จีโฟกาย.คอม

 ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
 
ดู: 931|ตอบกลับ: 27
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป
ซ่อนแถบด้านข้าง

ของขวัญ 7 ปี <หนุ่ม IT กับ DJ สุดหล่อ>(59)

  [คัดลอกลิงก์]

โสด

   ศาสตราจารย์เอื้ออาทร
อาจารย์พิเศษ
ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับ และขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว

พี่หมอทีเข้าไปอาบน้ำ แล้วเดินออกมาโดยมีชุดคลุมอาบน้ำสีขาวออกมาทำให้ผมที่กำลังจะหลับอารมณ์กระเจิงไปถึงไหนต่อไหน
(นี่ขนาดมีเสื้อคลุมนะ ถ้านุ่งแต่ผ้าเช็ดตัวออกมาจะขนาดไหนก็แค่ชุดคลุมที่ทำให้เห็นหน้าอกที่ขาวเนียน แอบเห็นหัวนมสีชมพูสดนิดๆที่ตัดกับ
สีผิวของแผงอกที่ขาวจั๊ว(น่าเจี๊ยะ)กล้ามอกก็มีพอน่ารักไม่เป็นมัดๆจนน่ากลัว --- อิอิ ไม่บรรยายแล้วอารมณ์กระเจิงเดี๋ยวเขียนต่อไม่ได้)
พอหมอทีแต่งตัวในชุดนอนเสร็จก็เดินมาดูผม“ยังไม่หลับเหรอ”พี่หมอทีถาม พร้อมขยับผ้าห่มมาให้ถึงคอ
ผมพยักหน้ารับ “อืม...พี่ทีครับ ทำไมพี่ทีถึงทำดีกับเอจังครับ”ผมถามออกมา ขณะที่พี่หมอทีนอนลงข้างๆแล้วปิดไฟที่หัวเตียง
“ก็...เอาไงดีล่ะ...ก็เอเป็นน้องชายที่ดีไงครับ พี่เลยต้องทำดีด้วย”พี่หมอทีบอก
“งั้นคืนนี้เอขอนอนกอด แล้วซบอกพี่ชายที่แสนดีของเอได้ไหมครับ”ผมถาม
พี่หมอทีไม่ตอบแต่จับศรีษะผมยกขึ้นอย่างเบาๆช้าๆ ค่อยๆสอดแขนข้างขวาเข้ามาให้ผมหนุนแทนหมอน ผมเองก็นอนหันหน้าไปทางพี่เขาแล้วก็เอาหน้าซบลงตรงอกของพี่หมอที กลิ่นสบู่หอมอ่อนๆออกมาจากแผงอกที่แข็งแก่ง ซึ่งบัดนี้ได้กลายเป็นหมอนให้ผมไปแล้ว ผมเอื้อมมืออีกข้างไปกอดไปพี่หมอทีอย่างเบาๆ ลมหายใจของพี่หมอทีกระทบถึงหัวผม ผมได้ยินเสียงเต้นของหัวใจพี่หมอที มันยังคงเต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ซึ่งต่างจากหัวใจผมที่เต้นไม่เป็นจังหวะเอาซะเลย
บทที่ยี่สิบสาม --- ยาใจ
ผมต้องพยายามควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติไม่อยากนั้นพี่หมอทีคงจับได้แน่ นอกจากนั้นผมยังต้องควบคุมอารมณ์และอะไรหลายๆอย่างให้ตัวผมให้มันเรียบร้อย ไม่งั้นขายหน้าพี่หมอทีแน่ แต่ไม่ทันที่ผมจะคิดอะไรไปมากกว่านี้ ผมก็....ยังต้องควบคุมอารมณ์และอะไรหลายๆอย่างให้ตัวผมให้มันเรียบร้อย ไม่งั้นขายหน้าพี่หมอทีแน่ แต่ไม่ทันที่ผมจะคิดอะไรไปมากกว่านี้
ผมก็นึกถึงคำพูดของพี่คิมที่พูดในห้องน้ำกับผมว่า “แต่พี่ว่าหมอทีไม่ได้คิดแค่นั้นแน่ สำหรับเอ พี่ไม่รู้ว่าคิดยังไง แล้วเอเคยบอกหมอทีหรือยังว่าคิดกับเขาแค่พี่น้อง” แล้วอยู่ดีๆในหัวผมก็มีภาพสายตาดวงหนึ่งขึ้นมา เป็นสายที่มองผมด้วยความไม่พอใจและเสียใจระคนอยู่ในตัว สายตาที่ปรากฏขึ้นมาในหัวของผมเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก สายตาของพี่นิค
“ไม่เอาดีกว่า เดี๋ยวพี่ทีปวดแขน”ผมบอกแล้วค่อยๆขยับตัวออกมานอนเป็นปกติ
“ไม่ปวดหรอกครับ เอมานอนอย่างนี้พี่ยิ่งสบาย”พี่หมอทีบอก
“อืม......ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวพี่ทีติดหวัด”ผมอ้างโรคหวัดทั้งๆที่ไม่ได้เป็น ตอนนี้ให้หัวของผมเริ่มสับสนและคิดอะไรหลายๆอย่างทั้งคำพูดของพี่คิม ทั้งภาพสายตาของพี่นิคที่อยู่ดีๆก็ปรากฏขึ้นหลายวันมานี้ผมแทบไม่คิดถึงพี่นิคเลย มันมาได้ยังไง หรือว่ามันเป็นความเรียกร้องของหัวใจของพี่นิค(และของผม)ที่มันมาตามกัน
“พรุ่งนี้ก่อนไปส่งเอที่อาเขต พี่จะพาขึ้นดอยสุเทพไปไหว้พระธาตุนะครับ ตื่นเช้าหน่อย แต่ถ้าเอตื่นไม่ไหวก็ไม่เป็นไรครับ”พี่หมอทีบอก
“นึกว่าจะไม่พาไปซะแล้ว”ผมบอก
“ตอนแรกว่าจะพาไปวันนี้ แต่มาคิดดูอีกที พี่ว่าไปไหว้พระธาตุขึ้นดอยตอนเช้าๆจะได้บรรยากาศมากกว่าครับ”พี่หมอทีบอก
“ขอบคุณครับพี่ที ขอบคุณที่พี่ทำดีกับผมทุกๆเรื่อง ฝันดีนะครับ”พี่บอกพร้อมเอามือของผมค่อยๆเอื้อมไปจับมือของพี่หมอทีที่วางอยู่ข้างๆตัว แต่การจับครั้งนี้ผมจับด้วยความไม่มั่นใจในความรู้สึกตัวเองเหมือนเมื่อตอนกลางวัน
“ก็เอเป็นน้องชายของพี่นี่ครับ พี่ชายก็ต้องดูแลน้องให้ดีเป็นธรรมดา ฝันดีเหมือนกันนะครับ”พี่หมอทีตอบกลับมา มือที่ผมจับมือพี่เขาอยู่ ผมค่อยๆปล่อยมันออกอย่างช้าๆ เหมือนปล่อยใจไปตามความคิด
ใช่ซินะพี่ที่ดีต้องดูแลน้องให้ดี เราเองก็มีน้องต้องให้ดูแล แล้วเรามามั่วทำอะไรอยู่ล่ะนี่ มั่วแต่มาเที่ยวเล่นสนุกปล่อยตัวปล่อยใจอยู่ได้ เนี่ยะเหรอคนที่จะเป็นหลักให้ครอบครัว เนี่ยะเหรอคนที่คุณพ่อคุณแม่ฝากความหวัง เนี่ยะเหรอคนที่จะเป็นพี่ชายที่ดีของน้อง เอ...เอ๊ย....แค่หน้าที่กับหัวใจของตัวเองยังแยกกันไม่ออกเลย แล้วชาตินี้จะทำอะไรได้ไหมนี่ ผมนอนคิดว่าตัวเองในใจจนหลับไป
ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาเพื่อควานหาผ้าห่มที่ตกลงไปกองอยู่ที่พื้น(ที่จริงผมไม่ใช่คนนอนดิ้นอะไรนะ แล้วมันตกลงไปได้ยังไงหว่า) เพราะอากาศค่อนข้างหนาวผิดปกติแล้วก็เหลือบไปมองนาฬิกาบอกเวลาตีห้าครึ่ง (เช้ามืดนี่เองถึงว่าทำไหมหนาวขึ้น) ผมมองไปข้างตัวก็ไม่เห็นพี่หมอทีนอนอยู่แล้ว ไม่สนล่ะ ผมเอี่ยวตัวไปหยิบผ้าห่มแล้วนอนต่อ
“เอครับๆ เอ เป็นยังไงบ้างครับ ตื่นไหวหรือเปล่า”พี่หมอทีมาปลุกผมอีกทีตอนหกโมงครึ่ง
“อืมๆ”ผมตอบแบบงัวเงียค่อยๆลืมตาขึ้นมาเห็นพี่หมอทีที่แต่งตัวในชุดใหม่ที่ไม่ใช่ชุดนอนแล้ว
“พี่เตรียมของไว้ให้เอใส่บาตรแล้ว ให้เวลาสิบห้านาทีในการทำภารกิจส่วนตัว พี่ลงไปคอยที่หน้าบ้านตรงเฮือนคำนะครับ”พี่หมอทีบอก
“รับทราบครับ”ผมตอบพร้อมทำท่าตะเบ๊ะทั้งๆที่ยังนอนอยู่
ผมทำภารกิจส่วนตัวเสร็จก็รีบเดินมาหาพี่หมอที ที่หน้าบ้านของเฮือนคำมีโต๊ะไม้สำหรับวางของสำหรับใส่บาตร ของทุกอย่างถูกจัดอย่างประณีต ข้าวสีข้าวอยู่ในขันเงินใบงามมีไอที่แสดงถึงความร้อนระเหยขึ้นมา ดอกบัวถูกพับบรรจงเรียงกลีบอย่างงามเป็นระเบียบ ถุงกับข้าวสองสามชนิดที่ถูกมัดรวมกันเป็นชุดๆ ของทั้งหมดนี้วางอยู่ในขันโตกบนโต๊ะอีกที
“อากาศดีจังเลยครับ อยู่ที่บ้านพี่หมอทีตื่นเช้ามาใส่บาตรทุกวันเลยเหรอครับ”ผมถามพร้อมยกมือขึ้นสูดอากาศเข้าเต็มปอด
“ครับ บางครั้งก็ใส่กับคุณแม่บาง คุณพ่อบ้าง กับพี่ว่านบ้าง คนเดียวบ้าง หรือบางทีก็มาใส่พร้อมกันหมด แล้วแต่วันกับความสะดวกของแต่ละคนน่ะครับ”พี่หมอทีบอก (พี่ว่านคือพี่ชายของพี่หมอที)
“ดีจังครับ คงอบอุ่นน่าดู พ่อแม่ลูกตักบาตรด้วยกัน”ผมพูดพร้อมคิดถึงที่บ้าน ที่ปกติเราก้จะใส่บาตรด้วยกันแทบทุกเช้า โดยมีคุณแม่กับผมเป็นตัวยืนพื้นเป็นประจำ ส่วนคุณพ่อกับเจ้าโอ๊ตนี่แล้วแต่โอกาส โดยเฉพาะเจ้าโอ๊ตที่ชอบตื่นสายต้องไปปลุกเป็นประจำ
“พระมาแล้วครับ”พี่หมอทีบอกผม
บรรยากาศยามเช้าที่เมืองเชียงใหม่ ช่างดูมีกลิ่นไอแห่งอารยธรรมล้านนา มีความสงบสุขุมลุ่มลึกแต่ไม่ล้าหลัง เป็นความคลาสสิกที่ลงตัว ภาพของผู้ชายสองคนที่กำลังบรรจงตักบาตรร่วมกันด้วยความตั้งใจใบหน้าและแววตาทั้งสองบ่งบอกถึงความสุขเป็นอย่างมาก ด้านหลังของชายสองคนนั้นเป็นบ้านเรือนไทยล้านนาหลังใหญ่สวยงาม ถ้าใครมองมาเห็น แล้วถ้าชายคนใดคนหนึ่งในนั้นเป็นผู้หญิง คงไม่พ้นที่จะถูกมองว่าเป็นสามีภรรยากันแน่นนอน
หลังจากตักบาตรเสร็จ ผมกับพี่หมอทีก็เดินขึ้นไปที่เฮือนคำ เพื่อร่วมรับประทานอาหารเช้ากับคุณพ่อคุณแม่ของพี่หมอที คุณพ่อคุณแม่ของพี่หมอทีเป็นคนที่น่ารักและอบอุ่นมากๆ เป็นคนที่มีอัธยาศัยดี แค่เห็นหน้าหรืออยู่ใกล้ๆก็มีความสุขแล้ว ยิ่งถ้าได้พูดคุยด้วยแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยรับรองว่าหลงเสน่ห์ความรักความเมตตาและความอบอุ่นของท่านทั้งสองคนที่มีมาให่แน่ๆ ผมไม่แปลกใจเลยที่ทำไมพี่หมอทีถึงเป็นคนดีอย่างนี้ ก็ดูจากครอบครัวคุณพ่อคุณแม่ก็น่าจะรู้ได้แล้ว หลักจากแนะนำตัวทักทายพูดคุยกันได้ซักหน่อยแล้ว (ส่วยใหญ่คุณแม่กับพี่หมอทีจะอู้คำเมืองกัน คุณพ่อคงกลัวผมเก้อเลยพูดภาษากลางเป็นเพื่อนมั้ง) ป้าเอื้องก็ยกโจ๊กร้อนๆออกมา พร้อมเครื่องเคียง (ป้าเอื้อง ป้าอ้อย สองพี่น้องที่เลยวัยกลางคนเป็นแม่บ้านของพี่หมอที พี่หมอทีบอกว่าป้าทั้งสองคนอยู่มาตั้งแต่สมัยคุณยายแล้ว)
“มาครับป้า เดี๋ยวผมตักเอง”พี่หมอทีลุกขึ้นพร้อมรับเอาชามกระเบื้องลายครามสังคโลกมาตักทีละชาม โดยมีป้าเอื้องคอยช่วยอยู่ข้างๆ
“ของคุณพ่อต้องใส่ไข่ลวก กระเทียมเจียวกับพริกไทยเยอะๆ ต้นหอมผักชีกับขิงนิดหน่อย”พี่หมอทีพูดพร้อมตักโจ๊กและเครื่องเคียงใส่เสร็จแล้วก็ส่งให้คุณพ่อที่นั่งอมยิ้มอยู่
“ของคุณแม่ไม่ใส่ไข่ กระเทียมเจียวแบบไม่เอาน้ำมัน ต้นหอมผักชีพอประมาณ ขิงกับพริกไทยน้อยหน่อย”พี่หมอทีตักเสร็จแล้วส่งให้คุณแม่
“ฮู้ใจ๋แม่เป็นที่สุด ตาทีนี่”คุณแม่พูดเป็นคำเมือง พร้อมหอมที่แก้มพี่หมอทีหนึ่งที พี่หมอทีหลับตายิ้มดูมีความสุขมาก
“คุณหนูเล็กเปิ้นตื่นแต่ไก่โห่ ไปกาดเช้าซื้อของ มายะครัวเองเลยเจ้า”ป้าเอื้องรายงานเป็นภาษาคำเมืองที่คุ้นเคย (คุณหนูเล็ก เธอตื่นแต่เช้ามืด ไปตลาดตอนเช้าเพื่อซื้อของมาทำครัวเองเลยค่ะ) (ป้าเอื้องเรียกพี่หมอทีว่าคุณหนูเล็ก เรียกพี่ว่านพี่ชายของพี่หมอทีว่าคุณหนูใหญ่)
“ของเอ นี่เลยไข่สุกๆ กระเทียมเจียวต้นหอมผักชีน้อยๆ ขิงเยอะๆ พริกไทยนิดหนึ่ง”พี่หมอทีจำรายละเอียดการกินของผมได้ด้วย แล้วพี่หมอทีก็ส่งโจ๊กมาให้ ผมไม่ลืมกล่าวขอบคุณก่อนจะรับโจ๊กมาทาน แล้วพี่หมอทีก็ตักของตัวเองมานั่งทาน
“อร่อยจังครับ อย่างนี้สงสัยต้องมีชามที่สอง”ผมพูดขึ้นหลังจากทานคำแรก พี่หมอทีอมยิ้ม
“คุณหนูเล็ก เปิ้นยะอะหยั๋งก็รำขนาด เอาใจ๋ก็เก่ง ใครได้เป๋นคู่คงดีแต๊ๆเจ้า”ป้าเอื้องเสริมผม (คุณหนูเล็ก เธอทำอะไรก็อร่อยมากๆ เอาใจก็เก่ง ใครได้เป็นแฟนคงดีแท้ๆค่ะ) พี่หมอทียิ้มแก้มแดง
“มีแฟนก็ดีนะซิ นี่ยังบ่เคยเห็นพามาแนะนำเลย ทั้งตาว่านตาที ต้องถามลูกเอ ลูกเคยเห็นตาทีของแม่ควงแม่ญิ๋งบ้างก่อ”คุณแม่ถาม
“สงสัยพี่ทีกำลังเลือกอยู่มั้งครับว่าจะเอาใครมาแนะนำดี”ผมแซวพีหมอที พี่หมอทีทำตาโตเหมือนตกใจใส่ผม
“ลูกเออู้จะอี้ แสดงว่าตาทีมีหลายเน้อ”คุณแม่พูดแล้วหัวเราะ คุณพ่อก็หัวเราะตาม พี่หมอทีอายจนหน้าแดง
“บ่ไจ๋กั๊บ ทียังบ่มี ทีสนใจ๋เฮื่องเฮียน ยังบ่อยากวุ่นเฮื่องฮักกั๊บ”พี่หมอทีปฏิเสธพัลวัน ทำเอาผมหัวเราะแทบสำลักโจ๊ก
“สนบ้างก็ได้นะลูก”คุณพ่อแอบแซวต่อ พี่หมอทีอายม้วนเลย
“เออ่ะ ชอบแกล้งพี่”พี่หมอทีหายเรื่องโบ้ยแก้เขินมาทางผม
“อ้าวโทษกันอีก ก็พูดเรื่องจริง”ผมบอกแล้วหัวเราะ
เราทั้งสี่คนทานโจ๊กไปคุยกันไปอย่างสนุกสนาน รู้สึกว่าพี่หมอทีจะโดนรุมจากรอบด้าน จากนั้นผมก็ลาคุณพ่อคุณแม่ เพราะพี่หมอทีจะพาผมไปไหว้พระธาตุบนดอยสุเทพก่อนที่จะไปส่งผมที่อาเขตท่านทั้งสองบอกว่าเที่ยวจากเชียงรายเสร็จ ถ้ามาเชียงใหม่ให้พาคุณแม่กับน้องผมมาพักที่นี่ก็ได้
ผมนั่งคุกเข่าพนมมือ เงยขึ้นมองดูพระธาตุสีเหลืองทองอร่ามที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ตรงหน้าบนดอยแห่งนี้ พระธาตุดอยสุเทพ พระธาตุที่เป็นศูนย์รวมขวัญกำลังใจ แรงเคารพรักแรงศรัทธาของชาวเชียงใหม่ แสงอรุณอ่อนๆยามเช้าส่องมากระทบกับองค์พระธาตุทำให้สีเหลืองทองยิ่งงามอร่ามมากกว่าเก่า หมอกยามเช้าที่ค่อยๆสลายตัวในตอนสายๆอย่างนี้ สายลมที่เหมือนมีไอน้ำรวมอยู่ด้วยพัดผ่านร่างกายทำให้รู้สึกปลอดโปร่งโล่งเย็นสบาย สายตาของผมจดจ่ออยู่แต่ที่องค์พระธาตุจนแทบไม่กระพริบ ร่างกายและรอบข้างเหมือนไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆให้รู้สึก แม้แต่ลมหายใจของตัวเองก็แทบจะไม่รู้สึก อารมณ์และความคิดต่างๆหยุดลง จิตใจของผมตอนนี้ดื่มด่ำกับความสุขสงบเป็นอย่างมาก
“เอขอพรอะไรจากพระธาตุครับ พี่เห็นนั่งอธิฐานอยู่นานเลย”พี่หมอทีถามผม ตอนที่นั่งอยู่บนรถหลังจากที่เราสองคนไหว้พระธาตุและร่วมทำบุญแล้วเดินชมทิวทัศน์บริเวณรอบๆ
“ก็อธิษฐานให้คุณแม่ เอ โอ๊ต แล้วก็คนที่เอรักทุกๆคนมีความสุข สมหวังในทุกๆสิ่งทุกๆอย่าง
มีสุขภาพที่แข็งแรง ขอให้บุญที่เอได้มาไหว้พระธาตุในครั้งนี้ส่งถึงดวงวิญญาณคุณพ่อด้วย แล้วพี่ทีล่ะครับ อธิษฐานขออะไร”ผมถามคืน
“ก็ขอให้คุณพ่อคุณแม่ พี่ว่าน เอ ทุกคนมีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่ต้องเจ็บไข้ได้ป่วย เหมือนที่พระท่านบอกว่า ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ”
พี่หมอทีบอก
“อ้าวถ้าทุกคนแข็งแรงไม่ป่วย พี่ทีก็ตกงานดิ่ แล้วขอให้แต่คนอื่นไม่ขอให้ตัวเองบ้างเหรอครับ”ผมถาม พี่หมอทีถึงกับหยุดรถเข้าข้างทาง
“ของตัวเองก็ขอครับ พี่ขอให้พี่เจอยาที่ใช้รักษาโรคใจครับ เพราะโรคทางกายหมอทั่วๆไปคงหายาให้ได้ แต่ยาที่ใช้รักษาโรคใจนี่คงหายาก "

เอครับ........เอมาเป็นยารักษาโรคใจให้พี่ได้ไหมครับ”พี่หมอทีพูดพร้อมหันหน้ามาหน้าผม
ผมรู้และเข้าใจความหมายของคำว่ายาทางใจของพี่หมอทีดีว่ามันคืออะไรมันก็ไม่ต่างอะไรกับการที่จะขอผมเป็นแฟนนั่นเอง  
ผมอึ้งเป็นอย่างมาก ความรู้สึกไม่ต่างอะไรจากตอนที่พี่นิคขอเป็นแฟนทั้งๆที่พอจะรู้อยู่ว่าพี่หมอทีแอบชอบผมแต่ก็ไม่คิดว่าพี่หมอทีจะกล้าพูดออกมาตรงๆและเร็วขนาดนี้  อีกอย่างผมยังไม่ทันได้เตรียมตั้งรับกับเหตุการณ์นี้เลย  จะว่าไม่เตรียมก็ไม่เชิงเพราะที่จริงเมื่อคืนผมนอนคิดอย่างหนักกับคำพูดของพี่คิม ทำให้ผมตัดสินใจว่าจะพูดเรื่องสถานการคบกันของผมกับพี่หมอทีว่าเป็นแบบพี่น้องหลังจากกลับไปที่มอพ้นช่วงปีใหม่ไปแล้ว แต่คิดว่าตอนนี้มันคงช้าไปซะแล้วเพราะพี่หมอทีดันมาขอคบกับผมก่อน



ประธานนักศึกษา

แฮปปี้กับความโสด

โพสต์
2329
พลังน้ำใจ
6471
Zenny
6446
ออนไลน์
1167 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิม

ลูกน้องหัวหน้าห้อง

โพสต์
1465
พลังน้ำใจ
865
Zenny
1400
ออนไลน์
484 ชั่วโมง
ขอบคุนนะคับ ^________^

แสดงความคิดเห็น

ไม่เป็นไรหรอกครับ  โพสต์ 2012-2-12 19:06

หัวหน้าห้อง

โพสต์
2698
พลังน้ำใจ
2794
Zenny
7597
ออนไลน์
446 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

แสดงความคิดเห็น

ครับ  โพสต์ 2012-2-12 19:06

น้องใหม่เฟรชชี่

โพสต์
12
พลังน้ำใจ
36
Zenny
257
ออนไลน์
1 ชั่วโมง
ขอบคุนนะคับ

แสดงความคิดเห็น

คร้าบ  โพสต์ 2012-2-12 19:08
คร้าบ  โพสต์ 2012-2-12 19:08

นักศึกษา

โพสต์
283
พลังน้ำใจ
128
Zenny
1276
ออนไลน์
16 ชั่วโมง
ความรักบัง คับไม่ได้หรอก

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1046
พลังน้ำใจ
1296
Zenny
8354
ออนไลน์
317 ชั่วโมง
No one is perfect

นักศึกษา

โพสต์
278
พลังน้ำใจ
166
Zenny
1275
ออนไลน์
28 ชั่วโมง

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1466
พลังน้ำใจ
1861
Zenny
4470
ออนไลน์
416 ชั่วโมง
สนุหมากๆเลย

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1423
พลังน้ำใจ
1338
Zenny
8250
ออนไลน์
245 ชั่วโมง

ลูกน้องหัวหน้าห้อง

โพสต์
465
พลังน้ำใจ
486
Zenny
2935
ออนไลน์
88 ชั่วโมง
นานมากเลยอะกว่าจะรักกัน

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1430
พลังน้ำใจ
1430
Zenny
6827
ออนไลน์
291 ชั่วโมง
ขอบคุนครับ

หัวหน้าห้อง

โพสต์
2054
พลังน้ำใจ
2621
Zenny
10139
ออนไลน์
431 ชั่วโมง

นักศึกษา

โพสต์
286
พลังน้ำใจ
295
Zenny
1356
ออนไลน์
65 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1512
พลังน้ำใจ
1612
Zenny
6474
ออนไลน์
812 ชั่วโมง
ขอบคุนคราบ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
2194
พลังน้ำใจ
17115
Zenny
4074
ออนไลน์
3262 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1484
พลังน้ำใจ
1541
Zenny
6736
ออนไลน์
824 ชั่วโมง
ขอบคุณมากนะ

หัวหน้าห้อง

โพสต์
1736
พลังน้ำใจ
1456
Zenny
-96
ออนไลน์
698 ชั่วโมง
ขอบคุนคราฟ

หัวหน้าห้อง

โพสต์
700
พลังน้ำใจ
2074
Zenny
2031
ออนไลน์
223 ชั่วโมง
ขอบคุณครับ

นายกองค์การนักศึกษา

โพสต์
7547
พลังน้ำใจ
35270
Zenny
606
ออนไลน์
4660 ชั่วโมง
ลุยฝ่าฟันไปให้หมดแรง... ไม่เหนื่อย.. ไม่ท้อ.. ไม่หมดหวัง.. เส้นทางความฝันที่มันช่างยากเกินจริง...
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม


ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2024-5-3 16:17 , Processed in 0.150052 second(s), 32 queries .

Powered by Discuz! X3.1 R20140301, Rev.31

© 2001-2013 Comsenz Inc.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้