duckkonoha
โพสต์ 2014-7-4 17:44:05
บทที่ 27 รักหรือแค้น
ไม่มีส่วนไหนในร่างกายพี่ปอ จะรอดจากการจูบไซ้ของผมไปได้ อารมณ์หื่นของผมไม่รู้มาจากไหน จูบฟัดพี่ปอจนผิวขาวๆ แดงเป็นปื้นๆ ไปทั้งตัว
แต่ดูเหมือนพี่ปอ ก็จะชอบบทรักหื่นๆ ของผมอยู่ไม่น้อย ครวญครางไม่หยุดปาก
“ซี๊ด.ด ด ด ด ด... ดินครับ... อูยซซซซ พี่เสียว...”
ไม่ว่าใบหน้าผมจะซุกไปตรงไหน พี่ปอก็จะสั่นสะท้าน ตัวงอ ขนลุกเกรียว ดิ้นพราดไปมาตลอด...
ผมเอื้อมมือล้วงไปที่กระเป๋ากางเกงของผม ในนั้น มี แพ็คเควายขนาดเล็ก ที่พี่รัตน์ เอามาใส่ซองพลาสติคซิปล๊อคแจกให้เด็ก เวลาจะออกไปกับแขก ปรกติผมก็ไม่ค่อยหยิบมาเท่าไร แต่วันนี้ผมนึกยังไงก็ไม่รู้ หยิบมาสองสามซองได้...
เอาครีมใสๆ ทาที่ “ท่อนควย” ของผมจนเป็นมันปลาบ เหลืออีกเล็กน้อย ลูบแหย่ลงไปที่ร่องก้นของพี่ปอ....
“อูยซซซ ดิน เบาๆ นะ ของเราใหญ่...”
ผมยิ้ม ไม่ตอบ นัยน์ตาเป็นประกายดุที่พี่ปอไม่ทันเห็น... จับขาสองข้างของพี่ปอพาดใหล่ ขยับสะโพกให้ ตรงกับเป้าหมาย แล้วดันเบาๆ จนส่วนหัวอวบๆ ของ “กระดอ” อันใหญ่ของผม จมลงไปในรูมิดหัวหยัก...
“อื๊ยซซซ ดิน... เดี๋ยวก่อน...” พี่ปอดันหน้าท้องของผมไว้ แต่ผมก็ยังเกร็งกล้ามเนื้อ กดสะโพกของผมลงไปอีก...
“ดะ...เดี๋ยว... ดิน... อูยซซซ อย่าดัน... พี่จุก... อูยซซซ” พี่ปอสะดุ้ง เมื่อผมกดลงไปอีก จนเม็ดมุกเม็ดแรกผ่านเข้าไป
ผมบิดสะโพกให้ท่อนลำควงเป็นวงกลม... พี่ปอถึงกับปล่อยมือลง เมื่อเห็นว่าห้ามผมไม่อยู่แล้ว... นอนตัวสั่นระริก หน้าเหยเก... ครางไม่หยุดปาก... สะดุ้งเป็นจังหวะ เมื่อเม็ดมุกที่ฝังอยู่ใต้หนังหุ้ม ‘ควย’ ของผมผ่านเข้าไปทีละเม็ด สอง...สาม...สี่...ห้า...หก... พอครบ ผมก็ดันยาว มิดสุดโคน...
“อ๊าซซซ ดิน... เดี๋ยวนะ อย่าเพิ่งขยับ... อูยซซซ มันแน่นไปหมด”
ผมย้ำสะโพกกดนิ่งๆ ไว้ครู่นึง โน้มตัวลงไปจูบปากกับพี่ปอ ที่เผยอปากรับผมเป็นอย่างดี... เราจูบปากแลกลิ้นกันอยู่ครู่นึงจนผมเห็นว่าพี่ปอเริ่มหายใจคล่อง จึงเริ่มเกร็งหน้าท้องขยับเป็นจังหวะ เริ่มจากช้าๆ ก่อน
พี่ปอกอดคอผมแน่น กระซิบที่ข้างหู “อูยซซซ ซี๊ดดดด ดิน... เบาๆ ก่อนนะ”
ผมขยับจากช้าๆ เป็นเร็วขึ้น ทั้งนุ่มนวล หนักหน่วงสลับกันไป ทั้งชั้นเชิงและประสบการณ์ ที่มีของผม ทำให้พี่ปอถึงกับครางไม่หยุดปาก....
ถ้าจะถามอารมณ์ ของผมในตอนนั้น มันมีทั้งอารมณ์หื่น รัก และแค้น... หลายอารมณ์รวมกันที่ผสมผสานกัน ให้ผมลงทัณฑ์กามกับพี่ปออย่างหนักหน่วงดุเดือด
“อูยซซซ ดิน... พี่... เกือบแล้ว ดิน... อ๊ายซซซซซ พี่ออกแล้ว...”
พี่ปอกอดผมแน่น ตอนน้ำเงี่ยนทะลักหลั่งออกมาจากปอน้อยอย่างมากมาย... แต่ผมยังไม่หยุดการขยับสะโพก ยังคง กระเด้าเอวเข้าใส่พี่ปอเป็นจังหวะต่อเนื่อง
“อูยซซซ ดินครับ... พี่เสียว...ครับ... ดิน... พอแล้วครับ...”
จนครู่ใหญ่ ที่ผมดำเนินการสาวเอวต่อเนื่อง นับจากพี่ปอเสร็จ ผมจึงค่อยหยุดการเคลื่อนไหว ของบั้นเอว... แต่ยังครับ... ผมยังไม่เสร็จ... พี่ปอลืมตามองดูผม น้ำตาปริ่มที่หางตา
“มีความสุขไม๊ครับพี่...”
“สุข...จนจะออกปากเลยละดิน...”
ผมค่อยๆ ดึงลูกชายของผมที่ยังแข็งขันออกมา... วางขาพี่ปอลงกับพื้น ทาบตัวลงไปกอดประกบ
“เรายังไม่เสร็จนี่นา...”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ... ผมเห็นพี่ปอมีความสุข ผมก็ดีใจแล้ว...”
“เหนอะหนะไปหมดแล้ว... ไปอาบน้ำกันเถอะ” พี่ปอบอก...
.........................................................................................................
อาบน้ำเสร็จ เช็ดตัวแห้ง... ผมก็เดินมาที่เสื้อผ้าที่ถอดกองอยู่ที่เก้าอี้ข้างสระน้ำ....
“พี่ปอครับ... เดี๋ยวผมขอกลับก่อนนะครับ” เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งของผมที่ขอลูกค้ากลับหลังจากเสร็จกิจ
“อ้าว... พี่คิดว่าเราจะค้างกับพี่...”
“พอดีผมมีธุระครับ”
พี่ปอทำหน้าผิดหวัง... ผมแต่งตัวเสร็จ... ก็เดินเข้าไปหาพี่ปอที่ยังนุ่งผ้าขนหนูนั่งอยู่ที่เก้าอี้...
“ผมขอโทษจริงๆ ครับ ที่ผมค้างไม่ได้ คืนนี้...” ผมนั่งลงที่เก้าอี้อีกตัว จับมือพี่ปอมากุมไว้...
“อือ... แต่วันหลังเราต้องมาค้างนะ...”
“ครับ” ผมยิ้ม แต่ไม่รู้เหมือนกันครับ ว่าวันไหน...
พี่ปอเดินไปที่ กางเกงของตัวเอง ล้วงหยิบ กระเป๋าตังค์ขึ้นมาเปิด หยิบใบละห้าร้อยออกมาสองใบ ยื่นให้ผม... ผมยกมือไหว้ รับ “ค่าตัว” ของผมมาเก็บใส่กระเป๋ากางเกง
“ขอบคุณครับพี่...” ผมบอก ก่อนจะหันตัวเดินออกไปทางประตูใหญ่
“ดิน...” พี่ปอเรียก... ผมหันมามอง
“ดิน... พี่ขอโทษนะ...”
“เรื่องอะไรครับ...”
“เรื่องที่พี่ผิดคำพูด... วันนั้น”
ผมยิ้ม... ส่ายหน้า... “ผมลืมไปหมดแล้ว...” ผมบอก แต่ไม่ได้บอกต่อว่า... ตอนนี้ ผมลืมแม้กระทั่งว่า ผมเคย “รัก” พี่ปอ...
.........................................................................................................
“ชล... ชล... เปิดประตูให้กูหน่อย” เคาะประตูเรียก หลังจากนั่งรถแท็กซี่ออกมาจากบ้านพี่ปอ ตรงดิ่งมาที่ห้องพักของไอ้ชล... ไม่แน่ใจเท่าไรหรอกครับ ว่า มันจะอยู่ห้อง แต่ พอมาถึง เห็นห้องมันไม่ได้คล้องสายยู... ไม่มีลูกกุญแจใหญ่ๆ อยู่ข้างนอก ผมก็ใจชื้น แสดงว่ามันอยู่....
ไม่นาน ประตูห้องก็เปิดออก ไอ้ชลตีหน้ามุ่ยเพราะถูกปลุกกลางดึก... ไม่ใช่สิ... นี่มันตีสองกว่าแล้ว... ผมหยักศกของมันที่รุ่ยลงมาปรกหน้าผาก ดูแล้วน่ารักเป็นบ้าเลย...
“มึงมาทำไม”
มันถามผมเมื่อผมเดินเข้าไป ปิดประตูเรียบร้อย...
“ถามมะนาวไม่มีน้ำเลยมึง... ผัวมาหาทั้งที”
ไอ้ชลลืมตาโพลง มองหน้าผมที่ยืนทำตาพราว... “ดิน... มึง... มึงว่าอะไรนะ...”
ผมเดินเข้าไปกอดมัน... “กูบอกว่า ผัวมาหาเมียไม่ได้เหรอ” พูดจบผมก็ก้มลงจูบมัน ที่ริมฝีปาก หน้าขาวๆ เคราเขียวๆ ของมันน่ารักเป็นบ้าเลยครับ ในสายตาของผมตอนนี้... ผมจูบไซ้มันอย่างหื่นกระหาย... กูไปกับลูกค้า ไม่แตกเพราะกูจะเก็บมาให้มึงนั่นแหละ มึงรู้ไม๊...
“หื่นอะไรมาล่ะมึง... ไปกับลูกค้าไม่แตกเหรอ”
มันพูดเหมือนกับรู้ แต่ผมไม่ตอบหรอกครับ เดี๋ยวมันก็รู้เอง... แผล๋บเดียว ทั้งผมและมันก็เปลือยเปล่า กอดรัดกันอยู่บนเตียง... ไม่ยากสำหรับผมสักนิด ที่จะทำให้ไอ้ชลมันเครื่องติดตามผม... เพราะแค่เห็นผมแก้ผ้า มันก็ “ควยลุก” แล้ว ยิ่งผมถอดกางเกงออกมา “ควยโด่” โดยที่มันไม่ต้องปลุกยิ่งไปกันใหญ่
“ซี๊ด... ชล...มึงง... ดูดควยเก่งสุดยอด” ผมครางซี๊ด อย่างเสียวสุด ครั้งไหนก็ครั้งนั้น ไอ้ชลมันไม่เคยทำให้ผมผิดหวัง ‘ควย’ ผมใหญ่ๆ ยาวๆ อย่างนี้ แหละ วูบเดียว หายเข้าไปในปากมันทั้งดุ้นอย่างง่ายดาย...
ทุกครั้ง ผมจะให้มันดูดจนพอใจ แล้วค่อยทำให้มันเป็น “เมีย” ผมในคราวเดียว... แต่คราวนี้ไม่งั้น... ไม่รู้ว่า เป็นเพราะผมรู้สึกดีๆ กับมันมากมาย หรือเป็นเพราะว่า อารมณ์ที่ถูกอั้นมาจากพี่ปอ... พอมาเจอลีลาการดูดควย “ขั้นเทพ” อย่างไอ้ชลวันนี้ ผมก็ต้องพ่ายแพ้มันอย่างราบคาบ... แค่มันอมควยผมเข้าไปหมดดุ้นแล้วปล่อยออกไม่ถึงสิบครั้ง ผมก็เกร็งตัวเหยียด
“อ๊ากซซซ... ชล...กูแตกแล้ว” กดหัวมันแน่น ขณะที่น้ำเงี่ยนของผมหลั่งพรั่งเข้าไปในคอมัน ขณะที่มันก็ไม่ยอมแพ้... ดูด ของผมอย่างต่อเนื่อง... กูไม่ใช่แม่วัวนะเฟ้ย... เอาควยกูออกมาได้แล้ว
“ชล... กูยอมมึงแล้ว... อูยซซซ ยอมแล้วคร๊าบ....”
แต่มันก็ไม่สนใจคำอ้อนของผมสักนิด... มันดูดจนพอใจ จึงค่อยคาย ‘ควย’ ผมออกมาจากคอมัน...
“มึงจะฆ่ากูเหรอ” ผมถามมันเสียงหอบ
“โทษฐานที่มึงมาปลุกกูกลางดึก” มันหันมาบอกยิ้มๆ... มึงอย่าน่ารักให้มันมากนักได้ไม๊... เดี๋ยะ...
ผมจูบปากแดงๆ ของมันแรงๆ ผมรู้ว่ามันยังไม่เสร็จ... แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับ ดับเบิลดอร์อย่างผม... น่าน... ว่าไปนั่น แต่ผมไม่ใช่พ่อมดอาจารย์ใหญ่หรอกนะครับ... ผมหมายถึง ผมสามารถ ยิงลูกซองแฝดได้ติดต่อกัน ถ้าผมพอใจตะหาก...
แล้วผมก็ทำให้มันครางแทนผมบ้าง... เมื่อผมสอด ‘ควย’ เข้าไปในตัวมัน แล้วขยับอย่างชำนาญเชิง... ไม่นานไอ้ชลมันก็ครางระงม... โธ่... ของผมอันไม่ใช่เล็กๆ ติดหัวรบพิเศษอีกหกเม็ด แถมมีดีกรีเกียรตินิยมการ “เอา” จากพี่ปิ๊กและลูกค้าหลายๆ คนมาด้วย ไอ้ชลเหรอจะรอด... ไม่นาน มันก็น้ำเงี่ยนแตกกระจาย โดยผมหรือมันไม่ต้องแตะ ชลน้อย เลยสักนิด...
พอผมเห็นมันแตกเรียบร้อย... ผมก็เร่งเครื่องตามมัน ไม่นานผมก็แตกน้ำเงี่ยนเข้าไปในรูของมันอีกครั้ง ด้วยความเต็มอกเต็มใจของผมเอง...
อาบน้ำชำระร่างกายกันเสร็จ เราก็ออกมานอนกอดกันบนเตียงในท่าโปรดของผม มันจับควยผมเล่นไปมาอย่างเคยมือ จนผมเริ่มเคลิ้มๆ จะหลับ มันก็เงยหน้าขึ้นมาดู ผมรีบหลับตาลง... พอมันเห็นว่าผมหลับตานิ่ง... มันก็จูบเบาๆ ที่คางผม
“ดิน... กูรักมึง”... เสียงกระซิบของมัน ทำให้ผมลืมตาโพลงไปอีกนานกว่าจะหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย....
Nikezero
โพสต์ 2014-7-4 22:15:52
ขอบคุณครับ
duckkonoha
โพสต์ 2014-7-8 07:54:59
บทที่ 28 เด็กเลี้ยง เลี้ยงเด็ก (1)
นั่งเล่าชีวิตเด็กขายมาป่านนี้ มีคนสงสัยไม๊ครับ ว่า ไอ้ดิน ที่รูปร่างอย่างงี้ ของใหญ่ + เสริมหัวรบพิเศษแบบนี้ เอาเก่งแบบนี้ ไม่มีคนสนใจเอาไปเลี้ยงมั่งเรอะ...
มีครับ... มีลูกค้าหลายคนที่มาเสนอกับผมทำนองนี้... แต่เท่าที่ผมเห็น... ชีวิตเด็กขายที่ไปอยู่กับลูกค้า ไม่เห็นมีใครรอดสักเท่าไร... (ไม่ได้บอกว่าไม่มีนะครับ...) ยิ่งตัวผมเองที่ค่อนข้างจะมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ทำให้ผมปฏิเสธ การที่จะเป็นเด็กเลี้ยงของใคร และอย่างที่บอกไว้ในบทก่อนๆ ว่า วันนึง ผมจะหันหลังให้กับวงการนี้... ทำให้ผมรอดมาได้... เรื่องราวเป็นมายังไง ลองมาฟังดูนะครับ
.........................................................................................................
พี่ภูเป็นชายวัยประมาณสี่สิบห้า ท่าทางภูมิฐาน เป็นลูกค้าขาประจำคนนึงของร้าน มาทีไรก็จะเปิดเหล้านอก เรียกเด็กมานั่งทีละสองสามคน แล้วก็ขึ้นไปร้องเพลง... ทีละหลายๆ เพลง... คุยเสียงดัง...
ที่จริง ผมไม่ใช่เด็กที่เป็นสเป็คของพี่ภูหรอกครับ พี่ภูมาที่ร้านเพราะติดเด็กอีกคนนึง ชื่อเจ้ารุจน์ แต่ เจ้ารุจน์ไม่ชอบไปกับพี่ภูเพราะ พี่ภูบ้านอยู่ไกล มันกลับไม่ได้... เจ้ารุจน์มีเมียเป็นหญิงครับ ไปค้างไม่ได้ (ผมก็งง กับมันเหมือนกัน... ให้ผัวขายเอ็นหาเลี้ยง แต่ห้ามไปค้าง...)
แล้วกิตติศัพท์ของพี่ภูอีกอย่าง ก็คือ อ๊อฟเด็กไม่เคยซ้ำหน้า นอกจากเจ้ารุจน์...
วันนี้ พี่ภูมาที่ร้าน ด้วยอาการมึนเมานิดๆ มาถึงก็ถามหาเจ้ารุจน์กับพี่ปิ๊ก
“ปิ๊ก วันนี้ รุจน์มาเรอะเปล่า”
“มาครับ... แต่ อ๊อฟไปตั้งแต่หัวค่ำ”
พี่ภูทำหน้าผิดหวัง แต่ก็เปิดเหล้านอกตามเคย... พอได้ที่ ก็ ขึ้นไปร้องเพลง... อยู่หลายเพลง... พอลงมาก็บอกพี่ปิ๊กที่นั่งอยู่ข้างๆ
“ปิ๊ก... หาเด็กให้คนนึงสิ... เด็ดๆ นะ”
พี่ปิ๊กมองไปรอบๆ เพื่อดูว่ามีใครอยู่บ้าง... แล้วกวักมือเรียกผมที่นั่งอยู่ไม่ไกล
“ดิน นั่งกับพี่ภูสิ”
ผมยกมือไหว้ พี่ภู ที่มองผมอย่างพิจารณา “ทำไมพี่ไม่เคยได้คนนี้ล่ะ”
พี่ปิ๊กหัวเราะเบาๆ “ก็พี่มัวแต่มองใครอยู่ล่ะ... เจอคนนี้เข้าไป สงสัยจะลืมเจ้ารุจน์แหง๋ๆ”
พี่ภูมองพี่ปิ๊กอย่างสงสัย แต่พี่ปิ๊กก็ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น....
.........................................................................................................
บ้านพี่ภูอยู่ไกล... เกือบถึงแยกรังสิต... ปทุมธานี เป็นบ้านแฝดที่พี่ภูซื้อทั้งสองด้าน แล้วเจาะทะลุต่อกัน ทำให้ใหญ่โตกว้างขวางไม่เบา
พี่ภูพาผมไปในห้องนอน เปิดไฟดวงเล็กข้างๆ เก้าอี้โซฟาในห้องนอน ก่อนจะยื่นผ้าเช็ดตัวกับกางเกงขาสั้นให้... ผมใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำไม่นาน ออกมาพี่ภูก็เข้าไปอาบบ้าง...
ครับ... ฉากต่อไปคงเดาไม่ยากใช่ไหมครับ... งั้น... ไม่เล่าดีกว่านะ... ??????...... อ๊วะ...ล้อเล่งงงงงง
อันที่จริงมันก็ไม่มีอะไรครับ... ผมกำลังจูบไซ้พี่ภูอยู่ พอพี่แกล้วงลงไปเจอ จรวดหัวรบแบบพิเศษของผม พี่แกถึงกับผวาเฮือก ผลักผมออก เปิดไฟหัวเตียงดูอย่างตื่นๆ...
“โอ้โฮ... ดิน... ทำไมมันเยอะอย่างนี้ล่ะ...” พี่ภูถามผมที่นั่งถ่างขาให้แกดู ถนัดๆ...
“อะไรครับ K หรือมุก...” ผมถามยิ้มๆ...
“ทั้งสองอย่าง... อูยซซซ กูตายแน่....”
ผมกอดแกอีกที เลียที่ติ่งหู ก่อนจะกระซิบ... “ไม่หรอกครับ ผมไม่เคยทำใครจนตายสักที...มีแต่ร้องเอาอีกๆๆ ทั้งนั้น...”
พี่ภูตีแขนผมดังเผี๊ยะ...
ที่แกบอกว่ากูตายแน่ๆ... น่ะไม่จริงครับ เพราะเอาจริงๆ แล้วมันก็ไม่ยากเท่าไร (ไอ้ดินเอาจริงทั้งนั้น แต่แตกหลอกๆ น่ะเคย)... เพราะเท่าที่ผมรู้ ไอ้รุจน์ ก็ไม่เบา... ถึงจะไม่ “คิงส์ไซด์” เหมือนผมแต่ มันก็เป็นผู้ชายธรรมดาที่ไม่ธรรมดาเหมือนกัน...
ไอ้ตอนเอาใส่น่ะไม่ยากเท่าไร แต่พอผมเริ่มขยับด้วยลีลา “ขั้นเกียรตินิยม” พี่ภูก็พี่ภูเหอะ... ครางระงมไปเหมือนกัน... ผมทั้งซอย บด คว้าน... แบบที่พี่ปิ๊กเคยบอกว่า เอวผมอย่างกับติดสปริง... แถมผมยังใช้มือชักของแกตามจังหวะการกระแทกของผมไปด้วย... เล่นเอาพี่แกเกร็งสุดๆ....
“อูยซซซ ดิน... พี่เสียว... อาซซซซ”
พี่ภูกอดผมแน่น ตอนแกน้ำแตกออกมาอย่างรุนแรง จนไปถึงหน้าอกแก... พอส่งแกถึงสวรรค์ ผมก็เร่งเครื่อง อย่างรวดเร็ว... จนแตกตามแกไปจนได้...
“อูยยซซซ พี่ภูครับ...”
ผมคราง ตอนถึงจุด กดสะโพกกับก้นแกแน่น หลั่งน้ำเงี่ยนเป็นระลอกเข้าไปในตัวแก... จนกระทั่งหยุดการเกร็งกระตุก...จึงค่อยวางขาของแกที่พาดแขนผมลง...
“อูยซซซซ นังปิ๊กมันเอาเราไปซ่อนไว้ไหนตั้งนานนะดิน... พี่ถึงไม่เคยเห็นเราเลย” พี่ภูบอกตอนเอากระดาษ ทิชชู เช็ดทำความสะอาด คราบน้ำเงี่ยนของเราสองคน
“ไม่ได้ซ่อนหรอกครับ แต่พี่ไม่เคยมองผมเอง... ไปทีไรก็ถามแต่ไอ้รุจน์...” ผมบอก ไม่ได้น้อยใจหรอกนะครับ
พี่ภูยิ้มให้ ก่อนจะลุกขึ้นไปอาบน้ำชำระร่างกาย....
.... ตอนเช้า...
ผมจัดการล้างหน้าไก่ พี่ภูแกไปอีกรอบ... เพราะยังไม่ทันตื่น แกก็อมของผมจนมันตั้งลำผงาดมาก่อนแล้ว... ไอ้ลูกชายตัวดี ตื่นก่อนพ่ออีก...
“เดี๋ยวค่อยกลับนะ ดิน...” พี่ภูบอก... ตอนที่ผมอาบน้ำเสร็จ...ออกมาจากห้องน้ำ
“ครับ...” ผมพยักหน้า... วันนี้เป็นวันเสาร์...
เราลงมาข้างล่างด้วยกัน ปรากฏว่า ข้างล่าง มีแม่พี่ภูอยู่กับเด็กหนุ่มๆ อีกสามคน แม่พี่ภูเป็นหญิงชราท่าทางใจดี... พี่ภูแนะนำให้ผมรู้จักกับแม่แก... ผมยกมือไหว้ อย่างนอบน้อม... ก่อนที่แกจะแนะนำให้รู้จักกับเด็กหนุ่มๆ พวกนั้น ซึ่งผมจำชื่อไม่ได้หรอกครับ...
พอทานอาหารเช้า... ที่เสริฟโดยเด็กหนุ่มคนนึง เสร็จ พี่ภูก็พาผมออกไปเดินที่สวนสาธารณะในหมู่บ้าน...
“พวกนั้น... เมื่อก่อนนี้ ก็เป็นเด็กขายเหมือนดินเนี่ยะแหละ...” พี่ภูเล่าให้ผมฟังถึงประวัติเด็กหนุ่มๆ ในบ้าน... “พวกเค้า ไม่อยากทำงานแล้ว พอพี่ชวนก็มา... อยู่กันแบบพี่น้อง... พี่ก็ให้เงิน ให้ไปเรียนหนังสือ แล้วก็ช่วยกันทำงานบ้าน...”
“แล้วพี่ทำไมต้องออกไปเที่ยวอีกล่ะครับ”
“ก็... พวกนั้น... เป็นแค่เด็กในบ้าน...” พี่ภูพูดเรื่อยๆ “บางทีเท่านั้นเอง ที่พี่เบื่อๆ ก็เรียกมาบ้าง”
“อือม... ก็ดีนี่ครับพี่...” ผมตอบอย่างไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดี... มันดีจริงป่าวหว่า...
“แล้วเราล่ะ... เห็นว่าเรียนปีสุดท้ายแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ครับ... เทอมนี้ ถ้าผ่านหมดก็จบแล้วครับ”
“แล้ว จะทำอะไรต่อล่ะดิน...”
“ก็คงทำงานกลางวันเหมือนคนปรกติครับ”
“อยากมาอยู่ที่นี่ไม๊”
ผมหันไปมองหน้าพี่แก... ว่าแกพูดจริงๆ หรือพูดเล่น... แต่เห็นแกมองอยู่ก่อนแล้ว..
“หมายความว่าไงครับพี่...”
“ก็หมายความว่า... ถ้าดินอยากมาอยู่ที่นี่ พี่จะยินดีมาก”
“แล้วผมจะอยู่ในฐานะอะไรล่ะครับ”
“ก็ เหมือนกัน... ก็เหมือนทุกๆ คนที่อยู่... เวลาเรียนก็ไปเรียน ที่เหลือก็ช่วยกันทำงานบ้าน”....
... อารายฟะ... พี่ภูแกจะตั้งฮาเร็มหรือไงวะเนี่ยะ... ดูๆ มันก็ดีหรอก แต่... ทำไมผมรู้สึกไม่รู้ว่า... เด็กๆ ที่อยู่บ้านพี่ภูไม่ค่อยมีความสุขเท่าไรนัก
“เอ่อ... ขอผมคิดดูก่อนนะครับพี่...”
“ฮื่อ... อย่านานละกัน... อ่ะ นี่นามบัตรพี่ ถ้าสนใจก็โทรมา...”
วันนั้น ผมอยู่บ้านพี่ภูจนสายๆ ผมถึงกลับออกมา... ในหัวคิด ก็คิดถึงเรื่องที่พี่ภู เสนอเหมือนกัน แต่ใจส่วนใหญ่ ก็บอกว่า
“ไอ้ดิน... ชีวิตเป็นของเอ็ง... เหลืออีกไม่เท่าไร เอ็งก็เรียนจบแล้ว... จะไปทำตัวให้ติดหนี้บุญคุณคนอื่นอีกทำไม”
คิดได้ยังงั้น... ผมก็เลยเลิกล้มความคิด กับข้อเสนอของพี่ภู...
.........................................................................................................
วันหลังพี่ภูก็มาที่ร้านอีก... คราวนี้ แกไม่ถามถึงไอ้รุจน์แล้ว จนมันแปลกใจ... แต่หันมาถามถึงผมแทน... แกก็เฝ้าเพียรอ๊อฟผมไปบ่อยๆ เกือบจะเรียกได้ว่า ทุกครั้งที่แกมา... ทำสถิติเกิน สิบครั้ง... แล้วแกก็ยังพยายามยื่นข้อเสนอให้ผมทุกครั้ง ซึ่งผมก็บ่ายเบี่ยงมาตลอด...
เคยคุยกับไอ้รุจน์... มันบอกว่า มันก็เคยได้รับข้อเสนอเหมือนกัน แต่มันรักเมียมันมากกว่า (แหง๋สิมึง)
.........................................................................................................
หมายเหตุ... ครั้งสุดท้ายที่ผมได้ข่าวพี่ภู... เมื่อหลายปีมาแล้ว... พี่แกเสียไปแล้วละครับ ด้วยโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง... ซึ่งผมก็ขอใช้บทนี้ ถ้าหากจะสร้างความบันเทิง ให้แก่ผู้อ่านคนดีของผมบ้าง กุศลที่เกิดขึ้น ผมขอมอบให้แก่ดวงวิญญานของพี่ภูทั้งหมด (ถึงจะเป็นชื่อสมมติ แต่ความหมายผมหมายถึงพี่.... นะครับ....) หากผมล่วงเกินด้วยข้อความใดๆ ผมก็ขออโหสิไว้นะตรงนี้ด้วยนะครับ.....
duckkonoha
โพสต์ 2014-7-15 19:59:17
บทที่ 29 เด็กเลี้ยง เลี้ยงเด็ก (2)
ครับ กลับมาเรื่องเดิมๆ อีกครั้งดีกว่าครับ ครั้งนี้ ผมขอเล่าเรื่องของ เพื่อนร่วมงาน เป็นรุ่นน้องครับ ชื่อ เพชร... ไอ้เพชร เป็นเด็กน่ารัก ตัวเล็กๆ แต่ สมส่วน หน้าหล่อ จมูกโด่ง ปากบาง ดวงตาเศร้าอยู่เป็นนิจ
ไอ้เพชร ไม่มีพ่อแม่... อยู่กับยายที่สระบุรี ตั้งแต่เด็กจนจบมอสาม ก็เข้ามากรุงเทพฯ... ทำงานเสริฟ อยู่ร้านอาหารได้เกือบปี ไปทำงานโรงงานอยู่ปีกว่าๆ แล้วโชคชะตาก็ผลักดันให้มัน เข้ามาทำงานที่เดียวกับผม
มันเป็นเด็กน่ารักนิสัยดี แต่ไม่ค่อยพูด... มันอยากเรียนหนังสือ แต่ไม่มีโอกาส... เห็นผมทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย มันก็เลยเข้ามาตีสนิทกับผม
“พี่ดิน เก่งจังครับ” มันบอกผม ขณะคุยกัน ตอนหัวค่ำยังไม่มีลูกค้าเข้าร้าน แล้วผมเล่าเรื่องของผมให้มันฟัง
“เก่งอะไรกัน... พี่ก็แค่ตั้งเป้าหมายว่า พี่อยากจะทำอะไร แล้ว ต้องทำยังไงเท่านั้นเอง” ผมอธิบายให้มันฟัง
ไอ้เพชร สนิทกับผม แต่ เป็นความสนิทแบบพี่น้องมากกว่า ผมก็เห็นมันเป็นน้องชายคนนึง... เคยแนะนำ ลูกค้าของผมให้มันก็มี บางทีมันไม่มีเงินกินข้าว ผมมี ผมก็เลี้ยงมัน...
ไอ้ชลมันก็รู้ แต่มันเรียกผมกะไอ้เพชรว่า “พ่อกะลูก” เพราะไอ้เพชรมันติดผม รอผมไปกินข้าวกะมันทุกวันที่ผมมาทำงาน จนไอ้ชลหมั่นไส้... หลายๆ ครั้งมันจะชวนผมออกไปสองคน ก็มีอันต้องติดไอ้เพชรออกไปด้วย... จนมันแทนตัวไอ้เพชรกะผมว่า “ลูกชายมึง”.... จนผมหัวเราะ ไอ้เพชรมันก็รู้... ไม่ว่าอะไร ยิ้มๆ ด้วยซ้ำ...
เรื่องงาน...ความจริงมันน่าไปกับลูกค้าได้ดี เพราะมันน่ารัก ถ้าผมจะให้เปรียบเทียบกับตอนนี้ เพชรจะมีลักษณะคล้ายกับ บี้ เดอะสตาร์อ่ะครับ แต่ ไอ้เพชรมันขรึมกว่าเท่านั้นเอง... เพราะความเงียบ คุยไม่ค่อยเก่ง ทำให้ เพชร ไม่ค่อยมีลูกค้าประจำนัก... เครื่องเคราของมัน ก็ไม่ได้ขี้เหร่ อะไร เกินมาตรฐานชายไทยอีกตะหาก (ผมเคยไปกะลูกค้าพร้อมๆ กะมัน แต่เราไม่ได้ทำกันเองเหมือนผมกะไอ้ชลหรอกครับ)
และแล้ววันนึง โชคชะตา ก็มาถึง
วันนี้ลูกค้าที่มาอ๊อฟ ไอ้เพชรไป เป็นหนุ่มใหญ่ ท่าทางภูมิฐานมีฐานะนานๆ จะมาทีนึง ผมเคยเห็นหน้าอยู่สองสามครั้ง แต่ไม่รู้จัก เคยถามพี่รัตน์ ที่เข้าไปคุยกับลูกค้า บอกว่า ลูกค้าคนนี้ไม่ชอบของใหญ่ และก็ไม่ชอบของแปลก... ผมก็เลยตกรอบตั้งแต่รอบแรก... อุ อุ....
...วันรุ่งขึ้น ผมเข้าไปในร้าน ไอ้เพชรมันก็เดินเข้ามาหา ลากผมไปที่เก้าอี้โซฟา ที่ไม่มีคนนั่ง...
“พี่ดิน... ลูกค้าคนเมื่อคืน เค้าอยากให้ผมไปอยู่ด้วย... เค้าจะส่งให้ผมเรียน....”
ผมมองหน้ามัน เห็นลูกกะตามันเป็นประกายด้วยความหวัง
“แล้ว เอ็งว่ายังไง”
“ผมไม่รู้เหมือนกันพี่... ผมอยากเรียนนะ” มันบอกผมอย่างกระตือรือร้น... ไอ้น้องเอ๋ย... คำตอบของเอ็งมันบอกออกมาตั้งนานแล้ว ผมยิ้มให้
“ที่บ้านเค้าเป็นยังไง”
“หลังใหญ่โต อยู่แค่สองคน เค้าบอกว่า เป็นญาติๆ กันอ่ะ”
“ญาติเค้า ไม่รังเกียจเอ็งเหรอ...”
“ไม่นี่ครับ พี่... ดูท่าทางเค้าก็เป็นมิตรดีเหมือนกันครับ” ไอ้เพชรบอก... ดูเหมือนไอ้เพชรจะเต็มไปด้วยความหวังล้นเปี่ยม... สิ่งที่มันฝันมาตลอด กำลังจะเป็นจริงขึ้นมาแล้ว... จนทำให้อย่างอื่นถูกมองข้ามไปหมด
“แล้วจะยังไงต่อ” ผมถามเพราะคิดว่าห้ามมัน คงไม่อยู่แล้วละ
“เดี๋ยวอีกวัน สองวัน เค้าจะมาคุยกับพี่รัตน์”... อ้อ...มีสู่ขออย่างถูกต้องเหมือนกัน ดี...ดี ผมคิด
“แล้ว เอ็งจะไปอยู่กับเค้าเมื่อไร”
“อาทิตย์หน้าครับ พี่”
“อือ... ก็ขอให้เอ็งโชคดีละกัน... พี่ดีใจด้วย”
“ขอบคุณครับพี่...”
ครับ และก็เป็นไปอย่างที่ไอ้เพชรมัน บอก อีกสองวัน ลูกค้าคนนั้นก็มาบอกพี่รัตน์ แล้วก็ให้ไอ้เพชรหยุดทำงานโดยให้เงินไว้จำนวนนึง ที่ต้องมาบอกเพราะไอ้เพชรมันพักอยู่ที่ร้าน... (พี่รัตน์ให้เด็กหลายคนพักที่ร้าน แล้วก็ช่วยกันทำความสะอาดร้านไปด้วย)
วันที่ลูกค้าจะมารับนั้น ผมเห็นไอ้เพชรมันหน้าตาสดใส แต่งตัวเรียบร้อย... เก็บเสื้อผ้าที่มีไม่กี่ชุดใส่กระเป๋าสะพายหลัง วางหลบอยู่หลังเคาน์เตอร์ เตรียมพร้อม
สามทุ่มกว่า ลูกค้าคนที่ว่า ก็มาพร้อมกับเพื่อนอีกสองคน คงจะเป็นคนที่อยู่บ้านเดียวกันอย่างที่มันเล่าให้ฟัง... ลูกค้าเข้าไปคุยกับพี่รัตน์ไม่นาน ก็ส่งสัญญานให้ไอ้เพชรมัน
“ไปกันเถอะ”
มันไหว้ลาพี่รัตน์ พี่ปิ๊ก แล้วก็มาลาผม “ผมไปนะครับ พี่ดิน”
“เออ... โชคดีว่ะ ไอ้น้องชาย... ว่างๆ ก็โทรมาคุยกันบ้างนะ”
“ครับพี่”
ผมมองมันเดินออกประตูร้านไปอย่างยินดีไปกับมัน ภาวนาให้มันไปให้รอด... ก้าวสู่เส้นทางที่มันไฝ่ฝันอยากจะทำ... “โชคดีเว้ย... เพชร...” ผมนึก
.........................................................................................................
... เวลาเดินผ่านไปเรื่อยๆ.... เรื่องของไอ้เพชรก็เริ่มจางหายไปจากความทรงจำ เรื่องเรียนของผมที่ต้องลงใหม่อีกวิชานึงที่ไม่ผ่านตอนเทอมสอง เลยต้องลงภาคฤดูร้อน และต้องเอาให้ผ่าน ไม่งั้นไม่จบสี่ปี... ผมก็เลยค่อนข้างเครียดพอสมควร เลยทำให้ลืมนึกถึงไอ้เพชรไปเลย
.........................................................................................................
วันเสาร์....
ผมมาถึงปากซอยที่ร้าน ประมาณ เกือบทุ่มครึ่ง... กำลังจะเดินเข้าซอย ไอ้ชล เดินมาจากไหนไม่รู้ เรียกผมไว้
“ดิน...มึงมานี่ก่อน”
“ทำไมวะ...”
“มึงไปดูลูกชายมึงก่อน...”
ผมงงๆ กับคำพูดของมัน ตอนนั้นไม่ได้นึกถึงไอ้เพชร เพราะเห็นมันเงียบไป คิดว่ามันคงจะไปได้ดี กับลูกค้าคนนั้น นี่มันก็เกือบเดือนแล้ว
“อะไรวะ...” ผมถามมัน เพราะมันดึงผมไปที่ซอยเข้าหอมัน... ก็ผมเพิ่งนอนกับมันเมื่อคืน กลับไปตอนสายๆ นี่มันจะดึงผมไปที่หอมันทำไมอีก... “มึงอย่าบอกนะ ว่ามึงท้อง... แล้วออกลูกมาเป็นผู้ชาย” ผมพูดติดตลก
“ทะลึ่ง”... มันหันมาด่าผม หน้าแดง... เวลามันงอนผมแล้วทำหน้าแดง มันน่ารักเป็นบ้าเลย... พั่บผ่า... ถ้าไม่ติดว่าต้องทำงานคืนนี้ กูข่มขืนมึงแน่ ไอ้ชล...
มันไม่พูดอะไรต่อ... ดึงผมไปที่ห้องมัน... ไขกุญแจ เปิดประตูเข้าไป... ผมเห็นใครคนนึง นอนอยู่ที่เตียง... เฮ้ย... นี่ลูกกูกะมึง โตขนาดนี้เลยเหรอ ไอ้ชล... ผมกำลังจะหันไปถามมันด้วยประโยคนี้ แต่มันกลัวผมออกนอกเรื่องอีก มันก็เลยเดินไปที่เตียง เขย่า ตัวคนที่นอนอยู่...
duckkonoha
โพสต์ 2014-7-15 19:59:37
แฮ่ ไม่ได้อัพมาสามชาติ.... กลับมาแล้วครัช =w=
duckkonoha
โพสต์ 2014-7-15 20:00:38
บทที่ 30 เด็กเลี้ยง เลี้ยงเด็ก (3)
“เพชร... พ่อมึงมาแล้ว”
ผมสะดุ้ง... เฮ้ย... ไอ้เพชร... ก็มันไปอยู่กับลูกค้ามันตั้งเดือนแล้วนี่หว่า... ยังไม่ทันจะคิดอะไร คนที่นอนอยู่บนเตียงก็หันมา พอเห็นผม ก็ผวาเข้ากอดเหมือนคนกำลังจะจมน้ำ
“พี่ดิน... เค้าไม่เลี้ยงผมแล้ว” มันบอก น้ำตานองหน้า...
ผมนั่งลงกับเตียง โอบใหล่มันอย่างปลอบโยน... ปล่อยมันร้องไห้จนครู่ใหญ่จึงค่อยตบใหล่มันเบาๆ
“เอาละ เพชร... หยุดร้องไห้ได้แล้ว... เล่าให้พี่ฟังซิ... ว่า เรื่องเป็นยังไง”
เงยหน้าขึ้นมา.. ปาดน้ำตาทิ้ง แล้วเรื่องราวก็หลุดออกจากปากมัน
“เค้าพาผมไปอยู่ด้วย...นอนห้องเดียวกับเค้า... เช้าเค้าก็ไปทำงาน เย็นก็กลับบ้าน... ตอนแรกก็ดูเหมือนเค้าจะรักผมดี แต่ อยู่ไปประมาณอาทิตย์กว่าๆ เค้าก็เริ่ม เฉยๆ กับผม... เริ่มตำหนิผมว่า ทำไมเวลาเค้ากลับจากทำงานไม่เห็นเอาอกเอาใจอะไรบ้างเลย เวลานอนกันเสร็จแล้ว ก็ไม่เห็นผมนอนกอด... เค้าบอกว่า ผมไม่รักเค้าเลย แล้วมาอยู่กับเค้าทำไม...”
ผมถอนหายใจ... รักเหรอ... ทำไมคนบางคนคิดว่า ความรักมันง่ายขนาดนั้นเลยสิ... เสียงไอ้เพชรเล่าต่อ
“เราคุยกันหลายครั้ง... ผมก็พยายามแล้วนะพี่... แต่มันไม่รู้สิ... ผมคิดว่าผมไม่ได้รักเค้า ผมเคารพเค้ามากกว่าอ่ะครับ... ผมไม่เคยคิดว่าผมจะรักกับผู้ชายได้... ผมทำงานได้ เพราะมันเป็นงาน... แต่ให้ผมรักใครสักคนที่เป็นผู้ชาย... มันคงลำบาก...”
ไอ้เพชร สารภาพ...
“พอผมบอกเค้า... เค้าก็นิ่งไป... เย็นชากับผมมากขึ้น ช่วงหลังๆ เค้าทำตัวเหมือน ไม่มีผมอยู่ข้างๆ ผมอึดอัดนะครับพี่... ไม่รู้จะคุยกับใคร... กลางวันเค้าไปทำงานกันหมด เหลือแต่คนใช้ พอตอนเย็นเค้ากลับมา ก็ไม่คุยกับผม...”
ผมมองเห็นสภาพที่ไอ้เพชรรับเมื่อสองสามอาทิตยก่อน เข้าใจเลยครับ ว่า... มันน่าอึดอัดขนาดไหน...
“จนวันนี้” ไอ้เพชรเล่าต่อ... “เค้าเรียกผมไปคุยสองต่อสอง... เราคุยกันตรงๆ... เค้าบอกว่าเค้าอยู่กับคนที่ไม่ได้รักเค้าไม่ได้... พูดแค่นี้ ผมก็เข้าใจแล้วครับพี่... ผมก็เลยเก็บเสื้อผ้าออกมาจากบ้านเค้า...” มันทำตาแดงๆ เหมือนนกปีกหัก “ผมไม่รู้จะไปไหน... ก็เลยมาหาพี่ชลก่อน... พอดีพี่ชลอยู่บ้าน...”
ผมตบใหล่ไอ้เพชรเบาๆ... “ช่างมัน... เพชร... เราพยายามแล้วนี่หว่า...”
มันทำตาแดงๆ น้ำตาไหลลงมาอีก... “ผมอยากเรียนครับ พี่... อยากเรียนสูงๆ ทำงานดีๆ จะได้เลี้ยงน้อง เลี้ยงยายได้บ้าง...”
ตอนนั้น ถ้าผมมีเงิน ผมคงให้มันไปเรียนอย่างไม่ลังเลใจ... ความฝันของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ดับวูบไปต่อหน้าต่อตา... มันไม่รู้จะพูดยังไง... เงินทอง... เศษเงินที่คนรวยๆ เค้ามี... เค้าน่าจะมองเห็นอนาคตของคนๆ หนึ่งที่ไฝ่ดีขนาดนี้... การหยิบยื่นตรงนั้น มันจะทำให้ชีวิตอีกสามชีวิตดีขึ้นในอนาคต... แต่ ผมคงไม่มีอำนาจหรือสิทธิอะไร ที่จะไปบังคับเค้า... ลำพังตัวเองยังเอาไม่รอด... ยังต้องมาขายศักดิ์ศรีตัวเองเหมือนกัน....
“แล้วเอ็งจะเอายังไงต่อ” ผมถามเสียงแหบ...
“ผมคงกลับไปทำงานกับพี่รัตน์ต่อครับ... เก็บเงินสักก้อน... ผมจะกลับไปอยู่กับยายแล้วละครับ...” มันบอกอย่างเหนื่อยชีวิต
ผมพยักหน้า... “เดี๋ยวพี่จะไปบอกพี่รัตน์ กับพี่ปิ๊กให้... วันนี้เอ็งยังไม่ต้องไปทำหรอก... นอนอยู่นี่ไปก่อน ถ้าคืนนี้เน่า หรือกลับมาเร็ว พี่จะมานอนด้วย”....
ผมบอก ก่อนที่จะชวนไอ้ชล ออกมาโดยที่ทิ้งไอ้เพชรไว้ที่ห้อง...
มาถึงที่ร้าน... พี่ปิ๊กทำคิ้วขมวดอยู่ เพราะมีลูกค้าถามหาผม สองสามคนแล้ว แต่ผมยังไม่มา... ผมเดินเข้าไปยกมือไหว้ เล่าเรื่องของไอ้เพชรให้แกฟัง แกก็เข้าใจ... แต่ก็อดแขวะไม่ได้
“นึกว่า ไปทำอะไรกับชลอยู่”
ช่วงหลังๆ แกระแคะระคาย ความสัมพันธ์ของเราสองคน แต่ผมกับไอ้ชลยังเป็นผู้ร้ายปากแข็ง ไม่ยอมรับอยู่ดี...
...คืนนั้น ผมโชคดี ได้ลูกค้าชั่วคราว ใช้โรงแรมแถวนั้นเป็นสนามรบ ฟาดฟันกัน น้ำแตกไปคนละรอบ แล้วก็แยกย้ายกันไป... ไอ้ชลมันก็ได้เหมือนกัน... แต่เป็นห้องชั่วคราวที่ข้างบน ลูกค้าของมันผมเห็นแล้วยังหัวเราะ... เพราะไม่ต้องบอกก็รู้ แววมยุรา ออกขนาดนั้น...
ผมมาถึงห้องไอ้ชลทีหลังมันเล็กน้อย ไอ้เพชรยังไม่หลับ... มันบอกว่า นอนมาทั้งวัน ตาแข็ง ก็เลยนั่งดูทีวีจนผมกับไอ้ชลกลับมา...
อาบน้ำนุ่งชุดนอนเป็นกางเกงเล ครึ่งแข้ง ธรรมดา... ปรกติ ถ้าผมนอนกับไอ้ชลสองคน ผมไม่ใส่อะไรหรอกครับ ไอ้ชลมันก็ไม่ชอบให้ผมใส่เหมือนกัน มันบอกว่า เกะกะ... แต่วันนี้ มีไอ้เพชรอยู่ด้วย...
เรานอนกันสามคนบนเตียง ไอ้ชลนอนด้านในติดผนัง ผมนอนกลาง ส่วนไอ้เพชร นอนด้านนอก... ดึกๆ พอผมเคลิ้มจะหลับ ไอ้ชลมันก็ทำยุกยิก เพราะทุกทีเวลาผมมานอนห้องมัน เป็นต้องเอา “ควย” ยัดตูดมันซะรอบนึงก่อนมันถึงจะนอนได้... แต่วันนี้ มีคนที่สามอยู่ด้วย...
ถึงผมจะเคยแก้ผ้าต่อหน้าไอ้เพชร... แต่นั่นมันทำงาน... ยังไงมันก็ต้องทำ... แต่นี่มันไม่ใช่...
“อืมม... เดี๋ยวไอ้เพชรมันตื่น...”
ผมกระซิบ เมื่อไอ้ชลมันหันมากอดผมใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ที่ห่มรวมกันอยู่ มือล้วงลงไปในกางเกงที่ปมมันหลุดไปนานแล้ว
“มันหลับไปแล้วละ...” ไอ้ชลมันบอก เมื่อหันไปมองไอ้เพชร เห็นมันหายใจสม่ำเสมอ ท่าทางมันจะหลับสนิท จริงๆ
“น่า... นะ ดิน... ไม่งั้นกูนอนไม่หลับ”
ผมดิ้นยุกยิก แต่แล้วก็ต้องครางซี๊ดเบาๆ เมื่อไอ้ชลก้มหน้าฉก วูบเดียว... หัวควยบานๆ ของผมก็เข้าไปอยู่ในปากมันแล้ว เสียงจ๊วบจ๊าบ ท่าทางมันจะอยากจัดจริงๆ
“มึงเบาๆ ไอ้ชล...เดี๋ยวไอ้เพชรมันตื่น” ผมเตือนมัน เมื่อมันทำเสียงดังเกินโควต้า... แต่แล้วผมก็ต้องกัดฟันเกร็งตัวด้วยความเสียว เมื่อมันดูดลึกลงไปอีก...
“อูยซซซ ชล...มึงสุดยอด...” ผมเผลอตัวครางออกมาจนได้ เมื่อมันกดคออีกวูบ... ควยทั้งแท่ง ยาวร่วมเจ็ดนิ้ว ความใหญ่ ซองบุหรี่แตก ฝังมุกอีกหกเม็ด ก็หายลงไปในคอมัน มิดยันโคน อย่างไม่ยากเย็น....
ไม่ทันที่ผมกับไอ้ชลจะทำอะไรต่อไปมากกว่านั้น ไอ้เพชรที่ผมคิดว่ามันหลับอยู่ก็ลุกขึ้นนั่ง เปิดไฟที่หัวเตียง แช๊ะ...
“ไหนดูซิ... แม่เค้าทำยังไง พ่อถึงครางได้ใจขนาดนั้น” มันพูดติดตลก พลางตลบผ้าห่มที่ห่มตัวผมกับไอ้ชลออก
“เฮ้ย...” มันทำท่าตกใจ เพราะที่มันเห็นน่ะ ควยผมทั้งดุ้น ที่มันก็เคยเห็น และรู้อยู่ว่าขนาดไหน... หายเข้าไปอยู่ในปากไอ้ชลไม่เหลือสักกระเบียด
หลบไม่ทันแล้วครับ ผมเลยต้องปล่อยเลยตามเลย... ส่วนไอ้ชลน่ะ หลักฐานมันคาปากอยู่ ก็เลยต้องตามน้ำ
“สุดยอด... แม่... ควยพ่อขนาดนั้น อมเข้าไปได้ยังไง... จุ๊ๆ...” มันยังไม่เลิกล้อ แถมยังทำเสียงจุ๊ปากอย่างทึ่งๆ...
ผมเขกหัวมันเบาๆ “ไอ้ลูกเวร... ดับไฟ แล้วเมิงลงไปนอนข้างล่างเลย”
มันหัวเราะ... ดับไฟ แต่ ไม่ได้ลงไปนอนข้างล่างอย่างที่ผมบอก...
“วันนี้ กูขอเป็นลูกทรพี เอาแม่สักทีเหอะ...” มันพึมพำ...
แป๊บเดียว ไอ้ชลที่อมควยของผมอยู่ก็ทำเสียงอึกอัก รีบคายปากออกมา “อูยซซซ ไอ้เพชร...”
ครับ ไอ้ตัวดี... นึกว่าเศร้าที่โดนทิ้ง... มันลงไปข้างล่างจับไอ้ชลพลิกหงาย ยกสองขาพาดบ่ามัน แล้วควยธรรมดาที่ไม่ธรรมดาของมันก็กดพรืดลงไปที่รูของไอ้ชล ทีเดียวมิดด้าม...
ในความมืดสลัวๆ ที่ผมเห็น ลีลาของไอ้เพชรมันก็ไม่เบา เอวแห้งๆ ของมันกระเด้าฉับๆ เป็นจังหวะไม่มีตก เล่นเอาไอ้ชลหงายหน้าครางซี๊ดไปเหมือนกัน
เอาวะ... วันนี้ ศึกครอบครัว ก็ดีเหมือนกัน...เปลี่ยนรสชาด
พวกมันเอากัน แล้วตูล่ะ... ปากไอ้ชลยังว่างอยู่นี่หว่า... ผมขึ้นไปนั่งคุกเข่า ยองๆ.... หัวไอ้ชลมันสอดอยู่ใต้หว่างขาผม... ปากมันก็อมใข่ของผมเข้าไปอย่างพอดิบพอดี...
ลีลาปากของไอ้ชลมัน “ขั้นเทพ” อยู่แล้ว... ไม่ว่าใข่หรือควย มันดูดผมจนดิ้นพราดมาแล้วทุกท่า... ผมแหงนหน้าครางซี๊ด เพราะลีลาการอมของไอ้ชลมันไม่เคยตก.... แต่... ทำไมวันนี้มันดูดกรูเก่งวะ... ทั้งใข่ทั้งควย... เป็นไปได้ยังไง...
ผมก้มหน้าลงมาดู... อ้าว ไอ้เพชร...มึง... เลวใช้ได้ เอาตูดแม่ แถมดูดควยพ่ออีกต่างหาก... ลีลาการดูดของมัน ถึงจะไม่เท่ากับไอ้ชล แต่ก็ไม่เลวนัก... (เด็กขาย... จะมากจะน้อย... ดูดเป็นทุกคนแหละครับ) อมไม่หมด แต่ ก็ดูดเน้นๆ สร้างความเสียวให้ผมไม่น้อย... แถมเอวของมันก็ยังไม่หยุด ขยับกระเด้าส่ง “ควย” ของมันเข้ารูไอ้ชลเป็นจังหวะ
ไม่นาน ไอ้ชลก็ไปก่อน... มันคายปากออกจากไข่ผม คราง “ซี๊ด... เพชร... มึงเร็วอีก... กูออกแล้ว... ซี๊ด”
ตัวมันกระตุกเยือก น้ำเงี่ยนสีขาว พุ่งออกมาจาก ปลายควยอย่างมากมาย... แมร่ง ไปกับลูกค้าไม่แตกแหง๋ๆ เลยมึง...
ส่วนไอ้เพชร พอเห็นไอ้ชลเสร็จ มันก็เร่งเครื่องช่วงล่าง ซอยถี่ยิบ... พักเดียวมันก็คายควยผมออกจากปาก แหงนหน้า ครางซี๊ด... “อูยซซซ มันส์ชิปหาย...” ตัวมันกระตุกหงึกๆ อยู่สี่ห้าที สะโพกมันกดแน่นลงกับรูไอ้ชล.... พักใหญ่ มันก็ถอดออกมา น้ำสีขาวไหลตามออกมาเป็นทาง....
มันสองคนเสร็จแล้ว... เหลือแต่ผมที่ใช้มือ กำควยตัวเอง กระทำการ “สาวว่าว” อย่างรวดเร็ว... ไอ้ชลทำหน้าที่ของมันอย่างไม่บกพร่อง อ้าปากอมไข่สองลูกของผมเข้าไปไว้ในปาก ใช้ลิ้นไล้เลียอย่างชำนาญ... ไอ้เพชร พอหายเสียวก็หันมาร่วมกับไอ้ชล “รุมผม” หัวบานๆ ของควยผมหายเข้าไปในปากมันอีกครั้ง...
ไม่นาน... ผมก็แหงนหน้า ครางซี๊ด... ตัวกระตุกเยือก... น้ำเงี่ยนพุ่งออกมาอย่างรุนแรงเข้าปากไอ้เพชร ที่ยังดูดๆ อยู่... จนกระทั่งตัวผมหยุดกระตุก มันจึงคายออก วิ่งไปเข้าห้องน้ำ....
ได้ยินเสียง บ้วนปากสองสามหน... ผมไม่โทษมันหรอกครับ... มันเป็นเด็กผู้ชาย...จู่ๆ จะให้มากลืนน้ำเงี่ยนใคร ก็ใช่ที่ ถึงผมจะสนิทกับมันก็เหอะ....
อาบน้ำทำความสะอาดตัวกันแล้ว คราวนี้ก็กลับมานอนได้อย่างไม่ต้องอายอะไรกันอีก ไอ้ชลนอนในท่าเดิมคือ หนุนไหล่ผม มือนึง จับควยผมเล่นไปมา ไอ้เพชรหันมามอง แล้วทำท่ายิ้มๆ หันหลังให้... ผมปิดไฟหัวเตียง แช๊ะ... แล้วทั้งสามคนก็หลับใหลไปอย่างอ่อนเพลีย.....
.........................................................................................................
หลังจากวันนั้น... ไอ้เพชร ก็กลับมาอยู่กับพี่รัตน์ ตามเดิม... แต่ครั้งนี้มันอยู่ไม่นานอย่างที่มันว่าจริงๆ พอมันทำงานเก็บเงิน ได้สองสามหมื่นบาท มันก็ลาพี่รัตน์ กับพี่ปิ๊กกลับไปอยู่บ้านที่สระบุรี... ไล่ๆ กับผมที่ลาออกหลังจากเรียนจบแล้วได้งานพอดีนั่นแหละครับ....
duckkonoha
โพสต์ 2014-7-15 20:00:51
เอาไปเลย 2 ตอนงับ ถือว่าชดเชย แหะๆ
12451
โพสต์ 2014-7-17 05:33:09
ติดตามอยู่นะครับ
duckkonoha
โพสต์ 2014-7-28 16:09:19
ขอบคุณที่ยังติดตามและมาคอมเมนท์นะครับ เอาไปเลยย =w=
duckkonoha
โพสต์ 2014-7-28 16:11:10
บทที่ 31 ชีวิตหลังม่าน
เล่าเรื่องมาหลายสิบตอนแล้ว กลับไปอ่านดู... บางอย่างมันขาดหายไปครับ
เรื่องของ “น้องษา” แฟนผมไง
ช่วงที่ผมทำงาน ใหม่ๆ ก็ต้องพยายามสับหลีก ให้เวลากับน้องษาพอสมควร ถามว่า ผมรักน้องเขาไม๊... รักครับ... รักมาก ผมเคยฝันถึงวันที่ผมเรียนจบ... จะได้ทำงาน เก็บเงิน เพื่อรอน้องเค้าเรียนจบ... ผมจะขอน้องเค้าแต่งงาน เราจะมีชีวิตที่ปรกติด้วยกัน อาจจะกลับไปอยู่บ้านผมที่ต่างจังหวัด ใช้ชีวิตสงบๆ ทิ้งชีวิตที่แหลวแหลกของผมไว้เบื้องหลัง...
ช่วงหลังน้องษา เรียนหนักมากขึ้น เพราะต้องเตรียมตัว สอบเอ็นทรานส์ สมัยนั้น การสอบเอ็นทรานส์ เข้ามหาวิทยาลัยปิด เป็นสิ่งที่หวังสูงสุดของนักเรียนมัธยมทุกคน มันเปลี่ยนเส้นทางชีวิตของคนๆ นึง ให้เป็นไปตามทางการศึกษาที่เลือก...
แต่ถึงจะเรียนหนักยังไง น้องษาก็ยังแบ่งเวลามาให้ผม อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง...
“เดี๋ยวพี่ดิน นอกใจษา” น้องเค้าบอกอย่างนั้น...
ซึ่งผมเอง เหนื่อยแสนเหนื่อยยังไง ผมก็ต้องแสดงบทรัก ให้ความสุขกับน้องษาอย่างสม่ำเสมอ...
เห็นอยู่ข้างนอก น้องเค้าค่อนข้างเรียบร้อย ไว้ผมยาวมัดรวบ แต่งตัวถูกระเบียบทุกอย่าง แต่พออยู่กับผมสองคน น้องเค้าจะเปลี่ยนเป็นคนละคนเลย... ไม่ว่าผมจะมาท่าไหน น้องเค้าก็รับได้หมด... แถมบางทีมีลูกเล่น ทำเอาผมถอยแทบไม่ทัน... หวิดจะพ่ายแพ้ก็หลายต่อหลายครั้ง... ต้องอาศัยชั่วโมงบินที่สูงกว่า ถึงเอาตัวรอดมาได้...
.........................................................................................................
ปลายเดือนเมษา...น้องษาสอบเอ็นทรานส์ เสร็จ เราตกลงกันว่า จะไปเที่ยวเชียงใหม่กัน... ผมเคยไปเชียงใหม่มาสองสามครั้ง เพราะมีเพื่อนที่เรียนมัธยมปลาย สอบติดที่เชียงใหม่ เคยมาเที่ยวหามัน จึงพอจะรู้ที่เที่ยวอยู่บ้าง แต่เรื่องที่พักนี่สิ... จะไปพักตามโรงแรม ก็หมดตัวแหง๋ๆ แต่พี่ป้อม บาร์เทนเดอร์ บอกว่า หาดูที่พักตามเกสต์เฮาส์ เล็กๆ บางแห่งสะอาด คืนละร้อยเท่านั้นเอง... แกบอกชื่อบอกสถานที่ตั้งมา สองสามที่ ผมก็เลยตกลงไป... (พี่ป้อมเป็นคนเชียงใหม่ครับ)
เราซื้อตั๋วรถไฟตู้นอน... เป็นเตียงล่าง – บน แต่เตียงบนน่ะไม่ได้ใช้... โธ่ บรรยากาศแบบนี้ ไปกับคนรักแบบนี้ ใครจะมัวไปนอนอุดอู้อยู่บนเตียงแคบๆ ข้างบนล่ะครับ....
ผมนอนกอดน้องษา ฟังเสียงชึ่งชั่ง ๆ ไปตลอดคืน หลับไม่สนิทเท่าไร... ไอ้ดินน้อย ลูกชายผมมันไม่ค่อยยอมนอนน่ะครับ ยิ่งแม่มันอยู่ใกล้ๆ ลูบๆ คลำๆ ทั้งคืนแบบนี้... ผมว่า ถ้ามีการจับเวลาแข็งมาราธอน ผมคงได้เหรียญอะไรสักอย่างแน่นอนเลยครับ... น้องษา ก็คงไม่ต่างจากผมเท่าไรหรอกครับ... อุ อุ... ของมันเคยๆ กันอยู่
ตื่นมาประมาณ ตีห้า รถไฟชะลอก่อนเข้าถ้ำขุนตาน บรรยากาศตอนนั้น... โรแมนติคอย่าบอกใครเลยครับ (ผมยังจำได้ถึงตอนนี้) แสงแดดลอดเข้ามาที่หน้าต่าง ผมนั่งกึ่งนอนพิงหมอนที่จับมาซ้อนกัน มีน้องษานั่งพิงอก หลังจากเราแอบชิงไปล้างหน้าแปรงฟันกันมาก่อนแล้ว
“สวยจังเลย ครับ”
“ค่ะ... ษาชอบจัง”
ผมหัวเราะเบาๆ “พี่หมายถึงษาอ่ะ...”
“มาชมอะไรกันตอนนี้คะ...” น้องษาเขิน...ซบหน้าลงกับอกผม
“ก็ จริงๆ นี่นา...” ผมกระซิบ... “เมียพี่ออกจะสวยอย่างนี้”
น้องเค้าแก้มแดงเป็นสีชมพู เมื่อ ผมพูดประโยคนั้น... เป็นประโยคที่เราใช้ ตอนอยู่ด้วยกันสองคนเท่านั้น... จนผมอดใจไม่ไหว... ก้มลงเอาจมูกหอมที่แก้มน้องเค้าแรงๆ หลายต่อหลาย ครั้ง...
จนรถไฟวิ่งเข้าเทียบชานชาลาเชียงใหม่ เราสองคนลากกระเป๋าไปที่รถสองแถวสีแดงที่วิ่งรอบเมือง... ผมบอกสถานที่... เค้าก็พยักหน้า... มีผู้โดยสารไปพร้อมกับเราอีกสองสามคน...
ห้องที่พี่ป้อมแนะนำมา ไม่ผิดหวังครับ เป็นบ้านไม้ ปลูกอยู่ริมแม่น้ำปิงร่มรื่น สะอาดสะอ้าน... เจ้าของเป็นแม่อุ๊ย ท่าทางใจดี บอกเราว่า ตอนนี้หน้าร้อนกำลังจะเข้าหน้าฝน ไม่ค่อยมีคนมาพัก... แม่อุ๊ยก็เลยให้ เราพักอยู่ชั้นบน แค่สองคน เป็นห้องโล่งๆ มีเตียง ตู้ แล้วก็เป็นระเบียง มองออกไปเห็นแม่น้ำ มีต้นไม้ใหญ่ ปลูกคลุมจนร่มครึ้ม...
เอาของขึ้นไปเก็บบนห้อง... ล้างหน้าล้างตาอีกรอบ... แต่ก่อนจะลงมา ผมก็จัดการเก็บหนี้คืนจากน้องษาก่อนรอบนึง... เล่นจับของผม “แข็ง” มาตลอดคืนนี่นา... ต้องมีเอาคืนกันบ้าง...
เราตกลงเช่ามอเตอร์ไซค์ เพื่อขับเที่ยว อาศัยผมเคยมาเชียงใหม่สองสามหน ทำให้พอรู้ทางพอสมควร อันดับแรกคือไปไหว้ อนุสาวรีย์ ครูบาศรีวิชัย ที่ทางขึ้น พระธาตุดอยสุเทพ หลังจากนั้นก็เป็นวัดพระธาตุฯ แล้วก็เป็นพระราชวังภูพิงค์ฯ เลยไปถึงบ้านแม้วดอยปุย... ซึ่งตอนนั้นทางยังไม่ดีนัก ทำให้น้องเค้าต้องกอดเอวผมแน่น...
พอลงมาก็ขับเข้าไปวนเที่ยวใน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ น้องษาบอกผมว่า
“สวยจังเลยค่ะ พี่ดิน... ษาอยากมาเรียนที่นี่จัง อุตสาห์เลือกไว้ตั้งสองอันดับ...” (ตอนนั้น เลือกได้ 6 อันดับครับ)
“ไม่ดีหรอก”... ผมตอบ
“อ้าว... ทำไมล่ะคะ”
“ษามาเรียนที่นี่ แล้วพี่จะทำยังไงล่ะครับ มันไกลขนาดนี้”
“พี่ดินก็มาเยี่ยมษา บ่อยๆ สิคะ...”
ผมนิ่งเงียบ... เสียววูบอยู่ในใจ... แต่ก็นึกปลอบใจตัวเองว่า คงไม่มีอะไรเลวร้าย...
ผมขับรถพาน้องษา ไปที่วัด เจดีย์หลวง... เพื่อกราบนมัสการหลวงพ่อพระประธาน และเจดีย์ใหญ่ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ประดิษฐาน พระแก้วมรกต... วัดพันเตา ที่มีอายุเก่าแก่หลายร้อยปี และจนกระทั่ง ไปถึงวัดพระสิงห์ ที่มีหน้าบันโบสถ์แก่ะสลักสีทองที่สวยงาม...
ในทุกๆ ที่... ผมกราบขอพรจากองค์พระ... “ขอให้ผมหลุดพ้นจากบ่วงกรรม อันนี้ให้เร็วที่สุด ผมขอจองเป็นคู่กับผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างๆ อย่าได้มีอุปสรรคใดๆ มาแผ้วพานต่อการครองคู่ของเรา...”
หลังจากทานอาหารเย็น ผมก็พาน้องษาไปเดินเที่ยว ตลาดไนท์บาร์ซาร์ ก่อนจะกลับมาที่ห้องพัก...
อากาศที่เชียงใหม่ ถึงจะเป็นหน้าร้อน แต่ตอนกลางคืน โดยเฉพาะริมปิง ก็จะเย็นสบาย ระเบียงที่เปิดโล่งทำให้อากาศโปร่งมากยิ่งขึ้น
ผมกระชับอ้อมแขนกอดร่างบางของน้องษาไว้กับอก... ผู้หญิงคนนี้ คือคนที่ผมคิดว่าผมจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยไปตลอด... ผมจะทำทุกอย่างให้ชีวิตคู่ของเราเป็นไปอย่างราบรื่น... ผมสัญญากับตัวเอง
ถึงแม้ผมจะได้น้องเขาแล้ว... แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ผมรักน้องเขาน้อยลง... ผมอาจจะดูว่า เป็นคนเจ้าชู้ หากแต่ ผมรู้ตัวเองว่า ผมรักน้องเขาอย่างจริงใจ...
สามคืนที่เชียงใหม่... กับอีกสองคืนในรถไฟ ทำให้ผมมีแรงฮึดที่จะเร่งเรียนให้จบมากขึ้น... มึงจะปล่อยชีวิตมึงให้อยู่อย่างนี้ไม่ได้นะไอ้ดิน... น้องษาเค้าฝากความหวังไว้ที่มึง เค้ารักมึงขนาดไหน... ทั้งกายใจ ให้มึงหมด...
รอพี่ดินนะน้องษา... พี่สัญญาว่าจะทำให้ดีที่สุดเพื่อเรา...
.........................................................................................................
แล้ว สิ่งที่ผมหวั่นใจ... มันก็เกิดขึ้นจริงๆ... น้องษา สอบติด มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในคณะที่เลือกไว้เป็นอันดับหนึ่ง... เราไปดูผลสอบด้วยกันที่ติดไว้ที่สนามกีฬา จุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย... น้องษาดีใจมาก ซึ่งผมก็ต้องแสดงความยินดีไปกับน้องเค้าด้วยเหมือนกัน...
ก่อนวันที่น้องเค้าจะเดินทางไปเชียงใหม่ เราใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งวันที่ห้องผม
“พี่ดิน... สัญญากับษานะ ว่าพี่ดินจะไม่มีผู้หญิงคนอื่น” น้องษาขอคำสัญญากับผม หลังจากบทรักอันประทับใจที่ผมมอบให้เธอไปหมาดๆ
“ครับ... พี่สัญญา... พี่จะไม่มีผู้หญิงคนอื่น... แล้วน้องษาล่ะครับ สัญญากับพี่ดินได้ไหมว่าจะไม่มีใครอื่นอีก”
“ค่ะ ษาสัญญา... ษาจะรักพี่ดินคนเดียว...”
นั่นเป็นคำสัญญาที่ผมเก็บรักษาไว้ในใจของผมตั้งแต่บัดนั้น จนบัดนี้...
.........................................................................................................
มีบทกลอนบทนึง ผมจำไม่ได้เหมือนกัน ว่ามีคนเขียนไว้ที่ไหน... แต่ผมก็จำได้ และจำได้ถึงตอนนี้....
....ด้วยรักและรักด้วย กลจิตม้วย เพราะรักเมา
วัยเอ๋ย โอ้วัยเยาว์ บ่มิทันจะรูที
ใครว่าสิว่าไป หฤทัย จะภักดี
ทุ่มแล้วมนัสนี้ ปิยะมอบมโนหมาย
เมื่อรู้สิสุดรัก ม น หัก ผิว์วางวาย
เร่าร้อนทุรนราย ก ล จิตจะขาดรอน
ร่ำร้อง สะอื้นไห้ ปิยะไซร้ มิถ่ายถอน
ไม่โกรธและไม่วอน ม น แน่ว จะยืนยง
เคยรัก จะรักไป หฤทัย จะมั่นคง
กายปราศจิตลง สิจะอยู่ อย่างไรกัน
duckkonoha
โพสต์ 2014-7-28 16:12:56
บทที่ 32 หลงเด็กขาย (1)
ครับ เป็นปรากฏการณ์ ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะกล่าวถึง เพราะมันดูเหมือนจะเกิดขึ้นมาตลอด ทุกยุค ทุกสมัยคือ... ลูกค้ามาหลงเด็กขาย... ทำไมหรือครับ...
ลูกค้าที่จะมาเที่ยว ส่วนใหญ่ อยู่คนเดียว โหยหาใครสักคนที่จะมาเติมเต็มในชีวิต... ถึงไม่ได้ตลอดไป ชั่วคราวก็ยังดี...
เด็กขาย... คุณสมบัติคือ รูปร่างหน้าตาดี เครื่องเคราดี เซ็กซ์ดี นิสัยดี เอาใจเก่ง... ครับ มันดูเหมือนว่าจะพร้อมสรรพอยู่ในตัวอยู่แล้วที่ทั้งสองฝ่ายจะมาคลิ๊กกันโดยง่าย ในโลกส่วนตัวบางครั้งและบางโอกาส ซึ่งมันก็ไม่ผิดอยู่แล้ว หากทั้งสองฝ่ายจะหยุดความสัมพันธ์ไว้แค่... “ชั่วคราว”
แต่มันก็เหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟครับ... รู้อยู่ว่าไฟมันร้อน... ก็ยินดีจะกระโจนเข้ามา เรื่องมันก็ต้องมีคนเจ็บ เหมือนกับเรื่องของ พี่คิมกับไอ้โจ...
พี่คิม เป็นลูกค้าที่มาเป็นประจำ เป็นที่รู้กันว่า พี่คิมเป็นคนมีฐานะและ ค่อนข้างจะเอาแต่ใจตัวเอง สำหรับตัวผม พี่คิมมองเห็นเป็นน้องเป็นนุ่ง เคยอ๊อฟผมไปครั้งนึง ด้วยอาการอยากรู้อยากเห็นมากกว่า ไปถึงบ้านแกก็จับผมถอดเสื้อผ้า ให้ผมปั่นจนแข็ง แล้วใช้สายวัด วัดขนาด ถ่ายรูปไว้อีกต่างหาก (เฉพาะส่วน) แล้วก็นั่งกินเหล้ากัน
“คุยกับเอ็งแล้วสนุกว่ะ ดิน... พี่ไม่เคยคิดอยากมีอะไรกับเอ็งเลย... คนอื่นว่าเอ็งเร้าใจ... พี่ว่าเอ็งก็งั้นๆ แหละ” พี่คิมพูดยิ้มๆ
“โห... พี่ ผมเสียความมั่นใจเลยนะเนี่ยะ....”
พี่คิมจับหัวผมโยกไปมา... “เอ็งเป็นน้องพี่ดีแล้วละดิน... ให้พี่ภูมิใจนิดนึง มีน้องชายตี๋หล่อ... ควยใหญ่...” พี่คิมบอกดื้อๆ...
ผมหัวเราะ... ก็ดี นานๆ จะเจอลูกค้าใจดีอย่างนี้สักคน... ผมนั่งกินเหล้ากับพี่คิมจนดึกดื่น พี่คิมก็ให้ผมไปนอน
“มึงไปนอนห้องโน้น ไอ้ดิน... กูไม่ไว้ใจ... กิตติศัพท์มึง ข่มขืนลูกค้า...ด้วย...” พี่คิมพูดอ้อแอ้... ก่อนจะชี้ให้ผมไปนอนห้องติดๆ กัน ที่จัดไว้เหมือนกับห้องพักแขก...
หลังจากวันนั้น... วันไหนพี่คิมมา เห็นผมยังไม่ได้ใคร ก็เรียกไปกินเหล้า แล้วก็ให้ค่ารถกลับบ้านทุกที (ค่ารถของแกนี่หมายถึงรถลีมูซีนแหง๋ๆ ให้ทีละพันเนี่ยะ...) บางทีแกเหงาๆ ก็โทรมาเรียกผมไปนั่งคุย กินเหล้าเป็นเพื่อนแกซะงั้น...
ส่วนไอ้โจเป็นเด็กขายรูปร่างหน้าตาดี หน้าคมแบบคนใต้ สมตำแหน่ง ที่ได้รางวัลที่สองมาจากการประกวดหนุ่มหล่อที่บาร์ๆ นึง เครื่องเคราก็พอสมควร แถมมันยังเอาใจเก่ง... เป็นที่ติดอกติดใจของลูกค้า... มีลูกค้าหลายคนเป็นลูกค้าประจำ ชนิดว่าคืนศุกร์เสาร์ มันไม่เคยว่าง บางคนลงชื่อจองเอาไว้ก่อนล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ก็มี...
แล้ว... โชคชะตา ก็พาทั้งสองให้มาเจอกันจนได้...
วันนั้น ผมได้อ๊อฟออกไปก่อน พี่คิมมาที่ร้านหลังจากที่หายไปนาน มาเจอไอ้โจที่เพิ่งเข้ามาทำงานได้ไม่ถึงเดือน... พี่รัตน์แนะนำไอ้โจให้พี่คิม
ไอ้โจหายไปสามวันก็กลับมาเก็บของที่ร้าน... บอกจะไปอยู่กับพี่คิม ทองหยองเต็มตัว... พี่รัตน์บอก เพราะมันมาตอนกลางวัน...
เรื่องของไอ้โจ เป็นที่อิจฉาของเพื่อนๆ หลายคน เพราะทุกคนรู้ว่า พี่คิมรวยขนาดไหน แถมมันยังเคยควงพี่คิม กลับมาเที่ยวที่ร้าน กึ่งอวดว่าได้ดิบได้ดีไปด้วยซ้ำ
วันเวลาผ่านไป เป็นเดือน... เรื่องของไอ้โจกับพี่คิมก็ค่อยๆ หายไป ไม่ค่อยมีคนพูดถึงอีก เพราะ ต่างคนต่างมีภาระที่ต้องดูแลตัวเอง... ตอนนั้นก็พอดีตรงกับที่ผมไปเชียงใหม่กับน้องษา... กลับมาทำงานวันแรก...
วันนี้เป็นวันธรรมดา จึงไม่ค่อยคึกคักนัก แถมยังเพิ่งหัวค่ำ... ผมเดินเข้าไปในร้านตามปกติ... เห็นพี่รัตน์นั่งคุยกับใครคนนึง อยู่ตรงโซฟาด้านใน ผมยกมือไหว้ พอพี่รัตน์เห็นผม ก็กวักมือเรียก...
“ดิน...”
“ครับพี่”
คนที่คุยอยู่กับพี่รัตน์ พอได้ยินเสียงผม ก็เงยหน้าขึ้นมา... พี่คิมนั่นเอง... แต่วันนี้ พี่คิมดูซูบไป ดวงตาอิดโรย ไม่สดใสเหมือนพี่คิมที่ผมรู้จัก แถมในลูกตายังมีน้ำตาปริ่มซึม...
“ดิน” พี่คิมเรียกผม เหมือนคนเจอที่พึ่ง...
ผมเดินเข้าไป ยังไม่ทันนั่ง พี่คิมก็พูดเบาๆ... “มันไปแล้ว... มันหนีพี่ไปแล้ว...”
เท่านั้นเองผมก็รู้ว่า พี่คิมหมายถึงใคร...นั่งลงจับมือพี่เค้าเอาไว้... เหลียวซ้ายแลขวา... ไม่ดีแน่... เดี๋ยวไม่นานแขกก็เข้าร้านแล้ว มันจะเอิกเกริก ไปกันใหญ่
“พี่รัตน์ครับ ผมขออ๊อฟตัวเองนะครับวันนี้”
“ไปเหอะ... ไม่ต้องหรอก...” พี่รัตน์ พูดอย่างใจนักเลง... พี่คิมเงยหน้าขึ้นมา...
“รัตน์ ชั้นอ๊อฟดินเองละกัน คืนนี้... เดี๋ยววันหลังมาจ่ายนะ” พี่คิมบอก... ก่อนจะเดินตามผมออกมาจากร้าน...
“ไปไหนดีครับพี่...” ผมถามเมื่อมาถึงปากซอย...
“พี่ยังไม่อยากกลับบ้าน...” พี่คิมบอก “เอางี้... โชเฟอร์ ไปคอนโด... ริมแม่น้ำเจ้าพระยานะ” พี่คิมบอกคนขับรถแท็กซี่ที่จอดรออยู่...
ไม่นาน ผมกับพี่คิมก็มาถึงคอนโดที่พี่คิมซื้อทิ้งไว้ นานๆ แกจะมาสักที ผมเคยมากับแกหนนึง... เป็นคอนโดสวย ริมแม่น้ำเจ้าพระยา... มีสองห้องนอน ห้องรับแขก แล้วก็ครัวเล็กๆ...
ผมจับพี่คิมนั่งลงที่ โซฟาในห้อง ไม่กล้าออกไปข้างนอกครับ กลัวแกโดด... (แกมาบอกทีหลังครับว่า แกไม่โดดหรอกเพราะกลัวเจ็บ... คนเรา) หาผ้าเย็นมาเช็ดหน้าให้แก แล้วก็น้ำขิงอุ่นๆ
พอแกวางแก้วลง ผมก็จับแกเอนนอนลงกับโซฟาตัวยาวนั้น บอก “นอนก่อนนะครับพี่คิม... ผมอยู่นี่แหละ ไม่ไปไหนหรอก... ตื่นมาแล้วค่อยคุยกัน... ไม่เป็นไรนะครับพี่...”
พี่คิมหลับตาลง... “อย่าเพิ่งไปไหนนะ ดิน...”
“ครับ... หลับนะครับ” ผมคลุมตัวแกด้วยผ้าห่มผืนเล็กที่ไปคว้ามาจากในห้องนอน... ไม่นาน พี่คิมก็หลับไปอย่างง่ายดาย เฮ้อ... ความทุกข์ของคนรวย...
.........................................................................................................
ผมนั่งดูทีวีอยู่ไม่ไกล... เปิดเสียงให้เบาที่สุด... จนกระทั่งพี่คิมตื่น...
“ดิน...”
“ครับ พี่” ผมเดินเข้ามานั่งโซฟาอีกตัวใกล้ๆ แก
“กี่โมงแล้ว”
“ตีหนึ่งครับ” ผมดูเวลาแล้วบอกแก
“แล้วเอ็งทำไมไม่นอน...”
“ก็...” ผมไม่รู้จะตอบยังไง...เหมือนกัน “ยังไม่ง่วงครับ...”
พี่คิมลุกขึ้นนั่ง หน้าตาสดใสขึ้น “อาบน้ำก่อนดีไหมครับ พี่... จะได้สดชื่นขึ้น”
ผมบอกแก เพราะท่าทางพี่คิมจะไม่ดูแลตัวเองมาหลายวันแล้ว
“เออ... ดีเหมือนกัน เอ็งก็ไปอาบด้วยสิวะ...”
“พร้อมกับพี่เลยนะครับ...” ผมแกล้งเย้าแกเล่น “โห... วันนี้พี่กู อยากลองของใหญ่ เว้ย”
พี่คิมตาโต... “อ้าย...ดิน... มึงไปอาบห้องโน้น...” พี่คิมชี้ที่ห้องเล็ก ที่มีห้องน้ำในตัวเหมือนกัน
ออกมาจากห้องน้ำ (คนละห้อง)... ผมเตรียมโจ๊กให้แก... ก็ สำเร็จรูปอ่ะครับ ฉีกซอง ผสมน้ำร้อน...แต่มันก็ช่วยในกรณีฉุกเฉิน
พี่คิมอยู่ในชุดเสื้อคลุมยาว มีสายคาดเอวเรียบร้อย... มองผมตาเป็นประกาย... “ทำไมพี่ไม่เอาเอ็ง เป็นแฟนวะ ดิน...”
“นั่นสิ...” ผมรู้ว่าแกเริ่มอารมณ์ดี... เลยแหย่แกเล่น “พ่อจะเสียบทีเดียวให้มิดยันโคน... จะได้ไม่ไปหาคนอื่นให้เจ็บตัวเจ็บใจอีก...” ผมพูดเชิงอาฆาต...
พี่คิมหัวร่องอหาย... “ไอ้ลามก... พี่รู้ว่าเอ็งเคยข่มขืนลูกค้าตั้งแต่คืนแรก...” ครับ... พี่ตุ้ยแขกคนแรก ที่อ๊อฟผม กับฝรั่งผมทองน่ะเพื่อนพี่คิม... “ทำนังตุ้ย... นั่งไม่ติดพื้นไปหลายวัน...”
ผมยักใหล่ ทำหน้าตาย...“ช่วยไม่ได้ พี่ตุ้ยจะข่มขืนผมก่อน”
“อ้อ... นังสาวเสียบ... กูเพิ่งรู้วันนี้...” พี่คิมทำตาโต เพิ่งรู้ความจริงของเพื่อน “เลยโดนย้อนเกล็ด... แล้วโดนเข้าไปที อันไม่ใช่เล็กๆ... ร่วมเจ็ดนิ้ว...ฝังมุกอีกตะหาก” พี่คิมมองต่ำลงไปที่เป้ากางเกงแพรของผมที่มันตุงๆ อยู่ เพราะผมไม่ได้ใส่กางเกงใน แล้วทำท่าสยอง....
.........................................................................................................
หลังจากเสร็จอาหารมื้อดึก... เราก็มานั่งคุยกัน...สังเกตุดู พี่คิมอารมณ์ดีขึ้น และเริ่มผ่อนคลาย... แล้ว....เรื่องราวก็ออกจากปากพี่คิม...
duckkonoha
โพสต์ 2014-7-28 16:13:10
ให้ทายว่าเรื่องเป็นยังไงครับ ฮิ =w=
Pupim
โพสต์ 2014-9-19 08:58:13
ขอบคุณคร้าบ รอติดตามตอนต่อไป
korn196
โพสต์ 2014-9-19 11:27:28
ขอบคุณครับ
Ju1959
โพสต์ 2018-8-27 00:30:48
มันสุด ๆ ครับ
โชคดี ที่มาอ่านทีหลัง
ลงมาแล้ว เลยได้อ่าน อย่างต้อเนื่อง
ขอบคุณมาก ๆ เลย ครับ
Ju1959
โพสต์ 2018-8-27 00:32:05
ขอบคุณ มาก ครับ
klans_821
โพสต์ 2018-8-27 01:13:25
ขอบคุณครับ
Ju1959
โพสต์ 2018-8-27 02:16:02
คุณ ดิน
เขียนได้เป็นธรรมชาติมาก ๆ
เหมือนตัวคนอ่าน เข้าไปนั่งดูด้วย อยู่ข้าง ๆ เลย
ขอบคุณครับ
komkertz
โพสต์ 2018-8-27 09:34:16
ขอบพระคุณเรื่องราว.....เยี่ยมจริงๆ
ssangsak
โพสต์ 2018-8-27 13:11:45
รออ่านต่อนะครับ