|
เงาของกาแฟยามบ่าย อนันต์ใช้ชีวิตอยู่กับความเงียบงันของร้านหนังสือเก่าแก่ที่เขาดูแลต่อจากบิดามานานกว่ายี่สิบปี ผนังสีครีมที่ซีดจางและกลิ่นหอมของกระดาษเก่าคือโลกของเขา จนกระทั่ง ณัฐกิตติ์—หรือ "นัท" ที่เขาเรียกในใจ—ก้าวเข้ามาในร้าน นัทเป็นนักศึกษาสถาปัตย์ที่มักจะใช้มุมโต๊ะไม้ริมหน้าต่างเป็นสตูดิโอชั่วคราว เขามาที่นี่เกือบทุกวันเพื่อวาดภาพ ออกแบบ หรือแค่อ่านหนังสือภายใต้แสงแดดยามบ่ายที่สาดส่องเข้ามา อนันต์ในวัยสี่สิบปลาย มองนัทในวัยยี่สิบต้น ๆ ด้วยสายตาที่ซ่อนเร้นความรู้สึกไว้มากมาย ความรู้สึกของอนันต์ไม่ใช่ความต้องการที่จะครอบครอง แต่มันคือการเฝ้ามองอย่างชื่นชม เป็นความรักที่บริสุทธิ์และเงียบสงบเหมือนการได้จิบกาแฟชั้นดีในวันที่อากาศเย็นสบาย เขารักในรอยยิ้มที่ปรากฏบนใบหน้าของนัทเมื่อเขาสามารถแก้ปัญหางานออกแบบได้สำเร็จ รักในความตั้งใจจริงจังที่ปรากฏในดวงตาคมกริบของอีกฝ่ายยามจดจ่อกับการร่างแบบ และรักในเสียงหัวเราะใส ๆ เมื่อนัทคุยโทรศัพท์กับเพื่อน อนันต์รู้ดีว่าความรู้สึกนี้เป็นความลับที่เขาจะไม่มีวันเปิดเผย นัทเปรียบเสมือนแสงอาทิตย์ที่ส่องเข้ามาในห้องที่เต็มไปด้วยเงาอย่างร้านหนังสือของเขา แต่เขาก็รู้ว่าแสงอาทิตย์ย่อมมีทางเดินของมัน และเขาทำได้เพียงยืนอยู่ในมุมมืดที่อบอุ่นเพื่อมองดู วันหนึ่ง นัทเดินเข้ามาพร้อมกับรอยยิ้มที่กว้างกว่าปกติ จนอนันต์รู้สึกใจหายวาบ "พี่อนันต์ครับ ผมได้งานที่บริษัทใหญ่แล้วนะ! บริษัทที่ผมฝันถึงเลยครับ" นัทพูดอย่างตื่นเต้นดวงตาเป็นประกาย "ผมอาจจะต้องย้ายไปอยู่ใกล้ ๆ ออฟฟิศ คงไม่ได้มาที่นี่บ่อย ๆ แล้ว" หัวใจของอนันต์กระตุกวูบราวกับถูกบีบอัดจนหายใจไม่ออก ช่วงเวลาของความเงียบงันนั้นยาวนานเกินกว่าปกติ แต่ก่อนที่นัทจะทันสังเกตเห็นความผิดปกติ อนันต์ก็ยิ้มออกมา—เป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยนและจริงใจที่สุดเท่าที่เขาเคยมี "ยินดีด้วยนะนัท" อนันต์พูดด้วยน้ำเสียงที่นิ่งและอบอุ่น ราวกับเป็นเพียงพี่ชายคนหนึ่ง "พี่รู้มาตลอดว่านายต้องทำได้" นัทไม่รู้เลยว่าภายใต้รอยยิ้มนั้น มีคำว่า "ผมรักนาย" กรีดร้องอยู่เงียบ ๆ ในใจของชายวัยกลางคนคนหนึ่ง อนันต์ไม่ขอให้เขาอยู่ ไม่ขออะไรเลย นอกจากความสุขของนัทเท่านั้น เมื่อนัทจากไป ร้านหนังสือก็กลับเข้าสู่ความเงียบงันที่เคยเป็นมา แต่ความเงียบนั้นไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป มันมีความทรงจำของเสียงหัวเราะและเงาของคนที่รักบรรจุอยู่ อนันต์เดินไปที่มุมหน้าต่างที่นัทเคยนั่ง ลูบคลำขอบโต๊ะไม้ที่ยังคงมีร่องรอยดินสอจาง ๆ เขายิ้มอย่างแผ่วเบา ยอมรับว่ารักบางอย่างไม่จำเป็นต้องเป็นเจ้าของ แค่ได้เห็นการเดินทางอันสดใสของคนที่เรารักจากระยะไกล ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ชีวิตที่เงียบเหงาของเขามีความหมายตลอดไป
|