ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 105|ตอบกลับ: 8

หัวใจดีไซน์ Ep.11 (สถาปนิกxคนงานก่อสร้าง)

[คัดลอกลิงก์]

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
195
ตอบกลับ
50
พลังน้ำใจ
7604
Zenny
34156
ออนไลน์
2290 ชั่วโมง
โพสต์ เมื่อวาน 11:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด |โหมดอ่าน




ตอนที่ 10




เสียงประตูปิด ปัง ก้องสะท้อนในห้องเช่าเล็ก ๆ บรรยากาศอับชื้นและแคบจนแทบหายใจไม่ออก พระพายหอบหายใจแรง ยืนพิงกำแพงเหมือนสัตว์เล็กถูกต้อนจนมุม


“มึงต้องการอะไรกันแน่!?” พระพายตะคอกออกมา เสียงสั่นทั้งเพราะโกรธทั้งเพราะหวาดระแวง “มึงจะตามกูมาทำเหี้ยอะไรอีก กูเบื่อที่ต้องหนีมึงเต็มทีแล้วนะ!”


นะโมยกคิ้วเล็กน้อย แต่ไม่ได้มีท่าทีโกรธ เขายักไหล่ ก้าวเข้ามาช้า ๆ น้ำเสียงทุ้มต่ำเต็มไปด้วยความกวนประสาท “กูมาตามหาแมว…มันหลุดไปตอนที่กูเผลอหลับ”


พระพายชะงักไปเสี้ยววินาที ก่อนกัดฟันแน่น ดวงตาแดงก่ำจ้องกลับ “แล้วทำไมมึงต้องมาตามหาที่ห้องกูวะ!?”


นะโมหัวเราะในลำคอเบา ๆ แววตาคมมองอีกฝ่ายไม่วางตา ก่อนจะตอบเสียงหนักแน่นแต่เต็มไปด้วยแววท้าทาย “ก็แมวตัวนั้นมันดื้อ ทำยังไงก็ไม่เชื่องสักที…กูเลยต้องมาพามันกลับเอง”


พระพายตัวสั่น แววตาไหววูบเหมือนกำลังสู้กับความรู้สึกข้างใน เสียงสั่นพร่าแต่ยังดื้อรั้น “กูไม่ใช่สัตว์เลี้ยงของมึงนะ!”


“ก็พิสูจน์ให้กูเห็นสิว่ามึงไม่ใช่…” นะโมก้าวเข้ามาอีกหนึ่งก้าว จนเหลือระยะห่างเพียงแค่เอื้อม แรงกดดันในแววตาของเขาเหมือนกำลังบังคับให้อีกฝ่ายต้องตอบอะไรสักอย่าง


พระพายกัดริมฝีปาก เลือดแทบจะซึมออกมา เขาเกลียด…ที่ตัวเองสั่นทุกครั้งที่สายตาของนะโมมองมาแบบนี้


นะโมก้าวประชิดจนแทบจะได้กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ปนเหงื่อจากร่างผอมบาง เขาจ้องพระพายที่ยังยืนเกร็งอยู่ริมกำแพง สายตาคมกริบเหมือนกดให้อีกฝ่ายจนมุม


“กูถามตรง ๆ เลยแล้วกัน…” เสียงทุ้มกดต่ำจนบรรยากาศในห้องอึดอัดหนักกว่าเดิม “ทำไมต้องทำร้ายนับหนึ่งด้วย มึงเกลียดอะไรนักหนา ถึงได้เล่นสกปรกแบบนั้น”


พระพายเบือนหน้าหนีทันที ไม่ยอมสบตา มือกำกระเป๋าสั่นจนเส้นเลือดขึ้นชัด


นะโมกัดฟันแน่น ก่อนขึ้นเสียง “กูถาม…ก็ตอบ!”


พระพายสะดุ้งเหมือนถูกตบกลางใจ เสียงสั่นพร่าหลุดออกมา ทั้งโกรธ ทั้งอัดอั้น “กูบอกแล้วไงว่าเรื่องวันนั้นมันไม่เกี่ยวกับกู! กูไม่ได้เป็นคนทำ! มึงจะให้กูพูดอีกกี่ครั้ง!”


น้ำตารื้นขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เขาสูดหายใจเฮือกใหญ่ พยายามกดกลืนความเจ็บปวด แต่ยิ่งพูดก็ยิ่งเสียงแตกพร่า “ใช่…กูก็คิดจะทำจริง! กูโกรธ กูอิจฉา…กูวางแผนเอาไว้แล้ว…แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร มึงก็โผล่มา ทำให้แผนกูพังหมด!”


เสียงสะอื้นดังขึ้น พระพายตัวสั่น ร้องไห้โฮเหมือนเด็กที่หมดแรงต่อสู้ สุดท้ายทรุดฮวบลงกับพื้น กำมือทุบลงไปอย่างเจ็บแค้นทั้งตัวเองทั้งโชคชะตา


นะโมยืนมองเงาร่างตรงหน้า ใจที่แข็งกร้าวพลันสั่นไหวในชั่วขณะ ภาพพระพายที่เคยยโส หัวแข็ง อวดดี ตอนนี้เหลือแค่คนที่ร้องไห้จนหน้าชื้นเปื้อนน้ำตา เหมือนกำแพงศักดิ์ศรีทั้งหมดพังทลายลงตรงหน้าเขา


นะโมมองพระพายที่นั่งทรุดร้องไห้ไม่หยุด เสียงสะอื้นสั่นสะท้านไปทั้งห้อง เขาถอนหายใจยาวก่อนจะก้มตัวช้อนร่างผอมบางขึ้นมาแนบอก


“ปล่อยนะ…กูไม่อยาก…!” พระพายพยายามดัน แต่แรงเท่ากับเด็กกำลังงอแง ไม่พอจะต้านคนอย่างเขาได้เลย


นะโมอุ้มพามานั่งลงบนเตียง ก่อนนั่งลงข้าง ๆ ไม่สนใจแรงต้านอ่อนปวกเปียกของพระพาย ร่างเล็กยังสะอื้นฮัก ๆ ไม่หยุด จนเขาต้องกัดฟันใช้เสียงดุดันตวาดขึ้น


“มึงจะหยุดร้องได้หรือยัง! วันนี้กูจะคุยกับมึงให้รู้เรื่อง!”


พระพายสะอึกเงียบไปในทันที เสียงร้องสะอื้นแผ่วเบาลงอย่างคนที่ถูกกดด้วยอำนาจ เสียงหอบยังสะท้อนอยู่ในลำคอ


นะโมยกมือหนาเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มให้ ก่อนโน้มหน้าเข้ามาใกล้ จ้องตาอีกฝ่ายแน่วแน่ “มองหน้ากู”


พระพายกัดริมฝีปาก สั่นสะท้าน แต่สุดท้ายก็ต้องเงยขึ้นสบตาเขา ดวงตาสองคู่ประสานกัน ความจริงที่พยายามหนีมาตลอดถูกบีบให้เผชิญหน้า


นะโมเอ่ยช้า ๆ แต่เสียงหนักจนบีบอารมณ์ “ทำไมต้องหนีกูด้วย หืม?”


พระพายอึกอัก สายตาวูบไหวเหมือนหาคำตอบไม่เจอ


นะโมแค่นหัวเราะต่ำในลำคอ แววตาแข็งกร้าวดั่งนักล่า “คืนนั้น…กูจำรายละเอียดไม่ได้หรอก เพราะเมาหนักฉิบหาย” เขากดเสียงต่ำลงทุกถ้อยคำ “แต่กูรู้ว่ากูพาแมวตัวนึงกลับมาด้วย กูจำได้ชัด…เสียงครางที่แม่งแทบร้องขอชีวิต แมวตัวเล็กที่ดิ้นพล่านตอนที่กูซอยสะโพกใส่ไม่ยั้งจนแทบขาดใจ”


เขาโน้มตัวเข้ามาใกล้จนปลายจมูกแทบจะชนกัน ลมหายใจร้อนผ่าวปะทะปลายริมฝีปาก พระพายแทบหายใจไม่ออก ความกดดันบีบคั้นรอบห้อง


“แล้วแมวตัวนั้น…แม่งเสือกเป็นมึง กูถึงว่าทำไมเวลามึงเจอหน้ากู มึงถึงได้วิ่งหนี หรือไม่ก็ตัวสั่นชิบหายแบบนี้”


“หุบปากไปเลยนะ!” พระพายตะคอกเสียงดัง มือสั่นสะท้านทั้งที่ยังพยายามผลักอกแกร่งออกไป


นะโมยกคิ้ว ยิ้มเยาะทั้งยังจ้องตาไม่กะพริบ “ทำไมวะ…มึงอายเหรอ กลัวใครจะรู้ว่ามึงเคยนอนกับคนงานอย่างกู?” เขากดเสียงต่ำลงอีกขั้น “แต่กูก็เด็ดถึงใจมึงใช่มั้ย ไม่อย่างนั้นคงไม่ส่ายก้นให้กูแบบนั้นหรอก”


ริมฝีปากหยักโน้มลงใกล้ใบหู กระซิบชัด “หรืออยากให้กูช่วยทบทวนความทรงจำให้อีกรอบ”


คำพูดเสียดแทงของนะโมเหมือนตอกย้ำซ้ำลงกลางอก พระพายกัดฟันแน่น พยายามจะเอ่ยโต้กลับแต่เสียงก็ขาดหายไปในลำคอ เขาได้แต่หลบสายตาคมกริบที่มองมา ความเงียบงันกดทับบรรยากาศจนได้ยินแค่เสียงหอบหายใจของทั้งคู่


ริมฝีปากพระพายสั่นระริก แต่สุดท้ายก็ไม่เปล่งคำใดออกมา สายตาที่พยายามเชิดขึ้นเริ่มพร่าเพราะม่านน้ำตา แววตาเหมือนคนที่ถูกต้อนจนมุมและไม่เหลือหนทางหนี


นะโมมองภาพนั้นอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะสูดลมหายใจแรงแล้วลุกขึ้นเต็มความสูง เงาของเขาทาบทับร่างเล็กบนเตียง ริมฝีปากกระตุกยิ้มบางที่เต็มไปด้วยความเด็ดขาด


“วันนี้กูจะยอมกลับไปดี ๆ …” เสียงทุ้มต่ำชัดเจนทุกถ้อยคำ “แต่มึงจำเอาไว้ พระพาย…มึงห้ามหนีกูอีก”


เขาก้าวถอยออกไปสองก้าว แต่สายตายังคมกริบไม่คลายจากใบหน้าเปียกชื้นด้วยน้ำตานั้น


“ถ้ากูมาหาแล้วไม่เจอมึง…” น้ำเสียงเข้มข้นเย็นเยียบจนพระพายตัวสั่นสะท้าน “…คงรู้นะ ว่ามึงจะต้องโดนอะไร”


พูดจบ นะโมก็หมุนตัวเดินออกจากห้องไป ประตูปิดลงอย่างแรง เหลือเพียงพระพายที่นั่งตัวสั่นอยู่บนเตียง หัวใจเต้นระรัวทั้งจากความหวาดกลัวและบางอย่างที่เขาเองก็ไม่อาจอธิบายได้









พระพายทรุดนั่งกับพื้นห้องเช่าซอมซ่อ น้ำตาเอ่อล้นราวกับเขื่อนแตกไหลรินไม่หยุด เสียงสะอื้นสั่นสะท้านสะท้อนก้องในห้องแคบ ๆ มือสั่นบีบแขนตัวเองแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อเป็นรอยเลือดซิบ แต่เจ็บกายยังไงก็ไม่เจ็บเท่าเจ็บใจ


เขาเกลียดตัวเอง… เกลียดที่เกิดมาในครอบครัวที่ไม่เคยใส่ใจ ไม่เคยโอบกอด ไม่เคยให้ความรู้สึกว่ามี “บ้าน” อยู่จริง ๆ ทั้งชีวิตเหมือนถูกทอดทิ้งให้เดินอยู่คนเดียวท่ามกลางความว่างเปล่า


โลกทั้งใบของพระพาย เคยมีเพียง “คีตะ” … คนที่เคยเป็นเหมือนดวงไฟสว่างเล็ก ๆ ท่ามกลางความมืดมิดในชีวิตที่หนาวเหน็บ แต่ไฟดวงนั้นก็ดับวูบไปอย่างง่ายดาย เหลือเพียงเถ้าถ่านร้อนที่เผาใจเขาให้ปวดร้าวยิ่งกว่าเดิม


“คีตะ…” เสียงเรียกชื่อแผ่วเบาเหมือนคำคร่ำครวญ แววตาพระพายพร่าเลือนด้วยหยดน้ำใส เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพราะอะไรถึงกลายเป็นคนที่เลวร้ายได้ถึงขนาดนี้ ทั้งที่เขารัก… แต่ก็เป็นรักที่บิดเบี้ยวจนผลักคนสำคัญให้หนีห่างออกไป


ความทรงจำย้อนกลับมา… ตั้งแต่วันวานที่ทั้งสองเติบโตเคียงข้างกัน ผ่านทุกช่วงเวลาชีวิตมาด้วยกัน พระพายคิดเสมอว่าตัวเองจะไม่ต้องโดดเดี่ยวอีก แต่เพราะความผิดพลาด ความคิดโง่เขลา ทำให้ช่องว่างระหว่างเขากับคีตะกว้างขึ้นเรื่อย ๆ


ไฟที่เคยส่องสว่าง ค่อย ๆ จางหายไปจากชีวิตเขา


จนบัดนี้ โลกทั้งใบของพระพาย… กลับมามืดมนอีกครั้ง


ดวงตาที่แดงก่ำ บวมช้ำเพราะน้ำตาที่พรั่งพรูไม่หยุด ร่างกายของพระพายสั่นสะท้านเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง แต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยเสียงตะโกนที่ไม่เคยหยุด ดุดัน ก่นด่า กระซิบซ้ำแล้วซ้ำเล่า


“มึงมันเลว”


“ไม่มีใครรักมึงหรอก”


“ถ้ามึงไม่อยู่…ก็คงไม่มีใครสนใจด้วยซ้ำ”


เขารู้ดี หากตอนนี้ยังนั่งอยู่ในห้องเช่าที่เงียบงันคนเดียวต่อไป ความคิดโง่ ๆ อาจจะพาเขาไปสู่จุดที่ไม่อาจหวนกลับ พระพายกัดริมฝีปากแน่น กำมือจนเล็บกดลึกลงไปกับฝ่ามือ แล้วตัดสินใจรวบกระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์ขึ้นมา


เขาแต่งตัวลวก ๆ ก้าวออกจากห้องด้วยใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตา เสียงประตูไม้เก่าปิดดัง ปัง ราวกับตัดขาดความหวังเล็ก ๆ ที่ยังเหลืออยู่


ปลายทางเดียวที่ผุดขึ้นในหัวตอนนี้…คือ “ร้านเหล้าประจำ” ที่เขาเคยไปย้อมใจกับเพื่อนฝูง แต่ครั้งนี้ไม่มีใครไปด้วย ไม่มีเสียงหัวเราะ ไม่มีบทสนทนาใด ๆ มีเพียงเขา กับความตั้งใจเพียงอย่างเดียว


“เมาให้ลืมแม่งทุกอย่าง…แค่คืนนี้ก็พอ”


พระพายพึมพำกับตัวเองเสียงแผ่ว ก่อนจะก้าวเดินไปตามทางเท้า มุ่งหน้าเข้าสู่ความวุ่นวายของยามค่ำคืน ราวกับหวังให้เสียงเพลงดังและรสขมของแอลกอฮอล์ช่วยกลบเสียงในหัวที่กำลังทำร้ายตัวเอง









เสียงเพลงเบสหนัก ๆ กระแทกโสตประสาทในร้านเหล้าสลัว พระพายนั่งก้มหน้าอยู่กับแก้วตรงหน้า มือเรียวกำแก้วแน่น ก่อนจะกระดกเข้าปากเหมือนน้ำเปล่า แก้วแล้วแก้วเล่า รสขมและแสบร้อนของแอลกอฮอล์ไม่ได้ช่วยลบอะไรออกไป มีแต่ยิ่งทำให้หัวใจร้อนรุ่ม น้ำตาที่เหือดแห้งไปแล้วกลับเอ่อขึ้นใหม่จนสายตามัว


“นี่ครับ เติมอีก” เขาสะบัดมือเรียกเด็กเสิร์ฟ ทั้งที่ตายังแดงก่ำ


เวลาผ่านไปไม่รู้กี่ชั่วโมง ร่างกายเริ่มโงนเงน หัวเอียงไปมาเหมือนจะทิ่มโต๊ะ คนรอบ ๆ มองเขาอย่างสนใจ บางคนก็หัวเราะเยาะ บางคนก็หันไปกระซิบกระซาบ


ไม่นาน ชายแปลกหน้าร่างสูงเข้ามาโอบไหล่พระพาย กลิ่นเหล้าปนบุหรี่คลุ้งมากับลมหายใจ “เป็นอะไรหรือเปล่าครับ…หน้าตาน่ารักแบบนี้ มานั่งคนเดียวมันเหงาไปนะ”


พระพายสะบัดไหล่หนีทันที เสียงเมา ๆ แต่ยังพอมีแรงปฏิเสธ “ไม่ต้อง…ไปให้พ้น”


แต่ไอ้คนนั้นกลับยิ้มเยาะ ก้มลงจะเอื้อมแตะต้นคอ ลากมือผ่านแขนบางที่สั่นสะท้าน พระพายรีบผลักออกเต็มแรง แต่เพราะเมาจนเซ เสียงหัวเราะรอบโต๊ะดังขึ้นคล้ายจะเป็นเชียร์


“อย่ามายุ่งกับกู!” พระพายตะโกนลั่น เสียงแหบพร่า


ชายคนนั้นกลับหัวเราะหยัน “เล่นตัวนี่หว่า เดี๋ยวก็ยอมเองแหละ” ว่าพลางก็จะเอื้อมมือมาอีกครั้ง


ผัวะ!


หมัดหนักพุ่งกระแทกเข้าหน้าชายคนนั้นเต็มแรง เสียงกระดูกดังสะท้อนในความชุลมุน ร่างสูงล้มกองไปกับพื้นทันที ก่อนเสียงโวยวายและโต๊ะรอบ ๆ จะสะดุ้งโกลาหล


พระพายเงยหน้าขึ้นอย่างมึนงง แล้วภาพตรงหน้าก็ทำให้ร่างกายแข็งทื่อไปทั้งตัว—


นะโม ยืนอยู่ตรงนั้น ใบหน้าดุดัน ดวงตาแข็งกร้าว มุมปากกระตุกยกขึ้นอย่างข่มขู่


“กูบอกแล้วไง…ให้อยู่ห้องดี ๆ” เสียงทุ้มต่ำลอดออกมาเหมือนฟ้าคำราม “แล้วนี่มึงออกมาแรดอีกแล้วหรอ หึ?”


พระพายยังไม่ทันจะได้อ้าปากตอบ ร่างก็ถูกยกพาดบ่าเหมือนกระสอบแป้ง คนตัวเล็กดิ้นพร่า ๆ มือทุบไหล่แข็งแกร่ง แต่แทบไม่มีแรงเพราะฤทธิ์เหล้า


“ปล่อยกูนะ! ไอ้เหี้ย ปล่อย!!”


“หุบปากไปเลยพระพาย ก่อนที่กูจะอุ้มมึงกลับแบบไม่สนสายตาใคร” นะโมคำรามลอดไรฟัน ขาก้าวยาว ๆ ฝ่าความวุ่นวายในร้านที่เต็มไปด้วยเสียงแตกตื่น


ภาพชายร่างใหญ่แบกคนตัวบางออกไปจากร้านกลางสายตาคนมากมาย กลายเป็นเรื่องเล่าขานทันที แต่สำหรับพระพายในตอนนี้ โลกทั้งใบกำลังหมุนคว้างระหว่างความเมา ความโกรธ และความอับอายที่กลืนกินหัวใจจนแทบแตกสลาย


เสียงประตูรถกระแทกปิดดัง ปัง! นะโมโยนร่างของพระพายลงบนเบาะหน้าอย่างไม่อ่อนโยนมากนัก ก่อนจะอ้อมไปขึ้นฝั่งคนขับ มือใหญ่คว้าเข็มขัดนิรภัยดึงมากระแทกล็อกลงอย่างแรงเหมือนจะตอกย้ำว่า มึงไม่มีสิทธิ์หนีไปไหนทั้งนั้น


พระพายที่เมาแล้วทั้งมึนทั้งโกรธ ตวัดสายตาแดงก่ำใส่ทันที “ไอ้สัตว์! กูบอกให้ปล่อย…กูไม่ใช่ของเล่นมึงนะ!” เสียงสั่นพร่าแต่เต็มไปด้วยแรงข่มอารมณ์


นะโมเหลือบตามอง แววตาคมกริบจนบรรยากาศอึดอัดไปทั้งคันรถ “หุบปากแล้วนั่งเฉย ๆ เถอะ ก่อนที่กูจะทำให้มึงเงียบด้วยวิธีอื่น”


“มึงคิดว่ามึงเป็นใครวะ! มึงไม่มีสิทธิ์มาลากกูออกมาจากที่นั่น!” พระพายตะโกนลั่น มือสั่นจะปลดเข็มขัดออก แต่มือใหญ่ของนะโมก็คว้าไว้ทัน เสียงดัง แกร๊ก พร้อมแรงบีบที่ทำให้พระพายเจ็บจนต้องชักมือกลับ


“สิทธิ์กูสร้างเอง เข้าใจมั้ยพระพาย” นะโมกัดฟัน เสียงทุ้มต่ำกดลงหนักทุกถ้อยคำ “มึงเมา มึงแทบไม่มีสติ แล้วปล่อยให้ไอ้พวกเวรนั่นแตะเนื้อต้องตัว…ถ้ากูมาช้ากว่านี้นิดเดียว มึงคิดว่าตัวเองจะเหลือสภาพไหนวะ!?”


“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับมึง!!” พระพายเถียงกลับ น้ำเสียงสั่นเครือระหว่างความโกรธกับความเจ็บในใจ “มึงไม่ใช่ผัวกู มึงไม่มีสิทธิ์มาเสือกชีวิตกูแบบนี้!”


นะโมหัวเราะหึ ๆ ในลำคอ เสียงเย็นเยียบ “ไม่ใช่ผัวของมึงงั้นหรอ…แต่มึงเป็นเมียกูว่ะ ถ้าร่านรูขนาดนี้ กูก็ไม่ปล่อยให้เมียหิวหรอกนะ”


“กูเกลียดมึง!” พระพายตะโกนสุดเสียง น้ำตาไหลพรากลงอาบแก้ม “กูแม่งเกลียดมึงที่สุดในชีวิต! กูไม่อยากเห็นหน้ามึงอีกแล้ว ได้ยินมั้ย!”


รถทั้งคันเงียบกริบหลังจากเสียงตะโกนนั้น เหลือเพียงเสียงเครื่องยนต์คำรามต่ำ ๆ กับลมหายใจหนัก ๆ ของคนทั้งคู่


นะโมกำพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดที่หลังมือปูดขึ้น เสียงตอบกลับมาช้า ๆ แต่เฉียบคมราวกับคมมีด “งั้นกูจะทำให้มึงเกลียดกูจนไม่กล้าแม้แต่จะคิดหนีไปไหนอีก…คอยดู”









ไฟหน้ารถสปอร์ตดับลงตรงลานกว้างของบ้านใหญ่ เงียบสงัดไร้ผู้คน ราวกับวังร้างเพราะครอบครัวของนะโมไปงานประมูลที่ต่างประเทศ เหลือเพียงป้าแม่บ้านแก่ ๆ ที่เฝ้าดูแลความสะอาด


ประตูฝั่งคนขาถูกเปิดออก ก่อนที่ร่างเล็กหมดแรงจะถูกอุ้มลงจากรถในอ้อมแขนแข็งแรงของนะโม พระพายหลับตาพริ้มเพราะฤทธิ์เหล้าและความเพลีย แต่ริมฝีปากยังขมุบขมิบเหมือนละเมอหนีไปให้ไกลที่สุด


นะโมก้มมองแวบหนึ่ง ดวงตาคมกริบวาวขึ้น ก่อนจะก้าวยาว ๆ พาขึ้นบันไดหน้าบ้านไป


“คุณหนู…นั่นใครเหรอคะ” ป้าแม่บ้านที่ออกมาต้อนรับถามขึ้นเสียงแผ่ว เพราะเพิ่งเห็นคุณหนูคนเล็กอุ้มใครเข้าบ้านแบบนั้น


นะโมเหลือบตาลงต่ำ ยกคางเชิดเล็กน้อยก่อนตอบเสียงเรียบ แต่กดต่ำจนฟังดูไม่ใช่คำอธิบาย แต่เป็นคำสั่งที่ไม่อนุญาตให้ซักไซ้อะไรอีก


“แมวน้อยของผม”


ป้าแม่บ้านถึงกับนิ่งค้างไปเล็กน้อย แต่ก็รีบพยักหน้าเข้าใจในทันที


นะโมเดินตรงขึ้นบันไดชั้นสองไปโดยไม่สนใจเสียงฝีเท้าที่ตามหลังมา เขาเอียงหน้ามองพระพายในอ้อมแขนที่เริ่มพึมพำอะไรแผ่ว ๆ จนเขาต้องกอดกระชับขึ้นแน่น


เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องนอนใหญ่ เขาก็เอ่ยเรียกเสียงขรึมลงไปทางบันได


“ป้า…เอาเสื้อผ้ามาให้แมวน้อยของผมเปลี่ยนด้วย เอาแบบที่ใส่สบาย”


“ค่ะ คุณหนู” ป้าแม่บ้านก้มหน้ารับคำสั่ง


นะโมเตะประตูห้องเบา ๆ แล้วก้าวเข้าไปในห้องมืดสลัว กลิ่นเครื่องหอมจาง ๆ ตีกับกลิ่นเหล้าที่ติดตัวพระพายมา เขาวางร่างเล็กลงบนเตียงใหญ่หนานุ่ม สายตายังจับจ้องใบหน้าที่แดงจัดของอีกฝ่ายไม่วางตา


ริมฝีปากกระตุกยกขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพึมพำเหมือนพูดกับตัวเอง


“คืนนี้…จะได้รู้กันซะที ว่าแมวน้อยดื้อ ๆ จะหนีกูไปถึงไหน”


เสียงเคาะประตูเบา ๆ ดังขึ้นหลังจากที่นะโมวางพระพายลงบนเตียงได้ไม่นาน


“คุณหนู…เสื้อผ้าที่ให้หามา เอามาไว้ตรงนี้นะคะ”


ป้าแม่บ้านเปิดประตูแง้มเข้ามา วางชุดนอนผ้าฝ้ายเนื้อนุ่มลงบนโต๊ะข้างเตียง ก่อนจะรีบถอยออกไปอย่างรู้กาลเทศะ


นะโมเหลือบมองเพียงเสี้ยววินาทีแล้วหันกลับมาที่ร่างเล็กบนเตียง มือหนาเอื้อมไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตที่ยับยู่ยี่เพราะการดิ้นรนในร้านเหล้า กลิ่นเหล้าผสมกลิ่นบุหรี่ติดเนื้อตัวโชยออกมา จนคนที่จับอยู่ถึงกับขมวดคิ้ว


“สกปรกชิบหาย…” เขาพึมพำเบา ๆ ก่อนจะตัดสินใจอุ้มพระพายพาเข้าห้องน้ำด้านใน


ไฟในห้องน้ำสว่างวาบ เผยผิวซีดเซียวของพระพายที่หลับใหลอยู่ในอ้อมแขน เขาถูกวางลงบนเก้าอี้นวมเล็กข้างอ่างอาบน้ำ นะโมถอดเสื้อออกอย่างระมัดระวัง ราวกับกลัวว่าร่างบางจะหักสลายไป


และนั่นเองที่สายตาคมเหลือบไปเห็น รอยเล็บจิกยาวเป็นทาง บนท่อนแขนและสีข้าง บางรอยยังแดงจัดเหมือนเพิ่งกรีดลงไปไม่กี่ชั่วโมงก่อน


นะโมหยุดชะงัก ร่างสูงค้างไปเสี้ยววินาที ดวงตาที่เคยมีแต่ความก้าวร้าวค่อย ๆ อ่อนลงจนแทบดูไม่ออกว่าเป็นคนเดียวกัน เขาเอื้อมมือไปแตะรอยแผลนั้นเบา ๆ ปลายนิ้วสากไล้ไปตามร่องรอยที่ไม่ควรอยู่บนผิวเนื้อของคนตรงหน้า


“ทำไม…ต้องทำร้ายตัวเองขนาดนี้ด้วยวะ” น้ำเสียงทุ้มต่ำหลุดออกมาแผ่ว ๆ คล้ายคำบ่นกับตัวเองมากกว่าจะพูดให้ใครฟัง


พระพายขยับตัวเล็กน้อย พึมพำเหมือนคนฝัน “อย่า…อย่ามายุ่ง…”


เสียงสั่นพร่าทำให้นะโมยิ่งกดกราม เขาสูดลมหายใจเข้าลึก คว้าผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นแล้วเริ่มเช็ดตัวให้อย่างระมัดระวัง มือหนาลูบไล้ไปทั่วทั้งตัว ทั้งแผ่นหลังที่เต็มไปด้วยเหงื่อและกลิ่นแอลกอฮอล์ ทั้งแขนเรียวยาวที่ยังมีรอยจิก และแม้แต่ปลายนิ้วที่เย็นเฉียบจนดูไร้ชีวิตชีวา


นะโมถอนหายใจแรง กลอกตาขึ้นมองเพดานพยายามข่มอารมณ์ ก่อนจะก้มลงกระซิบใกล้หู “กูไม่รู้ว่ามึงเกลียดกูแค่ไหน…แต่ต่อให้มึงจะฆ่าตัวเอง กูก็ไม่ยอมปล่อยมึงไป เข้าใจมั้ย”


มือใหญ่ค่อย ๆ เช็ดไปตามช่วงขา ร่างเล็กสะดุ้งน้อย ๆ แต่เพราะเมาและเพลียเกินกว่าจะต่อต้าน จึงได้แต่นั่งพิงอยู่เงียบ ๆ


นะโมมองภาพนั้นแล้วหัวใจเต้นแรงด้วยทั้งความหงุดหงิดและสงสาร เขาเร่งมือทำความสะอาดต่อจนเสร็จ ก่อนจะใช้ผ้าขนหนูห่อร่างเล็กไว้ ยกขึ้นอุ้มในอ้อมแขนแน่นหนา


พระพายซบหน้าลงกับไหล่กว้างอย่างไม่รู้ตัว เสียงลมหายใจแผ่วดังชิดใบหู นะโมเม้มปากอีกครั้ง ก่อนก้มลงกระซิบแผ่ว ๆ ราวกับคำสัญญาที่จะไม่หลุดไปไหน


“ต่อให้มึงเกลียดกูแค่ไหน…คราวนี้กูก็จะไม่ปล่อยมึงไปอีกแล้ว”









แสงแดดอุ่นลอดผ่านม่านบางสีขาวเข้ามาในห้องใหญ่ พระพายขยับเปลือกตาช้า ๆ สมองยังตื้อจากฤทธิ์แอลกอฮอล์เมื่อคืน ทุกอย่างพร่าเลือนราวกับฝัน


“อื้อ…” พระพายพึมพำ พลิกตัวอย่างเชื่องช้า ก่อนจะชะงักค้าง เมื่อรับรู้ได้ถึงวงแขนแข็งแรงที่กอดรัดเขาไว้แน่นจากด้านหลัง อกกว้างแนบอยู่กลางหลังจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่เป่ารดต้นคอ


ดวงตาเบิกกว้างในพริบตา ใจเต้นรัวระส่ำ — ไอ้บ้านั่น!


พระพายรีบหันกลับไปมองด้วยความตกใจ และสิ่งที่เห็นก็คือใบหน้าหล่อคมของนะโมที่กำลังนอนหลับสบาย…


“เวรเอ้ย…นี่มันอะไรกัน” เขาพึมพำเบา ๆ เสียงสั่นนิด ๆ แล้วรีบดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนของอีกฝ่ายทันที


แต่ยิ่งดิ้น วงแขนหนาก็ยิ่งกระชับแน่นขึ้น ราวกับนะโมตั้งใจจะกักขังเขาไว้ในอ้อมกอดให้นานที่สุด


“ปล่อย…ไอ้เชี่ย ปล่อยกูสิ!” พระพายกดเสียงต่ำอย่างโมโห แต่ปลายเสียงยังแฝงความสั่นไหวอยู่ดี


นะโมไม่ตอบอะไร เปลือกตายังปิดสนิท แต่ริมฝีปากหยักกลับกระตุกน้อย ๆ เหมือนกำลังขำอยู่ในใจ


“...ไอ้เลว แกล้งหลับหรอ?” พระพายกัดฟัน พลางดันอกกว้างของเขาสุดแรง แต่แทนที่จะได้อิสระ วงแขนของนะโมกลับดึงร่างบางเข้ามากอดชิดจนแทบจะฝังแนบไปกับอกแกร่ง


กลิ่นกายอุ่น ๆ ของอีกฝ่ายปะปนกับกลิ่นสะอาดจากผ้าปูเตียงจนทำให้พระพายยิ่งรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง ใบหน้าร้อนผ่าวไปหมด


เมื่อคืน…เขากลับมายังไง? แล้วทำไมถึงได้มาตื่นอยู่บนเตียงเดียวกันกับไอ้คนที่เขาเกลียดขี้หน้า? หรือว่า…


ความคิดร้ายผุดขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ใจหวิวจนแทบหยุดเต้น พระพายรีบสะบัดผ้าห่มขึ้นสำรวจร่างกายตัวเองแทบจะทันที ความโล่งใจถาโถมเข้ามาเมื่อเห็นว่ายังมีเสื้อผ้าใส่ครบทุกชิ้น…


ทว่าเป็นเสื้อผ้าที่ไม่ใช่ของเมื่อคืน


นี่มันควรจะเป็นความโล่งใจจริง ๆ ใช่ไหม?


แต่ยังไม่ทันจะได้ถอนหายใจ…ดวงตาก็ดันไปสะดุดกับบางอย่างใต้ผ้าห่ม


‘อะ–ไอ้บ้าเอ๊ย!’


สิ่งที่ดันขึ้นมาอย่างเด่นชัดกลางกางเกงของนะโม ทำเอาใบหน้าพระพายร้อนวาบขึ้นทันที หูแดงซ่านจนแทบลามไปถึงต้นคอ


“…”


เขารีบสะบัดผ้าห่มปิดกลับลงมาแทบจะในทันที ทำเป็นไม่เห็น ไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น มือขยุ้มผ้าห่มแน่นเหมือนจะปกป้องตัวเองจากความอับอายที่แล่นพล่านไปทั้งตัว


ข้าง ๆ กัน นะโมหลี่ตาเล็กน้อย มุมปากยกขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ ก่อนกระชับวงแขนแน่นขึ้นกว่าเดิม กอดพระพายไว้แน่นเหมือนตั้งใจจะกวนประสาทให้ได้


“ตื่นแล้วเหรอ…เมียกู”




--------------------------------------------
ฝากติดตามต่อด้วยนะครับ
ตอนนี้เสิร์ฟความฟินของคู่ นะโม พระพาย ยาวๆ
หวังว่าจะชอบกันนะครับ
มาดูกันว่านะโมจะปราบแมวน้อยตัวนี้ให้อยู่หมัดยังไง


ขอกำลังใจหน่อยนะครับ
รักคนอ่าน




คะแนน

จำนวนผู้เข้าร่วม 1พลังน้ำใจ +16 Zenny +300 ย่อ เหตุผล
ดอกม่วง + 16 + 300

ดูบันทึกคะแนน

🌸 一期一会 (いちごいちえ)

นายกสโมสร

กระทู้
0
ตอบกลับ
52456
พลังน้ำใจ
268037
Zenny
105395
ออนไลน์
20923 ชั่วโมง
โพสต์ เมื่อวาน 12:09 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
13
ตอบกลับ
3945
พลังน้ำใจ
40594
Zenny
721
ออนไลน์
17696 ชั่วโมง
โพสต์ เมื่อวาน 12:19 | ดูโพสต์ทั้งหมด
รักครับ รักคนเขียนเช่นกัน

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
1
ตอบกลับ
625
พลังน้ำใจ
5566
Zenny
2166
ออนไลน์
428 ชั่วโมง
โพสต์ เมื่อวาน 13:03 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขอบคุณครับ เรื่องนี้สนุกดี ครีบรอติดตาม

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
ตอบกลับ
289
พลังน้ำใจ
2748
Zenny
2579
ออนไลน์
290 ชั่วโมง
โพสต์ เมื่อวาน 16:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด
สนุกมากครับ ต้องแบบนี้ถึงทันกัน แต่ก็มีหวานไปด้วยนะ
โอ่ย รอตามตอนต่อไป
ขอบคุณครับ

นายกสโมสร

กระทู้
28
ตอบกลับ
33590
พลังน้ำใจ
186941
Zenny
189028
ออนไลน์
30973 ชั่วโมง
โพสต์ เมื่อวาน 17:30 | ดูโพสต์ทั้งหมด
เลิฟครับผม

ประธานนักศึกษา

กระทู้
1
ตอบกลับ
7944
พลังน้ำใจ
51011
Zenny
42374
ออนไลน์
2561 ชั่วโมง
โพสต์ เมื่อวาน 17:50 | ดูโพสต์ทั้งหมด

ประธานนักศึกษา

กระทู้
51
ตอบกลับ
12188
พลังน้ำใจ
69614
Zenny
52860
ออนไลน์
6054 ชั่วโมง
โพสต์ เมื่อวาน 19:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด

นิสิตสัมพันธ์

กระทู้
34
ตอบกลับ
3320
พลังน้ำใจ
37426
Zenny
865
ออนไลน์
8321 ชั่วโมง
โพสต์ 15 ชั่วโมงที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
สนุกมาก
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2025-9-3 22:46 , Processed in 0.105048 second(s), 27 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2025 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้