||
ภายในมิติของเกริก—โลกที่เหมือนสวนสัตว์ แต่ต่างจากโลกมนุษย์ในความเงียบประหลาดที่ลอยค้างอยู่ตลอดเวลา—แสงอ่อน ๆ จากดวงอาทิตย์สีซีดลอดผ่านกิ่งไม้สูงเหนือคฤหาสน์ไม้ของเขา
เกริกยืนอยู่บนระเบียงบ้าน
ในมือยังคงถือ จานสีขาว ใบเดิม
ธีร์—ในร่างเล็กเท่าฝ่ามือ ผิวเนียนตึง และผ้าเตี่ยวสีแดงผืนเดียว—ยังคงนอนสงบอยู่บนพื้นเรียบเย็นนั้น เหมือนตุ๊กตาที่ถูกออกแบบอย่างประณีตเกินกว่าจะเป็นเพียงมนุษย์เล็ก ๆ
ดวงตาของเกริกจับจ้องเขาอย่างสงบนิ่ง…
เหมือนกำลังครอบครองสิ่งที่หลุดมาจากความฝันอันลึกที่สุดของตัวเอง
แต่วันนี้ เขามีงานสำคัญอีกงาน
งานที่ต้องทำ “ในฐานะเจ้าของสวนสัตว์”—
งานที่เกี่ยวกับโลกภายนอก ที่ไม่รู้เรื่องสิ่งลึกลับที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเลยแม้แต่น้อย
เขาหันหลัง เปิดประตูบ้าน แล้วเอ่ยเรียกเสียงดัง:
“ทุกคน! มารวมกันที่สนามหญ้า!”
เสียงฝีเท้าคนงานหลายสิบคนดังขึ้น
พวกเขาเป็นชายร่างกำยำบ้าง ผอมบ้าง ใส่ชุดทำงานของสวนสัตว์ ที่คุ้นเคยกับการดูแลสัตว์ประหลาดหลากพันธุ์ยิ่งกว่าสวนสัตว์ทั่วไปเสียอีก
แต่ไม่เคยตั้งคำถามอะไรเกี่ยวกับเจ้านายของตนมากนัก—เพราะที่นี่…อะไรแปลกก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ
เมื่อทั้งหมดมารวมตัว
เกริกวางจานสีขาวไว้บนโต๊ะเล็ก ๆ ตรงระเบียง โดยเขาใช้ผ้าคลุมบาง ๆ ปิดจานไว้เพื่อไม่ให้สายตาใครสังเกตสิ่งที่อยู่ข้างใน
“วันนี้ลูกค้าที่สนิทกับเรามาก จะพาลูกสาวตัวเล็กของเขามาฉลองวันเกิดในสวนสัตว์”
เกริกประกาศด้วยน้ำเสียงนิ่ง ๆ แต่หนักแน่น
“เราจะจัดงานให้ดีที่สุดที่สนามหญ้าหน้าบ้านฉัน”
พวกคนงานหันหน้ามองกัน
บางคนยิ้ม เพราะงานวันเกิดในสวนสัตว์เป็นงานใหญ่ที่สนุกกว่าการให้อาหารสัตว์ตัวที่ชอบจะหนีออกมาเสมอ
“ตั้งซุ้มลูกโป่ง จัดโต๊ะอาหาร เตรียมเค้ก”
เกริกสั่งเหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องธรรมดา
แต่ในขณะที่คนงานกำลังทยอยทำงาน…
ชายเจ้าของสวนสัตว์กลับเหลือบตามองไปที่จานสีขาวใต้ผ้าคลุม
รอยยิ้มบาง ๆ ที่ผุดขึ้นบนใบหน้าของเขา
ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับงานวันเกิดเลยแม้แต่น้อย
เพราะลึกลงไป—ในมิตินี้
มี “งานพิธีสำคัญกว่ามาก”
รออยู่หลังจากแขกทุกคนกลับไปแล้ว…
เกริกย่อตัวลงให้ระดับสายตาเท่ากับเด็กหญิงตัวน้อย
ใบหน้าของเขาปรากฏรอยยิ้มที่สุภาพ แต่ในแววตากลับมีบางอย่างวูบขึ้น—บางอย่างที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้ว่ามันหมายถึงอะไร
เสียงดนตรีเบา ๆ ของงานวันเกิดยังดังอยู่รอบสนามหญ้า
แสงไฟสีทองจากโคมที่แขวนบนต้นไม้ใหญ่สะท้อนเป็นประกาย
ผู้คนพูดคุยกันอย่างครึกครื้น
แต่คำพูดของเด็กหญิงกลับทำให้บรรยากาศส่วนตัวของเกริกแน่นิ่งลงไปชั่วขณะ
“หนูชอบพี่ธีร์มากเลยค่ะลุงเกริก”
เด็กสาวย้ำด้วยน้ำเสียงใส
“เขาหล่อมาก แล้วก็เก่งสุด ๆ หนูดูโชว์ของเขาตลอดเลยค่ะ…ตอนหนีไดโนเสาร์ก็เท่มาก ตอนโดนจระเข้ยักษ์งับก็แบบ…น่าตื่นเต้นสุด ๆ!”
เธอหัวเราะคิกคัก ก่อนพูดคำที่ทำให้เกริกเลิกคิ้วเล็กน้อย
“พี่ธีร์น่ะ…ดู น่าอร่อย มากเลยค่ะ”
เธอพูดด้วยความไร้เดียงสา
“หนูอยากเห็นเขาแสดงแบบนั้นอีกจังเลย ลุงเกริกพาเขามาให้หนูดูได้ไหมคะ?”
คำว่า “น่าอร่อย” ทำให้ญาติของเด็กที่ยืนอยู่ข้างหลังหัวเราะเอ็นดูตามประสาเด็ก
แต่เกริกเงียบไปครู่หนึ่ง
เพียงชั่วเสี้ยววินาที—รอยยิ้มของเขาเปลี่ยนจากความสุภาพทั่วไป เป็นรอยยิ้มที่แฝงความคิดลึกซึ้งบางอย่าง
เขารู้ดีว่า ธีร์ผู้หล่อเหลา ที่เด็กน้อยชื่นชมนั้น
ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในขนาดเดิม
ไม่ได้อยู่ในสภาพเดิม
และไม่ได้อยู่ในโลกเดิมของผู้คนเหล่านี้อีกต่อไป
เขายกมือขึ้นลูบศีรษะของเด็กหญิงเบา ๆ
“หนูชอบเขามากขนาดนั้นเลยหรือครับ?”
น้ำเสียงของเกริกนุ่ม…แต่มีรอยลึกบางอย่างซ่อนอยู่
“ชอบมากค่ะ! หนูอยากเจอเขาอีก อยากดูเขาแสดงใกล้ ๆ เลยค่ะ!”
เด็กหญิงพูดอย่างตื่นเต้น ไม่รู้เลยว่าคำพูดนั้นมีผลต่อผู้ใหญ่ตรงหน้าแค่ไหน
เกริกหัวเราะเบา ๆ
รอยยิ้มที่มุมปากค่อย ๆ โผล่ขึ้น
เป็นรอยยิ้มที่ทั้งอบอุ่น…และลึกลับในเวลาเดียวกัน
“งั้นลุงจะจัดให้”
เขาก้มลงกระซิบ
“แต่ต้องรอก่อนนะจ๊ะ…ตอนนี้เขา ‘กำลังเตรียมตัว’ อยู่”
เด็กน้อยตาเป็นประกายทันที
“จริงเหรอคะ! เย้!!”
เธอกระโดดดีใจ ก่อนจะวิ่งกลับไปหาเพื่อน ๆ ของเธอ
ปล่อยให้เกริกยืนอยู่ลำพังท่ามกลางเสียงหัวเราะในงาน
แต่ในใจของชายเจ้าของสวนสัตว์
บางสิ่งกำลังเต้นเป็นจังหวะ
บางสิ่งที่เกี่ยวกับธีร์
เกี่ยวกับคำว่า "น่าอร่อย"
และเกี่ยวกับพิธีที่เขากำลังเตรียมไว้ในค่ำคืนนี้…
เกริกหันหลัง
มองไปยังบ้านของตน
ที่ซึ่งภายใต้ผ้าคลุมบาง ๆ บนโต๊ะเล็ก ๆ ในห้องชั้นบน—
ธีร์ในร่างเล็กเท่าฝ่ามือกำลังนอนอยู่…ไร้ทางหลบหนี
ค่ำคืนนั้น งานวันเกิดสว่างไสวด้วยแสงไฟหลากสี
เสียงหัวเราะของแขกจำนวนมากผสมกับดนตรีเบา ๆ สร้างบรรยากาศที่เหมือนงานเลี้ยงธรรมดา
แต่สิ่งที่ “ไม่ธรรมดา” กำลังจะถูกนำออกมาให้ทุกคนเห็น…
พนักงานสาวในชุดยูนิฟอร์มสวนสัตว์เดินออกมาจากหลังบ้าน
เข็น รถอาหารแบบสองชั้น ที่ประดับด้วยริบบิ้นสีชมพู
บนชั้นบนสุด—คือสิ่งที่ทำให้แขกทุกคนต้องหยุดหันมามอง
จานสีขาว
กลางจานนั้น คือ ธีร์ ในร่างเล็กเท่าฝ่ามือ
นอนนิ่ง
หายใจแผ่ว
สวมผ้าเตี่ยวสีแดงผืนเดียว โชว์สัดส่วนแบบชายหนุ่มที่เคยเป็นนักแสดงผาดโผนในสวนสัตว์
รอบตัวเขาคือ เค้ก 6 ชิ้น วางเป็นรูปดอกไม้
แต่ละชิ้นมี เทียนวันเกิดปักอยู่
เปลวไฟไหวระยิบรอบร่างเล็ก ๆ ของเขาเหมือนแสงจากพิธีกรรมโบราณ
พอรถเข็นถูกเข็นเข้าสู่กลางสนามหญ้า—
เสียงฮือฮาก็ดังกระจายทันที
“โอ้โห…นั่นธีร์จริง ๆ เหรอ?”
ผู้หญิงวัยสามสิบคนหนึ่งยกมือปิดปากด้วยความทึ่ง
“แม้จะตัวเล็กลง…แต่เขาก็ยังหล่อมากเลยนะ กล้ามเขายังชัดอยู่เลย!”
ผู้หญิงอีกคนก้มลงดูใกล้ ๆ
สายตาเป็นประกายวาวด้วยความหลงใหล
“การที่เขานอนอยู่กลางจาน…รายล้อมด้วยเค้กแบบนี้…”
เธอพูดเบา ๆ ราวกับเผลอคิดดัง
“มันทำให้เขาดูน่ารับประทานจัง…เหมือนเป็นของหวานชิ้นพิเศษของงานนี้เลย”
ชายคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกค้าประจำเดินเข้ามาหัวเราะ
“ไอ้ธีร์นี่นะ ผมติดตามดูโชว์มันตลอด ตอนมันสวมผ้าเตี่ยวตัวเดียวถือหอกวิ่งสู้กับจระเข้หุ่นยนต์ยักษ์นี่…สุดยอดจริง!”
เขามองธีร์อย่างชื่นชม
“แม้ตัวเล็ก แต่ก็ยังเห็นเลยว่ารูปร่างมันดีแค่ไหน”
เสียงแขกหลายคนเริ่มล้อมวง
บางคนถ่ายรูป
บางคนถกเถียงกันว่าทำไมธีร์ถึงตัวเล็กขนาดนี้
บางคนคิดว่าเป็น “โชว์พิเศษ”
บางคนคิดว่าเป็น “หุ่นจำลองเหมือนจริง”
แต่ไม่มีใครเดาคำตอบถูกเลยแม้แต่คนเดียว
ท่ามกลางเสียงชม เสียงหัวเราะ และความตื่นเต้นของผู้คน—
เกริกยืนอยู่ด้านหลังของวงคน
แววตาของเขาการจ้องมองธีร์บนจานสีขาวนิ่งสนิท
เหมือนผู้เป็นเจ้าของ “เครื่องสังเวยลับ” ที่ภายนอกถูกทำให้ดูเหมือนของตกแต่งงานวันเกิด
เขาก้าวออกมาข้างหน้า
ยกมือขึ้นเล็กน้อยเพื่อให้ทุกคนเปิดทาง
พนักงานสาวดึงรถอาหารให้หยุดตรงหน้าเขา
เกริกก้มลง
วางสองมือใต้ขอบจานสีขาว
ยกมันขึ้นอย่างระมัดระวัง
เหมือนกำลังถือวัตถุมีค่าที่ไม่มีสิ่งใดมาเทียบได้
คนรอบข้างพากันมองด้วยความสงสัยปนคาดหวัง
ว่าเจ้าของสวนสัตว์จะทำอะไร
เกริกหันไปหา เด็กหญิงเจ้าของวันเกิด
เธอสวมชุดเดรสฟูฟ่องสีม่วงอ่อน
ถือตุ๊กตากระต่ายไว้ในมือ
ใบหน้าเต็มไปด้วยความดีใจและอยากรู้อยากเห็น
เขาค่อย ๆ ก้าวเข้าไปหาเธอ
พร้อมกับจานสีขาวในมือตรงหน้า
“หนูบอกว่าชอบพี่ธีร์มาก…ใช่ไหมครับ?”
เกริกพูดเสียงนุ่ม นิ่ง แต่ลึก
เด็กหญิงพยักหน้ารัว ๆ
“ใช่ค่ะลุงเกริก! หนูอยากเห็นเขาใกล้ ๆ มากเลย!”
รอยยิ้มที่ผุดขึ้นบนใบหน้าของเกริก…
มันไม่ใช่รอยยิ้มของเจ้าภาพงานวันเกิด
แต่เป็นรอยยิ้มของผู้ที่รู้ว่า “ของขวัญชิ้นนี้” จะเปลี่ยนค่ำคืนนี้ไปตลอดกาล
เขาโน้มจานลง
ส่งตรงเข้าสู่อ้อมแขนเล็ก ๆ ของเด็กหญิง
“งั้นนี่…คือของขวัญวันเกิดพิเศษที่สุดสำหรับหนู”
มือเล็ก ๆ ของเด็กหญิงกำลังประคอง “จานสีขาว” เอาไว้
เธอมองธีร์อย่างตื่นเต้นราวกับได้ตุ๊กตาที่เธออยากได้มานาน
แสงเทียนหกเล่มรอบตัวเขากะพริบไหว ลูบไล้ผิวกายเล็ก ๆ ของเขาเหมือนแสงจากพิธีกรรมโบราณ
ทันใดนั้น—
เปลือกตาของธีร์กระตุกเบา ๆ
ราวกับเสียงกระซิบจากโลกความจริงค่อย ๆ ลากเขาขึ้นมาจากภวังค์มืดลึกที่เขาจมอยู่ตั้งแต่เมื่อคืน
เด็กหญิงไม่ทันสังเกต เธอก้มหน้าเข้ามาใกล้ ๆ จานด้วยดวงตาเป็นประกาย
ธีร์หายใจแรงครั้งหนึ่ง
อกเล็ก ๆ ของเขายกขึ้น
ปลายมือสั่นเล็กน้อย
จากนั้น…เขาค่อย ๆ เปิดตาขึ้น
ภาพแรกที่เขาเห็นคือ
ใบหน้าของเด็กหญิงขนาดใหญ่เท่าภูเขาที่ลอยอยู่เหนือเขา
ดวงตาของเธอเบิกกว้าง
แก้มอมชมพู
และลมหายใจของเด็กส่งกลิ่นหวานของเค้กเป่ามาตรงตัวเขา
โลกทั้งใบดูใหญ่โตเกินจริง
เหมือนเขาเป็นเพียงของเล่นบนมือยักษ์
ธีร์ตกใจจนหัวใจแทบหลุดออกมานอกอก
เขาพยายามลุกขึ้น แต่ร่างกายขนาดจิ๋วทำได้เพียงขยับเล็กน้อยเท่านั้น
“อ๊ะ!!! พี่ธีร์ฟื้นแล้ว!”
เด็กหญิงร้องเสียงสูง ดีใจจนเกือบทำจานหลุดมือ
เธอรีบประคองจานไว้แน่นขึ้น
แขกที่ยืนอยู่รอบ ๆ ได้ยินเสียงร้อง
จึงรีบเข้ามามุงดูใกล้กว่าเดิม
“โอ้โห เขาขยับจริง ๆ!”
“นี่มันหุ่นกลไกหรือคนจริงกันแน่เนี่ย?”
“ดูสิ ตาเขากะพริบด้วย!”
เสียงชื่นชม เสียงทึ่ง และเสียงหัวเราะผสมกันทั่วสนามหญ้า
แต่ธีร์—ซึ่งฟื้นขึ้นมาท่ามกลางยักษ์มากมาย—กำลังสั่นด้วยความหวาดกลัว
เขาเงยหน้ามองไปที่เด็กหญิง
ริมฝีปากเล็กของเขาขยับช้า ๆ
เสียงเบาเหมือนสายลม
“…ผมอยู่ที่ไหน…?”
“…ช่วยด้วย…”
แต่เสียงนั้นเบาเกินกว่าที่ใครจะได้ยิน
นอกจาก—
เกริก
เขายืนอยู่หลังกลุ่มคน
เงาของเขาพาดลงมาบนหญ้า
แววตาเขาเย็นและนิ่ง
แต่มีประกายความพอใจลึก ๆ ที่ยากจะซ่อน
เด็กหญิงยื่นหน้าเข้ามาใกล้ขึ้นอีก
ใกล้จนธีร์มองเห็นดวงตาของเธอสะท้อนภาพร่างเล็กของเขาเอง
“พี่ธีร์…”
เด็กหญิงกระซิบ
“พี่ตัวเล็กน่ารักจังเลยค่ะ”
ธีร์ถอยกรูดจนหลังติดเค้กชิ้นหนึ่ง
เทียนอุ่น ๆ ไหม้ลมดังพรึ่บอยู่ใกล้หน้า
เขาแทบร้องด้วยความตกใจ
เด็กหญิงหัวเราะเบา ๆ
เหมือนกำลังเล่นกับของเล่นชิ้นโปรด
และแล้ว
เธอ…
เอื้อมมืออีกข้างมาหยิบตัวเขาออกจากจาน
ปลายนิ้วนิ่ม ๆ แต่ใหญ่เท่ากำแพง
หนีบที่ลำตัวของเขาอย่างเบามือ
แต่สำหรับธีร์ มันเหมือนมือยักษ์กำลังจับนักโทษตัวเล็กให้ยกขึ้นเหนือพื้นสิบเมตร
ร่างของเขาลอยขึ้น…สูงขึ้น…
จนเขามองเห็นงานเลี้ยงทั้งหมดจากมุมสูงที่น่าหวาดเสียว
แขกทุกคนเงยหน้ามอง
ธีร์กลืนน้ำลาย
เสียงสั่น
“ปล่อย…ผม…เถอะ…”
แต่เด็กหญิงยิ้มหวาน
เธอจับธีร์ไว้ในมือเหมือนตุ๊กตา
และพูดประโยคที่ทำให้เกริกยิ้มมุมปากทันที
“ลุงเกริกคะ หนูอยากให้พี่ธีร์…โชว์ให้หนูดูตอนนี้เลยได้ไหมคะ?”
เด็กหญิงเริ่มสนุกกับการมีธีร์อยู่ในมือ
สำหรับเธอ—นี่เหมือนของเล่นล้ำค่าที่ “มีชีวิตจริง”
เธอยกมือขึ้นสูงเหนือศีรษะ
ธีร์ที่อยู่ในมือเธอจึงถูกยกขึ้นตาม
ร่างเล็ก ๆ ของเขาแทบลอยหลุดจากปลายนิ้ว
“ดูสิ! พี่ธีร์บินได้!”
เด็กหญิงหัวเราะคิกคัก
ธีร์ตกใจสุดขีด
เขารีบกอดนิ้วของเธอไว้แน่นเท่าที่แขนเล็ก ๆ จะทำได้
โลกเบื้องล่างหมุนวูบเหมือนเขาอยู่บนชิงช้าสวรรค์ที่ไม่มีที่ยึด
“ไม่นะ…อย่า—อย่าทำแบบนั้นครับ!”
ธีร์ร้องอย่างตื่นตระหนก
เสียงแผ่วเหมือนเสียงแมลงสำหรับเด็กหญิง
เธอไม่เข้าใจว่าเขากลัว
เธอคิดว่าเขากำลัง “เล่นตอบสนอง”
เด็กหญิงจึงลองเอียงมือไปข้างหนึ่ง
ทำให้ธีร์เกือบกลิ้งตกจากฝ่ามือ
แขกหลายคนเฮกันด้วยความตื่นเต้น
“ระวังหน่อยน้อง เดี๋ยวตก!”
ชายคนหนึ่งพูด แต่ยังหัวเราะ
เด็กหญิงรีบหมุนข้อมืออีกครั้ง
เพื่อรับตัวธีร์กลับบนฝ่ามือ
แต่การหมุนมือของเด็กเท่าภูเขาสำหรับธีร์
มันเหมือนพายุหมุนที่ซัดทั้งโลกเอียง
ธีร์กลิ้งไปมาบนมือเธอเหมือนลูกบอลเล็ก ๆ
“โอ๊ย—!”
เขาร้องด้วยความเวียนหัว
เด็กหญิงหัวเราะอย่างสนุกสนาน
“พี่ธีร์กลิ้งเหมือนในโชว์เลย! น่ารักสุด ๆ!”
เธอเชยเขาเข้าหาใบหน้าตัวเอง
จนธีร์รู้สึกเหมือนกำลังจะถูกโลกมหึมาดูดเข้าไป
จากนั้น
เธอนำเขาไปใกล้เค้กชิ้นหนึ่งที่ยังมีเทียนปักอยู่
ไฟเล็ก ๆ นั้นวูบไหวอยู่ตรงหน้าธีร์
ใกล้จนเขารู้สึกถึงไอร้อนแผ่ว ๆ เผาผิวข้างแก้ม
“พี่ทำท่าหนีกองไฟแบบในโชว์สิคะ!”
เด็กหญิงพูดอย่างตื่นเต้น
ธีร์ตัวสั่น
เพราะไฟนั้น…ใกล้เขาเกินไป
ใกล้จนเขาต้องถอยหลังทีละก้าวเล็ก ๆ
แต่ไม่มีที่ถอย
เพราะด้านหลังคือปลายนิ้วใหญ่ของเด็กหญิง
“ผม…ผมทำไม่ได้ครับ…!”
ธีร์ร้อง
น้ำเสียงลนลานราวกับผู้รอดชีวิตที่ติดอยู่บนขอบหน้าผา
เด็กหญิงขมวดคิ้ว
เหมือนกำลังคิดบางอย่าง
แล้วเธอก็ยกธีร์ขึ้นสูงอีกครั้ง
หมุนเขารอบตัวเธอเหมือนกำลังโชว์ให้ทุกคนดู
แขกฮือฮา เสียงหัวเราะดังสนั่น
แต่ธีร์หัวหมุนจนแทบหมดสติ
“ว้าวววว! เก่งจังเลย!!”
เด็กหญิงร้อง
เชื่ออย่างบริสุทธิ์ว่าธีร์กำลัง “เล่นเก่ง” เพื่อให้เธอสนุก
แต่คนหนึ่งไม่ได้หัวเราะ
เกริก
เขายืนพิงต้นไม้
แขนกอดอก
รอยยิ้มของเขานิ่งกว่าท้องฟ้าตอนกลางคืน
สายตาเย็นเฉียบ
เหมือนกำลังวิเคราะห์บางอย่างในทุกการเคลื่อนไหวของเด็กหญิงและธีร์
ในขณะที่เด็กหญิงยังคงเล่นต่อไปอย่างไร้เดียงสา—
แต่ธีร์ค่อย ๆ หมดแรง
ลมหายใจถี่สั้น
ดวงตาเริ่มพร่า
ราวกับเขากำลังจะถูก “เล่นจนพัง” โดยไม่ตั้งใจ
และในจังหวะที่ฝ่ามือเด็กเอียงอีกรอบ—
ธีร์ลื่น!
ร่างเล็กเท่าฝ่ามือของเขาหลุดจากนิ้วของเด็ก
ตกลงสู่ความว่างเปล่า
แขกหลายคนร้องลั่น!
ในเสี้ยววินาทีนั้น—
มือใหญ่ของใครบางคนกระชากอากาศเข้าไปคว้าไว้ทัน
ไม่ใช่เด็กหญิง
ไม่ใช่พนักงาน
แต่เป็น—
เกริก
เขาจับธีร์ไว้ได้อย่างแม่นยำ
ราวกับรู้ล่วงหน้าว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้น
ราวกับกำลังรอเวลานี้
ธีร์หอบหายใจ
เกือบร้องไห้ด้วยความตกใจ
แต่เกริกเพียงก้มมองเขา
รอยยิ้มลึกลับยกขึ้นที่มุมปาก
“ไม่เป็นไรหรอก…”
เกริกพูดเบา ๆ
เสียงทุ้มลึก…เย็น…
“ลุงจับทัน”
แต่ในแววตาของเขา
มีบางอย่างที่ไม่ใช่ความหวังดีเลยแม้แต่นิดเดียว
แสงไฟงานเลี้ยงถูกหรี่ลงเล็กน้อย
เหลือเพียงแสงจากโคมไฟรอบสนามที่สะท้อนระลอกน้ำในสระขนาดย่อมกลางสวน
เกริกยืนอยู่หน้าแขกทุกคน
มือหนึ่งประคองร่างจิ๋วของธีร์อย่างง่ายดาย
อีกมือชี้ไปยังสระที่ผิวน้ำสงบนิ่ง…
ราวกับกำลังรอให้บางสิ่งเริ่มต้น
“ทุกท่านครับ—”
เกริกเอ่ยเสียงทุ้ม ลึก และมั่นคง
“เรามีการแสดงพิเศษ…เพื่อเป็นเกียรติแก่วันเกิดของน้องหนู”
เด็กหญิงเจ้าของวันเกิดตาโตด้วยความตื่นเต้น
แขกทุกคนขยับเข้ามาใกล้
คนงานยืนล้อมสระเป็นวงกว้าง
บรรยากาศกลายเป็นเวทีโชว์กึ่งลึกลับแบบที่สวนสัตว์แห่งนี้ชอบสร้างขึ้นเป็นประจำ
พลั่ก!
เสียงน้ำแตกกระจาย
พนักงานชายร่างใหญ่คนหนึ่ง—ที่สวมชุดสัตว์แบบโชว์—
อุ้ม หุ่นยนต์ปลาฉลามขนาดมหึมา เดินออกมาต่อหน้าทุกคน
มันมีขนาดประมาณ สองเท่าของเครื่องบินเด็กเล่น
ปากใหญ่เหมือนจะกลืนทุกอย่างที่เข้าใกล้
ไฟสีแดงที่ดวงตากะพริบตามจังหวะเครื่องยนต์
เสียงมอเตอร์ดังคำรามเบา ๆ อย่างมีจังหวะ
พนักงานปล่อยมันลงสู่สระ
หุ่นยนต์ฉลามจมหายไปสักชั่วครู่ก่อนจะโผล่น้ำขึ้นมาอย่างดุดัน
ครีบหลังยักษ์ผ่าผิวน้ำเป็นเส้นยาว
ว่ายวนเป็นวงกลม…ช้า ๆ แต่คุกคาม
แขกหลายคนร้องด้วยความตื่นเต้น
เด็กหญิงยิ้มกว้างสุดชีวิต
ทุกคนคิดว่านี่คือการแสดงผาดโผนของธีร์ที่เคยโด่งดัง
แต่มีเพียงธีร์ที่รู้—
นี่ไม่ใช่การแสดงธรรมดาอีกต่อไป
เขาตัวเล็กเกินกว่าจะว่ายน้ำได้
เล็กเกินกว่าจะหนีอะไรแบบนี้ได้จริง ๆ
เกริกก้มหน้าลง
ยื่นธีร์ไปใกล้สระ
แววตาของเขามีความพึงพอใจเย็นเยียบ
“ธีร์”
เขาพูดเบา ๆ แต่ออกคำสั่งชัดเจน
“ถึงเวลาทำโชว์พิเศษแล้ว”
ธีร์ส่ายหัว
เสียงสั่น
“ผม…ทำไม่ได้ครับ…ผมตัวเล็กเกินไป—”
แต่เกริกยิ้ม
รอยยิ้มที่ไม่รับฟังข้ออ้างใด ๆ
“ตัวเล็ก…ก็ยิ่งทำให้โชว์ตื่นเต้นขึ้นไงล่ะ”
ก่อนที่ธีร์จะพูดอะไรต่อ
เกริกก็วางเขาลงบน—
ใบบัวขนาดใหญ่ ที่ลอยอยู่กลางสระ
ผิวน้ำเย็นเฉียบไหลวนอยู่ใต้เท้าเล็ก ๆ ของเขา
ใบบัวโยกเบา ๆ
ทำให้ธีร์ต้องทรงตัวอย่างยากลำบาก
เขานั่งลงแทบจะทันทีเพราะกลัวตกน้ำ
เด็กหญิงเจ้าของวันเกิดปรบมือ
“พี่ธีร์น่ารักมากเลยค่ะ!”
ฉลามหุ่นยนต์เริ่มเข้ามาใกล้
เสียงมอเตอร์คำรามดังขึ้น
มันว่ายวนรอบสระเหมือนสัตว์ล่าเหยื่อกำลังเล็งเป้าหมาย
“เริ่มโชว์—!”
เกริกประกาศ
เสียงก้องไปทั่วสวน
แขกหลายคนเชียร์ทันที
ฉลามโผล่หัวขึ้น
น้ำแตกเป็นฝอย
สายตาไฟแดงของมันตรงมาที่ใบบัวที่ธีร์นั่งอยู่
ธีร์กรีดร้องเสียงแหลม
“ไม่นะ! อย่าเข้ามา—!”
ใบบัวสั่น
ฉลามหมุนเข้าหาอย่างรวดเร็ว
คลื่นน้ำกระเพื่อมแรงจนธีร์ต้องตะเกียกตะกายเกาะขอบใบบัว
แขกทุกคนเฝ้าดูด้วยความหวาดเสียว
บางคนถึงกับลุ้นจนกำมือแน่น
เด็กหญิงเจ้าของวันเกิดก้าวมาขอบสระ
ยื่นหน้าเข้ามาใกล้
เทียนบนเค้กในมือเธอยังติดไฟสว่างอยู่
“พี่ธีร์สู้ ๆ นะคะ!”
เธอร้องเชียร์อย่างไร้เดียงสา
ไม่รู้เลยว่าคำว่า “สู้” สำหรับธีร์ตอนนี้
คือการดิ้นรนเอาชีวิตรอดจริง ๆ
ฉลามพุ่งเข้าใกล้ใบบัว—
จนน้ำกระจายเต็มหน้าเด็กหญิง
ธีร์ล้มลงกลิ้งไปบนใบบัว
ตะโกนสุดเสียง
“ช่วยด้วย!”
แต่เสียงเขาเบาเกินไป
ถูกกลืนหายไปในเสียงเชียร์ของผู้ชม
เกริกยืนพิงต้นไม้
มองภาพทั้งหมดอย่างสงบนิ่ง
ราวกับกำลังชมผลงานศิลปะที่เขาสร้างขึ้นด้วยมือของตนเอง
และในวินาทีนั้นเอง—
ฉลามอ้าปากกว้าง
กรามเปิดออกพร้อมฟันโลหะแหลมวาว
พุ่งตรงเข้าหาใบบัวที่ธีร์ยืนอยู่
ใบบัวสั่นแรงจนเกือบพลิกคว่ำ
ฉลามหุ่นยนต์พุ่งเข้ามาอ้าปากกว้างมากขึ้นเรื่อย ๆ
แสงจากไฟในปากมันสะท้อนบนผิวกายเล็ก ๆ ของธีร์อย่างน่าหวาดเสียว
ธีร์ตัวสั่น
ลมหายใจถี่
และในเสี้ยววินาทีนั้น—
เขาตัดสินใจว่า “ทางเดียวที่จะรอด” คือ…ทำแบบเดิม เหมือนที่เคยทำในโชว์เมื่อยังตัวเท่าปกติ
เขากระโดดเข้าไปในปากของฉลามทันที
เสียงผู้ชมร้องฮือดังสนั่น
เด็กหญิงเจ้าของวันเกิดถึงกับกระโดดดีใจ
ร่างเล็กเท่าฝ่ามือของธีร์พุ่งผ่านซี่ฟันโลหะคม
ลื่นลงไปตามพื้นผิวด้านในที่เป็นโลหะมันวาว
เสียงเสียดสีกระทบกันดัง ฉึบ…ฉึบ—
เขากลิ้งหลายตลบจนไปหยุดในช่องท้องของเครื่องกล
ภายในท้องปลาฉลามหุ่นยนต์มืดเกือบสนิท
มีเพียงไฟเตือนสีแดงกะพริบเป็นจังหวะ
ธีร์กอดตัวเองจากแรงกระแทก
แม้จะเจ็บ แต่เขารู้ดีว่า รอดแล้วหนึ่งขั้น
ทันทีที่ธีร์ตกลงในท้องของมัน—
ฉลามหุ่นยนต์ก็ปิดปากดัง “แกร๊ก!”
แล้วดำน้ำลงทันที
น้ำแตกกระจาย
คลื่นพุ่งออกไปทั่วสระ
เสียงเครื่องยนต์คำรามจากใต้ผิวน้ำอย่างทรงพลัง
แขกทุกคนส่งเสียงปรบมืออย่างบ้าคลั่ง
คิดว่านี่เป็นโชว์ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยดูมา
เด็กหญิงตะโกนออกมาด้วยเสียงใส
“พี่ธีร์เก่งที่สุดเลยค่ะ! หนูชอบมากกกก!”
ฉลามหุ่นยนต์ว่ายน้ำไปใต้ผิวน้ำแบบมีจังหวะ
ก่อนจะค่อย ๆ ลอยขึ้นข้างขอบสระ
มุ่งตรงไปยังพนักงานสวนสัตว์ชายร่างใหญ่คนหนึ่งที่ยืนเตรียมตัวอยู่
ชายคนนั้นย่อเข่าลง
เอื้อมมือทั้งสองแขนเข้าไปประคองหัวของฉลามหุ่นยนต์
แล้ว ยกมันขึ้นจากน้ำอย่างมั่นคง
น้ำหยดลงจากลำตัวเหล็กของมัน
แสงไฟสะท้อนเป็นประกายทั่วตัวหุ่น
ท้องของมัน—ที่มีธีร์อยู่ด้านใน—ขยับเล็กน้อยจากแรงของชายที่อุ้ม
พนักงานคนอื่น ๆ เข้ามาช่วยประคอง
เหมือนกำลังถือ “รางวัลโชว์ใหญ่” ของค่ำคืนนี้
คนดูปรบมือดังกว่าเดิม
บางคนเชียร์
บางคนตะโกนด้วยความตื่นเต้น
“สุดยอด!”
“ธีร์ทำได้เหมือนตอนตัวปกติเลย!”
“เก่งมากเวอร์!”
เด็กหญิงเจ้าของวันเกิดยกมือปิดปากด้วยความดีใจ
ตาเธอฉายแววทึ่งสุดขีด
เหมือนได้ของขวัญวันเกิดที่วิเศษสุดเกินคาด
ด้านหลังสุด วงล้อมผู้คนทั้งงาน—
เกริกยืนนิ่งพิงราวสระ
มองฉลามที่ถูกยกขึ้น
แววตาเขาเต็มไปด้วยความภาคภูมิประหลาด
บางอย่างเหมือนความหวัง…
บางอย่างเหมือนความครอบครอง…
และบางอย่างเหมือนการยืนยันว่า “ธีร์ยังทำได้ตามที่เขาต้องการ”
ริมฝีปากของเขายกขึ้นเป็นรอยยิ้มบาง ๆ
รอยยิ้มที่เหมือนกับเขากำลังคิดต่อไปว่า…
ต่อจากนี้—เขาจะให้ธีร์ทำอะไรอีก?
พนักงานชายร่างใหญ่ที่อุ้มฉลามหุ่นยนต์อยู่
ยกมันไปยังแท่นไม้ที่ตั้งไว้ข้างสระ—
แท่นที่มักใช้ซ่อมแซมหุ่นและเครื่องกลของสวนสัตว์
แขกหลายสิบคนกรูกันเข้ามาล้อมวงด้วยความตื่นเต้น
เด็กหญิงเจ้าของวันเกิดยืนแทรกอยู่ด้านหน้า
ดวงตาเป็นประกายระยิบเหมือนดาว
เกริกก้าวเข้ามาใกล้
ยืนข้างพนักงานด้วยท่วงท่าสงบนิ่งราวกับผู้กำกับโชว์ใหญ่
เขาพยักหน้าเบา ๆ
“เปิดมัน”
พนักงานคนนั้นใช้นิ้วงัด แผ่นปิดช่องท้องของปลาฉลามหุ่นยนต์
กลไกบนท้องของมันดัง ตึ๊ก…ตึ๊ก—แกร๊ก!
ก่อนที่ฝากลจะถูกเลื่อนเปิดราวกับฝาเครื่องยนต์ของยานกลไก
แสงสีแดงจากหลอดไฟภายในส่องลอดออกมา
อบอวลไปด้วยควันร้อนจาง ๆ จากมอเตอร์ที่เพิ่งทำงานหนัก
และในนั้น—
ธีร์ในร่างจิ๋วของเขานอนคดตัวอยู่
เปียกชุ่มด้วยละอองน้ำ
หายใจถี่
หน้าแดงเพราะความร้อนและความล้า
ผ้าเตี่ยวสีแดงแนบลำตัวจนเห็นรูปร่างชัดขึ้นอีก
เขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้น
ยังมึนงงจากแรงเหวี่ยงด้านในฉลามหุ่นยนต์
ทันทีที่แสงจากด้านนอกสาดเข้าไปในท้องเครื่องกล—
เสียงของฝูงคนรอบข้างก็ดังสนั่น
“โอ้โห!”
“นั่นแหละธีร์ตัวจริง!”
“เขายังมีแรงอยู่เลย!”
“น่ารักเกินไปแล้วตัวเล็กขนาดนี้!”
เด็กหญิงเจ้าของวันเกิดดีใจจนแทบกระโดด
“พี่ธีร์!!! พี่เก่งมากเลยค่ะ! หนูเห็นหมดเลยตอนพี่ลื่นลงไปในท้องฉลาม!”
พนักงานชายสอดมือเข้าไปในช่องท้อง
อย่างระมัดระวัง—แต่สำหรับธีร์
มันเหมือนมือยักษ์ขนาดมหึมากำลังแทรกเข้ามาในโลกมืดแคบของเขา
ธีร์สะดุ้ง
พยายามถอย
แต่ไม่มีที่ให้ไป
มือใหญ่จับลำตัวเล็ก ๆ ของเขา
ยกขึ้นจากท้องฉลามช้า ๆ
ร่างเล็กของธีร์ลอยขึ้นจากเครื่องยนต์
หยดน้ำไหลตามปลายเท้าเล็ก ๆ ของเขา
เมื่อเขาถูกอุ้มขึ้นเหนือหัวผู้ชม—
เสียงปรบมือและเสียงเชียร์ก็ระเบิดขึ้นทั่วสนาม
เหมือนเป็นการประกาศชัยชนะของโชว์ยักษ์ในค่ำคืนนี้
พนักงานวางธีร์ลงบนผ้าขนหนูที่ปูไว้บนมืออีกข้าง
เพื่อให้เขานั่งพิงและไม่ตก
ธีร์ไอเบา ๆ
หน้าแดง
ร่างสั่น
แต่ดวงตายังพยายามตั้งสติ
เขากวาดสายตามองรอบตัว—
เห็นผู้คนมากมาย
เห็นเด็กหญิงยิ้มกว้าง
เห็นกล้องโทรศัพท์หลายสิบเครื่องถ่ายเขาอยู่
แต่ที่สุด—
เขาเห็น เกริก
ที่มองตรงมาพร้อมรอยยิ้มลึกลับที่ยากจะตีความ
เกริกเดินเข้ามาใกล้
ก้มลงประคองตัวธีร์ด้วยสองมือของเขาแทนพนักงาน
ราวกับกำลังรับ “ทรัพย์สินสำคัญ” คืนเข้าสู่มือ
เขายกธีร์ขึ้นสูงระดับหน้า
และพูดเบา ๆ เสียงทุ้มชัดเจนพอให้ทุกคนได้ยิน
“ขอเสียงปรบมือดัง ๆ ให้กับพระเอกของค่ำคืนนี้—ธีร์”
เสียงปรบมือระลอกใหม่ดังสนั่นในสวน
แขกหลายคนยิ้ม
บางคนโบกมือให้ธีร์
เด็กหญิงยืนดีดนิ้วอย่างดีใจสุด ๆ
แต่ในมือของเกริก—
ธีร์รู้สึกได้ว่าแรงจับนั้น…
แน่นกว่าเดิม
มั่นคงกว่าเดิม
และเย็นกว่าที่ผู้ชมภายนอกจะรู้ได้
เหมือนเกริกกำลังบอกเขาว่า—
“โชว์เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น”
แสงเช้ายามรุ่งอรุณลอดผ่านผ้าม่านสีขาวบาง ๆ
อบอุ่น อ่อนโยน
ต่างจากค่ำคืนอันโกลาหลและหวาดเสียวที่ธีร์เพิ่งผ่านมาโดยสิ้นเชิง
ธีร์ค่อย ๆ ลืมตา
รู้สึกเหมือนลอยอยู่ในอากาศสักครู่
ก่อนสติจะค่อย ๆ กลับมา
เขานอนอยู่บน เตียงสีขาวสะอาด
ผ้าปูเตียงเรียบสนิท กลิ่นหอมของดอกไม้จาง ๆ ลอยในอากาศ
ด้านบนคือเพดานลายโค้งสวยงามแบบบ้านหรูของเกริก
ธีร์เด้งตัวขึ้นนั่ง
สับสน
ใจเต้นแรง
“ที่นี่…ที่ไหน?”
แต่ทันทีที่มองไปรอบห้อง—เขาก็จำได้
นี่คือ ห้องนอนของเกริก
ในบ้านหลังใหญ่ของเขา
ภายในมิติประหลาดที่ธีร์ยังไม่คุ้นชิน
ธีร์ลดสายตาลง
มองร่างกายของตัวเอง
เขาชะงัก
ร่างกายกลับมาขนาดเท่าปกติแล้ว
กล้ามเนื้อของเขากลับมาเหมือนเดิม
แขนขาที่เคยเล็กเท่าก้านไม้ตอนเป็นตัวจิ๋ว กลับมาแข็งแรงดังเดิม
มนต์ของราชินีแม่มด—เสื่อมลงในตอนที่เขาหลับอยู่
แต่สิ่งที่ทำให้เขาตกใจยิ่งกว่า คือ…
ผ้าเตี่ยวสีขาวผืนใหม่
สะอาดเอี่ยม บางเบา และผูกอย่างเรียบร้อยกว่าที่เขาเคยผูกเองด้วยซ้ำ
ไม่ใช่ผ้าเตี่ยวสีแดงจากเมื่อคืน
เป็นผืนใหม่ทั้งหมด
ธีร์ดึงปลายผ้าเตี่ยวเบา ๆ
ตรวจดูเหมือนจะไม่เชื่อสายตาตัวเอง
ใครบางคน…เปลี่ยนให้เขา
ยิ่งไปกว่านั้น—
บนผิวกายของเขา
มี กลิ่นสบู่หอมอ่อน ๆ
ผสมกับกลิ่นน้ำหอมแบบผู้ใหญ่ที่นุ่มลึก
กลิ่นที่ไม่ใช่ของเขาเลยแม้แต่น้อย
สะอาดไปทั้งตัว
ผมก็แห้งและหวีเรียบ
ผิวหนังเหมือนเพิ่งถูกถูด้วยผ้าขนหนูนุ่ม ๆ
มีคนอาบน้ำให้เขา
เช็ดตัวให้เขา
และแต่งตัวให้เขา…ขณะที่เขาหลับอยู่
ธีร์เอามือทาบหน้าอก
ลมหายใจติดขัดเล็กน้อย
ความรู้สึกทั้งหวาดระแวง ทั้งงุนงง ทั้งอับอาย
ถาโถมเข้ามาพร้อมกัน
“เมื่อคืน…ใครทำให้?”
ในบ้านหลังนี้ มีคนเพียงไม่กี่คนที่สามารถเข้าถึงตัวเขาได้ง่ายขนาดนั้น
และในจำนวนคนไม่กี่คนนั้น—
มี เกริก อยู่รวมด้วย
ธีร์รู้สึกเสียวสันหลังวาบ
ในขณะเดียวกัน
ประตูห้องนอนสีขาวก็มีเสียง คลิก
เหมือนมีใครกำลังจับลูกบิดจากด้านนอก—
ประตูค่อย ๆ ถูกผลักเปิดออก
และเงาของชายสูงใหญ่ปรากฏขึ้นตรงกรอบประตู
เกริกก้าวเข้ามาในห้องเงียบ ๆ
เสียงรองเท้าของเขาแตะพื้นเบา ๆ แต่กลับทำให้หัวใจของธีร์เต้นแรงขึ้นอย่างประหลาด
แสงเช้าสว่างพอให้เห็นทุกเส้นสายบนใบหน้าคมของเกริก
เขายืนอยู่ปลายเตียง—ไม่ใกล้ ไม่ไกลเกินไป
มองธีร์…ตั้งแต่ศีรษะ จนถึงปลายเท้า
และหยุดสายตานิ่งอยู่ตรง ผ้าเตี่ยวสีขาวผืนใหม่
ธีร์รีบเอามือปิดหน้าอกตัวเองตามสัญชาตญาณ
แต่เกริกเพียงยิ้มมุมปากอย่างพอใจ
“ฟื้นแล้วสินะ…ธีร์”
เสียงของเขานุ่มลึก แต่มีพลังอะไรบางอย่างที่ดึงให้ธีร์ไม่กล้าขัด
เกริกเดินเข้ามาใกล้ขึ้นอีกหนึ่งก้าว
ช้า
มั่นคง
เหมือนกำลังดูผลงานศิลปะที่ตัวเองสร้างไว้
“ดูดีขึ้นมากนะ”
สายตาของเขาเลื่อนจากหน้าไปยังร่างกายที่เปียกน้ำเมื่อคืนกลับมาแห้งสะอาด
จนกระทั่งหยุดนิ่งตรง ผ้าเตี่ยวสีขาว ที่ธีร์สวม
เขาพูดเบา ๆ แต่ชัดทุกถ้อยคำ
“ลูกผู้ชายที่หล่อที่สุดในสวนสัตว์ของฉัน…ยังไงก็เป็นนายอยู่ดี”
ธีร์หน้าแดงทันที
“คุณเกริก…เมื่อคืน—”
ไม่ทันถามให้จบ
เกริกนั่งลงบนขอบเตียง
อยู่ในระดับสายตาเดียวกับธีร์
แต่รัศมีรอบตัวเขายังคงทำให้ธีร์รู้สึกเหมือนเป็นเด็กเล็กอยู่ดี
“เมื่อคืน…”
เกริกกล่าว
“ฉันเป็นคนอาบน้ำให้เธอเองทั้งหมด”
ธีร์ตาเบิกกว้าง
ลมหายใจสะดุด
“ไม่ต้องตกใจไป”
เกริกพูดด้วยเสียงทุ้มอ่อนโยนขึ้น
“เธอตัวจิ๋ว…อ่อนแรง…หมดสติ ฉันจะปล่อยให้เธอนอนทั้งวันทั้งคืนในสภาพนั้นได้ยังไง”
เขายิ้มบาง ๆ ที่มุมปาก
เป็นรอยยิ้มที่มีทั้งความเอ็นดู และความพอใจซ่อนอยู่
“ฉันยังเป็นคนเปลี่ยนผ้าเตี่ยวสีแดงของเธอให้ด้วยเอง”
เขามองผ้าเตี่ยวสีขาวผืนใหม่
“ผืนใหม่สะอาดกว่า เหมาะกับเธอตอนกลับมาขนาดปกติแล้ว”
ธีร์ตัวเกร็ง
ในหัวเต็มไปด้วยความอับอาย สับสน และไม่รู้จะตอบอะไร
เกริกขยับมือ
เอื้อมมาหยุดตรงไหล่ของธีร์—
ไม่แตะ
แต่ใกล้พอจะรู้สึกถึงความอบอุ่นในอากาศ
จากนั้น เขาก็พูดเสียงเบา แต่ทิ่มลึกถึงขั้วหัวใจ
“เธอรู้ไหม…เมื่อคืนตอนเธอกระโดดเข้าท้องฉลาม”
เขาหยุดหายใจครู่หนึ่งเหมือนกำลังเก็บภาพนั้นในหัว
“…เธอดูเหมือน ‘ลูกชาย’ ที่กล้าหาญและงดงามที่สุดของฉัน”
คำว่า ลูกชาย ทำให้ธีร์อึ้ง
มันไม่ใช่คำทับซ้อนทางสายเลือด
แต่เป็นคำที่มีน้ำหนักจากชายผู้มีอำนาจเหนือเขาทั้งกายและชีวิตในมิตินี้
เกริกยิ้มลึกขึ้น
มองธีร์ด้วยสายตาที่ทั้งอ่อนโยน…และครอบครอง
“เธอเป็นเหมือนลูกที่น่ารักที่สุดของฉันจริง ๆ”
ธีร์หลบสายตา
ไม่กล้ามองตรง ๆ
แต่ยังไม่จบ—
เกริกยืนขึ้นเต็มความสูง
น้ำเสียงกลับมามั่นคง คมชัด เหมือนเจ้าของพิธีประกาศบนเวที
“อีกไม่กี่วัน…”
เขากล่าว
“ฉันจะจัดงาน ละครเวทีใหญ่ ขึ้นที่สวนสัตว์”
ธีร์เงยหน้าด้วยความตกใจ
“ละคร…เวที?”
เกริกยิ้มกว้างขึ้น—
รอยยิ้มที่ทุกครั้งจะหมายถึง
"เธอไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ"
“ใช่…และเธอจะเป็น พระเอก ของงานนั้น”
ธีร์ใจเต้นแรง
ไม่ใช่เพราะตื่นเต้น
แต่เพราะความรู้สึกไม่แน่ใจว่ามีสิ่งใดซ่อนอยู่ในคำว่า “ละครเวที” ของเกริก
เกริกโน้มตัวเข้าใกล้ธีร์อีกครั้ง
กระซิบแผ่ว ๆ ด้วยน้ำเสียงที่เหมือนคำสั่งมากกว่าสัญญา
“ผู้ชมทุกคนจะได้เห็นเธอ…
ชัดเจนกว่าที่เคยเห็นเมื่อคืนเสียอีก”
เขายิ้ม
“และครั้งนี้…ฉันจะเป็นคนกำกับทั้งหมดเอง”
เกริกยืนพิงขอบเตียง
สายตาเป็นประกาย…แบบคนที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับ แผนการที่ตนเตรียมไว้ทั้งคืน
เขาเดินไปที่โต๊ะข้างห้องแล้วหยิบ “สมุดสเก็ตช์ขนาดใหญ่” เล่มหนึ่งขึ้นมา
ก่อนจะเปิดมันต่อหน้าธีร์
ภายในเต็มไปด้วยภาพสีน้ำ—
แต่ละภาพคือฉากจากละครเวทีที่เกริกเป็นคนคิดและวาดด้วยมือ
ธีร์มองแล้วรู้สึกเหมือนหัวใจหล่นลงไปที่ตาตุ่ม
เกริกยิ้ม
แล้วเริ่มอธิบาย “คอนเซ็ปต์” ด้วยเสียงทุ้มชัด เหมือนผู้กำกับกำลังขายไอเดียงานชั้นเอก
เกริกพูดพลางเปิดหน้าถัดไป
ภาพปรากฏออกมาเป็นฉากเมืองจีนโบราณ—
แผ่นดินแห้งแตกระแหง
ท้องฟ้าหม่น
ผู้คนซูบผอม
เหมือนโลกที่ถูกทิ้งให้ตายช้า ๆ
“บ้านเมืองในยุคสมัยนี้…” เกริกอธิบาย
“เต็มไปด้วยความแร้นแค้น น้ำไม่มี ฝนไม่ตก ข้าวปลูกไม่ขึ้น
ผู้คนพากันอดตาย พระราชาต้องหาทางช่วยราษฎรให้ได้”
ธีร์กลืนน้ำลายอย่างหนัก
“แล้ว…ผมเกี่ยวอะไรด้วย…?”
เกริกยิ้ม—รอยยิ้มที่ทั้งอบอุ่น และ อันตรายในเวลาเดียวกัน
เขาพลิกหน้าไปอีกภาพหนึ่ง
ฉากที่ปรากฏคือ
“พระโอรสสุดหล่อ”
แต่งตัวด้วยชุดจีนโบราณ
ใบหน้าชัดเจนจนธีร์รู้ทันทีว่า—มันคือ “เขา”
เพียงแต่ถูกวาดด้วยความหลงใหลอย่างละเอียด
“พระโอรสของพระราชา”
เกริกพูด
“รูปงามที่สุดในแผ่นดิน…ผู้คนรัก เข้มแข็ง แต่ยังอ่อนโยน”
ธีร์หน้าแดง
ไม่รู้จะพูดอะไรดี
เกริกหัวเราะเบา ๆ
ยื่นนิ้วแตะที่ภาพวาดตรงแผ่นอกของตัวละครที่เป็นธีร์
“บทนี้…เหมาะกับเธอที่สุดแล้ว”
จากนั้นเขาพลิกสู่หน้าถัดไป
ภาพที่เห็นทำให้ธีร์เย็นวาบตั้งแต่ต้นคอลงไปถึงปลายเท้า
เป็นภาพของ ปีศาจงูสามตน
ขนาดใหญ่เท่าเสาหลักเมือง
ลำตัวปกคลุมด้วยเกล็ดมืด
แต่ละตัวมี “สามตา” ที่เรืองแสงเหมือนเปลวไฟ
ในภาพนั้น
ปีศาจงูยื่นหัวเข้ามาหาพระราชา
แววตาชั่วร้ายแต่แฝงด้วยความเจ้าเล่ห์
“พวกมันเสนอข้อตกลงแก่พระราชา”
เกริกกล่าว
“จะทำให้ฝนตก จะทำให้บ้านเมืองอุดมสมบูรณ์อีกครั้ง…แลกกับสิ่งเดียว”
เขาหันมามองธีร์ตรง ๆ
ดวงตาทั้งคู่ประสานกัน
“ให้พระราชาส่งพระโอรส—”
เขาบรรยายช้า ๆ
“…เป็นอาหารให้พวกมัน”
ธีร์สะดุ้ง
หน้าเปลี่ยนเป็นสีซีดทันที
“ผ…ผมเหรอ!?”
เสียงเขาสั่น
“แล้วคุณ—ใครจะเล่นบทพระราชา!?”
เกริกยิ้มกว้างขึ้น
ก้าวเข้าไปนั่งลงข้างธีร์บนเตียง
ใกล้จนธีร์ต้องถอยหลังเล็กน้อย
“ฉันเอง”
เขาพูดอย่างภูมิใจ
“ฉันจะเป็นพระราชา
ผู้ที่ต้องตัดสินใจ…ยอมส่งโอรสสุดที่รักของตนเพื่อช่วยบ้านเมือง”
เขาวางมือบนไหล่ธีร์
อุ่น หนัก และเต็มไปด้วยน้ำหนักอำนาจ
“และเธอ”
เขากระซิบช้า ๆ
“จะเป็นโอรสผู้มีค่าที่สุดของฉัน…
ผู้ที่ฉันต้องส่งมอบให้ปีศาจงูต่อหน้าผู้ชมทั้งหมดในสวนสัตว์”
ธีร์ตัวแข็ง
หัวใจเต้นแรงจนเจ็บเหมือนถูกบีบจากด้านใน
เกริกมองเขาเต็มตา
สายตาที่ลึกเกินกว่าจะเดาได้ว่าเป็นความรักแบบพ่อกับลูก
หรือความหลงใหลที่สุดโต่ง
หรือความครอบครองที่ไม่มีขอบเขต
“อย่ากังวลนะ ธีร์”
เกริกพูด
“นี่คือบทบาทสำคัญที่สุดในชีวิตของเธอ”
เขายิ้ม
มือบีบไหล่ธีร์เบา ๆ
“และฉัน…จะกำกับทุกฉากด้วยตัวเอง”
หลังจากเกริกเล่าเรื่องราวของละครเวทีจบ
เขาเพียงกล่าวว่า
“ลุกขึ้นเถอะ ธีร์…ฉันให้คนเตรียมชุดไว้แล้ว”
ธีร์ยังนั่งนิ่ง แต่แขนของเกริกก็จับข้อมือเขาอย่างอ่อนโยนแต่แข็งแรงพอจะหมายความว่า ต้องลุก
เขาถูกพาออกจากห้องนอน
เดินไปตามทางเดินยาวของบ้านที่ประดับด้วยโคมกระดาษแบบจีน
สีแดง สีทอง
เหมือนคฤหาสน์ทั้งหลังถูกแปลงเป็นฉากละครแล้ว
เมื่อถึงห้องหนึ่ง—
บานประตูไม้สลักลวดลายมังกรเปิดออก
กลุ่มพนักงานชายคนสนิทของเกริก 3–4 คน
ยืนรออยู่เหมือนผู้ช่วยแต่งองค์สำหรับกษัตริย์
“นี่แหละ…ห้องแต่งตัวของพระโอรส”
เกริกพูด พร้อมแตะไหล่ธีร์เบา ๆ ด้านหลัง
ธีร์ก้าวเข้าไป
และทันทีที่เห็น “ชุด” เขาก็หยุดนิ่ง
กลางห้องมี ชุดจีนโบราณสีงาช้างและทอง แขวนอยู่
เนื้อผ้าบางเบา
ทอด้วยลวดลายเมฆมงคล
และตรงหน้าอกมีปักลาย มังกรเผือก อย่างละเอียดลออ
แต่ปัญหาคือ—
มัน “เผยเนื้อหนัง” มากกว่าชุดจีนปกติ
คล้ายชุดขององค์ชายในการประกอบพิธีบูชายัญที่ต้องโชว์ร่างกายเป็นสัญลักษณ์
ด้านล่างเป็นผ้าเตี่ยวทรงจีนสีขาว
บางกว่าที่ธีร์สวมอยู่ตอนนี้เสียอีก
พร้อมผ้าคาดสะโพกสีทองยาว
เมื่อสวมแล้วจะปล่อยชายผ้าไหลลงด้านหน้าแบบพิธีการ
ชุดทั้งหมดถูกจัดวางเหมือนเครื่องทรงของราชวงศ์
แต่มีบรรยากาศของ "ของเซ่นสังเวย" แฝงอยู่ทุกเส้นด้าย
“เริ่มเถอะ”
เกริกสั่งเบา ๆ แต่ก้องเหมือนเสียงสั่งพิธีกรรม
สองพนักงานเข้ามาจับแขนธีร์
อีกคนถอดผ้าเตี่ยวสีขาวผืนเดิมออก
อย่างนุ่มนวลแต่ไม่ให้ธีร์มีโอกาสปฏิเสธ
ธีร์รีบยกมือปิดตัวเองด้วยความตกใจ
“ผ…ผมทำเองได้ครับ—!”
แต่เกริกยกมือห้าม
สายตาสงบ…แต่เด็ดขาด
“นี่คือพิธีแต่งองค์ของพระโอรส
อย่าให้ความอายมาขัดขวางการแสดงที่สำคัญที่สุดในชีวิตเธอ”
ธีร์กัดฟัน
กำมือแน่น
ปล่อยให้พนักงานทำตามหน้าที่
เหมือนเชลยในพิธีศักดิ์สิทธิ์
พนักงานค่อย ๆ ผูกผ้าเตี่ยวจีนผืนใหม่ให้เขา
คาดผ้าทอง
จัดชายผ้า
ใส่เสื้อชั้นในเปิดอก
ตามด้วยเสื้อคลุมฮู้ดจีนโบราณที่เปิดไหล่สองข้าง
ทุกขั้นตอนล้วนมีจังหวะ
ราวกับซ้อมมาแล้วหลายครั้ง
พอแต่งเสร็จ
พนักงานทั้งหมดถอยออก
ปล่อยให้ธีร์ยืนต่อหน้าเกริกในชุดเต็มยศ
เกริกมองธีร์จากศีรษะถึงปลายเท้า
อย่างช้า ๆ
ยาวนาน
และลึกซึ้งจนธีร์รู้สึกเหมือนถูกมองทะลุเนื้อหนัง
“งดงาม…”
เกริกกระซิบ
ก้าวเข้ามาใกล้จนแทบแตะตัวธีร์
“…เหมือนโอรสที่ถูกลิขิตมาเพื่อพิธีนี้โดยเฉพาะ”
ธีร์หน้าแดง
ไม่รู้ว่าเพราะเขินหรือเพราะกลัว
“คุณเกริกครับ…ชุดนี้มัน…เปิดมากไปไหมครับ?”
ธีร์พยายามถามเสียงสั่น
เกริกยิ้ม
ยกมือเกลี่ยเสื้อคลุมบนไหล่ธีร์ให้เรียบร้อยขึ้นเล็กน้อย
“ไม่มากไปเลย
โอรสผู้ถูกเลือกต้องงดงาม…ต้องบริสุทธิ์
ต้องดูราวกับ ‘ของกำนัลแห่งราชันย์’”
คำว่า
ของกำนัล
ทิ่มใจธีร์อย่างแรง
เกริกแตะคางธีร์เบา ๆ
เชิดขึ้นเพื่อให้ธีร์สบตากับเขา
“คืนนี้…เราจะเริ่มซ้อมฉากแรก
ฉากที่พระราชา—ฉัน—ต้องอุ้มโอรสของเขาไปวางต่อหน้า
ปีศาจงูสามตน”
ธีร์ตัวสั่น
หัวใจเต้นเหมือนจะกระเด็นออกจากอก
และเกริกยิ้มลึกขึ้น—
“เตรียมตัวให้พร้อมนะ ธีร์
โอรสผู้ถูกเลือกของฉัน”
วันถัดมา—
ลานกว้างหน้าสวนสัตว์ถูกแปลงเป็น โรงละครเวทีกลางแจ้งขนาดใหญ่
ประดับด้วยโคมแดงแบบจีน
ผ้าไหมสีทองพริ้วตามลม
และเวทีถูกสร้างให้สูงราวกับ “แท่นบูชายัญ” แห่งราชวงศ์โบราณ
ผู้คนหลั่งไหลเข้ามาจนแน่นพื้นที่
เสียงคุยคึกคักปนความตื่นเต้น
เพราะข่าวลือแพร่สะพัดมาตลอดหลายวันว่า
“ละครเวทีครั้งนี้จะยิ่งใหญ่ที่สุดที่สวนสัตว์เคยทำ”
และที่สำคัญ—
ธีร์ หนุ่มสุดหล่อผู้แสดงโชว์ผจญสัตว์ประจำสวนสัตว์ จะเป็นพระเอก
ทันทีที่แสงไฟสปอร์ตไลท์สาดขึ้น
ผ้าม่านผ้าไหมสีเลือดหมูค่อย ๆ ถูกเปิดออก
เสียงผู้ชมระเบิดเป็นเสียงเชียร์
ลั่นเหมือนคอนเสิร์ตยักษ์
แต่แทนที่จะเห็นนักแสดง—
ภาพแรกที่ปรากฏกลับเป็น จอยักษ์ขนาดใหญ่ ด้านหลังเวที
บนจอนั้น…เริ่มฉาย วิดีโอเบื้องหลัง
ในภาพ—ธีร์ถูกเหล่าคนใช้นับสิบจับแต่งตัวในชุดพระโอรส
เหมือนพิธีเตรียมองค์กษัตริย์หนุ่มในราชสำนัก
ผู้ชมต่างฮือฮา
เด็กหญิงหลายคนส่งเสียงกรี๊ด
แม้แต่ผู้ใหญ่ก็วิจารณ์กันเสียงดัง
“โอ้โห ชุดพระโอรสงดงามมาก”
“นั่นธีร์จริง ๆ เหรอ หล่อเหมือนดาราหนังจีน!”
“คงลงทุนเยอะมากแน่ ๆ งานนี้”
ภาพวิดีโอตัดสลับให้เห็นมุมใกล้—
คนใช้ค่อย ๆ ผูกผ้าเตี่ยวจีนให้
สวมชุดชั้นในเปิดอก
แล้วตามด้วยคลุมผ้าไหมสีงาช้างให้ธีร์
ธีร์ในภาพมีสีหน้า “ไม่ทันตั้งตัว” อย่างชัดเจน
แต่ผู้ชมกลับมองเป็น “การแสดงอารมณ์ของตัวละคร”
เสียงเชียร์ดังลั่นขึ้นอีกครั้ง
วิดีโอตัดเข้าสู่ฉากเมืองจีนโบราณภาพค่อย ๆ fade ไปเป็นท้องฟ้าหม่น
หมอกฝุ่นสีเทาปกคลุมทั่วเมือง
พื้นดินแตกระแหง
ต้นไม้แห้งตาย
เสียงประกาศของผู้บรรยายดังตามมาอย่างทรงพลัง
“ในแผ่นดินที่ฝนไม่ตกมานานหลายปี
ประชาชนพากันอดอยาก…
น้ำกลายเป็นของมีค่า
ความหวังสุดท้ายอยู่ที่พระราชาเพียงผู้เดียว…”
กล้องค่อย ๆ เลื่อนให้เห็นผู้คนผอมแห้ง
เด็กเล็กที่นั่งเหม่อบนพื้นดินแห้ง
หญิงชราตักน้ำเพียงหยดเดียวในถัง
และทหารยืนเฝ้าประตูเมืองที่ไร้ผู้สัญจร
เสียงผู้ชมในสนามสั่งสะท้อนหลงใหลไปกับฉากสมจริง
หลายคนกระซิบถามกันว่า—
“นี่ของจริงหรือ CG กันแน่?”
ต่างพูดเป็นเสียงเดียวว่า
เกริกลงทุนหนักมากเพื่อสร้างเรื่องนี้ขึ้นมา
หลังจากฉากความแร้นแค้น—
วิดีโอหยุดลงฉับพลัน
ไฟสปอร์ตไลท์ดับวูบ
ทั้งเวทีตกอยู่ในเงามืด
ผู้ชมเงียบ
หายใจแทบไม่กล้า
แล้วเสียงกลองจีนโบราณก็ดังขึ้น…ตึง! ตึง! ตึง!
ไฟสาดลงกลางเวที
ตรงนั้น…
คือ ราชบัลลังก์ไม้แกะสลักลายมังกรยักษ์
และบนบัลลังก์นั้น—
เกริก
ในชุดกษัตริย์จีนโบราณเต็มยศ
ยืนอย่างสง่างาม
สายตาคมกริบ
เหยียดไปยังผู้ชม
เสียงปรบมือดังก้องจนพื้นเวทีสั่น
แต่ที่ยังไม่ปรากฏคือ—
พระโอรส
ผู้ชมเริ่มซุบซิบ
เด็กหญิงหลายคนยังกวาดสายตามองหาธีร์อย่างใจจดใจจ่อ
และขณะที่คนทั้งลานกำลังถามว่า
“แล้วธีร์ล่ะ? ธีร์อยู่ไหน?”
ไฟบนเวทีค่อย ๆ ขยับ
แล้วเผยให้เห็นด้านหลังเกริก…
เงาของใครบางคนถูกลากเข้ามาอย่างช้า ๆ
เงานั้น…
ค่อย ๆ ใกล้เข้ามา
ทีละก้าว…ทีละลมหายใจ
เสียงลากเครื่องประดับบนพื้นเวที “ครืด…ครืด…” ดังสะท้อนทั่วลานกว้าง
ผู้ชมทุกคนโน้มตัวมาข้างหน้าอย่างพร้อมเพรียง
บางคนยกโทรศัพท์ขึ้นเตรียมถ่าย
เด็กหญิงตัวเล็กหลายคนยกตะเกียบขนมขึ้นเชียร์อย่างตื่นเต้น
แล้วในที่สุด—
แสงไฟกลางเวทีก็ส่องเข้าตรงจุดนั้น
ทำให้ทุกคนในลาน
พร้อมใจกัน
อ้าปากกว้างด้วยความตกตะลึง
บนเวที—แสงไฟสีทองส่องลงอย่างนุ่มลึก
บัลลังก์มังกรตั้งตระหง่านอยู่กลางเวที
เกริกในบท พระราชา นั่งบนบัลลังก์ด้วยท่วงท่าสง่างามแต่แฝงความหนักใจตามบท
ทหารหลายสิบคนยืนล้อมรอบเวทีเหมือนเป็นฉากจริงจากราชสำนักจีนโบราณ
เสียงบรรยายโบราณดังขึ้นช้า ๆ
สะท้อนก้องทั่วลานแสดง…
“เมื่อบ้านเมืองเข้าสู่ความอดอยาก
เมื่อท้องฟ้าปิดตายไร้เมตตา
ราชาจึงส่งทหารไปวิงวอนผู้ครองพลังเหนือฟ้า—
ปีศาจงูสามตนแห่งยอดเขาเทวา”
เสียงกลองดัง “ตึง… ตึง… ตึง…”
ม่านควันสีขาวลอยขึ้นจากพื้น
ทำให้เวทีดูเหมือนกำลังล่องอยู่บนเมฆ
ทหารแสดงทำทีว่า “กลับมาจากเขาเทวา”
พวกเขาคุกเข่าต่อหน้าพระราชา
เอาหีบไม้แกะลายมังกรถวายขึ้นไป
เป็นสัญลักษณ์ว่า “คำเชิญถูกส่งแล้ว”
ไฟฉายสาดไปยังด้านหลังเวที
ม่านผ้าไหมสีดำค่อย ๆ เปิดออก
ปีศาจงูสามตน
ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันในแสงสีน้ำเงินเย็นจัด
ทั้งสามเป็นหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่ง
เคลื่อนไหวอ่อนช้อยจนดูไม่เหมือนมนุษย์
ผิวซีดอย่างงู
แต่มีความงดงามเยือกเย็นเหมือนเทพธิดา
“พี่ใหญ่” เดินนำหน้า
“คนกลาง” เดินอ่อนช้อยอยู่ด้านหลัง
“คนน้อง” เดินตามอย่างเงียบสงบ
หัวของทั้งสามมีเครื่องประดับรูปงูสามหัว
ทุกก้าวที่พวกเธอเคลื่อนไป…เสียงกระดิ่งเงินแผ่วเบาดังขึ้น
ผู้ชมในลานกว้างเงียบลงอย่างพร้อมเพรียง
เหมือนต้องมนต์ไปกับการปรากฏตัวของพวกนาง
ปีศาจงูพี่ใหญ่หยุดยืนต่อหน้าบัลลังก์
นางยิ้มเล็กน้อย—ยิ้มที่ทั้งอ่อนหวานและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน
ปีศาจงูพี่ใหญ่:
“พระราชาเอ๋ย เราได้รับคำนมัสการของท่านแล้ว
พวกเรามาตามที่ท่านร้องขอ
เพื่อช่วยเหลือแผ่นดินอันทุกข์ระทมของท่าน”
เกริกในบทพระราชา ประสานมือเข้าหากัน
ขานรับด้วยน้ำเสียงที่ทั้งสง่างามและหนักใจ
พระราชา (เกริก):
“แผ่นดินของข้าแห้งแล้งมานาน
ประชาชนอดอยาก ข้าจึงวิงวอนท่านทั้งสามช่วยดลฝนให้ตกอีกครั้ง”
ปีศาจงูพี่ใหญ่ยิ้มที่มุมปาก
ยกนิ้วชี้เรียวยาวขึ้นฟ้า
ปลายนิ้วของนางเปล่งประกายสีฟ้าอ่อน
แล้ว—
ฟุ่บ!
แสงสีฟ้าพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเหนือเวที
ผู้ชมหลายคนตะลึงเมื่อเห็นจังหวะไฟบนเวที และเครื่องพ่นละอองน้ำเริ่มทำงานทันที
ฝนเทียมตกลงมาโปรยทั่วเวที
เม็ดน้ำส่องประกายตามแสงไฟราวเวทมนตร์แท้จริง
ผู้ชมส่งเสียงฮือฮาทันที
✦ เงื่อนไขสู่ฝนที่แท้จริง ✦ปีศาจงูคนกลางก้าวออกมา
สายตาของนางเจาะลึกไปยังพระราชา
ปีศาจงูคนกลาง:
“ฝนนี้…จะตกเพียงสามวันเท่านั้น
หากพระราชาต้องการให้แผ่นดินนี้สมบูรณ์ชั่วนิรันดร์—”
นางยิ้ม…ยิ้มที่ลึกจนทำให้ผู้ชมหลายคนขนลุก
“—ท่านต้องประทาน ‘โอรสสุดหล่อของท่าน’ ให้พวกเราเป็นอาหาร”
เสียงผู้ชมหลายคน “อุ๊ย!” “ว้าว!”
เด็ก ๆ แทบจะลืมหายใจ
ปีศาจงูพี่ใหญ่:
“และพระราชาต้องอุ้มโอรสด้วยพระองค์เอง
เดินทางไปที่เขาเทวา
เพื่อส่งมอบให้พวกเราโดยตรง”
ฉากบนเวทีนิ่งเงียบ
ทันใดนั้น—
แสงไฟส่องไปยังด้านข้างเวที
ม่านผ้าไหมเปิดออกอีกครั้ง
ธีร์
ในชุดองค์ชายจีนโบราณเต็มยศ
ปรากฏตัวขึ้นอย่างสง่างาม
ผ้าไหมสีงาช้างปลิวตามลม
ผ้าเตี่ยวจีนสีขาวคาดด้วยผ้าทอง
ผิวกายสะท้อนแสงเหมือนรูปปั้นเทพบุตรในวัดโบราณ
เสียงกรี๊ดดังลั่น
ปีศาจงูทั้งสามพากันมองเขา…
ราวกับสัตว์นักล่าที่พบ “เหยื่อที่งดงามจนอยากชิม”
ปีศาจงูพี่ใหญ่ยิ้มอย่างประหลาดใจ
ปีศาจงูพี่ใหญ่:
“โอรสของพระองค์…ช่างรูปงามนัก
สง่างามราวบุรุษแห่งสวรรค์”
ปีศาจงูคนกลางหัวเราะเบา ๆ
หันไปกระซิบกับคนน้อง
ปีศาจงูคนกลาง:
“นี่เป็นชายมนุษย์ที่ ‘น่ารับประทานที่สุด’ เท่าที่เราเคยเห็นเลยละ…”
ผู้ชมปรบมือ
คิดว่าเป็นบทละคร
แต่ธีร์—แม้จะยืนบนเวทีในฉาก—
ดวงตากลับมีความรู้สึก “หวั่นไหวจริง ๆ”
เกริกในบทพระราชา
ยืนนิ่งเป็นวินาที
ก่อนจะถอนหายใจหนัก ๆ
ราวกับแบกน้ำหนักทั้งแผ่นดิน
แล้วเขาก็กล่าวด้วยเสียงทรงพลัง
สั่นสะเทือนทุกหัวใจในลานกว้าง
“เพื่อประชาชน เพื่อแผ่นดิน
ข้าตกลงตามเงื่อนไขของท่าน”
ผู้ชมเฮเสียงดัง
คิดว่านี่คือจุดพีคของละคร
ธีร์ชะงัก
หันมามองเกริกด้วยความตกใจจริงจัง
เพราะน้ำเสียงนั้น—
ไม่ใช่แค่การแสดง
ปีศาจงูทั้งสามยิ้มกว้าง
อย่างผู้ได้ในสิ่งที่ต้องการ
และทันใดนั้น—
พรึ่บ!
ปีศาจงูทั้งสาม “อันตรธานหายไป” จากเวที
ด้วยควันสีขาวพวยพุ่งล้อมรอบ
ทิ้งให้ทั้งเวทีเงียบงัน
เหลือเพียงพระราชา และโอรสผู้ถูกเลือกยืนอยู่ท่ามกลางแสงแผ่วเบา
✦ ฉากเปลี่ยน—พิธีกรรมชำระโอรสก่อนเดินทาง ✦
เสียงกลองจีนโบราณดังขึ้นช้า ๆ
ม่านฉากเลื่อนเปลี่ยนเป็น “ห้องบูชาของราชวัง”
ผ้าไหมสีทองและควันธูปบาง ๆ ลอยขึ้นเหนือเวทีอย่างสวยงาม
ธีร์ในบทองค์ชาย
ยืนอยู่กลางเวทีด้วยใบหน้าเปื้อนน้ำตา
ตัวสั่นเล็กน้อย
ความกลัวในบท…และความกดดันของสถานการณ์จริงผสมปนกันอย่างแนบเนียน
บนบัลลังก์ด้านข้าง—
พระราชา (เกริก) ลุกขึ้น
เดินลงมาหาธีร์อย่างช้า ๆ
ในความเงียบของผู้ชมหลายพันคน
น้ำเสียงของเกริกดังชัดเจนราวคำสั่งสวรรค์
พระราชา:
“โอรสของพ่อ…
อย่าร้องเลย เจ้าคือความหวังสุดท้ายของแผ่นดิน”
ธีร์เงยหน้าขึ้น
ดวงตาแดง
สั่นเหมือนจะพูดอะไร แต่พูดไม่ออก
พระราชาเอื้อมมือแตะบ่าของธีร์เบา ๆ
เป็นสัมผัสที่ในสายตาคนดูคือ “ความอบอุ่นของพ่อ”
แต่ในความรู้สึกธีร์…มันคืออำนาจที่ต้านไม่ได้
พระราชาหันไปพยักหน้าให้เหล่านางกำนัล
แต่งกายชุดจีนโบราณสีเงิน
นางกำนัลทั้งสี่คุกเข่า แล้วลุกขึ้นเข้ามาล้อมธีร์
ทำตามบทพิธีอย่างสง่างาม
พวกนางช่วยถอด “ชั้นนอก” ของชุดโอรสมังกรออกทีละชั้น
— เสื้อคลุมบน
— ผ้าคลุมไหล่
— เครื่องทองที่สะท้อนแสงไฟเวที
เหลือเพียง ชุดชั้นในแบบพิธีกรรมโบราณ ที่คล้ายกางเกงผ้าเรียบสีขาว
เป็นการแต่งกายแบบปกติของพิธีชำระร่างในวัฒนธรรมจีนดั้งเดิม
ธีร์ยืนก้มหน้า
ตัวสั่นแต่ไม่สามารถขัดขืนตามบท
ผู้ชมเงียบกริบ
หลายคนรู้สึกถึงความศักดิ์สิทธิ์ของพิธีนี้
ด้านหน้ากลางเวทีมี “อ่างศิลาขนาดใหญ่”
น้ำอุ่นผสมน้ำดอกไม้
ควันไอน้ำลอยขึ้นเบา ๆ
เหมือนพิธีชำระเพื่อส่งโอรสไปสู่เทพเจ้า
พระราชาจูงมือธีร์
ก้าวลงบันไดหินไปยังอ่างชำระล้าง
แสงสีฟ้าอ่อน照ลงมาพอดี
สะท้อนผิวน้ำสวยงามราวภาพวาด
พระราชา:
“ก่อนเดินทางขึ้นเขาเทวา
เจ้าต้องบริสุทธิ์ดุจศิลาแห่งสวรรค์”
ธีร์ยืนนิ่ง
ไม่กล้าสบตา
ลมหายใจสั่น
เกริกจุ่มผ้าขาวลงในน้ำ
บีบให้หมาด
และเริ่มทำพิธี “เช็ดตัว” ให้โอรสอย่างช้า ๆ
ทุกการเคลื่อนไหวอ่อนโยน
พอดี
ไม่ล่วงเกิน
เหมือนพ่อที่กำลังเตรียมลูกชายสู่พิธีสำคัญของชีวิต
เสียงพิณจีนดังคลอเบื้องหลัง
คนดูหลายคนถึงขั้นน้ำตาคลอ
เพราะฉากนี้ดูทั้งเศร้าและงดงาม
เมื่อพิธีชำระล้างจบ
ธีร์ดูสงบขึ้นเล็กน้อย
ผมที่เปียกนิด ๆ ส่องแสงจากไฟเวที
พระราชาจับมือธีร์
พาขึ้นบันไดไม้ไปยังรถม้าราชสำนัก
ประดับผ้าไหมแดงและโคมมังกรสองข้าง
เมื่อธีร์นั่งบนเบาะภายในรถม้า
พระราชาก็ขึ้นตาม
และปิดผ้าม่านอย่างสง่างาม
เกริกเอื้อมมือแตะไหล่ธีร์เบา ๆ
พระราชา (น้ำเสียงลึก):
“ไม่ต้องกลัวนะลูกของพ่อ
พ่อจะไปส่งเจ้าด้วยตัวเอง…”
จากนั้นเขายกมือสั่งทหาร
“ออกเดินทาง!
สู่หุบเขาเทวา!”
เสียงกลองดัง
ทหารขี่ม้าเข้ามาลากรถม้าออกจากเวที
ฝุ่นสีทองฟุ้งขึ้นราวกับควันบนสวรรค์
แสงไฟค่อย ๆ หรี่ลง
เหลือเพียงเงาของรถม้าที่เคลื่อนออกไป
เหมือนพาองค์ชายผู้ถูกเลือก
สู่ชะตากรรมลึกลับที่รออยู่บนยอดเขาเทวา
(เวอร์ชันกลไก–มิติปลอดภัย)
เวทีเปลี่ยนฉากด้วยเสียงกลองแรง ๆ
ผ้าม่านด้านหลังเปิดออกเผยให้เห็น
“ถ้ำเทวา”
จำลองด้วยหินประดิษฐ์มหึมา
แสงสีฟ้าและม่านหมอกไหลเอื่อยเหมือนอยู่ในโลกอีกมิติ
พระราชา (เกริก) จูงมือธีร์หนุ่มสุดหล่อเข้าไปในถ้ำ
เสียงผู้ชมฮือฮาเมื่อเห็นทั้งคู่เดินผ่านม่านหมอก
เกริกสั่งเสียงเข้มตามบท
“ทหารทั้งแพลง จงรออยู่หน้าถ้ำ
มีแต่พ่อ…ที่ต้องทำพิธีต่อจากนี้”
ทหารโค้งคำนับ แล้วเดินถอยหายไปนอกเวที
เหลือเพียงพระราชาและโอรสสุดหล่อในถ้ำเทวา
ทันใดนั้น—
เสียงกระดิ่งแหลมสูงดังขึ้น
ตามด้วยลำแสงสีเขียวที่ค่อย ๆ หมุนรวมกัน
ปีศาจงูคนกลาง และ ปีศาจงูน้องคนเล็ก
ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันเหมือนถูกเรียกโดยเวทมนตร์
เครื่องแต่งกายของพวกเธอพลิ้วไหวราวกับมีชีวิต
ผิวของทั้งคู่มีประกายสะท้อนเหมือนเกล็ดงู
แต่รูปลักษณ์ยังคงเป็นหญิงสาวลึกลับ น่าพรั่นพรึง
ปีศาจงูคนกลางก้าวออกมาพูดด้วยน้ำเสียงดังกังวาน
ปีศาจงูคนกลาง:
“พระราชาเอ๋ย…
พี่ใหญ่ของพวกข้ากำลังตื่นขึ้น
นางจะเป็นผู้ประกอบพิธี และเปิดเส้นทางมิติแห่งฝนให้แก่แผ่นดินของท่าน”
ปีศาจงูน้องเสริมต่อ
เสียงแผ่วราวลมลอดรอยหิน
ปีศาจงูน้อง:
“เพื่อประกอบพิธี โอรสแห่งราชวงศ์
ต้องสวมเพียงชุดเบา เพื่อข้ามประตูพิธีมิติได้
อย่าหวาดกลัว…สิ่งนี้เป็นเพียงพิธีกรรมเก่าแก่”
ธีร์ยืนก้มหน้า
มือกำแน่นแต่ไม่กล้าขัดตามบท
จากนั้นปีศาจงูน้องสั่งบริวารออกมา
พวกบริวารแต่งชุดคล้ายงูเลื้อย
ช่วยกันยก จานกระเบื้องขนาดใหญ่ ออกมาจากเงามืด
จานนั้นใหญ่พอที่มนุษย์ทั้งคนจะ “นั่งหรือนอน” ได้
ลวดลายมังกรหมุนเวียนรอบขอบจาน
สะท้อนแสงเหมือนลวดลายเวทมนตร์โบราณ
ปีศาจงูคนกลางหันไปทางพระราชา
น้ำเสียงหนักแน่น
ปีศาจงูคนกลาง:
“วางโอรสของท่านบนจานพิธี
และให้พิธีแห่งการเดินทางเริ่มต้น”
ผู้ชมเงียบกริบ
ลุ้นจนแทบลืมหายใจ
ทันใดนั้น
พื้นเวทีสั่นเบา ๆ
เสียงเครื่องยนต์ลึกต่ำดัง ครืด…ครืด…
จากโพรงด้านหลังเวที
หัวของงูยักษ์หุ่นยนต์
โผล่ออกมาช้า ๆ
มันใหญ่เท่ารถบรรทุก
ดวงตาเรืองแสงสีฟ้า
ปากมีกลไกเปิด-ปิดได้
และลิ้นโลหะยาวเลื้อยออกมาเป็นระยะ
เสียงผู้ชมแตกเป็นสองส่วน
ทั้ง “ว้าว!” ทั้ง “โอ้โห!”
เหมือนดูไดโนเสาร์จาก Jurassic แบบเวอร์ชันงูยักษ์บนเวที
พระราชาอุ้มธีร์ขึ้นด้วยสองแขน
ตามบทที่ซักซ้อมมา
แม้ธีร์ในใจจะตื่นตระหนก แต่เขายังทำตามบทอย่างงดงาม
พระราชาวางธีร์บนจานกระเบื้องอย่างระมัดระวัง
ธีร์นอนนิ่ง ยกศีรษะขึ้นเล็กน้อยด้วยสีหน้าหวาดหวั่น
งูยักษ์หุ่นยนต์ขยับคอเข้ามาเหนือจาน
ลิ้นกลไกยาวนั้นค่อย ๆ แตะรอบขอบจาน
เหมือนตรวจสอบว่า “พร้อมเปิดประตูมิติแล้ว”
ปีศาจงูคนกลางยกมือขึ้นสูง
ออกคำสั่ง
“จงเปิดประตูมิติแห่งฝน—!”
งูยักษ์หุ่นยนต์เปิดปาก
แต่แทนที่จะเป็นการ “กลืนกิน”
กลไกภายในปากงูเริ่มหมุน
เกิดเป็นอุโมงค์ลมหมุนวน คล้ายวอร์เท็กซ์สีฟ้า
เกิดเสียงเอฟเฟกต์เหมือนพายุเวทมนตร์
ลิ้นโลหะของงูยักษ์ลอดลงใต้ตัวธีร์
ยกเขาจากจานขึ้นไปช้า ๆ
แล้วปล่อยให้ร่างของธีร์ “ถูกดูดเข้าไปในปากงู”
ราวกับถูกดึงเข้าสู่มิติอีกแห่ง
ผู้ชมส่งเสียงเชียร์ดังลั่น
รู้ว่านี่คือไคลแม็กซ์ของละครเวที
ธีร์ลอยเข้าไปใน “โพรงมิติ” ภายในหัวงู
ซึ่งเป็นอุโมงค์ไฟ LED
ผนังเรืองแสงสีฟ้าเหมือนมิติเวทมนตร์
เขาหายลับเข้าไปช้า ๆ
ก่อนปากงูจะปิดลงด้วยเสียง ก๊อก!
พระราชา (เกริก) ยืนมอง
พร้อมน้ำเสียงดราม่าตามบท
เอามือแตะหน้าอก เหมือนแบกความเสียใจของพ่อทั้งแผ่นดิน
พระราชา:
“ลูกเอ๋ย…
เจ้าคือแสงแห่งแผ่นดิน พระบิดาจะไม่ลืมเจ้า…”
เขาหันหลัง เดินช้า ๆ ออกจากถ้ำ
ใต้แสงไฟสีทองที่สาดทับบนผ้าคลุมยาวของเขา
ผู้ชมทั้งลานปรบมืออย่างกึกก้อง
ตื่นเต้น ชื่นชม และอินกันทั้งสนาม
จอ LED ขนาดใหญ่ด้านหลังเวทีสว่างขึ้น
เผยภาพ ธีร์อยู่ในโพรงแสงสีฟ้า
เหมือนกำลังลอยอยู่ในห้องมิติ
พื้นผนังเป็นลายวิ่งวนเหมือนลำตัวงู
ไม่มีพันธนาการ แต่เป็นเหมือน “อุโมงค์เวทมนตร์” ที่กักเขาไว้เพื่อพิธี
เสียงผู้ชมฮือฮาอีกครั้ง
ภาพตัดสลับด้วยเอฟเฟกต์
ให้เห็นมิติภายนอก—
ฝนค่อย ๆ เริ่มตก
แม่น้ำไหลแรงขึ้น
ต้นไม้เริ่มงอกออกจากดิน
ผู้คนในเมืองดีใจยกใหญ่
พิธีสำเร็จ
แผ่นดินกลับมาสมบูรณ์
เสียงดนตรีจากวงโบราณเร่งจังหวะสุดท้าย
ผ้าม่านสีเลือดหมูค่อย ๆ ปิดลง
ผู้ชมลุกขึ้นยืน ปรบมือกึกก้องทั่วลาน
ละครเวทีที่สวนสัตว์ของเกริก—
จบบริบูรณ์อย่างยิ่งใหญ่และลึกลับ
รูปแบบข้อความล้วน|โทรศัพท์มือถือ|ติดต่อลงโฆษณา|จีโฟกายดอทคอม
กรณีที่ข้อความ/รูปภาพในกระทู้นี้จัดสร้างโดยผู้ลงข้อมูลเอง ลิขสิทธิ์จะเป็นของผู้ลงข้อมูลโดยตรง
หากจะทำการคัดลอก/เผยแพร่ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ลงข้อมูลก่อนนะคะ หรือลงที่มาไว้ด้วยค่ะ
©ขอสงวนสิทธิ์คอนเซ็ปต์,คำอธิบาย,หัวข้อ/หมวดหมู่เว็บ ห้ามลอกเลียนแบบ คิดเอาเองนะคะอย่าเอาแต่ลอก
ข้อความที่ท่านได้อ่านในเว็บจีโฟกายดอทคอมนี้ เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ หากท่านพบเห็นข้อความใดๆ ที่ขัดต่อกฎหมาย และศิลธรรม ไม่เหมาะสมที่จะเผยแพร่ ท่านสามารถแจ้งลบข้อความได้ที่ Link “แจ้งลบโพสนี้” ที่มีอยู่ใต้ข้อความทุกข้อความ หรือ ลืมพาสเวิดล๊อกอิน/ลืมชื่อที่ใช้สมัคร หรือข้อสงสัยใดๆแจ้งมาที่ G4GuysTeam[at]yahoo.com ขอขอบพระคุณที่ให้ความร่วมมือ
GMT+7, 2025-11-17 01:11 , Processed in 0.060763 second(s), 16 queries .
Powered by Discuz! X3.5, Rev.8
© 2001-2025 Discuz! Team.