|
ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ เป็นเวลาเดียวกับที่ นนท์ แต่งตัวเสร็จพอดี “อ้าว มีอะไรพวกมึง?” ทันทีที่เขาเปิดประตูก็เห็น ภีม ที่เตรียมตัวไปเรียนกำลังยืนหน้าเครียดต่างกับ เฟิร์ส รายนั้นโป๊ใส่บอกเซอร์ตัวเดียวยืนสัปหงก “นนท์ เรื่องเมื่อวานนี้...” “เห้ย อย่าคิดมากกูไม่อะไร แค่ตกใจนิดหน่อยไม่คิดว่าจะเป็น พี่แมน กับ พี่แชมป์” “มึงรู้จักหรอวะ” นนท์ตาเหลือก นี่เขาปล่อยโป๊ะไปแล้ว ตอนนี้กลายเป็นภีมเองที่จ้องเค้นตาเขม็ง “พวกมึงเคลียร์กันเสร็จยัง กูจะไปนอนต่อละ” อยู่ ๆ เฟิร์สก็สะดุ้งตื่น เห็นเพื่อนสองคนคุยกันคิดว่าคงจบเรื่องเลยเตรียมตัวจะเดินกลับห้องตัวเอง แต่พอย่างขาไม่กี่ก้าวสะดุดกับโซฟาจนตัวถลาล้มลงไป จากนั้นก็ไม่ลุกขึ้นมาอีก “มันไปอดนอนมาจากไหนวะน่ะ” นนท์อดสงสัยไม่ได้ ภีมมองภาพนั้นก่อนจะถอนหายใจแล้วกลับเข้าเรื่องต่อ “มันพึ่งกลับตอนตีห้า ว่าแต่มึงยังไม่ได้บอกเลย” “ก็ตอนเย็นเวลากูรอพวกมึงใต้ตึก พวกพี่เขาเล่นบาสอยู่สนาม แล้วกูได้ยินรุ่นพี่คณะพูดถึงอยู่บ่อย ๆ ว่าแต่มึงกับพี่แชมป์ไปรู้จักกันได้ยังไง” ภีมเปิดใจเล่าถึงความเป็นมา แท้จริงแล้วเป็นเฟิร์สที่คบกับพี่แมนก่อน ด้วยเฟิร์สเป็นนักกีฬาไม่รู้ไปแข่งกันอีท่าไหนถึงถูกเด็กวิศวะตามหาเรื่องจนได้พี่แมนมาเคลียร์ให้ ตอนนั้นเฟิร์สประทับใจเลยขอบคุณ จากนั้นก็ไปมาหาสู่กันทำให้ภีมได้รู้จักกับพี่แชมป์ “ทำไมมีเรื่องอะไรไม่บอกให้กูฟังบ้าง คิดว่ากูใจแคบไม่รับฟังพวกมึงหรอ” ถ้าเกิดว่านนท์รับรู้เรื่องนี้ บางทีเขาจะได้รู้จักกับ พี่บอล เร็วขึ้นก็ได้ “กูไม่คิดว่าจะมาถึงขั้นนี้ แล้วก็...ไม่รู้จะบอกมึงยังไงกลัวมึงจะนอยด์” สองเพื่อนซี้ปรับความเข้าใจกันจนผ่านไปได้ด้วยดี “ถ้านนท์เขินผู้ชาย ลองจีบผู้หญิงดูดีปะ” ไม่รู้เฟิร์สท์ตื่นแต่ตอนไหนเขาเดินเข้ามากอดคอ นนท์แน่น “กูไม่ได้เป็นไบ ไอ้บ้า” “ไม่ลองจะรู้ได้ยังไง” “ -*- ไปนอนต่อเลยมึงอะ” “กูหวังดีนะ อยากให้มึงมีแฟนจะได้มีคนคอยดูแล แต่ถ้ามึงไม่มีก็ไม่ต้องห่วง กูกับไอ้ภีมจะอยู่กับมึงเอง” เฟิร์สว่าจบก็หันไปหาภีม ซึ่งภีมเองก็คิดตรงกัน “ใช่” แม้เฟิร์สจะดูไม่ค่อยได้เรื่อง แต่เขาหวังดีและเป็นห่วงเพื่อนมาก โดยเฉพาะกับนนท์ที่ไม่ชอบสุงสิงกับใคร เห็นเพื่อนเป็นกังวลแบบนี้ นนท์ก็คิดบางอย่างได้ เขาอยากที่จะปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระจากอาการ แม้ไม่ใช่ตอนนี้แต่สักวันก็ต้องทำได้ “พวกมึง กูชอบพี่บอล!!!” ภีมและเฟิร์สถึงกับเหวอ ก่อนที่ริมฝีปากจะเผยรอยยิ้มคลี่ออกทีละน้อย “เชรดดดโด้” ภีมนิ่งอึ้ง เฟิร์สอุทานแรง “พวกมึงช่วยกูจีบหน่อยดิ” “ได้/พวกกูจะช่วยมึงเอง” ภีมและเฟิร์สรับปาก นี่เป็นก้าวแรกที่สำคัญที่เพื่อนอย่างนนท์จะขอร้อง พวกเขารอคอยวันนี้มานานมากในที่สุดก็มาถึง ไม่รู้ว่าจะทำสำเร็จไหมแต่อย่างน้อยนนท์ก็มีความกล้ามากพอที่เอ่ยปากบอกความในใจ ทันทีที่รับปาก สองหนุ่มก็รีบปรึกษาวางแผนพร้อมกับโทรหาแฟนตัวเองเพื่อระดมความคิด พี่แชมป์กับพี่แมนพอรู้ข่าวก็ดีใจหากสำเร็จพี่บอลจะได้มีคู่กับเขาเสียที ระหว่างที่กำลังมองดูเพื่อนสนิทกระตือรือร้นในการช่วยเหลือ นนท์ย้อนคิดถึงตัวเองว่าทำไมเขาถึงกล้าพูดมันออกมา แรก ๆ ก็เขินนิดหน่อยที่เอ่ยปากบอกชอบใคร แต่พอพูดแล้วก็มีความสุขดี ไม่รู้ว่าเป็นเพราะคำพูดปลุกใจแกมเตือนของเฟิร์ส ความกลัวที่อาจจะเสียพี่บอลให้คนอื่นไป หรือเป็นเพราะ เรื่องแปลกที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ตอนที่เขาได้สัมผัสกับพี่บอลในจินตนาการมันฟูลฟีลฮีลใจมาก มากจนอยากที่จะได้สัมผัสมันอีกสักครั้ง เหมือนอาหารที่ถูกปาก แม้ได้ชิมเพียงหนึ่งคำก็อยากจะลิ้มลองไปตลอดชีวิต ร่างกายของพี่บอลเองก็เช่นกัน เพียงแค่ลิ้มรสริมฝีปากกับลิ้นอุ่น ๆ ก็ทำให้นนท์ร้อนผ่าวไปทั้งตัว ไม่อยากจะคิดว่าถ้าเขาได้ทำมากกว่านี้ ได้ลูบไล้แผงอกกำยำ ซิกแพคแน่นหน้าท้อง ไรขนที่เรียงสวยลงไปยังส่วนนั้น... “อืม อ่าส์ พวกมึง เดี๋ยวกูขอ กูขอตัวแปบนึงนะ” นนท์หน้าเห่อแดง เขาขอตัวเพื่อนเดินเข้าห้องจากนั้นก็จัดการกับตัวเองเพราะอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้นจากจินตนาการในหัวทำให้ต้องปลดปล่อยมิเช่นนั้นคงเดินเป้าตุงไปคณะแน่ ๆ “อืมมม” นนท์หลับตาเม้มริมฝีปาก จินตนาการถึงภาพใบหน้าของพี่บอลที่กระจ่างชัดในหัว ผนวกกับความทรงจำที่ถูกรื้อค้นยามแอบมองตอนที่พี่บอลเล่นบาส กล้ามแขนนูนเป็นก้อน ยามชู้ตลูกบาสและยกแขนมีขนรักแร้ดกดำเปียกเหงื่อลู่แนบกับลำตัว เพียงแค่นึกก็มีกลิ่นอับชื้นบางลอยแตะจมูก นนท์ไม่รังเกียจสูดหายใจเข้าเต็มปอด พลันมือล้วงเข้าไปในกางเกง มันอึดอัดจนคับแน่นเลยตัดสินใจปลดเข็มขัดและถอดออกไปกองที่ข้อเท้า “อืม อยากเลียจังเลย” ว่าแล้วก็แลบลิ้นนึกถึงลำตัวของรุ่นพี่ หากเขาแลบลิ้นไล่จากคอขาวลงมาที่แผงอก อยากจะชิมรสยอดอกเม็ดสวย พอเลียมันจนเปียกน้ำลายเป็นวงก็งับขบจนมันแข็งเป็นไต มืออีกข้างที่ว่างอยู่ถูกใช้ลูบไล้กับร่างกายตัวเอง นนท์ค่อย ๆ ล้วงมือเข้ามาในเสื้อใช้นิ้วเขี่ยวนที่ติ่งไตหน้าอกเขาตั้งเต้าเป็นทรง ใช้มือลูบไปมาเร้าอารมณ์ตัวเองจนพอใจ ตอนนั้นเองที่คิดว่าถึงเวลา สายตาในภาพแห่งความทรงจำเคลื่อนลง เป้ากางเกงขาสั้นที่มันนูนเป็นทรงยาวที่พี่บอลเดิน ยามที่พี่บอลกระโดดถูกจดจำได้เป็นอย่างดีแม้แต่รายละเอียดยิบย่อยอย่างรอยย่นของผ้าตรงขากางเกง หรือแสงเงาที่ตกกระทบกับเนื้อผ้าบาง “อูยยย ซี๊ดดด” ถึงแม้ นนท์จะไม่เคยเห็นอวัยวะเพศของคนอื่นแบบต่อหน้าสักครั้ง แต่คลังภาพที่เก็บจากสื่อออนไลน์เรียกได้ว่ามหาศาลนัก ไม่รู้ว่าของพี่บอลนั้นจะมีทรวดทรงอย่างไร แต่มันต้องใหญ่และยาวมากแน่ “อ่าส์” ไล่แต่ไข่แฝดกลมหย่อนมีลูกอัณฑะฝังอยู่ทั้งสองข้าง ตรงกลางถูกแบ่งด้วยเส้นสองสลึงตามความยาวของท่อนเอ็นสีขาวนวล กระทั่งมาถึงฐานตรงคอหยัก เมื่อถอกหนังหุ้มลงจะเห็นหัวที่บานร่าสีชมพูสด รอยแยกเล็กระหว่างหัวเห็ดมีน้ำหล่อลื่นสีใสผุดเยิ้มขึ้นมา และเมื่อมันมีมากขึ้นก็ยืดหยดเป็นสายลงพื้น “อ่อ อ่า พี่บอล ผมขอเลียได้ไหมครับ อืม” นนท์อ้าปากส่งลิ้นออกไปแล้วทำเหมือนกับว่าในอากาศตรงหน้ามีท่อนเอ็นอยู่จริง พอแลบลิ้นแตะเข้าไปที่ดุ้นเนื้อ ก็ได้กลิ่นความเป็นชายโชยออกมา มันหอมหวนชวนหลงใหลจนนนท์ทนไม่ไหวอ้าปากกว้างกว่าเดิมแล้วอมเข้าทั้งหมด “อุก อุก อุก อูววว” “อร่อย อร่อยที่สุดเลย แฮก แฮก พี่บอล ผมอยากอมของพี่อีก อ่าส์” แม้จะเป็นแค่ภาพในความทรงจำและจินตนาการแต่แค่นี้ก็มากพอที่จะทำให้นนท์ถึงขีดสุด เขาสาวชักท่อนลำของตัวเองจับหนังหุ้มปลายถอกใช้มืออีกข้างแตะตรงจุดอ่อนไหวที่ส่วนปลาย “อ๊ะ อ๊ะ แตกแล้ว แตกแล้ว อ๊า” นนท์นั่งหอบหายใจอยู่พักหนึ่ง ภาพในหัวค่อย ๆ มลายหายไปในอากาศ เขาเช็ดทำความสะอาดและแต่งตัวเดินออกจากห้องเพื่อจะเดินทางไปเรียน “ไอ้นนท์ พวกกูจัดการเรียบร้อยแล้ว” เฟิร์สพูดพร้อมกับรอยยิ้มเลศนัย ภีมเองก็ไม่ต่างกัน นนท์รู้ทันทีเลยว่าอีกไม่นานจะต้องเจอกับพี่บอลแน่นอน นึกแบบนั้นหน้าก็แดงขึ้นมาเพราะครั้งต่อไปที่เจอคือตัวจริงที่มีเนื้อหนัง คงจะฟินกว่าภาพอากาศเป็นไหน ๆ
🚗 จุดเปลี่ยน ณ ถนนเปลี่ยว: Secret Baar
หลังเลิกเรียน “พวกมึงจะพากูไปไหน” ทันทีที่เลิกเรียนนนท์ถูกเฟิร์สและภีมพาเดินข้ามถนนไปยังฝั่งตรงข้าม จากนั้นก็เดินเท้าต่อลัดเลาะผ่านคณะศึกษา คณะเทคโนโลยีจนมาถึง ‘คณะวิศวกรรมศาสตร์’ “พากูมาทำไม” ในใจรู้อยู่แล้วว่ามาทำไม แต่ตอนนี้เขายังไม่พร้อมที่จะเจอกับรุ่นพี่ที่หมายปอง “กูขอกลับบ้านไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวมาใหม่” เพราะการเจอกันแบบทางการครั้งแรก นนท์อยากทำตัวให้พร้อมที่สุดมากที่จะทำได้ แต่นี่คือพึ่งเรียนเสร็จ มีกลิ่นตัวหรือเปล่าก็ไม่รู้ ปากล่ะ ปากเหม็นไหม “จะอาบทำไมมึงไม่ได้ตัวเหม็นเสียหน่อย ถ้าเป็นไอ้เฟิร์สก็ว่าไปอย่าง” ภีมเปรียบเทียบให้ฟัง คนถูกอ้างถึงย่นคิ้วไม่พอใจ “อะไรใครเหม็น มีแต่คนบอกว่าหอมเว้ย” เฟิร์สพูดพร้อมกับยกแขนขึ้นทำท่าดมรักแร้ตัวเอง นนท์และภีมได้แต่ส่ายหัว “ฮัลโหลพี่แชมป์ ผมอยู่ตรงป้ายหน้าคณะแล้วครับ โอเคครับ” ภีมโทรบอกไม่นานนักก็มีรถเอสพีวี 4 ประตูคันใหญ่ขับมาจอดเทียบริมฟุตบาท กระจกค่อย ๆ เลื่อนลงให้เห็นภายในที่มี 7 ที่นั่ง พี่แมน เป็นคนขับ พี่แชมป์ นั่งหลังกับ พี่บอล ส่วนหลังสุดโล่ง “มึงไปนั่งหลังเลยกูจะนั่งกับแฟนกู” ทันทีที่พี่แชมป์เห็นหน้าภีมก็รีบไล่พี่บอลเพื่อจัดที่นั่งให้กับคนรัก แต่ยังไม่ทันที่ภีมจะขึ้นรถก็ถูกนนท์บีบมือแน่น “ไม่ต้องครับพี่บอล เดี๋ยวผมกับนนท์นั่งหลังเอง มึงไหวไหม?” ภีมร้องห้ามพี่บอลที่กำลังจะลงจากรถแล้วหันมาถามเพื่อน พี่แชมป์งอแงแต่เมื่อเห็นสายตาดุ ๆ ของภีมก็ยอม เด็กน้อยชะมัดเลย “อืม ไหวอยู่” แม้จะประหม่าแต่นนท์สามารถควบคุมตัวเองให้เดินไปนั่งยังเบาะหลังได้ เพียงแค่วันเดียวไม่รู้ว่าเพราะอะไรถึงมีความกล้าทำได้ขนาดนี้ หรืออาจจะเป็นเพราะชมรมนั่น เขาได้แต่สงสัยและเก็บมาคิดเพียงลำพัง “น้องภีมเอาลูกอมไหม” “ไม่ครับ มึงเอาไหม” ภีมปฏิเสธพี่แชมป์ก่อนจะหันมาถามเพื่อน นนท์ส่ายหัว ตลอดการเดินทางมีแต่พี่แชมป์ที่ชวนภีมคุย ส่วนพี่แมนกับเฟิร์สก็กระหนุงกระหนิงกันสองคน มีเพียงพี่บอลและนนท์ที่ต่างก็นั่งเงียบ หลายครั้งนนท์แอบมองพี่บอลจากด้านหลัง ทุกครั้งก็เก็บรายละเอียด มองเพลินและแอบยิ้มกับตัวเองตลอดทาง ร้านอาหารที่จองไว้เป็นร้านหรูประจำของครอบครับพี่แมน อยู่ห่างจากตัวเมืองนิดหน่อยแต่รสชาติดีมีวิวธรรมชาติและความเป็นส่วนตัว “ใกล้ถึงหรือยังครับ” ภีมเอ่ยถามพี่แชมป์เพราะเห็นว่าด้านนอกเริ่มมืดแล้ว “ยังไม่ถึงอีกหรอวะไอ้แมน น้องภีมของกูหิวแล้วเนี่ย” พี่แชมป์หันไปเร่งกับพี่แมน ก่อนจะหันมายิ้มหวานให้ภีม พี่แมนมองกระจกหลังเห็นท่าทางของเพื่อนตัวเองก็ได้แต่ถอนหายใจเอือมระอา ซ่า ซ่า ซ่า อยู่ ๆ ฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย พี่แมนชะลอรถแล้วขับด้วยความระมัดระวัง “เอาไงดี ตกหนักเลย” ตอนนี้เขาเกือบจะถึงที่หมายแล้ว แต่ระหว่างทางสองข้างฝั่งมีแต่ป่ารถ ถนนเปลี่ยวไร้ซึ่งรถสัญจร กึก ครึก ครืด พรึบ! ทุกคนในรถต่างงุนงงที่อยู่ ๆ รถก็จอดนิ่งสนิทท่ามกลางฝนที่เทลงมาไม่หยุด “รถเป็นอะไรวะมึง” “ลองสตาร์ทใหม่ดิ” พี่แชมป์ร้องถามอย่างเป็นกังวล พี่บอลเองก็เข้าไปผสมโรง แต่สตาร์ทเท่าไหร่เครื่องก็ไม่ติด “พี่ตรงนั้นใช่ร้านอาหารหรือเปล่า?” ขณะที่ทุกคนกำลังแตกตื่น เฟิร์สชี้นิ้วไปยังข้างทางเห็นบ้านหลังหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากริมทาง พี่แมนมองตามก็ขมวดคิ้วเพราะไม่รู้จักสถานที่แห่งนั้น “ไม่ใช่ ไม่เคยเห็นเลย” “เอาไง รอให้ฝนหยุดไหม?” ทั้งสามคนนั่งเงียบฟังรุ่นพี่กำลังปรึกษากันว่าจะทำอย่างไรต่อ จะนั่งในรถต่อไปเรื่อย ๆ หรือไปหลบอยู่ที่ร้านแห่งนั้น “ไปหลบฝนกันที่นั่นก่อน แล้วค่อยโทรเรียกช่างซ่อม” พี่บอลเสนอไอเดีย ทุกคนต่างก็เห็นด้วย ทั้งหมดเลยพากันวิ่งออกจากรถไปยังที่แห่งนั้น เมื่อเข้าใกล้ถึงได้เห็นว่ามันไม่ใช่บ้านแต่เป็น บาร์ที่มีชื่อพิลึก ‘Secret Baar’ “ชื่อเท่ดีว่ะ” ก่อนจะเข้าด้านในพี่แชมป์อดไม่ได้ที่จะเอ่ยชมชื่อร้าน ทันทีที่ทุกคนเดินเข้ามาด้านในความรู้สึกรอบตัวเปลี่ยนไปราวกับอยู่คนละโลกกับด้านนอกเลย เสียงฝนที่ตกกระหน่ำถูกแทนที่ด้วยดนตรีบรรเลง ภายในร้านตกแต่งสไตล์วินเทจผิดกับรูปลักษณ์ภายนอก “เชิญครับคุณลูกค้า” พนักงานในชุดสูทเดินมาต้อนรับพาทั้งหมดไปนั่งยังโต๊ะว่างก่อนจะส่งเมนูให้ทุกคนแล้วเดินจากไป
🌑 ฉากหลัง: คุณฮิมและการรอคอย
หลังร้าน “แค่เด็กมหาลัยไม่กี่คน ถึงกับต้องใช้สิ่งนั้นเลยหรอครับ คุณฮิม” คนถูกถามกระพริบตาก่อนจะมองไปยังทิศทางที่ลูกค้าทั้ง 6 คนนั่งอยู่ “คนที่ไม่เคยเข้าใกล้หรือสัมผัสบุรุษเพศมาเกือบ 20 ปีจะอัดอั้นขนาดไหนล่ะ แค่กระตุ้นนิดหน่อย ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของอารมณ์มนุษย์” “อ๋อ ลงทุนหลอกล่อนิดหน่อยแล้วรอคอยผลลัพธ์ที่เกิดคาดใช่ไหมครับ” ผู้จัดการร้านไม่ตอบได้แต่ยิ้มมุมปาก หมากของเขาไม่ได้มีแค่เด็กเก็บกดอย่างนนท์เสียหน่อย (เขาใช้พิธีกรรมทางเพศเพื่อกระตุ้นนนท์ และนนท์ก็ตอบสนองอย่างรุนแรงจนปลดปล่อยตัวเองในจินตนาการ แต่เป้าหมายที่แท้จริงของเขากว้างกว่านั้น)
|