ลืมรหัสผ่าน
 สมัครเข้าเรียน
ค้นหา
ดู: 15|ตอบกลับ: 3

ช่วยผมด้วย..ผมโดนมาเฟียรุมข่มขืน!? Chapter 35

[คัดลอกลิงก์]

มาเฟียนักศึกษา

กระทู้
160
ตอบกลับ
45
พลังน้ำใจ
6401
Zenny
28747
ออนไลน์
1740 ชั่วโมง
โพสต์ 5 ชั่วโมงที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด |โหมดอ่าน


Chapter 35
มือของใครบางคนที่ไม่มีวันยอมปล่อย




เจบียังคงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น ทั้งร่างสั่นเล็กน้อยจากความอ่อนแรงที่กัดกินมาตลอดหลายวัน กล้ามเนื้อทั้งตัวตึงเครียดเหมือนเชือกที่ถูกดึงใกล้ขาด มือข้างที่กุมปืนแน่นจนสั่น ราวกับเป็นสิ่งเดียวที่ยังยึดรั้งเขาไม่ให้พังลงไปตรงนั้น


ดวงตาแดงจัด ไม่ใช่เพียงจากความเหนื่อยล้า แต่เป็นผลรวมของทุกสิ่งที่เขาต้องแบกรับ ทุกความเจ็บปวด ความกลัว และความคั่งค้างที่ไม่มีใครเคยเห็น


เขาเม้มปากแน่น กลั้นเสียงสะอื้นที่ตีขึ้นมาถึงลำคอ แต่ก็ไม่อาจกลั้นแววตาที่สั่นไหวได้เลย


มันคือสายตาของคนที่ไม่เชื่ออะไรอีกแล้ว


และกลัวเกินกว่าจะเชื่อใครได้อีกครั้ง


เสี่ยวไป๋พยายามก้าวเข้าใกล้อีกนิด ทว่าทันใดนั้น—


ปัง!


กระสุนเจาะลงพื้นหน้ารองเท้าเขาไม่ถึงคืบ เศษปูนกระเด็นข้ามปลายเท้า ร่างของเสี่ยวไป๋ชะงักกึกขณะเจบีตวัดปืนขึ้นเล็งอีกครั้ง นิ้วแตะไกแน่น หอบหายใจรัว


“อย่าเข้ามา!” เสียงของเขาสั่นพร่าแต่หนักแน่นพอจะทำให้ทุกอย่างหยุดนิ่ง


“ออกไป…” เจบีพึมพำ ราวกับเสียงทั้งหมดหลุดออกมาจากที่ลึกที่สุดในอก ใบหน้าซีดเซียวเต็มไปด้วยเหงื่อ และน้ำตาที่รื้นขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว


“ฉันไม่ไปไหนกับพวกนายทั้งนั้น!!”


เสียงตะโกนสั่นเทานั้นแทบฉีกตัวเองออกเป็นเสี่ยง มันไม่ใช่คำพูดที่เอาไว้ผลักใครออกไป แต่มันเป็นกำแพงสุดท้าย ที่เอาไว้ป้องกันหัวใจที่กำลังแตกสลาย


เขาหอบหายใจแรง มือที่ถือปืนเริ่มสั่น แต่ยังยกไว้แนบอก เหมือนมันเป็นโล่ชิ้นสุดท้ายระหว่างเขากับอดีตทั้งหมด


เสี่ยวไป๋ชะงัก สายตาไหววูบเล็กน้อย


“ขอร้องล่ะ…” เขาเอ่ยเบา ราบเรียบ แต่เจือสั่น “เราไม่มีเวลาแล้ว…”


เจบีสั่นน้อย ๆ หายใจขาดห้วง ริมฝีปากที่เม้มไว้แน่นคล้ายกำลังกลืนบางอย่างลงคอ เสียงแตกพร่าเอ่ยสวนกลับออกมาในที่สุด


“ฮึก...ปล่อยฉันไปเถอะ…”


เสียงเบา เหมือนอ้อนวอนกับโชคชะตา


“ไม่ต้องมาสนใจว่าฉันจะเป็นจะตายยังไง…ฉันไม่ได้สำคัญขนาดนั้น…”


คำพูดสุดท้ายเหมือนตบหน้าใครบางคนเข้าเต็มแรง


“เจบี…” เสียงของเสี่ยวไป๋แทบหลุดเป็นลมหายใจ เขาอยากจะพูด อยากจะบอกว่าไม่จริง ว่าเจบีสำคัญแค่ไหน…แต่ก็กลืนคำทั้งหมดลงคอ


ยังไม่ทันที่ใครจะได้พูดต่อ เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังขึ้นจากประตู ราฟาเอโร่กับเรนตามเข้ามาถึงพร้อมกันทันที ก่อนจะหยุดชะงักเมื่อเห็นสถานการณ์ในห้องที่ตึงเครียดถึงขีดสุด


เจบียังถือปืนชี้ไปที่พวกเขา ใบหน้าซีดขาว สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัวปนสับสน


เสียงปืนดังมาจากด้านนอก ฝีเท้าหลายคู่วิ่งวุ่นวาย เสียงสื่อวิทยุแทรกมาเป็นจังหวะสั้น ๆ


เจบีหันขวับ ปืนยังคงเล็งไว้อย่างไม่ไว้ใจใครเลยแม้แต่คนเดียว


“ถอยออกไป!!” เขาตะโกนสุดเสียง น้ำเสียงสั่นแต่แน่น แววตาเหมือนคนที่ไม่มีอะไรจะเสียอีกต่อไปแล้ว


ทันใดนั้น ประตูที่แง้มไว้ก็ถูกเปิดออกอีกครั้ง


ชายในชุดสูทสีเข้มเดินเข้ามาเงียบ ๆ สายตาคมเยือกเย็นกวาดมองไปรอบห้อง ก่อนจะหยุดอยู่ที่เด็กหนุ่มซึ่งยังถือปืนไว้ในมือ ราวกับคนอื่นในห้องเป็นเพียงธาตุอากาศไร้ตัวตน


“ฉันมารับคนของฉัน...” เสียงทุ้มเรียบเอ่ยขึ้น ลอยออกมาเหมือนลมหายใจ แต่คมพอจะตัดความเงียบทั้งห้องให้แหลกละเอียด


“หวังว่าพวกนายจะให้ความร่วมมือ”


ราฟาเอโร่เหลือบตามองเสี้ยววินาที ก่อนเรนจะก้าวขึ้นหน้า เถียงกลับเสียงต่ำแต่ชัดเจน


“แต่เขาก็เป็นของเราเหมือนกัน”


คิมบอมแสยะยิ้มเย็น ยกมือไพล่หลังอย่างไม่สะทกสะท้าน


“หึ...งั้นก็ให้เขาบอกเองสิ ว่าเขาเป็นของใคร”


ทุกสายตาหันกลับไปยังเจบี ผู้เป็นศูนย์กลางของห้องเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยคนที่ล้วนแต่เคยทำให้เขาเจ็บ


เจบียืนนิ่ง เสียงฝีเท้าด้านนอกยังคงดังก้องเข้ามาเป็นระลอก เสียงปืนที่ลั่นไกล ๆ ทำให้หัวใจเขาเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ


ดวงตาของเจบีไล่มองไปทีละคน เสี่ยวไป๋ แคสเปอร์ เรน ราฟาเอโร่


พวกเขาอยู่ตรงหน้า...แต่กลับรู้สึกไกลเหมือนอยู่คนละโลก


เขากำปืนแน่นขึ้นอีก แต่แววตาเริ่มพร่าเลือน


“ฮันแจ...” เสียงหลุดออกมาแผ่วเบา แทบไม่ต่างจากลมหายใจ


เจบีหลุบตาลงต่ำ คำชื่อเพียงคำเดียวก็เพียงพอให้ทุกอย่างสั่นสะเทือนในใจ เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายยังปลอดภัยดีไหม ไม่รู้ว่าต้องแลกมาด้วยอะไรถึงจะรักษาไว้ได้ และเขา...ก็ไม่มีความกล้ามากพอที่จะเสี่ยงให้ใครต้องเจ็บแทนอีกแล้ว


เขาค่อย ๆ ลดปืนลง


ช้าและหนัก


เหมือนแบกรับโลกทั้งใบไว้ในฝ่ามือ


“ผมจะไปกับบอส...” เจบีพูดออกมาโดยไม่มองใคร


“เจบี!” เรนเผลอตะโกนออกมา


แต่เจบีเพียงแค่ส่ายหน้า น้ำตารื้นแต่ใบหน้าแข็งกร้าวเหมือนคนที่ตัดใจแล้ว


“พอแล้ว…แค่นี้มันก็เกินพอสำหรับคนอย่างฉันแล้ว”


เขาเดินผ่านพวกเขาไปช้า ๆ ราวกับทิ้งเงาตัวเองไว้ตรงนั้นทุกก้าว ก่อนจะหยุดตรงหน้าคิมบอม


คิมบอมไม่ได้ยิ้มเย้ยเหมือนก่อน เขาเพียงมองเด็กคนนั้นที่ยอมเดินกลับเข้ามาในกรงขังของตัวเองอีกครั้งด้วยสีหน้าที่อ่านไม่ออก


เจบีก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างช้า ๆ ทีละก้าว เหมือนร่างกายแต่ละส่วนกำลังตัดขาดจากความผูกพันในทุกฝีก้าวที่พ้นจากจุดเดิม เขาเดินผ่านหน้ากลุ่มอำนาจสีเงินทีละคนโดยไม่หันกลับมามอง ไม่แม้แต่จะสบตา


หยุดอยู่ตรงหน้าคิมบอมที่ยืนรออยู่


“ไปกันเถอะ”


เด็กหนุ่มที่ใครต่อใครเคยแย่งกันปกป้อง ยอมก้าวเข้าไปหาคนที่อันตรายที่สุดด้วยตัวเอง…อย่างเต็มใจ


แล้วเขาก็เดินตามคิมบอมออกไป ทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังรวมถึงหัวใจตัวเองด้วย


และไม่มีใครในห้องกล้าตามไปทันที


เพราะพวกเขาเอง…ก็ไม่แน่ใจอีกแล้ว ว่ายังมีสิทธิ์จะรั้งอีกฝ่ายไว้หรือไม่


ความเงียบหลังจากประตูบานนั้นปิดลง รุนแรงเสียยิ่งกว่าเสียงปืนใด ๆ ที่เคยได้ยิน


“แม่งเอ้ย!!” เรนสบถต่ำ ๆ ก่อนจะระเบิดอารมณ์ด้วยการเตะเข้าที่ขาโต๊ะไม้จนกระแทกกับผนังเสียงดัง ลมหายใจของเขารุนแรงเหมือนพายุที่ไม่มีทางปล่อยผ่านได้ง่าย ๆ ราวกับจะด่าทอตัวเองแทนใครทั้งโลก


แคสเปอร์ยืนพิงผนัง ใบหน้าเรียบนิ่ง แต่เส้นเลือดข้างขมับเต้นชัดเจนเกินกว่าจะเรียกว่าควบคุมได้


“ตอนนี้เราจะเอายังไงต่อ?” เสียงของเขาเรียบ แต่นัยน์ตากลับเต็มไปด้วยความคุกรุ่น


ราฟาเอโร่ไม่ตอบในทันที เขาเงียบไปครู่หนึ่ง แขนทั้งสองข้างประสานแน่นอยู่ตรงอก เงาของเขายาวเหยียดจากแสงที่ลอดผ่านหน้าต่างแคบด้านบน ก่อนจะพูดช้า ๆ ราวกับคำแต่ละคำมีน้ำหนักมากพอจะกดทับอากาศทั้งห้อง


“ทำตามแผน”


เขาเว้นจังหวะเหมือนกลืนบางอย่างลงคอ


“ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหน…เราต้องพาเขากลับมาให้ได้”


“แล้วถ้าเขาไม่ยอมล่ะ?”


แคสเปอร์ถามในน้ำเสียงที่ไม่เหลือความมั่นใจ


“กับสิ่งที่เราทำ…เขามีสิทธิ์จะไม่กลับมา ไม่แม้แต่จะมองหน้าเราอีก”


เงียบ


ไม่มีใครเถียง เพราะทุกคนรู้ ว่าคำพูดนั้น…จริง


“เราทำลายเขาไปแล้ว”


เสียงของเรนดังแผ่ว ราวกับพายุที่มอดลงในตัวเอง เขาทรุดตัวลงนั่งบนขอบเตียงที่เจบีเคยนั่ง มือข้างหนึ่งยกขึ้นปิดหน้า หัวไหล่สั่นเทา


“ทุกคนล้วนอยากได้เขาไว้ข้างตัว…แต่ไม่มีใครเลยที่เคยปกป้องเขาจริง ๆ”


เสี่ยวไป๋ยังไม่พูด เขายืนอยู่มุมห้อง ดวงตานิ่งสนิทแต่มีบางอย่างข้างในกำลังสั่นรุนแรง


“คนอย่างเจบี…เขาไม่เคยเป็นภัยต่อใครเลย แต่เราทำกับเขาเหมือนเขาคือจุดอ่อนที่ต้องกำจัดทิ้ง”


แคสเปอร์พูดเบา แต่คมราวกับมีดกรีดกลางใจ


“ทั้งที่เขา…เป็นเพียงเด็กคนหนึ่งที่พยายามอยู่รอดในโลกของผู้ใหญ่บัดซบแบบเรา”


ราฟาเอโร่ยังคงนิ่ง สีหน้ามีบางอย่างที่ยากจะอ่านออก เจ็บปวด โกรธ เฉยชา หรือทุกอย่างรวมกันจนไม่อาจแยกแยะ


“ฉันจะใช้ทั้งชีวิตที่เหลือไถ่โทษให้เขา”


เรนเงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงจัด แต่หนักแน่นกว่าเดิม









03:12 PM | อาคารฝั่งตะวันตก | ฐานเก่าเขตนัมยางจู


กลิ่นอับชื้นจากผนังเก่าที่ถูกกักแสงไว้นานลอยอบอวลในห้องปูนเปลือย ไร้หน้าต่าง ช่องระบายอากาศเดียวคือตะแกรงเหล็กเล็กด้านบนที่ห่างเกินจะเอื้อมถึง เจบีนั่งกอดเข่าตัวเองอยู่มุมหนึ่งของห้อง สภาพไม่ต่างจากทุกครั้งที่เขาถูกจับกลับมาหลัง “ทำพลาด”


ที่นี่คือจุดเริ่มต้น และบางที...อาจจะเป็นจุดจบ


เขานั่งนิ่งมาตลอดหลายชั่วโมง ไม่แม้แต่จะขยับ หัวพิงกำแพงเย็นเฉียบอย่างหมดแรง สายตาว่างเปล่าเหมือนกลวงโบ๋อยู่ภายใน ความเงียบบีบคั้นจนได้ยินเพียงเสียงลมหายใจแผ่ว ๆ ที่แทรกผ่านช่องอกสั่นไหว


...เขาไม่รู้ว่าจะมีวันพรุ่งนี้ไหม


และก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ำ ว่าอยากให้มีรึเปล่า


เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังมาจากนอกประตู


กลอนเหล็กถูกเลื่อนอย่างอ้อยอิ่ง ราวกับตั้งใจให้เสียงนั้นกัดกินขวัญกำลังใจที่เหลืออยู่น้อยนิด


ประตูเปิดออก พร้อมกับร่างหนึ่งที่ถูกเหวี่ยงลงมากระแทกพื้นต่อหน้าเขา


“ฮันแจ!” เจบีถลาเข้าไปทันที เสียงเขาแทบไม่เป็นเสียง หอบหายใจแรงและมือไม้สั่นเมื่อแตะตัวอีกฝ่ายที่เลือดซึมออกจากมุมปาก แผลเก่าซ้อนแผลใหม่ สภาพบ่งบอกชัดว่าไม่ได้ถูกลงโทษเพียงแค่ครั้งเดียว


เขาดึงฮันแจเข้ามากอดไว้แน่น ก่อนจะพลิกตัวบังร่างนั้นจากสายตาของคนที่เดินตามเข้ามาช้า ๆ ราวกับราชาที่เดินย่ำเข้ามาในห้องพิพากษา


คิมบอมยืนนิ่ง ดวงตาเย็นชาไร้ความรู้สึก


“เห็นหรือยัง?” น้ำเสียงของเขาเรียบ...แต่แหลมคมพอจะกรีดลงกลางอก


“นี่คือผลลัพธ์ของสิ่งที่นายทำ”


เจบีกัดฟันแน่น ดึงฮันแจเข้ามาซุกไว้กับอก ฝ่ามือเกร็งเหมือนกำลังต้านไม่ให้ตัวเองสั่น


“ฮึก…ทำไมต้องทำร้ายเขาขนาดนี้ด้วย…” เสียงเจบีสั่นพร่าแต่ยังพยายามควบคุม “เขาเป็นคนของบอสนะครับ เขาไม่ได้เกี่ยวด้วยเลย!”


“ฉันไม่ได้ทำอะไรเลย…” คิมบอมตอบเรียบ ๆ พลางเดินเข้ามาใกล้ ย่อตัวลงมองเด็กหนุ่มตรงหน้า “ทั้งหมดนี่…เป็นผลงานของนายเองต่างหาก”


เจบีสั่นเล็กน้อย คำพูดนั้นกระแทกใจจนหายใจไม่ทัน


“ผมไม่เข้าใจ…” เขาสูดหายใจเข้าลึก พยายามตั้งสติ “ทำไมบอสถึงต้องทำแบบนี้ เราผิดอะไรนักหนา?”


คิมบอมหัวเราะในลำคอ แผ่วเบาแต่น่ากลัวกว่าคำด่าทุกคำในโลก


“หึ...รักกันมากไม่ใช่เหรอ” เขาเอียงหน้ามองสายตาของเจบี “เจ็บแทนกันได้อยู่แล้วนี่...”


เจบีเงียบ ดวงตาแดงจัดและพร่ามัวไปด้วยน้ำตา เขากัดริมฝีปากแน่นจนแทบแตก


“บอสทำเหมือนพวกเราไม่ใช่คน…” เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง ทั้งแข็ง ทั้งอ่อน ทั้งสั่น ทั้งกร้าว


“ผมทำงานให้ตระกูลคิมมาตลอด...ผมไม่เคยทรยศ ไม่เคยแม้แต่คิด”


เงียบ


มีเพียงเสียงหายใจถี่จากร่างในอ้อมแขนของเขา ที่ค่อย ๆ ขยับขึ้นน้อย ๆ


“เจ...บี...”


ฮันแจครางชื่อเขาแผ่วราวกับลมหายใจ เสียงแตกพร่า สายตาเลื่อนลอย แต่ยังพยายามมองหน้าเจบี มือที่อ่อนแรงยกขึ้นเล็กน้อยแตะต้นแขนเขาเหมือนจะห้าม เขาส่ายหน้าช้า ๆ สั่นน้อย ๆ


แต่เจบีกลับกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น เหมือนต้องการเป็นกำแพงสุดท้ายของคนคนนี้ แม้จะรู้ว่ามันไม่อาจป้องกันอะไรได้เลยก็ตาม


คิมบอมยืนนิ่งในเงาสลัวของห้อง เงาร่างสูงเพรียวจ้องทั้งสองอย่างไร้ความรู้สึก ดวงตายังคงนิ่งสนิทราวกับไม่ได้เห็นความรัก แต่แค่เห็นหมากตัวหนึ่ง ที่ยอมทิ้งอิสระเพื่อปกป้องอีกตัวหนึ่ง


“ฉันให้โอกาสแล้ว…” น้ำเสียงราบเรียบของเขาแทรกเข้ามา ทิ่มแทงโดยไม่จำเป็นต้องตะคอก “แต่นายเลือกจะโยนมันทิ้งเอง”


เขาก้าวเข้ามาอีกก้าว ปืนสีดำเรียบแนบเย็นในมือถูกยกขึ้นอย่างเชื่องช้า…เล็งมาทางขมับของเจบี


“ข้อมูลนั่น ไร้ค่าไม่ต่างจากนายในตอนนี้” เสียงพูดราบเรียบ ไม่มีแววอารมณ์ใดหลงเหลือ เหมือนแค่กำลังสรุปความจริงข้อหนึ่ง “ฉันก็ไม่จำเป็นต้องมีนายอีกต่อไปแล้ว”


ปลายนิ้วคิมบอมแตะแนบไกปืนขณะที่อีกมือในกระเป๋ายังนิ่งสนิท


“อย่า!” ฮันแจกัดฟัน กายที่แทบขยับไม่ได้ยังฝืนคลานเข้าไป กอดขาของชายคนนั้นไว้แน่น “ได้โปรดครับ...อย่าทำเขา...ผมยอมทุกอย่าง แทนเขาก็ได้ แค่…อย่าทำอะไรเขาเลย”


เสียงวิงวอนของฮันแจสั่นพร่าจนแทบจับความหมายไม่ได้ ทว่าในน้ำเสียงนั้นมีทั้งความหวาดกลัว ความห่วงใย และความพยายามสุดท้ายที่จะปกป้องคนตรงหน้าอย่างสุดแรงที่เหลืออยู่


คิมบอมก้มลงมองเขา...นิ่งงัน


“หึ…” เขาหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แววตายังไม่มีแววเมตตาแม้แต่น้อย “ไอ้พวกไร้ประโยชน์…”


แล้วก็เหวี่ยงขาใส่ร่างที่เกาะอยู่อย่างไร้ความลังเล ฮันแจล้มลงกับพื้นอีกครั้ง เสียงกระแทกดังก้องไปทั้งห้อง เจบีเบิกตากว้าง หัวใจเหมือนหยุดเต้นไปในชั่ววินาทีนั้น


“หยุดนะ!!” เจบีตะโกน ร่างสั่นเทา โอบร่างของฮันแจไว้แน่นอีกครั้งแม้จะรู้ว่าตัวเองไม่มีทางต่อกรได้


มือข้างหนึ่งกำแน่นอยู่รอบตัวเขา และอีกข้างหนึ่งยังคงว่างเปล่า...รอเวลาที่จะต้องเลือกระหว่างยอมจำนน หรือยอมแตกสลายอีกครั้ง


คิมบอมก้าวเข้ามาช้า ๆ น้ำเสียงของเขาราบเรียบ ไร้แววตื่นเต้นหรือโกรธเกรี้ยว ราวกับสิ่งที่กำลังจะทำเป็นเพียงการ ‘จัดระเบียบ’ สิ่งที่เขาไม่ต้องการอีกต่อไป


“ทำไม?” เขาพูด ขณะยกปืนขึ้นจ่อไปยังเจบี


“นายอยากเป็นอิสระมาตลอดไม่ใช่เหรอ...ฉันจะช่วยให้ได้มันเดี๋ยวนี้”


เจบีหลับตาแน่น ร่างสั่นเทา ความเจ็บจากแผลเก่าฉุดรั้งร่างกายแทบไม่ไหว เขารู้สึกถึงลมหายใจของคิมบอมใกล้กับใบหน้า รู้สึกถึงปลายเหล็กเย็นเฉียบที่แนบอยู่กับผิวขมับ


และในเสี้ยววินาทีนั้น…เขาตัดสินใจ


ฟึ่บ!


มือว่างคว้าข้อมือคิมบอมไว้ก่อนที่ปลายนิ้วจะลั่นไก อีกมือสะบัดขึ้นอย่างแม่นยำ ปัดปืนขึ้นเบี่ยงจากแนวร่างของเขา แล้วแย่งมันออกมาได้ในชั่วพริบตา


ปัง!!


กระสุนถูกยิงสวนกลับในระยะประชิด เฉี่ยวไหล่ของคิมบอมไปเพียงเล็กน้อย เสียงปืนก้องในห้องแคบจนเหมือนทุกอย่างหยุดนิ่ง


เสียงฝีเท้าและตะโกนสั่งกึกก้องจากคนของคิมบอมที่อยู่ด้านนอก


“บอส!!”


“จับมันไว้!!”


ชายชุดดำหลายคนกรูกันเข้ามา เจบีถอยหลังพร้อมร่างของฮันแจในอ้อมแขน มืออีกข้างกำปืนแน่น ยิงออกไปเป็นระยะเพื่อถ่วงเวลาและเปิดทาง


การปะทะเริ่มต้นขึ้นอย่างวุ่นวาย


เจบีเคลื่อนไหวอย่างชำนาญ ดวงตาแดงก่ำแต่ยังวาวโรจน์ เขาพาร่างของฮันแจหลบเข้าด้านใน ใช้ทุกทักษะที่ถูกฝึกมาอย่างหนักจากอดีต ไม่ใช่เพื่อฆ่า แต่เพื่อเอาตัวรอด


เสียงกระสุนหวีดผ่านหัว เสียงโลหะกระแทกปูนดังใกล้เสียจนเหมือนจะเฉียดแก้ม


เขาหันกลับไปยิงตอบ ฝีมือยังแม่นยำเหมือนเดิม แม้สายตาจะพร่า มือจะสั่น ร่างกายจะเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า แต่ทักษะที่ฝังลึกอยู่ในสัญชาตญาณยังคงคมเหมือนเดิม


เพียงไม่ถึงสามนาทีหลังเริ่มปะทะ เจบีพลั้งพลาดในจังหวะที่เหลียวหลังกลับมาหาฮันแจ เสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง


ปัง!!


ความร้อนแล่นแปลบเข้าที่แขนซ้าย เขาทรุดลงกับพื้นทันที เลือดไหลซึมออกจากแขนจนชุ่มเสื้อ


เจบียังพยายามยันตัวขึ้น ปืนในมือถูกวางไว้เบื้องหน้าเหมือนพยายามจะยื้อไว้ไม่ให้ใครเข้ามาใกล้ ฮันแจคลานเข้ามาหา พยายามปิดแผลให้เขาทั้งที่ตัวเองก็แทบไม่ไหว


เสียงตะโกนและเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาทุกขณะ


เจบียังพึมพำ


“อย่าเข้ามา…อย่าเข้ามา…”


มือข้างที่สั่นเทากำปืนไว้แน่น เหงื่อไหลซึมเต็มหน้าผาก ดวงตาเริ่มพร่าเลือน แต่เขายังจ้องตรงไปข้างหน้า


เหมือนจะยืนยันว่าเขาจะไม่ยอมให้ใคร…พรากคนที่เขารักเหมือนครอบครัวไปอีก


เสียงฝีเท้าเร่งร้อนกรูเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ จนในที่สุด ร่างของเจบีก็ถูกล้อมไว้โดยชายชุดดำหลายคน ปืนถูกเล็งมาที่เขาจากทุกทิศทาง


เจบีหอบหายใจเหมือนอากาศในปอดกำลังรั่วไหลออกไปทุกวินาที โลกทั้งใบแคบลงราวกับถูกบีบอัดจนเหลือเพียงเสียงหัวใจที่เต้นกระท่อนกระแท่นอยู่ในอก


ร่างของเขาโอนเอน มือที่จับปืนไว้เริ่มหมดแรง ปลายนิ้วสั่นจนแทบกดไกต่อไม่ไหว


ก่อนที่เสียงหนึ่งจะดังขึ้นกลางความเงียบงัน


“อย่าแตะต้องเขา”


เสียงนั้นไม่ดัง ไม่กร้าว แต่ชัดเจนพอจะทำให้ความเคลื่อนไหวทั้งหมดหยุดนิ่ง


ภาพเบื้องหน้ากำลังเบลอ เสียงรอบตัวเหมือนกำลังไกลออกไปทุกขณะ มือที่กำปืนไว้ตกลงกับพื้นอย่างไร้แรง ลมหายใจสะดุดขาดตอน เหมือนคลื่นที่ซัดซ้ำกับฝั่งจนหมดเรี่ยวแรงจะกลับมาอีกครั้ง


ร่างกายกำลังจะปลิวหายไปในความมืดมิด…แต่ในเสี้ยววินาทีนั้น มือหนึ่งเอื้อมเข้ามาคว้าไว้ มั่นคงพอจะเตือนให้หัวใจที่เหนื่อยล้า ยังคงเต้นต่ออีกครั้ง


เจบีเบิกตาขึ้นช้า ๆ เห็นเพียงภาพเบลอของเสี้ยวใบหน้าหนึ่ง ใกล้เกินกว่าจะหนีทัน แผ่นอกอบอุ่นที่กันเขาไว้จากด้านหลัง และเสียงหายใจหนัก ๆ ที่ดังรินใกล้หู


“ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว...”


เสียงนั้นไม่ได้สัญญาอะไร…แต่กลับก้องอยู่ในอกลึกยิ่งกว่าคำปฏิญาณใด คล้ายถ้อยคำเงียบ ๆ ที่ควรเอ่ยเมื่อครั้งยังมีโอกาส ทว่าเพิ่งตามมาทันในวันที่เขาแทบหมดหวังจะได้ฟัง


มืออุ่นที่โอบรับน้ำหนักตัวเขาไว้แน่น เจบีปล่อยน้ำตาหยดหนึ่งไหลลงบนปลายนิ้วนั้น…เหมือนส่งสัญญาณสุดท้ายออกไป น้ำหนักทั้งร่างพิงลงไปกับคนตรงหน้าโดยไม่ต้องคิดแล้วว่าใช่หรือไม่ใช่


เพราะในตอนนี้…เขาแค่อยากเชื่ออีกสักครั้ง


แล้วภาพทุกอย่างก็ดับวูบไป ทิ้งไว้เพียงเสียงหัวใจที่ยังเต้นอยู่ในมือของใครบางคนที่ไม่มีวันยอมปล่อย








🌸 一期一会 (いちごいちえ)

นายกสโมสร

กระทู้
28
ตอบกลับ
32771
พลังน้ำใจ
182304
Zenny
184769
ออนไลน์
30459 ชั่วโมง
โพสต์ 4 ชั่วโมงที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด

นายกสโมสร

กระทู้
0
ตอบกลับ
50958
พลังน้ำใจ
260402
Zenny
104233
ออนไลน์
20017 ชั่วโมง
โพสต์ 4 ชั่วโมงที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
สนุกมากครับ

มหาลัยซีเนียร์

กระทู้
0
ตอบกลับ
202
พลังน้ำใจ
1782
Zenny
1785
ออนไลน์
207 ชั่วโมง
โพสต์ 3 ชั่วโมงที่แล้ว | ดูโพสต์ทั้งหมด
โอย ใครนะ คนนี้อะ ลุ้นๆ
ขอบคุณครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง เข้าสู่ระบบ | สมัครเข้าเรียน

รายละเอียดเครดิต

A Touch of Friendship: สังคมจะน่าอยู่ เมื่อมีผู้ให้แบ่งปัน ฝากไวเป็นข้อคิดด้วยนะคะชาวจีโฟกายทุกท่าน
!!!!!โปรดหยุด!!!!! : พฤติกรรมการโพสมั่วๆ / โพสแต่อีโมโดยไม่มีข้อความประกอบการโพส / โพสลากอักษรยาว เช่น ครับบบบบบบบบ, ชอบบบบบบบบ, thxxxxxxxx, และอื่นๆที่ดูแล้วน่ารำคาญสายตา เพราะถ้าท่านไม่หยุดทีมงานจะหยุดท่านเอง
ขอความร่วมมือสมาชิกทุกท่านโปรดโพสตอบอย่างอื่นนอกเหนือจากคำว่า ขอบคุณ, thanks, thank you, หรืออื่นๆที่สื่อความหมายว่าขอบคุณเพียงอย่างเดียวด้วยนะคะ เพื่อสื่อถึงความจริงใจในการโพสตอบกระทู้ และไม่ดูเป็นโพสขยะ
กระทู้ไหนที่ไม่ใช่กระทู้ในลักษณะที่ต้องโพสตอบโดยใช้คำว่าขอบคุณ เช่นกระทู้โพล, กระทู้ถามความเห็น, หรืออื่นๆที่ทีมงานอ่านแล้วเข้าข่ายว่า โพสขอบคุณไร้สาระ ทีมงานขอดำเนินการตัดคะแนน และ/หรือให้ใบเตือนสมาชิกที่โพสขอบคุณทันทีที่เจอนะคะ

รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม

ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ

กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ

©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก

GMT+7, 2025-7-9 20:12 , Processed in 0.085240 second(s), 26 queries .

Powered by Discuz! X3.5, Rev.8

© 2001-2025 Discuz! Team.

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้