ยอดรักคุณตำรวจ ตอน 1 (CP ครับ)
ตอนที่ 1ร่างสูงกำยำได้สัดส่วนในเครื่องแบบตำรวจ กำลังนิ่วหน้าขมวดคิ้ว เมื่อได้รับข้อความผ่านมือถือของตนมาจากใครคนหนึ่ง ด้วยประโยคที่ทำให้เขาอยากจะเขวี้ยงมือถือในมือทิ้งไป ถ้าไม่เกรงว่าจะสิ้นเปลืองต้องซื้อเครื่องใหม่มาแทน
‘คิดถึงจังเลยที่รัก ห้ามนอกใจฉันล่ะ แล้วคืนนี้ฉันจะเตรียมอุปกรณ์ที่นายชอบเอาไว้รอนะ’
“ไอ้บ้า โรคจิต”
กานต์พึมพำเบา ๆ กับตัวเอง ใบหน้าแดงระเรื่อน้อย ๆ ทั้งโมโห ทั้งอาย ที่อีกฝ่ายเอาแต่ส่งข้อความไร้สาระ มารบกวนสมาธิในการทำงานของเขาอยู่เรื่อย
ผู้หมวดหนุ่มเดินกระแทกเท้ากลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะของตนต่อ เพราะเขาไม่อยากเช็คข้อความในห้องทำงาน เนื่องจากกลัวตัวเองหลุดสีหน้าให้คนอื่นจับได้ เกี่ยวกับเรื่องคนรักลับ ๆ ของเขา
ใช่แล้ว… กานต์มีคนรัก และยังเป็นคนรักที่ไม่สามารถเผยตัวให้คนอื่นได้เห็น ไม่เพียงแค่เหตุผลว่าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายเท่านั้น แต่เพราะสถานะเบื้องหลังอาชีพที่อีกฝ่ายทำอยู่ นั่นคือเหตุผลหลักที่เขาจะยอมให้เพื่อน ๆ ในที่ทำงานของเขาล่วงรู้ไม่ได้เด็ดขาด
เพราะนอกจากจะเป็นผู้ชายด้วยกันแล้ว ชายหนุ่มยังเป็นนักธุรกิจที่มีเบื้องหลังพัวพันกับแก๊งมาเฟียจีนในไทย ‘หย่งเฉิง’ อันเป็นแก๊งอิทธิพลใหญ่ในโลกเบื้องหลัง ที่ตำรวจอย่างเขาไม่ควรเข้าไปข้องเกี่ยว
ความสัมพันธ์ของเขาและเควิน หนุ่มลูกครึ่งจีนอเมริกาผู้นี้ ก็เกิดขึ้นด้วยความบังเอิญล้วน ๆ แท้ ๆ เนื่องจากเขาอกหัก โดนแฟนสาวที่คบกันมาสามปีบอกเลิก จึงทำให้เขาเผลอไปดื่มจนเมามาย ให้อีกฝ่ายมาเจอ ก่อนจะเกิดความสัมพันธ์สวาทชั่วข้ามคืน ที่พอเขารู้ตัวก็ต้องรีบแผ่นหนีให้ห่าง ไม่คิดจะสานต่อ
แต่เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้ง แทนที่จะเลิกแล้วต่อกันไปเหมือนอย่างที่เขาคิด เควินกลับตามมาหาเขา และขู่แบล็กเมล์ถึงคลิปสวาทที่อีกฝ่ายใช้มือถือถ่ายเก็บเอาไว้ พร้อมยื่นเงื่อนไขทางธุรกิจบางอย่าง ที่ทำให้เขายากที่จะปฏิเสธ นั่นก็คือ ข่าววงในของพวกอาชญากรในโลกเบื้องหลัง แลกกับที่เขาต้องช่วยปรนเปรอมอบความสุขให้หนุ่มลูกครึ่งในแต่ละครั้ง
และที่น่าแค้นใจไปเสียยิ่งกว่าการถูกขู่บังคับ ตัวเขาเองนั้นยามที่ถูกชายหนุ่มลูกครึ่งสัมผัส ก็กลับเผลอสนองโต้ตอบไปด้วยความเร่าร้อน อย่างที่ตัวเขาไม่คิดว่าจะเป็นไปได้ จนเกิดถูกอกถูกใจคนโรคจิตนั่นเข้า สุดท้ายไป ๆ มา ๆ เขากับเควินก็เลยกลายเป็นคนรักกัน โดยที่เขาเองก็งุนงงอยู่บ้าง แต่ถึงอย่างนั้นเขากลับไม่เคยนึกรังเกียจสัมผัสจากชายหนุ่มลูกครึ่งผู้นี้เลยสักครั้งเดียว
“กานต์! เฮ้ย! ได้ยินเปล่าวะ”
อาชวิน เพื่อนสนิทร่วมแผนกสืบสวนปราบปรามของกานต์ ตะโกนดังขึ้นเมื่อเห็นชายหนุ่มนั่งเหม่อลอยได้สักพัก
“หะ…หา ... ทำไม มีอะไรงั้นหรือวะวิน”
กานต์ถามตะกุกตะกักด้วยความตกใจ เขาคงเผลอเหม่อไปหน่อย ขนาดเพื่อนมายืนอยู่ข้าง ๆ ยังไม่รู้ตัวถ้าจะโทษก็คงต้องโทษเจ้าคนโรคจิตที่ส่งข้อความบ้า ๆ นั่นมานั่นล่ะ ที่ทำให้เขาเอาแต่เหม่อไม่มีสมาธิแบบนี้
ชายหนุ่มคิดเข้าข้างตัวเองในใจ แล้วรอฟังคำตอบจากเพื่อนว่าเจ้าตัวเรียกชื่อเขาทำไม
“ก็แค่จะมาถามว่าจะเลือกหยุดพักร้อนช่วงไหน คดีไอ้ปีเตอร์คราวก่อน ผู้หลักผู้ใหญ่เขาชมกันมามากเลยนะ สารวัตรเจ้านายเราเลยหน้าบาน ยอมให้ลูกน้องผู้ขยันขันแข็งอย่างพวกเรา เลือกวันหยุดพักในช่วงนี้ได้ตามสบาย ไม่ต้องรออนุมัติพิจารณาให้ยุ่งยาก”
อาชวินบอกเรื่อย ๆ ซึ่งกานต์ก็ได้แต่พยักหน้าน้อย ๆ รับ
“หยุดพักร้อนอย่างนั้นรึ สำหรับฉันมันก็ไม่ค่อยจำเป็นนัก…หรอก”
ท้ายประโยคเจ้าตัวชะงักเล็กน้อย เมื่อนึกถึงใครบางคน ผู้หมวดหนุ่มหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาทันที จนคนมองจับได้
“อะฮ้า คิดถึงสาวสวยพราวเสน่ห์สายข่าวของนายล่ะสิ ก็ดีนะกานต์ นาน ๆ ได้หยุดที พวกนายหาเวลาไปพักผ่อนกันสองต่อสองเสียบ้างก็ดี คุณเธอจะได้ไม่เบื่อจนทิ้งนายไปอีกคน สาว ๆ น่ะขี้เบื่อง่ายจะตายไป”
อาชวินเอ่ยแซว พร้อมกับแนะนำเพื่อนสนิทและจนถึงป่านนี้ ชายหนุ่มก็ยังคงเข้าใจว่าคนรักลับ ๆ ผู้เป็นสายคอยส่งข่าวต่าง ๆ ให้กานต์ นั้นเป็นผู้หญิงและมีสัมพันธ์สนิทแนบแน่นกับเพื่อนของเขา ทั้งนี้เพราะกานต์ไม่คิดจะแก้ตัว และปล่อยให้เพื่อนเข้าใจผิดไปอย่างนั้นแทน เพื่อความสบายใจและเป็นการรักษาความลับของตัวเขาเอง
“อื้อ … จะลองถามเขาดูแล้วกัน”
ผู้หมวดหนุ่มพยักหน้ารับอย่างว่าง่าย เพราะไม่อยากให้เพื่อนเซ้าซี้เรื่องนี้ต่อ และอีกใจหนึ่งเขาก็นึกอยากไปพักผ่อนอยู่สองต่อสองกับเควินเช่นกัน เนื่องจากต่างฝ่ายก็ต่างงานยุ่ง จะเจอกันได้แค่เฉพาะหลังจากเลิกงานไปแล้ว แถมยังไม่ใช่ทุกวันอีกด้วย เพราะถ้าตอนไหนเขามีคดีติดพัน ก็แทบจะต้องนอนค้างสถานีตำรวจติด ๆ กันหลายคืนเลยทีเดียว แล้วพอเขาจะเริ่มว่างบ้าง เควินก็มีเรื่องงานทั้งเบื้องหน้าเบื้องหลังต้องจัดการอีกมากมายจนบางทีก็ทำให้เขารู้สึกไม่เต็มอิ่มในเรื่อง ‘อย่างว่า’ ที่ชายหนุ่มมีให้ เพียงแต่กานต์ไม่มีวันจะพูดต่อหน้าอีกฝ่ายเด็ดขาดในเรื่องนี้
ผู้หมวดหนุ่มนึกในใจแล้วก็ต้องหน้าแดง ก่อนจะสะดุ้งอีกครั้งเมื่อเพื่อนเรียกชื่อ พร้อมกับส่งสายตาเจ้าเล่ห์ยิ้มเยาะล้อเลียนตามมา
“ฉันเปล่าคิดถึงเรื่องแบบนั้นนะ!”
ชายหนุ่มแก้ตัวออกไปแล้วก็ต้องหน้าแดงหนักขึ้น เพราะดันลืมตัวเผลอพูดในสิ่งที่คิดไปให้อีกฝ่ายรับรู้ ถึงจะออกในเชิงปฏิเสธก็เถอะ ทางด้านอาชวินหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ แล้วจึงยักไหล่น้อย ๆ ก่อนรับคำ
“ครับ ๆ คุณผู้หมวด อย่ามัวแต่ฝันหวานล่ะ เดี๋ยวงานผิดพลาด แล้วจะโดนอยู่โยงเฝ้าสน.แทน จะได้พักร้อนนะ”
“รู้แล้วน่า!”
กานต์ตะโกนไล่หลังเพื่อนที่เดินจากไป เขาหยิบปฏิทินตั้งโต๊ะมาเช็ควันที่ ชายหนุ่มยิ้มน้อย ๆ กับตัวเองอย่างลืมตัว ก่อนจะชะงักมองซ้ายมองขวา ว่ามีคนเห็นไหม แล้วจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก เมื่อคนอื่นต่างคนก็ต่างทำงานของตัวเองอยู่ไม่ได้มาสนใจเขาจากนั้นกานต์จึงเริ่มเรียกสมาธิ พร้อมกับก้มหน้าก้มตาทำงานของตนต่อด้วยความตั้งใจยิ่งกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา
ตกตอนเย็นเวลาเลิกงาน กานต์ก็โบกแท็กซี่ไปที่คอนโดของเควิน และแม้ว่าหนุ่มลูกครึ่งจะเสนอให้เขาย้ายไปอยู่ด้วยกันกับเจ้าตัว กานต์ก็เลือกปฏิเสธ เพราะมันจะยิ่งเสี่ยงความแตกกับคนอื่นมากขึ้น ขนาดเควินจะให้คนของตัวเองคอยขับรถรับส่ง ผู้หมวดหนุ่มยังต้องคิดหนัก และสุดท้ายจึงตัดสินใจว่าถ้าอยากจะไปหา เขาจะไปเอง
คอนโดทันสมัยที่ผู้อาศัยต้องพกคีย์การ์ดประจำตัวผ่านระบบรักษาความปลอดภัยของคอนโด ทำให้กานต์ต้องถอนหายใจเบา ๆ เมื่อคิดถึงอพาร์ตเมนต์เก่า ๆ แคบ ๆ ที่เขาเช่าไว้อาศัยซุกหัวนอนโดยเฉพาะ
กานต์ขึ้นลิฟท์มาถึงชั้นบนสุด เขาใช้คีย์การ์ดเปิดห้องหนึ่งในชั้นนั้น เข้าไปนั่งพักผ่อนรอเควินกลับ เพราะก่อนหน้าที่จะมาถึงที่นี่นั้น เควินได้โทรมาบอกว่าวันนี้เขาอาจจะกลับค่ำไปสักหน่อย
“หมอนั่นจะมาสักกี่โมงกี่ยามกันนะ!”
ผู้หมวดหนุ่มบอกอย่างหงุดหงิด เมื่อเข็มนาฬิกาติดผนังชี้บอกเวลาสองทุ่มตรง เขาตัดสินใจเดินตรงไปในครัวเพื่อหาของกิน ที่ในตอนแรกเขาตั้งใจจะกินพร้อมกับอีกฝ่าย แต่เวลาป่านนี้แล้ว เควินอาจจะกินมื้อเย็นพร้อมลูกค้าที่เจ้าตัวไปติดต่องานด้วยเรียบร้อยไปแล้วล่ะ
“โทรมาบอกสักหน่อยก็ไม่ได้ ว่าให้กินไปก่อน คนจะได้ไม่ต้องรอ”
กานต์บ่นอุบอิบกับตัวเองลำพังแล้วตรงไปที่โต๊ะอาหาร ปกติแล้วถ้าอยู่ด้วยกัน เควินจะเป็นคนเตรียมมื้อเย็นให้เขา ฝีมือทำอาหารของหนุ่มลูกครึ่งก็แสนจะเพอร์เฟกต์ ทำให้กานต์เผลอคิดว่ามีอะไรที่ผู้ชายคนนี้ทำไม่เป็นบ้างไหม
“ทอดไข่แล้วกัน”
เมนูอาหารสามัญประจำบ้าน ถูกนำมาใช้เป็นมื้อค่ำนี้ กานต์ทำไข่ดาวกินกับขนมปังปิ้งและกาแฟ ความจริงก็มีเนื้อสัตว์แช่อยู่ แต่เขาอาศัยทำกินง่าย ๆ แก้ขัดไปก่อน พอกินไปกินมากานต์ก็เหลือบไปเห็นผ้ากันเปื้อนที่ถูกแขวนอยู่ข้างตู้เย็นเข้า เขาขมวดคิ้วน้อย ๆ นึกถึงอะไรบางอย่าง ก่อนจะหน้าแดงระเรื่อตามมา
“บ้าน่ะเรา คิดอะไรทุเรศ ๆ สงสัยจะติดเชื้อโรคจิตตามหมอนั่นมาแหง”
กานต์พึมพำกับตัวเอง แล้วพยายามเลิกคิดฟุ้งซ่าน แต่สักพัก เขาก็ต้องเหลือบสายตาไปที่ผ้ากันเปื้อนผืนเดิม กลืนน้ำลายลงคอ แล้วจ้องไปยังทางประตูเข้าห้องที่ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครเปิดเข้ามา
“ลองสักหน่อย ก็ไม่เสียหายอะไรนี่นะ”
ผู้หมวดหนุ่มพึมพำทั้งที่ใบหน้าแดงระเรื่อ แล้วหยิบผ้ากันเปื้อนผืนนั้น เดินไปยังห้องน้ำ ส่องกระจกบานใหญ่ในนั้นแล้วตัดสินใจถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกทีละชิ้น ทีละชิ้น จนเหลือแต่เพียงร่างกายเปลือยเปล่า ก่อนจะค่อย ๆ สวมผ้ากันเปื้อนปิดบังเรือนร่างของตนด้วยใจเต้นระทึก
“ฮะ…ฮะ ดูไม่ค่อยได้เลยแฮะ”
กานต์บอกกับตัวเองด้วยใบหน้าเขินอาย ผ้ากันเปื้อนผืนบางแนบลู่ไปกับแผ่นท้องราบเรียบด้วยมัดกล้ามเนื้อของเขา ไล่ไปจนสุดส่วนด้านล่างที่นูนดันผ้าออกมาเล็กน้อยชายหนุ่มอยากจะลองเลียนแบบดาราสาวหนังโป๊ที่ใส่ผ้ากันเปื้อนผืนเดียวไปยั่วยุอารมณ์คนรัก แต่เขาก็ไม่แน่ใจว่าเควินจะชอบ หรือจะช็อกกันแน่ หากได้เห็นเขาในสภาพเช่นนี้
“บ้าชะมัดเลยเรา ถอดออกดีกว่า …”
“เพล๊ง!”
เสียงคล้ายแก้วแตกที่ดังจากบริเวณห้องครัวของบ้าน ทำให้กานต์ชะงักกึก ด้วยสัญชาตญาณของตำรวจ ทำให้เขาวิ่งพรวดออกไปจากห้องน้ำตรงไปที่บริเวณที่เกิดเหตุทันที โดยลืมไปว่าตัวเองกำลังอยู่ในสภาพใด
“นั่นใคร!”
เสียงตวาดลั่นของผู้หมวดหนุ่มทำให้คนที่เผลอทำแก้วน้ำหลุดมือชะงักแล้วหันมามองอีกฝ่าย ก่อนจะนิ่งอึ้งตะลึงพูดไม่ออก เมื่อเห็นสภาพของคนรักในยามนี้
“อ้าว…นายเองหรอกหรือเควิน หือ ทำแก้วตกงั้นรึ”
เมื่อเห็นว่าเป็นชายคนรัก กานต์ก็กลับเข้ามาสู่โหมดปกติเป็นใบหน้าผ่อนคลาย ก่อนจะขมวดคิ้วสงสัย เมื่อเห็นสายตาตกตะลึงมองมายังตน
“นายมองฉันแบบนั้นทำไม…กัน”
คนพูดชะงักกึกอย่างนึกได้ พลางก้มมองดูสภาพของตัวเอง ใบหน้าจึงพลันแดงก่ำ แล้วละล่ำละลักบอกอีกฝ่าย
“ฉะ…ฉัน…ไม่นะ…ฉันก็แค่ …ดะ เดี๋ยว ฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนดีกว่า”
กานต์บอกแล้วรีบหันหลังกลับจะวิ่งไปห้องน้ำ แต่เควินที่มองอยู่ กลับก้าวข้ามเศษแก้วแตกบนพื้น แล้วฉุดมือของผู้หมวดหนุ่มเอาไว้ไม่ให้หนีไปไหน
“นายอยากแต่งให้ฉันดูไม่ใช่หรือไง …แล้วจะหนีไปไหนล่ะ”
ใบหน้าหล่อเหลาของหนุ่มลูกครึ่งก้มลงกระซิบข้างหูของอีกฝ่าย กานต์นั้นใบหน้าร้อนผ่าว แล้วจึงพยายามดิ้นรนหนีจากร่างสูงเต็มแรง
“มะ ไม่ใช่ … นายอย่ามองนะ …อย่ามองสิ”
ใบหน้านั้นแดงก่ำด้วยความอับอาย ดวงตาคู่สวยก็มีน้ำใส ๆ คลอวิบวับ ภาพที่เห็นก็ยิ่งยั่วยุอารมณ์ของเควินให้พลุ่งพล่านมากยิ่งขึ้น
“ไม่เห็นต้องน่าอายเลย มันน่าดูออก ไหนให้ฉันดูชัด ๆ หน่อยซิ”
เควินกระซิบพร้อมกับใช้แรงที่มากกว่า รวบข้อมือทั้งสองข้างของผู้หมวดหนุ่มยกขึ้น แล้วสำรวจร่างตรงหน้าอย่างพึงพอใจ
“นายเซ็กซี่มากเลยนะ กานต์”
“อือ…ปล่อยฉันเถอะเควิน …ฉันอาย”
กานต์เงยหน้าจ้องมองสบตาชายหนุ่ม แล้วร้องขอความเห็นใจจากอีกฝ่าย ใบหน้าอ้อนวอนนั้นช่างดูน่ารักจนคนมองห้ามตัวเองเอาไว้ไม่ไหว
“ปล่อยก็ได้ … แต่นายต้องทำให้ฉันพอใจตอบแทนนะ”
กานต์ชะงัก เขาเข้าใจความหมายที่แฝงมาในคำพูดนั้นดี ผู้หมวดหนุ่มมีสีหน้าเขินอายเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้ารับ พร้อมกับตอบเสียงแผ่ว
“ก็ได้”
ติดตามตอนต่อไปนะครับ
ขอบคุนนะคับ{:5_130:} อยากอ่านต่อเลยครับขอบคุณนะครับ มาต่อไวไวนะคร้าบบบ สุดยอดครับผม ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ ขอบคุนครับ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ {:5_135:} น่าสนุกจังเลย :) ขอบคุณครับ ขอบคุนนะ ขอบคุณครับ ขอบคุณครับ {:4_104:}ขอบคุงครัช เสียวดีน่าสนุกชอบคับ ขอบคุณมากๆครับ
สนุกมากๆเลย ขอบคุนครับ กระผมชอบเรื่องนี้มากๆครับ ถึงจะต้องเสียคะแนนหรือเสียเงินซื้อก็น่าจะคุ้มฮ่าๆๆๆ เพราะมันสนุกมากๆครับผม ฝากถึงคนแต่งว่ายังไงก็เอามาเล่าสู่กันฟังอีกนะครับ เพราะเชื่อว่ามีคนมีแฟนคลับที่ติดตามและรอคอยอ่านอยู่อีกเปลียบเลยฮ่าๆๆ ยังไงก็อย่าลืมมาลงอีกนะครับ แล้วพวกกระผมจะรออ่านกันนะครับ ขอบคุุณครับ สวัสดีครับผม คุณคนแต่ง แต๊งกิ้วๆ คราบๆๆ ออ..เกือบลืมบอกไปครับ ว่า เรื่องนี้ต้องซื้อแพงครับ แต่ก็น่าจะคุ้มครับ เพราะสนุกจริงๆ คิดว่าคนอื่นๆก็น่าจะคิดเหมือนๆเรากันมั้งนะครับ คิๆๆ เอาละ...ไปละครับ ขอบคุณมากๆนะคราบๆๆ สวัสดีครับผม โชคดีครับ