บันทึกของนนท์15
บันทึกของนนท์15ตอนเช้ามืด นนท์รู้สึกว่ากำลังสร่างไข้เพราะเหงื่อนนท์ออกมาเต็มตัว นนท์พยายามดึงเอาผ้านวม 2 ผืนที่ห่มทับตัวเขาออก เพื่อให้ไอร้อนที่เริ่มสร่างไข้นั้นถ่ายเทออกไป...นัทออกจากห้องน้ำมาเห็นเข้า..จึงขึ้นมานั่งบนเตียง เขาใส่ชุดนักศึกษาเพื่อเตรียมตัวไปเรียนในตอนเช้า..นัทถามนนท์ว่า
“พี่นนท์...เป็นยังไง..ดีขึ้นหรือยัง”
พร้อมทั้งเอามือเข้ามาจับเนื้อตัวของนนท์
“คงจะหายแล้วละ...เหงื่อพี่ออกมาเต็มเลย...ผมเอาผ้านวมออก..แล้วเอาผ้าแพรห่มให้นะ...พี่จะได้สบายขึ้น”
นนท์ไม่ตอบอะไร...ปล่อยให้เขาทำเพราะนนท์เองตอนนี้ก็แทบจะไม่มีแรงที่จะทำอะไรด้วยตัวเอง เพราะแม้ แต่จะพยุงตัวเองขึ้นมาก็ยังรู้สึกปวดหัว ตอนเช้าก่อนที่นัทจะออกไปเรียน...เขาถือถาดข้าวต้มมาวางไว้บนโต๊ะหัวเตียง...
“ผมไปบอกให้พี่แก้ว...ต้มข้าวต้มให้...พี่นนท์ลุกขึ้นมาก่อน ผมเตรียมแปรงสีฟันไว้ให้พี่แล้ว...พี่ลุกไหวมั้ย...ถ้าไม่ไหวก็แปรงบนเตียงนี่หละ...ผมเอากะละมังมาไว้ให้พี่รองน้ำบ้วนปากแล้ว”
เหมือนคนว่าง่าย...ทั้ง ๆ ที่อยากจะขัดขืนไม่ทำตาม...แต่เพราะแรงไม่มี...นัทเข้ามาจับตัวนนท์พยุงขึ้นนั่ง ตัวเขานั่งอยู่ด้านหลังเพื่อให้นนท์พิงตัวลงไป...สภาพที่ไม่มีแรงของนนท์จึงต้องยอมแปรงฟันบนเตียง...นนท์น้ำตาซึม...ไม่รู้ว่าเขาจะทำดีกับเราเพื่ออะไร...ทำไปทำไม....พอนนท์แปรงฟันเสร็จ..เขาก็หยิบเอาถ้วยข้าวต้มมา
“ทานข้าวต้มนะคับ...มาผมป้อนให้...”
นนท์ทานไปได้สองสามคำ ก็บอกว่าพอแล้ว
“ทานอีกนะพี่...สักครึ่งถ้วยนะ...พี่จะได้มีแรง...ทานแล้วจะได้ทานยาแล้วก็นอนผมจะออกไปที่โรงเรียนไปลาหยุดเรียนเพื่อจะกลับมาดูแลพี่”
“ไม่ต้องหรอก..ไม่ต้องลา ไปเรียน...ไม่เป็นไร...เดี๋ยวก็หายแล้ว...แก้วมันก็อยู่..เดี๋ยวมันก็มาดูเองแหละ...ไม่ตายง่าย ๆ หรอก...” นนท์ประชด
ทานข้าวต้มเสร็จ นัทก็เอายามาให้...นนท์กินยาเสร็จก็ล้มตัวลงนอน..นัทคงถือถาดข้าวต้มออกไปเพื่อเอาไปล้าง...สักพักก็กลับเข้ามาในบ้านมาถือเอากะละมังที่นนท์แปรงฟันไว้ไปล้างในห้องน้ำ...แล้วก็เดินมาที่เตียง..คุกเข่าบนเตียงข้าง ๆ นนท์..
“งั้นผมไปเรียนก่อนนะคับ...หายเร็ว ๆ นะคับ...ผมเปิดประตูบ้านไว้...พี่แก้วจะได้เข้ามาดูพี่ได้เรื่อย ๆ ผมบอกพี่แก้วไว้แล้ว”
พูดจบก็ก้มลงมาหอมแก้มนนท์เบา ๆ ฤทธิ์ยาที่กินเข้าไปกำลังออกฤทธิ์...นนท์สลึมสลือ...จับความที่นัทพูดออกมาได้บ้างไม่ได้บ้าง...แล้วก็หลับไป
ตื่นมาอีกที...ได้ยินเสียงโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่ข้างหมอนดังขึ้น
“ฮัลโหล...พี่นนท์คับ ผมนิคคับ”
“นิค....เหรอ” นนท์ตอบเสียงอ่อย ๆ เพราะฤทธิ์ไข้และฤทธิ์ยา
“เสียงพี่เป็นอะไรคับ...”
“พี่ไม่สบาย....เมื่อ....คืน...พี่จับไข้...หนาวทั้งคืน....”
“เพราะผม..ชวนพี่ไปเดินตากแดดเมื่อวานแน่ ๆ เลย แล้วก็เข้าไปนั่งเย็น ๆ ในโรงหนัง...เลยทำให้พี่ไม่สบาย”
นิคพยายามโทษตัวเองที่ทำให้นนท์ไม่สบาย
“ไม่หรอก...พอดีช่วงงงง...นี้พี่ทำงานหนัก...แล้วเพลีย ๆ ด้วย มันสะสมมานาน...ก็เลยเป็นไข้...แต่กินยาแล้วเดี๋ยวบ่าย ๆ ก็น่าจะดีขึ้น”
“ผมเป็นห่วงพี่นะคับ...พี่นอนหลับเถอะคับ....ผมไม่รบกวนพี่แล้ว...ตอนนี้ผมอยู่ที่บ้านคับ....บ่าย ๆ ผมจะโทรมาถามพี่อีกทีว่าดีขึ้นหรือยัง...แค่นี้นะคับ...”
“คับ” นนท์กดโทรศัพท์วาง...เออ..ยังมีคนอีกคนนึงที่เป็นห่วงเรา...ถ้าเขาคนนี้อยู่ใกล้ๆ เราตอนนี้เขาจะทำยังไง...จะดูแลเรายังไง...นนท์ฝันมาเสมอว่า..ชีวิตแบบนี้...เขาไม่ได้ต้องการคู่ขา คู่ sex..แต่ต้องการคนที่จะมาเป็นคู่ชีวิต...sex จะหาเมื่อไหร่ก็หาได้...ถ้าเขาจะไปซื้อบริการเอาเมื่อไหร่ก็ได้...มีให้เลือกทุกขนาด...จะให้ทำอะไรก็สั่งได้...หรือจะเลือกหน้าตาแบบไหน..หุ่นแบบไหนก็มีให้เลือก...แต่คนที่จะมาเป็นคู่ชีวิต...ที่พร้อมจะเป็นเพื่อนที่ดูแลกันไปในยามแก่เฒ่า..จะมีมั้ย...คนที่ไม่คิดหวังแต่จะได้ฝ่ายเดียว...แต่ต้องมีทั้ง Give และ Take เท่า ๆ กัน...คนที่เป็นเกย์ทุกคนก็คงจะคิดฝันแบบนี้เหมือนกัน...แต่นนท์เห็นหลายคู่ที่ยังเป็นคู่ที่สนุกสนาน..บางคู่จับคู่กันเพื่อหาและเชิญชวนคนอื่นมาเล่น sex หมู่...ยิ่งถ้าตอนนี้กลับจับกลุ่มกันมั่วทั้งยา ...ทั้ง sex ...มันเหมือนกำลังเดินทางที่ผิด...กำลังใช้ชีวิตในวัยที่กำลังสนุกได้อย่างเพลิดเพลิน...แต่กลับไม่คิดว่าแล้ววันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร...ยิ่งเวลานี้ การหากลุ่มเพื่อตี้ เพื่อเล่นยา เพื่อsex หมู่ง่ายยิ่งกว่าร้อยด้ายเข้าเข็มเสียอีก...เขาไม่คิดถึงวันหนึ่งที่เขาอายุมากขึ้น...ว่าชีวิตจะเป็นอย่างไรกันเลยหรือไง.....
จะมีบ้างไหมที่ใครสักคนเข้าใจ
จะมีบ้างไหมที่ใครสักคนจะห่วงใย
ชีวิต...ที่เหมือนคนหลงทางคนนี้
ชีวิต...ที่ชายจริงก็ไม่ใช่...
หญิงแท้...ก็ไม่เชิง
ชีวิตที่ร่างเป็นชาย..แต่ใจเป็นหญิง...
ชีวิตที่ไม่ได้อยากมาเผชิญกับความทุกข์
แม้ว่าจะรู้ว่า...ถ้าไม่ทุกข์...แล้วจะรู้ได้ยังไรว่าอะไร คือ สุข
แล้วเมื่อไหร่ละ...ชีวิตฉันถึงจะพบความสุขบ้าง...
สุขที่ฉันฝันว่าปลายทางของชีวิต...ฉันจะมีเขาเคียงข้าง
ปลายทางชีวิตฉัน...แม้นาทีสุดท้ายที่ฉันจะมีลมหายใจ
ฉันก็อยากที่จะมีเขาอยู่ข้าง ๆ ....
จะมีบ้างไหมหนอ….ใครคนนั้น
อาการนนท์ดีขึ้น...หลังจากที่แก้ว... คนรับใช้ที่บ้านเอาข้าวต้มมาให้ทานตอนกลางวัน...นนท์ลุกขึ้นจากเตียงมานั่งดูทีวี...แก้ว..ถอดผ้าปูที่นอนที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อไปซักและเอาผ้านวมออกไปตากแดด...เหมือนจะได้ฆ่าเชื้อโรค...
วันนั้น นัทลาโรงเรียนมาครึ่งวัน เพื่อมาคอยดูแลนนท์ .... เขาเอาเก้าอี้มานั่งเฝ้านนท์อยู่ข้างเตียง ขณะที่อ่านหนังสือไปด้วย .... นนท์สลึมสลือตื่นขึ้นมาเห็น...ก่อนที่จะหลับไป .... เขาจะมาเฝ้าทำไม...มาอ่านหนังสือให้เห็นแสร้งทำให้นนท์เห็นเหรอว่าตั้งใจจะเรียน....
หลังจากที่นนท์หายไข้ในวันนั้น...นิคโทรมาหานนท์ทุกวัน...เวลา 8.45 น. เป็นเวลาที่นิคจะต้องโทรมาหานนท์...ทุกครั้งก่อนที่จะพูดเล่าเรื่องอื่น นิคจะพูดประโยคนี้เสมอ
“พี่นนท์คับ...ผมรักพี่นะคับ..พี่นนท์พร้อมจะรักผมหรือยัง”
หลังจากที่พูดประโยคนี้แล้วเขาก็จะมีเรื่องต่าง ๆ มาเล่าให้นนท์ฟังได้ทุกวัน ไม่ว่าเรื่องเรียน เรื่องรายงาน เรื่องเพื่อน เรื่องการไปเล่นกีฬาของเขา แต่เรื่องที่เขาเล่าให้ฟังบ่อยมากที่สุด ก็คือเรื่องครอบครัวของเขา...เล่าถึงพ่อบ้าง แม่บ้าง พี่สาวทั้งสองคนของเขาบ้าง จนนนท์รู้สึกว่า...แม้จะยังไม่ได้เจอคนในครอบครัวของนิคเลย...แต่ก็รู้จักหมดแล้วอย่างละเอียดซะด้วยซิ...นิคเคยพูดถึงนนท์กับที่บ้าน...เอาเรื่องของนนท์ไปเล่าให้ที่บ้านฟัง..จนทั้งพ่อและแม่ของนิคอยากจะเจอนนท์เหมือนกัน... ~อย่าเพิ่งเข้าใจผิดละว่า...นิคเอาไปเล่าว่าชอบหรืออยากเป็นแฟน...เพราะนิคไม่สามารถที่จะบอกใครที่บ้านได้ว่ามีรสนิยมชอบผู้ชาย~ ...
นิคเอ่ยถึงนนท์ว่านนท์ทำงานอะไร...เป็นคนยังไง...หลังจากที่นิคโทรพูดคุยกับนนท์มาได้อีกสัก เดือนกว่า ๆ นิคก็เอ่ยปากขอพบนนท์อีก...แต่นนท์ต้องให้นิครับปากว่า...จะไม่มีเรื่องsex เข้ามาอีก...เพราะวันนั้นที่ทำกันไป..นนท์ก็รู้สึกผิดอยู่แล้ว..นิคก็รับปากว่าจะไม่ให้เกิดเรื่องอย่างนั้นอีก...นนท์จึงออกไปพบนิคที่ห้างแห่งหนึ่งย่านบางกะปิ...วันนี้นิคแต่งชุด shop ของคณะมา...ตัดผมสั้น...จากผมยาวเซอร์ประบ่า...ก็ทำให้ดูหน้าของนิคอ่อนวัยลงไปกว่าเดิมอีก...นนท์เข้าใจว่าเด็กวิดวะต้องแต่งตัวเซอร์ ๆ แน่ ...นิคก็แต่งตัวตามแบบของเด็กวิดวะ...แม้ว่าจะใส่เสื้อshop แต่กางเกงยีนส์ซีด ๆ ขาด ๆ รองเท้าผ้าใบสีมอ ๆ คู่เก่า ๆ ...นั่นคงเพราะต้องการแสดงให้คนอื่นเห็นถึงความเก๋าส์...ของการเป็นเด็กคณะวิดวะ...
การเจอกันระหว่างนนท์กับนิคครั้งนี้...กลับยิ่งทำให้ความรู้สึกของนิคที่ชอบนนท์อยู่แล้วเพิ่มมากขึ้น...นนท์สังเกตได้...นิคเองขณะที่เดินเล่นดูของในห้างกับนนท์ก็จะเดินจับมือนนท์ตลอดเวลา....จนนนท์รู้สึกว่าทั้งตัวเขาและนิคกำลังตกเป็นเป้าสายตา...ที่กำลังจับจ้องและมองดูว่า สองหนุ่มต่างวัย...คนหนึ่งแต่งตัวชุดทำงานราคาแพง...อีกคนเป็นนักศึกษาแต่งตัวเซอร์ ๆ เดินจับมือกันอย่างไม่แคร์สายตาใคร...ใครว่าไม่แคร์ละ...นนท์พยายามหลายครั้งที่จะดึงมือออก...แต่นิคก็พยายามจะจับไว้ไม่ปล่อย...นนท์เริ่มรู้สึกถึงความอบอุ่นที่เด็กหนุ่มคนนี้มอบให้ผ่านฝ่ามือของเด็กหนุ่ม ....นนท์เคยอ่านอ่านวิจัยฉบับหนึ่งของต่างประเทศ...ที่บอกถึงการถ่ายทอดพลังและความรู้สึกทางฝ่ามือจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง...
บ่อยครั้งขณะที่เขากุมมืออยู่เขาจะบีบมือนนท์เบา ๆ เหมือนอยากบอกให้รู้ว่า...ผมอบอุ่นที่สุดที่อยู่กับพี่ตอนนี้...ผมดีใจสุด ๆ ....ผมรักพี่....ไม่รู้ว่านนท์เข้าข้างตัวเองหรือป่าว...แต่ความรู้สึกที่ถ่ายทอดมานั้น...นนท์สามารถรับรู้ได้แบบนี้...หรือแม้แต่กระทั่งเดินขึ้นบันไดเลื่อนเขาจะไม่ก้าวมายืนบนขั้นเดียวกัน...แต่จะอยู่ขั้นต่ำกว่า...เพื่อที่จะจับมือนนท์มาทางด้านหลังแล้วเขาจะได้จูบที่มือนนท์ได้...เขาทำโดยที่เขาไม่แคร์สายตาใครเลย...แต่นนท์ซิ..รู้สึกอาย...จนนาน ๆ เข้านนท์ก็เริ่มคิดว่า .... ช่างมันเถอะ...คนที่เห็นก็เห็นเราแค่ครั้งเดียว...คงจำหน้าตาเราไม่ได้หรอก....
วันนั้นนนท์เดินเล่นในห้างอยู่กับนิคจนถึงเย็น...นิคพยายามอย่างมากที่จะขอมีไรกับนนท์ด้วย...แต่เพราะนนท์ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไม่มีใครเด็ดขาด...จะไม่ทำตัวแย่ ไม่ทำตัวนอกใจนัท...เพราะกลัวว่านี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้นัทมีข้ออ้างที่จะเดินออกจากชีวิตของนนท์ เพื่อไปอยู่กับผู้หญิงคนนั้น...ซึ่งนนท์คงทนรับสภาพนั้นไม่ได้...แค่รู้เรื่องในช่วงแรก ๆ ความรู้สึกและใจของนนท์ก้แทบจะสลายแล้ว..แต่นนท์ก็ต้องทนเก็บความอยาก...ความใคร่...ตัณหาที่นิคพยายามหยิบยื่นมาให้....เขาก็เป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาคนหนึ่ง มีกายมีเลือดเนื้อมีจิตใจ มีความไหวหวั่นอยู่เหมือนกัน...
วันนั้นหลายครั้งที่เขาคิดจะตัดสินใจที่จะไปมีอะไรกับนิคหลายครั้งอยู่เหมือนกัน...เพราะทุกอย่างก็เอื้ออำนวยต่อทั้งสอง....บนถนนลาดพร้าว หรือใกล้ๆ ย่านนั้นก็มีโรงแรมม่านรูดให้ทั้งสองคนได้เข้าไประเริงรักได้อย่างไม่ต้องกังวล...ว่าใครจะมอง...บรรยากาศก็เอื้อ...แถมยังมีเด็กหนุ่มใสซื่อ...ที่ยังไม่เคยมี sex แบบลึกซึ้งกับใคร...นนท์ก็คิดเหมือนกัน เหมือนกับว่ารูสวาทของนนท์จะได้รับเอาท่อนเนื้อที่ยังไม่เคยผ่านการชำแรกรูของใครมาเป็นคนแรก...นี่ถ้านนท์ไม่คิดว่าตัวเองรักนัทมากแค่ไหน....นี่ถ้ายังเป็นสมัยก่อน ๆ ที่จะมีนัท...นนท์คงยินยอมให้นิคแล้ว....
นิคไม่เคยลดความพยามเลยที่จะสร้างความสัมพันธ์กับนนท์ให้ได้...ครั้งหนึ่งที่นิคเอ่ยปากขวนนนท์ไปที่บ้านเขาที่ต่างจังหวัด....วันนั้น...นนท์รู้ว่านัทคงไม่กลับมานอนที่บ้านเพราะเขาเขียนโน้ตไว้ที่กระดานไวท์บอร์ดที่นนท์แขวนไว้หน้าประตูบ้านว่า
“พี่นนท์คับ...ผมไปเลี้ยงฉลองกับเพื่อนนะคับ...”
นนท์รู้ว่าวันนั้นเขาจบหลักสูตรเรียนซ่อมเครื่องมอไซค์...คงอยากไปฉลองกับเพื่อน...ทั้ง ๆ ที่ในใจเขารู้อยู่เต็มอกที่ปวดร้าวทุกข์ระทมมาแรมเดือนว่า..มีเหรอที่นัทจะไม่เอาผู้หญิงคนนั้นไปด้วย...เขาอยากตามไปดูให้เห็นกับตา..แต่ไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร...ปล่อยให้เป็นไปอย่างนี้ดีกว่า...เพราะก็เหมือนกับการให้เกียรติเขาที่เราจะไม่เข้าไปก้าวก่ายกับชีวิตเขา...ถ้าเลิกกันจะได้เอามาว่าเราไม่ได้ว่าเราเข้าไปก้าวก่ายชีวิตของเขา....จนเขาเบื่อและรำคาญ...ทนไม่ได้ที่เข้าไปวุ่นวายกับชีวิตของเขา จนเขาต้องเลิก...
จบตอนที่ 15
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับผม{:5_130:} {:5_120:}
ขอบคุณครับ...ต่อ ยาวๆ{:5_120:} ขอบคุณครับ ^^ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ เริดคร้า ขอบคุณนะครับ
ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณมากครับ{:5_118:}{:5_118:} ขอบคุณครับ สนุกมากครับ ขอบคุณมากครับ{:5_118:} ขอบคุณนะครับ ชอบ ชอบ
หน้า:
[1]
2