ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 40|ตอบกลับ: 5

เมื่อผมข้ามมิติและต้องแต่งงานกับผู้ชาย 4 คนพร้อมกัน Ch.23

[คัดลอกลิงก์]

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
223
ตอบกลับ
54
พลังน้ำใจ
8601
Zenny
35637
ออนไลน์
2797 ชั่วโมง
โพสต์ 11 ชั่วโมงที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด |โหมดอ่าน








ผมสะดุ้งตื่นขึ้นมา ร่างกายหนักอึ้งราวกับถูกถ่วงด้วยโซ่ตรวน ม่านแสงสลัวลอดเข้ามาทางหน้าต่าง ผมกะพริบตาอยู่หลายครั้งกว่าจะมองเห็นชัด และสิ่งแรกที่เห็นคือเพดานสีขาวเรียบ…เพดานที่ผมคุ้นเคยดี มันคือห้องเช่าขนาดเล็กในเมืองกรุง ห้องที่ผมใช้ชีวิตอยู่ในแต่ละวันอย่างซ้ำซาก


เตียงที่นอนอยู่ก็เป็นเตียงเก่า ๆ ของผมเอง ผ้าห่มผืนนี้ มีกลิ่นซักล้างผสมกลิ่นแดดที่ซีดจางไปตามกาลเวลา ทุกอย่างดูจริงเกินไปจนผมต้องยกมือขึ้นลูบหน้า ลมหายใจที่กระทบฝ่ามือก็ยังอุ่นชื้น …ผมกลับมาแล้วอย่างนั้นหรือ?


ผมเหลียวมองรอบห้อง มีเสียงแอร์เก่าที่กำลังสั่นครางเบา ๆ โต๊ะทำงานกองเต็มไปด้วยแฟ้มและเอกสารที่ผมยังไม่ได้สะสาง หน้าจอคอมพิวเตอร์ดับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ แต่ทั้งหมดนี้มันคือชีวิตที่ผมคุ้นเคย ชีวิตของมนุษย์เงินเดือนที่แสนจะธรรมดา


หัวใจกลับเต้นแรงอย่างประหลาด ภาพความทรงจำก่อนหน้านี้ยังชัดเจน ราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน บาดแผล เลือด น้ำตา เสียงสาบาน เสียงตวาด และแววตาของคนที่ผม…รัก ไม่สิ มันต้องเป็นเพียงความฝันสิ ใช่มั้ย? ไม่มีทางที่สิ่งเหล่านั้นจะเกิดขึ้นจริง


“นี่ฉัน…หลับไปนานแค่ไหนกันนะ ถึงได้ฝันเหมือนจริงขนาดนั้น” ผมพึมพำกับตัวเอง เสียงแหบพร่าเหมือนผ่านการร้องไห้มายาวนาน ทั้งที่ในความเป็นจริง ผมเพิ่งตื่นจากการนอนหลับธรรมดา ๆ เท่านั้น


แต่ในอกกลับยังรู้สึกเจ็บแปลบ ราวกับความทรงจำเหล่านั้นไม่ได้หายไปไหน มันยังอยู่ในหัวใจ และยังคงก้องอยู่ในความรู้สึกทุกส่วนของผม


แล้วโทรศัพท์มือถือข้างเตียงก็สั่นขึ้นมา ดึงผมกลับเข้าสู่โลกจริงทันที


หัวหน้าของผมโทรมา…


“ฮัลโหล?” ผมกรอกเสียงลงไปแบบอิดโรย


“ไง! ไม่สบายหยุดไปหลายวัน?” เสียงหัวหน้าโผล่มาดังลั่น “อาทิตย์นี้อย่าลืมมาโอทีนะ จะให้คนอื่นทำแทนตลอดไม่ได้นะเว้ย”


“ครับ หัวหน้า" ผมตอบสั้น ๆ


"ตอนที่นายไม่อยู่น่ะ งานกองเป็นภูเขาเลยนะ! ถ้านอนอิ่มแล้วก็รีบกลับมาทำงาน"


ผมเงียบไปอึดใจ ความจริงก็รู้อยู่แล้วว่าหัวหน้าคนนี้ไม่ใช่สายอบอุ่น แต่ในใจลึก ๆ ก็ยังแอบหวังว่าจะได้ยินอะไรประมาณว่า “สบายดีขึ้นแล้วใช่ไหม” …สุดท้ายก็ไม่มี มีแต่งาน งาน แล้วก็งาน


“ครับ เดี๋ยวผมจะกลับไป”


ผมกดวางสาย ถอนหายใจแรง ๆ เหมือนจะถอนหนี้ทั้งชีวิตออกไปด้วย แต่ก็เปล่าเลย…


โลกความจริงนี่มันโหดร้ายกว่าความฝันเยอะ อย่างน้อยในฝัน ผมยังมีคนรักถึงสี่คนคอยห่วงใย แต่ในความจริง…ผมมีหัวหน้าคนเดียวที่ห่วงแต่งานกับเดดไลน์ จะให้เลือก ผมก็อยากกลับไปฝันมากกว่าอยู่ดี






ผมใช้ชีวิตในวันถัดมาเหมือนมนุษย์เงินเดือนทั่วไป อาบน้ำ แต่งตัว ใส่เชิ้ตกับกางเกงสแลคที่ยับนิด ๆ จากการรีบข้ามคืน นั่งรถไฟฟ้าเบียดเสียดกับผู้คน แล้วก็มานั่งก้มหน้าทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ทั้งวัน ทุกอย่างดูปกติ เป็นชีวิตที่คุ้นเคยจนแทบไม่ต้องคิดอะไรด้วยซ้ำ แต่แปลกที่ทุกวินาทีในโลกนี้ กลับทำให้ผมรู้สึกโหวง ๆ เหมือนข้างในถูกเว้นว่างไว้ตรงไหนสักแห่ง


บางครั้งระหว่างประชุม ผมก็เผลอเหม่อไป คิดถึงใบหน้าที่ไม่ชัดเจน เสียงทุ้มอบอุ่นที่เหมือนเคยเอ่ยปลอบผม หรือมือใครสักคนที่เคยกุมมือผมแน่นราวกับจะไม่ยอมปล่อย ผมจำชื่อเขาไม่ได้ จำไม่ได้เลยสักคนเดียว แต่หัวใจผมกลับเต้นแรงทุกครั้งที่ภาพพวกนั้นแล่นผ่านขึ้นมาในหัว


“ให้ตายสิ…จะจริงจังอะไรกับความฝันกันนะ” ผมพึมพำเบา ๆ พลางหัวเราะขื่นกับตัวเอง


จนกระทั่งช่วงพักกลางวัน ผมก็เอาเรื่องนี้ไปเล่าให้เพื่อนร่วมงานฟัง พวกเขาหัวเราะกันครืนทันทีที่ผมบอกว่า


“เมื่อคืนฉันฝันแปลกมาก ฝันว่าตัวเองแต่งงาน มีสามีพร้อมกันตั้งสี่คนแน่ะ พวกเขาหล่อเว่อร์ ๆ แล้วก็รักฉันมากด้วยนะ”


“ฮ่า ๆ ๆ นายคงดูซีรีส์มากไปจนเอามาปนกับความฝันแล้วล่ะ” เพื่อนคนหนึ่งแซว


ผมได้แต่หัวเราะตาม


ทุกคืนก่อนจะหลับตา มือผมมักจะเผลอเอื้อมไปบนเตียงว่างเปล่า…เหมือนกำลังหาความอบอุ่นที่ไม่อยู่ตรงนั้นอีกแล้ว ความฝันมันเลือนลางลงทุกวันจริง ๆ …แต่ความรู้สึกกลับชัดเจนเหลือเกิน


บางที…ผมอาจจะไม่ได้ฝันไปจริง ๆ ก็ได้






คืนนั้นผมนอนไม่ค่อยหลับ พลิกตัวไปมาบนเตียงเก่าในห้องเช่าเล็ก ๆ ความเงียบของเมืองยามดึกถูกแทนที่ด้วยเสียงเครื่องยนต์ที่ยังแว่วอยู่ไกล ๆ ลมเย็นพัดลอดเข้ามาทางหน้าต่างบานเล็กที่เปิดค้างไว้ ผ้าม่านบาง ๆ สะบัดเบา ๆ เหมือนห้องกำลังหายใจตามจังหวะลม


ผมถอนหายใจพลางเอามือกดลงบนท้องน้อย ความเจ็บหน่วงที่ยังติดค้างอยู่ทำให้ข่มตาไม่ลงสักที กำลังคิดว่าควรจะลุกไปกินยาแก้ปวดหรือไม่


“เซย์เรน…”


เสียงหนึ่งดังขึ้นแผ่วเบา คล้ายกระซิบมากับสายลม


ร่างผมชะงักไปในทันที หัวใจเต้นแรงขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทั้งที่ควรตกใจ แต่แปลกที่มันกลับไม่ได้น่ากลัวเลย เสียงนั้น…ฟังดูคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ราวกับเคยได้ยินครั้งแล้วครั้งเล่า เพียงแต่จำไม่ได้ว่าที่ไหน


ผมค่อย ๆ ลุกขึ้นนั่งบนเตียง หันไปมองทางหน้าต่าง แต่สิ่งที่เห็นมีเพียงเงาตึกสูงเรียงราย และแสงไฟถนนที่ส่องลอดขึ้นมา


ท้องฟ้าเหนือเมืองกลับสว่างผิดปกติ ดาวระยิบระยับเต็มฟ้า ราวกับมีใครโรยผงแก้วลงมาจากเบื้องบน สว่างจนดูเกินจริง ในเมืองที่ปกติไม่เคยเห็นดาวชัดขนาดนี้ ผมยืนมองมันอยู่นานเหมือนถูกสะกด


เสียง กริ๊ง เบา ๆ ดังขึ้นจากพื้นตรงหน้าต่าง สะดุดหูจนต้องก้มลงมอง สิ่งที่เห็นคือแหวนวงหนึ่ง ตัวเรือนทำจากหินใส สะท้อนประกายสีรุ้งแวววาวไปตามมุมที่แสงกระทบ แปลกตาจนใจสั่น และ…คุ้นตาอย่างประหลาด เหมือนผมเคยเห็นที่ไหนมาก่อน


ผมเอื้อมมือหยิบมันขึ้นมา ก่อนจะลองสวมลงบนนิ้วโดยไม่ทันคิดอะไร


ทันใดนั้น


“เซย์เรน…”


เสียงที่เคยแผ่วเบาราวกับเล็ดลอดมากับลม ค่อย ๆ ชัดขึ้นเหมือนอยู่ใกล้เข้ามาทีละก้าว จากเลือนลางกลายเป็นดังอยู่ข้างหู อุ่นร้อนเหมือนลมหายใจที่แทบจะสัมผัสได้จริง ๆ


หัวใจผมเต้นแรงจนแทบทะลุออกมา นิ้วที่สวมแหวนนั้นร้อนผ่าวราวกับมีพลังบางอย่างแล่นเข้ามาในร่าง


เสียงนั้นใกล้เข้ามาจนผมสัมผัสได้เหมือนจริง ก่อนที่ทุกอย่างจะเกิดขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว ร่างผมถูกดึงเข้าไปกอดแน่นในอ้อมแขนของใครบางคน!


“เฮ้ย!!” ผมตกใจจนหัวใจแทบหลุดออกมา มันชัดเจนเกินไป แขนจริง ๆ อุ่นจริง ๆ ทั้งที่ผมอยู่คนเดียวในห้องนี่นา ความคิดแรกแวบเข้ามา


ผีแน่ ๆ!


ไม่ก็โจรโรคจิตที่ปีนเข้ามากลางดึก


ผมพยายามดิ้น ผลักออกเต็มแรง ก่อนจะคว้าไม้กวาดที่ตั้งพิงผนังไว้ข้างเตียงมาแกว่งสุดชีวิต ตีไปสองสามทีเต็ม ๆ “ผัวะ! ผัวะ!” จนคนร่างนั้นล้มลงไปกองกับพื้น


ผมยืนหอบหายใจแรง มือยังยกไม้กวาดขึ้นตั้งการ์ดไว้แน่น ก่อนรีบพุ่งไปกดสวิตช์ไฟในห้อง


แสงนีออนสีขาวกระพริบวูบขึ้น และในวินาทีนั้น…


ผมถึงกับตะลึง


ตรงหน้าคือชายหนุ่มที่นอนอยู่กับพื้น ใบหน้าหล่อเหลาราวกับรูปสลัก ผมสีเงินยาวสลวยถึงกลางหลัง สะท้อนแสงไฟจนเกือบแสบตา ดวงตาสีฟ้าอ่อนเจือประกายเงินคู่นั้นกำลังจ้องกลับมาอย่างนิ่งสงบ


เขาสวมชุดยาวคล้ายเสื้อคลุมโบราณ ประดับด้วยลายปักแปลกตาที่ผมไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน มันดูหรูหราเกินกว่าจะเป็นของจริงในโลกนี้ จนผมแทบอ้าปากค้าง


“…โจรสมัยนี้แต่งคอสเพลย์ด้วยเหรอ?” ผมพึมพำออกมาเสียงเบา สายตายังไม่วางจากร่างตรงหน้า


ชายคนนั้นยกมือขึ้นแตะตรงหัวไหล่ที่เพิ่งโดนผมฟาดไปเต็มแรง ริมฝีปากยกยิ้มบาง ๆ แล้วหัวเราะเบา ๆ


“มือหนักเหมือนกันนะ ฝ่าบาท…”


เสียงทุ้มต่ำติดขรึมแต่กลับไม่ใช่โทนดุดัน มันออกจะฟังดูอบอุ่นเสียด้วยซ้ำ


เขาค่อย ๆ ยันตัวลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เงาของเขาทอดลงมาคลุมร่างผมจนเล็กลงไปถนัดตา สูงกว่า แถมยังสง่างามจนผมเผลอกลืนน้ำลาย รู้สึกเหมือนกำลังยืนต่อหน้าตัวละครในฝันอีกครั้ง


“นี่…ฉันฝันอยู่รึเปล่าเนี่ย?” ผมพึมพำกับตัวเอง ตายังจับจ้องใบหน้าหล่อเหลานั่นที่ดูเกินจริงไปมาก


แต่รอยยิ้มที่เขามีเมื่อครู่กลับค่อย ๆ เลือนหายไป แทนที่ด้วยแววตาเศร้าลึกจนผมสะท้าน ขอบตาของเขาดูสั่นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่วลงมา


“ข้ามีนามว่า…แรนทีล”


ดวงตาสีฟ้าประกายเงินคู่นั้นสบกับผมตรง ๆ จนหัวใจผมแทบหยุดเต้น


“ข้าเป็นสวามีลำดับที่สอง…ของรัชทายาทเซย์เรน”


คำพูดนั้นทำให้ผมขนลุกวาบไปทั้งร่าง สมองพยายามหาคำอธิบาย แต่กลับยิ่งสับสนเข้าไปใหญ่


แรนทีลยกมือขึ้นเล็กน้อย แต่ร่างกายของเขากลับสั่นแปลก ๆ ผมมองชัดเจนว่า เงาของเขาเริ่มจางลง เหมือนหมอกที่กำลังจะถูกลมพัดหายไป


“ข้ากำลังฝ่าฝืนกฎของกาลเวลา” เขากล่าวช้า ๆ น้ำเสียงแผ่วแต่ก้องสะท้อนในอกผม “ร่างของข้า…คงอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน”


ผมเม้มปากแน่น พยายามบอกตัวเองว่านี่มันต้องเป็นฝัน แต่ทุกคำที่เขาพูด ทุกการสั่นไหวของแสงในดวงตา กลับจริงเกินไป


“ข้าเคยพบกับท่านแล้ว…เซย์เรน” แรนทีลเอ่ยต่อ “ก่อนหน้านี้ ข้าได้ทำพิธีอัญเชิญวิญญาณศักดิ์สิทธิ์จากต่างโลก และนั่นคือครั้งแรกที่เราได้พบกัน”


ภาพเลือนรางบางอย่างผุดขึ้นมาในหัวผม เหมือนความฝันที่เคยเห็นแต่ไม่เคยเข้าใจ


“เมื่อเจ้าของร่างเดิมได้จากไป ข้าได้ผนึกความทรงจำทั้งหมดเอาไว้ เพื่อรอวันที่จะย้อนกลับไปยังห้วงเวลาเดิมอีกครั้ง…เพื่อแก้ไขเส้นเรื่องอันเลวร้ายทั้งหมด”


เสียงของเขาสั่นไปเล็กน้อย ก่อนเอ่ยชัดถ้อยคำสุดท้าย


“และบัดนี้ ข้าเพิ่งได้ความทรงจำที่ถูกผนึกไว้นั้นคืนมา… ข้าถึงได้รู้ความจริง ว่าคนที่ข้ารักแท้จริงแล้ว มิใช่รัชทายาทเซย์เรนที่โลกนั้นรู้จัก…แต่คือท่าน”


ดวงตาสีเงินคู่นั้นทอประกายสั่นไหวด้วยทั้งรักและโศกเศร้า


“ชายจากต่างโลก ผู้เปี่ยมด้วยความอ่อนโยนและจิตใจดี…แตกต่างจากเซย์เรนคนก่อนที่ทั้งหยิ่งผยอง และทอดทิ้งเหล่าสวามีอย่างไม่ไยดี”


ร่างของแรนทีลสั่นคลอนมากขึ้นเรื่อย ๆ แสงสีเงินที่ห่อหุ้มร่างค่อย ๆ จางหายไปเหมือนหมอกควัน แต่เขายังคงฝืนยืนตรงต่อหน้าผม ดวงตาสีฟ้าประกายเงินเต็มไปด้วยความเศร้าลึก


“ข้า…ได้ทำพิธีอัญเชิญอีกครั้ง” เสียงเขาสั่นพร่า แต่ยังหนักแน่นพอจะฟังชัด “ครั้งนี้…คือการเดิมพันครั้งสุดท้ายของชีวิตข้า”


ผมยืนนิ่ง รู้สึกเหมือนอากาศในห้องหนักอึ้งจนหายใจแทบไม่ออก


แรนทีลทอดสายตามองตรงมา ก่อนเอ่ยช้า ๆ ทีละคำ “หลังจากที่ท่านฟื้นขึ้นในโลกนี้…ที่โลกของข้า รัชทายาทผู้เป็นที่รัก…ก็ได้จากไปแล้ว พร้อมกับเด็กในครรภ์”


หัวใจผมสะท้านวูบ ความเจ็บหน่วงในท้องน้อยที่ยังติดอยู่เหมือนถูกสะกิดขึ้นมาอีกครั้ง


“ไม่ใช่เพราะบาดแผล ไม่ใช่เพราะพิษร้ายใด ๆ…” เสียงเขาแผ่วลง “แต่เป็นเพราะร่างนั้น ภาชนะที่ไร้วิญญาณ ไม่อาจคงอยู่ต่อไปได้อีก”


ผมกัดริมฝีปากจนชา ไม่กล้าสบตาเขา แต่ก็ไม่อาจละสายตาไปได้


“หลังจากเซย์เรนจากไป…ความผิดทั้งหมดพุ่งมาที่พวกเรา เหล่าสวามี ถูกกล่าวหาว่าละเลยหน้าที่ ปล่อยให้ผู้เป็นรัชทายาทพบจุดจบอย่างน่าเศร้า” แรนทีลเม้มปากแน่น ก่อนเสียงของเขาจะสั่นสะท้านหนักขึ้น “และนั่น…คือการเปิดทางให้ซาร์เอลก่อกบฏ ยึดราชบัลลังก์”


ผมตัวเย็นวาบทันทีที่ได้ยินชื่อนั้น


“ราชินีผู้ไม่อาจต้านอำนาจได้…จึงสั่งโทษพวกเรา”


เขาหยุดหายใจไปวูบหนึ่ง ราวกับกำลังฝืนความเจ็บปวดข้างใน ก่อนจะพูดต่อ น้ำเสียงเต็มไปด้วยแรงสะเทือนอารมณ์


“เอลเซียน สวามีลำดับที่หนึ่ง…ถูกสั่งให้ออกศึก และต้องสังเวยชีวิตกลางสนามรบ พร้อมกับทหารภายใต้บังคับบัญชากว่าสามแสนนาย…จบสิ้นอย่างอนาถ”


ผมเผลอพึมพำออกมาเบา ๆ “…ไม่…”


“ไคเรน สวามีลำดับที่สาม…ถูกตัดสินประหารต่อหน้าสภา” แรนทีลกำมือแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อ “ทั้งที่เขา…มีแต่ความภักดี”


เสียงแหบพร่าขาดห้วงไปเล็กน้อย ก่อนเขาจะเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแต่เต็มไปด้วยความปวดร้าว


“ส่วนเฟลด์…เขาไม่มีความผิดใด ๆ เลย แต่กลับเลือกจะคุ้มกันข้าให้หนี เขาใช้ร่างของตนเองเป็นโล่กำบัง ระหว่างที่เราถูกจอมเวทย์อีกฝ่ายไล่ล่า…จนสุดท้าย เขาก็จบชีวิตลง”


ผมยกมือขึ้นปิดปาก สายตาสั่นไหวจนแทบมองไม่ชัด


“และข้า…” แรนทีลพูดต่อ ดวงตาสีเงินพร่างพรายด้วยน้ำตาที่ไม่ทันร่วง “ข้าที่เหลืออยู่เพียงลำพัง ได้ทำพิธีอีกครั้ง พิธีต้องห้ามที่แลกด้วยทุกสิ่ง เพื่อข้ามกาลเวลา…เพื่อเปิดประตูมิติมาตามหาท่าน ด้วยการนำทางของแหวนวงที่ท่านสวมอยู่ เป็นสิ่งแทนใจที่ข้าได้มอบให้ท่าน ต่อให้อยู่ไกลลับฟ้า หรือแม้กระทั่งอีกโลกหนึ่ง ข้าก็จะตามหาท่านจนพบ”


ร่างเขาสั่นมากขึ้น จนแทบจะเลือนหายไป


“ความหวังเดียวของข้า คือการที่เซย์เรน หรือท่าน…กลับไปกับข้า” เสียงนั้นสั่นแต่จริงจัง “แต่หากท่านไม่ต้องการ ข้าก็จะไม่ฝืน…”


แรนทีลค่อย ๆ ยกมือขึ้นเหมือนจะเอื้อมมาสัมผัส แต่กลับชะงักไว้กลางอากาศ


“เพียงแค่ได้รู้ว่าท่านยังมีชีวิตอยู่…เท่านี้ ข้าก็ตายตาหลับแล้ว”


ร่างโปร่งแสงของเขาสั่นคลอนราวกับเปลวไฟที่ใกล้ดับ ทุกถ้อยคำที่เอ่ยออกมาทำให้ห้องทั้งห้องเหมือนจะถล่มทลายลงมาพร้อมกับหัวใจของผม


“คุณจะให้ผมเชื่ออย่างนั้นเหรอ…” ผมหัวเราะแห้ง ๆ ทั้งที่เสียงสั่นจนแทบขาดใจ "อย่างกับนิยายแฟนตาซีที่เคยอ่านมาแน่ะ"


“เหลือเวลาไม่มากแล้ว…” แรนทีลเอ่ยแผ่วเบา


“คุณคือคนในฝันของผมจริง ๆ ใช่ไหม?” ผมถาม รู้สึกสับสนจนแทบไม่ไหว “ชื่อนั้นคุ้นเหลือเกิน แต่ภาพมันเลือนราง ผมไม่รู้แล้วว่าอะไรจริง อะไรฝัน…หรือว่าผมกำลังจะเสียสติไปแล้วกันแน่”


แรนทีลสบตามา น้ำเสียงอ่อนโยนราวกับจะประคองหัวใจที่แตกสลายของผมไว้ “เซย์เรน…ไม่ว่าตอนนี้ท่านจะเป็นใครก็ตาม แต่สำหรับพวกข้า…ท่านคือยอดดวงใจ เปรียบเสมือนแสงสว่างที่นำทางในยามมืดมิดเช่นนี้”


ทำไมกัน…หัวใจผมถึงเจ็บขนาดนี้?


คำบอกรักที่หลุดออกมาในสถานการณ์แบบนี้ มันคืออะไรกันแน่ ทั้งใสซื่อ ทั้งจริงใจ จนเกินกว่าที่ผมจะเชื่อได้ว่าเป็นเรื่องจริง


“แล้วถ้าผม…ไม่กลับไปกับคุณ ทุกคนจะเป็นยังไง?”


“ครั้งนี้…คือครั้งสุดท้ายจริง ๆ” เสียงแรนทีลหนักแน่นอย่างปวดร้าว “ข้าไม่อาจย้อนหรือแก้ไขสิ่งใดได้อีก หากแหวนวงนี้แตก…จิตวิญญาณที่ข้าผูกไว้ก็จะสลายหายไปตลอดกาลเช่นกัน”


ผมเม้มปากแน่น ความรู้สึกหนักอึ้งบีบคั้นจนแทบกลั้นหายใจ


“ทั้งหมดนี้…ทำไมต้องเป็นผม?” เสียงผมสั่นเครือ “ผมก็แค่พนักงานออฟฟิศธรรมดา ๆ ไม่มีอะไรพิเศษเลยสักนิด ทำไมถึงเลือกผม…ทำไมต้องเป็นผมล่ะ…”










Talk with me.


เป็นตอนที่บีบคั้นหัวใจไรท์มาก แบบสงสารสวามี


เหตุผลที่เซย์เรนได้ถูกดึงกลับมาที่โลกปัจจุบัน เพราะอาการบาดเจ็บสาหัส และเป็นโชคชะตาที่ให้เขาได้กำหนดเองว่าจะเลือกอยู่โลกเดิม หรือตัดสินใจกลับไปช่วยคนรัก


ฝากเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยน้าาา


รักคนอ่าน❤️

🌸 一期一会 (いちごいちえ)

นายกสโมสร

กระทู้
0
ตอบกลับ
53913
พลังน้ำใจ
275466
Zenny
108116
ออนไลน์
21757 ชั่วโมง
โพสต์ 11 ชั่วโมงที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด

ประธานนักศึกษา

กระทู้
100
ตอบกลับ
5923
พลังน้ำใจ
68588
Zenny
171109
ออนไลน์
22109 ชั่วโมง

สมาชิกจีโฟกาย 100%สมาชิกระดับแพลตตินั่มสมาชิกระดับทับทิมสมาชิกระดับไพลินสมาชิกระดับมรกต

โพสต์ 8 ชั่วโมงที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
ถ้าจบแบบปวดตับจะโกรธไรท์จริงนะ 5555
อ่านตั้งแต่ตอนแรก สวามีทั้ง 4 จะจบแบบนี้ไม่ได้นะะะ
การรอคอย เป็นสิ่งที่ช่างแสนยาวนาน  

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
223
ตอบกลับ
54
พลังน้ำใจ
8601
Zenny
35637
ออนไลน์
2797 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 8 ชั่วโมงที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
abc55 ตอบกลับเมื่อ 2025-10-29 12:08
ถ้าจบแบบปวดตับจะโกรธไรท์จริงนะ 5555
อ่านตั้งแต่ตอนแรก สวามีทั้ง 4 จะจบแบบนี้ไม่ได้นะะะ

555
มีดราม่านิดนึงงง เดี๋ยวก็พากันกลับแล้ววว
🌸 一期一会 (いちごいちえ)

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
0
ตอบกลับ
331
พลังน้ำใจ
3508
Zenny
2642
ออนไลน์
407 ชั่วโมง
โพสต์ 4 ชั่วโมงที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
เย้ มาต่อแล้ว
แต่มาแล้ว ก็หนักอึ้งในบัดดล
ไม่นะ ….
ขอบคุณครับ

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
223
ตอบกลับ
54
พลังน้ำใจ
8601
Zenny
35637
ออนไลน์
2797 ชั่วโมง
 เจ้าของ| โพสต์ 4 ชั่วโมงที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
GuN009 ตอบกลับเมื่อ 2025-10-29 16:24
เย้ มาต่อแล้ว
แต่มาแล้ว ก็หนักอึ้งในบัดดล
ไม่นะ ….

มันเป็นช่วงผ่านด่านเคราะห์ค้าบบ เดี๋ยวก็แฮปปี้แล้วนะ
🌸 一期一会 (いちごいちえ)
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2025-10-29 20:45 , Processed in 0.110665 second(s), 27 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2025 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้