แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Bank2357 เมื่อ 2025-12-23 13:31
แสงแฟลชจากกล้องนับสิบตัววับวาบไปทั่วห้องแถลงข่าวที่อัดแน่นไปด้วยสื่อมวลชน แต่สายตาคมกริบของ กวิน นักข่าวหนุ่มฝีปากกล้ากลับจดจ้องไปที่ร่างสูงสง่าบนเวทีเพียงจุดเดียว ท่านรัฐ แกนนำพรรคคนสำคัญยืนยิ้มรับคำถามด้วยท่าทีสุขุม ราวกับเทพบุตรในคราบนักการเมือง แต่สำหรับกวิน เขารู้ดีว่าเบื้องหลังความขาวสะอาดนี้มีกลิ่นคาวของความเน่าเฟะซ่อนอยู่
“ท่านรัฐครับ!”
กวินโพล่งขึ้นโดยไม่รอสัญญาณอนุญาต เสียงของเขาทุ้มต่ำแต่ทรงพลัง
“มีข่าวลือหนาหูว่าโครงการพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจใหม่ มีการใช้ ‘อำนาจมืด’ บีบบังคับให้ชาวบ้านเซ็นยินยอม แถมงบประมาณบางส่วนยังล่องหนไปอย่างปริศนา ท่านจะบอกว่านี่คือความโปร่งใส หรือเป็นแค่การใช้อิทธิพลมืดกลบปากคนครับ?”
คำถามนั้นทำให้บรรยากาศในห้องเย็นเยียบลงทันที นักข่าวคนอื่นถึงกับกลั้นหายใจ ท่านรัฐนิ่งไปครู่หนึ่ง เขาลดไมโครโฟนลงเล็กน้อยก่อนจะปรายตาไปทางเลขาส่วนตัวและบอดี้การ์ดที่ยืนคุมอยู่ด้านข้าง พวกเขาสบตากันเพียงเสี้ยววินาทีแววตาเหล่านั้นไม่ได้มีความตื่นตระหนก แต่กลับมีความหมายบางอย่างที่น่าขนลุกซ่อนอยู่ เป็นสายตาของพรานที่กำลังมองเหยื่อที่รนหาที่ตาย
“คุณกวิน... จากสำนักข่าวความจริงสินะครับ”
ท่านรัฐยิ้มละไม ดวงตาคมเข้มคู่นั้นจ้องลึกเข้าไปในตาของกวินจนน่าประหลาด
“จินตนาการของคุณล้ำเลิศเสมอ แต่ระวังนะครับ... บางครั้งการพยายามขุดคุ้ยสิ่งมืดดำ มันอาจจะทำให้คุณหลุดเข้าไปในโลกที่หาทางออกไม่ได้”
จบการแถลงข่าว กวินไม่ได้ถอยตามที่ถูกเตือน สัญชาตญาณนักข่าวบอกเขาว่าคำตอบของเรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในห้องแอร์เย็นฉ่ำ เขาแอบสะกดรอยตามรถของท่านรัฐออกมาจนถึงย่านชานเมืองอันเงียบสงัด จนมาหยุดอยู่ที่ตึกร้างหลังใหญ่ที่ดูเหมือนวิหารเก่ามากกว่าอาคารสำนักงาน เขาทิ้งรถไว้ไกลๆ แล้วย่องผ่านพงหญ้ารกชัฏ กล้อง DSLR ในมือเตรียมพร้อม เขาเห็นท่านรัฐเดินเข้าไปในตึกนั้นพร้อมกับกลุ่มคนสวมชุดดำที่ดูผิดแปลกไปจากนักการเมืองทั่วไป
‘จับได้คาหนังคาเขาแน่ คืนนี้มึงจบเห่แน่ท่านรัฐ’
กวินคิดในใจพลางยกกล้องขึ้นเล็งไปที่ช่องหน้าต่างไม้ที่ผุพัง หมับ! ยังไม่ทันจะได้กดชัตเตอร์ มือหนาปานคีมเหล็กก็พุ่งมาจากด้านหลัง ล็อกลำคอและปิดปากเขาไว้จนสนิท กวินเบิกตากว้าง พยายามดิ้นรนสุดแรงเกิด แต่วงแขนนั้นแข็งแกร่งเกินกว่าที่เขาจะต้านทานได้
“มาแอบดูพิธีสำคัญแบบนี้... เสียมารยาทจังนะครับคุณนักข่าว”
เสียงกระซิบข้างใบหูนั้นเย็นเยียบจนกวินเสียวสันหลังวาบ กลิ่นกำยานและกลิ่นหอมประหลาดโชยมาจากชายชุดดำที่ล็อกตัวเขาไว้ มันไม่ใช่กลิ่นน้ำหอมทั่วไป แต่มันเป็นกลิ่นที่ทำให้ประสาทสัมผัสของเขาเริ่มพร่าเบลอ
“ท่านรออยู่ด้านใน... ท่านบอกว่ากำลังขาดหมา เฝ้าบ้านตัวใหม่พอดี”
ร่างของกวินถูกลากเข้าไปในความมืดมิดของตึกร้างอย่างไร้ทางสู้ กล้องคู่ใจตกลงบนพื้นดิน เลนส์แตกละเอียดเปรียบเสมือนชีวิตอิสระของเขาที่กำลังจะสิ้นสุดลงต่อจากนี้
ภายในโถงกว้างของตึกร้างที่อับชื้น กลิ่นธูปหอมเย็นยะเยือกอบอวลไปทั่วชั้นบรรยากาศ กวินถูกเหวี่ยงลงบนพื้นคอนกรีตที่เย็นเฉียบ แขนทั้งสองข้างถูกรวบไพล็อคหลังไว้แน่นด้วยมือของชายชุดดำ ร่างกายของนักข่าวหนุ่มถูกกดให้นั่งคุกเข่าลงในท่าที่สมเพชที่สุด ต่อหน้าชายที่เขากระหายจะทำลายชื่อเสียงมากที่สุด ท่านรัฐ นั่งอยู่บนขั้นบันไดปูนเปลือยที่ยกระดับสูงขึ้นไป ท่าทางของเขาสุขุมและเปี่ยมไปด้วยอำนาจราวกับราชาบนบัลลังก์ศิลา
“ปากดีๆ แบบนี้... เสียดายแทนอุดมการณ์พวกนั้นจังนะกวิน”
ท่านรัฐเอ่ยเสียงนุ่มพลางแย้มยิ้ม ก่อนจะค่อยๆ ลุกขึ้นเดินลงบันไดมาทีละขั้น เสียงรองเท้าหนังกระทบพื้นปูนดัง ตึก... ตึก... ราวกับเสียงนับถอยหลังของความเป็นมนุษย์ เมื่อมาหยุดตรงหน้า ท่านรัฐโน้มตัวลงและยื่นมือเรียวยาวไปกุมที่ศีรษะของกวินไว้อย่างมั่นคง กวินพยายามจะถ่มน้ำลายใส่แต่กลับพบว่าลำคอของเขาแห้งผาก
“นะ-โม-พุท-ธา-ยะ... จิต-ตัง-พัน-ธัง-เม...”
เสียงท่องคาถาพึมพัมที่ฟังไม่ได้ศัพท์เริ่มดังขึ้น มือของท่านรัฐที่กุมศีรษะอยู่เริ่มร้อนผ่าวราวกับถ่านแดง กวินเบิกตากว้าง ร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรง ลมหายใจขาดห้วงและเริ่มเกิดอาการกระตุกเกร็งจนหลังแอ่น ความคิดที่เคยต่อต้านกลับถูกแทนที่ด้วยคลื่นความร้อนที่ซัดสาดเข้ามาในสมอง
“อึก... อัก... มะ... ไม่...”
เสียงประท้วงหายไปในลำคอ ใบหน้าที่เคยฉายแววหยิ่งทะนงบิดเบี้ยวด้วยความเสียวซ่านที่ถูกยัดเยียดผ่านอาคม ดวงตาทั้งสองข้างเริ่มลอยคว้างจนตาดำแทบจะจมเข้าหากัน น้ำลายใสเริ่มไหลยืดออกมาจากมุมปากอย่างไม่อาจควบคุมได้ ความรังเกียจถูกทำลายทิ้งเหลือเพียงความหฤหรรษ์ที่บิดเบี้ยว และสิ่งที่น่าอับโหยที่สุดคือภายใต้กางเกงแสลคเนื้อดี ส่วนกลางกายของเขากลับตื่นตัวแข็งขืนจนดันผ้าออกมาเป็นลำชัดเจน ท่านรัฐหัวเราะในลำคออย่างผู้ชนะ เขาถอนมือออกแล้วใช้เท้าที่สวมรองเท้าหนังแบรนด์เนมราคาแพง ค่อยๆ เหยียบและบดคลึงลงไปบนส่วนที่พองนูนกลางเป้ากางเกงของกวินอย่างหยามหยัน
“ดูสิ... ร่างกายแกมันซื่อสัตย์กว่าปากเยอะเลยนะ สุนัขน้อย”
แรงกดจากปลายเท้าทำให้กวินครางเสียงหลง ร่างกายบิดเร่าอย่างโหยหา ท่านรัฐใช้นิ้วมือเรียวเชยคางนักข่าวหนุ่มขึ้นมา บีบกรามจนปากของกวินอ้าออกกว้าง แววตาของกวินตอนนี้ว่างเปล่าและเยิ้มไปด้วยตัณหาที่ถูกสะกดไว้ ท่านรัฐโน้มหน้าลงมาใกล้จนได้ยินเสียงลมหายใจ แล้วค่อยๆ รวบรวมน้ำลายก่อนจะถ่มมันออกมาเป็นสายยืดเหนียวหนืด ให้มันหยดลงสู่โพรงปากของกวินอย่างช้าๆ กวินไม่เพียงไม่เบือนหน้าหนี แต่เขากลับพยายามกระดกลิ้นรับน้ำลายนั้นราวกับมันคือทิพยมนต์ที่เขาโหยหามาทั้งชีวิต
“กลืนลงไป... แล้วจำไว้ว่าจากนี้ไป เจ้าของของแกชื่อ รัฐ เท่านั้น”
|