| 
 ต่อมลูกหมากอักเสบเรื้อรัง ภัยร้ายที่ผู้ชายรู้สึกขยาด 
khunvaanshop Skin white / 2013-05-08  
   เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม 
 
          โรค Chronic Pelvis Pain Syndrome (CCPS) หรือโรคต่อมลูกหมากอักเสบเรื้อรัง (แพทย์บางท่านนิยมใช้คำว่า "กลุ่มอาการปวดท้องน้อยส่วนล่างเรื้อรัง") คืออาการอักเสบหรือติดเชื้อบริเวณต่อมลูกหมาก ซึ่งแม้ปัจจุบันยังไม่มีใครทราบสาเหตุแน่ชัดว่าเกิดขึ้นเพราะอะไรกันแน่ จึงทำให้เป็นเรื่องยากที่เราจะหาวิธีมารับมือกับมันได้ แต่เชื่อกันว่าหากรู้จักป้องกันเวลามีเพศสัมพันธ์ก็จะช่วยลดความเสี่ยงลงไป ได้ ซึ่งถ้าใครต้องการรู้ว่าตัวเองกำลังเป็นโรคนี้อยู่หรือไม่ ก็ต้องลองสังเกตดูว่าตัวเองมีอาการเหล่านี้บ้างหรือเปล่า 
 
            ต้องการขับถ่ายปัสสาวะบ่อยครั้ง แม้กระทั่งในช่วงที่พักผ่อนตอนกลางคืน ทำให้ต้องลุกมาเข้าห้องน้ำตลอด 
 
            ไม่สามารถอดกลั้นปัสสาวะได้เหมือนคนทั่วไป อีกทั้งยังรู้สึกเจ็บปวดในขณะปัสสาวะด้วย ในขณะที่ปัสสาวะมักติดขัด ทำให้ต้องเบ่งจนยิ่งเจ็บปวดขึ้นอีก 
 
            มีอาการปวดบริเวณช่วงทวารหนักและถุงอัณฑะ โดยความรุนแรงของแต่ละคนอาจแตกต่างกันออกไป บางคนปวดเพียงแค่เล็กน้อยหรือบางคนถึงขั้นทรมาน รวมทั้งปวดเป็นบางครั้งบางคราวหรือปวดตลอดเวลาเลยทีเดียว 
 
            รู้สึกเจ็บปวดระหว่างหรือหลังจากมีเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะช่วงที่หลั่งน้ำอสุจิ ซึ่งอาจมาปวดเอาวันต่อมาหลังจากมีเพศสัมพันธ์เลยก็ได้ ซึ่งความเจ็บปวดอาจรุนแรง ทำให้บางคนถึงกับขยาดกลัวการมีเพศสัมพันธ์เลยก็เป็นได้ 
 
            อาการกำเริบ เจ็บปวดมากขึ้นเวลาที่ต้องนั่ง จนบางรายถึงกับหลีกเลี่ยงที่จะนั่ง 
 
            มักมีอาการเจ็บปวดบริเวณกระดูกเชิงกราน กระดูกก้นกบ และปวดเมื่อยหลังเป็นประจำ โดยอาจเป็นที่หลังซีกซ้ายหรือขวาข้างใดข้างหนึ่ง หรือทั้งแผ่นหลัง 
 
            ความเจ็บปวดจะทุเลาลงในเวลาที่ได้ขับถ่ายหรืออาบน้ำอุ่น  
 และเมื่อคุณเป็นโรคนี้แล้ว ก็จะทำให้มีผลกระทบกับชีวิตตามมาอีกมากมาย เช่น กลายเป็นคนเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ จากความกลัวการมีเพศสัมพันธ์, ขาดความมั่นใจในตัวเอง ไม่สามารถประคับประคองความสัมพันธ์ในระยะยาวได้, พักผ่อนไม่เพียงพอ รวมทั้งเกิดความเครียดจนกลายเป็นโรคซึมเศร้า และความเครียดนั้นจะทำให้อาการยิ่งทรุดหนักเข้าไปอีก คุณจึงควรพยายามดูแลสุขภาพให้ดี พยายามอย่าไปเครียดกับมันมากนัก และไปพบแพทย์ดู เพราะโรคนี้ยังสามารถรักษาให้หายได้ ซึ่งมีวิธีหลากหลายแตกต่างกันออกไป ตั้งแต่การใช้ยาปฏิชีวนะสำหรับคนที่มีอาการไม่ร้ายแรงมากนักไปจนถึงการผ่า ตัด ในขณะที่อาจมีการให้ยาระงับความเจ็บปวด (NSAID) เพื่อบรรเทาอาการควบคู่ไปด้วย 
 
          เพื่อระบุให้แน่ชัดว่าคุณเป็นโรคนี้จริงหรือไม่ แพทย์จะเริ่มจากการตรวจอาการก่อนและเช็คดูว่าเป็นในระดับร้ายแรงแค่ไหน จากการตรวจต่อมลูกหมาก, ตรวจปัสสาวะ, ทดสอบไต และระบบทางเดินปัสสาวะ และอาจแนะนำให้ตรวจเลือดเพิ่ม เพื่อชี้ให้แน่ชัดว่าไม่สับสนกับโรคอื่นเป็นลำดับต่อมา จากนั้นเมื่อมั่นใจว่าเป็นโรคนี้จริง แพทย์ก็จะเก็บตัวอย่างจากของเหลวในต่อมลูกหมากไปตรวจดู หากผู้ป่วยเป็นโรคต่อมลูกหมากอักเสบเรื้อรัง ก็จะไม่พบแบคทีเรียในของเหลวดังกล่าว 
 
          ทั้ง นี้ทั้งนั้น ระยะเวลาในการรักษา รวมถึงประสิทธิภาพนั้นอาจเห็นผลแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับอาการและการดูแลตัวเองของแต่ละคน ซึ่งโอกาสกลับมาเป็นอีกครั้งก็อาจเกิดขึ้นได้ เว้นแต่ผู้ป่วยที่ได้ทำการผ่าตัดเอานิ่วไตออกไปแล้ว ที่จะหายขาดจากโรคนี้อย่างถาวร ดังนั้นสิ่งที่เราทำได้ก็คือ พยายามทำใจให้เข้มแข็งเข้าไว้ เพราะสุขภาพจิตมีผลกับร่างกายของเราด้วยเช่นกัน มันจึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้คุณฝ่าฟันโรคนี้ไปได้ 
 ที่มา:kapook 
 
 |