tanya โพสต์ 2014-3-28 08:02:47

พักร้อน พักใจ (เรื่องยาว) P 11.

ถ้าหากว่าซ้ำต้องขออภัยนะครับ และขอโทษเจ้าของเรื่องด้วยนะครับเพราะว่าคัดลอกมาอีกที
ความเดิมตอนที่แล้ว
   “นานแล้วครับแม่...มีอะไรรึเปล่า”ผมถามไปด้วยความสงสัย เพราะพ่อ แม่ พี่ชายผมเพิ่งกลับมาเมื่อวานนี่เอง
   “ก็แค่จะบอกว่าให้มาเอาของฝากพี่ปันที”แม่พูดแบบร่าเริงทันทีที่พูดถึงพี่ปัน ก็ลูกรักแม่เค้านิ...ชิ
   “อ้าว...แล้วของไปป์หละ”ผมถามแบบงอนๆ
   “ไม่มี...ได้เยอะแล้วเรานะ มาเอาด้วยนะ แค่นี้นะลูก”แม่ผมพูดเสร็จก็วางสายไปทันที ปล่อยให้ผมงงๆอยู่คนเดียว ทีของลูกตัวเองไม่มี แต่ของพี่ปันหละมี ชิชะ งอนๆ
   “ใครโทรมา เหรอไปป์”พี่ปันพูดอย่างงัวเงีย
   “แม่ครับ...บอกให้ไปเอาของมาให้พี่ปัน”ผมก็บอกไปแบบงอนๆ
   “แล้วทำไมต้องทำหน้าบึ้งด้วยหละ”พี่ปันลุกขึ้นมานั่ง แล้วถามผม
   “เปล่า...สักหน่อย”ผมก็ตอบแล้วลุกไปชงโกโก้กิน หิวแทบตายแต่ลุกไปไหนไม่ได้ พี่ปันก็ดูจะงงๆ ก่อนจะเดินเข่าไปในห้องอาบน้ำแต่งตัว ประมาณ 20 นาที ก็ออกมาจากห้อง ดูเป็นคนละคนกับเมื่อกี้เลย เพราะเวลาพี่ปันงัวเงียนี่อย่างกับเด็กๆ แต่พอตื่นเต็มตัวแล้ว มาดนิ่งๆก็กลับมาทันที
   “พี่ปันจะทานอาหารเช้า อะไรรดีครับ”ผมถามที่ปันที่เพิ่งออกมา
   “พี่ขอกาแฟแล้วกันนะไปป์”พี่ปันบอกแล้วเดินมานั่งที่โซฟา
   “ครับๆ...”สักพักผมก็ชงกาแฟไปให้ รสชาติที่พี่ปันเคยสอน กาแฟ 1 น้ำตาล 2 ครีม 1
   “ขอบคุณครับ...หอมจังเลย”พี่ปันหอมแก้มผม ก่อนจะค่อยๆดื่มเข้าไป
   “พี่ปัน...แม่ให้ไปเอาของฝากของพี่อ่า”ผมบอกพี่ปันหลังจากดื่มโกโก้เสร็จ
   “งั้นไปกันเลยมั้ย”พี่ปันหันมาตอบผม
   “ไปซิ...”พูดแค่นั้นก็ลุกไปกันทันที ผมกับพี่ปันก็เดินไปที่บ้านผมทันที ซึ่งพอถึงบ้านแม่ผมก็ทั้งกอดทั้งหอมแก้ม
   “อ้าวลูกปัน...มาแล้วเหรอ ไม่ได้เจอกันตั้งนานนะ...”แม่ผมก็นั่งชวนคุยกับพี่ปันอยู่ในที่ห้องรับแขก ผมจึงเดินออกไปหาพ่อผมที่ห้องทำงาน
   “พ่อครับ...”ผมชะเง้อหน้าเข้ามาในห้อง เห็นพ่อทำงานอยู่ที่โต๊ะ
   “ว่าไงลูก...มีอะไรเหรอ”พ่อผมผลักจากกองงานที่ทำ แล้วเดินมานั่งโซฟาข้างๆ
   “เปล่าครับ แค่คิดถึงเท่านั้นเอง เดี๋ยวนี้พ่อกับแม่แล้วก็พี่ ไม่ค่อยอยู่บ้านเท่าไหร่เลย”ผมก็บอกออกไป ก็เข้าใจว่าที่ต้องไปทำธุรกิจต่างประเทศบ่อย เพราะต้องทำงานหาเงินมาใช้กินกันในครอบครัว แต่บางทีผมก็เหงานิ ที่นานๆทีจะได้เจอกันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้ พ่อผมใจดีที่สุดในโลกเลย
   “อ้อนแบบนี้...จะขออะไรรึเปล่าเนี่ย”พ่อผมพูดแบบแซวๆ
   “ไม่ใช่สักหน่อย...พ่ออ่า”ผมก็บอกไปแบบงอนๆ ผมกับพ่อก็คุยนู้นคุยนี่กันไปเรื่อย ถามเรื่องเรียนเป็นไงบ้าง สักพักพี่ชายผมก็เดินเข้ามาในห้อง
   “พ่อครับ...มีโทรศัพท์ โทรมาครับ”พี่ชายผมบอก พ่อผมจึงขอตัวออกไปรับโทรศัพท์ ทิ้งให้ผมอยู่กับพี่ชายจอมกวน ที่ทำหน้ากวนๆมาให้ผม
   “เป็นไง...ไปอยู่กับพี่ปันเค้า..สร้างความเดือดร้อนอะไรไว้บ้างหละ”พี่ชายผมเดินมานั่งข้างๆก่อนจะผลักผมจนทิ่มลงไปอีกฝั่ง
   “เล่นอะไรเนี่ย...บ้ารึเปล่า ไปป์ออกจะเป็นเด็กดี”ผมก็แหวใส่ทันที พี่ชายก็ได้แต่ทำหน้าไม่รู้ร้อน
   “หรอ...ไม่เชื่อหรอก”พี่ชายผมยังแขวะไม่เลิก
   “เรื่องของพี่ซิ...ชิ ตัวเองเรียบร้อยตายหละ”ผมจึงแขวะกลับบ้าง ก่อนจะลุกออกไป
   “แล้วนี่...จะบอกพ่อแม่เมื่อไหร่”พี่ชายถามผม ที่ผมกำลังจะก้าวออกจากห้อง จึงหันมามองหน้าอย่างงงๆ
   “บอกเรื่อง”ผมก็ถามกลับ เพราะไม่รู้ว่าจะบอกพ่อแม่เรื่องอะไร
   “ก็เรื่องแกกับปันไง”พี่ชายผมตอบ ผมยิ่ง งงเข้าไปใหญ่
   “ทำไม...”ผมถามต่อ
   “ก็เรื่องที่แกกับปัน เป็นอะไรกันหละ...อย่าคิดว่าชั้นไม่รู้นะ”พี่ชายผมบอกออกมา ทำเอาผมยืนนิ่งเลย รู้ได้ไง ใครบอก ตัวชาเลยครับ ผมจึงเดินไปนั่งข้างๆพี่อีกครั้ง
   “เอ่อ...พี่รู้ด้วยเหรอ”ผมตะกุกตะกัก ถามออกไป
   “ชั้นก็มีคนรู้จักเยอะเหมือนกันนะ...แต่ก็ไม่ค่อยแน่ใจหรอก แล้วสรุปมันจริงรึเปล่า ที่แกกับปัน เป็นแฟนกัน”คำถารมตรงของพี่ชาย ทำเอาผมสะดุ้งเลย มือผมเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ แต่ก็คิดว่าคงไม่ต้องปิดบังแล้ว เพราะพี่ชายผมถ้าต้องการคำตอบ ก็ต้องคั้นเอามาจนได้
   “อืม...”ผมได้แต่ก้มหน้าตอบแค่นั้น
   “เฮ้อ!...ชั้นก็ไม่ได้ว่าหรอกนะว่าแกจะเป็นอะไร...แต่แกก็ควรจะบอกพ่อกับแม่นะ”พี่ชายผมพุดด้วยท่าทีที่จริงจัง จนผมรู้สึกอึดอัด หายใจไม่คล่อง
   “แต่ผมกลัว...ว่าพวกเค้าจะรับไม่ได้ หรือที่หนักกว่าอาจจะเกลียดพี่ปันก็ได้นะพี่”ผมก็พูดออกไปบ้าง คนมันกลัวจริงๆนี่นา
   “พี่เชื่อว่า พ่อแม่ต้องรับได้ ท่านเองก็ไม่ได้เป็นพวกโบราณเก่าแก่อะไร ออกจะล้ำสมัยซะมากกว่าด้วยซ้ำไป”พี่ชายผมปลอบผม พลางลูบหัวปลอบเบาๆ ถึงจะชอบแกล้งผมบ่อยๆ แต่เค้าก็เป็นห่วงมากๆ
   “นี่วันเสาร์นี้...พ่อแม่พี่ปันก็จะมาด้วย เค้าก็รู้เรื่องของไปป์กับพี่ปันแล้ว พี่ปันเป็นคนบอกเอง”ผมก็บอกออกไป ยิ่งคิดยิ่งเครียด
   “นั้นไงเห็นมั้ย...ปันเค้ายังกล้าที่จะบอกพ่อแม่ เพราะเค้าให้เกียรติแกไง แต่แกไม่คิดจะให้เกียรติเค้าบ้างเหรอไง...รีบๆบอกซะ อย่าเก็บไว้แบบนี้ เข้าใจมั้ย...เอ้อ...ถ้าให้แนะนำควรบอกก่อนวันศุกร์นี่นะ เพราะพ่อแม่กับพี่จะต้องบินไปทำงานต่อ”พี่ชายผมพูดร่ายยาว แล้วก็เดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ผมนั่งเครียดอยู่อย่างนั้น
   “ปันเค้ายังกล้าที่จะบอกพ่อแม่ เพราะเค้าให้เกียรติแกไง แต่แกไม่คิดจะให้เกียรติเค้าบ้างหรอ”คำพูดของพี่ชายผม มันดังก้องอยู่ในสมองผม
   “เอาวะ...เป็นไงเป็นกัน...บอกก็บอก"ผมพูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะออกจากห้องทำงานของพ่อไป
“เอาวะ...เป็นไงเป็นกัน...บอกก็บอก"ผมพูดกับตัวเองเบาๆก่อนจะออกจากห้องทำงานของพ่อไป แล้วเดินลงมาข้างล่างก็เห็นพี่ปันกำลังช่วยแม่ผม จัดโต๊ะอาหาร ผมจึงเดินเข้าไปหา
   “อะไรกัน...นี่บ้านนี้มีลูกชายเพิ่มมาอีกคน ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”ผมพูดขึ้นอย่างอนๆ
   “555 แกหน่ะ หมาหัวเน่าแล้วไอ้ไปป์”พี่ชายผมเดินมาผลักผม ก่อนจะพูดขึ้น
   “พี่ก็หมาหัวเน่าเหมือนกันแหละ...”ผมก็ว่าออกไป
   “พอๆเลย ทั้งคู่แหละ”แม่ผมพูดห้ามทัพระหว่างผมกับพี่ชาย
   “ก็พี่เค้าว่าผมก่อนหนิ”ผมฟ้องออกไป พี่ปันก็ดูจะขำๆ
   “ก็ชั้นพูด ความจริง”พี่ชายผมก็ยังจะเถียงอีกไม่เลิก
   “นี่ๆ...คุยดีๆกันไม่ถึง 5 นาทีก็เถียงกันอีกและ...”แม่ผมก็ยืนเท้าเอว แถมกดเสียงให้ต่ำลง พุดอย่างช้า เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าแม่ของขึ้นแล้ว ผมกับพี่ชายก็หยุดเถียงกันทันที
   “เป้...ไปหยิบจานกินข้าว กับช้อนส้อมมา...”แม่ผมหันไปสั่งพี่ชายผม
   “ครับๆ...”พี่ชายผมตอบแล้วเดินเข้าไปในครัวทันที
   “ไปป์...ไปตามพ่อมากินข้าวได้แล้วไป”หลังจากพี่ชายผมเดินไปแปปเดียว แม่ก็หันมาสั่งผมต่อ ผมจึงเดินไปหาพ่อที่อยู่สวนบ้าน กำลังคุยโทรศัพท์อยู่ จนพ่อวางโทรศัพท์เสร็จผมจึงเดินไปนั่งม้านั่งกับพ่อ
   “อ้าวไปป์...มีอะไรเหรอ”พ่อผม หันมาพูดแบบยิ้มๆ พ่อผมใจดีที่สุดในโลก
   “แม่ให้ มาตามพ่อไปกินข้าวคับ”ผมก็บอกออกไป
   “งั้นไปเลยแล้วกัน...พ่อหิวแล้ว”ผมก็พูดขึ้น พลางฉุดแขนผมให้ลุกตามกันไป
   “พ่อครับ...”ผมฝืนแรงดึงเอาไว้
   “หืม...ว่าไงลูก”พ่อผมหันมามอง แล้วถามผม
   “ไปป์มีอะไรจะบอกพ่อครับ”ผมก็พูดขึ้น เพราะคิดว่าพ่อผม น่าจะใจเย็นกว่าแม่ จึงอยากจะบอกกับพ่อก่อน แต่พอเอาเข้าจริงๆ ผมก็กลัวมากๆเหมือนกัน
   “เรื่องอะไรหละลูก...ไหนว่ามาซิ”พ่อผม นั่งลงที่เดิม ก่อนจะหันมามองผม จนผมต้องก้มหน้าไม่กล้าสบตา เหมือนไปทำความผิดอะไรมา
   “เอ่อ...คือ คือว่า...”ผมก็ไม่รู้จะบอกพ่อไปยังไงดี
   “เป็นอะไรลูก...หืม”พ่อผมจับหน้าให้เงยขึ้น อย่างอ่อนโยน และห่วงใย
   “ถ้าเกิด...ผม...ไปทำอะไรที่ผิดมากๆ มา...พ่อจะให้อภัยผมมั้ยครับ”ผมลองถามออกไปอย่างลองเชิง
   “อืม...ถ้ามันเป็นเรื่องผิดกฎหมาย พ่อก็คงจะช่วยเราอะไรไม่ได้...แต่พ่อก็ยังเป็นพ่อคนเดิม ยังรักลูกทั้งสองคนเหมือนเดิม คนเป็นพ่อเป็นแม่ เกียจลูกตัดลูกตัวเองไม่ลงหรอกนะ”พ่อผมก็ตอบออกมา อย่างชัดเจนและมั่นคง
   “หรอคับ...”ผมก็ได้แต่พยักหน้าเบาๆ
   “ไปทำอะไรมารึเปล่า ถึงได้ถามพ่อแบบนี้”พ่อผมก็เริ่มถามจี้ผมบ้างแล้ว
   “เปล่านะ ไปป์ไม่ได้ไปทำอะไรที่ผิดกฎหมายนะคับ”ผมก็รีบบอกออกไป กลัวพ่อจะเข้าใจผิด
   “แล้วสรุปมันมีเรื่องอะไรหละ เอาความจริงและตรงๆนะลูก”พ่อบอกผม
   “คือว่า ผม...ผม...มี...ผมมีแฟนแล้วครับพ่อ”ผมก็พูดออกไป ซึ่งพ่อผมก็หลุดหัวเราะออกมาทันที
   “อะไรกัน...แค่บอกว่ามีแฟน แล้วแค่เนี่ยเหรอ ทำเอาซะดูเป็นเรื่องใหญ่โตไปได้”พ่อผมก็พูดไปหัวเราะไป
   “แต่...แฟนผมเป็นผู้ชาย...นะครับ”ผมก็พูดออกไป อย่างแผ่วเบา แต่ดูพ่อผมจะได้ยิน ถึงกับหยุดหัวเราะทันที แล้วจ้องหน้าผมอย่างนิ่งๆ
   “ไปป์...”พ่อผมดูจะช็อก ไปเลย ได้แต่พูดชื่อผมเบาๆ ผมถึงกับลงไปนั่งที่พื้น กอดเข่าพ่อ แล้วร้องไห้ทันที
   “พ่ออย่าเกลียดไปป์นะครับ...ฮึก...ไปป์ขอโทษ...ขอโทษครับ ไปป์ไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้นะครับ...จะตีผม ด่าผมก็ได้ แต่อย่าเกลียดผมนะครับ”ผมพูดไปร้องไห้ไป กอดขาพ่อผมแน่น กลัวพ่อผมจะเดินหนีไป
   “ไปป์...ลุกขึ้นลูก”พ่อผมที่ดูสติจะกลับมา เรียกผมให้ขึ้นมานั่งเก้าอี้
   “ฮึก...อย่าเกลียดผมนะครับ ผมขอโทษ”ผมก็ไม่ได้ลุกขึ้นมานั่ง จนพ่อผมต้องออกแรงฉุดให้ลุกขึ้นมานั่ง จนสำเร็จ ผมเองก็หมดแรงเหมือนกัน
   “ไปป์...ไปป์ ฟังพ่อนะ...พ่อจะเกลียดลูกของตัวเองได้ไง...แล้วลูกก็ไม่ได้ทำผิดอะไรด้วย”พ่อผมจับไหล่ผมทั้งสองข้างแล้วบอกผม
   “แต่ไปป์...เป็นเกย์...นะครับ”ผมก็ยังบอกพ่อไป ทั้งๆที่ยังร้องไห้ไม่หยุด
   “เป็นเกย์ แล้วไงหละ มันทำให้ใครเจ็บและเดือดร้อน รึเปล่า”พ่อผมบอกผม
   “ฮึก...ฮือ...”ผมก็ได้แต่สะอื้นเบาๆ
   “ฟังนะไปป์...แค่ลูกเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียนหนังสือ มีงานดีๆทำ แค่นี้พ่อแม่ก็ภูมิใจและดีใจแล้ว ต่อให้จะเป็นเพศไหนก็เถอะ พ่อก็ไม่เคยแคร์กับมันอยู่แล้ว เข้าใจมั้ย เลิกร้องไห้ได้แล้วนะคนเก่งของพ่อ”พ่อพูดออกมา อย่างนุ่มนวล ไม่มีเสียงที่ดุดันหรือด่าทอสักนิด มันยิ่งทำให้ผมร้องไห้หนักเข้าไปอีก แล้วโผล่กอดพ่อทันที
   “พ่อครับ...ฮึกๆ...ผมขอโทษ...”ผมซุกหาไออุ่นจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อ มันรู้สึกดีมากๆเลยครับทั้งไออุ่นและความรักที่พ่อส่งมาให้ มากมายมหาศาลจริงๆ
   “อะไรกัน...นี่คิดจะบอกแต่พ่อคนเดียวหรอไงจ๊ะ”ผมถึงกับสะดุ้งเลยทีเดียว เพราะจู่ๆแม่ผมก็เดินมาจากไหนก็ไม่รู้ ผมรีบเช็ดน้ำตาออกทันที
   “แม่ครับ...เอ่อ...คือว่า”ผมที่ไม่ทันตั้งตัวว่าจะมาเจอแม่ กะว่าค่อยบอกกับแม่ทีหลัง จึงทำเอาตะกุกตะกักเหมือนกัน
   “แม่ได้ยิน หมดแล้ว ไม่ต้องเล่าแล้ว”แม่ผมก็ดูนิ่งๆไปมาก เพราะปกติแม่ผมจะเป็นคนค่อนข้างเจ้าระเบียบ ถ้าไปทำอะไรที่ไม่ดี โดนสวดยับเลยทีเดียว
   “แล้วแม่จะเกลียดผมมั้ย”ผมก็เงยหน้าถามแม่บ้าง
   “เกลียด...”แม่ผมก็ตอบออกมา อย่างห้วนๆ จนน้ำตาผมจะไหลลงมาอีกรอบแล้ว
   “แม่ครับผม ขอโทษ จะตี จะด่าผมยังไงก็ได้ แต่อย่าเกลียดผมนะครับ”ผมถึงกับกอดเอวไว้แล้วร้องไห้ทันที
   “ฟังให้จบก่อนซิ...”แม่ผมพูดขึ้น จนผมคลายกอดออก แล้วจ้องหน้าแม่
   “ครับ...”ผมก็งงๆ
   “ที่บอกว่า เกลียด คือ เกลียดไม่ลงหรอกลูกตัวเองแท้ๆนะ...”แม่พูดออกมาอย่างยิ้มๆ ทำเอาผมถึงกับถอนหายใจอย่างโล่งๆทันที

bomb2534 โพสต์ 2016-10-20 08:13:32

ขอบคุณครับ

Eakkadoor โพสต์ 2019-10-6 12:22:13

ดีจังเลยครับ ❤️

Gngkung โพสต์ 2019-10-6 18:03:09

ขอบคุณครับ
หน้า: [1]
ดูในรูปแบบกติ: พักร้อน พักใจ (เรื่องยาว) P 11.