2605
พลังน้ำใจ
23935
Zenny
38929
ออนไลน์
2280 ชั่วโมง
ขอบคุณมากๆครับ

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1430
พลังน้ำใจ
1430
Zenny
6827
ออนไลน์
291 ชั่วโมง
ขอบคุนครับ

ลูกน้องหัวหน้าห้อง

โพสต์
943
พลังน้ำใจ
827
Zenny
1766
ออนไลน์
176 ชั่วโมง

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1423
พลังน้ำใจ
1338
Zenny
8250
ออนไลน์
245 ชั่วโมง

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2711
พลังน้ำใจ
12929
Zenny
1942
ออนไลน์
5508 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1523
พลังน้ำใจ
1528
Zenny
10524
ออนไลน์
327 ชั่วโมง

น้องใหม่เฟรชชี่

โพสต์
8
พลังน้ำใจ
28
Zenny
70
ออนไลน์
0 ชั่วโมง
สนุกมากกกก ชอบมากกกกกกกกก

น้องใหม่เฟรชชี่

โพสต์
8
พลังน้ำใจ
28
Zenny
91
ออนไลน์
1 ชั่วโมง

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1484
พลังน้ำใจ
1541
Zenny
6736
ออนไลน์
824 ชั่วโมง

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1736
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
ขอบคุนคราฟ

น้องใหม่เฟรชชี่

โพสต์
22
พลังน้ำใจ
33
Zenny
115
ออนไลน์
2 ชั่วโมง
ขอบคุณมากครา

น้องใหม่เฟรชชี่

โพสต์
22
พลังน้ำใจ
33
Zenny
115
ออนไลน์
2 ชั่วโมง
ขอบคุณมากครา

น้องใหม่เฟรชชี่

โพสต์
22
พลังน้ำใจ
33
Zenny
115
ออนไลน์
2 ชั่วโมง
ขอบคุณมากคราป

ประธานนักศึกษา

โพสต์
362
พลังน้ำใจ
4070
Zenny
3893
ออนไลน์
583 ชั่วโมง
ขอบคุนมากเลยนะคับ

ลูกน้องหัวหน้าห้อง

โพสต์
511
พลังน้ำใจ
652
Zenny
101
ออนไลน์
133 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

ประธานนักศึกษา

โพสต์
416
พลังน้ำใจ
3326
Zenny
373
ออนไลน์
427 ชั่วโมง
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-4-29 04:51 , Processed in 0.139084 second(s), 25 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้