มาดูการกินอาหารในยุคของแพงได้อย่างไง ไอ้พวกเรามันทะลึ่งคิดไปเอง ตักข้าวใส่จาน ราดด้วยแกงไตปลา และหยิบซี่โครงหมูย่างไว้แก้เผ็ดซักสองขิ้น แล้วเดินไปสวนผักใบหญ้าหน้าบ้าน ไปที่ต้นสะเดาก่อนเลย ตอนเช้าน้ำค้างลงจัดสังเกตุใบสดมันเงาสะอาด ไม่มีคราบสกปรกหรือผงฝุ่น จัดการเลย นี่คือผักเนาะแกล้มแกงไตปลาหล่ะ ใกล้กันถัดไปยอดกระถิน หรือสะตอเบา ก้านที่เด็ดได้ง่ายๆ อ่อนกำลังดี
อ้าวนี่ก็อีกอย่าง...ใบมะยมอ่อน เปรี้ยวนิดฝาดหน่อยอร่อยกำลังดีเลยครับ
จะดูใบมะยมตอนเล่นเงาแสงแดดกระทบ ชังสวยดี กินข้าวได้เพลินไปเลย
โอ้...นี่เป็นเมนูใหม่ เพิ่งลองครั้งแรก รสออกจืดกรอบกลิ่นหอมเฉพาะตัว ดอกอัญชันครับ น้ำค้างยังอยู่เลยครับจืดจนเจือจางรสเผ็ดแกงไตปลาได้ดีทีเดียว ไม่เชื่อ???...ลองแลต๊ะ... กินข้าวไปเด็ดผักใบสดจากต้นแกล้มไปสามสี่รอบข้าวหมดจานพอดี เอาจานไปล้างซะก่อน แล้วต่อไป.... นี่ครับ...ของหวาน ต่อจากอาหารคาว เริ่มที่ลูกตะขบ ต้นยืนชะเง้อหน้ามองหาลูกตะขบสุกแดงอย่างนี่กินก่อนนกจะมาเห็น ตะขบนี้จะสุกเร็วมาก เห็นเหลื่อมๆ ตอนเช้า เที่ยงก็สุกแล้วครับ ถ้าไม่เด็ดกินเสีย ก็เสร็จนก หรือร่วงลงพื้นก็เป็นอาหารไก่ได้ ของหวานรายการต่อไป มะม่วงเบาสุกครับ ส่วนที่ยังแก่เขียว เดี๋ยวจะเอาไปกินกับน้ำปลาหวานนนน...ระหว่างมื้อครับ มะม่วงเบาเป็นเยอะมาก ส่วนใหญ่อยู่กิ่งสูง ร่วงลงมาต้องรีบเก็บ ถ้ากินไม่ทันก็เอาไปทำมะม่วงกวนหรือมะม่วงสุกลอยแก้ว นี่ก็ต้องรีบกินเหมือนกัน เพราะร่วงลงพื้นแล้วก็จบกัน แต่ยังมีไก่ฝูงนึงช่วยกินแทน มะยมครับ เลือกกินสดเฉพาะลูกที่สุกจนออกสีน้ำตาลหน่อยจะเปรี้ยวอมหวาน ที่เหลือก็เอาไปทำน้ำมะยม หรือมะยมกวนน้ำตาลครับ ตบท้ายด้วยมะพร้าวอ่อนหลังบ้านมีอยู่หลายต้น ต้องเหลือไว้ให้เป็นมะพร้าวแก่สำหรับทำน้ำกระทิด้วยครับ ครอบครัวหนึ่งมีสมาชิกกี่คน ก็เอา 5 คูณ เช่น ครอบครัวนี้มี 5 คน ถ้าปลูกมะพร้าวไว้ 25 ต้น จะมีมะพร้าวกินได้ทุกวันตลอดปีโดยไม่ต้องซื้อ
เมนูชุดนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ แต่หากท่านใดมีดี มีต่าง ช่วยเอามาให้ดูกันนะครับ
กินเสร็จแล้วครับมื้อเช้านี้ อิ่มจริงๆ เดินสำรวจต้นไม้ใบหญ้าอีกสักหน่อย เพื่อให้อาหารที่ย่อยจากกระเพาะเรียงลงในลำไส้ใหญ่ได้สะดวก หยิกแขนตัวเองดู โอ้ยรู้สึกเจ็บครับและ.....ไม่ได้คิดไปเอง.....ด้วยครับ แล้วไปชงกาแฟแก้วใหญ่มานั่งพัก เปิดคอมฯ เข้ายูทูบฟังเพลงไปจิบกาแฟไปดีกว่า อ๊ะ...นี่ใครนักร้องคนนี้ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยฟัง ลองฟังแล...เพลงนี้ครับ บุหงาตันหยง - ป๋อง ณ ปะเหลียน ....... |